Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 577

ตอนที่ 577

ในความจริงแล้วการผสานการโจมตีของฮานกุยและเจ้าตัวนิ่มไม่ได้ทรงพลังอย่างที่กู่ซานฉิงคิด ต่อให้เป็นราชาพันปีเองก็อาจจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นหากไม่ได้ชนเข้ากับดาวตกตรง ๆ

การโจมตีที่รุนแรงที่สุดคือการโจมตีในเวลาที่เหมาะสมที่สุดและสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด ถึงแม้ว่าสังหารอีกฝ่ายไม่ได้แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายอ่อนแอลงได้

‘ดูเหมือนถึงเวลาที่ต้องไปเยี่ยมพวกเขามั้งแล้ว’ กู่ซานฉิงคิดกับตัวเองก่อนจะค่อย ๆ หายไป

ที่น่าแปลกใจคือไม่มีใครสังเกตเห็นการปรากฎตัวของกูซานฉิงแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะยืนอยู่กลางอากาศมาเป็นเวลานานก็ตาม

ที่คฤหาสน์ตระกูลหลี่ สมาชิกตระกูลหลี่กำลังผ่อนคลายและลืมความกังวลไปจนหมด พวกเขากำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน

“ราชาพันปี ! ตระกูลหลี่ของเราในที่สุดก็กลายเป็นตระกูลที่ติดอันดับแล้ว” หลี่เหลียงพึมพำกับตัวเอง ตระกูลที่ไม่มีตัวตนระดับราชาพันปีนั้นไม่มีทางติดชื่อตระกูลที่ติดอันดับ แต่ตอนนี้พวกเขามีราชาพันปีแล้ว หลี่เหลี่ยงจึงเริ่มวางแผนให้ตระกูลรุ่งเรือง

‘ในที่สุดตระกูลหลี่ของเราก็มีราชาพันปี น่าเสียดายที่หลี่ปู้ถูกเก็บมาเลี้ยงและไม่ใช่สมาชิกทางสายเลือดของตระกูลหลี่ ข้าจะต้องทำตัวดี ๆ กับเขาเพื่อไม่ให้ตระกูลอื่นมาแย่งตัวเขาไปได้’

หลี่ไป๋ยู่คิดถึงอนาคต ตระกูลหลี่มีสมาชิกหลักน้อยเกินไป ใครจะไปรู้ว่าหลี่ปู้จะมีความคิดไม่ดีในอนาคตหรือไม่

“บู่ฮุย ในเมื่อปัญหาถูกแกไขแล้วอาจารย์คงต้องขอตัวก่อน อย่าลืมกลับมาก่อนถึงเวลาสอบล่ะ” ถังหลี่รู้สึกประหลาดใจไม่น้อยกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่ามันจะเป็นทางที่ดีก็ตาม

หลี่บู่ฮุยพยักหน้าและพูดขึ้น “เข้าใจแล้วค่ะ อาจารย์”

เธออดทนและเต็มไปด้วยความเครียดมานานเพราะกลัวว่าตระกูลเจิ้งจะทำอะไรกับตระกูลของเธอ เธออดทนมันมาตลอดและใช้มันเป็นแรงผลักดันให้เธอต้องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเทียนมู่ให้ได้

แต่ยิ่งเธอต้องการ มันก็ยิ่งยากที่จะทำได้

ตอนนี้ปัญหาจากตระกูลเจิ้งได้จบลงแล้ว เธอรู้สึกโล่งใจมากและตอนนี้ก็ได้เวลามุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนของตัวเองได้ทั้งหมด ตราบใดที่ไม่มีภาระบนบ่าของเธอ เธอมั่นใจว่าเธอจะทำลายคอขวดไปยังระดับสี่ของร้อยปีได้อย่างง่ายดาย !

“เอาล่ะ อาจารย์กลับโรงเรียนก่อน”

ถังหลี่กล่าวคำอำลา เหตุผลเดียวที่เธออยู่ที่นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของหลี่บู่ฮุย ตอนนี้ภัยคุกคามได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว มันจึงไม่มีความจำเป็นที่เธอต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป

เมื่อเห็นถังหลี่กำลังจากไป เป่ยเฟิงจึงพูดขึ้น “มิสถัง ใช่ไหม ? บู่ฮุยบอกข้าแล้วว่าเจ้าเป็นคนเดียวที่สนับสนุนเธอมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เพื่อแสดงความขอบคุณ โปรดรับของขวัญเล็ก ๆ จากข้าไปด้วย”

“ท่านหัวหน้าตระกูลหลี่ บู่ฮุยเป็นนักเรียนของฉัน ดังนั้นมันจึงเป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องทำแบบนั้น นอกจากนี้ฉันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ดังนั้นโปรดนำของขวัญกลับไปเถอะ” ถังหลี่ปฏิเสธอย่างสุภาพ

“ตระกูลของเราให้ความสำคัญในเรื่องความกตัญญูทดแทนคุณ ดังนั้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงจัง มิสถัง โปรดยอมรับมันด้วย” เป่ยเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มในขณะที่ยื่นแหวนมิติให้เธอ

“นี่มัน … ถ้าอย่างนั้นขอขอบคุณท่านหัวหน้าตระกูลหลี่ ยังมีเรื่องอีกมากที่ฉันต้องทำที่โรงเรียน ดังนั้นขอตัว” ถังหลี่หยิบแหวนขึ้นมาด้วยสองมือก่อนจะทำความเคารพและเดินออกไป

เป่ยเฟิงหันมาหาบู่ฮุยและพูดต่อ “บู่ฮุย อย่าอายที่จะขอทรัพยากรในตอนนี้ จงมุ่งเน้นไปที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเทียนมู่ให้ได้ซะ”

ก่อนที่บู่ฮุยจะตอบ เสียงของหลี่ปู้ก็ดังออกมาจากประตู “ท่านหัวหน้าตระกูล ตระกูลเจิ้งถูกกำจัดหมดแล้ว !”

“ว้าว ! ฉีนี่น่ากลัวมาก !”

“ตระกูลเจิ้งถูกทำลายไปแล้ว ? ถ้าอย่างนั้นตระกูลหลี่ของเราก็กลายเป็นผู้นำคนใหม่ของเมืองซานชวนนะสิ !”

เมื่อได้ยินข่าวจากหลี่ปู้ สมาชิกของตระกูลหลี่ก็ตกตะลึงมากและตามมาด้วยความดีใจ

“แล้วมีอะไรอีก ?” เป่ยเฟิงถาม เขามั่นใจอยู่แล้วว่าหลี่ปู้จะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน

“สมบัติและมรดกทั้งหมดของตระกูลเจิ้งก็ถูกทำลายลงไปด้วยเช่นกัน” หลี่ปู้รายงานโดยมีเจ้าสัตว์อสูรทั้งสองตัวทำท่ารู้สึกผิดอยู่ด้านหลังเขา

“อ่อ ? ไม่เป็นไร ถึงจะน่าเสียดาย แต่ข้าอยากรู้ว่ามันถูกทำลายได้ยังไงกัน”

แม้ว่าจะน่าเสียดายที่สมบัติถูกทำลายลงไปทั้งหมด แต่มันก็ไม่ได้ร้ายแรงพอที่จะทำให้เป่ยเฟิงกังวล

“ฮานกุยและเจ้าตัวนิ่มใช้พลังวิญญาณจากนั้นก็ผสานพลังวิญญาณแล้วโจมตีพร้อมกันและนั่นก็ทำให้พลังทำลายล้างของมันเพิ่มขึ้นทวีคูณ มันได้ทำลายคฤหาสห์ตระกูลเจิ้งและทำลายห้องลับใต้ดินไปด้วย” หลี่ปู้รายงานตรงไปตรงมาถึงการทำลายล้างของเจ้าสัตว์อสูรทั้งสอง

“มอ !”

ฮานกุยกระโดดไปข้างหน้าแล้วกัดที่สะโพกของหลี่ปู้ที่ขายมัน ก่อนหน้านี้ในตอนที่กำลังเดินทางกลับ หลี่ปู้สัญญากับพวกมันว่าจะไม่บอกสิ่งที่มันทำ แต่ตอนนี้เขาเลือกที่จะทรยศพวกมัน

อะไรคือคำสัญญาที่คนเราควรปกป้องมันเอาไว้ ?

“กี้ !”

เสียงดังมาจากด้านหลังฮานกุยและเจ้าตัวนิ่ม

เสียงคำรามของเจ้ากระต่ายทำให้สัตว์อสูรทั้งสองกลับมาสงบเสงียมด้วยท่าทางรู้สึกผิด

สัตว์อสูรทั้งสองนั้นยากที่จะทำให้เชื่องแม้ว่าพวกมันจะอยู่ในเทิอกเขาร้อยทำลายก็ตาม

“ลืมมันไปซะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก ยิ่งกว่านั้นพวกเจ้าก็ไม่ได้ทิ้งพวกเราไปในตอนที่เผชิญหน้ากับอันตราย ดังนั้นตราบใดที่พวกเจ้าไม่ได้ทำร้ายพวกเรา พวกเราก็จะไม่ทำร้ายเจ้าเช่นกัน เอาล่ะได้เวลาแจกจ่ายของแล้วพวกเจ้ามาเอาหินวิญญาณระดับสูงกันไปตัวละร้อยก้อน นี่ด้วย สมุนไพรจิตวิญญาณระดับ 9 คนละ 10 ต้น “

เป่ยเฟิงแจกจ่ายทรัพยากรของเขาไปให้ทุกคนด้วยการสะบัดแขนของเขา

“พวกเราจะปกป้องตระกูลไปจนวันตาย !”

ทุกคนถึงกับน้ำตาไหล

หินวิญญาณระดับสูงและสมุนไพรจิตวิญญาณเหล่านี้มันไม่ใช่ของราคาถูก !

สมุนไพรนั้นได้รับการจัดอันดับโดยเริ่มจาก 1 ไปจนถึง 9 ยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งล้ำค่ามากขึ้น

สำหรับผู้ฝึกตนขั้นสี่ของร้อยปีแล้ว สมุนไพรเหล่านี้มันช่วยพวกเขาได้อย่างมหาศาล

สำหรับหลี่ปู้และคนของเขา เป่ยเฟิงมีแผนการใหญ่กว่านั้น แต่เขายังไม่ได้เปิดเผยมันออกมา

“นี่มันจะไม่ทำให้พวกที่หนีไปรู้สึกอิจฉาพวกเราหรอกหรอ ?”

“โชคดีที่ข้าอยู่ต่อ”

นอกเหนือจากหลี่เหลี่ยงและสองพี่น้องที่เหลือ คนอื่น ๆ เป็นเพียงบุตรบุญธรรมเท่านั้น พวกเขาคือคนที่ไม่ได้ละทิ้งตระกูลไปแม้ว่าจะเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่อันตราย ดังนั้นพวกเขาจึงสงสัยมากว่าคนที่หนีไปจะรู้สึกยังไงหากรู้ว่าพวกเขาได้ของล้ำค่ามาขนาดนี้

อย่างที่คิดไว้ เมื่อข่าวชัยชนะของตระกูลหลี่ไปถึงหูของคนที่หนีไป พวกเขาต่างตกใจและรู้สึกเสียใจกับการกระทำของพวกเขา !

“เป็นไปได้ยังไงกัน ? พวกเขาคือตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในเมืองซานชวนไม่ใช่หรอ ?”

“ไม่มีทาง ! ไม่มีทาง !”

“ข้าอยากจะรู้มากว่าทำไมตระกูลหลี่ถึงเอาชนะตระกูลเจิ้งได้ พวกเขาทำได้ยังไงกัน ?”

ผู้ที่ละทิ้งตระกูลหลี่ไปกำลังยุ่งอยู่กับข่าวนี้ พวกเขามีทั้งตกใจและเสียใจกับการกระทำของพวกเขา หากพวกเขาเลือกที่จะไม่หนีไป พวกเขาจะกลายเป็นสมาชิกหลักของตระกูลหลี่และจะได้รับรางวัลจำนวนมาก

“ใช่แล้ว กลับไปกันเถอะ ! ตระกูลหลี่ไม่มีสมาชิกหลักมากนัก ตอนนี้พวกเขาน่าจะเข้ายึดธุรกิจของตระกูลเจิ้ง พวกเขาจะต้องการมือจำนวนมากแน่นอน ดังนั้นมันจึงมีโอกาสสูงมากที่พวกเขาจะต้องใช้พวกเรา !”

กลุ่มคนที่หนีมาตอนแรกรู้สึกยินดีมากเมื่อได้ยินความคิดนี้

“ตระกูลหลี่เลี้ยงดูพวกเรามา แต่พวกเรากลับทิ้งพวกเขาไปในตอนที่พวกเขาตกอยู่ในอันตราย ตอนนี้พวกเขากำจัดศัตรูของพวกเขาไปได้แล้ว พวกเขาไม่มีเวลามาจัดการกับพวกเราจริงไหม ? ไม่ พวกเราไม่ควรจะอยู่เมืองซานชวนอีกต่อไป”

ยังมีบางคนที่กลัวผลที่ตามมาและคิดที่จะหนีไปจากเมืองซานชวน

หลังจากการต่อสู้สิ้นสุดลง เป่ยเฟิงก็ไม่ได้สนใจที่จะจัดการกับเรื่องภายในตระกูล เขาใช้เวลาของเขาในการฝึกฝนต่อไป

ในทางกลับกัน หลี่เหลี่ยง หลี่ไป๋ยู่และหลี่ฮวงต้องมารับหน้าที่ในการจัดการตระกูลและธุรกิจต่าง ๆ เนื่องจากตระกูลหลี่ไม่มีศัตรูในเมืองอีกแล้ว มันจึงทำให้การจัดการของพวกเขานั้นง่ายมาก

“ท่านพ่อ ธุรกิจทั้งหมดของตระกูลเจิ้งถูกพวกเรายึดได้หมดแล้ว”

“อืม ขายพวกมันไปให้เร็วที่สุด” เป่ยเฟิงพูดในขณะหลับตา เขากำลังฝึกการเคลื่อนไหวอยู่ในสวน

“ท่านพ่อ มันมีธุรกิจมากมายของตระกูลเจิ้ง นอกจากนี้พวกเขายังทำมันได้ดีไม่น้อย มันไม่น่าเสียดายงั้นหรือที่เราจะขายพวกมันไปก่อนที่จะหากำไรมากกว่านี้ ?” หลี่เหลี่ยงถาม เขาทนไม่ได้ที่จะขายธุรกิจที่ทำกำไรได้

“แค่ขายมันไปซะ จากนี้ไปพวกเราจะมุ่งเน้นความสนใจทั้งหมดไปที่เมืองเทียนฮวง” เป่ยเฟิงตอบกลับก่อนจะเปลี่ยนเป็นท่าใหม่

เมื่อรู้สึกว่าฉีทวีความรุนแรงมากขึ้น หลี่เหลียงก็ไม่กล้าตั้งคำถามกับเป่ยเฟิง เขาเลือกที่จะทำตามการตัดสินใจของเขา

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท