เสี่ยวเชี่ยนแอบให้กำลังใจตัวเองเงียบๆ เธอเป็นจิตแพทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด ในแวดวงสาขาของเธอ ไม่ว่าใครก็ต้องเชื่อฟังเธอ ในสายตาของเธอไม่มีเรื่องอำนาจและฐานะเข้ามาเกี่ยวข้อง มีแค่คนไข้ที่เชื่อฟังและไม่เชื่อฟัง
ส่วนคนไข้แบบหลัง เธอจะพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำให้เชื่อฟังให้ได้
พอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเสี่ยวเชี่ยนก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ
อวี๋หมิงหลางเหลือบมองเธอก็พบว่าเมียตัวเองเต็มไปด้วยพลังพร้อมรบ จึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป
ซ่งชิงอู๋ระวังตัวตลอดเวลา เขารู้สึกว่าอวี๋หมิงหลางยื่นมืออกไป เขาจึงเอามือไปจับบริเวณกระเป๋า
ปรากฏว่าอวี๋หมิงหลางแค่เอามือไปลูบหน้าเสี่ยวเชี่ยน “เมียจ๋า ทำไมสวยแบบนี้ ทุกเช้าผมตื่นมาได้เห็นหน้าคุณผมรู้สึกมีความสุขมากเลย”
“บางครั้งฉันส่องกระจกก็ยังสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงได้สวยขนาดนี้” เสี่ยวเชี่ยนรับมุกอวี๋หมิงหลางแบบที่นานๆครั้งจะเห็นที
ซ่งชิงอู๋ปวดขมับ ถึงสองคนนี้จะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกอยากอ้วกแบบนี้
หลิวเหมยไม่อยู่บ้าน ออกไปเดทกับฟู่กุ้ยแล้ว
ข้อดีของการอกหักและมีรักครั้งใหม่ในวันเดียวกันก็คือสามารถอุดรอยต่อของแผลได้พอดี เช้าๆเสี่ยวเชี่ยนจะเห็นหลิวเหมยตื่นมาส่องกระจก หยิบชุดมาทาบถึงแปดชุด จากนั้นก็ยิ้มหน้าบานออกจากบ้านไป
“เหมยจื่อคงไม่รีบกลับมาหรอกนะ” อวี๋หมิงหลางถามเสี่ยวเชี่ยน
“ไม่หรอก เขากับพี่ชายฉันออกไปสวีทหวานด้วยกันตั้งแต่เช้าแล้ว ดูท่าฟ้าไม่มืดไม่กลับมาหรอก”
ซ่งชิงอู๋มองสองผัวเมียที่คุยกันทำเหมือนเขาเป็นอากาศ สายตาก็มองไปรอบๆห้องที่ขนาดไม่ใหญ่นี้
“บ้านประเทศนี้แคบแบบนี้เลยเหรอ”
“คุณก็ช่วยอุดหนุนธุรกิจเมียผมมากๆหน่อย พวกเราจะได้มีเงินย้ายไปอยู่บ้านขนาดใหญ่ขึ้น”
อวี๋หมิงหลางโยนรองเท้าแตะใส่ในบ้านให้ซ่งชิงอู๋
ซ่งชิงอู๋มองรองเท้าเหมือนเห็นผี ให้เขาเปลี่ยนไปใส่ของแบบนี้เนี่ยนะ
“เป็นฮ่องกงฟุตเหรอ”
ซ่งชิงอู๋ส่ายหน้า
“งั้นก็เปลี่ยนรองเท้าสิ ทำพื้นสกปรกผมถูเยอะนะ ระวังเมียผมบวกเงินเพิ่มล่ะ เชื่อผมเถอะ เมียผมรักษาคนทีขูดรีดสุดชีวิต”
“ผมเริ่มเสียใจขึ้นมาละว่าทำไมไม่ฆ่าคุณให้ตายๆไปซะ” ซ่งชิงอู๋เปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะที่หน้าตาไม่สวยนี้
“พระพุทธเจ้ากล่าวว่า ความดันทุรังเป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์ ถ้าคุณยังดันทุรังในเรื่องที่ยังไงคุณก็ทำไม่ได้ คุณจะเป็นทุกข์นะคะ” เสี่ยวเชี่ยนเปลี่ยนรองเท้าเสร็จก็พูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“อะไรคือเรื่องที่ผมทำไม่ได้”
“ฆ่าฉันไง คุณทำไม่ได้หรอก ถ้าคุณทำได้ คุณก็ต้องตายแน่นอน ดังนั้นความดันทุรังแบบนี้อย่าไปคิดเลย”
“เรื่องที่ผมดันทุรังไม่ใช่เรื่องนี้”
“สิ่งที่คุณดันทุรังฉันจะช่วยให้คุณได้มา เข้าไปในห้องกับฉัน พวกเราจะเริ่มการรักษาอย่างเป็นทางการ—เสี่ยวเฉียง ปอกผลไม้มาหน่อย แล้วก็ที่ระเบียงยังมีไม้เสียบลูกชิ้นที่เหมยจื่อซื้อมาคราวก่อนเหลืออยู่ ในตู้เย็นยังมีเนื้อแพะ เอาออกมาละลายแล้วก็เสียบไม้รอเลย ตอนเย็นกินเนื้อย่างกัน คุณซ่งจะอยู่กินด้วยกันไหมคะ”
“…จะเก็บเงินเพิ่มด้วยใช่ไหม” ซ่งชิงอู๋พบว่าเสี่ยวเชี่ยนพออ้าปากก็มีแต่เรื่องเงิน
“ฉันไม่ใช่คนที่เห็นแก่เงินขนาดนั้นนะ คุณเป็นลูกค้าวีไอพีของฉัน ฉันจะเก็บเงินคุณได้ยังไง กินฟรี”
ความใจกว้างของเสี่ยวเชี่ยนในเวลานี้ทำให้อวี๋หมิงหลางถึงกับเงยหน้ามองมา ปรากฏว่าเสี่ยวเชี่ยนมีพูดต่อ “ถ้าคุณให้ฉันเรียกเบญจมาศอาเหม็ดมาก็จะกลายเป็นเซตเมนูคู่รัก แบบนั้นฉันขอเก็บในราคา9999ดอลล่าร์ต่อคนก็พอค่ะ ขอให้ทั้งสองท่านรักกันยืนยาวชั่วฟ้าดินสลาย”
“หน้าผมดูโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ” ซ่งชิงอู๋รู้สึกว่าตัวเองดูไม่เหมือนคนที่หลอกได้ง่ายๆ แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับทำเหมือนเขาเป็นพวกหัวอ่อน ราคาอาหารประเทศนี้แพงขนาดนั้นที่ไหนกัน แถมยังเป็นดอลล่าร์ ราคานี้ไปเปิดร้านเนื้อย่างได้สองร้านเลยนะ
“ได้ครอบครองคนที่ชอบเป็นคนโง่ไม่ดีตรงไหน เอาล่ะ เก็บใบหน้ายโสของคุณเอาไว้ แล้วเข้าห้องไปกับฉัน”
เสี่ยวเชี่ยนเข้าไปก่อน ซ่งชิงอู๋หันไปมองอวี๋หมิงหลางแล้วก็ทำหน้าตกใจที่เห็นอวี๋หมิงใส่ผ้ากันเปื้อน
“คุณไม่เข้าไปคุ้มครองเขาเหรอ”
เขาคิดว่าที่ทหารคนนี้ตามขึ้นมาก็เพื่อมาปกป้องผู้หญิงของตัวเอง นึกไม่ถึงว่าจะใส่ผ้ากันเปื้อนเข้าครัวเฉย
“ทำอาหารยังดีกว่าไปนั่งฟังจิตแพทย์รักษาคนไข้เยอะเลย ถ้าคุณยังอยากมีชีวิตรอดออกไปจากบ้านนี้ไม่ถูกครัวระเบิดตายก็รีบเข้าไปเถอะ ไม่อย่างนั้นถ้าเธอออกมาจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้”
ซ่งชิงอู๋มองอวี๋หมิงหลางด้วยความแปลกใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทหารคนนี้ถึงได้พูดจาเกินจริง
ความสามารถในการระเบิดครัวของเสี่ยวเชี่ยนถ้าไม่ได้สัมผัสกับตัวเองคงรู้สึกไม่ได้ถึงความน่ากลัว อวี๋หมิงหลางสาบานเลยว่า ตราบใดที่เขายังอยู่จะไม่มีทางให้เสี่ยวเชี่ยนเหยียบเข้ามาในครัวเด็ดขาด แล้วนับประสาอะไรกับสายตาที่มั่นอกมั่นใจของเธอเมื่อครู่ตอนอยู่ในลิฟท์ มันเพียงพอที่จะทำให้อวี๋หมิงหลางมองบางอย่างออก
ไม่ว่าจะมาในฐานะไหน อิทธิพลคับฟ้าเพียงใด เมื่อมาถึงมือเมียเขาก็เหลือแค่ แกะอ้วน
อวี๋หมิงหลางเชื่อว่าเสี่ยวเชี่ยนจัดการซ่งชิงอู๋ได้ ดังนั้นซ่งชิงอู๋ยังไงก็อยู่ในสายตาของเขา ซ่งชิงอู๋เดินตามเสี่ยวเชี่ยนเข้าห้อง ไม่รู้ว่าเขาตาฝาดไปหรือเปล่า เขารู้สึกว่าสายตาของอวี๋หมิงหลางที่มองมาเหมือนกับสายตาตอนที่เขาเอาเนื้อแพะออกจากตู้เย็น…รอเชือดงั้นเหรอ
ซ่งชิงอู๋แอบสังเกตห้องที่ดูธรรมดานี้ เขารู้สึกแค่ว่ามันเล็กมาก เสี่ยวเชี่ยนดึงโต๊ะญี่ปุ่นที่พับเก็บได้ออกมา จากนั้นก็ลากเก้าอี้โซฟาเล็กๆลายการ์ตูนมาสองตัว
“คุณคงไม่ได้จะให้ผม…นั่งบนนี้หรอกนะ ชั่วโมงละห้าหมื่นได้แค่นี้เหรอ” ซ่งชิงอู๋มองเก้าอี้โซฟาลายสปอนจ์บ๊อบเหลืองอ๋อย เขาไม่เคยเห็นของสิ่งนี้มาก่อน ข้างในดูเหมือนใส่เม็ดโฟมไว้เป็นจำนวนมาก แค่แตะก็ยวบแล้ว
“คุณควรจะรู้สึกโชคดีนะคะ ปกติฉันไม่รับรักษาที่บ้าน ของพวกนี้ไว้ให้เพื่อนนั่งทั้งนั้น คุณก็นั่งแก้ขัดไปเถอะ การรักษาทางจิตวิทยาให้ความสำคัญเรื่องสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ถึงเก้าอี้โซฟานี่มันจะดูง้องแง้งแต่นั่งสบายไม่กินที่นะคะ”
ปกติเอาไปวางไว้ที่ระเบียง เวลาที่มีแขกมาถึงจะลากเข้ามา ช่วยไม่ได้ ห้องนอนพื้นที่ไม่เยอะวางโซฟาชุดที่สองไม่ได้
“ผมรู้สึกว่าเสียเงินไปไม่คุ้ม” ซ่งชิงอู๋ไม่อยากนั่งบนวัตถุที่น่าตลกแบบนี้ เขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกหนักกว่าเดิม
เสี่ยวเชี่ยนมองเขาอย่างเงียบๆสักพัก ซ่งชิงอู๋เองก็ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร เสี่ยวเชี่ยนมองเขาเสร็จก็หันไปมองหยิบกล่องในชั้น จากนั้นก็หยิบชุดน้ำมันหอมระเหยออกมา
“คุณจะทำอะไร” ซ่งชิงอู๋ค่อนข้างระแวงของพวกนี้ เพราะไม่รู้ว่ามีพิษหรือเปล่า
“ก็แค่น้ำมันหอมระเหยสกัดจากธรรมชาติ ฉันใช้แต่ของดีเกรดเอที่ใช้สำหรับรักษาคนไข้เท่านั้นนะ นำเข้าทั้งนั้น นี่ถ้าไม่เห็นแก่ที่คุณเป็นลูกค้ารายใหญ่ฉันไม่ให้คุณใช้หรอก”
“ผมไม่ต้องการ คุณว่ามาเลยก็พอ”
“น้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มิ้นท์ช่วยปรับระบบย่อยให้ดีขึ้น เพราะร่างกายคุณเสพย์ในสิ่งที่ไม่ควรเสพย์เข้าไประบบย่อยถึงได้มีปัญหา หยดกลิ่นส้มเกลี้ยงเข้าไปหน่อยจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แน่นอนว่าของพวกนี้ก็แค่ช่วยได้นิดหน่อย บำบัดอาการติดยาของคุณไม่ได้ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง อะไรที่ควรเลิกก็เลิกเถอะนะ”
แค่มองก็ดูออกเลยเหรอ ตอนนี้ซ่งชิงอู๋สงสัยว่าเสี่ยวเชี่ยนเป็นจิตแพทย์หรือหมอตรวจร่างกายกันแน่