ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 514

ตอนที่ 514

บทที่ 514 วังโฉงหยางผู้รู้หน้าไม่รู้ใจ

“แบบนี้มันดูไม่ดีมั้ง…” เผิงจื๋อหลินทำหน้าเหมือนลำบากใจ ทว่าในใจก็ดีใจเหมือนลิงโลด ไม่พูดไม่ได้เลย พวกเจ้าหน้าที่วิสามัญทั่วไปยังให้เกียรติไว้หน้าเขาอยู่มาก

ตามหลักการปฏิบัติตามกฎระเบียบแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นเพิ้งเย้นฟางน้องสาวแท้ๆ ของเขา ก็ต้องค้นตัวด้วย

ทว่าตอนนี้ เจ้าหน้าที่วิสามัญทั่วไปยังไว้หน้าเขาอยู่

“ฮ่าๆ พี่เผิงก็ เราต่างเป็นคนกันเองทั้งนั้น ไม่มีอะไรไม่ดีเลยพี่” หัวหน้าเจ้าหน้าที่ยิ้มให้ ตระกูลผู้มีชื่อเสียงอย่างเพิ้งเย้นฟางแบบนี้ ก่อนหน้านี้ก็เข้าไปกันหลายรอบแล้ว คนลักษณะแบบนี้ พวกเขาก็ไม่ได้ค้นตัวเลย

ถึงแม้ว่าจะมีความเกรงใจให้เกียรติกันก็ตาม แต่สิ่งที่มันมากกว่านั้น ที่ทำให้พวกเขาต่างเชื่อมั่นว่า คนเหล่านี้เมื่อเข้าไปแล้วจะไม่เกิดปัญหาอะไรแน่นอน

เพราะว่าถ้าคนทั่วไปจับพลัดจับผลูมีปัญหาขึ้นมา คนที่ต้องรับผิดชอบเป็นอันดับแรก ย่อมเป็นคนที่พาพวกเขาเข้าไป แต่ไม่ใช่พวกเขาที่เป็นคนตรวจสอบ

“งั้นดี พวกเราเข้าไปด้านในกันเถอะ”

เผิงจื๋อหลินมองมาทางพวกเพิ้งเย้นฟางอยู่แวบหนึ่ง จากนั้นพวกนั้นก็เดินตามเผิงจื๋อหลินเข้าไปในเขตชุมชนวิลล่า

ด้านในวิลล่าในเวลานี้ บรรยากาศครึกครื้นเกินกว่าปกติ

เจ็ดถึงแปดวันก่อนหน้านี้ ทางสมาคมการค้าจงไห่กับสมาคมการค้าเชียสุ่ยได้จัดทำเวทีมวยเฉพาะกิจหนึ่งสนาม

เวทีมวยเฉพาะกิจความสูงประมาณสองเมตร ความกว้างของทั้งสี่มุม ยี่สิบเมตร

เมื่อเอามารวมกันทั้งหมด พื้นที่รวม 400 ตารางเมตร

สำหรับเวทีมวยของจอมยุทธ์ที่ลงเดิมพันการประลองฝีมือนั้น ต้องเป็นเวทีที่ไม่เหมือนกับเวทีมวยตามปกติ

ฐานหลักของเวทีมวยเฉพาะกิจนี้ ใช้ท่อนเหล็กแข็งจริงๆ เอามาสร้าง

แน่นอนว่า ไม่ใช่ท่อนเหล็กที่เป็นท่อนๆ แต่เป็นเหล็กที่ถูกหลอมออกมาเป็นแผ่นๆ แล้วเอามาปะติดปะต่อรวมกันอย่างเป็นระเบียบ

แต่ว่าเห็นภาพเป็นแบบนี้ การสร้างเวทีมวยในตอนแรก ก็ใช้เงินของทั้งสองสมาคมไปไม่น้อยทีเดียว

ลองประมาณราคาแบบภาพรวมเอา อย่างน้องก็ 20 ล้านไปแล้วแหละ

ด้วยศักยภาพทางด้านการเงินที่หมุนเวียนของทั้งสองสมาคม การสร้างเวทีมวยเฉพาะกิจนั้น การสร้างหอประชุมก็ไม่สามารถขาดเหลือได้

เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับเวทีมวยแล้ว การสร้างหอประชุมเฉพาะกิจนั้น ยิ่งลดระดับความยากง่ายลงไปนิดหน่อย

ทว่าความธรรมดานี้นั้น ก็แค่พูดเปรียบเปรยให้ฟังเฉยๆ

เพราะถึงยังไงการแข่งขันในวันนี้มีจอมยุทธ์เข้ามาร่วมตั้งมากมาย ถ้าตัวหอประชุมสร้างได้ธรรมดาตามนั้นจริง เช่นนั้นหน้าตาของทั้งสองสมาคมอย่างน้อยก็รู้สึกว่าไม่ค่อยดูดีสักเท่าไหร่

ในเวลานั้นเอง บรรดาจอมยุทธ์ของทั้งสี่ตระกูลของทางสมาคมจงไห่ก็มารวมตัวกันครบทุกคนแล้ว

เฉินเฟิงก็เห็นวังโฉงหยางแล้ว

อายุของเขาราว 50 กว่าเห็นจะได้ นิสัยดูคนเป็นคนสูงศักดิ์

บริเวณด้านซ้ายของใบหน้ามีรอยบาดแผลยาวเป็นนิ้ว ทุกครั้งที่เขายิ้มออกมา รอยแผลเป็นอันนี้ก็ผลุบต่ำลงจนเป็นรอยยิ้มของเขาไปด้วย มันยิ่งทำให้คนรู้สึกต่างรู้สึกว่าเขาดูดุร้าย

“พี่วัง เมื่อคืนนี้เที่ยวได้สนุกเต็มอิ่มไหม?” เมื่อเห็นวังโฉงหยาง ฉู่ยี่เฟยเป็นคนทักทายก่อน ถึงแม้ว่าตำแหน่งของเขากับวังโฉงหยางจะห่างกันไม่มากนัก แต่เมื่อนับอายุแล้ว วังโฉงหยางอายุมากกว่าเขาเล็กน้อย ดังนั้นในทางความรู้สึกแล้ว เขาย่อมต้องเรียกวังโฉงหยางว่าพี่อยู่แล้ว

“ฮ่าๆ เมื่อวานน้องฉู่ไม่ได้ไปเที่ยวกับข้าน้อยวัง แล้วข้าน้อยวังสนุกเต็มที่ได้ยังไง?” วังโฉงหยางยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมทั้งนำพาให้คนรู้สึกสบายใจอีกด้วย

“ขออภัยด้วย พี่วัง เมื่อคืนวานพวกเรามาสายไปหน่อย” ฉู่ยี่เฟยเอ่ยปากพูดอย่างขมขื่น

วังโฉงหยางโบกมือไปมา “ไม่เป็นไร หลังจากเสร็จสิ้นการเดิมพันประลองฝีมือในครั้งนี้แล้ว พวกเราค่อยมานัดเจอกันอีกครั้ง”

เมื่อพูดจบ วังโฉงหยางก็เบนสายตามาทางจางเทียนเซอที่อยู่ด้านหลังฉู่ยี่เฟย “ใช่สิ ท่านนี้คืออาจารย์จางที่เป็นศิษย์รักของเทียนเซออาวุโสใช่ไหม?”

“ถูกต้อง” ไม่รอให้ฉู่ยี่เฟยแนะนำตนเอง จางเทียนเซอรีบยิ้มให้พร้อมทั้งลุกขึ้นยืนพูดเองทันที

“อาจารย์จางนี่ช่างเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ เป็นผู้สืบทอดของเทียนเซออาวุโส” วังโฉงหยางพูดยกยออย่างไม่เกรงอกเกรงใจ

“พี่วังก็ชมเดินไปแล้ว” ใบหน้าของจางเทียนเซอถูกชมยกยอจนไม่เป็นตัวของตัวเอง

“ใช่สิ สองท่านนี้….” วังโฉงหยางเบนสายตามาทางหยางเสี่ยนหมิงและหูฉี่ซิง

“สำนักสิงอี้ หูฉี่ซิง”

“สำนักปากว้า หยางเสี่ยนหมิง”

หลังจากที่ทั้งสองคนต่างแนะนำชื่อพร้อมทั้งประวัติกันเรียบร้อยแล้ว การแสดงท่าทีที่มีต่อวังโฉงหยาง ก็ไม่ได้สนิทสนม หรือว่าห่างเหินแต่อย่างใด เพราะว่าพวกเขาเป็นคนที่ตระกูลฉู่เชื้อเชิญมา ถ้าแสดงท่าทีสนิทสนมกับวังโฉงหยางในเวลานี้เกินควร ฉู่ยี่เฟยยิ่งทำรู้สึกลำบากใจ

ถึงแม้ว่าการแสดงท่าทีนั้นจะไม่มีเรื่องอื่นเข้ามา ทว่าวังโฉงหยางก็ยังคงแสดงท่าทีเป็นมิตร หลังจากที่ไปชื่นชมกับคนสองคนนั้นเสร็จ วังโฉงหยางก็หัวเราะดังลั่นแล้วมองมาทางเฉินเฟิง “ท่านนี้คือฮีโร่ที่เคยช่วยชีวิตฉู่ชีงฉือเอาไว้ครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ใช่ไหม?”

“ไม่ผิดหรอก” เฉินเฟิงยิ้มให้ วังโฉงหยางคนนี้พูดตรงๆ แต่เป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ ดูเหมือนว่าพูดจาโผงผางไม่มีพิษมีภัย ทว่าในใจนั้นเป็นไม้เลื้อยดีๆ นี่เอง

การที่ออกมาพูดในเวลานี้ว่าเขาเคยเป็นคนช่วยชีวิตฉู่ชีงฉือมาแล้วครั้งหนึ่ง นั่นก็เป็นการแสดงฐานะที่แท้จริงของเขาออกมา ความจริงแล้ว เอาคำพูดนี้มาบอกกล่าวกับบรรดาพวกของจางเทียนเซอให้ได้ยิน แล้วเหตุผลที่ว่าทำไมต้องมาพูดว่าให้พวกจางเทียนเซอฟังนั้น เฉินเฟิงเองก็ยังคิดไม่ออก

เป็นไปตามที่เฉินเฟิงคาดการณ์เอาไว้ หลังจากที่วังโฉงหยางพูดจบแล้ว สีหน้าของจางเทียนเซอ หูฉี่ซิงและหยางเสี่ยนหมิง ต่างเปลี่ยนไปทันที เฉินเฟิงถึงขั้นเคยไปช่วยชีวิตฉู่ชีงฉือเอาไว้? แล้วทำไมพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย?

“ฟังจากที่ยี่เฟยพูดมาว่า คุณกับชีงฉือได้ดูใจกันไว้แล้ว?” วังโฉงหยางทั้งหัวเราะร่าตอนที่พูดด้วย

คำพูดที่หยุดออกมาจากปาก สีหน้าของทั้งทั้งสามคนรวมทั้งจางเทียนเซอก็ระทมหนักไปกว่าเก่า

โดยเฉพาะจางเทียนเซอ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัด แม้กระทั่งไม่สามารถปกปิดความรู้สึกเอาไว้ได้

เฉินเฟิงได้แต่ถอนหายใจอยู่ในใจ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า ทำไมวังโฉงหยางถึงได้พูดคำพูดพวกนี้ออกมาจากปาก จุดประสงค์มันง่ายมาก ก็เพื่อจะทำให้จางเทียนเซอเป็นปรปักษ์กับเขา

เหมือนว่าวังโฉงหยางมองออกว่าจางเทียนเซอชอบฉู่ชีงฉือ การที่เขาพูดเช่นนี้นั้น จางเทียนเซอย่อมต่อต้านกับการที่เขาเป็นแฟนหนุ่มของฉู่ชีงฉือแน่นอน

“ฮ่าๆ พี่วัง นี่พี่กำลังล้อฉันเล่นอีกแล้ว สองสามวันก่อนฉันก็พูดออกไปแล้วนี่ แผนการแต่งงานของชีงฉือกับเฉินเฟิงมันก็แค่ละครตบตาไม่ใช่เหรอ? ใช่ว่าพี่จะไม่รู้ คนทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยจับจ้องพวกเราไว้อย่างเข้มงวด การที่พวกเราไปเชิญจอมยุทธ์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเราเข้ามาเข้าร่วมการเดิมพันประลองฝีมือนั้น ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยจะเอาเรื่องกับเรื่องนี้”

ราวกับว่ามองออกถึงท่าทีที่วังโฉงหยางจ้องโจมตีเฉินเฟิง ฉู่ยี่เฟยลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งอธิบายให้ฟังอย่างยิ้มแย้ม

“ดังนั้น ฉันเลยให้เฉินเฟิงได้เข้าร่วมการเดิมพันประลองฝีมือได้อย่างราบรื่น ถึงได้ปล่อยข่าวดีเรื่องการแต่งงานของชีงฉือกับเขาออกไป”

“ฮ่าๆ ที่แท้เจ้าเด็กน้อยชีงฉือกับศิษย์น้องเฉินเฟิงก็แค่ทำแผนคบหากันหลอกๆ เอง งั้นฉันคิดมากไปเอง”

วังโฉงหยางหัวเราะร่า จากนั้น เขาก็เปลี่ยนหัวข้อพูดทันที “แต่ว่า พรหมลิขิตจอมปลอมก็สามารถเปลี่ยนให้เป็นความจริงได้ ถ้าเฉินเฟิงมีความรู้สึกดีๆ กับเจ้าเด็กน้อยชีงฉือนั่น การเดิมพันในครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสอันดีในการดึงสาวงามเข้ามาหาตัว”

“พี่วังก็พูดถูก แต่ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับชีงฉือนั้น พวกเราต่างสามารถจัดการได้เอง คงไม่ต้องรบกวนพี่วังให้ยุ่งยากใจ” เฉินเฟิงตอบตามปกติ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขามั่นใจได้100เปอร์เซ็นต์วังโฉงหยางจงใจจะเป็นอริกับเขา ความจงใจของเขาก็ไม่น้อยเลยทีเดียว

ไม่งั้น เขาคงไม่พูดสุมไฟให้จางเทียนเซอฟังตั้งสามสี่ครั้งหรอก

“ฮ่าๆ ตัวเองจัดการเองเหรอ ตัวเองจัดการได้เอง วัยรุ่นอย่างพวกแกก็มีวิธีคิดเป็นของตนเอง พวกเราที่แก่จนปูนนี้แล้ว ก็ไม่ควรจะเข้าไปยุ่มย่าม” วังโฉงหยางหัวเราะร่า

“พี่วัง ทางด้านมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่กับคนของบู๊ตั๊งหลายคนนั้น…”

ฉู่ยี่เฟยกำลังพูด ก็มีคนหนุ่มสาวสิบกว่าคนเดินมาทางด้านหน้าของเฉินเฟิง

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท