ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 110 ฉวยโอกาสเข้าหาเวลาที่อ่อนแอดีที่สุด

บทที่ 110 ฉวยโอกาสเข้าหาเวลาที่อ่อนแอดีที่สุด

บทที่ 110 ฉวยโอกาสเข้าหาเวลาที่อ่อนแอดีที่สุด

จิ้นเฟิงเหราเดินเข้าไปหน้าโต๊ะทำงาน เอ่ยปากถามว่า “พี่ นี่เป็นอะไรอีก?”

จิ้นเฟิงเฉินก้มหน้า ไม่สนใจสิ่งที่เขาพูด แต่เอ่ยปากถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ตอนนี้งานในมือมีที่ยังทำไม่เสร็จไหม ถ้ามีให้เอามา”

จิ้นเฟิงเหราในใจเย็นวาบ พี่ชายคนนี้กินยาอะไรผิดมาหรือเปล่า

“ไม่เป็นไรพี่ งานแค่นั้นผมทำเองได้ แต่ว่าพี่น่ะ ไม่ได้นอนไม่ได้พักเลย ระวังร่างกายจะทรุดเอานะ”

พูดแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็เดินเข้าไป หยิบบุหรี่ข้าง ๆ เขาอย่างระวัง

จิ้นเฟิงเฉินจ้องมาที่เขา พูดเสียงเย็นชาว่า “ไม่มีอะไรก็ออกไป”

ดูสีหน้าเย็นชาของพี่ชายเขาแล้ว จิ้นเฟิงเหราได้กลิ่นอันตรายลอยมาในอากาศ ตกใจจนไม่กล้าพูดอะไร แล้วรีบออกมา

เดินมาถึงหน้าประตู แล้วรีบหายใจลึก ๆ จิ้นเฟิงเหราถึงได้โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ก็ยังดีดีอยู่ เกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่ชายถึงโกรธขนาดนี้

เมื่อก่อนแม้ว่าจะโกรธ แต่ยังไงก็ยังบอกว่าเพราะอะไร แต่วันนี้…… พี่ชายเขาไม่ได้พูดอะไรเลย! ไม่รู้สาเหตุแล้วเขาจะช่วยแก้ปัญหาให้ได้ยังไงล่ะ!

จิ้นเฟิงเหราหน้าครุ่นคิด ในใจก็คิดว่า เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเจียงสื้อสื้อแน่ ๆ ไม่งั้นเขาเองก็คิดไม่ออกว่าเป็นเพราะอะไร

จิ้นเฟิงเหราเดิมทีก็ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ตอนนี้ก็ทนไม่ได้ เขารีบออกจากบริษัท ขับรถตรงไปที่ บริษัทจิ่นเส้อ

พนักงานในจิ้นกรุ๊ปไม่มีใครไม่รู้ว่าวันนี้ประธานจิ้นอารมณ์์ไม่ดี เพราะฉะนั้นก็ไม่มีใครกล้าไปทำให้ไม่พอใจ

ในห้องพักผ่อน เลขาหลายคนก็พูดคุยกันต่าง ๆ นา ๆ

“พวกเธอว่าวันนี้ประธานจิ้นเป็นอะไรไป? เมื่อกี๊ฉันเห็นคุณชายรองจิ้นสีหน้างง ๆ ออกมาจากห้อง ดูแล้วก็คงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!”

“คงไม่ใช่ว่าอกหักหรอกนะ !ได้ยินมาว่าประธานจิ้นมีคนที่ชอบอยู่แล้ว! ได้ข่าวว่าผู้หญิงคนนั้นยังไปร่วมงานวันเกิดของคุณชายน้อยด้วย ประธานจิ้นยังคอยตามดูแลเธอตลอดเลยด้วยนะ!”

“ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน ผู้หญิงคนนั้นตกน้ำ เหมือนว่าประธานจิ้นยังโดดลงไปช่วยเธอเลย!”

“โอ้โห จริงหรือนี่ ประธานจิ้นมีคนที่ชอบอยู่แล้วหรือ”

……

ตอนที่ทุกคนพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงลอยมาว่า

“พวกเธอพูดเหลวไหลอะไรกัน! ระวังประธานจิ้นมาได้ยินเข้า แต่ละคนยังอยากจะทำงานที่จิ้นกรุ๊ปกันไหม” คนที่พูดคือเสี่ยวหรัว ข้าง ๆ เธอคือ ซูชิงหยิน

ทุกคนต่างก็ไม่กล้าพูดอะไรแล้ว เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่า ซูชิงหยินชอบจิ้นเฟิงเฉิน ทุกคนก็ทักทายอย่างอึดอัดเสร็จแล้วก็ออกไปจากห้อง

เสี่ยวหรัวมองตามหลังคนพวกนั้น พูดอย่างโมโหว่า “พี่ชิงหยิน พี่อย่าไปฟังคนพวกนี้พูดจาเหลวไหล พวกนี้ก็แค่ว่างเกินไป วันทั้งวันก็ได้แต่นั่งเม้าท์เรื่อยเปื่อย ประธานจิ้นจะมีคนที่ชอบได้ยังไง ถ้าหากว่ามีคนคนนั้นก็ต้องเป็นพี่ชิงหยิน”

สายตาของซูชิงหยินเป็นประกาย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เธอมองไปที่ห้องทำงาน วันนี้จิ้นเฟิงเฉินอารมณ์์ไม่ดี หรือว่าจะเป็นเพราะเจียงสื้อสื้อ? ซูชิงหยินบีบมือแน่น เขาจะแคร์เจียงสื้อสื้อได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ?

ในใจก็โมโห แต่ไม่นาน ซูชิงหยินก็คิดได้ว่า ในเมื่อจิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อ มีปัญหากัน นั่นไม่เท่ากับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการจะเข้าหาหรือ สักพัก เธอก็ยิ้มที่มุมปาก

……

พอถึงเวลาเที่ยง ซูชิงหยินซื้ออาหารเที่ยงจากข้างนอกมาชุดหนึ่ง ส่งไปที่ห้องทำงาน

จิ้นเฟิงเฉินกำลังสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา เขาใส่เชิ๊ตสีขาว คอปกเผยอออกเล็กน้อย แววตาก้มต่ำ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร

ควันคละคลุ้งไปทั่วห้อง ซูชิงหยินขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอวางอาหารกลางวันไว้ที่โต๊ะ แล้วพูดว่า “เฟิงเฉิน ฉันเอาอาหารกลางวันมาให้ ทานก่อนสิ สูบบุหรี่น้อย ๆ หน่อย มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ”

จิ้นเฟิงเฉินตอบอย่างเรียบเฉยว่า “อืม”

จริง ๆ เขาใจเย็นลงแล้ว เพราะว่าไม่สบายใจหงุดหงิด เลยสูบบุหรี่ แล้วใช้งานมาทำให้ตัวเองด้านชา

ทำแบบนี้เขาถึงจะไม่ต้องคิดถึงเจียงสื้อสื้อ

ดูท่าทีเฉยชาของเขาแล้ว ซูชิงหยินไม่พอใจ ยิ้มและพูดว่า “ไม่สบายใจ ไปคอนเสิร์ตไหม คืนนี้มีวงออร์เคสตราจากเวียนนาที่โรงละคร คุณน่าจะชอบ ฉันมีตั๋วสองใบพอดีเลย”

พูดจบ ซูชิงหยินมองไปที่เขาอย่างมีความหวัง

จิ้นเฟิงเฉินลุกขึ้น ดับบุหรี่ พูดอย่างเรียบเฉยว่า “ไม่ล่ะ คุณไปชวนคนอื่นไปกับคุณเถอะ”

พูดจบ สายตาของซูชิงหยินก็ผิดหวัง เธอยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ได้ยินจิ้นเฟิงเฉินพูดว่า “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปก่อน ผมยังมีงานต้องทำ”

