Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 1021 เตรียมฆ่ากัวเจิ้ง
หนิงเจ๋อฮ่าวติดต่อกับหวังเซียวเซียวอย่างรวดเร็ว นัดหมายเจอกันพรุ่งนี้
เย่เซิ่งเทียนพยักหน้าแล้ว แม้ว่าฟ้าสยบพละกำลังแข็งแกร่ง แต่ว่าตอนนี้กลับเป็นว่าไม่น่าไว้ใจ
ฟ้าสยบกำลังยิ่งใหญ่ ถ้าหากควบคุมไว้ในมือของตัวเองได้ งั้นถึงจะมีพละกำลังต่อต้านกับสรวงสวรรค์ที่แท้จริงแล้ว
ทางฝั่งตระกูลลี้ลับไม่น่าไว้วางใจ แย่งชิงมาได้แค่ไหนก็แค่นั้น
คนที่สามารถไว้วางใจได้จริงๆ คือเหล่าอดีตจอมพล!
“ข่าวที่ฉันมา ไม่มีใครรู้ใช่ไหม?”
เย่เซิ่งเทียนพูดถาม
หนิงเจ๋อฮ่าวรีบพูดว่า : “ตลอดที่ผ่านมา ข้าน้อยติดต่อกับคุณอย่างลับๆ แม้ว่าเป็นหัวหน้าหวัง ข้าน้อยก็ไม่เคยบอกไทม์ไลน์ของคุณกับเธอเลย”
เย่เซิ่งเทียนถามบางอย่างอีกว่า คิดอยากจะเอาฟ้าสยบมา จะต้องผ่านการวางแผนที่รอบคอบ
รอพวกกู่ชางหลงและมู่หุนมาถึงแล้วค่อยว่ากัน
รอทำความเข้าใจสถานการณ์ทางฝั่งของฟ้าสยบให้ชัดเจนโดยสิ้นเชิง ดวงตาของเย่เซิ่งเทียนหรี่เล็กน้อย
กัวเจิ้งหัวหน้าหน่วยดิน เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด
ขอเพียงแค่จัดการเขาได้แล้ว ก็สามารถกดขี่คนอื่นๆได้
ส่วนโจวปู้ฝานของหัวหน้าหน่วยเหลือง เขาเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง
แม้ว่าเขามีใจที่จะขึ้นตำแหน่งสูง แต่นิสัยที่เห็นผลประโยชน์สำคัญของนักธุรกิจไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อกัวเจิ้งตาย ด้วยนิสัยที่มุ่งหาผลประโยชน์ หลีกเลี่ยงอันตรายของโจวปู้ฝาน จะต้องเลือกที่จะนอนจำศีอยู่เฉยๆ
“กัวเจิ้งคนๆนี้เป็นอย่างไร?”
เย่เซิ่งเทียนพูดถาม
คิดอยากจะฆ่ากัวเจิ้งให้ตาย ก็จะต้องเข้าใจคนๆนี้ ถึงจะใช้มาตรการจัดการได้อย่างเหมาะสม
หนิงเจ๋อฮ่าวครุ่นคิดแล้วก็พูดว่า : “คนอย่างกัวเจิ้ง นิสัยหยิ่งยโส ในบรรดาหัวหน้าใหญ่ทั้งสี่ เขามีพละกำลังแข็งแกร่งที่สุด เขาเคารพแค่เหล่าเทียนจวิน ไม่เคยเห็นรัฐมนตรีอีกสามคนอยู่ในสายตา หลังจากที่เหล่าเทียนจวินหายตัวไป กัวเจิ้งก็ถืออำนาจเพียงผู้เดียวมากว่าหลายปี ปฏิบัติการอย่างเผด็จการมาก จากนิสัยของเขา ถ้าหากคุณปรากฏตัว มีความเป็นไปได้ที่เขาเลือกที่จะออกโรงมา แย่งชิงแหวนของเทียนจวิน และไม่มีทำงานร่วมด้วย”
หนิงเจ๋อฮ่าวแนะนำกัวเจิ้งอย่างละเอียดรอบหนึ่ง ในใจของเย่เซิ่งเทียนเข้าใจพอประมาณแล้ว
เย่เซิ่งเทียนครุ่นคิด จัดการกัวเจิ้ง จะต้องวางแผนไม่มีให้มีข้อผิดพลาด
หลอกใช้ประโยชน์จากกัวเจิ้งที่จองหองจอมเผด็จการ มาจัดการกับเขา
โดยเฉพาะ พละกำลังของตัวเองอ่อนแอกว่ากัวเจิ้ง เขาไม่มีทางเห็นตัวเองอยู่ในสายตาแน่นอน
“ถ้าหากฉันเอาแหวนให้เขาล่ะ?”
เย่เซิ่งเทียนหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง พร้อมพูดถาม
หนิงเจ๋อฮ่าวส่ายหน้าพร้อมพูดว่า : “ไม่มีทางเป็นไปได้ เขาไม่มีทางทำงานร่วมกันกับเรา อีกอย่างเขามีนิสัยเผด็จการ ไม่มีทางคิดว่าเรามีคุณสมบัติพอที่จะทำงานร่วมกับเขา”
“เข้าใจแล้ว”
นัยน์ตาของเย่เซิ่งเทียนสาดส่องแสงแห่งการฆ่าออกมา
ในเมื่อไม่ทำงานร่วมกัน งั้นก็เป็นศัตรู!
ถึงตอนนี้แล้ว ไม่เป็นคนของฉันก็เป็นศัตรู!
ไม่มีบุคคลที่สาม
ถึงแม้ว่ามีอยู่ ก็จำเป็นต้องทำให้บุคคลที่สามตาย
โดยเฉพาะพวกนกสองหัวเหล่านั้น ก็เป็นบุคคลที่จะต้องกำจัดก่อน
เพียงแค่กำจัดปัจจัยที่ไม่แน่นอนเหล่านี้ให้สิ้น ถึงจะตั้งใจจัดการกับสรวงสวรรค์ หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกคนแทงจากด้านหลัง
ในเมื่อกัวเจิ้งไม่ยินยอมที่จะทำงานร่วมกัน งั้นก็คือศัตรู
สำหรับศัตรู ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใจดีมีความเมตตา!
แน่นอนว่า ถ้าหากฆ่ากัวเจิ้งตาย ก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น
เยาเซิ่งเทียนสันนิษฐานว่า พละกำลังของกัวเจิ้ง อ่อนแอเล็กน้อยก็คือแดนทะลุเทพแปดวัง
แข็งแกร่งนิดหน่อยก็คือแดนทะลุเทพเก้าวัง
อยากจะฆ่าคู่ต่อสู้แบบนี้ให้ตาย มีความกดดันมากเป็นพิเศษ
นี่เป็นการทำเรื่องที่เสี่ยงอันตรายอย่างมาก คือไม่รู้จักพอ
หากทำไม่ดี ก็ไม่มีทางที่จะฟื้นตลอดไป!
“หอคอยแก่ คุณกักขังแดนทะลุเทพเก้าวังคนหนึ่งไหม?”
เย่เซิ่งเทียนมองไปยังวิญญาณหอคอย
ขอเพียงแค่วิญญาณหอคอยกักขังกัวเจิ้ง งั้นก็มีวิธีหลอมเขาให้ตาย
วิญญาณหอคอยคิดอยู่ครู่หนึ่งพูดว่า : “ยาก ตอนนี้มีเพียงเปิดใช้งานหอผนึกปีศาจชั้นที่หนึ่ง ถ้าหากเปิดใช้งานชั้นที่สอง ก็มีหวัง หรือว่า พละกำลังของคุณเพิ่มขึ้น ถึงตอนนั้นแม้ว่าเปิดใช้งานแค่ชั้นที่หนึ่ง ก็กักขังเขาได้”
ดูเหมือนว่าความหวังเลือนรางมาก
จะต้องคิดวิธีการอื่นๆ
ถ้าหากสามารถแย่งชิงซุนเหวินทาวมาได้ บวกกับหวังเซียวเซียว หัวหน้าทั้งสองท่าน น่าจะจัดการกับกัวเจิ้งได้
น่าเสียดายที่ทางฝั่งตระกูลลี้ลับนั้น คนที่มีความเป็นไปได้ที่จะช่วยตัวเอง ก็มีเพียงตระกูลจง
แต่ตระกูลจงไม่มีแดนทะลุเทพ
ส่วนทางฝั่งตระกูลเหย้ เย่เซิ่งเทียนไม่ได้พิจารณาร่วมด้วย
แม้ว่าตระกูลเหย้ตอบตกลงที่จะออกโรง เขาก็จะต้องทำการป้องกันไว้ด้วย
สำหรับปัจจัยที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ เขาไม่มีทางไปยืมกำลัง ทำแบบนั้นอันตรายเกินไป
Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 1017 ทางเลือกของตระกูลเหย้
เหย้ซูหลิงไม่ได้สนใจท่านรอง พูดอย่างเยือกเย็นว่า :“ฉันควบคุมการตัดสินใจของตระกูลไม่ได้ แต่ฉันหวังว่าพวกคุณจะไม่เสียใจภายหลัง!”
พูดจบ ลุกขึ้นยืนเดินจากไป
“หลิงเอ๋อร์ถูกตามใจจนเสียนิสัยแล้ว!เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่!”
เหย้หวางพูดอย่างโกรธเคือง
เหย้หวงก็ยากที่จะพูดอะไรออกมา แม้ว่าเป็นลูกสาวของเขา แต่นี่เป็นเพราะว่าถูกนายท่านเลี้ยงอย่างตามใจจนเสียนิสัย ใครจะกล้าพูดอะไร
เหย้มั่วไม่สนใจเลยสักนิด พูดอย่างมีความสุขว่า : “สิ่งที่หลิงเอ๋อร์พูดใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลนะ ตอนนี้ลงทุนกับเย่เซิ่งเทียน เป็นการให้ความช่วยเหลือในยามที่คนคับขันได้อย่างทันท่วงที รอจนเย่เซิ่งเทียนเติบโตขึ้นมา ตอนนั้นก็สายแล้ว ฉันเรียกประชุมตระกูลครั้งนี้ อยากจะฟังความคิดเห็นของพวกคุณดู”
เหย้หวางพูดว่า : “ฉันค่อนข้างเห็นด้วยกับความคิดเห็นของพี่ใหญ่ ลงทุนกับเย่เซิ่งเทียนได้ แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้มีมูลค่าอะไร อัจฉริยะพวกเราเห็นกันมาเยอะแล้ว คนที่สามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างแท้จริงถึงจะนับว่าเป็นอัจฉริยะ อัจฉริยะที่ตายตั้งแต่เยาว์วัยต่างหากที่ไร้ประโยชน์ แม้ว่าเย่เซิ่งเทียนจะทะลวงถึงแดนทะลุเทพในเวลา5ปีสั้นๆ แต่ศัตรูของเขาคือสรวงสวรรค์ เขาแทบจะไม่มีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะ ”
เหย้หวงก็พยักหน้าแล้ว พูดว่า : “เพื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ของตระกูล พวกเราลงทุนให้เย่เซิ่งเทียนได้ แต่ว่าให้ความสำคัญมากจนเกินไป เพียงแค่ดำเนินการอย่างลับๆ รอถึงเวลาที่เขามีความสามารถท้าทายกับสรวงสวรรค์ได้จริงๆ พวกเราค่อยลงทุนก็ยังไม่สาย สิ่งที่สำคัญที่สุดตรงหน้า คือเกี่ยวดองกับทางฝั่งตระกูลเฟิง พ่อ พ่อมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงกันแน่?ซูหลิงไม่อยากแต่งงานด้วย พ่ออย่าปล่อยให้เธอมาทำสุ่มสี่สุ่มห้านะ ”
เรื่องที่เหย้ซูหลิงตั้งครรภ์ ทั่วทั้งตระกูลเหย้มีเพียงเหย้มั่วและไอ้อู๋เท่านั้นที่รู้
แถมเหย่มั่วใช้วิธีการพิเศษ หลบซ่อนท้องของเหย้ซูหลิงไว้แล้ว คนอื่นมองไม่ออก
ทุกคนมองไปยังเหย้มั่วทั้งหมด
“ทางฝั่งตระกูลเฟิง ยังคงดูที่ความต้องการของหลิงเอ๋อร์ ไม่แน่ว่าจะต้องเกี่ยวดองกับหลิงเอ๋อร์”
เหย้มั่วพูดอย่างส่งเดช
การเลือกของเหย้หวงและเหย้หวาง ทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อย
พวกเขาดูถูกเย่เซิ่งเทียนเกินไปแล้ว
เหย้หวงขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า : “แต่ทางฝั่งของตระกูลเฟิง เฟิงอู๋จิ้วหลงใหลในตัวหลิงเอ๋อร์ ทางฝั่งตระกูลเฟิงก็แค่อยากจะเกี่ยวดองกันกับหลิงเอ๋อร์ เปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าตระกูลเฟิงจะไม่เห็นด้วย”
เหย้มั่วมองไปยังเหย้หวงด้วยสายตาที่มืดมน พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า : “พวกคุณเข้าใจผิดเรื่องหนึ่งแล้ว ตระกูลเหย้ของฉันพัฒนามาถึงตอนนี้ได้ สิ่งที่พึ่งพาอาศัยคือพละกำลัง แน่นอนว่าการเกี่ยวดองสำคัญ แน่นอนว่าตระกูลเฟิงมีพละกำลังที่ไม่ธรรมดา แต่ยังไม่คุ้มค่าที่ตระกูลเหย้ของเราจะรีบยกลูกสาวให้แต่งงานด้วย”
“อีกอย่างเกี่ยวกับเย่เซิ่งเทียน พวกคุณวินิจฉัยผิด แน่นอนว่าเขาในตอนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสรวงสวรรค์ แต่ถ้าหากเพิ่มตระกูลเหย้ของเราและอำนาจอื่นๆ งั้นก็ไม่แน่แล้ว สิ่งที่พวกเราต้องการ คือผู้นำที่กล้าเดินออกมาท้าทายสรวงสวรรค์”
“สำหรับการลงทุนกับเย่เซิ่งเทียน จำเป็นต้องเพิ่มพิเศษ เขาไม่มีกำลังต่อต้านกับสรวงสวรรค์ พวกเราก็ให้กำลังนี้กับเขา นี่เป็นการพนันอนาคตอย่างหนึ่ง คุณในฐานะที่เป็นผู้นำตระกูล บางครั้งก็ต้องการความกล้าสักหน่อยคุณรักษาทรัพย์สินดั้งเดิมของตระกูลได้ดี แต่คุณยังไม่กล้าได้กล้าเสีย ก็แค่ขาดความกล้านี้ ”
“แน่นอน สำหรับการลงทุนกับเย่เซิ่งเทียน ยังคงเป็นการดำเนินการอย่างลับๆ แล้วก็ หลิงเอ๋อร์ตั้งครรภ์แล้ว ลูกในท้องเป็นลูกของเย่เซิ่งเทียน แต่เย่เซิ่งเทียนไม่รู้ เรื่องนี้ห้ามใครแพร่งพรายออกไปไม่เช่นนั้นฉันจะกำจัดคนที่เปิดเผยด้วยตัวเอง เรื่องที่เหลือ พวกคุณพิจารณากันเอง ฉันแก่แล้ว จะพึ่งพาฉันทุกเรื่องก็ไม่ได้”
พูดจบ เหย้มั่วก็หายไปเลย
ทิ้งให้ทุกคนในตระกูลเหย้มองหน้ากันไปมา
พวกเขาตกตะลึงกับคำพูดของนายท่านแล้ว
หลิงเอ๋อร์ตั้งครรภ์?
ก็เป็นฝีมือของเย่เซิงเทียน?
นี่เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?ทำไมพวกเขาไม่รู้เรื่องเลยสักนิด?
เหย้หวางมองไปยังเหย้หวงด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม :“พี่ใหญ่ ดูเหมือนว่าจะต้องค่อยๆปรึกษากันให้ดีก่อนแล้ว”
เหย้หวงสีหน้าซีดเผือด แทบอยากจะฉีกเย่เซิ่งเทียนแล้ว!
ลูกสาวของเขาตั้งครรภ์แล้ว คนเป็นพ่ออย่างเขา ไม่รู้เรื่องอะไรเลย!
ก็เป็นเย่เซิ่งเทียนนั่นแหละ!
เวรเอ๊ย!
เย่เซิ่งเทียน แกไอ้คนสารเลว ทำลายความบริสุทธิ์ของลูกสาวฉัน!
“ในเมื่อพูดแบบนี้ หยวนเย่คนนั้นที่มาในบ้านก่อนหน้านี้ ก็คือเย่เซิ่งเทียนแล้ว”
เหย้หวงสีหน้าหม่นหมอง มีปฎิกิริยาตอบสนองกลับมาทันที
คนที่เหลือส่ายหน้าพร้อมฝืนยิ้ม นายท่านหลอกพวกเขาทั้งหมดแล้ว!