37 – คุณคิดว่าฉันทำเกินกว่าเหตุหรือเปล่า?
โจวเจ๋อถามต่อไป: “ผมจะต้องทำอะไร หรือต้องออกไปตระเวนทุกคืน เพื่อมองหาผีเหล่านั้น ไม่เหนื่อยตายกันพอดีเหรอ? “
“ ประตูอยู่ในมือคุณ คุณสามารถเปิดร้านหนังสือของตัวเองต่อไปได้ ผีพวกนั้นจะมาหาคุณเองไม่ต้องห่วง ในตอนนี้คุณเป็นเหมือนกับกองเพลิงท่ามกลางความมืดมิด ส่วนผีพวกนั้นเป็นเหมือนแมงเม่า
นอกจากนี้ฉันยังได้ทิ้งรอยประทับไว้ที่ร่างกายของคุณ มันจะเป็นเหมือนสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่ที่สามารถทำให้ดวงตาของสุนัขบอดได้ “
“………… ” โจวเจ๋อ
เด็กหญิงตัวน้อยชี้ไปที่ชั้นหนังสือแล้วพูดว่า
“ฉันจะไปอ่านหนังสือสักพัก เดี๋ยวแม่ของเด็กหญิงคนนี้ก็จะมารับเธอแล้ว”
เด็กหญิงตัวน้อยนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติก พร้อมกับหยิบหนังสือมานั่งอ่านแบบฟรีๆด้วยท่าทางของผู้ใหญ่ทำให้เธอดูตลกเล็กน้อย
โจวเจ๋อยืนอยู่ข้างๆเธอไม่ได้ไปไหน เพราะตอนนี้เขายังคงมีคำถามที่ยังถามไม่หมด
“พูด.” เด็กหญิงตัวน้อยพูดด้วยความรำคาญ
“ มีเงินเดือนมั้ย” โจวเจ๋อถามด้วยสายตาที่มุ่งหวัง “รู้ไหมถ้าผมทำแบบนี้มันจะทำให้ผมขาดทุน”
“ด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบนี้ แม้แต่ทางนรกเองก็ยังค้างเงินเดือนของฉันอยู่ ” เด็กหญิงตัวน้อยถอนหายใจ
“ก็ถูกของคุณ” โจวเจ๋อสะท้อน
“ แต่มันก็มีข้อดีอยู่บ้าง พวกเขาอนุญาตให้เราหาเงินจากคนตายได้”
“ เงินของคนตายเอามาใช้ไม่ได้” โจวเจ๋อยักไหล่
“นั่นเพราะว่าคุณโง่เกินไป” เด็กหญิงตัวน้อยแบมือ “ไปหากระดาษเงินกระดาษทองมา”
โจวเจ๋อหยิบกระดาษเงินกระดาษทองออกมาหนึ่งกองแล้วแบ่งครึ่งนึงให้กับเด็กหญิงตัวน้อย
“ ดูท่าคุณจะร่ำรวยไม่น้อย” เด็กหญิงตัวน้อยเหลือบมองเขาด้วยรอยยิ้ม
โจวเจ๋อไม่ได้บอกออกไปว่าเงินพวกนี้เป็นเงินที่ได้มาจากนักพรตชราที่มาจากหรงเฉิงซึ่งมอบให้เขาสองปึก โจวเจ๋อรู้สึกว่าถ้าเขาปล่อยให้ยัยเปี๊ยกนี่รู้เรื่องเข้ามันจะนำปัญหามาให้เขา
เด็กหญิงตัวน้อยผลักประตูร้านหนังสือออกไปก่อนจะนั่งยองๆอยู่ข้างถนน
“อย่าเข้ามาใกล้ โยนไฟแช็กมาด้วย” เด็กหญิงตัวน้อยหันมาดุโจวเจ๋อ
โจวเจ๋อจึงไปยืนห่างๆพร้อมกับสูบบุหรี่อยู่ตรงนั้น
เด็กหญิงตัวน้อยเผากระดาษเงินกระดาษทองทำให้เศษขี้เถ้าของมันปลิวขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว
“โอเคแล้ว” เด็กหญิงตัวน้อยยืนขึ้นด้วยความดีใจ
โจวเจ๋อยืนเซ่ออยู่ท่ามกลางสายลม
“อย่าบอกนะว่าวิธีนี้เป็นการฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารแบบใหม่” โจวเจ๋อยังงงไม่หาย
“ถ้ารู้ว่าสิ่งที่พูดออกมานั้นจะเป็นการแสดงความโง่ของตัวเองก็หัดอยู่เงียบๆซะบ้าง” เด็กหญิงตัวน้อยหันมามองค้อน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ยืนอยู่ที่หน้าร้านประมาณ 30 นาที
ใบหน้าของเด็กหญิงเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆจากอากาศหนาว ส่วนโจวเจ๋อไม่กลัวความหนาวเย็นจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพียงแต่ว่าการยืนโง่ๆแบบนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดไม่น้อย
ในที่สุด ชายพุงโตคนหนึ่งก็เดินผ่านพวกเขาพร้อมกับที่กระเป๋าสตางค์ของเขาร่วงลงบนพื้น ชายคนนั้นไม่ได้สังเกตเห็นมันและเดินต่อไปโดยไม่หันมามอง
โจวเจ๋อเดินไปหยิบกระเป๋าใบนั้นขึ้นมาและพบว่ามีเงินหลายพันหยวนอยู่ด้านใน รวมทั้งบัญชีธนาคารและบัตรประจำตัวประชาชนของเขาด้วย
“ ต้องเอากลับไปส่งเขาไหม?” โจวเจ๋อถามอย่างไม่แน่ใจ
เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มแล้วตอบว่า “คนคนนี้กำลังมีเคราะห์หนัก การทำเงินหายบางส่วนมันจะทำให้เขาหลีกเลี่ยงปัญหาที่กำลังจะพบได้”
เด็กหญิงตัวน้อยรีบเปิดประตูกลับเข้าไปนั่งในร้านหนังสือ พร้อมกับใช้มือเล็กๆทั้งสองถูกันไปมา เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สามารถทนความหนาวได้แบบโจวเจ๋อ
โจวเจ๋อเดินเข้ามาในร้านแล้วถามเบาๆว่า “เขาจะไม่โทรหาตำรวจหรือ?”
“ อย่าโง่ไปหน่อยเลย” เด็กหญิงตัวน้อยหมดความอดทน
“ใช่แล้วตอนนี้ผมกำลังขาดเงินอยู่พอดี ผมสามารถทำแบบนี้ได้ตลอดเวลาเลยใช่ไหม?”
โจวเจ๋อหัวเราะออกมาด้วยความสุข นี่มันจะทำให้เขาสบายไปทั้งชีวิตเลย
ทันใดนั้นซูชิงหลางก็เดินมาในเวลานี้โดยถือน้ำบ๊วยเปรี้ยวขวดใหญ่มาด้วย
“วัตถุดิบในร้านของฉันมีแค่นี้ คุณเอาไปก่อนก็แล้วกัน “
ซูชิงหลางเพิ่งเปิดประตูเข้ามาก็มองเห็นเด็กหญิงตัวน้อยนั่งอยู่ที่นั่น เขาเดินโซซัดโซเซด้วยความตกใจและขวดในมือของเขาก็ตกลงที่พื้นก่อนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
น้ำบ๊วยเปรี้ยวทะลักไปทั่วร้านหนังสือ
โจวเจ๋อมองไปที่ซูชิงหลางด้วยความเห็นใจ
ส่วนเด็กหญิงตัวน้อยดูเหมือนจะไม่จริงจังกับซูชิงหลาง
อันที่จริงแล้วมีคนไม่มากนักที่คู่ควรให้เธอสนใจ
“เด็กผู้หญิงคนนี้น่ารักมาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนน่ารักขนาดนี้อยู่ในโลก หนูชอบปลาทองไหมคุณอามีปลาทองเลี้ยงอยู่ที่บ้านเดี๋ยวจะรีบกลับไปเอามาให้”
ซูชิงหลางกรีดร้องออกมาด้วยการแสดงออกที่โอเวอร์เกินจริง
“…………” โจวเจ๋ออ้าปากค้าง
“ไสหัวไปให้พ้น” เด็กหญิงตัวน้อยพูดอย่างเย็นชา
ซูชิงหลางพยายามยิ้มให้สดใสมากที่สุดแต่ดูแล้วมันขัดตากว่าร้องไห้อีก เขาค่อยๆเดินกลับหลังช้าๆเมื่อพ้นสายตาของเด็กหญิงเขาก็รีบวิ่งเข้าร้านและปิดประตูอย่างแน่นหนาทันที
“ คุณคิดว่าฉันทำเกินไปหรือเปล่า”เด็กหญิงตัวน้อยเงยหน้าขึ้นและมองไปที่โจวเจ๋อ
“นิดหน่อย.” โจวเจ๋อบอกความจริง
“ ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกคุณว่า การตายของคนขับรถคนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ ในตอนนั้นฉันก็แค่รู้สึกเบื่อๆจึงอยากแสดงร่างที่แท้จริงของตัวเองออกมาเพื่อผ่อนคลายสักหน่อย คุณคิดว่าฉันทำเกินไปหรือปล่าว? “
เด็กหญิงตัวน้อยเพียงพอแล้วมองมาที่โจวเจ๋อด้วยสีหน้ามุ่งหวัง
“มากเกินไป?”
คำถามนี้โจวเจ๋อไม่สามารถตอบได้ แม้ว่าสิ่งที่เธอจะพูดเป็นความจริงแต่เขาก็ไม่สามารถให้คำตอบเรื่องนี้
มันจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป ในเมื่อชายคนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว
แม้ว่าในตอนนี้เธอจะทำตัวใจดีกับเขา แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็คือยมทูตดำขาวที่สามารถตัดสินวิญญาณของใครก็ได้
โจวเจ๋อรู้สึกอิจฉาและชื่นชมเธอมาก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกหวาดกลัวเธอด้วย
เมื่อความแข็งแกร่งของคุณไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับอีกฝ่าย คุณจึงไม่คู่ควรที่จะวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติตัวของพวกเขา
“น่าเบื่อจริงๆ” เด็กหญิงส่ายหน้าเบาๆแต่ก็ยิ้มอีกครั้ง “แต่นี่คือที่ที่ฉันชื่นชมคุณ”
เด็กหญิงตัวน้อยถือหนังสือด้วยมือทั้งสองข้างและพึมพำเบาๆ
“ คุณเป็นคนที่ชื่อที่สุดที่ฉันเคยพบ แต่ก็โง่ที่สุดด้วย”
“………… ” โจวเจ๋อ
นี่เป็นการยกย่องหรือกำลังด่าเขาอยู่กันแน่?
“ ฉันจะต้องไปแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมา” เด็กหญิงตัวน้อยเริ่มง่วงและเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