ได้ยินแล้ว ซูชิงหยินก็ต้องหยุดพูดไป แต่ดูออกว่า จิ้นเฟิงเฉินนั้นอารมณ์์ไม่ดีจริง ๆ เธอเองก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก จึงเดินออกมาจากห้องทำงาน

ยืนที่หน้าประตู สีหน้าซูชิงหยินนั้นยังไม่อยากยอมแพ้ เธอกัดฟัน ช่างเถอะ ไม่ว่าจะยังไง จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อก็มีปัญหากันแล้ว ไม่แน่ทั้งสองคนอาจจะเลิกกันแล้ว

โอกาสของเธอยังมีอีกมาก ไม่ได้มีแค่โอกาสครั้งนี้ครั้งเดียว

……

เพราะเมื่อคืนไม่ได้หลับอย่างเต็มที่ วันนี้เจียงสื้อสื้อเองตอนทำงานก็ใจไม่อยู่กับตัว งานหลายอย่างจึงมีปัญหามากมาย เช่น เมื่อสักครู่ซูซานใช้ให้ไปเอาเอกสารเธอก็เอามาผิด

“สื้อสื้อ วันนี้เธอเป็นอะไรไป? คงจะไม่ใช่….อกหักหรอกนะ?” ซูซานเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

ยังไงเสียเธอก็มาจากจิ้นกรุ๊ป เพราะฉะนั้นซูซานได้ยินข่าวแต่เช้าแล้วว่า วันนี้ประธานจิ้นนั้นอารมณ์์ไม่ดีมาก

แล้วมาดูสภาพของเจียงสื้อสื้อวันนี้ ซูซานจึงสงสัยว่าทั้งสองคนมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า

ได้ยินแล้ว เจียงสื้อสื้อรีบตอบว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่ค่ะ ผู้จัดการซู เมื่อคืนฉันแค่หลับไม่สนิทค่ะ”

พูดแล้ว เธอเองก็รู้สึกผิดและละอายใจ เป็นเพราะว่าเธอคิดถึงเรื่องของจิ้นเฟิงเฉิน ทำให้งานมีปัญหา จะเป็นแบบนี้ไม่ได้อีก!

ซูซานมองเธออย่างสงสัย จึงพูดไปว่า “เธอว่าสภาพนี้เหมือนคนนอนไม่พอหรือ อย่ามาหลอกฉันเลย ทะเลาะกับแฟนใช่ไหม ใช่คนที่ดื่มเหล้าเมาที่หน้าห้องนั่นหรือเปล่า?”

เจียงสื้อสื้อหัวเราะอย่างอึดอัด พูดว่า “ไม่ใช่ค่ะ ผู้จัดการซู คุณเข้าใจผิดแล้ว”

จิ้นเฟิงเฉินจะเป็นแฟนเธอได้ยังไงกัน! สายตาของเจียงสื้อสื้อดูเสียใจ

“ฉันไม่เชื่อ สื้อสื้อ ฟังฉันนะ ถ้าชอบก็ต้องไปสู้เพื่อให้ได้มา ไม่มีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้หรอก เอาล่ะ วันนี้เธอไปพักเถอะ พักผ่อนให้สบาย เข้าใจไหม?”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะผู้จัดการซู”

เจียงสื้อสื้อเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ หลังพูดจบ ก็เดินออกจากห้องทำงานของผู้จัดการซู

เก็บข้างของ เจียงสื้อสื้อก็ถอนหายใจอีกครั้ง เธอก็อยากจะสู้นะ แต่ว่าปัญหาระหว่างเธอกับจิ้นเฟิงเฉินนั้น ไม่มีทางแก้ไขได้เลย……

พวกเขาห่างกันไกลแสนไกล และยังมีเรื่องอุ้มบุญ เรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะยังไง คนทั้งสองคนก็คงไม่มีทางได้อยู่ด้วยกัน

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท