บทที่ 578 ของที่รีบใช้ หาเท่าไหร่ก็หาไม่ได้ แต่กลับได้มาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้นอย่างตั้งใจ: “ ฉันเป็นห่วงกลัวว่านายจะไม่ได้บัตรเชิญ ตอนนี้มีเป้าหมายแล้วหรือยัง? ”
“ ยังไม่มีเป้าหมาย ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว เธอนับจำนวนสักครู่ หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: “ เหลือแค่สามวันแล้ว ”
“ มันจะต้องมีวิธี ”
จี้จิ่งเชินก้มลงไปจูบที่เส้นผมของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าจูบไปที่มุมปากของเขา
ไม่คิดว่าการกระทำเล็กๆจะทำให้สีดวงตาของจี้จิ่งเชินมืดสลัวลงทันที
มือสองข้างที่วางอยู่บนเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนจับเธอไว้แน่นทันที หลังจากนั้นเขาก็กดเวินเที๋ยนเที๋ยนให้โค้งตัวไปบนโต๊ะ และเอียงตัวจูบเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอามือไปขวางไว้ที่หน้าอกของเขา
“ เดี๋ยว นายทำงานอยู่ไม่ใช่หรอ? ”
“ ทำงานแล้วก็ต้องพักผ่อนด้วยสิ ”
จี้จิ่งเชินพูดสั้นๆ หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงไปปิดปากเวินเที๋ยนเที๋ยนทันที
เอกสารกองใหญ่ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะถูกผลักไปด้านข้างชั่วคราว เวินเที๋ยนเที๋ยนเอนตัวนอนราบลงไปบนโต๊ะ และเป็นฝ่ายถูกจูบ
จี้จิ่งเชินจูบๆหยุดๆ คล้ายกับกำลังหยอกล้อของล้ำค่าที่เพิ่งได้มา
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกหยอกล้อจนโมโห เธอตามขึ้นไปเพื่อจะกัดเขา แต่กลับถูกจี้จิ่งเชินรัดไว้ก่อน
ห้องหนังสือเงียบมาก มีเพียงเสียงเล็กๆของริมฝีปากที่กำลังพัวพันกันอยู่
และในตอนนี้ อยู่ๆประตูก็ถูกคนผลักเข้ามา
“ คุณผู้ชาย! ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังนอนอยู่บนโต๊ะตกใจจนรีบกระโดดลงมาอย่างรวดเร็ว และเกือบชนเข้ากับจี้จิ่งเชิน เธอเบิกตากว้าง หลังจากนั้นก็หันไปมองทางประตูอย่างหวาดผวา
พ่อบ้านที่มือขวากำลังประคองประตูให้เปิดอยู่ชะงักอยู่ที่เดิม เขาไม่คิดว่าจะเจอเข้ากับสถานการณ์แบบนี้ เขาจึงไม่รู้ว่าควรจะเดินเข้าไป หรือหมุนตัวเดินออกไปดี?
จี้จิ่งเชินมองพ่อบ้านด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
พ่อบ้านชะงักไปสักครู่
“ คุณผู้ชาย? รบกวนคุณหรือเปล่าครับ? ”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินตลกมาก
“ บทบาทของประตูคือมีไว้ให้คนเคาะ ”
จี้จิ่งเชินรู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเขินอาย เขาจึงยื่นมือออกไปพาเธอมากอดไว้ในอ้อมอก
หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่าเป็นพ่อบ้าน สีหน้าของเธอก็แดงมาก หลังจากนั้นเธอก็ฝังตัวอยู่ในอ้อมกอดของจี้จิ่งเชิน ไม่กล้าหันไปมอง
พ่อบ้านยืนอยู่ที่ประตู เขาชะงักไปสักครู่ หลังจากนั้นก็ยกมือเคาะประตูใหม่อีกครั้ง
“ คุณผู้ชายครับ ผมเข้าไปได้แล้วใช่ไหม? ”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินดำทมิฬเหมือนก้นหม้อ
เสียงของเขาหนักแน่น และเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ เข้ามา ”
ตอนนี้ พ่อบ้านถึงจะกอดกล่องกล่องหนึ่ง และเดินเข้ามา คล้ายกับเขาไม่รับรู้ถึงความไม่พอใจของจี้จิ่งเชินแม้แต่นิดเดียว
“ คุณผู้ชายครับ เมื่อสักครู่ ตอนที่จัดเก็บห้องให้คุณนายเหยา ผมได้เจอกล่องกล่องหนึ่งครับ ”
เขาส่งกล่องทรงยาวสีดำที่อยู่ในมือมาให้จี้จิ่งเชิน และพูดไปด้วย: “ ในนั้นมีซองจดหมายที่ยังไม่ได้เปิดอยู่หนึ่งฉบับครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้น เธอก็แอบหันหน้ากลับมา
กล่องถูกเปิดออก เผยให้เห็นซองจดหมายที่อยู่ด้านใน
ซองจดหมายโบราณที่มีรูปหลังคาทรงโบราณ เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกคุ้นมาก เธอเห็นแล้วก็จำได้ทันที
“ อันนี้ เหมือนกับว่าจะเป็นของฉัน ”
เห็นสายตาสงสัยของพ่อบ้าน เธอจึงพูดอธิบาย: “ ตอนแข่งกับหลีเจียเวยเมื่อครั้งก่อน อาจารย์ใหญ่ที่พระราชวังต้องห้ามบอกว่าจะให้ของขวัญกับฉัน คล้ายกับว่าจะเป็นซองจดหมายฉบับนี้แหละ ”
หลังจากที่นำกลับมาจากสถานที่ถ่ายรายการเมื่อครั้งที่แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ใส่ไว้ในกล่อง ต่อมาก็ลืมไปสนิทเลย
เธอรับมาแกะซองจดหมายออก
“ ไม่รู้ว่าคืออะไร ท่านอาจารย์ยังบอกอีกว่าฉันจะต้องชอบอย่างแน่นอน…… ”
เธอพูดไปด้วย และเทซองจดหมายลงไปด้วย
หลังจากนั้นบัตรสองใบก็ไถลลงมาจากด้านในทันที
“ นี่คืออะไร? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบมันขึ้นมาอย่างสงสัย หลังจากนั้นเธอก็เห็นตัวอักษรด้านบน
— —งานเลี้ยงค็อกเทลของเอเชียแปซิฟิกยินดีต้องรับการมาของท่าน
เธอเบิกตากว้างทันที
“ นี่มัน……บัตรเชิญงานเลี้ยงค็อกเทลของเอเชียแปซิฟิก? ”
จี้จิ่งเชินเห็นบัตรเชิญที่ตกลงมาจากในซองจดหมาย ในดวงตาของเขาก็ปรากฏความดีใจขึ้นมาทันที
เขาเคยเห็นรูปร่างหน้าตาบัตรเชิญจากในมือของคนอื่น และก็เหมือนกับบัตรนี้ทุกอย่างจริงๆด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกซองจดหมายไปมาอย่างตะลึง ยังมีกระดาษใบเล็กอีกแผ่นตกลงมาจากด้านในอีกด้วย ด้านบนเป็นโน้ตของท่านอาจารย์
— —เที๋ยนเที๋ยน เดิมที นี่เป็นบัตรเชิญที่ส่งมาที่พระราชวังต้องห้าม คนแก่อย่างพวกเราไม่ชอบสถานที่ของงานเลี้ยงสักเท่าไหร่ บางทีงานเลี้ยงนี้อาจจะมีประโยชน์กับบริษัทของพวกคุณก็ได้ งั้นก็ให้คุณดีกว่า
เวินเที๋ยนเที๋ยนอ่านจบอย่างรวดเร็ว เธอทั้งตกใจและดีใจ
“ ไม่คิดว่าท่านอาจารย์จะมอบบัตรเชิญให้ฉันสองใบ แถมยังวางอยู่ในปราสาทมาตลอดอีกด้วย ”
เธอมองบัตรเชิญทั้งสองใบนั้นอย่างสังเกต แบบนี้ก็ไม่ต้องกังวลแล้วสิ
จี้จิ่งเชินอ่านคำพูดที่อยู่บนโน้ตแผ่นนั้น เขาถึงนึกขึ้นได้ว่าโครงการในงานเลี้ยงค็อกเทลของเอเชียแปซิฟิกครั้งนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับวัตถุโบราณด้วยเช่นกัน ส่งบัตรเชิญให้คนที่ทำงานเกี่ยวกับวัตถุโบราณก็ถือว่าเป็นน้ำใจอย่างหนึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงมองบัตรเชิญอย่างสังเกต
“ ของที่รีบใช้ หาเท่าไหร่ก็หาไม่ได้ แต่กลับได้มาอย่างไม่ได้ตั้งใจสะงั้น แบบนี้เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตระกูลเวินแล้วสิ ”
“ ใช่ ”
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินมีรอยยิ้มประดับไว้อยู่นิดหน่อย
วิ่งวุ่นกับเรื่องนี้มาตลอดสองสามวัน ตอนนี้ถึงจะโล่งใจขึ้นแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนกระโดดอย่างดีใจ เธอเดินไปทางด้านนอก และพูดไปด้วย: “ ฉันจะไปขอบคุณท่านอาจารย์”
พูดเสร็จ เธอก็รีบเดินออกจากห้องหนังสือทันที
พ่อบ้านก็ไม่คิดว่าตัวเองจะหากล่องเจอโดยไม่ได้ตั้งใจ และคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะช่วยคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงไว้ได้เช่นกัน
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกไปด้วยสีหน้าอิ่มอกอิ่มใจ พอหันกลับมา เขากลับเห็นจี้จิ่งเชินยังคงมองเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรอยู่ ใจของเขาจึงกระตุกทันที
“ คุณผู้ชาย? ยังมีอะไรจะสั่งอีกหรอครับ? ”
ในสายตาของจี้จิ่งเชินมีความไม่พอใจอย่างชัดเจน
“ มารยาทของคุณล่ะ? เข้ามาประตูก็ไม่เคาะ ”
เพราะเรื่องนี้จริงๆด้วย
พ่อบ้านพูดบ่นในใจ ก็แค่รบกวนเรื่องอย่างว่าของพวกเขาเองไม่ใช่หรอ? ไม่คิดว่าจะอาฆาตขนาดนี้
แต่พอเห็นจี้จิ่งเชินไม่พอใจขนาดนี้ เขาจึงพิจารณาตัวเองอยู่ในใจนิดหน่อย
เมื่อก่อนบรรยากาศในปราสาทไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่นิดเดียว ทุกคนล้วนเคร่งขรึม แต่หลังจากที่คุณผู้หญิงมาที่นี่ ทุกคนถึงจะค่อยๆร่าเริงขึ้น
บวกกับพอผ่านเรื่องในอดีตเหล่านั้นมาแล้ว พวกเขาก็ปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน และก็ไม่มีความผูกมัดมากมายขนาดนั้นอีกแล้ว
มองพ่อบ้านตรงหน้าที่ติดตามรับใช้ตัวเองมาสิบกว่าปี จี้จิ่งเชินก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันมาตั้งนานแล้ว ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็แค่เตือนนิดๆหน่อยๆเท่านั้น
หลักๆคือเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว มันก็ต้องมีปฏิกิริยากันบ้าง
“ ครั้งหน้าก็ระวังด้วย ”
พ่อบ้านรีบพยักหน้าทันที
“ ทราบแล้วครับ ”
เขาพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ไม่รู้ว่าจำได้หรือเปล่า เขาก็ขอตัวกลับไปเสียแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนโทรศัพท์หาคนที่พระราชวังต้องห้าม และได้พูดคุยกับพวกท่านอาจารย์อยู่สักพัก
ที่แท้พวกเขาก็กำลังรอให้เธอโทรไปหามาตลอด ไม่คิดว่ารอมานานขนาดนี้ เธอก็ยังไม่โทรมาสักที พวกเขาก็ใกล้จะลืมแล้วเหมือนกัน แต่พวกเขาไม่คิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเพิ่งรู้
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขอบคุณ พูดคุยอยู่สักครู่เธอก็วางสาย
เริ่มแรก การประชุมของเอเชียแปซิฟิกครั้งนี้มีแค่คนในที่รู้ข่าว พอเวลาค่อยๆผ่านไป บวกกับภายใต้การโฆษณา ไม่นาน ข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าการประชุมใกล้จะจัดขึ้นแล้ว แต่งานเลี้ยงค็อกเทลที่เป็นส่วนตัวครั้งนี้กลับเล่าต่อกันในระหว่างคนส่วนน้อยเท่านั้น
ต่อให้ได้รับบัตรเชิญแล้ว แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ผ่อนคลายลงแม้แต่นิดเดียว
วันงานเลี้ยง จี้จิ่งเชินก็ยังคงกำลังยุ่งอยู่กับงานเหมือนเดิม
ตั้งแต่ตอนบ่าย เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ถูกแม่ครัวกับช่างแต่งหน้าลากไปแต่งตัว
“ ได้ยินมาว่างานเลี้ยงครั้งนี้ไม่ได้มีแค่คนดังในประเทศเท่านั้น คนของต่างประเทศก็มาด้วยเช่นกัน คุณผู้หญิง คุณต้องแต่งตัวให้สวยเลยนะคะ ”
ปรกติ ตอนอยู่ที่ปราสาทเวินเที๋ยนเที๋ยนมักจะใส่เสื้อผ้าธรรมดา ออกไปข้างนอกก็อ่อนน้อมถ่อมตัวมาก แต่คนบ้านอื่น พอออกจากบ้านครั้งนึงก็แต่งตัวสะจนสวยงาม ถ้าเทียบกันแล้ว เห็นได้ชัดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนแต่งตัวเรียบง่ายกว่ามาก
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ความคิดของแม่ครัวกับช่างแต่งหน้า แต่พอเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นตัวเองในกระจก เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอยู่ดี