ตอนที่ 1078
หลังจากที่ชิงหยินเลิกเล่นเกมเสมือนจริง นางก็ยังไม่ได้กลับไปแต่อย่างใด
ด้วยเหยาซือเย่ว์ช่วยนำทาง นางเวลานี้กลับจากพื้นที่ส่วนต่อขยายสู่ร้านหลัก
หู่ขวงและลูกค้าหลายคนกำลังนั่งล้อมวงกันเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดกันอย่างเมามัน
เรียกได้ว่าเป็นภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของร้านต้นตำรับไปแล้ว
“พวกนั้นเล่นอะไรอยู่กัน?” ชิงหยวนเกิดสงสัย
“ไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด เป็นเกมไพ่ที่เถ้าแก่นำออกมาให้เล่นจนได้รับความสนใจมากมาย” เหยาซือเย่ว์ดึงมือนางเดินไป “อย่ายืนอยู่เลย ไปทางด้านนั้นกัน”
กฎการเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดง่ายเข้าใจ ทั้งยังเปิดกว้างขนาดคนทั่วไปก็สามารถเล่นได้
ชิงหยวนเรียนรู้วิธีการเล่นสิ่งแปลกใหม่อย่างรวดเร็วก่อนจะเริ่มถลำลึกจมดิ่งไปกับเกมไพ่…
ทางด้านลั่วฉวนที่นอนหลับไปงีบ ตอนนี้กำลังรับชมนิยายที่มีอัพเดทในแอพนักอ่าน จากนั้นจึงสำรวจดูวิดีโอที่ลูกค้าทั้งหลายนำเสนอในแอพวิดีโอ จากนั้นจึงแวะเวียนไปรับชมการถ่ายทอดสด…
ไม่ทันรู้ตัวท้องฟ้าด้านนอกก็เริ่มหม่นแสงแล้ว และระยะเวลาทำการของร้านในวันนี้ก็กำลังจะหมดลง
ลูกค้าต่างกลับกันไปคนแล้วคนเล่า พวกเขาหายผ่านม่านยามราตรีนอกร้านกลับกันไป ร้านต้นตำรับจึงกลับคืนสู่ความเงียบ
ขณะเวลาผันผ่านไป สภาพแวดล้อมภายในร้านก็เปลี่ยนไปไม่น้อยหากเทียบกับในอดีต
“ซือหยาน ข้าขอตัวก่อน” ชิงหยวนที่เล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดแทบตลอดทั้งช่วงบ่าย ตอนนี้เดินมายังโต๊ะกลางเพื่อบอกลาเหยาซือหยาน
“หาที่พักได้แล้วหรือ?” เหยาซือหยานห่วงหาเรื่องนี้
“ซือเย่ว์เพิ่งแนะนำโรงเตี๊ยมจันทราเมรัยมา” ชิงหยวนหันมองทางเหยาซือเย่ว์เป็นการบอกกล่าว
เหยาซือเย่ว์เผยท่าที “เชื่อมือข้าได้เลย” มองตอบเหยาซือหยาน “ให้ข้าพาพี่ชิงหยวนไปเอง ไม่หลงทางอย่างแน่นอน”
นางทราบถึงความสามารถพิเศษของชิงหยวนแล้ว ดังนั้นจึงเกิดกังวลว่าอีกฝ่ายจะไปไม่ถึงโรงเตี๊ยมจันทราเมรัย เป็นเหตุให้นางตัดสินใจนำทางไปส่งด้วยตนเอง
“งั้นก็ไว้พบกันใหม่วันพรุ่งนี้” เหยาซือหยานเผยยิ้ม
“พบกันใหม่วันพรุ่งนี้” เหยาซือเย่ว์และชิงหยวนหันมองทางลั่วฉวนก่อนจะบอกลา “ไว้พวกเรามาใหม่นะเถ้าแก่”
“ได้ ไว้มาใหม่” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ
หลังทานมื้อค่ำ ลั่วฉวนค่อยลุกขึ้นยืน
“เถ้าแก่จะเข้าไปเดินเล่นที่เก๋อหลัวหรือ?” เหยาซือหยานทราบงานอดิเรกของลั่วฉวน ทุกค่ำคืนเขามักจะไปเดินเตร่ในเก๋อหลัว จากปากคำที่เคยได้ยินคือ “เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมของต่างโลก”
“ใช่” ลั่วฉวนพยักหน้ารับพร้อมเอ่ยคำชวน “ไปด้วยไหม?”
“วันนี้ยังก่อน” เหยาซือหยานคิดไปครู่ก่อนจะส่ายศีรษะ จากนั้นนางค่อยหยิบโทรศัพท์วิเศษขึ้นมาชูให้เห็น “วันนี้ข้าคิดเขียนเพิ่มอีกสักหน่อย”
“ตามเจ้าว่า” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ
เดิมเขาคิดอยากทราบรายละเอียดของอีกโลกให้มากขึ้น รวมถึงคิดพาเหยาซือหยานไปรับชมเพื่อสอบถามความเห็น
แต่ไม่เป็นไร วันอื่นค่อยว่ากันก็ยังได้
ด้วยเลือกหาที่นั่งตามใจชอบเพราะร้านว่าง ไม่ช้าลั่วฉวนจึงได้ไปเยือนต่างโลก
“ระบบ ก่อนหน้านี้กล่าวใช่หรือไม่ว่าความละเอียดของโลกนี้เข้าถึงระดับที่เหมาะสมแล้ว” ลั่วฉวนสำรวจมองดวงจันทร์สุกสว่างสองดวงบนฟากฟ้าพลางถาม
“ถูกต้อง” คำตอบของระบบเป็นการยืนยันชัดเจน “การแทรกแซงในระดับเบื้องลึกสามารถทำที่โลกแห่งนี้ได้แล้ว”
ลั่วฉวนเดินไปตามทางพลางนึกย้อนถึงการตัดสินใจที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ตอนแรก เหมือนว่าเขาจะเพียงคิดเดินเที่ยวรับชมต่างบ้านต่างเมืองในต่างโลกไปเรื่อย ไม่ใช่คิดเป็นเถ้าแก่เสียด้วยซ้ำ
แต่พอคิดทบทวนในตอนนี้ เหมือนว่าการเป็นนักเดินทางออกจะเหนื่อยเกินไป การเดินทางไปนั่นมานี่โดยตลอดทุกวันไม่ใช่แนวทางชีวิตเขาเลยแม้แต่น้อย
มันคงจะดีกว่าหากเลือกเปิดร้านและเป็นเถ้าแก่นั่งนอน เปิดยังสถานที่ใหม่ก็เหมือนเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ด้วย
ส่วนว่าทำไมถึงทำเช่นนี้…
ก็เพราะมันน่าสนใจ
มันต้องมีสาเหตุทุกครั้งด้วยหรือที่คนคนหนึ่งคิดอยากจะทำอะไรขึ้นมา?
อย่างไรแล้วการตัดสินใจนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่อาจเปลี่ยนแปลง หากเปิดร้านแล้วรู้สึกเหนื่อย เช่นนั้นก็ปิดร้าน มีตรงไหนที่ยากกัน?
[เก๋อหลัวกว้างใหญ่ไพศาล คิดว่าเป็นโลกอีกเวอร์ชั่นของดาวโลกก็ไม่ผิด ออรันยังเป็นเมืองหลวงขนาดใหญ่ที่เป็นแนวต้านรับศึกปะทะกับหายนะของโลกแห่งนี้ด้วย
การสำรวจโลกแห่งนี้โดยลูกค้าของร้านต้นตำรับยังจำกัดอยู่เพียงแค่ที่ออรัน กระทั่งว่าทุกมุมเมืองยังอาจสำรวจไม่ครบ หากจะกล่าวถึงทั้งโลกยิ่งอย่าได้กล่าวถึง]
“แล้วการแทรกแซงสามารถทำได้มากน้อยเพียงใดกัน?” คิดถึงตรงนี้ ลั่วฉวนอดไม่ได้ที่จะต้องถามออกไป
“การปลอมแปลงตัวตน การเป็นเจ้าของที่ดิน เงินตรา และอีกหลายอย่าง” ระบบตอบกลับมา
ฝีเท้าลั่วฉวนตอนนี้หยุดนิ่งลง
เหตุใดมันฟังดูแปลก?
“ข้าตัดสินใจแล้ว ว่าจะเปิดร้านที่นี่แหละเป็นเถ้าแก่” ข้อสงสัยเมื่อครู่ได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ และตอนนี้เขากำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ “ส่วนเรื่องสถานที่ตั้งร้าน สุ่มเลือกมาสักที่ก็ได้”
“เถ้าแก่มีความต้องการอื่นใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่?” ระบบกล่าวถาม
“ตอนนี้ยังไม่มี ภายหน้าอาจมี” ลั่วฉวนกล่าวตอบ
“กำลังดำเนินการสุ่มค้นหา…”
“ทำการสุ่มหาเสร็จสิ้น เริ่มขั้นตอนการเคลื่อนย้าย…”
บรรดาคนที่สัญจรไปมาบนท้องถนน หาได้มีใครตระหนักไม่ว่าใกล้เคียงมีคนผู้หนึ่งหายไปอย่างกะทันหัน
ในสถานที่ค่อนข้างหม่นแสง ตอนนี้แสงสุกสว่างปรากฏขึ้นเกิดเป็นเงาขยายตัวออกรอบด้าน
ขณะลั่วฉวนสำรวจมอง พื้นไม้ตรงหน้าเริ่มเคลื่อนไหวพร้อมเกิดเสียง “กึง กัง” ดังให้ได้ยิน ควันเริ่มปรากฏก่อนที่ฝุ่นมวลหนาจะพุ่งขึ้นกลางอากาศ
ลั่วฉวนขมวดคิ้ว
หลังถูกระบบเคลื่อนย้ายสุ่มมา ตัวเขาตอนนี้อยู่ในห้องที่ดูค่อนข้างเก่าประหนึ่งไม่เคยได้รับการดูแลอย่างยาวนาน
อากาศค่อนข้างชื้นราวมีเชื้อรา ทั้งยังมีฝุ่นหนา ระยะมองเห็นมีแต่ความเสื่อมโทรม กระทั่งว่าบนพื้นที่เห็ดเติบโตปรากฏขึ้นมา
ชั้นวางหลากหลายปรากฏกระจัดกระจาย โต๊ะและเก้าอี้มีฝุ่นปกคลุมหนา จากสภาพที่เห็นเหมือนจะเป็นร้านหนังสือหรืออะไรทำนองนั้น
ลั่วฉวนเกิดสงสัยขึ้นมา ว่านี่เป็นการยึดบ้านใครสักคนดังที่ระบบกล่าวถึงเมื่อครู่ หรือว่าเป็นการสร้างขึ้นใหม่อย่างจงใจโดยที่ให้มีสภาพเป็นเช่นนี้กันแน่
โชคดีที่หน้ามีรอยเปิดไว้เล็กน้อย เขาจึงได้เห็นว่าอยู่ข้างเส้นทางของถนนที่สาดส่องแสงโดยพลังงานเวทมนตร์ สิ่งปลูกสร้างรอบด้านไม่ได้มีสภาพทรุดโทรมเหมือนที่แห่งนี้
รูปแบบสิ่งปลูกสร้างคล้ายสถาปัตยกรรมของยุโรปยุคกลาง มันมีกลิ่นอายของความขลังของผู้วิเศษคงอยู่ อย่างไรแล้วที่นี่ก็เป็นโลกเวทมนตร์ จะมีกลิ่นอายดังกล่าวก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก
ที่นี่คล้ายจะเป็นอาณาจักรของมนุษย์
แต่ว่ามันคือประเทศใดและเมืองใดในเก๋อหลัว? แน่นอนว่าเกิดเปิดร้านและการเป็นเถ้าแก่ ไม่ว่าเป็นที่ใดก็ต้องทำ
ลั่วฉวนเหม่อไปครู่หนึ่ง
คำถามมากมายปรากฏ รวมถึงความคิดที่มากมายก็ด้วย
เขาไม่ได้คิดย้ายร้านต้นตำรับมาที่นี่ อย่างไรแล้วที่นี่ก็เป็นต่างโลก หลายสิ่งอย่างแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง นำเอาร้านเดิมมาจะมีความหมายอะไร?
หลังครุ่นคิดอยู่ไม่กี่นาที ลั่วฉวนก็ยังไม่อาจได้ผลลัพธ์ดังที่คาดหวัง
เอาไว้ก่อน เปิดเป็นร้านกาแฟกับปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในร้านก่อนก็แล้วกัน
เรื่องอื่นใดนอกเหนือจากนี้ไว้ภายหน้าค่อยพูดกล่าว ยังไม่มีอะไรจำเป็นต้องรีบ และเขายังต้องไปขอความเห็นจากเหยาซือหยานเพิ่มเติม
“ระบบ ฝากงานด้วย” ลั่วฉวนดีดนิ้ว “เอาเป็นร้านกาแฟที่ผสานสไตล์ระหว่างคลาสสิคและทันสมัย”
“กำลังปรับเปลี่ยนรูปแบบ… การปรับเปลี่ยนรูปแบบเสร็จสิ้น” เสียงของระบบดังตอบเหมือนเช่นเคย และตอนนี้สภาพแวดล้อมภายในร้านกำลังเปลี่ยนแปลงขนาดปรากฏเป็นพื้นแผ่นดินที่สั่นสะเทือน
[ขอย้ำอีกครั้งว่าการที่เถ้าแก่เปิดร้านที่นี่ก็เพียงความสนใจคิดอยากทำ และเรื่องนี้ลั่วฉวนไม่ได้โดนระบบจำกัดอะไรเอาไว้ แต่เป็นเขาเกิดสนใจและเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่าอยากเป็นเถ้าแก่ร้านที่นี่ก็เท่านั้น]