ตอนที่ 1608 ความสุขของคนรวย
หลินฮวงมุ่งตรงไปตลาดมืดหลังมื้อเย็น
มีโรงประมูลใต้ดินคืนนี้
เขาได้ยินว่าจะมีทาสของเผ่าต่างๆท่ามกลางของที่มาประมูล
หลินฮวงรู้ว่าสองพี่น้อง เซินเจวี่ยกับเชิ่งอวี่ต้องมา
มันผ่านมาสัปดาห์แล้วตั้งแต่คดีฆ่าเทพสวรรค์อย่างต่อเนื่อง
ตลอดสัปดาห์ เหตุการณ์นี้สร้างความวุ่นวายไปทั่ว
ตอนแรก คนส่วนใหญ่เดาว่าใต้สวรรค์คือคนทํา แต่ทว่า บางคนยืนยันว่าใต้สวรรค์เข้าไปในหุบเหวกับกลุ่มสํารวจและยังไม่กลับออกมา
ยังมีหลายคนที่คิดว่ามันอาจเป็นชิวมู่จากเคียวแห่งความตาย ผู้เพิ่งมีชื่อเสียงเร็วๆนี้ แต่ทว่าคนอื่นก็รีบปัดการคาดเดานี้ลง
เหนือสิ่งอื่นใด แม้หลินฮวงจะได้รับผลการต่อสู้สูงสุดภายใต้การปลอมตัวเป็นซิวมู่เมื่อสองสามเดือนก่อนเขาก็ฆ่าไปแค่เทพสวรรค์ชั้นสาม นอกจากนี้ เขาเป็นแค่เทพแท้จริง
เหยื่อหลายคนที่ตายคืออัจฉริยะจากองค์กรต่างๆและก็ติดกระดานเทพสวรรค์ ทุกคนที่สามารถติดกระดานเทพสวรรค์ได้จะถือเป็นเทพสวรรค์ขั้นเก้าชั้นนํา ความสามารถของพวกเขาไกลเกินเทพสวรรค์ชั้นเก้าทั่วไป ใครก็ตามที่ฆ่าคนเหล่านี้ได้ทันทีจะต้องเป็นกิ่งจ้าวเทวะหรือเทพสวรรค์ขั้นสูงสุดอย่างใต้สวรรค์
หลายคนไม่กังขาถึงความสามารถของซิวมู่เมื่อเขาเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ชั้นเก้าในอนาคตพวกเขายังรู้สึกว่าเขาอาจเหนือกว่าใต้สวรรค์
อย่างไรก็ตาม พูดตามตรรกะ มันผ่านมาไม่ถึงครึ่งปีตั้งแต่ซิวมู่เผยหน้าครั้งแรกในสาธารณะไม่ว่าเขาจะมีพรสวรรค์แค่ไหน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พลังต่อสู้ของเขาจะก้าวสู่ระดับใหม่ภายในเวลาอันสั้นและเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ชั้นเก้า
ชื่อซิวมู่แค่เข้าหัวทุกคนไปไม่กี่วินาทีและจากนั้นก็โดนกลบฝัง
ยังไงซะ มีองค์กรนักฆ่าอื่นในแดนเทพเช่นกัน นอกจากเคียวแห่งความตาย ยังอาจมีนักฆ่าด้านนอกแดนเทพอีกด้วย
หลังผ่านการพูดคุยอย่างกระตือรือร้นหลายวัน การหยุดชั่วคราวของหลินฮวงในการฆ่าก็ทําให้ความนิยมของหัวข้อลดลง
บนเครือข่าย ด้วยข้อมูลที่ระเบิดอย่างต่อเนื่อง ทุกคนจึงมีความจําสั้น พวกเขาโดนสิ่งใหม่มาทําให้ฟังซ่านง่ายๆ
นี่คือสิ่งที่หลินฮวงอยากให้เป็นเพราะเขารู้ว่าถ้าหัวข้อนิยมกว่าเดิม มันจะทําให้เขาฆ่าสองเป้าหมายสุดท้ายยากขึ้น
หลังเข้าโรงประมูล เขาก็พบที่นั่งตัวเองอย่างรวดเร็ว
หลังนั่งลง เขาก็เริ่มสํารวจ
โรงประมูลใต้ดินผิดกฎหมายแบบนี้จะจัดงานเป็นครั้งคราวโดยไม่มีเวลาตายตัว แต่ละครั้ง สถานที่จะถูกเช่าชั่วคราวเพื่อเลี่ยงการโดนฟ้อง
สถานที่ประมูลในตลาดมืดดาวแฝดไม่ใหญ่มากและรองรับคนได้แค่สามพันคน ยังไม่มีห้องวีไอพีอีกด้วย
มันแค่โถงโล่งที่มีที่นั่งสามสิบแถว ด้วยที่นั่งแถวละร้อย
ที่นั่งของหลินฮวงอยู่แถวสุดท้าย แถวสามสิบและก็อยู่ข้างทางเดิน ใกล้กับประตูสุด
หนึ่งในเหตุผลที่เขาเลือกที่นั่งนี้คือถ้าทุกคนนั่งหลังเขา พวกเขาจะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติถ้าเขาเคลื่อนไหวอะไร อีกเหตุผลคือตรงนี้สะดวกสุดสําหรับการออกจากโถง
เขาเลือกทําการลอบสังหารภายในงานเพราะจะมีปัจจัยไม่แน่นอนมากมายถ้าเขาพยายามฆ่าขณะที่เป้าหมายอยู่ระหว่างทางมา
ถ้าสองเป้าหมายไม่เดินทางมาพร้อมกัน เขาจะทําได้แค่ฆ่าหนึ่งในนั้นและต้องละทิ้งเป้าหมายสอง
จะไม่เกิดปัญหาแบบนั้นถ้าลอบสังหารในตัวงานเองเพราะพี่น้องต้องมาพบกันแน่ ทั้งหมดที่เขาต้องทําคือรอให้ทั้งสองปรากฏตัวอย่างอดทน
ยิ่งไปกว่านั้น ระหว่างนี้ตอนทุกคนกําลังกระวนกระวาย ฐานะกับศักยภาพ ของเซินเจวี่ยกับเซินอวีในนครหลวงเทพจะหมายความว่าเขาต้องมีผู้พิทักษ์คอยติดตาม
ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยคน มันยังง่ายที่จะดึงดูดความสนใจผู้พิทักษ์เหล่านี้
หลินฮวงมาถึงงานค่อนข้างเร็ว หลังเขาเข้า คนจํานวนมากก็เริ่มมาก่อน
พอเห็นว่าแถวแรกเต็มแล้ว หลินฮวงก็เริ่มไม่มั่นใจว่าสองพี่น้องจะมา
เหนือสิ่งอื่นใด รายชื่อแขกเป็นความลับอย่างสมบูรณ์ เขาทําได้แค่เดาว่าทั้งคู่จะปรากฏตัวเนื่องจากทาสที่งานประมูล แต่ก็ไม่ได้มั่นใจเต็มร้อย
ทันทีที่งานกําลังจะเริ่มอย่างเป็นทางการ ผู้จัดประมูลก็ขึ้นไปรอบนเวที และสุดท้ายคนสองคนก็เผยตัว
สองคนนี้คือหญิงสาวชุดเดรสขาวและชายในชุดสูทขาว
ทั้งคู่ดูคล้ายกันเก้าส่วน ทั้งหน้าตาและรูปร่างถือได้ว่าสมบูรณ์แบบจนยากหาใครเทียบ
การมาถึงของทั้งคู่ดึงความสนใจของทุกคน รวมถึงหลินฮวง
ทั้งสองไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป้าหมายที่เขาต้องฆ่า เซินเจวี่ยและเชินอวี่!
แม้จะดึงดูดความสนใจของทุกคนทันทีที่เผยตัว สีหน้าของทั้งคู่กลับไม่แปลกใจเลบ ราวกับซินกับปฏิกิริยาเช่นนี้
เป็นอวี่ควงแขนเป็นเจวี่ย และทั้งคู่ก็ค่อยๆเดินไปที่นั่งสองที่สุดท้ายบนแถวแรก ทั้งคู่ครองที่นั่งที่ดีสุดในโรงประมูล
แต่ทว่าไม่มีใครค้าน
บนดาวแฝด แม้กระทั่งนักท่องเที่ยวก็ยังรู้ว่าสองพี่น้องเป็นใคร
หลินฮวงยิ้ม เขาอาจเป็นคนที่มีความสุขสุดในงานที่เห็นสองพี่น้อง
สิ่งที่เขากังวลสุดเกี่ยวกับแผนของเขาคือถ้าสองพี่น้องไม่ปรากฏตัว ถ้าทั้งคู่ไม่มา เขาก็จะเสีย แรงเปล่าไม่ใช่แค่นั้น เขายังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสลงมือตอนไหน
สําหรับหลินฮวง การที่ทั้งคู่แสดงตัวเท่ากับการทําภารกิจเสร็จไปแล้วครั้งหนึ่ง
หลินฮวงไม่โจมตีทันทีตอนเขาเห็นสองพี่น้องกําลังนั่งคุยกัน เขากลับรออย่างอดทน
งานยังไม่เริ่ม ไม่มีใครดึงความสนใจของฝูงชนไปจากเขา มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะแก่การลงมือ
หลังเซินเจวี่ยกับเซินอวี่เข้ามา ผู้จัดประมูลก็ตรวจสอบเวลาและขึ้นเวทีไป
หลังพูดเกริ่น งานประมูลใต้ดินก็เริ่มอย่างเป็นทางการ!
“มาดูของชิ้นแรกที่เราเตรียมกันเลยครับ!” พอผู้จัดประมูลพูด เขาก็ดึงผ้าแดงที่คลุมของไว้เผยให้เห็นชุดเกราะสีทอง
หลินฮวงมองไม่เห็นว่ามันพิเศษตรงไหน มันก็แค่สมบัติลําดับเทพเกรดสูง และช่างฝีมือก็ไม่ถือว่าประณีตนัก เขาไม่รู้ว่าทําไมมันถึงมาเป็นส่วนหนึ่งของงานประมูล
แต่ทว่า เขาสังเกตเห็นว่าหลายคนดูเหมือนจะสนใจในชุดเกราะนี้
ตอนเขากําลังสงสัย สุดท้ายผู้จัดประมูลก็เริ่มแนะนําของ
“ข้ามั่นใจว่าแขกของเราหลายคนคงบอกได้ว่านี่คือชุดเกราะของแม่ทัพจากวิหารเทพนักรบแม้กระทั่งในวิหารเทพนักรบ มันก็มีแค่เทพสวรรค์ชั้นนําถึงมีสิทธิ์ซื้อ ภายใต้สถานการณ์ปกติ ของอย่างนี้จะถูกห้ามจากการจัดแสดงทุกที่ด้านนอกวิหารเทพนักรบ ดังนั้น ทั้งแดนเทพ นอกจากวิหารเทพนักรบ มันจึงบอกได้ว่ามีแค่สามคนที่มีของสะสมเช่นนี้”
“ข้าใครสงสัยว่าแขกท่านใดของเราจะอยากได้ของสะสมนี้และกลายเป็นบุคคลที่สี่ที่ครอบครองมัน”
หลังฟังคําอธิบายของผู้จัดประมูล หลินฮวงก็พลันตระหนักว่าชุดเกราะนี้คือของเถื่อนจากวิหารเทพนักรบ
องค์กรทรงพลังบางแห่งจะครอบครองอุปกรณ์พิเศษที่จํากัดให้เฉพาะคนในตัวเอง ชุดเกราะนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นหนึ่งในนั้น
เช่นนั่น มันจึงไม่ใช่การประมูลสมบัติลําดับเทพ แต่เป็นของสะสมพิเศษ
พอผู้ซื้อที่มีเงินตะโกนบอกราคากันเรื่อยๆ ราคาก็พุ่งทะยาน ภายในสิบวินาที มันก็มีรา คาสูงขึ้นเป็นสามเท่าของเกราะสมบัติลําดับเทพเกรดสูงทั่วไปและก็ยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด
ทั้งหมดที่หลินฮวงสามารถพูดได้คือความสุขของคนรวยเป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่อาจจินตนาการได้