บทที่ 558 การชี้แจงสองแบบ
หลวนจื่อถูกหมินอันเกอดึงตัวขึ้นไปบนเวที เผชิญหน้ากับแววตาที่เต็มไปด้วยความแปลกใจของนักข่าวทั้งหลาย
อารมณ์ของหมินอันเกอสงบนิ่งมากกว่าปกติ
“วันนี้ได้เชิญทุกท่านมาที่นี่ มีเรื่องจะประกาศจริงๆ”
ทุกคนต่างถือกล้องพุ่งเป้าไปที่หมินอันเกอ เผยแพร่ภาพนี้ในตอนนี้ผ่านการถ่ายทอดสดไปยังทั่วทุกมุมในประเทศ
เขาไม่พูดอ้อมค้อม เอ่ยปากก็พูดอย่างตรงไปตรงมา: “ลูกในท้องของหลวนจื่อ เป็นของผมจริงครับ”
คำพูดง่ายๆประโยคเดียว ทุกคนในห้องประชุมต่างเงียบสงบทันที
หนึ่งวินาที
สองวินาที
สามวินาที……
“ถ้าเป็นเช่นนี้ เมื่อสักครู่ที่คุณหลวนจื่อพูดไม่ใช่เรื่องจริง?”
“ตกลงเด็กนั้นเป็นของใครกันแน่? หลวนจื่อเพิ่งบอกไปว่าเธอโกหกคุณ”
“หมินอันเกอ คุณถูกหลอกใช่หรือไม่?”
“พวกคุณต่างพูดกันคนละอย่าง หรือคิดว่าพวกเรานักข่าวและแฟนคลับเป็นลิงให้พวกคุณหยอกล้อเล่นหรือ?”
นักข่าวทั้งหมดต่างสับสนวุ่นวายขึ้นมา ทุกคนลุกขึ้นยืน รีบเบียดเข้าไปใกล้ๆอย่างรีบร้อนใจ นำไมค์ที่อยู่ในมือยื่นไปใกล้ปากของหมินอันเกอ
เสียงดังลั่นจนเกือบทำให้หลังคาปลิวว่อน คำพูดแค่ประโยคเดียวของหมินอันเกอเหมือนน้ำที่หยดลงไปในน้ำมันที่ร้อนระอุในกระทะ
หลวนจื่อนึกไม่ถึงว่าหมินอันเกอจะทำเช่นนี้ สีหน้าซีดลงนิดๆ แล้วมองหน้าของเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”
เธออุตส่าห์ทำให้ทุกคนเชื่อว่า หมินอันเกอกับตนเองไม่มีความสัมพันธ์กัน ความเหน็ดเหนื่อยทั้งหมดได้สูญเปล่าไปในตอนนี้แล้ว!
หมินอันเกอจะรู้หรือไม่ว่า คำพูดสั้นๆแค่ประโยคเดียวของตนเอง จะทำลายอนาคตทั้งหมดของเขาเอง?
เธอกำลังดิ้นรน แต่แววตาของหมินอันเกอกลับแน่วแน่มั่นคงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ผมคิดอย่างละเอียดดีแล้ว หลวนจื่อ”
หมินอันเกอจับมือของหลวนจื่อไว้แน่นๆ แล้วมองไปทางนักข่าวที่อยู่ตรงหน้า และพูดว่า: “ต้องขออภัยที่โกหกทุกคนในก่อนหน้านี้ด้วยนะครับ เรื่องนี้ผมจะรับผิดชอบเองทั้งหมด”
“หมินอันเกอ!” หลวนจื่อตะโกนเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่สูงเพื่อจะให้เขาหยุดพูด โมโหจนตัวสั่น
“คุณปล่อยมือฉัน!”
หมินอันเกอก็ยังเฉยๆ
หลวนจื่อสะบัดอย่างแรง จนมือหลุดออกจากกัน จากนั้นก็หันหลังลงจากเวทีด้วยความโมโห
ในห้องประชุมไม่มีใครกล้าพูด
หมินอันเกอขมวดคิ้วขึ้น
“หลวนจื่อ”
หลวนจื่อหยุดนิ่งไปสักพัก แต่ไม่หันหน้ากลับไป
“คุณคิดให้ดีๆ นี่คือการตัดสินใจของตัวคุณเอง”
พูดจบ เธอก็ก้าวเท้าเดินออกไป
หมินอันเกอรีบร้อนจะวิ่งตามออกไป เพิ่งจะก้าวไปหนึ่งก้าว ก็ถูกนักข่าวทั้งหลายเข้ามาล้อมรอบเต็มไปหมด
“หมินอันเกอ คำพูดของคุณกับหลวนจื่อ ตกลงใครพูดความจริงกันแน่?”
“ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว พวกคุณจะมีลูกก่อนแต่งงานกันใช่ไหมคะ?”
“เกี่ยวกับคำวิพากษ์วิจารณ์คุณหลวนจื่อในสื่อออนไลน์ คุณคิดยังไงบ้าง?”
หมินอันเกอขมวดคิ้วขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจ เห็นหลวนจื่อถูกนักข่าวกั้นขวางทางเอาไว้ จึงยื่นมือจะผลักพวกเขาออกไป
ในขณะนั้นพอดี เคอเหยียนรุ่ยเดินออกมาจากอีกข้างหนึ่ง พยุงตัวหลวนจื่อเดินออกไปข้างนอก
หมินอันเกอถูกนักข่าวขวางไว้ ได้แต่มองดูพวกเขาเดินจากไป
ในใจของหลวนจื่อยุ่งวุ่นวายไปหมด เดาใจไม่ออกเลยว่าหมินอันเกอทำเช่นนี้เพราะเหตุใด โอกาสที่ได้มาไม่ง่ายเลย สูญเปล่าไปหมดสิ้น
ในความทรงจำของเธอ หมินอันเกอไม่ใช่คนใจร้อนขนาดนี้
“หลวนจื่อ? หลวนจื่อ?”
เคอเหยียนรุ่ยที่นั่งอยู่ข้างหน้าตะโกนเรียกเธอสองครั้ง หลวนจื่อถึงจะดึงสติกลับมา
“ตอนนี้ควรทำยังไงดี?”
หลวนจื่อปิดปากไว้แน่นๆ จากนั้นก็ส่ายหัว
“ช่วยฉันจองตั๋วเครื่องบินหน่อยสิ” ผ่านไปสักพัก ก็พูดเพิ่มมาอีกคำ: “อย่าบอกแม่ฉันนะ”
เคอเหยียนรุ่ยมองดูเธอผ่านกระจกมองหลังด้วยความเป็นห่วง เห็นสีหน้าท่าทางที่เหนื่อยล้าของหลวนจื่อแล้ว สุดท้ายก็ไม่ห้ามเธอ
“คิดดีๆแล้วเหรอ?”
“อืม”
ส่วนอีกฝั่งนั้น เพราะคำเดียวของหมินอันเกอ ทั้งวงการบันเทิงปั่นป่วนอีกครั้ง
ภาพของการถ่ายทอดสดในงานแถลงข่าวกำลังถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็วในทีวีและบนเว็บไซต์ เผยแพร่ไปในหูของทุกคน
เปรี๊ยะ!
พี่เจี้ยนเอานิตยสารปึกใหญ่โยนไปบนโต๊ะ โมโหจนสีหน้าเขียวแล้ว
“นายบ้าไปแล้วเหรอ? ตอนแรกก็ดีอยู่แล้ว นายวิ่งไปที่นั่นทำไม? ตอนนี้พังทลายจนหมดสิ้นแล้ว!”
นิตยสารที่กางออกมาบนโต๊ะ เป็นภาพเมื่อวานของหลวนจื่อและหมินอันเกอทั้งหมด
หมินอันเกอชำเลืองมองดู ไม่พูดอะไร
พี่เจี้ยนบ่นขึ้นมาอีกครั้ง: “ตอนนี้นายจะแก้ไขยังไง? นายอยากจะโดนแบนใช่ไหม?”
ขณะที่พูดอยู่นั้น ก็มีเสียงมือถือดังขึ้นมา
พี่เจี้ยนเอาออกมาดู สีหน้าก็บูดเบี้ยวทันที
“ต้องโทรมายกเลิกสัญญาอีกแน่ๆเลย แต่ว่าวันนี้ ฉันก็ได้รับสายที่โทรมาร้องเรียนถึงเก้าสายแล้ว ถ้าเกิดว่าพวกเค้าฟ้องร้องนายไม่ทำตามเงื่อนไขสัญญา…..”
“พวกเขาอยากจะฟ้อง ก็ฟ้องสิ” หมินอันเกอตอบแทรกขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์
เสียงของพี่เจี้ยนหยุดกะทันหันและมีสีหน้าที่น่าเกลียด
“นายไม่อยากจะอยู่วงการบันเทิงต่อไปจริงๆใช่ไหม?”
หมินอันเกอไม่ตอบ เสียงโทรศัพท์ของพี่เจี้ยนดังขึ้นมาอีก
เขาถอนหายใจอีกครั้ง กล่าว: “นายขอพรพระเจ้าจะดีที่สุด ให้บริษัทเหล่านั้นอย่ายกเลิกสัญญาทั้งหมด ถ้าไม่อย่างนั้นฉันก็ช่วยอะไรนายไม่ได้แล้ว”
พูดจบ ก็หันหลังเดินออกไป
หมินอันเกอก้มสายตาลงเล็กน้อย สายตามองไปที่นิตยสารหลายเล่มนั้น มีหนึ่งรูปในนั้น เป็นรูปด้านหลังของหลวนจื่อและเคอเหยียนรุ่ยที่เดินออกไปพร้อมกัน
เขาขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง หยิบมือถือออกมาโทรหาหลวนจื่อ แต่ไม่รับสาย
จากนั้น หมินอันเกอก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกไปทางด้านนอก
พี่เจี้ยนที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่หน้าระเบียงเห็นแล้วรีบเรียกเขา
“อันเกอ นายจะไปไหน? รอเดี๋ยว!”
แต่ว่าหมินอันเกอไม่หยุดเดิน แต่เดินออกจากบริษัทโดยตรง จากนั้นไปถึงที่บ้านพักของหลวนจื่ออย่างรวดเร็ว
ยังไม่ได้เข้าไปในหมู่บ้าน ก็เห็นนักข่าวจำนวนไม่น้อยที่ถูกล้อมอยู่ด้านนอก
รปภ.ของหมู่บ้านก็เพิ่งเคยเห็นความอลังการขนาดนี้ครั้งแรก ที่มีหน่วยรักษาความปลอดภัยเยอะขนาดนี้ ค่อยดูแลทั้งวัน24ชั่วโมง ถึงได้ขวางพวกนักข่าวไว้ได้
หมินอันเกอขมวดคิ้ว นักข่าวรออยู่เยอะมากขนาดนี้ ไม่รู้ว่าหลวนจื่อจะอยู่ในบ้านหรือไม่
เขาขับรถช้าๆ ค่อยๆวิ่งผ่านท่ามกลางผู้คน
มาถึงด้านหน้าสุด ค่อยเปิดหน้าต่างรถลงมา
“ผมมาหาหลวนจื่อ”
พอเขาเปิดเผยหน้า นักข่าวพวกนั้นก็ตื่นตัวกันขึ้นมา
“หมินอันเกอ! หมินอันเกอมาแล้ว!”
หลายคนไม่สนใจอันตรายและเบียดเข้ามาใกล้ๆ
“หมินอันเกอ ระหว่างคุณกับหลวนจื่อเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
“คุณตัดสินใจจะแต่งงานกันจริงๆใช่ไหม?”
“แล้วหลวนจื่อกับเคอเหยียนรุ่ยมีความสัมพันธ์กันยังไง?”
หลายๆคนต่างพูดกันคนละคำสองคำและยกกล้องขึ้นจนเกือบจะแตะหน้าของหมินอันเกอแล้ว
หมินอันเกอขมวดคิ้ว ความหงุดหงิดเขียนไว้บนหน้าอย่างชัดเจน แต่นักข่าวก็ยังบีบเคล้นกันไม่ยอมปล่อย
กระทั่งถึงกับขวางที่หน้ารถ เพื่อจะไม่ให้หมินอันเกอขับรถออกไป
“หลีกไป” หมินอันเกอพูดด้วยเสียงดุ
แต่กลับไม่มีใครสนใจเขา สีหน้าของเขาน่าเกลียดมากยิ่งขึ้น
“ไม่มีอะไรต้องพูด หลังจากนี้อย่ามาที่นี่อีก ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
หมินอันเกอพูดขึ้นมาอีกคำ แต่นักข่าวเหล่านั้นไม่ยอมหยุดเลย
สีหน้าของเขาดูน่าเกลียดมาก เปลี่ยนเกียร์ใหม่ เหยียบคันเร่ง แล้ววิ่งตรงออกไป
บูม——
เครื่องยนต์เกิดมีเสียงดังบูม รถแข่งพุ่งตรงออกไปทันที
นักข่าวและช่างกล้องต่างตกใจจนหน้าซีด มองดูรถที่ขับพุ่งเข้ามาอย่างจัง ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเลยสักนิด
ต่างตกใจกลัวกันจนไม่กล้ายืนขวางอีก รีบกระโดดออกไปเพื่อหลีกทาง
หมินอันเกอจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาที่เยือกเย็น แล้วขับรถพุ่งตรงเข้าไปในหมู่บ้าน
“หมินอันเกอ คุณจะฆ่าคนเหรอ?”
เสียงไม่พอใจของนักข่าวและตากล้องดังมาจากด้านหลัง แต่หมินอันเกอไม่ตอบโต้ใดๆเลย