บทที่ 954 : สงครามหญิงงาม!
ในคืนที่คลินิกสามัญชนของหลิงหยุนถูกวางระเบิดนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่หลินเมิ่งหานกับเหยาลู่ถูกเย่ซิงเฉินลักพาตัวไป
ในเวลานั้น..หลินเมิ่งหานกับเหยาลู่เพิ่งจะถูกนำตัวมาไว้ที่บ้านหลังนี้ อีกทั้งเหตุการณ์ในคืนนั้นก็เป็นเรื่องที่คนทั่วทั้งเมืองจิงฉูต่างก็พูดถึง มีหรือที่คนในหมู่บ้านพูดกันแล้วจะไม่ลอยมาเข้าหูของหญิงสาวทั้งคนบ้าง อีกอย่างหญิงสาวทั้งสองคนต่างก็อยู่ในระดับสูงสุดขั้นโฮ่วเทียน-9 แล้ว การได้ยินจึงนับว่าเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป..
ไม่เพียงแค่คลินิกสามัญชนกับร้านเสื้อผ้าของหลิงหยุนที่ถูกวางระเบิดแต่โรงงานผลิตยาของตระกูลเสี่ยวซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านแห่งนี้ไปไม่ไกลนัก ก็ถูกวางระเบิดด้วย และแรงระเบิดนั้นก็ได้สั่นสะเทือนมาถึงที่นี่..
คำพูดของเย่ซิงเฉินที่พูดกับหญิงสาวทั้งสองคนว่า“ปัญหาของหลิงหยุนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น” ทำให้หญิงสาวทั้งสองคนรู้ได้ทันทีว่า แรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดนั้นต้องเกี่ยวข้องกับหลิงหยุนอย่างแน่นอน..
หญิงสาวทั้งสองคนต่างก็มองตากันนิ่งและได้แต่แอบคาดเดาความเสียหายอยู่ในใจเงียบๆ พร้อมกับเริ่มเป็นห่วงในความปลอดภัยของหลิงหยุน..
ในขณะที่แรงสั่นสะเทือนยังคงไม่จางหายไปเย่ซิงเฉินก็กำลังเงี่ยหูฟังเพื่อให้ได้ยินชัดเจนมากขึ้น จากนั้นจึงหันมาพูดกับหญิงสาวทั้งสองคนว่า
“เห็นหรือไม่ว่าข้าไม่ได้หลอกพวกเจ้า!เวลานี้ดูเหมือนคลินิกสามัญชนกับร้านเสื้อผ้าของหลิงหยุนได้ถูกระเบิดพังราบแล้ว..”
คำพูดประโยคนี้จึงเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายสำหรับเหยาลู่..
เย่ซิงเฉินซึ่งอาจะรู้หรืออาจจะไม่รู้ว่าคลินิกสามัญชนนั้นมีความหมายกับหญิงสาวทั้งสองคนอย่างไร โดยเฉพาะกับเหยาลุ่!
ตั้งแต่ที่หลิงหยุนริเริ่มความคิดที่จะเปิดคลินิกจนเริ่มลงมือตกแต่งร้าน และกระทั่งการเตรียมงานในวันเปิดคลินิก เหยาลู่ล้วนทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับทุกขั้นตอน แต่ทุกอย่างก็อยู่มาได้เพียงแค่สามเดือนเท่านั้น..
เพื่อคลินิกสามัญชนแห่งนี้เหยาลู่ซึ่งครั้งนั้นยังเป็นเพียงแค่หญิงสาวธรรมดา ถึงกับยอมต่อสู้กับชาวเซียงฉีเพื่อปกป้องคลินิกสามัญชนไว้ จนกระทั่งถูกพิษ และแทบสังเวยชีวิตตนเอง..
คลินิกสามัญชนแห่งนี้ทำให้เหยาลู่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหลิงหยุนและหักเหจากการเป็นพยาบาลฝึกหัดในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จนกระทั่งมาเป็นผู้หญิงของหลิงหยุนในที่สุด อีกทั้งยังทำให้เธอสามารถยืนเคียงข้างหลิงหยุนได้อย่างภาคภูมิใจเช่นเดียวกับหญิงงามคนอื่นๆด้วย
หลายต่อหลายครั้งที่เหยาลู่ต้องผวาตื่นกลางดึกเพราะฝันร้าย..เพราะหากไม่มีคลินิกสามัญชนแห่งนี้ นอกจากความงดงามของรูปร่างหน้าตาภายนอกแล้ว เธอก็ไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถเทียบได้กับหญิงสาวคนอื่นๆของหลิงหยุนเลยแม้แต่นิดเดียว
ในวันที่มีพิธีเปิดคลินิกสามัญชนนั้นหลิงหยุนก็ได้แนะนำเหยาลู่ในฐานะที่เป็นผู้จัดการคลินิกต่อหน้าคนใหญ่คนโตในเมืองจิงฉูหลายคน
ในวันนั้น..เหยาลู่รู้สึกว่าความยากลำบากที่เธอต้องประสบมาตั้งแต่เด็ก ความเจ็บปวดเพราะความยากจน ความรู้สึกน่าสังเวช และความรู้สึกต่ำต้อยที่เปรียบเสมือนหินที่ทั้งหนักทั้งใหญ่ในชีวิตของเธอนั้นได้ถูกโยนทิ้งไป เสียงปรบมือที่ดังสนั่นหวั่นไหวในวันนั้น ทำให้เธอปลื้มปิติ เบิกบานใจ และมั่นอกมั่นใจอย่างยิ่งเมื่อเห็นใบหน้าของหลายคนที่จ้องมองเธอด้วยแววตาอิจฉา!
ด้วยเหตุนี้คลินิกสามัญชนจึงเปรียบเสมือนจุดสูงสุดในชีวิตของเหยาลู่อีกทั้งยังเป็นพยานแห่งความรักที่เธอมีต่อหลิงหยุน เป็นความสุข และเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุดในชีวิตของเธออีกด้วย!
เรียกได้ว่า..สำหรับเหยาลู่แล้ว คลินิกสามัญชนนั้นสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของเธอเองเสียอีก!
เวลานี้คลินิกสามัญชนถูกแรงระเบิดจนหายไปในพริบตาเช่นนี้ย่อมเท่ากับว่าชีวิตของเหยาลู่นั้นไม่เหลืออะไรอีกแล้ว และเหยาลู่เชื่อว่านางมารที่น่ากลัวผู้นี้ไม่ได้โกหกเธอเช่นกัน!
หญิงสาวที่มีจิตใจเข้มแข็งอย่างเหยาลู่ยังไม่สามารถทนฟังข่าวร้ายเช่นนี้ได้ใบหน้าของเธอซีดเผือดลงทันที และร่างกายบอบบางนั้นก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนเป็นลมล้มพับไปในที่สุด..
หลินเมิ่งหานเห็นเหยาลู่เป็นลมไปเช่นนั้นจึงรีบเข้าไปประคองร่างที่หมดสติของเหยาลู่ไว้ได้ทันเวลาก่อนที่จะล้มฟาดลงกับพื้น..
ในตอนนั้นหญิงสาวทั้งสองคนยังไม่ถูกสกัดจุดและต่อหน้าธิดาพรรคมารที่แข็งแกร่ง ความสามารถของหญิงสาวทั้งสองจึงไม่ต่างจากเด็กน้อยเพียงแค่สามขวบ เย่ซิงเฉินจึงไม่คิดที่จะควบคุมพวกนางมากนัก
หลินเมิ่งหานพยุงร่างหมดสติของเหยาลู่ไปวางไว้บนโซฟาในห้องรับแขกหลังจากที่นั่งมองร่างไร้สติของเหยาลู่อยู่นาน หลินเมิ่งหานจึงหันไปร้องตะโกนใส่นางมารผู้ที่นำข่าวร้าย และความโชคร้ายมาให้กับพวกเธอทั้งสองคนอย่างเดือดดาล..
“เธอมันร้ายยิ่งกว่าปีศาจ!”
หลินเมิ่งหานเชื่อว่าการที่คลินิกสามัญชนของหลิงหยุนถูกระเบิดพังราบในครั้งนี้ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะหญิงสาวลึกลับสวมผ้าปิดบังใบหน้าสีดำที่อยู่ต่อหน้าเธอ และเชื่อว่าหญิงสาวลึกลับผู้นี้ต้องการที่จะจัดการกับหลิงหยุน..
ไม่เช่นนั้นแล้ว..เหตุใดเพียงแค่ได้ยินเสียงระเบิด หญิงสาวลึกลับผู้นี้จึงได้มั่นอกมั่นใจว่าเป็นการระเบิดธุรกิจของหลิงหยุน
แต่เย่ซิงเฉินกลับชายตามองหลินเมิ่งหานอย่างไม่แยแสพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน
“เรื่องระเบิดคลินิกของหลิงหยุนล้วนไม่เกี่ยวข้องกับข้าแต่หากเจ้าจะคิดเช่นนั้น.. ก็แล้วแต่เจ้า!”Aileen-novel
หลินเมิ่งหานจัดการดูแลเหยาลู่ที่เป็นลมหมดสติไปนานและในที่สุดเหยาลู่ก็รู้สึกตัว และเมื่อตื่นขึ้นมาก็เอาแต่พูดกับหลินเมิ่งหานว่า
“พี่หลิน..คลินิกสามัญชน.. ไม่เหลืออะไรแล้ว..”
แววตาที่ว่างเปล่าของเหยาลู่นั้นบ่งบอกว่าเธอรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง และไม่เหลืออะไรในชีวิตอีกแล้ว ทำให้หลินเมิ่งหานรู้สึกเศร้า และเจ็บปวดจนแทบอยากร้องไห้ออกมา แต่เธอก็พยายามอดกลั้นไว้ และปลอบโยนเหยาลู่
“น้องลู่..อย่าไปฟังคำพูดของนางมารนั่น นางอาจจะแกล้งพูดให้พวกเราทุกข์ใจเล่นก็ได้ อย่าไปหลงเชื่อคำพูดของนางเลย!”
ถึงแม้จะพูดปลอบโยนเหยาลู่ไปเช่นนั้นแต่ตัวเธอเองก็ไม่ได้เชื่อเช่นนั้น..
นับตั้งแต่คืนนั้นมา..หญิงสาวทั้งสองคนก็ได้แต่หมดหวังท้อแท้ และไม่ยอมดื่ม หรือกินอะไรลงท้องเลย พวกนางเอาแต่นิ่งเงียบ และทำสงครามเย็นกับหญิงสาวลึกลับผู้นี้..
เย่ซิงเฉินยังคงไม่สกัดจุดหญิงสาวทั้งสองคนและปล่อยให้พวกนางได้อยู่ในบ้านอย่างอิสระ อีกทั้งภายในบ้านก็มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทีวีที่สามารถรับรู้เรื่องราวของโลกภายนอกได้ เพียงแต่โทรศัพท์มือถือของหญิงสาวทั้งสองคนถูกเย่ซิงเฉินทำลายทิ้งไปแล้ว
เย่ซิงเฉินไม่สนใจหญิงสาวทั้งสองคนอีกและทั้งคู่ก็ไม่ได้พยายามที่จะหลบหนีไปใหนอีกหลังจากที่พบว่าสวนด้านหน้าบ้านนั้นได้มีการวางค่ายกลไว้..
นับแต่วันนั้นทั้งเหยาลู่และหลินเมิ่งหานต่างก็รับรู้ว่านางมารผู้นี้เก่งกาจมากเพียงใด ทั้งคู่จึงล้มเลิกความคิดที่จะหลบหนีออกไปจากที่นี่
วันต่อมา..หญิงสาวทั้งสองคนได้ทราบข่าวจากในทีวีว่า ธุรกิจของหลิงหยุนทั้งสามแห่งถูกระเบิดพังจนหมด ส่วนเหยาลู่ก็ดูเหมือนจะลืมเรื่องคลินิกสามัญชนไปได้ชั่วครู่ เพราะต้องคอยดูแลหลินเมิ่งหานที่เอาแต่ตำหนิ และโทษตัวเอง..
แต่นับว่าโชคดีที่นางมารผู้นั้นไม่ค่อยอยู่ที่บ้านมากเท่าไหร่หญิงสาวทั้งสองจึงไม่รู้สึกกดดันมากนัก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เย่ซิงเฉินกลับมา ก็จะเอาแต่ถามเรื่องของหลิงหยุนจากหญิงสาวทั้งสองคน..
แต่แน่นอนว่า..ความลับของหลิงหยุนนั้นเป็นเรื่องที่หญิงสาวทั้งสองคนต่างก็ปิดปากเงียบ ไม่ว่าเย่ซิงเฉินจะข่มขู่อย่างไร ก็ไม่มีใครยอมปริปากพูดแม้แต่น้อย เย่ซิงเฉินถึงขั้นเปิดเผยฐานะของตนเองกับหญิงสาวทั้งสองคนว่านางคือธิดาพรรคมาร และแกล้งขู่ว่าจะกรีดหน้าพวกนางทั้งสองคนให้เสียโฉม แล้วควักลูกตาออกมาหากไปไม่ยอมพูด..
ท่ามกลางสงครามระหว่างหญิงงามทั้งสามคน..ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือเย่ซิงเฉิน แต่ถึงแม้นางจะโกรธที่ไม่ว่าทำอย่างไรหญิงสาวทั้งสองคนก็ไม่ยอมปริปากพูดเรื่องของหลิงหยุน แต่ในใจก็นึกชื่นชมในความใจเด็ดของพวกนาง และยิ่งทำให้เย่ซิงเฉินอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับหลิงหยุนมากยิ่งขึ้น!
ในเมื่อมีเพียงทีวีให้ดู..หญิงสาวทั้งสองคนซึ่งไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ จึงได้แต่เปิดดูข่าวคราวของเมืองจิงฉูจากข่าวช่องต่างๆแทน
และในที่สุดหญิงสาวทั้งสองก็ได้เห็นรายการที่หลิงหยุนไปเล่นมายากลโชว์!
หลังจากที่หญิงสาวทั้งสองคนได้เห็นมายากลของหลิงหยุนทั้งคู่ก็ถึงกับกอดกันร้องไห้ด้วยความดีใจ..
หลิงหยุนปลอดภัยดีเขาไม่ได้รับอันตรายอะไร!
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเย่ซิงเฉินเองที่ยืนดูหลิงหยุนเล่นมายากลอยู่ด้านหลังหญิงสาวทั้งสองคนนั้นกลับกรีดร้องออกมาเสียงดังคล้ายกับโมโหมาก..
หญิงสาวทั้งสองคนถึงกับหันไปมองด้วยความงุนงง..
การแสดงมายากลของหลิงหยุนนั้นได้ทำให้หญิงสาวที่หมดหวังท้อแท้ทั้งสองคนกลับมามีความหวังอีกครั้ง และเริ่มคิดที่จะสู้กับเย่ซิงเฉิน!
และนับจากคืนนั้นมา..เย่ซิงเฉินจึงได้ทำการสกัดจุดลมปราณของพวกนางทั้งคู่ไว้ จากนั้นก็หายไปจากบ้าน และไม่กลับเข้ามาอีกเลย..
แต่แล้วจู่ๆเหยาลู่ที่นั่งปลอบโยนหลินเมิ่งหานอยู่นั้น ก็ถึงกับร่างกายสั่นเทิ้ม และดวงตาเป็นประกายด้วยความประหลาดใจ แล้วรีบหันหน้ามองไปทางประตูบ้าน!
นั่นเพราะจู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังก้องอยู่ในหูของเหยาลู่
–เหยาลู่..อย่าเสียใจไปเลย คลินิกสามัญชนถูกระเบิดพังไปแล้ว เราก็สามารถสร้างคลินิกใหม่ที่ใหญ่โตกว่าเดิมได้นี่!-
Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 954 : สงครามหญิงงาม!
บทที่ 954 : สงครามหญิงงาม!
Posted by ? Views, Released on ตุลาคม 2, 2021
, Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..