ตาหมาบ้านี่!
อยากตายนักใช่ไหม?
เมื่อกี้ยังแทะเล็มเธอจนปากเกือบแตก พอมาตอนนี้กลับทำท่าทางรังเกียจกัน ตกลงคือเธอไปยั่วโมโหเขาเหรอ?
“ไอ้บ้ากานต์ เก่งนักนายก็ลองพูดเหมือนเมื่อกี้อีกสิ!”
ไอราถลกแขนเสื้อขึ้นอย่างโมโห ท่าทางราวกับว่าถ้ายังกล้าพูดเธอเล่นถึงตายแน่
แต่กานต์กลับหลับตาลง รับรู้ได้ถึงแรงเต้นของหัวใจเหมือนกลองกระหน่ำกับความพลุ่งพล่านสุดขีดของเลือดในร่างกาย ทว่ากลับพูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า “ฉันไม่ได้ยิน และไม่รู้ด้วยว่าเธอกำลังพูดอะไร เพราะฉะนั้นหยุดได้แล้ว รีบฝังเข็มให้ฉันซะ”
“เดี๋ยวแม่งฝังให้ขาเดินไม่ได้เลย!”
ไอราชกหมัดใส่เขาอย่างโมโห แต่ว่าสำหรับกานต์แล้วรู้สึกเหมือนแรงมดต่อยพอจักจี้เท่านั้น ถ้าลองสังเกตดูดีๆก็จะเห็นมุมปากของกานต์กระตุกขึ้นเป็นมุมโค้ง อย่างอารมณ์ดีและสะใจ
เมื่อเห็นกานต์แกล้งตาย ไอราก็เดินกระฟัดกระเฟียดไปหยิบเข็ม ชั่วขณะนั้นพลันหัวเราะฮิๆออกอย่างชั่วร้าย จากนั้นก็แทงพรวดเข้าไปบริเวณเส้นประสาทของกานต์ เจ็บจนกานต์ต้องเบิกตาโพลง หันไปมองดวงตาที่ฉายแววประสบความสำเร็จคู่นั้นของไอราอย่างทำตัวไม่ถูก
เธอมีแววตาแบบนั้นได้ยังไงกันนะ
ไอราหน้าตาดี ข้อนี้กานต์ไม่ปฏิเสธ โดยเฉพาะความวิบวับราวกับเพชรในแววตาของเธอคู่นั้น ทุกๆองศาล้วนเปี่ยมไปด้วยประกายพร่างพราว ชวนให้ลุ่มหลงโดยไม่รู้ตัว
ผู้หญิงคนนี้ช่างร้ายกาจ!
ประโยคนี้แล่นผ่านเข้ามาในหัวของกานต์อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เอ่ยอย่างเนิบนาบว่า “อย่าทำให้ฉันตายล่ะ ถึงตอนนั้นเธอจะเป็นหม้ายเอานะ”
พูดจบก็หลับตาหลับตาลง ราวกับกำลังพักผ่อน
รอยยิ้มของไอราพลันนิ่งค้าง
ตำแหน่งเส้นประสาทที่เธอเพิ่งแทงเข็มลงไปเมื่อกี้สามารถทำให้คนเจ็บจนต้องกระโดดโหยงทุกราย ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนเหรอ? ไม่มีเสียงร้องหวยหวญเลยสักแอะ
เมื่อกี้เขาว่าไงนะ?
อย่าทำให้ตาย?
เดี๋ยวได้เป็นแม่หม้าย?
ตาหมาบ้านี้กินความมั่นเข้าไปเหรอว่าเธอจะขาดเขาไม่ได้?
ไอราหยิบเข็มขึ้นมาแทงลงบนบริเวณตำแหน่งเส้นประสาทของเขาอีกครั้ง แต่ทว่ากลับหยุดเข็มเอาไว้เมื่ออยู่ห่างจากเส้นประสาทประมาณหนึ่งเซ็น ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน
โอเคยอมแล้ว เธอทำไม่ลงจริงๆ! พลาดท่าให้ตาหมาบ้านี่เดิมพันถูกอยู่ได้
ไอราเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน แทงเข็มลงบริเวณเส้นประสาทข้างหูของกานต์อย่างแม่นยำไม่มีพลาด
ความรู้สึกเจ็บจี๊ดชาๆถาโถมเข้ามา อารมณ์มันเหมือนอยากกินไอราแต่กินไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น
กานต์กำมือทั้งสองข้างแน่น ร่างกายแข็งเกร็งเล็กน้อย
“ผ่อนคลาย”
ไอราเอ่ยเสียงนุ่มและอ่อนหวาน ราวกับความหอมหวานนี้ฟุ้งกระจายไปตามอากาศ ทั้งๆที่กานต์ไม่เคยชอบทานของหวาน แต่กระนั้นก็อดที่จะรู้สึกเพลิดเพลิน และผ่อนคลายขึ้นมาไม่ได้
ไม่ทันได้รู้ตัว กานต์ก็หลับไปเสียแล้ว
ไม่บ่อยนักที่เขาจะปล่อยตัวผ่อนคลายไปตามสภาพแวดล้อมรอบๆ คราบใดที่มีคนอยู่ร่างกายของเขาก็จะเกร็งไปหมด เพราะตกอยู่ในสภาวะระวังภัย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นธรรมชาติและผ่อนคลายเมื่อได้อยู่ข้างๆไอรา
ก็จริงอย่างที่เขาเคยพูดเอาไว้ ไอรากับเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานเกินนไป นานจนรู้สึกว่าขาดอีกฝ่ายเหมือนอากาศ เหมือนน้ำที่ขาดไปไม่ได้ แต่กระนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าพิเศษมากมายอะไร
เมื่อไอราได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของกานต์ ลึกในดวงตาก็ทอแววรักใคร่ลึกซึ้ง
ในที่สุดตาหมาบ้าก็เป็นของเธอ
ไม่รู้ว่าทำไม เธอเอาแต่รู้สึกว่านี่คือฝันไม่ใช่ความจริงอยู่ได้
เธอกำลังจะยื่นมือออกไปลูบโครงหน้าของกานต์ แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเวลาหลับกานต์ขี้ระแวงขนาดไหน เธอก็จำต้องละมือกลับมา จากนั้นก็ถอดรองเท้าออกแล้วขึ้นไปนอนข้างๆกานต์
ริมฝีปากของไอราอยู่ใกล้หูของกานต์จนแทบจะชิดเต็มที
ดีจัง
ถ้าเป็นอย่างนี้ไปได้ตลอดคงดี
ไอราใช้นิ้วเกี่ยวนิ้วของกานเอาไว้เบาๆ ชั่วขณะนั้นพลันรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
นี่ถือว่าแทนการเกี่ยวก้อยกันไปจนแก่เฒ่าได้หรือเปล่านะ?
ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น มือเล็กของไอราก็ถูกกานต์กอบกุมเอาไว้แน่นจนแม้แต่น้ำสักหยดเดียวก็เล็ดลอดผ่านไม่ได้
“ฉันทำให้นายตื่นเหรอ?”
ไอราเริ่มรู้สึกผิด
“เงียบ นอนได้แล้ว หรือว่าเธออยากให้ฉันทำอะไร?”
กานต์หรี่ตาลงแล้วหลับพักผ่อนต่อ
คราวนี้ไอราไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว เธอเห็นรอยคล้ำใต้ตาของกานต์ แปลว่าเมื่อคืนคงไม่ได้นอนมาสินะ
ตอนแรกก็ว่าจะนอนเป็นเพื่อนกานต์สักพัก ใครจะไปรู้ว่าตัวไอราเองกลับหลับจริงจังไปซะอย่างงั้น ในตอนที่รู้สึกตัววตื่นขึ้นมาก็ได้กลิ่นหอมๆของอาหาร หอมน่าทานจนไอราต้องดีดผึงลุกขึ้นจากเตียง วิ่งมาที่ครัวด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊า และก็เห็นว่ากานต์ในผ้ากันเปื้อนกำลังยืนทำอาหารอยู่ตรงนั้นจริงๆ เห็นแบบนั้นก็อดที่จะอารมณ์ดีขึ้นมาไม่ได้
พอมีผ้ากันเปื้อนลายเปปป้าพิกผูกไว้บนตัวกานต์แล้วกลับดูน่าขันไม่หยอก
ตอนแรกว่าจะกลั้นไว้ไม่ขำ แต่ไปๆมาๆก็กลั้นไม่อยู่ ไอราพลันหลุดขำพรืดออกมาทันที
กานต์แค่เหลือบมองเธอด้วยหางตา จากนั้นก็พูดอย่างเนิบนาบว่า “ไปล้างมือ มากินข้าว”
“ได้เลย!”
ไอราเองก็ไม่อิดออด รีบวิ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว แล้วเอื้อมมือออกไปหยิบผักชีข้างหลังกานต์แล้วโยนเข้าปากอย่างรวดเร็ว
กานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยพูดอย่างเอือมๆว่า “ไปล้างมือก่อนค่อยมากิน ไม่มีใครแย่งเธอหรอก”
“นายจะไปรู้อะไร กินแบบนี้แหละถึงจะได้รสชาติ”
ไอราพูดจบได้ไม่ทันไรก็พบว่ากานต์จ้องมองมาที่ตัวเอง ประกายในแววตาที่สาดส่องออกมาทำให้เหงื่อเย็นๆผุดขึ้นมาตามแผ่นหลังของเธออย่างไม่มีสาเหตุ
“แหะๆ ฉันไปล้างมือก่อนก็ได้ ฉันจะไปล้างเดี๋ยวนี้โอเคไหม”
“ถ้าล้างไม่สะอาดก็ห้ามมาร่วมโต๊ะกับฉัน”
คำพูดของกานต์พลันทำให้ไอราเริ่มฮึดฮัด
“ทำไมนายเป็นอย่างนี้เนี่ย?”
“ไม่พอใจก็สั่งมากินเอาเอง”
น้ำเสียงไร้ซึ่งความโอนอ่อนของกานต์ ทำให้ไอราอัดอั้น จึงแอบแลบลิ้นปลิ้นตาลับหลังเขา และในวินาทีที่กานต์หันมาก็ก้าวถอยหลังวิ่งออกไป ท่าทางแบบนั้นเหมือนกระต่ายไม่มีผิด
เธอไม่ทันได้เห็นความเอ็นดูในแววตาและรอยยิ้มที่ยกขึ้นบนมุมปากของกานต์หลังจากที่เขาหันมาเลยสักนิด
เมื่อวิ่งมาถึงห้องน้ำไอราก็ถอนหายใจออกมา
แปลกจัง!
ตาหมาบ้านั่นเป็นแฟนเธอนะ แล้วเธอยังจะกลัวอะไรอยู่อีก?
เมื่อก่อนกลัวว่าจะจีบไม่ติด ตอนนี้จีบติดแล้วแต่ทำไมยังกลัวเขาอยู่ล่ะ?
ไอรารู้สึกว่าตัวเองจะขี้ขลาดเกินไปแล้ว
อีกเดี๋ยวพอออกไปเธอต้องกอบกู้หน้าสักหน่อยแล้ว
คิดได้แบบนี้ ไอราก็ล้างมืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเธอก็พลันชะงักนิ่ง
เมื่อกี้กานต์เหมือนจะไม่ได้หันกลับมาอ่านปากของเธอ แต่ทำไมถึงต่อบทสนทนากับเธอได้ลื่นไหลแบบนี้ล่ะ แปลว่าหูของเขาดีขึ้นแล้วเหรอ?
ไอราไม่คิดเลยว่าฝังเข็มแค่เล่มเดียวจะสามารถทำให้หูของกานต์ฟื้นฟูตัวได้ขนาดนี้ เธอหันหลังวิ่งออกไป โดยไม่แม้แต่จะเช็ดมือ
“กานต์ หูของนายหายดีแล้วเหรอ?”
เธอจงใจเลือกพูดประโยคนี้ในองศาที่กานต์ยืนหันหลังให้ ทั้งยังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ แต่ผลกลับกลายเป็นว่ากานต์ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยสักนิด
แปลว่าเมื่อกี้เธอคิดมากไปเองเหรอ?
หัวใจพลันอัดอั้น ไอราคอตกอย่างหดหู่ แต่ทันใดนั้นกลับได้ยินกานต์เอ่ยพูดขึ้นมานิ่งๆว่า “อืม หายดีแล้ว”
ไอราเงยหน้าพรวด คิดว่าตัวเองน่าจะหูฝาด เลยรีบเอ่ยถามว่า “นายว่าอะไรนะ?”
กานต์ยกอาหารเมนูสุดท้ายออกมา แล้วเอ่ยพูดอย่างเนิบนาบว่า “ไม่มั่นใจในฝีมือตัวเองขนาดนั้นยังกล้ามาฝังเข็มให้ฉันอีกเหรอ? โชคดีไปที่เธอได้ฉันเป็นหนูทดลอง ถ้าเป็นคนอื่นคงวิ่งหนีป่าราบไปตั้งนานแล้ว”
ไอราปากกระตุก
ตาหมาบ้านี้น่ารำคาญจริงๆ!