บทที่895 ผมมีแผนหนึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนรออยู่ในห้องพักผู้ป่วย
และไม่นานก็ได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดขึ้น
คิดว่าเป็นแม่ครัวกลับมาแล้ว จึงเอ่ยถามขึ้น : “คุณหมอว่าอย่างไรบ้างคะ?”
“อะไรว่าอย่างไรครับ? คุณกำลังจะถามอะไรหมอหรือเปล่า?”
คนที่ตอบเธอนั้นกลับเป็นเสียงของผู้ชาย
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจ เห็นคนที่มานั้นเป็นแพทย์ประจำไข้ของเธอ ถึงได้หัวเราะออกมาอย่างอายๆ “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่อยากจะถามคุณหมอว่าฉันสามารถออกไปเดินเล่นข้างนอกได้หรือเปล่าคะ?”
หมอพยักหน้าลงเล็กน้อย “ความจริงแล้ว ผมอยากจะแนะนำให้คุณเวินออกไปเดินเล่นข้างนอกบ่อยๆเสียด้วยซ้ำ แต่แน่นอนว่าจะต้องอยู่ได้เพียงแค่ที่สวนของโรงพยาบาลเท่านั้นนะครับ”
จากร่างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนนี้ ไม่เหมาะสมกับการออกกำลังกายกลางแจ้ง แต่การออกกำลังกายในปริมาณที่เหมาะสมนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลงอย่างวางใจ
จากนั้นคุณหมอก็ตรวจร่างกายของเธอตามปกติ และเวลานี้แม่ครัวก็กลับเข้ามาแล้ว
เธอเห็นคุณหมอก็อึ้งไป ราวกับไม่คิดว่าคุณหมอจะอยู่ที่นี่
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองแม่ครัวอย่างแปลกๆ ”ทำไมไปนานขนาดนี้ล่ะคะ?”
ว่ากันตามหลักการแล้ว แม่ครัวไปหาแพทย์เจ้าของไข้ของเธอที่ออฟฟิศแล้วหาเขาไม่เจอก็ควรจะกลับมาแล้วสิ
ทำไมถึงได้เสียเวลานานขนาดนี้กัน?
แม่ครัวรีบตอบ “ฉันอยู่รอที่ออฟฟิศอยู่พักนึงน่ะค่ะ ไม่ทันได้เจอคุณหมอ ไม่คิดว่าเขาจะมาตรวจคุณแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้สงสัยอะไรอีก รอจนหมอตรวจเสร็จแล้ว เธอจึงบอกกับแม่ครัว “คุณหมอยอมให้ออกไปเดินเล่นข้างนอกได้นะคะ ฉันว่าเดี๋ยวเราก็ออกไปกันได้แล้วล่ะค่ะ”
แม่ครัวพยักหน้าลงอย่างดีใจ
เธอถามคุณจี้แล้ว คุณจี้ก็ไม่ได้ปฏิเสธกับข้อเสนอที่เวินเที๋ยนเที๋ยนบอกว่าอยากจะออกไปเดินเล่นข้างนอก
แต่เขาก็ยังคงให้พยาบาลเอาวีลแชร์มาส่งให้ด้วยความรอบคอบ
ไม่นาน พยาบาลก็เคาะประตู แล้วเข็นเอาวีลแชร์เข้ามา
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองวีลแชร์ด้วยความประหลาดใจ “แม่บ้านเตรียมวีลแชร์เอาไว้ให้ด้วยหรือคะ?”
แน่นอนว่าแม่บ้านจะไม่บอกว่าจี้จิ่งเชินเป็นคนจัดมาให้
เธอทำได้เพียงต้องยอมรับออกมาอย่างไม่มั่นใจ “ใช่ค่ะ คุณนายเพิ่งจะดีขึ้น ถ้าหากตอนที่เดินๆอยู่นั้นรู้สึกเหนื่อย ฉันก็จะได้สามารถเข็นคุณกลับมาพักที่ห้องได้ไงคะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยออกมาอย่างขำๆ: “ฉันคิดว่า ฉันคงจะยังสามารถเดินได้อยู่นะคะ?”
แม่ครัวรีบส่ายหน้าด้วยความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก
“ระวังหน่อยจะดีกว่านะคะ ไม่อย่างนั้นคุณผู้ชายจะเป็นห่วงเอา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ถึงได้ยอม
พักผ่อนซักพักแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็มีแม่ครัวประคองเดินออกมาจากห้องพัก
ตอนที่ออกจากประตูมานั้น พบกับพยาบาลที่กำลังตรวจห้องอยู่พอดี
“พวกเรารอแป๊ปนึงนะคะ บอกกับพยาบาลไว้หน่อยดีกว่า เธอจะได้ไม่ต้องกังวล”
แม่ครัวหยุดตามไปด้วย
พยาบาลเดินมาถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนบอกกับพยาบาลว่าตัวเองจะออกไปเดินเล่นข้างนอก พยาบาลจึงพยักหน้ารับ แล้วเข้าไปตรวจห้องถัดไปต่อ
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนสังเกตเห็นว่า พยาบาลไม่ได้เข้าไปในห้องพักผู้ป่วยที่อยู่ห้องข้างๆเธอ แต่กลับข้ามห้องนี้ไป แล้วไปยังห้องที่อยู่ถัดไปอีกห้องหนึ่ง
และนี่ก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ
จากที่เธอรู้มาว่าห้องพักที่โรงพยาบาลนี้คนเต็มอยู่ตลอด โดยพื้นฐานแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีห้องว่างเหลืออยู่
แล้วทำไมพยาบาลถึงได้เลือกที่จะข้ามห้องนี้ไปกัน?
หรือบางทีคนไข้ในห้องนี้อาจจะกำลังไปเดินเล่นข้างนอกเหมือนกับเธอ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดไม่ตก และพอดีกับที่แม่ครัวตะโกนเรียกเธอ เธอจึงไม่ได้คิดต่อ
แม่ครัวเห็นเช่นนี้แล้วในใจจึงรู้สึกโล่งขึ้นมา
เธอเห็นคุณนายจ้องมองห้องที่คุณจี้พักอยู่ตลอด กลัวว่าคุณนายจะไปเคาะประตู จากนั้นก็จะเจอกับคุณจี้เข้า
ยังดีที่คุณนายเพียงแค่มองเท่านั้น ไม่ได้จะมีเจตนาที่จะเข้าไปเยี่ยมเยียน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินอย่างเชื่องช้า ถึงแม้ว่าภายในโรงพยาบาลจะไม่ได้มีอะไรให้น่าเชยชม แต่ก็ไม่ได้เป็นการขัดขวางการมองไปรอบๆของเธอเลย
เธอพักอยู่ที่นี่มานานขนาดนี้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเห็นออฟฟิศของแพทย์ผู้รับผิดชอบของเธอ
จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
ออฟฟิศนั้นอยู่ห่างจากห้องพักของเธอไม่ไกล ตรงกลางมีแค่ทางเดินเส้นเดียวเท่านั้น
แม่ครัวไปหาแพทย์เจ้าของไข้ของเธอ หลังจากที่ออกจากห้องพักผู้ป่วยไปแล้ว คุณหมอก็เข้ามา
คลาดกันเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น
แบบนี้ก็ไม่เจอกันเลยอย่างนั้นหรือ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองแม่ครัว แม่ครัวเห็นว่าเธอเดินช้าลง จึงรีบส่งสายตาเพื่อเป็นการถามเธอ
ความกังวลในดวงตานั้นไม่ได้เป็นการเสแสร้ง เธอเองก็จะไม่ยอมสงสัยความคิดของแม่ครัวด้วยเช่นกัน
บางทีคุณหมอกำลังตรวจคนไข้อยู่ แล้วเดินมาจากทางห้องพักผู้ป่วยอีกทางด้านนึงก็ได้
ทั้งสองคนจึงพลาดกัน
จะต้องเป็นแบบนี้อย่างแน่นอน
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นตัดสินไปแล้วว่าเป็นความบังเอิญ เธอกับแม่ครัวอยู่ด้วยกันมาตั้งนานขนาดนี้ แม่ครัวเป็นอย่างไร เธอเองก็ย่อมรู้ดี
แม่ครัวจะไม่ทำร้ายเธอ เวินเที๋ยนเที๋ยนเชื่อมั่นตรงจุดนี้
สวนของโรงพยาบาลนั้นอยู่ใต้ตึกแผนกผู้ป่วยใน ทั้งสี่ด้านมีสิ่งก่อสร้างล้อมรอบ
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งลงบนเก้าอี้ยาวตัวหนึ่ง แสงอาทิตย์อุ่นๆสาดส่องมาที่ใบหน้าของเธอ เป็นความร้อนที่ไม่ได้เจอเป็นเวลานานแล้ว
ในห้องพักผู้ป่วย อุณหภูมิที่เธอสามารถรับรู้และสัมผัสได้นั้น ล้วนแต่เป็นการตั้งค่าขึ้นมาจากคนทั้งสิ้น เป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการพักผ่อนที่สุดนั่นเอง
แม้แต่แสงอาทิตย์ ก็ยังคงต้องผ่านกระจกของหน้าต่างแต่ละชั้นถึงจะมาถึงเตียงของเธอ
เพียงแต่เดินออกมาจากห้องแล้วนั้น เธอถึงได้สัมผัสถึงแสงอาทิตย์อย่างจริงๆจังๆเสียที
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เธออดที่จะรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้
แม่ครัวยืนอยู่ทางด้านหลังเธออย่างเงียบๆ เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนมีความสุขแบบนี้แล้ว อารมณ์ของเธอนั้นก็ดีมากขึ้นเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน
เธอมองไปรอบๆ แล้วนึกถึงคำสั่งของจี้จิ่งเชินก่อนหน้านี้ แล้วรีบมองหา
หาไปรอบหนึ่งแล้ว ถึงได้เห็นตัวคนนั้น
พลางเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ : “คุณนายคะ ท่าทางของคนนั้น….แปลกจังเลยนะคะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเธอดึงดูดความสนใจนี้ แล้วหันไปมองตามที่เธอชี้ไป
เห็นเพียงแค่ชายสูงวัยประมาณหกสิบเจ็ดสิบปีนั่งอยู่ตรงนั้น มือขวาของเขากำลังยันพนักพิงเก้าอี้ตัวยาวเอาไว้ แล้วเอียงตัวลงก้มหน้าลงพลางยิ้มบางๆออกมา
ราวกับว่ากำลังมองใครด้วยความอ่อนโยนอย่างไรอย่างนั้น
และนี่ก็ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งรู้สึกสงสัย เธอพบว่าชายสูงวัยคนนี้ไม่เพียงแค่มองไปยังข้างๆเขาอย่างอ่อนโยนเพียงเท่านั้น มุมปากของเขายังขึ้นลง และบางครั้งก็ทำท่าเหมือนกำลังฟังอยู่ด้วย
มองดูแล้วเหมือนกับกำลังพูดอะไรอยู่ หลังจากนั้นก็ฟังคำตอบของอีกฝ่ายหนึ่ง
ความคิดนี้ราวกับจะดูน่าเหลือเชื่อมาก แต่เหมือนกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดมาแล้วจริงๆ
ไม่เพียงแค่เธอ แม้แต่แม่ครัวนั้นก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความสงสัยเช่นกัน : “คุณนายคะ คุณว่าตรงนี้ของเขามีปัญหาหรือเปล่า?”
ใบหน้าที่อยากรู้อยากเห็นของเธอนั้นชี้ไปที่ศีรษะของตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะขึ้นมา แล้วเอ่ยขึ้น : “ใช่หรือคะ? แผนกสมองและประสาทอยู่ข้างๆนี้เอง ที่นี่ล้วนแต่เป็นคนป่วยทั่วไปทั้งนั้น”
ว่าแล้ว ในใจก็ยังคงรู้สึกสงสัย จึงเดินไปทางนั้น
“คุณนายคะ คุณอย่าไปเลย” แม่ครัวเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ “ถ้าหากคุณสงสัย ให้ฉันไปเองดีกว่าค่ะ ฉันจะไปถามให้คุณเอง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบส่ายหน้า “ฉันไปเองดีกว่าค่ะ แม่บ้านมีท่าทางกลัวแบบนี้ อาจจะทำให้เขาตกใจก็ได้”
เธอเดินเข้าไปใกล้เพียงลำพัง ก็ยิ่งพบว่าท่าทางของชายสูงวัยคนนี้แปลกๆไปอยู่บ้าง
ท่าทางของชายสูงวัยคนนี้ เหมือนกับว่ามีคนอยู่ข้างๆเขาด้วยอย่างไรอย่างนั้น เขาจ้องมองอีกฝ่ายหนึ่ง ความรู้สึกที่อิ่มเอมแบบนั้นประจักษ์ต่อสายตาของเธอกับแม่ครัว
เวินเที๋ยนเที๋ยนอดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้ : “คุณปู่คะ ฉันนั่งตรงนี้ด้วยคนได้ไหมคะ?”
เธอชี้ไปข้างๆเขา แล้วก็เป็นตำแหน่งที่เขากำลังจ้องมองอย่างตั้งใจอยู่นั่นเอง
ชายชราส่ายหน้า “ไม่ได้ๆ ตรงนี้มีคนนั่งแล้ว”
ว่าแล้ว ก็ดูเหมือนกับว่าเขาได้ยินใครพูดเกลี้ยกล่อม ใบหน้าที่ไม่ยินยอมนั้นค่อยๆหายไป “ก็ได้ เธอนั่งตรงที่ฉันแล้วกัน”
เขาลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปทางอีกด้านหนึ่งของเก้าอี้ยาว ซึ่งก็คือตรงที่ข้างๆเขาเมื่อครู่นี้นั่นเอง เหมือนกับกำลังยืนปกป้องอะไรอยู่อย่างไรอย่างนั้น