Super God Gene – ตอนที่ 2188
แสงทั้ง 3 รวมเข้าด้วยกันและกลายเป็นวังวนสีเทา ซึ่งเมื่อมองสัญลักษณ์สามเหลี่ยมจากด้านหนึ่ง สีเทาก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำ และถ้าเลือกมองจากด้านตรงข้ามกัน สีเทาก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาว
สามเหลี่ยมนั้นดูเหมือนจะเต้นเป็นจังหวะด้วยแสงสีเทาที่ดูลึกลับ และสีนั้นก็ย้อมพลังของหานเมิ่งเอ๋อเป็นสีเทาด้วยเช่นกัน
หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวจากพลังที่แผ่รังสีออกมา และมันก็เหมือนกับว่าพลังงานทั้งหมดกำลังจะระเบิด
หานเมิ่งเอ๋อถือเดสทรอยเยอร์ไบเบิลเอาไว้ในมืออย่างผ่อนคลายราวกับว่าเธอไม่ได้สังเกตเห็นพลังที่พรั่งพรูออกมารอบๆตัว มืออีกข้างของเธอพลิกหน้าหนังสือของเดสทรอยเยอร์ไบเบิล จากที่หานเซิ่นมองเห็น มันมีรูปภาพและส่วนที่เป็นข้อความอยู่ภายใน มันเหมือนกับว่าเขากำลังมองดูหนัง 3 มิติที่วูบวาบผ่านหน้าหนังสือ
ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่ได้เปิดหนังสือด้วยตัวเอง แต่เขาก็มองดูเนื้อหาของหนังสือในตอนนี้ได้เมื่อใครคนอื่นเปิดมัน
ภาพบนหน้าหนังสือเป็นอะไรที่น่าประทับใจ ถึงขนาดที่ทำให้หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่ากำลังมองดูซูเปอร์โนวา จักรวาลเริ่มต้น จักรวาลถูกทำลาย ชีวิตเริ่มต้นขึ้น ชีวิตสิ้นสุดลง
“เกิดจากเดสทรอยเยอร์ ชีวิตเพื่อเดสทรอยเยอร์ การอยู่รอดคือเดสทรอยเยอร์” หานเซิ่นอ่านบรรทัดแรกของเดสทรอยเยอร์ไบเบิล
เดสทรอยเยอร์ไบเบิลเป็นสมบัติระดับเทพเจ้า มันเป็นหนังสือศักดิสิทธิ์ของเผ่าพันธุ์เดสทรอยเยอร์ มันบันทึกวิชาจีโน ประสบการณ์และความเข้าใจของเดสทรอยเยอร์อัลฟ่าที่ได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต
ขณะที่หานเซิ่นอ่านเดสทรอยเยอร์ไบเบิล มันก็เหมือนกับว่าเขาได้ฟังคำอธิบายเกี่ยวกับวิชาจีโนจากเดสทรอยเยอร์อัลฟ่าโดยตรง
หานเซิ่นรู้สึกดีใจ วิชาจีโนของเดสทรอยเยอร์ ผู้ใช้จำเป็นต้องมีพลังทั้ง 3 อย่าง แต่หานเซิ่นขาดพลังเคออสไป ทำให้เขาขาดความสามารถที่จะใช้พลังของเดสทรอยเยอร์
แต่ถึงอย่างนั้นการอธิบายของเดสทรอยเยอร์อัลฟ่าก็ช่วยชี้แจงในหลายๆเรื่อง และทำให้หานเซิ่นเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เขาสามารถเข้าใจวิชาเบรกซิกซ์สกายได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นก็เพราะมัน
เดสทรอยเยอร์เป็นส่วนหนึ่งของเบรกสกาย และพวกเขายังกล่าวอ้างอีกว่าตัวเองเป็นราชวงศ์ของเผ่าพันธุ์จากยุคสมัยโบราณ วิชาจีโนที่เดสทรอยเยอร์อัลฟ่าทิ้งเอาไว้ก็มีความเชื่อมโยงกับวิชาเบรกซิกซ์สกาย
คำอธิบายถึงวิชาจีโนของเดสทรอยเยอร์อัลฟ่านั้นมอบความรู้มากมายที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับวิชาเบรกซิกซ์สกายได้
หานเซิ่นติดอยู่ที่ขั้นแรกของวิชาเบรกซิกซ์สกาย แต่ตอนนี้เมื่อเขาสามารถเข้าใจอะไรได้มากขึ้น มันก็ทำให้เขาก้าวไปสู่ขั้นที่ 2 และด้วยความรู้ที่มีเพิ่มมากขึ้น มันก็มีโอกาสเขาจะก้าวไปสู่ขั้นที่สูงขึ้นไปได้อีก
วิชาเบรกซิกซ์สกายไม่ใช่เทคนิคที่จะฝึกฝนเพื่อแข็งแกร่งขึ้นได้ และการจะก้าวหน้าในวิชาเบรกซิกซ์สกายก็จำเป็นต้องใช้ความเข้าใจและความรู้เป็นอย่างมาก
ขณะที่ศึกษาวิชาเบรกสกาย บางครั้งหานเซิ่นก็รู้สึกราวกับนักดาบสมัยโบราณพยายามจะทำความเข้าใจว่าระเบิดถูกสร้างขึ้นมายังไง
วิชาจีโนนี้จำเป็นต้องใช้ความเข้าใจมากกว่าพละกำลังล้วนๆ ถ้าผู้ฝึกเข้าใจการทำงานของวิชาจีโน พวกเขาก็จะสามารถควบคุมพลังและปลดปล่อยมันออกไปได้อย่างเต็มศักยภาพ
มันไม่สำคัญว่าผู้ฝึกจะเป็นระดับบารอนหรือระดับเทพเจ้า พวกเขาสามารถฝึกทุกขั้นของวิชาเบรกซิกซ์สกายได้ ระดับพลังที่ปล่อยออกไปนั้นเป็นสิ่งเดียวที่แตกต่างกันระหว่างผู้ใช้ที่อ่อนแอและแข็งแกร่ง ขณะที่ตัวเทคนิคจะไม่มีความเปลี่ยนแปลง
แต่มันเป็นเรื่องยากที่ขุนนางระดับต่ำจะเข้าใจพลังนั้นอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนั้นมันจึงยากที่พวกเขาจะใช้วิชาเบรกซิกซ์สกายได้
หานเซิ่นยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นของการเรียนรู้เทคนิคนี้ หรืออย่างน้อยๆเขาก็เคยอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่การได้อ่านเดสทรอยเยอร์ไบเบิล ทำให้เขาเข้าใจอะไรมากขึ้นเกี่ยวกับการทำงานของมัน วิชาเบรกซิกซ์สกายของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น
เพียงแค่มองดูหานเมิ่งเอ๋อพลิกผ่านหน้าหนังสือของเดสทรอยเยอร์ไบเบิล วิชาเบรกซิกซ์สกายของหานเซิ่นก็สามารถก้าวหน้าและพัฒนาสู่ขั้นที่ 3 ได้สำเร็จ
ขณะที่เนื้อหาของเดสทรอยเยอร์ไบเบิลถูกเปิดเผย พลังสีเทาก็ไหลเข้าไปในร่างกายของหานเมิ่งเอ๋อ เธอจ้องมองไปที่เดสทรอยเยอร์ไบเบิลด้วยสีหน้าแปลกๆ เดสทรอยเยอร์ไบเบิลก็เริ่มจะเปลี่ยนรูปร่างในมือของเธอ และไม่นานหลังจากนั้นเดสทรอยเยอร์ไบเบิลก็เปลี่ยนร่างกลายเป็นลูกธนูสีเทา ขณะที่พลังสีเทาทั้งหมดที่เหลืออยู่จมลงไปในมือของเธอและสงบลง
ถ้าหานเซิ่นไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตาของตัวเอง เขาก็ไม่มีทางจะเชื่อว่าลูกธนูหินที่อยู่ในมือของเมิ่งเอ๋อจริงๆแล้วก็คือเดสทรอยเยอร์ไบเบิล เนื่องจากเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของเดสทรอยเยอร์เลย
หานเมิ่งเอ๋อหันมามองหานเซิ่น “พ่อ ขอบคุณพ่อมากสำหรับลูกธนูนี้”
“โอ้ พ่อดีใจที่เธอชอบมัน” หานเซิ่นตะกุกตะกักเล็กน้อย หานเมิ่งเอ๋อค่อนข้างไร้เดียงสา ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สังเกตถึงความงุ่มง่ามของเขาต่อเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
หานเซิ่นสำเร็จขั้นที่ 3 ของวิชาเบรกซิกซ์สกาย และขณะที่เขารู้สึกตัวถึงเรื่องนั้น เขาก็รีบพยายามจะนึกทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เห็นจากเดสทรอยเยอร์ไบเบิล ถ้าเขาสามารถก้าวไปสู่ขั้นต่อไปได้อีก นั่นก็จะเป็นรางวัลที่เยี่ยมยอดที่สุดสำหรับเขา
นอกจากท่าตบขั้นสุดยอดแล้ว เบรกซิกซ์สกายคือวิชาจีโนที่ทรงพลังที่สุดของหานเซิ่นในตอนนี้ เมื่อเขาไม่ได้ใช้ตัวตนของดอลลาร์ เบรกซิกซ์สกายก็มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะพึ่งพาได้
แต่น่าเสียดายที่เบรกซิกซ์สกายทรงพลังเกินไป ถ้าเขาใช้มันในการต่อสู้ระยะประชิดล่ะก็ มันก็มีโอกาสสูงที่เขาจะระเบิดตัวเองไปด้วย
โชคดีที่มนตรามอบอาวุธ 3 อย่างที่แตกต่างกันให้กับเขา ซึ่งด้วยระยะการโจมตีของพวกมันก็ทำให้พวกมันกลายเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบที่จะใช้ร่วมกับวิชาเบรกซิกซ์สกาย
“เมิ่งเอ๋อ อย่าเพิ่งไป พ่อมีวิชาจีโนที่อยากจะสอนให้กับเธอ”
ถ้าหานเซิ่นสามารถสอนวิชาเบรกซิกซ์สกายให้กับเธอได้ เธอก็จะมีพลังในการทำลายล้างเช่นเดียวกับเขา
ถึงแม้มันจะมีปัญหาหลายอย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยความรุนแรง แต่พวกเขาก็ยังจำเป็นต้องปลดปล่อยพลังที่รุนแรงออกไปเพื่อทำลายภัยอันตรายที่เล็งเป้ามาที่พวกเขา
ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงใช้เวลาสอนมันให้กับหานเมิ่งเอ๋อ และเมื่อเสร็จแล้ว เขาก็เดินทางไปที่ตำหนักเย็นเพื่อรับผลประโยชน์จากการเป็นผู้พิทักษ์ วิชากายหยกของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และมันก็คงจะพัฒนาขึ้นเป็นระดับดยุกได้ใน 2 ปี
มันเป็นเรื่องยากที่จะเพิ่มระดับวิชาจีโนจากมาร์คริสไปสู่ดยุก และถึงจะมีทรัพยากรอยู่เป็นจำนวนมาก มันก็ยังจำเป็นต้องใช้เวลา โดยปกติแล้วเผ่าพันธุ์ชั้นสูงจะกลายเป็นดยุกได้ในช่วงเวลาหลายสิบปี ส่วนเผ่าพันธุ์ที่ต่ำต้อยกว่านั้นอาจจะต้องใช้เวลาทั้งศตวรรษเพียงเพื่อจะก้าวสู่ระดับดยุก
ที่หานเซิ่นสามารถก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วนั้นเป็นเพราะเขาสามารถดูดซับพลังน้ำแข็งของคางคกระดับเทพเจ้าได้ ซึ่งโอกาสแบบนั้นถือเป็นอะไรที่หาได้ยาก
หานเซิ่นไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับวิชากายหยกมากนัก แต่ที่เขากังวลที่สุดก็คือเรื่องราวของยีน ในตอนนี้มันไม่มีทรัพยากรพิเศษอะไรที่เขาจะดูดซับเข้าไปได้ ดังนั้นทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างช้าๆ แต่ไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหน เขาก็ไม่รู้สึกว่าวิชาเรื่องราวของยีนก้าวหน้าขึ้นเลย
หานเซิ่นได้ยินข่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากเหตุการณ์เกี่ยวกับเดสทรอยเยอร์ไบเบิลในครั้งนั้น และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้ การค้นหาของหลายเผ่าพันธุ์นำไปสู่การพบตัว 2 พี่น้องจิ้งจอกในที่สุดและยืนยันว่าเดสทรอยเยอร์ไบเบิลถูกชิงไปโดยหนึ่งในคนของเอ็กซ์ตรีมคิง ซึ่งหลังจากที่รู้อย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าทำการสืบสวนต่อ แม้แต่ทางเดสทรอยเยอร์เองก็ไม่กล้าพอจะไปถามทางเอ็กซ์ตรีมคิงเกี่ยวกับเดสทรอยเยอร์ไบเบิล
หานเซิ่นคิดว่ามันอาจจะมีปัญหาบางอย่างตามมา แต่ดูเหมือนว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลงเพียงแค่นั้น
‘ดูเหมือนว่าเราจะประเมินเอ็กซ์ตรีมคิงต่ำเกินไป เดสทรอยเยอร์ไม่กล้าแม้แต่จะเรียกร้องอะไร’ หานเซิ่นคิด
ดูเหมือนว่าผู้หญิงจากเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นจะกลายเป็นแพะรับบาปอย่างสมบูรณ์แบบ แต่หานเซิ่นก็รู้ว่าต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น และไม่ปล่อยให้ทางเอ็กซ์ตรีมคิงได้รู้ความจริงว่าจริงๆดอลลาร์ก็คือหานเซิ่น