ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 705

ตอนที่ 705

บทที่ 705 ความแค้น

เฉินเฟิงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ สายตาจากรอบข้างไม่ได้มีผลอะไรกับเขา ถึงแม้ว่าสถานการณ์แบบนี้จะยิ่งใหญ่แต่ไม่อาจสั่นสะเทือนเฉินเฟิงได้ เฉินเฟิงที่เดินอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนทว่าสายตาเขากลับสอดส่องหาร่างของวิลเลียมอยู่ตลอดเวลา

เทียบกับในอดีตแล้ว ตอนนี้เฉินเฟิงรู้ข้อมูลของศัตรูพอสมควร แต่ก่อนตอนที่เย่หนานเทียนถูกรุมทำร้ายจนสุดท้ายต้องเสียขาทั้งสองข้าง ทั้งหมดนี้เขาจดจำได้อย่างขึ้นใจ

เฉินเฟิงกวาดสายตาไปทั่วอย่างแนบเนียน ดูเหมือนเขาไม่ได้ตั้งใจหากแต่ความจริงแล้วเขากำลังจดจำใบหน้าของทุกคน

เขาเจอหงอี้อยู่ท่ามกลางฝูงชนและยังเจอศัตรูอีกหลายคน ตอนนี้สายตาของคนพวกนั้นที่จับจ้องมายังเฉินเฟิงปรากฏความอาฆาตมาดร้ายอย่างชัดเจน

ท่ามกลางฝูงชน จั่วจู้อัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นสวมชุดกิโมโนสีขาว สวมรองเท้าเกี๊ยะ ดูโดดเด่นเป็นพิเศษท่ามกลางกลุ่มคน ตอนนี้จั่วจู้ก็จับจ้องมาที่เฉินเฟิงด้วยสายตาอาฆาตเช่นเดียวกัน มุมปากของเขายกขึ้นจนปรากฏเป็นรอยยิ้มเย็นยะเยือก สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยการดูถูกราวกับเฉินเฟิงเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือของเขา

สำหรับความอาฆาตมาดร้ายของจั่วจู้และหงอี้เฉินเฟิงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เมื่อจดจำใบหน้าของพวกเขาแล้วก็กวาดสายตาผ่านไป กระทั่งไปเจอกับอาเธอร์ เฉินเฟิงจึงหรี่ตามอง

อาเธอร์หัวหน้าราชองครักษ์แห่งวาติกัน รูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาคมคายได้รูป เส้นผมสีบรอนด์ทอง สวมชุดเกราะสีขาว ในมือถือปืนยาว มองไกลๆก็สัมผัสได้ถึงการประกาศสงครามจากตัวอีกฝ่าย

เฉินเฟิงจึงนึกถึงข้อมูลที่บรรยายประวัติของอาเธอร์

เนื่องจากวาติกันเป็นศูนย์กลางการแข่งขันในครั้งนี้ ชื่อเสียงของอาเธอร์หัวหน้าราชองครักษ์ท่านนี้จึงโด่งดังพอๆกับเฉินเฟิง

ตอนแรกอาเธอร์ไม่ได้ใส่ใจและไม่ได้แสดงทีท่าอะไรเมื่อเจอเฉินเฟิง ทว่าเมื่อเขาเห็นสายตาของเฉินเฟิงที่จับจ้องมา สายตาของเขาก็ฉายแววประกาศสงคราม ราวกับดวงตาทั้งสองข้างมีกองไฟกำลังลุกโชน ถึงแม้จะมีระยะห่างที่ไกลกันแต่เฉินเฟิงก็สัมผัสได้

“อาเธอร์ถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงในรุ่นเยาวชน!”

เมื่อเผชิญกับสายตาที่ประกาศสงครามอย่างชัดเจนของอาเธอร์ เฉินเฟิงก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกไปแต่กลับกวาดสายตาผ่านไปราวกับไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา

อาเธอร์เห็นดังนั้นคิ้วทั้งสองข้างก็ขมวดเข้าหากัน สีหน้าเย็นยะเยือกขึ้นมาในทันที

ในฐานะตัวเต็งของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้ ความสามารถของเขาเป็นที่ยอมรับของหลายฝ่าย เรียกได้ว่าเขาเป็นตัวอย่างของวงการศิลปะการต่อสู้ในรุ่นเยาวชนเลยก็ว่าได้

ผลการประเมินนี้ เกียรติยศนี้ทำให้เขาเกิดความรู้สึกสูงส่งโดยจิตใต้สำนึกเมื่อเผชิญกับจอมยุทธ์คนอื่นๆ

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขายกระดับของตัวเองให้สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว อย่าว่าแต่ประชันฝีมือกับเขาเลยแค่ผู้เข้าแข่งขันที่เขากวาดสายตามองก็ถือว่าเป็นเกียรติมากแล้ว ภายใต้ความรู้สึกแบบนี้คิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะมองข้ามการมีอยู่ของเขาไปเลยซึ่งทำให้อาเธอร์กำปืนยาวในมือแน่นโดยไม่รู้ตัว

ด้านเฉินเฟิงไม่ได้คิดมากกับเรื่องทั้งหมดนี้ และยิ่งไม่ได้สนใจว่าการกระทำของตนจะทำให้อาเธอร์รู้สึกอย่างไร วินาทีนี้สายตาของเขาถูกดึงดูดโดยชายที่สวมชุดดำคนหนึ่ง

ชายคนนั้นรูปร่างไม่ได้สูงนัก เส้นผมสีดำ ผิวเหลือง สวมเสื้อกันลมสีดำ สวมหน้ากากผีบดบังใบหน้าที่แท้จริง สามารถเห็นเพียงแค่ดวงตาเรียวดุจเหยี่ยวที่โผล่ออกมาเท่านั้น

“วิลเลียม!”

เมื่อเห็นชายคนนี้เฉินเฟิงก็นึกถึงชื่อนี้ในทันที

ทั้งหมดนี้ล้วนพึ่งพาข้อมูลฉบับนั้นของสือโพ่จุน เมื่อสักครู่ที่เขากวาดสายตามองผู้คนก็เพราะตรวจเช็กใบหน้ากับข้อมูลฉบับนั้นทีละคนๆ เขาเช็กแล้วว่าทุกคนล้วนมีใบหน้าตรงตามข้อมูลที่เขาได้มา เว้นแต่……

ตอนนั้นในข้อมูลฉบับนั้นมีเพียงวิลเลียมคนเดียวเท่านั้นที่ไม่มีรูปถ่าย

บวกกับทุกคนในที่นี้ล้วนมีใบหน้าตรงตามข้อมูล เฉินเฟิงมองแวบเดียวจึงมั่นใจเลยว่าคนที่สวมหน้ากากผีตรงหน้านี้คือวิลเลียม หัวหน้าองค์กรนักฆ่า

เฉินเฟิงจับจ้องวิลเลียมและวิลเลียมเองก็กำลังสำรวจเฉินเฟิงเช่นเดียวกัน เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงจับจ้องมา วิลเลียมก็หรี่ตาลงและเขาก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่ส่งมาทางสายตา

“เป็นมันแน่ๆ!”

เฉินเฟิงเห็นแววตาเย็นยะเยือกของวิลเลียม เบื้องลึกในจิตใจก็มั่นใจตัวตนของอีกฝ่ายในทันที

ในอดีตวิลเลียมก็เป็นอัจฉริยะคนหนึ่งของวงการศิลปะการต่อสู้และเป็นผู้จัดตั้งองค์การนักฆ่าขึ้นมา ความอาฆาตที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาไม่เหมือนกับคนทั่วไป ความอาฆาตนี้เกิดจากการแปดเปื้อนเลือดของคนมากมาย

เมื่อสัมผัสได้ว่าเฉินเฟิงรู้ตัวตนของตนเองแล้ว ความอาฆาตก็เข้มข้นมากกว่าเดิมราวกับกำลังประกาศสงครามกับเฉินเฟิง

“ในที่สุดฉันก็หาแกเจอ แค้นของศิษย์พี่ใกล้จะได้ชำระแล้ว!”

ความอาฆาตที่แผ่ออกมาจากตัวของเฉินเฟิงก็ไม่ได้น้อยไปกว่าวิลเลียม เป็นดังคำกล่าวที่ว่าเมื่อศัตรูมาพบกันต่างฝ่ายต่างยั่วโมโหกัน หากไม่ใช่เพราะการแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เฉินเฟิงอยากพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายจัดการจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง

ทว่าเฉินเฟิงรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ หากทำแบบนั้นในการแข่งขันระดับโลกนี้ ไม่เพียงแต่จะไม่ได้แก้แค้นแถมยังทำลายชื่อเสียงของประเทศหวาอีกด้วย

เหตุผลในข้อนี้เฉินเฟิงไม่มีทางไม่รู้ ดังนั้นเขาจึงสูดหายเข้าลึกๆครั้งหนึ่ง เก็บความอาฆาตที่แผ่ซ่านออกมา เมื่อจิตใจสงบลงแล้วก็กลับไปยืนอยู่กับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ

ตรงหน้าคือเวที ตอนนี้บนเวทีมีคนยืนอยู่ห้าคน

คนที่ยืนอยู่ตรงกลางของห้าคนนั้นคือชายชราผมขาวคนหนึ่ง ถึงแม้อายุจะเยอะแล้วทว่ารัศมีของเขาไม่ได้ด้อยลงเลยแม้แต่น้อย

ชายชราคนนี้มีชื่อว่าโจ้ส์ เขาคือประธานองค์กรการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ และเป็นพระสันตะปาปาของคูเรียวาติกัน

ด้านข้างทั้งสองด้านของโจ้ส์คือรองเลขาธิการของสหภาพยุโรป และยังมีตัวแทนของประเทศหวา ประเทศอเมริกาและประเทศรัสเซียอีกสามคน

คนที่เป็นตัวแทนของประเทศหวาที่อยู่บนเวทีคือท่านอาวุโสอู่หรืออู่จื่อโจวแห่งสหพันธ์บูโด

อู่จื่อโจวดำรงตำแหน่งสำคัญในองค์กรฮัววู ขณะเดียวกันก็มีตำแหน่งอยู่ในสหภาพศิลปะการต่อสู้ระดับโลก เมื่อทั้งสองตำแหน่งรวมกันเรียกได้ว่าชื่อเสียงโด่งดังไปไกลจนทำให้เขาสามารถยืนอยู่บนเวทีนี้ได้

ตอนนี้เฉินเฟิงและผู้เข้าแข่งขันทุกคนในครั้งนี้ยืนอยู่ด้านล่างเวที โจ้ส์ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ฉับพลันทุกคนที่อยู่ในที่นี้ก็หยุดพูดคุยกัน ทำให้บรรยากาศเงียบสงบลงในทันที สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องอยู่ที่ชายชราผู้น่าเกรงขามคนนี้

“การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันนี้ นี่เป็นการแข่งขันที่คนทั่วโลกจับตามอง และวันนี้ก็เป็นวันที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองเช่นเดียวกัน!”

โจ้ส์ยืนอยู่บนเวทีพลางเอ่ยขึ้นด้วยพลังเสียงที่ดังกังวานจนก้องไปทั่วทุกมุมของสนาม เขาไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียงทว่าเสียงของเขาก็ดังพอที่ทุกคนในสนามได้ยิน

สิ่งที่โจ้ส์เอ่ยก็เป็นเพียงคำพูดเปิดงานตามพิธีเท่านั้น จากนั้นเขาก็กล่าวสรุปรวมถึงแนะนำภาระงานและความคิดเห็นของตำแหน่งประธานสหภาพศิลปะการต่อสู้ระดับโลกของตนตลอดสิบปีที่ผ่านมา

การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกไม่เพียงแต่เป็นเวทีในการแสดงความสามารถของจอมยุทธ์ทั่วโลกเท่านั้น ขณะเดียวกันก็เป็นพิธีเปลี่ยนตำแหน่งประธานของสหภาพศิลปะการต่อสู้ระดับโลกด้วยเช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่มีการจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกคือช่วงเวลาที่ประธานคนใหม่ขึ้นรับตำแหน่งด้วยเช่นกัน เมื่อการแข่งขันจบลงวาระของประธานคนก่อนหน้าก็สิ้นสุดลง

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท