เดิมพันรักยัยตัวแสบ – เดิมพันรักยัยตัวแสบ – ตอนที่ 792 ซักถาม

เดิมพันรักยัยตัวแสบ - ตอนที่ 792 ซักถาม

ตอนที่ 792 ซักถาม

“เฮ้ คุณกำลังคิดอะไรอยู่” หลังจากเป่หมิงโม่ใช้เวลาอย่างสบายใจ ก็หันหน้าไปมองกู้ฮอนที่กำลังนั่งอยู่หน้าเต็นท์คนเดียว แขนของเธอโอบกอดรอบเข่า คางก็วางอยู่บนนั้น

เป่หมิงโม่มองไปที่เธอดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรตอบสนองกลับมา ความคิดส่วนใหญ่ของเธอได้เหม่อลอยออกไปแล้ว

เขาค่อยๆลุกจากเปลญวน จากนั้นเดินไปที่ด้านข้างของกู้ฮอนอย่างเงียบๆ ค่อยๆย่อตัวลง วางหน้าแนบกับหูของเธอแล้วค่อยๆพูดว่า “ผมกำลังถามว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่”

เสียงที่ดังขึ้นอย่างกระทันหันข้างหู ทำให้ร่างกายของกู้ฮอนรู้สึกตัว

เธอหันหน้าตามสัญชาตญาณไปยังทิศทางของเสียง

“จุ๊บ…..”

ใบหน้าของเธอสัมผัสกับริมฝีปากของเป่หมิงโม่พอดี

“นี่! เป่หมิงเอ้อคุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่!” กู้ฮอนหันหน้าไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว ขยับร่างกายไปด้านข้าง

เป่หมิงโม่ยิ้มเล็กน้อย และเลิกคิ้ว “ผมคิดว่าคุณกำลังคิดเรื่องต่างๆอยู่ พูดเสียงดังก็กลัวว่าคุณจะตกใจ ก็เลยจะมาพูดเบาๆแต่กลับถูกคุณบ่นซะก่อน”

“หึ คุณมันก็คือคนขี้โกง เอาเหตุผลที่ไม่เป็นเหตุผลมาอ้างได้ ออกไปห่างๆฉัน” กู้ฮอนตอนนี้รู้สึกอายและรำคาญมาก ใบหน้าของเธอค่อยๆปรากฏเป็นสีแดง

เป่หมิงโม่มองไปที่เธออย่างสนุก “เฮ้ คุณคิดอะไรอะ เหม่อลอยอะไรขนาดนั้น คิดถึงหยินปู้ฝันเหรอ หรือว่าคนที่ชื่อ Noton”

“เป่หมิงโม่ คุณจริงจังหน่อยได้ไหม คุณคิดว่าทุกคนเหมือนคุณหรือไง”

***

หลังจากที่กู้ฮอนกลอกตามองเป่หมิงโม่ เธอพูดว่า “ฉันคิดถึงแม่ของฉันและหวีหรูเจี๋ย”

“หะ” เป่หมิงโม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “คุณคิดว่าระหว่างพวกเขามีอะไรผิดปกติเหรอ”

กู้ฮอนถอนหายใจ เงยหน้ามองไปยังเด็กที่วิ่งเล่นอยู่บนสนามหญ้าที่อยู่ไกลออกไป เด็กคนนั้นมีอายุใกล้เคียงกับลูกทั้งสองคนของเธอ ซึ่งกำลังเล่นอยู่กับพ่อแม่อย่างสนุกสนาน

เธอไม่รู้ว่าเจียงฮุ่ยซินจะบอกเขาหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญเสียลูกของลู่ลู่

“ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ แต่แค่ตอนนี้ฉันยังไม่ได้บอกให้แม่ของฉันฟัง ว่าจริงๆแล้วหวีหรูเจี๋ยพักอยู่ห้องข้างๆ จริงๆแล้วฉันก็รู้ นี่ล้วนเป็นการจัดการของคุณ” พูดจบเธอก็หันหน้าไปมองเป่หมิงโม่

เป่หมิงโม่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หยิบแอปเปิลที่ล้างสะอาดแล้วลูกหนึ่งขึ้นมาจากในจานที่อยู่บนเสื่อปิกนิก จากนั้นเขาก็ดึงมีดเล็กๆออกมาจากนิ้ว และเริ่มปอกเปลือก

เขาปอกเปลือกได้เร็วมาก ไม่ทันถึงหนึ่งนาที แอปเปิลลูกหนึ่งที่เกลี้ยงสะอาดก็ถูกปอกเสร็จสมบูรณ์

เขาหยิบแอปเปิลและยื่นให้กู้ฮอนที่อยู่ข้างๆ

กู้ฮอนยื่นมือรับแอปเปิล แต่เธอยังคงไม่ยอมแพ้กับคำถามนั้นของตัวเอง “ฉันรู้ว่าคุณไม่ยอมรับแน่นอน แต่แค่การกระทำของคุณได้เปิดเผยตัวคุณเอง”

“อย่างนั้นก็ใช้การสังเกตอย่างเฉียบแหลมของคุณในฐานะทนายความวิเคราะห์ให้ผมฟังหน่อย ฉันจะฟังอย่างตั้งใจ” เป่หมิงโม่พูดจบ เขาเริ่มปอกแอปเปิลลูกที่สอง

กู้ฮอนกัดแอปเปิลเบาๆ “แอปเปิลนี้หวานจริงๆ” พูดจบเธอก็กัดไปอีกคำ หลังจากนั้นเธอก็เพลิดเพลินกับมันอยู่ครู่หนึ่ง

“อันที่จริงก็ง่ายมาก ฉันรู้มาจากพ่อบุญธรรมแล้ว เมื่อตอนที่หวีหรูเจี๋ยไม่สบาย คุณเป็นคนพาเธอไปส่ง และนอกจากจะขับรถแล้ว คุณก็ยังอุ้มเธอขึ้นลง”

มีดที่อยู่ในมือของเป่หมิงโม่ค่อยๆหยุดลงเพียงชั่วขณะ “จะบอกได้ว่าเรื่องนี้เรื่องเดียวก็จะพิสูจน์ได้ว่าผมให้อภัยเขาแล้วงั้นเหรอ”

น้ำเสียงของเขาไม่ใช่น้ำเสียงที่โกรธ ถ้าเป็นเมื่อก่อนแค่พูดถึงหวีหรูเจี๋ยขึ้นมาก็โกรธแล้ว ตอนนี้เขาดูจะสงบลงไปมาก เหมือนกับว่าเป็นการพูดคุยเรื่อยเปื่อยระหว่างเพื่อน

อย่างน้อยเป็นแบบนี้ในตอนนี้ หรือบางในอนาคตอันใกล้ เขาอาจจะเปลี่ยนอารมณ์มาบูดเหมือนเดิมก็ได้

กู้ฮอนส่ายหน้า “แน่นอนว่าเพียงแค่เรื่องเดียวไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ คุณจะสามารถอธิบายทั้งหมดได้ว่า ‘เห็นคนใกล้ตายจะไม่ช่วยได้อย่างไร’ แต่การที่จงใจจัดการให้แม่ของฉันกับหวีหรูเจี๋ยมาพักอยู่ในห้องผู้ป่วยที่ใกล้กัน อย่างนั้นจะอธิบายว่าอย่างไรดีล่ะ เรื่องนี้ไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น”

แอปเปิลในมือของเป่หมิงโม่ปอกเสร็จเรียบร้อย เขากัดไปหนึ่งคำ “พูดต่อสิ” เขาทำเป็นเหมือนคนนอกที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วฟังกู้ฮอนพูดต่อไป

“ถ้าหากว่าไม่ใช่คุณ ฉันก็ยังไม่คิดไม่ออกจริงๆว่าจะมีใครจะมีความสามารถแบบนี้ คุณอย่าภูมิใจไป ฉันไม่ได้มาชมเชยคุณ ยุคนี้เป็นยุคที่เต็มไปด้วยการบูชาเงินและยึดติดกับผู้มีอำนาจ มีคนเช่นนี้แบบคุณมากมาย มีทรัพยากรในครอบครอง และควบคุมชะตากรรมของคนอื่น”

ขณะที่กู้ฮอนกำลังพูดอยู่นั้นอารมณ์ของตนเองก็เริ่มตื่นเต้น พูดจบ เธอก็กัดแอปเปิลอีกครั้ง

เป่หมิงโม่มองไปที่สีหน้าที่แสดงความไม่พอใจของเธอ และรู้สึกตลกเล็กน้อย “ทำไม คุณจะตั้งให้ผมเป็นเศรษฐี หรือแค่จะเอาชนะล่ะ”

“หะ! อย่าคิดว่าฉันชมคุณ บอกมาตามตรงเถอะ คุณกำลังทำอยู่ใช่ไหม”

***

เป่หมิงโม่กินแอปเปิลที่อยู่ในมือจนหมด แล้วโยนแกนกลางใส่ถุงเล็กๆที่อยู่ข้างเขา

เขาไม่อยากยอมรับว่าตัวเองเป็นคนทำเรื่องนี้

ในความเป็นจริงมันก็เป็นแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าจิตใจของตนเองได้เริ่มผ่อนคลายลง แต่ก็ยังต้องรักษาหน้าตาของตนเองเอาไว้

เป่หมิงโม่ก็เป็นแบบนี้ เขาไม่ได้ส่งเสียงใดๆออกมา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน แล้วก้าวเดินอย่างช้าๆไปบนพื้นหญ้าท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่น

“แม้ว่าคุณจะไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่มีทางจะเปลี่ยนความจริงที่คุณทำได้!” กู้ฮอนนั่งลงบนเสื่อปิกนิก พูดกับเป่หมิงโม่ที่อยู่ไม่ไกลด้วยเสียงดัง

เป่หมิงโม่ขมวดคิ้วเล็กน้อย จริงๆแล้วเขาก็ถามตัวเองว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้ เพียงแค่เขาไม่สามารถให้เหตุผลที่น่าเชื่อถือให้กับตัวเองได้ นับประสาอะไรกับการหาเหตุผลมาพูดให้เธอฟัง

*

เฉิงเฉิงและหยางหยางมาด้วยกัน ร่างเล็กๆทั้งสองเหมือนนกที่โบยบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างมีความสุข

ในสวนสนุกมีของที่สนุกให้เล่นมากมาย หยางหยางก็เล่นจนหยุดไม่ได้

ปกติแล้วเฉิงเฉิงไม่ได้มาที่นี่เหล่านี้ แต่เขาก็ยังคงเป็นเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยางหยางที่เริ่มติด ก็ค่อยๆปล่อยไป

“พวกเราไปเล่นตรงนั้นกันเถอะ” หยางหยางชี้ไปยังรถไฟเหาะที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขาด้วยท่าทางน่าตื่นเต้น

เฉิงเฉิงส่ายหน้า “พ่อบอกว่า ไม่ให้พวกเราไปนั่งที่อันตรายเกินไป”

“พวกเราจะเล่นหรือไม่เล่นพ่อก็ไม่เห็นหรอก ขึ้นอยู่กับว่านายเป็นคนปากโป้ง นายอย่าบอกฉันนะว่านายเป็นพวกขี้ขลาด” หยางหยางมองไปที่เฉิงเฉิง ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

เฉิงเฉิงกลอกตามองหยางหยาง ขนาดบอกแบบนี้เขาก็ยังคงไม่สนใจ “ถ้านายไป ต่อไปก็ไม่ต้องมาพูดเรื่องเกี่ยวกับรถอีกแล้ว”

ประโยคนี้ใช้ได้ผลจริงๆ หยางหยางได้ยินแล้วก็รู้สึกกระสับกระส่ายทันที เขาสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเล็กๆ ทำหน้าตาเฉยเมยและพูดกับเฉิงเฉิง “เหอะๆ ฉันไม่ได้พูดตามอำเภอใจ เอาจริงๆนะ ถ้าไม่ได้เล่นเจ้านี่จะมีของชิ้นไหนน่าเล่นอีก ‘เครื่องเล่นลูกตุ้ม’ เป็นไง”

“ไม่ได้”

“งั้น ‘รถแข่ง’ ล่ะ”

“ไม่ได้”

……

หยางหยางพูดมาหลายอย่าง แต่เฉิงเฉิงก็ปฏิเสธไปทีละอย่าง

“แบบนี้จะเรียกว่าออกมาเล่นเหรอ อันนี้ก็ไม่ได้ อันนั้นก็ไม่ได้” หยางหยางเริ่มจะหมดความอดทน และเขาก็เริ่มหงุดหงิดอารมณ์แล้วบ่นขึ้น

“นายรู้ไหมว่าที่นายพูดออกมาเครื่องเล่นมันอันตรายทั้งนั้น ตอนนี้พวกเรายังเด็กเกินไปที่จะเล่นเครื่องพวกนั้น ยิ่งไปกว่านั้นถ้ายอมให้นายไปเล่น เจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาต”

เรื่องที่เฉิงเฉิงพูดมาด้วยเป็นความจริง ในสวนสนุก มีเครื่องเล่นหลายชนิดที่มีความน่าตื่นเต้น จึงต้องมีผู้ใหญ่มาด้วย หรือมีส่วนสูงตามกำหนด

“เป่หมิงซีเฉิง……” เสียงดังมาจากสถานที่ที่ไม่ไกลจากพวกเขา

น้ำเสียงที่ดังมานั้นฟังแล้วมีความคุ้นเคย

เฉิงเฉิงและหยางหยางพยายามมองหาต้นเสียง

“เฮ้ๆ เธอมาหานาย” หยางหยางใช้ศอกสะกิดแขนของเฉิงเฉิงพร้อมกับยิ้มเยาะ

ในตอนนี้ เฉิงเฉิงถึงกับขมวดคิ้ว เพราะคนที่วิ่งเข้ามานั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นจ้าวจิ้งอี๋

วันนี้เธอสวมชุดลายดอกไม้สีชมพู กระเป๋าสีชมพูใบเล็กที่เข้ากับชุดนั้นถูกสะพายอยู่บนแขนอันขาวของเธอ

“คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอนายที่นี่” จ้าวจิ้งอี๋ยืนอยู่ตรงหน้าเฉิงเฉิง พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปิติยินดี

“ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ได้ คงจะไม่ใช่ว่าเมื่อวานมาแอบฟังฉันกับเฉิงเฉิง วันนี้ก็เลยมาที่นี่เพื่อพบเขานะ” หยางหยางฉวยโอกาสที่จะตอบโต้พวกเขาทั้งสองคน ครั้งก่อนที่พวกเขาแสดงละครด้วยกัน พวกเขาทั้งสองก็ตอบโต้กันเบาๆ

***

ใบหน้าของจ้าวจิ้งอี๋ค่อยๆแดงระเรื่อ และมีสีหน้าโกรธหยางหยาง “ฉัน ฉันนี่เหรอจะไปแอบฟังพวกนายคุยกัน อีกอย่างบ้านนายก็ไม่ได้ก่อตั้งที่นี่ ทำไมฉันจะมาไม่ได้”

พูดจบเธอก็เงยหน้าขึ้นจ้องหยางหยาง “ใช่ ฉันได้ยินมาว่านายเป็นฮีโร่ที่ช่วยปีนต้นไม้ขึ้นไปหยิบว่าวให้คนอื่น และสุดท้ายก็ตกลงมา ตอนนี้ดูนายจะดีขึ้นกว่าที่ฉันคิดไว้ตั้งเยอะ”

หยางหยางหัวเราะสองครั้ง ไม่เคยคิดว่า ‘วีรกรรม’ ของตนเองในมุมของเธอจะเป็นแบบนี้

“ฉันสบายดีอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะมาเล่นที่นี่ได้เหรอ” หยางหยางพูด

ในเวลาเดียวกันเขาไม่เชื่อข้อแก้ตัวของจ้าวจิ้งอี๋

หลังจากการแสดงครั้งล่าสุด เธอก็ไม่ได้พบกับเฉิงเฉิงน้อยลงเลย อีกทั้งมักจะมีเหตุผลมากมายหลายอย่าง

เขาไม่ได้สะกดรอยตามทุกวัน แต่ก็มักจะได้ยินเรื่องๆเล็กๆน้อยๆรอบตัวเขาเสมอ และ ‘สุนัขรับใช้’ ของเขา ก็มักเจอเขาโดยบังเอิญหลายครั้ง

“เธออยากจะไปเล่นกับพวกเราไหม” หยางหยางชวนเธอ

เฉิงเฉิงเพิ่งจะบอกกับเขาว่าไม่ให้เขาไป อย่างนั้นก็ไม่ควรไปเล่น ทำให้เขาในตอนนี้รู้สึกอึดอัดมาก และในที่สุดก็มีโอกาสที่เฉิงเฉิงจะได้สัมผัสถึงความรู้สึกของตนเอง

เฉิงเฉิงจ้องมองหยางหยางอย่างตาเขม็ง เด็กผู้ชายคนนี้มีใจที่คิดแก้แค้นอย่างแข็งแกร่งมาก

จ้าวจิ้งอี๋มีความสุขมาก “โอเค พวกนายรอแป๊บนึง ฉันไปบอกพ่อกับแม่ก่อน”

พูดจบ เธอก็หันกลับไปอย่างตื่นเต้น วิ่งไปหาสามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่งที่อยู่ไม่ไกล

“หยางหยาง นายนี่ใจร้ายจริงๆ ฉันไม่อยากจะอยู่กับเธอ แต่นายยังจะทำให้เธอมาอยู่ใกล้ๆอีก” เฉิงเฉิงเริ่มโกรธขึ้นมาจริงๆ

หยางหยางไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เขายิ้มอย่างขบขัน “เฉิงเฉิง นายอย่าพูดแบบนั้นสิ ตอนที่พวกเธอสองคนสมรู้ร่วมคิดกันมาทำฉัน ไม่เห็นว่านายจะไม่อยากอยู่กับเธอ และฉันก็มองออกว่าพวกเธอสองคนดูจะให้ความร่วมมือเข้ากันได้ดี พวกเราเป็นผู้ชาย ดังนั้นนายไม่ต้องมาแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษ ว่าไม่อยากจะเล่นด้วยกันกับเธอ ไม่ได้ให้เธอสองคนทำอะไรอย่างอื่นซะหน่อย”

เมื่อพูดจบ จ้าวจิ้งอี๋ก็รีบวิ่งกลับมาอย่างมีความสุข “ฉันบอกพ่อกับแม่แล้ว พวกเขายอมให้พวกเราไปเล่นด้วยกัน อีกสักพักพวกเขาจะไปรอฉันที่สนามหญ้าข้างชิงช้าสวรรค์”

พูดจบก็มองไปที่หยางหยาง “เฮ้ พวกนายกำลังคุยอะไรกันเหรอ”

“พวกเรา…..”

“พวกเรากำลังคุยกันว่าเราสามคนจะไปเล่นที่ไหนกันดี” เฉิงเฉิงยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกหยางหยางคว้าเอาไปพูดก่อนแล้ว

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

เดิมพันรักยัยตัวแสบ

Status: Ongoing

เธอเป็นหญิงสาวที่มีความลำบาก ตกลงเป็นแม่อุ้มบุญ เขาเป็น ประธานใหญ่ เธออ่อนโยนและน่ารัก เขาโหดร้ายและเย็นชา.

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท