ตอนที่ 315 ผึ้งแคระ(ตอนสาม)
‘ฮึ่ม’ หลินหยางเค่นเสียงในลำคอพลางออกแรงกระแทกดันโล่ในมือของตนขึ้นในมุมสูง
ฉึกก!
ไม่รอช้าเมื่อเขาใช้แรงกระแทกสิ่งแปลกปลอมออกไป ก็พบเจอเข้ากับต้นตอของสิ่งนั้นมันคือผึ้งตัวอ้วนนั่นเอง
มันถูกผลักกระเด็นเสียสูญการทรงตัว เร่งรีบกระพรือปีกเพื่อโบยบินแต่ทว่าสายไปเสียแล้ว ปลายหอกของหลินหยางแทงทะลุร่างกายถูกเสียบคาไว้บนหอกเหล็กแหลมคมดับชีวิตมันไปเป็นที่เรียบร้อย
หลินหยางดึงหอกกลับมาข้างตัวมองซากผึ้งที่ติดอยู่ และเข้าก็ไขข้อข้องใจให้แก่เสียงประหลาดที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผึ้งปะทะเข้ากับโล่เหล็กของเขาแล้ว มันคือเหล็กในผึ้งนั่นเอง
ตัวผึ้งที่มีขนาดเกือบเท่าลูกฟุตบอลนั้นส่วนท้ายสุดของมันมีเหล็กขนาดเท่านิ้วโป้งยาวราวหนึ่งคืบโผล่ออกมาคล้ายกับเป็นหางของพวกมัน
มิผิดมันคือเหล็กจริงๆ ต่างกับผึ้งปกติที่เหล็กในมักจะเป็นสิ่งกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายพวกมัน แต่ทว่าผึ้งแคระนี้กลับมีเหล็กแทงทะลุส่วนร่างของมันออกมาราวกับมิใช่สิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด
นอกจากขนาดตัวที่แตกต่าง ยังมีเหล็กขนาดใหญ่ที่บ่งบอกแสดงตัวตนชัดเจนว่าพวกมันเป็นสัตว์ประหลาด
เมื่อเห็นเหล็กที่ส่วนหางของผึ้งตัวนี้เขาอดเสียวสันหลังมิได้ เหล็กแหลมนี้มีขนาดยาวมากถึงหนึ่งคืบและมีความกว้างพอๆกับนิ้วโป้งเขาเลยทีเดียว หากถูกแทงเข้าใส่อวัยวะสำคัญจนสุดด้ามแน่นอนต้องตกตายลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เป็นแน่
หรือถูกผึ้งแคระต่อยเข้าใส่ซักสี่ถึงห้าทีสร้างรูขนาดเท่านิ้วโป้งขึ้นบนร่างกายเขาก็คงไม่รอดเช่นกัน เพราะความกว้างของเหล็กในของมันนี้มีขนาดกว้างกว่าลูกกระสุนปืนเสียอีก!
ฟุ่บ~
ทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมพุ่งแทงหอกในมือของตนเข้าใส่อากาศด้านบนอย่างสุ่มๆ โดนบ้างพลาดบ้างมิแน่นอน เนื่องจากต้องคอยปัดป้องการโจมตีหลบหลีกการถูกต่อยจากผึ้งปีศาจพวกนี้ไปในตัว
โล่ที่ถืออยู่จึงใช้ปิดบังศรีษะเส้นทางการเคลื่อนที่ของผึ้งทั้งหลายนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงโล่เหล็กที่ใช้ป้องกันตนเองนั้นจึงคล้ายกับดาบสองคม มันสามารถป้องกันโจมตีให้พวกเขาได้ก็จริงแต่ทว่ามันก็บดบังสายตาพวกเขาได้เช่นกัน
ฝูงผึ้งแคระเข้าประชิดกำแพงเมืองทันทีพวกมันบินวนคอยโฉบเฉี่ยวลงมาพร้อมกับทิ่มแทงเหล็กในของตนเข้าใส่เป้าหมาย แต่ทว่าการเคลื่อนไหวของพวกมันมิได้รวดเร็วนักจึงทำให้พวกเขายังคงสามารถหลบหลีกได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่หากถูกพุ่งโจมตีเข้าใส่สองถึงสามทิศทางอย่างพร้อมเพรียงกันก็คงไม่สามารถหลบได้เป็นแน่
“ใช้ดาบ” หลินหยางตะโกนเสียงดัง เขาปรับเปลี่ยนการตั้งรับทันทีเมื่อเห็นว่าการต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบากหากยังดื้อรั้นใช้หอกต่อไปมีแต่จะเสียแรงทิ้งเปล่าไปเท่านั้น
เพราะศัตรูของพวกเขามิได้ถาโถมแออัดเข้ามาเพียงแนวป้องกันอย่างเดียวพวกมันส่วนใหญ่หันความสนใจไปที่บนกำแพงเมืองเสียมากกว่า
เขาปักหอกของตนค้างทิ้งไว้บนพื้นดินพลางชักดาบสั้นข้างเอวของตนออกมาอย่างรวดเร็ว ลดโล่เหล็กในมือที่บดบังสายตาต่ำลง หันศรีษะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าตอนนี้ราวกับแสงสว่างถูกดับไป แม้แต่แสงจันทร์ก็มิสามารถสาดส่องล่องมาได้ เพราะถูกฝูงผึ้งบดบังเสียจนสิ้น
ตอนที่ 316 ผึ้งแคระ(ตอนสี่)
ผึ้งตัวหนึ่งมันบินแยกออกจากฝูงพุ่งตรงเข้าใส่ภาคพื้นดินโดยมีหลินหยางเป็นเป้าหมาย เมื่อเข้าใกล้เป้าหมายอยู่ในระยะโจมตีของมัน มันห่างจากหลินหยางไม่ถึงหนึ่งเมตร
มันค่อยๆงอตัวของตนเองเป็นครึ่งวงกลมโดยทำให้เหล็กแหลมตรงส่วนหางของตนเป็นตัวนำร่างกายพุ่งเข้าปะทะ มันหมายจะใช้อาวุธของตนเองเสียบศัตรูตรงหน้า
หลินหยางมิได้สังเกตุเห็นผึ้งตัวดังกล่าวแต่อย่างใด แต่เมื่อมันเข้ามาในระยะหนึ่งเมตรเขาก็รู้สึกถึงอันตรายปรายสายตาไปมองยังจุดนั้นและพบเข้ากับเหล็กแหลมคมที่กำลังมุ่งตรงเข้ามาที่เขาไม่ช้ามิเร็ว
เขางอแขนข้างที่ถือโล่และฟาดออกไปอย่างรุนแรงกระแทกผึ้งแคระตัวดังกล่าวปลิวลิ่วไปตามแรง มันแน่นิ่งอยู่บนพื้นดินไม่ขยับเขยื้อนห่างจากตัวหลินหยางราวสองเมตรดูท่ามันจะหมดสติจากการรับแรงกระแทกไปแล้ว
เขายังตกใจเล็กน้อยโชคดีที่พวกมันมิได้รวดเร็วนักและเขารู้ตัวก่อนมิฉะนั้นคงถูกเหล็กแหลมของมันเสียบเข้าเป็นแน่
ตุบบ~
ผึ้งผู้โชคร้ายไร้โอกาศรอดเมื่อจู่ๆมีเท้าข้างหนึ่งเหยียบร่างกายของมันจนจมดิน เศษชิ้นส่วนร่างกายเละเทะติดปลายเท้าของผู้เหยียบขึ้นมาเหนียวเหนอะ
ผู้ที่ปลิดชีวิตผึ้งแคระส่งมันไปยังปรโลกก็คือเจียวซิ่นมนุษย์หมาป่าหนุ่มนั่นเอง เขาคร่าผึ้งตัวดังกล่าวอย่างมิได้ตั้งใจเสียด้วยซ้ำ ร่างกายของผึ้งแคระนี้ช่างเปราะบางไร้อย่างยิ่ง
การกระแทกโล่ของหลินหยางทำให้ร่างกายของมันบุบยุบไปกว่าครึ่งหมดสภาพ แต่ทว่ายังมิได้ตกตายลงทันที
กระนั้นเมื่อเจียวซิ่นเหยียบเท้าก้าวเดินตามปกติอย่างบังเอิญไปถูกร่างกายของมันเข้ากลับตกตายลงอย่างเสียง่ายดาย ร่างกายของพวกมันนุ่มนิ่มยิ่งนัก
หลินหยางแสยะยิ้ม
ผึ้งพวกนี้มีได้น่ากลัวอย่างที่คิด การโจมตีหลักของพวกมันนั้นคือใช้เหล็กที่ส่วนหางในการพุ่งโจมตีเข้าใส่ศัตรู แต่ทว่าด้วยร่างกายที่ใหญ่โตบวกกับความเร็วที่น้อยนิด ทำให้เหล็กแหลมที่หมายจะทิ่มแทงหลินหยางนั้นราวกับว่ามันค่อยๆเคลื่อนที่เข้ามาก็มิปาน
มันช้าเสียยิ่งกว่าลูกธนูเสียอีก ด้วยความเร็วที่เขาครอบครองอยู่นี้มีหรือจะไม่สามารถหลบพ้นการโจมตีที่เชื่องช้านี้ได้
ฝูงผึ้งบินต่ำลงตอนนี้ส่วนท้ายของขบวนผึ้งนั้นเข้าถึงจุดหมายกันหมดแล้ว
พวกมันวนเวียนอยู่บริเวณหน้าเมืองพร้อมกับบินไปมาโจมตีทั้งผู้คนที่อยู่บนพื้นดินและบนกำแพงเมือง ผึ้งทั้งฝูงมีจำนวนมากมายหลายพันตัวยั้วเยี้ยแออัดเต็มอากาศ
หากมองจากมุมต่ำขึ้นไปยังด้านบนแทบจะไม่มองเห็นท้องฟ้าเลยทีเดียว เรียกได้ว่าพวกมันคล้ายกับผืนผ้าที่ครอบคลุมพื้นที่หน้าเมืองหลินหยางไปแล้ว
แพละ~
เหล่าผึ้งแคระที่หมายจะโจมตีเข้าใส่ผู้คนบนกำแพงเมืองนั้น พวกมันถาโถมเข้ามาราวกับเกลียวคลื่น เมื่อถูกตัวข้างหน้าบดบังเส้นทางทำให้ผึ้งแคระที่ตามหลังมานั้นบางส่วนมิสามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้
จนกระทั่งเข้าใกล้กำแพงเมืองมากขึ้นพวกมันก็มิสามารถหยุดยั้งการบินของตนเองได้อีกต่อไป พุ่งโหม่งเข้ากับกำแพงเมืองตกตายลงไปเสียเอง
แต่ก็มีผึ้งที่โง่เขลานี้เพียงไม่กี่สิบตัวเท่านั้น