แค้นรักสามีตัวร้าย – บทที่ 1344 ใช้ได้เลยนะ

บทที่ 1344 ใช้ได้เลยนะ

“ไม่เพียงแค่เข้าเขตเมืองเท่านั้น หัวหน้าหน่วยบอกให้ผมพาพวกคุณเข้าวังเลยครับ”

คำพูดของเฉียงทำให้นรมนตกใจ ชัญญาก็ตะลึงไปด้วย

“เข้าวัง?”

“ครับ หัวหน้าหน่วยบอกว่าที่ที่อันตรายที่สุดก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด นี่เรียกว่าความมืดใต้แสงไฟ ยังไงพระราชาก็คงคิดไม่ถึงว่าพวกคุณจะซ่อนกันอยู่ในวัง”

ไม่ว่าจะยังไงเฉียงก็ศรัทธาในตัวของหงส์เสมอ มองออกว่าชื่อเสียงบารมีของหงส์สูงมาก

นึกถึงคนๆนี้ที่เป็นน้องสาวของราเชนลูกพี่ลูกน้องเธอ นรมนก็สงสัยขึ้นบ้างแล้ว

บุริศร์จับมือนรมนเอาไว้ พูดเบาๆ: “อีกเดี๋ยวอย่าขี้สงสัยเกินไป เข้าใจไหม?”

“อื้อ”

นรมนพยักหน้า

บุริศร์ก็เหมือนกับพยาธิที่อยู่ในห้องของเธอ เธอกำลังคิดอะไรอยู่เขาก็รู้แล้ว น่าเบื่อชะมัดเลย

เห็นนรมนไม่คึกคักเหมือนเมื่อครู่ บุริศร์จึงยิ้มพูดขึ้น: “รอให้ผ่านด่านตรวจความปลอดภัยแล้ว คุณอยากทำอะไรก็ตามใจคุณเลย ต่อให้คุณจะไปหาราเชนก็ได้”

“ฉันอยากไปหาโสธร”

เทียบกับราเชนแล้ว นรมนเป็นห่วงโสธรมากกว่า

ตั้งแต่หลังจากประเทศFปิดประเทศ ก็ไม่มีข่าวคราวของโสธรเล็ดลอดออกมาเลย อีกอย่างเขาติดตามอยู่ข้างกายของกล้าณรงค์ กล้าณรงค์เป็นคนหน้าเนื้อใจเสือเจ้าเล่ห์เกินไป ก็ไม่รู้ว่าโสธรโดนจับได้หรือเปล่า แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

“ได้ ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณ”

บุริศร์กลับรับปากเธออย่างง่ายดาย

ชัญญาแค่ฟังเท่านั้น ไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ชื่อของคนพวกนี้เธอไม่คุ้นเคยเลย ส่วนคนที่เธอคุ้นเคยกลับไม่ได้อยู่ที่นี่

“คุณอารองทวีทรัพย์ธาดายังสบายดีไหม? พวกเธอช่วยเขากลับมาแล้วใช่ไหม?”

เดิมทีคิดว่าชีวิตนี้ตนเองคงไม่ถามเรื่องที่เกี่ยวกับบุญทิวาอีกแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังอดไม่ได้

นรมนมองชัญญา นึกถึงเรื่องทั้งหมดที่บุริศร์บอกตนเอง พูดขึ้น: “คุณอารองของฉันกลับไปก่อนที่พวกเราจะมาแล้วค่ะ โดนรับตัวไปที่เมืองหลวงแล้ว หลายปีมานี้เขาโดนสมชัยคุมขังเอาไว้ตลอด สถานการณ์แย่มาก”

“คุณอารองของเธอ? บุญทิวาเป็นคุณอารองของเธอ?”

ชัญญาเบิกตาโพลงทันที ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด

นรมนกับบุริศร์ถึงพบว่าพวกเขาไม่ได้พูดถึงตัวตนของนรมนกับชัญญาเลย

“ค่ะ ฉันเป็นลูกของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ชินทรเป็นพ่อของฉัน คิมเป็นแม่ของฉันค่ะ ตั้งแต่เล็กโดนอุ้มผิดไป จึงเติบโตอยู่ในตระกูลธนาศักดิ์ธน ก็เลยนามสกุลธนาศักดิ์ธนค่ะ”

นรมนเล่าคร่าวๆ ส่วนพ่อแม่ของตระกูลธนาศักดิ์ธนตอนนี้เธอไม่อยากพูดถึงอีกแล้ว จะได้ไม่ต้องนึกถึงความเจ็บปวดอีก ถือโอกาสบอกว่าอุ้มผิดไปเลยดีกว่า

คำพูดของเธอแม้จะย่อออกมาสั้นๆ แต่เป็นระเบียบชัดเจน ครู่เดียวชัญญาก็เข้าใจแล้ว

“ตอนที่ชินทรสละชีวิตยังไม่ได้แต่งงาน ไม่นึกว่าเขาจะมีลูกกับลูกสาวของคุณท่านตนุวรด้วย แล้วก็ไม่นึกว่าฉันจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ ดูแล้วหลายปีมานี้ฉันคงตกข่าวจากทุกคนแล้วจริงๆ”

ชัญญาฝืนยิ้ม เป็นความเจ็บปวดเสียใจที่ไม่เคยมีใครเคยสัมผัส

นรมนก็เศร้าใจ แม้จะไม่รู้ถึงความรักความแค้นของผู้อาวุโสในวงศ์ตระกูล แต่เห็นสภาพในตอนนี้ของคุณอารองที่ทรุดลงอย่างไม่มีทางหายเป็นปกติ ไหนจะเห็นชัญญาในตอนนี้อีก นรมนไม่รู้จริงๆว่าตนเองควรพูดอะไรดี

เธอตบๆไปที่มือของชัญญาเบาๆ พูดขึ้น: “ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นค่ะ”

“ใช่ ต้องดีขึ้น แล้วธนเดชล่ะ?”

“ตายแล้วค่ะ”

คงไม่ได้คิดว่าจุดจบจะเป็นอย่างนี้ ชัญญาตะลึงงันไปทันที ในแววตาปรากฏอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างออกมาชั่วครู่ แล้วก็กลับสงบเหมือนเดิม

ไม่มีใครพูดอะไรแล้ว

รถขับเข้าไปในเขตเมือง

มีด่านตรวจอยู่ตลอดทาง ในใจของนรมนกับบุริศร์ก็ประหม่าขึ้นมา

แต่เฉียงกลับขับรถไปด้วยสีหน้าเหมือนเดิม

“หยุดก่อน ตรวจสอบตามปกติ”

รถของเฉียงโดนคนขวางเอาไว้

“ฉันเป็นลูกน้องขององค์ชายสาม ออกนอกเมืองไปทำธุระเล็กน้อย ตาที่ไม่มีแววของพวกนายบอดหรือไง มองใบอนุญาตผ่านเข้าออกหน้ารถของฉันไม่ชัดใช่ไหม?”

น้ำเสียงของเฉียงเคร่งขรึมดุดันมาก

อีกฝ่ายมองรถของเฉียงแล้ว ใบหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที แล้วเคลื่อนไปที่ด้านข้าง พูดขึ้น: “ขอโทษด้วยพี่ชาย ตรวจตามหน้าที่ครับ ขออภัยด้วย เชิญครับ”

เฉียงไม่แม้แต่จะสบตาอีกฝ่าย เหยียบคันเร่งออกไปทันที

บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามขึ้น: “องค์ชายสาม? นายไม่ใช่คนของหงส์เหรอ?”

“หัวหน้าหน่วยบอกว่าพวกผมเป็นลูกน้องเธอไม่ได้ครับ ไม่งั้นถ้าเธอเกิดเรื่องจะโดนกำจัดทิ้งทั้งหมด จึงแบ่งแยกเหล่าสหายอย่างพวกผมไปให้องค์ชายแต่ละคน อย่างนี้พอจะมีแนวโน้มตรวจสอบได้ทั่วทั้งวัง แล้วก็ทำให้พวกผมปลอดภัยมากขึ้นเล็กน้อย ต่อให้ตรวจสอบออกมาได้คนหนึ่ง ก็จะไม่เดือดร้อนไปถึงคนอื่นๆด้วยน่ะครับ”

ยิ่งฟังเฉียงพูดอย่างนี้ นรมนก็ยิ่งชื่นชมในตัวหงส์

“หัวหน้าหน่วยของพวกนายยอดเยี่ยมจริงๆ”

“แน่นอนครับ”

เฉียงไม่ปกปิดความศรัทธาที่มีต่อหงส์เลย

บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร แค่เห็นแววตาที่ตื่นเต้นของนรมนก็อมยิ้มเล็กน้อย

ตอนที่รถขับเข้ามาถึงใจกลางเมือง ถนนสองข้างทางเต็มไปด้วยทหารยืนรักษาการณ์ บรรยากาศในตอนนี้ค่อนข้างตึงเครียด

นรมนพิงอยู่ในอ้อมอกของบุริศร์ ถามขึ้น: “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าที่นี่มันน่าอึดอัดขนาดนี้?”

“น่าจะเกิดเรื่องอะไรแล้ว?”

บุริศร์ความรู้สึกไวมาตั้งแต่เกิด แววตาเปล่งประกายออกมาเล็กน้อย

ชัญญาขมวดคิ้ว พูดขึ้นเบาๆ: “ตอนนี้ที่นี่น่าจะเป็นพื้นที่คุมเข้ม พวกเราคงยากที่จะเข้าไปได้”

เฉียงจอดรถไว้ในโรงแรมที่อยู่ด้านข้าง แล้วให้บุริศร์นรมนกับชัญญาลงจากรถ เข้าไปในโรงแรมทันที

เฉียงใช้บัตรประจำตัวของคนอื่นเช็คอินกับทางโรงแรม

หลังจากพวกบุริศร์มาถึงห้องพิเศษแล้ว เฉียงให้พวกเขาอาบน้ำกันสักครู่ แล้วเตรียมเสื้อผ้ามาให้พวกเขา

หลังจากชัญญาอาบน้ำเสร็จออกมา มองผมยาวๆของตนเองขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วจึงเข้าไปในห้องน้ำ หยิบกรรไกรออกมาตัดผมของตนเอง

นรมนค่อนข้างแปลกใจ แต่ทว่าก็ไม่ได้ห้าม กลับเดินเข้าไปใกล้ๆถามขึ้น: “ต้องการให้ฉันช่วยเหลือไหมคะ?”

“อื้ม รบกวนเธอหน่อยนะ”

ตั้งแต่หลังจากที่รู้ว่านรมนเป็นหลานสาวของบุญทิวา ท่าทีของชัญญาที่มีต่อนรมนก็ดีเหลือเกิน แล้วยังสนิทใจมากด้วย

นรมนเดินเข้าไปช่วย ตัดผมยาวๆของชัญญาจนกลายเป็นผมสั้น นอกจากนั้นยังตัดแต่งให้เป็นทรงผมที่ดูดีอีกต่างหาก

มองตนเองที่ค่อนข้างคล่องแคล่วในกระจก ชัญญาราวกับเห็นตนเองตอนที่ยังสาวๆ เสียดายที่ผมของเธอมีผมหงอกเล็กน้อยแล้ว เป็นการเตือนเธอว่าวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ถ้าไม่มีสมชัยที่คุมขังตนเองมานานขนาดนี้ บางทีเธออาจจะได้ทำเรื่องอีกมากมาย และไม่ได้ปล่อยให้วันเวลาผ่านไปอย่างสูญเปล่า

ตอนนี้ไม่มีความรัก ไม่มีการงาน พลาดไปหมดทุกอย่างแล้ว

ความเดือดดาลปะทุเข้ามาที่หน้าอกของชัญญาโดยปริยาย

มองรถติดๆที่ด้านนอก คิดถึงว่าที่นี่เป็นกองบัญชาการของสมชัย ชัญญาจึงอยากจะเผา ระเบิดที่นี่ให้หมดเลยจริงๆ แต่เธอก็รู้ว่าตนเองทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น เรื่องนี้ตนเองวู่วามไม่ได้

นรมนไม่รู้ถึงความซับซ้อนในใจของชัญญาตอนนี้ หลังจากเห็นเธอตัดผมสั้นจึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น: “คุณน้าธนเกียรติโกศล คุณสวยจริงๆค่ะ”

ตามที่พูดกันว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องปรับตัวตามสามีให้ได้ บุริศร์เรียกเธอว่าคุณน้าธนเกียรติโกศล นรมนจึงเรียกตามไปด้วย

ชัญญากลับไม่ได้คิดจุกจิกกับคำเรียกอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังพอใจกับคำชมของนรมนมากด้วย จึงอมยิ้มไปโดยปริยาย

จริงๆแล้วเธอถือว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง ใบหน้ายิ้มแย้มก็น่ามองเหลือเกิน แต่ความงดงามระหว่างเธอกับนงลักษณ์มันสวยคนละแบบ บอกไม่ได้ว่าใครสวยกว่ากัน บอกได้แค่ต่างก็มีจุดเด่นกันทั้งคู่

“แก่แล้ว จะสวยยังไงก็คงย้อนกลับไปไม่ได้แล้วล่ะ”

ในคำพูดของชัญญาเต็มไปด้วยความเสียใจ เพียงแต่ความเสียใจอย่างนี้นรมนก็จนปัญญาที่จะช่วยปลอบใจเธอ

บุริศร์เคาะประตูอยู่ด้านนอก พูดขึ้น: “คุณน้า นรมน เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหรือยัง?”

“จะออกไปเดี๋ยวนี้”

นรมนเห็นชัญญาจัดการตนเองเรียบร้อยแล้ว ถึงได้ออกไปข้างนอกกับเธอ

เฉียงก็มาแล้ว บุริศร์นั่งอยู่ตรงนั้น สวมชุดทักซิโด้สีดำท่าทางเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัด

“เฮียบุริศร์ พี่สะใภ้ พระราชามีรูปของพวกคุณ คนส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จึงรู้จักพวกคุณกันทั้งนั้น ถ้าพวกคุณอยากจะเข้าไป ผมจึงต้องให้พวกคุณแต่งหน้า”

คำพูดของเฉียงทำให้นรมนค่อนข้างแปลกใจ

“รู้จักพวกเรากันทั้งนั้น? งั้นตอนที่พวกเราเข้ามาคนในอาคารไม่เห็นพวกเรากันหมดแล้วเหรอ?”

“ไม่เป็นไรครับ คนกันเอง นี่เป็นโรงแรมของพวกเราเองครับ”

เฉียงพูดอย่างมั่นใจ

บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าเขารู้อยู่แล้ว

ยังไงนรมนก็คิดไม่ถึงว่าที่นี่จะยังมีอสังหาริมทรัพย์ของตนเองอยู่อีก จึงอดไม่ได้ที่จะมองบุริศร์พูดขึ้น: “สามี คุณยอดเยี่ยมเกินไปแล้วนะ?”

“ไม่ใช่ผมที่ยอดเยี่ยมหรอก วินเซนต์จัดการต่างหาก”

บุริศร์กลับไม่ถือว่าเป็นความดีความชอบของตนเอง แต่นรมนก็รู้ ที่วินเซนต์ทุ่มเทเพื่อบุริศร์เช่นนี้ เป็นเพราะปีนั้นบุริศร์มีบุญคุณกับเขา

เป็นผู้ชายที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อมิตรภาพอย่างแท้จริง

“ก็ไม่รู้ว่าเขากับน้องภรรยาเขาตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว”

คำพูดของนรมนกลับทำให้บุริศร์ยิ้มเล็กน้อย

“คุณสนใจเยอะแยะจังเลยนะ คุณโทรไปถามไหมล่ะ?”

“ช่างเถอะ ฉันไม่สนิทกับเขา”

นรมนแลบลิ้น หน้าตาทะเล้นจริงๆ

ชัญญามองทั้งสองคน จึงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนที่ตนเองยังสาว เวลานั้นเธอก็เคยเพ้อฝันถึงความรัก เคยเพ้อฝันว่าสามีของตนเองจะหน้าตาเป็นยังไง จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาจนถึงอายุสี่สิบแล้ว เธอไม่กล้าคิดเรื่องพวกนี้อีกแล้ว

คนเราน่ะ อย่างที่รู้ๆไม่ควรปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์

บุริศร์รู้สึกได้ถึงความเศร้าของชัญญา จึงดึงนรมนไปข้างๆตนเอง พูดขึ้น: “รีบไปจัดการเถอะ เฉียงพาคนมาแต่งหน้าให้คุณ”

“อื้ม”

นรมนก็ไม่ได้ซักไซ้ นั่งลงไปทันที

ช่างแต่งหน้าเดินเข้าไป หลังจากทักทายพวกบุริศร์แล้วก็เริ่มแต่งหน้าให้นรมนกับชัญญาเลย

ผู้หญิงสองคนใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่หลังจากแต่งเสร็จ นรมนรู้สึกว่าตนเองแทบจะจำตนเองไม่ได้แล้ว

ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกขนาดนี้ ต่อให้เป็นเธอเองก็ไม่ค่อยกล้ายอมรับเท่าไหร่

“ทักษะการแต่งหน้ายอดเยี่ยมสุดๆเลย”

นรมนพูดออกมาอย่างตกตะลึง ชัญญาก็ประหลาดใจ

ด้วยฝีมือของช่างแต่งหน้าเดิมทีใบหน้าที่มีอายุก็เปลี่ยนแปลงไปเลย ตอนนี้ยืนอยู่กับนรมน ยังรู้สึกเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ

“ใช้ได้เลยนะ”

ชัญญาค่อนข้างพึงพอใจ

นรมนหันตัวไปตามหาบุริศร์ ตอนที่อยากลองดูว่าบุริศร์จะจำตนเองได้ไหม ก็เห็นบุริศร์ที่เหมือนอ้วนขึ้นมากๆ โดยเฉพาะหน้าท้อง รู้สึกเหมือนกับกำลังท้องอยู่เลย ส่วนสูทบนร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นไซส์ที่ใหญ่ขึ้น

แค่มองไป ก็คือชายวัยกลางคนที่อ้วนมากๆนี่เอง

นรมนตะลึงไปในทันที

“คุณๆๆ ทำไมคุณถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว?”

ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะทำให้ตนเองอัปลักษณ์เช่นนี้ น่าเกลียดจนนรมนปรับตัวไม่ทันเลย

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท