เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… – ตอนที่ 1114

ตอนที่ 1114

บทที่ 1114 อยากเดินเข้าไปอยู่ในใจเขา

ต่อมาเสี่ยวเหยียนก็ไม่รู้ว่าตัวเองออกมาจากบริษัทตระกูลหานได้อย่างไร กลับมาถึงบ้านได้อย่างไร แต่พอกลับถึงบ้าน เธอก็ยังคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ใช่ความจริง

หรือจะให้พูดก็คือทั้งหมดนี้คือความฝัน

มิฉะนั้นหานชิงจะถามเธอด้วยน้ำเสียงเอาอกเอาใจว่าเธอชอบหรือไม่ชอบได้อย่างไร?

คล้ายน้ำเสียงแฟนหนุ่มกำลังเอาใจแฟนสาวที่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนั้น

เธอผู้ไม่มีใจสู้ เมื่อได้ยินประโยคนั้น หัวใจก็พังย่อยยับ เธอไม่แม้แต่จะตอบคำถามและวิ่งหนีไป

หลังจากที่เธอหนีออกมาจากบริษัทตระกูลหานก็พบว่าตัวเองยังถือกล่องอยู่ในมือ

หัวใจกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เสี่ยวเหยียนเปิดกล่องอย่างระมัดระวัง ข้างในเป็นชุดแต่งงานตัวเล็กสีขาวบริสุทธิ์ เธอถือชุดนั้นเข้าไปในห้องและยืนหน้ากระจกอยู่นานสองนาน ดูอย่างไรก็รู้สึกว่าชุดนี้สวยเป็นพิเศษ

เนื่องจากเธอเคยทำงานออกแบบกับหานมู่จื่อมาเป็นเวลานาน เธอจึงรู้จักผลงานการออกแบบมากมาย ดังนั้นตอนที่หยิบออกมาก็รู้แล้วว่าชุดนี้ออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงของประเทศW ผลงานของเขาเป็นที่ชื่นชอบของเด็กสาว ส่วนสไตล์การออกแบบของเขาค่อนข้างเด่นชัด ไม่ได้ผลิตตามกระแสตลาด โดยเขาบอกว่าผลงานการออกแบบของตัวเองมีไว้สำหรับเด็กสาวเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นเพราะเขาชื่นชอบเด็กสาวเป็นพิเศษและก็ไม่ได้เป็นเพราะคิดไม่ดีกับผู้หญิงวัยอื่น

แต่เป็นเพราะคู่หมั้นของเขาที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในอายุวัย 18 ปี ซึ่งได้ยินมาว่าเด็กสาวท่านนั้น เธอต่อสู้กับโรคมะเร็งมาสามปีและจากไปในที่สุด

ตอนที่จากไปเธอก็สวมใส่ผลงานการออกแบบของนักออกแบบท่านนี้ ด้วยความรู้สึกเหมือนโลกตัวเองพังทลาย ต่อมาเขาจึงคิดว่าจะไม่ออกแบบเสื้อผ้าอีกต่อไป

ทว่าคู่หมั้นคนสวยของเขากลับบอกว่า ที่รัก ผลงานการออกแบบของคุณยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ฉันได้จากไปในชุดที่งดงามของนักออกแบบที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ฉันไม่เสียใจแม้แต่น้อย คุณอย่าได้ละทิ้งความคิดสร้างสรรค์เพียงเพราะฉันเลย คุณมีจิตวิญญาณของนักออกแบบ ไม่ว่าอย่างไรต่อจากนี้ก็อย่าได้ทิ้งมัน

ต่อมานักออกแบบบอกว่าคู่หมั้นของเขาชอบผลงานของเขามาก แม้ทั้งสองจะหมั้นหมายกันตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็เป็นคู่รักวัยเด็กที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นมาก

ได้ยินมาว่าเดิมทีเขาวางแผนจะให้คู่หมั้นสวมชุดเจ้าสาวที่ตัวเองออกแบบเองกับมือเมื่อเป็นผู้ใหญ่ จากนั้นก็แต่งงานกับเขาในช่วงวัยที่สวยที่สุด

เมื่อเอ่ยถึงคู่หมั้นของเขา นักออกแบบท่านนี้ก็สะอึกสะอื้นอยู่หลายครั้ง

เขาบอกว่าคู่หมั้นของเขาเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีและสวยมาก แม้เธอจะทนทุกข์จากการป่วยด้วยโรคมะเร็ง แต่เธอก็มักจะยิ้มได้เสมอ เธอรู้ว่าเขารักในการออกแบบมาก ดังนั้นแม้ว่าเธอจะตายไป เธอก็ยังยืนยันที่จะไม่ให้เขาละทิ้งการออกแบบ เขาเอาแต่ขอโทษคู่หมั้นตัวเองและไม่อยากให้เธอสิ้นหวัง

ตอนที่รู้เรื่องราวเหล่านี้เป็นครั้งแรก ในใจเสี่ยวเหยียนยังหดหู่เป็นพิเศษ เนื่องจากเรื่องราวของนักออกแบบท่านนั้นเป็นเรื่องเมื่อ 40 ปีก่อน

ตอนนี้นักออกแบบท่านนั้นแก่ตัวลงแล้วและยังไม่ได้แต่งงาน

จนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยหยุดที่จะรังสรรค์ผลงาน เขายังคงออกแบบชุดแต่งงานสำหรับเด็กสาวอยู่ตลอด เขามุ่งมั่นรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคู่หมั้นของเขาและทำมันต่อไปจนเขาจะจากไป

เมื่อมองย้อนกลับไป เสี่ยวเหยียนก็ทอดถอนใจออกมาอีกครั้ง ไม่เอาไปเปรียบเทียบก็คงดี แต่พอเอาไปเปรียบเทียบ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าตัวเองยังถือว่าโชคดี

อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้แยกจากคนที่เธอชอบ

เพราะนั่นคือเรื่องที่เจ็บปวดที่สุด

ตอนนี้หานชิงมอบชุดนี้ให้เธอ หรือมันจะเป็นอย่างที่หลินสวี่เจิ้งกับซูจิ่วพูดเอาไว้หรือเปล่านะ บางที…เขาอาจจะเห็นเธอเป็นคนพิเศษก็เป็นได้

ความพยายามของเธอไม่ได้สูญเปล่า

หรือเธอจะลองพยายามอีกสักครั้ง

ครั้งนี้เธออยากเดินเข้าไปอยู่ในใจเขา

*

ตอนที่ทานอาหารเย็น หลัวหุ้ยเหม่ยก็สังเกตเห็นว่าลูกสาวตัวเองมักจะแอบก้มหน้ายิ้ม บางทีก็เหม่อลอย เธอเอาแต่ถือถ้วยข้าวอยู่ตลอดและเขี่ยอาหารที่หลัวหุ้ยเหม่ยอุตส่าห์ใช้เวลานานในการตั้งใจทำมัน

หลัวหุ้ยเหม่ยหรี่ตาลงและใช้ตะเกียบเคาะถ้วยเธอ

เสี่ยวเหยียนกลับมาตั้งสติและมองเธอด้วยแววตาไร้เดียงสา

“แม่ มีอะไรคะ?”

“แกมีความเห็นเกี่ยวกับอาหารเย็นที่แม่ทำใช่หรือไม่?”

“ห๊ะ?” เสี่ยวเหยียนทำหน้าวุ่นพลางส่ายหน้า “ก็ไม่มีอะไรนี่คะ ทำไมเหรอ?”

“ถ้าไม่มีอะไรทำไมไม่กินให้หมด?” หลัวหุ้ยเหม่ยชี้ไปที่อาหารที่อยู่ตรงหน้าพลางมองไปทางพ่อจาง “ตาจาง คุณก็อย่าเอาแต่กินได้ไหม ดูลูกสาวคุณบ้าง เธอผอมซะขนาดนี้แล้วยังจะเขี่ยอาหารไม่ยอมกินข้าว คุณเป็นห่วงเธอหน่อยได้ไหม?”

พ่อจางโดนถล่มอย่างย่อยยับ “ฉันไม่เป็นห่วงลูกสาวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? แต่สมัยนี้เด็กผู้หญิงเขานิยมลดน้ำหนักกันไม่ใช่เหรอ? ฉันคิดว่าเธอรู้สึกว่าตัวเองอ้วนไปก็เลยอยากจะลดเสียหน่อย”

อันที่จริงพ่อจางไม่อยากจะยุ่งเนื่องจากลูกโตแล้ว เธอล้วนมีความคิดเป็นของตัวเอง เมื่อก่อนเขายุ่งกับลูกสาวมากเกินไปจึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกชะงักไปกว่าห้าปี

ตอนนี้เขาคิดว่าลูกสาวของเขาสามารถมีความสุขได้เท่าที่จะทำได้

อย่างไรก็ตามพ่อจางก็พูดเสริมอีกประโยคเพื่อให้ภรรยาได้เห็น “เหยียนเหยียน ถึงจะลดน้ำหนักรักษารูปร่างก็ต้องดูแลสุขภาพด้วยนะลูก”

พอพูดเสร็จก็คีบเนื้อให้ลูกสาวตัวเอง

ไม่ต้องให้เตือน เสี่ยวเหยียนก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่กินเนื้อ เมื่อเห็นพ่อจางคีบชิ้นเนื้อให้ตัวเอง เธอก็รีบเคี้ยวอาหารที่อยู่ในปากและรีบพูดกับหลัวหุ้ยเหม่ย

“แม่ หนูไม่ได้มีความเห็นอะไรกับอาหารที่แม่ทำ มันอร่อยมากแล้ว เมื่อกี้นี้หนูแค่กำลังคิดเรื่องอื่นอยู่น่ะค่ะ ขอโทษนะคะ”

“จริงเหรอ? งั้นไหนบอกมาซิว่าแกกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่? หรือแอบไปมีความรักแล้วปิดบังพ่อกับแม่?”

เสี่ยวเหยียนแทบสำลัก “แม่! เปล่านะ!”

“ไม่มี? งั้นแกยิ้มบ้าบออะไรได้ทั้งเย็น? เห็นว่าแม่ไม่เคยผ่านโลกมาหรือไง อ้าปากก็รู้แล้วว่าโกหก”

เสี่ยวเหยียน “…”

“หนูไม่ได้มีความรักจริงๆนะคะ!”

เรื่องยังไม่ทันเกิดแต่ทำเหมือนเกิดเรื่องซะแล้ว เธอเองก็อยากแบ่งปันความสุขในเรื่องความรักให้กับคนในครอบครัวอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญก็คือ…ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ

“แม่คะ แม่รอไปก่อน รอหนูแน่ใจแล้ว หนูจะเล่าให้ทุกคนฟังแน่นอน”

สุดท้ายแล้วเสี่ยวเหยียนก็ทำได้แต่ยอมอ่อนข้อ

พอหลัวหุ้ยเหม่ยได้ยิน ดวงตาก็เป็นประกาย

“เอ๊ะ แกพูดแบบนี้ก็แสดงว่ามีจริงๆด้วย? ใครน่ะ? แม่รู้จักไหม? เขาเป็นยังไงบ้าง? หน้าตาดีไหม? พื้นเพครอบครัวเป็นยังไง? ขอบอกไว้ก่อนนะว่าแกอย่าหาผู้ชายประเภทที่หน้าตาดีแต่นิสัยเลวล่ะ แล้วพวกติดพนันพวกนั้นก็ไม่ได้…”

เสี่ยวเหยียน “…”

เธอคิดว่าตัวเองไม่น่าปล่อยข่าวนี้ออกไปเลย

ด้วยนิสัยของหลัวหุ้ยเหม่ย นานวันคาดว่าจะสร้างปัญหาให้เธอได้

“แม่คะ ไม่ต้องอะไรถามเยอะแยะ หนูบอกแล้วไงว่าตอนนี้ยังไม่มีความรัก ที่หนูบอกพ่อกับแม่ก็เพราะหนูยังไม่อยากมีความรัก แต่ถ้ามีโอกาสนั้นเข้ามา หนูก็ไม่ได้ปฏิเสธ ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้หนูมีคู่เสียหน่อย”

“ทำไมล่ะ? งั้นแกก็หมายความว่ายังไม่มีคู่สินะ?”

เสี่ยวเหยียนพยักหน้าเพื่อหยุดหลัวหุ้ยเหม่ยไม่ให้เซ้าซี้ เธอวางถ้วยข้าวไว้ข้างๆ “หนูอิ่มแล้ว พ่อกับแม่ค่อยๆกินนะคะ”

หลังจากเธอเดินไป หลัวหุ้ยเหม่ยก็มองไปยังที่นั่งของเธอพร้อมกับยิ้มเย้ยหยัน

“ยัยเด็กคนนี้กล้าหลอกแม่เหรอ คิดว่าแม่ไม่เคยมีความรักหรือไง? ยังไม่มีคู่ ยิ้มอย่างกับแตกสาวแบบนี้เนี่ยนะยังไม่มีคู่”

พ่อจาง “นั่นลูกสาวคุณนะ พูดให้มันดีดีหน่อย…

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…

Status: Ongoing

ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอํานาจ ใหญ่ “ฉันเปโม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมที่คิดว่า งานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไป ด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเปโม่เซิน ด้วยฝ่ามือเล็กๆ “พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร ?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท