ตอนที่ 323 อันตรายซ้ําซ้อน
โดนทั้งผีผู้หญิงขี่คอ และโดนกดลงไปในทรายอีกครั้ง ทําให้ผมตัวชาในทันที
เราสามคนร่วมมือกันก็ยังเอาชนะศัตรูไม่ได้ การเรียกวิญญาณก็โดนขัด แถมจะ
เรียกให้คนอื่นมาช่วยอีกครั้งก็ดูท่าว่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
ตัวผม ยิ่งตกอยู่ในกามือผีผู้หญิง ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย
เหล่าเฟิงและหยางเฉ่วก็โดนทําร้ายจนล้มกลิ้งไปกับพื้น ไม่อาจเข้ามาช่วยผมได้ง่ายดายขนาดนั้น
หรือแม้แต่ชีวิตของพวกเขาเอง ก็อาจตกอยู่ในอันตรายด้วย
ทํายังไงดี ตอนนี้ผมจะทํายังไง หรือผมต้องมาตายในมือผีผู้หญิงตนนี้เหรอ
ในขณะที่ผมทําหน้าตกใจ และคิดถึงเรื่องพวกนี้ จู่ๆผีผู้หญิงตนนั้นก็พูดกับผมว่า
“ ไอ้ชายชั่ว คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะมีวันนี้ละซิ ตอนนี้เอาชีวิตของฉันคืนมาเดี๋ยวนี้ !”
หลังจากพูดจบ ผีผู้หญิงชุดแดงก็เงยหน้า อ้าปากกว้าง คำรามดัง “ โฮก” ใส่ท้องฟ้ายามค่ําคืน
เสียงคารามนี้ ไม่เหมือนเสียงกรีดร้องเมื่อก่อนหน้านี้ แต่มันเป็นเสียงคารามแห่งความตื่นเต้น
ขณะมองเขี้ยวที่งอกยาวออกมาจากปากของเธอ ผมก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านในใจ
ถ้าโดนยัยผีตัวนี้กัดเข้าไป ผมจะยังมีชีวิตอยู่เหรอ
ถึงจะไม่ตายในทันที แต่ก็ต้องโดนเขี้ยวสองซีนของเธอเจาะจนเลือดไหลทะลักออกมาอย่างแน่นอน
ไม่ ไม่ได้เด็ดขาด จะมาตายที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นผมจะมาตายเพราะโดนผีผู้หญิงกัดตายที่นี่ไม่ได้
แต่จะทํายังไงละ จะทํายังไง
สั่นกระดิ่ง แต่ผมรู้ตัวนานแล้ว ว่าตอนถูกซัดกระเด็นมาเมื่อกี้ กระดิ่งได้หลุดจากมือผมไปแล้ว
ตอนนี้อย่าว่าแต่กระดิ่งเลย แม้แต่ผมคิดจะหยิบยันต์ออกมาก็ยังทําไม่ได้เลย
ในหัวของผมมีความคิดไหลเวียนอยู่ตลอด ในเวลาเดียวกันก็เริ่มดิ้นรน อยากจะ
หนีจากพันธนาการของผีผู้หญิง และต้องการหาทางช่วยตัวเอง
แต่มันไม่ได้ผลเลยสักนิด พลังหยินของยัยผีตัวนี้แพร่ซ่านไปทั่วทั้งตัวผม
ร่างกายโดนกดเอาไว้ เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่เหมือนโดนดูดไปถึง 90% มันไม่มีทางที่ผมจะต่อต้านเธอได้เลย
ทําได้เพียงกระพริบตาปริบๆรอดูผีผู้หญิงทําทุกอย่างที่เธอต้องการกับตัวผมเท่านั้น
ทันใดนั้นเอง ผีผู้หญิงก็ถลึงตา อ้าปากกว้าง แล้วตรงเข้ามาที่คอของผมอย่างรวดเร็ว
“ ก๊ก ” จบแล้ว จะโดนกัดจริงๆแล้ว
ความคิดแบบนี้แวบเข้ามาในหัวสมองผม กล้ามเนื้อทุกส่วนเกร็งไปหมด
แต่ ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อนั้น จู่ๆเสียงกระดิ่งก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ กริ่ง กริ้งกริ้งกริ้ง”
ขณะที่เสียงกระดิ่งดังขึ้น ร่างกายของผีผู้หญิงก็หยุดกลางอากาศ เธอเผย
ใบหน้าดุร้ายและโหดเหี้ยมออกมา
จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น จ้องไปทางที่เสียงกระดิ่งดังขึ้นทันที
เมื่อเห็นผีผู้หญิงเงยหน้าขึ้น ผมก็ถอนหายในใจด้วยความโล่งอกในใจ สุดท้ายผมก็ไม่โดนกัดคอ
แต่ยังไงก็ยังตกอยู่ในอันตรายอยู่ดี สายตาผมหันมองอย่างอัตโนมัติ ผมพบว่าคนที่กําลังถือกระดิ่งอยู่
ก็คือหยางเฉ่ว
หยางเฉ่ววกาลังยืนหอบหายใจ มือข้างหนึ่งสั่นกระดิ่งอย่างต่อเนื่อง
“ กริ้งกริ้งกร็ง” ในเวลาเดียวกันหยางเฉวยังพูดกับผีผู้หญิงอย่างเย็นชา “ เป็นอะไรไป รู้สึกไม่สบายเหรอ
มาฆ่าฉันซิ !”
พอพูดจบ หยางเฉ่ววก็สั่นกระดิ่งแรงกว่าเดิม “ กริ้งกริ้งกริ้ง…” เสียงกระดิ่งดังขึ้น
อย่างต่อเนื่อง และมันยังยั่วโมโหผีผู้หญิงมากขึ้นเรื่อยๆ
เห็นได้ชัดว่ากระดิ่งยังมีผลกับผีผู้หญิง เธอค่อนข้างอึดอัดพอสมควร
แต่มันก็ไม่เท่าตอนที่เธออยู่ในชุดเหลืองที่กรีดร้องด้วยความทรมาน และล้มกลิ้งลงไปกับพื้น
เพราะผีผู้หญิงชุดแดงในตอนนี้มีพลังเพิ่มขึ้นแล้ว เสียงกระดิ่ง เลยทําให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเท่านั้น
“ นางจิ้งจอก แกคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าแกเหรอฮะ ? ” เสียงผีผู้หญิงแหบสุดๆ
“ งั้นเหรอ ? งั้นแกก็ลองเข้ามาดูซิ!” ขณะพูด หยางเฉวก็ถอยไปข้างหลังอย่างช้าๆ
เหล่าเฟิงก็ลุกขึ้นมาได้แล้ว เขารีบหยิบดาบเข้าไปยืนอยู่ข้างๆหยางเฉ่ว
สายตาของผีผู้หญิงโดนหยางเฉวดึงดูดไปอย่างสมบูรณ์ และภายใต้เสียงกระดิ่งท่าให้ดูน่าหงุดหงิดขึ้นเป็นพิเศษ
บวกกับความอาฆาตตอนมีชีวิตของผีผู้หญิง ในเวลานี้ยังโดนหยางเฉ่วยวขนาด
นี้อีก เธอก็เลยปล่อยมือจากหัวของผม จากนั้นก็ส่งเสียงร้องใส่หยางเฉ่ว “อร้าย”
แล้วหมุนตัวพุ่งไปหาหยางเฉ่วทันที
ผีผู้หญิงเพิ่งขยับตัว หยางเฉ่วและเหล่าเฟิงก็รีบถอยไปข้างหลังอย่างบ้าคลั่ง ใน
เวลาเดียวกันผมก็ได้ยินหยางเฉ่วและเหล่าเฟิงพูดออกมาพร้อมกัน “ เหล่าติง ( ติง
ฝาน ) รีบหนี……”
ตอนพูด ทั้งสองคนก็รีบทิ้งระยะห่างจากผม
เห็นได้ชัดว่า เหล่าเฟิงและหยางเฉ่วทําเพื่อช่วยให้ผมมีทางหนี้ พวกเขาใช้การดึงดูดสายตานางผี
สร้างโอกาสให้ผมหนี
ความรู้สึกที่โดนจคอมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่จริงๆ แต่ในตอนนี้ผมเองก็ไม่มีเวลาให้
คิดมาก
ผมรีบดึงตัวเองออกมาจากกองทราย หลังจากนั้นก็แทบกลิ้งลงมาด้วยซ้ํา
แต่ผมเพิ่งวิ่งออกไม่ได้ถึงสองก้าว ผีผู้หญิงตนนั้นก็ใช้ความเร็วที่เหนือกว่า ไล่
ตามเหล่าเฟิงและหยางเฉ่วแล้ว
เหล่าเฟิงเห็นผีผู้หญิงเข้ามาใกล้ เขาเลยตวัดดาบออกไป ในมืออีกข้างก็หยิบ
กระจกหยินหยางออกมาจากหน้าอก
กระจกอันนี้ก็คืออาวุธที่ใช้สู้กับผีตานีในตอนนั้น ตัวมันเองก็ทรงพลังใช้ได้
ตวัดดาบออกไป กระจกก็ออกมา มันส่องไปที่หน้าของผีผู้หญิงตนนั้นทันที
ทันใดนั้นเองเขาก็รีบตะโกนออกมาทันที “ กระจกหยินหยาง หลิน ปัง โต้ว เจอะเยีย เจิ้น เลี่ย เฉียน ฉิง เพี้ยง !”
การเคลื่อนไหวของเหล่าเฟิงเร็วมาก เร็วจนมองตามไม่ทัน
พอคาถาถูกปล่อยออกมา กระจกในมือเหล่าเฟิงก็เปล่งแสง ราวกับมีลาแส
งอ่อนๆพุ่งตรงไปที่หน้าผีผู้หญิงทันที
ไหนเลยผีผู้หญิงจะรู้ว่าเหล่าเฟิงจะมีอาวุธเช่นนี้ เธอถูกแสงนั้นเข้าเต็มๆ ใบหน้า
รูปไข่อันขาวซีด เหมือนโดนสาดด้วยน้ํากรด มันเริ่มกัดกร่อนทันที พร้อมด้วยเสียง “
ซ่าซ่าซ่า ” และควันสีดําขมุกขมัว
ผีผู้หญิงหยุดการเคลื่อนไหว เธอใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้า และร้อง “อร้าย !ออกมาทันที
แต่เหล่าเฟิงไม่ได้ทําเพียงแค่นั้น เขาเข้าไปด้านหน้าอย่างบ้าบิน
ผมเห็นว่ามีช่องว่างแล้ว เลยหยุดวิ่ง ยื่นมือซ้ายออกมา มองไปที่เม็ดไฝ แล้วรีบ
ประสานมือ เคลื่อนพลังไปกระตุ้นไผ่ทันที
ถ้าหนีต้องหนีไม่รอดแน่นอน ดึกดื่นแบบนี้ โดนผีชุดแดงจ้องเล่นงาน พวกเรา
สามคนจะหนีไปที่ไหนได้
ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นคิดว่าวิธีการาบอีกฝ่าย หรือฆ่าอีกฝ่ายเลยจะดีกว่า
เห็นได้ชัดว่าพลังของผมทั้งสามคนไม่พอ ดังนั้นยังไงก็ต้องเรียกคนอื่นมาช่วย
ด้วยเหตุนี้ ผมเลยหยุดเพื่อกระตุ้นไฝ หวังว่าพวกเหล่าเฟิงจะถ่วงเวลาได้สัก
สามสิบวินาที ให้ผมเรียกร่างจิตของมู่หลงเหยียนได้สําเร็จ
ในขณะที่ผมเคลื่อนพลัง ไฝดําก็เริ่มร้อนขึ้นทีละนิด
ต่อจากนั้น มันก็เริ่มเปลี่ยนรูปร่าง กลายเป็นรูปหยินหยาง
“ มู่หลงเหยียน !”
พอผมค่านวณเวลาดีแล้ว ก็รีบพูดออกมาทันที
เสียงเพิ่งเงียบลง ภาพหยินหยางก็เริ่มร้อนยิ่งกว่าเดิม ในเวลาเดียวกันด้านข้างก็เริ่มมีสัญลักษณ์ปาก้ว
ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
เมื่อหันไปมองผีผู้หญิงอีกครั้ง ผีผู้หญิงได้หายใจเป็นปกติ และคลายมืออย่างผ่อนคลายแล้ว
เมื่อกี้โดนกระจกหยินหยางส่องเข้าไปที่หน้า หน้าของเธอเลยโดนกัดกร่อน
อย่างสมบูรณ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ําเหลือง น่าสยดสยอง และน่ากลัวผิดมนุษย์
ผีผู้หญิงตะคอกเสียงดัง “ ไอ้ชั่ว กล้าทําให้ฉันเสียโฉม ฉันจะฆ่าแก !”
พอพูดจบ ผีผู้หญิงก็พุ่งเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เร็วจนถึงขีดสุดของเธอ
เหล่าเฟิงและหยางเฉ่วเห็นผีผู้หญิงพุ่งเข้ามาอีกครั้ง หยางเฉ่วจึงสันกระดิ่งเร็วกว่าเดิม เสียงกระดิ่งดัง
“กริ้งกริ้งกริ้ง” ไม่หยุด
แต่กระดิ่งในตอนนี้ จะยังใช้ได้ผลกับผีผู้หญิงอีกเหรอ มันทําได้แค่กวนประสาทอีกฝ่ายเท่านั้น
เหล่าเฟิงก็ไม่ลังเล ยกกระจกหยินหยางขึ้น เตรียมโจมตีใส่ผีผู้หญิงอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ ผีผู้หญิงเตรียมตัวรับมือเอาไว้แล้ว
เหล่าเฟิงเพิ่งเริ่มท่องคาถาถึงค่าว่า “ กระจกหยินหยาง” ยัยผีตัวนั้นก็หายตัวไปจากสายตาทุกคนทันที
เมื่อเห็นฉากนี้ พวกเราทุกคนก็อึ้งในทันที
เธอหายไปจริงๆ ภายใต้ดวงตาสวรรค์ ไม่มีแม้แต่เงาของเธอเลยด้วยซ้ํา
ต่อจากนั้น จู่ๆสายลมอันเยือกเย็นก็พัดเข้าหาเหล่าเฟิงจากทุกทิศทุกทาง เหล่า
เฟิงตกใจ แอบพูดว่าอันตราย แล้วหันไปมองรอบๆทันที
แต่ผมที่อยู่ในที่ห่างไกล กลับเห็นอย่างชัดเจน ผีผู้หญิงตนนั้นได้โผล่ออกมาจากอากาศอันเบาบาง
ซึ่งอยู่ตรงหน้าเหล่าเฟังแล้ว
ยังไม่รอให้เหล่าเฟิงได้ตอบสนองอะไร เธอก็ตวัดกรงเล็บอย่างแรง ไปที่หน้าอกของเหล่าเฟิง……