Super God Gene – ตอนที่ 2482
“ถ้าเขาเป็นเจ้านายของเทพทั้งปวง อย่างนั้นข้าก็เป็นพ่อของเทพทั้งปวง” ยอดฝีมือระดับราชันคนหนึ่งหัวเราะจนท้องแข็ง
ยอดฝีมือคนอื่นก็พูดอะไรที่เหมือนๆกัน พวกเขาเพลิดเพลินกับการเย้ยหยันหานเซิ่น และด้วยสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนวิดีโอถ่ายทอดสด มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะทำอะไรแบบนั้น มันเหมือนกับว่ามีคนบ้า 2 คนกำลังแสดงตลกให้ดู
แต่ในวินาทีต่อมา รอยยิ้มของพวกเขาก็ค้างไป มือของหานเซิ่นเรืองแสงสีแดงขึ้นมา และจุดตามร่างกายของเลอตู้ก็ลุกไหม้ด้วยแสงสีแดงนั่น ร่างกายทั้งร่างของเขาลุกโชติช่วงด้วยเปลวไฟสีแดงที่รุนแรง
ในขณะเดียวกันพลังชีวิตที่น่ากลัวก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเลอตู้ราวกับการปะทุของภูเขาไฟ
ในชั่วพริบตา ร่างกายที่บาดเจ็บของเลอตู้ก็ฟื้นตัวกลับมา รอยสักมังกรนรกปีศาจที่เมื่อครู่นี้ดูขาดชีวิตชีวาก็กลับมาบนหลังของเขา และตอนนี้มันก็ระเบิดแสงสีม่วงออกมา เงาของมังกรสีม่วงยักษ์กลับมามีชีวิตบนหลังของเลอตู้อีกครั้ง และมันก็ดูเจิดจ้ายิ่งกว่าก่อนหน้านี้ซะอีก
ผู้ชมทุกคนมองไปที่หน้าจออย่างไร้การเคลื่อนไหว ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ดวงตาของดราก้อนวันเบิกกว้าง เขาไม่สามารถเชื่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้
บนแผ่นหลังของเลอตู้มีรอยแผลเป็น 2 รอย พวกมันเป็นแผลที่เกิดขึ้นในตอนที่ปีกของเขาถูกฉีกออกไป ตำนานบอกไว้ว่าเขาต้องสาบในตอนที่อาจารย์ของเขาฉีกพวกมันออกไป และพวกมันก็จะไม่มีวันงอกกลับมาใหม่
แต่ในตอนนี้มีกระดูกงอกออกมาจากหลังของเลอตู้และเนื้อหนังก็ค่อยๆก่อตัวขึ้นเพื่อสร้างเป็นปีกมังกรสีม่วงอันใหม่ ขณะที่ปีกงอกออกมาจากแผ่นหลังของเลอตู้ รอยสักมังกรนรกปีศาจก็งอกปีกออกมาเช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้รอยสักมังกรนรกปีศาจเสร็จเพียงแค่ครึ่งเดียว แต่ในตอนนี้ดราก้อนวันสัมผัสได้ว่ามันไม่ได้มีข้อบกพร่องอีกต่อไป พลังชีวิตของมันที่แผ่รัศมีออกมานั้นมากพอที่จะทำให้ผู้คนสั่นกลัว การได้เห็นสมบัติระดับเทพเจ้าที่มีพลังขนาดนี้เป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ
“นี่…นี่มันเป็นไปไม่ได้! รอยสักมังกรนรกปีศาจเสร็จสมบูรณ์แล้ว…”
ดราก้อนวันตกตะลึง เขาจ้องมองไปที่หน้าจอด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
แต่เขาไม่ได้มองไปที่เลอตู้ และเขาก็ไม่ได้มองไปที่รอยสักมังกรนรกปีศาจเช่นกัน เขากำลังมองหานเซิ่นที่ยื่นมือออกไปสัมผัสหน้าผากของเลอตู้
ในความจริงแล้วทุกคนที่ดูการถ่ายทอดสดต่างก็จ้องมองไปที่หานเซิ่นด้วยความตกใจอย่างที่สุด พวกเขาสัมผัสได้ว่าเลอตู้เปลี่ยนไปเป็นบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ทั้งจักรวาลจีโนหยุดนิ่ง ขณะที่ทุกสิ่งมีชีวิตที่มองดูการถ่ายทอดสดอยู่ตกตะลึง
ในจังหวะนั้นบุคคลทั้ง 2 กลายเป็นศูนย์กลางของจักรวาล หนึ่งในพวกเขาปลดปล่อยพลังชีวิตที่น่ากลัวออกมา ขณะที่อีกคนเป็นเหมือนกับบิดาของเทพทั้งปวง เขายืนอยู่ตรงหน้าเลอตู้เหมือนกับเทพที่กำลังมอบพรให้กับผู้ศรัทธาของเขา
หานเซิ่นรู้สึกดีใจอย่างมากกับเรื่องนี้ เขาไม่ใช่เทพและเขาก็ไม่ได้มีพลังศักดิ์สิทธิ์อะไรที่จะมอบให้เลอตู้
เขาแค่กำลังใช้พลังของอาณาเขตโลหิตชีพจรเท่านั้น
ก่อนหน้านี้หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้ และเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมอาณาเขตโลหิตชีพจรถึงไม่กระตุ้นการเคลื่อนไหวของฟันเฟืองจักรวาลอื่นที่อยู่รอบๆ แต่ทว่าในตอนที่เขาสัมผัสยูนิคอร์นตัวหนึ่ง เขาก็รู้สึกตัวว่าพลังของอาณาเขตโลหิตชีพจรคืออะไร
ฟันเฟืองจักรวาลของวิชาโลหิตชีพจรไม่สามารถเคลื่อนฟันเฟืองอื่นได้ ไม่ว่าพวกมันจะเล็กหรือเบาสักแค่ไหน แต่ทว่ามันสามารถหมุนฟันเฟืองจักรวาลของคนอื่นได้
ใช่แล้ว มันสามารถหมุนฟันเฟืองของสิ่งมีชีวิตอื่น ฟันเฟืองจักรวาลของโลหิตชีพจรสามารถเชื่อมต่อกับฟันเฟืองของคนอื่นๆที่หานเซิ่นสัมผัสได้
หานเซิ่นใช้ฟันเฟืองจักรวาลของวิชาโลหิตชีพจรเพื่อเชื่อมต่อกับฟันเฟืองของเลอตู้ เขาหมุนฟันเฟืองของตัวเองและใช้พลังของมันเพื่อส่งผลต่อฟันเฟืองจักรวาลของเลอตู้
แต่หานเซิ่นไม่ได้ทำเพียงแค่หมุนฟันเฟืองจักรวาลของเลอตู้เพื่อปลดปล่อยพลังของเขาออกมามากขึ้น การกระทำของหานเซิ่นยังช่วยปลุกพลังที่แฝงอยู่ในสายเลือดของเลอตู้ด้วย
ฟันเฟืองจักรวาลของวิชาโลหิตชีพจรนั้นไม่ได้ทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นแข็งแกร่งขึ้น แต่มันจะปรับปรุงข้อบกพร่องในยีนของสิ่งมีชีวิตนั้นๆและมันยังปลุกยีนที่ถูกซ่อนอยู่ด้วย
ฟันเฟืองจักรวาลของวิชาโลหิตชีพจรจะได้ผลดีขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับยีนที่ซ่อนอยู่ในสิ่งมีชีวิตนั้นๆ
แร่เหล็กนั้นสามารถนำไปหลอมเป็นเหล็กได้ แต่มันไม่สามารถเปลี่ยนไปเป็นทองได้ ในทางเดียวกันพลังอาณาเขตของโลหิตชีพจรก็สามารถแก้ไขข้อบกพร่องและช่วยสิ่งมีชีวิตอื่นให้พัฒนาตามธรรมชาติของตัวเองได้ พวกมันจะกลายเป็นเหล็ก เป็นเงินหรือเป็นทอง ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับสิ่งมีชีวิตนั้นๆ
แต่จากสายตาคนนอกแล้ว มันดูเหมือนกับว่าวิชาโลหิตชีพจรของหานเซิ่นนั้นเร่งการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
มันเหมือนกับว่าถ้าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนบกถูกบังคับให้ไปอยู่อาศัยในมหาสมุทร ซึ่งถ้ายีนของพวกเขามีศักยภาพที่มีประโยชน์ต่อการอาศัยอยู่ภายในน้ำ หลังจากที่ผ่านไปล้านปีของการวิวัฒนาการ พวกมันก็อาจจะหายใจทางเหงือกได้เหมือนกับปลา
แต่ทว่าวิชาโลหิตชีพจรสามารถเร่งกระบวนการทั้งหมดนั่นได้ ความเปลี่ยนแปลงที่ปกติอาจจะต้องใช้เวลาเป็นพันๆปีตอนนี้เกิดขึ้นในไม่กี่วินาที
แน่นอนว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับยีนและพลังที่ถูกซ่อนอยู่ในสิ่งมีชีวิตนั้นๆ วิชาโลหิตชีพจรไม่สามารถเปลี่ยนก้อนหินให้กลายเป็นทองคำได้
แต่วิชาโลหิตชีพจรเมื่อถูกใช้กับเลอตู้ มันก็มอบผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ มันได้ผลดีกว่าที่หานเซิ่นคิดเอาไว้เป็นร้อยเท่า
หานเซิ่นคิดแค่ว่ามันอาจจะช่วยผลักดันให้ฟันเฟืองจักรวาลของเลอตู้ทำงานจนถึงขีดสุด และทำให้ร่างกายของเขากลับมาอยู่ในสภาพที่พร้อมจะต่อสู้
ฟันเฟืองจักรวาลของเลอตู้นั้นหนักมากๆ หานเซิ่นใช้แรงทั้งหมดเพื่อจะผลักดันให้ฟันเฟืองของเลอตู้หมุนเร็วขึ้นเพียงเล็กน้อย
แต่ใครจะรู้ว่าฟันเฟืองจักรวาลของเลอตู้นั้นจะเริ่มหมุนเร็วขึ้นด้วยตัวของมันเอง? แม้แต่รอยสักมังกรนรกปีศาจก็เกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
นี่ทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ เพราะพลังอาณาเขตขั้นแรกของโลหิตชีพจรเป็นอะไรที่จำกัด หานเซิ่นเพิ่งจะเริ่มใช้อาณาเขตของมัน ดังนั้นการผลักดันฟันเฟืองของสิ่งมีชีวิตระดับราชันนั้นน่าจะเป็นขีดจำกัดที่เขาจะทำได้แล้ว
รอยสักมังกรนรกปีศาจนั้นเป็นระดับเทพเจ้า จากความเข้าใจพื้นฐานของการทำงานของอาณาเขตโลหิตชีพจร เขาไม่ควรจะช่วยผลักดันมันได้
แต่เมื่อฟันเฟืองจักรวาลของเลอตู้เร่งความเร็วขึ้น รอยสักมังกรนรกปีศาจก็เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างน่าอัศจรรย์ ข้อบกพร่องที่อยู่มานานของรอยสักมังกรนรกปีศาจตอนนี้ได้หายไปแล้ว และมันก็กลายเป็นรอยสักที่สมบูรณ์แบบ
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือยีนของเลอตู้นั้นถูกปรับปรุงจนสมบูรณ์แบบเช่นกัน เขากำลังจะวิวัฒนาการสู่ระดับเทพเจ้า และรอยสักมังกรนรกปีศาจก็เริ่มจะส่งอิทธิพลต่อร่างกายของเลอตู้
หานเซิ่นรู้สึกตกใจเมื่อเห็นพลังของรอยสักมังกรนรกปีศาจหลั่งไหลเข้าไปในร่างของเลอตู้และช่วยเขาให้ก้าวข้ามกำแพงสุดท้ายที่หยุดเขาเอาไว้ ทันใดนั้นเขาก็เริ่มสร้างโซ่สสารขึ้นมา เขากลายเป็นระดับเทพเจ้า
ผู้คนและสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนทั่วจักรวาลจีโนจ้องมองไปที่หานเซิ่นราวกับเป็นเทพที่ศักดิ์สิทธิ์
หลังจากที่พลังชีวิตของเลอตู้รวมเข้ากับรอยสักมังกรนรกปีศาจ มันก็พุ่งออกไปสู่ท้องฟ้า ขณะที่มีโซ่สสารที่น่ากลัวออกมาจากร่างกายของเลอตู้ ในตอนนี้เลอตู้ดูเหมือนกับสิ่งมีชีวิตจากสรวงสวรรค์ที่ทรงพลัง ทุกคนที่เห็นรู้สึกว่างเปล่า พวกเขาไม่สามารถเชื่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้
พวกเขาคิดเหมือนๆกันว่า ‘เลอตู้กลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ยังไง? นี่หานเซิ่นเป็นบิดาของเทพทั้งปวงจริงๆอย่างนั้นหรอ?’