เดิมพันรักยัยตัวแสบ – เดิมพันรักยัยตัวแสบ – ตอนที่ 559 พินัยกรรม

เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 559 พินัยกรรม

บทที่ 559 พินัยกรรม

พอเป่หมิงยันได้ยินว่าเป่หมิงเอ้อขู่ รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที: “เฮ้ย หนังที่ฉันถ่ายอยู่ไม่ได้ชื่อ ‘อะไรๆ’นะ มันชื่อว่า‘Heirs from the Earth’เป็นภาคก่อนของ ‘Heirs from the stars’เลยนะ มันสนุกมากเลย เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนรวย เป่หมิงเอ้อ เธออย่ามาขู่ฉันเลยนะ ฉันสัญญาว่าจะกลับไปบ้านภายในสามวันนี้ พอละ ไม่พูดเยอะละ ฉันจะไปถ่ายหนังแล้ว”

เป่หมิงยันพูดจบก็วางสายลง จากนั้นถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ เขายกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากออก วันนี้เป่หมิงเอ้อกินระเบิดอะไรลงไปเนี่ย

เพิ่งวางมือถือลง มือถือก็ดังขึ้นมาอีกแล้ว เป่หมิงยันเอามือถือขึ้นมาดู เป่หมิงโม่อีกล่ะ: “เฮ้อ เป่หมิงเอ้อ ฉันรู้แล้ว…”

ยังไม่รอเป่หมิงยันพูดจบ ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของดู เป่หมิงโม่: “ยังไม่เคยมีใครกล้าวางสายลงก่อนฉันเลย”พูดจบ ต่อมาก็เป็นเสียง “ตือ ตือ…”ของมือถือที่วางสายลง

เป่หมิงยันรู้สึกตลกมากเลย เป่หมิงเอ้อนี่ก็ใจแคบจริงๆ แค่วางสายลงก็เรื่องแค่นี้ก็ไม่ยอมคน

***

หลังจากที่เป่หมิงโม่ออกจากบ้านไม่นาน ทนายความส่วนตัวของท่านปู่เป่หมิงเสิ่นจื่อผิงก็กดกริ่งหน้าบ้านบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิง

ไม่นาน คนใช้ก็ยกชาเข้ามาที่ห้องโถง

เขานั่งอยู่บนโซฟาสักพัก ก็เห็นเจียงฮุ่ยซินโผล่ออกมาที่บันไดชั้นสอง

เสิ่นจื่อผิงรีบลุกขึ้นมาพยักหน้าให้เจียงฮุ่ยซิน: “อรุณสวัสดิ์ครับท่านนางเป่หมิง”

เจียงฮุ่ยซินก็ยิ้มพยักหน้าให้เขา จากนั้นค่อยๆ เดินลงมาจากบันได

เสิ่นจื่อผิงยืนอยู่ที่เดิม ดูเจียงฮุ่ยซินเดินลงมาจากบันได

จากนั้นมาที่โซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับตัวเอง ยื่นมือมาทางตัวเอง: “เชิญนั่งค่ะคุณทนายเสิ่น”

สองคนนั่งลง เหล่าคนใช้ยกชามาสองแก้ววางไว้บนโต๊ะ

หลังจากที่เจียงฮุ่ยซินนั่งลงยื่นมือไปเอาชามา เป่าใบชาที่ลอยอยู่บนน้ำชาเบาๆ ดื่มคำน้อยๆ

ต่อมาเธอเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นจื่อผิง: “วันนี้ลมอะไรพัดคุณทนายเสิ่นมาคะ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรไหม”

เสิ่นจื่อผิงยิ้มและขยับไปข้างหน้า: “ท่านนางเป่หมิงครับ คือวันก่อนผมกับคุณท่านเป่หมิงได้แก้ไขพินัยกรรม แต่อยู่ๆ คุณท่านเป่หมิงก็เป็นอัมพาต ดังนั้น พินัยกรรมฉบับนี้เลยยังไม่ได้แก้ไขสำเร็จ วันนี้ที่ผมมาก็คืออยากมาคุยรายละเอียดเรื่องพินัยกรรมกับคุณท่านเป่หมิง”

เจียงฮุ่ยซินยักคิ้วเล็กน้อย ยิ้มพูดว่า: “เรื่องนี้นี่เอง แต่สามีฉันยังอยู่ในโรงพยาบาลอยู่เลย พินัยกรรมนี้น่าจะไม่สามารถไปต่อแล้ว”

เสิ่นจื่อผิงจับแว่นตา: “ท่านนางเป่หมิง งั้นก็ไม่เป็นไร ตอนนี้แค่จะแน่ใจบางเรื่องเฉยๆ ไม่มีอย่างอื่นอีกแล้ว ถ้าคุณท่านเป่หมิงไม่อยู่ อย่างนั้นผมจะไปโรงพยาบาลเอง แต่จะรบกวนท่านนางเป่หมิง ช่วยเอาประทับส่วนตัวให้ผมหน่อย เดี๋ยวถ้าเราคุยกันเรียบร้อย พินัยกรรมก็มีผลแล้ว”

พูดถึงตรงนี้ สนหน้าของเสิ่นจื่อผิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นรู้สึกอึดอัดมาก: “ท่านนางเป่หมิง ผมอยากเข้าห้องน้ำ ขอถามหน่อยว่าห้องน้ำอยู่ไหนหรอ”

เจียงฮุ่ยซินโบกมือเรียกสาวใช้คนหนึ่ง: “พาคุณทนายเสิ่นไปห้องน้ำ”

เหมือนเสิ่นจื่อผิงจะอดไม่ไหวแล้ว เขาเอาเอกสารในมือวางไว้บนโซฟา รีบไปห้องน้ำกับสาวใช้ทันที

เจียงฮุ่ยซินหันไปดูว่าเขาไปแล้ว รีบเปิดซองเอกสารที่อยู่บนโซฟาออกมา ข้างในเป็นพินัยกรรมที่เป่หมิงเจิ้งเทียนเขียนขึ้นมา

เธอดูลงไปทีละข้อๆ พอเห็นช่องแบ่งทรัพย์สิน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย

จากนั้นเธอก็เก็บเข้าไปในซองเอกสารใหม่ วางไว้บนโซฟา

ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น ยกแก้วขึ้นมาดื่มชาต่อ

รอคุณทนายเสิ่นกลับมาอีกครั้ง เจียงฮุ่ยซินลุกขึ้นมา: “รอแปบหนึ่งนะคะคุณทนายเสิ่น ฉันไปเอาประทับมา” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นไปชั้นบนเอาประทับส่วนตัวของท่านปู่เป่หมิง

ไม่นาน เจียงฮุ่ยซินลงมาอีกครั้ง เธอยิ้มมองเสิ่นจื่อผิง: “ไม่ทราบว่าคุณทนายเสิ่นให้ฉันดูพินัยกรรมของสามีฉันจะได้ไหม”

พอคุณทนายเสิ่นได้ยิน สีหน้าไม่ดีเลย: “ท่านนางเป่หมิงครับ คือว่า…”

เจียงฮุ่ยซินเห็นเสิ่นจื่อผิงสีหน้าแบบนี้ ก็ไม่หาเรื่องขาอีกแล้ว เอาประทับให้เขา: “ถ้าคุณทนายเสิ่นไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร”

พูดจบก็โบกมือเรียกคนขับรถมา: “เหล่าหลี่ ส่งคุณทนายเสิ่นไปหาคุณท่าน”

เสิ่นจื่อผิงรับประทับมา เอามันไว้ในซองเอกสาร: “ขอบคุณนางท่านเป่หมิงเข้าใจ” พูดจบก็เดินตามคนขับรถเหล่าหลี่ออกไป

“รอสักครู่ค่ะ…”

***

เมื่อคุณทนายเสิ่นกำลังจะออกไปบ้านใหญ่ของตระกูลเป่หมิงกับคนขับรถเหล่าหลี่ ก็ได้ยินเสียงจากข้างบน: “รอสักครู่ค่ะ”

ไม่ใช่แค่คุณทนายเสิ่นที่หันกลับไปดูคนเดียว เจียงฮุ่ยซินก็มองไปที่ข้างบนเหมือนกัน เห็นแต่เฟยเอ๋อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เธอวิ่งลงมาจากชั้นบน

มาถึงชั้นหนึ่ง เธอยิ้มพยักหน้าให้กับเจียงฮุ่ยซินก่อน จากนั้นพยักหน้าให้กับคุณทนายเสิ่น

เสิ่นจื่อผิงงงมาก ดูเฟยเอ๋ออย่างน่าสงสัย: “ไม่ทราบว่าคุณคือ…”

เจียงฮุ่ยซินเดินเข้ามาแนะนำให้คุณทนายเสิ่น: “คุณทนายเสิ่น คนนี้คือคู่หมั้นของโม่ค่ะ”

เสิ่นจื่อผิงพยักหน้า

เจียงฮุ่ยซินชี้เสิ่นจื่อผิงแนะนำให้เฟยเอ๋อรู้จักอีก: “คนนี้คือทนายความส่วนตัวของคุณท่านคุณทนายเสิ่น”

เฟยเอ๋อยิ้มพยักหน้าให้กับเสิ่นจื่อผิง: “สวัสดีค่ะคุณทนายเสิ่น”

คุณทนายเสิ่นพยักหน้า: “ไม่ทราบว่าคุณเฟยเอ๋อมีอไรหรือเปล่าครับ”

“คุณทนายเสิ่น ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันก็แค่อยากนั่งรถไปเยี่ยมท่านเป่หมิงกับคุณด้วยกันค่ะ ฉันกับโม่ใกล้จะแต่งงานแล้ว ตอนนี้ยังไม่เคยเห็นหน้าท่านเลย รู้สึกไม่ค่อยดีค่ะ” เฟยเอ๋อพูดจบก็หันไปดูเจียงฮุ่ยซิน

พอเจียงฮุ่ยซินได้ยินว่าเฟยเอ๋อจะไปเยี่ยมคุณท่าน อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แต่ไม่นานก็ใช้ยิ้มมาปกปิดไว้แล้ว: “คุณทนายเสิ่น พาเธอไปเถอะ ยังไงเธอก็ใกล้เป็นคนบ้านเราแล้ว”

เสิ่นจื่อผิงก้มหน้าคิดสักพัก: “ก็ได้ ยังไงคุณเฟยเอ๋อก็ไม่ใช่คนนอก อย่างนั้นเราไปด้วยกันเลยก็ได้”

ทันใดนั้นเฟยเอ๋อยิ้มอย่างกับดอกเบิกบาน: “ขอบคุณคุณน้าที่ช่วยพูดให้ค่ะ คุณทนายเสิ่นเราไปกันเลยค่ะ”

เจียงฮุ่ยซินยืนอยู่ในห้องโถง ดูสามคนที่กำลังออกไป โดยเฉพาะเฟยเอ๋อยิ้ม มุมปากของเธอโค้งขึ้นเล็กน้อย

*

ไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาลแล้ว เคาะประตูห้องของท่านปู่เป่หมิงเบาๆ คุณทนายเสิ่นและเฟยเอ๋อเข้าไปข้างใน ส่วนเหล่าหลี่รออยู่ที่ประตู

คุยเรื่องแก้ไขพินัยกรรมกับท่านปู่เป่หมิง คนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องก็ต้องหลบหน่อย ขนาดคุณหมอที่เป็นเวรก็ต้องออกไป

เวลานี้ในห้องเหลือแต่ท่านปู่เป่หมิงที่นอนอยู่บนเตียง คุณทนายเสิ่นและเฟยเอ๋อ

หลังจากที่เฟยเอ๋อลงจากรถ ยังตั้งใจไปซื้อดอกไม้สดมาช่อหนึ่ง

เธอยิ้มถือดอกไม้ต่อหน้าท่านปู่เป่หมิง: “ท่านเป่หมิงคะ ฉันมาเยี่ยมคุณแล้วค่ะ”

ท่านปู่เป่หมิงค่อยๆ หันหน้าไปตามเสียง เห็นเฟยเอ๋อยืนอยู่ข้างหน้าตัวเอง สีหน้าก็กลายเป็นรังเกียจ

คุณทนายเสิ่นยืนอยู่ข้างๆ เฟยเอ๋อ ในมือของเขาถือซองเอกสารที่ใส่พินัยกรรมอยู่

“ท่านเป่หมิงครับ เรามาแก้ไขพินัยกรรมได้หรือยังครับ” คุณทนายเสิ่นพูดจบก็จะเปิดซองเอกสารออกมา

ท่านปู่เป่หมิงขมวดคิ้ว พยายามพูดออกมาสองคำ: “ไม่…ได้…”

คุณทนายเสิ่นหยุดการกระทำ: “ท่านเป่หมิงครับ ท่านให้ผมมาเพื่อจะแก้ไขพินัยกรรมไม่ใช่หรอ ทำไมไม่แก้แล้วหรอ”

ท่านปู่เป่หมิงค่อยๆ ส่ายหัว จากนั้นจ้องไปที่เฟยเอ๋อ

พูดออกมาสองคำว่า: “เธอ…ไป…”

คุณทนายเสิ่นหันหน้าไปดูเฟยเอ๋อ: “คุณเฟยเอ๋อ ขอโทษด้วยนะ ตอนที่ท่านเป่หมิงกับผมแก้ไขพินัยกรรมอยู่ ท่านไม่อยากให้คุณอยู่ด้วย เชิญคุณไปพักผ่อนที่อื่นนะครับ”

เฟยเอ๋อดูออกได้ว่าท่านปู่เป่หมิงมองตัวเองแบบรังเกียจตัวเอง

เธอก้มหน้ากัดริมฝีปาก จากนั้นเงยหัวขึ้นพูดกับคุณทนายเสิ่นและท่านปู่เป่หมิงว่า: “ไม่เป็นไร ฉันไปรอที่ห้องสังเกตก็ได้”

พูดจบเธอก็หันหลังไป เดินเข้าไปในห้องสังเกต ยิ้มและโบกมือให้กับคุณทนายเสิ่นจากนั้นก็นั่งลง

***

คนขับรถเหล่าหลี่ขับรถพาคุณทนายเสิ่นและเฟยเอ๋อมาเจอท่านปู่เป่หมิง แต่พอท่านปู่เป่หมิงเจอเฟยเอ๋อกลับทำท่าทางไม่ชอบเธอมาก

เมื่อกำลังจะเริ่มแก้ไขพินัยกรรม เฟยเอ๋อถูกเชิญออกไปที่ห้องสังเกต

ตอนนี้ในห้องเหลือแค่ท่านปู่เป่หมิงและคุณทนายเสิ่นสองคนแล้ว

คุณทนายเสิ่นเอาเก้าจากข้างๆ มาหนึ่งตัวและนั่งลง จากนั้นคว้าเครื่องบันทึกวิดีโอเทปเครื่องเล็กๆ และที่ตั้งออกมา

เขาปรับมุมด้วยความรวดเร็ว แน่ใจว่าสามารถเห็นใบหน้าของท่านปู่เป่หมิงและรูปร่างของตัวเองอย่างชัดเจน

กดปุ่มบันทึกภาพ ไฟของเครื่องบันทึกวิดีโอเทปเริ่มกะพริบ

คุณทนายเสิ่นกลับเข้าไปนั่งที่ใหม่ และเอาปากกาบันทึกเสียงออกมาเปิดไว้

พอเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย คุณทนายเสิ่นเริ่มพูดขึ้น: “ท่านเป่หมิงครับ เพื่อที่จะแน่ใจความราบรื่นของการแก้ไขพินัยกรรมครั้งนี้ เนื่องจากว่าท่านไม่สะดวกพูดคุยด้วย ดังนั้นเราจะใช้วิธีใหม่ ก็คือผมจะถาม ท่านแค่ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่ก็พอแล้ว ใช้วิธีกะพริบตา กะพริบครั้งเดียวก็คือ ‘ใช่’หรือ ‘เห็นด้วย’กะพริบสองครั้งก็คือ ‘ไม่ใช่’หรือ ‘ไม่เห็นด้วย’”

คุณทนายเสิ่นเล่าวิธีการแก้ไขพินัยกรรมให้ท่านปู่เป่หมิงฟังหนึ่งรอบ จากนั้นพูดว่า: “คุณเป่หมิงครับ กรุณาใช้วิธีเมื่อกี้ตอบคำถาม คุณเห็นด้วยหรือไม่ที่จะเริ่มแก้ไขพินัยกรรมแล้ว”

ท่านปู่เป่หมิงกะพริบครั้งเดียวแรงๆ

คุณทนายเสิ่นพยักหน้า: “คุณเป่หมิงครับ การทดสอบต่อไปคือจะพิสูจน์ว่าการแก้ไขพินัยกรรมครั้งนี้คือแก้ไขตอนที่คุณยังมีสติอยู่ กรุณาใช้วิธีเมื่อกี้ในการทดสอบ”

ต่อมาคุณทนายเสิ่นถามท่านปู่เป่หมิงกี่คำถาม ท่านปู่เป่หมิงบางครั้งก็กะพริบหนึ่งครั้ง บางครั้งก็กะพริบสองครั้ง ผ่านการทดสอบไปด้วยดี

เฟยเอ๋อนั่งอยู่ในห้องสังเกต ตอนแรกเธออยากจะมาเยี่ยมท่านปู่เป่หมิง เพราะยังไงก็ใกล้จะแต่งงานกับเป่หมิงโม่แล้ว เอาใจคนแก่หน่อย

แต่สุดท้ายกลับมาหาเรื่องให้กับตัวเอง และเธอก็ดูออกว่าท่านปู่เป่หมิงไม่ชอบเธอ แต่ก็ไม่เป็นไรแล้ว แค่สามารถเข้าไปอยู่ในบ้านเป่ยหมิงได้ คุณอื่นจะคิดกับเธอยังไงก็ไม่เป็นไรแล้ว

ดูท่ามือและปากของคุณทนายเสิ่นขยับไม่หยุด พอผ่านเวลาไปนานๆ ก็รู้สึกเบื่อมาก

ก้มหน้าดูที่โต๊ะ มีหน้าวางไว้ที่ใต้โต๊ะ ซึ่งเฟยเอ๋อเห็นมันผ่านกระจก

หน้าจอแสดงข้อมูลต่างๆ ข้างโต๊ะยังมีปุ่มสีเขียวอีกด้วย ข้างๆ ยังมีปุ่มหมุน ข้างล่างของปุ่มติดป้ายโลหะไว้ ข้างบนเขียนว่าดักฟัง

เฟยเอ๋ออยากรู้จึงยื่นมือไปกดปุ่มสีเขียว เสียงคุณทนายเสิ่นที่พูดอยู่ในห้องก็ดังขึ้นมา

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

Status: Ongoing

เธอเป็นหญิงสาวที่มีความลำบาก ตกลงเป็นแม่อุ้มบุญ เขาเป็น ประธานใหญ่ เธออ่อนโยนและน่ารัก เขาโหดร้ายและเย็นชา.

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท