ยอดสตรีฉางอิ๋ง – ตอนที่ 154-1 สะใภ้รู้กันอยู่ในใจ

ตอนที่ 154-1 สะใภ้รู้กันอยู่ในใจ

ตอนที่ 154-1 สะใภ้รู้กันอยู่ในใจ
Xiaobei
สองวันต่อมา เผยเหม่ยเหนียงมาแสดงความยินดี มองออกว่าท่าทางของนางดูอิดโรยกว่าครั้งเพิ่งแต่งเข้ามามากนัก ทว่าดวงตาคู่นั้นก็ยังคงเย้ายวนยามเมียงมองและยังคงสว่างสุกใส …เห็นชัดว่าหลายวันมานี้นางมีความเครียดไม่น้อยเลย ทว่าเพราะนางมีแผนการอยู่ในใจ จึงไม่ได้มีท่าทีลนลานแต่อย่างใด

คำของซ่งไจ้สุ่ยบอกกับเว่ยฉางอิ๋งเพียงคนเดียว เมื่อพวกนางหวงและนางเฮ่อเห็นคนผู้นี้มาหาเวลานี้จึงอดจะเป็นกังวลขึ้นมาไมได้ แต่ก็ไม่อาจบอกว่าไม่อยากให้นางมาเยี่ยมแสดงความยินดี หรือไม่ให้นางพบกับเว่ยฉางอิ๋ง พวกท่านอาหารือกัน แล้วสั่งให้สาวใช้ทุกคนเขาไปคอยอยูปรนนิบัติรับใช้ เผื่อมีเหตุการณ์ใดเปลี่ยนแปลงขึ้นมา

ยามอยู่ต่อหน้าทุกคน เผยเหม่ยเหนียงจึงไม่สะดวกจะเอ่ยอะไร เพียงแต่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงไปตามธรรมเนียม และมอบผ้าปักมือสองชิ้นแก่นาง เว่ยฉางอิ๋งรับมาอย่างเกรงใจและขอบใจนาง เมื่อเห็นว่าอีกนานจากนั้น เผยเหม่ยเหนียงก็ไม่มีท่าทีจะกลับไป จึงเข้าใจความต้องการของนาง และเอ่ยอย่างเป็นห่วงว่า “ไม่เห็นน้องสะใภ้สี่หลายวัน ดูน้องสะใภ้สี่ซูบไปมาก”

นางหวงและนางเฮ่อได้ยินคำแอบร้องอยู่ในใจว่าแย่แล้ว จึงรีบสั่งให้พวกของฉินเกอส่งสายตาแสดงว่าพวกนางจะคอยปกป้องเว่ยฉางอิ๋งเป็นอย่างดี ฮูหยินน้อยสี่ผู้นี้ ฮูหยินซูพูดกับนางดีๆ ก็ยังถูกนางทำให้โกรธจนร้องไห้ยกใหญ่ แม้ภายหลังจะสืบสวนได้ความว่าถูกตวนมู่อู๋เซ่อยุยงมา ทว่าการที่นางไม่เชื่อฟังและไร้มารยาทกับผู้ใหญ่ในบ้านสามีเพราะคำพูดของคนนอกเช่นนี้ ก็เห็นชัดแล้วว่านางเป็นคนพาลที่ไร้เหตุผล เวลานี้แม้ เว่ยฉางอิ๋งจะแสดงความปรารถนาดีเป็นห่วงนาง ไม่แน่ว่าเผยเหม่ยเหนียงอาจนึกว่าคำพูดนี้เป็นการจงใจทับถมนาง?

หากเผยเหม่ยเหนียงมาก่อเรื่องราวใหญ่โตที่เรือนจินถง เวลานี้เว่ยฉางอิ๋งก็กำลังอ่อนแอเสียยิ่งนัก ไม่อาจทนรับเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ ได้

ดีที่เผยเหม่ยเหนียงดูเรียบร้อยขึ้นมาก นั่นคงเป็นเพราะหลังจากถูกพ่อสามีตำหนิต่อหน้าผู้คนในบ้าน ทั้งยังถูกยึดอำนาจการดูแลบ้านไป เมื่อตอนนี้ได้ยินคำกลับไม่ได้ทำเรื่องไม่ควรในทันใด เพียงแต่ถอนหายใจเบาๆ หนหนึ่ง กล่าวว่า “ต้องโทษที่ข้ายังเด็กเบาปัญญา ไปเชื่อคำผู้อื่นจนสร้างความผิดอันใหญ่หลวง เวลานี้ยังสามารถเป็นสะใภ้ของตระกูลเสิ่น ก็นับว่าท่านพี่เห็นแก่ความผูกพันของสามีภรรยา และพวกผู้ใหญ่ล้วนใจกว้างไม่ถือสาข้าแล้ว ทุกคราที่หวนคิดถึงเรื่องเมื่อก่อน ข้าก็รู้สึกสำนึกเสียใจยิ่งนัก เมื่อใจเป็นทุกข์ก็ยากจะไม่ให้สีหน้าดูไม่ใคร่ดี หาใช่ว่ามีชีวิตอยู่อย่างไม่ดีไม่ ความจริงแล้วพี่หญิงใหญ่ดีต่อข้ามาก แต่ยิ่งพี่หญิงใหญ่ดีต่อข้ามากเท่าใด ใจข้าก็ยิ่งรู้สึกผิดรู้สึกเป็นทุกข์เจ้าค่ะ”

นางว่ามาดังนี้ หากเวลานี้ไม่ใช่กลางวันแสกๆ พวกนางหวงจะต้องสงสัยแน่ๆว่าคนผู้นี้เป็นเผยเหม่ยเหนียงจริงๆ ใช่หรือไม่? คำพูดนี้หากเป็นคนอื่นมาพูดก็นับว่าสมเหตุสมผลอยู่ แต่หากเป็นเผยเหม่ยเหนียงน่ะหรือ สะใภ้เจ้าเล่ห์วางอำนาจผู้นี้เป็นที่ร่ำลือไปทั่วทุกตระกูลในเมืองหลวงแล้ว นางจะเป็นคนที่พูดจาดีๆ เช่นนี้ได้ที่ใด?

เว่ยฉางอิ๋งกลับไม่ได้แปลกใจ เพราะอย่างไรนางก็เคยได้ยินมาจากซ่งไจ้สุ่ยแล้วว่าก่อนเผยเหม่ยเหนียงออกเรือน นางก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าเมื่อไม่อาจเป็นนายผู้หญิงของตระกูลเสิ่นแห่งซีเหลียง ก็ต้องช่วงชิงตำแหน่งที่เป็นรองเพียงแต่นายผู้หญิงเอาไว้ให้จงได้ นั่นเพราะแม้ว่านางจะเกิดเพียงในตระกูลใหญ่ แต่ต้องไม่มีวันยอมให้ตนเองถูกพี่สะใภ้สามคนที่อยู่เหนือตนขึ้นไปรังแก ทั้งไม่แน่ว่าวันหน้าก็อาจถูกน้องสะใภ้จากตระกูลสูงศักดิ์ดูแคลนเอาอีกด้วย …ก็ผู้ใดใช้ให้เผยเหม่ยเหนียงมองเห็นตัวอย่างที่มีให้เห็นในตระกูลซ่งก่อนหน้านี้เล่า? ตวนมู่อู๋เซ่อถือดีว่าบ้านแม่ตนมีฐานะสูงกว่าบ้านแม่ของพี่สะใภ้ฮั่ว นับแต่แต่งเข้าบ้านมาก็คอยหาเรื่องพี่สะใภ้ใหญ่ผู้นี้แทบทุกวี่วัน

เมื่อเห็นสะใภ้บ้านซ่งเป็นตัวอย่าง เผยเหม่ยเหนียงจึงอดรู้สึกไม่ได้ว่าตนเองอยู่ในอันตราย ดีชั่วอย่างไร นางฮั่วก็ยังอยู่ในตำแหน่งสะใภ้ใหญ่ในบ้านฝั่งสามี แต่เพราะบ้านแม่ของตนไม่ทัดเทียมบ้านแม่ของน้องสะใภ้ จึงได้ถูกตวนมู่อู๋เซ่อดูแคลนเอาเช่นนั้น นางแต่งมาอยู่ในบ้านเสิ่น แม้จะเป็นถึงสะใภ้ใหญ่ในสายของจวนเซียงหนิงปั๋ว แต่ฮูหยินท่านเซียงหนิงปั๋วก็เสียไปนานแล้ว ท่านป้าใหญ่จึงเป็นคนเลี้ยงดูสามีของนางมาจนเติบใหญ่ …หากบรรดาสะใภ้จากตระกูลสูงศักดิ์ล้วนเป็นเช่นตวนมู่อู๋เซ่อเสียทุกคน ตวนมู่อู๋เซ่อเพียงหนึ่งคนก็ยังจัดการนางฮั่วเสียจนย่ำแย่เกินบรรยาย ยังไม่ได้เอ่ยถึงบรรดาน้องสะใภ้ที่จะมีมาในวันหน้าอีก ว่ากันแต่เพียงพี่สะใภ้ทั้งสามคนที่นางต้องเจอหลังแต่งเข้าบ้านมา…ซึ่งเทียบได้กับตวนมู่อู๋เซ่อสามคน แล้วนางยังจะมีชีวิตดีๆ อีกหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้นเสิ่นเซวียนมีบุตรชายจากภรรยาเอกสามคนจากอนุอีกสามคนรวมแล้วหกคน ฐานะของเสิ่นจั้งเฟิงบุตรชายคนที่สามก็ถูกกำหนดเอาไว้ชัดเจนตั้งนานแล้ว ความหวังที่เสิ่นจั้งฮุยซึ่งเผยเหม่ยเหนียงจะแต่งงานด้วย จะไปแย่งตำแหน่งมาจากลูกผู้พี่บ้านลุงจึงมีไม่มาก …ในเมื่อไม่อาจคาดหวังกับตำแหน่งว่าที่นายผู้หญิงแห่งตระกูลเสิ่นแล้ว เผยเหม่ยเหนียงจึงเบนเข็มไปอีกทางเสียเลย ด้วยการคิดหาวิธีมาเป็นพวกกับเว่ยฉางอิ๋ง ร่วมกันวางแผนจัดการพี่สะใภ้สองคนที่แต่งเข้ามาก่อน

ยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่าแผนการนี้ต้องพยายามทุ่มเทมากมายเพียงใด…แค่ไม่ระวังเพียงน้อย เผยเหม่ยเหนียงก็อาจจะต้องลงเอยด้วยการถูกส่งตัวกลับบ้าน ตระกูลเผยอุตส่าห์ได้รับการหมั้นหมายจากตระกูลสูงศักดิ์หนหนึ่ง แล้วจะทนยอมให้นางถูกส่งตัวกลับบ้านได้อย่างไร? หากเป็นจนถึงขั้นนั้น บ้านเผยของนางก็จะต้องให้นางฆ่าตัวตายในบ้านสามี แล้วบอกกับภายนอกว่าจู่ๆ นางก็สิ้นใจไปเอง

โดยสรุปก็คือในเมื่อ เผยเหม่ยเหนียงทำเรื่องเหล่านี้ได้ ก็เห็นได้ว่านางหาใช่คนเลอะเลือนไร้สมองเหมือนที่ทุกคนนึกคิดกันเช่นนั้นไม่ หากแต่ตื่นรู้และกล้าหาญยิ่งนัก

เพื่อให้ได้รับความเชื่อใจจากเว่ยฉางอิ๋ง เผยเหม่ยเหนียงจึงลงมือไปก่อนหน้านี้ ด้วยการเสียสละตนเองเพื่อช่วยเหลือนางฮั่วฮูหยินใหญ่ตระกูลซ่ง และช่วยซ่งไจ้สุ่ยกำจัดตวนมู่อู๋เซ่อไปเสีย ในเวลาเดียวกันก็ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ลูกพี่ลูกน้องของตวนมู่อู๋เซ่อและตวนมู่เยี่ยนอวี่ ช่วยเว่ยฉางอิ๋งช่วงชิงอำนาจจากตวนมู่เยี่ยนอวี่มาได้อย่างไร้ซุ่มเสียงและไม่ดึงดูดความสนใจของผู้ใด

ในระหว่างแผนการนี้มีนางฮั่ว มีซ่งไจ้สุ่ย มีเผยเหม่ยเหนียง เว่ยฉางอิ๋งไม่ได้ทำสิ่งใดทั้งนั้นก็ได้ประโยชน์แล้ว …ก็ในเมื่อจะมาเป็นพันธมิตรกัน นางย่อมไม่อาจไม่ทำสิ่งใดเลย ยามนี้เป็นช่วงเวลาที่เว่ยฉางอิ๋งจะช่วยเผยเหม่ยเหนียงเดินออกมาจากความยากลำบากตรงหน้าแล้ว แม้พวกนางหวงจะเป็นห่วงนักหนา ทว่าสะใภ้ทั้งสองกลับรู้กันอยู่ในใจ …นั่นเพราะซ่งไจ้สุ่ยมาบอกเล่าความเป็นมาให้เว่ยฉางอิ๋งได้รู้แล้ว เวลานี้ก็เพียงแค่การแสดงสลับฉากเท่านั้นเอง

ว่าแล้ว เว่ยฉางอิ๋งจึงเอ่ยเตือนเผยเหม่ยเหนียงไปตามน้ำว่า “พี่หญิงใหญ่เป็นกุลสตรีดีงามเสมอมา เรื่องนี้เป็นที่รู้กันทั่วทั้งเมืองหลวง หาไม่แล้ว ครั้งนั้นตระกูลซูก็คงจะไม่ตั้งใจมาขอพี่หญิงใหญ่ไปเป็นภรรยาเอกของพี่เขยใหญ่ที่เสียไปแล้วหรอก น้องสะใภ้สี่ แม้ก่อนหน้านี้เจ้าจะเลอะเลือน ทว่านั่นก็ล้วนเป็นเพราะตวนมู่อู๋เซ่อไม่ดี อยู่ดีๆ ก็มายุยงบ้านเราให้แตกคอกัน แต่ในเมื่อตอนนี้รู้ว่าผ่านไปแล้ว ข้าคิดว่าพวกผู้ใหญ่ พี่หญิงใหญ่ล้วนเป็นคนใจคอกว้างขวาง คงไม่จดจำเรื่องนี้อีกต่อไปหรอก คนบ้านเดียวกัน จะมีความเคียดแค้นใดมากมายเล่า?”

เผยเหม่ยเหนียงจึงทำสีหน้าตระหนักรู้และสำนึกผิดออกมา นางเอ่ยพลางปาดน้ำตา “ข้ารู้แล้ว แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ข้าก็ยิ่งรู้สึกผิด ไม่ปิดบังพี่สะใภ้สาม เวลานี้ข้าไม่กล้าพบหน้าพี่หญิงใหญ่แล้วเจ้าคะ”

“เป็นเช่นนี้กลับไม่ดี” เว่ยฉางอิ๋งเอ่ยเสียงนุ่ม “เจ้าไม่ไปพบพี่หญิงใหญ่ ไม่แน่ว่าพี่หญิงใหญ่จะยิ่งเข้าใจผิดว่าเจ้ายังคงจำเรื่องเมื่อก่อนนี้อยู่! ด้วยนิสัยของพี่หญิงใหญ่ จะต้องอดเป็นห่วงเจ้าด้วยเหตุนี้ไม่ได้แน่!”

“เช่นนั้นแล้ว ตามความเห็นของพี่สะใภ้สาม เวลานี้ข้าควรทำเช่นใดดีเจ้าคะ?” เผยเหม่ยเหนียงขอคำชี้แนะอย่างถ่อมตน

เว่ยฉางอิ๋งจึงแนะนำให้นางเอาอกเอาใจเสิ่นจั้งจูให้มากสักหน่อย และตั้งอกตั้งใจปรนนิบัติดูแลคนในบ้านสามีให้มาก …ล้วนเป็นคำสอนสั่งทั่วๆ ไป ซึ่งคุณหนูผู้ดีเช่นพวกนางต่างต้องเคยได้ยินมาตั้งแต่ปักปิ่นจนแทบจะท่องออกมาได้แล้ว

ทว่า เผยเหม่ยเหนียงกลับตั้งใจฟังอย่างละเอียด ด้วยท่าที่ประหนึ่งว่าเพิ่งเคยได้ยินหลักการล้ำเลิศเป็นครั้งแรกในชีวิตเช่นนั้น

——————————-

ยอดสตรีฉางอิ๋ง

ยอดสตรีฉางอิ๋ง

Status: Ongoing
“ตอนนั้นท่านปู่จัดการหมั้นข้ากับสามีฝ่ายบู๊เพราะชะตาต้องกันเพียงคราเดียว!
ข้าไม่ร้องไห้โฮออกมาก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ยังจะให้มีความสุขทั้งสองฝ่าย?
ตั้งแต่เล็กจนถึงตอนนี้ วันเวลาแสนหวานชื่นในอนาคตที่ข้าคิดว่าจะมีได้
ก็คือตีจนกว่าเขาจะต้องเชื่อฟังข้าไปทั้งชีวิต และไม่ทำให้ข้าต้องโมโห!
มีความสุขทั้งสองฝ่าย…ข้าจะไปชอบสามีเยี่ยมยุทธ์อย่างนั้นได้อย่างไร!
ข้ายังไม่ชอบเขา แล้วการที่เขาจะชอบข้าหรือไม่ ยังจะสำคัญหรือ?
ที่สำคัญก็คือ เขาต้องเชื่อฟังข้า!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท