หานเซี่ยวลืมตาขึ้นภายในวัง อารมณ์เขาเอ่อล้นด้วยความสุข เจ็ดภัยพิบัติ หนึ่งในนั้นเป็นเมล็ดพันธุ์ผู้อยู่เหนือ ไม่เลว
เขาสนใจแต่ทรัพยากรที่สะสมโดยบรรพชนอสูร ไม่ปรารถนาให้ลูกหลานเพราะทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรู ต่อให้เขาต้องบังคับให้กองกำลังของบรรพชนอสูรทำงานให้เขา แต่ก็ยังมีการต่อต้นา
นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่พวกเขาจะไม่ทุ่มเท จำนวนพวกเขาจะทำให้พวกเขาก่อปัญหาภายในกองทัพและสร้างกลุ่ม ซึ่งจะกลายเป็นระเบิดเวลา
แตงโมที่ถอนแรงจะไม่หวาน
การสูญเสียจะมีมากกว่าผลกำไร นอกจากนี้ กองทัพแบล็คสตาร์ก็เป็นฝ่ายชอบธรรมอยู่แล้ว พวกเขาไม่สามารถลงน้ำลึกได้มากเกิน ในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่ขาดกำลังคน ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจที่จะรุกล้ำกำลังคนของบรรพชนอสูร
แต่ถ้ามันเป็นคนที่เต็มใจ เขาก็ไม่คิดปฏิเสธ
คนส่วนใหญ่จากกลุ่มกบฏยังรออยู่ และกลุ่มของโจติน่าก็แค่หนูตะเภาชุดแรก ต้องมีมากกว่านี้ในอนาคตแน่
หานเซี่ยวไม่อยากจับคนเหล่านี้ทั้งหมดในคราเดียว แต่ละคนมีความทะเยอทะยานของตัวเอง พวกเขาบางคนอาจไม่จำเป็นต้องเลอกมาหาเขาถ้าพวกเขาทรยศองค์กรบรรพชนอสูร
เขาส่ายหัว เก็บเรื่องนี้ไว้ชั่วคราวและเรียกฟิลลิป
แจ้งเฮอลัสกับซิลเวีย บอกทั้งคู่ว่าให้ระดมทหารของวงแหวนดาวกระจายเพื่อส่งกองยานไปยังฐานบรรพชนอสูรเพื่อปลดปล่อยทาสทั้งหมดและทำลายสายการผลิตลูกหลานเขา
เนื่องจากระดับความยากของภารกิจ[จุดจบของความมืด]ยากเกิน เขาจึงทำมันไม่ได้ ตรงกันข้าม ภารกิจอีกอันง่ายมาก และเขายังรับปากอีกฝ่ายไปแล้ว หานเซี่ยวจึงลงมือ ด้วยโจติน่าที่เข้าร่วมกับเขา เขาจึงมีเหตุผลพอให้ส่งกองกำลังไป
นอกจากนี้ เนื่องจากโกรูตันได้นำพวกระดับสูงออกไป ฐานเขาจึงว่าง ดังนั้น มันจึงลดความยาก ตราบเท่าที่กองยานนำกายสถิตเขาไปด้วยเป็นหลักประกัน ก็ไม่ควรมีอุบัติเหตุ
คนกลุ่มนี้ที่ละทิ้งความมืดเพื่อหาแสงสว่างมอบข่าวดีให้หานเซี่ยว แต่ก็ยังมีรายละเอียดหนึ่งที่ทำให้หานเซี่ยวลุกนั่ง
เขามักรู้สึกว่าแววตาของโจติน่าดูกระตือรือร้นเกินไป…
มันเหมือนกับตอนเขามองเฟย์ดิน
….
