สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 19.3

ตอนที่ 19.3

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 19.3 องค์รัชทายาทโมโหเกรี้ยวกราดและข้อตกลงสำคัญ (3)
บทที่ 19 องค์รัชทายาทโมโหเกรี้ยวกราดและข้อตกลงสำคัญ (3)
โดย
Ink Stone_Romance
ฮ่องเต้แค่นหัวเราะ ทว่าแววตาจดจ้องเขาอย่างมืดมน

ฉู่อี้อันลืมตาขึ้นจากถ้วยชาในมือมองบิดาของตนเองหนึ่งครั้งแล้วก้มดื่มชาต่อ ภายใต้สายตาอันนิ่งสงบนั้นแฝงให้เห็นสายตาอ้างว้างทำตัวไม่ถูกอยู่เล็กน้อย

เป็นอย่างที่คาดคิด หลังจากนั้นจู่ๆ หยางเถี่ยก็พุ่งตัวออกไปแย่งขวดนั้นไว้ในมือ

“เร็วเข้า…รีบห้ามมัน!” เหยาก่วงไท่ตกใจจนหน้าถอดสี ลุกตัวขึ้นยืนทันที ครึ่งตัวบนของเขาเอนราบลงไปบนโต๊ะ แทบจะปีนข้ามไปเพื่อรั้งตัวหยางเถี่ยเอาไว้

แต่ตอนที่ทหารเข้าไปจับกุมตอนนั้นมันก็สายไปเสียแล้ว

หยางเถี่ยกลืนยาพิษนั่นเข้าไปเกือบครึ่งขวด หัวเราะเสียงแหบแห้งออกมาสองที จากนั้นร่างกายอันหนักอึ้งก็ล้มลงบนพื้น เลือดข้นสีดำค่อยๆ ไหลออกมาตามปากและจมูก

ฉู่อี้หมินตกใจหวาดผวาจนไม่ได้สติไปพักใหญ่ เขาเพียงแค่เบิกตาโพลงมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างอึ้งทึ่ง

หยางเถี่ยตายแล้ว ตายไปพร้อมกับคำสารภาพ!

แล้วใครจะเป็นคนไขข้อสงสัยในใจของฮ่องเต้กัร?

“ใต้…ใต้เท้า ฆาตกรฆ่าตัวตายขอรับ!” เมื่อร่างกายของหยางเถี่ยหยุดนิ่งไม่ขยับ ก็มีเสียงสั่นๆ ทหารคนหนึ่งดังขึ้น

เหยาก่วงไท่ยังคงยืนอยู่ในท่าเดิม แผ่นหลังเต็มไปด้วยเหงื่อจนเสียวสันหลัง

ฮ่องเต้ถือถ้วยชาเอาไว้แน่นิ่ง ไม่เผยให้เห็นสีหน้าใดออกมาแม้แต่น้อย…

ฉู่สวินหยางโดนใส่ร้ายนิดหน่อยแค่นี้มันจะนับประสาอะไร? หากใช้เรื่องนี้ทำให้จวนอ๋องฉางซุ่นล่มสลายลงก็เป็นผลงานของฉู่อี้หมิน แต่ในเมื่อหลักฐานคาตาแบบนี้ ก็ไม่มีทางที่ฉู่อี้หมินจะได้ไปอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรจะปล่อย ให้เรื่องนี้ กลายเป็นเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอันฉาวโฉ่ของราชวงศ์ไม่ได้เด็ดขาด!

“ลากมันออกไป!” ภายใต้ห้องโถงอันเงียบสงัด ฉู่อี้อันเปล่งเสียงออกมาเป็นคนแรก

เขาไม่ต่างจากฮ่องเต้ ไม่เผยสีหน้าอารมณ์ใดให้เห็นแม้แต่น้อย ความเงียบสงบนั้นค่อยๆ กัดกลืนกินจิตใจของทุกๆ คนที่ยืนอยู่

บรรดาทหารเข้ามาลากศพแข็งทื่อนั้นออกไป

ฉู่อี้หมินจ้องมองเลือดที่หลงเหลืออยู่บนพื้นเขม็ง ค่อยๆ ดึงสติกลับมา แล้วเงยหน้ามองฮ่องเต้ “เสด็จพ่อ…”

“โบราณกล่าวไว้ว่าต้องดูแลครอบครัวให้ได้ก่อน ถึงจะปกครองประเทศได้ เมื่อทำได้ทั้งสองอย่างแล้วใต้หล้าถึงจะสันติสุข แต่ตัวเจ้าแค่จวนอ๋องเล็กๆ ยังดูแลได้ไม่ดี แค่ข้ารับใช้ต่ำต้อยยังจัดการเอาไว้ไม่ได้ ข้าว่าคงถึงเวลาที่เจ้าต้องสำนึกผิดแล้วล่ะ” ฮ่องเต้พูดตัดหน้าเขา

หลี่รุ่ยเสียงช่วยพยุงฮ่องเต้เอาไว้ สายตาของฮ่องเต้ทอดมองแสงอาทิตย์รำไรด้านนอก “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจงกลับไปแล้วขังตัวเองอยู่ในจวนสำนึกผิดเสีย หากคิดไม่ได้ก็อย่าได้มาเจอหน้าข้าอีก ตำแหน่งเสนาบดีกรมขุนนางที่เจ้าทำอยู่ก็ให้องค์ชายสี่จัดการแทนชั่วคราว ส่วนทหารจำนวนหนึ่งหมื่นนายพวกนั้นย้ายให้ไปสังกัดกองกำลังรักษาพระนครทั้งหมด เจ้าคิดให้ได้ก่อนว่าจะดูแลจัดการจวนอ๋องของตัวเองอย่างไรให้ดี!”

ไม่เพียงแต่จะยึดอำนาจของเขาเท่านั้น เขายังถูกกักบริเวณอีกด้วย!

จิตใจของฉู่อี้หมินดำดิ่งสู่ก้นบึ้งหัวใจ เขาคิดอยู่แล้วว่าเมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดโปงท่านพ่อต้องไม่พอใจแน่ๆ แต่การที่ฮ่องเต้ทำถึงขั้นนี้ มันเกินความคาดหมายของเขาไปมากทีเดียว

เขาเลยตั้งใจว่าจะขอความเห็นใจ แต่เมื่อหันมองใบหน้านิ่งสงบของฮ่องเต้แล้ว เขาก็พูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงกัดฟันยอมรับ “พ่ะย่ะค่ะ! ข้ากระหม่อมรับทราบแล้ว ข้าจะกักบริเวณตัวเองแล้วคิดให้ได้พ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้เดินออกจากห้องโถงไปโดยไม่เหลียวมองแม้แต่น้อย

ฉู่อี้อันสะบัดเสื้อแล้วลุกขึ้น ปรายตามองเหยาก่วงไท่แล้วพูดกับเขาว่า “คดีจบแล้วใช่หรือไม่ จัดการเรื่องที่เหลืออยู่ด้วยล่ะ!”

ฉู่อี้หมินธรรมดาเกินไป แต่เป็นเพราะด้วยความธรรมดาแบบนี้นั่นแหละ ที่ทำให้ฮ่องเต้คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นฆาตกร แต่จากที่เขารู้จักฮ่องเต้มา…

เขารู้ว่าตนไม่มีทางได้รับอำนาจกำลังพลที่เพิ่งเสียไปกลับคืนมาได้อีกแล้ว!

ทุกคนต่างคิดว่าหากเกิดเรื่องกับฉู่สวินหยางขึ้นเมื่อไร เขาจะยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ใครเคยบอกไว้แบบนั้นกัน?

ริมฝีปากของฉู่อี้อันโค้งขึ้นเล็กน้อย พลางตบไหล่ฉู่สวินหยางเบาๆ แล้วเดินตามฮ่องเต้ออกไป

ส่วนองค์ชายสี่ฉู่อี้ชิงที่เพิ่งได้ลาภลอยก็เดินตามออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนผู้คนที่เหลือที่ไม่ได้ทั้งลาภลอย ไม่มีอะไรสนุกๆ ให้ดูต่อก็ต่างแยกย้ายกันออกไป

ฉู่อี้หมินคุกเข่าอยู่บนพื้นมานานแสนนาน สุดท้ายข้ารับใช้ข้างกายก็เป็นคนช่วยพยุงเขาขึ้นมา ในตอนที่เขาลุกขึ้นจะยืนนั้น เขากลับยืนได้ไม่มั่นคงเท่าไรนัก ตัวเอียงโซซัดโซเซ ยังดีที่มีคนคอยช่วยพยุง ทำให้พอยืนอยู่นิ่งๆ ได้อยู่ เขาเม้มปากแน่น ค่อยๆ ก้าวเท้าทีละก้าวอย่างยากลำบากเดินออกจากห้องโถงไปรับแสงตะวันด้านนอก

ซูหลินมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าทั้งหมดอย่างเฉยชา เรื่องราวทั้งหมดมันน่าทึ่งจนทำให้เขาอยากหัวเราะออกมา…

จบแค่นี้งั้นหรือ? ถึงแม้เขาจะหลุดพ้นความผิดได้อย่างเฉียดฉิว แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนยังมีอะไรค้างอยู่จนรู้สึกหงุดหงิด

ในขณะที่ความรู้สึกสับสนปนเปอยู่นั้น จู่ๆ ชายกระโปรงของหญิงงามลอยผ่านหน้าไป น้ำเสียงของฉู่สวินหยางที่แฝงไปด้วยความสนุกขบขันลอยมา “เป็นอย่างไร? ตกใจเลยล่ะสิ? ที่จริงแล้วเจ้าน่าจะขอบคุณชิงหลัวนางนะ หากไม่ได้นาง ยาพิษปลาปักเป้าขวดนั้น คงต้องให้ซูซื่อจื่อเป็นคนกลืนลงไปเองมากกว่า!”

ทหารองครักษ์สองคนนั้นตายไป เลยเหลือเพียงซูหลินคนเดียวที่รู้เบาะแสของชิงหลัว การที่ฉู่สวินหยางพูดแบบนี้มันก็สมเหตุสมผลแล้ว!

ใบหน้าของซูหลินทั้งมืดมนทั้งขาวซีดเซียว เขามองสองพี่น้องที่ยืนอยู่ตรงหน้า ในใจเต็มไปด้วยความโกรธและโมโหที่ไม่สามารถระเบิดออกมาได้ เขาอดทนมาตั้งนาน พอได้ยินประโยคที่ฉู่สวินหยางพูดเข้า จึงเอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “นั่นไม่ใช่ยาพิษปักเป้ารึ?”

“ไม่ใช่อยู่แล้ว!” ฉู่สวินหยางยิ้ม “ข้าไม่ใช่เทพเจ้าหรอกนะ ที่จะไปเตรียมหาของพวกนั้นไว้ก่อนได้น่ะ?”

ความโกรธแค้นของซูหลินมากเกินกว่าที่ใบหน้านั้นจะแสดงสีหน้าออกมาได้หมด…

แต่มันก็จริง หากไม่ได้ตั้งใจวางแผนไว้ก่อน ฉู่สวินหยางจะไปหายาพิษปักเป้ามาใส่ร้ายได้อย่างไร?

พอคิดแล้วก็รู้ว่า…

นี่ต้องเป็นฝีมือของเหยียนหลิงจวินแน่นอน ผสมยาที่คล้ายกับยาพิษแล้วเอามากล่าวอ้างว่าเป็นยาพิษนั่น แต่ที่น่าโมโหยิ่งกว่านั้นคือหมอหลวงพวกนั้นฝีมือไม่ได้เรื่อง ไม่มีใครตรวจรู้เรื่องเลยสักคน

“ดี! เจ้าจะเล่นแบบนี้สินะ!” นิ้วมือที่ซ่อนอยู่ในชายเสื้อกำหมัดขึ้นแน่นแล้วผ่อนออก แต่สุดท้ายซูหลินก็ทำเพียงแค่สะบัดแขนเสื้ออย่างเกรี้ยวกราด แล้วเดินจากออกไป

ฉู่สวินหยางมองแผ่นหลังของเขา มุมปากของนางที่ยิ้มอยู่ค่อยๆ หุบลงอย่างเย็นชา

ฉู่ฉีเฟิงที่อยู่ด้านข้างตบไหล่นางแล้วพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาอันควร เราไปกันก่อนเถอะ!”

“อืม!” ฉู่สวินหยางพยักหน้า จากนั้นสองพี่น้องก็เดินออกจากห้องโถงไปพร้อมกัน

ส่วนฉู่อี้อันและคนอื่นๆ ก็ตามฮ่องเต้กลับวังไป สองพี่น้องคู่นั้นยังไม่กลับไปวังบูรพาในทันที พวกเขาขึ้นไปบนรถม้าที่ฉู่ฉีเฟิงเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า แล้วเดินทางไปยังแม่น้ำจ้าวธาร

ฤดูหนาวท้องฟ้ามืดเร็วกว่าปกติ กว่ารถม้าขับผ่านตัวเมืองมาถึงริมแม่น้ำ ตอนนั้นพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินแล้ว

ดวงอาทิตย์กลมโตสีแดงชาดห้อยประดับอยู่บนเส้นขอบฟ้า มีแสงส่องสว่างไม่มากนัก ทว่าทิวทัศน์ตรงหน้ากลับเหมือนภาพวาดเสียมากกว่า

ฉู่สวินหยางเอนตัวพิงอยู่รั้วสีขาวมุกริมน้ำที่ตั้งอยู่ด้านหน้าหอยลนที ผิวน้ำสะท้อนเผยให้เห็นความรู้สึกสนุกขบขันในแววตาของนาง มันช่างระยิบระยับราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

เมื่อนางหันหลังกลับไปมอง ก็เห็นโครงหน้าอันคุ้นเคยของชายหนุ่มอยู่ด้านหลังบานหน้าต่างที่เปิดเอาไว้ครึ่งหนึ่งบนชั้นสองนั่น

เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย เหยียนหลิงจวินเลยไม่ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างเปิดเผย เขารอให้เรื่องทุกอย่างแน่นอนก่อนถึงได้นัดสองพี่น้องคู่นี้มาเจอ

ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เขานัดฉู่ฉีเฟิงคนเดียว ส่วนนาง…

ก็แค่เป็นคนที่ฉู่ฉีเฟิงพามาด้วยพอดี ถือเป็นคนนอกเสียด้วยซ้ำ

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านหลัง ฉู่สวินหยางเลยเบนสายตาออกจากบานหน้าต่างนั้น

“ยังไม่ได้เบาะแสสาวใช้คนนั้นอีกรึ” ซูอี้เดินเข้ามา สังเกตได้ชัดว่าสีหน้าของเขากระอักกระอ่วนอยู่เล็กน้อย

ฉู่สวินหยางมองหน้าเขา ยิ้มหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ แล้วพูดหยอกเขาเล่นว่า “ทำไมหรือ? เจ้ากับซูหลินไม่ได้โกรธแค้นต่อกันอยู่งั้นหรอกหรือ? ตอนนี้คิดจะรับผิดชอบความผิดที่เขาทำเอาไว้เองเหรอไง?”

ถึงแม้จะเป็นพวกเดียวกัน แต่ฉู่สวินหยางกลับคิดไม่ถึงว่าซูอี้จะเป็นคนที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ เอาแต่ปวดหัวกลุ้มใจกับเรื่องของซูหลินอยู่ได้

“ไม่ใช่สักหน่อย!” ซูอี้ยิ้ม รอยยิ้มนั่นแฝงไปด้วยความรู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัด เขาพูดขึ้นว่า “แต่ถ้ารู้ก่อนว่าจะเป็นแบบนี้ ข้ามีเรื่องหนึ่งต้องรีบบอกให้ท่านรู้ เมื่อวานการที่ซูหลินปรากฏตัวขึ้นที่หอยลนทีนั่น เป็นเพราะวันนั้นเขามีนัดกับแม่หญิงหลัวอวี่ก่วน!”

เมื่อฉู่สวินหยางได้ยินดังนั้นก็นิ่งอึ้งไป เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเลยจริงๆ เมื่อลองนึกย้อนคิดดีๆ แล้ว แววตาของนางแน่นิ่งเย็นชาลงพูดเยาะเย้ยตัวเองขึ้นว่า “มิน่าเล่า ข้ารู้สึกว่าแผ่นหลังของผู้หญิงคนนั้นมันช่างคุ้นเคยเสียจริง ที่แท้ก็เป็นนางนี่เอง!”

เพราะฉะนั้นที่นางสั่งให้ชิงหลัวไปจับตาดู หรือเป็นเพราะชิงหลัวไปรู้ความลับของซูหลินกับหลัวอวี่ก่วนเข้า นางเลยโดนอีกฝ่ายฆ่าปิดปาก?

“แต่ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นเพราะข้าประมาทเกินไป!” ฉู่สวินหยางหลับตาลง แล้วลืมตาขึ้นมองไปยังซูอี้ด้วยแววตาเข้าใจอย่างถ่องแท้ “แล้วที่สองคนนั้นอยู่ด้วยกันมันเป็นเรื่องตั้งแต่เมื่อใด?”

“คืนที่ซูหว่านเกิดเรื่องวันนั้น!” ซูอี้ตอบ

“หา…” ครั้งนี้ฉู่สวินหยางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาจริงๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า “ซูซื่อจื่อคนนั้นก็ช่างน่าขันเสียจริง”

น้องสาวแท้ๆ ตายในน้ำมือตัวเองแบบนี้ ถึงจะบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุก็เถอะ แต่เขายังมีอารมณ์ไปคบชู้อีก

ซูอี้เองก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย แยกไม่ออกเลยว่าดีใจหรือโมโห “ข้าคิดว่าวันนี้เขาจะโดนตัดสินคดีความเสียอีก!”

“ถ้าเขาโดนตัดสินคดีความไปแล้วเจ้าจะได้ประโยชน์อะไรเล่า?” ฉู่สวินหยางนิ่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก็เอ่ยปากถามขึ้น

นางรู้ดีว่าระหว่างซูอี้และซูหลินมีเรื่องเกี่ยวพันกันแน่นอน แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตัวเอง ต่อหน้าเหยียนหลิงจวินนางก็เลยไม่เคยได้ยินมาก่อน

ซูอี้นิ่งอึ้งไปอย่างคาดไม่ถึง เขาหันหน้ากลับมามองนาง “แต่อย่างไรก็แล้วแต่มันก็ไม่มีข้อเสียอะไรหรอก!”

ฉู่สวินหยางเม้มปาก ไม่เอ่ยเห็นด้วยแต่ก็ไม่โต้แย้งอะไร

ซูอี้ยืนอยู่ข้างๆ เขาหันมองใบหน้าด้านข้างของนาง ลมพัดโชยจนทำให้ผมปิดบังหน้านางไปกว่าครึ่ง เลยมองเห็นแววตาของนางได้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

นิ่งเงียบไปนานแสนนาน ก็ยังไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของสองคนนั้นออกมาจากหอยลนทีเสียที ฉู่สวินหยางเองก็เบื่อจนไม่รู้จะทำอย่างไร เลยเอ่ยปากพูดอีกครั้งว่า “พวกเรามาทำข้อตกลงกันเถอะ!”

“อะไรนะ?” ซูอี้ถามกลับ คิดว่าตัวเองหูฝาดไป

ฉู่สวินหยางลุกขึ้นยืน หันไปเผชิญหน้ากับเขา พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้ากับซูหลินมีความเกี่ยวพันกันอย่างไร แต่ข้าเห็นได้ชัดว่าเจ้าต้องการทำลายสองพ่อลูกซูหังกับซูหลินนั่น แล้วขึ้นไปแทนที่พวกเขาใช่หรือไม่?”

—————————————-

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน