“เอาล่ะ!ทุกอย่างพร้อมใช้งาน เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับไว้เปลี่ยนเสื้อผ้าและนอนได้อย่างสบายๆแล้ว” จี้เฟิงวางข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของถงเล่ยไว้บนห้องพักชั้นสองของวิลล่า จี้เฟิงตบฝุ่นที่มือของเขาด้วยความโล่งใจ หากถงเล่ยยังคงอาศัยอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัย เขาก็คงจะไม่เป็นอันทำอะไรเพราะต้องคอยเป็นห่วง สิ่งที่หยุนปิงทำในครั้งนี้คือส่งคนมาเพื่อทำให้ถงเล่ยต้องหวาดกลัว เขายังโมโหมากขนาดนี้ ถ้าคราวหน้าหยุนปิงทำเกิดทำอะไรที่ทำให้ถงเล่ยต้องเป็นอันตรายหรือบาดเจ็บจี้เฟิงอาจจะหัวใจวายตายไปเลยก็ได้
แต่เมื่อถงเล่ยมาอยู่ที่วิลล่านี่มันก็ทำให้จี้เฟิงอุ่นใจขึ้นมากอย่างน้อยเขาก็อยู่ที่นี่แม้ว่าอีกฝ่ายจะถือปืนจี้เฟิงก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถปกป้องถงเล่ยกับเซียวหยูซวนได้ จี้เฟิงไม่กล้าพูดว่าตัวเองมีประสบการณ์แค่ไหนในการจัดการกับคนที่มีอาวุธปืน แต่ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าเป็นในระบบฝึกอบรมสายลับระดับสูงเขาผ่านประสบการณ์มาเกือบจะร้อยครั้งแล้วและเขาก็มาถึงจุดที่ผ่านมันมาได้อย่างง่ายดายมานานแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นจี้เฟิงจะไม่นั่งเฉยๆและรอการถูกโจมตีเพียงฝ่ายเดียวเพราะไม่ว่าทักษะการต่อสู้ของเขาจะดีแค่ไหน แต่การเตรียมอาวุธไว้เป็นตัวช่วยมันก็เป็นวิธีการรับมือที่ดีกว่า และเป้าหมายแรกของเขาคือการทำปืนพกกระบอกแรกให้เร็วที่สุด ปืนพกที่ว่านี้ไม่ใช่เทคโนโลยีของแกมมาในยุคของดวงดาว เพราะในกาแล็กซีแกมมานั้นที่อยู่ในขั้นต่ำสุดก็คือปืนเลเซอร์ที่ควบคุมด้วยมือ ส่วนอาวุธที่รุนแรงที่สุดในยุคปัจจุบันของโลกสำหรับกาแล็กซีแกมมามันได้ถูกกำจัดไปนานกว่าหลายพันปีแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่ามันอาจจะยังมีอยู่แต่จี้เฟิงก็ไม่ได้เรียนรู้อยู่ดีเนื่องจากในระบบฝึกอบรมสายลับระดับสูงจี้เฟิงไม่เคยได้เรียนรู้วิธีสร้างปืนพกธรรมดา และเขาก็ยังไม่เคยถามสมองหมายเลข 1 เกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามการที่จี้เฟิงไม่ได้เรียนรู้ไม่ได้หมายความว่าจี้เฟิงจะทำไม่ได้อย่าลืมว่ามีสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่จี้เฟิงได้เรียนรู้มาแล้ว ‘เทคโนโลยีเครื่องจักร!’
ในโลกนี้ไม่มีการผลิตอาวุธใดที่สามารถแยกออกจากหลักการของเครื่องจักรได้และไม่ว่าจะผลิตอะไรสิ่งของอะไรก็ตามก็ไม่สามารถทำได้โดยไม่มีเครื่องจักรเริ่มจากสิ่งใหญ่ๆอย่างเช่นอาวุธไฮเทคที่ใช้ในการบินและอวกาศ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดล้วนมีแผนผังและสมการที่ถูกออกแบบมาและมันไม่สามารถทำได้หากจะเปลี่ยนของเหล่านี้ให้กลายเป็นของที่ใช้งานได้จริงถ้าไม่ใช้เครื่องจักรในการสร้างมัน
ถ้าสิ่งเล็กๆล่ะยกตัวอย่างเช่นขนมและเสื้อผ้า มีขนมและเสื้อผ้าอันไหนบ้างที่ไม่ได้ทำด้วยเครื่องจักร
จี้เฟิงเข้าใจหลักการพื้นฐานของเครื่องจักรดีซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขารู้เกี่ยวกับพื้นฐานแทบจะทุกอย่างในสิ่งที่ชีวิตมนุษย์ต้องการและใช้งาน อย่างน้อยมันก็ทำให้เขารู้ว่าควรเรียนและเริ่มต้นจากทิศทางใด!
ยิ่งไปกว่านั้นปืนพกยังเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้มันเหมือนกันสัญญาณเตือนให้จี้เฟิงใส่ใจประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก!
ไม่ว่าคุณมีเป้าหมายหรืออยากจะทำอะไรคุณจะต้องมั่นใจในความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัวก่อนเป็นอันดับแรกไม่เช่นนั้นคุณก็จะไม่เป็นอันได้ทำอะไร!
เมื่อตระหนักได้ถึงสิ่งนี้จี้เฟิงจึงตัดสินใจที่จะค้นคว้าอาวุธในฐานข้อมูลจากระบบของสมองหมายเลข1 โดยเร็วที่สุด อย่างน้อยในตอนนี้มันก็จะสามารถรับประกันความปลอดภัยของตัวเองได้ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
จี้เฟิงที่กำลังจมอยู่กับความคิดถึงกับสะดุ้งโหยงเขาไม่รู้ว่าเซียวหยูซวนเข้ามาข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ริมฝีปากสีแดงของเธอหายใจออกเหมือนกลิ่นกล้วยไม้ เธอกระซิบเบาๆที่หูของจี้เฟิง “จิ๊กโก๋ตัวน้อย ในที่สุดก็ทำตามความปรารถนาให้สำเร็จจนได้สินะ นายรู้ว่าถ้าเป็นเรื่องเดือดร้อนของถงเล่ยฉันก็ไม่อาจปฏิเสธได้ นายบังคับให้ฉันมาที่นี่ได้สำเร็จ นายคิดอะไรไม่ดีอยู่ใช่มั้ย?!”
“แค่ก…!อะแฮ่ม!” จี้เฟิงถึงกับสำลักและไอแห้งๆกลบเกลื่อน เขาได้แต่ยิ้มอย่างบิดเบี้ยว เขาเหมือนคนไม่ดีมากขนาดนั้นเลยหรือ เพราะอะไรทำไมทั้งถงเล่ยและหยูซวนถึงคิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนั้นกัน?
“คิกคิก~”เมื่อเห็นสีหน้าที่ไปไม่เป็นของจี้เฟิง เซียวหยูซวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ จากนั้นเธอมองไปยังห้องนอนที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างอยู่พร้อมกับพูดว่า “เจ้าตัวเล็ก คืนนี้ฉันจะนอนกับถงเล่ย นายไม่ต้องเข้ามายุ่ง…”
ท่าทางการพูดของเธอนั้นดูมีเสน่ห์มากเมื่อพูดจบเธอก็เดินจากไป
“เธอ..!”แววตาของจี้เฟิงสั่นไหวเมื่อมองไปยังเซียวหยูซวนที่สวมกางเกงยีนรัดรูปเดินเข้าไปในห้องนอน ทันใดนั้นไฟแห่งความชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาและอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา “ปีศาจสาวคนนี้!”
เสน่ห์ของเซียวหยูซวนไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาโดยเจตนาทุกท่วงท่าลีลาและรอยยิ้มของเธอตามธรรมชาติมันก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของผู้ชายที่จ้องมองต้องลุกเป็นไฟ แต่เนื่องจากเวลาปกติแล้วเซียวหยูซวนจะใส่เพียงเสื้อผ้าที่สุภาพเรียบร้อยสำหรับเวลาสอนนักเรียนนักศึกษาจึงทำให้เธอมีบุคลิกที่ดูเคร่งขรึมมากขึ้น แต่หลังจากเวลางานแล้วเธอก็จะแต่งตัวสบายๆ
และด้วยความหลากหลายแบบนี้เองที่ทำให้เสน่ห์ที่น่าค้นหาของเซียวหยูซวนถูกเปิดเผยออกมาอย่างสมบูรณ์และเมื่อมันถูกเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจมันจึงยิ่งสวยงามและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะละสายตาไป
จี้เฟิงจ้องมองอย่างดุเดือดไปที่สะโพกอวบกลมและแน่นของเซียวหยูซวนที่ถูกห่อหุ้มด้วยกางเกงยีนรัดรูปทำให้จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะกัดฟันและพึมพำกับตัวเอง“ปีศาจสาวคนนี้ทั้งๆที่รู้ว่าคืนนี้ฉันยังมีอะไรต้องไปทำ แต่เธอก็ยังจงใจมายั่วฉัน อย่างเธอนี่สงสัยต้องโดนซักที!”
จี้เฟิงจำเหตุการณ์เมื่อตอนที่หวู่หลิงเอ๋อมาขอร้องให้เขาช่วยแข่งรถให้เธอเมื่อตอนที่อยู่ร้านกาแฟได้เขาได้ตบไปที่บั้นท้ายอันกลมกลึงของเซียวหยูซวนสองสามครั้ง และมันก็ทำให้เซียวหยูซวนบรรลุถึง ‘จุดสุดยอด’ และ ‘ความสุข’ ร่างกายของเธอมันช่างอ่อนไหวต่อการสัมผัสมากจริงๆ…
จี้เฟิงที่กำลังนั่งจิบไวน์อยู่รู้สึกถึงความมึนเมาที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและแรงกระตุ้นนี้เองมันเกือบทำให้จี้เฟิงเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพราะถงเล่ยก็อยู่ในห้องนอน จี้เฟิงคงไม่อาจห้ามใจตัวเองได้และกดเซียวหยูซวนผู้หญิงที่เหมือนปีศาจสาวแสนยั่วยวนไว้ใต้ร่างของเขาและทำให้เธอได้รู้ซึ้งถึงความรักที่เขามีต่อเธอว่ามันพร้อมจะระเบิดออกมามากเพียงใด ไอรีนโนเวล
เมื่อมีสายลมเย็นๆพัดโชยมามันก็ทำให้จี้เฟิงมีสติกลับคืนมาได้
“หึหึ!”
จี้เฟิงสะบัดหัวตัวเองเร็วๆไล่ความปรารถนาอันแรงกล้าในใจออกไปจากหัวและได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นอยู่ลับๆ แม้ว่าหากจะใช้พลังไฟฟ้ามากระตุ้นแต่อันที่จริงแล้วแอลกอฮอล์มันไม่ได้ส่งผลอะไรกับเขามากนัก เพราะความจริงความรู้สึกเหล่านี้มันเกิดจากจิตใจและร่างกายของเขาเองต่างหาก… บางทีแอลกอฮอล์ในร่างกายก็แค่เป็นแรงกระตุ้น…!
จี้เฟิงไม่กล้าคิดเรื่องนี้อีกต่อไปไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เขายืนอยู่ที่ระเบียง เขาหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าโดยไม่รู้ตัวและสูบบุหรี่ด้วยท่าทีสบายๆ
มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางด้านหลังหูของเขาขยับเล็กน้อย เขาไม่จำเป็นต้องหันหลังกลับไปมองก็รู้ได้ทันทีว่าเสียงฝีเท้านั้นเป็นของจี้ช่าวเหลยพี่รองของเขากำลังเดินมากับต้วนเผิง
ตั้งแต่เขาได้ฝึกฝนการเคลื่อนไหวยิมนาสติกชุดที่สองประสาทสัมผัสทั้งหกของจี้เฟิงก็ดูเหมือนจะพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ สายตาการได้ยิน…จะยกเว้นก็แต่การได้กลิ่นที่แย่ลงเล็กน้อย ส่วนการรับรู้ด้านอื่นๆมันได้รับการพัฒนาอย่างมากเมื่อเทียบกับประสาทสัมผัสทั้งหกของเขาก่อนหน้านี้ มันคือความแตกต่างราวกับคนละโลก!
แน่นอนว่าเมื่อจี้เฟิงหันหน้ากลับมาเขาก็พบกับจี้ช่าวเหลยและต้วนเผิงเดินมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“น้องสามฉันไปตรวจสอบมาแล้ว หยุนเฟยหยางเดินทางไปหยางเฉิงเพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเมื่อไม่นานมานี้และเขาก็เพิ่งกลับมาวันนี้เองดังนั้นฉันคิดว่าตอนนี้เขาน่าจะยังอยู่บ้านและยังไม่ได้ออกไปข้างนอก” จี้ช่าวเหลยพูดเบาๆ จากนั้นเขาก็ถามอย่างลังเลว่า “น้องสามที่นายให้ฉันไปหามาว่าตอนนี้หยุนเฟยหยางอยู่ที่ไหน อย่าบอกนะว่านายจะไปหาหยุนเฟยหยางทั้งแบบนี้”
จี้เฟิงส่ายหัวและยิ้มเล็กน้อย“ผมจะทำแบบนั้นได้ยังไง ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้น ถ้าเกิดไปทั้งแบบนี้แล้วถูกจับได้ขึ้นมาคงน่าอายกว่าพ่ายแพ้หรือตายไปซะอีก!”
“ถ้าอย่างนั้นนายให้ฉันไปหาข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของหยุนเฟยหยางทำไม”จี้ช่าวเหลยถามอย่างสงสัย
“รู้เขารู้เรายังไงมันก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอการที่เรารู้ที่อยู่ของศัตรูไว้เราจะได้วางแผนการดำเนินการในช่วงเวลาที่เหมาะสม!” จี้เฟิงตอบอย่างคลุมเครือพลางหัวเราะ
จี้ช่าวเหลยจ้องมองเขาอย่างสงสัยและอดไม่ได้ที่จะเตือน“น้องสามนายไม่ควรผลีผลาม พี่รองคนนี้เข้าใจดีว่านายกำลังโกรธที่แฟนของนายถูกข่มขู่จนทำให้ต้องรู้สึกหวาดกลัว อย่างไรก็ตามหากนายทำอะไรลงไปโดยไม่ติดไตร่ตรองให้ดีก่อนนายอาจจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำกลายเป็นเหยื่อเสียเอง หยุนเฟยหยางผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนที่เราจะจัดการได้ง่ายๆโดยไม่ระมัดระวัง ไม่แน่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้อาจจะมีเขาเป็นส่วนรู้เห็นด้วยก็ได้…”
เมื่อเห็นใบหน้าที่มืดมนของจี้เฟิงเหมือนจะไม่รับฟังอะไรเลยจี้ช่าวเหลยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดขมับ แม้ว่าหยุนเฟยหยางจะเป็นมาเฟียและไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการกับเขา แต่การจะแตะต้องหยุนเฟยหยางย่อมเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น มันจะทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังที่แท้จริงยิ่งระมัดระวังตัวมากขึ้น และหากจะกำจัดคนพวกนั้นทั้งหมดแบบถอนรากถอนโคนมันก็จะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป
“น้องสามอันตรายจากหยุนเฟยหยางมันอาจจะไม่ได้ร้ายแรงที่สุดแม้ว่าในสายตาของคนส่วนใหญ่จะมองว่าเขาเป็นคนใหญ่คนโตจนได้ชื่อว่ามาเฟียใหญ่แห่งเจียงโจวแต่แท้จริงแล้วเขาไม่ได้เป็นคนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นด้วยซ้ำ” จี้ช่าวเหลยพูดอย่างจริงจัง “ถ้าไม่ใช่เพราะบุคคลที่อยู่เบื้องหลังของเขามีเหรอที่หยุนเฟยหยางจะมีความสามารถในการทำเรื่องชั่วร้ายมากมายได้ขนาดนี้
“แล้วพี่รองจะให้ปล่อยไปเฉยๆ…”จี้เฟิงขมวดคิ้วและถาม “ให้ปล่อยไว้แบบนี้แล้วความปลอดภัยของเล่ยเล่ยล่ะ?!”
จี้ช่าวเหลยกล่าวว่า“ก่อนหน้านี้เราก็เคยคุยกันไปแล้วไม่ใช่หรือว่าเรื่องนี้เราจะต้องปรึกษาหารือกันอย่างถี่ถ้วน!”
“ไม่!ผมจะไม่อดทนรออีกต่อไป!” จี้เฟิงส่ายหัว “พี่รองไม่ต้องเป็นกังวล ผมรู้ว่าผมควรจะทำอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมรับปากว่าผมจะไม่ประมาท!”
“ถ้านายมั่นใจว่านายจะไม่ประมาทก็ตามใจนายแล้วกัน!”จี้ช่าวเหลยพยักหน้าเล็กน้อย การขวางเรือในน้ำเชี่ยวไม่ใช่เรื่องที่ดี “เอาเป็นว่าฉันจะทิ้งรถไว้ให้นายใช้ก็แล้วกัน ฉันกับต้วนเผิงจะนั่งแท็กซี่กลับ ก่อนที่จะดึกมากไปกว่านี้พวกเราควรกลับกันได้แล้ว นายก็พักผ่อนเถอะ!”
จี้ช่าวเหลยรู้ดีว่าจี้เฟิงจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆอย่างแน่นอนดังนั้นเขาจะต้องกลับไปให้เร็วที่สุดเพื่อรายงานเรื่องนี้กับพ่อของเขาจะได้ให้พ่อของเขาตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า“โอเค งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง!”
เมื่อเห็นว่าจี้เฟิงยืนยันที่จะทำเช่นนั้นจี้ช่าวเหลยจึงไม่ได้พูดอะไรออก พวกเขาจึงเดินออกมาจากวิลล่า ในครั้งนี้จี้เฟิงรับหน้าที่เป็นคนขับรถและพาพวกเขาไปยังถนนที่ใกล้ที่สุด เพราะย่านของวิลล่านั้นอยู่ห่างไกลเกินกว่าจะเรียกรถแท็กซี่ได้
เมื่อเห็นว่าจี้ช่าวเหลยและต้วนเผิงนั่งรถแท็กซี่ออกไปแล้วสีหน้าของจี้เฟิงก็มืดครึ้มลงทันที ไม่ว่าใครที่อยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนหยุนเฟยหยางมันก็ไม่อาจมาเปลี่ยนชะตากรรมของเขาได้ อีกทั้งจี้เฟิงยังต้องคิดให้ออกว่าคนที่ลงมือข่มขู่ถงเล่ยในครั้งนี้เป็นฝีมือของหยุนปิงหรือหยุนเฟยหยางกันแน่!
ในความมืดจี้เฟิงขับBMWx6 อย่างรวดเร็วหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาถึงวิลล่าบ้านพักของเขา
ก่อนที่จะไปหาหยุนเฟยหยางก่อนอื่นเขาต้องจัดการเรื่องของถงเล่ยกับเซียวหยูซวนเสียก่อนไม่เช่นนั้นต่อให้ออกไปทำธุระ เขาก็จะไม่มีสมาธิเพราะไม่สบายใจ
แต่พอจี้เฟิงกลับมาถึงวิลล่าเขาก็ต้องตกใจ
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าในห้องนั่งเล่นเซียวหยูซวนและถงเล่ยกำลังนั่งด้วยกันอยู่บนโซฟาต่างคนต่างกอดหมอนและนั่งดูทีวีอย่างเพลิดเพลิน
สิ่งที่ทำให้จี้เฟิงไม่อาจละสายตาไปได้ก็คือการแต่งกายของหญิงสาวทั้งสองคนนั้นดูวาบหวิวเกินไปดังนั้นเมื่อแวบแรกที่จี้เฟิงเห็นโดยไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวและสั่นไหวโดยไม่อาจห้ามได้และไฟชั่วร้ายที่อธิบายไม่ได้ก็ระเบิดออกมาทันที เขาแทบจะไม่สามารถห้ามตัวเองให้หยุดการกระทำในสิ่งที่หัวใจและร่างกายต้องการและปรารถนาได้!
The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ – บทที่ 233 เช็คอินวิลล่า
บทที่ 233 เช็คอินวิลล่า
Posted by ? Views, Released on กันยายน 15, 2022
, The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ
Status: Ongoing
Action ดราม่า ต่อสู้ นิยายจีน นิยายแปล ฝึกฝน พลัง ระบบ รักวัยเรียน อัจฉริยะ ฮาเร็ม เทคโนโลยี แฟนตาซี โรแมนซ์