ในฐานของบรรพชนอสูรในกลุ่มดาวมรกต หลังพวกโจติน่าบุกฝ่าออกไปบรรยากาศก็เงียบสงัด พวกเขาคือพี่น้องกัน แต่แวววตาพวกเขากลับเต็มไปด้วยความระมัดระวัง มีความคิดอื่นซ่อนอยู่เบื้องหลังใบหน้าพวกเขา
โจติน่าคือผู้แปรพักตร์คนแรกและยังมีกลุ่มกบฏอีกจำนวนมากที่เฝ้าดูสถานการณ์ เมื่อเห็นว่าเธอไปได้ดี ก็ยิ่งมีคนพร้อมเคลื่อนไหว
ภายในห้องลับ กลุ่มคนจากฝ่ายกบฏรวมตัวกันเงียบๆ หัวหน้าพวกเขาคือภัยพิบัติชื่อดัง ชไนเดอร์ แม้เขาจะไม่อยู่ในระดับสี่พลเอก เขาก็ยังเป็นหนึ่งในคนสำคัญ เป็นนักสู้ที่ผสมผสานทักษะกับความสามารถพิษจากเผ่าเขา
ฉันเชื่อว่าทุกคนรู้จุดประสงค์ดี ชไนเดอร์มอง ดวงาเขาหยุดยังเจ้าที่ที่แข็งแกร่งสุด มีข่าวจากพี่สาวโจติน่า เธอบอกว่าแบล็คสตาร์ได้ยอมรับพวกเธอแล้ว พวกเธอพบบ้านที่ดี
ไม่มีใครพูด รอให้เขาพูดจบ
ชไนเดอร์พูดต่อ ฝ่ายภักดีได้ต่อสู้กับโจติน่าและเสียหายหนัก พวกเขาอาจไม่อยากเสียแรงรับมือกับผู้แปรพักตร์อีกต่อไป มันถึงเวลาที่เราต้องออกไปด้วย ฉันรู้ว่ามีพวกเราที่ไม่อยากแปรพักตร์ไปองค์กรอื่นและอยากเป็นอิสระ ทั้งหมดนี้สามารถรอได้จนเราออกไป สำหรับคนที่ไม่เต็มใจติดตามและคิดเดินเส้นทางเอง เราจะพบกันอีกครั้งในจักรวาลและระลึกถึงครอบครัวเราในตอนนั้น
หลังเขาพูดจบ ห้องก็เงียบไปสักพักก่อนมีคนพูด
ถูกต้อง มันถึงเวลาที่เราต้องไป ในอีกไม่กี่วัน มันจะถึงคราวที่กลุ่มของฉันต้องลาดตระเวน นี่คือโอกาส การเลี่ยงความขัดแย้งดีสุด
ทันทีที่ความเงียบถูกทำลาย ทุกคนก็แย่งกันพูด ทุกคนต่างเสนอ
ในขณะเดียวกัน พวกภักดีเองก็ลอบประชุมเหมือนกัน
ได้ยินกันไหม?ดูเหมือนกลุ่มคนทรยศจากฝ่ายโจติน่าจะเข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์
ข่าวนี้มาจากไหน?น่าเชื่อถือได้ไหม?
หลายคนเห็นยานพวกเธอตรงไปฐานกองทัพแบล็คสตาร์และหลังเข้า พวกเธอก็ไม่ออกมาอีก นอกจากนี้ ท่ามกลางฝ่ายกบฏที่มีความคิดซ่อนเร้นมากมาย ยังมีข้อมูลรั่วไหลออกมา มันควรแม่นยำ
หนึ่งในนั้นพูด ถ้ามันเป็นจริง เราก็สามารถใช้แผนนั้นได้ ให้คนของเราแสร้งทำเป็นแปรพักตร์และเข้ากองทัพแบล็คสตาร์ เราจะหาโอกาสช่วยท่านพ่อ.
แต่..แบล็คสตาร์คือช่างกลผู้อยู่เหนือ มันยากที่จะขโมยอะไรใต้จมูกเขา แถม ไม่มีทางออกสำหรับกาลอวกาศแอมเบอร์ แม้แต่สามอารยธรรมจักรวาลก็ทำอะไรไม่ได้
ท่านพ่อเลี้ยงดูเรามา เขาคือผู้มีพระคุณของเรา มีเพียงเราถึงช่วยเขาได้ ต่อให้โอกาสจะเบาบาง เราก็ยังต้องลอง
เอาละ..แต่ยังมีอีกปัญหา พวกทรยศต้องรู้ถึงความภักดีของเราและฝ่ายภักดีที่พยายามลอบเข้าไปจะต้องถูกมองออกแน่
นี่เป็นคำถามที่ดี หลังอยู่ร่วมกันมานาน…’
ทุกคนลังเล
เหตุการณ์ของโจติน่ามอบความหวังให้พวกภักดี บางคนอยากช่วยเหลือโกรูตัน เหนือสิ่งอื่นใด เขาแค่ถูกผนึก
เวลานี้ เสียงอุปกรณ์สื่อสารดัง ทำลายบรรยากาศในห้อง
หัวหน้ามองอุปกรณ์สื่อสารนี้ ไบรัสเรียกรวมคนทั้งหมดเพื่อหารือแผนการในอนาคต
ทุกคนไม่แปลกใจ หลังการล้มของโกรูตัน การประชุมประเภทนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว โดยปราศจากผู้มีอำนาจตัดสิน เรื่องขององค์กรต้องตัดสินโดยเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย แต่ทว่า ทุกคนต่างมีแผนของตน ไม่มีใครมีความคิดเป็นหนึ่งเดียว
กลุ่มภักดีออกห้อง รีบตรงไปห้องประชุมขนาดใหญ่
ตอนนี้ ห้องประชุมเต็มไปด้วยคน ทั้งหมดเป็นคนมีอิทธิพล ในห้องดูอึกทึกเหมือนตลาด สามฝ่ายของภักดี กบฏและเป็นกลางแยกตัวกันชัดเจน มองกันด้วยสายตาเย็นชา
พวกภักดีกลุ่มนี้มองเห็นชไนเดอร์และรีบหาที่นั่งตัวเอง
ชไนเดอร์ไม่สนใจท่าทีพวกเขา เขาเองก็ได้ยินข่าวตอนกำลังประชุมลับและรีบมา
หลังรอสักพัก เจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็มาถึง ไบรัมคือคนสุดท้าย เขาปิดประตูห้องประชุม ภายใต้สายตาทุกคน เขาค่อยๆเดินไปที่แท่นหินก่อนก้มมองทุกคน
เกิดอะไรขึ้น เรียกประชุมเราอีกทำไม? หนึ่งในนั้นเรียกร้อง คนคนนี้คือหนึ่งในสี่พลเอก
เรายังคุยหัวข้อก่อนหน้าไม่เสร็จ เราจะคุยถึงอนาคตขององค์กรเราต่อ ไบรัมยิ้มก่อนเปลี่ยนเรื่อง แต่ก่อนหน้านั้น ขอฉันแนะนำใครสักคนให้พวกนายรู้จัก
ทุกคนขมวดคิ้ว จากท่าทีของไบรัม พวกเขาพบสิ่งผิดปกติ
ทันใดนั้น คลื่นพลังเวทย์ก็ปรากฏในห้อง วงกลมสีฟ้าแสดงถึงประตูเคลื่อนย้ายที่ปรากฏข้างไบรัม
ฮึ่ม!
เท้าค่อยๆก้าวออกมาและกลิ่นอายกดขี่ก็ตามมา อากาศในห้องดูเหมือนจะเย็นลงทันที
ปรมาจารย์เร้นลับเดินออกมาก่อนโบกมือปิดประตู เขานำมือไพล่หลัง กวาดตามองทุกคน
ทั้งห้องเงียบสงัด
ครั้งนี้ ไบรัมทำลายความเงียบ
ฉันเชื่อว่าทุกคนคงรู้จักท่านปรมาจารย์เร้นลับ ผู้เป็นส่วนหนึ่งของตลาดมืดเหมือนท่านพ่อ
ไบรัม นี่มันหมายความว่ายังไง?! กลุ่มผู้ภักดียืนขึ้น
ในความเป็นจริง ทุกคนเข้าใจไบรัม ผู้เป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายเป็นกลางว่าเขาได้มีความสัมพันธ์กับปรมาจารย์เร้นลับแต่แรก ภายใต้ฉากหน้าของการประชุม เขารวมทุกคนเพื่อให้ปรมาจารย์เร้นลับจับทุกคนได้คราเดียวและควบคุมทุกคน
เขากำลังจะนำเสนอฐานนี้และทุกคนให้ปรมาจารย์เร้นลับ!
ไบรัมแค่ยิ้มตอบ สายตาเขาหันไปมองปรมาจารย์เร้นลับและอธิบาย ในเมื่อท่านพ่อถูกจับ องค์กรนับไม่ถ้วนจึงหมายตาเรา อยากแบ่งแยกเรา โดยปราศจากผู้อยู่เหนือคอยกุมอำนาจ เราจะวุ่นวาย ปรมาจารย์เร้นลับเป็นเพื่อนเก่าของท่านพ่อ เขาจึงตัดสินใจให้เราลี้ภัยเพื่อช่วยเราขจัดความยากลำบาก
ใช่ หมุนต่อ หมุนเรื่องราวของแกต่อ!
ทุกคนสาปแช่งในใจ พวกเป็นกลางยังแปลกใจ กบฏใจเต้น และภักดีโกรธ ปรมาจารย์เร้นลับพูดเสียงเย็น สถานการณ์เป็นตามนี้ โกรูตันับฉันเป็นหุ้นส่วนกันมานานและฉันไม่สามารถมองดูลูกหลานเขาแตกแยกได้ ฉันจะปกครององค์กรนี้ชั่วคราว และเมื่อสถานการณ์มั่นคง ฉันจะส่งสิทธิ์คืนให้
บ้านแกสิ คิดว่าพวกเราโง่หรือไง?!
ทุกคนกัดฟัน
ปรมาจารย์เร้นลับไม่มีองค์กรขนาดเท่ากองทัพแบล็คสตาร์ ดังนั้นนักรบภายใต้บัญชาของบรรพชนอสูรจึงเป็นกลุ่มคนที่เขาอยากได้
เพราะเขาไม่ใช่ศัตรูโดยตรงอย่างแบล็คสตาร์ เขาถึงไม่ต้องกังวลเรื่องการแก้แค้น นอกจากนี้ เขายังเป็นหุ้นส่วนของตลาดมืด มันจึงสมเหตุสมผลที่เขาจะได้รับองค์กรของบรรพชนอสูร องค์กรของเขานั้นประกอบไปด้วยกองกำลังผสมมากมาย เป็นของฝ่ายสีเทา ไม่ต้องกังวลถึงความทรมานจากอาการอาหารไม่ย่อย นี่แค่ข้ออ้างสำหรับปรมาจารย์เร้นลับที่จะยึดอำนาจของบรรพชนอสูร แต่ต่อให้พวกภักดีจะโกรธ พวกเขาก็ไม่กล้าต่อต้าน
ปรมาจารย์เร้นลับได้พูดไปแล้ว
ถ้ายังไม่รู้ว่าอะไรดีสำหรับพวกแก งั้นก็ตาย
ดังนั้น จึงไม่มีใครโต้ตอบ พวกเขาตกลงเงียบๆ
ตอนนี้ ชไนเดอร์ลุกขึ้น ดึงดูดสายตาของทุกคน
เขาสูดหายใจลึก พูดด้วยน้ำเสียงเคารพ
ต้องขอบคุณท่านปรมาจารย์เร้นลับอย่างมากสำหรับความเอื้ออาทาร การให้ที่พักพิงของท่านเป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ และผมก็ขอยอมรับท่าน
อืม ไม่เลว Aileen-novel
ปรมาจารย์เร้นลับพยักหน้า รู้สึกว่าเด็กนี่เดินถูกทางแล้ว
แต่ทว่า ความประทับใจนี้ถูกทำลายไปโดยประโยคถัดไปของชไนเดอร์ อย่างไรก็ตาม ผมเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตแบบนี้แล้วและไม่อยากสู้ต่อ ตอนนี้ ผมแค่อยากใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา ท่าน ผมไม่คิดต่อต้านท่าน แต่ทุกคนมีความทะเยอทะยานของตัวเอง โปรดให้ผมเกษียณด้วยเถอะ
ปรมาจารย์เร้นลับไม่คิดมาก นายเป็นภัยพิบัติ การเกษียณคงน่าเสียดาย ฉันหวังว่านายจะหาความหลงใหลต่อไป ฉันองนายไว้สูง อย่าพูดถึงการลาออกอีก นั่งลง
ชไนเดอร์กัดฟันก่อนรวบรวมความกล้า ท่านปรมาจารย์เร้นลับ ผมอยากหยุดพักชั่วคราว พี่สาวผมแปรพักตร์เข้ากับกองทัพแบล็คสตาร์ ผมอยากบอกเธอว่าไม่ต้องกังวลเรื่องต่างๆที่บ้าน
เมื่อพูดประโยคนี้ มันจึงถือเป็นการแสดงจุดยืนเขา เขาบอกเป็นนัยว่าเขาไม่อยากทำงานภายใต้ปรมาจารย์เร้นลับ แต่อยากไปหาแบล็คสตาร์
ปรมาจารย์เร้นลับหรี่ตา จ้องเขา แรงกดดันในห้องหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อชไนเดอร์เริ่มหลั่งเหงื่อ ปรมาจารย์เร้นลับก็ตอยกลับ
ไม่จำเป็น ตอนฉันเข้ารับช่วงอย่างเป็นทางการ จักรวาลจะได้รับข่าวเอง
เมื่อได้ยิน ชไนเดอร์รวมถึงคนในกลุ่มกบฏต่างก็ถอนหายใจโล่งอก
ท่าทีของปรมาจารย์เร้นลับชัดเจน ต่อให้เขารู้ว่าพวกเขาอยากไปหาแบล็คสตาร์ เขาก็ยังเลือกกักตัวทุกคนไว้
เห้อ… ชไนเดอร์ถอนหายใจก่อนนั่งลง
ถ้าเขารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เขาคงไปพร้อมกับโจติน่า
ใบหน้าของฝ่ายกบฏบิดเบี้ยว อารมณ์พวกเขาย่ำแย่
…
ปรมาจารย์เร้นลับวางตราประทับเวทย์ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนเพื่อตรวจสอบการกระทำของพวกเขาก่อนพูดด้วยท่าทางสูงส่ง ย้ำว่าความสัมพันธ์ของเขากับโกรูตันลึกซึ้งมาก และหลังใช้เวลาร่วมกัน พวกเขาก็ถือเป็นพี่น้องกัน
ฝูงชนลอบกลอกตาขณะฟังคำตอแปลของปรมาจารย์เร้นลับ เมื่อจบการประชุม ทุกคนก็ลุกออกห้องราวกับกำลังหนี
ไม่ช้าก็เหลือแค่สองคนในห้อง ไบรัมมาหาปรมาจารย์เร้นลับด้วยรอยยิ้ม
ท่านปรมาจารย์เร้นลับ ขอแสดงความยินดีด้วยกับการดูดกองกำลังของบรรพชนอสูร
นี่แค่ก้าวแรก บรรพชนอสูรยังมีฐานอีกหลายทุ่งดาว
ผมเข้าใจ แต่ส่วนใหญ่ที่เขาพามาโลกริบหรี่คือคนสำคัญและเนื่องจากท่านกำลังควบคุมพวกเขา ท่านจึงควบคุมได้เกือบครึ่งองค์กร
อืม ยังไงก็ตาม นายทำได้ดีมาก เมื่อเรื่องนี้จบ ฉันจะให้รางวัล เมื่อได้ยิน รอยยิ้มของไบรัมก็ยิ่งฉีกกว้าง
หลังโจติน่าแปรพักตร์ ไบรัมตัดสินใจหาทางออก มันดันว่าปรมาจารย์เร้นลับวางแผนยึดกองทัพบรรพชนอสูรพอดี ทั้งสองฝ่ายจึงสื่อสารกัน
เหตุผลที่เขาไม่เลือกแบล็คสตาร์เพราะฝ่ายภักดีไม่มีทางยอมรับ นอกจากนี้ ถ้าเขามอบของขวัญเช่นนี้ให้ศัตรูพวกเขา เมื่อข่าวหลุด ชื่อเสียงเขาจะป่นปี้
ไบรัมเดินจากไปด้วยความตื่นเต้น หลังส่งเขาออกไป มุมปากของปรมาจารย์เร้นลับก็ขดปาก
เขาส่ายหัว นำอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาติดต่อโซโรคิน
หลังเสียงดังสามครั้ง สายก็เชื่อมต่อ โซโรคินปรากฏบนจอด้วยรอยยิ้มคาดหมาย
ท่านปรมาจารย์เร้นลับ ท่านจัดการเรียบร้อยแล้ว?
แผนขั้นแรกสำเร็จ ปรมาจารย์เร้นลับพยักหน้า แต่ทว่า มันดูเหมือนแบล็คสตาร์จะก้าวมายุ่ง มีคนอยากไปหาเขา..
โซโรคินยิ้มตอบ สบายใจได้ ผู้บัญชาการของแบล็คสตาร์มีมากเหมือนเมฆ เขาไม่สนใจกองทัพของบรรพชนอสูรหรอก และก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องกลัวเขา ถ้าท่านยังรู้สึกไม่ปลอดภัย หลังดูดกลืนกองทัพ แค่มอบค่าชดเชยให้แบล็คสตาร์ เขาคงไม่สืบสาว
ค่อยคุยตอนมันเกิด ปรมาจารย์เร้นลับไม่ตกลงหรือเห็นด้วย
เขาคือคนที่โตและอยากเป็นมิตรกับแบล็คสตาร์ แต่ทว่า เขายังอยากได้รับกองทัพของบรรพชนอสูร
โซโรคินหยุดก่อนเปลี่ยนเรื่อง แล้ว ข้อเสนอของผมละ?
ปรมาจารย์เร้นลับหรี่ตา นายอยากใช้ตำแหน่งหุ้นส่วนในกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดที่ว่างเพื่อแลกกับตำแหน่งผู้พิทักษ์ของตลาดมืดสินะ? ฮี่ๆ ผมเป็นนักธุรกิจและจะคุยแค่เรื่องธุรกิจ ในเมื่อโกรูตันล้ม ผมจึงต้องการหุ้นส่วนใหม่ โซโรคินยิ้ม
ช่วงเวลาที่เขาร่วมมือกับโกรูตัน โซโรคินได้แทรกซึมอุตสาหกรรมต่างๆภายในตลาดมืด ถ้าเขามีตัวตนของผู้พิทักษ์ เขาก็จะเปิดธุรกิจภายในตลาดมืดได้อย่างเปิดเผย ควบรวมมันกับกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัด นี่จะทำกำไรมหาศาล!
แม้กระทั่งโซโรคินที่นั่งบนกองเงินก็ยังอดถูกล่อลวงไม่ได้!
กังนั้น ไม่นานมานี้ เขาจึงติดต่อปรมาจารย์เร้นลับและเสนอข้อเสนอ ตำแหน่งหุ้นส่วนเดิมจะถูกส่งมอบให้ปรมาจารย์เร้นลับ ขณะที่อีกฝ่ายต้องช่วยเขาให้ได้รับตำแหน่งผู้พิทักษ์ตลาดมืด
หลังเสนอ ปรมาจารย์เร้นลับไม่ปฏิเสธทันที แต่ก็ไม่เห็นด้วย
จากมุมมองของปรมาจารย์เร้นลับ โดยปราศจากโกรูตัน เขาสามารถกอบโกยหุ้นของตลาดมืดได้ ถ้าเขาแนะนำยักษ์ใหญ่ทางการเงินอย่างโซโรคิน มันเทียบเท่ากับลากหมาป่าเข้าห้อง ไม่มีใครรู้เจตนาของอีกฝ่าย
แต่ทว่า ถ้าเขาแลกมันกับตัวตนของผู้ถือหุ้นกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัด นี่ก็จะเกี่ยวกับธุรกิจถูกกฏหมาย ผลกำไรจะมหาศาล นี่ทำให้ปรมาจารย์เร้นลับคิดไม่ตก
เมื่อได้ยินโซโรคินนำเรื่องนี้ขึ้นมา ปรมาจารย์เร้นลับก็กระอักกระอ่วน
ฉันจะพูดตามตรง แม้เงื่อนไขการเป็นผู้พิทักษ์คือผู้อยู่เหนือ ด้วยพลังของนาย มันยาก
โซโรคินยิ้ม นี่ไม่ดี?
ปรมาจารย์เร้นลับเงียบ มันดูเหมือนว่าเขาตอบตกลง
เขาไตร่ตรองสักพักก่อนพูด ฉันสามารถพยายามช่วยนายโน้มน้าวอีกสองผู้พิทักษ์ได้ รวมถึงผู้ดูแล.. ดวงตาของโซโรคินสว่างวาบ
. -ขอบคุณท่านปรมาจารย์เร้นลับ ผมจะเก็บตำแหน่งว่างสำหรับหุ้นส่วนของกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดไว้ให้ท่าน
อืม ปรมาจารย์เร้นลับตอบอย่างเฉยเมยก่อนวางสาย