“ไม่เพียงแค่เข้าเขตเมืองเท่านั้น หัวหน้าหน่วยบอกให้ผมพาพวกคุณเข้าวังเลยครับ”
คำพูดของเฉียงทำให้นรมนตกใจ ชัญญาก็ตะลึงไปด้วย
“เข้าวัง?”
“ครับ หัวหน้าหน่วยบอกว่าที่ที่อันตรายที่สุดก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด นี่เรียกว่าความมืดใต้แสงไฟ ยังไงพระราชาก็คงคิดไม่ถึงว่าพวกคุณจะซ่อนกันอยู่ในวัง”
ไม่ว่าจะยังไงเฉียงก็ศรัทธาในตัวของหงส์เสมอ มองออกว่าชื่อเสียงบารมีของหงส์สูงมาก
นึกถึงคนๆนี้ที่เป็นน้องสาวของราเชนลูกพี่ลูกน้องเธอ นรมนก็สงสัยขึ้นบ้างแล้ว
บุริศร์จับมือนรมนเอาไว้ พูดเบาๆ: “อีกเดี๋ยวอย่าขี้สงสัยเกินไป เข้าใจไหม?”
“อื้อ”
นรมนพยักหน้า
บุริศร์ก็เหมือนกับพยาธิที่อยู่ในห้องของเธอ เธอกำลังคิดอะไรอยู่เขาก็รู้แล้ว น่าเบื่อชะมัดเลย
เห็นนรมนไม่คึกคักเหมือนเมื่อครู่ บุริศร์จึงยิ้มพูดขึ้น: “รอให้ผ่านด่านตรวจความปลอดภัยแล้ว คุณอยากทำอะไรก็ตามใจคุณเลย ต่อให้คุณจะไปหาราเชนก็ได้”
“ฉันอยากไปหาโสธร”
เทียบกับราเชนแล้ว นรมนเป็นห่วงโสธรมากกว่า
ตั้งแต่หลังจากประเทศFปิดประเทศ ก็ไม่มีข่าวคราวของโสธรเล็ดลอดออกมาเลย อีกอย่างเขาติดตามอยู่ข้างกายของกล้าณรงค์ กล้าณรงค์เป็นคนหน้าเนื้อใจเสือเจ้าเล่ห์เกินไป ก็ไม่รู้ว่าโสธรโดนจับได้หรือเปล่า แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
“ได้ ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณ”
บุริศร์กลับรับปากเธออย่างง่ายดาย
ชัญญาแค่ฟังเท่านั้น ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ชื่อของคนพวกนี้เธอไม่คุ้นเคยเลย ส่วนคนที่เธอคุ้นเคยกลับไม่ได้อยู่ที่นี่
“คุณอารองทวีทรัพย์ธาดายังสบายดีไหม? พวกเธอช่วยเขากลับมาแล้วใช่ไหม?”
เดิมทีคิดว่าชีวิตนี้ตนเองคงไม่ถามเรื่องที่เกี่ยวกับบุญทิวาอีกแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังอดไม่ได้
นรมนมองชัญญา นึกถึงเรื่องทั้งหมดที่บุริศร์บอกตนเอง พูดขึ้น: “คุณอารองของฉันกลับไปก่อนที่พวกเราจะมาแล้วค่ะ โดนรับตัวไปที่เมืองหลวงแล้ว หลายปีมานี้เขาโดนสมชัยคุมขังเอาไว้ตลอด สถานการณ์แย่มาก”
“คุณอารองของเธอ? บุญทิวาเป็นคุณอารองของเธอ?”
ชัญญาเบิกตาโพลงทันที ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
นรมนกับบุริศร์ถึงพบว่าพวกเขาไม่ได้พูดถึงตัวตนของนรมนกับชัญญาเลย
“ค่ะ ฉันเป็นลูกของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ชินทรเป็นพ่อของฉัน คิมเป็นแม่ของฉันค่ะ ตั้งแต่เล็กโดนอุ้มผิดไป จึงเติบโตอยู่ในตระกูลธนาศักดิ์ธน ก็เลยนามสกุลธนาศักดิ์ธนค่ะ”
นรมนเล่าคร่าวๆ ส่วนพ่อแม่ของตระกูลธนาศักดิ์ธนตอนนี้เธอไม่อยากพูดถึงอีกแล้ว จะได้ไม่ต้องนึกถึงความเจ็บปวดอีก ถือโอกาสบอกว่าอุ้มผิดไปเลยดีกว่า
คำพูดของเธอแม้จะย่อออกมาสั้นๆ แต่เป็นระเบียบชัดเจน ครู่เดียวชัญญาก็เข้าใจแล้ว
“ตอนที่ชินทรสละชีวิตยังไม่ได้แต่งงาน ไม่นึกว่าเขาจะมีลูกกับลูกสาวของคุณท่านตนุวรด้วย แล้วก็ไม่นึกว่าฉันจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ ดูแล้วหลายปีมานี้ฉันคงตกข่าวจากทุกคนแล้วจริงๆ”
ชัญญาฝืนยิ้ม เป็นความเจ็บปวดเสียใจที่ไม่เคยมีใครเคยสัมผัส
นรมนก็เศร้าใจ แม้จะไม่รู้ถึงความรักความแค้นของผู้อาวุโสในวงศ์ตระกูล แต่เห็นสภาพในตอนนี้ของคุณอารองที่ทรุดลงอย่างไม่มีทางหายเป็นปกติ ไหนจะเห็นชัญญาในตอนนี้อีก นรมนไม่รู้จริงๆว่าตนเองควรพูดอะไรดี
เธอตบๆไปที่มือของชัญญาเบาๆ พูดขึ้น: “ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นค่ะ”
“ใช่ ต้องดีขึ้น แล้วธนเดชล่ะ?”
“ตายแล้วค่ะ”
คงไม่ได้คิดว่าจุดจบจะเป็นอย่างนี้ ชัญญาตะลึงงันไปทันที ในแววตาปรากฏอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างออกมาชั่วครู่ แล้วก็กลับสงบเหมือนเดิม
ไม่มีใครพูดอะไรแล้ว
รถขับเข้าไปในเขตเมือง
มีด่านตรวจอยู่ตลอดทาง ในใจของนรมนกับบุริศร์ก็ประหม่าขึ้นมา
แต่เฉียงกลับขับรถไปด้วยสีหน้าเหมือนเดิม
“หยุดก่อน ตรวจสอบตามปกติ”
รถของเฉียงโดนคนขวางเอาไว้
“ฉันเป็นลูกน้องขององค์ชายสาม ออกนอกเมืองไปทำธุระเล็กน้อย ตาที่ไม่มีแววของพวกนายบอดหรือไง มองใบอนุญาตผ่านเข้าออกหน้ารถของฉันไม่ชัดใช่ไหม?”
น้ำเสียงของเฉียงเคร่งขรึมดุดันมาก
อีกฝ่ายมองรถของเฉียงแล้ว ใบหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที แล้วเคลื่อนไปที่ด้านข้าง พูดขึ้น: “ขอโทษด้วยพี่ชาย ตรวจตามหน้าที่ครับ ขออภัยด้วย เชิญครับ”
เฉียงไม่แม้แต่จะสบตาอีกฝ่าย เหยียบคันเร่งออกไปทันที
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามขึ้น: “องค์ชายสาม? นายไม่ใช่คนของหงส์เหรอ?”
“หัวหน้าหน่วยบอกว่าพวกผมเป็นลูกน้องเธอไม่ได้ครับ ไม่งั้นถ้าเธอเกิดเรื่องจะโดนกำจัดทิ้งทั้งหมด จึงแบ่งแยกเหล่าสหายอย่างพวกผมไปให้องค์ชายแต่ละคน อย่างนี้พอจะมีแนวโน้มตรวจสอบได้ทั่วทั้งวัง แล้วก็ทำให้พวกผมปลอดภัยมากขึ้นเล็กน้อย ต่อให้ตรวจสอบออกมาได้คนหนึ่ง ก็จะไม่เดือดร้อนไปถึงคนอื่นๆด้วยน่ะครับ”
ยิ่งฟังเฉียงพูดอย่างนี้ นรมนก็ยิ่งชื่นชมในตัวหงส์
“หัวหน้าหน่วยของพวกนายยอดเยี่ยมจริงๆ”
“แน่นอนครับ”
เฉียงไม่ปกปิดความศรัทธาที่มีต่อหงส์เลย
บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร แค่เห็นแววตาที่ตื่นเต้นของนรมนก็อมยิ้มเล็กน้อย
ตอนที่รถขับเข้ามาถึงใจกลางเมือง ถนนสองข้างทางเต็มไปด้วยทหารยืนรักษาการณ์ บรรยากาศในตอนนี้ค่อนข้างตึงเครียด
นรมนพิงอยู่ในอ้อมอกของบุริศร์ ถามขึ้น: “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าที่นี่มันน่าอึดอัดขนาดนี้?”
“น่าจะเกิดเรื่องอะไรแล้ว?”
บุริศร์ความรู้สึกไวมาตั้งแต่เกิด แววตาเปล่งประกายออกมาเล็กน้อย
ชัญญาขมวดคิ้ว พูดขึ้นเบาๆ: “ตอนนี้ที่นี่น่าจะเป็นพื้นที่คุมเข้ม พวกเราคงยากที่จะเข้าไปได้”
เฉียงจอดรถไว้ในโรงแรมที่อยู่ด้านข้าง แล้วให้บุริศร์นรมนกับชัญญาลงจากรถ เข้าไปในโรงแรมทันที
เฉียงใช้บัตรประจำตัวของคนอื่นเช็คอินกับทางโรงแรม
หลังจากพวกบุริศร์มาถึงห้องพิเศษแล้ว เฉียงให้พวกเขาอาบน้ำกันสักครู่ แล้วเตรียมเสื้อผ้ามาให้พวกเขา
หลังจากชัญญาอาบน้ำเสร็จออกมา มองผมยาวๆของตนเองขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วจึงเข้าไปในห้องน้ำ หยิบกรรไกรออกมาตัดผมของตนเอง
นรมนค่อนข้างแปลกใจ แต่ทว่าก็ไม่ได้ห้าม กลับเดินเข้าไปใกล้ๆถามขึ้น: “ต้องการให้ฉันช่วยเหลือไหมคะ?”
“อื้ม รบกวนเธอหน่อยนะ”
ตั้งแต่หลังจากที่รู้ว่านรมนเป็นหลานสาวของบุญทิวา ท่าทีของชัญญาที่มีต่อนรมนก็ดีเหลือเกิน แล้วยังสนิทใจมากด้วย
นรมนเดินเข้าไปช่วย ตัดผมยาวๆของชัญญาจนกลายเป็นผมสั้น นอกจากนั้นยังตัดแต่งให้เป็นทรงผมที่ดูดีอีกต่างหาก
มองตนเองที่ค่อนข้างคล่องแคล่วในกระจก ชัญญาราวกับเห็นตนเองตอนที่ยังสาวๆ เสียดายที่ผมของเธอมีผมหงอกเล็กน้อยแล้ว เป็นการเตือนเธอว่าวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ถ้าไม่มีสมชัยที่คุมขังตนเองมานานขนาดนี้ บางทีเธออาจจะได้ทำเรื่องอีกมากมาย และไม่ได้ปล่อยให้วันเวลาผ่านไปอย่างสูญเปล่า
ตอนนี้ไม่มีความรัก ไม่มีการงาน พลาดไปหมดทุกอย่างแล้ว
ความเดือดดาลปะทุเข้ามาที่หน้าอกของชัญญาโดยปริยาย
มองรถติดๆที่ด้านนอก คิดถึงว่าที่นี่เป็นกองบัญชาการของสมชัย ชัญญาจึงอยากจะเผา ระเบิดที่นี่ให้หมดเลยจริงๆ แต่เธอก็รู้ว่าตนเองทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น เรื่องนี้ตนเองวู่วามไม่ได้
นรมนไม่รู้ถึงความซับซ้อนในใจของชัญญาตอนนี้ หลังจากเห็นเธอตัดผมสั้นจึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น: “คุณน้าธนเกียรติโกศล คุณสวยจริงๆค่ะ”
ตามที่พูดกันว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องปรับตัวตามสามีให้ได้ บุริศร์เรียกเธอว่าคุณน้าธนเกียรติโกศล นรมนจึงเรียกตามไปด้วย
ชัญญากลับไม่ได้คิดจุกจิกกับคำเรียกอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังพอใจกับคำชมของนรมนมากด้วย จึงอมยิ้มไปโดยปริยาย
จริงๆแล้วเธอถือว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง ใบหน้ายิ้มแย้มก็น่ามองเหลือเกิน แต่ความงดงามระหว่างเธอกับนงลักษณ์มันสวยคนละแบบ บอกไม่ได้ว่าใครสวยกว่ากัน บอกได้แค่ต่างก็มีจุดเด่นกันทั้งคู่
“แก่แล้ว จะสวยยังไงก็คงย้อนกลับไปไม่ได้แล้วล่ะ”
ในคำพูดของชัญญาเต็มไปด้วยความเสียใจ เพียงแต่ความเสียใจอย่างนี้นรมนก็จนปัญญาที่จะช่วยปลอบใจเธอ
บุริศร์เคาะประตูอยู่ด้านนอก พูดขึ้น: “คุณน้า นรมน เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหรือยัง?”
“จะออกไปเดี๋ยวนี้”
นรมนเห็นชัญญาจัดการตนเองเรียบร้อยแล้ว ถึงได้ออกไปข้างนอกกับเธอ
เฉียงก็มาแล้ว บุริศร์นั่งอยู่ตรงนั้น สวมชุดทักซิโด้สีดำท่าทางเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัด
“เฮียบุริศร์ พี่สะใภ้ พระราชามีรูปของพวกคุณ คนส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จึงรู้จักพวกคุณกันทั้งนั้น ถ้าพวกคุณอยากจะเข้าไป ผมจึงต้องให้พวกคุณแต่งหน้า”
คำพูดของเฉียงทำให้นรมนค่อนข้างแปลกใจ
“รู้จักพวกเรากันทั้งนั้น? งั้นตอนที่พวกเราเข้ามาคนในอาคารไม่เห็นพวกเรากันหมดแล้วเหรอ?”
“ไม่เป็นไรครับ คนกันเอง นี่เป็นโรงแรมของพวกเราเองครับ”
เฉียงพูดอย่างมั่นใจ
บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าเขารู้อยู่แล้ว
ยังไงนรมนก็คิดไม่ถึงว่าที่นี่จะยังมีอสังหาริมทรัพย์ของตนเองอยู่อีก จึงอดไม่ได้ที่จะมองบุริศร์พูดขึ้น: “สามี คุณยอดเยี่ยมเกินไปแล้วนะ?”
“ไม่ใช่ผมที่ยอดเยี่ยมหรอก วินเซนต์จัดการต่างหาก”
บุริศร์กลับไม่ถือว่าเป็นความดีความชอบของตนเอง แต่นรมนก็รู้ ที่วินเซนต์ทุ่มเทเพื่อบุริศร์เช่นนี้ เป็นเพราะปีนั้นบุริศร์มีบุญคุณกับเขา
เป็นผู้ชายที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อมิตรภาพอย่างแท้จริง
“ก็ไม่รู้ว่าเขากับน้องภรรยาเขาตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว”
คำพูดของนรมนกลับทำให้บุริศร์ยิ้มเล็กน้อย
“คุณสนใจเยอะแยะจังเลยนะ คุณโทรไปถามไหมล่ะ?”
“ช่างเถอะ ฉันไม่สนิทกับเขา”
นรมนแลบลิ้น หน้าตาทะเล้นจริงๆ
ชัญญามองทั้งสองคน จึงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนที่ตนเองยังสาว เวลานั้นเธอก็เคยเพ้อฝันถึงความรัก เคยเพ้อฝันว่าสามีของตนเองจะหน้าตาเป็นยังไง จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาจนถึงอายุสี่สิบแล้ว เธอไม่กล้าคิดเรื่องพวกนี้อีกแล้ว
คนเราน่ะ อย่างที่รู้ๆไม่ควรปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
บุริศร์รู้สึกได้ถึงความเศร้าของชัญญา จึงดึงนรมนไปข้างๆตนเอง พูดขึ้น: “รีบไปจัดการเถอะ เฉียงพาคนมาแต่งหน้าให้คุณ”
“อื้ม”
นรมนก็ไม่ได้ซักไซ้ นั่งลงไปทันที
ช่างแต่งหน้าเดินเข้าไป หลังจากทักทายพวกบุริศร์แล้วก็เริ่มแต่งหน้าให้นรมนกับชัญญาเลย
ผู้หญิงสองคนใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่หลังจากแต่งเสร็จ นรมนรู้สึกว่าตนเองแทบจะจำตนเองไม่ได้แล้ว
ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกขนาดนี้ ต่อให้เป็นเธอเองก็ไม่ค่อยกล้ายอมรับเท่าไหร่
“ทักษะการแต่งหน้ายอดเยี่ยมสุดๆเลย”
นรมนพูดออกมาอย่างตกตะลึง ชัญญาก็ประหลาดใจ
ด้วยฝีมือของช่างแต่งหน้าเดิมทีใบหน้าที่มีอายุก็เปลี่ยนแปลงไปเลย ตอนนี้ยืนอยู่กับนรมน ยังรู้สึกเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ
“ใช้ได้เลยนะ”
ชัญญาค่อนข้างพึงพอใจ
นรมนหันตัวไปตามหาบุริศร์ ตอนที่อยากลองดูว่าบุริศร์จะจำตนเองได้ไหม ก็เห็นบุริศร์ที่เหมือนอ้วนขึ้นมากๆ โดยเฉพาะหน้าท้อง รู้สึกเหมือนกับกำลังท้องอยู่เลย ส่วนสูทบนร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นไซส์ที่ใหญ่ขึ้น
แค่มองไป ก็คือชายวัยกลางคนที่อ้วนมากๆนี่เอง
นรมนตะลึงไปในทันที
“คุณๆๆ ทำไมคุณถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว?”
ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะทำให้ตนเองอัปลักษณ์เช่นนี้ น่าเกลียดจนนรมนปรับตัวไม่ทันเลย