คำตอบได้ปรากฏออกมาแล้ว จากนั้นวาฬหัวทุยชรกาก็ถามต่อว่า “นายเป็นพี่ชายใช่ไหม?”
ฉินสือโอวตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วถามกลับว่า “พี่ชายอะไร นายเป็นใคร?”
วาฬหัวทุยชราตอบกลับว่า “พี่ชายก็คือพี่ชาย ฉันชื่อทา นายไม่ใช่ทาทา ก็ไม่ใช่พี่ชาย งั้นนายเป็นใคร?”
ฉินสือโอวอยากจะยกมือขึ้ตบปากตัวเองสักสองสามี เขาอยากจะตื่นจากฝัน เขาอยากรู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่รึเปล่า ทุกอย่างดูเหมือนฝันไปหมด มันเกินจริงเกินไป วาฬหัวทุยชราตัวนี้ยังมีพี่ชายอยู่งั้นเหรอ? แล้วยังมีจิตสำนึกชัดเจนขนาดนี้เลยงั้นเหรอ? แล้วยังรู้จักถูกผิดอีก? มันจะเป็นไปได้อย่างไร!
ในเมื่อการสื่อสารได้เริ่มขึ้นแล้ว ส่วนที่เหลือก็ง่ายขึ้นมาทันที ฉินสือโอวพูดว่า “ฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย ฉันเป็นเจ้าของฟาร์มปลาในน่านน้ำแห่งนี้ เมื่อก่อนฉันไม่เคยเจอคน…ไม่ใช่สิ ไม่เคยมีปลาที่สามารถพูดได้ ทำไมนายถึงพูดได้ล่ะ?”
วาฬหัวทุยชราเงียบไปอีกครั้ง จากนั้นมันก็มองมายังฉินสือโอวตรงๆ
ฉินสือโอวไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาลังเลว่าจะขู่มันด้วยคำพูดเพื่อให้มันกลัวต่อไปดีหรือไม่ เพราะว่าวาฬหัวทุยชราตัวนี้ดูท่าจะขี้กลัวซะด้วย
แต่ไม่นาน วาฬหัวทุยชราก็พูดขึ้นว่า “นายเป็นเจ้าของฟาร์มปลางั้นเหรอ? งั้นนายก็คือพี่ชาย พี่ชายก็เป็นเจ้าของฟาร์มปลา”
ฉินสือโอวยิ้มออกมา แม่งเอ๊ย ที่แท้พี่ชายของนายก็เคยควบคุมน่านน้ำนี้ เลยคิดว่าน่านน้ำแห่งนี้เป็นของตัวเองหรืออย่างไร? ในขณะที่เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้ จู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ วาฬหัวทุยชราเรีกยน่านน้ำว่าฟาร์มปลา และไม่ได้พูดอะไรอีก นั่นก็หมายความว่า มันรู้ว่าที่นี่เป็นฟาร์มปลา!
มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่เรียกน่านน้ำทะเลว่าฟาร์มปลา!
งั้นพี่ชายของวาฬหัวทุยชราก็คือ…คุณปู่รองของเขา! ทันใดนั้นฉินสือโอวก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดขึ้นมาทันที!
เป็นเรื่องยากที่จะห้ามตัวเองไม่ให้ตื่นเต้น เขาถามออกมาว่า “พี่ชายของนาย ชื่อว่าฉินหงเต๋อใช่ไหม?”
ปากใหญ่วาฬหัวทุยชราอ้าขึ้นลงช้าๆ “ไม่ใช่ พี่ชาย เขาอยู่ทุกที่ เขาให้ฉันเรียกเขาว่าพี่ชาย แต่เขาไม่ได้ปรากฏตัวมานานแล้ว”
“พวกนายเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อไร? ใช่ประมาณห้าสิบปีที่แล้วหรือเปล่า?” ตอนนี้ฉินสือโอวได้คาดการณ์พี่ชายของวาฬหัวทุยชราไว้คร่าวๆ แล้ว
วาฬหัวทุยถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า “ห้าสิบปีเหรอ? ไม่รู้สิ นานมากแล้วที่ไม่เจอพี่ชาย ครั้งที่แล้วพี่ชายบอกว่า เขาใกล้ตายแล้ว เขาไม่ให็ฉันมาที่ฟาร์มปลาอีก เขาบอกว่าฟาร์มปลาอันตรายเป็นอย่างมาก เขาตายไปแล้ว จะมีคนไม่ดีมากมายเข้ามาที่ฟาร์มปลา”
ฉินสือโอวแน่ใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก พี่ชายของวาฬหัวทุยชรานี้ก็คือคุณปู่รองของเขา!
ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ยินเออร์บักพูดว่า ครั้งหนึ่งจากฝีมือของคุณปู่รอง ฟาร์มปลาต้าฉินนั้นร่ำรวยและยอดเยี่ยมเป็นอันดับหนึ่ง มีคนมาขโมยปลาที่นี่มากมาย แต่ก็ถูกเขาไล่ไปจนหมด
ต่อมา เมื่อคุณปู่รองจากโลกนี้ไป ฟาร์มปลาก็ไม่มีคนคอยดูแล ในช่วงปีแรกๆ มีเรือประมงหาปลาเข้ามาที่นี่เป็นจำนวนมาก ทำให้ฟาร์มปลาที่อุดมสมบูรณ์กลายเป็นน่านน้ำที่ไร้ชีวิตอย่างรวดเร็ว
เพระาเหตุนี้ ภาพเหตุการณ์อันน่าประทับใจจึงปรากฏขึ้นในหัวของเขา สิบกว่าปีก่อน ชายวันกลางคนคนหนึ่งได้พบกับลูกวาฬหัวทุยตัวเล็กที่มีจิตสำนึกอิสระตัวหนึ่งเข้า หลังจากนั้นเขาก็ให้วาฬหัวทุยเรียกตัวเองว่าพี่ชาย และพามันกลับมายังฟาร์มปลา
วันเวลาผ่านไป ชายวันกลางคนได้เปลี่นเป็นชายชรา ลูกวาฬหัวทุยก็ได้กลายเป็นวาฬหัวทุยโตเต็มวัย วันหนึ่งในวันที่ชายชราใกล้จะจากโลกนี้ เขาไปหาวาฬหัวทุยและบอกกับมันว่า ตัวเขาจะตายแล้ว ให้มันออกจากฟาร์มปลาเพื่อป้องกันตัวจากเรือประมงที่แอบเข้ามาด้วยความโลภ
หลังจากนั้น เวลาก็ผ่านล่วงเลยไปสิบกว่าปี วาฬหัวทุยโตเต็มวัยก็เปลี่ยนเป็นวาฬชรา มันกลับมาที่ฟาร์มปลาอีกครั้ง มันกลับมายังสถานที่ที่ครั้งหนึ่งมันเคยอยู่กับพี่ชาย…
เมื่อลองนึกดภาพตามเหตุการณ์เหล่านี้ ฉินสือโอวก็ปั้นหิมะให้เป็นรูปร่างของวาฬหัวทุยชรา และเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคุณปู่รอง ทันใดนั้น น้ำตาของเขาก็ไหลออกมา!
วาฬหัวทุยชราไม่เข้าไปรบกวนฉินสือโอว มันอายุมากแล้ว คุ้นชินกับความเงียบสงบ ในตอนที่ฉินสือโอวนึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมด มันก็มองไปยังเขาด้วยความแปลกใจ
เขาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งในใจ จากนั้นฉินสือโอวก็ดึงสติของตัวเองกลับมาแล้วพูดว่า “พี่ชายของนาย คือคุณปู่ของฉัน…”
เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่จะต้องพูดแบบนี้ นี่คงไม่ได้หมายความว่าเขาต้องเรียกวาฬหัวทุยตัวนี้ว่าปู่หรอกนะ?
ยังดีที่วาฬหัวทุยชราไม่รู้เรื่องนี้ มันยังคงมองเขาด้วยความแปลกใจ แล้วรอให้เขาพูด ฉินสือโอวจึงพูดออกมาว่า “ทุกอย่างนี้พี่ชายของนาย สอนนายใช่ไหม? พวกนายอยู่ด้วยกันนานมากเลยสินะ?”
วาฬหัวทุยชราตบอกลับช้าๆ ว่า ”ใช่ พี่ชายสอนฉัน พวกเราอาศัยอยู่ด้วยกันนานมาก ฉันแก่ลง พี่ชายเลยให้ฉันทานแมลงอายุยืน เมื่อฉันทานแมลงอายุยืน ฉันจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้ หลังจากนั้นฉันก็จะคายสิ่งที่ย่อยไม่ได้ แล้วพี่ชายก็จะทานได้”
สมองของฉินสือโอวทำงานอย่างหนัก เขากำลังวิเคราะห์คำพูดของมัน
โดยที่ไม่ต้องสงสัย แมลงอายุยืนก็คือแมลงประหวาดที่เขาตั้งชื่อมันว่าแมลงยักษ์สีดำ วาฬหัวทุยชรามีอายุยืนยาวขึ้นเมื่อทานแมลงนี้เข้าไป คราวนี้มันคงอยู่มาจนถึงช่วงเวลาหมดอายุขัยอีกครั้ง มันจึงกลับมาเพื่อหาแมลงอายุยืน
ครั้งที่แล้วที่เขาเห็นวาฬหัวทุยชราก็เป็นตอนที่เขาพาทีมไปจับแมลงอายุยืน แสดงให้เห็นว่าวาฬหัวทุยนี้กินมันจริงๆ หรือพูดได้ว่า หน้าที่นี้ได้รับวาฬหัวทุยเข้ามาดูแลจัดการ!
แต่ว่ามีเรื่องหนึ่งที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล นั่นก็คือในเมื่อวาฬหัวทุยทานแมลงอายุเพื่อที่จะเพิ่มอายุขัยได้ แล้วทำไมปู่ของเขาไม่ทำแบบนั้นบ้างล่ะ? ฉินสือโอวอยากจะเข้าใจเรื่องนี้ เขาจะรอให้เขาและครอบครัวแก่ก่อน แล้วมาทานแมลงยักษ์สีดำเพื่อเพิ่มอายุของตัวเอง
นอกจากนี้ คำพูดสุดท้ายของวาฬหัวทุยชรานั้นทำให้เขาประหลาดใจ มันกินแมลงอายุยืนเข้าไปแล้วไม่สามารถย่อยแมลงได้หมด มีของบางอย่างที่ย่อยไม่ได้และต้องคายออกมา แล้วให้คุณปู่รองของเขากิน หรือว่า คุณปู่รองของเขาดูดซับของสิ่งนั้น
เช่นนั้น แล้วมันคายอะไรออกมาล่ะ? เห็นได้ชัดว่า คนบางที่จะต้องเรียกมันว่า ‘อาหารโพไซดอน’ และคนอีกพื้นที่หนึ่งจะเรียกมันว่า ‘อำพันทะเล’ แน่นอน!
มิน่าเขาถึงสามารถถึงสามารถแยกอัตลักษณ์ของอำพันทะเลได้ และไม่น่าแปลกใจเลยที่ของสิ่งนี้จะถูกเรียกว่าอาหารโพไซดอน
อาจจะมีใครบางคนเจอเข้ากับวาฬหัวทุยที่มีจิตสำนึกอิสระแบบนี้ และในตอนนั้นวาฬเหล่านี้ก็คายกระดองแมลงที่ไม่สามารย่อยในท้องได้ออกมา เนื่องว่าเมื่อมนุษย์เห็นว่าพวกมันทานของพวกนั้น นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘อาหารโพไซดอน’!
เรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก อันดับแรกในสมัยโบราณ วาฬหัวทุยมีขนาดใหญ่ถึงยี่สิบเมตรถือว่าเป็นสิ่งชีวิตที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก พวกมันสามารถคว่ำเรือไม้ได้ และสร้างความเสียหายให้กับหมู่บ้านริมทะเลได้ด้วยพายุคลื่น เมื่อรู้อย่างนี้แล้วพวกมันก็เหมือนกับปีศาจแห่งท้องทะเล
แต่ว่า พวกมันก็ยังสามารถช่วยเรืออับปางและช่วยเหลือเรือที่เกยตื้นด้วยร่างกายอันใหญ่โตของมันได้ เมื่อมองดูจากมุมนี้ มันเป็นเหมือนกับเทพโพไซดอน
ประกายที่สอง ถ้าหากว่าวาฬหัวทุยนั้นมีจิตสำนึกที่เป็นอิสระ และมีสติสัมปัญญาเหมือนกับมนุษย์ แบบนั้นมันก็สามารถทำอะไรได้มากมาย หากพวกมันโชคดีเหมือนกับวาฬหัวทุยชราตัวนี้เสียหน่อย เช่นว่าวาฬหัวทุยชราตัวนี้ได้รับการฝึกฝนและการชี้แนะ แบบนั้นมันก็จะยิ่งกลายเป็นเทพโพไซดอนที่สง่างาม
แต่เรื่องที่คิดไม่ตกก็คือ ทำไมคุณปู่รองของเขาไม่ยอมทานกระดองแมลงอายุยืนกันนะ? หากดูตามสถารการณ์ของต้าป๋าย แมลงยักษ์สีดำนั้นก็สมควรได้รับชื่อว่าแมลงอายุยืนจริงๆ มันได้ผลอย่างมากสำหรับการยืดอายุ
เนื่องจากเขาไม่ออก เขาจึงถามออกมา และวาฬหัวทุยชรานั้นก็ตอบเขากลับว่า “พี่ชายบอกว่า เขาเป็นสัตว์ประหลาด เขามักจะทำตัวแปลกๆ เขาไม่อยากให้คนมองเขาประหลาดไปมากกว่านี้ ดังนั้นเขาจึงยอมตายตามธรรมชาติ”
…………………….