ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1158 เธอกำลังโทษตัวเอง ใช่ไหม?

บทที่ 1158 เธอกำลังโทษตัวเอง ใช่ไหม?

ดูกู้เนี่ยนเดินจากไป ฟางยู่เชินก็ดึงสายตากลับมา มองไปที่เจียงสื้อสื้อ “ขึ้นไปพักผ่อนข้างบน เรื่องอื่นพวกพี่จัดการเอง”

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “อืม ได้”

พอเธอขึ้นไป ก็เหลือแค่ฝู้จินเหวินและฟางยู่เชิน

“วันนี้ต้องขอบคุณมากจริงๆ” ฟางยู่เชินพูด “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ พวกเราคงออกจากร้านอาหารไม่ได้แน่”

ฝู้จินเหวินยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร

ฟางยู่เชินคิดถึงเขาเข้าร่วมทีมวิจัยของเบอร์เกน ก็รู้สึกกังวล “วันนี้คุณทำแบบนี้ ผมคิดว่าเบอร์เกนคงไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

“ไม่เป็นไร” ฝู้จินเหวินยักคิ้ว “เขาทำอะไรผมไม่ได้”

“ออ? คือยังไง?” ดูท่าทางเขามั่นใจมาก ฟางยู่เชินก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา

“กาแฟที่เขาดื่มวันนี้ ผมวางยาในนั้น” ฝู้จินเหวินพูดอย่างใจเย็น เหมือนกับพูดเรื่องทั่วไปเรื่องหนึ่ง

ฟางยู่เชินรู้สึกแปลกใจมาก “วางยา?”

“อืม มีเพียงผมเท่านั้นที่มียาแก้พิษ” ฝู้จินเหวินหรี่ตาลง สายตาเย็นชา “เขาคงไม่เคยคิดเลยว่า วันหนึ่งจะโดนคนอื่นเล่นงานบ้าง”

เบอร์เกนเป็นคนยโสเย่อหยิ่งมาก ถ้าหากรู้ว่าตัวเองถูกวางยา ต้องโมโหมากแน่

ฟางยู่เชินหัวเราะ “ถ้าอย่างนั้น สื้อสื้อก็ปลอดภัยชั่วคราวแล้ว”

“แต่พวกเราจะชะล่าใจไม่ได้”

“ผมรู้”

ทั้งสองเงียบไปสักพัก ฝู้จินเหวินก็เปิดปากพูด “ผมต้องไปแล้ว มีอะไรก็ติดต่อผมได้”

ฟางยู่เชินพยักหน้า “ครับ คุณก็ระวังตัวด้วย”

ฝู้จินเหวิน “อืม” จากนั้นก็จากไป

ฟายู่เชินถอนหายใจยาว เขาหันตัวเดินขึ้นชั้นสอง ใบหน้าอันหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยความกังวล

ตอนนี้ไม่ได้ข้อมูลว่าจิ้นเฟิงเฉินอยู่ไหน สื้อสื้อต้องผิดหวังแน่นอน

ถึงแม้ว่าเวลาอยู่ต่อหน้าพวก เธอยังคงยิ้มได้ แต่ว่าเท่าที่เขารู้จักเธอแล้ว ในใจคงรู้สึกเสียใจมาก

คิดถึงจุดนี้ เขาก็รู้สึกกังวล รีบวิ่งขึ้นชั้นสอง

……

เจียงสื้อสื้อกลับไปห้องนอน เดินเข้าไปนั่งที่ขอบเตียง ถอนหายใจยาว ใบหน้าอันสวยงามนั้นมีความผิดหวังที่ไม่อาจปกปิดได้

เธอกลัวพวกเขากังวล จึงไม่กล้าแสดงความผิดหวังออกมาแม้แต่น้อย

ตอนนี้มีแค่เธอคนเดียว ก็ไม่ต้องปกปิดความรู้สึกแล้ว

ก่อนออกเดินทาง เธอยังคาดหวังสูงมาก คิดว่าตัวเองสามารถถามจากปากของเบอร์เกนได้ว่าจิ้นเฟิงเฉินอยู่ไหน แต่ความเป็นจริง เธอถามอะไรไม่ได้สักอย่าง ยังเกือบทำให้ทำเขาลำบากไปด้วย

ทันใดนั้น เธอรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์มาก นอกจากสร้างความลำบากให้คนอื่น ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง

ความรู้สึกเสียใจก็พุ่งขึ้นมา น้ำตาก็เอ่อล้นออกจากตา เธอยกมือปิดปาก ทนไม่ไหวที่จะร้องไห้ออกมา

“ก๊อกก๊อก”

เสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นก็เป็นเสียงของฟางยู่เชินที่เป็นห่วง

“สื้อสื้อ เป็นอะไรไหม?”

เจียงสื้อสื้อรีบเช็ดน้ำมูกน้ำตา พูดกลับเสียงดัง “หนูไม่เป็นไร พี่ไม่ต้องกังวล”

น้ำเสียงของเธอฟังออกว่าร้องไห้

ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว “สื้อสื้อ อย่าคิดมาก ถึงแม้ว่าวันนี้พวกเราทุกคนจะรู้สึกผิดหวัง แต่เธอต้องเชื่อใจทุกคน พวกเราต้องรีบหาเฟิงเฉินเจอให้ได้”

“พี่ หนูไม่ได้ไม่เชื่อพวกพี่ แต่ว่า……” เจียงสื้อสื้อกัดริมฝีปากแน่น ไม่ให้ตัวเองร้องไห้

“สื้อสื้อ เธอโทษตัวเอง ใช่ไหม?”

เจียงสื้อสื้อเช็ดน้ำตา ไม่ได้ตอบ

ฟางยู่เชินมุมปากโค้งขึ้น พูดปลอบต่อ “เธอไม่ต้องโทษตัวเอง ไม่ต้องรู้สึกว่ารบกวนพวกพี่ด้วย เธอเป็นน้องสาวพี่ เป็นคุณหญิงที่กู้เนี่ยนต้องปกป้อง สิ่งที่พวกเราทำนั้นเป็นเรื่องที่สมควรทั้งนั้น”​

อีกด้านหนึ่งของประตูยังคงเงียบ

“พอแล้ว พี่ไม่รบกวนแล้ว เธอพักผ่อนดีๆละกัน”

ฟางยูเชินมองดูประตูที่ปิดไว้แน่น หมุนตัวเดินจากไป

นอกประตูเงียบลงแล้ว เจียงสื้อสื้อก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปจนร้องไห้ออกมา

…….

กลางคืน ซ่างหยิงพาเด็กทั้งสองคนกลับบ้าน เห็นเจียงสื้อสื้อนั่งอยู่ในห้องรับแขกคนเดียว ใส่แว่นกันแดด เธอก็ขมวดคิ้วขึ้น

“สื้อสื้อ อยู่ในบ้านใส่แว่นกันแดดทำไม?”

“ตาอักเสบนิดหน่อย ก็เลยบวม” เจียงสื้อสื้อหัวเราะอย่างรู้สึกเขิน

“อักเสบ?” ซ่างหยิงรีบเข้าไปดึงแว่นออก “น้าดูหน่อย อาการหนักไหม?”

“ไม่หนัก” เจียงสื้อสื้อหลบมือเธอ “แค่โดนของสกปรก พรุ่งนี้ก็หาย”

“อย่างนี้เหรอ” ซ่างหยิงก็ไม่ได้สงสัย “ถ้าอาหารหนัก ก็ไปให้หมอตรวจดีกว่านะ”

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “หนูรู้ค่ะ”

เวลานี้ เถียนเถียนพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเธอ “หม่ามี๊ คุณยายพาพวกเราไปเล่นที่สวน หนูรู้จักเพื่อนหลายคนเลย”

“เหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อทำท่าทางแปลกใจอย่างให้ความร่วมมือ

“ใช่ค่ะ หนูกับพี่เล่นกับพวกเขานานมาก”

เจียงสื้อสื้อจับหัวของเธอ ยิ้มพูด “เถียนเถียนของแม่น่ารักขนาดนี้ ต้องรู้จักเพื่อนเยอะแน่นอน”

เถียนเถียนทำปากยื่น “แต่หนูก็ชอบพี่อานอานที่สุด พี่อานอานจะมาเล่นที่บ้านเราอีกเมื่อไหร่คะ?”

“หนูอยากให้พี่อานอานมาเหรอ?” เจียงสื้อสื้อไม่ตอบแต่ถามกลับ

เถียนเถียนพยักหน้า “อยาก”

เจียงสื้อสื้อยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นหนูโทรคุยเองละกัน”

เธอหยิบมือถือออกมา หาเบอร์ของเหลียงซินเวยแล้วกดโทรออก

ไม่นานทางโน้นก็รับสาย “พี่สื้อสื้อ”

“เวยเวย สวัสดี เธอเลิกงานหรือยัง?”

เหลียงซินวยหยุดเดิน เงยหน้ามองท้องฟ้าที่มืดมิด มุมปากโค้งขึ้น “เลิกงานแล้ว มีอะไรคะ?”

“อยู่บ้าน?”

“ยังค่ะ ยังอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน”

“หม่ามี๊ หนูมาพูดกับน้าเวยเวยเอง”

ในโทรศัพท์เป็นเสียงของเถียนเถียน เหลียงซินเวยก็ถามอย่างสงสัย “เถียนเถียนจะพูดอะไรกับฉันเหรอคะ?”

“คุณน้า”

ได้ยินเสียงอันน่ารักของเถียนเถียน ใจของเหลียงซินเวยก็ละลาย แม้แต่น้ำเสียงก็อ่อนโยนตาม “น้าฟังอยู่ค่ะ”

“น้าจะพาพี่อานอานมาเล่นที่บ้านหนูเมื่อไหร่?”

“หนูคิดถึงพี่อานอานแล้วเหรอ?”

“ใช่ค่ะ หนูคิดถึงพี่อานอานมากที่สุดเลย”

คำว่าคิดถึงมากที่สุด ทำให้เหลียงซินเวยรู้สึกดีใจ “ รอพี่อานอานสอบเสร็จ น้าจะพกไปเล่นกับพวกหนู ดีไหม?”

“สอบ? ต้องสอบนานแค่ไหนคะ?”

“เร็วมาก”

“เราตกลงกันแล้วนะคะ ห้ามเบี้ยวนะคะ”

เหลียงซินเวยยิ้ม “ไม่เบี้ยวค่ะ”

เวลานี้ เจียงสื้อสื้อรับโทรศัพท์ไป “เวยเวย ว่างเมื่อไหร่ก็พาอานอานมาเล่นที่บ้านได้เลย พวกเราอยู่บ้านตลอด”

“ค่ะ”

“แค่นี้ก่อนนะ กลับบ้านระวังด้วย”

“บ๊ายบาย”

วางสายแล้ว เหลียงซินเวยยื่นอยู่ที่เดิมสักพัก แล้วค่อยเดินไปข้างหน้า

พูดตามตรง เธอไม่ค่อยอยากไปบ้านตระกูลฟางเท่าไหร่ ครั้งที่แล้วไปสวนสนุกกับคุณนายฟาง ก็รู้สึกได้ว่าคุณนายฟางไม่ค่อยชอบเธอเท่าไหร่นัก

อีกอย่างเธอไม่อยากเจอฟางยู่เชินอีก

เพราะมีเพียงแบบนี้ ถึงจะตัดขาดความคิดของเธอที่ไม่ควรมีได้

คนบางคน ทำได้แค่มองเท่านั้น แต่เอื้อมไม่ถึง

“คุณเหลียง”

ด้านหลังมีเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น

เหลียงซินเวยหยุดเดิน หันไปมอง เห็นเพียงกู้เนี่ยนยืนยิ้มมองเธออยู่

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท