บทที่686 พี่แท้ๆ?
“เขาไม่อยู่”
คุณป้าคนนั้นตอบด้วยความรำคาญ แล้วก็เดินออกไปด้านนอก
เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย โห้หลีเฉินไม่อยู่ได้ยังไง?
เธอไม่สนใจชุดนอนที่เธอสวมใส่แล้ว รีบเดินตามผู้หญิงคนนั้นออกไปจากห้องทันที แล้วก็ถามอย่างร้อนรนว่า
“เขาไปไหนแล้วคะ? เมื่อไหร่จะกลับมา? ”
“ทำไมเธอพึ่งพูดจาอะไรมากมายขนาดนี้! เป็นนกกระจอกรึยังไงกัน จุ๊บจิ๊บๆ ไม่หยุด! ”
ผู้หญิงคนนั้นตะโกนด้วยใบหน้าที่มืดมน
เย้นหว่านยืนอึ้งอยู่กับที่ ใบหน้าสั่นไหว สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ผู้หญิงคนนี้ อารมณ์ร้อนเกินไปรึเปล่า?
เธอยืนอึ้งอยู่กับที่ ทำตัวไม่ถูก
ผู้หญิงคนนั้นถลึงตาใส่เธอด้วยความรังเกียจ ไม่ได้วางแผนจะตอบคำถามของเธอเลย หันหลังแล้วก็เดินออกไปทันที
เย้นหว่านรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ไม่พูด แล้วเธอจะไปตามหาโห้หลีเฉินได้จากที่ไหนกัน?
สถานการณ์ที่นี่ เธอเองก็ไม่รู้อะไรเลย
ตอนที่กำลังรู้สึกหัวเสียอยู่นั้น ตอนนี้เอง ด้านนอกหน้าต่าง ก็มีหัวเล็กๆ 1 2 3 หัวปรากฏขึ้น
ต่างก็เป็นเด็กอายุ5-6ขวบ เด็กผู้ชายสองคน ผู้หญิงหนึ่งคน
หนึ่งในเด็กชายตะโกนออกมา “พี่สาวแสนสวยครับ พี่ชายเทวดาคนนั้นไปที่วังแล้ว”
คนที่พวกเขากำลังพูดถึงอยู่นั้นน่าจะเป็นโห้หลีเฉิน
แต่ว่า วังงั้นเหรอ?
คำที่พิเศษนี้ทำให้เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจ เธอรีบถามทันที “น้องสาว ขอถามหน่อยว่าที่นี่คือประเทศเบียนหนานรึเปล่า? ”
เด็กผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าอย่างฉลาด “ใช่ค่ะ”
เย้นหว่านดีใจเป็นอย่างมาก ที่นี่คือประเทศเบียนหนาน!
เธอกับโห้หลีเฉินนั้นรอดจากความตายมาจริงๆ แล้วก็หาประเทศนี้เจอ
เย้นหว่านพูดอย่างตื่นเต้นว่า “น้องสาว พาพี่ไปที่วังหน่อยได้ไหม? ”
ฟื้นขึ้นมาในสถานที่แปลกประหลาดแบบนี้ เธอรู้สึกปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แถมยังโดนเจ้าบ้านดุอีก เย้นหว่านรู้สึกไม่สบายใจเลย
ตอนนี้เธอแค่อยากเจอโห้หลีเฉินให้เร็วที่สุด ให้เจอเขา ให้ได้แน่ใจว่าเขาสบายดี
สาวน้อยกะพริบตา รู้สึกลังเลเล็กน้อย
“พวกเราเข้าไปในวังไม่ได้ แต่ว่าพาพี่ไปใกล้ๆ ได้……”
“ไปอะไรกัน? สถานที่อย่างพระราชวังคนต่ำต้อยอย่างเธอสามารถเข้าไปใกล้ได้ยังงั้นเหรอ? ”
คุณป้าที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูด่าเด็กผู้หญิงคนนั้น
เด็กผู้หญิงคนนั้นก้มหัวลง เห็นได้ชัดว่าโดนด่าเป็นประจำ แล้วยังรู้สึกกลัวคุณป้าคนนี้อยู่เล็กน้อย
เย้นหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย สำหรับคุณป้าที่ดุร้ายคนนี้ ที่จริงแล้วเธอก็ไม่สามารถมีความประทับใจที่ดีกับเธอได้มากกว่านี้อีกแล้ว
“ฉันไปเองก็ได้”
เธอมองดูชุดนอนที่ตัวเองกำลังสวมใส่อยู่ “ฉันขอเสื้อผ้าที่ฉันใส่ก่อนหน้านี้ได้ไหมคะ ฉันจะเปลี่ยน”
สายตาที่ดุดันของผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนมาที่เย้นหว่าน
ความรังเกียจบนใบหน้าของเธอไม่ได้ปกปิดเลยแม้แต่นิดเดียว เธอตำหนิออกมาเสียงดังซ่า
“พระราชวังไม่ใช่ที่ที่เธออยากไปก็สามารถไปได้ เธออย่าไปคิดเลย อยู่ที่นี่อย่างสงบเถอะ พี่ชายเธอจัดการธุระเสร็จเมื่อไหร่ก็กลับมาเองแหละ เธอไม่ต้องไปเพิ่มความวุ่นวายให้เขาอีกเลย ในฐานะที่เป็นน้องก็ช่วยทำตัวให้เหมือนน้องหน่อย”
พี่?
น้องสาว?
เย้นหว่านเบิกตาโพลงด้วยความงุนงง นึกว่าคุณนายคนนี้สื่อสารไม่ค่อยเก่ง ก็เข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับโห้หลีเฉินผิดไป
เธออธิบาย “คุณเข้าใจผิดแล้ว เขาไม่ใช่พี่ชายของฉัน……”
“เขาไม่ได้ชื่อโห้หลีเฉินหรอกเหรอ? ” คุณป้าคนนั้นถาม
เห็นได้ชัดว่าโห้หลีเฉินฟื้นก่อนหน้าเธอเยอะมาก
เย้นหว่านพยักหน้า “ใช่ค่ะ แต่ว่าความสัมพันธ์ของฉันกับเขา……”
“นั่นยังไม่พออีกเหรอ เขาพูดเองกับปาก ว่าเป็นพี่ชายของเธอ”
คุณป้าคนนั้นตัดบทของเย้นหว่าน ใบหน้าเต็มไปด้วยความรำคาญ “ก่อนที่เขาจะไปได้กำชับไว้ ว่าถ้าเกิดว่าเธอฟื้นขึ้นมาแล้วให้อยู่ที่นี่ รอเขากลับมา”
เย้นหว่านเกิดความรู้สึกประหลาดใจและตกใจอย่างอธิบายไม่ถูก
โห้หลีเฉินพูดเองกับปาก ว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอยังงั้นเหรอ?
ดูจากความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว โห้หลีเฉินบอกว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน มันยังจะเป็นไปได้มากกว่าอีกไม่ใช่เหรอ?
หรือว่าตอนที่เขาฟื้นขึ้นมานั้น รู้สึกว่าความสัมพันธ์แบบพี่น้องมันสะดวกกว่ายังงั้นเหรอ?
เย้นหว่านรู้สึกสงสัย แต่ว่าสถานะนี้ กลับทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
แต่ว่าในเมื่อโห้หลีเฉินพูดเอง มันต้องมีเหตุผลให้เขาทำแบบนั้นอย่างแน่นอน
เขาให้เธอรออยู่ที่นี่ ถ้ายังงั้นเธอก็ต้องรอให้เขากลับมา
พอเห็นว่าในที่สุดเย้นหว่านก็ประพฤติตัวเรียบร้อยแล้ว คุณป้าคนนั้นก็ยังคงพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา
“เสื้อผ้าของเธออยู่ในห้องแต่งตัว เปลี่ยนเสร็จแล้ว ก็ซักผ้าที่ตัวเองใส่อยู่ตอนนี้ด้วย”
หลังจากพูดจบ คุณป้าคนนั้นก็ออกไปโดยที่ไม่หันหน้ามามองด้วยซ้ำ
เย้นหว่านยืนนิ่งอยู่กับที่ รู้สึกไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ที่นี่เป็นสถานที่แบบไหนกัน ทำไมเจ้าบ้านคุณป้าคนนี้ถึงได้ดุจัง? ไม่มีมารยาทแม้แต่นิดเดียวก็ช่างมันเถอะ บอกให้แขกที่ไม่คุ้นเคยซักผ้าด้วยตัวเอง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจออะไรแบบนี้
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่ว่าฟื้นขึ้นมาแล้วมาประสบกับอะไรแบบนี้ ก็ทำให้เย้นหว่านตัดสินใจ
รอให้โห้หลีเฉินกลับมาเมื่อไหร่ ค่อยหารือกับเขาเรื่องออกไปจากที่นี่
ความรู้สึกขอบคุณในบุญคุณที่ช่วยชีวิตไว้ ต้องขอขอบคุณอย่างมากอีกครั้ง
หลังจากคุณป้าคนนั้นจากไปแล้ว เย้นหว่านถึงได้มีเวลามองดูสภาพแวดล้อมรอบๆ สถานที่ที่เธออยู่นั้นเป็นเพียงแค่ห้องเล็กๆ ตอนนี้ที่เธอยืนอยู่น่าจะเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆ
มีห้องหลายห้องอยู่ข้างๆ นอกจากนี้ก็มีบันได ด้านนอกเป็นสวนดอกไม้ มีบ้านหลายแถวเรียงเคียงกัน ดูเหมือนว่าจะเป็นลานขนาดใหญ่ทีเดียว
ครอบครัว น่าจำร่ำรวยพอสมควร
ครอบครัวขนาดใหญ่แบบนี้ ทำไมหน้าที่รับแขกเจ้าของบ้านถึงต้องทำเอง? ไม่มีคนใช้เหรอ?
เย้นหว่านรู้สึกสงสัย
แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครตอบคำถามของเธอ เธอไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
ชุดนอนนี้เป็นกระโปรงทรงตรง ยาวตรงไปที่ข้อเท้า แต่เนื่องจากวัสดุที่อ่อนนุ่ม มันง่ายที่จะแสดงให้เห็นบางสิ่งบางอย่างตรงหน้าอกของเธอ
การรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองน่าจะปลอดภัยกว่า
แต่ว่า เย้นหว่านตรวจค้นห้องใกล้เคียงหลายคน แต่ว่าก็ไม่เจอล็อกเกอร์ที่คุณป้าคนนั้นบอก
และรูปแบบของแต่ละห้องเหมือนกันทุกประการ สะอาดเอี่ยมอ่องและมีเพียงแค่เตียงเดียวเท่านั้น ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ และไม่มีที่สำหรับวางของ
แล้วเสื้อผ้าล่ะ?
เย้นหว่านรู้สึกหดหู่ ก็เลยต้องเดินออกจากห้องเล็กๆ นี้ พึ่งจะเดินออกไปที่ลานบ้าน ก็เห็นเด็กสามคนนั่งยองๆ อยู่ที่สนามอย่างเงียบ ๆ เฝ้าดูเธอ
เด็กทั้งสามคนกำลังเล่นอยู่ที่นี่ น่าจะเป็นคนของบ้านหลังนี้ และก็ต้องรู้จักสภาพแวดล้อมที่นี่มากกว่าเธออย่างแน่นอน
เย้นหว่านเดินเข้าไปหาพวกเขา แล้วก็พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนอย่างมาก
“เพื่อนตัวน้อย พวกหนูรู้ไหมว่าห้องแต่งตัวอยู่ที่ไหน? ”
เด็กผู้ชายทั้งสองคนมองไปที่เย้นหว่านพร้อมกัน หลังจากนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมกัน
เย้นหว่านประหลาดใจ นี่พวกเขาไม่รู้ยังงั้นเหรอ?
เด็กผู้หญิงกะพริบตาพร้อมกับมองเย้นหว่าน แล้วพูดว่า “พี่สาวแสนสวย หนูรู้ว่าห้องแต่งตัวอยู่ที่ไหน เดี๋ยวหนูพาไป”
เด็กหญิงตัวเล็กๆ มีรอยยิ้มน่ารักบนใบหน้าของเธอ เธอดูเหมือนนางฟ้าเลย
เย้นหว่านรู้สึกรักเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
เธอรีบพยักหน้า “โอเค ขอบคุณนะ”
เด็กสาวคนนั้นรีบลุกขึ้นยืน แล้วก็เดินไปยังทางทิศอยู่ตรงข้ามของห้องที่เย้นหว่านนอน ก็ต้องเดินผ่านสวนดอกไม้นี้
เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจ นี่คือที่นอน แล้วทำไมล็อกเกอร์ถึงได้อยู่ไกลจัง?
เด็กชายตัวเล็กๆ ทั้งสองเดินตามหลังเด็กหญิงตัวเล็กๆ เหมือนหางน้อยๆ สองหาง
เด็กผู้หญิงคนนั้นเดินหันมามองเย้นหว่านเป็นบางที ยิ้มแล้วก็พูดว่า
“พี่สาวสุดสวย พวกเขาคือพี่ชายของหนูเอง ปกติแล้วหนูจะเป็นคนเอาเสื้อผ้าให้พวกเขา ดังนั้นพวกเขาก็เลยไม่รู้ว่าห้องแต่งตัวอยู่ที่ไหน”
คำพูดของเด็กผู้หญิงคนนั้น ทำให้เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจจริงๆ
เด็กน้อยสองคนนี้เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเธอ แล้วอีกอย่าง ทำไมเด็กผู้หญิงคนนี้ถึงต้องเอาเสื้อผ้าให้พวกเขาใส่ทุกวันด้วย?