บทที่ 3 เกมที่เรียบง่ายแต่สร้างความประทับใจให้กับผู้เล่น
ความรู้ทางคณิตศาสตร์บางอย่างแวบเข้ามาในความคิดของเฉินโม่ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำของเขา เฉินโม่รู้สึกได้ว่าความสามารถในการคำนวณของตนเองดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นมาก
“นี่มันดีจริงๆ ถ้ากินไปสักร้อยเล่มความสามารถด้านคณิตศาสตร์ของฉันไม่เต็มเลยเหรอ ไม่เป็นไร กินร้อยเล่มก็เท่ากับหนึ่งล้านหยวน ไม่แพงเลยสักนิด…ช่างเถอะ ยังไงมันก็แค่การปล้นถูกไหม”
“เงินหนึ่งหมื่นหยวนเพื่อซื้อคุณสมบัติบางอย่าง เหมือนเป็นการเสียเงินไปเปล่าๆ!”
“ใจเย็นๆ”
“เงินพวกนี้ไม่เท่าไหร่ ถือว่าได้สร้างเกมฮิต มูลค่าการซื้อขายต่อเดือนเกินหนึ่งล้าน ก็พอสำหรับฉันที่จะจับรางวัลสักพักใหญ่ๆ”
ในขณะที่ปลอบใจตัวเองเฉินโม่ยังคงคลิกปุ่ม ‘จับรางวัล’
‘คลิก’ สีเขียว
‘คลิก’ สีเขียว
‘คลิก’ สีเขียว
……………………
เฉินโม่อยากจะก่นด่า จับรางวัลมาสี่ครั้งด้วยคะแนนสี่แสนคะแนน แต่กลับจับได้คู่มือนักออกแบบสี่เล่ม
ความชิบหายนี้แปลงเป็นเงินสดสี่แสนหยวน!
เหลือ 190,000 คะแนนซึ่งเพียงพอสำหรับการจับรางวัลครั้งสุดท้าย
แน่นอนว่าข้างวงล้อหมุนมีปุ่ม ‘เติมเงิน’ ที่อยู่ใกล้กันมากๆ เฉินโม่กดเข้าไปแปปหนึ่ง แต่ก็ปิดลงอีกครั้งหลังจากผ่านไป 0.5 วินาที
การแลกเปลี่ยนเงินสดเป็นคะแนนมีอัตราส่วน 1:10 โดยไม่มีส่วนลดใดๆ ต่อให้เป็นการเติมครั้งแรกสองเท่าก็ไม่มี
“โชคร้ายจริงๆ เกมเพนกวินก็ยังเทียบกันไม่ได้”
เพื่อชดเชยคะแนนที่เหลือ เฉินโม่ต้องทำให้ได้สามพันคะแนนซึ่งมากกว่าสามร้อยหยวน แต่ตอนนี้แม้แต่ข้าวเฉินโม่ยังซื้อไม่ได้ เงินสามร้อยหยวนนี้เขาไม่อยากใช้เลยจริงๆ มันเจ็บปวดมาก
“ครั้งสุดท้ายแล้วนะ หากจับไม่ได้อีกก็ไม่เป็นไร แย่ที่สุดก็แค่ไม่เข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเกม เดือนหน้าออกแบบเกมสักหนึ่งเกมก็ยังได้รับคุณสมบัติของนักออกแบบเกมระดับ D”
เฉินโม่กัดฟันแล้วกดปุ่ม ‘จับรางวัล’ เป็นครั้งสุดท้าย ปากบอกว่าไม่ต้องการ แต่ร่างกายของเขาค่อนข้างซื่อตรง เฉินโม่รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรง มือของเขาสั่นเล็กน้อย
ในตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจความคิดของเหล่ารุ่นพี่ที่เลิกการพนันขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะหากจับได้คู่มือในช่องสีเขียวอีกคงได้ขึ้นชั้นดาดฟ้าจริงๆ
เสียง ‘คลิก’ ดังขึ้น เข็มวงล้อหยุดลง
พื้นที่สีม่วง! ‘Special Item’!
เฉินโม่เด้งตัวขึ้นทันที เฮ้ ขอเพียงให้มุมานะพยายาม สวรรค์ก็จักช่วยให้ประสบความสำเร็จ!
หีบสมบัติปรากฏเพิ่มขึ้นมาบนหน้าจอ เฉินโม่ลองแตะมัน ‘คลิก’ หีบสมบัติเปิดออกพร้อมกับมีแสงสีทองเปล่งแสงออกมา
เฉินโม่มองดูใกล้ๆ : ‘Special Item : Super Focuser’ นอกจากนี้ยังมีคำอธิบายประกอบ
‘Super Focuser : เป็นไอเทมที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวและใช้ได้นานสิบนาที หลังเปิดการใช้งานจะสามารถโฟกัสความสนใจของคนห้าร้อยคนไว้ที่ไหนก็ได้ แต่เมื่อเลือกจุดโฟกัสแล้วจะมีผลทันทีและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้’
เฉินโม่เกาหัว เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรจึงต้องอ่านคำอธิบายอีกรอบหนึ่ง
พอจะเข้าใจแล้ว แต่สิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับเกม
เฉินโม่คิดอยู่นาน สิ่งเดียวที่เขานึกออกคือสิ่งนี้ใช้ในการแข่งขันออกแบบเกม และใช้ได้เพียงช่วงเวลาอันสั้น เป็นการรวมสายตาของผู้ชม และผู้ตัดสินทั้งหมดไปที่เกมของตน
แต่ว่า…หลังจากโฟกัสแล้วล่ะ
สามารถโฟกัสได้เพียงสิบนาทียิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นเพียงการดึงความสนใจไปที่เกมของตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้อื่นเกี่ยวกับเกมของตัวเองได้
ถ้าเกมไม่สนุกจริงๆ และยังบังคับให้คนอื่นเล่น เกมนั้นอาจส่งผลในทางลบ
“ลองคิดดูอีกที มันต้องมีสักทางสิ”
เฉินโม่ไม่ยอมแพ้ กว่าเขาจะได้ไอเทมจากช่องสีม่วงมานั้นมันไม่ง่ายเลย ผลกลับกลายเป็นว่าใช้การไม่ได้มันไม่น่าตลกไปหน่อยเหรอ
ตอนนี้เฉินโม่ต้องการเกมประเภทหนึ่ง ที่ต้องไม่ซับซ้อนเกินไป
จำกัดพื้นที่ภายใน 6MB และผู้ชมจะหลงรักมันหากเล่นต่อไปเรื่อยๆ ประมาณสิบนาที
ถึงไม่ตกหลุมรัก แต่อย่างน้อยก็ต้องทิ้งความประทับใจไว้ลึกๆ ต้องมีลูกเล่นบางอย่างถึงจะมีความหวังว่าจะชนะการแข่งขันการออกแบบเกม
“ดูเหมือนเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ทำให้ฉันลำบาก ในชีวิตก่อนพบเจอเรื่องต่างๆ มากมาย มีเกมประเภทไหนที่ไม่เคยเห็นบ้างนะ”
“โอเค เริ่มกันเลย!”
เมื่อมีเป้าหมายแล้ว เฉินโม่นั่งหน้าแล็ปท็อปอีกครั้งแล้วเปิดซอฟต์แวร์ตัดต่อเกม
เดิมทีเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้เลย แต่ด้วยไอเทม Super focuser จึงมีความเป็นไปได้เล็กน้อย แต่ก็ค่อนข้างมีความหวังอยู่
แน่นอนว่าก่อนที่จะออกแบบ เฉินโม่ยังคงกินคู่มือไปก่อนจำนวนหนึ่ง รวมเป็นคู่มือทักษะทางคณิตศาสตร์สามเล่ม และคู่มือระดับเกมหนึ่งเล่ม
ที่จริงมันไม่มีประโยชน์อะไร แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ซอฟต์แวร์ตัดต่อเกมนั้นใช้งานไม่ยาก เฉินโม่สามารถเริ่มต้นได้หลังจากทำความคุ้นเคยกับมันเล็กน้อย
หลังจากดาวน์โหลดพื้นที่ที่เหลือทั้งหมด 6MB แล้ว เฉินโม่ก็เริ่มเขียนไฟล์ออกแบบ เพราะเกมมีขนาดไม่ใหญ่ ไฟล์ออกแบบเขียนเพียงไม่กี่ร้อยคำก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ในเรื่องของพื้นที่จำเป็นต้องใช้อย่างประหยัดเขาจึงใช้ทรัพยากรของระบบร่วมกันที่เป็นเวอร์ชันฟรีในซอฟต์แวร์ตัดต่อเกม ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยก็สามารถใช้การได้
ส่วนประกอบหลักของเกมเสร็จสิ้นในคืนนั้น และเมื่อเฉินโม่ตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เขาก็สร้างระบบเครือข่าย และฟังก์ชันการจัดลำดับแบบเรียบง่าย ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้น
หลังจากทำเสร็จแล้ว เฉินโม่ก็ทดลองเล่นดูซึ่งความรู้สึกก็ไม่ต่างจากงานเดิมในชีวิตก่อนของเขามากนัก
หลังสร้างแพ็กเกจการติดตั้งเสร็จแล้ว เฉินโม่ก็ส่งเกมนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ของการแข่งขันออกแบบเกม ส่วนเกมนี้จะได้รับการยอมรับหรือไม่นั้นจะได้รู้กันในวันแข่งขัน
…………………………
วันแข่งขัน
เฉินโม่สวมสูททางการเพียงชุดเดียวของเขา และเดินทางมาถึงสถานที่แข่งขันออกแบบเกมตรงเวลา
เดือนสิงหาคมในเมืองปักกิ่งนั้นร้อนมาก เฉินโม่ในชุดเต็มยศรู้สึกเหมือนตัวเองในตอนนี้คล้ายกับคนปัญญาอ่อน แต่โชคดีที่เครื่องปรับอากาศในสถานที่แข่งขันค่อนข้างแรง หลังจากเป่าไปพักหนึ่งอากาศก็เย็นขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้ตัดสิน ผู้เข้าแข่งขัน และผู้ชมต่างจับจองที่นั่งตามลำดับภายใต้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ การเตรียมการเกี่ยวกับการแข่งขันก็ดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เหลือแค่รอเริ่มการแข่งขัน
จำนวนผู้เข้าชมในที่นี้มีจำนวนไม่น้อยเลย ประมาณหกเจ็ดร้อยคนได้
การแข่งขันออกแบบเกมในครั้งนี้เป็นการแข่งขันขนาดเล็ก ไม่เพียงแต่จัดให้มีการถ่ายทอดสด และวิดิโอบันทึกภาพตลอดการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเชิญนักออกแบบเกมอาวุโสสามคนมาเป็นผู้ตัดสินด้วย
สำหรับรางวัลการแข่งขันนั้นมีมูลค่ามาก อันดับที่หนึ่งจะได้รับทุนพัฒนาเกมเป็นจำนวนสามแสนหยวน คุณสมบัติของนักออกแบบเกมระดับ D และ Game Experience Store[1]เป็นของตัวเอง
ไม่ต้องพูดถึงเงินทุนวิจัยและพัฒนาจำนวนสามแสนหยวน ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก แต่สิ่งที่ดึงดูดนักออกแบบมากกว่าคือรางวัลสุดท้าย Experience Store ส่วนตัวสุดพิเศษ!
Experience Store ถือเป็นพื้นที่แสดงผลงานของนักออกแบบเกม ซึ่ง Experience Store จะมีขนาดแตกต่างกันไป และสามารถเลื่อนระดับเป็นนักออกแบบเกมระดับ SSS ได้ Experience Store อาจเป็นอาคารทั้งหลังและอาจกลายเป็นสถานที่ ‘แสวงบุญ’ สำหรับผู้เล่นทุกคน
ในเรื่องของรูปแบบ Experience Store จะเหมือนกับร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ แต่การใช้งานจะแตกต่างกัน
ความจริงแล้ว Experience Store ไม่ได้แสวงหาผลกำไร หนึ่งคือเป็นสตูดิโอสำหรับนักออกแบบเกม สองคือใช้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับสื่อสารกับผู้เล่น
เมื่อเหล่าผู้เล่นมาที่ Experience Store พวกเขาสามารถสื่อสารกับนักออกแบบเกมตัวต่อตัว เสนอความคิดเห็น และลองเล่นเกมใหม่ล่าสุดของนักออกแบบเกมได้หากนักออกแบบเกมคิดว่าเกมนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วจะเปิดตัว หรือดำเนินการอย่างเป็นทางการก็ได้
แน่นอนว่าหากเป็นเพียงการทดสอบ เหล่านักออกแบบเกมสามารถปล่อยเกม Beta Testing[2] เชิญชวนให้ผู้เล่นเข้ามาเล่นได้ เพียงแต่เหล่านักออกแบบเกมในโลกนี้ชอบรูปแบบของ Experience Store มากกว่า เนื่องจากผู้เล่นใน Experience Store ล้วนเป็นคนที่มีชีวิต การสื่อสารแบบเห็นหน้ามีส่วนช่วยให้พวกเขาสะสมแรงบันดาลใจ
ดังนั้น Experience Store จึงค่อยๆ กลายเป็นสัญลักษณ์ในด้านตัวตนของนักออกแบบเกม หากนักออกแบบเกมไม่มี Experience Store เป็นของตัวเอง พูดออกไปก็อาจโดนดูถูกเอาได้
ซึ่งเฉินโม่เองก็รู้ถึงความล้ำค่าของExperience Store หากเปิดเป็นของตัวเองได้ละก็ ค่าเช่าร้านในแต่ละเดือนเป็นจำนวนไม่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เฉินโม่ในตอนนี้ไม่สามารถซื้อมันได้เลย
ดังนั้น เฉินโม่ต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ได้!
…………………………………….
[1] Experience Store : พื้นที่ที่คนสามารถแวะมาเล่น เรียนรู้ หรือหาคำตอบกับผู้เชี่ยวชาญ เป็นสถานที่ให้ประสบการณ์การใช้งานอย่างเต็มที่ ถือเป็นอีกหน้าต่างที่ดีที่สุดในการตัดสินใจของลูกค้า
[2] Beta Testing : เป็นการทดสอบโดยผู้ใช้จริง
