เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 768 ทุกอย่างเป็นเรื่องบังเอิญเหรอ?

บทที่ 768 ทุกอย่างเป็นเรื่องบังเอิญเหรอ?

บทที่ 768 ทุกอย่างเป็นเรื่องบังเอิญเหรอ?

เมื่อสักครู่หมินอันเกอรับเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้อย่างไม่มีทางเลือก เนื่องจากเท้ายังยืนไม่มั่นคง จึงล้มลงไปข้างหน้า

เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาผลักจนถอยหลังไปหลายก้าว ปะทะกับต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังอย่างอันตราย

หมินอันเกอตกใจ รีบยื่นมือไปบังไว้

ไม่ง่ายเลยที่ทั้งสองจะหยุดนิ่งได้ และเวินเที๋ยนเที๋ยน ถูกโอบไว้ตรงกลางระหว่างแขนทั้งสองข้างของเขากับต้นไม้

หมินอันเกอก้มหน้ามองไปที่เธอ ในใจยังรู้สึกหวาดกลัว

ผ่านไปสักพัก ถึงจะพบว่าท่ายืนของพวกเขาทั้งสองไม่ถูกต้อง ก็รีบเก็บแขนกลับมา

“หากไม่เป็นอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน” เขารีบพูดขึ้น:“ขอบคุณมากที่หลายวันมานี้คุณคอยช่วยเหลือดูแลหลวนจื่อ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า

“ไม่เป็นไรค่ะ จื่อหลวนเป็นเพื่อนของฉัน”

เมื่อพูดจบ หมินอันเกอก็จากไปอย่างรวดเร็ว

เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆทั้งสี่ด้าน กลับไม่พบคนที่ผลักเธอและหมินอันเกอเมื่อสักครู่นี้

แต่เธอนั้นจำได้แม่นว่ามีคนผลักเธอ

ขณะที่ครุ่นคิด เธอก็หันหลังแล้วเดินกลับไปที่คฤหาสน์ เธอไม่รู้เลยว่ามีคนแอบอยู่ที่ต้นไม้และถ่ายรูปของเธอ

เนื่องจากเลือกมุมกล้องมาเป็นอย่างดี ทำให้ในรูปภาพทั้งสองดูสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก

หล่อนเจียนีมองดูรูปภาพที่เธอถ่ายเมื่อสักครู่นี้อย่างตื่นเต้น

ในเวลานี้หลิวเหม่ยหลันก็เดินเข้ามา สีหน้าแสดงความหวาดกลัว และถามขึ้นอย่างเป็นกังวลว่า:“เป็นยังไงบ้าง?ถ่ายได้ไหม?”

“ถ่ายได้สิ”หล่อนเจียนีตอบ

หลิวเหม่ยหลันทอดถอนหายใจ

“ต่อไปอย่าให้แม่ต้องทำเรื่องแบบนี้อีกนะ เมื่อกี้กลัวแทบแย่ ถ้าถูกจับได้ขึ้นมาต้องซวยแน่ๆ”

“จะกลัวอะไร?”หล่อนเจียนีสีหน้าเกลียดชัง พูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า:“พวกเขายังจะทำร้ายแม่ได้เหรอ?”

เธอแกว่งกล้องถ่ายรูปไปมา พูดขึ้นอย่างโอ้อวดว่า:“ตอนนี้คนที่ต้องกลัวน่าจะต้องเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนต่างหาก”

ขณะที่พูด ก็ยื่นกล้องถ่ายรูปให้กับหลิวเหม่ยหลัน พลางพูดกำชับต่อว่า:“แม่รีบไปล้างรูปพวกนี้ออกมาเถอะ แล้วส่งให้หลวนจื่อ”

สีหน้าของหลิวเหม่ยหลันตื่นตระหนก

“ส่งให้หล่อนทำไม?”

หล่อนเจียนีไม่อธิบายแต่กลับพูดต่อว่า:“แนบจดหมายไปในนั้นฉบับหนึ่ง ……”

เธอมองไปที่สีหน้าท่าทางตื่นกลัวของหลิวเหม่ยหลัน จึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกลียดว่า:“ช่างเถอะ ฉันเขียนเองดีกว่า แม่ทำหน้าที่แค่นำรูปไปให้หล่อนก็พอแล้ว”

เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังแล้วค่อยๆจากไป

หลิวเหม่ยหลันทำตามแผนของเธออย่างเป็นกังวล แต่กลับไม่รู้ว่าหล่อนเจียนีกำลังคิดจะทำอะไร ในใจหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก

หลายวันมานี้หลวนจื่ออยู่แต่ในบ้าน หมินอันเกอบอกว่าร่างกายของเธอยังไม่หายเป็นปกติ ห้ามออกไปข้างนอก

นับตั้งแต่ที่คลายปมสงสัยที่อยู่ในใจตนจนหมดสิ้น หลวนจื่อกลับรู้สึกว่าหมินอันเกอไม่ได้เป็นห่วงและดูแลเธอเป็นอย่างดีเหมือนเคย

ในใจของเธอทั้งหอมหวานและลังเล อาจจะเป็นเพราะว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนพูดถูก หากไม่ให้โอกาสตนเอง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นไปไม่ได้?

หล่วนจื่อดื่มด่ำอยู่ในความหอมหวาน นับตั้งแต่ตัดสินใจยอมรับหมินอันเกอก็ยิ่งเหมือนจมดิ่งลงไป

เมื่อเสียงของโทรศัพท์ดังขึ้น หล่วนจื่อก็รู้ได้ทันทีว่าหมินอันเกอเป็นคนส่งข่าวมา

เมื่อเปิดอ่านก็พบว่า หมินอันเกอกำชับว่าห้ามเธอตากแดดเกินครึ่งชั่วโมง

ใบหน้าของหลวนจื่อเผยยิ้มหวานออกมา

ตอนนี้เธอกำลังเตรียมเก้าอี้เพื่อออกไปตากแดดที่ระเบียง

หมินอันเกอรับรู้ถึงกิจวัตรของเธอ และมักส่งข้อความมาในเวลาที่เหมาะสม เพื่อส่งความห่วงใย

หลวนจื่อยิ้มพลางตอบกลับว่า :“รู้แล้ว ไม่ต้องเป็นกังวล”

ขณะที่เธอกำลังหยิบเก้าอี้ออกไปข้างนอก ก็พบว่าบนพื้นมีซองจดหมายสีขาววางอยู่ จ่าหน้าซองด้วยตัวอักษรสามตัวว่า

——หลวนจื่อรับ

หลวนจื่อขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

คนที่ทราบว่าเธอพักอาศัยอยู่ที่นี่มีเพียงญาติและเพื่อนของตน ใครเป็นคนวางจดหมายไว้?

เธอเดินเข้าไปด้วยความประหลาดใจ มองไปรอบๆทั้งสี่ด้าน กลับไม่พบเงาของใครเลยแม้แต่คนเดียว

หลวนจื่อเปิดจดหมายออกด้วยความสงสัย ด้านในมีรูปอยู่สองสามรูป ร่วงหล่นลงบนพื้น

หลวนจื่อก้มหน้ามองดู ท่าทางแข็งทื่อไปชั่วขณะ เลือดบนใบหน้าจางลงไม่น้อย ไม่อยากจะเชื่อรูปถ่ายที่อยู่บนพื้นในเวลานี้

ในรูปภาพ เวินเที๋ยนเที๋ยนกับหมินอันเกออิงแอบซึ่งกันและกัน สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง

แผ่นหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยนพิงต้นไม้อยู่ สายตามองไปยังหมินอันเกออย่างสงสัย

แต่มืออีกข้างของหมินอันเกอค้ำกิ่งไม้อยู่ ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ตรงกลางระหว่างหน้าอกของตนกับกิ่งไม้ ก้มหน้ามองออกไป

ท่าทางของทั้งสองดูสนิทสนมกันมาก เพียงแค่ดูรูปภาพหลวนจื่อก็สามารถจินตนาการต่อไปได้ว่าวินาทีต่อมาหมินอันเกออาจจะก้มหน้าจูบเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้า

เนื่องจากความรักที่ทั้งสองส่งผ่านสายตา แม้ว่าจะอยู่ในรูปภาพก็ตาม เธอก็สามารถรับรู้ความรู้สึกได้อย่างชัดเจน ……

ผ่านไปครู่หนึ่ง นิ้วมือของหลวนจื่อถึงเริ่มสั่น ก้มเอวลงและเก็บรูปภาพที่ล่วงอยู่บนพื้นขึ้นมา หน้าซีดราวกับไร้โลหิต

เธอไม่ได้ออกไปข้างนอก ตามแผนเดิมเธอต้องออกไปตากแดดในสวน แต่เธอกลับค่อยๆเดินหันกลับไปในห้อง

วางเก้าอี้ลง หลวนจื่อสูดหายใจเข้าเต็มปอด พบว่ามือของตนเองกำลังสั่นอยู่

เธอสะบัดจดหมายก็พบว่ามีรูปหล่นลงมาอีกสองรูป และยังมีจดหมายฉบับหนึ่ง

หลวนจื่อมองดูอย่างสงสัย ค่อยๆเปิดจดหมายออก

เมื่อเห็นประโยคแรก ก็ตกใจจนต้องเบิกตากว้าง

จดหมายฉบับนี้กับรูปภาพเหล่านั้น ล้วนเป็นสิ่งที่หล่อนเจียนีบุคคลที่พวกเขาหาไม่เจอส่งมา!

เธอรีบอ่านอย่างรวดเร็วหนึ่งรอบ เมื่ออ่านจบ ยิ่งอ่านลงไปข้างล่างเท่าไหร่ สีหน้าก็ยิ่งขรึมขึ้น

ขณะที่เพิ่งอ่านจบ จู่ ๆ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น

หลวนจื่อเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจรับโทรศัพท์

คนที่โทรศัพท์มาเอ่ยปากขึ้นว่า:“เป็นยังไงบ้าง?คุณเห็นรูปภาพและจดหมายที่ฉันส่งมาแล้วหรือยัง?”

“หล่อนเจียนี?”หลวนจื่อขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนส่งของเหล่านี้มาให้เธอแล้วยังกล้าโทรหาเธออีก

“คุณส่งของพวกนี้มาให้ฉันทำไม?มีจุดประสงค์อะไร?”

หล่อนเจียนีหัวเราะพลางพูดขึ้นว่า:“ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไร ก็แค่ช่วยคุณก็เท่านั้น ฉันบอกคุณตั้งแต่แรกแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างหมินอันเกอกับเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ธรรมดา เพียงแต่คุณไร้เดียงสาเกินไป”

“เห็นรูปภาพแล้วหรือยัง ช่วงเวลาที่คุณไม่อยู่ หมินอันเกอมักจะไปที่คฤหาสน์ คนในคฤหาสน์ส่วนใหญ่ต่างก็รู้ ถ้าคุณไม่เชื่อก็ลองไปถามดูได้”

มือของหลวนจื่อกำหมัดแน่น พูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า:“เป็นไปไม่ได้ ฉันก็ถือว่าเป็นคนในวงการบันเทิงครึ่งหนึ่ง วิธีการตัดต่อ ฉันเข้าใจมากว่าคุณเสียอีก ก็แค่รูปๆเดียว คุณหลอกฉันไม่ได้หรอก”

หล่อนเจียนีไม่ลนลานเลยแม้แต่น้อย แต่กลับพูดสาบานขึ้นว่า:“คุณเชื่อพวกเขาสองคนนั้นมากขนาดนี้เลยเหรอ?รูปภาพเหล่านี้เป็นภาพตัดต่อหรือไม่?คุณไปถามหมินอันเกอก็รู้แล้ว คุณลองถามเขาสิว่าวันนี้ได้มาที่คฤหาสน์ตระกูลหล่อนไหม แล้วคุณก็จะรู้เอง”

เธอพูดอย่างเอาจริงเอาจังในเรื่องนั้น ทำให้ในใจของหลวนจื่อรู้สึกเครียด

สายตาของเธอมองไปที่รูปภาพเหล่านั้นโดยตลอด ไม่ขยับอยู่นาน มีเพียงกำหมัดแน่นทำให้เล็บจิกไปที่กลางฝ่ามือ

แต่หล่อนเจียนีก็ยังคงพูดต่อว่า:“ไม่เพียงแต่แค่นั้น คุณเคยคิดไหมว่าวันที่คุณตกบันได ทำไมถึงไม่มีใครมาช่วยคุณ?ทำไมฉวีผิงที่ปกติจะอยู่แต่ในห้องรับแขกไม่มีใครปรากฏตัวเลยสักคน?”

“คุณคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้เป็นเรื่องบังเอิญเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลวนจื่ออดไม่ได้ที่จะสูดความเย็นยะเยือกเข้าปอด

แต่ยังไม่ทันโต้เถียงและถามกลับ หล่อนเจียนีก็วางสายไปเสียแล้ว

ขณะที่ฟังเสียงไม่ว่างรับสายที่ออกมาจากโทรศัพท์ หลวนจื่อขมวดคิ้ว ภายในใจสับสนวุ่นวาย

และในเวลานี้เอง ด้านนอกประตูก็มีเสียงเครื่องยนต์

หมินอันเกอกลับมาแล้ว

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท