Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 609

ตอนที่ 609

หัวใจของโจววูทิ้งดิ่ง เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าเขาจะทำให้เกิดการกบฎขึ้น !

‘โอ้พระเจ้า !’

โจววูอยากจะร้องไห้เมื่อรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาด

เขาสงสัยว่าทำไมจินวูเซียถึงไม่กบฎก่อนหรือหลังก่อนหน้านี้กัน ทำไมถึงมาเลือกกบฎตอนที่เขายังอยู่ในค่ายร้อยสงคราม !

นี่มันหมายความว่ายังไงกัน !

ความคิดต่าง ๆ ลอยเข้ามาในหัวของโจววู เขารู้ดีว่าเขาไม่มีทางหนีรอดไปเพราะจินวูเซียได้ประกาศที่จะกบฎแล้ว

“ท่านนายพลจิน …”

ใบหน้าของโจววูเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม มันแสดงให้เห็นว่าเขาชำนาญในการตีสองหน้าแค่ไหน

เมื่อเห็นว่าถูกพลิกกระดาน เป็นธรรมดาที่เขาจะเลิกอวดดี

โจววูรู้ดีว่าเขาต้องแสดงถึงคุณค่าของเขาเพื่อที่เขาจะมีชีวิตรอดไปได้

“เอาชีวิตมาซะ ไอ้ทรยศ !” หลิวเจียตะโกนขึ้น เขารอไม่ไหวแล้วหลังจากได้ยินคำพูดของจินวูเซีย

จากนั้นร่างของหลิวเจียก็พองตัวขึ้นสูงกว่า 3 จั้ง เขาตวัดง้าวที่มีความหนาเท่ามือมนุษย์ออกมา จากนั้นก็กระโดดลงจากหลังม้ามังกรแล้วเหวี่ยงไปที่คอของโจววู !

“ไม่ !”

โจววูรู้สึกได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามา เขาอยากจะขยับหลบไปข้าง ๆ แต่ทว่าเขารู้สึกราวกับว่าตัวเองติดอยู่ในใยแมงมุมทำให้ขยับไม่ได้ !

สิ่งที่เขาทำได้ก็คือปลดปล่อยเสียงกรีดร้องออกมาก่อนที่จะถูกหลิวเจียฟันตั้งแต่หัวลงมาจนทำให้ทั้งเขาและม้าของเขาถูกแยกเป็นสองท่อน !

เลือดสด ๆ สาดกระจายจนยากจะแยกแยะได้ว่าอันไหนเลือดของโจววูอันไหนเลือดของม้ามังกร

“นี้มันเกินขอบเขตของนักสู้ไปแล้ว !”

“ทำไมหลิวเจียถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ !”

“เฮ้อ”

ทุกคนในค่ายร้อยสงครามตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของหลิวเจีย ไม่ใช่เพียงแค่ม้าและตัวโจววูที่ถูกแบ่งครึ่งเท่านั้น แม้แต่พื้นข้างใต้ก็ถูกผ่าออกจนกลายเป็นรอยแยก !

หลิวเจียจ้องมองท้องฟ้าก่อนที่ฉีของเขาจะค่อย ๆ สงบลง

จินวูเซียลงจากม้าด้วยจิตใจที่หนักหน่วง เขาเดินมาอยู่ข้าง ๆ หลิวเจียและถอนหายใจออกมา จินวูเซียรู้เลยว่าหลิวเจียได้ใช้พลังชีวิตทั้งหมดของเขาในการจัดการกับโจววู

เขาสละทุกอย่างเพื่อระเบิดพลังเพียงครั้งเดียว !

จินวูเซียเข้าใจดีว่าตอนนี้เขาหันหลังกลับต่อไปอีกไม่ได้แล้ว แม้ว่าเขาจะต้องล้มลงแต่ความล้มเหลวนั้นมันยังลามไปถึงตระกูลของเขาอีกหลายรุ่น

ผู้คนในค่ายบาปทั้งสิบไม่ได้มีความทะเยอทะยานอะไรมากนัก หากอีกฝ่ายไม่ได้ยืนอยู่ข้างพวกราชวงศ์ พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร

ยิ่งคิดมันก็ยิ่งไปไกลจินวูเซียส่ายหัว เขาคิดมากเกินไป ค่ายบาปทั้งสิบไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้ดื่มเลือดพวกราชวงศ์และทำลายล้างทุกอย่างของพวกเขา

เขาเพียงแค่สาบานว่าจะให้อภัยทุกอย่างของค่ายบาปทั้งสิบหลังจากจบสงครามก็พอ

จินวูเซียเงยหน้าแล้วหันไปมองกองทัพอีกฝั่งก่อนจะขี่ม้าไปหาพวกเขา

ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ทหารของค่ายบาปทั้งสิบต่างยืนเรียงแถวด้วยเกราะสีดำเงียบ ๆ ราวกับว่าพวกเขาเป็นกองทัพของเทพแห่งความตาย

มันเงียบเกินไป !

มันไม่มีแม้แต่เสียงหัวใจเต้นหรือเสียงลมหายใจ !

จินวูเซียยืนห่างไปหลายร้อยเมตรและตะโกนขึ้น “ทุกท่าน ในที่สุดจินผู้นี้ก็ตาสว่างแล้ว ! ผู้แส่จินขอเชิญทุกท่านให้เข้าร่วมกับข้าและต่อต้านการปกครองที่เน่าเฟะมาหลายปีนี้ ! เมื่อสงครามจบลง ทุกคนในค่ายบาปทั้งสิบไม่ว่าจะเป็นขุนนางหรือจะเป็นทาส คนที่จะกำหนดชะตากรรมของพวกท่านก็คือท่านเอง !”

อย่างไรก็ตามไม่มีใครจากค่ายบาปทั้งสิบพูดออกมาแม้แต่คำเดียว พวกเขายืนอยู่เงียบ ๆ พร้อมกับปลดปล่อยออร่าแปลก ๆ ออกมา

จินวูเซียไม่เห็นใครตอบสนอง เขาจึงกระโดดลงจากม้ามังกรของเขาพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ อย่างไรก็ตาม เขาถูกหยุดไว้โดยผู้ช่วยของเขา “นายท่าน อย่าไป !”

“ตุ้บ !”

“ตุ้บ ตุ้บ !”

ทันใดนั้นก็มีพายุลมพัดผ่านมา ลมมันแรงมากจนเกิดพายุเล็ก ๆ ในค่ายบาปทั้งสิบ จากนั้นก็เกิดฉากแปลก ๆ ! กองทัพที่แข็งแกร่งกว่าพันคนที่นั่งอยู่บนหลังม้ามังกร ค่อย ๆ ร่วงหล่นลงมา !

นี้คือความหมายของคำว่า ‘เราจะไม่หยุดไปจนกว่าเราจะตาย !’” จินวูเซียอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ปรากฎว่าคนเหล่านี้ตายไปแล้ว !

หลังจากตรวจสอบใกล้ ๆ จินวูเซียก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อย ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมกองทัพค่ายบาปทั้งสิบถึงมีพลังต่อสู้ที่น่ากลัว !

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมพวกเขาที่มีอุปกรณ์และจำนวนที่น้อยกว่าค่ายร้อยสงครามถึงสามารถเอาชนะทหารของค่ายร้อยสงครามได้ !

พวกเขาด้อยกว่าในทุก ๆ ด้านแต่กลับโหดร้ายกว่าค่ายร้อยสงคราม !

นั่นก็เพราะคนเหล่านี้กินยากระตุ้นพรสวรรค์จนถึงขีดสุดทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่านั้นเวลาสั้น ๆ แต่หลังจากผลของมันหายไป พวกเขาทั้งหมดก็จะตาย !

ใบหน้าของจินวูเซียซับซ้อน นี่คือคู่ต่อสู่ที่น่านับถืออย่างยิ่ง แม้ว่าพวกเขาจะทำลายค่ายร้อยสงคราม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาถึงกับเกลียดอีกฝ่าย

“ยอดเยี่ยม ! นี่แหละกองทัพที่ดีที่สุดของไป๋ยู่ว !”

ยงซวนยืนอยู่เหนือแท่นสูง เขาไม่ได้ยินเสียงด้านล่างแต่เขาเห็นว่าทหารของค่ายบาปทั้งสิบตกตายไปหมดแล้ว แม้ว่าค่ายร้อยสงครามจะสูญเสียทหารไปจนเหลือทหารเพียงแค่ 10,000 คนก็ตาม

ด้วยทหาย 10,000 คนเป็นแกนหลัก แม้ว่าจะเป็นจำนวนน้อยแต่พวกเขาคือทหารชั้นยอด พวกเขาสามารถรับผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเข้ามาและพัฒนากองทัพให้แข็งแกร่งขึ้นได้อีก

แต่ถึงกระนั้นค่ายร้อยสงครามที่สร้างขึ้นมาใหม่ก็คงถูกจัดให้อยู่ในอันดับกลาง ๆ ของประเทศอื่น ๆ เท่านั้น

“ฆ่า !”

เมื่อสิ้นสุดเสียงของจินวูเซีย ทหารของค่ายร้อยสงครามก็พุ่งเข้าใส่คนที่ยืนอยู่รอบแท่นเหมือนหมาป่าฝูงหนึ่ง

มันอาจเป็นไปตามที่ผู้ช่วยได้กล่าวไว้ พวกราชวงศ์และเหล่าขุนนางชั้นสูงมันฆ่าง่ายกว่าพวกทหารของค่ายบาปทั้งสิบ ทหารร้อยสงครามในตอนนี้ต่างต้องการระบายความสูญเสียของพวกเขากับค่ายบาปทั้งสิบ !

กองทหารยู่หลิงคือกองกำลังที่ค่ายร้อยสงครามต้องผ่านไปหาเหล่าขุนนางค์และองค์จักรพรรดิ

นายพลยู่หลิงยิ้มให้กับจินวูเซียและกล่าวขึ้น “ขอแสดงความยินดีกับท่านนายพลจินด้วย ! อย่าลืมน้อยชายคนนี้ละ !”

ในไม่ช้าเมื่อทหารชั้นยอดของค่ายร้อยสงครามก็ปะปนไปกับทหารยู่หลิง มันทำให้ทหารยู่หลิงรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง

“ฆ่า !’

จินวูเซียโบกมือด้วยท่าทางไร้อารมณ์ !

“ฟุ้บ !”

“อ๊าก !”

“เร็ว รีบไปแจ้งฝ่าบาท ค่ายร้อยสงครามกบฎ !”

ทหารยู่หลิงไม่ได้เตรียมตัว นอกจากนี้ค่ายร้อยสงครามยังแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก ในไม่ช้าทหารยู่หลิงก็ค่อย ๆ ถูกสังหารจนเกือบหมด !

นายพลยู่หลิงถูกตัดหัวโดยผู้ช่วยนายพลพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง !

“อะไรนะ ? ค่ายร้อยสงครามมันกล้ากบฎยังงั้นรึ !”

“เร็ว รีบพาฝ่าบาทหนีไป !”

“ฝ่าบาท รีบหนีไป !”

เหล่าขุนนางและราชวงศ์ที่อยู่ด้านล่างนั้นได้ยินเสียงคำรามของทหารค่ายร้อยสงคราม มันทำให้พวกเขาแตกตื่นราวกับแมลงวันหัวขาด

“นี้มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน ! แล้วกองทหารนอกเมืองเมื่อไหร่จะมา !”

ยงซวนทุบกาน้ำชาที่เขาโปรดปรานด้วยความโกรธเมื่อรู้ถึงการกบฎ !

“ฝ่าบาท กองทัพนอกเมืองมาแล้ว ! โปรดรีบออกจากที่นี่เถอะ !” ขุนนางกล่าวด้วยความเร่งรีบ

“พวกกบฎ ! ฟังคำสั่งข้า ทหารของค่ายร้อยสงครามจะต้องถูกลงโทษด้วยการประหาร ซึ้งนั้นรวมไปถึงคนในครอบครัวของพวกมันทั้งหมด ! จงสังหารจินวูเซียทิ้งซะ !” ยงซวนประกาศด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะรีบหนีไป

นอกเหนือจากตัวเขาแล้วก็ยังมีทหารยู่หลิงกว่าพันคนที่คุ้มครองความปลอดภัยของเขา

“นายท่าน ข้าเห็นยงซวนกำลังหนีไป !” ผู้ช่วยกล่าวขึ้น

“พี่น้องทั้งหลาย ตามข้ามา ! สังหารพวกขุนนางจะได้รางวัลเป็นทองคำหนึ่งพันชั่ง ! หากสังหารยงซวนได้จะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นดยุคและทองคำอีกหมื่นชั่ง !”

พวกเขาจะปล่อยให้ยงซวนหนีไปได้อย่างไร ? หากยงซวนหนีไปได้ พวกเขาคงต้องหนีจากการตามล่าของกองทัพทั้งหมดของไป๋ยู่วแทน !

จินวูเซียปลดปล่อยพลังฉีของเขาแล้วตะโกนขึ้นให้ทหารของเขาไล่ตามเขาไป

“ว๊ากก !”

ทหารของค่ายร้อยสงครามคำรามด้วยน้ำเสียงโหยหวนก่อนจะวิ่งตัดผ่านทหารของยู่หลิงไป !

บันไดยาวกว่าร้อยเมตรและมันค่อนข้างชัน แต่ม้ามังกรสามารถวิ่งขึ้นไปได้ราวกับมันเป็นพื้นราบ ทหารหลายคนขี่ม้ามังกรและพุ่งเข้าใส่กองทหารยู่หลิงด้วยความโกรธ

“ตู้ม !”

ทั่วทั้งวังสั่นสะเทือนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับม้ามังกรนับหมื่น

ในขณะเดียวกัน ยงซวนก็กำลังหนีไปโดยมีเหล่าขุนนางและทหารของยู่หลิงคอยระวังความปลอดภัยด้านหลังให้

หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยงซวนและคนอื่น ๆ ก็จะหนีไปได้พร้อมกับกองทัพที่มาถึง เมื่อถึงตอนนั้นผู้ที่จะเป็นฝ่ายหนีแทนก็คือจินวูเซีย

“บู้มม !”

“ปู้นน ! ปู้นน !”

จินวูเซียไล่สังหารทหารยู่หลิงกว่าพันคน กว่าเขาจะเห็นยงซวนอีกทีก็หนีไปไกลหลายพันเมตรแล้ว ในขณะเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงเดินของกองทัพขนาดใหญ่จากด้านนอกพร้อมกับเสียงแตรเขาเดียว !

เสียงฝีเท้าของคนธรรมดานั้นเบามาก ๆ แต่เสียงของคนหลายพันคนก้าวไปพร้อมกันมันจะเป็นเสียงที่น่ากลัวมาก !

การก้าวผสานของพวกเขานั้นสมบูรณ์แบบ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทหารธรรมดา แต่พวกเขาก็สามารถทำลายสะพานที่แข็งแกร่งได้ด้วยการเดินเพียงอย่างเดียว !

ใคร ๆ ก็สามารถจินตนาการได้ว่ากองทัพกว่าแสนคนนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน ! นอกจากนี้ยังมีทหารที่ขี่ม้ามังกรอยู่อีก 30,000 คน วัดจากระยะทางแล้วดูเหมือนกองทัพจะไปถึงยงซวนก่อน !

ใบหน้าของจินวูเซียนั้นไร้อารมณ์ ดวงตาของเขาสั่นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ความคิดเรื่องกบฎโผล่ขึ้นมาเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว

“ฆ่า ! ฆ่าพวกทรราชและยึดตราคำสั่งมา !”

จินวูเซียไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกใด ๆ เมื่อเห็นกองทัพขนาดใหญ่ที่กำลังใกล้เข้ามา หลังจากต่อสู้มานานหลายปีเขาได้เผชิญหน้ากับอันตรายมากกว่านี้มาแล้ว

นอกจากนี้ทหารของค่ายร้อยสงครามเคยกลัวอะไรมาก่อนงั้นหรือ ? ทหารแสนคนแข็งแกร่งงั้นรึ ? แล้วยังไง ?

แม้ว่าอีกฝ่ายจะมากกว่า แต่ตราบใดที่ไม่ใช่พวกคนบ้าเหมือนค่ายบาปทั้งสิบ พวกเขาก็ไม่มีอะไรให้กลัว !

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท