ก่อนที่พลังของผลเทพสังเวยสวรรค์ที่ช่วยให้เข้าใจความลึกซึ้งจะปรากฏขึ้น ต้วนหลิงเทียนก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยมัน และหวังว่ามันจะช่วยให้เขาเข้าใจ 1 ใน 4 กฏสูงสุด
หลังได้ฟังหลิงเจวี๋ยอวิ๋นอธิบาย เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ว่าผลเทพสังเวยสวรรค์คงไม่อาจช่วยให้เขาทำความเข้าใจกฏแห่งเวลาได้ เพราะเขาเคยริเริ่มทำควมเข้าใจมันมาแล้วในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำของเขตคฤหาสน์เฉวียนโยว
อย่างไรก็ตาม อีก 3 ใน 4 กฏสูงสุดอย่าง กฏแห่งมิติ กฏแห่งชีวิต และกฏแห่งความตายนั้น ยังมีโอกาสที่มันจะช่วยให้เขาเข้าใจได้อยู่
แต่ถึงกระนั้น ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากนัก
ท้ายที่สุดแล้ว กฎสูงสุดมันก็เข้าใจได้ยากกว่ากฎทั่วไป ถึงผลเทพสังเวยสวรรค์จะมีพลังงอำนาจท้าทายสวรรค์ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะท้าทายสวรรค์มากพอถึงขั้นช่วยให้เข้าใจกฏสูงสุดได้
วันนี้พอดีเขานึกอยากจะเปิดสร้างโลกใบเล็กของตัวเอง ที่เขาสร้างได้ตั้งแต่บรรลุถึงขอบเขตขุนนางอมตะ 1 ต้นกำเนิดขึ้นมา เดิมทีเรื่องราวก็ดำเนินไปตามปกติ ทว่าเพราะการแทรกแซงของกิ่งพฤกษาเทพกำเนิดชีพ ทำให้เขาประสบกับเหตุการณ์อัศจรรย์เหนือคาดคิด
และเพราะการเข้ามาแทรกแซงของกิ่งพฤกษาเทพกำเนิดชีพ ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องควบคุมดูแลการสร้างโลกใบเล็กอีกต่อไป เพราะกิ่งพฤกษาเทพกำเนิดชีพมันควบคุมจัดการทุกอย่าง ไม่ว่าจะให้ชีพจรสวรรค์ 99 สายของเขาดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดิน ขัดเกลาเป็นพลังเซียนยอมตะต้นกำเนิด ขวบขนกระทั่งชักนำไปสร้างโลกใบเล็กด้วยตัวเอง แถมความเร็วยังเหนือกว่าที่เขาทำเองอีกด้วย!
ในขณะที่เขากำลังอึ้งกับเรื่องราวเหล่านั้น ทองเทพสุดลี้ลับก็แนะนำให้เขาฉกฉวยโอกาสดังกล่าว เพื่อสัมผัสกระบวนการสร้างโลกใบเล็กดู เผื่อจะมีโอกาสเข้าใจกฏแห่งมิติ
หลังได้รับคำแนะนำของทองเทพสุดลี้ลับ เขาก็เริ่มอุทิศตัวสัมผัสกระบวนการสร้างโลกใบเล็กของกิ่งพฤกษาเทพกำเนิดชีพทันที และทุ่มสมาธิจดจ่อกับมันโดยไม่สนสิ่งใดอื่น
และทันใดนั้นเอง อยู่ดีๆก็มีชุดข้อมูลลึกลับคลุมเครือมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่จิตใจเขา ทว่าผ่านไปสักพักชุดข้อมูลลึกลับคลุมเครือที่ว่าก็กลายเป็นกระจ่างแจ้ง ราวมันอยู่กับเขามาตั้งแต่เกิด ทำให้เขาเข้าใจมันไปเองอย่างเป็นธรรมชาติ…
หลังจากพิจารณาชุดข้อมูลที่อยู่ๆก็เข้าใจอย่างงงๆไม่ทันไร ต้วนหลิงเทียนก็ยืนยันได้ทันที…
ว่าชุดข้อมูลดังกล่าว มันก็คือความลึกซึ้งต่างๆของกฏแห่งมิติ และเห็นได้ชัดว่าเป็นผลเทพสังเวยสวรรค์ช่วยให้เขาเข้าใจ เพราะพลังอำนาจผลเทพสังเวสวรรค์ที่ไหลเวียนในร่างเขามันลดลงพอดิบพอดีกับที่ชุดข้อมูลดังกล่าวปรากฏขึ้น…
“กฏแห่งมิติ…”
ต้วนหลิงเทียนพยายามระงับบความตื่นเต้นในใจ จากนั้นก็เริ่มนึกทบทวนชุดข้อมูลที่เขาเข้าใจกระจ่างในใจแล้วอีกรอบ “ความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติ ที่ผลเทพสังเวยสวรรค์ช่วยให้ข้าเข้าใจมีทั้งสิ้น…”
“6 ความลึกซึ้ง!”
หลังจากยืนยันได้แน่ชัดแล้วว่าตอนนี้เขาเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติ 6 ประการ ใจที่พึ่งสงบลงของต้วนหลิงเทียนก็กลายเป็นว้าวุ่น เต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดีอีกครั้ง รอบนี้ยังยากที่จะสงบลงได้อยู่นาน!
ถึงแม้เขาจะเข้าใจมาก่อนแล้วว่าผลเทพสังเวยสวรรค์สามารถช่วยให้คนเข้าใจความลึกซึ้งของกฏได้อย่างน้อย 6 ประการ และหากโชคดีผลเทพสังเวยสวรรค์ก็อาจช่วยให้เข้าใจคววามลึกซึ้งได้มากถึง 8 ประการ
อันหมาความว่าการที่เขาเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติได้แค่ 6 ประการแบบนี้ ถือว่าน้อยที่สุด…
อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนไม่ได้ผิดหวังที่ผลเทพสังเวสวรรค์ช่วยเขาได้เท่านี้แม้แต่นิดเดียว เพราะถึงมันจะช่วยให้เขาเข้าใจความลึกซึ้งของกฏได้แค่ 6 ประการ ทว่าต้องเข้าใจด้วยว่าความลึกซึ้งที่มันช่วยให้เขาเข้าใจหาใช่กฏธรรมดาๆไม่!
นี่มันคือความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติ!
กฏแห่งมิติเป็น 1 ใน 4 กฏสูงสุด! มันยากที่จะเข้าใจเหนือกฏทั่วไปหลายขุม!!
กฏทั่วไปนั้น ขอเพียงมีวรยุทธ์อมตะกับเวทย์พลังระดับราชาขึ้นไปให้ฝึกปรือก็สามารถเข้าใจได้ผ่านการฝึก ในขณะที่ 4 กฏสูงสุดนั้น ไม่อาจเข้าใจผ่านการฝึกปรือวรุทธ์อมตะหรือเวทย์พลังใดๆได้เลย เช่นนั้นการจะทำความเข้าใจ 4 กฏสูงสุด นับว่ายากยิ่งกว่ากฏทั่วไปมากมายนัก
ต้วนหลิงเทียนพึงพอใจกับผลลัพธ์ครั้งนี้มาก กระทั่งดีใจเป็นที่สุด!
เรื่องนี้มองจากร่างที่ยังคงสั่นระริกไม่หยุดทั้งลมหายใจที่ถี่รัวปานคนหอบเหนื่อยก็รู้
“ความลึกซึ้งทั้ง 6 ประการของกฏมิติที่ผลเทพสังเวยสวรรค์ช่วยให้ข้าเข้าใจ…”
ราวๆ 1 เค่อต่อมา หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนสามารถสงบสติอารมณ์ตื่นเต้นยินดีที่หาได้ยากลงได้แล้ว เขาก็เริ่มหันมาให้ความสนใจกับความลึกซึ้งทั้ง 6 ประการของกฏแห่งมิติที่ผลเทพสังเวยสวรรค์ช่วยให้เขาเข้าใจ
“ความลึกซึ้งทั้ง 6 ประการ…นอกจากความหมายแห่งมิติที่ทำให้ใช้พลังธาตุมิติได้แล้ว…ก็มีความลึกซึ้งอีก 5 ประการได้แก่ ความลึกซึ้งกักกัน, บิดเบือน, เคลื่อนมิติ, ผ่ามิติ และ เขตแดนมิติ…”
“ในบรรดาความลึกซึ้งทั้ง 5 ความลึกซึ้งกักกันจัดเป็นความลึกซึ้งที่เน้นสนับสนุนเป็นหลัก”
“ส่วนความลึกซึ้งบิดเบือน กับผ่ามิติเป็นความลึกซึ้งที่เสริมการโจมตีเป็นหลัก”
“สำหรับความลึกซึ้งเคลื่อนมิติ เป็นความลึกซึ้งที่มุ่งเสริมด้านการเคลื่อนไหว”
“ส่วนเขตแดนมิติเป็นความลึกซึ้งประเภทป้องกัน…”
พลังของผลเทพสังเวยสวรรค์นั้น ทำให้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนเข้าใจความลึกซึ้งของกฏแห่งมิติทั้ง 6 ประการเสมือนเขาได้ทำความเข้าใจมันทีละก้าวๆด้วยตัวเอง ไม่เพียงแต่คุ้นเคยและเข้าใจกระจ่างชัด แต่เขายังเข้าใจลักษณะของพวกมันชัดเจน
กระทั่งยามใช้พลัง ก็คล่องแคล่วประหนึ่งแขนขาของเขา
“ความลึกซึ้งกักกัน!”
เพียงห้วงคิด พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดของต้วนหลิงเทียนก็ปะทุออกมาทั่วร่าง จากนั้นก็เริ่มผสานเข้ากับธาตุมิติ จนเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีเทา จากนั้นพลังสีเทาดังกล่าวก็แผ่พุ่งไปในอากาศก่อนจะอันตรธานหายไปในพริบตา
ครู่ต่อมา
“เจ้าแล้วกัน!”
ต้วนหลิงเทียนที่มองลอดหน้าต่างออกไป สายตาเขาก็ไปหยุดอยู่บนร่างด้วงสีดำที่กำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้กิ่งหนึ่งบนต้นไม้ในลานบ้าน จากนั้นพร้อมๆกันกับที่ใจคิด กิ่งไม้ดังกล่าวก็สั่นไหวเบาๆ
ขณะเดียวกันเมื่อกิ่งไม้สั่นไหว ด้วงสีดำเจ้ากรรมก็สะดุ้งตกใจ และเริ่มโผบินหมายหลบหนีไปจากกิ่งไม้ทันที
อย่างไรก็ตามทันทีที่มันบินขึ้น มันก็เสมือนกำลังชนเข้ากับบางสิ่ง และไม่อาจบินออกห่างจากกิ่งไม้ได้เลย ไม่ว่าจะบินว่อนไปทางไหนก็ตาม
เพราะโดยยึดตำแหน่งที่มันเกาะอยู่บนกิ่งไม้เมื่อครู่เป็นจุดศูนย์กลาง รัศมีรอบๆจุดนั้น 1 ฉื่อ เสมือนมีกรงอากาศปิดกั้นเอาไว้ ทำให้มันไม่อาจออกไปไหนได้เลย…
เป็นต้วนหลิงเทียนที่ใช้ความลึกซึ้งกักกันของกฏแห่งมิติ ผนึกห้วงมิติรอบๆกิ่งไม้โดยมีรัศมี 1 ฉื่อเอาไว้ ทำให้ดวงสีดำตัวน้อยเสมือนติดอยู่ในคุกทรงกลมไม่อาจหลบลี้หนีไปที่ใดได้
“บีบอัด!”
ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดเล็กลง ทันใดนั้นเองพื้นที่มิติทรงกลมรัศมีหนึ่งฉื่อที่ล้อมรอบด้วงสีดำตัวน้อยนั่นก็หดเล็กลงในฉับพลัน จากนั้นด้วงสีดำตัวน้อยผู้เคราะห์ร้ายก็ถูกบีบอัดจนกลายเป็นจุดเล็กๆ จากนั้นร่างมันก็แตกระเบิดเป็นละอองเลือด เศษซากอวัยวะจะเปลือกจะปีกล้วนป่นปี้ไม่มีชิ้นดี…
“ความลึกซึ้งกักกันของกฏแห่งมิติ ไม่เพียงใช้กักขังเท่านั้น ยังสามารถทำร้ายกระทั่งเข่นฆ่าได้ด้วย…”
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะศึกษาหาความรู้จากหอตำราฝ่ายในของนิกายอมตะเป้าผู่ จนรู้ความสามารถคร่าวๆของความลึกซึ้งประการต่างๆของกฏแห่งมิติมาบ้างแล้ว แต่ทั้งหมดก็ไม่ต่างอะไรจากการอ่านข้อความที่เขียนอยู่บนกระดาษ
ตอนนี้พอลองมาใช้ความลึกซึ้งเล่นงานด้วงตัวน้อยดู ต้วนหลิงเทียนก็เข้าใจถึงความน่ากลัวของความลึกซึ้งกักกันทันที…
“ความลึกซึ้ง บิดเบือน…”
หลังดึงสติกลับมาได้แล้ว สองตาต้วนหลิงเทียนก็มองจ้องไปยังกิ่งไม้ที่ด้วงเกาะอยู่เมื่อครู่ทันที จากนั้นเพียงหนึ่งห้วงคิด ความลึกซึ้งบิดเบือนก็ถูกใช้ออก ภาพเรื่องราวเบื้องหน้าแลดูอัศจรรย์นัก เพราะห้วงมิติเริ่มสั่นสะท้าน ฉากเรื่องราวเริ่มบิดเบือน จนเสมือนมีคนบิดภาพวาด จากนั้นกิ่งไม้ดังกล่าวก็เสมือนถูกบิดเป็นเกลียว
กิ่งไม้เพียงสั่นไหวรุนแรงอยู่ไม่ทันไร มันก็ถูกห้วงมิติที่บิดเบือนดังกล่าวบิดจนแหลกเป็นฝุ่น ราวกับถูกวังวนมรสุมปั่นทำลาย…
“ความลึกซึ้ง ผ่ามิติ…”
ต้วนหลิงเทียนคิดอีกครั้ง ทันใดนั้นเบื้องหน้า ณ จุดที่สายตาจับจ้องก็ปรากฏรอยแยกมิติฉีกเปิดกลางอากาศ และทันทีที่รอยแยกมิติดังกล่าวปรากฏ ก็ปรากฏคลื่นสะบั้นสีดำราวกับคมมีดมิติพุ่งออกมา! ราวกับมีคนจู่โจมออกมาจากในห้วงมิติ!!
ซูว!
เมื่อคมมีดมิติพุ่งผ่านต้นไม้ไป ไม่เพียงมันจะตัดต้นไม้ให้ขาดกลางได้อย่างง่ายดาย กระทั่งจุดที่ถูกคมมีดมิติตัดผ่าน ยังแลดูยับเยินเสมือนถูกกรดรุนแรงกัดกร่อนจนสึกหรอ!
“ความลึกซึ้ง ผ่ามิติ ไม่เพียงแต่จะมีพลังโจมตีรุนแรงราวกับตัดได้ทุกสิ่ง กระทั่งยามตัดผ่านสิ่งใด รอยตัดยังถูกพลังมิติกัดกร่อนอย่างรุนแรง…หากใครโดนคมมีดมิติเมื่อครู่เล่นงาน ไม่เพียงแต่จุดที่โดนจะถูกตัดขาด กระทั่งพลังของมันยังจะกัดกร่อนภายในได้อีก…กระทั่งยังกัดกร่อนด้วยความเร็วสูงอีกด้วย!”
ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ
ความลึกซึ้งผ่ามิตินั้น เป็นความลึกซึ้งประเภทจู่โจมที่แปลกประหลาดที่สุดในกฏแห่งมิติ มันเหมือนการโจมตีที่ควบรวมพลังเข่นฆ่าทำลายที่มาจากมิติอื่น ทำให้ผู้คนยากจะป้องกัน กระทั่งหากโดนจู่โจมแล้วยังมีผลกระทบกัดกร่อนอันน่ากลัวอีกด้วย
“ความลึกซึ้งคลื่นมิติ…”
เมื่อต้วนหลิงเทียนกลับมาให้ความสนใจกับความลึกซึ้งเคลื่อนมิติ เขาก็ใช้พลังปิดหน้าต่างที่เปิดลงก่อน ทำให้ทั้งห้องกลายเป็นพื้นที่ปิดทึบทันที
พริบตาต่อมา
วูว!
พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดที่ผสานพลังธาตุมิติจนกลับกลายเป็นสีเทาทั่วร่างต้วนหลิงเทียนกระเพื่อมเบาๆคราหนึ่ง ก่อนที่ร่างต้วนหลิงเทียนจะอันตรธานหายไปจากห้องที่ปิดทึบทันที!
ปรากฏตัวอีกครั้ง ก็ไปหยุดยืนอยู่ในลานด้านนอกแล้ว!
‘ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติ นับเป็นการเคลื่อนที่ผ่านห้วงมิติจริงๆ…สามารถเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ทันที ต่อให้จะมีอะไรขวางกั้นก็ข้ามผ่านได้ง่ายดาย สามารถออกจากห้องที่ปิดทึบมาโผล่ในลานได้ทันทีทันใด!’
‘เรียกว่าร่างข้าวูบมาปรากฏตัวตรงนี้ทันทีดั่งทะลุมิติมาอยู่ตรงนี้โดยตรง!!’
‘อย่างไรก็ตามระยะทางที่ข้าสามารถเคลื่อนย้ายข้ามมิติได้ในตอนนี้…สมควรมีรัศมีเพียง 100 หมี่’
ระยะทาง 100 หมี่สำหรับคนธรรมดาสามัญนั้นอาจจะเล็กน้อย และมนุษย์ธรรมดาก็ใช้เวลาราวๆ 10 วินาทีในการวิ่งข้ามระทางดังกล่าว
สำหรับต้วนหลิงเทียนในตอนนี้อย่าว่าแต่ระยะทางแค่ 100 หมี่ กระทั่งหนึ่งลี้ก็เกรงว่าไม่ต่างอะไรจากครึ่งก้าว สามารถบรรลุถึงทันทีที่คิดจะไป ทว่ามันแตกต่างจากการเคลื่อนย้ายข้ามมิติมากโข เพราะเขาจะบรรลุถึงตำแหน่งที่ต้องการไปทันทีโดยที่ไร้ซึ่งร่องรอยใดๆให้สืบสาว สิ่งนี้ทำให้เขาระเบิดการโจมตีได้ในฉับพลัน โดยที่ศัตรูไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าเขาเคลื่อนไหวมาอย่างไร…
‘ความลึกซึ้งเคลื่อนมิติ หากเข้าใจถึงขั้นตอนความสำเร็จเบื้องต้นจะมีรัศมีเคลื่อนย้ายแค่ 100 หมี่…ถ้าเข้าใจถึงขั้นตอนความสำเร็จเล็กน้อยก็จะเพิ่มเป็น 10,000 หมี่…และถ้าบรรลุขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่ก็จะกลายเป็น 1,000,000 หมี่!’
‘ระยะทาง 1,000,000 หมี่ ก็ไม่ต่างอะไรจาก 2,000 ลี้…ที่สำคัญมันบรรลุถึงทันทีทันใด!’
คิดถึงจุดนี้ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ เขานึกภาพยามเข้าใจมันถึงขั้นตอนความสำเร็จยิ่งใหญ่ได้เลย ว่าสิ่งนี้มันทรงพลังทั้งน่ากลัวอย่างไร
‘อย่างไรก็ตามแม้ข้าจะพึ่งเข้าใจมันถึงขั้นตอนคววามสำเร็จเบื้องต้น ทั้งยามต่อสู้จริงผู้ที่เข้าใจความลึกซึ้งของกฏอื่นๆที่เสริมความเร็วเป็นหลักก็เคลื่อนที่ได้เร็วกว่าข้า…แต่นั่นก็คือการเคลื่อนที่ตรงๆ เผยให้เห็นร่องงรอยความเคลื่อนไหว แต่ข้าสามารถไปที่ไหนก็ได้โดยไม่ถูกสิ่งใดขัดขวาง!’
หากต้องเผชิญหน้ากับศัตรู และอยู่ๆก็ไปผุดโผล่เบื้องหลังอีกฝ่ายอย่างไร้ร่องรอยปานภูตผี ต่อให้อีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วเพียงใด การลงมือของเขาก็สมควรบรรลุถึงแผ่นหลังของอีกฝ่ายแล้ว…
อาศัยแค่สิ่งนี้ก็ทำให้ผู้คนไม่อาจไม่กลัว ยังถึงขั้นต้องมีหวาดผวากันบ้าง!!