ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 512

ตอนที่ 512

บทที่ 512 กงปุ่นสองอี

เมื่อเห็นว่าหวางหงอี้แน่วแน่เช่นนี้ เพิ้งเย้นฟางรู้สึกว่าหัวใจกระอักเลือด เพราะว่าการที่เธอเดินชนกำไลจนมันแตกไปนั้น แถมต้องมาจ่ายค่าเสียหายอีกตั้งห้าล้าน เรื่องพรรค์นี้พูดออกไปใครจะไปเชื่อ?

“ก่อนหน้านี้คุณผู้หญิงท่านนี้ก็พูดว่า กำไลหยกมรกตจักรพรรดิของคุณกงปุ่นมีใบรับรอง ไม่ทราบว่าคุณกงปุ่นให้ข้าน้อยหวางดูหน่อยได้หรือไม่” หวางหงอี้หันไปมองกงปุ่นสองอีอีกครั้ง ถึงแม้ว่าตัดสินใจไปแล้วว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่กงปุ่นสองอี แต่ก่อนการที่จะไปจ่ายค่าชดใช้ค่าเสียหายนั้น ตั้งมั่นใจว่ากำไลหยกของกงปุ่นสองอีนั้นเป็นหยกจักรพรรดิมรกตของจริง

ถ้ากำไลของกงปุ่นสองอีไม่ใช่หยกจักรพรรดิของจริง แต่มันเป็นการลอกเลียนแบบ งั้นเขาก็ไม่ต้องถูกสวมเขาถูกเอารัดเอาเปรียบแล้ว

“ได้” กงปุ่นสองอีพยักหน้าให้ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เรื่องใบรับรองนั้น เขาย่อมไม่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

แต่ว่า เรื่องโครงสร้างการออกใบรับรอง จะมีเว็บไซต์โดยเฉพาะ ที่สามารถเอาใบรับรองออกมาได้ตลอดเวลา

เรื่องตัวใบรับรองนี้ ยังเขียนรายละเอียดของตัวใบรับรองได้ละเอียดถี่ถ้วนกว่าตัวจริงอีก นอกจากที่มาวัสดุของตัวสินค้าแล้ว ยังมีเอกสารสิทธิ์ของบุคคลที่เป็นเจ้าของด้วย

หวางหงอี้ก็เป็นคนที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย เขามองออกว่า ใบรับรองของกงปุ่นสองอี เป็นใบรับรองกงปุ่นสองอีเป็นเอกสารรับรองสิทธิ์ตัวจริง เปลี่ยนคำพูดใหม่ กำไลของกงปุ่นสองอี เป็นหยกมรกตจักรพรรดิของจริง

“คุณหวางคิดเห็นประการใด?” กงปุ่นสองอีเอ่ยปากพูด สำหรับการแสดงท่าทีของหวางหงอี้นั้น เขาถูกใจมาก ถ้าหวางหงอี้เป็นเหมือนเพิ้งเย้นฟางที่พูดมั่วหาเรื่องไปเรื่อย เช่นนั้นเขาคงต้องใช้วิธีการที่เด็ดขาดขึ้นมาแล้ว

“ไม่มีปัญหา กำไลของคุณกงปุ่น เป็นมรกตจักรพรรดิของจริงอย่างไม่ต้องสงสัย” หวางหงอี้พยักหน้าให้ ความจริงแล้วตั้งแต่แรก เขาก็ไม่คิดที่จะไม่พูดกันตามความเป็นจริงหรือการหลบเลี่ยงที่จะไม่จ่ายเงินค่าเสียหาย

เพราะว่า กงปุ่นสองอีคนนี้สถานะเขาก็เห็นได้ชัดอยู่แล้ว การที่มาใส่กำไลราคาห้าล้านกว่าไม่ต้องไปเอ่ยถึง อีกอย่าง หลังจากที่กำไลมันแตกไปแล้ว เขาก็ยังนิ่งอยู่ เห็นได้ชัดว่า เขาแทบไม่เอาเรื่องกำไลมาใส่ใจเลย

อำนาจคนเช่นนี้ ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าใครเลย

การมาหาวิธีในการคิดบัญชีกับคนประเภทนี้ จะกลายเป็นว่าตนเองนั้นไม่มีคุณสมบัติที่ดีเลย

“คุณหวางเป็นคนตรงไปตรงมาดี ไม่เหมือนภรรยาเลย” กงปุ่นสองอียิ้มให้เล็กน้อยแล้วมองมาทางเพิ้งเย้นฟาง

เพิ้งเย้นฟางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่ไม่กล้าพูดอะไรอีก

หวางหงอี้ยิ้มให้เล็กน้อย “ผู้น้อยหวางพูดคำไหนเป็นคำนั้น กำไลข้อมือคุณกงปุ่นเป็นหยกจักรพรรดิมรกต ราคาห้าล้าน ผู้น้อยหวางจะจ่ายชดใช้ค่าเสียหายให้คุณกงปุ่น แต่ว่า ตอนนี้ตัวข้อน้อยไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น ขอให้คุณกงปุ่นให้เวลาผู้น้อยหวางสามวัน ให้ผู้น้อยได้เตรียมเงินมาได้ไหม?”

“ได้” กงปุ่นสองอีพยักหน้าให้

เมื่อเห็นว่ากงปุ่นสองอีตอบตกลง หลิ่วซวนเกิดความร้อนรนขึ้นมาทัน “คุณกงปุ่น เอ่อ…ไม่เหมาะกระมัง ตอนนี้พวกเขายอมตกลง แต่เดี๋ยวพวกเขาวิ่งหนีไปจะทำยังไง? พวกเราหนีไป พวกเราจะไม่มีทางหาพวกเขาได้เจอ…”

“คุณหวางเขาไม่หนีไปไหนหรอก เขาไม่ใช่คนแบบนั้น” กงปุ่นสองอีโบกมือปฏิเสธ เพื่อต้องการให้หลิ่วซวนหยุดพูดต่อ ถึงแม้ว่าเขากับหวางหงอี้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ว่าเขาก็ดูออกว่า หวางหงอี้เป็นคนที่ซื่อสัตย์รักษาคำพูดมาก คนประเภทนี้เมื่อพูดออกมาแล้ว ต้องเป็นคำไหนคำนั้น เรื่องหนีหัวซุกหัวซุนนั้น พวกเขาไม่ทำหรอก

หวางหงอี้มองไปหาหลิ่วซวนพร้อมทั้งพูดว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ถึงแม้ว่าเงินห้าล้านมันจะเป็นเงินที่เยอะมากก็ตาม แต่ข้าน้อยหวางก็ไม่คิดสั้นที่จะหนีเพื่อเงินห้าล้านหรอก ดังนั้นเชิญคุณผู้หญิงท่านนี้วางใจได้เลย เงินห้าล้านของคุณกงปุ่นนั้น ผู้น้อยหวางจะเอามาให้ไม่ให้พลาดไปสักแดงเดียว”

“หึ พูดจนน่าฟังกว่าร้องเพลงเสียอีก” หลิ่วซวนบ่นพึมพำ ความจริงแล้วการที่หวางหงอี้จะหนีเตลิดไปหรือเปล่าย่อมไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเธอ การที่เธอต้องมาคอยเตือนกงปุ่นสองอี ก็เพื่ออยากทำให้กงปุ่นสองอีรู้สึกดีเท่านั้นเอง เพราะถึงอย่างไรกงปุ่นสองอีเป็นเงินกองโตที่หาได้ไม่ง่ายสำหรับเธอ ถ้าการทำให้กงปุ่นสองอีวางใจได้นั้น งั้นเธออย่างน้อยปีสองปีนี้ก็ไม่ต้องออกแรงมากแล้ว

หลังจากที่ไม่ได้สนใจหลิ่วซวนแล้ว หวางหงอี้ก็หันไปคุยกับกงปุ่นสองอี “คุณกงปุ่น จะสะดวกไหมถ้าจะขอช่องทางการติดต่อของคุณให้ผู้น้อยหวางได้ไหม สามวันหลังจากนี้ ผู้น้อยหวางจะเอาเงินห้าล้านมาให้ จะได้หาคุณกงปุ่นได้สะดวก”

“ได้”

กงปุ่นสองอียิ้มให้เล็กน้อย จากนั้นก็ให้เบอร์ติดต่อของตนเองไป

เรื่องวุ่นวายของกำไล ก็ผ่านพ้นไปด้วยดีไม่มีอันตรายเกิดขึ้น

หลิ่วซวนกอดแขนของกงปุ่นสองอีเอาไว้ จากนั้นก็เดินออกไปจากที่นี่–พร้อมกับกงปุ่นสองอี

ทว่าเพิ้งเย้นฟางมองไปทางหลิ่วซวนกับกงปุ่นสองอีที่กำลังเดินออกไป หน้าดำคร่ำเครียดพร้อมทั้งสบถด่าออกมา “อีนางจิ้งจอกแพศยา ทำตัวเป็นหมาให้คนญี่ปุ่นมาคอยจูงจมูกเดิน ช่างน่าอับอายขายขี้หน้ายันโคตรเหง้า!”

“เย้นฟาง อย่าพูดมั่วๆ ไม่แน่คุณผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นล่ามที่คุณกงปุ่นเชิญมาก็ได้…” หวางหงอี้เริ่มพูดด้วยความเบื่อหน่าย

“ล่ามเหรอ? คนญี่ปุ่นคนนั้นพูดภาษาหวาเซี่ยยังคล่องแคล่วกว่าพวกเราอีก เขาต้องไปเชิญล่ามมาคอยแปลด้วยเหรอ? ฉันว่าอีนางแพศยานั้นมันก็อยากจะใช้โอกาสในการปีนขึ้นเตียงกับคนญี่ปุ่นมากกว่า…” เพิ้งเย้นฟางแสยะยิ้มให้

“เฉินเฟิง?!”

เวลานั้นเอง ก็มีเสียงเรียกอย่างประหลาดใจดังขึ้น

หลี่สื้อผิงเบิกตาโต ทำราวกับเห็นผีตอนกลางวันแสกๆ นัยน์ตามีแต่ความไม่อยากจะเชื่อ

ตอนที่เขากำลังหันตัวกลับมานั้น เมื่อหันมาแล้วก็พบว่า เฉินเฟิงมายืนอยู่ด้านหลังเขา!

“ไม่เจอกันเสียตั้งนั้น ผู้จัดการหลี่”

เฉินเฟิงยิ้มให้เล็กน้อย เมื่อครู่เขามัวแต่ยืนหลบด้านหลังของหลี่สื้อผิงอยู่ตลอด เพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เดิมทีก็อยากจะลงมาช่วย แต่ไม่คิดเลยว่า หวางหงอี้จะตัดสินใจกับปัญหาเรื่องนี้ได้ง่ายดายขนาดนี้

“แก…แกมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

หลี่สื้อผิงกลืนน้ำลายลงคอ การที่เฉินเฟิงมาปรากฏตัวฉับไวอยู่ที่นี่ มันทำให้เขาตกใจมาก สองสามวันนี้สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือการได้พบกับเฉินเฟิง แต่ไม่คิดเลยว่า กลัวอะไรก็จะเจออย่างนั้น

“ตอนที่พวกคุณกำลังทะเลาะกันอยู่ฉันก็มาแล้ว” เฉินเฟิงขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วมองไปที่หลี่สื้อผิง ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรมากไปหรือเปล่า เขารู้สึกว่านัยน์ตาของหลี่สื้อผิงที่มองมาทางเขามีแต่ความประหลาดใจ มีทั้งความหวาดเกรง และมีทั้งจิตใจห่อเหี่ยว…

“เสี่ยวเฟิง! แกมาที่นี่ได้ยังไง?” เมื่อเทียบกับหลี่สื้อผิงแล้ว สีหน้าของหวางหงอี้เป็นปกติขึ้นมาเยอะ ใบหน้าของเขามีทั้งนอกเหนือจากสิ่งที่คาดการณ์ไว้ แล้วยังมีความตกใจแบบยินดีด้วย

“อาหวาง ผมมาเที่ยวกับเพื่อนของผม คุณล่ะ?”

“ฉันก็มาเที่ยวเหมือนกัน ช่วงนี้ซือหยวนอารมณ์ไม่ค่อยดี ฉันก็เลยพาซือหยวนมาผ่อนคลายหน่อย พอดีเลย น้าเพิ้งกับสื้อผิงของแกก็ไม่มีเรื่องอะไรอยู่ด้วย ฉันเลยให้พวกเขามาด้วยกันเลย” หวางหงอี้ยิ้มให้

“ช่างบังเอิญจริง” เฉินเฟิงยิ้มให้ ก่อนหน้าจงลงทะเบียนขึ้นเรือนั้น เขาก็เห็นด้านหลังของหลี่สื้อผิวแล้ว ในเวลานั้นเขาคิดว่าตัวเองตาฝาดไป เพราะว่าการที่หลี่สื้อผิงกับเขาจะมาขึ้นเรื่องสำราญลำเดียวกันนั้นมันเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ

แต่ไม่คิดว่า ยังมีความเหลือเชื่อที่อยู่ความเหลือเชื่ออีกขั้นอีก

“ช่างบังเอิญจริงๆ ฮ่า ฮ่า” หวางหงอี้หัวเราะร่า แล้วพูดว่า “สองสามวันก่อนฉันยังติดว่าจะเชิญแกมากินข้าวที่บ้าน แต่ว่าสื้อผิงบอกว่าแกคงมัวแต่ยุ่งกับงานในบริษัท ฉันเลยยกเลิกความคิดนี้ไป ไม่คิดเลยว่า วันนี้พวกเราจะมากันที่นี่”

“ใช่สิ เสี่ยวเฟิง แกกินข้าวหรือยัง? ถ้ายังไม่ได้กินข้าว มากินกับพวกเราไหม ได้ยินว่า บนเกาะนี้อาหารทะเลนั้นเลิศรสมาก” หวางหงอี้ยิ้มให้ตอนพูด

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท