บทที่ 15 หน้าที่ที่เป็นไปไม่ได้
เรื่องที่หลินอี้จุนได้รับเลื่อนตำแหน่งนั้นคนที่ประหลาดใจที่สุดคือฟ่านหมิง
แม้เขาจะเคยสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างหลินอี้จุนกับเสี้ยจุน แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเสี้ยจุนจะกล้าเลื่อนตำแหน่งให้เธออย่างออกหน้าออกตาเช่นนี้
เพราะทั้งความสามารถและคุณสมบัติของหลินอี้จุนนั้น ไม่เพียงพอต่อการเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า
ต่อให้เธอโชคดีขนาดไหนการที่เซ็นโปรเจคนี้ได้ก็ยังไม่พอสำหรับการเลื่อนขั้นอีกอยู่ดี
“เสี้ยจุนกลัวว่าผมจะหักหลังเขา รีบวางแผนป้องกันก่อนที่ผู้ถือหุ้นรายใหม่จะเข้าทำงานงั้นเหรอ” ฟ่านหมิงหรี่ตาลงมองหลินอี้จุน
“ไม่ได้ ไม่สามารถปล่อยให้หลินอี้จุนตัวแสบสร้างบารมีในบริษัทได้ ต้องทำให้เธอเดือดร้อนบ้าง ให้พนักงานขายข้างล่างเห็นความจริงว่าเธอไม่มีความสามารถทางธุรกิจ” ฟ่านหมิงเหมือน ได้หาวิธีจัดการกับหลินอี้จุนแล้ว
“ทุกคนประชุมในห้องประชุม” ฟ่านหมิงพูดขึ้นเสียงดังก่อนเดินนำหน้าไปห้องประชุม
คนอื่นๆยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจคำพูดของฟ่านหมิง ส่วนที่เข้าใจนั้นล้วนแสดงสีหน้าเข้าข้างฟ่านหมิง
โดยเฉพาะสามคนที่เพิ่งพูดจาถากถางหลินอี้จุนเมื่อครู่ ไม่ว่าจะเป็นด้านไหนๆก็เหนือกว่าหลินอี้จุนหลายเท่า แต่กลับกลายเป็นหลินอี้จุนได้เลื่อนตำแหน่ง ทำให้พวกเขาไม่พอใจมากมองดูหลินอี้จุนด้วยสายอาฆาต
“ผมบอกว่าประชุม พวกคุณไม่ได้ยินกันหรือไง?” ฟ่านหมิงเห็นไม่มีใครตามมาก็รู้สึกโมโหและพูดขึ้นด้วยเสียงดัง
ทุกคนได้ยินแล้วรีบเดินตามเข้าห้องประชุมไป
หลินอี้จุนยังทำตัวไม่ถูก
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เลื่อนขั้น
หลังจากที่เธอมาอยู่บริษัทนี้ก็หวังเพียงแค่เงินเดือนพื้นฐาน ในแต่ละเดือนขยันขันแข็งทำโปรเจคก็อาจได้โบนัสเพิ่มขึ้นนิดหน่อย
แต่อยู่ๆก็ได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า!
แม้เธอรู้ดีว่าเรื่องการเซ็นสัญญากับGreentown อสังหาริมทรัพย์มีส่วนในการเลื่อนขั้นครั้งนี้ แต่เธอเองก็ไม่ได้มีความมั่นใจนักในการเลื่อนตำแหน่ง
แต่ถึงแม้จะไม่มั่นใจ ลึกๆในใจเธอก็ดีใจไม่ใช่น้อย
ใครไม่อยากเลื่อนขั้นขึ้นเงินเดือนล่ะ?
เมื่อเห็นฟ่านหมิงเรียกประชุม เธอจังได้ระงับอารมณ์ตื่นเต้นไว้แล้วเดินเข้าห้องประชุมไป
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับหลินอี้จุนด้วยนะครับที่รับการเลื่อนตำแหน่ง ฝ่ายขายของเราไม่มีใครได้เลื่อนขั้นมากว่าปีแล้ว อี้จุนที่ผ่านมาทำงานอย่างขยันขันแข็งด้วยความสามารถของเธอ ทุกคนปรบมือแสดงความยินดีให้เธอด้วยครับ” หลังจากพูดจบทุกคนส่งเสียงปรบมือ
ดังสนั่นให้กับหลินอี้จุนที่ได้แต่นั่งยิ้ม
แม้พวกเขาจะปรบมือแต่สายตาและสีหน้าช่างไม่เป็นมิตรเสียเลย
โดยเฉพาะหวังวู ชอยโฮและหลิวหยานฉี๋สามคนที่ต่อปากต่อคำเมื่อครู่ ก่อนหน้านี้ที่หลินอี้จุนเซ็นสัญญาสำเร็จพวกเขาก็พูดจาดูถูกเธอไปทีหนึ่งแล้ว ตอนนี้ยังได้ยินคำชื่นชมอี้จุนจากปากผู้อื่นยิ่งทำให้พวกเขาอิจฉาริษยามากขึ้น
“ขอบคุณทุกคนมากนะคะ แค่บังเอิญโชคเข้าข้างดิฉัน ต่อไปก็ยังคงต้องขอคำติชมจากทุกๆคนเช่นเคยค่ะ” หลินอี้จุนเอ่ยกลับเมื่อได้เสียงปรบมือ
เธอเพียงพูดไปตามมารยาท แต่สำหรับในสายตาบางคนมองแล้วเธอช่างน่ารังแก
“เอาล่ะเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า โครงการพื้นที่วิลล่าทะเลสาบจิงหลงออกมาเรียบร้อยแล้ว เป็นโครงการที่มีงบประมาณกว่าสิบล้าน ถ้าประสบผลสำเร็จก็จะเป็นการยกระดับให้กับบริษัทของเราไปอีกขั้น คนที่จะเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้ก็จะได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยทีเดียว” ฟ่านหมิงพูดและมองมาที่พนักงาน
โครงการวิลล่าทะเลสาบจิงหลง?
ทุกคนตกตะลึงตามๆกัน
ในฐานะของพนักงาน พวกเขาเข้าใจดีว่าโครงการนี้ออกมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
พื้นที่วิลล่าทะเลสาบจิงหลงเป็นวิลล่าระดับไฮเอนด์ที่พัฒนาโดยกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย ราคาวิลล่าอย่างต่ำอยู่ที่ห้าสิบล้าน สูงสุดกว่าหนึ่งร้อยล้าน ระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยล้วนนำเข้าจากต่างประเทศ
บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียแม้จะนับว่าเป็นบริษัทที่ได้รับความเชื่อถือในยวี่โจว แต่คงไม่อยู่ในสายตาของแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย มันแทบไม่สามารถเกี่ยวข้องกันได้เลยด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าแม้จะลดราคาลงกว่าหลายบริษัทภายในพื้นที่ แต่แกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยคงให้ความเชื่อถือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของต่างเมืองมากกว่า
ดังนั้นคำพูดของฟ่านหมิงเมื่อครู่จึงทำให้ทุกคนนั่งเงียบ
เพราะพวกเขารู้ดีว่าหากใครได้รับผิดชอบโครงการนี้ ไม่สามารถทำสำเร็จอย่างแน่นอน เสียเวลาเปล่าๆ
“หัวหน้าหลิน คุณจะลองรับผิดชอบโครงการนี้ดูไหมครับ?” ขณะที่ทุกคนนั่งเงียบ ฟ่านหมิงเอ่ยประโยคนี้ขึ้นต่อหลินอี้จุน
“ผู้จัดการคะ ดิฉัน……” หลินอี้จุนเองเข้าใจดีว่าความเป็นไปได้ของโครงการนี้น้อยนิดเพียงใด หรือพูดว่าเป็นไปไม่ได้เลย
เธอเพิ่งจะได้เลื่อนขั้นเมื่อสักครู่ แน่นอนว่าไม่อยากมาเสียเวลากับโครงการที่เป็นไปไม่ได้เช่นนี้
“ไม่เอาน่า คนมีความสามารถแบบคุณ แถมเพิ่งได้รับการเลื่อนขั้น แสดงความสามารถที่แท้จริงให้ลูกน้องดูหน่อยสิครับ” ฟ่านหมิงยิ้มด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
“นั่นสิครับหัวหน้าหลิน โปรเจคก่อนหน้านี้ทุกคนก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่หัวหน้าก็ทำมันสำเร็จด้วยตนเองนี่ครับ ครั้งนี้ถ้าเป็นคุณหลินละก็คงไม่ยาก”
“ใช่ๆๆ พวกเราเชื่อมั่นในการตัดสินใจของบริษัทนะ เลื่อนตำแหน่งให้คุณแล้วก็มั่นใจในตัวเองน่อยสิ”
เมื่อเห็นพนักงานคนอื่นช่วยส่งเสริม
ฟ่านหมิงได้แต่ยิ้มอย่างผู้ชนะเกมส์นี้ นี่แหละคือสิ่งที่เขาอยากเห็น
เขากระแอมแล้วพูดต่อว่า “อี้จุน ตอนนี้คุณก็เป็นหัวหน้าแล้วนะ นี่เป็นโอกาสดีที่คุณจะแสดงความสามารถให้กับบรรดาคนที่ไม่เชื่อในตัวคุณได้รับรู้ว่าที่จริงแล้วคุณมีความสามารถเพียงใด อย่าปล่อยให้พวกเขาเข้าใจผิดแบบนี้ซิ”
ฟ่านหมิงยิ้มด้วยหน้าตาจริงจัง
เหอะ เธอมันก็ไร้ความสามารถเหมือนกับสามีของเธอนั่นแหละ คิดจะมาแข่งกัน?
โครงการนี้แค่เริ่มต้นเท่านั้น รอให้เขาได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารคนใหม่เมื่อไหร่ จะจัดการสองสามีภรรยานี้ให้สิ้นซาก
“ตกลงค่ะ ดิฉันจะไปเขียนแผนงาน” หลินอี้ถอนหายใจ เธอรู้ดีว่าฟ่านหมิงจะใช้โอกาสนี้กำจัดเธอ ให้เธอเสียเวลากับโครงการที่เป็นไปไม่ได้ และสุดท้ายทุกคนจะหัวเราะเยาะเธอ
เธอรู้ดีว่าหลังจากโครงการนี้จบลงเธอจะถูกผู้คนดูถูกและสงสัยในความสามารถ
เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่ใหญ่เกินกว่าบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียจะรับไหว
เมื่อหลินอี้จุนตกลงรับผิดชอบโครงการนี้ สายตาทุกคนจับจ้องมาที่เธอ ในใจได้แต่หัวเราะรอดูวันที่เธอทำไม่สำเร็จ
การที่ได้เลื่อนขั้นกระทันหันทำให้เธอยิ้มมีความสุขได้หนึ่งวัน จากนั้นเธอคงยิ้มไม่ออก
ตลอดบ่ายวันนั้นเธอพยายามตั้งใจศึกษาโครงการ เธอต้องการเข้าถึงทุกรายละเอียด
เธอรู้สึกว่าการที่ฟ่านหมิงเล่นงานเธอครั้งนี้คงเกี่ยวข้องกับการที่ลู่เฉินหาเรื่องเขาในครั้งก่อน ซึ่งทำให้เขาจำฝังใจ
เมื่อคิดได้เธอก็รู้สึกแค้นลู่เฉินอยู่ในใจ
“หัวหน้าหลินครบ ตอนนี้คุณถือเป็นคณะผู้จัดการของบริษัทแล้ว มีสิทธิ์ในการประชุมทำผลงานเพื่อขึ้นเงินเดือนในครั้งนี้ อย่ามัวรอช้าละ” ก่อนเลิกงาน ฟ่านหมิงเตือนเธอด้วยความหวังดี
“ค่ะ พรุ่งนี้สิบโมงใช่ไหม” หลินอี้จุนพยักหน้าตอบรับ แต่ในใจตื่นเต้นกว่าใคร
ฟ่านหมิงใช้โครงการวิลล่าทะเลสาบจิงหลงนี้เล่นงานเธอ ตัวเธอเองก็อยากเห็นหน้าตาผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนใหม่เหมือนกันว่าจะเป็นใคร
“ใช่ครับ” ฟ่านหมิงพยักหน้าแล้วยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ก่อนเดินออกไป
ก็แค่ตัวประกอบธรรมดาๆ คอยดูซิว่าจะทนได้นานขนาดไหนกัน รอให้เขาได้รับความวางใจจากเจ้านายใหม่ก่อนเถอะ แม้แต่เสี้ยจุนเองก็จะไม่กล้าดูถูกเขาอีกต่อไป!
เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะกำจัดเธอก็ไม่ใช่เรื่องยาก!
ฟ่านหมิงมั่นใจกับความคิดของเขามาก
เพราะตอนนี้ลูกค้าส่วนมากอยู่ในความดูแลของเขา ทางบริษัทต้องให้ความสำคัญกับเขาแน่นอน นอกเสียจากบริษัทไม่อยากมีรายได้เพิ่ม