บทที่ 724 ไม่มีครั้งต่อไปแล้ว
พูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เปิดประตูลงจากรถ กำลังจะเดินออกไป ก็นึกอะไรบางอย่างออก แล้วหันกลับไป
“เรื่องของหล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลัน คุณไม่ต้องช่วยนะคะ ฉันอยากแก้ไขมันเอง”
เขาไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเลย
“ผมรู้”
ได้ยินแบบนี้ ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้วางใจแล้วเดินจากไป
จี้จิ่งเชินที่อยู่บนรถนั่งมองเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปในตึก นานมาก ในที่สุดถึงได้ถอนสายตากลับมา ในแววตาปรากฏแสงสลัวแวบหนึ่ง มุมริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย
เขาสัญญากับเวินเที๋ยนเที๋ยนไปแล้ว จะให้เธอจัดการด้วยตัวเอง แต่เขาก็จะไม่ยอมหยุดเพียงแค่นี้
ผู้หญิงสองคนนั้น เขาจะปล่อยพวกเธอไปได้ยังไง?
เพียงแต่ต้องรอให้แผนการของเวินเที๋ยนเที๋ยนสิ้นสุดลงก่อน แล้วค่อยลงมือ
พลางคิด สายตาของจี้จิ่งเชินปรากฏรอยยิ้มกระหายเลือดออกมาชั่วขณะหนึ่ง เย็นจนเข้ากระดูก ความอบอุ่นบนใบหน้าของเขาหายไปทันที เปลี่ยนเป็นทั้งเย็นชาและสูงศักดิ์
กระจกรถค่อยๆเลื่อนขึ้น รถก็ออกไปในที่สุด
หลังจากที่มาถึงบริษัทอีกครั้ง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เต็มไปด้วยพลัง
รอให้ผู้ช่วยเตรียมข้อมูลสำหรับการประชุมเสร็จ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตรวจสอบการพัฒนาของบริษัทในช่วงนี้ ห่างจากเวลาประชุมอีกครึ่งชั่วโมง เลยถือโอกาสใช้ครึ่งชั่วโมงที่เหลือนี้ในการทบทวนเนื้อหาการประชุมให้ดี
เพิ่งจะเปิดเอกสาร ท้องกลับมีเสียงดังขึ้นมา ส่งเสียงร้องจ๊อกๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว เปิดลิ้นชัก เพื่อจะหยิบเอาแครกเกอร์โซดาที่เตรียมไว้ออกมา
แต่พอเปิดออก กลับพบว่าข้างในว่างเปล่า
“ครั้งที่แล้วกินหมดไปแล้วเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ถ้าตอนนี้จะออกไปซื้อใหม่ก็ไม่ทันแล้ว
ดูแล้ว เช้านี้คงทำได้แค่ทนหิวไปก่อน
กำลังคิดๆอยู่ โทรศัพท์บนโต๊ะกลับดังขึ้นมากะทันหัน
“ประธานเวิน มีพัสดุของคุณมาส่ง”
ได้ยินเสียงของผู้ช่วย เวินเที๋ยนเที๋ยนแปลกใจเล็กน้อย
ในช่วงนี้ตัวเธอเองก็ไม่ได้สั่งซื้อของอะไรเลย และก็ไม่ได้ยินว่าใครจะส่งของมาให้ด้วย
คิดๆแล้ว ก็พูดขึ้น: “เอาเข้ามาเลย”
ผู้ช่วยในสายลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“ได้ค่ะ ประธานเวิน”
ครู่เดียว ประตูของห้องทำงานก็ถูกเปิดออก คนที่เดินเข้ามากลับเป็นผู้ชายวัยกลางคนสวมเครื่องแบบสีแดง ใส่หมวก บนหน้าอกของเครื่องแบบประทับตัวอักษรอย่างชัดเจน ร้านอาหารเหาฉวน
และด้านหลังยังมีอีกหลายคนที่ใส่เครื่องแบบเหมือนกันตามเขามา ในมือถือกล่องอาหารที่ประณีตสวยงามมาหลายกล่อง พนักงานสี่ห้าคนเรียงกันเข้ามาอย่างมีระเบียบ
คนที่เป็นหัวหน้าได้หันไปทางเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วโค้งตัวลงเล็กน้อย
“ประธานเวิน วางไว้ตรงนี้ได้ไหมครับ” เขาชี้ไปตรงโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างๆแล้วถาม
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าแบบงงๆ พวกเขาเปิดกล่องอาหารในมือออก
แป๊บเดียว ทั้งโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหาร
ทันทีที่ฝาถูกเปิดออก กลิ่นของอาหารก็ตลบอบอวลไปทั่วห้องทำงาน ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนที่หิวอยู่แล้วท้องยิ่งส่งเสียงดังขึ้นไปอีก
เมื่อมองไป บนโต๊ะมีขนมจีบแน่นๆ เกี๊ยวกุ้ง ฮะเก๋า แซนด์วิช นม มีทั้งอาหารจีนและอาหารตะวันตก มีมากมายหลายสิบอย่าง
ยังคงมีควันลอยขึ้นมา ราวกับเพิ่งออกจากหม้อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบพูด: “ฉันไม่ได้สั่งของพวกนี้”
คนที่เป็นหัวหน้ายิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าว: คุณจี้เป็นคนสั่งครับ”
จี้จิ่งเชิน?
ในสมองของเวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฏขึ้นด้วยภาพเขา เพราะเมื่อเช้าเธอไม่ได้ทานข้าว หรือว่าเขาจะสั่งมาให้เธอโดยเฉพาะ?
คิดมาถึงตอนนี้ ใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกอบอุ่น
จริงดังคาด แป๊บเดียวเสียงมือถือก็ดังขึ้น เหมือนกับรู้ว่าตอนนี้อาหารเช้าถูกส่งมาถึงแล้ว จี้จิ่งเชินโทรมาตรงเวลาพอดี
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองชื่อที่ขึ้นมาบนหน้าจอมือถือ รอให้พวกพนักงานออกไป ประตูปิดไปแล้ว เธอถึงรับสาย
“ได้รับหรือยัง?” อีกฝ่ายเอ่ยปากถาม
“อืม” เวินเที๋ยนเที๋ยนตอบ เงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง การประชุมจะเริ่มในอีก20นาที
เธอลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่โต๊ะ เมื่อเข้าไปใกล้ กลิ่นที่ลอยเตะจมูกก็ยิ่งชัดขึ้น ทำให้คนน้ำลายสอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งลงอย่างอดใจไม่ไหว หยิบตะเกียบบนโต๊ะ ชิมฮะเก๋าไปคำหนึ่ง
ถึงแม้จะร้อนไปหน่อย แต่ก็ยังอร่อย
จี้จิ่งเชินที่อยู่ในสายดูเหมือนได้ยินเสียง ก็ยิ้มเล็กน้อย
“กินให้เสร็จก่อนแล้วค่อยทำงานนะ ทีหลังห้ามมาทำงานโดยไม่ได้ทานข้าวเช้าอีกละ ถ้ามีอีกครั้งต่อไป ผมจะส่งคุณกลับปราสาทเก่า”
“ยกเว้นครั้งนี้ครั้งเดียว” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างออดอ้อน
เธอรู้ว่าหล่อนเจียนีกับหลิวเหม่ยหลันจะต้องหาทางกลั่นแกล้งเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีแบบนี้
เพียงแค่ครั้งนี้เธอได้เตรียมแผนป้องกันไว้แล้ว ครั้งต่อไปแผนชั่วของพวกเขาจะไม่สำเร็จง่ายๆแบบนี้อีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังกิน รู้สึกว่าร่างกายค่อยๆอบอุ่นขึ้นตามอาหาร เธอหรี่ตาอย่างมีความสุข
“คุณทานข้าวเช้าหรือยัง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถามลอยๆ คิดไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกลับตอบว่า: “ยังเลย”
สั้นๆสองคำ กลับถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนฟังออกถึงอาการที่น้อยใจเล็กน้อย แล้วหัวเราะออกมา
“แล้วทำไมไม่ทานคะ แม่ครัวไม่อยู่เหรอคะ?”
“คุณไม่อยู่ ผมกินไม่ลง”
เขาประเมินความสามารถของตัวเองสูงไป เมื่อเช้าตอนเขาตื่นขึ้นมา เขากระชับกอดอ้อมแขนโดยไม่รู้ตัว เวลาที่เขาอยากกอดผู้หญิงคนนั้น แต่มันกลับว่างเปล่า
เมื่อเขาลงมาที่ห้องอาหาร เตรียมตัวจะทานอาหารเช้า แต่พบว่าที่ที่ปกติเวินเที๋ยนเที๋ยนเคยนั่งกลับว่างเปล่า บนโต๊ะมีชุดทานอาหารแค่ชุดเดียว
ในตอนนั้น ก็ไม่มีเหลือความอยากอาหารอยู่แม้แต่น้อย
จี้จิ่งเชินไม่ได้ขยับมีดและส้อมต่อ แต่ตรงไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยนเลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้ว หัวใจของเธอก็หนักอึ้ง แต่ในเวลาเดียวกันความหวานก็พรั่งพรูออกมา
เธอหน้าแดงเล็กน้อย “ไม่อย่างนั้นครั้งต่อไปคุณก็มาที่ตระกูลหล่อน ทานข้าวเช้าด้วยกัน ได้ไหม?”
“นี่ถือเป็นเกียรติของผมเลยครับ”
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินมีรอยยิ้มแฝงอยู่
ทั้งสองคนคุยกัน จนกระทั่งผู้ช่วยเข้ามาบอกว่าถึงเวลาประชุมได้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงได้วางสาย
ผู้จัดการหยางได้ยินมาว่าก่อนหน้านั้นพวกเขาได้ไปเยี่ยมคุณนายหล่อนมา ก็ถามไถ่สุขภาพของคุณนายหล่อน ไม่นานก็เริ่มเข้าสู่สภาวะการทำงาน
ปัจจุบันธุรกิจที่บริษัทหล่อนซื่อมีส่วนเกี่ยวข้องนอกจากอุตสาหกรรมด้านความบันเทิงที่เป็นหลัก ยังมีธุรกิจเที่ยวเกี่ยวกับการขนส่งเป็นส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นอุตสาหกรรมในต่างประเทศ
เนื่องด้วยตอนนั้นถูกจำกัดและกดขี่จากตระกูลเวิน เดิมทีบริษัทหล่อนซื่อที่กำลังพัฒนาธุรกิจอยู่ภายในประเทศก็ต้องย้ายไปต่างประเทศเท่านั้น
ตอนนี้ด้วยการล่มสลายของตระกูลเวิน โครงการที่ไม่สามารถดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้จึงได้ถูกนำไปดำเนินไปทีละโครงการ
คนไม่น้อยให้ความสนใจ กระตือรือร้น อยากจะเคลื่อนตัวเข้าอุตสาหกรรมในประเทศ
เพียงแต่อำนาจธุรกิจ 80% ของอุตสาหกรรมในประเทศ เกือบทั้งหมดอยู่ในมือของบริษัทเอ็มไอกรุ๊ป
ด้วยความเผด็จการและแข็งแกร่งของจี้จิ่งเชิน แทบจะไม่มีใครสามารถมาแบ่งผลประโยชน์ไปจากในมือเขา
ในสถานการณ์ที่ตลาดถึงจุดอิ่มตัว การเคลื่อนพลเข้ามาประเทศในเวลานี้ ที่จริงแล้วค่อนข้างอันตราย
เคยได้ยินความกังวลของเวินเที๋ยนเที๋ยน ผู้จัดการหยางกลับพูดเล่น: “ประธานเวินวางใจเถอะ ถ้าหากคุณจี้ได้ยินว่าธุรกิจตระกูลหล่อนจะกลับเข้ามาในประเทศ จะมาขัดขวางพวกเราอีกทำไมละ? เขาต้องมาเชิญเราไปร่วมมือด้วยแน่นอน”
เขารู้ได้อย่างชัดเจน ผู้ชายที่อยู่สูงสุดในบริษัทเอ็มไอกรุ๊ป อยู่ในกำมือของประธานของพวกเขาแล้ว