บทที่ 56 นี่มันน่ารักเกินไปแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินขี้เกียจสนใจจิ้นเฟิงเหรา แล้วเขาก็ตอบข้อความของเจียงสื้อสื้อไป แล้วถามต่ออีกว่า “เธอจะทำอะไร?”
พอได้รับข้อความ เจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า
“ความลับค่ะ”
หลังจากนั้นเธอก็สั่งเสื้อตามไซต์ที่จิ้นเฟิงเฉินส่งมา
จิ้นเฟิงเหราขยับเข้าไปแล้วถามด้วยความอยากรู้ว่า “พี่ครับ พี่สะใภ้คุยอะไรกับพี่อะครับ? เธอถามไซต์เสื้อพี่ทำไมครับ?”
จิ้นเฟิงเฉินมองที่โทรศัพท์แล้วพูดว่า “มันเกี่ยวอะไรกับนาย?”
“………”
ถึงแม้ว่าเจียงสื้อสื้อจะบอกว่าเป็นความลับ แต่เขาก็พอเดาออก จิ้นเฟิงเฉินก็ยิ้มขึ้นมา กิจกรรมนี้ยังอีกหลายวันนะ ใจร้อนจริงๆ เลย
จิ้นเฟิงเหรารอยยิ้มบนหน้าของพี่ตัวเองแล้วรู้สึกพูดไม่ออก
“พี่ครับ พี่เปลี่ยนไปแล้ว”
เมื่อก่อนพี่ชายเขาจะไม่ดุโทรศัพท์ระหว่างงานเด็ดขาด
ยิ่งไม่มีทางที่จะยิ้มออกมา!
จิ้นเฟิงเหรานึกว่าพี่ชายเขาจะเป็นแบบนี้ตลอดไปสักอีก แต่ใครจะไปคิดว่า…. พี่สะใภ้นี่เก่งจริงๆ เลย ที่จัดการกับผู้ชายอย่างพี่ชายเขาได้
……………….
เที่ยงวันถัดมา เสื้อที่เจียงสื้อสื้อสั่งมาถึงแล้ว
เธอโทรไปหาเสี่ยวเป่ากับจิ้นเฟิงเฉินอย่าตื่นเต้น เธอให้เขาสองคนมาลองเสื้อ
ผ่านไปสักพักสองพ่อลูกนั้นก็มาถึง
เสี่ยวเป่าหยิบเสื้อขึ้นมาเขาตื่นเต้นมาก
“โห น้าสื้อสื้อ นี่เสื้อผ้าน้าก็เตรียมไว้ให้หมดแลวหรอครับเนี่ย”
“ใช่ค่ะ เตรียมมาก่อนแล้ว ไปลองชุดนี้ว่าพอดีตัวไหม ถ้าไม่พอดีเดี๋ยวน้าเอาไปเปลี่ยนไซต์อื่นมา”
“ครับ!”
พูดจบเสี่ยวเป่าก็หยิบเสื้อแล้วเดินเข้าไปเปลี่ยนในห้อง
จิ้นเฟิงเฉินยืนมองเสื้อหมาป่าของตัวเองอยู่ข้างๆ สีหน้าเขาดูอยากที่จะอธิบายเป็นคำพูดได้
“ฉันไม่ลองละกันนะ” จิ้นเฟิงเฉินพูดเบาๆ
“อย่าสิ ถ้าเกิดว่าสั่งผิดไซต์มาทำไงเนี่ย”
แต่เสื้อหมาป่านี่มัน……..ไม่ค่อยเข้ากับความเท่ๆ เย็นชาของเขาเอาซะเลย แต่เจียงสื้อสื้ออยากเห็นมากเลยว่าเขาใส่แล้วมันจะเป็นยังไง
เธอพยายามอ่านสีหน้าจิ้นเฟิงเฉิน แล้วก็กลั้นขำไว้ แล้วพูดต่อว่า “นายก็ลองใส่หน่อยนะ”
“ไม่เอา” มีบางคนปฏิเสธเขาไปแบบอ้อนๆ
ขณะเดียวกัน เสี่ยวเป่าเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้วก็เดินออกมา
“น้าสื้อสื้อ สวยไหมครับ?” เขาถาม
เจียงสื้อสื้อมองไปที่เขา แล้วรู้สึกสะดุดตามาก เสี่ยวเป่าดูน่ารักน่าเอ็นดูอยู่แล้ว พอใส่ชุดหนูน้อยหมวกแดงเข้ายิ่งน่ารักไปใหญ่เลย
“สวยสิคะ เสี่ยวเป่าของเราน่ารักที่สุดแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่ข้างๆ แล้วค่อยๆ เก็บเสื้อหมาป่าเข้าไป
พอเจียงสื้อสื้อเห็น ก็รีบเอ่ยปากถามว่า “นายไม่ลองจริงๆ หรอ?”
“ไซต์พอดีตัวแล้ว ไม่ลองแล้ว รอวันงานค่อยใส่เนอะ”
ก็จริง รอถึงวันงานก็จะเห็นจิ้นเฟิงเฉินใส่ชุดนี้แล้ว ตอนนี้ไม่ต้องรีบก็ได้ ถึงแม้ว่าเจียงสื้อสื้อจะรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้บังคับเขา
หลังจากนั้นเธอก็ดึงเสี่ยวเป่ามา แล้วถ่ายรูปไปหลายรูป
มองดูรุปที่ถ่ายแล้วเจียงสื้อสื้อชมใหญ่เลยว่า “เสี่ยวเป่าของเรานี่มันน่ารักจริงๆ เลย”
เจียงสื้อสื้อเลือกรูปมาสองสามรูป แล้วโพสลงไป ผ่านไปสักพัก ก็มีเพื่อนร่วมงานมาเม้นว่า “น่ารักเกินไปแล้ว”
“สื้อสื้อ นี่ลูกบ้านไหนเนี่ย ดูหน้านิมๆ นี่สิ อยากบีบแก้มมากเลย”
“สื้อสื้อ เด็กคนนี้หน้าเหมือนเธอจัง นี่เธอไปแอบพวกเรามีลูกรึเปล่าเนี่ย??”
พอเห็นคอมเม้นนี้แล้ว เจียงสื้อสื้ออึ้งไปสักพัก แล้วมองไปที่เสี่ยวเป่า
เขาสองคนเหมือนมากเลยหรือ? หรือว่านี่คือพรหมลิขิต? ไม่น่าล่ะเสี่ยวเป่าถึงชอบเธอขนาดนี้
ผ่านไปสักพัก จิ้นเฟิงเหราก็แชร์รูปไปแล้วเขียนต่อว่า “โอ้โห เสี่ยวเป่าของเรานี่มันเทพบุตรชัดๆ เลยนี่นา”
หลังจากที่แชร์รูปแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็ส่งข้อความวีแชทไปถามจิ้นเฟิงเฉิน
“พี่ครับ เสี่ยวเป่าน่ารักเกินไปแล้ว นี่พี่อยู่ไหนครับ? จะไปร่วมงานอะไร? ทำไมไม่พาผมไปด้วย?”
จิ้นเฟิงเฉินสงสัยว่าทำไมจิ้นเฟิงเหราถึงเห็นรูปได้ เขาเปิดหน้าฟีดมา แล้วเห็นรูปที่น้องชายตัวเองแชร์ แถมยังมีคอมเม้นของพ่อกับแม่เขาด้วย
“ทำไมอยู่ดีๆ มาแต่งตัวแบบนี้ล่ะ? เสี่ยวเป่านี่น่ารักเกินไปแล้ว”
“ตอนนี้เสี่ยวเป่าอยู่ไหน? ฉันกับย่าจะไปหาเขา”
หลังจากนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็เปิดไปเจอโพสของเจียงสื้อสื้อ
เขาแบะปากเล็กน้อย แล้วรู้สึกเสียดายทีหลังที่เมื่อกี้ตัวเองไม่ยอมใส่ชุดนั้น ไม่งั้นก็คงได้ถ่ายรูปกับเจียงสื้อสื้อแล้วโพสบ้าง
ขณะนี้เจียงสื้อสื้อ กำลังเร่งตอบคอมเม้น ไม่ได้คิดเลยว่าจิ้นเฟิงเฉินกำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากนั้น พวกเขาก็ซ้อมละครกันไปสักพัก
ตกเย็นมาเจียงสื้อสื้อก็ส่งสองพ่อลูกนั้นกลับบ้าน แล้วซักผ้าต่อ เสร็จก็นอนเลย
……………….
แต่ทางตระกูลจิ้น ปูกับย่ารีบมาที่บ้านมาเยี่ยมเสี่ยวเป่าจริงๆ
พอได้ข่าวว่าจิ้นเฟิงเฉินจะร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนกับเสี่ยวเป่า คุณหญิงจิ้นตกใจมาก
“นี่นายปลงแล้วหรือ? ยอมไปร่วมกิจกรรมกับลูกสักที”
จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ตอบ ทำไมพูดเหมือนเขาไม่รับผิดชอบอะไรเลย?
“แน่นอนสิครับ พี่สะใภ้ผมก็เข้าร่วม พี่ผมจะไม่ไปได้ไง?” คนที่พูดคือจิ้นเฟิงเหรา
คุณท่านจิ้นถาม “ผู้หญิงคนนั้นก็ร่วมกับเสี่ยวเป่าของเราด้วยหรอ เฟิงเฉินนายดีกับเธอแล้วหรอ?”
เมื่อไหร่จะพามาให้พวกเราดู?
ผู้หญิงแบบไหนกันถึงทำให้ลูกชายกับหลานชายตัวเองชอบได้ขนาดนี้
ทั้งคู่ก็เริ่มเร่งให้เขาแต่งงานอีกแล้ว
“ใช่ใช่ พากลับมาให้เราดุหน่อย ถ้าเข้ากันดีก็ขอเขาแต่งงานเลย ได้เวลาที่จะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ให้เสี่ยวเป่า”
ใช่แล้ว ฉันกับพ่อเธอต้องเตรียมสินสอดไว้ก่อนไหม
“พ่อครับ แม่ครับ พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมคิดของผมเองไว้แล้ว ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสมผมจะพาเธอมาเจอพวกท่านเอง”
จิ้นเฟิงเฉินนวดไปที่หัว พาเจียงสื้อสื้อกลับมาเจอพ่อแม่ตัวเองตอนนี้เนี่ยนะ? เดี๋ยวทำเธอตกใจแล้วหนีไปจะทำยังไง
“เวลาที่เหมาะสมนี่เวลาไหน? นายเร่งมือหน่อยไม่ได้หรอ”
จิ้นเฟิงเหรานั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ
คุณหญิงจิ้นหัวไปมองเขา “นายอีกคน หัวเราะอะไร! ขนาดพี่ชายนายยังมีคนที่ชอบแล้ว เมื่อไหร่นายจะพาผู้หญิงกลับมาสักที?”
จิ้นเฟิงเหราเกร็งขึ้นมาทันที นี่กำลังพูดถึงพี่เขา แล้วมาเกี่ยวอะไรกับเขา
………………
หลังจากนั้นมาไม่กี่วันนี้ เจียงสื้อสื้อยุ่งมาก
เธอทำงานถึงดึกทุกวัน แทบจะไม่ค่อยได้เจอจิ้นเฟิงเฉินกับเสี่ยวเป่าเลย เพราะเอาแต่ทำงาน
เจียงสื้อสื้อทำแผนงานวันเกิดของเสี่ยวเป่าเสร็จสักที
มองดูแผนงานที่ตัวเองทำขึ้น เจียงสื้อสื้อโล่งอก
ทันใดนั้น โทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น เสี่ยวเป่าเป็นคนโทรมา เจียงสื้อสื้อรับโทรศัพท์
“ฮาโหล น้าสื้อสื้อ พรุ่งนี้ก็วันงานแล้วครับ น้าอย่าลืมนะ!”
“ค่ะ น้าไม่ลมหรอก!” เจียงสื้อสื้อยิ้มพร้อมตอบ
“แฮะๆ” เสี่ยวเป่ายิ้มอย่างมีความสุข