Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 292

ตอนที่ 292

ขณะที่วาห์นกำลังนอนอยู่ในห้องอันแสนเย็นสบายของตัวเอง จู่ๆ เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างทะลุข่ายเวทมนตร์เข้ามาด้านใน

มันคือบางอย่างที่เล็กมากๆ จนคนทั่วไปอาจไม่ติดใจอะไร ทว่าสำหรับวาห์นที่ช่วงนี้ตื่นตัวมากเป็นพิเศษย่อมไม่คิดแบบนั้นแน่นอน

เขาเริ่มขยายพลังเขตแดนเพื่อมองหาร่องรอยของผู้บุกรุก ซึ่งตอนนี้ระยะสูงสุดของมันก็เพิ่มเป็น 322 เมตรแล้ว

พลังเขตแดนที่กางออกไปแบบสุดๆ อาจจะตรวจสอบแบบทุกซอกทุกมุมไม่ได้ แต่มันก็ทำให้วาห์นเห็นโครงสร้างในห้องต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

พอเปิดแผนที่ย่อที่เชื่อมต่อกัน วาห์นก็พบว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนที่เข้ามาจากทางปีกตะวันตกของชั้นล่างสุด

คนที่มีห้องอยู่ชั้นล่างจะมีเพียงสองคู่แฝดเท่านั้น และตอนนี้พวกเธอทั้งสองก็กำลังนอนอยู่ในห้องของตัวเอง

เดาได้ไม่ยากเลยว่าคนๆ นี้จะต้องเป็นมือสังหารหรือไม่ก็คนที่แอบมาสำรวจล่วงหน้าอย่างแน่นอน

วาห์นไม่ใช่พวกที่ชอบมานั่งรอดูว่าเป้าหมายของศัตรูคืออะไร ไม่นานเขาก็โดดลงจากเตียง เปิดระบบเพื่อสวมใส่อุปกรณ์ต่อสู้ และมุ่งหน้าออกจากห้องทันที

วาห์นสัมผัสได้ว่าเฟนเรียร์เองก็ตื่นแล้วเช่นกัน แต่เขาก็ส่งกระแสจิตเพื่อบอกให้เธอปกป้องโซนชั้นบน ก่อนที่ตัวเองจะเดินมาเคาะที่ประตูห้องของริว

ถึงตัวเจ้าของห้องจะไม่อยู่ แต่ก่อนหน้านี้เธอได้รับเพื่อนร่วมห้องเข้ามาเพิ่มซึ่งก็คืออาคินั่นเอง

นี่เป็นหนึ่งในห้องที่ใหญ่พอสมควร ดังนั้นการเพิ่มเตียงเข้าไปอีก 2-3 เตียงจึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด แถมริวกับอาคิก็ชินกับการมีเพื่อนร่วมห้องอยู่แล้วด้วย

อาคิตื่นขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงเคาะเบาๆ เธอเดินออกมาเปิดประตูในชุดนอนผ้าไหมที่ทำให้วาห์นนิ่งไปเสี้ยววินาทีก่อนจะเริ่มเล่าสถานการณ์ให้ฟัง

เขาบอกให้เธอแต่งตัวและออกมาคุมตรงทางลงบันใดในขณะที่ตัวเองเดินลงไปต้อนรับแขกที่กำลังเคลื่อนที่ไปมาอยู่ในปีกตะวันตก

สายตาของวาห์นดูเย็นยะเยือกมากกว่าครั้งไหนๆ ขณะที่เขาใช้เหล่าสกิลอำพรางตัวออกมาแบบเต็มพิกัดและนำชุดที่ดูดซับแสงออกมาสวม

พอตรวจสอบดูก็พบว่าศัตรูน่าจะเป็นนักผจญภัยเลเวล 4 และคงไม่ได้มาดูลาดเลาเฉยๆ แน่นอน

คนๆ นี้มีออร่าสีเทาปนเขียวที่ดูนิ่งจนน่ากลัว สีเทานั้นคือสีปกติของคนที่ไม่รู้จักวาห์นมาก่อน แต่สีเขียวนั้นหมายความว่าเจ้าของออร่ากำลังรู้สึกอิจฉาเขาอยู่?

เพราะออร่านั่นกำลังเคลื่อนที่และหยุดตามห้องต่างๆ วาห์นเลยเข้าใจว่าเป้าหมายของมันน่าจะเป็นการตามหาใครสักคน

หลังจากเข้าไปยุ่งวุ่นวายในย่านโคมแดง ศัตรูของวาห์นก็เพิ่มขึ้นอีกมากมาย แต่ถ้าพูดถึงกลุ่มที่สามารถส่งนักผจญภัยเลเวล 4 ออกมาได้นั้นก็คงหนีไม่พ้นอิชทาร์แฟมิเลีย

ช่วงนี้คงไม่มีนักฆ่ารับจ้างคนไหนที่กล้ารับงานบ้าๆ อย่างการบุกเข้ามาในเฮสเทียแฟมิเลียที่มีโลกิและเฮเฟสตัสแฟมิเลียคอยหนุนหลังอยู่หรอก

หากเลี่ยงได้ วาห์นก็ไม่อยากทำให้ตัวคฤหาสน์เสียหาย เขาก็เลยมารอผู้บุกรุกอยู่ตรงจุดที่เชื่อมระหว่างปีกตะวันตกกับพื้นที่ส่วนกลาง ขณะเดียวกันก็เปิดหน้าต่างแถวๆ นั้นไปด้วย

ตอนนี้วาห์นได้ลบสัมผัสของตัวเองจนแม้แต่พวกที่มีสกิลตรวจจับระดับสูงยังต้องเหงื่อตก

เขาได้ทดสอบวิธีนี้กับกับมิโคโตะมาแล้ว ซึ่งหลักๆ แล้วมันก็คือการบีบอัดพลังเขตแดนเข้าหาตัวขณะผสาน [อำพรางตัว] เขาไป

ผลที่ได้ก็ไม่ต่างกับตอนที่เขาซ่อนตัวจากจักเกอร์นอตเท่าไหร่

วิธีนี้ทำให้วาห์นสามารถซ่อนตัวจากสกิล เวทมนตร์ หรือแม้แต่มอนสเตอร์ได้แบบสบายๆ

ถ้าอีกฝ่ายต้องการตรวจหาเขาล่ะก็ มีแต่ต้องใช้ตามองแบบตรงๆ เท่านั้น

ผ่านไป 20 นาที ในที่สุดอีกฝ่ายก็มาถึงห้องโถงและต้องหยุดชะงักเมื่อพบว่าหน้าต่างตรงแถบนี้ถูกเปิดออกหมดทุกบาน

วาห์นสังเกตุเห็นด้วยว่าผู้บุกรุกไม่ได้พยายามพรางตัวแต่อย่างใด

เขาคือชายหนุ่มผิวเข้มหน้าตาดีที่มีผมสีดำ ดวงตาสีเขียว และท่าทางที่ดูนิ่งๆ

ชายหนุ่มมองไปรอบๆ ราวกับกำลังตรวจหาบางอย่าง ก่อนจะเริ่มเดินหน้าต่อด้วยความลังเล

วาห์นรู้สึกทึ่งกับความใจเย็นของคนๆ นี้มาก โดยเฉพาะหลังจากทำท่าทางที่เหมือนรู้ตัวว่าถูกพบเข้าแล้ว

ตัววาห์นเองก็เคยแอบเข้าไปที่นั่นที่นี่มาบ้าง เขาจึงรู้ว่าการได้พบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้นมันน่าตื่นตระหนกมากแค่ไหน

หากไม่มีพลังเขตแดนช่วยตรวจสอบพื้นที่รอบๆ วาห์นก็คงจะรู้สึกเครียดกว่านี้มาก

พอชายหนุ่มเดินมาถึงหน้าต่าง วาห์นก็ใช้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] เพื่อเข้ามาวางมือไว้บนแผงอกของอีกฝ่าย จากนั้นเขาก็ใช้มันอีกครั้งเพื่อผลักตัวเองกับชายหนุ่มออกไปด้านนอก

เพราะไม่ได้กำหนดเป้าหมายชัดเจน ทั้งสองก็เลยไถลไปตามพื้นดินเย็นๆ ก่อนจะเด้งตัวขึ้นพร้อมกันและเปลี่ยนมายืนคุมเชิงในระยะ 7 เมตร

ไม่นานชายหนุ่มก็เปลี่ยนมายืนตรงขณะปัดเศษดินออกจากตัวก่อนจะถามขึ้น

“วาห์น เมสันสินะ ฉันเคยเห็นรูปนายมาก่อน

ฉันมาที่นี่เพื่อเอาข้อความมาส่ง…”

วาห์นนำ [เลวาไทน์] ออกมาขณะถามกลับ

“หือ? เดี๋ยวนี้คนส่งสารเค้านิยมมากันตอนดึก บุกรุกเข้าบ้านคนอื่น แล้วก็ทำลับๆ ล่อๆ เหมือนกับกำลังหาอะไรบางอย่างแบบนายเนี่ยนะ?”

[เลวาไทน์] เริ่มเปล่งแสงสีแดงน่ากลัว ราวกับว่ามันใกล้จะปะทุพลังออกมาเต็มทีแล้ว

ผู้บุกรุกขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ

“นายหญิงของฉันต้องการพบนาย

ถ้าเลือกได้ ฉันก็คงฆ่านายไปแล้ว แต่คำบัญชาของนายหญิงนั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด”

ขณะที่ยังตั้งท่าเตรียมสู้ วาห์นก็เริ่มใช้ [ดวงตาแห่งการรู้แจ้ง] กับชายหนุ่มและเห็นว่าหมอนี่เตรียมทั้งเชือกและขวดยาบางอย่างมาพร้อมเลย

สิ่งที่คนๆ นี้พูดอาจเป็นความจริง… แต่มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น

ถ้าหมอนี่พบตัวฮารุฮิเมะก่อน ‘ส่งมอบข้อความ’ ล่ะก็… วาห์นไม่แปลกใจเลยว่ามันจะเป็นยังไงต่อ

ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า ‘นายหญิง’ ที่ชายหนุ่มกล่าวถึงนั้นคืออิชทาร์แน่นอน

วาห์นวาด [เลวาไทน์] ออกไปเป็นวงและทำให้อากาศรอบๆ เกิดการเผาไหม้อย่างรุนแรง

“ที่ฝ่าข่ายมนตร์เข้ามาในนี้ก็เพื่อมาส่งข่าวว่านายหญิงของนายอยากเจอฉันเนี่ยนะ?

ขอถามให้หายข้องใจหน่อยเถอะว่าถ้าแค่นั้น… แล้วจะเอาเชือกกับยานอนหลับมาทำไม?”

พอได้ยินแบบนั้น ชายหนุ่มก็เริ่มมีสีหน้าถมึงทึง

“แกไม่มีสิทธิมาขโมยทรัพย์สินของ-”

ก่อนจะได้พูดต่อจนจบ วาห์นก็ใช้ [เอ็นคิดู] ออกมาทันที

ทว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่หมูที่เคี้ยวง่ายๆ

เขาเคลื่อนหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็วก่อนจะพุ่งเข้ามาหาวาห์นด้วยอาวุธที่ดูคล้ายถุงมือเวทมนตร์

แม้เรคคอร์ดดันมาจิจะเต็มไปด้วยเหล่านักผจญภัยที่มีความเร็วเหนือมนุษย์… แต่ต่อให้คนที่เร็วที่สุดก็คงเร็วสู้ [เคลื่อนย้ายในพริบตา] ไม่ได้อยู่ดี

จู่ๆ วาห์นก็หายตัวไปจากตรงนั้น ที่หลงเหลืออยู่ก็เป็นเพียงภาพติดตาเฉยๆ

ชายหนุ่มเบิกตากว้างขณะเอื้อมไปหยิบของในกระเป๋าและปามีดไปที่ตำแหน่งใหม่ของวาห์นด้วยความแม่นยำ

วาห์นปัดมีดออกด้วยถุงมือเหล็กของตัวเองก่อนจะเริ่มใช้ [เอ็นคิดู] อีกครั้ง

ขณะนี้เป็นช่วงกลางดึก ชายหนุ่มก็เลยหลบ [เอ็นคิดู] ได้แบบสบายๆ เพราะตอนที่โซ่สีทองจะออกมานั้น มันจะมีแสงสีทองสว่างขึ้นมาก่อน

วาห์นขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะมีน้อยครั้งมากที่ [เอ็นคิดู] จะจับศัตรูไว้ไม่อยู่ แถมพลังที่ใช้เรียกพวกมันออกมาแต่ละครั้งก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย

หลังจากดื่มโพชั่นเพื่อฟื้นมานา วาห์นก็หยุดใช้ [เอ็นคิดู] และล้มเลิกแผนที่จะจับกุมชายหนุ่มมาสอบสวน

ถ้าหมอนี่มาเพื่อส่งข้อความเพียงอย่างเดียว วาห์นก็อาจจะยอมเล่นด้วยและตอบรับคำเชิญของอิชทาร์ แต่เพราะมีเป้าหมายแอบแฝง แบบนี้อย่าหวังเลยว่าจะได้กลับไปง่ายๆ

หลังจากพุ่งโจมตีพลาดหลายครั้ง ชายหนุ่มก็สังเกตเห็นว่าโซ่น่ารำคาญนั่นจู่ๆ ก็หายไปหมด

พอเห็นวาห์นดื่มโพชั่น สิ่งแรกที่แล่นเข้ามาในหัวก็คืออีกฝ่ายคงใช้เวทมนตร์มากจนมานาหมด

สีหน้าของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นการเย้ยหยันทันที ก่อนที่มาดนิ่งๆ ในตอนแรกจะกลับมาอีกครั้ง

“ยอมแพ้ซะ นายเอาชนะฉันไม่ได้หรอก

เป็นแค่เลเวล 3 ที่มีกลเล็กๆ น้อยๆ อย่าคิดนะว่าจะสู้กับเลเวล 4 ได้

ฉันอัดนายไม่โดน แต่นายเองก็เหมือนกันนั่นแหละ…”

วาห์นมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาที่สื่อว่า ‘ไอ้หมอนี่มันพล่ามอะไรของมัน?’ เล่นเอาอีกฝ่ายหัวอุ่นไปเหมือนกัน

ไม่นานวาห์นก็เปลี่ยนไปยิ้มให้ขณะพูดบ้าง

“กลับไปบอกนายหญิงของนายซะ ถ้าอยากพบฉัน ก็ให้ไปเจรจากับเฮเฟสตัสหรือโลกิแฟมิเลียก่อน

ถ้าทางนั้นยอมตกลงก็… อืม อยากเห็นเหมือนกันว่าผู้หญิงที่ฝึกหมาจนเชื่องได้ขนาดนี้จะมีหน้าตายังไงกันนะ”

คำพูดนั่นทำเอาชายหนุ่มเกิดอาการเส้นเลือดปูดที่ขมับทันที

เขาสูดหายใจผ่านจมูกหลายครั้งและดูเหมือนกำลังคิดอยู่ในใจว่าจะหาทางเอาคืนยังไง

ถ้าการเจรจากับสองแฟมิเลียนั่นมันง่ายขนาดนั้น อิชทาร์ก็คงไม่ต้องส่งเขามากลางดึกแบบนี้หรอก

ถึงจะถูกตีว่าเป็น ‘แฟมิเลียอาชญากรรม’ แต่อิชทาร์แฟมิเลียก็มีโฉมหน้าที่ดูสะอาดสะอ้าน… ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาพยายามเก็บร่องรอยของตัวเองอย่างหนัก

ที่ผ่านมา การเข้าบดขยี้แฟมิเลียขนาดเล็กนั้นถือเป็นเรื่องง่ายดาย แต่สำหรับเฮสเทียแฟมิเลียที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยกองกำลังลับๆ มากมายนี่มันก็…

นอกจากเฮเฟสตัสและโลกิแฟมิเลียจะกว้านซื้อที่ดินรอบๆ คฤหาสน์นี้แล้ว พวกเธอยังนำกองกำลังบางส่วนเข้ามาประจำไว้ข้างในอีกด้วย

แม้แต่ทางกิลด์เองก็นำคนมาตรวจสอบพื้นที่ในละแวกนี้เช่นกัน

หากมีคนพบเห็นการต่อสู้ครั้งนี้ ดีไม่ดีอิชทาร์แฟมิเลียอาจจะโดนตรวจสอบอีกรอบ

จากมุมมองของชายหนุ่ม ตอนนี้วาห์นกำลังพูดจาดูถูกอิชทาร์แฟมิเลีย ตัวอิชทาร์ รวมไปถึงตัวเขาเองด้วย

และที่วาห์นกล้าทำแบบนี้ก็เพราะว่ามีขุมกำลังมากมายคุ้มกะลาหัวเขาอยู่

หากไม่ใช่เพราะวิชาหายตัวแปลกๆ ที่วาห์นใช้ ชายหนุ่มก็คงจับเขามาซ้อมจนหน้าเละไปแล้ว จะเอาให้คนรักจำหน้าไม่ได้เลย!

แน่นอนว่าถ้าทำแบบนั้น อิชทาร์ก็คงลงโทษเขาแทน เพราะช่วงนี้เธอให้ความสนใจในตัววาห์นมากเป็นพิเศษ

นี่แหละคือที่มาของ ‘ความอิจฉา’ ที่วาห์นเห็นในตอนแรก

หลังจากสงบใจลงเล็กน้อย ชายหนุ่มก็พูดต่อ

“ฉัน ทัมมุซ เบลีลี่ ของท้าดวลกับวาห์น เมสัน

ถ้าฉันชนะ นายกับนังโสเภณีซันโจวโนะ ฮารุฮิเมะจะต้องมากับฉัน”

ทัมมุซไม่แม้แต่จะบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากตัวเองแพ้ เขาตั้งท่าต่อสู้แบบชกมวยขึ้นมาทันที

มันเป็นท่าตั้งการ์ดแบบหลวมๆ โดยเอามือซ้ายขึ้นมาไว้ข้างหน้า

วาห์นมองออกว่านี่เป็นท่าที่สามารถรับการโจมตีได้เกือบรอบทิศ ยกเว้นก็แต่ตรงด้านหลัง

เขาหรี่ตามองทัมมุซพลางครุ่นคิดว่าการปลิดชีวิตอีกฝ่ายนั้นจะถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือเปล่า

ตอนนี้ชายหนุ่มตรงหน้ากำลังตกอยู่ภายใต้มนตร์เสน่ห์ของอิชทาร์ แต่ผลของมันจะมีมากน้อยแค่ไหน อันนี้คงไม่มีใครบอกได้

จริงอยู่ที่เขา ‘พาตัว’ ฮารุฮิเมะออกมาจากเงื้อมมือของอิชทาร์ แต่นั่นคือการเข้าช่วยเหลือซึ่งต่างไปจากสิ่งที่ทัมมุซคิดจะทำ

ต่อให้ทัมมุซตาย ฝั่งอิชทาร์ก็คงโวยวายอะไรไม่ได้เพราะเป็นฝ่ายที่แอบส่งคนเข้ามาเอง

เธออาจจะปล่อยข่าวลือแย่ๆ เกี่ยวกับวาห์นและกดดันให้เขาออกมาแก้ต่าง แต่มีหรือที่อิชทาร์จะผ่านกำแพงที่มีชื่อว่าเฮเฟสตัสกับโลกิเข้ามาได้

นี่ยังไม่นับทางกิลด์ที่ส่งคนมาดูแลอีก…

วาห์นส่ายหัวก่อนจะสรุปในใจว่าอย่าใจดีให้มันมากเกินไป โดยเฉพาะกับพวกที่คิดร้ายต่อตัวเองและคนใกล้เคียง

วาห์นคงไม่คิดจะจงใจฆ่าทัมมุซ แต่ถ้าอีกฝ่ายมาเต็ม เขาเองก็จะไม่ยอมอ่อนข้อเช่นกัน

ถ้าทัมมุซแพ้และรอดตายมาได้ วาห์นก็จะช่วยรักษาแผลพร้อมกับลบมนตร์เสน่ห์ของอิชทาร์ออกให้ จากนั้นก็ต่อด้วยการส่งตัวเขาให้กับทางการอย่างสงบ

ขอย้ำอีกทีว่าทัมมุซจะต้อง ‘รอดตาย’ ให้ได้เสียก่อน เพราะตอนนี้วาห์นเองก็เริ่มหัวร้อนแล้วเหมือนกัน

หลักๆ ก็เพราะคำว่า ‘นังโสเภณีซันโจวโนะ ฮารุฮิเมะ’ นี่แหละที่ทำให้วาห์นใจดีน้อยลงไปเยอะ

เขาปา [เลวาไทน์] กลับเข้าช่องเก็บของก่อนจะตัดสินใจทดสอบวิธีต่อสู้แบบใหม่กับทัมมุซ

ผิวหนังปกติเริ่มเปลี่ยนเป็นเกล็ดสีดำอย่างช้าๆ ตามมาด้วยรอยสักรูปงูที่ม้วนขึ้นมาตามแขน แผ่นหลัง และหัวไหล่

วาห์นอยากลองใช้ร่างเต่าทมิฬโฉมใหม่แทนการใช้ร่างพยัคฆ์ขาวเหมือนที่ผ่านๆ มา

เท่านั้นไม่พอ เพราะเขายังย่อพลังเขตแดนเข้ามาไว้รอบตัว ก่อนจะเริ่มผสานอณูธาตุไฟเข้าไปในนั้นจนร่างกายดูคล้ายกับหินแม็กม่าไม่มีผิด

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท