God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! – ตอนที่ 1120

ตอนที่ 1120

ตอนที่ 1120

ท้องฟ้าและผืนดินปรากฏในสีสันที่ดูยุ่งเหยิง ดวงจันทราสีชาดลอยค้างกลางฟากฟ้า แสงที่สาดส่องลงมาถูกย้อมกลายเป็นสีแดงชาด

เจียงเฉิงจวินกำลังออกวิ่งราวคลุ้มคลั่ง คลื่นสีดำอันไร้สิ้นสุดตามติดกระชั้นชิดทางด้านหลัง เสียงกรีดร้องอันแปลกประหลาดมากมายดังก้องปรากฏในหู

หากพิจารณาให้ดี จะพบว่าคลื่นสีดำนั้นเกิดขึ้นจากสิ่งมีชีวิตประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วน พวกมันหลอมรวมเข้ากลายเป็นหนึ่งเดียว ภาพฉากนี้หากให้บรรยาย ก็คงเป็นฝันร้าย

และไม่ทราบว่าเมื่อใดที่พื้นดินเกิดรอยแยกปรากฏ บางสิ่งราวกับถูกปัดเป่าออกมาจากความมืดห้วงลึก แขนโครงกระดูกฉับพลันปรากฏออกมาและคว้าขาของเจียงเฉิงจวินเอาไว้

เจียงเฉิงจวินกรีดร้องออกจนสุดปอด สายตาหันมองทางคลื่นสีดำที่ใกล้เข้ามาด้วยความเร็วสูงก่อนจะกลืนกินตัวเขาเลือนหาย

ความรู้สึกประหนึ่งร่างกายถูกฉีกทึ้ง ราวกับจมดิ่งในห้วงทะเลลึก แรงกดดันอันน่าหวาดกลัวบีบอัดเข้ามาจากทุกทิศทาง กระดูกในร่างเริ่มส่งเสียงประท้วงราวไม่อาจแบกรับได้ไหวอีกต่อไป

“ตรวจพบสภาพจิตใจเกินข้อกำหนดความปลอดภัย บังคับส่งตัวออกโดยทันที”

เสียงอันเย็นเยือกของระบบดังปรากฏขึ้น ภาพฉากอันน่าสะพรึงเลือนหาย เจียงเฉิงจวินกลับคืนสู่มิติเริ่มต้นสีขาวโพลน

เขาสำรวจมองรอบด้วยความงุนงง ราวกับยังไม่ทันตื่นจากฝันร้ายเมื่อครู่ ตอนนี้ค่อยถอนหายใจลากยาวออกมา

เจียงเฉิงจวินถอนตัวกลับจากโลกเสมือนจริง ถอดหมวกออก และนั่งนวดมือตนเองไปมา เขาคิดทานแท่งเครื่องเทศเพื่อปรับสภาพอารมณ์

“ไง ออกมาแล้วหรือ” ปู้หลี่เกื๋อเดินเข้ามาพร้อมถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มิติแห่งฝันร้ายเป็นยังไงบ้าง?”

“เป็นยังไง?” เจียงเฉิงจวินตระหนักพบเห็นความผิดปกติในคำของปู้หลี่เกื๋อ มือของเขาที่พยายามฉีกห่อแท่งเครื่องเทศกำลังสั่นเทา

“ข้าจัดการได้เรียบร้อย มิติแห่งฝันร้ายไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว”​ ปู้หลี่เกื๋อไม่ทันตระหนักพบเห็นอาการผิดปกติของเจียงเฉิงจวิน เขาเดินมาหย่อนก้นนั่งที่นั่งข้างเคียง “ยังไม่กล่าว ว่าจัดการพวกมันแล้วสบายใจเป็นบ้า”

เจียงเฉิงจวินเงียบไป เขาไม่อาจเข้าใจถึงประสบการณ์ความแตกต่างระหว่างที่ตนพบเจอกับของปู้หลี่เกื๋อ ทางด้านปู้หลี่เกื๋อถึงขั้นลงไม้ลงมือตอบโต้ได้ เหตุใดเขามันน่าอดสูเช่นนี้กัน!

“หือ ทำไมเงียบไปล่ะ?” หลังทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเข้าไป ปู้หลี่เกื๋อเอ่ยถาม “กล่าวไป เจียงเฉิงจวิน เหตุใดมือสั่นขนาดนั้น? ร้านเถ้าแก่ก็ไม่ได้ร้อนหรือเย็นเกินไปนี่นา”

“ไม่มีอะไร ก็แค่ตื่นเต้นกับมิติแห่งฝันร้ายเกินไปหน่อย” เจียงเฉิงจวินเผยสีหน้าเรียบเฉย แท่งเครื่องเทศในมือตอนนี้ถูกส่งเข้าปากทั้งสภาพมือยังสั่น

“อ้อ” ปู้หลี่เกื๋อรับคำพลางทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อ “ไม่ทราบว่าทำไมเถ้าแก่ถึงบอกว่ามิติแห่งฝันร้ายจะน่ากลัว ของข้าเหมือนเรื่องง่าย”

เมื่อคำตกกระทบโสดประสาทรับฟังเจียงเฉิงจวิน มันกลายเป็นอีกความหมาย สำหรับเขาแล้วมีแต่เสียงร้องตอบรับ “ไม่ ไม่เลย ไม่มีใครคิดแน่ว่ามันจะน่ากลัวเพียงนั้น”

เจียงเฉิงจวินไม่ตอบ เพียงแต่นั่งทานต่อไปอย่างเงียบงัน

“แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นประสบการณ์มิติฝันร้ายของคนอื่น ไม่ทราบเลยว่าแต่ละคนพบเจออะไรกันบ้าง” ปู้หลี่เกื๋อสำรวจมองรอบ ลูกค้าหลายคนที่ใช้งานตอนนี้ หน้าจอแสดงผลไม่ปรากฏอะไรให้รับชม

“ยังไงมันก็คือความหวาดกลัวในใจของผู้อื่น คงไม่มีใครยินดีให้ผู้อื่นได้ทราบแน่” ปู้ฉืออีเผยเสียงดังปรากฏขึ้น

“พี่หญิง ที่มิติแห่งฝันร้ายท่านพบเจออะไรกัน?” ปู้หลี่เกื๋อดื่มโคล่าพลางเอ่ยถาม

ปู้ฉืออีเผยสีหน้าลำบากใจ นางตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ไม่มีอะไร ตอนนี้มีลูกค้าในร้านเยอะแล้ว เหมือนจะทราบกันถ้วนหน้าเรื่องของใหม่ภายในร้านจึงเดินทางมากัน”

“ข้าเดาว่าเป็นพวกแมลง ข้ายังจำได้ว่าท่านตอนยังเด็กกลัวพวกมันไม่ใช่น้อยเลย” ปู้หลี่เกื๋อใช้นิ้วจรดคางเผยข้อคาดเดาออกมา

ปู้ฉืออีกัดฟันแน่น นางสูดลมหายใจเข้าลึก สายตาจับจ้องปู้หลี่เกื๋อก่อนจะเดินหนีไปยังหมู่บ้านซากุระ นางคิดหากาแฟดื่มสักแก้วเพื่อปรับสภาพอารมณ์

“พี่หญิงเจ้ากลัวแมลงจริงหรือนี่?” เจียงเฉิงจวินตอนนี้ค่อยสงบใจลงได้มากแล้ว สายตาเขามองแผ่นหลังปู้ฉืออีที่เดินไปด้วยอาการประหลาดใจ เพราะเขาไม่เคยทราบ

“ถูกต้อง” ปู้หลี่เกื๋อเปิดเผยความลับ “เฉพาะกับพวกที่มีหลายขาน่ะ”

ภาพความนึกคิดปรากฏในใจเจียงเฉิงจวิน เขาส่ายหัวละทิ้งความคิดรวดเร็ว “คนส่วนใหญ่หากให้เลือกก็หลีกเลี่ยงกันอยู่แล้วกระมัง?”

“ก็อาจจะ แต่พี่หญิงข้ากลัวยิ่งกว่านั้น” ปู้หลี่เกื๋อสูดเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะเขาคือลูกค้าคนแรกของภัตตาคารเซียนหงส์อมตะที่ทดลองเปิบพิสดาร ดังนั้นสำหรับเขาจึงเฉยชากับเรื่องราวเหล่านี้ “ว่าไป เจ้าพบเจออะไรมา?”

“ข้าหรือ?” เจียงเฉิงจวินสะดุ้งนึกย้อนความทรงจำอันเลวร้าย “เจ้าอาจไม่เชื่อ มันเป็นฝันร้ายที่เคยรังควานข้า เดิมข้าลืมเลือนมันไปแล้ว แต่มิติแห่งฝันร้ายกลับกระตุ้นเรียกมันกลับคืนมา!”

“ฝันร้าย?” ปู้หลี่เกื๋อเกิดสนใจ ในที่สุดเขาก็คาดเดาได้แล้วว่าอาการผิดปกติของเจียงเฉิงจวินเมื่อครู่คืออะไร “เจ้าคงไม่กลัวฝันร้ายนั่นแล้วกระมัง?”

“ข้าหรือ?” เจียงเฉิงจวินส่ายศีรษะตอบพร้อมกล่าวคำเท็จ “เป็นฝูงสัตว์อสูรที่แห่แหนมาประหนึ่งคลื่นน้ำ อาวุธเทคโนโลยีของร้านเถ้าแก่ช่วยกวาดจนเหี้ยนเตียนเรียบร้อย”

“จริงหรือ?” ปู้หลี่เกื๋อเผยสายตาสงสัย เขาไม่คิดเชื่อคำของเจียงเฉิงจวิน

“จริงแท้” เจียงเฉิงจวินพยักหน้ารับ

ท้องฟ้าแตกสลาย ความมืดมิดสีดำประหนึ่งหมึกย้อมเริ่มกระจายจากรอยแยกรอบด้าน ห้วงลึกของความมืดเหล่านั้น มันปรากฏดวงตาสีแดงชาดมองมาอย่างเฉยชา

พื้นแผ่นดินแตกแยก เมฆสีดำปกคลุมฟากฟ้า สัตว์อสูรมากมายแห่แหนกันมาจากทั่วทิศ เหล่าผู้ฝึกตนต่างต่อสู้ล้มตายไม่หยุดหย่อน

แสงอันเย็นเยือกปรากฏ สีหน้ากู่หยุนซีกลายเป็นซีดเผือด “หยุด หยุด หยุด!”

โลกหล้าชะงักงันแข็งค้าง นางค่อยขยับเคลื่อนไหวนิ้ว ดาบบินฉับพลันปรากฏจากที่ใดไม่ทราบ สายตาของนางมองไปยังเหล่าสัตว์อสูรที่คิดล้างผืนแผ่นดินด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“กลายเป็นว่าที่ข้าหวาดกลัวที่สุดในความทรงจำ มันคือเจ้านี่เองงั้นหรือ เหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้ได้กัน?” กู่หยุนซีเปิดตัวเลือกก่อนจะมอง พบว่ามันถูกปรับเป็นระดับสูงสุดแล้ว “ไม่น่าเลือกอย่างนี้เลย”

เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังปรากฏ คลื่นเสียงรุนแรงถึงขนาดทำแผ่นดินสะเทือน ทั้งร่างของมันปกคลุมด้วยความมืดพร้อมดวงตาสีแดงชาดนับไม่ถ้วนที่จับจ้องออกมา

โจวหู่โดนกลืนก่อนจะเลือกสั่งหยุดฉาก เขาทราบว่านี่คือเบฮีมอธที่เป็นสัตว์อสูรซึ่งกลุ่มทหารรับจ้างของเขาเคยพบเจอครั้งอยู่เทือกเขาจิ่วเหยา มูลค่าการหลบหนีรอดพ้นครั้งนั้นต้องจ่ายออกอย่างใหญ่หลวง

เหตุการณ์นี้เป็นเขาจำฝังใจ ทว่าก็ซุกซ่อนมันเอาไว้ แต่คราวนี้มันถูกกระตุ้นขึ้นมา เขาไม่คาดคิดว่ามิติแห่งฝันร้ายจะตระหนักรู้ถึงการมีตัวตนของมันคงอยู่ในลิ้นชักความทรงจำของเขา

“ไม่น่าเชื่อคำของเจ้าหนูปู้หลี่เกื๋อนั่นเลย” โจวหู่หันมองทางหมอกสีดำอันไร้สิ้นสุด เขาอดไม่ได้ที่จะเกิดความคิดโต้แย้ง “ก็แค่ความกลัว มีอะไรให้กลัวงั้นหรือ? หากทราบแต่แรกคงไม่เลือกระดับสูงสุดอะไรนี่แล้ว!”

หลังสูดลมหายใจเข้าลึกหลายครั้ง เขาตัดสินใจกลับจากโลกเสมือนจริงเพื่อไปรับชม ว่าสหายร่วมชะตากรรมผู้อื่นภายในร้านได้พบเจอกับอะไรมาบ้าง

God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ!

God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ!

Status: Ongoing

ร้านต้นตำรับ มันคือชื่อร้านของวิเศษแห่งหนึ่งในทวีปเทียนหลัน

โคล่าที่ร้านนี้ขายพร้อมจะทำให้พลังชีวิตของผู้คนเต็มเปี่ยมในพริบตา

เครื่องเทศอัดแท่งนั้นสามารถเสริมกำลังแก่ผู้คนยามต่อสู้

เกมของที่ร้านยังเพิ่มพูนการฝึกฝนของผู้คน นวนิยายที่ร้านมีขายให้อ่านยังส่งเสริมให้ผู้คนเข้าใจวิทยายุทธ์…

ร้านค้าวิเศษแห่งนี้มีสินค้านับไม่ถ้วน ไม่ว่าใช้สำหรับพักผ่อน บันเทิง เป็นอาหาร หรือเพื่อฝึกฝนล้วนมีครบครัน

ทว่าเรื่องหนึ่งที่ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ คืออย่าได้สร้างปัญหาที่ร้านแห่งนี้

เพราะเถ้าแก่ร้านนั้นแข็งแกร่งขั้นเทพ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท