หานเซี่ยวเดาว่าเทพเอสจะคิดไง ปฏิกิริยาแรกของเทพเอสคงไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องนี้นานแล้ว แต่เป็นว่างานวิจัยของจักรวรรดิที่มีต่อข้อมูลรูหนอนได้ผลลัพธ์แล้ว ดังนั้น เขาจึงมีความหวังเล็กน้อย ในสถานการณ์สิ้นหวังเช่นนี้ มีโอกาสสูงมากที่เขาจะเลิกต่อต้าน
การหลอกหลวงเป็นหนทางของสงคราม การพิชิตใจศัตรูคือกลยุทธ์ที่ฉลาดสุด ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใช้สิ่งนี้ข่มขู่เทพเอสได้สำเร็จ เขาคงต้องใช้เวลามากขึ้นเพื่อจับและก็มีความไม่แน่นอนมากมาย
พูดก็พูด นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเข้าไป…
หานเซี่ยวมองเทพเอส ผู้อยู่ในอำพันและถอนหายใจ
โดยไม่สนใจปัจจัยอื่นทั้งหมด เทพเอสเป็นคนบริสุทธิ์มากจริงๆ เพื่อไปถึงเป้าหมาย เขาเต็มใจทำทุกอย่างในโลก ตราบเท่าที่ไม่มีใครขวางทาง เขกา็จะไม่ทำอะไร
ขณะที่เขากำลังมองเทพเอส กองยานจักรวรรดิรอบๆก็พลันหยุดโจมตีเมื่อเห็นว่าภารกิจลุล่วงและเก็บอาวุธไป
ทหารจักรกลจำนวนมากลอยในสนามรบ บางตัวยังโดนทำลายด้วยการโจมตีของกองยาน เพื่อทำความเสียหายให้เทพเอสให้มากที่สุด พวกเขาไม่สามารถกังวลถึงความเสียหายของพันธมิตรได้ แม้กระทั่งหานเซี่ยวก็ยังสับสนว่าเพื่อนร่วมกลุ่มเหล่านี้กำลังโจมตีเทพเอสหรือเขา
เขาปิดเทพจักรกล พลังจักรกลพุ่งออกจากมือเขา เปลี่ยนเป็นโซ่สายฟ้า เชื่อมอะไหล่ต่างๆและประกอบพวกมันกลับเป็นทหารจักรกลโดยใช้การก่อสร้างเครื่องจักรขั้นสูง
ครั้งนี้ ผู้บัญชาการกองยานถอนหายใจโล่งอก โชคดี เราวางกับดักไว้ล่วงหน้าและได้เปรียบ ถ้าไม่ เราคงไม่สามารถจับตัวเขาได้อีกครั้ง เอาล่ะ โปรดส่งเทพเอสให้เรา เราจะจะหาที่ขังเขา น้ำเสียงของเขาเป็นทางการ
ด้วยความที่แบล็คสตาร์เป็นคนขอให้ปล่อยตัวเทพเอสเพื่อตรวจสอบ การจับเขาใหม่จึงไม่ถือเป็นผลงานความดีความชอบ แต่การปล่อยเขาเป็นอิสระจะลดชื่อเสียงเขามาก ดังนั้น นี่คือภารกิจที่ต้องใช้ความพยายามมากแต่ไร้ผลงาน ผู้บัญชาการกองยานจึงไม่รู้สึกชื่นชมหานเซี่ยวเลย
การจับเทพเอสครั้งนี้ดูง่าย แต่นั่นเพราะพวกเขาได้เปรียบมาก เทพเอสไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถตั้งวงล้อมได้ตามใจชอบ การปล่อยเทพเอสผู้อยู่ในสภาพอ่อนแอ หลังเตรียมพร้อมมาดี จึงไม่มีทางที่เขาจะรอดไปได้
ยานอวกาศจักรวรรดิหลายลำเข้ามานำนักโทษไป หานเซี่ยวยืนนิ่งสักพักขณะจ้องพวกเขานำเทพเอสไป จากนั้นกองยานจักรวรรดิก็ปิดอุปกรณ์ปรับเสถียรมิติทั้งหมด
เขาเม้มปาก เปิดโรงงานมิติ และยัดกองทัพจักรกลของเขาไปซ่อม หลังปฏิเสธคำเชิญขึ้นยาน เขาก็นำชุดราชาออกมาและหายไป
วินาทีต่อมา เขาปรากฏในโรงงานจักรกลที่ไม่เป็นของเส้นทางดวงดาว เขาข้ามทุ่งดาวโดยตรงและมาถึงวังแบล็คสตาร์ในโลกริบหรี่ทันที ใช้’บัลลังก์’ในโรงงานส่วนตัว
ปี้บ ปี้บ ปี้บ!
ครั้งนี้ อุปกรณ์สื่อสารดัง หานเซี่ยวหยิบออกมา และตามคาด มันเป็นสายจากเออแรนเรล
ด้วยความที่เธอใช้สิทธิ์ของเธอเพื่ออนุมัติคำขอของหานเซี่ยว เธอจึงให้ความสนใจกับกระบวนการทั้งหมด
แบล็คสตาร์ ฉันเห็นกระบวนการแล้ว ดูเหมือนความกังวลของคุณจะไม่เป็นจริง
เออแรนเรลพยักหน้า
..บางที หานเซี่ยวส่ายหัว
ตัวของเทพเอสยังมีชีวิตและไม่ใช่เปลือกเปล่า ดังนั้นในสายตาจักรวรรดิ นี่จึงเป็นร่างเดิมของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้เขาจะยืนยันถึงความสัมพันธ์ของเทพเอสกับกอดด์ได้ เขาก็ไม่สามารถใช้ข้อมูลจากหน้าต่างสถานะไปโน้มน้าวใครได้
แม้เทพเอสจะแสดงสัญญาณของวิญญาณฉีกขาด ความยากในการตรวจสอบก็สูงไป
อย่างแรก เทพเอสย่อมต่อต้านและไม่มีทางยอมรับการตรวจสอบ แถม พวกเขาไม่สามารถตรวจสอบเทพเอสตอนเขาโดนขังภายในอำพันได้
สอง ระดับของเทพเอสสูงเกินไป มีแค่ผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดไม่กี่ในจักรวาลที่เชี่ยวชาญด้านวิญญาณถึงตรวจสอบวิญญาณเขาได้ ซึ่งต้องให้เทพเอสไม่สู้กลับ นี่เหมือนความแตกต่างระหว่างการใช้ความสามารถเพื่อโจมตีกับใช้มันเพื่อรักษา อย่างน้อยต้องการความแม่นยำสูงกว่า
สาม บนผิวเผิน ผลของวิญญาณอ่อนและวิญญาณฉีกขาดนั้นเกิดขึ้นพร้อมกัน มันยากที่จะแยกความแตกต่าง ทั้งสองอาจถูกมองเป็นผลข้างเคียงจากการโดนขัง
ถ้าความยากลำบากทั้งหมดเหล่านั้นแก้ได้ วิญญาณของเทพเอสจะได้รับการพิสูจน์ว่าอยู่ในสภาพขาด แต่ไม่มีทางพิสูจน์การเชื่อมต่อระหว่างเทพเอสกับกอดด์ได้ หลักฐานอ่อนเกินไป
พิจารณาถึงปัจจัยทั้งหมด หานเซี่ยวรู้สึกว่าเขาไม่มีทางหาหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย
เออแรนเรลไม่สงสัยอะไรมาก การกังวลเป็นเรื่องดี อย่างน้อยสิ่งที่คุณทำก็ช่วยขจัดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับจักรวรรดิได้ และตอนนี้เราก็สามารถขังเทพเอสได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องกังวล นอกจากนี้ คุณยังจับเทพเอสได้อีกครั้งโดยไม่ต้องจ่ายอะไรมาก คุณไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลย
เธอไม่รู้สึกว่าหานเซี่ยวทำเรื่องเปล่าประโยชน์ เธอเป็นคนที่ออกคำสั่งและแบล็คสตาร์ก็ทำหลังเธออนุมัติมัน ตอนนี้เรื่องราวยุติมันจึงไม่ใช่เรื่องแย่แต่เป็นดี จากมุมมองเธอ ปฏิบัติการนี้เป็นการสร้างความมั่นใจ
ผมคิดว่างั้น…
หานเซี่ยวไม่อยู่อารมณ์จะพูดอะไรมากและออฟไลน์ไป เขาดูอารมณ์เสีย.
เออแรนเรลได้ทำให้เขามากมาย ปฏิบัติการนี้ไม่มีผลงานเลย เธอยังต้องรับความเสี่ยงในการปล่อยให้เทพเอสหนีและความรับผิดชอบการอนุมัติปฏิบัติก็คือสาเหตุ ตอนท้ายของวาระเธอ เธอต้องมุ่งเน้นการเก็บตัวและทำให้ทุกอย่างราบรื่น การอนุมัติคำขอเขาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเธอไว้ใจเขามาก เขาไม่สามารถขอให้เธอทำมากกว่านี้ได้
ถ้าเทพเอส..ไม่สิ กอดด์อยากล้างประวัติให้หมดจด เขาสามารถทำทุกอย่างที่จักรวรรดิขอให้เขาทำและไม่ทำอะไรอื่นขณะอ่อนแอ ไม่แสดงแรงจูงใจซ่อนเร้น หานเซี่ยวไม่สามารถหาหลักฐานได้เลย เขาไม่อาจกล่าวหากอดด์ได้
ถ้าไม่มีหลักฐาน จักรวรรดิก้ไม่มีเหตุผลให้เชื่อข้อกล่าวหาของเขาและทดสอบความภักดีของสมาชิกสายตรงเล่นๆ ดังนั้น วิธีการนี้จึงไม่ได้ผลแน่
ถ้ากอดด์ตัดสินใจใช้เส้นทางชอบธรรม แม้เขาจะพบหลักฐาน ตราบเท่าที่มันสรุปไม่ได้ จักรวรรดิก็อาจไม่อยากรับรู้เรื่องนี้เพื่อให้พวกเขาสามารถเลี่ยงการสูญเสียสมาชิกสายตรงที่มีศักยภาพสูงได้
ฉันจะต้องมีแผนอื่น เนื่องจากไม่มีทางโน้มน้าวจักรวรรดิให้ตรวจสอบกอดด์ได้ ฉันก็ต้องทำเอง…
หานเซี่ยวขมวดคิ้วและไตร่ตรอง
ถ้าเขาโจมตีกอดด์ลับๆและมีการค้นพบ เขาจะต้องตกอยู่ในปัญหาแน่
ต่อให้เขาทำมันอย่างลับๆ แต่จักรวรรดิก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อค้นหาคนร้าย เนื่องจากลักษณะองค์กรของสมาคมผู้อยู่เหนือ มันต้องกลายเป็นเป้าหมายหลักของการสืบสวนแน่ ซึ่งจะทำให้เกิดพายุลูกใหญ่ มันอาจกลายเป็นชนวนของโศกนาฏกรรมครั้งใหม่
หานเซี่ยวต้องยอมรับว่าวิธีที่กอดดพ์ใช้ล้างประวัตินั้นไร้ที่ติ เขากลายเป็นสมาชิกสายตรงของหนึ่งในสามอารยธรรมจักรวาล ได้รับการปกป้อง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ผู้อยู่เหนือจำนวนมากจะโดนลากลงไปพร้อมเขา
แต่ทว่า หากปล่อยเขาไป ทั้งจักรวาลคงตกอยู่ในอันตราย เขามีภัยพิบัติซ่อนอยู่ นี่โดยเฉพาะความจริงที่สารเลวนี่ได้เข้าอยู่ในจักรวรรดิแล้ว มีแค่พระเจ้าถึงรู้ว่าพายุแบบไหนที่เขาจะสร้างขึ้น เขาอาจจบลงด้วยการเป็นผู้นำการบุกรุกอารยธรรมต้นไม้โลก
นอกจากนี้ ความสามารถเอสเปอร์ของกอดด์ยังมีศักยภาพมากเกินไป เขายังถือว่าง่ายต่อการจัดการ แต่ถ้าปล่อยให้เขาโต เขาจะยิ่งรับมือได้ยาก
น่าลำบากเสียจริง.. หานเซี่ยวถูจมูกและรู้สึกหนักใจ
บางครั้ง ไม่มีทางออกที่สมบูรณ์แบบและต้องตัดสินใจระหว่างสองทางเลือกที่ไม่ดี ความคิดของเขาต่อสู้อยู่ภายในชั่วขณะและในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ
ฉันต้องกำจัดระเบิดเวลานี้ให้เร็วที่สุดก่อนเขาจะแข็งแกร่งเกินไป ถ้าฉันรอให้เขาเผยข้อบกพร่อง มันจะสายเกินแก้!
หานเซี่ยวกัดฟัน
เขาเริ่มระดมความคิดอย่างรวดเร็ว วิเคราะห์ผลที่ตามมาพร้อมวางแผนร้ายทุกรูปแบบ
วิธีดีสุดคืออย่าปล่อยให้กอดด์หายไปไหนแต่มอบเป้าหมายให้จักรวรรดิสามารถระบายความโกรธได้ ด้วยเป้าหมายโดยตรง จะไม่มีใครโดนลากลง ดังนั้น ไม่พเียงฉันต้องเลี่ยงการถูกสงสัย แต่ฉันต้องคิดหาทางใส่ร้ายคนอื่นด้วย ฉันจะต้องพิจารณาด้วยถึงผลกระทบของการใส่ร้ายคนต่างๆ
ความคิดของหานเซี่ยวหมุนอย่างรวดเร็วและในไม่ช้าก็ได้แผนคร่าวๆ
นอกเหนือจากความแตกต่างระหว่างแผนโดยละเอียด มีแค่สองทางเลือกในแง่การดำเนินการ หนึ่งคือทำด้วยตัวเองลับๆและหาทางใส่ร้ายคนอื่นทีหลัง อีกทางคือสร้างสถานการณ์เพื่อล่อให้คนอื่นโจมตีกอดด์ ไม่ให้เขาโดนสงสัย
ไม่ต้องพูดถึงอย่างแรก ปัจจัยหลักของอย่างหลักคือ’ล่อ’ มันดีสุดสำหรับเขาที่จะไม่ยุ่งด้วย ดังนั้นการเรียกเพื่อนของเขาให้มาฆ่ากอดด์คงทำได้
ตัวอย่างเช่น องค์กรเทพอำนวยนั้นมีพลังมากพอจะฆ่ากอดด์ แต่หานเซี่ยวไม่สามารถขอวพกเขาหใ้ทำได้ นี่เท่ากับการมอบจุดอ่อนของเขาให้คนอื่น เหล่าบรรพชนต่างมีความคิดเป็นของตนและไม่ได้สามัคคีกัน เขาไม่สามารถมั่นใจได้ว่าความลับนี้จะไม่รั่วไหลในอนาคต
ยิ่งคนรู้ ความเสี่ยงยิ่งสูง ไม่ว่าเขาจะขอให้ใครช่วยก็ตาม
ไม่ว่าฉันจะเดินทางไหน ฉันก็ต้องเทโคลนลงน้ำก่อน.. ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
…
ศูนย์ใหญ่สมาคมผู้อยู่เหนือบนดาวฟินน์ได้รับการมาเยือนโดยกองยานจักรวรรดิ
กอดด์เดินออก ชุดเจ้าหน้าที่อาวุโสของจักรวรรดิสะท้อนกับแสงของดวงอาทิตย์เทียม
ยินดีต้อนรับสู่ดาวฟินน์ ท่านกอดด์
พนักงานต้อนรับที่สวมเครื่องแบบสมาคมเดินมาด้วยรอยยิ้มกระตือรือร้น
ข่าวของจักรวรรดิที่ได้รับสมาชิกสายตรงใหม่ได้กระจายไปแล้ว แต่มันมีข้อมูลแค่ชื่อเท่านั้น จักรวรรดิไม่เผยข้อมูลมากนัก พวกเขายังควบคุมกระแสข้อมูลที่เกี่ยวกับกอดด์ ดังนั้น หลายคงอค์กรจึงทำได้แค่เดาถึงความสามารถของกอดด์
กอดด์ส่งคำขอเข้าร่วมสมาคมด้วยเอกสารทั้งหมดที่จำเป็น สมาชิกผู้อยู่เหนือได้จัดการประชุมเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ผู้นี้ เจ้าหน้าที่ถูกส่งมารอกอดด์นานแล้ว
นำทางไป น้ำเสียงของกอดด์สบายๆ
ทั้งสองออกจากท่าจอด ขึ้นยานต้านแรงโน้มถ่วง ตรงไปทางห้องประชุมทรงกลมด้านบนของอาคารหลักใจกลางเมือง
เมื่อมองลงจากฟ้า พื้นจะเต็มไปด้วยอาคารอัดแน่น มันเหมือนเมืองกาแล็กซีที่ก้าวหน้ามาก พนักงานต้อนรับชี้จุดสำคัญของดาวเหมือนไกด์นำเที่ยว กอดด์ไม่หยุดเขา เขาก้มหัวและสังเกตถนนเงียบๆ
องค์กรผู้อยู่เหนือต่างๆได้ตั้งหน่วยงานตนที่นี่ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ดาวฟินน์ได้กลายเป็นเมืองกาแล็กซี่แสนรุ่งเรืองแล้ว ยานบินที่ขับผ่านท้องฟ้าได้ก่อตัวเป็นเครือข่ายขนส่ง
บุคลากรระดับพื้นฐานในเครื่องแบบขององค์กรต่างๆสามารถเห็นได้ทั่วถนน กอดด์ยังเห็นพนักงานของกองทัพแบล็คสตาร์
แต่ทว่า องค์กรเหล่านี้เพิ่งมาประจำการเจ้าหน้าที่ของสมาคมคือพวกคนที่รับผิดชอบดาวดวงนี้
ยานมาถึงแท่นด้านนอกห้องประชุม กอดด์ตามพนักงานเข้าห้องรับรองส่วนตัว เขาจดจ่อกับการประชุมของวันนี้และเขายังมาด้วยร่างจริง เขาต้องรอให้คนมาเรียกเขาให้เข้าสถานที่จากอีกประตู
หลังเฝ้าดูพนักงานจากไปและปิดประตู กอดด์ก็หยิบขนมบนโต๊ะกินเล่น เขาสำรวจห้องรับรอง และดวงตาก็เต็มไปด้วยความสุข
ผู้อยู่เหนือโดนแบ่งแยกมานานหลายปี ในที่สุดก็แสดงสัญญาณการรวมตัวกันเร็วๆนี้ แบล็คสตาร์ แมนิสันกับคาซูยิทำได้ดีมากจริงๆ น่าเศร้า ฉันรอให้ช่วงเวลาดีๆแบบนี้เกิดขึ้นไม่ไหว….แต่ทว่า พวกเขาอาจไม่กล้ารับอาชญากรที่ชั่วร้ายสุดในจักรวาอยู่แล้ว ถ้าฉันไม่เปลี่ยนตัวตน ทั้งหมดนี้คงไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน
กอดด์อดถอนหายใจไม่ได้
หลังพรรคพวกได้รับเงินพอ พวกเขาจะพิจารณาถึงการลบประวัติให้หมดจดและเปลี่ยนเป็นธุรกิจถูกกฏหมาย การก่ออาชญากรรมไม่ใช่เป้าหมายเขา แค่เส้นทางให้เขาสะสมพลัง
หลังกำจัดตัวตนในอดีต เขาก็สามารถเริ่มชีวิตใหม่ได้แล้ว
ไม่นานนัก บางคนก็มาแจ้งเตือนเขาให้เข้าไป
กอดด์ยืนขึ้น ตบเสื้อ เดินลงทางเดินไปจนสุดทาง ผลักเปิดประตูสูงโอ่อ่า แสงสีทองจากภายในส่องเข้าตาเขา
ห้อประชุมโต๊ะกลมขนาดใหญ่เข้าสู่สายตาเขา ภาพฉายทางไกลของผู้อยู่เหนือกำลังนั่งลงบนที่ตัวเอง พวกเขาหันหน้ามาหาเขาพร้อมกัน จับจ้องกอดด์ด้วยอารมณ์ต่างๆ
กอดด์กลายเป็นจุดสนใจหลักของทั้งสถานที่ เขามองใบหน้าคุ้นเคยมากมายและไม่สามารถละสายตาได้
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปรากฏตัวต่อหน้าผู้อยู่เหนือมากขนาดนี้ แววตาความเกลียดชังและความกลัวไม่มีอยู่อีก ความเกลียดกับความขัดแย้งในอดีตหายไปหมด
การเกิดใหม่รู้สึกดีจริงๆ
ครั้งนี้ แมนิสันพยักหน้า เพื่อนของเรา กอดด์ ในนามของสมาชิกสมาคมผู้อยู่เหนือ ฉันขอต้อนรับนาย
นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมสมาคม กอดด์ตั้งสติ รอยยิ้มลึกลับปรากฏบนหน้าขณะที่เขาวางมือบนหน้าอกและทำท่าทักทาย
คล็อตติผู้มักเงียบชี้เก้าอี้ว่างข้างๆ นายเป็นสมาชิกส่ายตรงของจักรวรรดิ ฉันเก็บที่ไว้ให้นาย มานั่งสิ
เมื่อเห็ น กอดด์ก็ยิ้มและนั่งลงข้างคล็อตติ ทั้งแถวข้างเขาเหมือนฝูงแกะน้อยที่โดนหมาป่ารุมล้อม
แต่ทว่า ทันทีที่เขานั่งลง เสียงซึ่งเต็มไปด้วยความอยากรู้รุนแรงก็ดังขึ้น เนื้อหาที่คนคนนั้นพูดทำให้หัวใจแสนสงบของกอดด์เต้นกระหน่ำ
กอดด์สินะ?ฉันได้ยินว่าความสามารถนายคือความสามารถเอสเปอร์ความเสี่ยงสูง การควบคุมพลังงาน!นั่นเป็นอะไรที่มีแค่ในทฤษฏีเชียวนะ!มันเรื่องจริงงั้นเหรอ