ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 858

ตอนที่ 858

เฉินเฟิงเดินไปยังข้างเตียง ด้วยความที่เขาไม่ได้คิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องใหญ่อะไร ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนัก : “ถ้าหากว่าคุณไม่ถือสาอะไรก็มานอนบนเตียงด้วยกันหนึ่งคืนก่อนแล้วกัน อีกอย่างผมก็ไม่ใช่คนประเภทนั้นด้วย แต่ถ้าหากว่าคุณถือสา อย่างนั้นก็ดึงผ้าห่มจากเตียงไปนอนบนพื้นแทนแล้วกัน”

เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่รอให้เซียงหลันบอกว่าตัวเองเลือกยังไง เขาก็ขึ้นไปเปิดผ้าห่มแล้วนอนลงไปบนเตียง พร้อมทั้งยังเหลือที่ว่างครึ่งหนึ่งไว้

ผ่านไปครู่หนึ่ง เฉินเฟิงก็ได้ยินเสียงของเซียงหลัน เธอเดินมายังข้างเตียงโดยไม่ได้ดึงผ้าห่มลงไป เพียงแต่นอนลงไปบนเตียงเท่านั้น

เฉินเฟิงสามารถรับรู้ถึงความตื่นเต้นของเธอ และนั่นเป็นเรื่องที่เฉินเฟิงคิดไม่ถึงเลยจริงๆ เพราะทั้งที่ตอนกลางวันเธอยังพยายามเข้ามาใกล้ชิดกับเขาแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับมีความหวาดกลัวแทนเสียอย่างนั้น

แต่อย่างว่าเฉินเฟิงไม่ได้ทำอะไร เพียงนิ่งเงียบตลอดทั้งคืน

ถึงแม้ว่าในห้องจะมีการเปิดฮีตเตอร์เอาไว้ แต่ด้วยหน้าต่างที่แตกไปทำให้มีลมหนาวพัดเข้ามาด้านในอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงทำให้ในเช้าวันถัดมาทั้งสองคนก็ได้กอดกันแน่นเพื่อมอบความอบอุ่นให้แก่กันและกัน

หลังจากที่เซียงหลันตื่นขึ้นมา เฉินเฟิงก็ยังไม่ได้ทำอะไรเธออย่างที่เขาได้พูดเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะกอดอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นแล้ว เธอกลับไม่ได้ถือสาเรื่องนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ทว่าไม่รู้ว่าสีหน้าของเธอในตอนนี้คือความดีใจหรือทุกข์ใจ

เมื่อเธอลุกขึ้นจึงทำให้เฉินเฟิงสะดุ้งตื่นขึ้นมา เฉินเฟิงเหลียวมองไปที่เธอ

เพราะว่าตื่นมาในตอนเช้าแบบนี้เลยทำให้ผมของเซียงหลันมีความยุ่งเล็กน้อย และด้วยเพราะว่าตอนนี้เธออยู่ในหน้าสดจึงไม่เหลือโครงหน้าจากการแต่งหน้าอันชวนหลงใหลแบบนั้นอีกแล้ว แต่นั่นก็ทำให้เธอดูไร้เดียงสาขึ้นมาไม่น้อยเลย

เฉินเฟิงมองไปที่เธอพร้อมกับกล่าวถาม: “บาดแผลบนตัวคุณเป็นยังไงบ้าง?สาหัสหรือเปล่า?”

เมื่อวานนี้ในตอนที่เซียงหลานเข้าก็ใช้มือซ้ายกุมอกอยู่ตลอด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอคงจะได้รับบาดเจ็บมาแน่นอน

เมื่อได้ยินเฉินเฟิงถามแบบนี้ เซียงหลันจึงส่ายหน้า: “ไม่ได้สาหัสอะไรค่ะ รักษาตัวสักสองสามวันก็คงหาย ตอนนี้ก็เช้าวันใหม่แล้ว ฉันเองก็ไม่ได้สะดวกที่จะอยู่ที่นี่ต่อด้วย เดี๋ยวฉันก็ออกไปแล้วนะคะ”

เฉินเฟิงไม่มีคำตอบกลับใดๆ เพียงแต่มองดูเซียงหลันเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน พอผ่านไปสักพัก ในตอนที่เธอเดินออกมา เธอก็ได้มีการจัดทรงผมจนเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าสีหน้ากลับยังมีความซีดเซียวดังเดิม

เซียงหลันหันไปบอกกับเฉินเฟิง

“ขอบคุณที่คุณชายให้ที่หลบภัย ตอนนี้เซียงหลันขอตัวก่อน”

เมื่อพูดจบเธอก็เดินไปทางประตู

เฉินเฟิงรู้ว่าหากเธอออกจากประตูนี้ไป และหากได้เจอกับตู๋กูหยุนอีกครั้งเธอก็คงจะหนีไม่พ้นแน่นอน ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างเธอกับตู๋กูหยุน แต่เมื่อดูจากท่าทีของตู๋กูหยุนเมื่อคืนนี้แล้ว เซียงหลันไม่มีทางถูกปล่อยไปง่ายๆ แน่นอน

เสียงเปิดประตูดังขึ้น หากว่าตอนนี้เฉินเฟิงกล่าวรั้งให้เธออยู่ต่อ เซียงหลันคงจะตอบรับแน่นอน แต่กระทั่งเสียงประตูถูกปิดลงอีกครั้ง เฉินเฟิงกลับไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำ

เพราะอย่างที่เขาเคยบอก เรื่องของเซียงหลันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเขานั่นเอง

หลังจากรอให้เซียงหลันจากไป เฉินเฟิงก็ลุกขึ้นเดินไปยังห้องพักของหลี่จื่อเยว่

เพราะตั้งแต่ได้เจอกับสถานการณ์เมื่อวานนี้ เฉินเฟิงจึงกลัวว่าเธอจะมีความทรงจำที่ไม่ดีบางอย่าง แต่ทันทีที่หลี่จื่อเยว่เปิดประตูออกมาแล้วได้เห็นหน้าของเฉินเฟิง เธอก็บ่นพึมพำพร้อมกับมองเฉินเฟิงด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจมากนัก : “คุณทำอะไรกันคะเนี่ย ถึงได้มาปลุกหนูตั้งแต่เช้าเลย คนกำลังนอนหลับสบายเลย”

ตอนนี้เจ็ดโมงเช้าแล้ว แต่หลี่จื่อเยว่กลับยังมีท่าทีเหมือนคนที่ยังตื่นไม่เต็มตาแบบนั้น เธอเกาหัวของตัวเองด้วยความง่วงนอน ซึ่งทำให้ผมที่เดิมทีมีความยุ่งอยู่แล้วยิ่งยุ่งเหยิงขึ้นไปอีก

เฉินเฟิงที่เห็นอย่างนั้นก็พูดออกไปอย่างไม่สบอารมณ์: “ยัยเด็กไร้ยางอาย”

ถึงแม้เขาจะพูดอย่างนั้น แต่ก็ยังปล่อยให้หลี่จื่อเยว่กลับไปนอนพักต่อ

ในขณะที่เขาเดินเข้าไปในเมืองเพื่อที่จะดูว่ายังมีของอะไรที่ต้องซื้อเพิ่มเติมอีก

ตอนนี้ภายในเมืองเต็มไปด้วยความคึกคัก ตรงบริเวณสวนสาธารณะมีเหล่าคุณลุงคุณป้ามาออกกำลังกายที่นี่ บางคนรำดาบ บางคนโหนบาร์ ในขณะที่บางคนก็กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่ แต่ละคนถึงแม้จะมีอายุเยอะแล้ว แต่ร่างกายกลับมีสุขภาพที่แข็งแรงยิ่งกว่าวัยรุ่นหลายคนเสียอีก

เฉินเฟิงเป็นคนชอบเพลิดเพลินกับความเรียบง่ายแบบนี้อย่างมาก ดังนั้นเขาจึงนั่งลงบนเก้าอี้ยาวตัวหนึ่งในสวนสาธารณะแห่งนี้ พลางมองไปยังสวนสาธารณะที่กำลังครึกครื้น

แต่ทว่าแม้แต่การได้พักผ่อนหย่อนใจเพียงเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ของเขาก็มักจะมีใครบางคนมาทำลายอยู่ตลอด

ชายสวมผ้าปิดปากและหมวกคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งข้างๆ เฉินเฟิง เดิมทีเฉินเฟิงไม่ได้สนใจเขา แต่ว่าอีกฝ่ายกลับเอ่ยปากพูดกับเขา

“ท่านเฝิง มีคนฝากจอหมายมาให้คุณ”

เฉินเฟิงที่เพิ่งได้ยินก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะเข้าใจว่าที่อีกฝ่ายเข้ามาก็เพราะต้องการคุยกับเขา แต่ว่าเฉินเฟิงได้พูดชื่อปลอมนี้ต่อหน้าเซียงหลันคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นคนที่เซียงหลันส่งมา

“มีเรื่องอะไร?”

เพราะเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการให้ใครรู้ตัวตนของเขา ดังนั้นเฉินเฟิงจึงพยายามกดเสียงพูดให้ต่ำลง

“แต่ก่อนที่ผมจะมอบจดหมายให้กับคุณ เขาคนนั้นให้ผมถามคำถามหนึ่งกับท่านเฝิงก่อน”

เฉินเฟิงขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่ชื่นชอบเรื่องยุ่งยากแบบนี้สักเท่าไหร่เลยจริงๆ

ส่วนทางด้านเซียงหลันที่หลังจากแยกกับเฉินเฟิง เธอก็ไร้ซึ่งหนทางที่จะไป และถ้าหากให้กลับไปที่คฤหาสน์กล่างป่านั้น ก็คงจะต้องถูกตู๋กูหยุนจับได้แน่นอน ดังนั้นเธอจึงคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะเดินทางไปหาเพื่อนคนหนึ่ง

ซึ่งที่นั่นไม่ได้ไกลจากโรงแรมที่เฉินเฟิงพักอยู่มากนัก แต่ว่าเธอกลับไม่กล้าที่จะออกไปเรียกรถที่หน้าประตูใหญ่อย่างเปิดเผย ดังนั้นจึงใช้วิธีการปีนออกมาจากหน้าต่างห้องน้ำในชั้นหนึ่งของโรงแรมแห่งนี้แทน เมื่อออกมาเห็นว่ารอบๆ นั้นไม่มีใคร เธอถึงค่อยเดินไปยังถนนใหญ่ก่อนจะโบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง

ภายในบ้านของเพื่อนเธอ หญิงสาวที่มีอายุวัยเดียวกับเซียงหลัน เธอกำลังยิ้มจางๆ พร้อมกับรินเหล้าเบย์ลี่ส์สองแก้วแล้วเดินมายังเซียงหลัน

“ตอนนี้ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆ เลยต้องมาซ่อนตัวอยู่กับเธอที่นี่ รอให้เรื่องวุ่นวายนี้จบลงแล้ว ฉันจะไปทันที”

หญิงสาวคนนั้นมีผมดกดำเงางาม ดวงตาสุกใส ริมฝีปากอวบอิ่มพร้อมฟันที่เรียงสวย เธอหันมาพูดกับเซียงหลัน : “ระหว่างเธอกับฉันยังมีอะไรที่ต้องเกรงใจอีกเล่า ฉันไม่ได้ถือสาอะไรสักหน่อย เธออยากจะพักที่นี่นานแค่ไหนก็ได้เลย”

หลังจากที่ส่งแก้วเหล้าให้กับเซียงหลัน เธอก็นั่งลงบนโซฟาที่อยู่ข้างๆ เซียงหลัน ก่อนจะจิบเหล้าเข้าไป พลางกล่าวไถ่ถาม: “แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ถึงได้ทำให้เธอมีสภาพน่าอนาถขนาดนี้ได้”

สีหน้าของเซียงหลันหมองลงทันที เมื่อคิดถึงเรื่องที่ตัวเองได้เจอแล้วมันก็ทำให้เธอรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ก่อนจะตอบกลับด้วยอารมณ์หงุดหงิด: “ทำอะไรไม่ได้ ก็ดันไปมีเรื่องกับคนที่ไม่ควรด้วย”

หญิงผมดำคนนั้นกลับหัวเราะออกมา: “คนสมบูรณ์แบบอย่างเธอ ยังสามารถเจอกับคนที่ไม่ควรไปมีเรื่องได้ด้วยงั้นหรอ ถ้าดูตามกลุ่มคนที่เธอได้พบปะด้วยก็ไม่เห็นมีคนไหนเลยที่เธอจะไปมีเรื่องด้วยได้เลย แล้วตอนนี้มันอะไรกันแน่ที่บังคับให้เธอตกมาอยู่ในสภาพนี้ได้”

“อย่ามาหัวเราะฉันสิ ถ้าฉันมีดีขนาดที่เธอบอก คงจะไม่มีทางถูกบีบบังคับจนต้องมาหลบอยู่ที่นี่หรอก แต่ฉันเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าอีกฝ่ายบอกจะพลิกหน้าก็พลิกจากหน้ามือกลายเป็นหลังมือแบบนี้เลย แต่การมาถึงขั้นนี้ได้ก็เป็นเพราะฉันที่หาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น ตอนนี้สิ่งต้องคิดคือหลังจากนี้จะหนีจากเขายังไงดีกว่า”

เมื่อพูดจบเซียงหลันก็เอนตัวเข้าไปในอ้อมอกของอีกฝ่าย ก่อนจะนอนลงไปบนตักของเธอพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ

“ยังโชคดีที่เธอยอมรับฉันเข้ามา”

หญิงสาวคนนั้นหัวเราะเบาๆ : “ฉันไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้นเหมือนเธอหรอกนะ ถ้าหากว่าอีกฝ่ายตามมาถึงที่นี่ สิ่งแรกเลยคือฉันจะส่งตัวเธอออกไป”

เซียงหลันที่ได้ยินแบบนั้น จึงแสร้งทำเป็นโกรธทันที: “เธอกล้าหรอ!”

หญิงสาวลูบเส้นอันเรียบลื่นของเซียงหลัน: “ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง มีหรือที่จะเหมือนเธอที่เวลาอยู่ต่อหน้าพวกคนใหญ่คนโตพวกนั้นแล้วยังสามารถจัดการตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบนั้น แต่จะว่าไปแล้ว เธอไปมีเรื่องกับใครกันแน่ คงจะไม่ใช่หมาป่าทะเลทรายอย่างตระกูลหลี่หรอกนะ”

และดูเหมือนว่าหมาป่าทะเลทรายนี้จะมีความน่าเกรงขามอย่างมาก เพราะแม้เธอที่เป็นคนพูดออกมายังมีความรู้สึกหวาดหวั่นเลย เธอมองไปยังเซียงหลันพร้อมกับกลัวว่าเซียงหลันจะพูดชื่อนั้นออกมาจริงๆ

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท