บทที่981 นี่คือของขวัญการพบหน้า
ในห้องหนังสือ
ยู่ฉือจินนั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ สีหน้าตึงเครียด แววตาคมดุจดาบจ้องมองมาที่เธอ
ในตอนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว หานมู่จื่อถูกจ้องมองแบบนี้จนหวาดกลัวไปหมด ตอนนี้รอบๆตัวเธอไม่มีใคร แววตานี้ก็ยิ่งดุดันขึ้นเรื่อยๆ
“คิดว่าโม่เซินคงจะบอกหลานแล้วเรื่องที่เขาคุยกับตาที่โต๊ะกินข้าว”
หานมู่จื่อพยักหน้า“ใช่ค่ะ คุณตา”
“หึ เขารักหลานคนเดียวไม่เปลี่ยนจริงๆ!”
หานมู่จื่อ“……”
“ขนาดตาเขายังไม่ไว้ใจ กลัวว่าตาจะทำให้หลานลำบาก!”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะคุณตา”หานมู่จื่ออธิบายเสียงค่อย“โม่เซินไม่ใช่ไม่เชื่อคุณตา แต่เขาไม่เชื่อใจหนู เขาคงกลัวว่าหนูมีนิสัยใจร้อนจะไปปะทะกับคุณตาเข้า กลัวว่าความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก คุณตาเป็นคุณตาของเขา ช่วยชีวิตเขามาจากทะเล เป็นทั้งญาติเป็นทั้งผู้มีพระคุณ หนูกับโม่เซินเคารพคุณตามากค่ะ ไม่มีทางจะคิดแบบนั้นกับคุณตาแน่”
คำพูดนี้ตรงประเด็น ยู่ฉือจินเห็นสายตาเธอเที่ยงตรง ดูไม่มีทีท่าว่าจะโกหกอะไร ไฟ โทสะที่เดือดพล่านเมื่อครู่ก็มอดดับลง
“หึ รู้ก็ดี”
ที่จริงคำพูดนี้ทำให้ไฟโทสะของยู่ฉือจินมอดลงไปไม่น้อย ทัศนคติที่มีต่อหานมู่จื่อก็เปลี่ยนไป แม้ว่าเสี่ยวหมี่โต้วจะพยายามช่วยเธอพูดแต่เรื่องดีๆ จนผู้เฒ่าผู้แก่ฟังแล้วรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย เขาไม่ควรจะทำให้เธอลำบากยิ่งขึ้นไปอีก
แต่อย่างไรเสียก็เป็นเพียงแค่คำพูดของเด็ก เขาเชื่อ แต่ไม่เชื่อทั้งหมด
วันนี้พอได้ยินหานมู่จื่อพูดคำๆนี้ออกมา ท่าทีของเขานับได้ว่าดีมากเลยทีเดียว นับว่าเธอ ได้พูดทะลุกลางใจเขาแล้ว
“เพราะฉะนั้นคุณตาคะ เรื่องที่หนูจะกลับประเทศกับโม่เซิน……”
“พวกหลานตัดสินใจกันแล้ว ยังจะมาบอกตาอีกทำไม ยังไงก็คือจะทิ้งให้ตาแก่อย่างตาอยู่เมืองนอกคนเดียวสินะ”
หานมู่จื่อส่ายหน้า“ไม่ใช่นะคะคุณตา เดิมทีหนูคิดแบบนี้ ถ้าคุณตายินยอมก็……”
“ยินยอมอะไร”
“กลับประเทศ……กลับพวกเรา”
“เป็นไปไม่ได้”ยู่ฉือจินปฏิเสธรวดเร็วและว่องไว“ถ้าตากลับประเทศกับพวกหลาน ใครจะดูแลบริษัทล่ะ”
หานมู่จื่อ“……”
คิดไม่ถึงว่าจู่ๆเธอจะรู้สึกว่า ธุรกิจครอบครัวใหญ่จะเป็นภาระขนาดนี้
แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดของเธอ แต่ยู่ฉือจินคงไม่คิดแบบนั้นแน่นอน“งั้น……”
“แบบนี้”จู่ๆยู่ฉือจินบีบมืออย่างตื่นเต้น ท่าทีแบบนี้ดูไม่เข้ากับเขาเลย “ถ้าจะให้เสี่ยวหมี่โต้วอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนตา……”
หานมู่จื่อตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าความคิดของเขาจะเหมือนส้งอาน
ดูท่าเขาไม่ได้ติดใจอะไรที่เธอกับเย่โม่เซินจะกลับประเทศ ขอแค่ให้เสี่ยวหมี่โต้วอยู่ เธอกับเย่โม่เซินจะไปไหน คาดว่ายู่ฉือจินคงไม่ได้สนใจเท่าไหร่
“คุณตาคะ แม้ว่าหนูจะอยากทำตามความปรารถนาคุณตา แต่ว่า……ในฐานะคนเป็นแม่หนูไม่สามารถช่วงชิงอิสรภาพของลูกได้ เรื่องนี้หนูคงทำให้ไม่ได้ค่ะ”
พอได้ยินคำพูดของเธอ ยู่ฉือจินก็หรี่ตาลง สีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์
“แต่ว่า……”
ยู่ฉือจินเห็นว่าเธอพลิกคำพูด ก็เลยรู้ว่าในคำพูดมีช่องโหว่ เลยถาม“แต่ว่าอะไร รีบพูดมาสิ”
“ถ้าเสี่ยวหมี่โต้วยินดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนตาทวดเอง หนูก็ไม่ขัดขวางค่ะ”
“ตกลง หลานพูดเองนะ!”ยู่ฉือจินรีบฟันธง กลัวว่าเธอจะกลับคำ“งั้นตาจะไปบอกเสี่ยวหมี่โต้วเอง ถ้าเขายอมอยู่ เธอห้ามปฏิเสธ!”
หานมู่จื่อเห็นท่าทีของยู่ฉือจิน เหมือนเด็กที่กลัวลูกอมหลุดมือไป จึงอดขำออกมาไม่ได้
“ขำอะไร”ยู่ฉือจินเป่าหนวด“ตลกนักเหรอ”
หานมู่จื่อรีบเก็บยิ้ม พูดเสียงค่อย“ไม่มีอะไรค่ะ แค่คิดว่าคุณตาเป็นคนดี เสี่ยวหมี่โต้วต้องเต็มใจอยู่เป็นเพื่อนคุณตาทวดแน่ๆเลยค่ะ”
“หึ”ยู่ฉือจินมองเธออย่างไม่พอใจนัก แต่แววตาก็ไม่ได้รังเกียจรังงอนเท่ากับตอนแรก ตอนนี้เขาเองก็ถือตนว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของหานมู่จื่อแล้ว
จู่ๆเขาคิดอะไรออก จึงดึงลิ้นชักออกมา แล้วหยิบกล่องที่สวยงามกล่องหนึ่งออกมา
“มานี่”
หานมู่จื่อแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ทำตามเดินไปหน้าโต๊ะหนังสือ จากนั้นยู่ฉือจินจึงดัน กล่องมาตรงหน้า
“นี่คือ”
ยู่ฉือจินไม่ได้มองเธอ แค่นเสียงเบาๆ“เห็นว่าหลานอบรมเลี้ยงดูเสี่ยวหมี่โต้วมาอย่างดี ให้เป็นของขวัญการพบหน้า”
ของขวัญการพบหน้างั้นเหรอ
หานมู่จื่อกระพริบตา นึกถึงตอนที่ทั้งคู่เจอหน้ากันครั้งแรก จึงพูดขัดขึ้น“คุณตาคะ ถ้าหนูรับของขวัญการพบหน้าชิ้นนี้ไว้ คุณตาจะให้หนูออกห่างโม่เซินไหมคะ”
ยู่ฉือจิน“……”
แววตาเขานิ่ง ชะงักงัน จากนั้นเงยหน้ามองหานมู่จื่อแล้วอมยิ้ม
ดังนั้นยู่ฉือจินจึงนึกถึงภาพที่ทั้งคู่เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก
ตอนที่เขาให้เงินหยูโป แล้วให้หานมู่จื่อจากไป
คิดไม่ถึงว่าตอนนี้……
เธอใช้เรื่องนี้มาเดิมพันคุณตาคนนี้อย่างนั้นเหรอ
คิดมาถึงตรงนี้ ยู่ฉือจินก็กระดกหนวดขึ้น ยื่นมือออกไป“งั้นหลานก็อย่ารับเลย!”
“รับค่ะๆ!”หานมู่จื่อรีบเก็บกล่องก่อนที่ยู่ฉือจินจะแย่งไป จากนั้นก็กอดเอาไว้ราวของรักของหวง“นี่เป็นของขวัญพบหน้าที่คุณตาให้หนูเชียวนะคะ หลานสะใภ้ต้องรับอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณคุณตานะคะ!”
การแสดงออกก่อนหลังช่างต่างกันเหลือเกิน จู่ๆยู่ฉือจินก็รู้สึกว่ายัยหนูนี่แปลกคน แต่ก็ ทำอะไรเธอไม่ได้
“คุณตาคะ วันนี้ขอบคุณมากนะคะ หนูออกไปก่อน”
“ไปๆๆ!”ยู่ฉือจินปัดมืออย่างอ่อนใจ
หานมู่จื่อกอดกล่องแล้วจากไป พอไปแล้ว ยู่ฉือจินก็ทอดถอนหายใจออกมา
พูดตามตรงก่อนหน้าเขาเคยคิดจะให้เย่โม่เซินแต่งงานกับยัยหนูสกุลตวนมู่ แล้วให้เย่โม่เซินรับช่วงต่อธุรกิจบริษัทตระกูลยู่ฉือ
แต่ตอนนี้เขาเพิ่งเข้าใจ เรื่องบางเรื่องมันฝืนกันไม่ได้
ยัยหนูตวนมู่เสว่ดีมากก็จริงอยู่ แต่ท้ายสุดก็ไม่มีบุญสัมพันธ์กับหลานชายเขาอยู่ดี แม้ว่า เขาจะใจแข็ง แต่ก็ไม่แข็งพอที่จะพรากครอบครัวใหญ่นี้
โชคดีที่ ยังมีเหลนน้อยที่คอยอยู่ปลอบใจเขาได้
พอคิดถึงเหลนน้อย ยู่ฉือจินก็นึกถึงคำพูดเมื่อกี้ เขาจึงเดินออกไปข้างนอก จะต้องอาศัยจังหวะไม่กี่วันนี้ที่พวกเขายังไม่กลับประเทศ เกลี้ยกล่อมเสี่ยวหมี่โต้ว ให้อยู่กับเขา
ขอแค่เจ้าตัวน้อยเต็มใจ ใครจะไปก็ไป จะไปไหนก็เชิญ!
ตอนที่หานมู่จื่อออกมา เห็นเย่โม่เซินเฝ้าอยู่ที่ประตู จึงอดขัดจังหวะไม่ได้“ฉันให้คุณเฝ้า คุณก็เฝ้าจริงๆหรือคะ”
เห็นเธอออกมา เย่โม่เซินจึงรีบรุดหน้าอ้าแขนเข้ารับ“เป็นยังไง คุณตาทำให้เธอลำบากใจไหม”
“ตาบ้า!คุณเห็นคุณตาเป็นคนยังไง”