แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1233 เลือดออกขนาดนี้ เขาจะรอดมั้ย

บทที่ 1233 เลือดออกขนาดนี้ เขาจะรอดมั้ย

“เขาโทรหาคุณใช่มั้ย ไม่ได้บอกหรือจะพาฉันไป หรือบอกว่าจะใช้อะไรแลกฉันกลับไป”

เกวลินมองวินเซนต์อย่างมีความหวัง

เวลานี้ แม้ว่าวินเซนต์จะเป็นยักษ์หน้าเย็นที่ฆ่าคนนับไม่ถ้วนยังหวั่นไหวไม่มากก็น้อย

เขาไม่ได้ปริปาก ประกายสว่างในดวงตาที่มองเกวลินหายไปช้าๆ จากนั้นก็หายไปไร้ร่องรอย

เธอยิ้มเยาะตัวเอง “ฉันคิดเพ้อเจ้อไปเองใช่มั้ย ที่จริงตอนที่ฉันมาก็รู้แล้ว เขาไม่ได้รักฉัน แต่ฉันอยากจะได้โอกาสนี้ จากนั้นรอให้เขามาขอแต่งงาน ให้ฉันเป็นเจ้าสาวของเขา ในที่สุดฉันก็รักเขาข้างเดียว ฉันโง่เองก็เท่านั้น”

น้ำตาของเธอไหลพราก ไม่มีเสียง ไม่มีท่าทาง แต่ร้องไห้เหมือนว่าฟ้าถล่มทลาย

วินเซนต์รู้สึกเห็นใจอย่างที่ไม่เคยเป็น น่าเสียดายที่ในที่สุดแล้วเขาก็ไม่อาจช่วยอะไรได้

“คุณปล่อยฉันไปได้มั้ย ฉันจะกลับไปถามเขาทำไมหลอกฉัน ปล่อยฉันไปได้มั้ย”

เกวลินจู่ๆ ก็กระโดดลงจากเตียง คุกเข่าลงตรงหน้าวินเซนต์

“ขอร้องล่ะ ขอร้องคุณปล่อยฉันกลับไปได้มั้ย ได้โปรด”

วินเซนต์หรี่ตาลง สายตาฉายอารมณ์ที่ซับซ้อน

ใบหน้าเศร้าสร้อยของทรรศยาฉายวาบขึ้นเบื้องหน้าวินเซนต์ กำลังร้องไห้สะอื้น

เก้าปีก่อน ทรรศยาร้องไห้วิงวอนพวกนั้นแบบนี้หรือไม่นะ

ไม่!

เธอไม่มีทาง!

เธอยืนหยัดเช่นนั้น ไม่มีทางยอมให้ตัวเองก้มหัวแน่

อะไรที่เธออยากได้ ความรู้สึกที่อยากได้เธอจะไขว่คว้ามันมาด้วยตัวเอง ไม่มีทางใช้วิธีคุกเข่ากับคนอื่นเพื่อให้ได้มา

เพราะอย่างนี้ เธอไม่ใช่ทรรศยา!

วินเซนต์หันกลับมา แต่กลับรู้สึกถึงแสงวาบในดวงตา พริบตานั้นมีดเย็นเยียบแทงเข้าไปในอกของเขา

ความเจ็บปวดแตกร้าวและเลือดสดๆ ทะลักออกมา ของเหลวอุ่นๆ พุ่งใส่หน้าของเกวลิน

ใบหน้าของเกวลินยังคงมีคราบน้ำตา

มือของเธอสั่นเทา ทั้งตัวก็สั่นเทาเช่นกัน

“ขอโทษ วินเซนต์ ขอโทษ นี่เป็นโอกาสเดียวของฉัน ฉันรู้ดีเขาอาจจะไม่รักฉัน แต่เขาไม่เคยหลอกฉัน เขาบอกว่าแค่ฆ่าคุณเขาจะแต่งงานกับฉัน ฉันเชื่อ! วินเซนต์ ฉันเชื่อเขา! ฉันรู้การฆ่าคนไม่ดี ฉันรู้ด้วยเราไม่มีความแค้นต่อกัน แต่คุณก็อยากได้ตัวฉันไม่ใช่หรือ ถือว่าฉันใช้ตัวเองชดใช้ได้มั้ย แม้จะใช้ไม่หมด แต่…ฉันไม่มีทางเลือก ชาติหน้า ชาติหน้าฉันจะรับใช้คุณ ดีมั้ย”

เกวลินร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด

เธอควรจะเกลียดผู้ชายคนนี้!

เขาเป็นคนพรากความบริสุทธิ์ของเธอไปไม่ใช่หรือ

แต่ทำไมตอนนี้เห็นเขาเลือดสาดกระเซ็น เธอถึงได้หวาดกลัวล่ะ

เธอกลัวจริงๆ!

วินเซนต์ไม่เคยคิดตัวเองจะพ่ายแพ้ในกำมือของหญิงสาวตัวเล็กๆ อย่างนี้

เธอไม่ใช่นักฆ่าด้วยซ้ำ

เขาเป็นยักษ์หน้าเย็นวินเซนต์ คาดไม่ถึงจะถูกผู้หญิงธรรมดาตัวเล็กๆ ทำร้าย!

แต่วินเซนต์กลับไม่โกรธ

ไม่รู้เพราะอะไร ตอนนี้ใจเขาสงบมาก

ความเจ็บปวดที่หน้าอกแผ่ไปทั่วสรรพางค์กาย

เขาพิงหน้าต่างหอบหายใจ สายตากลับเป็นประกาย

“ฉันตายเธอจะสมปรารถนาใช่มั้ย”

เกวลินคิดว่าจะเป็นวินเซนต์คลุ้มคลั่งแต่นึกไม่ถึงความนิ่งเฉยของเขาทำให้เธออยากจะร้องไห้

“ฉันขอโทษ”

ตอนนี้เธอพูดได้แค่สามคำนี้เท่านั้น

วินเซนต์กลับยิ้ม

ยิ้มอย่างสะอาด

เหมือนกับกลิ่นคาวเลือดหลายปีมานี้ไม่ได้เปื้อนรอยยิ้มของเขา เหมือนกับเขายังเป็นผู้ชายคนนั้นเมื่อหลายปีก่อน

เขาพูด “บางทีตายแล้วฉันอาจจะได้เจอทรรศยา ฉันไม่ได้เจอเธอมาเก้าปีแล้ว ถึงกับเข้าไปในสุสานของเธอไม่ได้ ทุกปีทำได้แค่วางดอกไม้ให้เธอข้างนอก ไม่รู้ว่าเธอจะได้ยินมั้ย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำเธอไปเกิดแล้วหรือยัง ดื่มน้ำแกงยายเมิ่งเพื่อลบความทรงจำในอดีตที่สะพานไน่เหอแล้วหรือเปล่า จะลืมฉันหรือเปล่า แต่แล้วยังไงล่ะ ในที่สุดฉันก็จะได้ไปเจอเธอ ดีจริงๆ”

พูดจบ เขาก็ยิ้มแล้วล้มลง

เกวลินใจเต้นรัวแรง

ผู้ชายคนนี้รักผู้หญิงคนนั้นมากแค่ไหน

ทำไมเขาถึงปล่อยวางได้ขนาดนี้ล่ะ

เขาจะตายมั้ย

เขาสมควรตาย!

เลือดออกมากขนาดนี้ เขาจะตายมั้ย

เกวลินจู่ๆ ก็ลนลานขึ้นมา

เธอรีบหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมาสวม จากนั้นในหัวพยายามนึกถึงวิธีหนีที่ค้นหาตลอดสามปีมานี้ แต่ไม่ว่าวิธีไหนเธอก็พบว่าตัวเองไม่อาจหนีออกไปได้

ข้างนอกมีคนล้อมรอบหลายชั้น

ต่อให้เธอฆ่าวินเซนต์ ต่อให้เธอทำภารกิจสำเร็จ ถึงอย่างไรเธอก็กลับไปไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเป็นเจ้าสาวของบุณพจน์

เกวลินเห็นเลือดตรงหน้าไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ ซึมลงพื้น ราวกับมองเห็นสหายพวกนั้นตายต่อหน้าตัวเอง

เธอขดตัวบนเตียง กอดขาตัวเองแน่น

บุณพจน์ ทำไมคุณยังไม่มา

คุณให้ฉันฆ่าวินเซนต์ ฉันทำได้แล้ว!

ทำไมคุณไม่ให้คนมารับฉันออกไปล่ะ

คุณจะมาใช่มั้ย

คุณไม่เคยหลอกฉัน คุณจะมาใช่มั้ย

เกวลินดูเหมือนจะนึกอะไรได้ รีบกระโดดลงจากเตียง หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าของวินเซนต์ ใช้นิ้วของวินเซนต์เปิดหน้าจอมือถือ จากนั้นก็กดโทรออกไปยังเบอร์ที่คุ้นเคยที่สุดทันที

“วินเซนต์ คุณคิดดีแล้วยัง”

เสียงของบุณพจน์ดังขึ้น

เกวลินทันใดนั้นก็ร้องไห้ออกมา

“บุณพจน์ ฉันฆ่าวินเซนต์! ฉันฆ่าเขาแล้ว! เรื่องที่คุณสั่งฉันทำสำเร็จแล้ว เมื่อไหร่คุณจะมารับฉัน ที่นี่มีคนเยอะแยะ พวกเขาอยากให้ฉันตาย คุณมาเร็วๆ ได้มั้ยคะ”

เกวลินพูดเร็วปรื๋อ กลัวว่าหากช้าไปอีกฝ่ายจะวางสายไปก่อน

บุณพจน์ตะลึงงัน

“เธอพูดอะไรนะ”

“ฉันบอกว่า ฉันฆ่าวินเซนต์แล้ว!”

เกวลินพูดเหมือนเด็กๆ เอาใจบุณพจน์ แต่กลับได้ยินเสียงตะคอกมาจากอีกฝ่าย

“ใครใช้ให้เธอฆ่าเขา ไม่รู้หรือไงเขาสำคัญกับฉันแค่ไหน ไม่รู้หรือเขาคือแขนขาของบุริศร์ที่มีอำนาจมากที่สุด อยากฆ่าเขาฉันจะส่งเธอไปหรือ เธอนี่มันโง่ชะมัด! ฉันต้องการอำนาจในมือวินเซนต์ ต้องการให้วินเซนต์สยบแทบเท้าฉัน เขาคือมีดที่ไร้ความรู้สึก ได้เขามาเป็นพวกก็เท่ากับได้ครึ่งหนึ่งของสหภาพQT เธอกลับฆ่าเขาจริงๆ เธอฆ่าเขาได้ยังไง เกวลิน เธอมันไม่ได้เรื่อง! ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง! เธอยังมีชีวิตถึงตอนนี้ก็เมตตาที่สุดแล้ว ยังคิดจะมาขอให้ฉันช่วยหรือ ถ้าไม่เป็นเพราะเห็นว่าเธอหน้าตาเหมือนกับ ทรรศยาอย่างกับแกะ ฉันจะส่งเธอไปยั่วยวนวินเซนต์หรือ แต่เธอทำอะไรลงไป เธอฆ่าเขาจริงๆ! ยังมีหน้าจะกลับมาอีกหรือ เธอตายไปพร้อมกับวินเซนต์ละกัน”

พูดจบ ก็ไม่รอให้เกวลินทันได้ตอบโต้อะไร บุณพจน์ก็โยนมือถือทิ้ง

เกวลินตะลึงพรึงเพริด

บุณพจน์กำลังพูดอะไร

คนที่ให้เธอฆ่าวินเซนต์ก็คือเขา ตอนนี้เธอทำสำเร็จแล้ว แต่ทำไมเขาด่าทอเธอ

ไม่ได้ตกลงกันแล้ว หลังฆ่าวินเซนต์เขาจะแต่งกับเธอหรือ

ตอนนี้ให้เธอตายไปพร้อมกับวินเซนต์หมายความว่ายังไง

เกวลินกดโทรกลับไปเหมือนเสียสติแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับสายสักที สุดท้ายสายก็ถูกตัดไป

เธอรู้ บุณพจน์บล็อกเบอร์แล้ว

เกวลินทรุดนั่งบนพื้น แต่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ถึงได้รู้สึกตัวเธอนั่งลงบนกองเลือดของวินเซนต์

ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นซีดเผือด

ในร่างกายคนมีเลือดเท่าไหร่กันแน่ เกวลินไม่รู้ แต่เธอรู้อย่างหนึ่ง ขืนปล่อยอย่างนี้ไป วินเซนต์ไม่รอดแน่นอน

เธอรู้ดี ตัวเองถูกบุณพจน์ทิ้งแล้ว

ที่แท้เธอถูกใช้เป็นตัวแทนส่งมาหาวินเซนต์

เท่าที่ฟังบุณพจน์พูด เธอมีความหมายแค่เท่านี้

เธอไม่สำคัญกับบุณพจน์เท่ากับวินเซนต์ด้วยซ้ำ

ผู้ชายแบบนี้จะรักเธอได้ยังไง

และจะแต่งงานกับเธอได้ยังไง

เธอถูกความอบอุ่นนิดๆ หน่อยๆ ของบุณพจน์ทำให้เธอลุ่มหลง โง่เง่าไม่ลืมหูลืมตา ไม่อาจแยกแยะผิดชอบชั่วดี ตอนนี้ยังทำให้ชีวิตคนอื่นเป็นเรื่องล้อเล่น

เธอถูกกรรมตามสนองแล้วใช่มั้ย

เธอถูกคนที่ตัวเองรักมากที่สุดทอดทิ้งแล้ว

“ฮ่าๆๆๆ!”

เกวลินระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น

เธอรู้สึกว่าตัวเองช่างน่าขัน ทั้งชีวิตเป็นเรื่องตลก

แต่น้ำตาไหลรินอย่างไม่อาจควบคุมได้ ไหลพรากไม่หยุด

เธอมองวินเซนต์ที่สลบไปแล้ว “คุณรู้ใช่มั้ย ตั้งแต่แรกคุณรู้อยู่แล้วฉันคือตัวตลกใช่มั้ย มิน่าคุณไม่ฆ่าฉัน แค่ขังฉันไว้ ที่แท้คุณช่วยฉันเพราะหน้าของฉัน แต่ฉันทำอะไรลงไป ฉันโง่ เซ่อ ไม่มีสมอง ฉันคิดว่าเขาพูดอะไรแล้วฉันทำตามก็คือเชื่อฟัง เป็นเด็กดี แล้วเขาจะชอบ จะรักฉัน ถึงฉันคิดว่าฆ่าคนแล้วจะได้แต่งงานกับเขา แต่เขาตั้งใจส่งฉันให้คุณตั้งแต่แรกแล้ว ฮ่าๆๆๆ! ฉันน่าสมเพชเหลือเกิน น่าขำ!”

น้ำเสียงของเกวลินแฝงด้วยความทุกข์โศก ดึงความสนใจของคนข้างนอก

“เกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือ”

“เป็นไปได้ยังไง พี่วินเซนต์อยู่ข้างในนะ”

“แต่ไม่ได้ยินเสียงพี่วินเซนต์เลย”

คนเฝ้าหน้าประตูทั้งสามคนมองหน้ากัน รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

“เข้าไป!”

ทั้งสามคนรีบเคาะประตู

“พี่วินเซนต์ พี่วินเซนต์”

แต่วินเซนต์เงียบกริบ

ทั้งสามคนร้อนใจ เตะประตูเปิดออก เห็นเกวลินนั่งบนพื้นทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะเสียสติ ขณะที่วินเซนต์นอนจมกองเลือด

“พี่วินเซนต์!”

ทั้งสามคนรีบวิ่งเข้าไป เตะเกวลินกระเด็นไป แล้วรีบอุ้มวินเซนต์ขึ้นมา

วินเซนต์ยังคงเลือดไหล แต่มุมปากของเขายังคงมีรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ปล่อยวาง

ดวงตาทั้งสามคนแดงก่ำ

“โทรเรียกรถพยาบาล! เร็ว!”

คนหนึ่งโทรไปเรียกรถพยาบาล

อีกคนหนึ่งลุกขึ้น เดินมาที่หน้าเกวลิน ตบหน้าเธอสองฉาด ตบจนเกวลินหน้ามืดเห็นดาว

เธอล้มลงบนพื้นทันที ได้ยินผู้ชายคนนั้นพูด “เธอภาวนาให้พี่วินเซนต์ปลอดภัยละกัน ไม่อย่างนั้น ฉันจะถลกหนัง ตัดเส้นเอ็นแล้วฉีกเป็นชิ้นๆ โยนให้หมากิน!”

เกวลินตัวสั่นทันที

เธอเชื่อที่ผู้ชายคนนี้พูด เธอกลัวจริงๆ เมื่อคิดอย่างนี้ เธอตะเกียกตะกายขึ้นมา พุ่งชนกำแพงเหมือนเสียสติไปแล้ว

“ห้ามเธอ! ทำร้ายพี่วินเซนต์แล้วคิดจะตายง่ายๆ หรือไง ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”

ทันใดนั้นมีหลายคนกรูกันเข้ามา ดึงตัวเกวลินได้ทันขณะที่เธอจะชนกำแพง และยังมีคนโทรไปหาบุริศร์ด้วย

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท