Gate of God – ตอนที่ 972 บางอย่างที่เหมือนกัน

ตอนที่ 972 บางอย่างที่เหมือนกัน

  ไม่ใช่เพียงรอยยิ้มของเฉียนยู่ที่แข็งค้างไปเท่านั้นแม้แต่ศิษย์ที่อยู่รอบๆและจักรพรรดิหลินมู่ไป่ก็นิ่งไปเช่นกัน

  มันชัดเจน…

  ประโยค’ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องอย่างว่า’ ทำให้การสนทนาสิ้นสุดลงทันที พวกเขาไม่สามารถพูดคุยกันได้อีกต่อไป

   ฆ่าเขา! เสียงของเฉียนยู่เต็มไปด้วยความเย็นชาราวกับลมในฤดูหนาวที่กรีดลึกลงไปในคอของฟางเจิ้งจือ

  ด้านฟางเจิ้งจือเขายักไหล่เล็กน้อย

  บางทีเขาอาจจะต้องเปลี่ยนนิสัยที่ชอบพูดตรงไปตรงมาของตัวเองเขาควรจะพูดอ้อมๆบ้างเมื่อต้องเจอกับหญิงชรา

  อย่างน้อยเขาควรจะพูดว่า’อายุของพวกเราต่างกันเกินไปมันไม่เหมาะสมถ้าจะคิดเรื่องแบบนั้น’  อย่างไรก็ตามมันสายเกินไปใบไม้ที่แหลมคมสีเขียวพุ่งเข้ามาหาเขาจากทุกทิศทางราวกับลมพายุ

  เขาเองก็เริ่มเคลื่อนไหว

  เขาก้าวไปหาเฉียนยู่ทีละก้าวทุกเขาที่เขาก้าวเขาจะหยุดครู่หนึ่งเพื่อชื่นชมความงามของฉากรอบๆตัวเขา

  มันใกล้สิ้นสุดฤดูใบไม้ร่วงและใกล้เข้าสู่ฤดูหนาว

  แต่ดอกไม้ในดินแดนหอคอยหลิงหยุนกลับไม่ร่วงโรยมันได้รับการปกป้องจากบ่อน้ำแข็งทำให้ดอกไม้ในบริเวณนี้ไม่ร่วงโรยเหมือนดอกไม้ทั่วไป

  อย่างไรก็ตามใบไม้สีเขียวกลับกลายเป็นสีน้ำตาลเล็กน้อยมีใบไม้จำนวนหนึ่งร่วงอยู่บนพื้นสีราวกับตอนที่ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน

  ฟางเจิ้งจือดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบๆ

  บางทีเขาอาจจะดื่มด่ำกับมันมากเกินไปเขาหรี่ตาและเริ่มฮัมเพลงออกมาเบาๆ   ข้าเป็นแค่นกตัวเล็กเล็ก เล็ก ข้าอยากจะบินและบินและบินให้สูงกว่านี้ โอ้ โอ… เสียของฟางเจิ้งจือไม่ไดดังนัก แต่มันแจ่มใสและชัดเจน เสียงของเขาสะท้อนไปทั่วหอคอยหลิงหยุน

  ศิษย์นับร้อยและศิษย์ทั้งสิบเอ็ดคนที่รีบตามมาต่างตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

   เป็นไปได้ยังไง?! 

   ทำไมพวกเราถึงทำร้ายเขาไม่ได้เลย?! 

   อะไรกัน..นี่มันเรื่องบ้าอะไร? 

  ศิษย์หอคอยหลิงหยุนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจกลับต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์

  พวกนางใช้พลังที่มีทั้งหมดแต่ไม่อาจะแตะชายเสื้อของชายตรงหน้าได้แม้แต่น้อย

  หรือเขาจะเป็นผี?

   ระวัง! จักรพรรดิหลินมู่ไป่ได้สติเมื่อเห็นฟางเจิ้งจือเข้าใกล้เฉียนยู่ จากนั้นเขาก็ดึงบางอย่างออกมา  ดวงตามังกรมรกต

  มันเป็นสมบัติสายป้องกันของจักรพรรดิหลินมู่ไป่สำหรับที่มาของมัน บางคนก็บอกว่าเขาได้รับมาจากเฉียนยู่ บางคนก็บอกว่ามันเป็นสมบัติตกทอดของอาณาจักรเซี่ย

  แต่ไม่ว่ายังไงมันก็เป็นสมบัติที่ทรงพลัง

  ทันใดนั้นปีกขนาดยักษ์ได้ปรากฎขึ้นปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า

   ถ้าพูดถึงเรื่องสมบัติข้าเองก็มีเช่นกัน  ฟางเจิ้งจือยิ้มแต่ไม่มีใครสังเกตุเห็นเพราะหน้าของเขาถูกปิดเอาไว้

   นั่นมันปีกสีดำของเจ้าปีศาจ! สีหน้าของจักรพรรดิหลินมู่ไป่เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาเห็นปีกสีดำด้านหลังฟางเจิ้งจือ

  แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นมันกับตาตัวเองมาก่อนแต่ปีกสีดำเป็นสมบัติที่เคยมีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเซี่ยเช่นกัน

   ดูเหมือนเจ้าจะจับเจ้าปีศาจไว้ได้จริงๆ! เฉียนยู่ไม่ได้วิตกกังวลเท่าจักรพรรดิหลินมู่ไป่ ในความเป็นจริงนางดูสงบเมื่อเห็นปีกสีดำบนหลังฟางเจิ้งจือ

  ทำไมนางถึงใจเย็นขนาดนี้?

  ฟางเจิ้งจือรู้สึกว่ามันเกี่ยวกับพลังที่เขาแสดงออกมาหากใครพูดไร้สาระแบบเขาก่อนหน้านี้ คนคนนั้นอาจจะต้องตายนับพันครั้งต่อหน้าเฉียนยู่

   หลังจากตรวจสอบตัวตนของข้าแล้วไม่ใช่ว่าท่านควรรับรองข้าด้วยอาหารและเหล้าชั้นเลิศงั้นหรือ?  เฉียนยู่ถาม

   เจ้าต้องการเหล้าอะไร? เฉียนยู่ถาม

   ข้าไม่ได้คิดมากเรื่องเหล้าแต่ข้าคิดว่าท่านไม่ควรรับรองข้าด้วยเหล้าที่มีอายุน้อยกว่าสองถึงสามร้อยปี  ฟางเจิ้งจือกล่าว

   ฮ่าฮ่าไม่มีปัญหา แต่เจ้าต้องเอาชนะข้าให้ได้เสียก่อน!  เฉียนยู่ยิ้มและโจมตี

  ดวงจันทร์แปดดวงปรากฎขึ้นเหนือหัวของนางแสงสีขาวราวกับร่างของนางถูกปกคลุมด้วยหิมะ   ดูเหมือนว่าท่านจะไม่เชื่อข้า? ฟางเจิ้งจือถอนหายใจ เขาคิดว่าตัวเองได้แสดงความจริงใจออกมาไปมากพอแล้ว

  อย่างไรก็ตามดูเหมือนเฉียนยู่ยังคงไม่ยอมรับ

  ยิ่งไปกว่านั้นนางยังโจมตีโดยไม่ออมแรงแม้แต่น้อยราวกับต้องการฆ่าฟางเจิ้งจือจริงๆ

  ในพริบตานางเข้ามาใกล้ฟางเจิ้งจือพร้อมกับดาบสีขาวสองเล่มในมือ

  เฉียนยู่อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับผู้ที่อยู่ในระดับเทพเจ้าอย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวและวิชาอันไร้ที่ติของนางทำให้นางเอาชนะศัตรูได้ในหลายๆครั้งและมันเป็นวิธีที่นางเคยใช้รับมือจักรพรรดินีอสูรไป่ฉือ

  ฟุ้บ!ลำแสงสีเงินสองเส้นกระแทกลงบนพื้น

  คลื่นน้ำแข็งแผ่ออกไปที่พื้นกว่าร้อยเมตรก่อนที่จะค่อยๆหายไป

  ศิษย์หอคอยหลิงหยุนหลีกไปด้านข้างเพื่อหลบการโจมตี

  แน่นอนว่าฟางเจิ้งจือก็เช่นกัน

  เขาเร็วกว่าศิษย์อคอยหลิงหยุนมากนักเขาเคลื่อนไหวไปยังตำแหน่งที่ไม่โดนการโจมตี

  อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ย้ายไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง

  แทนที่จะถอยเขาก้าวไปข้างหน้ากระโดดผ่านช่องว่างระหว่างดาบทั้งสองเล่มของเฉียนยู่

  จากนั้นเขาก็หยุดยืนข้างๆปิงหยาง

   … 

   … 

  มีคนประเภทหนึ่งที่สามารถทำลายการสนทนาได้

  คนที่ทำให้สถานการณ์กลับกลายเป็นอึดอัดได้ในชั่วพริบตาและมีคนอีกประเภทที่สามารถทำให้ศัตรูราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่กลางหัว  เห็นได้ชัด…

  ฟางเจิ้งจือเป็นคนทั้งสองประเภทนั้น

  เขาไม่แน่ใจว่าทำให้บรรยากาศอึดอัดหรือไม่แต่มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นเมื่อเขาหยุดยืนอยู่ข้างๆปิงหยาง

  เฉียนยู่และจักรพรรดิหลินมู่ไป่รวมถึงศิษย์หอคอยหลิงหยุนต่างยืนนิ่งราวกับรูปปั้น

  ใบหน้าของพวกเขาซีดขาว

   อา…เจ้าสารเลวข้าจะฆ่าเจ้า!  เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวดังขึ้นทำลายความเงียบ จากนั้นเปลวเพลิงก็พวยพุ่งออกมาจากหอกฉีหลินโจมตีไปที่หน้าผากของฟางเจิ้งจือใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความดุร้าย

  เมื่อหญิงสาวโกรธนางสามารถทำให้แม้แต่ตัวเองต้องหวาดกลัว

  ฟางเจิ้งจือเข้าใจเรื่องนี้เมื่อเห็นสีหน้าของปิงหยางในตอนนี้ทั้งด้านพลังและการแสดงออกของปิงหยางในตอนนี้เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม  ท่ามกลางเปลวไฟที่พุ่งมาที่หน้าผากของเขาฟางเจิ้งจือเห็นขาของปิงหยางกำลังเคลื่อนไหว

  แน่นอนว่านางเล็งมาที่เป้าของเขา

  ถูกต้อง!

  เมื่อเปรียบเทียบกับปิงหยางที่ใสซื่อบริสุทธิ์ปิงหยางในปัจจุบันไม่ไร้เดียงสาอีกต่อ พูดตามตรงนางได้รับอิทธิพลจากใครบางคน นางฉลาดแกมโกงอย่างไม่น่าเชื่อ

  อย่างน้อยที่สุดการเบี่ยงเบนความสนใจของนางก็สมบูรณ์แบบ

  นางเกือบจะทำได้สำเร็จ

  ถ้าเป็นคนทั่วไปคงไม่สามารถป้องกันการโจมตีของปิงหยางทั้งที่หน้าผากและเป้าของตัวเองได้

  อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือเป็นคนธรรมดางั้นรึ?

  แน่นอนว่าไม่!

  ดังนั้นเขาจึงยกก้นขึ้นและเอาขาทั้งสองข้างเข้ามาชิดกันเพื่อหนีบขาของปิงหยางที่กำลังพุ่งเข้ามาขณะเดียวกันเขาก็เอี้ยวหัวไปด้านข้างเพื่อหลบหอกของปิงหยาง

  นางตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

  ปากของนางอ้าค้างเป็นรูปตัว’O’ นางไม่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็นจนเกือบจะทำหอกฉีหลินหลุดจากมือ

  ฟางเจิ้งจือสามารถหลบการโจมตีอันสมบูรณ์แบบของนางได้?!

  พระเจ้าช่วย!

  ปิงหยางไม่สามารถเชื่อสายตาตัวเองได้นางทั้งตกตะลึง กังวลและต้องการกรีดร้องออกมาและวิ่งหนีไป

  อย่างไรก็ตามเมื่อนางหันหน้าไปอีกด้านนางพบว่าขาของนางยังติดอยู่ระหว่างขาของเมิ่งเทียน

  นางพยายามจะดึงมันออก

  อย่างไรก็ตามนางไม่สามารถทำได้

  ปิงหยางทั้งกังวลและหวาดกลัว  จากนั้น…

  ผงปูนขาวกระจายไปทั่วอากาศเมื่อฟางเจิ้งจือมองหน้าปิงหยางทำให้เขารู้สึกราวกับตัวเองมีศิษย์ชั้นเยี่ยมคนหนึ่ง

  ศิษย์คนนี้สามารถใช้กลยุทธ์ทุกอย่างที่ฟางเจิ้งจือสอนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

  ……………………………………..

  ��

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท