สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 46.5

ตอนที่ 46.5

สามวันหลังจากนั้น ก็ถึงวันพิธีกลับจวนเยี่ยมญาติของฉู่เยว่หนิง!

คู่รักข้าวใหม่ปลามันทั้งสองเดินทางมาถึงตั้งแต่เช้าแล้ว หลังจากที่เข้าไปหาฉู่อี้อันและฮูหยินใหญ่เสร็จก็แยกย้ายไปพบปะแขกที่มาร่วมงาน

ฉู่เยว่หนิงใส่เสื้อกับกระโปรงสีแดงทับทิมเข้าคู่กับสีแดงสด ทำผมทรงของหญิงที่ออกเรือนแล้ว สีหน้าแววตานั้นยิ้มแย้มสดใส หางตาตวัดขึ้นยิ้มอย่างปิดบังเอาไว้ไม่อยู่ ไม่ต้องพูดก็รู้ได้เลยว่า สองวันหลังจากงานแต่งงานของทั้งสองนั้น พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกันเป็นอย่างมาก

ฮูหยินใหญ่เห็นดังนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยความปิติยินดีเช่นเดียวกัน

พิธีกลับมาเยี่ยมญาติครั้งนี้เองก็จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ขุนนางใหญ่โตและแขกผู้มีเกียรติหลายคนก็มาร่วมงานกันเกือบแทบจะทั้งหมด

ทว่างานเลี้ยงวันนี้ไม่เหมือนกับวันพิธีแต่งงานเท่าไร เพราะฉู่สวินหยางออกความเห็นว่าให้จัดขึ้นที่สวนดอกไม้

หากว่ากันตามหลักแล้ว วังบูรพาเองก็ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวัง แต่ด้วยความที่ฉู่อี้อันเป็นคนไม่ชอบเป็นที่จับตามองของใคร ทำให้ไม่ค่อยมีพิธีงานเลี้ยงฉลองจัดขึ้นในจวนสักเท่าไรนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการพบปะสังสรรค์ระหว่างเขาและขุนนางอย่างเป็นส่วนตัวเลย คนที่มีสิทธิ์ได้เข้ามาเป็นแขกในวังบูรพามีน้อยจนนับนิ้วได้เชียวล่ะ

และในวันนี้งานก็จัดขึ้นกลางสวนดอกไม้แบบนี้ ทำให้ก่อนที่พิธีจะเริ่มแขกทั้งหลายก็ต่างแยกย้ายกันไปเดินชมดอกไม้ในสวนให้ว่อน ทำให้หันไปที่ไหนก็มีแต่คนอยู่ เป็นภาพที่ครึกครื้นยิ่งนัก

เหยียนหลิงจวินลากตัวซูอี้ไปที่ห้องโถงด้านหน้า

ด้วยความที่ครั้งก่อนเกือบจะเกิดเรื่องขึ้น ทำให้ซูอี้เองก็ยังคงรู้สึกกลัวจนใจเต้นอยู่ ครั้งนี้เขาเลยไม่ตั้งใจจะอยู่ที่นี่นานนัก เป็นอย่างที่สองพี่น้องหลัวอวี่ก่วนคิดเอาไว้ เขาแค่จะโผล่หน้ามาเท่านั้น

“เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใดรึ?” เขาถูกเหยียนหลิงจวินลากออกมาแบบนี้ เขาเองก็ยังคงใจลอยไม่รู้ร้อนอะไร จัดแขนเสื้อที่ถูกอีกฝ่ายดึงจนยับพลางเอ่ยถามเขา

เหยียนหลิงจวินหัวเราะขึ้นเบาๆ จากนั้นยื่นเหล้าดอกหอมหมื่นลี้ที่หยิบมาจากห้องรับแขกให้เขาแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก มีเรื่องจะถามหน่อยน่ะ เมื่อครั้งก่อนตอนที่เจ้ามา เจ้าเจอหลัวเถิงด้วยรึ?”

ซูอี้กำลังยกจอกเหล้ารินเข้าปาก ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกผิดปกติ จึงกระดกเหล้าเข้าปากแล้วกลืนลงไปหนึ่งคำ

ตอนนี้เขาถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่าตนตกหลุมพรางของอีกฝ่ายเข้าให้แล้ว ลุกขึ้นยืนสะบัดหยดน้ำที่อยู่บนเสื้อออก พลางพูดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า “เจ้าอย่ามาหลอกล่อให้ข้าพูดเลย วันนั้นข้ากลับไปไว ข้าไม่รู้หรอกว่าท่านหญิงสวินหยางกับหลัวเถิงคุยอะไรกัน!”

เหยียนหลิงจวินพิงเสาอยู่ด้านข้าง ยังคงยิ้มขึ้นอย่างสบายอกสบายใจ มองแววตาของซูอี้แล้วรู้สึกแปลกประหลาดอย่างอธิบายไม่ถูก

“เจ้า…” เขาเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา

จู่ๆ เหยียนหลิงจวินก็เปลี่ยนแววตาเป็นมืดมนอย่างไม่มีเหตุผล ด้วยความที่แววตาสีหน้าของเขาเปลี่ยนเร็วเกินไป ทำให้ซูอี้รู้สึกมึนงงยากจะคาดเดาจนตามอีกฝ่ายไม่ทันขึ้นมา

ทว่าหลังจากนั้นเหยียนหลิงจวินก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาหาเขา ในขณะที่เดินจะเฉียดไหล่กันตอนนั้นก็ตบบ่าของเขาเบาๆ ถอนหายใจแล้วพูดออกมาว่า “วันนี้อย่าเพิ่งกลับไปไวเลย อยู่ต่อสักหลายชั่วยามหน่อยเถิด เดี๋ยวจะมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น!”

เขาพูดจบก็ก้าวฝีเท้าเดินออกไปเงียบๆ ด้วยฝีเท้าที่หนักแน่นมั่นคงโดยไม่แม้จะหันหน้ามามอง

ซูอี้ยืนอยู่ที่ระเบียงทางเดิน หวนคิดถึงแววตาอันลุ่มลึกของเขาอันนั้น จากนั้นสีหน้าแววตาของตนก็ค่อยๆ ตกตะกอนสงบนิ่งลงมา

เขายืนนิ่งอยู่ตรงทางโค้งบนระเบียงทางเดินอยู่นานไม่ขยับไปไหน ในขณะที่เขากำลังเหม่อลอยอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของหญิงสาวดังขึ้น แถมเสียงนั้นกำลังมุ่งหน้าใกล้เข้ามา

ตอนนี้ซูอี้เองถึงค่อยเพิ่งรู้สึกตัว จึงหมุนตัวจะเดินกลับไป แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเดินไปได้แค่สองก้าว ก็ถูกหญิงสาวกลุ่มนั้นที่วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน โดยที่คิดไม่ถึงว่าด้านหน้าจะมีคนยืนอยู่ สองคนที่วิ่งอยู่ด้านหน้าห้ามฝีเท้าเอาไว้ไม่ทัน จึงทำให้ชนเข้ากับด้านหลังตัวเขาอย่างจัง

แรงกระแทกรุนแรงจนทำให้ซูอี้เซจนเกือบจะล้มลง จอกเหล้าในมือร่วงหล่น เหล้าสาดกระเซ็นจนเสื้อผ้าเปียกชุ่ม

“นี่!” หญิงสาวสองคนนั้นตกใจผวา เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายที่ตนชนเข้าว่าเป็นคนที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในตอนนี้ หน้าก็แดงขึ้นมาฉับพลัน รีบเอ่ยปากพูดขอโทษขอโพยว่า “ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้า…พวกข้าไม่ได้ตั้งใจ…”

เมื่อพวกนางพูดจบก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งเดินพูดคุยยิ้มแย้มเลี้ยวออกมา

โดยมีชิ่งเฟยเป็นคนเดินนำพวกฮูหยินทั้งหลายอยู่

“ถวายบังคมขอรับพระชายาชิ่งเฟย!” ซูอี้ยกสองมือขึ้นคำนับ

“ไม่ต้องพิธีรีตองหรอก!” ชิ่งเฟยกล่าว ปรายตามองหญิงสาวพวกนั้นกับเขาอย่างมีพิรุธ

“ท่านผู้นี้คือคุณชายรองจวนอ๋องฉางซุ่นเจ้าค่ะ!” หนึ่งในหญิงสาวสองคนนั้นหน้าแดงก่ำขึ้น แล้วหันไปคล้องแขนหญิงวัยกลางคนเอาไว้แล้วพูดเสียงเบาว่า “เป็นเพราะลูกไม่ทันระวังเลยไปชนเขาเข้าเจ้าค่ะ!”

“เสื้อผ้าของคุณชายรองสกปรกหมดแล้ว!” ชิ่งเฟยกลอกตาเล็กน้อยจากนั้นยิ้มขึ้นมา

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกขอรับ แค่เหล้านิดหน่อยเอง เดี๋ยวก็แห้งแล้วขอรับ!” ซูอี้รีบก้มลงมอง ถึงได้เห็นว่าเสื้อผ้าของเขาเปียกไปครึ่งหนึ่ง

“เดี๋ยวงานพิธีก็จะเริ่มแล้ว คุณชายรองจะไปทั้งแบบนี้คงไม่เหมาะสมเท่าไรกระมัง!” ชิ่งเฟยกล่าว สอดสายตามองไปรอบด้าน แล้วเห็นข้ารับใช้ของวังบูรพาเดินมาพอดี จึงเรียกนางให้หยุดลงแล้วพูดว่า “เสื้อผ้าของคุณชายรองจวนอ๋องฉางซุ่นสกปรกน่ะ เจ้าพาเขาไปทำความสะอาดหน่อยเถอะ!”

พูดยังไม่ทันจบ ข้ารับใช้นางนั้นก็เดินเข้ามาหา ย่อเข่าทำความเคารพแล้วพูดว่า “เชิญทางนี้เจ้าค่ะคุณชายรอง!”

“ไม่ต้องหรอก ข้า…” ซูอี้อยากจะปฏิเสธแต่คิดถึงคำพูดที่เหยียนหลิงจวินพูดเตือนขึ้นมาได้ จึงค่อยๆ ขยับปากขึ้น “ก็ได้!”

“เสื้อผ้าตัวนี้ข้าเอามาจากพ่อบ้าน คุณชายรองใช้สวมชั่วคราวก่อนแล้วกันนะเจ้าคะ เดี๋ยวเสื้อผ้าของท่านข้าจะเอาไปทำความสะอาดให้ก่อน อีกสักพักข้าน้อยจะนำส่งคืนมาให้ท่านนะเจ้าคะ!” สาวรับใช้คนนั้นพาเขามาที่ห้องพักสำหรับแขกในเรือนเล็ก ไม่นานนักก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับชุดธรรมดาสีน้ำเงิน เมื่อพูดคุยตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินออกไปรออยู่ด้านนอกอย่างรู้งาน

ซูอี้เห็นว่าเงาของนางยังยืนรออยู่ด้านนอก เขาจึงกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างอย่างนึกสนุก จากนั้นก็ค่อยๆ ถอดเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไม่สนใจ

เมื่อเขาถอดเสื้อตัวนอกออก กำลังจะหยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาสวม จู่ๆ ก็มีคนผลักประตูด้านหลังเข้ามา อีกฝ่ายไม่เพียงแต่จะไม่รอให้เขาได้ตั้งสติ ร่างเล็กอ่อนแอของหญิงสาวคนนั้นก็ถลาเข้ามา คุกเข่ากอดขาของเขาเอาไว้แน่น แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าโศกเสียใจว่า “คุณชายรอง ได้โปรดช่วยข้าด้วย!”

————————————————-

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท