ตอนที่ 115: คุณราล์ฟ ไมค์ และ….ของเขา?
ในห้องว่างๆ ที่ไม่คุ้นเคยสักแห่งใน อะคาเดมี่, สตาร์เกทก็สว่างขึ้น
เอธานและผู้อาวุโสริเชนยืนอยู่หน้าสตาร์เกท
ผู้อาวุโสริเชนมองไปที่เอธานและพูดด้วยรอยยิ้มว่า ไปพักผ่อนเถอะ ไม่ว่าคุณต้องการนานแค่ไหน ฉันจะจัดการเรื่องวิชาการของคุณ เมื่อคุณรู้สึกอยากกลับมาใช้สิ่งนี้
จากนั้นเขาก็มอบแหวนที่มีลวดลายสีเงินเข้มให้เอธาน
วงแหวนนี้สามารถเปิดรูหนอนขนาดเล็กโดยเปิดปลายอีกด้านหนึ่งที่บ้านของฉัน เป็นไอเทมแบบใช้ครั้งเดียว ดังนั้นมันจะหายไปหลังจากที่คุณเปิดรูหนอนขนาดเล็ก และจะเปิดอยู่ได้เพียง 1 นาทีเท่านั้น
เอธาน หยิบแหวนขึ้นมาและขอบคุณเขาก่อนที่จะเข้าไปในเกทที่ผู้อาวุโสริเชนเตรียมไว้ให้เขา
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เอธาน ก็มาถึงที่คุ้นเคย
มันเป็นถ้ําเดียวกัน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เนื่องจากทุกอย่างก็เหมือนเดิม สตาร์เกทเปิดใช้งานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เพราะมันถูกสร้างขึ้นจากแหล่งอวกาศ
หลังจากออกจากถ้ําและผ่านพายุอวกาศที่วุ่นวายรอบ ๆ ภูเขา เขาสัมผัสได้ถึงการมีอยู่หลายครั้งและเห็นผู้คนอยู่ข้างหน้าเขา
แต่เขาไม่ปล่อยให้พวกเขาสัมผัสถึงเขาได้ ในขณะที่เขาหายตัวไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาเทเลพอร์ตไปไกลๆ และขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ
ที่ฉันสงสัยว่าไมค์และคนอื่นๆ เป็นอย่างไรบ้าง
เขาบินไปทางหุบเขาสายฟ้า-ไฟ และใช้เวลาไม่นานในการไปถึงที่นั่น
สถานที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากมีเกาะลอยน้ําอีก 2 เกาะข้างเกาะลอยน้ําหลัก ดูเหมือนว่ามีการปรับปรุงครั้งใหญ่บนเกาะลอยหลักเป็นวังขนาดยักษ์ที่คล้ายกับโถงพันเทพถูกสร้างขึ้นที่นั่น
เขาแค่ยืนอยู่ที่นั่นและมองด้วยความงุนงง ในขณะที่เขาจําวันที่เขาอยู่ที่นี่ได้
ยามลาดตระเวนสังเกตเห็นการปรากฏตัวของเขา ขณะที่พวกเขาบินไปทางเอธานและถามด้วยน้ําเสียงที่เคร่งขรึมว่า คุณเป็นใคร นี่คือแกนกลางของหุบเขาสายฟ้า-ไฟ คุณไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้
เอธาน มองไปที่ทหารรักษาการณ์แต่ไม่ได้พูดอะไรและหายตัวไป
ผู้คุมกําลังเหงื่อออกเมื่อรู้สึกว่า เอธาน จ้องมองมาที่พวกเขา พวกเขารู้สึกเหมือนกําลังยืนต่อสู้กับสัตว์ร้ายโบราณที่สามารถฆ่าพวกเขาได้ภายในไม่กี่วินาที
เอธาน หายตัวไปจากหุบเขาสายฟ้า-ไฟ และในไม่ช้าเขาก็มาถึงเมืองของเขา
เมืองไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เขาสังเกตเห็นว่าสถานเลี้ยงเด็กกําพร้ามีการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดและดูเหมือนจะใหญ่กว่าเมื่อก่อนมาก
เขาลงมาที่นั่นและรู้สึกประหลาดใจที่สังเกตเห็นว่ามี 2 คน
คนๆหนึ่งคุ้นเคยมาก ในขณะที่อีกคนดูแปลกและทรงพลัง
จะเป็นใครได้?
เอธานขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่เขากังวล
เขาลงมาและเห็นเด็กที่คุ้นเคยบางคนนํารอยยิ้มมาสู่ใบหน้าของเขา
เฮ้ นั่นคือเอธาน โว้วๆๆๆ..
อะไรนะ เอธานมาแล้ว ฮ่าๆๆ ทุกคน วันนี้เป็นวันโชคดี ทั้งเอธานกับไมค์ก็มา
เมื่อได้ยินความโกลาหลทั้ง 3 คนก็ออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกําพร้า
OMG!!!
ไมค์รีบวิ่งไปหาเอธานหลังจากพบเขาและกอดเขาก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า บ้าจริง ไม่คิดว่านายจะมาเร็วขนาดนี้ เซอร์ไพรส์เหรอ ยืม เซอร์ไพรส์น่ายินดี ฮ่าฮ่าฮ่า
จากนั้นเขาก็หันกลับมาและแนะนําคนที่มีรอยยิ้มหน้าด้าน เธอคือภรรยาของฉัน เคริน เธอสวยไม่แพ้เทียน่าเลย
เคริน ยิ้มให้ เอธาน และพูดว่า สวัสดี ไมค์บอกฉันหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับนาย ส่วนใหญ่เป็นการยกย่อง
เอธาน พยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินไปหามิสซิสราล์ฟที่กําลังร้องไห้อยู่
คุณราล์ฟ ฉันกลับมาแล้ว
เธอกอดเขาเบา ๆ แล้วพูดว่า ฉันดีใจที่คุณปลอดภัย เอธาน หลังจากนั้นเธอถามด้วยความสงสัย ยังไงก็ตาม ฉันไม่เห็น เทียน่า เธออยู่กับคุณเหรอ
สีหน้าของเอธานเปลี่ยนไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ แต่เขายิ้มสั้น ๆ แล้วพูดว่า เธอปลอดภัย แค่เธออยู่ที่อื่น แต่ไม่ต้องกังวลอีกไม่นานเธอจะอยู่กับฉัน
มิสซิสราล์ฟพูดด้วยน้ําเสียงดุว่า ดูแลเธอให้ดีๆ เธอเป็นคนมีค่า ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เธอทําเพื่อคุณจากไมค์ แม้ว่าเธอจะใจร้อน แต่เธอก็รักคุณจริงๆ
เอธานพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เมื่อได้ยินว่ามิสซิสราล์ฟพูดอีกครั้งด้วยรอยยิ้มว่า คุณ 2 คนไปคุยกันได้ ส่วนเครินกับฉันจะเตรียมดินเนอร์ เราจะเตรียมงานเลี้ยงกันเพราะวันนี้คุณมากันหมดแล้ว
เครินยังยิ้มและพูดว่า ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมายจากคุณราล์ฟ ดังนั้นขอให้รออาหารดีๆ จากฉันนะไมค์
ไมค์แสดงสีหน้าครุ่นคิดและพูดอย่างสงสัย อืม…คุณแน่ใจนะ คราวที่แล้วคุณเผาทั้งจานให้สุก
เมื่อเห็นแววตาของเคริน ไมค์ก็เงียบและพูดด้วยความรักว่า โอเค โอเค ราชินี อะไรก็ตามที่คุณทําก็อร่อย ฉันจะกินมันด้วยความยินดี
เครินยิ้มหวานและพูดว่า ดี แต่ฉันจริงจังนะ โอเค ฉันจะพยายามพัฒนาให้มากขึ้นแล้วกัน
หลังจากนั้น คุณราล์ฟและเครินก็เข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าเพื่อเตรียมตัว ขณะที่ไมค์กับเอธานไปกับเด็กๆ
หลังจากพูดคุยกับเด็กๆ ทั้ง 2 ก็บินขึ้น ขณะที่ไมค์บอกให้เอธานตามเขาไป
ไมค์นําเอธานไปถึงบนยอดเขา
พี่ชาย…เกิดอะไรขึ้น นายปิดบังอะไรฉันไม่ได้หรอก ฉันรู้จากสายตาและสีหน้าของนายแล้วว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
ไมค์พูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึมต่อเอธานขณะจับไหล่ของเขา
เอธาน ละสายตาจากไมค์ แต่ไมค์ยังคงยืนกรานและไม่ยอมแพ้ ดังนั้นเขาจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ด้วยดวงตาสีแดง
เขายังเล่าให้ไมค์ฟังถึงเรื่องอื่นๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากมาถึง มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่
ภายในวังวนสีดํา
เทียน่า ลูบหัวมีมีที่กําลังหลับอยู่ด้วยใบหน้ากังวลมีมี่ ดูเหนื่อยล้าและปวย และท่าทางการนอนของเธอก็ขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเธอกําลังเจ็บปวดอยู่บ้าง
เธอทํางานหนักมากมีมี่
จากนั้นเธอก็มองไปในทิศทางที่แน่นอนที่ด้านบน ซึ่งวิญญาณยักษ์ของ เอธาน กําลังหลับใหลและถอนหายใจ
หลังจากฟังทุกอย่างแล้ว ไมค์ก็กอดกับเอธาน ไม่ต้องเสียใจไปนะพี่ อเวเลียไม่อยากเห็นพี่เป็นแบบนี้หรอก…เฮ้อ นายผ่านอะไรมามากมาย
จากนั้นเขาก็แยกจากกันและพูดด้วยใบหน้างุ่มง่าม แม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจกระบวนการคิดของนาย ที่จะไม่ยอมรับเธอแม้ในตอนท้าย แต่นายต้องมีความคิดของนายเองเกี่ยวกับเรื่องนี้
เอธานส่ายหัวแล้วพูดพลางเช็ดหน้าว่า ฉันมันโง่ ฉันรู้สึกถึงความรักที่จริงใจของเธอและ ความตั้งใจของเธอในตอนท้าย แต่ฉันกลับดื้อรั้นเหมือนคนงี่เง่า ถ้าฉันยอมรับเธอ อย่างน้อยเธอก็คงจะมีความสุขก่อน…
เขาไม่ได้พูดต่อและสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า แต่ฉันจะทําตามภารกิจของเธอและปรารถนาเมื่อฉันเข้มแข็ง นั่นคือคําสัญญาของฉัน
ไมค์ยิ้มขณะที่เขาต่อยเอธานใต้ไหล่ขวาของเขาแล้วพูดว่า นี่สิ พี่ชายของฉัน! ใช้อารมณ์เหล่านั้นเพื่อทําให้เข้มแข็ง นั่นคือสิ่งเดียวที่เราทําได้
เอธานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะขมวดคิ้วและพูดว่า แต่ภรรยาของนายน่ะ ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติกับเธอ ฉันรู้สึกว่าเธอมีพลังมาก เมื่อฉันรู้สึกถูกคุกคามเล็กน้อย เป็นไปได้ยังไง? นายพบเธอได้ยังไง
ไมค์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มและพูดว่า ฉันพบเธอที่ ดาร์ค สแวมพ์ ตอนที่ฉันไปฝึกที่นั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉันพบว่าเธอเป็นลมหมดสติที่นั่น แต่ไม่มีสัตว์ตัวใดสามารถทําอะไรกับเธอได้ เพราะมีบาเรียสีทองล้อมรอบเธอ
แต่บาเรียนั้นมีรอยร้าวและดูเหมือนใกล้จะแตกหัก ฉันก็เลยช่วยชีวิตเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะสูญเสียความทรงจําของเธอไป ดังนั้นเธอจึงจําอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ แต่ฉันดูแลเธอ และเราก็ตกหลุมรักกันเมื่อเราอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง
และฉันก็รู้ว่าเธอแข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้เรารักกันจริง ๆ
เอธานมองมาที่ไมค์และพูดด้วยรอยยิ้มว่า ตกลง เป็นทางเลือกของนายนี่ น้องชาย และฉันสนับสนุนนาย
ไมค์ยิ้มและพูดว่า เฮ้ เธอดีกับฉันและทุกคนจริงๆ เธอยังสอนเด็กๆ ด้วย และต้องขอบคุณเธอ ที่ทําให้ฉันได้ไปถึงขั้น Origin Intent Plane และเข้าใจแม้กระทั่งขั้นสูงของธาตุอวกาศ
และเราจะไปด้วยกัน เมื่อนายกลับไปที่มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ ฉันหวังว่าฉันจะสอบผ่าน ส่วนเคริน ฉันคิดว่าเธอจะผ่านมันไปได้ง่ายๆ ฮ่าฮ่าฮ่า
เอธานพยักหน้าขณะคิดว่า อืม เป็นความคิดที่ดี ผู้อาวุโสริเชนอาจสามารถเห็นได้ว่าเครินเกี่ยวอะไรกับเรื่องนั้น
หลังจากนั้นทั้งสองก็กลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกําพร้า
ในภูมิภาคตํานาน
มีการประชุมภายในห้องโถงใหญ่ของพระราชวังระหว่างบุคคลระดับสูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์
ราธ บลิธันซึ่งดูเหมือนชายชราพูดด้วยน้ําเสียงเย็นชาว่า ฉันบอกคุณเกี่ยวกับการกระทําของโรทัลแล้ว ฉันกําลังพยายามหาเขาอยู่หลายชั่วโมงแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขาได้รับความช่วยเหลือจากใครบางคน และได้ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง
ถ้าใครรู้เรื่องนี้ก็อย่าปิดบังฉัน เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ บุคคลระดับสูงสุดคนอื่นๆ ก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
แต่ความเงียบก็ถูกใครบางคนทําลายลงในไม่ช้า
ผู้อาวุโสราธ คุณเป็น 1 ใน 3 เสาหลักของเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเรา และคุณมักจะทําการตัดสินใจที่ดีที่สุดสําหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจตจํานงล่าสุดที่คุณเข้าใจของเจตจํานง ของการถ่ายทอดอย่างลึกซึ้ง แต่ตอนนี้สงครามเลือดรอมบากําลังจะมาถึง และผู้อาวุโสฟาเลือก โรทัล เป็น 1 ใน 3 ผู้เข้าร่วมการแข่งขันรอมบาจากเรา
คนที่พูดคือชายวัยกลางคนที่มีผมสีบลอนด์และรูปร่างผอมบาง
คนอื่นๆ ประหลาดใจและตกใจกับสิ่งที่เขาพูด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รู้ถึงพัฒนาการนี้
ดังนั้นพวกเขาจึงคัดค้าน
หมายความว่ายังไง โยจาส เรายังไม่ได้จัดประชุมว่าจะเลือกใครเป็นผู้มีส่วนร่วมในสงครามเลือด รอมบาเลยนะ
จริงสิ ผู้อาวุโสฟางจะตัดสินใจคนเดียวได้อย่างไร ?
ใช่ เรานี่
ผู้อาวุโสราธ มองดูฉากนี้ด้วยอารมณ์โกรธและเศร้า เฮ้อ…ทุกคนนึกถึงเพียงสงครามเลือดรอมบาเท่านั้น และไม่มีใครสนใจเรื่องกฎหมายเลย
แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวได้ระเบิดออกมาจากตัวเขาพร้อมกับแสงสีทองที่ส่องประกาย
หุบปาก
*ความเงียบ*
ทุกคนหุบปากและมองดูท่าทางโกรธของผู้อาวุโสราธ
ตอนที่ 114: มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป
ภายในวังวนสีดํา ดวงตาของมีมี่เป็นประกายขึ้นทันที เมื่อเธอหันไปหา เทียน่า และพูดว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพี่สาวคนโตอเวเลียคนนั้น มาที่นี่ด้วย มันจะแก้ปัญหาได้ในตอนนี้ไหม และเรายังสามารถกินอาหารดีๆ ได้อีกด้วยนะ
มีมี่ทําหน้าหนักแน่นแล้วพูดพร้อมกับกํามือเล็กๆ ของเธอเอาไว้ว่า มีมี่ทนรับความเจ็บปวดได้ ถ้าจะช่วยพี่ชายผู้พิทักษ์และพี่ใหญ่อเวเลีย เรามาช่วยทํากันเถอะ
เทียน่ารู้สึกว่าความคิดนี้ดี เธอยังไม่อยากให้เอธานรู้สึกแย่ เพราะเธอสามารถบอกได้ว่าเอธานกําลังดิ้นรนกับความคิดภายในหัวของเขา
ได้ๆ มีมี่ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกนะ ฉันจะได้คุยกับเอธาน
มีมี่พยักหน้าและพูดว่า มีพร้อมแล้ว พี่สาวสามารถคุยกับพี่ชายผู้พิทักษ์ได้แล้ว
จากนั้นเธอก็หลับตาลงและใช้พลังบางอย่าง
เทียน่าพูดว่า เอธาน…เอธาน…นายได้ยินฉันไหม
ด้านนอก…
เอธาน ได้ยินเสียงของ เทียน่า และรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเขาร้องออกมาโดยไม่สมัครใจ เทียน่า! เธอเป็นอย่างไรบ้าง หลายเดือนผ่านไปตั้งแต่ฉันได้ยินเกี่ยวกับเธอครั้งล่าสุด
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของ เทียน่า เอธาน อย่าเสียเวลาเลย ทําไมนายไม่ใช้สิ่งประดิษฐ์นั้น เพื่อถ่ายโอนจิตสํานึกของอเวเลีย ที่นี่ในวังวนสีดํา…
เอธาน กําลังฟังเธออยู่ แต่ผ่านไปครึ่งทาง เขารู้สึกกดดันอย่างมากจากด้านหลัง ขณะที่เขาหันหลังกลับไปเพื่อดูสถานการณ์
แต่ก่อนที่เขาจะมองเห็นอะไรได้ชัดเจน…
*อู้วว.*
ร่างหนึ่งผ่านไปบนตัวเขาพร้อมกับแสงวาบไปยังบ้านต้นไม้ และในวินาทีต่อมา เสียงกรีดร้องของอเวเลียก็ดังก้องมาจากที่นั่น
สีหน้าของเอธานเปลี่ยนไป เมื่อเขาเรียกปีกออกมาทันทีและรีบไปที่ห้องครัวโดยทุบกําแพงไม้
*บูม..*
เมื่อเขาเข้าไปโดยทําลายกําแพง เขาเห็นชายวัยกลางคนชี้จานสีเงินไปทางอเวเลีย ขณะที่แสงพุ่งออกมาจากมันแล้วพุ่งชนเธอ
ทันใดนั้น ร่างของเธอก็สลายไป เมื่อเอธานเห็นจิ้งจอกขาวตัวเล็กที่มีเขาสีเงินปรากฏขึ้นและถูกแผ่นเงินดูดกลืนเข้าไป
อะ…อะไรน่ะ
เอธาน มองไปที่สถานที่ที่ร่างของอเวเลียสลายไป และไม่ทิ้งไว้แม้แต่ขี้เถ้า
จากนั้นชายวัยกลางคนก็ทําลายจานเงินและบินหนีไปก่อนที่จะมองไปที่เอธาน ในขณะที่เขาพึมพําเบา ๆ ฉันขอโทษนะเด็กน้อย ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว
เอธานไม่ได้ยินอะไรเลยเพราะจิตใจของเขากําลังวุ่นวายมาก
เกิดอะไรขึ้น? ทําไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
เขาค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปยังที่ที่อเวเลียเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้ ขณะที่จิตใจของเขาเริ่มกรีดร้อง : ทําไมล่ะ? เมื่อวิธีแก้ปัญหาปรากฏขึ้น ทําไมกัน …
เมื่อเขาพบวิธีแก้ปัญหาแล้ว ตอนนี้อเวเลียก็หายตัวไป นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่โหดร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น
เขาดีใจที่ในที่สุดก็สามารถช่วยเธอได้ หลังจากที่เรียกเธอว่าเพื่อนสนิทของเขา แต่ตอนนี้
เขาไม่รู้ตัวเลย แต่น้ําตาก็ไหลออกมาก่อนจะไหลลงมา
อู้วว*
ผู้อาวุโสริเชนปรากฏตัวที่ด้านหลัง เอธาน พร้อมกับชายวัยกลางคนที่ฆ่าอเวเลีย ชายคนนั้นถูกล่ามโซ่ไว้ด้วยโซ่ทอง แต่เขาไม่ได้ต่อสู้และยืนอยู่ที่นั่น
เขามองดูเอธานและบริเวณโดยรอบ ขณะที่ถอนหายใจและพึมพํา เฮ้อ….ดูเหมือนว่าฉันจะมาสายไปแล้ว แต่เขาสังเกตได้มากกว่านี้และคิดว่าแปลก…ฉันไม่สามารถสัมผัสถึงส่วนที่เหลือหรือพลังงานที่เหลืออยู่ของมันได้
เอธาน หันกลับมาด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ําตา ขณะที่เขามองไปที่ผู้อาวุโสริเชน และชี้พ ลางตัวสั่นไปยังที่ที่อเวเลียเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้
เสียงแหบแห้งหลุดออกมาจากลําคอของเขา อาจารย์อเวเลียหายไปแล้วเหรอ ก่อนหน้านี้ฉันพบวิธีแก้ปัญหาแล้ว แต่…แต่..
ผู้อาวุโสริเชนสายหัว ในขณะที่เขาไม่ได้พูดอะไรและเพียงแค่ถอนหายใจ แต่ดวงตาของเขากลับเย็นชา เมื่อนึกถึงผู้กระทําความผิดที่แท้จริง ไอ้เวรนั่นโรทัล…
เขามองไปที่เอธานและรู้สึกได้ถึงความปวดใจ เขาไม่ได้คาดหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น และ นั่นก็เช่นกัน เมื่อเขารู้สึกว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้น เขาเพิ่งมาถึงที่นี่เพื่อวัดผลและซ่อนตัวอเวเลีย แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป
ไอ้สารเลวโรทัลนั่นเคลื่อนไหวเร็วเกินไป..เขาคงเริ่มวางแผนแล้ว เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณแห่งความวุ่นวาย ที่ซ่อนอยู่ในอเวเลีย เมื่อรามีลทดสอบเธอ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอมีสิ่งนั้นอยู่ในตัวเธอ มิฉะนั้น ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอสอบรอบสุดท้าย วิญญาณแห่งความโกลาหลใน ความรู้สึกของเธอสัมผัสได้ถึงรามิล ซึ่งเป็นวิญญาณที่วุ่นวาย และปล่อยมันออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ..*ถอนหายใจ*
เขาถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่โชคร้าย
เอธานเดินไปที่อาหารปรุงโดยอเวเลียด้วยฝีเท้าหนักๆ ขณะเช็ดหน้าของเขา, … หัวใจของเขาตอนนี้ปวดร้าวมาก เมื่อเขาจําได้ว่าเธอจะทําอาหารให้เขาและดูแลเขาอย่างไรทั้งที่เขาไม่ได้ถาม .
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เขารู้สึกชัดเจนว่าอเวเลียจริงใจกับเขาและจําสิ่งที่เรียกว่าเป้าหมายของเธอไม่ได้เพราะพวกเขาทั้งคู่ทะเลาะกันและพูดคุยกันทุกวัน เขาสัมผัสได้ถึงความรักที่แท้จริงของเธอที่มีต่อเขาในวันนี้ แต่…
ทําไม… เรื่องนี้ต้องเกิดขึ้น? ทําไมไม่พรุ่งนี้? หรืออีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา? ขณะที่ความคิดของเขากรีดร้อง เขาก็มาถึงหน้าจานข้าวที่ปรุงสุกของเธอ
เอธานหยิบจานหนึ่งขึ้นมา และเขาก็กัด…
*อุดอู้*
น้ําตาไหลลงมาอีกครั้ง เมื่อภาพปรากฏขึ้นในใจของเขา ภาพของอเวเลีย ที่กําลังทําอาหาร ขณะที่เขาก็ร้องไห้
เอธานเช็ดหน้าพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตรัสว่า อาจารย์ ใครเป็นผู้บงการเบื้องหลังเรื่องนี้
เสียงเย็นชาของเขาดังขึ้น เมื่อเขาหันกลับมามองชายวัยกลางคนที่ถูกล่ามโซ่ไว้
เขารู้ว่าชายผู้นี้เป็นเพียงแพะรับบาป
ผู้อาวุโสริเชนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าในคําพูดของเอธาน แต่เขาถอนหายใจก่อนที่ใบหน้าจะเย็นชาและพูดด้วยแววตาเย็นชาว่า อย่ากังวล เขาจะต้องชดใช้ความผิดครั้งนี้ เด็กน้อย คุณต้องข้ามเส้นทางความเจ็บปวดนี้ไป แม้ว่าเขาจะเป็นบรรพบุรุษของเธอแต่เขาก็จะไม่รอดตาย
อย่ากังวลไปเลย คุณไม่ควรทําสิ่งใดๆ ให้เป็นแผลเป็น และอย่าปล่อยให้หัวใจของคุณจมอยู่ในความเกลียดชัง
เขากังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเอธาน เนื่องจากเหตุการณ์นี้อาจทําให้เขาเกิดแผลเป็นในใจ และ การฝึกฝนของเขาอาจไม่ราบรื่น เขาอาจจะยอมแพ้ต่อความเกลียดชัง ซึ่งเขาไม่ต้องการเห็นมากที่สุด
เอธานส่ายหัว เมื่อได้ยินเช่นนั้นและสูดหายใจเข้าลึกๆ
เขารู้ว่าต้องทําอะไรและไม่ควรทํา สิ่งเดียวที่เขาทําได้ในตอนนี้คือต้องเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม เขาอดไม่ได้ที่จะจําได้ว่าอเวเลียกระตือรือร้นในตัวเขาตลอดเวลาเพียงใด เมื่อใดก็ตามที่เขาพูดกับเธอให้ไปช้อปปิ้งด้วยกัน เธอก็คงจะดีใจมาก แม้คําชมของเขาเพียงเล็กน้อยก็ทําให้เธอมีความสุข และวันนี้ในที่สุดเขาก็รู้ว่า อเวเลีย และ เทียน่า มีความรู้สึกแบบเดียวกันต่อเขา
‘นั่นเป็นเหตุผลที่เธอบอกว่าเธอจะทิ้งฉันไป..เธอไม่ต้องการเป็นภาระแก่ฉันและกลายเป็นสิ่งกีดขวางของฉัน’
เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาบีบแน่น เมื่อเขานึกถึงคําพูดของเธอที่เธอพูดกับเขาในวันนี้
ผู้อาวุโสริเชนเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เขามองดูสีหน้าของเอธานและสภาพจิตใจของเขา ‘ภรรยาของเขาก็หายไปที่ไหนสักแห่งด้วย และตอนนี้อเวเลียก็เช่นกัน…’
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พบทางออกที่ดีในการฟื้นฟูเอธาน ‘ตอนนี้ เขาต้องการอยู่กับครอบครัวของเขา ควรจะมีญาติของเขาบางคนอยู่ในที่ห่างไกลที่เขาจากมา ‘
เมื่อมองไปที่เอธาน เขาพูดเบา ๆ เอธาน…ฉันคิดว่าคุณไม่ควรอยู่ที่นี่อีกต่อไป ที่แห่งนี้จะทําให้คุณไม่มีสมาธิกับการฝึกฝน
เมื่อได้ยินคําพูดของเขา เอธานก็มองไปรอบๆ และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันที่เขาอยู่ที่นี่กับอเวเลีย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้อาวุโสริเชนกล่าวต่อ ในฐานะอาจารย์ของคุณ ฉันแนะนําให้คุณไป เยี่ยมครอบครัวของคุณใน Griza Star Sector และใช้เวลาอยู่ที่นั่น
เอธานตกตะลึง เมื่อได้ยินว่าขณะพึมพํา ไมค์…คุณราล์ฟ…
จากนั้นเขาก็มองไปที่อาจารย์ของเขาและพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เหนื่อยล้าและรอยยิ้มเศร้า ขอบคุณสําหรับความห่วงใยของคุณอาจารย์ ฉันต้องการไปเยี่ยมครอบครัวของฉันด้วยและหวังว่าคุณจะสามารถช่วยฉันได้เรื่องการเดินทาง
ไม่ต้องห่วง ฉันจะเตรียมวีธีที่เร็วที่สุดเพื่อไปส่งคุณ แต่ก่อนอื่น ให้ฉันส่งผู้ชายคนนี้ให้เจ้าหน้าที่ก่อน
เอธาน มองไปที่ชายคนนั้น ซึ่งดูเหมือนจะมีท่าทางตายด้วยแววตาโล่งใจและพยักหน้าอย่างเฉยเมย
ผู้อาวุโสริเชนพยักหน้า ขณะคิดด้วยความโล่งใจ ‘ฉันดีใจจริงๆ ที่เขาเห็นภาพรวมและไม่ยอมแพ้ต่อความเกลียดชัง’
จากนั้นเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า ฉันจะเตรียมไฮเปอร์เกทระยะไกล หากมีเกทบนดาวของคุณก็บอกพิกัดของมันมา
เอธาน ไม่ทราบพิกัดและบอกมันว่าเขาย้ายจากดาวเคราะห์ของเขาไปยังดาวเรซคีล ได้อย่างไรและทําการตรวจสอบที่นั่น
ผู้อาวุโสริเชนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า คุณช่วยแสดงภาพของสตาร์เกท ในโลกของคุณด้วย แผ่นพิกัดที่ติดอยู่ได้ไหม
เอธาน พยักหน้าในขณะที่เขาจําได้อย่างชัดเจนและควบคุมพลังงานต้นกําเนิดของเขา เพื่อแสดงภาพลักษณ์ที่ถูกต้องแก่ผู้อาวุโสริเชน
ผู้อาวุโสริเชนสังเกตภาพนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าและกล่าวว่า เข้าใจแล้ว ฉันสามารถเชื่อมต่อ ไฮเปอร์ สตาร์เกท กับ สตาร์เกท นี้ได้ และคุณสามารถไปถึงที่นั่นได้ทันที ฉันจะมาที่นี่หลังจากเตรียมการเสร็จแล้ว
จากนั้นเขาก็หายเข้าไปในพอร์ทัลพร้อมกับชายวัยกลางคน
ตอนที่ 113: ความจริง ความลับ
เอธาน มองที่เครื่องหมายด้วยความสับสนเพราะเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
มันคืออะไร?
รอยนั้นค่อยๆหายไปราวกับว่ากําลังจมกลับเข้าไปในมือของเธอ ก่อนที่อเวเลียจะลืมตาขึ้น และพูดพร้อมกับถอนหายใจ นี่คือ…จิตวิญญาณแห่งความโกลาหล
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อ แม่ของฉันโชคดีพอที่จะพบกับจิตวิญญาณแห่งความโกลาหล และวิญญาณก็เต็มใจที่จะทําสัญญากับเธอ แต่เนื่องจากวิญญาณมีความพิเศษเล็กน้อย มันจึงดึงดูดความโลภ
วิญญาณที่โกลาหลนั้นหายากมาก และไม่มีข้อมูลมากนัก โดยทั่วไปแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะบังคับวิญญาณที่วุ่นวายอย่างแรง เนื่องจากพวกมันก็มีพลังมากเช่นกัน วิธีเดียวที่จะได้วิญญาณที่โกลาหลคือถ้าวิญญาณที่วุ่นวายนั้นเอง เต็มใจ แต่วิญญาณที่โกลาหลที่แม่ทําสัญญาด้วยเป็นวิญญาณดวงแรกที่ไม่รุนแรงและดูเหมือนอยู่ในวัยทารก ด้วยเหตุนี้ ครอบครัวของฉันจึงถูกครอบครัวเซ็นฟอร์ดละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรพบุรุษของตระกูลเซ็นฟอร์ด
เอธาน ตกใจที่ได้ยินข้อมูลเช่นนั้น มันช่างละเอียดอ่อน ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอลังเลที่จะบอกฉันเรื่องนี้ ?
แต่ถ้าพวกเขารู้ว่าเธอมีวิญญาณที่วุ่นวายล่ะ?
อเวเลียส่ายหัวด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ ขณะที่น้ําตาเอ่อคลอในดวงตาของเธอและพูดว่า พวกเขาคงไม่รู้ วันหนึ่งแม่ของฉันให้แหวนพิเศษที่ดูคล้ายกับแหวนที่ฉันสวมเสมอและบอกว่าฉันใส่ตลอด แหวนวงนี้และบอกว่าในวันเกิดปีที่ 18 ของฉัน ในที่สุดฉันก็จะได้ค้นพบความจริง
แต่…แต่..*สะอื้น* วันรุ่งขึ้นฉันพบว่าแม่ของฉันตายแล้ว พ่อของฉันบอกฉันว่าเธอเสียชีวิตเพราะกลุ่มทหารรับจ้างโจมตีเธอ เธอจึงปลิดชีพตัวเองและระเบิดด้วยจิตวิญญาณที่วุ่นวายของเธอ
ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจอะไรเลยเพราะฉันยังเล็ก แต่เมื่ออายุได้ 18 ปี แหวนก็สลายไปโดยอัตโนมัติ สิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นใน อาณาจักรลึกลับของฉันพร้อมกับเสียงของแม่ของฉัน
อเวเลียปาดน้ําตา ขณะที่เธอจําคําพูดที่แม่พูดกับเธอได้แม่นๆ ในตอนนั้น ในที่สุดฉันก็พบความจริง เธอส่งวิญญาณมาให้ฉันผ่านวงแหวน ขณะที่เธอใช้วิญญาณส่วนเล็กๆ ให้ทุกคนรู้ว่า เธอระเบิดอารมณ์ที่วุ่นวาย ในข้อความของเธอ เธอบอกฉันว่า หากฉันพบคนที่สามารถทําให้เกิดเสียงสะท้อนกับวิญญาณที่วุ่นวาย ให้พึ่งพาบุคคลนั้นและขอความช่วยเหลือจากบุคคลนั้น เธอกล่าวว่า ถ้าคนนั้นเป็นเด็กผู้ชายแต่งงานกับเขาเพราะมันจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและมอบวิญญาณที่วุ่นวายให้กับเขาเพื่อชีวิตที่ปลอดภัย หลังจากที่คุณรู้สึกว่าเขาสามารถปกป้องคุณได้
เธอสุดหายใจเพื่อคลายความปั่นป่วนจากการจําแม่ของเธอและพูดต่อ เธอยังบอกให้ฉันทําตัวปกติในครอบครัวและอย่าคิดที่จะล้างแค้น แต่… ฉันอยากจะล้างแค้นให้แม่ของฉัน และเพราะ เธอเป็นเช่นนั้น คนพิเศษ จิตใจของฉันหม่นหมองและสับสนกับความคิดมากมายที่ในที่สุดก็พบเธอจนฉันอดกลั้นและทําตัวโง่ ๆ ไม่ได้
เอธานไม่รู้จะพูดอะไร โดยธรรมชาติแล้วเขาไม่ต้องการวิญญาณที่วุ่นวาย และปัญหาของเธอก็มาก จนเขาไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาได้
อเวเลียเห็นท่าทีของเอธาน และยิ้มขณะที่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ําตา ซึ่งหยุดนิ่งและไม่ปล่อยให้พวกมันตกลงมา เธอไม่ต้องกังวล ฉันทําไม่ได้ และไม่อยากใส่เธอเข้าไป เพราะมันจะอันตรายเพราะฉัน
เธอปาดน้ําตาก่อนที่พวกเขาจะร่วงหล่นและพูดด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นว่า ในเมื่อฉันไม่สามารถทําให้นายตกหลุมรักฉันได้ ฉันก็จะไม่…จะไม่ทําต่อ ฉันจะไม่กวนใจนายต่อจากนี้
เมื่อพูดอย่างนั้น เธอไม่รอให้เอธานพูดอะไร และหันกลับมาก่อนจะพูดว่า ฉันหวังว่านายจะกินอาหารของฉันเป็นครั้งสุดท้าย
จากนั้นเธอก็เริ่มย้ายไปที่บ้านต้นไม้และเข้าไปในห้องครัว
เอธานอึ้งเมื่อได้ยินแบบนั้นและไม่รู้จะตอบเธอว่าอย่างไร เธอ…จริงจังนะ ฉันรู้สึกได้ แต่… ส่ายหัวพึมพํา ฉันมีเทียน่าอยู่แล้ว
เขาถูขมับ ในขณะที่เขารู้สึกสับสนและกังวลกับสถานการณ์นี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้ก็คือปัญหาของเธอนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาจะรับมือได้
ถ้าฉันเป็นคนระดับสูงสุด ฉันจะช่วยเธอได้ เอธานพึมพํา แต่เขารู้สึกว่า…ภายในใจของเขาอ่อนล้าและไร้พลัง
เฮ้อ ฉันเพิ่งประกาศว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน และตอนนี้ฉันไม่สามารถช่วยเธอได้จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอหลังจากจากนี้ไป? ถ้าเธอถูกจับได้ล่ะ?
เขากํากําปั้นด้วยความโกรธเพราะเขาไม่ชอบสถานการณ์ปัจจุบัน
ฉันควร… ฉันขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสริเชนดีไหม? แต่ศัตรูของอเวเลียคือระดับบรรพบุรุษ แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ถ้าผู้อาวุโสริเชนเองก็ประสบปัญหาเช่นกัน? บ้าเอ้ย…
โอ้พระเจ้า…ทําไมพี่ผู้พิทักษ์ถึงดื้อดึงขนาดนั้น เขาไม่เห็นหรือว่าเธอรักเขามาก และตอนนี้ก็เต็มใจที่จะแยกจากเขาเพียงเพราะเธอไม่อยากทําให้เขาตกอยู่ในอันตรายใช่ไหม พี่สาวเทียน่า ?
เทียน่าถอนหายใจและกล่าวว่า มีมี่ ตอนนี้อเวเลียห่วงใยเอธานจริงๆ และแม้ว่าเอธาน จะยอมรับเธอและความรู้สึกของเธอ เธอก็จะยังคงทิ้งเขาไว้เพื่อไม่ให้เขาตกอยู่ในอันตราย ตอนแรกเธออาจไม่มีแผนนี้และต้องการของเอธาน เพราะเขาอาจจะช่วยได้จริง แต่อย่างที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้ เธอไม่มีวันทําให้เขาตกอยู่ในอันตรายได้เพราะเธอหรอก
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า ฉันเดาว่าตั้งแต่เธอพบว่าคนพิเศษคือเอธาน แต่ไม่เห็นใจถ้าเอธาน ตกอยู่ในอันตรายเพราะเธอ ด้วยความรู้สึกของเธอ เธอจะอยู่ในความมืดและซ่อนมันอยู่เสมอ ดังนั้น เพื่อไม่ให้ถูกจับได้หากพบความลับของเธอ เธอจะต้องซ่อนมันไว้ แต่ตอนนี้เธอทํามันไม่ได้แล้ว
มีมี่เงียบไปขณะที่คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน และใบหน้าของเธอก็แสดงท่าทางเศร้าๆ นั่นน่า เศร้านะมีมี่ไม่ชอบเลย
หลังจากเข้าไปในครัว อเวเลียก็อดกลั้นน้ําตาไว้ไม่อยู่ และเธอเริ่มสะอื้นไห้ แต่ความเชื่อมั่นของเธอไม่สั่นคลอน
ขอโทษนะแม่ ฉันไม่สามารถพึ่งพาเอธานได้ ฉันไม่สามารถทําให้ชีวิตของเขาลําบากและ ทําให้เขาตกอยู่ในอันตรายเพราะฉัน เขาต้องมีความสุขมากกว่าใครๆ และฉันไม่ต้องการที่จะกลายเป็นสิ่งกีดขวางของเขา แต่ฉันจะล้างแค้นให้คุณอย่างแน่นอน ด้วยมือของฉันเอง
ในขณะเดียวกัน อาจารย์ของมีเรียด สตาร์ อะคาเดมีที่ดูราวๆ 40 ปีและมีศีรษะล้านดูเหมือนจะกําลังเดินไปบ้านต้นไม้ของ เอธาน ซึ่งไม่ทราบเจตนาของเขา ในเวลาเดียวกัน สถานที่ที่มีการประชุมในเขตภูมิภาคในตํานาน
ในห้องประชุม ร่างหนึ่งหายไปที่ละคน
แต่คน 2 คนอยู่ราวกับว่าตกลงกันไว้ล่วงหน้า
คนหนึ่งดูแก่และมีความคล้ายคลึงเล็กน้อยกับผู้อาวุโสริเชน ในขณะที่อีกคนดูเหมือนชายวัยกลางคนที่มีผมสั้นสีน้ําตาลเข้ม
ชายชราพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม โรทัล นายคงสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อยู่ภายในร่างกายของเธอ หลังจากที่มันปล่อยมันออกมาในระหว่างการทดสอบโดยไม่ได้ตั้งใจ จริงไหม?
โรทัล เซนฟอร์ดมีสีหน้าสับสนและพูดว่า พี่ ฉันไม่รู้ว่าพี่กําลังพูดถึงอะไร และขอฉันออกไปตอนนี้ได้ไหม ฉันมีเรื่องครอบครัวที่ต้องดูแล ฉันอยู่เพราะคุณบอกฉันให้อยู่ แต่ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าคุณกําลังพูดเรื่องอะไร
เมื่อได้ยินคําพูดของเขา ผู้อาวุโสราธก็พ่นลมหายใจออกมาและปล่อยความกดดันที่มองไม่เห็นออกมาก่อนจะพูดด้วยท่าทีข่มขู่ว่า อย่าล้ําเส้นที่ฉันตั้งไว้ ไม่อย่างนั้น… ฉันจะไม่รังเกียจที่จะลบนาย
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาก่อนจะพูดช้าๆ นายควรจะรู้ว่า ฉันทําได้ และไม่มีใครจะคัดค้านการกระทําของฉันได้ ตั้งความปรารถนาของนายไว้ให้ดี และถ้านายอยากได้อะไรจริงๆ ก็เอาเลย ด้วยความสามารถของนายเอง แทนที่จะยึดจากรุ่นน้อง
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หายตัวไปจากห้องโถง
ตอนนี้เขาอยู่ตามลําพังในห้องโถง ใบหน้าของ โรทอล เซนฟอร์ด บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ขณะที่เขาคิดว่า ไอ้แก่สารเลว รอให้ฉันได้จิตวิญญาณที่วุ่นวายมาก่อนเถอะ แล้วมาดูกันว่าแกจะลบฉันทิ้งอย่างไร ?
จากนั้นเขาก็หยิบแผ่นเงินที่มีสัญลักษณ์และลวดลายออกมา ซึ่งเริ่มส่องแสงหลังจากนําออกมาได้ไม่นาน
เขาพึมพําด้วยดวงตาที่ขุ่นมัวด้วยความโลภ นายควรทําหน้าที่ของนายอย่างถูกต้อง
ในเวลานี้อเวเลียทําอาหารเสร็จแล้วด้วยน้ําตาที่ไหลรินเป็นบางครั้ง
จากนั้นเธอก็เข้าสู่อาณาจักรต้นกําเนิดก่อนที่อวาตารต้นกําเนิดของเธอจะพูดกับจิ้งจอกขาวตัวเล็กที่มีเขาสีเงินและขนอันวิจิตรงดงาม
เธอต้องการทําสัญญากับผู้ชายข้างนอกคนนั้นใช่ไหม
จิ้งจอกเงินผงกศีรษะด้วยดวงตาที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา มองไม่เห็นความเศร้าเบื้องหลังรอยยิ้มของอเวเลีย
ไม่ต้องกังวล เจ้านายคนใหม่ของเธอเก่งกว่าฉันมาก และเขาก็จะสามารถรักษาเธอได้เร็วขึ้น และทําให้เธอแข็งแกร่งขึ้น เหมือนกับจิตวิญญาณที่วุ่นวาย ขอบคุณที่ช่วยฉันมาจนถึงตอนนี้ ฉันจะเลิกทํา สัญญา โอเคไหม
*ฮ่วย ฮี ฮี ฮี่*
จิ้งจอกเงินส่งเสียงบางอย่างออกมา ขณะที่มันเผยให้เห็นสีหน้าที่มีความสุขบนใบหน้าที่น่ารักของมัน
อเวเลียพร้อมที่จะยกเลิกสัญญา ขณะที่เอธานยืนอยู่ข้างนอกด้วยท่าทางไม่สบายใจ ขณะที่เธอก็พยายามคิดหาวิธีช่วยเหลืออเวเลีย
อาจารย์หัวล้านเห็นต้นไม้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านต้นไม้ของเอธาน เผยให้เห็นสีหน้าเศร้าสร้อย ก่อนที่ดวงตาของเขาจะแน่วแน่ ในขณะที่เขาพูดพึมพํา ฉันได้แจ้งห้องโถงของอาจารย์แล้วว่า ฉันอยู่ที่นี่เพื่อทดสอบอเวเลีย และถ้าเป็นไปได้ ก็ปล่อยให้เธอกลายเป็นของฉัน แม้ว่าจะมีบางอย่างผิดพลาด ฉันก็สามารถทํางานของฉันให้เสร็จได้
จากนั้นเขาก็หยิบจานเงินใบเดียวกับที่อยู่ในมือของ โรทัล เซนฟอร์ดออกมาแล้วคิด ในขณะที่มือของเขาสั่น ฉันหวังว่าเธอจะปล่อยภรรยาและลูกสาวของฉันไป หลังจากที่ฉันทํางานเสร็จ
ตอนที่ 112: การต่อสู้ของนักเรียน
หลังจากที่เอธาน จากไป ผู้อาวุโสริเชนก็พึมพํา ขณะมองไปยังทางที่เอธานจากไป ชายชรา เซนฟอร์ด ฉันหวังว่าคุณจะทําตัวเป็นรุ่นพี่และบรรพบุรุษที่เหมาะสม มิเช่นนั้น…
….
ในไม่ช้าเอธานก็มาถึงที่ที่พวกเขาลงจอดเป็นครั้งแรก นักเรียนอีก 49 คนอยู่ที่นั่นด้วย
เมื่อเห็น เอธาน มาถึงอเวเลียก็พุ่งเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้ม เอธาน ความก้าวหน้าของนายเป็นอย่างไรบ้าง? นายต้องมีพลังมาก หลังจากใช้เวลา 1 เดือนในภูมิภาคในตํานานนี้แน่ๆ
เอธาน พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า อันที่จริง ฉันมีพลังมากกว่าเมื่อก่อนมาก
ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนอายุ 20 ก้าวไปข้างหน้าหาเอธาน
เมื่อเห็นเขา อเวเลียก็ขมวดคิ้วเพราะว่าชายคนนี้ไร้ยางอายมากพอที่จะขอแต่งงานหลังจากที่ถูกเธอทุบตี
เธอจ้องมาที่เขา แต่เขามองแค่เอธานก่อนจะหันไปหาชายวัยกลางคน ท่านครับ เรามาดวลกันที่นี่ได้ไหม ผมสัญญาว่าจะใช้เวลาไม่นาน
ชายวัยกลางคนมองไปที่ เอธาน และ รูธเรนก่อนพยักหน้าด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง คุณทําต่อได้
เมื่อได้ยินเช่นนี้ รูธเรนก็มองไปที่เอธานและขดริมฝีปากของเขาก่อนจะพูดว่า ฉัน รูธเรน วิทเบอร์ซขอท้าคุณให้ประลองกัน คุณกล้ายอมรับไหม
เอธานยิ้มในขณะที่เขาต้องการตรวจสอบพลังใหม่ของเขา ดังนั้นเขาจึงยอมรับการต่อสู้ แน่นอน แต่ฉันมีเงื่อนไข 1 ข้อ
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ รูธเรนก็ขมวดคิ้วและถามว่า เงื่อนไขอะไร?
ก่อนที่เราจะต่อสู้ เราได้รับอนุญาตให้ใช้การป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของเรา เพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ
เอธานพูดอย่างใจเย็นและรอคําตอบ
เมื่อได้ยินคําพูดเช่นนี้ ทุกคนก็รู้สึกพูดไม่ออกสักวินาทีก่อนจะหัวเราะเยาะ
นักเรียนจํานวนมากในจํานวน 48 คนส่ายหัวและมองที่อเวเลียด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เพ ราะพวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่เอธานพูดนั้นขี้ขลาดเกินไป
รูธเรนเยาะเย้ย หลังจากได้ยินเงื่อนไขนี้และพูดว่า เอาล่ะ ฉันจะรู้สึกแย่ ถ้าฉันไม่ยอมรับสภาพขี้ขลาดที่เสนอโดยนักเรียนขี้ขลาด แต่ฉันหวังว่าคุณจะไม่เสนอเงื่อนไขนี้กับศัตรูของคุณในการต่อสู้ ไม่อย่างนั้น…..ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า พวกเขาอาจจะตายเพราะเสียงหัวเราะก็ได้
แหม…อันที่จริง นี่อาจเป็นความคิดที่ดีที่จะฆ่าศัตรูของคุณ
….
นักเรียนคนอื่นๆ หัวเราะออกมาดังๆ กับคําพูดของรูธเรน ขณะที่เอธานถอนหายใจและส่าย
อเวเลียกําลังฟูมฟาย แต่เธอเชื่อในเอธาน และนิ่งเงียบ เอธานจะแสดงให้พวกเขา เห็นว่าใครเป็นเจ้านายที่นี่
อย่าเสียเวลาและเริ่มการต่อสู้
เมื่อได้ยินคําพูดของชายวัยกลางคน ทั้ง เอธาน และ รูธเรน ก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า
เนื่องจากรูธเรนยอมรับคําขอของเอธาน เขาจึงใช้คาถาป้องกัน อันทรงพลัง ซึ่งเป็นเกราะที่เหมือนเพชรที่มีลวดลายสีน้ําตาลและเลือด
เขาถูกปกคลุมไปด้วยเกราะนั้นอย่างเต็มที่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
เอธาน ยังใช้เวทย์มนตร์เกราะเลือดของเขาบนชุดมังกรสีดํา
รูธเรนเยาะเย้ย เอธาน อีกครั้ง เมื่อเห็นชุดเกราะของเขา นี่เป็นคาถาป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของคุณหรือ? คุณช่วยเอาสิ่งที่ดีกว่านี้ออกมาได้ไหม
เอธานยิ้มเมื่อได้ยินแบบนั้นและพูดว่า คุณเป็นนักเรียนเก่าใช่ไหม คุณอายุเท่าไหร่
รูธเรนไม่รู้ว่าทําไมเอธาน ถึงถามแบบนี้ แต่เขาตอบว่า จริงสิ และฉันอายุ 58 ปี แต่อายุไม่สําคัญหรอก เมื่อคุณมาถึงขั้นนี้แล้ว เราทั้งคู่ก็เท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้นอย่าร้องให้เรื่องอยุติธรรมเลย
เอธาน พูดไม่ออกและคิดว่า เฮ้อ คุณไม่สามารถตัดสินใครจากรูปลักษณ์ภายนอกของพวกเขาที่นี่ได้
3
2
1
การดวล เริ่มได้
เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตให้เริ่มเกมได้ ทั้งสองโจมตีพร้อมกัน
แต่เอธาน เร็วกว่า
เขาเพิ่งขยับนิ้ว ขณะที่จักรทั้งสองปรากฏขึ้นข้างนอกก่อนที่จะหายไปในทันที
ใบหน้าของรูธเรนเปลี่ยนไป เมื่อเขายกเลิกการโจมตีและใช้บาเรียรอบๆ ตัวเขา แต่จักรก็พังทลายลงทันทีที่ปรากฏขึ้นชั่วครู่ ขณะที่พวกมันหายไปอีกครั้งและปรากฏขึ้นข้างๆ เขา
อันหนึ่งอยู่ทางซ้ายและอีกอันหนึ่งอยู่ทางขวา
*แคร็กแคร็ก…แคร็กแคร็ก*
เกราะของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากทั้ง 2 ด้าน ขณะที่บาดแผลเลือดไหลปรากฏบนมือซ้าย และขวาของเขา ซึ่งเขาเคยปิดกั้นจักรทั้ง 2
อ๊าาาาาาาาาาาาาา….
เขาสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่หายไป ในขณะที่มือของเขาได้รับความเสียหายพอสมควร กระดูกของเขาก็หักและแตกเป็นเสี่ยงๆ
เอธาน หวนคิดถึงจักรอีกครั้ง หลังจากการปะทะกันครั้งหนึ่ง เพราะเขาไม่ต้องการทําร้ายเขามากเกินไป
เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายวัยกลางคนก็พูดด้วยความประหลาดใจว่า ผู้ชนะคือเอธาน จากนั้นเขาก็โบกมือไปทางรูธเรนที่กําลังกรีดร้อง และดึงเขาลงก่อนจะเริ่มรักษาเขา
ในเวลาเพียงไม่กี่นาที อาการบาดเจ็บของ รูธเรนทั้งหมดหายไปเมื่อเขามองไปที่ เอธาน อย่างน่ากลัวและคิดว่า ถ้าฉันไม่ใช้เวทมนตร์ป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของฉัน ฉันคงตายในทันที
ในเวลานี้ รูธเรนก็ทราบสาเหตุที่เอธานเสนอเงื่อนไขนั้นด้วย
นักเรียนคนอื่นๆ ต่างตกตะลึงและหน้าแดง
เมื่อพวกเขานึกได้ว่าพวกเขาเยาะเย้ยเอธานที่เสนอเงื่อนไขนั้นอย่างไร พวกเขารู้สึกเหมือนฝังใบหน้าของพวกเขาไว้กับพื้น
ฉันรู้แล้ว!! ไอ้พวกไร้ประโยชน์พวกนั้นสู้นายไม่ได้หรอก
อเวเลียตื่นเต้นมากจนเมื่อเอธานลงมา เธอรีบวิ่งเข้าไปกอดเขา
เอธานตกตะลึงเมื่อรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยแต่ก็ดีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขาไอ ในขณะที่เขารู้สึกผิดที่ทําเช่นนี้ เมื่อเขามีเทียน่าอยู่แล้วและเธอยังคงติดอยู่ในตอนนี้
อเวเลียได้ยินเสียงไอ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอทําอะไรลงไป และรีบแยกตัวจากเอธานด้วยใบหน้าแดงและพูดด้วยน้ําเสียงที่แผ่วเบาว่า ขอโทษนะ
*คชา…คชา..*
ได้ยินเสียงของบางสิ่งแตกสลายนับไม่ถ้วน ขณะที่ผู้คนจํานวนมากที่มีความรู้สึกต่ออเวเลียรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ
เอาล่ะ ยานอวกาศมาแล้ว ทุกคนยืนตรงที่คุณอยู่ อย่าขยับ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ยืนนิ่ง ขณะที่พวกเขาถูกดึงขึ้นหลังจากนั้นไม่กี่วินาที และปรากฏตัวขึ้นภายในห้องโถงในยานอวกาศ
รูหนอนพร้อมแล้ว เตรียมกระโดดข้ามมัน
ทุกคนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยขณะข้ามผ่านรูหนอน
คราวนี้ ชายวัยกลางคนก็ปรากฏตัวขึ้นบนยานอวกาศด้วย
เขามองไปที่เอธาน อเวเลีย และนักเรียนอีก 4 คนก่อนจะพูดด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจ คุณ 8 คน ตามฉันมา จุดดรอปแรกอยู่ที่เขตของ มีเรียดสตาร์ อะคาเดมี่
พวกเขายังคงเดินตามชายวัยกลางคน ขณะที่พวกเขาเดินผ่านประตูและมาถึงห้องโถงอีกห้องที่เล็กกว่า
มีประตูหลายประตูในห้องโถง และหนึ่งในนั้นถูกเปิดใช้งาน
ชายวัยกลางคนมองดูพวกเขาและพูดว่า ประตูนี้นําไปสู่ มีเรียด สตาร์ อะคาเดมีไปและเข้าไปทีละคน
เอธาน และคนอื่นๆ พยักหน้าเมื่อพวกเขาเข้าไปใน สตาร์เกททีละคนและปรากฏตัวที่เดียวกันที่มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่
มีครูหลายคนอยู่ที่นั่นและแม้แต่ผู้อาวุโสริเชน ก็ยืนอยู่ที่นั่นด้วยรอยยิ้ม
เอธาน และ อเวเลีย เดินไปทางผู้อาวุโสริเชน เมื่อพวกเขาเห็นท่าน
เขามาที่นี่ได้ยังไง? เขาใช้ยานอวกาศลําอื่นหรือไม่? เอธาน รู้สึกสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับการปรากฏตัวของผู้อาวุโสริเชนที่นี่ แต่หลังจากจําได้ว่าเขามีโอกาสฝึกฝนอย่างไรในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากเขา เอธานไม่ได้เจาะลึกเรื่องนี้เพราะเขามั่นใจว่าผู้อาวุโสริเชนไม่ใช่แค่เพียงผู้อาวุโสที่เรียบง่ายของมีเรียดสตาร์อะคาเดมี่แน่นอน
ผู้อาวุโสริเชนมองไปที่เอธาน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า เอธาน คุณสามารถเป็นนักเรียนส่วนตัวอย่างเป็นทางการของฉันได้ เพียงแค่ตอบตกลง ฉันแจ้งห้องครูเกี่ยวกับคุณแล้ว แต่คุณสามารถปฏิเสธได้เช่นกันหากคุณไม่ต้องการ
เอธาน ประหลาดใจแต่ก็ยินดี เขาจะโง่และเนรคุณถ้าเขาบอกว่าไม่ ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงทัน
จากนั้นเขาก็มองไปที่ผู้อาวุโสริเชน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า ท่านอาจารย์
ผู้อาวุโสริเชนสายหัวด้วยรอยยิ้มและพูดว่า ไม่ต้องเรียกฉันว่าท่านอาจารย์ เรียกฉันว่าอาจารย์ ตอนนี้พักผ่อนสัก 2-3 วัน ฉันจะเรียกหาคุณทีหลัง
จากนั้นเขาก็เปิดประตูที่ เอธาน และ อเวเลีย เข้ามาและปรากฏตัวที่บ้านต้นไม้ของ เอธาน
อเวเลียเริ่มเดินไปที่บ้านพร้อมกับพูดอย่างมีความสุข รอสักครู่ ฉันจะทําอาหารอร่อยๆ ให้
อืม
เมื่อเห็นอเวเลียหันหลังกลับ เอธานก็พูดด้วยท่าทางสงบ ฉันคิดว่าถึงเวลาที่เธอต้องบอกฉันเกี่ยวกับบางสิ่ง
อะไรนะ? อเวเลียดูสับสนในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปตามที่เธอจําได้
ฉันลืมมันไปโดยสิ้นเชิงหลังจากใช้เวลาหลายเดือนกับเขา…และตอนนี้ ปวดในใจ เมื่อนึกถึงเหตุผลที่เธอเข้าหาเอธานตั้งแต่แรก
อเวเลียรู้สึกเจ็บ
ดวงตาของเธอเผยให้เห็นการต่อสู้ที่รุนแรงและความรู้สึกที่ซับซ้อน ขณะที่เธอมองไปที่เอธาน
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เอธานก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า อเวเลีย ตอนนี้ฉันถือว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ถ้าฉันสามารถแก้ปัญหาของเธอได้ ฉันจะช่วยเธออย่างแน่นอน
เพื่อนซี้? อเวเลียหัวเราะอย่างขมขึ้น แต่เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า ฉันมีปัญหาจริงๆ และมีเพียงนายเท่านั้นที่แก้ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันอยากแต่งงานกับนาย เพราะเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว นายจะช่วยได้แน่นอน ฉันแก้ปัญหาของฉันโดยวิธีแย่ๆ แต่ฉันไร้เดียงสา พยายามใช้วิธีที่รุนแรง และทําผิดพลาด
เอธานพยักหน้าและถามด้วยความสงสัย แต่เธอรู้ได้อย่างไรว่าฉันช่วยเธอได้
อเวเลียเข้ามาใกล้เอธานและยื่นฝามือให้เธอดูด้วยเหตุนี้ จากนั้นเธอก็หลับตาลง
ในขั้นต้น ไม่มีอะไรบนฝ่ามือของเธอ แต่มีลวดลายแปลก ๆ ปรากฏขึ้นและก่อตัวเป็นเครื่องหมายหลังจากนั้นไม่กี่วินาที
เครื่องหมายนั้นดูเหมือนหัวของจิ้งจอกขาวที่มีเขาสีเงิน และมันก็ส่องแสงจางๆ
ตอนที่ 111: หมดเวลา ออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เอธาน ลืมตาขึ้นอย่างมึนงง ในขณะที่รู้สึกเบาในหัวของเขา
ดูเหมือนครั้งนี้ฉันจะทําเกินจริงไปนะ แต่ก็คุ้มนะ
เขายืนขึ้นและเหยียดร่างกายของเขาก่อนที่จะตรวจสอบภายในอาณาจักรต้นกําเนิดของเขา
อืม ฉันนอนไป 3 วันแล้ว เขายังเห็นว่าลัคกี้กําลังหลับอยู่ในขณะที่ดูดซับพลัง งานต้นกําเนิดโดยอัตโนมัติ
จากนั้นเขาก็นึกถึงความคืบหน้าล่าสุดของเขาด้วยความตื่นเต้น ในที่สุดก็ถึงเวลา สร้างแนวคิด จักรฉีกอวกาศ
เนื่องจากนี่เป็นแนวคิดอาวุธประเภทสิ่งประดิษฐ์ กระบวนการนี้จึงแตกต่างจากที่เขา สร้างแนวคิดลูกแก้วแห่งการทําลายล้างเล็กน้อย
ตามข้อมูลที่ฉันได้รับจากชายผู้นั้น ที่เรียกตัวเองว่าอาเจนใต้ โรติเซีย ฉันต้องสร้างแนวคิดนี้ ภายในอาณาจาจักรต้นกําเนิด ซึ่งเป็นกรณีปกติเมื่อสร้างแนวคิดประเภทสิ่งประดิษฐ์
คล้ายกับตอนที่เขาสร้างแนวคิดลูกแก้วแห่งการทําลายล้าง แต่แนวคิดนี้ซับซ้อนกว่าเล็กน้อย และเขาจําเป็นต้องจารึกมันไว้ในอาณาจักรต้นกําเนิดของเขา
เขาเริ่มทํางานที่ละขั้นตอนทันทีตามที่กล่าวไว้ในข้อมูล
ประการแรก เอธานได้ใช้เจตจํานงของจักรและสร้างจักร 2 ดวงโดยใช้พลังงานปฐมกาล เขาสร้างโหนดเชื่อมโยงที่ประกอบด้วยพลังงานอวกาศและเวลาและจารึกไว้
หลังจากนั้น เขาก็ได้สร้างช่องว่างเล็กๆภายในแกนของจักร และเพิ่มเจตจํานงลึกลับที่ก้าวร้าวโดยใช้พลังงานกําเนิดในตัวมัน เช่น ฉีก เลือด แตกละเอียด โคลน เจาะ ฯลฯ
เขาใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการจัดปูมโหนดและเชื่อมโยงพวกเขาด้วยเจตจํานงกับแกนกลาง
หลังจากนั้นเอธานได้สร้างสายการกําเนิดพลังงานด้วยวาร์ป, การดึงดูด, แรงโน้มถ่วง และเจตจํานงขับไล่ก่อนที่จะเชื่อมต่อกับแกนของจักร
หลังจากนั้น เอธานได้เริ่มเติมพลังรอบๆจักร และเชื่อมมันเข้ากับเชือก
พลังงานแห่งความตาย โลหะ แสง หมอก และเงา
การดําเนินการเชื่อมต่อพลังงานกับเส้นใยนั้นยาก แต่เขาทําได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด
สุดท้ายนี้ เขาได้เพิ่มการสแกนภาพลวงตาโดยใช้พลังงานต้นกําเนิด
หลังจากที่เขาทําเสร็จแล้ว เขาเริ่มกระบวนการประทับ
คราวนี้ เอธานไม่ต้องกังวลว่าจะขาดพลังงานเพราะเขามีพลังงานต้นกําเนิด ซึ่งสามารถประทับจารึกมันได้ดีกว่าแรงลึกลับ
ในไม่ช้า การ์ดสีขาวก็ปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นแนวคิดของจารึกของจักรฉีกอวกาศ
แนวคิดประเภทสิ่งประดิษฐ์ ไม่มีโครงร่างในขณะที่อวตารต้นกําเนิด ควบคุมพวกมัน อวตารต้นกําเนิด ดูดซับการ์ดและจักร 2 อันก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขา จักรเหล่านี้ไม่ใช่อาวุธแต่เป็นการสําแดงของแนวคิดจักรฉีกอวกาศ
เอธานตัวสั่นเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่าอวตารต้นกําเนิดของเขาแข็งแกร่งขึ้น หลังจากที่ดูดซับการ์ด จฉอ. (จักรฉีกอวกาศ)
จากนั้นเขาก็ออกจาก อาณาจักรต้นกําเนิด และลืมตาขึ้น
เสร็จแล้ว ถึงเวลาที่จะได้เห็นพลังของแนวคิดจักรฉีกอวกาศแล้ว พูดจบ เอธานก็เรียกจักรอันแรกออกมา
หลังจากนั้น เขาได้เปิดใช้งานพลังของแนวคิดจฉอ.ผ่านอวตารต้นกําเนิด เป็นพลังงานต่างๆของเขา เช่น ความตาย, แสง, โลหะ, หมอก เป็นต้น และพลังงานต้นกําเนิดของเขาก็เริ่มที่จะระบายออก
แต่จักรทั้ง 2 ในมือของเขายังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เอธานยิ้มเมื่อเห็นพวกมัน ในขณะที่เอฟเฟกต์ที่มีเสน่ห์ถูกซ่อนไว้จากดวงตา เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานจํานวนมหาศาลที่ไหลผ่านจักรของเขา และโครงสร้างที่สร้างจากพลังงานต้นกําเนิดก็จารึกตัวมันเองลงบนพวกมันด้วย
เอธาน ขว้างจักรทั้งสองออกไปทันที ก่อนที่มันจะปรากฏตัวห่างออกไป 50 ฟุต เขาสัมผัสได้ถึงเชือก ในขณะที่เขาควบคุมมันในขณะที่พวกมันกําลังลอย
จักรกลายเป็นสิ่งที่อันตรายกว่า เมื่อก่อนนับไม่ถ้วน เนื่องจากมีดิสก์ขนาดเล็กที่มองไม่เห็นบินอยู่รอบ ๆ จักรดิสก์ขนาดเล็กเหล่านี้หมุนอย่างรวดเร็วในรูปตัว X รอบจักระผ่านโหนด พวกมันประกอบด้วยคุณสมบัติที่ก้าวร้าว เช่น ความตาย โลหะ เลือด ฯลฯ และถูกซ่อนไว้ด้วยพลังงานแสงและหมอกที่ปกคลุมด้วยเจตจํานงของภาพลวงตา
เอธานควบคุมพวกมัน ในขณะที่พลังงานต้นกําเนิดของเขาหมดไปเล็กน้อย และจักรอีก 10 อันก็ปรากฏขึ้นขณะที่พวกมันเคลื่อนที่อย่างโกลาหล
แม้ว่าจะมีเพียง 2 อันเท่านั้นที่เป็นของจริง ในขณะที่อันอื่นๆเป็นภาพลวงตา
เอธานควบคุมจักรด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้สึกได้ถึงพลังของพวกมันในตอนนี้
หลังจากฝึกพวกมันไปซักพัก เอธานก็วางพวกมันกลับและไปถึงที่ลึกของวังวนสีดํา
ตอนนี้ฉันน่าจะเปิดประตูได้แล้ว หลังจากทั้งหมด อวตารต้นกําเนิดของฉัน ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงด้วยแนวคิดอันดับ SSS เอธานยิ้ม ขณะที่เขามาถึงที่ปลายสุดของวังวนสีดํา
เขาเหยียดมือออกและดันสุดกําลัง
ในไม่ช้า การ์ดสีขาวก็ปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นแนวคิดของจารึกของจักรฉีกอวกาศ
แนวคิดประเภทสิ่งประดิษฐ์ ไม่มีโครงร่างในขณะที่อวตารต้นกําเนิด ควบคุมพวกมัน อวตารต้นกําเนิด ดูดซับการ์ดและจักร 2 อันก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขา จักรเหล่านี้ไม่ใช่อาวุธ แต่เป็นการสําแดงของแนวคิดจักรฉีกอวกาศ
เอธาน ตัวสั่นเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่าอวตารต้นกําเนิดของเขาแข็งแกร่งขึ้น หลังจากที่ดูดซับการ์ด
เขาไม่ได้ดันต่อไป
*ย้าาาาาาาา…*
ด้วยแรงสุดท้ายของเขา เอธาน ดันประตูเข้าไปอีก และมันเปิดออกครึ่งทางก่อนที่เอธาน จะหมดแรงและเด้งกลับเนื่องจากประตูปิดตัวเองอย่างแรง
*บ้าเอ้ย *
เอธาน สาปแช่งความพยายามที่ล้มเหลวของเขา ในขณะที่เขายืนขึ้นและออกจากอาณาจักรต้นกําเนิดก่อนจะลืมตาขึ้น
ด้วยสีหน้าผิดหวัง เอธานถอนหายใจและคิดว่า ดูเหมือนว่าฉันต้องสร้างแนวคิดเพิ่มอีกหนึ่งหรือสองแนวคิดก่อนจึงจะสามารถเปิดได้
อืม…ยังเหลือเวลาอีก 6 วัน ฉันจึงสามารถทํางานกับแนวคิดของการช่วยเหลือเพิ่มเติมนั้นที่เข้ากับแนวคิดจักรฉีกอวกาศได้ อย่างไรก็ตาม การลองใช้งานก็ไม่เสียหายอะไร
ดังนั้น เขาจึงเริ่มเข้าใจเจตจํานงลึกลับที่จําเป็นสําหรับแนวคิดที่เขาเพิ่งคิด
ที่อื่นในภูมิภาคตํานาน
ภูเขาขนาดมหึมาที่มีความสูงไม่สามารถระบุได้ตั้งตระหง่านอย่างภาคภูมิ
แต่ที่ส่วนล่างของภูเขา มีอาคารหลายหลัง และหนึ่งในนั้นโดดเด่นที่สุด
อาคารหลังนี้ยังเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุด และดูเหมือนพระราชวังขนาดใหญ่
ภายในห้องโถงกลางของวัง ผู้คน 16 คนนั่งรอบโต๊ะกลมขนาดใหญ่ อายุของพวกเขาแตกต่างกันไปตั้งแต่วัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุ
พวกเขาดูสงบจากภายนอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าดวงตาของพวกเขาเผยให้เห็นความตื่นเต้น และความสุข
ทั้งหมดเป็นเพราะข้อความล่าสุดที่พวกเขาได้รับจาก สหภาพพันธมิตร
[ เผ่าพันธุ์มนุษย์มีสิทธิ์เข้าร่วมใน สงครามเลือดรอมบา ในครั้งนี้ ]
ข้อความนี้ปรากฏภายในห้องโถงของมนุษย์ระดับสูงสุดทุกแห่ง
เราจะดําเนินการจัดสรรอย่างไร มีพื้นที่จํากัดสําหรับขั้นแต่ละลําที่ใหญ่กว่า และในหมู่พวกเรา มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้
การจัดสรรของเราสามารถตัดสินใจได้ในภายหลัง ตอนนี้ เราควรวางแผนเกี่ยวกับการจัดสรรคนที่อยู่ในขั้นที่ดีที่สุดก่อน
ถูกต้อง และเราจําเป็นต้องทําการทดสอบเกี่ยวกับช่องจัดสรรด้วย เนื่องจากบุคคลที่อ่อนแอและอ่อนแอกว่าจะเสียชีวิตที่นั่น
ชายหญิงหลายคนภายในห้องโถงเริ่มวางแผนเกี่ยวกับสงครามเลือดรอมบา ซึ่งจะคงอยู่เป็น เวลา 100 ปี
วันเวลาผ่านไป ในที่สุดก็เป็นวันสุดท้าย
อเวเลียและคนอื่นๆอีก 9 คนถูกชายวัยกลางคนคนเดียวกันพาออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์
หนึ่งในนั้นมองมาที่อเวเลียและพูดเยาะเย้ยว่า ตามที่คุณพูดในวันนั้น แฟนของคุณคงจะแซงหน้าเราไปแล้วใช่ไหม
เมื่อได้ยินอย่างนั้น อเวเลียก็พ่นลมหายใจออกมาและพูดว่า ถ้าอยากโดนเฆี่ยนก็บอกมาเลย ไม่ต้องมายั่วฉันขนาดนั้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เด็กชายที่พูดก็ก้มหน้าลง
พวกเขาแต่ละคนมีคู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันและพวกเขาทั้งหมดถูกโจมตีโดยเธอ
อเวเลียเป็นเหมือนเสือโคร่งสําหรับคนอื่นๆ เหมือนกับตอนที่เธอพบกับเอธานครั้งแรก
บางคนรู้สึกอิจฉาเพราะจําได้ว่าอเวเลียประพฤติตัวอย่างไรเมื่อเธอคุยกับเอธานในวันนั้น
หลังจากนั้นไม่มีใครพูดขณะที่พวกเขาเดินตามชายวัยกลางคนไปอย่างเงียบๆ
เอธานลืมตาขึ้นเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เกิดอะไรขึ้น จู่ๆฉันก็ไม่รู้สึกพลังงานเลย
เขายืนขึ้นและพึมพําด้วยสีหน้าตกตะลึงหลังจากนั้นไม่กี่วินาที ดินแดนศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า…
เป็นเพราะไม่มีพลังงานในชั้นบรรยากาศเลยแม้แต่นิดเดียว
ผู้อาวุโสริเชนปรากฏตัวขึ้นเมื่อ เอธาน พิมพ์คําพูดและหัวเราะก่อนจะพูดว่า ก็เพราะว่าดินแดนแห่งนี้มีเวลาจํากัด พวกเขาสามารถให้พลังงานที่ไร้ขอบเขตของพลังงานทุกชนิด ในขณะที่เชื่อมต่อกับแกนกลางของภูมิภาคในตํานานนี้และสิ่งนี้ การเชื่อมต่อใช้เวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น
ผู้อาวุโสริเชนหยุดและเปลี่ยนเรื่องด้วยรอยยิ้ม พอแล้วกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ มาดูกันว่าสิ่งที่ฉันคาดหวังเซอร์ไพรส์อะไรจากคุณ จะมีบ้างหรือเปล่า
เขาหยุดไปครึ่งประโยคแล้วส่ายหัวด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยวก่อนจะพูดว่า ดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้ ทะลุเข้าไปในขั้นของ Sout Altar Plane
เอธาน ตกตะลึงเพราะเขาไม่เคยคาดหวังว่าผู้อาวุโสริเชน จะมีความคาดหวัง สูงขนาดนั้น
จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างเชื่องช้าและพูดว่า อีกไม่นานฉันจะสามารถฝ่าฟันไปได้ เพราะฉันคิดว่า ฉันแค่ต้องการสร้างแนวคิดใหม่ขึ้นมา
ผู้อาวุโสริเชนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า จริงด้วย แต่ฉันรู้สึกว่าด้วยความสําเร็จของคุณ คุณสามารถสัมผัสจิตวิญญาณของคุณและปลุกมันได้อย่างง่ายดายเพราะมันไม่ยากที่จะพัฒนาจากแนวความคิดต้นกําเนิดไปสู่ขั้น Sout Altar Plane สําหรับผู้ที่มีความสามารถในการเข้าใจสูงเช่นคุณ
เอธานแค่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และไม่พูดอะไร
ฉันสัมผัสถึงจิตวิญญาณของฉันได้ แต่มีกําแพงบ้าๆอยู่ตรงหน้า ซึ่งฉันมีเวลาพอที่จะปลุกมันได้
ผู้อาวุโสริเชนโบกมือ ขณะที่พวกเขาปรากฏตัวนอกกระท่อม
ไปที่ปลายทางที่ Digimap (ดิจิแมพ)ของคุณชี้ คนอื่นควรจะไปที่นั่นด้วย
ตอนที่ 99: ทําสมาธิไม่ได้, 5 สิ่งมีชีวิต
หลังจากทานอาหารเสร็จ เอธานก็นั่งลงและเริ่มคิดอย่างตื่นเต้น ตอนนี้ฉันขาดเจตจํานงลึกลับเพียง 2 อย่างเท่านั้น หากฉันเข้าใจเจตจํานงความเร็วและเจตจํานงของการสั่นสะเทือนถึงระดับมาสเตอร์ ฉันจะสามารถสร้างแนวคิดและมีโอกาสได้รับตําแหน่งใน 10 อันดับแรกหรืออันดับ 3 อันดับแรก
เขายืนกรานที่จะอยู่ใน 10 อันดับแรกหรือ 3 อันดับแรกเพราะรางวัลของการเข้าสู่ภาคตำนาน ซึ่งจะช่วยให้เขาก้าวหน้าเร็วขึ้น
เอธานหลับตาลงและเข้าสู่การทําสมาธิ แต่วินาทีต่อมา เหงื่อเริ่มก่อตัวขึ้นทั่วร่างกาย ขณะที่ลืมตาขึ้นด้วยความตื่นตระหนก
เขาเปิดใช้งาน Digiband ของเขาและติดต่อผู้อาวุโสริเชน
ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูมิติปรากฏขึ้นใต้เขาเมื่อเขามาถึงบ้านของผู้อาวุโสริเชน
ผู้อาวุโสริเชนคิดอย่างลึกซึ้ง หลังจากเอธานอธิบายสถานการณ์ของเขาให้เขาฟัง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสริเชนส่ายหัวแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าทําไมถึงเกิดขึ้นกับคุณ แต่คุณควรหยุดทําความเข้าใจพงกมันเสียก่อน สมองและจิตสํานึกของคุณต้องยังอยู่ในสภาพที่กระฉับกระเฉง และมันก็เป็นไปได้เช่นกัน ว่าคุณได้รับความบอบช้ําจากมัน ในตอนนี้ คุณควรพักผ่อนเพื่อทําความเข้าใจเจตจํานงอื่นๆและมุ่งเน้นที่การเพิ่มพลังการต่อสู้ของคุณโดยการฝึกฝนคาถาและวิธีการไหลของพลังงาน ”
สีหน้าของ เอธานหดหูใจเพราะแม้แต่ผู้อาวุโสริเชนก็ไม่สามารถหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ของเขาได้
“ ขอโทษที่รบกวนท่าน เดาว่าผมคงจะต้องเน้นการฝึกความสามารถในการต่อสู้ของผมแทนจริงๆ”
ผู้อาวุโสริเชนพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร หากคุณพบปัญหาใดๆในระหว่างการฝึก สามารถติดต่อฉันได้เสมอ”
หลังจากนั้น ผู้อาวุโสริเชนก็เปิดประตูใกล้เอธาน
เมื่อเห็นเอธานกลับมาจากประตูมิติด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย อเวเลียจึงถามด้วยน้ําเสียงแผ่วเบาว่า “มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
เอธานถอนหายใจ ” หลังจากรับประทานอาหาร ฉันพยายามเข้าสู่สภาวะนั่งสมาธิเพื่อทําความเข้าใจเจตจํานง และหลังจากที่ฉันเริ่มทําความเข้าใจเจตจํานง ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงได้ทําร้ายฉัน ในขณะที่พลังลึกลับของฉันถูกกลืนกินโดยอัตโนมัติ “
อเวเลียตกใจและถามว่า “นายหมายความว่านายเข้าสู่สถานะการฝึกที่ร้ายแรงหลังจากพยายามทําความเข้าใจเจตจํานงใช่หรือไม่”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ฉันไม่สามารถมีสมาธิกับการฝึกได้เลย เนื่องจากความเจ็บปวดที่สมองและความรู้สึกตัวของฉันที่ประสบกับมันเมื่อพยายามเข้าใจเจตจํานง”
อเวเลียกล่าวอย่างกังวลว่า “อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป จะดีกว่านี้ถ้าค่อยๆ ทําสิ่งต่างๆให้หนักขึ้น ภาระในสมองและจิตสํานึกในการเข้าใจ 5 เจตจํานงระดับมาสเตอร์ในระยะเวลาอันสั้น และเข้าสู่ระดับสูง – ระดับกลาง ต้องทําให้เกิดการบาดเจ็บบางอย่างแน่นอน”
” ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน….*ถอนหายใจ*” หวังว่าฉันจะฟื้นตัวได้หลังจากผ่านไป 1 เดือนเพื่อที่ฉันจะสามารถเข้าใจพวกมันต่อไปได้ เพราะฉันต้องการเพียงแค่ควบคุมเจตจํานงลึกลับ พวกนั้นได้อีก 2 แบบเพื่อเริ่มสร้างแนวคิดของฉัน “
อเวเลียพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและถามว่า “ฉันก็หวังว่านายจะหายดี แต่ตอนนี้เราจะทําอย่างไร”
เอธานมองดูเธอและยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะพูดว่า “ฉันจะฝึกวิธีการไหลของพลังงานแบบใหม่ที่ได้รับจากผู้อาวุโสริเชน”
อเวเลีย รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับคําตอบนั้น เพราะการฝึกกับเอธานหมายความว่าเธอสามารถใช้เวลาร่วมกับเขาได้มากขึ้น
เอธานเริ่มต้นด้วยวิธีการไหลของพลังเพราะเขาไม่สามารถฝึกเวทย์มนตร์ได้ เนื่องจากเขาต้องการให้เขาเข้าใจ เจตจํานงเงา, เจตจํานงอากาศ และเจตจํานงอวกาศถึงระดับมาสเตอร์ก่อน
ผู้อาวุโสริเชนกล่าวว่าคาถานี้จะมีประโยชน์ในหลายๆสถานการณ์
[การเคลื่อนที่ดั่งเงา ]
– ต้องการเจตจํานง เงา, อากาศ และ อวกาศ ในระดับมาสเตอร์
– ผู้ใช้สามารถสร้างเงาของรูปร่างใดๆ เพื่อเลี่ยงผ่าน แม้ในรูหรือช่องว่างที่เล็กที่สุดก่อนที่จะย้ายตัวเองไปยังตําแหน่งของเครื่องหมาย
– ระยะสูงสุดคือ 100 เมตร หลังจากฝึกคาถานี้จนถึงขั้นพีค
เอธานต้องการฝึกฝนสิ่งนี้ แต่เขาจําเป็นต้องเข้าใจเจตจํานงของเงาและอวกาศ ถึงระดับมาสเตอร์ก่อน แม้กระทั่งเริ่มฝึกฝน ดังนั้นเขาจึงระงับการฝึกคาถานี้และมุ่งเน้นไปที่วิธีการไหลของพลังงาน
เขาตกตะลึง เมื่อเขาอ่านข้อกําหนดของวิธีการไหลของพลังงานนี้เป็นครั้งแรก
ผู้อาวุโสริเชนไม่ได้บอกเอธานว่าเขาเป็นคนที่สร้างวิธีการไหลนี้
[ วิถีแห่งวิญญาณเพนทากอน ]
– ข้อกําหนด: ไฟ, ดิน, ไม้, น้ํา, และเจตจํานงของอากาศที่ระดับกลางเพื่อเริ่มต้น
– เส้นทางการไหลทั่วทั้งร่างกาย
– ความต้องการของร่างกาย –> คะแนนเริ่มต้น: 120 ความแข็งแกร่ง, คะแนนเริ่มต้นของร่างกาย 150 แต้ม
ขั้นเริ่มต้น:- เบอร์เซิร์ก เกรนเนด, เบอร์เซิร์ก เรย์
ขั้นสูง: – สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าเพนทากอน, การฉกฉวยของเทพเพนทากอน
ขั้นพีค:- อาวุธวิญญาณของเพนทากอน (ต้องมีเจตจํานงในระดับสูง)
…
เอธานเริ่มฝึกฝนวิธีการไหลของพลังและเข้าใจขั้นพื้นฐานของการเริ่มต้น หลังจากผ่านไป 2 วัน
หลังจากนั้น เขาเริ่มฝึกกับอเวเลีย ในขณะที่ใช้วิธีการไหลของวิญญาณเพนทากอนในร่างกายของเขา
คาถาเบอร์เซิร์ก แกรนเนด เป็นคาถาประเภทระเบิดที่จะระเบิด เมื่อสัมผัสและเบอร์เซิร์กเรย์ เป็นประเภทเลเซอร์โจมตีแบบเจาะทะลุ
มันไม่ใช่เรื่องยากสําหรับเอธานที่จะผ่านขั้นเริ่มต้น แต่มันก็พิสูจน์แล้วว่ายากที่จะเชี่ยวชาญคาถานั้นได้
5 พลังงานที่ใช้งาน: ไฟ, ไม้, น้ํา, อากาศ, และดิน ที่วิ่งเข้าไปภายในร่างกายทั้งหมดของเขาในขณะที่เขาเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวดเช่นการบินและการใช้คาถาอื่นๆนั้นค่อนข้างยาก
“ให้ตายสิ นี่มันเป็นเรื่องยากเลยแฮะ” เอธานพูดขณะทรุดตัวลงกับพื้น
อเวเลียพูดด้วยรอยยิ้ม “แต่คาถาเหล่านั้นมีพลังมากเลยนะ อย่างไรก็ตาม ฉันจะทําอาหารในขณะที่นายกําลังพักผ่อน”
“ขอบคุณสําหรับอาหารอร่อยๆ” เอธานหัวเราะและพูด
หลายวันผ่านไปเมื่อเอธานย้ายไปฝึกระลอกคลื่นอวกาศ, ขั้นตอนการระเบิด, โกเลมดินและไฮโดรบลิทซ์ ในขณะที่เขาเชี่ยวชาญคาถาพวกนั้นจนถึงขั้นสูงสุด เนื่องจากเขาไม่สามารถฝึกฝนขั้นพีคของการไหลของพลัง วิถีของวิญญาณเพนทากอนได้เพราะต้องใช้เจตจํานงในระดับมาสเตอร์
เขาพยายามที่จะเข้าใจเจตจํานง แต่เขายังคงประสบปัญหาเดียวกันในการเข้าสู่สถานะการฝึกฝนที่รุนแรงโดยอัตโนมัติ ในขณะที่รู้สึกเจ็บปวดในจิตสํานึกและสมองของเขา
เอธานคิดพลางถอนหายใจ ตอนนี้เหลือเวลาเพียงเดือนเดียว และฉันยังไม่สามารถเข้าสู่สภาวะการทําสมาธิตามปกติได้
ขณะนี้อเวเลียกําลังออกไปทําภารกิจ และเขาก็รู้สึกเบื่อเช่นกันเพราะเขาไม่มีอะไรทํา
” ตอนนี้ ฉันควรจะไปเที่ยวในโลกเสมือนจริง
เขากินยาเม็ดผลึกสีขาวก่อนเข้าสู่โลกเสมือนจริง
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจเจตจํานง แต่เขายังมียาเสริมพลังธาตุอยู่มากมาย ดังนั้นเขาจึงกินยาต้นกําเนิดเวลา เพื่อรับธาตุของกาลเวลา
ป้อมปราการอวกาศที่ใหญ่กว่าดาวเคราะห์ถูกระงับในอวกาศ
มันไม่ได้มีรูปร่างกลมเหมือนดาวเคราะห์ แต่เป็นป้อมปราการรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ที่มีหอคอยมากมาย
ความยิ่งใหญ่ของมันคือ…ความงดงามอย่างแท้จริง
ยานอวกาศยักษ์กําลังเดินทางไปๆมาๆจากป้อมปราการนั้น
สถานที่ภายในป้อมปราการนั้นเชื่อมต่อกับพื้นที่แยกต่างหาก
สิ่งมีชีวิตทั้ง 5 กําลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ทั้ง 5 ภายในช่องกระเป๋านั้น ในขณะที่ถูกแขวนอยู่บนท้องฟ้านี้
บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเมฆขาวที่ไม่มีแผ่นดินในสายตา
สิ่งมีชีวิตทั้ง 5 นี้มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน
ตัวหนึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดําเป็นประกายที่ทาด้วยลวดลายสีน้ําเงินและสีขาว
สิ่งมีชีวิตนี้มีความสูงเพียง 1 ฟุตและบัลลังก์ของเขาก็เล็กที่สุด เนื่องจากขนาดของมัน
มันมีผิวสีดํามีสีฟ้าอ่อนและมีรู 2 รูบนฝ่ามือ หน้าผากของมันมีเขาสีเงิน
ส่วนที่อยู่ทางซ้ายของมันกําลังนั่งบนบัลลังก์ที่ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นจากกระดูก หมอกดํารายล้อมรอบตัวเขา/เธอ ซึ่งทําให้ยากต่อการมองเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาหรือเธอ
แต่แทนที่จะเป็นมือและเท้าเหมือนมนุษย์ทั่วไป สิ่งมีชีวิตนี้มีหนวดยาวมากและมีสีแดง ดังนั้นผิวของเขา/เธอจึงน่าจะเป็นสีแดงเช่นกัน
“ คริสตัล คุณมีแผนอะไรสําหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ ดูเหมือนว่าเมื่อเร็วๆนี้คุณมีเงื่อนไขค่อนข้างน้อย”
คนที่พูดนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีปีกสีเขียวขนาดยักษ์สองปีกอยู่บนหลังของเขา ร่างกายของเขาใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้ง 5 ตัวนี้
หากใครเห็นแต่ไกล บัลลังก์ของเขาก็ขาวโพลน เฉกเช่นก้อนเมฆรอบๆตัวเขา จึงไม่เหมือนกับว่าเขานั่งอยู่บนบัลลังก์ แต่มีเส้นสีเทาจางๆรอบที่นั่ง ซึ่งสังเกตได้หากใครมองอย่างระมัดระวัง
คําถามของเขามุ่งไปที่สิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนผู้หญิง เหตุผลที่ตัดสินเธอในฐานะผู้หญิงก็เพราะหน้าอกของเธอ
หน้าอกเธอใหญ่มาก ตามมาตรฐานของมนุษย์ นั่นคือขนาดใหญ่มโหฬาร
แต่เธอไม่ใช่มนุษย์ เธอมีสี่ตาและมีฟิล์มสีเข้มปิดจมูกของเธอและบริเวณด้านล่าง
สีผิวของเธอเป็นสีม่วงเพราะมือของเธอไม่มีนิ้ว มันเป็นเพียงแห่งแหลมสีม่วงคมยาว เช่นเดียวกับขาของเธอ
เธอพ่นจมูกจากจมูกที่ปิดไว้และพูดว่า “ฉันไม่ได้มีเงื่อนไขใดๆ มันเป็นเพียงความพยา ยามของฉันที่จะช่วยพวกเขาปลดล็อกเส้นทางลับของภูมิภาคในตํานาน”
เสียงผู้หญิงอีกคนดังขึ้น ซึ่งมาจากคนที่มีหนวด “อย่าคิดไกลเกินไป เพียงเพราะคุณแพ้จักพรรดินีหยก หากคุณฝ่าฝืนสนธิสัญญาระหว่างเผ่าพันธุ์ คุณและเผ่าพันธุ์ของคุณจะประสบกับความพิโรธของพระเจ้าโดยตรง”
ความรําคาญสามารถเห็นได้ในสายตาของ คริสตอล ขณะที่เธอพูดว่า “ฉันรู้ว่าฉันกําลังทําอะไรอยู่ คุณคิดว่าฉันจะให้เผ่าพันธุ์ของฉัน กับฉันตกอยู่ในอันตรายเพียงเพราะแพ้พวกเลวนั่นเหรอ?”
“แล้วคุณมาทําอะไรในส่วนภูมิภาคตํานานของเผ่าพันธุ์มนุษย์”
คริสตอลไม่ต้องการตอบในตอนแรก แต่อีก 4 คนเริ่มกดดันเธอ เธอจึงยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “ก็ได้ ฉันจะบอกคุณว่าทําไมฉันถึงไปที่นั่น”
เธอหยุดตรงนั้น เธอพูดด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติว่า “มัน…เพราะว่าพวกอารากายะ พนันกับฉันในการต่อสู้ครั้งนั้น และฉันก็แพ้ ดังนั้นฉันจึงไปที่นั่นเพื่อทําให้สําเร็จ”
ร่างอ้วนที่มีผิวสีบรอนซ์ลายทองถามว่า “เจ้าเดิมพันอะไร?” บัลลังก์ของเขาสีทองมีลวดลายสีเข้ม
คริสตอลตะคอกใส่คําถามนั้นและตอบอย่างโกรธเคืองว่า “เธอเกี่ยวอะไรด้วย ฉันจะจัดการเรื่องเชื้อชาติของตัวเอง ตอนนี้เรามาเริ่มการประชุมเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรกันดีไหม”
ตอนที่ 98: สถานะ การฝึกที่รุนแรง
เอธานได้เน้นไปที่การฝึกซ้อมมากกว่าที่เคย
หลังจากผ่านไป 1 เดือน ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าสู่สภาวะลึกซึ้งของความเข้าใจต่างๆแล้ว
แรงลึกลับของเขาถูกใช้โดยอัตโนมัติ ในขณะที่เขากําลังเข้าใจเจตจํานง
อเวเลียสังเกตเห็นว่าเอธานอยู่ในสภาพผิดธรรมชาติและเกิดความกังวลว่า “ เกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนเขาจะกดดันตัวเองจริงๆ”
เธอเดินไปหาเอธานและนั่งข้างหน้าเขา ก่อนจะเอื้อมมือไปตรวจหน้าผากของเอธาน
สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นกังวลอย่างรุนแรงทันทีที่เธอแตะหน้าผากเขา เพราะมันร้อนเกินไป
” เกิดอะไรขึ้น?!!”
อเวเลีย ใช้พลังงานน้ําเพื่อทําให้สภาพแวดล้อมของ เอธานเย็นลง แต่มันไม่ได้ผล เนื่องจากความร้อนถูกสร้างขึ้นจากสมองของเขา
เอธานไม่สามารถสังเกตเห็นสถานการณ์ที่เลวร้ายของตัวเองได้ และความเร็วในการเข้าใจของเขาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
อเวเลียพยายามหลายวิธีที่จะปลุกเอธานให้ตื่นและกระทั่งขยับตัวเขา แต่ไม่มีอะไรทํางานเมื่อเขาอยู่ในสถานะนั้น
หน้าผากของเขาร้อนขึ้น และเธอกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเอธานหากเป็นเช่นนี้ต่อไป
“ให้ตายสิ เอธานน่าจะมีอาจารย์ที่ดูแลในอะคาเดมี่แห่งนี้นี่นา แล้วทําไมเขาถึงยังไม่สังเกตเห็นอะไรอีกล่ะ ท่านนั้นประมาทเกินไปมาก!”
เธอย้ายเอธานไปในอ่างน้ําเย็นโดยหวังว่ามันจะช่วยเขาได้บ้าง
พลังเวทย์มนตร์ของเอธานเกือบจะหมดลงในเวลานี้ และในนาทีเดียว เขาก็หมดพลังเวทย์ทันที
หลังจากนั้น ดวงตาของเขาก็เปิดขึ้น ในขณะที่สติเริ่มกลับมาจากสภาวะของการทําความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ดวงตาของเขาแดง…เมื่อลืมตา และในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ความเจ็บปวดที่รุนแรงได้เข้าโจมตีสมองและจิตสํานึกของเขา ในขณะที่เขาเป็นลมไปทันที
“เอธาน!” อเวเลียตะโกน ขณะที่เธอรีบพยุงเขาและพาเขาออกจากอ่าง
เธอใช้พลังเวทย์มนตร์ของเธอ พาเอธานไปที่ห้องนอนแล้ววางเขาลงบนเตียง
“ ดูเหมือนว่าเขาจะระบายพลังเวทย์มนตร์ของเขาจนหมด และจากดวงตาที่แดงก่ําของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะทํางานหนักเกินไปพร้อมๆกับสมองของเขา”
อเวเลียไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอธาน เธอจึงเข้าไปในโลกเสมือนจริงเพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา
หลังจากที่อเวเลีย เข้าสู่โลกเสมือนจริงพอร์ทัลก็ปรากฏขึ้นในห้องนอนของ เอธานขณะที่ผู้ อาวุโสริเชนเดินออกมา
เขาวางมือลงบนหน้าผากของเอธานก่อนจะขมวดคิ้ว
เขาส่ายหัวและถอนหายใจ เอาจริงๆ เจ้าหนูคนนี้จะมีประโยชน์มากมาย ในเมื่อเจ้าไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้? เขาอาจต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปีที่เขาจะสามารถฟื้นตัวจากสิ่งนี้ได้
ภาชนะแก้วขนาดเล็กปรากฏบนมือของเขา ซึ่งมีของเหลวใสอยู่ภายใน ของเหลวมีประกายสีขาวขุ่นอยู่ข้างใน
เมื่อมองดูมัน ผู้อาวุโสริเชนพึมพํา “ถึงฉันจะใช้ ลูมินัสดิวกับเขา มันยังคงใช้เวลาประมาณ 8 เดือนกว่าที่เขาจะตื่นขึ้น และการแข่งขันจะเริ่มใน 3 เดือน”
” ยังไงก็เถอะ ตราบใดที่เขาตื่นในตอนเช้าได้ก็ยังดีกว่า เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ผู้อาวุโสริเชนก็เปิดภาชนะแก้วก่อนที่จะให้เอธานกลืนมันลงไป
เมื่อเห็นว่าเอธานดูดซับน้ําค้างได้สําเร็จ ผู้อาวุโสริเชนก็จากไป
อันที่จริง หลังจากที่เอธานหมดสติไป พลังงานคริสตัลสีขาวในอาณาจักรพลังของเขาเริ่มทํางานโดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาสมองและจิตสํานึกที่เสียหายของเขา อย่างไรก็ตามพลังงานสีขาวที่เหลืออยู่นั้นไม่เพียงพอที่จะรักษาเขาให้หายขาด และเขายังต้องใช้เวลาอีก 4 เดือนในการฟื้นฟู
ในขณะเดียวกันมีมีก็สังเกตเห็นสิ่งนี้และมองไปที่ ทียน่า ที่กําลังฝึกอยู่
หลังจากครุ่นคิดอยู่ 2-3 วินาที เธอตัดสินใจที่จะไม่บอกเทียน่า เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของเอธาน
เพราะถ้าเธอบอกกับเธอ เทียน่าคงเป็นห่วงเอธานโดยที่ไม่เน้นการฝึกของเธอ
“เดี๋ยวก่อน..พี่ใหญ่อาจมีพลังงานคริสตัลขาวด้วย”
มีมี่มองดาณาจักรลึกลับของเทียน่า และพบว่าเธอมีพลังงานคริสตัลสีขาวในปริมาณที่พอดี
“ดูเหมือนฉันจะต้องรบกวนพี่สาวแล้วล่ะ”
มีมีพิมพ์และขมวดคิ้ว
เธอเดินไปหาเทียน่า ก่อนพูดด้วยน้ําเสียงที่ไพเราะว่า “พี่ มีขอพลังคริสตัลสีขาวทั้งหมดที่มีให้มีมีได้ไหม มันสําคัญมาก”
เทียน่าหลับตาลง แต่เธอพยักหน้าโดยไม่ถามมีมี่ และดึงพลังงานคริสตัลสีขาวทั้งหมดของเธอออก
จากนั้นมีมีก็ส่งพลังงานคริสตัลสีขาวทั้งหมดไปยังอาณาจักรลึกลับของเอธานผ่านวังวนสีดํา
หลังจากผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง อเวเลียก็ลืมตาขึ้นเมื่อเธอกลับมาจากโลกเสมือนจริง
แต่ความกังวลยังคงเจืออยู่บนใบหน้าของเธอ เนื่องจากเธอไม่พบข้อมูลมากนักเกี่ยวกับสถานการณ์ของเอธาน แม้ว่าเธอจะซื้อยาราคาแพง ซึ่งต้องเสียเครดิตทั้งหมดไป
เธอรู้ว่าเอธานมีสติสัมปชัญญะและได้รับบาดเจ็บภายในสมอง เธอจึงซื้อยาบัวบก ซาเลียน่า
ยาเม็ดนี้เป็นยาเม็ดที่ดีที่สุดที่เธอสามารถหาได้ในร้านค้าของอะคาเดมี ภายในงบประมาณของเธอเพื่อช่วยเอธานในสภาพของเขา
” แต่มันอาจไม่เพียงพอ…ก่อนอื่น ฉันควรจะป้อนยาเม็ดนี้ให้เขาก่อน”
เธอไม่คิดอะไรมากอีกต่อไปและรีบป้อนยาให้เอธานอย่างเร่งรีบ
หลังจากนั้น เธอตรวจสอบหน้าผากของเอธานและรู้สึกประหลาดใจที่อากาศไม่ร้อนอีกต่อไป
วินาทีถัดมา เอธานถึงกับลืมตาขึ้นด้วยสีหน้างุนงงและถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?
อเวเลียกอดเอธานและพูดด้วยน้ําเสียงสะอื้นไห้ว่า “ตาบ้า รู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแค่ไหน สภาพของนายแย่มาก และฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่าต้องทําอย่างไรเพื่อปลุกนายให้ตื่น”
เอธานตกใจและขมวดคิ้วในตอนแรก แต่ค่อยๆสงบลงหลังจากได้ยินเธอ
” ดูเหมือนเธอจะกังวลจริงๆ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันก็เป็นสิ่งที่ดีในทางหนึ่ง ที่จริงฉันเข้าใจห้าเจตจํานงในระดับมาสเตอร์แล้ว
เขาเข้าใจเจตจํานงความมืด, อากาศ, การขับไล่, แรงดึงดูด และแรงโน้มถ่วง ในระดับ มาสเตอร์ในสภาพที่แปลกประหลาดนั้นแล้ว
ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างมีความสุขและพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันได้กําไรมหาศาลจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน” เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็ดึงอเวเลียออกไปและยิ้ม “ ขอบคุณที่ดูแลฉัน”
“กําไรมหาศาลจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายงั้นเหรอ? เฮ้อ…”
เอธานและอเวเลียตกใจ เมื่อได้ยินเสียงของคนอื่นมาถึงห้องนอน
ทั้งสองมองไปทางด้านซ้ายและเห็นผู้อาวุโสริเชนที่กําลังส่ายหัว
หลังจากสั่นศีรษะ ใบหน้าของผู้อาวุโสริเชนก็ดูจริงจังในขณะที่เขาพูด “เอธาน คุณอยู่ในสภาพที่ย่ําแย่จริงๆ คุณต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีครึ่งในการกู้คืนจากอาการบาดเจ็บที่คุณ และมีต่อจิตสํานึกและสมองของคุณ ฉันให้ยากับคุณ มันคือลูมินัสดิว เพื่อทําให้กระบวนการนั้นสั้นลงเหลือ 8 เดือน และการพลาดเพียงเล็กน้อยนั้นทําให้คุณได้รับยาดอกซาเลียน่าได้ ซึ่งใช้เครดิตทั้งหมดของเธอเพื่อเพิ่มอัตราการฟื้นตัวของคุณ แม้ว่าจะยังคงใช้เวลาประมาณ 6 เดือนในการฟื้นตัว…แต่ ”
“ คุณตื่นขึ้นอย่างอัศจรรย์ในอีกไม่กี่ชั่วโมง”
เอธานสะดุ้ง เหงื่อเริ่มก่อตัว ใน 1 ปีครึ่ง ฉันสามารถเข้าใจได้มากกว่า 5 เจตจํานง และ หากฉันไม่ตื่นมาอยู่ในสภาพนั้น… ฉันจะพลาดหลายสิ่งหลายอย่างและเวลาที่ล่วงเลยไป”
เขารู้ดีว่าสาเหตุของการตื่นอย่างอัศจรรย์ของเขาคือพลังงานคริสตัลสีขาว เพราะเมื่อเขาตรวจสอบดินแดนลึกลับของเขา พลังงานคริสตัลสีขาวทั้งหมดก็หายไป
“ผู้อาวุโสริเชน ท่านรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม”
เมื่อได้ยินคําถามของ เอธานผู้อาวุโสริเชน พยักหน้าและตอบโดยที่ใบหน้ายังคงจริงจัง” คุณเข้าสู่สถานะ การฝึกหัดที่ร้ายแรงเกินไปในสถานะนั้น ประสาทสัมผัสและความสามารถของสมองของคุณได้รับการปรับปรุงเกินขีดจํากัดโดยแรงลึกลับ คุณไม่สามารถบรรลุสถานะนี้ด้วยตนเองได้ มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ คุณแยกจิตสํานึกและสมองของคุณออกไปทําสิ่งเดียวเท่านั้นโดยไม่สนใจ เรื่องภายนอกและเรื่องอื่นๆ”
” โดยทั่วไปแล้ว คนที่อยู่บนชั้นระดับล่างไม่ควรฝึกในสภาพนี้ เพราะพลังลึกลับ จิตสํานึกและสมองของพวกเขาไม่มีพลังเพียงพอ และจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวงแทน และพวกเขาไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ แม้ในขณะที่พวกเขาอยู่ในสถานะการฝึกที่ร้ายแรงแบบนั้น”
” ที่สําคัญกว่านั้น มันหาได้ยากสําหรับคนที่สามารถบรรลุสถานะนี้ตั้งแต่แรก ฉันยังแปลกใจที่คุณสามารถจดจ่อกับสิ่งหนึ่งด้วยสมาธิที่เข้มข้นได้ ในขณะที่ไม่สนใจความปลอดภัยของคุณรอบๆตัวคุณเลย ”
ผู้อาวุโสริเชน ถอนหายใจอีกครั้งหลังจากพูด ในขณะที่เอธานก้มศีรษะลง
อเวเลียลังเล ขณะที่เธอดูเหมือนจะต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
เธออยากจะบอกว่าเธอจะไม่ยอมให้ใครโจมตีเอธานแต่ไม่พูดอะไรหลังจากเห็นเอธานซึ่งก้มหน้าลงราวกับว่าเขากําลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
มีมีที่เฝ้ามองจากในวังวนสีดก็พยักหน้าและกล่าวว่า “แท้จริงแล้ว หากพี่ชายผู้พิทักษ์ต้องการเข้าสู่สถานะ การฝึกขั้นร้ายแรงที่สุดด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขาจะต้องใช้พลังงานคริสตัลสีขาวเป็นจํานวนมาก แต่มีมีก็สงสัยว่าทําไม ลูกบอลสีดําไม่ได้ผลิตพลังงานคริสตัลสีขาวหลังจากที่พี่สาวใหญ่ เทียน่ามาที่นี่ … อ่า ฉันจําได้แล้วในการผลิตพลังงานคริสตัลสีขาวพี่ชายผู้พิทักษ์ต้องให้ของเหลวสีขาวนั้นแก่ลูกบอลสีดํา แต่ทําไมเขาไม่ให้ของเหลวสีขาวอีกต่อไป แล้วในตอนนี้ล่ะ?”
มีมีพึมพําด้วยมุ่ย ” ฉันจะถามพี่ใหญ่เทียน่าในภายหลัง”
ข้างนอก เอธานเงยหน้าขึ้นและโค้งคํานับให้ผู้อาวุโสริเชน หลังจากลุกขึ้นจากเตียง “ผมขอโทษผู้อาวุโสริเชน ผมเพิ่งรู้ว่าสถานการณ์ของผมว่ามันอันตรายแค่ไหนหลังจากที่คิดถึงเรื่องนี้
จากนั้นเขาก็กล่าวขอโทษอเวเลีย ก่อนที่จะหันไปหาผู้อาวุโสริเชนอีกครั้ง “ผมคิดว่าผมสามารถเข้าสู่สถานะนั้นได้อีกครั้ง แต่ผมจะไม่เข้าสู่มัน ก่อนที่จะมีคุณสมบัติเพียงพอ ท่านช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าผมต้องไปถึงขั้นไหนก่อน ถึงจะฝึกฝนในสถานะการฝึกฝนขั้นรุนแรงนั้นได้”
” คุณต้องไปถึงหลังจากขั้น Profound Domain Plane (โปรฟาวด์โดเมนเพลน) ก่อน หากคุณต้องการเข้าสู่สถานะนั้นอีกครั้ง ขั้นของ Erudite Palace Plane (เอลไดซ์พาเลซเพลน)”
เอธานพยักหน้าให้ผู้อาวุโส ริเชน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากผู้อาวุโสริเชน ผมจะไม่ประมาทในครั้งต่อไปครับ”
” ตราบเท่าที่คุณรู้ ว่าคุณกําลังทําอะไรน่ะนะ “ เมื่อพูดเช่นนี้ ผู้อาวุโสริเชนก็กลับไปที่บ้านของเขาหลังจากผ่านประตูมิติ
อเวเสียที่ยืนอยู่ที่นั่น จู่ๆก็มองดู Digiband (ดิจิแบนด์)ของเธอและรู้สึกประหลาดใจ
[ 2100 เครดิตที่ได้รับ ]
* นี่คือค่ายาที่ฉันนํามาให้เอธาน เอธานส่งหน่วยกิตให้ฉันหลังจากเรียนรู้ข้อมูลจากผู้อาวุโสริเชน และผู้อาวุโสพูดถึงเรื่องยาดอกซาเลียน่าได้งั้นหรือ?
“เอธาน นายส่งเครดิต 2100 เครดิตมาให้ฉันเมื่อครู่นี้เหรอ?”
เอธานส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า “เปล่า ฉันไม่ได้มีเครดิตมากมายขนาดนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
“ ทําไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นล่ะ?”
อเวเลียบอกเขาเกี่ยวกับค่ายาและเครดิตที่เธอเพิ่งได้รับ และในการตอบกลับ เอธานกล่าวว่า “ผู้อาวุโสริเชนคงต้องการส่งเครดิตเหล่านั้นมาให้เธอน่ะสิ เนื่องจากท่านกําลังเลี้ยงดูฉันอยู่ ท่านก็ได้แบกรับค่ายาที่เธอได้ซื้อไปด้วยเช่นกัน”
ตอนที่ 97: ทัวร์นาเมนต์
หลังจากการบรรยาย
ทุกคนก็กลับบ้านที่ทําด้วยมือของพวกเขา
เอธาน และอเวเลีย กําลังนั่งทานอาหารอยู่ตรงหน้ากัน
สภาพแวดล้อมเงียบสงบ เนื่องจากลมเย็นพัดมาบนลําต้นยักษ์ของต้นไม้ ซึ่งพวกเขานั่งบนนั้น ขณะเพลิดเพลินกับอาหารจานร้อนแสนอร่อยที่ปรุงโดยอเวเลีย
นกกําลังบินอยู่บนท้องฟ้าและกําลังเล่นเกมด้วยกัน ใช่พวกมันกําลังเล่นเกมกัน
นกเหล่านี้เป็นสัตว์วิเศษชนิดเดียวกับที่ เอธาน และเทียน่า พบในต้นไม้ยักษ์อีกต้นหนึ่งข้างต้นนี้ เมื่อมาถึงบริเวณนี้เป็นครั้งแรก
ขณะรับประทานอาหาร จู่ๆก็มีความคิดผุดขึ้นในใจของอเวเลียว่า จะดีแค่ไหน หากฉันได้ใช้ชีวิตแบบนี้กับเอธานทั้งชีวิต “
แต่ทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้น เธอก็ตกใจและปฏิเสธทันที
ด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน เธอคิดว่าดูเหมือนว่าฉันจะมีความสุขมากกับเอธานในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเขาเปิดใจให้ฉันมากขึ้น แต่ฉันไม่สามารถละทิ้งเป้าหมายของฉันได้”
จากนั้นเธอก็มองไปที่ใบหน้าของเอธาน ซึ่งดูหล่อเหลามากกว่าเมื่อก่อน
เมื่อรู้สึกถึงการจ้องมองของเธอ เอธานถามด้วยท่าทางสับสน “มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
ใบหน้าของอเวเลีย เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย ขณะที่เธอส่ายหัวก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดว่าสถานที่นี้สวยงามมากตอนนี้ที่ได้มองมันอย่างใกล้ชิด”
เอธานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “จริง คงจะดีไม่น้อยถ้าเทียน่าอยู่ที่นี่ และชอบวิถีชีวิตและอาหารแบบนี้”
ริมฝีปากของอเวเลียกระตุก แต่เธอยิ้มและพูดว่า “ใช่ ฉันอยากพบภรรยาของนายในสักวันหนึ่ง”
“วันนั้นจะมาถึงในไม่ช้า” เอธานพูดด้วยน้ําเสียงที่แน่วแน่
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เอธานก็กลับไปทําความเข้าใจเจตจํานง ในขณะที่อเวเลียเข้าไปในบ้านต้นไม้พร้อมกับจานชาม
หลังจากที่เขานั่งไขว่ห้างแล้วเอธานก็คิดว่า การแข่งขันจะเริ่มในอีก 4 เดือน ดังนั้นฉันจะต้องรีบจัดการให้มาก
ความคิดของเขาหยุดลง เมื่อเขาตกลงไปที่ประตูมิติ แต่เขาคุ้นเคยกับสิ่งนี้แล้ว ดังนั้นเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นที่บ้านของผู้อาวุโสริเชน จากประตูมิติอื่น เขาตกลงบนพื้นได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วย 2 เท้าของเขาและยืนบนพื้นโดยไม่สูญเสียการทรงตัว
“ฉันมีข่าวร้ายมาบอก เอธานน้อย”
เอธาน หันไปหาผู้อาวุโส วิเชน ก่อนนั่งบนเก้าอี้ที่เขาวางไว้ข้างหน้าเขา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้อาวุโสริเชนกล่าวขณะส่ายหัว “มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมในทัวร์นาเมนต์ของสหภาพใหญ่ พวกเขาปฏิเสธข้อเสนอแนะของการเปลี่ยนแปลงรางวัลในการแข่งขันขั้น Origin Plane ทันที”
เอธานแปลกใจจึงถามว่า “ทําไมล่ะครับ? ทําไมถึงไม่ยอมรับ?
ผู้อาวุโสริเชนส่ายหัวและกล่าวว่า “พวกเขารู้สึกว่ารางวัลจะเพิ่มมากขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อนักเรียนชั้น Origin Plane กลุ่มนี้เข้าร่วม และเป็นความจริงเพราะรางวัลในสถานที่นั้นเพียงพอที่จะให้นักเรียน 10 อันดับแรกขึ้นไปถึงขั้น Genesis Conceptual Plane แต่นักเรียนกลุ่มใหม่ยังไม่เข้าใจเจตจํานงขึ้นมาสเตอร์ แม้ว่าบางคนจะทําอย่างนั้น แต่อย่างดีที่สุดเพียงหนึ่งหรือสองครั้ง จึงไม่คุ้มที่จะปล่อยให้นักเรียนชั้น Origin Plane มือใหม่เพลิดเพลินไปกับรางวัลคุณภาพสูงเช่นนั้น
เอธาน พยักหน้าอย่างเข้าใจ ในขณะที่เขารู้สึกว่ามันมีเหตุผล แต่เขาก็ยังสงสัย “แล้วทําไมทั้ง 2 สถาบันถึงเสนอรางวัลนี้เพิ่มข้อเสนอแนะในตอนแรกล่ะครับ?”
ผู้อาวุโสริเชนยิ้มและกล่าวว่า “เพราะพวกเขามีผู้หนุนหลังน่ะสิ พวกเขาจึงแอบปลูกฝังลูกชายหรือหลานชายของพวกเขามาหลายปีหรืออย่างน้อยก็เป็นเวลา 30 ปีเพื่อให้พวกเขาแข็งแกร่ง และลงทะเบียนพวกเขาในกลุ่มมือใหม่ เพื่อที่พวกเขาจะได้เพลิดเพลินกับรางวัลอันหรูหรานี้ ฉันก็ไม่มีปัญหาเพราะด้วยความสามารถของคุณ อย่างน้อยคุณก็สามารถอยู่ใน 3 อันดับแรกได้ แต่สหภาพใหญ่ปฏิเสธสิ่งนี้และเสนอข้อเสนอใหม่เกี่ยวกับทัวร์นาเมนต์นี้แทนแล้ว”
หลังจากที่เขาพูดจบ ผู้อาวุโสริเชนก็ยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม
“ ข้อเสนอใหม่คือแทนที่จะเป็นนักเรียนชั้น Origin Plane ชุดใหม่ นักเรียนของขั้น Origin Intent Plane คนอื่นๆจะมีสิทธิ์เข้าร่วมในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วย”
ตาของเอธานเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่เขาถาม “หมายความว่านักเรียนบางคนที่สามารถก้าวไปสู่ขั้น Genesis Conceptual Plane ในปีนี้และยังไม่ได้ทําลายกําแพงความคิดที่จะขึ้นไปที่ชั้นอื่นๆ และเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อรับรางวัลแทนก็ได้น่ะเหรอครับ”
ผู้อาวุโสริเชน พยักหน้าขณะลูบเคราของเขา “ แน่นอน รางวัลนั้นดีมาก คุณสามารถก้าวหน้าได้เร็วขึ้นอย่างมากที่นั่น และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทุกคนต่างตกตะลึงในภูมิภาคตํานานก็คือการซื้อวิญญาณแห่งความโกลาหล
นี่เป็นครั้งแรกที่เอธานได้ยินเรื่องวิญญาณแห่งความโกลาหล
“ วิญญาณแห่งความโกลาหล นี่มันอะไรกัน? ” เอธานถามด้วยความอยากรู้เพราะมันฟังดูมีพลัง
ผู้อาวุโสริเชนยิ้มและกล่าวว่า “วิญญาณแห่งความโกลาหลนั้นวุ่นวาย เราไม่รู้ว่าพวกมันถูกสร้างหรือกําเนิดมาอย่างไร พวกมันปรากฏตัวน้อยมากและการพบเจอมันยากกว่าการไปถึงสวรรค์ เราเชื่อว่าพวกมันมาจากสิ่งที่เรียกว่าลึกลับ สถานที่ที่เชื่อมต่อกับภูมิภาคในตํานาน ”
“ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ความยากเพิ่มขึ้นแล้ว คุณอาจไม่จําเป็นต้องติด 10 อันดับแรก แต่เรายังคงเลี้ยงดูคุณ ดังนั้นไปเถอะ”
เมื่อพูดเช่นนี้ ผู้อาวุโสริเชนชี้ร่างของเขาไปที่หน้าผากของเอธาน ขณะที่แสงสีทองพุ่งออกมาจากมัน
เอธานหลับตาลงเพื่อดูสิ่งที่ได้รับจากผู้อาวุโสริเชน
หลังจากดูคาถาและวิธีการไหลของพลังงานที่เขาได้รับจากผู้อาวุโสริเชน เอธานก็ลืมตาขึ้น
แต่เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เขามาปรากฏตัวที่บ้านต้นไม้ของเขา “ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสริเชน ส่งฉันกลับมาเมื่อฉันดูข้อมูลพวกนั้นเสร็จแล้ว แต่ทําไมฉันถึงไม่สังเกตเห็นล่ะ?”
เขาต้องมีความสามารถมากแน่ๆ อย่างไรก็ตาม เรามาโฟกัสที่การฝึกซ้อมกันเพราะว่า ดวงตาของเขาเป็นประกาย ในขณะที่เขาพูดพึมพํา “ถ้าติด 10 อันดับแรกมันจะทําให้ฉันก้าวหน้าเร็วขึ้น ฉันก็ไม่มีเจตนาที่จะล้าหลังคนอื่นอยู่แล้วด้วย”
เขานั่งขัดสมาธิก่อนที่จะเริ่มเข้าใจเจตจํานงของอากาศ
ฤดูกาลไม่เปลี่ยนแปลง แต่วันเวลาผ่านไปในสภาพแวดล้อมที่สงบสุขนี้
หลังจาก 3 วัน เอธานเข้าใจ เจตจํานงของอากาศถึงระดับสูง แต่เขาไม่ได้จบการฝึกลงเท่านั้นและเริ่มทําความเข้าใจกับเจตจํานงของความมืดต่อทันที
เพื่อให้ได้เจตจํานงของความมืดถึงขั้นสูง เอธานใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน
หลังจากที่เขาทําเสร็จแล้ว เขาเปิดใช้งาน Digiband ของเขาเพื่อเข้าสู่โลกเสมือน เพื่อซื้อข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดลูกแก้วทําลายล้าง
เขาเข้าใจเจตจํานงในระดับมาสเตอร์มากกว่าหนึ่งอย่างเพื่อที่เขาจะได้ แล้ว
บังเอิญอเวเลียก็ได้เข้าสู่โลกเสมือนจริงด้วยเพื่อซื้อส่วนผสมในเวลาเดียวกับ เอธาน
ในโลกเสมือนจริง เอธานและอเวเลีย ต่างก็ปรากฏตัวพร้อมกันและต่อหน้ากันด้วย ขณะที่พวกเขาอยู่ที่เดียวกันในโลกแห่งความเป็นจริง
ทั้งสองคนประหลาดใจกับเรื่องบังเอิญที่พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
อเวเลียยิ้ม ขณะที่เธอดูมีความสุขเป็นพิเศษ
“ นายมาที่นี่เพื่อซื้ออะไรเหรอ อ่า…ฉันโง่ แน่นอน นายจะมาที่นี่เพื่อซื้อของในโลกเสมือนจริง”
เอธานพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ เพื่อซื้อข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดที่ฉันตั้งเป้าว่าจะผ่านการทดสอบหลัก
“ไปด้วยกันสิ ฉันก็ต้องซื้อวัตถุดิบเหมือนกัน” อเวเลียพูดพร้อมกับจับมือเอธานและกําลังจะเดินไปที่ตลาดก่อนที่เธอจะหยุดกะทันหัน
เธอปล่อยมือของเอธานและพูดด้วยใบหน้าประหม่าว่า “นี่…ฉันขอโทษ ที่ฉันจับมือนายไปแบบนั้น”
” ตอนนี้เอธานต้องโกรธฉัน สาปฉัน แต่ฉันมีความสุขมากที่มีโอกาสได้ไปซื้อของกับเอธานจนฉันอดใจไม่ไหว
เอธานพูดไม่ออก ดูเหมือนว่าเธอยังคงกังวลเกี่ยวกับความประทับใจของฉันที่มีต่อเธอในตอนแรก
เขาส่ายหัวและยิ้มและพูดว่า “ใจเย็นๆ ฉันคิดว่าเธอเป็นเพื่อนของฉัน เท่านี้ก็เรียบร้อย
อเวเลียประหลาดใจ เมื่อรอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอ
เธอจับมือเอธานอีกครั้งแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ ฉันจะไม่ใช้เวลามากเกินไป เพราะฉันรู้ว่านายทํางานหนักเพื่อ…พบภรรยาของนายอีกครั้ง”
จากนั้นเธอก็เดินไปที่ตลาดสาธารณะในขณะที่คิดว่า ฉันรู้สึกอิจฉาแฟนของนายจริงๆ แต่ฉันอิจฉาที่เห็นนายตั้งใจฝึกฝนและฝึกฝนเพื่อภรรยาของนายมากกว่าอีก อ่า ฉันหวังว่านายจะรักฉันมากขนาดนั้นบ้าง…”
ความคิดของเธอถูกขัดจังหวะโดยชายหนุ่มรูปงามที่มีผมสั้น ผมสีน้ําตาล และรูปร่างดี
เขาเห็นอเวเลี้ยปรากฏตัวและวิ่งตรงเข้ามาหาเธอพร้อมกับช่อดอกไม้ที่บรรจุดอกไม้สวยงามนานาชนิด
” คุณอเวเลีย คุณมาอีกแล้ว ดอกไม้เหล่านี้เพื่อคุณ โปรดยอมรับพวกเขาในครั้งนี้ เนื่องจากผมได้เดินทางไปยังดาวเคราะห์หลายดวงโดยเฉพาะเพื่อเก็บสะสมมันมาให้คุณ”
สีหน้าของอเวเลียเปลี่ยนเป็นความรําคาญอย่างสุดขีด ขณะที่เธอคิดว่า ไอ้สารเลว หยุดเสียเวลาอันมีค่าของเอธานเสียที
เธอคว้าช่อดอกไม้จากมือของเขา ซึ่งทําให้เขายิ้ม แต่ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาอย่างเต็มที่ อเวเลีย ก็โยนช่อดอกไม้ลงที่เท้าของเธอก่อนจะเหยียบเข้าไป
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในโลกเสมือนจริง แต่สิ่งของในโลกแห่งความเป็นจริงก็สามารถนํามาที่นี่ได้เช่นกัน เช่นเดียวกับเสื้อผ้าและสิ่งอื่นๆที่ Digiband สแกนโดยอัตโนมัติ
คนรอบข้างรู้จักอเวเลีย ว่าเป็นสาวงามที่มีชื่อเสียงและเป็นลูกสาวของเจ้านายคนปัจจุบันของตระกูลเซนฟอร์ด ดังนั้นจึงมีคนไล่ตามเธอหลายคน
ชายคนนั้นสังเกตเห็นเอธานและเปลี่ยนท่าทางก่อนจะถามด้วยรอยยิ้มว่า ไม่ว่าดอกไม้ของเขาจะถูกทําลายโดยอเวเลีย “คุณหญิงอเวเลีย สุภาพบุรุษผู้นี้เป็นใคร”
เอธานขมวดคิ้วเล็กน้อยและกําลังจะปล่อยมือจากมือของอเวเลีย เมื่อเธอจับมือเขาแน่นขึ้น และพูดอย่างโกรธเคืองต่อชายคนนั้นว่า “มันไม่ใช่ธุระอะไรของนายหรอก ว่าเขาเป็นใคร อย่ามารบกวนฉันเลย”
จากนั้นเธอก็ละเลยพวกเขาทั้งหมดและวิ่งไปที่ตลาดสาธารณะ เสื้อผ้าของเธอเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมสีดําเรียบง่าย ขณะวิ่ง
ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอหยุดก่อนจะหันไปหาเอธาน “ขอโทษนะ ผู้ชายไร้ประโยชน์พวกนี้น่ารําคาญจริงๆ แทนที่จะไปสนใจเรื่องสําคัญๆ กลับเสียเวลาสร้างความประทับใจให้สาวๆด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดีจากราคะ”
เธอทําหน้าขอโทษต่อเอธานที่ส่ายหัวและพูดว่า “ไปเถอะ เรามาทําสิ่งที่เราต้องมาอยู่ที่นี่ให้เสร็จกันเถอะ”
เสื้อคลุมสีเทาปรากฏขึ้นเหนือเขา ขณะที่ทั้งสองรีบซื้อของให้เสร็จ
หลังจากซื้อข้อมูลโดยละเอียดของแนวคิดลูกแก้วแห่งการทําลายล้างแล้ว พวกเขาก็กลับสู่โลกแห่งความจริง
เอธานไม่เสียเวลาและเริ่มดูข้อมูลที่เขานํามาโดยตรง
อเวเลียมองดูเอธานด้วยสีหน้าเศร้าก่อนจะหลับตาลงและเริ่มฝึก
เธอดูเศร้าเพราะเมื่อเธอถามเอธานว่าเขาอยากกินหรือไม่ เขาบอกว่าเขาไม่อยากกินและนั่งลงทันทีก่อนหลับตา
ตอนที่ 96: ระยะเวลา 3 เดือน , การปรับปรุง , การบรรยายของลอม
*ชู่ว*
ปัจจุบันอเวเลียกําลังเผชิญหน้ากับเอธานบนท้องฟ้าด้วยธนูในมือของเธอ เธอสวมชุดกีฬารัดรูป ซึ่งเผยให้เห็นรูปร่างและหน้าอกที่สมบูรณ์แบบของเธอ
เมื่อมองไปที่ เอธาน ซึ่งร่างกายของเขาถูกหุ้มด้วยเกราะเลือด เธอได้ปล่อยลูกธนูอันทรงพลังที่สร้างจากอวกาศ อากาศ และพลังงานไฟจากธนูของเธอ ขณะที่มันพุ่งเข้าหา เอธาน ด้วยความเร็วเหนือเสียง
การโจมตีด้วยศรที่มีพลังทําลายล้างสูง เมื่อได้รับแรงกระตุ้นจากเจตจํานงขั้นสูงของอวกาศ อากาศและไฟ
แต่เอธานแค่ยิ้ม เมื่อเห็นขณะที่อเวเลียปล่อยลูกศรอันทรงพลังพุ่งเข้าใส่เขา
*บูม*
ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเกราะสีแดงเลือดที่มีลวดลายเหมือนเส้นเลือด แม้ว่าใบหน้าของเขาจะไม่ถูกปิดบังก็ตาม เมื่อศรปะทะเอธานแล้ว เขาก็ปิดหน้าด้วยส่วนหมวกเกราะของมังกรดํา
‘ดูเหมือนว่าอเวเลียก็มีความลับบางอย่างเช่นกัน เธอเข้าใจเจตจํานงของอวกาศ อากาศ ไฟ และ เสียง ถึง ขั้นสูงสุดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา นั่นไม่ใช่สิ่งที่อัจฉริยะทั่วไปสามารถทําได้’
หลังจากที่เห็นการโจมตีของเธอถูกบล็อกโดย เอธาน แล้ว อเวเลีย ก็ยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมและ คิดว่า ‘สัตว์ประหลาด…เขาจะเข้าใจเจตจํานงและสามารถฝึกคาถาพวกนั้นอย่างรวดเร็วได้อย่าง ไร? ฉันมีสิ่งพิเศษที่แม่มอบให้ ซึ่งสามารถเพิ่มความเร็วในการเข้าใจของฉันได้ แต่เขามีอะไรบ้างล่ะ? อย่างไรก็ตาม เขาต้องมีบางอย่างอย่างแน่นอน มิฉะนั้น มันจะไม่ตอบโต้เอธาน เมื่อเธอใช้เวทมนตร์’
3 เดือนกับ 15 วันผ่านไป และทั้งหมดที่ เอธาน ได้ทําก็คือการเข้าใจเจตจํานงและฝึกฝนคาถาและวิธีการไหลของพลังงาน
ในช่วง 3 เดือนนี้ เอธาน ไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่เจตจํานงลึกลับแต่เน้นที่เจตจํานงธาตุ และเพิ่มพลังการต่อสู้ของเขา
ครั้งแรกที่เขาเข้าใจเจตจํานงของไฟ ถึงระดับมาสเตอร์ ซึ่งใช้เวลา 1 เดือน
หลังจากนั้น ในอีก 15 วันข้างหน้า เขาได้เข้าใจ เจตจํานงของเมฆในระดับเริ่มต้น เจตจํานงของเลือด ที่ระดับ สูง เพื่อให้คาถาวิธีการไหลของสายเลือดของเขามีประสิทธิภาพและยังเข้าใจ แจตจํานงน้ําแข็ง และเจตจํานงเงา ถึงระดับกลางแล้ว
หลังจากนั้น เขาเริ่มพัฒนาพลังการต่อสู้ด้วยการฝึกฝนกับอเวเลีย
เขาเชี่ยวชาญทั้ง วิธีการไหลแบบต่างๆจนถึงขั้นฟิค(มาสเตอร์) ในขณะที่เขาฝึกคาถา ระลอกคลื่นอวกาศ และ ไฮโดรบลิทซ์ ไปจนถึงขั้นสูงพร้อมกับขั้นตอนของการระเบิด
<เอธาน>
> ขั้นสูงสุดของ Origin Intent Plane
<สถิติ>
ความแข็งแกร่ง: 365
ร่างกาย: 365
จิตใจ: 145 ( พลังเวทย์ )
<~พลังงานลึกลับ~>: พลังงานต้นกําเนิด- [ ไฟ สายฟ้า น้ํา ดิน ไม้ อากาศ มืด แสง อวกาศ น้ําแข็ง เลือด เงา เมฆ ]
<~เจตจํานงของธาตุ~>
-ระดับเริ่มต้น:–>[ เมฆ ]
ระดับกลาง: ->[ ดิน ไม้ อากาศ มืด แสง อวกาศ น้ําแข็ง เงา ]
-ระดับขั้นสูง:–>[ เลือด ]
ระดับมาสเตอร์:->[น้ํา สายฟ้า ไฟ ]
<~อาณาจักรลึกลับ~>
– พลังลึกลับ
– เกราะเกล็ดมังกรดํา ลัคกี้ (ลูกแมวน้อย) พลังงานคริสตัลสีขาว ปีกแห่งฝันร้ายสีน้ําเงิน จักร
<~เจตจํานงลึกลับ~>
ระดับเริ่มต้น ->[~]
-ระดับกลาง->[ ความเร็ว ]
-ระดับสูง–>[ ขับไล่ ดึงดูด แรงโน้มถ่วง ]
<~วิธีการไหลของพลังงานเชิงรุก~>
วิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact (สูงสุด)
–>[ คาถา: Impact Shot Impact Scatter Impact Point ]
วิธีการไหลของสายเลือด ( พีค )
->[คาถา: เกราะเกลียวเลือด เกราะเลือด]
<~ คาถาการไหลแบบ Sole (โซล) ~>
– ขั้นตอนระเบิด ( ขั้นสูง )
– ระลอกคลื่นอวกาศ ( ขั้นสูง)
– ไฮโดรบลิทซ์( ด่านขั้นสูง)
– ฝนแห่งความมืดที่เจิดจ้า
หลังจากที่เขาดูรายละเอียดแล้ว เอธาน ก็มองไปที่ อเวเลีย และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงคราวที่ฉันจะโจมตีแล้วนะ”
อเวเลียพยักหน้าหลังจากพูดด้วยน้ําเสียงอ้อนวอน “และนายจะอดใจรออีกหน่อยได้ไหม ฉันแน่ใจว่านายได้มาถึงขั้นสูงของคาถาไฮโดรบลิทช์แล้ว ดังนั้นจักรของนายคงจะโจมตีหนักกว่าเดิม”
เอธานยิ้มและกล่าวว่า “แน่นอน ฉันจะอดใจรอ ถ้าเธอตายโดยไม่ได้มาจากความตั้งใจของฉันล่ะ? เช่นนั้นฉันคงจะไม่เดือดร้อนใช่ไหม?”
อเวเลียมุ่ยหน้าแล้วพูดว่า “อย่าล้อเล่นแบบนั้น” แต่เธอก็ยิ้มแล้วพูดว่า “แต่อย่าดูถูกฉันนะ ฉันมีวิธีป้องกันด้วยนะ จะได้ไม่ตายง่ายๆ แบบนั้น”
เอธาน นําจักรออกมาและเคลือบด้วยพลังน้ําก่อนที่จะโยนมันไปทาง อเวเลีย ซึ่งมันได้ปะทะกับเวทมนตร์ป้องกันของเธอแล้ว
จักรกระทบกับเวทย์ป้องกันของเธอ และมันก็ฉีกผ่านได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะกระแทกพื้นที่ปังกันส่วนอื่นๆของเธอและคาถาป้องกันไฟ ที่ดูเหมือนโล่แห่งไฟที่มีการสั่นสะเทือนของพื้นที่รอบ ๆ อย่างแปลกประหลาด ถึงกระนั้นจักรก็หักโล่ไฟก่อนจะกลับไปหาเอธาน
อเวเลีย ถูกผลักกลับแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจาก เอธาน รั้งการโจมตีของเขาไว้ พลังสายฟ้า และน้ําของเขาแข็งแกร่งกว่ามาก เนื่องจากเจตจํานงของเขาถึงระดับมาสเตอร์แล้ว
ขณะที่พวกเขายังคงต่อสู้ต่อไป เอธาน รั้งพลังไว้ ขณะโจมตี แต่อเวเลีย ยังคงป้องกันได้ ยากขึ้น เนื่องจาก เอธาน ไม่หยุดการโจมตีของเขา บางครั้งเขาจะควบคุมจักรของเขาโดยใช้ แรง โน้มถ่วง และ คาถาระลอกคลื่น ซึ่งทําให้ยากต่อการควบคุม แต่เขาก็ควบคุมการโจมตีเพื่อที่ไม่ให้มันทําร้ายเธอ
ในที่สุด เอธาน ก็เพิ่มความสามารถและการควบคุมการใช้คาถาและจักรด้วยการต่อสู้กับอเวเลีย
แต่ทันใดนั้น ทั้งคู่ก็ได้ยินการแจ้งเตือนจาก Digiband ของพวกเขา
[การบรรยายของศาสตราจารย์ลอมจะเริ่มใน 10 นาที ]
ในเวลานี้ ทั้ง เอธาน และ อเวเลีย ได้หยุดการฝึกการต่อสู้
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อเวเลีย อาศัยอยู่ตามปกติกับ เอธาน เช่นเดียวกับเพื่อนบ้าน เธอจะทําอาหารหลังจากฝึกและพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการฝึก
เธอไม่เคยพูดถึงเรื่องแต่งงานกับเอธาน ดังนั้นเขาจึงเริ่มประพฤติตัวเป็นปกติกับอเวเลียแล้วในฐานะเพื่อน
ใช้เวลาไม่นานผ่านไป 10 นาที เมื่อพวกเขาถูกส่งไปยังพื้นที่ขนาดใหญ่
บริเวณนี้เต็มไปด้วยนักเรียนที่มีอายุต่างกัน แต่ไม่มีใครอายุเกิน 31 ปี
นักเรียนมองไปรอบๆ เนื่องจากไม่มีโฮโลแกรมอยู่บนท้องฟ้า
แต่ทันใดนั้น ทุกคนก็เริ่มรู้สึกหนาวเล็กน้อย เมื่อสังเกตเห็นว่ามีความมืดปรากฏขึ้นเหนือพวก
ชายในวัย 30 กําลังลอยอยู่ใต้ความมืดนั้น
ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศาสตราจารย์ลอม
เขาพูดกวาดสายตามองไปรอบๆ ทุกคน “สิ่งที่คุณเห็นอยู่เหนือฉันคือความสามารถของแนวคิด น้ําแข็งแห่งความมืด ของฉัน”
ความมืดเริ่มจางหายไปหลังจากศาสตราจารย์ลอมพูดจบ แต่สิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนปลาโลมาปรากฏตัวขึ้น หลังจากความมืดอันเยือกเย็นถูกขจัดออกไป
โลมามีสีเยือกแข็งเหมือนน้ําแข็ง แต่มีจุดดําบนตัว และเรืองแสงสีดําก็ถูกปล่อยออกมาจากใต้ผิวหนังด้วย
ทุกคนประหลาดใจที่เห็นสัตว์คล้ายปลาโลมาขนาด 10 เมตรบินอยู่รอบๆศาสตราจารย์ลอม
“สิ่งมีชีวิตนี้เป็นหนึ่งในวิญญาณของฉัน และอย่างที่คุณสังเกตเห็น มันเกี่ยวข้องกับแนวคิดน้ําแข็งแห่งความมืด อันที่จริง มันคือสิ่งมีชีวิตที่ใช้พลังเพียงเล็กน้อยจากแนวคิดของฉัน แต่คุณไม่จําเป็นต้องรู้ว่าแนวคิดนี้ทํางานอย่างไร เพราะมันเร็วเกินไปสําหรับพวกคุณทุกคน”
เมื่อได้ยินคําพูดนั้น เอธานก็คิดว่า แล้วทําไมคุณถึงแสดงให้เราเห็นตั้งแต่แรกล่ะครับ?
นักเรียนก็เริ่มบ่นพึมพํา แต่ศาสตราจารย์ลอมไม่สนใจพวกเขาและพูดว่า “แม้ว่าการใช้แนวคิดจะเร็วเกินไปสําหรับคุณที่จะรู้ แต่สิ่งที่คุณกําลังจะเรียนรู้ในวันนี้คือข้อจํากัด ของการสร้างแนวคิด”
“ แม้ว่าจะยังไม่มีใครพร้อมที่จะสร้างแนวคิด แต่เราต้องบอกคุณบางอย่างเกี่ยวกับ เจตจํานง และแนวคิดก่อนที่คุณจะดําเนินการสร้างแนวคิดของคุณเอง”
” ความรู้ทั่วไปคือเราต้องควบคุมเจตจํานงก่อนจึงจะสามารถหลอมรวมให้เป็นจริงและสร้างแนวคิดได้ แต่คุณไม่สามารถสร้างแนวคิด 2 แนวคิดที่มีเจตจํานงคล้ายกันได้ ดังนั้นหาก คุณกําลังวางแผนที่จะสร้างแนวคิดที่อ่อนแอเพียงเพื่อให้ผ่าน ทดสอบแล้วสร้างแนวคิดที่ทรงพลังหลังจากนั้นอีกล่ะก็ คุณต้องระมัดระวังว่าจะสร้างแนวคิดใดต่อไปเป็นอย่างแรก “
” ตัวอย่างเช่น ฉันสร้างแนวคิดน้ําแข็งแห่งความมืดเพื่อส่งผ่านขั้น Genesis Conceptual Plane ของฉัน ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถสร้างแนวคิดที่รวมความตั้งใจที่ใช้ในแนวคิด น้ําแข็งแห่งความมืด ของฉันได้ เมื่อฉันอยู่ในขั้น Energy Plane”
หลังจากที่เขาพูดจบ นักเรียนคนหนึ่งก็พูดเสียงดัง
” แต่ศาสตราจารย์ ฉันได้ยินมาว่ามีคนที่มีแนวคิดหลายอย่างที่มีเจตจํานงคล้ายคลึงกัน”
ศาสตราจารย์เหลือบมองนักเรียนด้วยสีหน้าเฉยเมยและพูดว่า “ฉันยังอธิบายไม่เสร็จ อย่าขัดจังหวะ คุณจะมีโอกาสถามคําถามและข้อสงสัยหลังจากที่ฉันอธิบายเสร็จแล้ว”
จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “ ผู้คนมีแนวคิดหลายอย่างที่หลอมรวมโดยเจตจํานงที่คล้ายคลึงกัน แต่ไม่สามารถทําได้ในขั้น Genesis Conceptual Plane หากต้องการสร้างแนวคิดที่มีเจตจํานงคล้ายคลึงกัน คุณต้องเข้าถึงขั้น Sout Altar Plane แต่ก็ไม่ง่ายอย่างนั้นเช่นกัน …” เขาหยุดพูดถึงตรงนั้น เขาพูดหลังจากกวาดสายตาไปรอบๆ นักเรียน “ หัวข้อเหล่านี้เร็วเกินไป สําหรับพวกคุณทุกคน ตอนนี้ จุดสนใจของเราคือวิธีที่เราควรดําเนินการจากขั้น Origin Intent Plane ไปสู่ขั้น Genesis conceptual Plane”
” ฉันต้องการให้คุณเตรียมตัวให้พร้อม เพราะคุณจะไม่สามารถสร้างแนวความคิดที่มี ลักษณะคล้ายคลึงกันในขั้น Genesis Conceptual Plane ได้ “
นักเรียนทุกคนรวมทั้งเอธานพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
เมื่อเห็นเช่นนั้น ศาสตราจารย์ลอมก็บรรยายต่อไปอีกซักพัก
ส่วนใหญ่เขาพูดถึงวิธีที่จะเข้าใจเจตจํานงธาตุ และ เจตจํานงลึกลับ ซึ่ง เอธาน พบว่าไร้ประโยชน์เพราะเขาไม่มีปัญหากับมัน เพราะเขาเข้าใจเจตจํานงพวกนั้นแล้ว
ผ่านไปครู่หนึ่ง ศาสตราจารย์ลอมก็จบการบรรยายด้วยหัวข้อสุดท้ายว่า “ หลังจากคุณ ทุกคนได้ตระหนักและสร้างแนวคิดขึ้นแล้ว คุณไม่ควรรีบร้อนที่จะทําลายกําแพงแห่งความคิดและดื่มกับแนวคิดที่คุณสร้างและเติมเต็ม พลังเวทย์มนตร์ทั้งหมดของคุณ ก่อนที่จะพยายามทําลายกําแพงแห่งความคิดนั้น”
จากนั้นเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่ปรากฎบนโลมาและพูดว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ทุกคนสามารถถามคําถามและข้อสงสัยต่างๆ กับฉันได้ ถ้าต้องการให้ยกมือขึ้น แล้วฉันจะสุ่มเลือกคนทุกครั้ง”
หลังจากนั้น ศาสตราจารย์ลอมก็เพิ่มความดังขึ้นเล็กน้อยในขณะที่พูดต่อ “ถามเฉพาะ เรื่องของขั้น Origin Intent Plane และแนวความคิดเท่านั้น อย่าถามอะไรนอกเหนือจากขั้น Origin Intent Plane แม้แต่สิ่งที่คุณต้องทําในขั้น Genesis Conceptual Plane ด้วยก็ตาม ”
“เอาล่ะ ยกมือขึ้น”
ตอนที่ 95: อาวุธของ เอธานและคาถาใหม่
อีก 1 เดือนผ่านไปอย่างเงียบๆ เนื่องจาก เอธานไม่ได้ทําอะไรอย่างอื่นนอกจากการ เข้าใจเจตจํานงของสายฟ้า
อเวเลียถอนหายใจ เมื่อมองไปยังเอธานที่กําลังนั่งสมาธิอยู่
‘ผ่านไป 1 เดือนแล้วตั้งแต่ที่เขากินอาหารของฉันครั้งสุดท้าย ฉันยังคงต้องทําภารกิจให้เสร็จ ซึ่งมันปรากฏเมื่อ 2 วันก่อน และอย่างที่เขาพูด เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในภารกิจจริงๆ’
หลังจากผ่านไป 5 วัน ประกายสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นรอบๆ เอธานขณะที่เขากําลังนั่งสมาธิอยู่
อเวเลียสังเกตเห็นสิ่งนี้เมื่อเธอเพิ่งกลับมาจากโลกเสมือนจริง
“ล้อเล่นเหรอ?”
กรามของอเวเลียแทบจะล่วงลงกับพื้น เมื่อเธอสังเกตเห็นปรากฏการณ์รอบๆ เอธาน
หลังจากนั้นไม่นาน เอธานก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
‘ฉันเข้าใกล้อีกขั้นแล้ว’
ความคิดของเขาถูกตัดขาดเมื่อจู่ๆ ประตูมิติก็ปรากฏขึ้นใต้เขา และเขาก็หายตัวไป
“ ไม่อีกแล้ว! ใครเป็นผู้เปิดประตูภายใต้เอธาน ดูเหมือนว่าเขาได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากการทดสอบครั้งใหญ่ในอะคาเดมีนี้” อเวเลีย พึมพําเมื่อเธอเห็น เอธานล่วงไปที่พอร์ทัลเป็นครั้งที่
แต่คราวนี้ เธอเห็นเอธานกลับมาในอีก 5 นาที
เธอสงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์ของเอธาน แต่เธอไม่ได้ถามและไปทําอาหารเพราะเอธานไม่ ต้องการสนทนาใดๆ
ในขณะเดียวกัน เอธานได้ดูภารกิจใหม่ของเขา ซึ่งก็คือการไปถึงระดับ มาสเตอร์ ในเจตจํานงลึกลับ ในระยะเวลา 2 ปี
หลังจากดูมันแล้ว เขาหลับตาลงและตรวจสอบสิ่งที่เขาได้รับจากผู้อาวุโสริเชน
[ ไฮโดรบลิทซ์ ]
– คาถาการไหลของพลังงานนี้ต้องใช้ระดับสูงของเจตจํานงสายฟ้าและเจตจํานงน้ําพร้อมกับ ร่างกายที่เพียงพอของพวกเขา
– ปานกลาง: อาวุธใดๆ ก็ตามที่ทําจากวัสดุของสายฟ้า และ น้ํา
คาถานี้ที่เขาได้รับจากผู้อาวุโสริเชน ส่วนใหญ่ใช้กับอาวุธเพราะผู้อาวุโสริเชน กล่าวว่าเป็นการดีที่จะมีความเชี่ยวชาญในอาวุธอย่างน้อย 1 ชิ้นเพราะจะเป็นประโยชน์ในขั้นต่ละขั้นในอนาคต
ผู้อาวุโสริเชนยังแสดงรายการอาวุธให้เขา และในที่สุดเขาก็เลือกอาวุธที่เขาชอบทันทีหลังจากเห็นมัน
” เฮ้อ แต่ฉันรู้สึกว่าอาวุธที่ฉันเลือกนั้นต้องมีค่ามากเพราะผู้อาวุโสริเชน กล่าวว่ามันสา มารถสนับสนุนพลังงานทุกประเภทที่มีอยู่ในนั้นและสร้างขึ้นจากวัสดุลึกลับบางอย่างที่พบในภูมิภาคตํานานเท่านั้น”
เอธานสับสนว่าผู้อาวุโสริเชน ได้ของล้ําค่ามาได้อย่างไร แต่เขาไม่ได้ถามและยอมรับความปรารถนาดีของเขาก่อนที่จะสัญญากับตัวเองว่าจะคืนความปรารถนาดีให้กับผู้อาวุโสริเชนในอนาคต
เมื่อพูดพึมพํา เอธานก็หยิบ จักรมืด ออกมาคู่หนึ่ง ซึ่งมีลวดลายสีขาวทั่วโครงสร้างร่างกายของพวกมัน
เขาถือจักระหนึ่งอันในมือแต่ละข้างของเขาก่อนที่จะโยนมันทิ้ง
*ชู่ว*
*ชู่ว*
พวกมันบินเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวก่อนจะกลับเอธาน
เอธานพยักหน้าคิดว่า ‘ฉันต้องใช้แรงลึกลับเล็กน้อยเพื่อควบคุมพวกมัน แต่ฉันรู้สึกว่าฉันจะสามารถควบคุมอาวุธนี้ได้ในไม่ช้า และฉันก็ยังมีไอเดียมากมายเกี่ยวกับวิธีใช้จักระกับคาถา’
จากนั้นเขาก็เริ่มฝึก ไฮโดรบลิทซ์
ไฮโดรบลิทซ์เป็นคาถาอาวุธ การใช้เวทย์มนตร์นี้คือพลังน้ําที่หนาแน่นปกคลุมรอบอาวุธ ภายในนั้น น้ําและสายฟ้าจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เร็วมากขณะที่ไหลเวียนอยู่ภายในส่วนที่เคลือบ
คล้ายกับการไหลของน้ําภายในท่อ น้ําที่เคลือบหนาแน่นรอบอาวุธคือท่อที่มีแรงดันน้ําและ สายฟ้าผ่าอันทรงพลังผ่านเข้าไปข้างใน
หากมีผู้โจมตีด้วยอาวุธที่เคลือบด้วยไฮโดรบลิทซ์ พวกเขาจะได้รับแรงกระแทกอันทรงพลังก่อนที่น้ําที่ไหลเวียนอย่างรวดเร็วและสายฟ้าจะกระทบกับพวกเขาราวกับถูกสัตว์ร้ายกัด
ไฮโดรบลิทช์ สามารถสร้างความเสียหายได้มาก ในขณะที่ยังทําให้ฝ่ายตรงข้ามตกใจและ ทําให้เป็นอัมพาตด้วยสายฟ้า
“ ฉันสามารถเสริมพลังจักระของฉันด้วยไฮโดรบลทช์ แล้วโยนมันเพื่อโจมตีคู่ต่อสู้ หึหึ ยิ่ง ฉันขว้างมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรับแรงกระแทกได้มากเท่านั้น และฉันก็สามารถใช้เจตจํานงลึกลับของฉันควบคู่กับจักระและคาถาเพื่อทําให้พวกมันอันตรายได้”
เมื่อสรุปได้แล้ว เขาพอใจกับวิธีการโจมตีแบบใหม่ของเขามาก
จากนั้นเขาก็ตรวจสอบคาถาอื่น ซึ่งเป็นคาถาโจมตี
[ฝนแห่งความมืดและเจิดจ้า ]
– ต้องการ เจตจํานง มีด และ แสง ที่ระดับ มาสเตอร์ และ เจตจํานงเมฆ ที่ ขั้นสูง
เป็นคาถาที่ยากมากที่จะเชี่ยวชาญได้ เนื่องจากต้องสร้างคาถาที่ซับซ้อน ซึ่งก่อตัวเป็นเมฆหลังจากปล่อยมันออกมา ซึ่งประกอบด้วยพลังงานแสงและความมืดที่ผสมกัน เพื่อให้เกิดหยดพลังงาน แสงขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ซึ่งมีพลังงานมืดที่กัดกร่อนมันไปด้วย
– หลังจากก่อตัวเป็นเมฆก้อนหนึ่งหรือมากกว่านั้น พวกมันจะถูกปล่อยลงมา เพื่อไล่ฝนลงมาเป็นหยดแสงขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ซึ่งมีพลังงานมืดและมันก็ได้จัดการกับความเสียหาย ที่กัดกร่อนจากความมืดหลังจากเม็ดฝนโปรยปรายกระจายเป็นบริเวณกว้าง
” คาถานี้ค่อนข้างทรงพลัง พลังงานแสงยังสร้างความเสียหายค่อนข้างมาก เนื่องจาก อาจเป็นเรื่องยากที่จะบล็อกเวทมนตร์แห่งแสง หลังจากที่พลังงานแสงถูกรวมตัวในรูปแบบนั่นเป็นสาเหตุที่ผู้คนใช้คาถาโจมตีแสง และไม่จําเป็นต้องพูดถึงพลังงานมืด ”
เอธานไม่ได้เริ่มฝึกเวทย์มนตร์ ในขณะที่เขาไปที่โลกเสมือนจริงเป็นครั้งแรกเพื่อซื้อยาต้นกําเนิด ที่มีองค์ประกอบของธาตุต่างๆ เนื่องจากตอนนี้เขามีเครดิตค่อนข้างมาก
เขามองไปที่บ้านต้นไม้และสังเกตเห็นว่าอเวเลียกําลังทําอาหารอยู่ตั้งแต่เขาฝึกเสร็จ
แต่เขาก็ยังไปที่โลกเสมือนจริงก่อน เนื่องจากรู้สึกว่าจะใช้เวลาไม่นานในการซื้อยา
หลังจากเข้าไปในร้านยา เขาเริ่มซื้อยาเม็ดจากองค์ประกอบของธาตุต่างๆ
” มันจะเป็นความเจ็บปวดอย่างยิ่งในการเข้าใจเจตจํานงขององค์ประกอบธาตุเหล่านี้ทั้งหมด แต่ฉันจะต้องทํามันให้ได้ และเพื่อให้ฉันบรรลุเป้าหมายได้ แต่สําหรับตอนนี้ ฉันจะเน้นเฉพาะองค์ประกอบธาตุที่ฉันต้องการและเข้าสู่ขั้นของ Sout Altar Plane ให้เร็วที่สุด”
เอธานถอนหายใจหลังจากนั้นและออกจากโลกเสมือนจริงในขณะที่คิดว่า เฮ้อ ฉันคิดถึง เทียน่า 2 เดือนกว่าแล้ว ด้วยความตั้งใจของเขา เขาคิดว่า “ฉันจะไม่ทําอะไรมากนักเพื่อไปถึง ขั้น Sout Altar Plane ให้เร็วที่สุด
แต่เขารู้สึกว่าต้องใช้เวลาสักระยะ เพราะถึงแม้เขาจะมุ่งมั่นอย่างเต็มที่และทํางานหนัก แต่เขาก็ยังต้องใช้เวลาทั้งเดือนเพื่อทําความเข้าใจเจตจํานงจากระดับขั้นสูงถึงระดับมาสเตอร์
หลังจากมาถึงโลกแห่งความเป็นจริง เขาได้กินเม็ดยาต้นกําเนิดของเมฆเข้าไป ในขณะที่วังวนสีดําเริ่มทํางานของเขาในขณะที่เขาทําสมาธิอย่างลึกล้ําเพื่อทําความเข้าใจเจตจํานงต่อไป
แต่หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสียงของอเวเลียก็ดังขึ้น “เอธาน อาหารพร้อมแล้ว”
เอธานขมวดคิ้วในตอนแรก แต่โล่งใจในวินาทีที่เขาลืมตา
เขาลืมเรื่องอาหารไปโดยสิ้นเชิงหลังจากมาถึงที่นี่เพราะเขาโหยหา เทียน่า มานานแล้ว
อเวเลียสังเกตเห็นสีหน้าของเอธานและสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่คล้ายกับที่เธอรู้สึกอยู่บ่อยครั้ง
เธอลังเลเล็กน้อย ถามอย่างประหม่า “นายกําลังคิดถึงใครอยู่หรือเปล่า”
เอธานไม่ได้มองเธอแต่พยักหน้า
“ ภรรยาของนายเหรอ? ”
เมื่อได้ยินเธอ เอธานก็พยักหน้าอีกครั้งและมองที่เธอก่อนจะพูดด้วยสีหน้าที่เคือง ๆ “เธอยังมีชีวิตอยู่และอยู่ใกล้ฉันมาก แต่ฉันไม่สามารถพบเธอได้เว้นแต่ฉันจะไปถึงขั้น Sout Altar Plane”
อเวเลียเผยสีหน้าเศร้าขณะที่เธอพูดด้วยน้ําเสียงแผ่วเบา “ฉันก็คิดถึงใครบางคนเหมือนกัน แม่ของฉัน แต่ฉันจะไม่มีวันได้เจอเธอ”
เอธานไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อคิดว่าแม่ของเธออาจจะเสียชีวิตแล้ว หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า “ฉันขอโทษ”
ตอบกลับเอธาน เธอยิ้ม ซึ่งดูเศร้าเล็กน้อย แต่เธอก็ยังพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันได้รับความรักจากแม่มาทั้งชีวิตแล้ว…ยังไงก็อย่าพูดถึงเรื่องเศร้าแล้วกินข้าวกันเถอะ”
เอธานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มขณะที่เขาเริ่มกินพร้อมกับคิดว่า ฉันสงสัยว่าลุงกับป้าเป็นอย่างไรบ้าง? ฉันแค่หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา “
สําหรับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาและเทียน่าทํากันนั่นเป็นครั้งแรก และมันคือการทดสอบที่เรียกว่าต้องผ่านไปหรืออะไรทํานองนั้น เมื่ออาณาจักรพลังจิตของเขาถูกแปลงเป็นดินแดนลึกลับ
แต่ต่อมา เขาได้เรียนรู้ว่าการทดสอบจิตใจที่เรียกว่าเป็นความไม่สมดุลของความคิดด้านลบและด้านบวก และการทดสอบนั้นสามารถเคลียร์ได้ด้วยยาเม็ดเดียว เช่นเดียวกับที่ เทียน่า เปลี่ยนอาณาจักรพลังจิตของเธอเป็นอาณาจักรลึกลับ ผ่านการทดสอบภายใน 5 นาทีหลังจากนั้น กินยาเม็ด
หลังจากเอธานและอเวเลียกินเสร็จ
ภายในวังวนสีดํา เทียน่า กําลังนั่งขัดสมาธิ ขณะที่พลังงานสีดําและสีแดงล้อมรอบเธอ
มีมีโบกมือของเธอ ขณะที่เธอหยิบน้ําหยดหนึ่งจากสระน้ําสีขาว ซึ่งเคลื่อนไปทาง เทียน่าก่อนที่เธอจะดูดซับมัน
หลังจากที่หยดเข้าไปในตัวเธอ เธอรู้สึกว่าจิตใจของเธอเข้าสู่สภาวะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากความเร็วในการฝึกฝนของเธอเพิ่มขึ้นหลายเท่า และพลังงานสีดําและสีแดงก็รวมตัวกันอ ย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะดูดซับพวกมัน
เมื่อเห็นสิ่งนี้ มีมียิ้มก่อนจะดื่มน้ําหนึ่งคําจากบ่อสีขาวและพูดว่า “น่าเศร้าที่พี่ใหญ่รับมันได้แค่เดือนละ 1 หยดเท่านั้น ถ้าพี่ใหญ่ดื่มได้มากกว่านี้ พี่ก็จะมีพลังที่มากขึ้น”
เทียน่ายิ้มแหยๆ เมื่อได้ยินอย่างนั้นและพูดในขณะที่ตาของเธอยังหลับอยู่ “หนึ่ง หยดก็เกินพอ ฉันรู้สึกเหนื่อยเสมอและไม่สามารถทําอะไรได้หลังจากฝึกฝนในสภาพนี้แล้ว ร่างกายและจิตวิญญาณของฉันไม่สามารถรับการเสริมประสิทธิภาพได้”
ตอนที่ 94: รางวัลการแข่งขันเปลี่ยนไป? ตัวตนที่แท้จริงของผู้อาวุโสริเชน
เอธาน ตระหนักดีว่าคาถาทําให้เสื้อผ้าของเขาฉีกขาด ดังนั้นเขาจึงรีบควบคุมพลัง งานน้ําเพื่อสร้างผ้าพลังงานรอบตัวเขาก่อนที่จะเข้าไปในบ้านต้นไม้
ไม่นานเขาก็ออกมาสวมเสื้อผ้าใหม่
เมื่อเห็นเขาออกมา อเวเลีย ซึ่งกําลังรอเขาอยู่นอกบ้านก็พูดอย่างสุภาพว่า “อืม…ฉันไม่ได้ปลุกนาย ตอนที่การแจ้งเตือนภารกิจมาถึง เพราะฉันคิดว่ามันอาจจะรบกวนนายน่ะ”
เอธานพยักหน้าเบา ๆ และหายตัวไป ทําให้อเวเลียตกตะลึง
เธอมองไปที่พอร์ทัลที่เอธานหายไปและพูดว่า “เกิดอะไรขึ้นกัน”
เอธานตกลงมาจากประตูมิติที่บ้านของผู้อาวุโสริเชน
” เจ้าสัตว์ประหลาดตัวน้อย ช่วยช้าลงหน่อยได้ไหม เข้าใจเจตจํานงในระดับมาสเตอร์ใน 1 เดือน 10 วัน คุณกําลังทําให้ฉันวิตกกังวล แม้อายุของฉันจะมากแล้วก็ตาม”
ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสริเชนจะดุเอธาน แต่เขาดูมีความสุขในขณะที่พูดเรื่องนี้
เอธานหัวเราะอย่างเชื่องช้าและพูดว่า “อ่า ฮ่าฮ่า…ฉัน…ฉันไม่สามารถช้าลงได้เพราะต้องการที่ต้องเอา เทียน่า กลับมา ฉันต้องไปถึงขั้น Sout Altar Plane ให้เร็วที่สุด”
ผู้อาวุโสริเชนหัวเราะออกมาดัง ๆ เมื่อได้ยินอย่างนั้นและพูดว่า “ดี จริงๆแล้ว ฉันหวังว่าคุณจะไม่ช้าจนเกินไป เพราะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกี่ยวกับทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้”
ผู้อาวุโสริเชน เตรียมเก้าอี้ให้ทั้งเอธานและตัวเขาเอง ก่อนจะพูดต่อ “เหล่าผู้เฒ่าผู้แก่ของเทาส์ชัน สปิริต อะคาเดมี่ และ อาคาเดียอะคาเดมี่ ดูเหมือนจะพบอัจฉริยะที่ชั่วร้ายและเสนอให้ สหภาพใหญ่เปลี่ยนรางวัลสําหรับ 10 อันดับแรกในทัวร์นาเมนต์ที่จะมาถึงสําหรับนักเรียนชั้น Origin Plane ”
เมื่อเห็นท่าทางสับสนของเอธาน ผู้อาวุโสริเชนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนคุณไม่ได้ใช้เวลามากในโลกเสมือนจริง เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบันในโลกภายนอก ยังไงก็เถอะ ดีที่คุณไม่เสียเวลา เกี่ยวกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์เช่นนั้น”
เอธานทําได้แค่ยิ้มแหยๆ แล้วถามว่า “แล้วรางวัลที่เปลี่ยนไปคืออะไรครับ”
” ผู้อาวุโสริเชน ดูเหมือนจะมีความสุขเป็นพิเศษเกี่ยวกับสิ่งนี้ เมื่อเห็นการแสดงออกของผู้อาวุโสริเชน เอธานคิด
“ฮ่าฮ่า รางวัลสําหรับ 10 อันดับแรกเปลี่ยนจากทรัพยากรและไอเท็มล้ําค่าเป็นโอกาสในการฝึกฝนที่ ภูมิภาคในตํานาน”
ความอยากรู้ของ เอธานถูกกระตุ้นเมื่อเขาถาม “ผมได้ยินมาว่ามีภูมิภาคในตํานานเพียงภูมิภาคเดียวและลึกลับมาก แต่ผมไม่รู้ว่ามันลึกลับแค่ไหน”
ผู้อาวุโสริเชน มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในขณะที่เขาพูด “ภูมิภาคในตํานานเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับสถานที่ลึกลับ เรามีที่ตั้งหลักของเราในจักรวาลนี้ แต่ก็เล็กมาก เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่น ๆ เนื่องจากเรายังไม่ได้ไขปริศนา เกี่ยวกับภูมิภาคในตํานานเดียวที่เรามี บรรพบุรุษของเรากําลังปกป้องภูมิภาคในตํานานอยู่ เนื่องจากเป็นกุญแจสําคัญในการเติบโตของเรา ”
การแสดงออกของเขาเริ่มแน่วแน่ในขณะที่เขาพูด “ถ้าเราสามารถไขปริศนาเกี่ยวกับภูมิภาคในตํานานและไปถึงสถานที่ที่เรียกว่าสถานที่ลึกลับได้ เราก็จะได้รับพลังมหาศาลเช่นเดียวกับเผ่าพันธุ์อื่น”
เมื่อได้ยินคําพูดของเขา เอธานก็คิดว่า ถ้าเผ่าพันธุ์อื่นแข็งแกร่งขนาดนั้น ทําไมพวกเขาถึงไม่โจมตีเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างเต็มรูปแบบล่ะ? “
เอธานต้องการทราบคําตอบ ดังนั้นเขาจึงถามผู้อาวุโสริเชน เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาส่ายหัว และกล่าวว่า “เพราะมีกฎเกณฑ์ที่สร้างขึ้นโดยกฎของการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ระหว่างพันธมิตรน่ะสิ แน่นอนว่าเราต้องจ่ายราคามหาศาลสําหรับการคุ้มครองนั้น แต่การแทรกซึมและการทะเลาะวิวาทเล็ก ๆ มักเกิดขึ้นกับเผ่าพันธุ์ใกล้เคียงอื่น ๆ “
ผู้อาวุโสริเชนยิ้มและพูดว่า “คุณจะรู้เรื่องนี้ เมื่อคุณได้เข้าถึงขั้นที่เหมาะสม สําหรับตอนนี้ คุณต้องแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะทําได้เพื่อที่คุณจะได้อยู่ใน 3 อันดับแรกของการแข่งขัน นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเรียก คุณให้มาอยู่นี้ คุณสามารถกลับไปโฟกัสที่การฝึกฝนได้ และคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการไปทําภารกิจต่อจากนี้ ดังนั้นจงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการทําให้แข็งแกร่งขึ้น และเราเลี้ยง ดูคุณอย่างเป็นทางการตั้งแต่คุณเข้าใจ เจตจํานงในระดับมาสเตอร์อย่างรวดเร็วแล้ว และคุณจะ ได้รับวิธีการไหลของพลังงานและคาถาที่เกี่ยวข้องกับ เจตจํานงของธาตุ และ เจตจํานงลึกลับ ของคุณในภายหลัง “
เมื่อเขาพูดจบ ผู้อาวุโสริเชน ก็ส่ง เอธานกลับไปที่บ้านต้นไม้ของเขาโดยเปิดประตูใต้เท้าของเขา
หลังจากที่เอธานออกไปจากห้อง จู่ๆ ก็มีคนปรากฏตัวขึ้นในห้อง
เขามีใบหน้าที่สะอาดและหัวโล้นอย่างสมบูรณ์ เขาสวมเสื้อคลุมสีส้มหลวมๆ ที่เรียบๆ ไม่มีลวดลายหรือลวดลายใดๆ
ผู้อาวุโสริเชนยิ้มเมื่อเห็นเขาและพูดว่า ” อะไรทําให้อาจารย์ใหญ่มาที่นี่”
เขานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ใต้เขาและกล่าวด้วยความเคารพว่า “ผู้อาวุโส ดูเหมือนเจ้าจะ เดิมพันทุกอย่างกับเด็กคนนั้นจริงๆ”
แม้จะเป็นอาจารย์ใหญ่ของ มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ แต่เขาก็พูดด้วยความเคารพกับผู้อาวุโสเชน
ผู้อาวุโสริเชนยิ้มและพูดว่า “ฉันเชื่อว่าเขาจะนําการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่สถานการณ์ที่ทําให้พวกเรากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้”
“ ทําไมคุณไม่บอกฉันสิ่งที่คุณเห็นในชะตากรรมของเขา คุณเป็นคนเดียวในบรรพบุรุษมนุษย์ของเราที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น”
คําพูดที่น่าตกใจออกจากปากของอาจารย์ใหญ่ ในขณะที่เขาพูดกับผู้อาวุโสริเชนว่าเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์มนุษย์
ผู้อาวุโสริเชนส่ายหัวและพูดว่า “อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นที่นี่ นี่เป็นเพียงหนึ่งในร่า งแยกของฉัน และตอนนี้ฉันก็เป็นผู้อาวุโสธรรมดาของสถาบันแห่งนี้”
จากนั้นเขาก็มองไปที่อาจารย์ใหญ่และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สําหรับชะตากรรมของเขา สิ่งเดียวที่คุณต้องรู้ว่ามันเป็นโชคของเรา ที่ฉันพบเขาก่อนและเขาจะเปิดโลกใหม่ให้กับเรา”
หลังจากพูดอย่างนั้น ผู้อาวุโสริเชนก็คิดในใจว่า อย่างน้อย นั่นคือสิ่งที่ผมหวังว่าจะได้เห็นที่บ้านต้นไม้
หลังจากที่เอธานถูกส่งกลับมา เขาได้กลิ่นอาหารอร่อย แต่คราวนี้เขาเพิกเฉยและนั่งลงก่อนจะเข้าสู่การทําสมาธิลึก
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงของอเวเลีย ซึ่งเต็มไปด้วยความจริงใจ “เอธาน ฉันเสีย ใจจริงๆ กับสิ่งที่ทําครั้งที่แล้ว และฉันจะไม่ทําอะไรที่ย่ําแย่แบบนั้นอีก ฉันขอบางอย่างจากนายได้ไหม…ปล่อยให้ฉันอยู่ที่นี่และทําภารกิจคู่กับนายได้ไหม”
เอธานลืมตาขึ้นและมองไปที่ อเวเลีย ก่อนที่เขาจะถอนหายใจและพูดว่า “ทําไมเธอถึงหมกมุ่นอยู่กับฉันนัก? นอกจากนี้ ฉันจะไม่เข้าร่วมในภารกิจใด ๆ จากนี้และจะตั้งใจอย่างเต็มที่กับการฝึกฝน”
ใบหน้าของอเวเลียเศร้าลง ขณะที่เธอดูเศร้า แต่เธอพูดหลังจากคิดอะไรบางอย่างว่า “ฉันจะบอกนายเอง ว่าทําไมฉันถึงหมกมุ่นอยู่กับนาย หลังจากที่นายสร้างความประทับใจให้ตัวฉัน ดังนั้นฉันหวังว่านายจะสามารถให้โอกาสฉันได้บ้าง “
เอธานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เอาล่ะ เธอสามารถมากับฉันเพื่อฝึกการต่อสู้ได้”
อเวเลียยิ้มด้วยความปิติ เมื่อได้ยินเอธานแล้วพูดว่า “ขอบคุณมาก โปรดกินอาหารที่ฉันปรุงด้วยความจริงใจ เพราะฉันไม่มีแผนจะใช้วิธีการที่ไม่รอบคอบอีกต่อไป”
เมื่อได้ยินเธอ เอธานลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ในที่สุดก็พยักหน้าและเริ่มกินก่อนจะคิดว่า ยังไงก็ไม่สําเร็จอยู่แล้ว แม้ว่าจะพยายามแล้วก็ตาม
อเวเลียยิ้มเมื่อเห็นว่าเธอนั่งลงและเริ่มทานอาหารด้วย
ระหว่างทานอาหาร เอธานก็พูดว่า “ดูเหมือนอาหารจะไม่หายไปในครั้งนี้
ได้ยินเขาพูดแล้ว อเวเลียพูดพลางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจว่า “นั่นสิ จริงๆ แล้วอาหารจะหายไปทุกครั้งที่เข้าใกล้นาย ขณะที่นายนั่งสมาธิ จานอาหารก็เข้ามาใกล้นายและหายไป และมันเกิดขึ้นทุกครั้งที่ฉันทําอาหาร ฉันก็เลยเริ่มทําอาหารมากขึ้น”
เอธานเกือบสําลักอาหาร เมื่อได้ยินอย่างนั้นและเริ่มไอ
ตอนที่ 93: เจตจํานงระดับมาสเตอร์ ร่างกายที่แข็งแกร่ง
หลังจากเข้าใจดจตจํานงของความเร็ว เป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง ในที่สุดเขาก็มาถึงระดับกลาง
เขามองไปที่คุณลักษณะของเขา และพวกเขาเติบโตขึ้นมากเนื่องจากการกลั่นที่ทําโดยคริสตัลทุกครั้งที่เขาเข้าใจเจตจํานงของธาตุใหม่หรือไปถึงระดับที่สูงขึ้นในเจตจํานงเหล่านั้น
<สถิติ>
ความแข็งแกร่ง: 200
ร่างกาย: 200
จิตใจ: 145
<-เจตจํานงของธาตุ->
ระดับเริ่มต้น: [ น้ําแข็ง เงา ]
ระดับกลาง: [ ดิน, ไม้, อากาศ, ความมืด, แสง, อวกาศ, เลือด ]
ระดับขั้นสูง: [ ไฟ น้ํา สายฟ้า ]
<-เจตจํานงลึกลับ->
ระดับเริ่มต้น [~]
ระดับกลาง [ ความเร็ว ]
ระดับสูง [ ขับไล่ ดึงดูด แรงโน้มถ่วง ]
‘ฉันต้องการมุ่งเน้นไปที่การควบคุมเจตจํานงที่จําเป็นในการสร้างแนวคิด ลูกแก้วทําลายล้างนับจากนี้เป็นต้นไป มาดูกัน…’
[ แนวคิดของ ลูกแก้วทําลายล้าง] – แรงค์ S
เจตจํานงธาตุ: เจตจํานงไฟ, เจตจํานงน้ํา, เจตจํานงสายฟ้า, เจตจํานงอากาศ, เจตจํานงมืด
เจตจํานงลึกลับ: เจตจํานงการสั่นสะเทือน, เจตจํานงขับไล่, เจตจํานงดึงดูด, เจตจํานงความ เร็ว, เจตจํานงแรงโน้มถ่วง
‘หลังจากที่เชี่ยวชาญเจตจํานงทั้งหมดแล้ว ฉันจึงจะมีคุณสมบัติในการรับข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดนี้ อีกวิธีในการได้มา ซึ่งข้อมูลนั้นคือการเข้าร่วมการบรรยายหลังจากนี้ 4 เดือน จากนี้ไปโดยศาสตราจารย์ลอม’
‘หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอธาน ก็ตัดสินใจทําการทดสอบความสามารถปัจจุบันให้เสร็จ’
“ฉันจะไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะค้นพบความเร็วที่รวดเร็วของฉัน เนื่องจากผู้อาวุโสริเชน ดังนั้นฉันสามารถพยายามเข้าใจเจตจํานงไฟได้…โดยไม่ต้องรอท่าน แต่ตอนนี้ฉันจะต้องเข้าใจเจตจํานงน้ํา ถึงระดับมาสเตอร์ ก่อน”
วันรุ่งขึ้น อเวเลีย เห็นว่า เอธาน ยังคงอยู่ที่เดิมเหมือนเมื่อวาน ดูเหมือนกําลังนั่งสมาธิอยู่
“ฉันควรบอกเขาไหมว่าทําไมฉันถึงตามเขาและเป้าหมายของฉัน…” อเวเลียพึมพําขณะครุ่นคิด
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอส่ายหัวและคิดว่า ‘ฉันไม่สามารถบอกอะไรเขาได้ในตอนนี้ เพราะ เขาอาจไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด เพราะการกระทําที่หุนหันพลันแล่นของฉันเมื่อวานนี้’ อเวเลียถอนหายใจเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
” ครั้งนี้ ฉันจะค่อยๆ สร้างความประทับใจให้เขา ก่อนที่จะพูดถึงเหตุผลที่ฉันจะแต่งงานกับเขาและ…เป้าหมายของฉัน” หลังจากพูดพึมพําแล้ว อเวเลีย ก็นั่งลงและเริ่มฝึก
ผ่านไป 2 วัน อเวเลีย ตื่นขึ้นเพื่อเติมความสดชื่นและกินอะไรซักอย่าง แต่เห็นว่า เอธาน ยังอยู่ในการทําสมาธิ
‘เขาอาจจะตื่นขึ้นหลังจากได้กลิ่นอาหารอร่อยๆ แต่ฉันต้องซื้อส่วนผสมจากโลกเสมือนก่อน’
จากนั้นเธอก็เข้าสู่ โลกเสมือน เพื่อซื้อส่วนผสมจากตลาดสาธารณะ
ผู้คนขายของทั่วไปเช่นส่วนผสมเพื่อรับคริสตัลต้นกําเนิด ในตลาดสาธารณะเพราะเครดิตมีความสําคัญเกินกว่าที่จะซื้อของเช่นส่วนผสม อย่างไรก็ตาม ของบางอย่างเช่นเครื่องปรุงรสอร่อยที่ ผสมกับเครื่องเทศหลายชนิดนั้น บางครั้งก็ขายเป็นเครดิตที่หาได้ยาก
ผ่านไป 1 ชั่วโมง เธอไปซื้อของและเริ่มทําอาหาร แต่จริงๆ แล้ว เอธาน ไม่ตื่นแม้จะได้กลิ่นอาหารแล้ว
” ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในโหมดการฝึกที่เข้มข้น ”
แต่ในขณะที่เธอกําลังจะเริ่มกิน จู่ๆ จานก็บินไปหาเอธานก่อนจะหายตัวไป
โชคดีที่มีอาหารจานเดียวสําหรับเธอ
” โชคดีจริงๆ ” อเวเลียสบถ เมื่อเห็นเพียงจานเดียวที่อยู่ข้างหน้าเธอ
เธอกระทืบเท้าห่างเหินจากเอธานและเริ่มกินก่อนที่จะฝึกต่อไป
“ พี่ใหญ่ อาหารนี่น่าติดตามจริงๆ ฉันควรจับพี่ใหญ่คนนั้นมาทําอาหารให้เราไหม แม้ว่ามันจะ ทําให้มีมีเจ็บและอ่อนแอมาก ถ้าทําอย่างนั้น แต่ก็คุ้มค่าที่จะกินอาหารอร่อย ๆ แบบนี้ทุกวัน ”
เทียน่า กลอกตาเมื่อได้ยิน แต่จู่ๆ เธอก็ถามขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อน ถ้าเธอพา อเวเลีย มาที่นี่ได้ทําไม เอธาน จะมาที่นี่ไม่ได้”
มีมี่มองดูเธอขณะรับประทานอาหาร และพูดหลังจากกินสิ่งที่อยู่ในปากเสร็จแล้ว “ อืม…เป็นเพราะพี่ชายผู้พิทักษ์อยู่ที่นี่แล้ว” เมื่อพูดอย่างนั้น เธอชี้ไปที่วิญญาณยักษ์ 50 เมตรของเอธานที่ อยู่เหนือพวกเขา
” พี่ชายผู้พิทักษ์ต้องไปถึงขั้น Sout Altar Plane เพื่อเชื่อมโยงจิตสํานึกของเขากับจิตวิญญาณที่เข้มแข็งของเขาอย่างสมบูรณ์ “
เทียน่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เข้าใจแล้ว..”
“แต่มีมี่ เธอพาเอเวเลียมาที่นี่ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเอธานจะต้องเจอปัญหามากกว่านี้ และเราจะไม่สร้างปัญหาให้เขาอีกแล้ว”
หลังจากพูดแบบนี้ เทียน่าก็ยิ้มและพูดต่อ “แต่เธอสามารถนําอาหารมาที่นี่ต่อไปได้ ถ้า อเวเลียทําอาหารในอนาคต”
มีมี่พยักหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยรอยยิ้มหวาน “แน่นอน”
“เป็นเดือนแล้วที่เขาไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยจากตําแหน่งนั้น ทําไมเขาถึงได้ซึมซับมันได้ขนาดเลยแม้แตน้อย
เธอมองไปที่ Digiband ของเธอและคิดว่า ‘การแจ้งเตือนภารกิจจะมาถึงภายในเวลาไม่ถึงชั่ว โมง ฉันควรปลุกเขาไหมถ้าเขาไม่ตื่นเอง?’
1 ชั่วโมงผ่านไปในไม่ช้า และการแจ้งเตือนของภารกิจก็ปรากฏขึ้น
[ สํารวจซากปรักหักพัง ]
รางวัล: ขึ้นอยู่กับการค้นพบ 10-200 เครดิต
ระยะเวลา: 2 วัน
อเวเลีย มองไปที่ เอธาน หลังจากได้รับแจ้งเกี่ยวกับภารกิจ แต่เขาก็ยังไม่ตื่น
เธอดิ้นรนกับการตัดสินใจ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจไม่ปลุกเขา ‘ถ้าเขาอยู่ในจุดเชื่อมต่อที่สําคัญ ในความเข้าใจของเขาและฉันปลุกเขา มันก็จะไม่ดีสําหรับเขาและ…สําหรับฉันด้วย’
จากนั้นเธอก็ส่ายหัวหลังจากตัดสินใจว่าจะไม่ปลุกเอธานและยอมรับภารกิจขณะที่เธอหายตัวไปจากที่ของเธอ
หลังจากผ่านไป 2 วัน อเวเลีย ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งด้วยอารมณ์ดีขณะที่เธอยิ้ม แต่เสื้อผ้าของเธอได้รับความเสียหายเล็กน้อย เธอจึงเข้าไปในบ้านเพื่อเปลี่ยนชุด
” ใช่!! ฉันทําได้ยอดเยี่ยมและได้รับเครดิตพิเศษ 100 เครดิต ตอนนี้ฉันจะเน้นไปที่การทําความเข้าใจ เจตจํานงอวกาศขั้นสูง “
อเวเลียอารมณ์ดีเพราะเธอทําได้ดีในภารกิจนี้
จากนั้นเธอก็มองไปที่เอธานและเห็นว่าเขายังคงนั่งสมาธิอยู่
“ฉันจะเริ่มฝึกหลังจากทําอาหารด้วย”
หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง อเวเลีย ก็พร้อมสําหรับอาหารของเธอ และเธอก็ปรุงอาหารจานพิเศษเพราะเธอรู้ว่าแม้ว่าเธอจะอยู่ห่างจาก เอธาน ให้ห่างไกล อาหารของเธอก็บินตรงไปยัง เอธาน ก่อนที่จะหายตัวไป
ในเดือนนี้ทุกครั้งที่เธอทําอาหาร อาหารจะหายไปหลังจากบินไปหาเอธาน เธอจึงชินกับมัน
“ แม้ว่า มีมี่ จะต้องใช้ความพยายามบางอย่างเพื่อนําอาหารจากระยะไกล แต่ก็คุ้มค่าที่จะใช้พลังงานถ้าเราสามารถกินสิ่งนี้ได้”
เทียน่าพยักหน้าก่อนจะถามว่า “แต่ถ้ามันอยู่ไกลเกินไป เธอก็พามาที่นี่ไม่ได้เหรอ?”
มีมี่พยักหน้าด้วยดวงตาโตและพูดอย่างกังวลว่า “ใช่ ถ้ามันอยู่ห่างจากเอธานมากกว่า 100 เมตร มีมี่ก็เอาอาหารมาที่นี่ไม่ได้ ฉันหวังว่าพี่สาวคนโตของอเวเลียจะไม่ไปไกลขนาดนั้นเพื่อกินสักวันหนึ่ง”
เทียน่ายิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ในเดือนที่ผ่านมาเธอทําอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนรู้ว่าอาหารจะหมดไป ดังนั้นตอนนี้เธอก็ชินแล้ว เราไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีอาหาร ”
“ จริง แม้ว่าฉันจะรู้สึกแย่กับพี่ผู้พิทักษ์เพราะเขาไม่ได้กินอาหารอร่อย ๆ เช่นนี้”
10 วันผ่านไปแบบนี้ แต่วันนี้ มีบางอย่างเกิดขึ้นรอบๆ เอธาน
เส้นสีน้ําเงินเหมือนน้ําล้อมรอบเอธาน
อเวเลียที่เห็นฉากนั้นตกใจเมื่อเธอพึมพําว่า ”นั่นสินะ…นั่นเป็นปรากฏการณ์ที่ปรากฏขึ้นแน่นอนหลังจากที่คนๆ หนึ่งไปถึงระดับมาสเตอร์ของเจตจํานง แต่เป็นไปได้อย่างไร แม้แต่อัจฉริยะ ทั่วไปก็ใช้เวลา 2-3 อาทิตย์ปีและระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปีที่สั้นที่สุดในการเปลี่ยนเจตจํานงจากระดับขั้นสูงเป็นระดับมาสเตอร์ “
หลังจากนั้นไม่นาน พลังน้ําและเส้นขอบสีน้ําเงินรอบๆ เอธานก็หายไปในขณะที่เขาลืมตาขึ้นช้าๆ
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และไม่ลุกขึ้นยืน แต่เพียงนั่งอยู่ที่นั่นและรู้สึกถึงสิ่งที่เรียกว่ากําแพงความคิด
ผลึกน้ําภายในทะเลพลังงานของเขาก็กลายเป็นของเหลวก่อนที่มันจะเข้าสู่ร่างกายของเขาและเริ่มกระบวนการปรับแต่ง
หลังจากนั้นไม่นาน เอธาน ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ในขณะที่เขารู้สึกว่าร่างกายของเขามีแรงเพิ่มขึ้นอย่างมาก คริสตัลน้ําก็กลับสู่อาณาจักรพลังงานของเขาก่อนที่จะดูดซับพลังงานน้ําจากชั้นบรรยากาศ
‘อืม…ฉันต้องใช้เวลา 1 เดือนกับ 10 วันในการไปถึงระดับมาสเตอร์ด้วยเจตจํานงทางน้ํา และช่วงเวลาอาจเลื่อนออกไปขึ้นอยู่กับความตั้งใจต่างๆ ที่ฉันจะเข้าใจมันได้ ’
<สถิติ>
ความแข็งแกร่ง: 240
ร่างกาย: 240
จิตใจ: 145
” ฉันรู้สึกเหมือนร่างกายได้รับแรงต้านจากพลังน้ํามากขึ้นด้วย” เอธานพึมพํา
จากนั้นเขาก็มองไปที่อเวเลียและถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “เธอมีความสัมพันธ์ทางน้ําหรือไม่”
อเวเลียประหลาดใจที่เอธานเป็นคนพูดก่อนในการสนทนากับเธอครั้งนี้ จากนั้นเธอก็พยักหน้าและพูดว่า “ใช่ ฉันมี แต่เจตจํานงน้ําของฉันอยู่ที่ระดับเริ่มต้นเท่านั้น”
” ใช้คาถาพลังน้ําที่ทรงพลังที่สุดและโจมตีฉัน“ เมื่อพูดจบ เอธาน ก็บินออกจากต้นไม้และลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
อเวเลียลังเลเล็กน้อยก่อนจะบินออกไปและลอยอยู่ต่อหน้าเอธาน
เอธาน พยักหน้าให้เธอและพูดว่า “เริ่มเถอะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อเวเลียก็ไม่ลังเลใจอีกต่อไปและร่ายเวทย์มนต์แห่งน้ํา
“ระเบิดน้ําสีน้ําเงิน”
อเวเลียสร้างลูกโลกน้ําขนาดยักษ์ ซึ่งมีเส้นขอบสีน้ําเงินและน้ําหนาแน่น ซึ่งดูเกือบมืดเนื่องจากแรงดันบริสุทธิ์ที่มีอยู่ และลูกนั้นไหลเป็นวงกลมเหมือนลูกโลก
” อืม..ระวังให้ดี คาถาไหลของพลังงานนี้อัดแน่นจริงๆ ”
เอธาน อดยิ้มไม่ได้ในขณะที่เขาคิดว่า ‘พลังงานต้นกําเนิดของน้ําที่เพิ่มโดยเจตจํานงของน้ําขั้นเริ่มต้น อาจไม่ทําให้ฉันเป็นรอยได้’
จากนั้นเขาก็พูดว่า “อย่ากังวลและโยนมันมาหาฉัน”
ในที่สุดอเวเลียก็ปล่อยมนต์สะกดขณะที่ลูกโลกน้ําขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาเอธานด้วยความเร็วที่ไม่เร็วมาก
แต่เอธานไม่หลบหลีกและปล่อยให้ตัวเองโดนโจมตี
*แสปลชชช…ครื้มมมม*
หลังจากโจมตีเอธาน ลูกโลกน้ําก็ระเบิด และน้ําที่หนาแน่นภายในกระทบเอธานรา วกับรถบรรทุกเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเสียง
แต่เอธานยืนนิ่ง ไม่มีอะไรแม้แต่รอยขีดข่วนปรากฏขึ้นมาที่เขา
ปากของ อเวเลีย กลายเป็นรูป :’ O (โอ)’ เมื่อเห็นว่า เอธาน ไม่ได้รับความเสียหายเลยจาก คาถา แต่ไม่นานหลังจากนั้น ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
ตอนที่ 92. ขึ้นและลง
ภายในวังวนสีดํา…
เทียน่า กําลังฝึกขณะหลับตาอยู่ พลางมี มีมี่ ที่เพิ่งตื่นขึ้นก็โบกมือเพื่อสร้างหน้าจอเมฆเพื่อดูสถานการณ์ภายนอก
หลังจากดูอยู่ครู่หนึ่ง มีมี่ ก็เบิกตากว้าง ขณะที่เธอตะโกนไปทาง เทียน่า “พี่ใหญ่ ดูสิ พี่สาวที่ เชื่ออเวเลีย ปรากฏตัวที่บ้านต้นไม้ของพี่น่ะ”
เทียน่า ลืมตาและเดินไปที่หน้าจอเมฆด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น
เอธาน ที่เพิ่งได้ยินเกี่ยวกับคําพูดของ อเวเลีย พูดไม่ออก
เขามองดูชุดที่เธอสวมและขมวดคิ้วก่อนจะพูดว่า “กลอุบายยั่วยวนเหล่านี้ใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอกนะ”
อเวเลียแค่ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้หลอกนายนะ ฉันแค่แสดงเสน่ห์ของฉันให้นายดู” จากนั้น เธอก็มองไปรอบๆ ก่อนจะพูดว่า “อ้อ นายบอกว่านายมีเมีย แต่ฉันมาอยู่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” และ ฉันยังไม่ได้เห็นเธอเลย ”
เอธาน ส่ายหัวและเพิกเฉยต่อเธอก่อนที่จะจดจ่อที่ปีก
ด้วยความคิด ปีกปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา และด้วยความคิดอื่น ปีกก็เปิดใช้งานเมื่อพลังงานอากาศ อวกาศ และสายฟ้าเริ่มระบายออก
*ส๊วยๆๆๆ*
ด้วยปีกข้างหนึ่ง เอธาน บินขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความเร็วที่เร็วมาก และอีกปีกหนึ่ง เขาก็ได้ เร่งไปข้างหน้า
อเวเลียที่ถูกเมินเฉย ขณะที่เธอพึมพําอะไรบางอย่าง ก่อนที่เธอจะยิ้มและเดินเข้าไปในบ้านในทันใด
หลังจากเข้าไปในบ้าน เธอเข้าไปในครัวและเริ่มนําส่วนผสมในการทําอาหารและสิ่งของต่างๆ ออกจากพื้นที่จัดเก็บของเธอ
เอธาน กลับมาพร้อมรอยยิ้มกว้างหลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมงในขณะที่เขาคิดว่า ‘ ปีกเหล่านี้ยอดเยี่ยมมาก ฉันสามารถใช้ขั้นตอนการระเบิดได้ดีขึ้นในขณะบิน ฉันคิดว่าความสามารถในการกายกรรมและการหลบหลีกของฉันเพิ่มขึ้นหลายระดับหลังจากได้รับปีกเหล่านี้ แต่การใช้พลังงานของมันก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน’
ขณะคิดถึงปีก เอธานก็ลงจอดบนกิ่งไม้ที่มีบ้านต้นไม้ของเขาอยู่และได้กลิ่นอันหอมหวลออกมาจากห้องครัว
” ให้ตายเถอะ กลิ่นหอมมาก ” ปากของเอธานเริ่มที่จะเติมน้ําแล้วเพียงแค่กลิ่นหอมของอาหารเท่านั้น
แต่เขายึดตัวเองไว้อย่างมากและคืนบีกฝันร้ายสีน้ําเงินของเขากลับคืนสู่อาณาจักรลึกลับ
หลังจากนั้น เขาก็นั่งไขว่ห้างและเริ่มฝึกหลังจากหลับตา
เนื่องจากเขายังคงดมกลิ่นหลังจากผ่านไป 2 นาที เขาจึงคิดว่า ‘ออกจากจมูกของฉันไปให้หมด…ฉันจะปิดกั้นจมูกของฉันเอง’
แต่ก่อนหน้านั้น เขารู้สึกว่ากลิ่นหอมแรงขึ้นทันทีเมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้า
เขาพยายามตั้งสมาธิแต่ด้วยความอยากรู้ ในที่สุดเขาก็ลืมตาขึ้นหลังจากผ่านไป 1 นาที และ สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเขาคือทิวทัศน์อันงดงามของจานที่ดูดีและร่างที่เซ็กซี่ของอเวเลีย ในผ้ากันเปื้อนพร้อมรอยแยกหน้าอกของเธอในมุมมองแบบเต็ม
เอธานกลืนน้ําลายอึกอักเมื่อเห็นและได้กลิ่นอาหารอันเอร็ดอร่อย
แม้แต่ เทียน่า และ มีมี่ ก็กลืนน้ําลายเมื่อเห็นอาหารหน้าตาน่าอร่อย
“ มีมี่ไม่ได้กินอาหารดีๆ มานานแล้ว” มีมีพูดด้วยน้ําเสียงเศร้าๆ ขณะที่น้ําลายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ
เทียน่าพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “ฉันเข้าใจความรู้สึกของเอธานเมื่อมองดูจานเหล่านั้น มันต้องอร่อยมากแน่ๆ”
ดูเหมือนมีมจะดิ้นรนเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง ในขณะที่การแสดงออกของเธอดูขัดแย้งกันเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที การแสดงออกที่แน่วแน่ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอขณะที่เธอ โบกมือทันทีและวังวนสีดําขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นข้างหน้าจอเมฆ
ข้างนอก เอธาน และ อเวเลีย มองอย่างตะลึงงันขณะที่จานเริ่มบินไปหา เอธาน ที่ละรายการก่อนที่จะหายไป
อเวเลียมองดูเอธานและพูดด้วยความตกใจว่า “เกิดอะไรขึ้น ทําไมอาหารถึงลอยเข้าไปหานาย และก่อนที่จะโดนตัวนาย อาหารก็หายไป ฉันทํางานไม่หยุดเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเพื่อสร้างสรรค์อาหารเหล่านี้”
เอธาน ก็ตกตะลึงกับการพัฒนานี้เช่นกัน เพราะเขาไม่รู้จริงๆ ว่าทําไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
แต่เขายังคงทําหน้าขอโทษและพูดกับอเวเลียว่า “ขอโทษด้วย แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
เธอทําอาหารนี้แล้วและตอนนี้มันหายไปเพราะเขาเลยทําให้เขาต้องขอโทษ
อเวเลียเช็ดใบหน้าที่ตกใจของเธอออกขณะที่เธอยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันจะทําอาหารเพิ่ม ฉันยังมีส่วนผสมพอที่จะทําอาหาร 4-5 จาน”
เมื่อพูดเช่นนี้ เธอไม่ต้องการให้เอธานพูดอะไรขณะรีบไปที่ห้องครัวและเริ่มทําอาหารอีกครั้ง
เอธานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าว่า ‘ถ้าครั้งนี้อาหารไม่หายไป ฉันจะกินกับเธอ ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น’
จากนั้นเขาก็หลับตาและเริ่มฝึก
ในขณะเดียวกัน เทียน่า ก็ตกตะลึงในวังวนสีดํา
อาหารที่เธอเห็นบนหน้าจอกระป๋องก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ
มีมี่ ผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ ยิ้มหวานให้เทียน่าและพูดว่า ”พี่ใหญ่ ไปกินข้าวกันเถอะ อาหารดูน่าอร่อยจริงๆ”
เทียน่า หลุดจากความงุนงงของเธอ ขณะที่เธอพยักหน้าและนั่งลงที่หน้าจานอย่างเงียบ ๆ ก่อนเริ่มกิน
มีมี่คว้าไม้เสียบปลาเสียบไม้แล้วกัดเข้าไปเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาของเธอจะฉายแวววับพร้อมกับพูดว่า “อร่อยมากเลยพี่สาว”
ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง อเวเลีย ก็มาที่ เอธาน พร้อมจานพร้อมรอยยิ้ม
“ กินข้าวกัน อย่าปฏิเสธ ฉันจะทําอาหารทุกวัน ถือซะว่าเป็นค่าตอบแทนสําหรับการมาพักที่”
เอธานพยักหน้าและยิ้มอย่างแผ่วเบาก่อนจะพูดว่า “ก็ได้ แต่อย่าพูดถึงเรื่องแต่งงานกับฉันหรืออะไรต่อจากนี้ไป”
เธอยังนั่งลงหลังจากจัดจานและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอน เราจะพัฒนาความรักและความไว้วางใจก่อน”
เอธานเกือบทําแท่งบาร์บีคิวหล่นจากมือ เมื่อได้ยินเธอ แต่เขาถอนหายใจภายในและคิดว่า ‘ช่างเถอะ เรามาโฟกัสที่อาหารกันก่อนดีกว่า’
ภายในวังวนสีดํา ใบหน้าของ เทียน่า เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงและรู้สึกร้อนไปทั้งตัว
‘นี่…ดูเหมือนว่าอาหารจะผสมยาชูกําลัง’
แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็รู้สึกเย็นไปทั้งตัวเมื่อผลของยาชูกําลังเริ่มจางลง
เธอมองมีมื่อย่างกังวล แต่เห็นว่าเธอสบายดีและถอนหายใจ
แต่เธอกลับกังวลอีกครั้งเมื่อมองไปที่ม่านเมฆที่เอธานและอเวเลียกําลังทานอาหารอยู่
เอธาน รู้สึกร้อนและเริ่มแข็งขึ้นครู่หนึ่ง แต่เขาเย็นลงเร็วกว่า เทียน่า
เขามองไปที่ดินแดนลึกลับและเห็นว่าพลังงานคริสตัลสีขาวหายไปเล็กน้อย
‘มันเกิดอะไรขึ้น? ทันใดนั้นฉันรู้สึกถูกกระตุ้น แต่ความรู้สึกนั้นก็หายไปในไม่กี่วินาที’
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหายใจหอบหนักและมองไปที่อเวเลียก่อนที่จะตกตะลึงเมื่อในที่สุดเขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
” เธอบ้าหรือเปล่าเนี่ย? ”
*คล๊กกั๊ก*
ขาของอเวเลียเหวี่ยงจานทิ้งไปเมื่อเธอรู้สึกร้อนระอุ
ใบหน้าของเธอแดงก่ํา ในขณะที่เธอหายใจแรงและพูดแทบไม่ทัน “ฉัน..ฉันไม่ได้บ้า ไม่เดี๋ยว…ฉันบ้า ใช่..ฉันคลั่งไคล้นายเหลือเกิน”
ทันใดนั้นเธอก็ฉีกชุดของเธอออกเป็นชิ้นๆ และเริ่มลูบไล้ด้วยหน้าอกสีขาวขนาดใหญ่ที่มีหัวนมสีชมพูตั้งตรงอยู่แล้ว
มืออีกข้างของเธอเดินไปที่บริเวณใต้ของเธอ และเริ่มเอานิ้วชี้ตัวเองลงไปที่นั่น
เธอมองไปยังเอธานและยิ้มด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวก่อนจะพูดว่า “นาย..ยาชูกําลังนี้ไม่ธรรมดา นายต้องช่วยฉันด้วย ไม่งั้น…อ๊าาาก” เธอมองที่เอธานและยิ้มด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวก่อนจะพูดว่า “นาย…ยาชูกําลังนี้ไม่ธรรมดา นายต้องช่วยฉันด้วย ไม่งั้น…อ๊าาาก”
อื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม”
เทียน่า และ มีมี่ ตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอก ขณะที่ มีมี่ ถามด้วยท่าทางสับสนแต่ก็สงสัยด้วยว่า ”เกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวคนโตคนนั้น”
จู่ๆ เทียน่าก็รีบไปยืนที่หน้าจอเพื่อไม่ให้มีมี่มองเห็นอีกต่อไปแล้วพูดว่า “มีมี่ เธออย่าได้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างนอกนี้ เธอยังตัวเล็กเกินไปสําหรับเรื่องนั้น”
มีมี่ทําหน้าทิ้งแล้วพูดว่า “มีไม่เล็ก มีมีอายุ 12 ขวบแล้ว”
เทียน่า กําลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอได้ยินเสียงที่ไม่แยแสของ เอธาน และรู้สึกประหลาดใจก่อนจะหันไปมองที่หน้าจอเมฆ
เอธานลุกขึ้นยืนก่อนจะก้าวทีละก้าวไปทางอเวเลียที่รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากซึ่งดูเหมือนจะเจ็บปวดเช่นกัน
เขามาถึงตรงหน้าเธอแล้วจับหน้าอกซ้ายของเธอก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าพยายามใช้กลอุบายเหล่านี้ต่อหน้าฉันอีกเลย เธออยากสร้างความไว้วางใจและค่อยๆ รักเหรอ เธอล้มเหลวในวันแรกของเธอแล้ว”
เมื่อพูดเช่นนี้ เขาก็ฉีดพลังงานคริสตัลสีขาวในตัวเธอเพื่อชําระยาชูกําลังที่เป็นพิษออกจากร่างกายของเธอ
อเวเลียที่รู้สึกทั้งเจ็บปวดและตื่นตัวรู้สึกเย็นไปทั้งตัว เมื่อผลทั้งหมดของยาชูกําลังหายไป
จากนั้นเอธานก็เดินไปที่อื่นบนกิ่งไม้ใหญ่ก่อนจะนั่งไขว่ห้างและเริ่มฝึกหลังจากหลับตา
อเวเลียกัดริมฝีปากของเธอขณะที่น้ําตาเริ่มไหลในดวงตาของเธอ แต่เธอกลั่นเอาไว้และหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาก่อนจะสวมมัน
จากนั้นเธอก็มองไปทางเอธานด้วยสีหน้าและความคิดที่ซับซ้อนว่า เอธาน จากนี้ไป ฉันสาบานว่าฉันจะยอมให้นายตกหลุมรักฉันอย่างยุติธรรมและหน้าด้าน…เพราะมีเพียงนายเท่านั้น ฉันสามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิตของฉันได้ ซึ่งก็คือเหตุผลที่ฉันยังมีชีวิตอยู่
ตอนที่ 91: รางวัลเพิ่มเติมและนี่มันบ้าอะไร ?
[เนื่องจากคุณทําภารกิจสุดท้ายเสร็จแล้ว คุณจะถูกส่งออกจากโลกเสมือนจริง ]
[การเข้าถึงพื้นที่นี้ของคุณจะถูกตัดออก ]
[ รางวัลสุดท้ายจะถูกส่งไปยังผู้เข้าร่วมหลังจากผลสุดท้ายออกมาใน 2 วัน ]
[0:59 ]
หลังจากนั้นมีการนับถอยหลังปรากฏขึ้นซึ่งระบุว่าพวกเขาจะถูกส่งออกไปเมื่อกด 0
เอธาน หลับตาลงขณะที่รอการนับถอยหลังเข้าสู่ 0
อเวเลียมีสีหน้าผิดหวังเพราะเธอรู้สึกว่าเธอทําได้ไม่ดีเท่าที่เธอคาดหวังจากตัวเธอเองข้อเอง
‘ฉันเดาว่าเขาคงไม่ประทับใจฉันขนาดนั้น’
อันที่จริง เอธาน รู้สึกประทับใจกับการแสดงของเธอ เมื่อเธอใช้เวทมนตร์ที่มีประโยชน์เหล่านั้น
เธอกัดริมฝีปากและมองเอธานขณะคิดว่า ‘แต่เขาเป็นคนเดียว…’
อเวเลียนึกอะไรบางอย่างได้ขณะคิด และพูดกับเอธานด้วยแววตาประหม่าเล็กน้อยว่า “ เอธาน นายยังไม่ตอบฉันเลย”
เอธานลืมตาขึ้นและถามอย่างชัดถ้อยชัดคําว่า “ฉันไม่ได้ตอบอะไรเธอ”
จากนั้นเธอก็มองดูเอธานอย่างแข็งกร้าวราวกับต้องการกดดันเขาและพูดโดยไม่ลังเลว่า “จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าภรรยาของนายบอกนายว่าเธอโอเคที่จะให้นายมีภรรยาเพิ่ม”
เมื่อได้ยินเธอ เอธานก็ส่ายหัว
“ต้องมีความรักและความไว้วางใจระหว่างเราด้วย แม้ว่าเธอจะสวยและทุกคนก็สวย ฉันแต่งงานกับเธอไม่ได้เพียงเพราะ เทียน่า ไม่สนใจเรื่องนั้นหรอกนะ” จากนั้นเขาก็หลับตาก่อนจะพูดต่อ” เทียน่า เต็มใจที่จะเสี่ยงชีวิตของเธอ ชีวิตของเธอจะมีค่าเพียงเพราะเธอไม่ต้องการเป็นภาระแก่ฉันไม่ได้ และเมื่อเธอพยายามจะบรรลุพลังนั้น เธอคงจะตายจริงๆ ถ้าเธอไม่ได้พบฉันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหน้านั้น”
จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนก่อนที่จะคิดว่า ‘ฉันรู้ว่าผู้หญิงนั้นสร้างปัญหาได้ เพราะฉันมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนแรกฉันรู้สึกสับสนไปหมดและเข้าหา เทียน่า เพียงเพราะฉันต้องการระบายอารมณ์ แต่สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นในภายหลัง ซึ่งทําให้ เทียน่า เป็นบุคคลสําคัญสําหรับฉัน ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเธอจะไม่ทรยศฉัน แล้วอเวเลียล่ะ? ใครจะขอแต่งงานแบบนี้ เทียน่าสารภาพกับฉัน และวันรุ่งขึ้น เธอเกือบตายเพื่ออยู่เคียงข้างฉัน แต่ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอเวเลียเลย ระยะที่ฉันอยู่นั้นสูงกว่าเมื่อก่อน ที่นี่คนนับไม่ถ้วนแข็งแกร่งกว่าฉัน ดังนั้น ถ้าฉัน ไม่เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ฉันจะถูกรุมจนเละได้ ’
อเวเลียสูญเสียความรู้สึกบนใบหน้าของเธอหลังจากได้ยินสิ่งที่ เอธาน พูด แต่หลังจากนั้นครู หนึ่ง ท่าทางที่ดื้อรั้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอขณะที่เธอดูการนับถอยหลัง
[0:05 ]
[0:04 ]
[0:03 ]
จากนั้นเธอก็มองไปที่เอธานและประกาศด้วยน้ําเสียงที่แน่วแน่ “รอก่อน ฉันจะไม่ยอมแพ้…ฉันจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน”
[0: 00 ]
ทั้งคู่หายตัวไปจากที่นั่น ขณะที่พวกเขาปรากฏตัวในสถานที่ของตนในโลกแห่งความเป็นจริง
เอธาน ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านของผู้อาวุโสริเชน แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น ดังนั้นเขาจึงหลับตาลงก่อนที่จะเข้าใจเจตจํานงต่อไป
มีมี่และ เทียน่า ต่างเงียบในวังวนสีดําหลังจากได้ยินการแลกเปลี่ยนระหว่าง อเวเลียและ เอธาน
มีมี่ทําหน้าสงสัย ในขณะที่เธอหันไปหาเทียน่าและถามว่า “พี่ใหญ่เกือบตายจริงหรือ?”
เทียน่า ยิ้มและพูดว่า “ใช่ แต่ฉันรอดเพราะพลังงานคริสตัลสีขาวที่ฉันได้รับจาก เอธาน ”
“พลังงานคริสตัลสีขาว?” มีมี่ถามด้วยความสงสัย
เทียน่า ยิ้มในขณะที่เธอดึงพลังงานคริสตัลสีขาวหนึ่งหยดจากอาณาจักรลึกลับ ของเธอก่อนที่จะส่งต่อไปยังมีมี่
มีมี่มองไปที่พลังงานคริสตัลสีขาวก่อนที่การแสดงออกอย่างเข้าใจจะเข้ามาแทนที่ความอยากรู้ของเธอ ขณะที่เธอพูดหลังจากพยักหน้า “โอ้ เป็นอย่างนี้เอง ฉันเคยเห็นลูกบอลสีดําดูดซับของเหลวสีขาวบางชนิดก่อนที่จะปล่อยพลังงานคริสตัลสีขาวออกมา”
เทียน่า หน้าแดงไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยิน มีมีพูดว่าของเหลวสีขาว แต่เธอก็รีบบิดไว้ก่อนที่จะถามมีมี่ว่า “เธอรู้จักการใช้พลังงานคริสตัลสีขาวนี้ไหม”
มีมี่ส่ายหัว “มีมี่ไม่ค่อยรู้เรื่องพลังงานคริสตัลขาวมากนัก แต่มีสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตและจิตวิญญาณในตัวมัน แต่ก็มีอย่างอื่นอีก”
“เอ่อ…ไม่เป็นไร ไปซ้อมกันต่อเถอะ ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว”
ในอีก 2 วันข้างหน้า เอธาน อยู่ที่สถานที่ของผู้อาวุโสริเชน เพื่อทําความเข้าใจเจตจํานง เพราะ…อืม เขาไม่รู้ว่าจะกลับไปที่บ้านต้นไม้ของเขาอย่างไร
ใน 2 วันนี้ เขาได้เข้าใจเจตจํานงลึกลับใหม่แต่ในระดับเริ่มต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขาใกล้จะถึงระดับกลางแล้ว
เจตจํานงลึกลับ ที่เขาเข้าใจคือ เจตจํานงความเร็ว
ความเร็วของการกระทํา คาถา หรือสิ่งดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น เมื่อเขาใช้พลังเวทย์มนตร์ของเขา เพื่อใช้เจตจํานงความเร็วกับสิ่งต่าง ๆ
สมมติว่าเป็นจํานวนความเร็วของการใช้ Impact Shot ที่เสริมด้วย ระลอกคลื่นอวกาศ คือ 50 แต้ม
ถ้าเขาใช้เจตจํานงของความเร็วเพื่อช่วยความเร็วของเวทย์มนตร์ ความเร็วของมันจะเพิ่มขึ้น จาก 50 เป็น 55 แต้ม
แน่นอนว่าการเพิ่มขึ้นเพียง 5 อันเนื่องมาจากระดับเริ่มต้นของเจตจํานงความเร็ว ตราบใดที่ เขาไปถึงระดับที่สูงขึ้น บูสต์ของคาถาก็จะเพิ่มขึ้น
” ฉันรู้สึกว่ามีอะไรให้เร่งความเร็วมากกว่านี้ ฉันคิดว่าฉันจะเข้าใจมันต่อไป ” หลังจากพูด พึมพํา เอธาน กําลังจะเข้าสู่การทําสมาธิอีกครั้ง แต่มีการแจ้งเตือนบางอย่างปรากฏขึ้นจาก Digiband ของเขา
[ภารกิจร่วมระหว่าง มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ และ ซิลเวอร์ ลีฟ อะคาเดมี่ สิ้นสุดลงแล้ว ]
[ คุณได้รับตัวสิ่งประดิษฐ์ระดับกลางและกล่องหายากเป็นรางวัลเพิ่มเติม ]
“ใช่ ฉันยังได้รับเครดิตค่อนข้างมากระหว่างภารกิจนี้”
สถานะ Digiband
< เอธาน >
– เครดิต: 1167
[ภารกิจ ]: ไม่มีในขณะนี้ (ภายใน 1 เดือน)
[การทดสอบหลัก ]: ทําความเข้าใจเจตจํานง 2 องค์ประกอบธาตุในระดับมาสเตอร์ – รางวัล: 250 เครดิต ( จํากัด เวลา : 6 ปี )
< โลกเสมือน >
การเข้าถึงปัจจุบัน: มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่
ไอเทมเสมือน: ตั๋วสิ่งประดิษฐ์ระดับกลาง
{ การสร้างแนวคิด }
หลังจากนั้น เอธาน หยิบกล่องขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากพื้นที่จัดเก็บ Digiband ของเขา
“นี่มันบ้าอะไร นี่คือกล่องหายากที่ฉันได้รับเป็นรางวัลเหรอ?”
เขาคิดว่า ‘ฉันคาดว่ากล่องหายากจะใหญ่ไปหน่อย แต่ใหญ่ไม่ได้แปลว่าดีกว่า มาดูกันว่าข้างในมีอะไรบ้าง’
จากนั้นเขาก็เปิดกล่องเนื่องจากมีปุ่มสีแดงใสอยู่ด้านบนซึ่งมี [ เปิด ] เขียนด้วยตัวอักษรขนาดเล็กมาก
*คลิ้ก*
แต่หลังจากที่เขากดลงไป กล่องก็ใหญ่ขึ้น ทําให้เอธานตกตะลึง
กล่องเปิดออกและเผยให้เห็นปีกคู่หนึ่งที่มีสีน้ําเงินเข้มที่มีลวดลายสีเงินหลังจากที่มันใหญ่ขึ้น
ดวงตาของ เอธาน เป็นประกายเมื่อเห็นปีกที่ดูเท่
” ว้าว ปีกเหล่านี้น่าจะค่อนข้างทรงพลัง ฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานอวกาศ สายฟ้า และอากาศจากวัสดุที่ประกอบมันขึ้นมา”
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังเขา
เอธาน หันกลับมาและเห็นผู้อาวุโสริเชน เดินเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้ม
“ไปลองใช้ปีกพวกนี้สิ มันเป็นรางวัลสูงสุดที่คุณจะได้รับจากภารกิจร่วมกันนี้” ผู้อาวุโสริเชนพูดขณะเดินและนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะยิ้มต่อไป” ไอ้บ้านี้ ทําไมเจ้าไม่พูดว่าเจ้า เข้าใจเจตจํานงมากกว่าที่ฉันพูดไปในวันนั้นเสียอีก”
เอธานหัวเราะอย่างเคอะเขินและพูดว่า “ผมคิดว่าท่านคงจะรู้ในไม่ช้านี้ ผมก็เลยไม่ได้บอกในตอนนั้น”
จากนั้นเขาก็มองไปที่ปิกในขณะที่เขารอไม่ไหวที่จะลองมันแล้ว
ผู้อาวุโสริเชน ยิ้มและพูดว่า “ไปทดสอบพลังของปีกเหล่านั้น พวกมันจะช่วยคุณได้มากจนกว่าคุณจะไปถึงขั้น Profound Domain Plane” เมื่อพูดแล้วเขาก็โบกมือและพอร์ทัลก็ปรากฏขึ้นภายใต้ เอธาน ซึ่งส่งเขา และปีกไปที่บ้านต้นไม้ของเขา
หลังจากเอธานมาถึงบ้าน เขาแตะปีกที่มีขนยาว
” พวกมันดูเหมือนปีกของนกยูง แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก”
แต่หลังจากที่เขาสัมผัสปีก ปีกก็หายไปจริง ๆ และปรากฏขึ้นภายในดินแดนลึกลับของเขาพร้อมกับข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับปีก
[ ปิกแห่งฝันร้ายสีน้ําเงิน- Plane Sealed (ขั้นปิดผนึก)- ขอบเขตที่มีสติ]
– ต้องใช้ อวกาศ,อากาศ และ พลังงานต้นกําเนิดสายฟ้าแต่คุณสามารถใช้หินต้นกําเนิด แทนเพื่อเติมพลังให้กับปีกได้
– ความสามารถปิดผนึก
– สามารถใช้ปีกเหล่านี้ได้สูงสุด เมื่อใช้โดยนักเรียนชั้น Sout Altar Plane
ขณะที่เอธานกําลังอ่านข้อมูลเกี่ยวกับปีก เขาไม่ได้สังเกตเห็นใครในบ้านของเขา
คนนั้นออกมาจากบ้านหลังจากที่สังเกตเห็น เอธาน มาถึงและตะโกนด้วยน้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข “เฮ้ เอธาน ทําไมนายถึงใช้เวลานานมากกว่าจะมาถึงที่นี่ ฉันมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
เอธาน ที่กําลังอ่านข้อมูลอยู่นั้นก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงดังกล่าวขณะที่มองไปที่ประตูบ้านของเขา
“เธอมาทําอะไรที่นี่ อเวเลีย เดี๋ยวก่อน เธอมาปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไง” เขาถามด้วยสี หน้าตกตะลึง
อเวเลียยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า “ฮิฮิ แน่นอนฉันสามารถมาที่นี่ได้เพราะฉันเปลี่ยนสถาบันการศึกษา ตอนนี้ฉันเป็นนักเรียนของมีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่แล้วไงล่ะ”
จากนั้นเธอก็เดินไปหา เอธาน ด้วยชุดสีเงินสุดเซ็กซี่ที่เผยให้เห็นความแตกแยกของเธอ ซึ่งน่าจะเกลี้ยกล่อมเอธานมากที่สุดและพูดว่า “ฉันบอกนายแล้วว่าฉันจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน!! และนายก็ไม่ได้บอกว่าไม่มีความรักและ ความไว้วางใจระหว่างเรา? ใช่แล้ว เราก็แค่ค่อยๆพัฒนาทั้งความรักและความไว้วางใจจากนี้ไปไงล่ะ”
ตอนที่ 90: ภารกิจสุดท้าย
เมื่อดูคําอธิบายของภารกิจ เอธานก็ขมวดคิ้วขณะที่อเวเลียยิ้ม
เธอมองไปที่เอธานและพูดพร้อมกับยิ้มว่า “ฉันจะแสดงให้เห็นความสามารถของฉัน คอยดูเถอะ แล้วนายจะหลงรักฉันอย่างแน่นอน”
หลังจากพูดแบบนี้ เธอกด [ เริ่ม ]
เอธาน ยังกด [ เริ่ม ] เมื่อเห็นว่างานของพวกเขาเริ่มต้นขึ้น
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปเมื่อมาถึงห้องโดยสารขนาดกลาง
เอธาน และ อเวเลียดูเหมือนจะหมอบอยู่หลังโต๊ะโดยอัตโนมัติ เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่
อเวเลียกระซิบช้าๆ “เราอยู่ในยานอวกาศ”
เอธานพยักหน้าในขณะที่เขาสังเกตเห็นเช่นกัน
*ฉับ ฉับ ฉับ..*
ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเหมือนมีคนกําลังมาถึงที่นี่
เมื่อได้ยินเสียงนั้น อเวเสียก็กระซิบพร้อมกับยิ้มว่า “อย่าทําอะไรเลย ฉันจะจัดการมันเอง” เมื่อพูดแบบนี้ เธอโบกมือและใช้คาถาบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบธาตุอวกาศ
*ฉับ ฉับ ฉับ…*
เมื่ออเวเลียรู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว เธอใช้คาถาธาตุอวกาศและหายตัวไปจากตําแหน่งของเธอ
ผ่านไป 2 วินาที เอธานก็ได้ยินเสียงเธอ ”ออกมา”
เอธานยืนขึ้นและเห็นว่าชายร่างสูงที่มีผิวโลหะสีน้ำเงินเข้มนอนอยู่ที่นั่น
” ดังนั้นพวกเขาคือเฮราซินสินะ?” พวกมันดูเหมือนมนุษย์ ยกเว้นโครงสร้างที่ใหญ่โตและผิวสีน้ำเงินเข้ม
” ดูซิว่าฉันเคลียร์งานนี้ได้ง่ายๆ แค่ไหน” เมื่อพูดอย่างนั้น อเวเลียก็แตะหน้าผากของชายชาวเฮราซิน ขณะที่พลังงานอวกาศ หมอก และน้ำเริ่มรวมตัวกันรอบตัวเธอ
หลังจากผ่านไป 5 วินาที เอธาน ก็ตะลึงเมื่อเห็นว่า อเวเลียได้แปลงร่างเป็นชายเฮราซินที่กําลังนอนอยู่
” นี่คือคาถาปลอมตัวของฉัน และมันยากมากที่จะเชี่ยวชาญเพราะมันต้องใช้เจตจํา นงลึกลับของการควบคุมไมโคร”
อเวเลียซึ่งได้กลายเป็นชายร่างสูงสีน้ำเงินเข้ม พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
” ยังไงก็ตาม แค่ตามฉันมา ถ้านายมีคาถาอําพรางหรืออยู่ที่นี่ ฉันสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย “
อเวเลียพูดด้วยความภาคภูมิใจและคิดว่า “ฮิฮิ เป็นยังไงบ้าง? เขาจะต้องประทับใจฉันอย่างแน่นอน”
เอธาน ขมวดคิ้วในขณะที่เขาไม่มีเวทมนตร์ปลอมตัว แต่เขามองไปที่เฮราซินที่กําลังนอนอยู่ และคิดว่า “ผู้ชายคนนี้ไม่ได้หายไปในแสงสีขาวเหมือนสัตว์ร้ายเหล่านั้น…อืม”
ขณะที่เขากําลังคิดอยู่ เขาก็เกิดความคิดว่า ‘ อืม มันอาจจะดูหน้าเลือดไปหน่อย แต่ฉันรับมือได้”
…..
หลังจากผ่านไป 5 นาที ชายชาวเฮราซิน 2 คนที่เหมือนกันทุกประการก็ยืนเคียงข้างกัน
เมื่อเห็นสิ่งที่ เอธานทํา มันก็ทําให้อเวเสียรู้สึกอยากอ้วก และแม้แต่เอธานเองก็รู้สึกรังเกียจกับการกระทําของเขาเช่นกัน
เอธาน สวมชุดมังกรดําของเขาในผิวหนังของเฮราซินที่ตายแล้ว มีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับวิธีที่เขากรีดผิวหนังมัน แต่เขารักษาพวกมันด้วยพลังงานแสงของเขา
” ไปกันเถอะ ” เมื่อพูดอย่างนั้น เอธานก็เริ่มขยับตัว แต่อเวเลียกลอกตาแล้วพูดว่า “อะไรคือ ไปกันเถอะ เราทั้งคู่ก็ดูเหมือนกันแล้ว ชาวเฮราซินคนอื่นๆ จะไม่สงสัยหรือไง”
“ พวกเขาจะรู้สึกสงสัย แต่ฉันมีแผน เราต้องทําสิ่งนี้…”
เอธาน บอกแผนกับ อเวเลียและพวกเขาก็เริ่มเดินไปที่ประตูก่อนออกจากห้องโดยสาร
เอธานกําลังเดินอยู่ข้างหน้า ขณะที่อเวเลียกําลังเดินอย่างล่องหน ขณะที่เธอมีมนต์สะกดอีกอย่างหนึ่งที่สามารถทําให้เธอล่องหนไปในสายตาของคนอื่นโดยสิ้นเชิง
หลังจากเดินไปได้ซักพัก พวกเขาพบเฮราซินอีกคนหนึ่งที่พูด ขณะมองเอธานด้วยน้ำเสียง ไม่อดทน “เฮ้ เทกิล รีบหน่อยเถอะ เจ้าเอาสิ่งนั้นมาจากกระท่อมหรือไม่”
เอธาน พยักหน้า แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าเขาควรจะนําอะไรมาที่นี่
“ตามฉันมาเร็ว บอสไม่อยากรอแล้ว” เมื่อพูดจบ เฮราซินก็เริ่มเคลื่อนไหวขณะที่เอธาน เดินตาม
อเวเลียยังตามพวกเขาไปโดยที่หายตัวไป
หลังจากเดินไปได้ซักพัก พวกเขาก็เข้าไปในประตูและมาถึงห้องใหญ่
กลางห้องมีมนุษย์ 5 คน ชายวัยกลางคน 3 คน และหญิงวัยกลางคน 2 คนถูกมัดไว้
ชาวเฮราซิน 10 คนรายล้อมพวกเขาด้วยหอกสีน้ำเงินเข้มในมือแต่ละข้าง และบอสเฮราซินที่มีนามว่าซูง ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงกว่าคนอื่น ๆ นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่ระยะ 5 เมตรจากมนุษย์ที่ถูกคุมขัง
เมื่อ เอธาน และคนอื่นๆ เข้ามา เจ้านายมองมาทางเอธานและพูดเสียงดังว่า “ไอ้สารเลว ม นี่แล้วเอาของนั้นมาให้ข้า ข้าจะทรมานมนุษย์พวกนี้”
มนุษย์เหล่านั้นมีดวงตาที่ว่างเปล่าเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเพราะพวกเขาไม่ได้ต่อสู้ดิ้นรนแม้แต่น้อย
เอธาน ค่อยๆ เดินไปหาเจ้านาย แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงอันตราย เมื่อเขาอยู่ห่างจากมันไป 1 เมตร ขณะที่เขาหลบไปด้านข้าง
เจ้านายคนนั้นที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ชี้มือไปที่สถานที่ที่เอธาน ยืนอยู่ก่อนหน้า ขณะที่ลูกแก้วสีน้ำเงินเข้มลอยอยู่ที่นั่น
“ฮิฮิ หลบได้เหรอ น่าประทับใจ”
อเวเลียรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ในขณะที่เอธานเคลื่อนไหว ดังนั้นเขาจึงใช้คาถาป้องกันของเธอ ซึ่งเธอกําลังช่วยชีวิตมนุษย์ที่อยู่กลางห้อง
” หืม? เทกิล อีกคนหรือ เกิดอะไรขึ้น” ชาวเฮราซินที่นําเอธานมาที่นี่พูดเมื่อเขาสังเกตเห็นอเวเสียและบาเรียร์ที่อยู่รอบตัวมนุษย์
” ปกป้องมนุษย์พวกนั้น ฉันจะจัดการเรื่องนี้ บอส ” ขณะพูดสิ่งนี้ เอธาน ได้ปล่อยพลังงานดิน เข้าหาบอส
เจ้านายคนนั้นเรียกลูกแก้วสีน้ำเงินกลับมาหาเขาในบางครั้ง ซึ่งทําให้การยิงของเอธาน เป็นโมฆะได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นเขาก็มองไปที่เอธานและยิ้ม “แกจะจับฉันเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นเป็นเรื่องตลกที่ใหญ่ที่สุดที่ฉันเคยได้ยินมา”
หลังจากนั้นการนับถอยหลังก็ปรากฏขึ้น
[ยานเรนฟอร์สเมนต์ กําลังจะมาถึงในไม่กี่นาที ]
[ ห้ามเกิดอะไรร้ายแรงขึ้นกับมนุษย์ใน 1 นาที และยานอวกาศเอเลี่ยนนี้จะต้องไม่ถูกทําลายด้วยเพราะมันจะฆ่ามนุษย์คนนั้นอย่างแน่นอน ]
[ 0:59]
เมื่อเห็นข้อกําหนดใหม่ เอธานก็สาปแช่งภายในใจและคิดว่า เราจึงไม่สามารถใช้การโจมตีที่หนักหน่วงได้สินะ ซึ่งอาจสร้างช่องโหว่ในยานอวกาศนี้ได้ บ้าเอ้ย “
บอสไม่อยู่นิ่งหลังจากบล็อกการโจมตีของเอธาน และส่งกําปั้นไปยังเอธาน
คลื่นพลังงานสีน้ำเงินเข้มที่ปล่อยออกมาจากมือของเขาในรูปของหมัด
ใบหน้าของเอธานเปลี่ยนไป เมื่อเห็นพลังในนั้น “อืม ฉันต้องสกัดกั้นการโจมตีนี้ มิฉะนั้นจะทําให้ยานนี้เสียหายอย่างแน่นอน”
เอธาน สร้างบาเรียเบาหลายอันก่อนที่จะสร้างบาเรียเกลียวเลือดอีก 2 อันเพื่อป้องกันการโจมตี
หมัดพลังงานสีน้ำเงินเข้มทะลุผ่านบาเรียแสงอย่างง่ายดายก่อนจะทําลายบาเรียเกลียวเลือด ขณะที่มันกระทบกับเอธานที่หน้าอก
เอธาน ถูกผลักไปไกล แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเหมือนตอนที่กําปั้นโจมตีมาที่เขา มันมีขนาดเท่าลูกบอลเล็ก ๆ เท่านั้นเพราะพลังงานของมันถูกใช้โดยการทําลายสิ่งกีดขวางเหล่านั้น
หัวหน้ายังคงโจมตีแบบนี้ และเอธาน ยังคงใช้พลังของการโจมตีเหล่านั้นโดยใช้บาเรียของพลังงานต่างๆ
ถ้ามันยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป เอธานคงจะหมดแรงก่อนเพราะเขาต้องใช้บาเรียมากมาย เพื่อป้องกันการโจมตีต่อเนื่องของบอส
ในขณะเดียวกัน อเวเลียใช้เวทย์มนตร์ธาตุอวกาศแบบอื่นผสมกับองค์ประกอบอากาศเพื่อกําจัดลูกน้อง
เธอใช้ ดาบเรเซอร์สเปซ เพื่อกําจัดลูกน้องที่ไม่แข็งแรงเท่าบอสก่อนที่จะมาช่วยเอธาน
เธอใช้เวทมนตร์ล่องหนเพื่อหายตัวไปจากสายตาของบอสก่อนจะเดินเข้ามาหาเขา
เมื่อเห็นเช่นนี้ บอสก็ยิ้มและโยนลูกแก้วสีน้ําเงินไปที่มนุษย์ที่อยู่ในบาเรียที่สร้างโดยอเวเลีย
“หยุดการโจมตีนั้นซะ!” ใบหน้าของเอธาน เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว ขณะที่เขาตะโกนอย่างเร่งรีบ
ลูกแก้วสีน้ำเงินมีพลังงานมหาศาล และเมื่อชนกับบาเรียของอเวเลีย มันสามารถสร้างเสียงดังที่อาจสร้างความเสียหายให้กับยานในสถานที่นั้นได้
อเวเลียรู้ถึงสถานการณ์เลวร้าย เมื่อเธอใช้พลังงานอวกาศทั้งหมดของเธอเพื่อสร้างโดมแห่งอวกาศในเส้นทางของลูกแก้วสีน้ำเงินเพื่อปิดกั้นมัน
การล่องหนของเธอหายไป ในขณะที่เธอพยายามดิ้นรนกับการแสดงออกในขณะที่พยายามเก็บลูกแก้วสีน้ำเงินเข้ม
เอธาน ไม่ได้ใช้งานมัน ในขณะที่เขาใช้ หารโจมตีของเจตจํานงขับไล่และเจตจํานงแรงโน้มถ่วง พร้อมกันไปยังลูกแก้วสีฟ้าเพื่อบรรจุมัน
เขาสร้างพื้นที่ของการขับไล่ที่ด้านหน้าของลูกแก้ว ขณะที่ดึงดูดและแรงโน้มถ่วงอยู่ข้างหลังมัน
ดูเหมือนว่าบอสคนนั้นจะใช้พลังงานของเขาเพื่อควบคุมลูกแก้ว ในขณะที่มันต่อสู้กับ เวทมนตร์ของอเวเสียและสนามพลังของเอธาน
แต่ เอธาน เป็นอิสระหลังจากสร้างสนามพลัง ดังนั้นเขาจึงไม่เสียเวลาและใช้ขั้นตอ นการระเบิดที่ลุกไหม้เพื่อเข้าใกล้บอสก่อนที่จะใช้ Impact Scatter ของพลังงานมืด
บอสคนนั้นไม่สามารถโต้ตอบได้ทันเวลาเนื่องจากความเร็วของ เอธาน และไม่สามารถหลบการโจมตีได้ในขณะที่ Impact Scatter โจมตีเขาในระยะที่ว่างเปล่า
*อ๊าก..*
เสียงคร่ำครวญหลุดออกมาจากปากของบอสหลังจากถูกโจมตี
เอธาน รู้สึกถึงการต่อต้านเมื่อเขาโจมตีบอสแม้จะใช้พลังงานแห่งความมืดและปล่อยคลื่น Impact Scatter อีกครั้ง
คราวนี้ ลูกแก้วสีน้ําเงินเข้มที่กําลังดิ้นรนในที่สุดก็หยุดลงก่อนที่จะหายไป และบอสก็ล้มลงด้วยเสียงดังตับ
[ ยินดีด้วยที่งานสุดท้ายเสร็จสิ้น ]
[รางวัล –> เอธาน: 500 เครดิต, อเวเลีย: 500 เครดิต ]
[รางวัลเพิ่มเติมจะถูกส่งหลังจาก 2 วัน ]
หลังจากประกาศนี้ ทั้ง เอธาน และอเวเลียก็ปรากฏตัวขึ้นในหอพักของพวกเขา
” วั้ย นั่นมันน่ากังวลเป็นบ้าเลย ถ้าลูกแก้วนั้นแตะต้องบาเรียของฉัน เราคงจะล้มเหลว” อเวเลียพูดขณะเช็ดเหงื่อเสมือนออกจากหัวของเธอ
ฝากกดติดตาม FB Fanpage เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ : TherippercorpTranslation
ตอนที่ 89: อเวเลียที่ตรงไปตรงมา และเป้าหมายของเธอ ?
หลังจากที่เอธานเอาชนะสัตว์น้ำได้ เปลวไฟสีขาวก็พุ่งขึ้นจากสระน้ำก่อนที่จะกลายเป็นลูกธนูและชี้ไปที่ประตูที่ติดอยู่กับผนังด้านซ้ายบน
เอธานตัดสินใจเดินตามลูกศร ในขณะที่เขารู้ว่าเขาต้องช่วยอเวเลีย อย่างรวดเร็วหรือล้มเหลวในภารกิจนี้
“เฮ้อ ฉันเองก็ทําตัวไม่เหมือนปกติเลยช่วงนี้…”
เขาเดินเข้าประตูไปพร้อมกับถอนหายใจ แต่เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะหายใจ ก่อนที่เขาจะเห็นกรงเล็บน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่บดบังทัศนะทั้งหมดของเขาโจมตีเขา
เมื่อเห็นกรงเล็บ เขาไม่ลังเลเลยในขณะที่เขาต่อยกรงเล็บอย่างทรงพลังในขณะที่กําหมัดของเขาด้วยพลังงานเปลวไฟ
กรงเล็บน้ำแข็งแตกเป็นเสี่ยงก่อนที่จะเผยให้เห็นหมีตัวใหญ่ที่มีเกล็ดน้ำแข็งทั่วร่างกาย
*กรอวววว์”
หมีคํารามเสียงดัง แต่เอธานไม่มีเวลาให้เสียเวลา ในขณะที่เขาปล่อย Impact Shot ด้วยพลังงานไฟของเขาไปที่หัวของหมี
หมีเกล็ดน้ำแข็งระดับ 6 พ่ายแพ้เมื่อลูกศรอีกอันก่อตัวขึ้นซึ่งชี้ไปที่ประตู
…..
เช่นนี้ เอธานยังคงเอาชนะสัตว์ร้ายต่อไปในขณะที่ตามลูกศร
หลังจากเอาชนะหมีระดับ 6 ได้ เขาได้พบกับจระเข้โลหะมีปีกระดับ 6 สองตัว
หลังจากเอาชนะจระเข้โลหะมีปีกระดับ 6 ได้ 2 ตัว เขาได้พบกับสัตว์น้ำที่มีองค์ประกอบไม้หุ้มเกราะเกรด 6 สามตัวที่ดูเหมือนฮิปโปในสระน้ำ
เขาเอาชนะพวกมันโดยใช้ Impact Point ของสายฟ้าในน้ำ เนื่องจากธาตุไม้โดยทั่วไปจะอ่อนแอต่อสายฟ้า
หลังจากเอาชนะสัตว์น้ำแล้ว เขาได้พบกับสัตว์บินระดับ 6 สี่ตัวที่ดูเหมือนค้างคาวในอีกประตูหนึ่ง
ค้างคาวนั้นเร็วมากและปล่อยการโจมตีแบบเสียง
เนื่องจาก เอธานไม่ต้องการเสียเวลา เขาจึงปล่อยแสงเป็นบริเวณกว้างเพื่อทําให้ค้างคาวเป็นอัมพาต ก่อนที่เขาจะรวมพวกมันเข้าด้วยกันโดยใช้สนามแรงโน้มถ่วง และปล่อยกระสุน Impact ของพลังงานมืด เพื่อเอาชนะพวกมัน
“เหลือเวลาอีกเพียง 5 นาที” เอธานพึมพําเรื่องนี้ เขารีบไปตามทิศทางของลูกศรและเข้าทางประตู
แต่หลังจากที่เขาเข้ามาทางประตูนี้ เขาเห็นอเวเลียอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ขณะที่ มือซ้ายของเธอจากไปและเปียกโชกไปด้วยเลือดของเธอเอง
สัตว์ยักษ์ 2 ตัวอยู่ข้างหน้าเธอ ตัวหนึ่งกําลังบินและดูเหมือนนกบลูบูคัส สีขาวตัวใหญ่ ในขณะที่อีกตัวหนึ่งเป็นควายที่เหมือนสัตว์ร้ายที่มีผิวสีน้ำตาลเข้มเต็มตัวและมีเขา 2 เขา เมื่อมันปล่อยเปลวไฟสีม่วงเข้มออกจากจมูกและหูของมัน
แท้จริงแล้วทั้งคู่เป็นสัตว์อสูรต้นกําเนิดระดับ 7
เมื่อเห็นสถานการณ์ เอธานก็พุ่งเข้าไปหาอเวเลีย อย่างบ้าคลั่งโดยใช้ท่าระเบิดอย่างเต็มกําลังและคว้าตัวเธอไว้ก่อนที่จะเริ่มรักษาเธอด้วยพลังงานแสง
แต่สัตว์ร้ายไม่ใช่สัตว์ที่สามารถนิ่งเฉยอยู่ได้ ในขณะที่พวกมันปล่อยการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
บลูบูคัสปล่อยลําแสงสีขาวที่ดูเหมือนจะประกอบขึ้นจากสายฟ้าและหมอก ขณะที่ควายยิงลูกไฟสีม่วงไปทางเอธาน
เอธานไม่ยั้งและใช้ท่าระเบิดในขณะที่ใช้ระลอกคลื่นอวกาศ เพื่อขัดขวางการโจมตี ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่เขาสามารถหลบการโจมตีได้สําเร็จ
หลังจากหลบหลีก เขาได้คลุมอาเวเลียด้วยบาเรียสายเลือด 2 ชั้นและรีบพุ่งไปอีกทางหนึ่ง เขาสร้าง Impact Point 2 ชั้นโดยใช้พลังงานน้ำจากมือทั้งสองข้างพร้อมกัน
เขาใช้เจตจํานงการดึงดูดและเจตจํานงขับไล่เพื่อสร้าง Impact Point บนมือทั้งสองข้าง
เจตจํานงดึงดูดอยู่ที่ฐานของฝามือของเขาและผลักแรงที่อยู่ด้านบน ในขณะที่สร้าง Impact Point ระหว่างคาถานั้น
วิธีนี้ทําให้เขาสามารถสร้าง Impact Point บนมือทั้งสองข้างได้ในเวลาเดียวกัน
คราวนี้เขายังสร้างพวกมันเร็วขึ้น เนื่องจากเขาไม่เก็บพลังงานไว้ ในขณะที่เจตจํานงของแรงดึงดูด และเจตจํานงของการขับไล่ ช่วยควบคุมพวกมัน
เขาใช้เวลาเพียง 2 วินาทีในการสร้าง Impact Point 2 ชั้น แต่ถึงกระนั้น สัตว์ร้ายก็โจมตีเขาก่อนที่เขาจะโจมตีพวกมันได้
“ไอ้เวรเอ๊ย…” เอธานกัดฟันกรอดและไม่ปล่อยการโจมตี แต่กลับหลบโดยใช้ขั้นตอนการเผาไหม้ที่ลุกไหม้ ในขณะที่สร้างชั้นของ Impact Point อีกชั้น
หลังจากหลบหลีก เขาได้ปล่อยจุดกระทบทั้ง 2 ไปยังสัตว์ทั้งสอง ในขณะที่ยังเพิ่มความเร็วของพวกมันด้วยคาถาระลอกคลื่นอวกาศ
*บู้ม แพล้ด*…*บู้ม แพล้ด*
…..
[ ขอแสดงความยินดีที่เสร็จสิ้นภารกิจนี้ในโหมด “ที่เป็นไปไม่ได้ ]
– รางวัล: 500 เครดิตให้กับ เอธาน, 100 เครดิตให้กับ อเวเลีย
หลังจากนั้น พวกเขาก็มาถึงหอพักชั่วคราว บาดแผลบนร่างของอเวเลียก็หายไปด้วย
พวกเขายังได้ยินการแจ้งเตือนทันทีหลังจากมาถึง
[ เนื่องจากหนึ่งในพลังการต่อสู้ของผู้เข้าร่วมค่อนข้างสูงกว่าอัจฉริยะมือใหม่คนอื่นๆ ภารกิจสุดท้ายจะถูกเปิดเผยทันที แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างหลังจากนี้ไม่กี่นาที ]
…..
แม้ว่าอาการบาดเจ็บจะหายได้ง่าย แต่ความเจ็บปวดและบาดแผลที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง ขณะทําภารกิจและภารกิจในโลกเสมือนจริง
แต่ดวงตาของอเวเลี้ยเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อเธอมองไปที่เอธานและคิดว่า “ใช่!! เขาเป็นคนหนึ่งที่ทําให้ฉันสามารถบรรลุเป้าหมายของฉันได้”
ในส่วนลึกของความตื่นเต้นนั้น ยังมีอีกอารมณ์หนึ่ง
เธอยืนขึ้นและเดินไปทางเอธาน ซึ่งหลับตาลงและนั่งไขว่ห้างอยู่บนพื้นทันทีหลังจากมาถึงที่นี่
เมื่อรู้สึกว่าเธอเดินเข้ามาหาเขา เอธานก็ลืมตาขึ้นและรู้สึกประหลาดใจที่เห็นอเวเลีย เพราะใบหน้าของเธอแทบจะเป็นสีแดง และดวงตาของเธอก็เผยให้เห็นถึงความตื่นเต้น
หลังจากเข้าใกล้เอธานเธอนั่งลงต่อหน้าเขาและพูดด้วยหน้าแดงว่า “ฉัน..ฉันต้องการให้คุณแต่งงานกับฉัน”
เอธานตกตะลึงเมื่อได้ยินว่าในขณะที่เทียน่า และ มีมี่ ก็ตกตะลึงเช่นกันเมื่อพวกเขาเฝ้าดูทุกอย่าง
“ ฮี่ฮี่ พี่สาวคนนี้พูดตรงมาก” มีมี่หัวเราะคิกคักก่อนจะพูดขณะที่กรามของเทียน่าก็ตกลงไปที่พื้น
แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เทียน่าก็ยิ้มอย่างขมขึ้นและพูดว่า “แน่นอน และเอธานควรยอมรับเธอ ในขณะที่เขาต้องการเพื่อนผู้หญิง ในขณะที่ฉันไม่อยู่เห็นไหม แม้แต่ AI ก็บอกว่าพลังต่อสู้ของ เอธานนั้นสูงเกินไป และคนที่แข็งแกร่งมักมี มีภรรยามากขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ ”
แต่สิ่งที่เอธานพูดต่อไปทําให้ทุกคนประหลาดใจ
เขาส่ายหัวขณะขมวดคิ้วและพูดว่า “ไม่”
อเวเลียตกใจ “ทําไมล่ะ”
“ใช่ ทําไมล่ะ” เทียน่าและมียังสับสน
เอธานยิ้มแล้วพูดว่า “เพราะฉันมีแฟนแล้ว”
“อะไรนะ ผู้ชายที่มีอํานาจสามารถมีภรรยามากกว่าหนึ่งคนได้ ในขณะที่ผู้หญิงที่มีอํานาจบางคนก็มีฮาเร็มเป็นของตัวเอง นายยังไม่เคยได้ยินชื่อจักรพรรดินี้หยกอารากายะหรือ”
เอธานขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น และคิดว่า “ ใช่ โลกนี้ที่แข็งแกร่งกว่า กินโลกที่อ่อนแอ แม้แต่ในโลกเก่าของฉัน กษัตริย์บางองค์ก็มีฮาเร็ม แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่จะทําสิ่งนี้เพราะเทียน่า ติดอยู่ในวังวนสีดํา “
จากนั้นเขาก็ยังคงส่ายหัวและพูดกับอเวเลียว่า “ฉันจะไม่แต่งงานกับเธอหรอก”
อเวเลียขมวดคิ้วและพูดว่า “เกิดอะไรขึ้นกับนาย เดี๋ยวก่อน..จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าภรรยาของนายบอกนายว่านายสามารถมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่งคน”
“เอ่อ..” เอธานแปลกใจ แต่แล้วเขาก็ขมวดคิ้วและส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “ไม่”
….
ในขณะเดียวกัน ดวงตาของเทียน่า ก็เปียกแฉะขณะที่เธอพูดว่า “แม้ว่าฉันจะมีความสุข ฉันก็ไม่เป็นไร ถ้าเขาจะได้ภรรยามากขึ้น”
” ร่างกายของเขาเหนือกว่าของฉันด้วย เพราะทุกครั้งที่เราทํา ฉันเหนื่อยก่อนเสมอ และเขามี พลังงานเหลือเฟือในตัวเขาทุกครั้ง อย่างน้อยฉันก็สามารถเห็นได้มากขนาดนั้น”
นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เธอไม่สนใจว่าเอธานจะมีภรรยาเพิ่มอีกหนึ่งคน
ด้านนอก…
ขณะที่อเวเลียกําลังจะพูดอะไรบางอย่างกับเอธานที่เงียบไป หน้าจอก็สว่างขึ้นต่อ หน้าพวกเขา
[งานสุดท้ายได้รับการแก้ไข เนื่องจากพลังการต่อสู้ของผู้เข้าร่วม ]
[ ในกรณีนี้ ไฟ น้ํา และพลังงานสายฟ้าของคุณจะไม่สามารถใช้งานได้ และภารกิจสุดท้ายคือ ช่วยเหลือมนุษย์ 5 คนที่ถูกเฮราซินจับไว้ ]
[ร่วมมือกับคู่ของคุณเพื่อช่วยพวกเขา ]
– ตัวประกันไม่ควรตาย ต่อให้ตายไปแล้ว ภารกิจก็จะล้มเหลว
– รางวัล- ??? (ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ)
ฝากกดติดตาม FB Fanpage เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ : TherippercorpTranslation
ตอนที่ 88: พฤติกรรมแปลก ๆ & มิชชั่นของการทดสอบทางเลือก
ขณะที่เอธานและอเวเลียกําลังเอาชนะคลื่นสัตว์ร้าย..
ภายในวังวนสีดํา
เทียน่ายิ้มอย่างมีความสุข ขณะที่เธอพูดว่า “ขอบคุณมากมี่..”
มีมี่หัวเราะคิกคักและพูดว่า “ฮี่ฮี่ ไม่เป็นไร ผู้คุ้มครองพี่ชายจะแปลกใจ เมื่อเขาไปถึงขั้น Soul Altar Plane แล้วเจอกันนะ”
การปรากฏตัวของ เทียน่า ในเวลานี้ดูสวยงามมาก ผมของเธอกลายเป็นสีดําเป็นประกายผสมกับสีกุหลาบแดง และผิวของเธอก็ขาวและเรียบเนียนมากขึ้น เมื่อเธอมีรัศมีลึกลับรอบตัวเธอ
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือด้านหลังของเธอมีปีกแบบนางฟ้าสีแดงและสีดํา 2 ปีก ซึ่งประกอบขึ้นจากพลังงานบางอย่าง
” พี่ใหญ่ พี่สามารถฝึกฝนเทคนิคนี้ต่อไปได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับพี่มาก พี่ชายผู้พิทักษ์จะได้รับเทคนิคพิเศษ แต่เขาจะต้องรอจนกว่าจะถึงขั้น Sout Altar Plane”
เทียน่า พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เธอหดปีกของเธอก่อนจะพูดว่า “มาดูกันว่า เอธานกําลังทําอะไรอยู่”
“ก็ได้ มีมี่ก็อยากรู้เหมือนกัน”
หลังจากพูดแบบนี้ มีมีก็นําเมฆเหล่านั้นอีกครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นภาพภายนอก
….
เอธานและ อเวเลีย ทั้งคู่ได้จบการต่อสู้ของคลื่นลูกที่ 2 ของสัตว์ร้ายแล้ว ซึ่งเป็นสัตว์ร้ายต้นกําเนิดระดับ 3 และพร้อมที่จะต่อสู้กับคลื่นลูกที่ 3 ที่พุ่งเข้าหาพวกเขาแล้ว
คลื่นสัตว์ร้ายนี้เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายระดับ 4 ซึ่งไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นปัญหาสําหรับ เอธานแต่อเวเลีย ประสบปัญหา ดังนั้นเอธานจึงไปช่วยเธอหลังจากจัดการกับสัตว์ร้ายที่อยู่ด้านข้างของเขา
เขาสามารถเอาชนะสัตว์ร้ายเหล่านั้นได้ในนัดเดียว และอเวเลียก็ทําได้ด้วย แต่เธอใช้พลังงานอวกาศของเธอจนหมดเพราะใช้มันกับบาเรียและใช้มันใน 2 รอบก่อนหน้านี้ เธอจึงต้องใช้คาถาโจมตีแบบอื่น ซึ่งไม่รับประกัน การโจมตีครั้งเดียวต่อสัตว์ร้ายระดับ 4 เหล่านี้และสัตว์ที่รอดชีวิตจะใช้การโจมตีที่รุนแรงโดยไม่สนใจชีวิตของพวกเขาใน อเวเลีย ซึ่งทําให้เธอลําบาก
แต่หลังจากที่เอธานมาถึง เขาก็พุ่งมาที่นี่และที่นั่นด้วยการเผาไหม้ของการเผาไหม้และปล่อย Impact Shot 2-3 ช็อตเพื่อเอาชนะสัตว์ร้ายที่เหลืออย่างรวดเร็ว
และหลังจากสัตว์ร้ายตัวสุดท้ายนั้นถูกกําจัด เสียงร้องดังก้องมาจากท้องฟ้า ขณะที่นกเพลิงขนาดใหญ่ลงมาที่จุดรวมตัวของหมู่บ้าน
คาถาเรือนจํานับไม่ถ้วนของเอธานที่มีธาตุแสงจํานวนมหาศาลละลายได้ง่าย เมื่อนกเข้ามาใกล้
“อึก!” เอธานสาปแช่งภายใต้ลมหายใจของเขา ในขณะที่เขาพุ่งไปหานกในอากาศ
อเวเลียที่ตกตะลึงกับการกระทําของเอธานที่เขาสามารถเอาชนะสัตว์ร้ายที่อยู่ข้างๆ ได้อย่างง่ายดาย เธอก็หลุดจากความงุนงงของเธอและมองไปทางสัตว์ร้ายที่บินได้
แม้ว่าเอธานจะว่องไว แต่สัตว์ร้ายปีกเพลิงก็เร็วเช่นกัน เมื่อปล่อยการโจมตีด้วยไฟอันทรงพลังไปยังบาเรียที่สร้างโดยอเวเลีย
*บูม…*
*ชีชีชีชี….ซู้มมม*
การโจมตีกระทบกับบาเรียแต่มันต้านทานการโจมตีได้และปล่อยคลื่นกระแทกอันทรงพลังที่ผลักสัตว์ร้ายกลับในขณะที่สร้างความเสียหาย
เอธานก็มาถึงในเวลานี้และปล่อยกระสุนน้ำจากมือทั้ง 2 ข้างของเขาไปยังสัตว์ร้ายที่บินได้ขนาดยักษ์
หลังจากร้องไห้ สัตว์ร้ายก็กลายเป็นแสงสีขาว
[ ขอแสดงความยินดี คุณเสร็จสิ้นภารกิจแรกของคุณ ]
– รางวัล -> เอธาน: 50 เครดิต, อเวเลีย: 50 เครดิต
…
ทั้งสองถูกนําตัวไปที่หอพักชั่วคราวหลังจากนั้น
เทียน่า และ มีมี่ เฝ้าดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
เทียน่าพึมพําเบาๆ “ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก….”
มีมี่มองดูเทียน่าและพูดอย่างร่าเริงว่า “เหอเหอ พี่ใหญ่ พี่อาจจะไม่ได้สวยเท่านางในสมัยก่อน แต่ตอนนี้พี่สวยกว่านางเสียอีกนะ”
“อืม…” เทียน่า พยักหน้าแต่ดูกังวลในขณะที่เธอคิด แต่ฉันไม่ได้อยู่กับเอธานจนกว่าเขาจะไปถึงขั้น Sout Altar Plane ดังนั้นเขาจะไม่สามารถรวบรวมพลังงานคริสตัลขาวได้อีกต่อไป ฉัน…ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะมีภรรยามากกว่านี้หรือเปล่า ตราบใดที่เขายังรักฉัน *ถอนหายใจ* เอธานมีเสน่ห์และแข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงดึงดูดผู้หญิงได้อย่างชัดเจน
….
หลังจากที่เอธานมาถึงหอพัก เขารู้สึกว่าสายตาของอเวเลียดูแปลกไปเล็กน้อย
เธอยังคงจ้องมองเอธานราวกับต้องการจะพูดอะไร แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่บ้าง
เธอมองที่เอธานและพูดขณะขยับตาอย่างประหม่า “นาย…นายอายุเท่าไหร่”
เอธานสับสนกับพฤติกรรมของเธอ แต่ก็ยังตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า ” 18″
ทันใดนั้นมีข้อความแจ้งงานอื่นปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา
[ภารกิจใหม่ได้รับมอบหมาย ]
– ทํามิชชั่น การทดลองทางเลือกนี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 4 ชั่วโมง
– รางวัล: ?? (ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ)
….
เอธานไม่ลังเลและกด [ เริ่ม ] และ อเวเลีย ดูเหมือนอยากจะพูดอะไร
” อืม…ไม่เป็นไร ฉันจะยืนยันมันอีกครั้งก่อนที่จะทําตามขั้นตอนนั้น “
หลังจากคิดเช่นนี้ เธอก็กด [ เริ่ม ] เมื่อทั้งคู่มาถึงห้องใต้ดินบางประเภทที่มีประตูเพียงบานเดียว
เทียน่า ยังสามารถเห็น อเวเลีย และเธอก็พบว่าการจ้องมองของเธอดูแปลกไปเล็กน้อย
….
ในห้องใต้ดิน เอธานและ อเวเลีย เดินผ่านประตูและหลังจากออกจากประตูนั้น พวกเขามาถึงห้องโถงขนาดกลางที่มี 4 ประตู
หลังจากมองไปที่ประตูเหล่านั้น เอธานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับอเวเลีย ว่า “เราอาจจะทําให้มันเสร็จเร็วขึ้นได้ ถ้าเราแยกทางกัน”
“นี่…” เห็นได้ชัดว่าอเวเลียไม่ต้องการแยกจากกัน เพราะเธอมีเรื่องสําคัญที่ต้องตรวจสอบ แต่ในท้ายที่สุด เธอยอมแพ้และพยักหน้าหลังจากมองไปยังเอธานด้วยสีหน้าที่ไม่เต็มใจ
“เธอเป็นอะไรไป? เธอทําตัวแปลกๆ “ เอธานคิดเกี่ยวกับมัน แต่เขาส่ายหัวและเข้าไปในประตูแรก
เมื่อเห็นว่าเอธานเข้ามาที่ประตูแรก อเวเลียก็ทําหน้าบึงก่อนจะเข้าประตูที่ 2
….
หลังจากที่เอธานเข้าไปในประตูแรก เขาก็พบกับกลุ่มหมาป่าที่มีจํานวน 8 ตัว และทั้งหมดอยู่ในระดับต้นกําเนิดระดับ 2
เขาจัดการพวกมันอย่างรวดเร็วและหลังจากที่พวกมันกลายเป็นแสงสีขาว เปลวไฟสีขาวเล็กๆ 8 ชิ้นยังคงรวมตัวกันที่เอธาน
หลังจากรวบรวม พวกมันก็กลายเป็นลูกศร ซึ่งชี้ไปทางซ้าย
ในห้องโถงเล็ก ๆ นี้ มีประตู 2 บาน ประตูหนึ่งตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของ เอธานและอีกบานตั้งอ ยู่ทางด้านขวาของ เอธาน
“ ลูกศรนี้ชี้ไปทางซ้าย แต่เป็นทิศทางที่ถูกต้องจริงหรือ? ”
หลังจากครุ่นคิดไปซักพักแล้ว เขาก็ไม่เลือกเดินตามศรและเข้าประตูด้านขวา
สถานการณ์ของอเวเลียเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอไม่พบสัตว์ร้ายใด ๆ แต่มีเพียง 2 ประตูเท่านั้น เธอยังคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเข้าประตูทางด้านซ้ายของเธอ
หลังจากเข้าทางประตูที่เธอเลือก เธอก็มาถึงห้องโถงใหญ่ที่มี 2 ประตู
ประตูทุกบานมีการออกแบบที่แตกต่างกันและมีคําเขียนอยู่ด้านบน
ไฟ, น้ำ, ดิน, โลหะ, ไม้, ฟ้าผ่า, มืด, แสง
อเวเลียเริ่มครุ่นคิดถึงทางเลือก ในขณะที่เอธานพบกับสัตว์อีกกลุ่มหนึ่ง
*ระแวง…*
เขาพบวัวแม็กม่า 6 ตัวที่อยู่ในขั้นของสตว์ต้นกําเนิดระดับ 3
แต่เอธานก็เอาชนะพวกมันได้อย่างง่ายดายเช่นกัน และอีกครั้ง ลูกศรที่เกิดจากเปลวไฟสีขาวปรากฏขึ้น ซึ่งชี้ไปที่ทิศทาง 3 นาฬิกา
ห้องโถงนี้มี 5 ประตู และคราวนี้ เอธานตัดสินใจไปตามทิศทางของลูกศร และเข้าทางประตูที่ชี้ไปทางนั้น
หลังจากที่เขาเข้าไปในประตู เขาก็ได้ยินเสียง
[ ด่านโบนัส ปราบเสืออเมทิสต์ใน 1 นาที ]
*กรรร์*
พยัคฆ์โผล่ออกมาจากที่ไหนสักแห่ง ในขณะที่มันร้องโหยหวนไปทางเอธานซึ่งยืนอยู่ตรงหน้ามัน
เสื่ออเมทิสต์เป็นสัตว์ร้ายต้นกําเนิดระดับ 5
เอธานไม่ได้รอให้สัตว์ร้ายโจมตี ในขณะที่เขาปล่อย Impact Shot ของพลังงานสายฟ้าออกไปโดยตรง
Impact Shot ถูกเสริมด้วยระลอกคลื่นอวกาศ เมื่อกระทบกับหน้าผากของเสือโดยตรงก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นแสงสีขาว
[ ผลงานระดับ S – ได้รับ 50 เครดิต ]
เจตจํานงสายฟ้าของเขาถึงระดับขั้นสูงแล้ว ดังนั้นการยิง Impact Shot ของพลังงานสายฟ้าก็มีพลังมากพอที่จะเอาชนะสัตว์ร้ายระดับ 6 ได้อย่างง่ายดายนับประสาระดับ 5 เพียงอย่างเดียว
แต่หลังจากที่เสือตัวนี้กลายเป็นแสงสีขาว คราวนี้ไม่มีเปลวไฟสีขาวและห้องโถงนี้มี 3 ประตู
“ดูเหมือนครั้งนี้ฉันจะต้องเลือกประตูเอง”
หลังจากพูดพึมพําแล้ว เขาก็เดินไปข้างหน้าและเข้าทางประตูที่อยู่ข้างหน้า
แต่หลังจากที่เขาเข้ามา
*กระฉูด….*
เอธานหาที่ยืนไม่ได้แล้วตกลงไปในแอ่งน้ำ
*กูลูลู….*
เขาได้ยินหลายเสียง เมื่อสัตว์น้ำคล้ายฉลาม 4 ตัวปรากฏขึ้นด้วยความเร็วที่รวดเร็ว ขณะอ้าปากออกขณะที่พวกมันพุ่งเข้าหาเอธาน
สิ่งมีชีวิตที่เหมือนฉลามเหล่านี้มีผิวใบมีดเป็นประกายและมีเขาอยู่บนหัวที่ส่องแสงสีน้ำเงินเข้ม
ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงใกล้เอธาน ลําแสงสีน้ำเงินเข้มผสมกับพลังสายฟ้าพุ่งเข้าหาเอธาน
เขารีบวางเกราะเกลียวเลือด ไว้รอบ ๆ ตัวเขาซึ่งป้องกันการโจมตีได้สําเร็จ แต่กลับมีร่องรอ ยการแตกร้าว
! บ้าเอ้ย ฉันควรจะเชี่ยวชาญขั้นสูงของวิธีการไหลของสายเลือดด้วย ขณะที่คิดเช่นนี้ เขาก็ได้ใช้ย่างก้าวที่มีคาถาระเบิดขณะที่ยังอยู่ในน้ําและดันตัวขึ้น
ก่อนที่ฉลามจะตามทัน เขาก็ได้ทิ้งตัวออกจากน้ำที่ดูเหมือนแอ่งน้ำและลอยอยู่บนท้องฟ้าได้สําเร็จ
” สัตว์น้ำระดับ 5 : 4 ตัว มีพลังมากกว่าด่านโบนัส…ดูเหมือนความยากจะเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง “
เอธานสูดอากาศหายใจขณะมองดูสัตว์คล้ายฉลามเหล่านั้น และเริ่มสร้างพลังงาน Impact Point ของพลังงานไฟ
เขาไม่ได้ทําหลายชั้นเกินไป แต่เขาทําแค่ 2 ชั้นแล้วยิงไปที่สระน้ำ
เมื่อเขาอยู่ใน Origin Plane เขาต้องการเวลาเพื่อสร้าง Impact Point แต่หลังจากเข้าสู่ Origin Intent Plane และเข้าใจจุดสูงสุดของวิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact เขาสามารถใช้คาถาอันทรงพลังเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายและแม้กระทั่งเปลี่ยนพลังงานการไหลที่เต็มเปี่ยมได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะพลังไฟ น้ำ และสายฟ้า ในขณะที่เขาเข้าใจเจตจํานงระดับสูงของพวกมันแล้ว
Impact Point 2 ชั้นยิงลงไปในสระน้ําก่อนที่จะระเบิดเสียงดัง
*บึ้มมมมม!!*
สระน้ำทั้งหมดระเหยไปพร้อมกับสัตว์น้ำระดับ 5 สี่ตัว
แต่หลังจากนั้น เขาก็ได้ยินเสียง
[ คุณควรจะอยู่ด้วยกันตั้งแต่เริ่มต้น แต่เนื่องจากคุณแยกทางแล้วเตรียมรับผลที่ตามมา ]
[ บันทึกพันธมิตรของคุณใน 20 นาที ]
[ ล้มเหลวในการบันทึกคู่ของคุณภายใน 20 นาทีจะส่งผลให้งานนี้ล้มเหลว ]
ตอนที่ 87: ภารกิจแรก ที่ อเวเลีย เซนฟอร์ด
ผู้อาวุโสริเชนยิ้มและพูดว่า “คุณจะใช้เวลา 2 วันถัดไปจากนี้ ใน 2 วันนี้ฉันจะช่วยให้คุณเพิ่มความเข้าใจในเจตจํานงมากขึ้น”
เอธานตกใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินเช่นนั้นและถามว่า “เป็นไปได้ไหมที่จะเพิ่มความเข้า ใจในเจตจํานงของคนอื่นด้วย”
ผู้อาวุโสริเขน พยักหน้ากล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ผู้ที่บรรลุระดับมาสเตอร์ในเจตจํานงทั้งหมดแล้ว สามารถสอนผู้อื่นเพื่อเพิ่มความเข้าใจในเจตจํานงนั้นๆได้”
” เข้าใจแล้วครับ…”
ผู้อาวุโส ริเขน ปัดมือของเขาในแนวนอน ซึ่งนโฮโลแกรมปรากฏขึ้นที่นั่นและพูดด้ว ยรอยยิ้มว่า “ให้ฉันตรวจสอบเจตจํานงที่เข้าใจในปัจจุบันของคุณก่อน”
จากนั้นเขาก็หันความสนใจไปที่โฮโลแกรมและเริ่มพิมพ์ ” ทีม เจตจํานงแห่งไฟและน้ําในระดับขั้นสูงแล้วหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น คุณได้บรรลุระดับกลางในเจตจํานงธาตุสายฟ้า ดิน ไม้ อากาศ ความมืด เลือด แสง อวกาศ และเจตจํานงระดับเริ่มต้นมีเพียงอย่างเดียวคือเจตจํานงของเงาสินะ
จากนั้นเขาก็มองไปที่เอธานและพูดด้วยรอยยิ้มว่า ” ดูเหมือนว่าความเร็วในการเข้าใจของ คุณจะเร็วมากเจตจํานง 9 แบบที่ระดับกลางและ 2 แบบที่ระดับสูง คุณแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มคนของขั้นนี้แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า”
เขาไม่ได้พูดถึงเจตจํานงเงาเลย เนื่องจากมันเป็นเพียงระดับเริ่มต้น
หลังจากนั้น เขามองไปที่หน้าจออีกครั้งและพูดว่า “สําหรับเจตจํานงลึกลับ คุณเข้าใจแล้ว 2 อย่างและหนึ่งในนั้นอยู่ที่ระดับสูงแล้ว ในขณะที่อีกอันอยู่ที่ระดับกลาง ”
เขาไม่สามารถซ่อนความตกใจในขณะที่คิดว่า ภายในเดือนเดียวคนๆนี้ทําได้ขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ชะตากรรมของเขาดวุ่นวายและกว้างไกลสําหรับฉัน
แต่เอชานรู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อเร็วๆ นี้ฉันเข้าใจเจตจํานงของเลือดที่ระดับหลาง ในขณะที่เจตจํานงของ น้ําแข็งและเงา อยู่ที่ระดับ เริ่มต้น ยิ่งไปกว่านั้น ฉันเข้าใจเจตจํานงลึกลับ 3 อย่างและทั้งหมดนั้นอยู่ในระดับขั้นสูง ยิ้ม ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ถูกบันทึกผ่าน Digiband ของฉัน สินะ
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งเมื่อมาถึงบทสรุป จนถึงตอนนี้ เจตจํานงเดียวที่ Digband บันทึกไว้ได้คือเจตจํานงที่ฉันใช้ ฉันเข้าใจแล้ว”
“ ผู้อาวุโส ริเขน เป็นไปได้ไหมที่จะซ่อนความคืบหน้าจาก Digibandไว้?” เอธานถามเพราะมันสําคัญมากสําหรับเขา
เมื่อได้ยินคําถามของ เอธานผู้อาวุโส ริเขน ก็หัวเราะและพูดว่า “คุณกลัวว่าคุณจะประสบปัญหา หากครูคนอื่นเห็นความคืบหน้าอย่างรวดเร็วของคุณใช่ไหม”
เอธานยิ้มอย่างเชื่องช้าและพยักหน้า
ไม่ต้องกังวล แม้ว่าฉันจะตกใจกับความคืบหน้าของคุณ ฉันไม่กังวลเลยตั้งแต่คุณรับคําสาบานนั้น นอกจากนี้ ในอะคาเดมีทั้งหมดนี้ มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่สามารถตรวจสอบรายละเอียด ของนักเรียนที่เก็บไว้ใน Digiband ทั้งนี้การทดสอบ, มิชชั่น, และรางวัล มันถูกควบคุมโดย A1 ทั้งหมด”
“ นอกจากนี้ Digiband นี้สามารถสัมผัสได้ถึงเจตจํานงเพียงเท่านั้น ดังนั้นเมื่อคุณไปถึงขั้น Genesis Conceptual Planes และขั้นอื่นๆเพิ่มเติม จะไม่มีการภารกิจหลัก แต่จะมีเพียง ภารกิจประเภทต่างๆ เท่านั้น”
เอธานพยักหน้าเมื่อได้ยินว่าในขณะที่เขามั่นใจและโล่งใจก่อนจะพูดว่า “แล้วเจตจํานงอะไรที่ ท่านจะสอนผมล่ะ?”
“เริ่มที่ เจตจํานงแห่งสายฟ้าก่อน”
เมื่อเหลือเวลาอีกเพียง 2 ชั่วโมงก่อนภารกิจ เอธานเข้าใจเจตจํานงสายฟ้า ถึงขั้นสูง ในขณะเดียวกันก็ทําให้ผู้อาวุโสริเขน ตกตะลึงในเวลาเดียวกัน
” ด้วยการช่วยเหลือของฉัน เขาใช้เวลาเพียง 2 วันในการรัเจตจํานงแห่งสายฟ้าขั้นกลางเป็นระดับสูง? ที่นี้ ที่ใจจริงๆที่สัตว์ประหลาดตัวนี้เป็นมนุษย์ “
เขายังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ในขณะที่เขามองเห็นอนาคตที่ดีกว่า
” เอาล่ะ ตอนนี้รอรับการแจ้งเตือนภารกิจ และทําอย่างดีที่สุดหลังจากเข้าไป “
เอธานพยักหน้า ในขณะที่เขาประหลาดใจเช่นกันที่เจตจํานงของสายฟ้าของเขาเปลี่ยนจากระดับกลางเป็นระดับสูงในเวลาเพียง 2 วัน
ผ่านไปเพียงชั่วพริบตา 2 ชั่วโมงผ่านไป เมื่อเอธานได้รับการแจ้งเตือน
[ภารกิจใหม่ ]
[ ภารกิจร่วมกันที่จัดขึ้นโดย มีเรียต สตาร์ อะคาเดมีและ ซิลเวอร์สฟอะคาเต็มๆ
– ระยะเวลา: 3 วัน
– รางวัล: จาก 200 เครดิต เป็น 1,000 เครดิต
[ หากคุณไม่ยอมรับภารกิจนี้ภายใน 1 ชั่วโมง ภารกิจจะถูกริบโดยอัตโนมัติ ]
เอธานยอมรับภารกิจในขณะที่เขาเห็นผู้อาวุโส ริเขน พยักหน้าให้เขา
หลังจากนั้น เขาก็มาถึงสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยในโลกเสมือนจริง พื้นดินเป็นหมันและดูเหมือนเวลาเที่ยง
สถานที่นี้เต็มไปด้วยผู้คนในวัยเดียวกับเขา เนื่องจากมีนักเรียนเข้ามามากขึ้นทุกวินาที
เสียงดังก้องกังวานหลังจากผ่านไป 5 นาที
[ นักเรียนชั้น Origin Plane ที่ลงทะเบียนทั้งหมดมาถึงแล้ว การจับคู่จะเสร็จสิ้นใน 1 นาที ]
[ 0:59 ]
[0:58 ]
[ 0:57]
1 นาที่ผ่านไปเมื่อเอธานเห็นโฮโลแกรมเล็กๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
[คู่หูของคุณคือ อเวเลีย เซนฟอร์ด]
[ คุณจะถูกส่งไปยังหอพักชั่วคราวของคุณใน 3 วินาที ]
[ 3 ]
[2]
[1]
[0]
เมื่อการนับถอยหลังมาถึง 0 เอธานก็มาถึงห้องว่างขนาดกลาง
“ ดังนั้นนายก็คือคู่ของฉันสําหรับภารกิจร่วมกันในครั้งนี้สินะ”
เมื่อได้ยินเสียงจากข้างหลังเขา เอธานก็หันกลับมาเมื่อเห็นหญิงสาวผมยาวสีเงินและหน้าตาสวยงาม
เธอสูงน้อยกว่าเอธานเล็กน้อย และมีหน้าอกคัพ E และเอวเพรียว เธอมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบที่ทําให้เธอดูสวยมาก
สิ่งที่โดดเด่นคือผมและขนตาของเธอเป็นสีเงินและผิวของเธอไม่มีจุดเดียวเพราะมันสะอาดเหมือนแสงจันทร์
เอธานรู้สึกมึนงงเล็กน้อย เมื่อเห็นความงามของเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ฟื้นคืนสติขึ้นมาอีกครั้ง ในขณะที่เขาแสดงสีหน้าเฉยเมย ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ฟุ้งซ่าน ฉันจะต้องไปถึงระดับ Sout Altar Plane ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้เพื่อปลดปล่อย เทียน่าจากวังวนสีดํา
ทันใดนั้นโฮโลแกรมก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทั้งคู่
[ งานแรกของคุณคือกอบกู้หมู่บ้าน ]
– จํานวนผู้เสียชีวิตไม่ควรเกิน 10
– รางวัล: ??? มันจะถูกตัดสินโดยผลงานของคุณ
[ ในการเริ่มต้นงานนี้ คุณและคู่ของคุณจะต้องกดปุ่มเริ่มต้น ]
เอธานเห็นไอคอน [ เริ่มต้น 1 ที่ด้านล่างและกดมันก่อนที่จะมองไปที่อเวเสีย
เธอยังมองไปที่เอธานและถามว่า “ทําไมนายดูรีบร้อน”
” เรามาเริ่มและจบงานนี้กันเถอะ ” เอธานส่ายหัวและกระตุ้นให้เธอเริ่มต้น
“ ได้เลย “ เมื่อพูดแบบนี้แล้ว อเวเสีย ก็กดไอคอน [ เริ่มต้น ] ด้วย
ทิวทัศน์รอบตัวพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อมาถึงหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีบ้านไม้
หมู่บ้านนี้เล็กมากเพราะมีบ้านเพียงประมาณ 30 หลังเท่านั้น
ผู้คนในหมู่บ้านต่างตกใจเมื่อเห็น เอธานและ อเวเลีย ปรากฏตัวขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้
แต่ไม่ถึงวินาทีต่อมา พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนอย่างช้าๆ แต่ก็เพิ่มความเข้มขึ้นทุกวินาที
อเวเลียขมวดคิ้วและพูดว่า “ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มแล้ว พวกเขาไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เรา กําลังเผชิญเลยด้วยซ้ํา”
เอธานบินขึ้นไปโดยตรงและตะโกนเสียงดังโดยใช้พลังงานลม “คนในหมู่บ้านนี้ มารวมกันที่นี่ ทันที ถ้าเจ้าไม่อยากตาย”
ผู้คนในหมู่บ้านต่างตื่นตระหนกเพราะการสั่นสะเทือนบนพื้น ดังนั้นหลังจากที่พวกเขาได้ยินเสียงของ เอธานพวกเขาตื่นตระหนกเล็กน้อยแต่ก็รวมตัวกันเข้าหาพวกเขาทันที
หลังจากเห็นสิ่งนี้ เอธานมองไปที่อเวเสียและพูดว่า “เธอมีเวทมนตร์ป้องกันที่ทรงพลังหรือ
อเวเสียพยักหน้าและโดยที่เอธานไม่พูดอะไร เธอโบกมือขณะที่มีบางสิ่งเริ่มก่อตัวขึ้นรอบๆ ชาวบ้านที่รวมตัวกัน
ขณะทํา เธอพูดกับชาวบ้านที่ชุมนุมด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันจะใช้เวทมนตร์สร้างบาเรียรอบๆ ตัวพวกคุณ อย่าตกใจและอยู่ตรงนั้นก่อนนะคะ ถ้าพวกคุณออกมาจากบาเรีย คุณอาจจะจะตายได้ อย่าออกมานะคะ”
เอธานมองดูคาถาที่เกิดจากอเรเลีย และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเพราะเขาสัมผัสได้ถึงธาตุอวกาศและอากาศของเจตจํานงระดับกลาง และเจตจํานงแห่งเสียง
บาเรียนั้นมีเพียงเส้นขอบฟ้าที่หยาบกร้านและเอธานรู้สึกว่ามันไม่ใช่บาเรียธรรมดา
หลังจากที่เธอทําเสร็จแล้ว เธอมองไปที่ เอธานและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือ บาเรียแห่งควา มก้าวร้าว ที่ทรงพลังที่สุดของฉัน มันสามารถปกป้องผู้คนภายในและหารโจมตีที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญได้ บาเรียจะปล่อยคลื่นกระแทกของอากาศผสมกับพื้นที่และระลอกเสียง ”
เอธานพยักหน้าด้วยใบหน้าเรียบๆ ก่อนเขาจะโบกมือและสร้างเรือนจํานับไม่ถ้วน จากธาตุแสงจํานวนมหาศาลไว้บนบาเรียของเธอ
อเวเสียขมวดคิ้วและพูดว่า “ทําไมนายถึงทําอย่างนั้น”
“ไม่แยนี่นา ที่จะทํามาตรการป้องกันมากขึ้น
คําพูดของ เอธานถูกตัดขาดด้วยเสียงคํารามอันทรงพลังเมื่อพวกเขาเห็นสัตว์ร้ายสี เขียวขนาดยักษ์บินตรงมาทางพวกเขา
สัตว์ร้ายนั้นดูเหมือนไลเกอร์ที่มีปีกสีเขียว
เอธานมองดูมันก่อนที่จะชี้มือไปทางมันและปล่อยชอตของพลังงานไม้
เขาตัดสินใจเลือกพลังงานไม้ก่อน เนื่องจากต้องใช้พลังงานไฟและอากาศสําหรับขั้นตอนการระเบิด พลังงานอวกาศสําหรับระลอกคลื่นอวกาศ พลังงานดินสําหรับโกเลม และพลังงานเลือดสําหรับสิ่งกีดขวางเกลียวเลือด
การสั่นสะเทือนเพิ่มขึ้นมากยิ่งขึ้นเมื่อสัตว์เดรัจฉานเริ่มปรากฏขึ้น
สัตว์ภาคพื้นดิน 3 ตัวและสัตว์ป็น 4 ตัวมาจากด้านซ้าย ในขณะที่พวกสัตว์ภาคพื้นดิน 4 ตัว และสัตว์บิน 2 ตัวมาจากด้านขวา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เอเธนก็กล่าวว่า “ฉันจะจัดการกับสัตว์ร้ายทางซ้าย ส่วนเธอก็จัดการทา งด้านขวาหลังจากฉันฆ่าเสร็จแล้ว ฉันจะช่วยเธอ” พูดอย่างนั้น เขาก็เรียกโกเลมดินมา 3 ตัว ปล่อยให้พวกมันยืนเฝ้าอยู่รอบ ๆ ชาวบ้าน
อเวเลี้ยสูดลมหายใจและพูดว่า “ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนาย แต่นายสามารถขอความช่วยเหลือจากฉันได้ หากนายรู้สึกลําบาก” หลังจากพูดแบบนี้ เธอก็เริ่มเคลื่อนไหวในขณะที่ คิดว่าดวงตาของเขาเป็นอะไร? ทั้งๆที่เห็นผมสวยแบบนี้ของฉันแล้วยังทําหน้าแบบนั้น? เป็นไปได้ไหมที่เขาชอบผู้ชายนะ? ไม่ ไม่ฉันเห็นเขาเข้าสู่ความงุนงงเป็นเวลาเสี้ยววินาที เมื่อเขาเห็นฉันเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ฉันจะแสดงให้เขาเห็นว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหนในงานนี้ “
สัตว์ร้ายที่อยู่ใกล้ที่สุดตรงหน้าเธอดูเหมือนกบ แต่มีของเหลวสีเหลืองทั่วร่างกาย เธอขมวดคิ้ว เมื่อเห็นมัน และน้ําพัดสีเงินที่พับออกมาแล้วโบกมือไปทางสัตว์ที่เหมือนกับ
โพรเจกไทล์หมุนวนที่เกิดจากไฟและพลังงานมีดที่ปล่อยออกมาจากพัดซึ่งทําให้สัตว์ที่เหมือนกบกลายเป็นแสงสีขาว
เธอยิ้มเมื่อเห็นสิ่งนี้และมองย้อนกลับไปเพื่อดูว่าเอธานกําลังทําอะไรอยู่
แต่เมื่อเธอหันกลับมา เธอเห็นสัตว์ร้ายกลายเป็นแสงสีขาวซึ่งทําให้เธอตกใจ
แน่นอน สาเหตุของความตกใจคือไม่มีสัตว์ร้ายอื่นใด นอกจากที่เธอเห็นว่าพวกมันได้กลายเป็นแสงสีขาวไปแล้ว
“มันเป็นไปได้ยังไงกัน??
ไม่ถึงนาทีที่แล้ว ตอนที่เอธานไปเผชิญหน้ากับสัตว์ร้าย
เขาปล่อยคาถา Impact Scatter (อิมแพ็ค สแศชเชอร์) และควบคุมกระสุนขนาด เล็กด้วยพลังงานอวกาศและพลังเวทย์มนตร์เพื่อโจมตีสัตว์ร้ายในหัวอย่างแม่นยํา ซึ่ง ทําให้พวกมันกลายเป็นแสงสีขาวทันทีแต่สัตว์ร้ายตัวหนึ่งค่อนข้างแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นสัตว์ที่มีเกราะเหมือนแรกดังนั้น เอธานจึงปล่อย Impact Shot เพื่อเอาชนะ ซึ่งอเวเลียได้เห็นเหตุการณ์นั้น
สัตว์เหล่านี้เป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานต้นกําเนิดระดับ 2 ดังนั้นพวกมันจึงถูกสังหารด้วย Impact Scatter 1 นัด
อเวเสียที่ตกใจได้ยินเสียงจากด้านหลังเธอและหันหลังกลับก่อนที่จะปล่อยขีปนาวุธประเภทเกสียวเดียวกันอย่างเร่งรีบเพื่อเอาชนะสัตว์ร้าย
แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีเวลาพักผ่อน เนื่องจากคลื่นของสัตว์ร้ายที่ทรงพลังยิ่งกว่ากําลังมาถึงอีกระลอกหนึ่ง
*โฮวววววววววววว *
ตอนที่ 86: ภารกิจร่วมกันกับชิลเวอร์ลีฟอะคาเดมี่
หลังจากกลับถึงบ้าน เขากินยาเม็ดต้นกําเนิดของเลือดก่อนเพื่อรับค่าความสัมพันธ์ทางสาย เลือดซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที
หลังจากนั้น เขาเริ่มเข้าใจเจตจํานงของน้ำแข็งและเลือด
หลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมง เขาได้เข้าใจทั้งเจตจํานงแห่งน้ําแข็งและเลือดในระดับเริ่มต้นแล้วซึ่งกระตุ้นการกลั่นร่างกายอีกรอบคิ้วยคริสตัลของพวกมันเอง
ตอนนี้ร่างกายของเขามีพลังมาก หลังจากการกลั่นร่างกายทั้งหมดที่ทําด้วยคริสตัลเมื่อเร็ว ๆ นี้แล้ว
<โอบน>
-> ขั้นกลางของ Origin Intent Plane ( ต้องการ เจตจํานงลึกลับ และ เจตจํานงธาตุ ที่ขั้นสูงเพื่อเลื่อนเป็นระดับ Advanced Stage of Origin Intent Plane)
<สถิติ>
ความแข็งแกร่ง: 100+( 20+20+10+10+10) => 170
ร่างกาย: 100+( 20+20+10+10+10) => 170
จิตใจ: 20+( 10+10+15+15] => 70 ( พลังลึกลับ )
<-เจตจํานงของธาตุ->
-ระดับเริ่มต้น:
[ น้ําแข็ง เลือด เงา ]
-ระดับกลาง:
[ สายฟ้า ดิน ไม้ อากาศ มีต สว่าง อวกาศ]
-ระดับสูง:–>[ไฟ, น้ํา ]
<-เจตจํานงลึกลับ->
ระดับเริ่มต้น ->[ – ]
-ระดับกลาง->[เจตจํานงขับไล่ เจตจํานงแรงดึงดูด ]
สถานะ Digiband
< โอบาน >
– เครดิต: 7
[ภารกิจ : ไม่มีในขณะนี้ (ใน 14 วัน )
[การทดสอบหลัก ]: ทําความเข้าใจเจตจํานงลึกลับ ในระดับสูง จํากัด เวลา : 1.5 ปี )
รางวัล: 60 เครดิต )
{การสร้างแนวคิต }
< โลกเสมือน >
การเข้าถึงปัจจุบัน มีเรียต สตาร์ อะคาเดมี่
” อันดับแรก ฉันจะนาเจตจํานงของแรงดึงดูดและเจตจํานงของการขับไล่ ให้ไปถึงขั้นสูงก่อน และทําการทดสอบให้เสร็จก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะทําอย่างไรต่อไป “
เอธานหลับตาลง เข้าสู่ความลึกของวังวนสีดําและเริ่มเข้าใจเจตจํานงลึกลับ
หลังจากผ่านไป 1 วัน เอธาน ก็ลืมตาขึ้นด้วยท่าทางประหลาดใจและคิดว่า ทําไมรู้สึกเหมือนพลังในการเข้าใจของฉันเพิ่มขึ้น? “
จากนั้นเขาก็หยุดทําความเข้าใจเจตจํานงของการขับไล่ และเริ่มเข้าใจเจตจํานงของเลือด แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงเขาก็สับสนอีกครั้งเพราะพลังการเข้าใจของเขากลับมาเป็นปกติเมื่อเขาเข้าใจเจตจํานงของเลือด
เมื่อมองข้ามสถานการณ์นี้ไป เขายังคงใช้เจตจํานงแห่งการขับไล่และใช้เวลาทั้งหมด 2 วันครึ่งในการทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งการขับไล่ในระดับขั้นสูง
คล้ายกับ เจตจํานงของการขับไล่ เขาใช้เวลาเพียง 2 วันครึ่งในการไปถึงระดับสูงของเจตจํานงของแรงดึงดูด
หลังจากนั้น เขาได้สร้างพื้นที่ของการขับไล่โดยใช้พลังเวทย์มนตร์ของเขา เพื่อทําการทดสอบหลักให้เสร็จสิ้น
[การทดสอบหลักเคลียร์ > รางวัล: 120 เครดิตที่ได้รับ ]
[การทดสอบหลักใหม่ ]: ทําความเข้าใจเจตจํานง 2 แบบของธาตุที่ระดับมาสเตอร์ 3 ราง วัล: 250 เครดิต ( จํากัดเวลา: 6 ปี )
หลังจากตรวจสอบการทดสอบใหม่ เอธาน ไม่ได้เริ่มทําความเข้าใจกับเจตจํานงของธาตุ แต่เขาเริ่มฝึกวิธีการไหลของสายเลือด
เมื่อเขาเริ่มฝึกวิธีของการไหลของสายเลือด พลังนั้นก็ไหลไปที่สองมือ ขาทั้งสอง และ อกของเขา
พลังงานไหลเวียนของสายเลือดจะไหลในรูปแบบเชือกเกลียว 2 เส้นในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและมีเพียง 2 คาถา ทั้ง 2 เป็นคาถาการป้องกัน
แบบ 1 คือ เกราะเกลียวเลือด ซึ่งสามารถใช้ได้ในขั้นเริ่มต้น และอีกอันคือ เกราะเลือดซึ่งสา มารถใช้ได้หลังจากเชียวชาญขั้นสูงของวิธีการไหลของสายเลือด
เกราะเกลียวเลือต สร้างเกราะป้องกัน ที่มีเส้นเกลียวเลือกถักทอเข้าหากัน เพื่อสร้างการป้อง กันที่ทรงพลัง ในขณะที่ เกราะเลือด เป็นเกราะเลือดที่ซับซ้อนกว่าซึ่งครอบคลุมทั้งตัวของ เอธาน ยกเว้นส่วนหัวและเพิ่มลักษณะทางกายภาพต่างๆ
หลังจากที่เอธานดูข้อมูลและวิธีการเสร็จแล้ว เขาก็เริ่มฝึกมัน และใน 1 วันครึ่ง เขาได้เสร็จสิ้นการควบคุมขั้นตอนเริ่มต้นของวิธีการไหลของสายเลือดและสามารถใช้เกราะเกลียวเลือดได้ อย่างง่ายดาย
แต่เขาไม่ได้ฝึกฝนสิ่งนี้ต่อไปและเริ่มฝึกฝนวิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact เพื่อฝึกฝน ขั้นพีค (มีการเปลี่ยนแปลงจากผู้แต่งเรื่องค่ะ!! แทนที่จะเป็น ขั้นมาสเตอร์ จะเป็น ขั้น พีค แทนค่ะ)
ดังนั้นเอธานจึงเริ่มฝึกขั้นฟิคของกระบวนท่าการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact
ค่าสถานะร่างกายในปัจจุบันของเขาทําให้เขาสามารถใช้วิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact , ระลอกคลื่นอวกาศ และ การไหลของสายเลือดได้พร้อมกัน
หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนของขั้นพี่คของวิธีการไหลพลังงานแบบ Broken Impactแล้ว เอธานก็ลงมือปฏิบัติจริง
ในการเริ่มฝึกขั้นพีคของวิธีนี้ ต้องใช้ 80 ค่าความแข็งแกร่ง และ 80 ค่าของร่างกาย แต่เนื่อง จาก เอบานจะใช้วิธีการไหลของพลังงาน และคาถาอื่นด้วย เขาจึงต้องการ 160 ค่าความแข็งแกร่ง และ 160 ค่าของร่างกายที่เขามีอยู่แล้วดังนั้นจึงไม่มีปัญหาในการฝึกฝน
หลังจากผ่านไป 2 วัน เขาสามารถใช้วิธีการไหลขณะนั่งสมาธิได้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มควบคุมขั้น พีคของมัน โดยใช้ขณะขึ้น วิ่งและทําท่าต่อสู้ต่างๆ
หลังจากใช้เวลา 4 วัน ในที่สุดเขาก็เชี่ยวชาญขั้นตอนสูงของวิธีการไหลแบบ Broken Impact
คาถาการระเบิดของเขามีพลังมากกว่าเดิม 2 เท่า และเมื่อเขาใช้พลังไฟหรือพลังน้ําเพื่อใช้คาถาการระเบิด พวกมันจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เมื่อเขาเข้าใจระดับไฟและเจตจํานงน้ำขั้นสูงแล้ว
หลังจากที่เขาทําเสร็จแล้ว เขามองไปที่ Digiband ของเขา
นี้ เฮปาน
– เครดิต: 67
[ภารกิจ ]: ไม่มีในขณะนี้ (ใน 7 วัน )
[การทดสอบหลัก ]: ทําความเข้าใจเจตจํานงของธาตุ 2 แบบที่ระดับมาสเตอร์->รางวัล 250 เครดิต (จํากัด เวลา : 6 ปี )
{การสร้างแนวคิด )
< โลกเสมือน >
การเข้าถึงปัจจุบัน มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี
“ฉันยังมีเวลาอีก 7 วันในภารกิจต่อไป ยืม ฉันจะต้องเข้าใจเจตจํานงลึกลับใหม่แต่อัน ไหนล่ะ?”
เอธานคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจเข้าใจเจตจํานงของแรงดึงดูดแต่เขามีคําถามหนึ่งเกี่ยวกับมัน คือ “ แรงโน้มถ่วง หมายถึงแรงดึงและแรงกดแสดงว่าแรงนั้นก็ถึงและกดด้วย แล้วทําไมทั้ง 2 ปี คงมีเจตจํานงที่ต่างกัน “
– เขามาจากโลกและรู้เกี่ยวกับทฤษฎีแรงโน้มถ่วง แรงดึงดูดสากลที่กระทําระหว่างสสารทั้งหมด…เดี๋ยวก่อน สสาร? ฉันเห็น
ดูเหมือนว่าเขาจะบรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์ เขาเข้าใจความแตกต่างระหว่างเจตจํานงของการดึงดูดและเจตจํานงของแรงโน้มถ่วง
แรงโน้มถ่วงใช้ได้เฉพาะกับสสาร สิ่งของที่มีมวลแต่แรงดึงดูดนั้นกว้างกว่า มันสามารถดึงดูด สิ่งที่ไม่สําคัญและไม่มีตัวตนด้วยอาจส่งผลต่อพลังเวทย์มนต์ พลังงานที่ไม่มีตัวตน เช่น เงาและ วิญญาณ และสิ่งอื่น ๆ ที่อ่อนแอต่อแรงโน้มถ่วง
เอธานใช้เวลาเพียง 3 วันจากเจตจํานงแรงโน้มถ่วงขั้นแรกเพื่อทําให้มันไปถึงขั้นสูง
หลังจากที่เขาทําเสร็จแล้ว เขายังมีเวลา 4 วัน
“ จําได้ว่าฉันเพิ่งจะเข้าใจเจตจํานงของสายเลือด ถึงระดับกลาง เพื่อทําให้เกราะเกลียวเลือดแข็งแกร่งขึ้นอีกเล็กน้อยเนื่องจากเป็นคาถาป้องกันที่ดีเพียงอย่างเดียวที่ฉันมี ”
เอบานจึงได้เริ่มฝึก
หลังจากผ่านไป 2 วันครึ่งเขาก็เข้าใจเจตจํานงแห่งเลือดในระดับกลาง และลุกขึ้นยืนก่อนจะเข้าไปในบ้านของเขา
“เฮ้อ ถ้าเทียน่าอยู่ที่นี่ เธอจะทําอาหารอร่อยๆ ให้ฉันได้กินไปแล้ว” เอธานถอนหายใจ เอ ธานเดินไปที่ห้องครัวและย่างปลาด้วยเครื่องปรุงรสก่อนจะกิน
ขณะที่เขากําลังกินผลไม้ ประตูมิติปรากฏขึ้นใต้เขาขณะที่เขาก้มลงพร้อมกับลืมตาเบิกกว้าง และผลไม้อยู่ในปากของเขา
เมื่อเขาปรากฏตัว เอธานก็ทรุดตัวลงบนพื้นของเขา ขณะที่ผู้อาวุโสริเชนกําลังเดินมา
“ฮ่าฮ่า ขอโทษที่เรียกคุณมากระทันหันแบบนี้นะ แต่มีเรื่องเล็กน้อยที่ฉันอยากจะพูดเกี่ยวกับภารกิจต่อไปของคุณน่ะ”
เอธานหันกลับมาและเห็นว่าผู้อาวุโสริเขนนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยรอยยิ้ม
หลังจากกินผลไม้แล้ว เขาก็ลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้ก่อนพูดด้วยความเคารพ “แล้วภารกิจต่อไปล่ะ”
“ภารกิจต่อไปที่คุณจะได้รับนั้นค่อนข้างยุ่งยาก เหตุผลที่ใช้เวลา 1 เดือนสําหรับภารกิจก็คือ มันเป็นภารกิจร่วมกันระหว่างนักเรียนชั้น Origin Intent Plane ชุดใหม่ของ มีเรียต สตาร์ อะคา เคมีและ ซิลเวอร์ลีฟอะคาเดิม โดย ทริคกี้ฉันหมายความว่ามีรางวัลที่ซ่อนอยู่บางอย่างที่จะไม่ถูกกล่าวถึงและมอบให้กับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษเท่านั้น ดังนั้นจะเป็นการดีที่สุดหาก คุณพยายามทําให้ดีที่สุด ๆ
เอธานพยักหน้าและถามด้วยความสงสัย “แต่ภารกิจร่วมกันจะเป็นอย่างไร เราต้องออกจา กอะคาเดมี ไหม”
ผู้อาวุโสริเขน ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ มันจะจัดขึ้นในโลกเสมือนจริง ทุกคนจะสามารถเข้าถึงที่ นที่ใหม่ได้ชั่วคราวและในวันที่มีมิชชั่น คุณจะต้องจับคู่กับนักเรียนของ ซิลเวอร์สอะคาเดมีเพื่อจบงานเล็ก ๆ ต่างๆ เป็นเวลา 3 วัน ผลลัพธ์จะตัดสินจากหลายปัจจัย เช่น การต่อสู้ การตัด สิ้นใจ ฯลฯ
“แต่ทําไมพวกเขาต้องการทําภารกิจแบบนี้?”
เอธานไม่รู้ว่าทําไมพวกเขาถึงจัดงานแบบนี้เหมือนเป็นภารกิจ
ผู้อาวุโสริเขน ยิ้มและกล่าวว่า “มีหลายสาเหตุ เช่น การดูความสามารถของนักเรียนชั้น Origin Intent Plane ชุดใหม่ และวิธีที่พวกเขาทํางานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวได้ ในอนาคต คุณจะต้องสร้าง ทีมละ 5 คนออกสํารวจพื้นที่อากาศที่ไม่ได้สํารวจ ดังนั้นภารกิจร่วมกันประเภทนี้ จะมีบ่อยๆในอนาคต แน่นอนว่า มันยังอีกยาวไก ก่อนที่คุณจะมีสิทธิ์สร้างทีมของคุณเองเพื่อ สํารวจแต่เราให้นักเรียนฝึกฝนในระยะแรกเพื่อจะได้เตรียมพร้อมในอนาคต”
หลังจากนั้น สีหน้าผู้อาวุโสริเชนก็จริงจังขึ้นพร้อมกับพูดว่า “ภารกิจครั้งนี้เป็นคู่ แต่ระหว่าง ทําภารกิจคุณต้องเป็นผู้นําและแสดงความเป็นผู้นําและคุณสมบัติอื่นๆ ของคุณให้มากขึ้น และหากคุณไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว ก็ให้เริ่มฝึกจากภารกิจร่วมกันครั้งนี้ให้ได้”
เอธานมีสีหน้าครุ่นคิตจากภายนอก แต่ภายในใจเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิดว่า เป็นผู้นํางั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสริเชนมีแผนบางอย่างสําหรับฉัน ?
ตอนที่ 85: ผู้อาวุโสริเชน
เอธานเดินไปที่ร่างของเธอและเห็นว่าหัวใจของเธอหยุดเต้น
…
ภายในวังวนสีดำ มีมี่ก็แยกย้ายกันไประหว่างเมฆและพูดว่า “ตอนนี้มีมี่รู้สึกอ่อนแอมาก ดังนั้นมีมี่ก็จะนอน พี่สาวสามารถฝึกฝนที่นี่ต่อไปได้ มีมี่จะช่วยให้คุณแข็งแกร่งขึ้นเหมือนพี่ชายผู้พิทักษ์” พูดแบบนี้เธอโบกมือ มือซ้ายเล็ก ๆ ของเธอไปทางทะเลสาบขณะที่น้ำบางส่วนมาถึงมีมี่ ซึ่งเธอดื่มและนอนบนเตียงของเธอ
ปากของ เทียน่า อ้าปากค้าง เมื่อเห็นชัดเจนว่ามีมี่กำลังทำลายจิตวิญญาณของสเตลล่าด้วยการโบกมือของเธอ
…
ด้านนอก ในขณะที่สเตลล่าเสียชีวิต หลายคนในอะคาเดมี่ตื่นตระหนกมาก
ปรมาจารย์ของสเตลล่าและครูผู้สอนที่คอยดูแลแผ่นจารึกวิญญาณของนักเรียนที่อยู่ในขั้น Profound Domain Plane เป็นคนแรกที่ตื่นตระหนก เมื่อพวกเขาหายตัวไปจากที่ที่พวกเขาอยู่และมาถึงบ้านของเอธาน
เมื่อเอธานถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาก็ถูกกระแทกที่พื้นด้วยแรงกดที่รุนแรงยิ่งขึ้น และเริ่มมีเลือดออกทุกหนทุกแห่ง
แต่มันกินเวลาเพียง 2 วินาที ก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้นและความกดดันจะหายไป
“หยุดนะเซแกน”
หลังจากนั้น เอธานก็สามารถมองเห็นชาย 2 คนลงมาจากฟากฟ้า คนหนึ่งดูเหมือนอายุ 40 ด้วยผมสั้นสีม่วงและร่างกายที่แข็งแรง ส่วนอีกคนดูเหมือนชายชราในวัย 60 เศษและมีผมและเคราสีขาว
ชายร่างกำยำที่มีผมสีม่วงจ้องไปที่เอธานก่อนจะพุ่งเข้าหาร่างของสเตลล่า ขณะที่ชายชราผมขาวถอนหายใจก่อนจะมองไปที่เอธานและพูดว่า “นักเรียนคนนั้น ฉันอยากได้ยินเกี่ยวกับทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นที่นี่”
ความรู้สึกของเอธานในตอนนี้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือความโกรธ อย่างแรก เขาถูกสเตลล่าทุบตีและผ่านอะไรมามากมายในระยะเวลาอันสั้น และตอนนี้ชายร่างกำยำที่ขี้ขลาดคนนี้สรุปทุกอย่างโดยไม่พูดอะไร
‘ พวกเขาสามารถปฏิบัติกับฉันเหมือนคนขี้ขลาดเพราะฉันอ่อนแอสินะ ‘
“เจ้าจะโกรธอะไรเจ้าหนูน้อย คนที่ตายไปแล้วไม่ใช่เจ้า แต่เป็นศิษย์ของฉัน” ชายร่างกำยำพูดกับเอธานด้วยความโกรธเล็กน้อยก่อนจะมองดูชายชราผมขาวแล้วกล่าวว่า “ผู้อาวุโสริเชน.. ..”
ผู้อาวุโส ริเชน ขัดจังหวะเขาและพูดว่า “เขาเป็นแค่นักเรียนขั้น Origin Plane และไม่มีทางที่เขาจะฆ่าเธอได้ สาเหตุการเสียชีวิตของเธอก็ผิดธรรมชาติ วิญญาณของเธอออกจากร่างของเธอก่อนที่มันจะถูกทำลาย”
จากนั้นเขาก็มองไปที่เอธานและพูดว่า “พูดในสิ่งที่คุณต้องพูด ถ้าคุณพูดเท็จฉันจะรู้ทันที”
เอธานสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะพูดว่า “ก่อนอื่น ขอตรวจร่างกายอย่างละเอียดก่อนได้ไหม เพราะเธอไม่ใช่มนุษย์”
” ไอ้สารเลวนี่!! อย่ามาล้ำหน้าฉันนะ–“
” หุบปาก!! “
ชายร่างกำยำกำลังจะพูด แต่เขาถูกตัดขาดโดยผู้อาวุโสริเชน ซึ่งโบกมือเพื่อนำร่างของสเตลล่ามาที่เขาและตรวจดู ในขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ใบหน้าของผู้อาวุโสริเชนก็มืดลงเมื่อร่างของสเตลล่าเริ่มเปลี่ยนไป
ในทางกลับกัน เซแกนมีสีหน้าตกใจในขณะที่เขาพึมพำ “อมาร์ฟี…..”
ร่างของสเตลล่าเปลี่ยนไปเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง
สีผิวของเธอกลายเป็นสีชมพูอ่อน และมีหางเล็กๆ โผล่ออกมาจากด้านหลังของเธอ หูของเธอยาวขึ้นเล็กน้อย และมีเสาอากาศสีชมพูบางสองอันปรากฏขึ้นบนหัวของเธอ
ผู้อาวุโสริเชน บ่นพึมพำก่อนที่จะมองไปที่เซแกน และพูดด้วยใบหน้าที่มืดมิด “ดังนั้นอมาร์ฟี คนนี้คือนักเรียนของคุณเหรอ?”
เซแกนสะบัดออกจากความงุนงงและพูดด้วยใบหน้าซีดๆ “ไม่ ไม่ ไม่แน่นอน ถ้าฉันรู้ว่าเธอเป็นอมาร์ฟี ฉันจะฆ่าเธอเอง”
“ไปบอกครูใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วบอกเขาด้วย ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้”
เซแกนพยักหน้าก่อนจะบินออกไปและหายลับไปใน 2 วินาที
ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสริเชนเก็บร่างของสเตลล่าไว้ที่ไหนสักแห่งในขณะที่มันหายไปและมองไปที่เอธาน
“นายต้องไปกับฉัน เพราะฉันต้องถามอะไรอีกหลายอย่าง”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เอธาน รู้สึกเหมือนถูกผูกมัดด้วยบางสิ่งและมีประตูมิติเล็กๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้อาวุโสริเชนซึ่งเอธานถูกบังคับให้เข้าไปก่อนที่ผู้อาวุโสริเชนจะเข้าไปข้างใน
…
ในห้องใหญ่แห่งหนึ่ง เอธาน ก็ปรากฏตัวออกมาจากประตูมิติที่คล้ายกัน
ห้องพักไม่ได้หรูหรา แต่มีต้นไม้อยู่บ้าง ซึ่งทำให้เอธานรู้สึกสบายใจมากเมื่อได้มองดูต้นไม้เหล่านั้น
บรรยากาศของห้องและกลิ่นก็ผ่อนคลายเช่นกัน
“อยู่ที่นี่สักพัก ฉันจะตรวจสอบอะไรบางอย่างก่อนจะมาที่นี่เพื่อถามคำถามคุณ”
เอธาน ได้ยินเสียงจากข้างหลังเขา แต่เมื่อเขาหันหลังกลับ เขาไม่เห็นใครเลยนอกจากกระแสพลังงานอันอบอุ่นที่ห่อหุ้มร่างกายของเขา ขณะที่บาดแผลที่เซแกน ทำร้ายเขา เอธานก็ได้เริ่มรักษา
ผ่านไป 1 นาที อาการบาดเจ็บของเขาหาย และเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากข้างหลังเขาด้วย
เมื่อมองย้อนกลับไป เขาเห็นผู้อาวุโสริเชนเดินเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
“ไปนั่งก่อนเถอะครับ”
เมื่อพูดจบ เก้าอี้ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลัง เอธาน ซึ่งเขานั่งลงก่อนที่ผู้อาวุโสริเชน จะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าเขา
” เริ่มจากจุดเริ่มต้น เกิดอะไรขึ้นกับคู่ของคุณหรือคู่ของคุณอยู่ที่ไหน “
เอธานมองผู้อาวุโสริเชนด้วยสีหน้าจริงจังและกล่าวว่า “ผู้อาวุโส ท่านมีวิธีตรวจสอบสิ่งที่ข้าพูดจริงหรือเท็จ”
“ถ้าจะพูดถึงเทคนิคหรือความสามารถล่ะก็ ผมไม่มี แต่ผมมั่นใจในตัวเองว่าเห็นผ่านๆ ว่าเด็กอายุ 18 พูดจริงหรือเปล่า”
เอธาน สูดหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มพูด “อย่างแรก ฉันจะไม่ได้ทำร้าย เทียน่า และอย่างที่สอง ฉัน…ไม่สามารถบอกคุณได้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่เธอปลอดภัยและจะกลับมาหลังจากที่ฉันก้าวเข้าสู่ขั้น Soul Altar Plane “
ผู้อาวุโสริเชน พยักหน้าด้วยรอยยิ้มจาง ๆ และกล่าวว่า “พูดต่อไป เกิดอะไรขึ้นหลังจากสเตลล่า ปรากฏตัวที่นั่น”
เมื่อเธอมาถึงในตอนแรก เธอถามถึงการหายตัวไปของ เทียน่า ทั้งที่ฉันไม่ได้บอกความจริงกับเธอและตั้งข้อแก้ตัวแบบสุ่มๆ แต่หลังจากนั้น เธอก็ปล่อยหมอกสีชมพูที่เข้ามาในจิตสำนึกของฉันทันที และเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ฉันไม่รู้ ไม่รู้เพราะฉันจำไม่ได้ แต่แล้วเธอก็บุกเข้าไปในดินแดนลึกลับของฉันด้วยจิตวิญญาณของเธอก่อนที่จะถูกฆ่า “
“เธอตายได้ยังไง”
เอธานถอนหายใจด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมพูดให้มันชัดเจนไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าใครก็ตามที่เข้าไปในดินแดนลึกลับของผมจะต้องตาย ผู้อาวุโส ผมพูดความจริง อย่าพยายามทำอย่างเธอ ถ้าท่านตายด้วย แล้วภูเขาของความทุกข์จะเกิดขึ้นกับผม “
” ฮ่า ๆ ๆ ๆ…”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เอธานพูด ผู้อาวุโสริเชนก็เริ่มหัวเราะออกมาดังๆ
หลังจากหัวเราะเล็กน้อย เขาก็มองไปที่เอธานและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สิ่งที่คุณพูดมีทั้งความจริงและเท็จ”
เอธาน เริ่มเหงื่อออกเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าเขาคือคนที่มีอำนาจมากที่สุดที่เขาพบ
“อย่ากลัวไปเลย ในเมื่อเจ้าไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด ข้าจะให้ 2 ทางเลือกแก่เจ้า” เมื่อพูดอย่างนั้น โต๊ะเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นตรงกลางพวกเขา ก่อนที่เขาจะชี้มือไปที่โต๊ะ และกล่องสี่เหลี่ยมก็ปรากฏขึ้น
” ตัวเลือกแรกคือให้อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังทุกวินาทีจนกว่าคุณจะบอกความจริงกับฉัน และในกรณีที่คุณแสดงพฤติกรรมที่น่าสงสัย คุณจะถูกสอบสวน ฉันจะไม่แนะนำตัวเลือกนี้เพราะมันเหนื่อยทั้งคุณและฉันพร้อมกับแผนกความปลอดภัย “
” ตัวเลือกที่ 2 คือกล่องนี้ กล่องนี้บรรจุ ‘ผู้ส่งจิตวิญญาณ’ ส่วนตัวของฉัน สิ่งที่คุณต้องทำคือวางมือซ้ายบนมันและสาบานว่าฉันจะไม่มีวันคิดที่จะทำร้ายมนุษยชาติโดยรวม “
เอธานตกใจ แต่แล้วเขาก็ถามว่า “คุณหมายความว่าฉันไม่สามารถแม้แต่จะต่อสู้กับมนุษย์คนอื่น ๆได้งั้นเหรอ ?”
ผู้อาวุโสริเชน ยิ้มและพูดว่า “คุณสามารถต่อสู้กับมนุษย์คนอื่นและยังสามารถฆ่าได้ หากพวกเขาเป็นศัตรูของคุณ แต่คุณไม่สามารถมีความคิดที่จะทำร้ายมนุษยชาติโดยรวมได้ เมื่อคุณสร้างความคิดเหล่านั้น สิ่งประดิษฐ์นี้จะฆ่าคุณ วิญญาณและคุณจะตายด้วยความตายที่แท้จริง “
เอธานคิดว่า ‘ แน่นอน ฉันไม่เคยคิดที่จะทำร้ายมวลมนุษย์ทั้งหมดเลย ดังนั้นตัวเลือกนี้จึงค่อนข้างง่ายสำหรับฉัน ‘
แต่จู่ๆ เขาก็นึกถึงบางสิ่งและถามว่า “ถ้าคุณมีสิ่งประดิษฐ์แบบนี้ คุณจะใช้มันกับทุกคนไม่ได้เหรอ แล้วเผ่าพันธุ์อื่นจะไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปในสถาบันได้”
ผู้อาวุโสริเชนส่ายหัวและพูดว่า “ถ้าเป็นไปได้ เราก็จะทำไปนานแล้ว วัสดุธรรมชาติที่จำเป็นในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ค่อนข้างล้ำค่าและยากที่จะสร้างขึ้นด้วย เราจึงใช้ได้เฉพาะกับบุคคลสำคัญที่เลือกไว้เท่านั้น คุณต้องรู้ว่าสามารถฆ่าคนจากระยะไกลเพียงเพราะเขาผิดคำสาบานเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ ปกติแล้ว ฉันไม่ควรใช้สิ่งนี้กับคุณ “
“แล้วทำไมคุณถึงอยากใช้มันกับผมล่ะ ผมเป็นแค่นักเรียนขั้น Origin Plane ที่เลวทรามต่ำช้า” เอธาน ถามอย่างสับสน
ผู้อาวุโสริเชนยิ้มและกล่าวว่า “เพราะฉันศึกษาโชคชะตาอยู่ และฉันรู้สึกได้ว่าคุณมีพลังมหาศาลในตัวคุณ ตัวตนในอนาคตของคุณอาจขับเคลื่อนมนุษยชาติให้ก้าวไปข้างหน้าในโลกที่โหดร้ายนี้ แต่ถ้าคุณกลายเป็นศัตรูของมนุษยชาติและก็อาจจะเช่นเดียวกัน สร้างความเสียหายให้กับเรา นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันยินดีที่จะใช้สิ่งประดิษฐ์นี้ “
เอธานมีสีหน้างุนงงขณะถาม “ชะตากรรมอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
“คุณไม่จำเป็นต้องไปยุ่งกับเรื่องนั้นในตอนนี้ ระนาบการดำรงอยู่ของคุณนั้นต่ำเกินไปที่จะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นบอกฉันทีว่าอันไหนคือตัวเลือกของคุณ”
เอธานไม่ลังเลและกล่าวว่า “ทางเลือกที่สอง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนปากของผู้อาวุโสริเชนขณะที่เขาพูด “เลือกได้ดี เอามือวางบนกล่องแล้วท่องสิ่งที่ฉันบอกเธอ”
เอธาน ทำตามที่บอกและหลังจากรับคำสาบาน กล่องนั้นก็ส่องแสงสีขาวเป็นเวลาสองสามวินาทีก่อนที่มันจะสงบลง
ผู้อาวุโสริเชน โบกมือขณะที่โต๊ะและกล่องทั้งสองหายไป
” เอาล่ะ ฉันเสียจุดเดิมของสิ่งประดิษฐ์นี้ไปกับคุณ และช่วยเธอได้มาก ดังนั้นจงทำผลงานได้ดีในการแข่งขันพวกเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งจะจัดขึ้นหลังจาก 9 เดือน หากคุณสามารถแสดงศักยภาพของคุณให้ฉันเห็นได้ ฉันจะรับคุณเข้าเป็น นักเรียนส่วนตัวของฉัน”
เอธานยิ้มและพูดว่า “ในเมื่อท่านรู้ว่าผมมีพลังมหาศาลจากการใช้โชคชะตาบางอย่าง แล้วทำไมท่านไม่รับฉันเป็นนักเรียนส่วนตัวของท่านล่ะ”
ผู้อาวุโสริเชน ยิ้มและโบกมือซึ่งทำให้ประตูปรากฏขึ้นใต้เท้าของ เอธาน ขณะที่เขาเดินไปในพอร์ทัลและหายตัวไป
หลังจากเอธานหายตัวไป ผู้อาวุโสริเชนก็ส่ายหัวก่อนจะถอนหายใจและพึมพำ ” ไอ้หนู ทิศทางและศักยภาพของโชคชะตาของคุณทำให้ฉันกลัว แต่ฉันยินดีที่จะเสี่ยง ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง “
ตอนที่ 84: มีมี่ & เทียน่า ภายในวังวนสีดำ
เอธาน สงบสติอารมณ์และนำพลังงานคริสตัลสีขาวหยดหนึ่งออกจากอาณาจักรพลังจิตของเขา ก่อนที่จะส่งผ่านไปยัง สเตลล่าโดยใช้พลังลึกลับของเขา
เธอมองไปที่หยดของพลังคริสตัลสีขาวอย่างระมัดระวัง แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ส่ายหัวและมองไปที่เอธานก่อนที่จะพูดว่า “เหยียดมือไปข้างหน้า”
เขากัดฟันยื่นมือไปข้างหน้า เขาคิดว่า ‘ ฉันอยู่แบบนี้ไม่ได้ ฉันต้องทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เนื่องจากวังวนสีดำนั้นทำบางอย่างที่เหมือนกับการลบล้างพลังของหมอกสีชมพูนั้น เหตุใดจึงไม่ช่วยฉันทำบางอย่างเกี่ยวกับสัญญานั่นบ้างล่ะ ‘
ความคิดของเขาหยุดลงอย่างกะทันหันเมื่อความเจ็บปวดจู่ ๆ เข้าจู่โจม แต่เขาก็ต้องพบกับกระบวนการที่เจ็บปวดมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่เปล่งเสียงใด ๆ และมองไปยังผู้หญิงนิสัยไม่ดีที่กำลังกรีดมือของเขาด้วยดวงตาที่เย็นชา
“คุณเป็นคนแข็งแกร่งใช่ไหม ที่คิดว่าคุณก็ไม่ยอมส่งเสียง แม้แต่ตอนที่มือของคุณจะถูกตัดก็ตามสินะ” สเตลล่าพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจก่อนจะยิ้มและพูดต่อว่า “ตอนนี้รักษามือของคุณโดยใช้พลังงานนั้นของคุณซะ มันคงจะมีมากกว่านี้ใช่ไหมล่ะ หยดเดียวไม่น่าจะพอรักษาแผลแบบนี้ได้หรอก”
ปัจจุบันเอธานมีพลังงานคริสตัลสีขาวประมาณ 2 ถ้วย ดังนั้นเขาจึงใช้พลังงานนั้น เมื่อมันเดินทางไปที่มือของเขาก่อนที่จะรักษามัน
กระบวนการนี้มีอาการคัน เมื่อกระดูก เนื้อเยื่อ และสิ่งอื่น ๆ เริ่มงอกออกมา
สเตลล่ามอง ขณะที่ดวงตาของเธอเป็นประกายและคิดว่า ‘ ดูเหมือนว่าจะมีคุณสมบัติในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่ฉันก็ยังต้องการตรวจสอบว่าสามารถฟื้นฟูอาณาจักรพลังงานได้หรือไม่ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องหาทาสมนุษย์เพื่อทดสอบสิ่งนี้ ‘
“ฮี่ฮี่ มือใหม่ของคุณรู้สึกยังไงบ้างล่ะ คุณเอธาน” สเตลล่าถาม ขณะหัวเราะคิกคัก
เอธานไม่พูดอะไร เพียงแต่มองมาที่เธอ
“หยุดจ้องเดี๋ยวนี้ คุณทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ” หล่อนหยิบเก้าอี้นั่งสบาย ๆ ออกมานั่งก่อนจะพูดต่อ “รู้มั้ย ว่าคุณโชคร้าย ฉันไม่ได้ดูแลชั้นนอกของอะคาเดมี่เสมอไปหรอก รู้ไหม! ผู้ที่ดูแลที่นี่จะเปลี่ยนทุก 2 ปี ครั้งแรกที่ฉันดูแลภายนอกของอะคาเดมี่ เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ตอนนั้นฉันมีนักเรียนอยู่ 8 คน ฮิฮิฮิ…และตอนนี้พวกเขาตายกันหมดแล้ว”
“ ฉันขอเป็นหัวหน้างานครั้งนี้โดยเฉพาะเพื่อหาลูกศิษย์ใหม่ และคุณคงจะเป็นเหยื่อรายแรกของฉัน” สเตลล่าหัวเราะคิกคักหลังจากพูดแบบนี้
“อ่า พูดดีๆ แบบนี้ก็ดีนะ ฉันเบื่อที่จะทำตัวเป็นผู้หญิงที่สุภาพต่อหน้ารุ่นพี่และครูพวกนั้นแล้ว ถ้ามีโอกาสฉันจะฆ่าพวกมัน”
เอธานขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินเช่นนั้นและคิดว่า ‘ ให้ตายเถอะ นังนี่บ้าไปแล้ว หากฉันหาวิธีแก้ไขสัญญานี้ไม่ได้ในเร็วๆ นี้ แสดงว่านางจะทำเสร็จแล้วสินะ ‘
“ทำหน้าบึ้งทำไม” พูดจบเธอก็โบกมือดึงเอธานเข้าหาเธอก่อนจะตบเขาลงกับพื้นแล้วเหยียบขาเขา
“คุณคิดว่าฉันโหดร้ายหรือเปล่า ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่ เป็นการดีที่ฉันจะฆ่ามนุษย์ได้เพราะ…ฮี่ฮี่ฮี่ ฉันไม่ใช่คนๆเดียวหรอกนะ อ่า ให้ฉันบอกคุณ ภรรยาที่รักของคุณก็ไม่ใช่มนุษย์หรอกนะ , เธอน่าจะเป็นสมาชิก ของเชื้อสายดิชั่น”
ความโกรธปะทุขึ้นภายในเอธานเมื่อเขาถูกเหยียบ แต่เขาก็เย็นลง หลังจากได้ยินสิ่งที่เธอพูด ‘เธอไม่ใช่มนุษย์เหรอ? และเธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรเกี่ยวกับเชื้อสายของพวกดิชั่นอะไรนั่น? เดี๋ยวก่อน เพราะเธอไม่ใช่มนุษย์…’
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของ เทียน่า อีกครั้ง ในขณะที่ดวงตาของเขาเป็นประกายและมีแผนการเกิดขึ้นในใจของเขา แต่ปัญหาใหม่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่เขากำจัดสัตว์ตัวเมียดุร้ายตัวนี้ได้สำเร็จ
‘ ช่างเถอะ ฉันจะคิดถึงปัญหาในอนาคตในภายหลัง อย่างแรก ฉันต้องกำจัดผู้หญิงเลวตัวนี้ที่ไม่ใช่มนุษย์ก่อน ‘
…
ย้อนกลับไปตอนที่ร่างของ เทียน่า ถูกดูดเข้าไปในวังวนสีดำ
ภายในวังวนสีดำ
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดในที่นี้คือ ทะเลสาบสีขาวที่ดูเหมือนน้ำนม เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงเล็ก ๆ และเงายักษ์สีขาวสูง 50 เมตรที่ดูเหมือนเอธาน เงานี้กำลังลอยอยู่ใน ท้องฟ้าปิดตาลง เธอจึงไม่ได้สังเกตในตอนแรก
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ มีลักษณะเป็นมนุษย์และดูอายุประมาณ 8 ขวบ แต่เธอมีอัญมณีสีแดงเข้มที่หน้าผากและมีขนสีแดงเข้ม
ภายใน 5 นาทีหลังจากที่ เทียน่า มาถึง เด็กหญิงตัวน้อยก็ตื่นขึ้น เธอเริ่มเรียกหาพี่สาวคนโตของ เทียน่า และหลังจากคุยกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เทียน่า ก็พบข้อมูลที่น่าตกใจ ต่อมาเธอได้ร่างของเธอกลับคืนมา เมื่อมันถูกดูดกลืนโดยกระแสน้ำวนสีดำ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็โบกมือของเธอและเมฆบางส่วนก็ปรากฏขึ้นก่อนที่พวกเขาจะแสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก
เทียน่า และเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เฝ้าดูขณะที่สเตลล่าถามถึงการหายตัวไปของ เทียน่า ในตอนแรก แต่แล้วสิ่งต่างๆ กลับแย่ลงเมื่อมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย
เทียน่า มองดูมีมี่อย่างอ้อนวอนและถามว่า “มีมี่ เธอช่วยพี่ชายผู้ปกครองของเธอได้ไหม เธอบอกว่าเขาเป็นพี่ชายและเป็นผู้ปกครองของเธอใช่ไหม ดังนั้น เธอควรช่วยเขาใช่ไหม”
“มีมี่ช่วยพี่ผู้ปกครองโดยตรงไม่ได้ แต่พี่ผู้ปกครองจะต้องช่วยมีมี่ในอนาคต แม่กับป๊าจึงเลือกเขาเป็นพี่ผู้ปกครองมีมี่” มีมี่ทำหน้าเศร้าหลังจากนั้นก็พูดว่า “มีมี่คิดอย่างนั้น แม่กับป๊าตกอยู่ในอันตราย มีมี่จำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่เราโดนทำร้ายและต้องจากไป ระหว่างที่เราจากไป จู่ๆ ปะป๊าก็เจอวิญญาณพี่ชายผู้พิทักษ์ เขาทำอะไรบางอย่างที่มีมี่ไม่เข้าใจ แต่มีมี่รู้ พ่อเริ่มอ่อนแอมาก หลังจากนั้นแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งมากก็ตาม “
หลังจากนั้น เทียน่า ก็ตื่นตระหนกและพูดว่า “แล้วเราควรทำอย่างไร ถ้าเป็นเช่นนี้ เอธาน คงจะตาย”
นัยน์ตาโตของมีมี่มองมาที่เทียน่าและพูดว่า “อย่ากังวลไปเลย พี่ชายผู้พิทักษ์จะไม่ตาย แม้ว่าเขาจะถูกฆ่า แต่เขาจะต้องหาร่างใหม่ และจะลำบากมากที่จะช่วยเขาตั้งแต่เริ่มต้น ฉันได้ลองช่วย พี่ชายผู้พิทักษ์ตั้งแต่เริ่มแล้ว ด้วยการเปิดใช้งานลูกบอลสีดำนี้ที่แม่มอบให้ฉัน “
เทียน่าถามอย่างสับสน “หมายความว่าอย่างไร”
มีมี่ชี้ไปที่เงายักษ์บนท้องฟ้าแล้วพูดว่า “นั่นคือวิญญาณของพี่ใหญ่และเขาจะตายได้ก็ต่อเมื่อมีคนทำลายวิญญาณของเขา และวิญญาณของเขายังไม่ตื่นขึ้นจริงๆ ก่อนหน้านี้มันมีขนาดเท่าลูกบอลขนาดเล็กเท่านั้น” แต่หลังจากที่พ่อทำอะไรลงไป มันใหญ่มาก และฉันก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ หลังจากที่แม่ให้ลูกบอลสีดำนี้แก่ฉัน ลูกบอลสีดำนี้สามารถดูดซับพลังงานต่างๆ แล้วให้แรงกลับคืนมาเพื่อให้เขาแข็งแกร่งขึ้น มันมีความสามารถอย่างอื่นอีก แต่ไม่ใช่ตอนนี้ “
“ฉันเข้าใจ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่เราทำได้แล้วเหรอ?” เทียน่าถามอย่างช่วยไม่ได้
มีมี่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าพี่ผู้พิทักษ์พาคนๆนั้น มาอยู่ที่นี่ได้เหมือนพี่ มีมี่ก็จัดการได้ แต่มีมี่จะออกไปยุ่งข้างนอกไม่ได้”
“ขอคุยกับเอธานหน่อยได้ไหม”
“มีมี่อาจจะบาดเจ็บได้นะ เมื่อมีมี่พยายามทำแบบนั้น แต่มีมี่จะทำครั้งเดียว”
เทียน่า ลูบหัวมีมี่และพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พี่ใหญ่จะไม่ปล่อยให้เธอเจ็บมาก”
มีมี่พยักหน้าและพูดว่า “โอเค เมื่อมี่ให้สัญญาณ พี่ก็พูดได้ แล้วพี่ผู้พิทักษ์จะได้ยิน”
หลังจากได้รับสัญญาณ เทียน่าก็พูดเพียง 3 อย่าง “พาเธอมาที่นี่”
….
หลังจากได้ยินเสียงของ เทียน่า และคิดแผน เขาก็ไม่ต้องเสียเวลาและเริ่มต้น
เขากัดฟันและแสดงความโกรธ เขาโกรธจริงๆ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาในการแสดงมันและพูดว่า “ถ้าเธอลบสัญญาผูกมัดพลังนี้ออกไป ฉันก็จะบอกความลับสำคัญของฉันให้เธอฟังได้”
ด้วยการแสดงออกที่น่าสนใจ สเตลล่าจึงยกเอธานขึ้นและถามว่า “ความลับสุดยอดอะไร บอกฉันได้นะ ถ้าคุณต้องการ แต่ฉันไม่ถอดสัญญาผูกมัดพลังหรอก”
ใบหน้าของเอธานเปลี่ยนเป็นสีเข้มในขณะที่เขาพูด “ถ้าเธอไม่เต็มใจ ผมก็จะไม่พูดอะไร”
” ชิ คุณคิดว่าคุณสามารถซ่อนอะไรจากฉันได้หรือ ” เมื่อพูดแบบนี้ เธอโบกมือให้หมอกสีชมพูเดินทางเข้าไปในจิตสำนึกของ เอธาน อีกครั้ง
แต่สถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้เกิดขึ้นเนื่องจากพลังงานมืดครึ้มช่วยให้เขาฟื้นคืนสติ
…
“บอกความลับสุดยอดของคุณมาสิ” สเตลล่าถามด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
เอธานกลับมาควบคุมได้ แต่เหมือนเมื่อก่อน เขาพูดด้วยแววตาที่ว่างเปล่า “ฉันสามารถหาความสัมพันธ์ที่ฉันต้องการและเข้าใจเจตจำนงได้อย่างง่ายดาย ทั้งหมดเป็นเพราะหินสีดำลึกลับที่ฝังอยู่ใน อาณาจักรลึกลับ-“
ในท้ายที่สุด เขาแสร้งทำเป็นดิ้นรนและทำให้ดูเหมือนว่าเขาฟื้นคืนสติอย่างมีพลัง
เขาพูดด้วยใบหน้าตื่นตระหนก “เธอทำอะไรกับฉัน”
สเตลล่าดูเหมือนเหนื่อยเล็กน้อย แต่เธอคิดด้วยความตื่นเต้น ‘ ดูเหมือนว่าฉันต้องพักสักหน่อย แต่ เป็นหินลึกลับที่สามารถให้ความสัมพันธ์ใด ๆ และช่วยให้เขาเข้าใจเจตจำนงได้อย่างง่ายดายงั้นเหรอ? ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสมบัติลึกลับเช่นนี้มาก่อน ‘
จากนั้นเธอก็มองไปที่เอธานและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ แสดงให้ฉันเห็นว่าคุณมีความสัมพันธ์และเข้าใจเจตจำนงได้อย่างไร ฉันรู้ความลับของหินสีดำแล้ว ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้”
“คะ-คุณ…คุณรู้ได้ยังไง”
ใบหน้าของสเตลล่าดูหงุดหงิด ขณะที่เธอพูดว่า “หยุดเสียเวลาแล้วแสดงให้ฉันเห็นที ฉันไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน และถ้าคุณไม่รีบ หลังจากที่ฉันจากไป ฉันจะทำลายหัวใจของคุณโดยใช้สัญญาผูกมัดพลัง”
หลังจากนั้น ด้วยใบหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกและหวาดกลัว เอธาน หยิบยาต้นกำเนิดเงาออกมาแล้วกินเข้าไป
เมื่อเห็นสิ่งนี้ สเตลล่าก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ทำไมคุณถึงกินยาเม็ดต้นกำเนิดแห่งเงา?”
เอธานพูดด้วยสีหน้าสับสน “เธอบอกว่าเธอรู้เรื่องหินดำไม่ใช่หรือ?”
“ฮึ่ม ฉันรู้แต่ไม่ละเอียด บอกมาเดี๋ยวนี้”
“ หินสีดำดูดซับพลังงานและแลกเปลี่ยน มันจะสร้างพลังงานแปลก ๆ ที่สามารถให้ความสัมพันธ์ของพลังงานที่หินสีดำดูดซับให้ฉัน ฉันไม่มีความสัมพันธ์แบบเงา แต่หลังจากฉันกินยานี้ ฉันจะ มีมัน “
สเตลล่าประหลาดใจขณะที่เธอพูดว่า “โอ้ มาดูกันว่ามันจะได้ผลไหม”
หลังจากนั้นไม่นานพลังงานต้นกำเนิดแห่งเงาถูกกระแสน้ำวนสีดำดูดกลืน และจากนั้นก็เข้าไปในลูกบอลสีดำบนมือของมีมี่หลังจากนั้นไม่นาน ลูกบอลสีดำก็สร้างพลังงานแปลก ๆ ออกจากวังวนสีดำและกระบวนการตามปกติก็ตามมา
เมื่อพลังงานกลั่นร่างกายของเขา สเตลล่าถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
” ม- ร่างกายของฉันกำลังกลั่นด้วยพลังงาน หลังจากที่ได้รับการขัดเกลาแล้ว ร่างกายของฉันจะแข็งแกร่งขึ้นมาก และฉันก็จะได้รับความสัมพันธ์จากเงาด้วย “
สเตลล่าพยักหน้าขณะที่เธอดูกระบวนการ และหลังจากผ่านไป 10 นาที กระบวนการก็เสร็จสิ้น และเอธานควบคุมพลังเงาตรงหน้าเธอได้สำเร็จ ซึ่งทำให้สเตลล่าประหลาดใจ
” ตอนนี้แสดงให้ฉันเห็นว่าคุณเข้าใจเจตจำนง ด้วยความเร็วที่รวดเร็วได้อย่างไร ” นี่คือสิ่งที่เธอต้องการรู้มากที่สุด
เอธาน นั่งอยู่ในวังวนสีดำ ในขณะที่เขาเริ่มเข้าใจเจตจำนงของเงา
ข้างใน เทียน่า พูดด้วยรอยยิ้ม “นั่นคือเหตุผลที่ เอธาน ต้องการให้จิตสำนึกของฉันเข้าไปในอาณาจักรลึกลับของเขา”
มีมี่พยักหน้าและพูดว่า “ใช่ แต่ตอนนี้คุณอยู่ที่นี่แล้ว ความเร็วในการเข้าใจของคุณก็จะเร็วเช่นกัน แต่ลูกบอลสีดำเชื่อมต่อกับพี่ชายผู้พิทักษ์เท่านั้น ฉันเลยช่วยคุณไม่ได้มาก ลูกบอลสีดำมีไว้เพื่อใช้อย่างอื่นด้วย แต่พี่ผู้พิทักษ์ของมี่ยังอ่อนแอและไม่มีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับพวกเขา “
…
ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง เขาก็เข้าใจระดับเบื้องต้นของเจตจำนงแห่งเงา และหลังจากที่เขาเข้าใจแล้ว เขาก็ประหลาดใจที่พบว่าร่างกายของเขาได้รับการขัดเกลาโดยอัตโนมัติอีกครั้ง
สเตลล่าตกใจกับแกนกลางหลังจากเห็นทุกอย่างขณะที่เธอหายใจเร็วขึ้น
เธอมองไปที่เอธานขณะกดดันอาณาเขตลึกล้ำของเธอให้เขาและพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชาว่า “ให้หินดำแก่ฉันอย่างเชื่อฟัง แล้วฉันจะถอดสัญญานี้ออก ไม่เช่นนั้นคุณจะตาย”
เอธานแสร้งทำเป็นสั่นและพูดว่า “แม้ว่าฉันต้องการจะให้ฉันก็ให้ไม่ได้ ฉันพยายามจะเคลื่อนไหวแล้ว แต่มันไม่เคยได้ผลเลย และฝังอยู่ในดินแดนลึกลับของฉันจริงๆ”
“อย่างนั้นหรือ” ด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เธอพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันจะจัดการเอง ดินแดนเวทย์มนต์ที่อ่อนแอของคุณ และจิตสำนึกก็ไม่สามารถปิดกั้นจิตวิญญาณของฉันได้อยู่ดี”
เมื่อพูดเช่นนี้ เธอดึง เอธาน เข้าหาเธอก่อนที่จะจับศีรษะของเขาด้วยมือทั้งสองขณะที่วิญญาณของเธอเข้าสู่อาณาจักรอาณาจักรลึกลับ อย่างมีพลัง แต่ก่อนที่เธอจะมองไปรอบ ๆ เธอรู้สึกถึงพลังดึงมหาศาลขณะที่เธอถูกดูดเข้าไปในวังวนสีดำ
“อ๊าาาาาาาาา!” ด้วยเสียงกรีดร้อง วิญญาณของเธอก็หายวับไปเมื่อร่างของเธอตกลงไปข้างนอกอย่างไร้ชีวิตชีวา
ตอนที่ 83: สเตลล่า
ไม่นานก่อนที่วังวนสีดำจะดูดซับพลังงานต้นกำเนิดทั้งหมดของเม็ดยาและคืนพลังงานแปลก ๆ ให้เขาก่อนที่จะเริ่มปรับแต่งร่างกายของเขา
หลังจากที่ร่างกายของเขาได้รับการขัดเกลา พลังงานก็กลายเป็นผลึกน้ำแข็งที่มีขนาดเท่ากับคริสตัลอื่นของเขา และเริ่มหมุนเพื่อดูดซับพลังงานน้ำแข็งจากชั้นบรรยากาศ
เอธาน สังเกตว่าเขาไม่เคยรู้สึกถึงพลังงานน้ำแข็งใดๆ มาก่อน ในขณะที่อยู่ในสถานที่นี้ แต่หลังจากที่เขาได้รับความสัมพันธ์จากน้ำแข็ง เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานน้ำแข็งในบรรยากาศเหมือนกับพลังงานอื่นๆ ที่เขามีอยู่ในปัจจุบัน
” มันเป็นเวทย์มนตร์ น่าจะมีพลังงานธาตุอื่น ๆ มากมาย แต่สิ่งเดียวที่ฉันสามารถรวบรวมได้คือพลังที่ฉันมีความสัมพันธ์ “
หลังจากนั้น เขาใช้พลังงานน้ำแข็งเพื่อแช่แข็งเทียน่า
“แต่ฉันจะเอาเธอไปไว้ที่ไหน มันไม่ปลอดภัยที่จะปล่อยให้ร่างของเธออยู่ที่นี่ในขณะที่ฉันไม่อยู่” เอธานบ่น
‘ มาดูกันว่าฉันจะทำให้เธออยู่ในดินแดนลึกลับได้หรือไม่ ถ้าฉันทำสำเร็จฉันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของร่างกายเธอ ‘
เขาควบคุมพลังเวทย์มนตร์ของเขาและปกคลุมร่างกายของ เทียน่า ด้วยมันก่อนที่จะพยายามพาเธอเข้าไปใน อาณาจักรลึกลับ
แต่ในขณะที่เขาพยายาม การใช้พลังงานเวทย์มนต์ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เอธาน รู้สึกประหลาดใจ ‘ หากการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นแสดงว่าเป็นไปได้ ‘
หลังจากเข้าใจเจตจำนงลึกลับในระดับกลางแล้ว ตอนนี้จิตใจของเขาอยู่ที่ 60 ซึ่งเพิ่มกำลังสำรองของ แรงลึกลับอย่างมาก
หลังจากสูญเสียพลังเวทย์มนต์ 70% ร่างน้ำแข็งของ เทียน่า ก็ถูกย้ายไปที่อาณาจักรลึกลับในที่สุด
แต่หลังจากนั้น ร่างที่เยือกแข็งของเธอก็ถูกกระแสน้ำวนสีดำดูดกลืน ทำให้เอธานตกตะลึง
“นี่…หมายความว่า เทียน่า ได้ร่างของเธอ…คืนสู่เธอหรือเปล่า”
เอธานนั่งมองอย่างตกตะลึงและคิดว่า ‘ไอ้บ้าเอ้ย ฉันอยากรู้ว่าอ่างน้ำวนสีดำนั่นมันคืออะไร แต่ฉันไม่สามารถพูดเรื่องนี้กับคนอื่นได้….’
ทันใดนั้น เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันน่าสยดสยองที่ทำให้เขาตัวสั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ และมีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าเขา
เธอเป็นคนเดียวกับที่บอกพวกเขาว่านี่คือชั้นนอกของอะคาเดมี่ของพวกเขา สาวสวยผมหยักศกสีบลอนด์ ในเวลานั้น มีเพียงใบหน้าของเธอเท่านั้นที่ถูกเปิดเผย แต่ตอนนี้ร่างกายของเธอก็งดงามเช่นกัน แตงทั้งสองของเธอนั้นไม่น่าประทับใจไปกว่า เทียน่า และเธอก็สูงพอๆ กับ เอธาน ด้วยร่างกายที่สมบูรณ์แบบและเอวที่เพรียวบางของเธอ
เธอขมวดคิ้ว ขณะที่เธอเดินทีละก้าวไปทางเขาขณะมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะมองเห็น เอธาน และพูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “ฉันชื่อ สเตลล่า และฉันมีหน้าที่ดูแล ชั้นนอกของอะคาเดมี่ นี้เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งหมายความว่าฉันรับผิดชอบการจัดการนักเรียนขั้น Origin Intent Plane ทั้งหมดเป็นเวลา 2 ปี และเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาสัญลักษณ์ชีวิตของนักเรียนคนหนึ่งหายไปจากที่นี่ ชื่อที่ลงทะเบียนของเธอคือ เทียน่า ”
ความสงบที่สั่นเทาของเอธานหยุดลง ในขณะที่เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เธอเป็นภรรยาของผม แต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อกี้และเธอก็หายตัวไป ผมยังงุนงงและรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ไหม ซึ่งค่อนข้างเป็นข่าวดี”
“เธอรู้ได้ยังไงว่าเธอยังมีชีวิตอยู่” สเตลล่าถามขณะขมวดคิ้ว
เอธานสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “เพราะเธอบอกกับผมว่าไม่ต้องเป็นห่วงเธอ ก่อนจะจากไป”
สเตลล่ามองดูเอธานอย่างลึกซึ้งและกล่าวว่า “คุณไม่ได้บอกความจริงกับฉันหรือไม่ได้บอกทุกอย่าง คุณรู้ไหม โทษสำหรับการฆ่าใครซักคนนั้นรุนแรงกว่าความตาย”
เอธานตัวสั่นเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เขาโกรธ แล้วเขาก็ตะโกนว่า “ผมบอกแล้วว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ และเธอยังไม่ตาย!!!”
สเตลล่าสะดุ้งกับเสียงระเบิดของเอธานครู่หนึ่ง แต่แล้วเธอก็พ่นลมหายใจจนทำให้เอธานล้มลงกับพื้นโดยที่ใบหน้าของเขาแบนราบ
จากนั้นเธอก็เดินไปหาเอธานด้วยรอยยิ้มที่ผุดขึ้นที่ปากของเธอและพูดว่า “ก็ได้ ฉันจะเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่คุณต้องบอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”
ขณะนี้เอธานรู้สึกเหมือนน้ำหนักขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย ขณะที่รู้สึกกดดันอยู่ตลอดเวลา ความคิดอันน่าสยดสยองผุดขึ้นในใจเขา ‘ เธออาจจะฆ่าฉันด้วยการดีดนิ้ว ‘
ในทางกลับกัน สเตลล่าก้มลงและเอื้อมมือไปที่ศีรษะของเอธานก่อนจะพูดว่า “คุณจะบอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม”
เมื่อเธอพูดจบ สิ่งที่เหมือนหมอกสีชมพูหรืออะไรก็ตามที่มันเข้าไปในเอธานก่อนที่จะพยายามเข้าไปในจิตสำนึกของเขา
เอธานตื่นตระหนกเมื่อเห็นสิ่งที่คล้ายหมอกสีชมพู ซึ่งมีประกายไฟอยู่ในนั้นพยายามจะเข้าสู่จิตสำนึกของเขา
แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาก็ไม่สามารถต้านทานมันได้เมื่อมันเข้ามาข้างในก่อนที่เขาจะรู้สึกเหมือนกำลังหลับ
แต่ไม่ถึงวินาทีต่อมา เขาฟื้นคืนสติและเห็นว่าหมอกสีชมพูยังคงอยู่ในจิตสำนึกของเขา แต่ยังมีพลังงานเมฆสีดำที่ห่อหุ้มจิตสำนึกของเขาอยู่ภายใน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ทำเหมือนว่าเขาได้การควบคุมกลับมาและมองตาเปล่าๆ
สเตลล่าปิดการใช้งานโครงร่างของโดเมนที่ลึกซึ้งของเธอและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ลุกขึ้นยืน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เอธานก็ลุกขึ้นยืนโดยที่สายตายังดูว่างเปล่า
“ตอนนี้บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
เมื่อได้ยินเธอ เอธานก็ไม่มีเวลาให้เสียเวลาในขณะที่เขาเริ่มพูดด้วยสายตาที่ว่างเปล่า “ประตูวาร์ปก็ปรากฏขึ้นข้างๆ เธอและดูดเธอเข้าไปข้างใน ฉันก็กำลังจะกระโดดเข้าไปข้างในเช่นกัน แต่ก่อนที่ฉันจะทำอย่างนั้น ฉันได้ยินเสียงของเทียน่า อย่างที่เธอบอกไม่ให้เข้าไปหาแล้วจะไม่เป็นไรและบอกไม่ให้ตามหาและตั้งใจฝึก ดูเหมือนเธอจะอยากพูดมากกว่านี้ แต่เสียงของเธอขาดไปเพราะจู่ๆ ประตูวาร์ปก็หายไป”
เมื่อได้ยินเขา สเตลล่าก็เขียนความไม่เชื่อบนใบหน้าของเธอ ขณะที่เธอบ่นว่า “เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นที่นี่…เว้นแต่….”
เธอไม่พูดออกมาดังๆ แล้ว แต่คิดว่า ‘ เป็นไปได้ไหมที่เธอเป็นสายลับอย่างฉัน? แต่ในบรรดาเผ่าพันธุ์อื่นๆ มีเพียงบุคคลคนนั้น เท่านั้นที่สามารถเปิดประตูวาร์ปแบบนี้ได้ภายในรูปแบบที่ทรงพลังโดยไม่ถูกสังเกต แต่พวกมันแข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์โดยรวมแล้วทำไมพวกเขาถึงต้องสอดแนมมากันแบบนี้? ‘
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอก็นึกขึ้นได้ว่าผู้ชายคนนี้บอกว่าเธอเป็นภรรยาของเขา ‘ เป็นไปได้ไหมที่เธอถูกเรียกกลับมาเพราะเธอตกหลุมรักมนุษย์คนนี้? อืม…ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ สายลับไม่ควรตกหลุมรักขณะทำภารกิจ ‘
จากนั้นเธอก็มองไปที่เอธานและคิดในขณะที่หัวเราะคิกคักเบาๆ ‘ มาดูกันว่าผู้ชายคนนี้มีความลับอะไรไหม ท้ายที่สุดแล้ว การควบคุมผู้คนคือความสามารถพิเศษของฉัน ‘
ขณะคิดเช่นนี้ นางก็ถามว่า “บอกข้ามาสิว่าเจ้ามีความลับอะไร หรือถ้าเจ้ามีพลังประหลาดอะไรบ้าง”
เขาไม่มีเวลาให้เสียเปล่าจึงพูดขึ้นก่อนว่า “ฉัน…” แต่แล้วเขาก็หยุดคิดชั่วขณะ เพราะไม่มีเวลาคิดคำตอบ
‘ เดี๋ยวก่อน ฉันบอกได้เลยว่าฉันไม่มี ‘
เขาหยุดเพียงไม่ถึงวินาที แต่สเตลล่าสังเกตเห็น ขณะที่เธอขมวดคิ้วก่อนที่จะเอื้อมมือไปข้างหน้าและส่งหมอกสีชมพูระยิบระยับไปยังจิตสำนึกของเขา
“เขาเกือบจะหลุดพ้นจากข้อจำกัดของฉันแล้ว ดูเหมือนว่าเขามีความลับหรือพลังพิเศษบางอย่างโดยอิงจากการที่เขาเกือบจะฟื้นคืนสติ เมื่อได้ยินคำถามนี้”
สเตลล่าพึมพำเรื่องนี้ ขณะที่เธอส่งหมอกสีชมพูระยิบระยับในตัวเขามากขึ้น ขณะที่เอธานตื่นตระหนก
‘ บัดซบ ถ้าหมอกสีชมพูของเธอถูกพลังเมฆสีดำบดบังไว้ เธอจะสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ‘
แต่สิ่งที่เขากลัวกลับไม่เกิดขึ้น เนื่องจากพลังงานเมฆสีดำสร้างพื้นที่ให้หมอกสีชมพูอยู่ภายในก่อนที่จะปิดพื้นที่นั้นหลังจากที่หมอกสีชมพูใหม่เข้ามาภายใน
เอธานตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งนี้และคิดว่า ‘ พลังงานมืดครึ้มนี้อาจถูกควบคุมโดยใครบางคนหรือถูกควบคุมตัว และฉันแน่ใจว่ามันเชื่อมโยงกับวังวนสีดำนั้นอย่างแน่นอน ‘
ขณะที่เขากำลังคิด เขาก็ได้ยินเสียงของสเตลล่าอีกครั้ง
“บอกมาสิว่าคุณมีความลับหรือพลังพิเศษอะไร”
เอธานได้ยินเธอพึมพำด้วย เขาจึงรู้ว่าเขาต้องเปิดเผยอะไรบางอย่างและนั่นก็เหมือนกันโดยไม่เสียเวลา เขาจึงพูดโดยยังคงจ้องมองที่ว่างเปล่า “ฉันมีพลังพิเศษในตัวฉัน ซึ่งผลิตพลังงานคริสตัลขาวที่สามารถทำปาฏิหาริย์ได้มากมาย ฉันยังไม่ทราบถึงการใช้งานทั้งหมด แต่มันสามารถซ่อมแซมอาณาจักรพลังงานและรักษาบาดแผลที่อันตรายที่สุด ฉันเดาว่ามันมีประโยชน์อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน แต่ฉันไม่รู้เพราะฉันเพิ่งผลิตมันได้ก็ตอนที่ฉัน มีเซ็กส์กับภรรยาครั้งแรกและหลังจากนั้นก็เกิดขึ้นทุกครั้งที่เราทำ นอกจากนี้ เธอยังได้รับพลังงานนี้จากฉัน ในขณะที่เราทำ และมันเคยฟื้นฟูอาณาจักรพลังงานที่ถูกทำลายของเธอ ฉันรู้ดีว่ามันซ่อมแซมอาณาจักรพลังงานของเธอ “
เขาไม่ได้ลังเลและพูดถึงพลังงานคริสตัลขาวนี้เพราะนั่นเป็นพลังพิเศษเพียงอย่างเดียวที่มี ถ้าเขาพูดอะไรไร้สาระออกไปและไม่สามารถพิสูจน์ได้ในภายหลัง เขาก็อาจจะถูกพบและตายหรือประสบชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย เพราะสเตลล่าสามารถเปลี่ยนการหายตัวไปของ เทียน่า ให้เป็นความตายและโทษเอธานได้
สเตลล่าประหลาดใจก่อนแล้วจึงตกใจ เมื่อเธอได้ยินว่าสามารถฟื้นฟูอาณาจักรพลังงานได้ เพราะไม่ใช่เรื่องเล็กที่จะฟื้นฟูขอบเขตพลังงานของใครบางคน
“ตอนนี้คุณมีพลังงานนั้นไหม”
เอธานพยักหน้าอย่างว่างเปล่า
ผู้คนจะพิการได้จริงหากขอบเขตพลังงานของพวกเขาถูกทำลาย และการฟื้นฟูต้องใช้สมบัติทางธรรมชาติที่หายากมาก ซึ่งสามารถพบได้ในปริมาณที่น้อยมากในภาคส่วนที่เหนือกว่าและภาคในตำนาน
สเตลล่าตื่นเต้นมาก เมื่อได้ยินเกี่ยวกับพลังงานมหัศจรรย์ดังกล่าว โดยที่เธอไม่เสียเวลาและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “สัญญาผูกมัดพลัง”
ขณะที่เธอพูดเช่นนี้ หน้ากระดาษสีทองและสีแดงอ่อนปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ ก่อนที่เธอจะกรีดนิ้วของเธอขณะที่เลือดหยดลงบนหน้ากระดาษ
หลังจากที่เธอทำเสร็จแล้ว เธอมองไปที่ เอธาน และพูดอย่างเร่งรีบว่า “เร็วเข้าและเอาเลือดของคุณหยดลงบนหน้านี้”
‘ ไอ้บ้าเอ้ย…..’ เอธาน สาปแช่ง แต่เขาไม่มีทางเลือกในขณะที่เขาใช้ดาบอากาศ เพื่อสร้างรอยกรีดเล็ก ๆ ที่หัวของเขาก่อนที่จะหยดเลือดลงบนหน้ากระดาษ
ขณะที่เขาพูดจบ สเตลล่าโบกมือของเธอขณะที่สัญญาหายไป และหมอกสีชมพูก็หายไปจากจิตสำนึกของเขาด้วย
สเตลล่ายิ้มสวยบนใบหน้าของเธอว่า “นั่นสินะ เหนื่อยจัง” จากนั้นเธอก็มองไปที่เอธานและพูดต่อว่า “แล้วเอธาน คุณรู้สึกยังไงบ้าง”
ใบหน้าของเอธานมืดมนมากเมื่อเขาถามว่า “เธอทำอะไรกับฉัน สัญญานั้นเกี่ยวกับอะไร”
สเตลล่าหัวเราะคิกคักและโบกมือเป็นปราการของพลังงานประหลาดที่ก่อตัวขึ้นรอบตัวพวกเขาก่อนจะพูดว่า “คุณคงรู้สึกว่าชีวิตคุณไม่ได้อยู่ในการควบคุมใช่ไหม แต่ไม่ต้องกังวล ฉันไม่ได้สั่งให้คุณทำอะไรทั้งนั้น คุณต้องการใช้สัญญานี้ ความพิเศษของสัญญาผูกมัดพลังนี้มีเพียงหนึ่งเดียวและนั่นคือการฆ่าคุณทุกครั้งที่ฉันรู้สึกเช่นนั้น ”
เธอหยุดครู่หนึ่งแล้วยิ้มอย่างสดใสก่อนจะพูดว่า “ตอนนี้เรามาพูดถึงพลังพิเศษที่เรียกว่าพลังสร้างพลังคริสตัลกันดีกว่าไหม อย่างแรกเลย คงจะดีที่สุดถ้าแสดงให้ฉันเห็นบ้าง”
ตอนที่ 82: อุบัติเหตุ
หลังจาก เอธาน ใช้การโจมตีของเจตจำนงแห่งการขับไล่ ในวันถัดไป การทดสอบหลักในปัจจุบันของเขาได้รับการเคลียร์สำเร็จและได้รับ 60 เครดิต
[ การทดสอบหลักใหม่ ]: ทำความเข้าใจ 2 เจตจำนงแห่งธาตุ ที่ระดับขั้นสูง—> รางวัล:- 150 เครดิต ( จำกัด เวลา : 3 ปี )
‘ เนื่องจากตอนนี้ฉันได้ 60 แต้มแล้ว เราก็ควรจะสามารถซื้อสิ่งประดิษฐ์แห่งจิตสำนึกได้ ‘ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาหันไปทาง เทียน่า ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เขาแล้วถาม
“ตอนนี้เธอมีคะแนนเท่าไหร่?”
เทียน่าตอบหลังจากนั้นสักครู่ ” 54 เครดิต ตอนแรกฉันมี 74 เครดิต แต่ฉันซื้อเครื่องปรุงรสเหล่านั้น ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 20 เครดิตเพื่อซื้อเครื่องปรุงรส 5 ประเภทมา “
” เข้าใจแล้ว…เราขาดแค่ 9 เครดิตในการซื้อสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าใจของเธอด้วยวิธีที่ฉันทำ อย่างไรก็ตาม เธอต้องเข้าใจเจตจำนงของความมืดในระดับกลางก่อน ดังนั้นหลังจากที่ธอทำสำเร็จ และเสร็จสิ้นการทดสอบหลักของเธอ เราจะได้สามารถไปซื้อสิ่งนั้นได้ “
เทียน่า พยักหน้าด้วยรอยยิ้มขณะที่เธอรู้สึกมีความสุข
หลังจากนั้น ทั้งสองก็เริ่มเข้าใจเจตจำนงต่างๆอีกครั้ง เทียน่ายังจุดธูปที่ 2 เมื่อธูปแรกหมดไปนาน ระยะเวลาของพวกมันที่จะคงอยู่คือ 4 ชั่วโมงเท่านั้น
แต่เวลานั้นก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้จิตใจแจ่มใสและเข้าสู่สมาธิลึกได้
…
หลังจาก 4 วัน เอธาน ได้เข้าใจ ขั้นสูงสุดของเจตจำนงแห่งไฟแล้ว ก่อนที่ เทียน่า จะเข้าใจ ขั้นกลางของเจตจำนงแห่งความมืดของเธอ ซึ่งเธอใกล้จะบรรลุแล้ว
แต่ในขณะที่เขาเข้าใจระดับเจตจำนงไฟขั้นสูง บางสิ่งก็เริ่มเกิดขึ้นภายในขอบเขตพลังงานของเขา
ผลึกไฟกลายเป็นพลังงานสีแดงแปลก ๆ ก่อนที่มันจะออกจากอาณาจักรพลังงานของเขาและเริ่มปรับแต่งร่างกายของเขา
เอธาน ตกตะลึง เนื่องจากกระบวนการนี้คล้ายกับการกลั่นร่างกายของเขาเป็นครั้งแรก
ร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อย ในขณะที่พลังงานกำลังกลั่นร่างกายของเขา
‘รู้สึกปวดหลังจากไม่ได้เป็นมานาน….’
เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดของร่างกายของเขาที่ถูกกลั่นด้วยพลังงานเดียว ดังนั้นเขาจึงนั่งอยู่ที่นั่นและปล่อยให้พลังงานคริสตัลทำงานในขณะที่เขาตกอยู่ในความคิด
‘ เหตุใดผลึกไฟจึงกลั่นร่างกายของฉัน หลังจากที่ฉันไปถึงระดับขั้นสูงในเจตจำนงแห่งไฟ? และเหตุใดจึงไม่ปรับแต่งร่างกายของฉัน เมื่อฉันเข้าใจระดับเริ่มต้นและระดับกลางของเจตจำนง ‘
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เดาเหตุผลได้ง่าย ๆ ว่า ‘ น่าจะเป็นเพราะฉันไม่มีพลังงานต้นกำเนิด ในขณะนั้น อืมม…ฉันควรซื้อยาของพลังงานเลือด เพื่อให้วังวนสีดำของฉันสามารถให้สายเลือดแก่ฉันได้ ปละ วิธีการไหลของสายเลือดนั่นอีกด้วย นี่เป็นวิธีการป้องกันที่ดีจริงๆ ‘
หลังจาก 20 นาที พลังงานคริสตัลไฟ กลับสู่อาณาจักรพลังงานของเขาก่อนที่จะกลายเป็นคริสตัลไฟ ที่เป็นของแข็งอีกครั้งและเริ่มหมุนเพื่อดูดซับพลังงานไฟดั้งเดิม
คริสตัลอื่นๆ ของเขาไม่หมุนเพราะว่ามันถึงขีดจำกัดแล้ว แต่เนื่องจากเจตจำนงไฟของเขาถึงระดับขั้นสูง ตอนนี้เขาจึงสามารถดูดซับพลังงานไฟได้มากขึ้น
เมื่อเห็นว่าเทียน่ายังไม่เสร็จ เขาก็พูดต่อและเริ่มทำความเข้าใจกับดจตจำนงของน้ำ
แต่หลังจากผ่านไป 1 วัน เทียน่า ก็เข้าใจระดับกลางของเจตจำนงแห่งความมืด ในขณะที่รอยยิ้มก่อตัวขึ้นบนใบหน้าของเธอ
[ การทดสอบหลัก บรรลุจุดประสงค์ 2 ประการที่ระดับกลาง เคลียร์—> รางวัล: 20 เครดิต]
[ การทดสอบหลักใหม่ ทำความเข้าใจเจตจำนงลึกลับที่ระดับเริ่มต้น—รางวัล: 20 เครดิต ] ( จำกัดเวลา: 1 ปี )
…
‘ กว่าเอธานจะตื่น ขอฉันตกแต่งบ้านหน่อยเถอะ ‘ ด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข เธอจึงบินออกไปและเริ่มเก็บดอกไม้และสิ่งของอื่นๆ ก่อนที่จะออกแบบไม้ด้วย
ในเวลา 2 วัน เธอได้ไปเยือนแหล่งที่อยู่อาศัยต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงและนำสิ่งของมาประดับบ้าน เธอยังระบายสีไม้ด้วยการใช้พืชหลากสีสัน
” เอาปลาและผักมาเพิ่มกัน เมื่อเอธานตื่น ฉันจะทำอาหารอร่อยๆ ให้ “
….
หลังจากนั้นอีก 2 วัน เอธาน ก็ลืมตาขึ้นและขว้างลูกบอลพลังงานน้ำเล็กๆ
[ การทดสอบหลัก ทำความเข้าใจเจตจำนง 2 องค์ประกอบในระดับสูง เคลียร์แล้ว—> รางวัล: ได้รับ 150 เครดิต ]
[ การทดสอบหลักใหม่ ทำความเข้าใจดจตจำนงลึกลับในระดับสูง—> รางวัล: 60 เครดิต ] ( จำกัดเวลา: 1.5 ปี )
…
‘ เครดิตจำนวนมากเหล่านี้มากเกินพอที่จะซื้อผู้ส่งพลังจิตและยาเสริมความสัมพันธุ์ธาตุได้ไม่กี่อย่าง เดาว่าฉันจะปลุกความเกี่ยวข้องกับธาตุอีก 2-3 อย่างสำหรับแนวคิดในอนาคตของฉัน ‘ เอธานคิดอย่างตื่นเต้น
เมื่อมองไปรอบ ๆ เขาไม่เห็นเทียน่า แต่เขาได้กลิ่นที่ดี
ลุกขึ้นยืน เขาหันกลับมาเพียงเพื่อจะประหลาดใจ บ้านไม้ธรรมดาของพวกเขาตอนนี้ถูกทาสีด้วยการออกแบบสีต่างๆ และยังมีพืชต่างๆ ด้วยดอกไม้ที่จัดวางอย่างเรียบร้อยภายในกระถางหลายใบ
เขาเข้าไปในบ้านและตกแต่งอย่างสวยงาม จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องครัวที่เทียน่ากำลังทำอาหารอยู่
เมื่อสังเกตเห็นเอธานเข้ามา เทียน่าก็ยิ้มอย่างตื่นเต้นและพูดว่า “โอ้ ตื่นได้แล้ว! ได้จังหวะพอดี ฉันเพิ่งทำอาหารจานนี้เสร็จ ปลาย่างนี้มีไส้ผลไม้ชนิดพิเศษอยู่ข้างใน ลองเลย”
เอธานกัดและประหลาดใจเมื่อดวงตาของเขาเป็นประกาย “มันช่าง… อร่อยมาก”
” หึหึ แน่นอน ฉันลองทำหลายสิ่งหลายอย่างในช่วง 2 วันที่ผ่านมาและได้ทำอาหารดีๆ 2-3 จาน ส่วนผสมเพียงอย่างเดียวก็อร่อยเหมือนผลไม้และปลาเหล่านั้น แต่เมื่อสร้างเป็นจานแล้ว มันจะยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก”
เอธานพยักหน้ายิ้มๆ พลางเลียริมฝีปากของเขา “อันที่จริง แยมผลไม้นั้นเผ็ดและหวานทั้งคู่ และผสมผสานกับรสชาติของปลาและเครื่องปรุงรสได้เป็นอย่างดี”
…
หลังจากที่ เทียน่า ทำอาหารเพิ่มอีก 2-3 จาน ทั้งคู่ก็กินมันก่อนเข้าสู่โลกเสมือนจริง
อย่างแรก พวกเขาซื้อสิ่งประดิษฐ์ของ ผู้ส่งจิตสำนึก ซึ่งเป็นด้ายเงินที่มีหินสีขาวเล็กๆ อยู่ที่ปลายแต่ละด้าน
[ ผู้ส่งจิตสำนึก ]
– วางหินสีขาวก้อนเล็กๆ ไว้บนหน้าผากของคน 2 คนแล้วฉีดแรงลึกลับเล็กน้อยเพื่อสร้างการเชื่อมต่อ เมื่อทำเสร็จแล้ว จิตสำนึกของคนทั้งสองที่เชื่อมโยงกัน สามารถเดินทางไปยังร่างของคนอื่นได้ผ่านหินสีขาวและด้ายสีเงิน
…
” ไปร้านขายยากันเถอะ ฉันต้องการซื้อยาด้วยเครดิตที่เหลืออยู่ “
เหตุผลที่เขาซื้อยาเม็ดแทนคริสตัลดั้งเดิมนั้น เนื่องจากยาเม็ดมีพลังงานดั้งเดิมที่เข้มข้นกว่า ยาเม็ดพลังงานเหล่านี้มักใช้เพื่อเติมพลังงานระหว่างการต่อสู้
แม้ว่าหลังจากซื้อผู้ส่งจิตสำนึกแล้ว เอธาน ยังมีมากกว่า 80 เครดิต ดังนั้นเขาจึงซื้อยาพลังงานดั้งเดิม 8 เม็ดซึ่งราคา 10 เครดิตต่อเม็ด ซึ่งถือว่าเป็นยาเติมระดับสูงสุดสำหรับผู้ใช้ขั้น Origin Intent Plane เนื่องจากสามารถเติมทะเลพลังงานทั้งหมดในระดับสูงได้
(ขีดจำกัดของ ทะเลพลังงาน จะเพิ่มขึ้นเมื่อผู้ใช้เข้าใจระดับเจตจำนงระดับถัดไปในองค์ประกอบธาตุตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น เจตจำนงขั้นสูงสุด = ทะเลพลังงานขั้นสูงสุด , เจตจำนงขั้นมาสเตอร์ = ทะเลพลังงานขั้นมาสเตอร์ )
…
ยา 8 เม็ดที่เอธานซื้อ ได้แก่ ยาเม็ดต้นกำเนิดของเลือด, ยาเม็ดต้นกำเนิดน้ำแข็ง, ยาต้นกำเนิดหมอก, ยาต้นกำเนิดเสียง, ยาเม็ดต้นกำเนิดโลหะ, ยาเม็ดต้นกำเนิดแม็กม่า, ยาเม็ดต้นกำเนิดแม่เหล็ก, ยาเม็ดต้นกำเนิดเงา
หลังจากมาที่ร้าน เขาก็พบข้อมูลเพิ่มเติม
ราคาของ ยาเม็ดต้นกำเนิด ทั้งหมดนั้นไม่เหมือนกันและเขาก็พบว่าองค์ประกอบเหล่านี้เป็นอย่างไร
ธาตุต่างๆ เช่น แม็กมา หมอก น้ำแข็ง แม่เหล็ก เงา ฯลฯ เป็นส่วนผสมขององค์ประกอบพื้นฐาน
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเมื่อนานมาแล้ว ผู้คนสามารถฝึกฝนองค์ประกอบพื้นฐานเช่น ไฟ น้ำ แสงสว่าง ความมืด อวกาศ เวลา ฯลฯ ด้วยธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อพวกเขาไปถึงระดับที่สูงขึ้น พวกเขาก็เริ่มรวบรวมพลังงาน เพื่อสร้างพลังงานใหม่และเมื่อใดก็ตามที่มีพลังงานใหม่ ถูกสร้างขึ้น มันรู้สึกเหมือนกับว่าโลกกำลังได้รับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและแหล่งที่มาของพลังงานเหล่านี้จะถือกำเนิดขึ้น
“ถึงแม้จะบอกว่าไม่มีข้อพิสูจน์ในทฤษฎีนี้ แต่ก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล” เอธาน กล่าวหลังจากอ่านข้อมูล
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับการรวมกันขององค์ประกอบขิงธาตุเหล่านี้ เช่น:
ไฟ + ดิน = แม็กมา
น้ำ + อากาศ = น้ำแข็ง
สายฟ้า + โลหะ = แม่เหล็ก
ดิน + น้ำ + ไฟ = เพชร
แสง + มืด = เงา
ฯลฯ…แต่ละองค์ประกอบพื้นฐานเหล่านี้ เมื่อรวมกันแล้วจะสร้างองค์ประกอบใหม่ตามทฤษฎี
แต่ตอนนี้มีแหล่งธาตุมากมายที่พบธาตุทุกประเภท โดยเฉพาะในส่วนที่เหนือกว่าและภาคในตำนานเพียงภาคเดียว
…
…
หลังจากซื้อยาแล้ว ทั้งคู่ก็กลับสู่โลกแห่งความจริง
ตอนแรก เอธาน ต้องการลองใช้สิ่งประดิษฐ์ของ จากร้านนั่นคือผู้ส่งจิตสำนึก ดังนั้นหลังจากวางทุกอย่างไว้ข้างๆ เขาจึงติดหินสีขาวก้อนหนึ่งไว้บนหน้าผากของเขา ในขณะที่อีกก้อนหนึ่งอยู่บนหน้าผากของ เทียน่า ขณะที่ทั้งคู่นั่งใกล้กัน
” เพิ่มแรงลึกลับเล็กน้อย “
เทียน่า พยักหน้าก่อนหลับตาพร้อมกับ เอธาน ขณะที่ทั้งคู่เปิดใช้งานสิ่งประดิษฐ์
หลังจากนั้นเส้นทางสีเงินก็ปรากฏขึ้นภายในดินแดนลึกลับของเธอ ซึ่งเธอส่งจิตสำนึกของเธอไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางสีเงินในอาณาจักรลึกลับของ เอธาน
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้สึกและสัมผัสได้ถึงบางอย่าง
จากเส้นทางสีเงิน เงาสีขาวพร่ามัวปรากฏขึ้นซึ่งเป็นจิตสำนึกของเทียน่า
แต่จู่ๆ ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นที่เขาคาดไม่ถึง
ขณะที่ เทียน่า ออกจากเส้นทางสีเงินและก้าวเท้าเข้าไปอาณาจักรลึกลับของ เอธาน พลังดึงของวังวนสีดำก็ปรากฏขึ้นและลากจิตสำนึกของ เทียน่า เข้าไปข้างในอย่างแรง
ใบหน้าของ เอธาน เปลี่ยนไปเมื่อเขาจับจิตสำนึกของเธอและใช้แรงลึกลับทั้งหมดเพื่อลาก เทียน่า กลับมา ซึ่งหยุดเธอจากการถูกลากเข้าไป
แต่หลังจากนั้นไม่ถึงวินาที แรงดึงที่ทรงพลังยิ่งกว่าก็ปรากฏขึ้นและลากจิตสำนึกของ เทียน่า ไปที่วังวนสีดำพร้อมกับจิตสำนึกของ เอธาน
“หยุดนะ !!!!!!!!!!”
เอธาน พยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่หยุดเมื่อพวกเขาไปถึงความลึกของวังวนสีดำและ…
สติของ เทียน่า หายไปภายในประตูที่เรียกว่าที่เขารู้สึกเสมอ ในขณะที่เขาอยู่ข้างนอก
“ม่ายยยยยยยยย!!!!!!!”
เขาใช้พลังเวทย์มนตร์ทั้งหมดและแม้กระทั่งสติขณะตีประตูวังวนสีดำ แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เข้าไปไม่ได้และไม่สามารถเปิดมันได้
“ไอ้บ้าเอ้ย…..เกิดอะไรขึ้น!!!”
เขาพยายามสงบสติอารมณ์ลงแต่ความรู้สึกต่างๆ ในตัวเขากำลังขัดขวางเขา
ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียง
“อะ-…..”
“เอธาน….” “นายได้ยินฉันไหม”
เอธานตกใจขณะที่เขารีบพูด “ฉันได้ยิน ฉันได้ยินเธอ เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้นกับเธอ”
“ฉันไม่รู้ แต่ฉันอยู่ในที่แปลก ๆ นี้ มีต้นไม้ ทะเลสาบสีขาว และอื่น ๆ –…..”
เอธาน ตื่นตระหนก เมื่อเขาไม่ได้ยินเสียงของเธอ แต่ในไม่ช้ามันก็ได้ยินอีกครั้ง
“แต่มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่ที่นี่…เธอ–…”
….
“อะไรนะ ผู้หญิงคนไหน เทียน่า…เธอได้ยินฉันไหม ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย” เอธานตะโกน แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ อีก
เอธานควบคุมสติและลืมตาซึ่งตอนนี้เป็นสีแดง
หัวใจของเขาเต้นเร็วผิดปกติเช่นกัน…
จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนคิด
‘ เทียน่า…ยังมีชีวิตอยู่ มีเพียงจิตสำนึกของเธอเท่านั้นที่แยกออกจากร่างกายของเธอ…’
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาได้ตรวจสอบหัวใจของ เทียน่า และถอนหายใจโล่งอกเมื่อเขารู้สึกว่ามันยังเต้นอยู่
“แต่… อีกไม่นานฉันต้องผนึกร่างเธอไว้ในน้ำแข็ง”
จากนั้นเขาก็หยิบยาต้นกำเนิดน้ำแข็ง ออกมาและกินมันเพื่อปลุกความสัมพันธ์ที่เป็นน้ำแข็งของเขาและผนึกร่างของเธอไว้ในน้ำแข็ง
“วังวนสีดำนั่น…..นี่มันบ้าอะไรเนี่ย? นอกจากนี้ เทียน่า ควรจะปลอดภัยเมื่อพิจารณาจากเสียงของเธอ ซึ่งไม่ได้บ่งบอกว่ามีอันตรายและเธอพูดอะไรเกี่ยวกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังหลับอยู่…. .”
เขาเขย่าหัวของเขากำหมัดและคิดว่า ‘ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเปิดเผยความลึกลับเกี่ยวกับวังวนสีดำนี้ และเดิมพันที่ใกล้ที่สุดคือการก้าวเข้าสู่ขั้น Soul Altar Plane และปลดล็อก อาณาจักรแห่งจิตวิญญาณของฉัน ฉันรู้สึกว่าวังวนสีดำนั้นเกี่ยวข้องกับอาณาจักรวิญญาณของฉัน ‘
ตอนที่ 81: ผู้ส่งจิตสำนึก
[ โปรดตรวจสอบเนื้อหาของการทดสอบใหม่ ]
…
< เอธาน >
– เครดิต: 97
< โลกเสมือน >
การเข้าถึงปัจจุบัน: มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่
[ ภารกิจ ]: ไม่มีในขณะนี้ ( ใน 1 ชม. )
[ การทดสอบหลัก ]: ทำความเข้าใจเจตจำนงลึกลับ 2 แบบที่ระดับกลาง —-> รางวัล: 60 เครดิต ( จำกัดเวลา: 3 ปี )
{-สร้างแนวคิด-}
…
ผ่านไป 1 ชั่วโมงเมื่อ เอธาน และ เทียน่า ได้ยินการแจ้งเตือนภารกิจ
[ มีการออกภารกิจร่วมกันให้คุณและคู่ของคุณ ]
[ ปราบต้นกำเนิดสัตว์อสูรเกรด 3 กวางสายฟ้าเมฆา ]
—> รางวัลทั้งหมด: 2 ชิ้นของธูปผ่อนคลาย และ 20 เครดิต (จำกัดเวลา: 1 เดือน. )
หรือ [ กำจัดต้นกำเนิดอสูร เกรด 4, เนฟาร์เขาเพชร ]
—> รางวัลทั้งหมด: 4 ชิ้นของธูปผ่อนคลาย และ 40 เครดิต ( จำกัดเวลา : 1 เดือน. )
…
ขั้น Origin Intent Plane มี 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นเริ่มต้น, ขั้นกลาง, ขั้นสูงสุด และ ขั้นมาสเตอร์ ซึ่งสัมพันธ์กับระดับของเจตำจนง แต่ระดับของสัตว์วิเศษนั้นแตกต่างกัน
พวกมันมีแกนกลมอยู่ภายในร่างกายแทน สัตว์วิเศษระดับ 1 และ 2 สามารถเอาชนะได้โดยนักเรียน ขั้นเริ่มต้นของ Origin Stage (ขั้นเริ่ม) ในขณะที่นักเรียนระดับ 3 และ 4 สามารถเอาชนะสัตว์เวทย์มนตร์ระดับกลางได้เป็นต้น
เอธานยิ้มเมื่อเห็นภารกิจและพูดว่า “มาทำภารกิจนี้ให้เสร็จและเริ่มฝึกกันเถอะ ภารกิจต่อไปจะค่อยๆ ยากขึ้น และ ธูปผ่อนคลายอาจจะเป็นประโยชน์กับเธอ พวกมันมีค่าใช้จ่าย 30 เครดิต และเราได้รับมันทั้งหมด 4 ชิ้น สำหรับภารกิจง่าย ๆ นี้”
เทียน่าพยักหน้าขณะที่ทั้งคู่เริ่มภารกิจ
…
เอธานสามารถเอาชนะกระทิงตัวนี้ได้เพียงลำพัง แต่เทียน่าก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้ แม้ว่าพวกมันทั้งสองจะเป็น ขั้นเริ่มต้น ระดับกลางก็ตาม เพราะ เอธานเข้าใจเจตจำนงมากขึ้นในระดับกลาง ในขณะที่เทียน่าเข้าใจเจตจำนงได้เพียงอย่างเดียวในระดับกลาง ดังนั้นความสามารถในการต่อสู้โดยรวมของเธอจึงค่อนข้างมาก ต่ำกว่าของเอธาน
เจ้ากระทิงมีการป้องกันที่แข็งแกร่งมากและโจมตีด้วยองค์ประกอบเสียง
แต่ด้วยพลังโจมตีและความว่องไวสูงของเอธานก็ทำให้เจ้ากระทิงพ่ายแพ้ได้อย่างง่ายดายในไม่กี่นาที ขณะที่เทียน่าไม่ต้องขยับแม้แต่น้อย
[ ภารกิจร่วมเสร็จสิ้น แบ่งรางวัล: เอธาน -> 2 ธูปผ่อนคลาย 20 เครดิต เทียน่า -> ธูปผ่อนคลาย 2 ชิ้น 20 เครดิต ]
หลังจากได้รับรางวัลเอธานได้โอน 2 ชิ้นของธูป ไปยังเทียน่าโดยตรง เนื่องจากเขาไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น
จากนั้นเขามองไปที่ภารกิจและเห็นว่าภารกิจต่อไปจะใช้เวลาไม่ใช่ 1 วันแต่ 1 เดือนเต็ม
เทียน่ากล่าวว่า “ฉันคิดว่าภารกิจต่อไปจะยากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงให้เวลาเราฝึกฝนมากขึ้น เพราะพวกเขาให้ธูปเพื่อการผ่อนคลายแก่เราด้วย”
เอธานพูดกับเทียน่า ขณะเปิดใช้งาน Digiband ของเขา
” เธออยู่ที่นี่เพื่อทำความเข้าใจเจตจำนงที่ 2 ของเธอให้อยู่ในระดับกลางให้ได้ หลังจากจุดธูปผ่อนคลาย ในขณะที่ฉันไปเยี่ยมชมโลกเสมือนจริงเพื่อตรวจสอบบางสิ่งบางอย่างก่อน “
หลังจากกล่าวเช่นนี้แล้ว เอธานก็เข้าสู่โลกเสมือนจริง
เขาตรงไปยังพื้นที่ร้านค้าของอะคาเดมี่ และพบสิ่งที่เขากำลังมองหาหลังจากผ่านไป 1 นาที
[ ร้านค้าเจตจำนง ]
นักเรียนหลายคนยังเข้าไปในร้านที่มีประตูเปิดกว้าง
แน่นอนว่าคุณไม่สามารถซื้อความตั้งใจได้จากที่นี่ แต่คุณสามารถซื้อสิ่งที่คล้ายกันเช่น แผ่นของเจตจำนง ซึ่งขายในร้านค้าแต้ม ก่อนหน้านี้
การใช้แผ่นเจตจำนงนั้น พวกมันอาจเปิดประตูให้คุณไปสู่เจตจำนงนั้นได้ แต่การเข้าใจถึงระดับมาสเตอร์ นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถทั้งหมด
เอธานคิดขณะเข้าไปในร้านว่า ‘ฉันแค่ต้องซื้อของที่ถูกที่สุดเพราะว่าเจตจำนงที่จะเข้าใจในวังวนสีดำสามารถเพิ่มความสามารถในการเข้าใจของฉันให้สูงขั้น ซึ่งแม้แต่ฉันก็ไม่รู้ตัว ‘
แต่หลังจากที่เข้าไปในร้านแล้ว เขาก็ตกตะลึงเพราะเป็นร้านเล็กๆ และไม่มีใครนอกจากเขา
‘ เกิดบ้าอะไรขึ้น? ‘
” โปรดวางมือซ้ายของคุณบนโต๊ะเพื่อเริ่มต้นในร้านค่าเจตจำนง “
เสียงนั้นเปล่งออกมาภายในร้าน และเอธานทำตามคำสั่ง และหลังจากนั้น ภาพโฮโลแกรมก็สว่างขึ้นต่อหน้าเขา
เอธานเห็นว่าโฮโลแกรมขนาดใหญ่มีรายการของ ธาตุ และ เจตจำนงลึกลับ
‘ แต่นักเรียนคนอื่นไปไหน? เป็นไปได้ไหมว่า…นักเรียนทุกคนเข้าไปในร้านเล็กๆ ส่วนตัวแบบนี้? ‘ เอธานคิดว่าควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะนี่คือโลกเสมือนจริง
ครั้งแรกที่เขาเปิดใช้งาน Digiband และกรองแนวคิดแรงค์ S
” อันดับแรก ฉันจะเข้าใจแนวคิดระดับ S จากสิ่งนี้ เพราะมันง่ายกว่า และหลังจากที่ฉันบรรลุแนวความคิดขั้นแรกแล้ว ฉันจะพยายามทำให้แนวคิดของตัวเองเป็นจริงให้ได้ ”
เหตุผลที่เขาตัดสินใจเรื่องนี้เป็นเพราะยิ่งเขาทำภารกิจหลักเสร็จเร็วและก้าวเข้าสู่ ขั้น Genesis Conceptual Plane ได้เร็วเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งได้รับรางวัลมากขึ้นและมีโอกาสมากขึ้นตามที่ทั้งเยแกนและศาสตราจารย์ลอมบอก
จากนั้นเขาก็เริ่มพิจารณาแนวคิดระดับ S เหล่านั้น
หลังจากค้นหามาระยะหนึ่งแล้ว เขาก็พบแนวคิดระดับ S ที่ตรงกับความตั้งใจของธาตุที่เข้าใจในปัจจุบันและต้องการให้เขาเข้าใจเจตจำนงลึกลับเท่านั้น
[ แนวคิดของลูกแก้วทำลายล้าง] – แรงค์ S
– เจตจำนงธาตุ: เจตจำนงไฟ, เจตจำนงน้ำ, เจตจำนงสายฟ้า, เจตจำนงอากาศ, เจตจำนงมืด
– เจตจำนงลึกลับ: เจตจำนงสั่นสะเทือน, เจตจำนงขับไล่, เจตจำนงดึงดูด, เจตจำนงความเร็ว, เจตนาแรงโน้มถ่วง
[ ซื้อข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดนี้ในราคา 50 เครดิต ]
เอธานเลือกซื้อข้อมูลรายละเอียด 50 เครดิต แต่แทนที่จะได้รับข้อมูลรายละเอียด เขากลับได้รับการบรรยาย
[ นักเรียน เอธาน คุณสามารถซื้อข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดได้ ก็ต่อเมื่อคุณมีเจตจำนงอย่างน้อย 1 อย่างหรือหลังจากเข้าร่วมการบรรยายครั้งที่ 2 ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจาก 5 เดือน 3 วันและ 14 ชั่วโมงที่แน่นอน ]
[ สำหรับตอนนี้ แค่มุ่งความสนใจไปที่การควบคุมเจตจำนง เพราะหากปราศจากเจตจำนง คุณจะฝันถึงการบรรลุแนวคิดระดับ S ได้มากเท่านั้น โชคดี. ]
เอธานพูดไม่ออก…
‘ แย่แล้ว ฉันไม่รู้สึกว่าข้อมูลใหม่จะท่วมท้นหรอก ‘ เอธานเขย่าหัวของเขา เขากดมือของเขาบนเจตจำนงลึกลับที่ระบุไว้ในแนวคิดนี้เพื่อซื้อพวกมัน
[ กระดานชนวนเจตจำนง – 10 เครดิต ]
[ แผ่นเจตจำนง – 50 เครดิต ]
[ แผ่นรายละเอียดเจตจำนง – 100 เครดิต ]
” ดูเหมือนว่าจะมีเวอร์ชันที่ดีกว่านี้ แต่ฉันต้องการแค่แผ่นนั่น”
จากนั้นเขาก็ซื้อ แผ่นเจตจำนงของการสั่นสะเทือน, เจตจำนงแรงดึงดูด, เจตจำนงความเร็ว และ เจตจำนงแรงโน้มถ่วง ก่อนออกจากร้าน
แต่แทนที่จะกลับไป เขาเข้าไปในอาคารอื่นซึ่งมี [ ความช่วยเหลือ & แบบสอบถาม ] เขียนไว้
มีนักเรียนจำนวนมากเข้ามาด้วย แต่สถานการณ์คล้ายกับร้านค้าอจตจำนง
ในห้องเล็ก…
[ กรุณาถามคำถามของคุณ ]
” มีสิ่งประดิษฐ์ใดที่สามารถให้จิตสำนึกของบุคคลเข้าสู่ร่างกายของบุคคลอื่นได้หรือไม่ “
[ มีอยู่ และเรียกว่า เป็นผู้ส่งจิตสำนึก แต่หลังจากเข้าไปในขั้น Soul Altar Plane แล้ว พวกเขาสามารถย้ายจิตสำนึกออกจากร่างกายได้ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้เสียเครดิตในการซื้อไอเทมดังกล่าว และซื้อทรัพยากรเพื่อความก้าวหน้าเร็วขึ้นแทน ]
“ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?”
[ โปรดดูข้อมูลดังกล่าวในร้านค้าสิ่งประดิษฐ์]
หลังจากออกจากร้านนี้ เขาเดินต่อไปอีกหน่อยก่อนจะพบร้านสิ่งประดิษฐ์และเข้าไป
หลังจากเข้าไปแล้ว เขาก็ไม่ต้องเสียเวลาดูรายการและเขียนตรง ผู้ส่งจิตสำนึก บนแถบค้นหาซึ่งอยู่ด้านบนของตัวกรอง
[ ผู้ส่งจิตสำนึก ]
– ราคา: 200 เครดิต.
” 200 เครดิต…แต่มันก็คุ้มค่าถ้าเทียน่าสามารถเข้าไปในวังวนสีดำและเข้าใจเจตจำนงที่นั่นได้ ไม่เช่นนั้นฉันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เธอยังคงอ่อนแออยู่ ” เอธานบ่นในขณะที่เขามองไปที่ สิ่งประดิษฐ์
‘ ปัจจุบันฉันมี 77 เครดิต ในขณะที่เทียน่าต้องมีประมาณ 70 เครดิต ‘ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาพยักหน้าเพราะพวกเขาจะซื้อได้ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจใหม่หลังจากผ่านไป 1 เดือน
จากนั้นเขาก็ออกจากร้านและกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง
เมื่อเห็นว่าเทียน่าเข้าใจเจตจำนงด้วยธูปหอมผ่อนคลายที่อยู่ข้างๆ เธอ เอธาน ก็นั่งขัดสมาธิก่อนที่จะส่งจิตสำนึกไปยังส่วนลึกของวังวนสีดำ ขณะนำแผ่นเจตจำนงของแรงดึงดูด ติดตัวไปด้วย
จากนั้นเขาก็พบว่าแรงลึกลับ ของเขาดูเหมือนจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น
เมื่อดูสถิติของเขา เขาก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าค่าสถานะจิตใจของเขาเพิ่มขึ้น 10
<สถิติ>
ความแข็งแกร่ง: 100
ร่างกาย: 100
จิตใจ: 30 ( พลังเวทย์ )
‘ เป็นไปได้ไหม…เพราะฉันเข้าใจระดับเริ่มต้นของเจตจำนงการขับไล่สำเร็จแล้ว? อืม…ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ ดังนั้นเราต้องเข้าใจเจตจำนงลึกลับเพื่อเพิ่มค่าสถานะทางความคิดของเรา ‘
จากนั้นเขาก็จดจ่อกับการทำความเข้าใจเจตจำนงของแรงดึงดูด ด้วยจิตสำนึกของเขาในโหมดที่จดจ่อมาก
…
หลังจากผ่านไป 2 วัน เขาก็ประสบความสำเร็จในการเข้าใจระดับเริ่มต้นของเจตจำนงของแรงดึงดูด
หลักการของ การขับไล่ และ เจตจำนงของแรงดึงดูด นั้นคล้ายกันแต่ตรงกันข้าม
การขับไล่คือการผลักออกไปในขณะที่แรงดึงดูดคือการดึงเข้ามา
เมื่อลืมตาขึ้น เขาเห็นว่าเทียน่ายังอยู่ในการทำสมาธิลึก ดังนั้นเขาจึงยังคงเข้าใจเจตจำนงลึกลับทั้งสองนี้เพื่อไปถึงระดับกลางในพวกมัน
…
หลังจากผ่านไป 3 วัน เขาก็ประสบความสำเร็จในการทำความเข้าใจระดับกลางของเจตจำนงขับไล่ แต่เห็นว่าเทียน่ายังคงอยู่ในการทำสมาธิ เขาก็พูดต่อไป และหลังจากนั้นอีก 3 วัน เขาก็บรรลุถึงระดับกลางของเจตจำนงของแรงดึงดูด
ขณะที่เขาลืมตาขึ้น เขาก็ได้ยินเสียงของเทียน่า
“ในที่สุดนายก็ตื่น” เทียน่าเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับจานใบใหญ่
จมูกของเอธานกระตุกเมื่อได้กลิ่นอาหารดีๆ
เทียน่าวางจานต่อหน้าเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า ” ฉันทำสมาธิเสร็จแล้ว และตอนนี้ฉันต้องการการทำสมาธิลึกอีกหนึ่งครั้งเพื่อไปถึงระดับกลางในเจตจำนงของความมืด ฉันยังซื้อเครื่องปรุงรสจากตลาดสาธารณะเพื่อทำให้ปลาเหล่านี้มีรสชาติมากขึ้น “
“แล้วความคืบหน้าของนายล่ะ” เธอถามหลังจากนั่งลงต่อหน้าอาธานขณะเสิร์ฟปลาย่าง
เอธานตอบด้วยรอยยิ้มว่า “กินข้าวกันก่อนเถอะ ฉันหิวมากแล้ว และฉันมีข่าวดีมาบอกเธอด้วย”
“ข่าวดีอะไร”
“เดี๋ยวฉันบอกทีหลัง กินข้าวก่อน กลิ่นหอมเกินไป นานมากแล้วที่ไม่ได้กินของอร่อย”
…
หลังจากที่พวกเขารับประทานอาหารเสร็จแล้ว เอธานก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันได้บรรลุระดับกลางในเจตจำนงลึกลับ 2 ครั้งใน 8 วันนี้”
มือของเทียน่า กระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่ารู้สึกกังวลในใจ
เอธานสังเกตสิ่งนี้และกอดเธอก่อนจะลูบหลังเธอและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ข่าวดีก็คือ ฉันยังมีวิธีเพิ่มความก้าวหน้าของเธอเกี่ยวกับเจตจำนงได้ สิ่งที่เธอกลัว…ฉันจะไม่ปล่อยให้สิ่งนั้น เกิดขึ้น ลบความคิดเหล่านั้นเหมือนเธอไม่คู่ควรกับฉันเพราะเธอคู่ควรตลอดอยู่แล้ว และตอนนี้เธอจะไม่เป็นภาระให้ฉันแน่นอน … ตลอดไป “
น้ำตาเริ่มไหลเมื่อเทียน่าเริ่มร้องไห้ ไม่ใช่เพราะเธอเศร้า แต่เพราะเธอมีความสุข
…
หลังจากนั้น ภายในเตียงที่เพิ่งสร้างใหม่ด้วยใบไม้ที่ปลิวไสว การต่อสู้อันเร่าร้อนที่เต็มไปด้วยความสุขได้เริ่มต้นขึ้น
ตอนที่ 80: การสร้างแนวคิด เจตจำนงแห่งการขับไล่
เอธานเสริมเจตจำนงทั้งหมดที่เขาเข้าใจ แต่ผลที่ตามมาทำให้เขายิ้มอย่างขมขื่น
[ ไม่มีใครสามารถรวมเจตจำนงขององค์ประกอบหลายอย่างนี้ไว้ในแนวคิดเดียวได้ ]
จากนั้นเขาก็ลบเจตจำนงของธาตุทั้งหมดและเก็บเจตจำนงอวกาศไว้
[ 7502 พบแนวคิดที่มีเจตจำนงอวกาศอยู่ในนั้น ]
หลังจากนั้น รายการในมุมมองตารางก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้แนวคิดทั้งหมดที่มีเจตจำนงอวกาศก็อยู่ในนั้น
[ แนวคิดของธนูเปลวเพลิงและอวกาศ ] – แรงค์ C
– เจตจำนงธาตุ: เจตจำนงอวกาศ, เจตจำนงไฟ
– เจตจำนงลึกลับ: เจตจำนงของธนู, เจตจำนงการเจาะ, เจตจำนงของความเร็ว
.
[ แนวคิดอุลตร้าไวโอเลตของสายฟ้าและอวกาศ ] – แรงค์ A
– เจตจำนงธาตุ: เจตจำนงอวกาศ, เจตจำนงสายฟ้า, เจตจำนงไฟ, เจตจำนงน้ำ
– เจตจำนงลึกลับ: เจตจำนงการสั่นสะเทือน, เจตจำนงความเร็ว, เจตจำนงของความโลภ
.
” เจตจำนงของความโลภงั้นเหรอ? ” เอธานสัมผัสคำและข้อมูลเกี่ยวกับคำนั้นที่ปรากฏขึ้น
[ เจตจำนงของความโลภ มันสามารถลบพลังงานจิตใจ (พลังงานจิต พลังงานลึกลับ แรงลึกลับ ฯลฯ ]
“นี่คือเจตจำนงลึกลับที่เทียน่าต้องเข้าใจ”
จากนั้นเขาก็มองต่อไปด้านล่างและพบเจตจำนงระดับ S
.
[ แนวคิดของราชาของดาบอวกาศแห่งความตาย ( โดยราชาของดาบแห่งความตาย, เทเลียน ] – แรงค์ S
– เจตจำนงธาตุ: เจตจำนงอวกาศ, เจตจำนงโลหะ, เจตจำนงแห่งความตาย, เจตจำนงแห่งเงา, เจตจำนงแห่งความมืด
– เจตจำนงลึกลับ: เจตจำนงความเร็ว, เจตจำนงแรงโน้มถ่วง, เจตจำนงเลือด, เจตจำนงของความโลภ, เจตจำนงของการเจาะ, เจตจำนงของการดึงดูด
.
[แนวคิดของค้อนอวกาศ ] – แรงค์ C
– เจตจำนงธาตุ: เจตจำนงอวกาศ, เจตจำนงของดิน, เจตจำนงโลหะ
– เจตจำนงลึกลับ: เจตจำนงของการสลาย, เจตจำนงแห่งค้อน, เจตจำนงของความหนัก
.
[ แนวคิดของหมอกเลือดลวงตา] – แรงค์ A
– เจตจำนงธาตุ: เจตจำนงเลือด, เจตจำนงอวกาศ, เจตจำนงหมอก
– เจตจำนงลึกลับ: เจตจำนงการลวง, เจตจำนงเลือด, เจตจำนงของความสนุก, เจตจำนงของการเจาะ (แทรกแซง)
.
[แนวคิดหมัดทำลายล้างอวกาศ] – แรงค์ A
– เจตจำนงธาตุ: เจตจำนงอวกาศ, เจตจำนงมืด, เจตจำนงน้ำ
– เจตจำนงลึกลับ: เจตจำนงของการชก, เจตจำนงความเร็ว, เจตจำนงภาพลวงตา, เจตจำนงของความป่นปี้, เจตจำนงของความหนัก
.
จากนั้นเขาก็ดูที่แท็บด้านข้างของรายการนี้และกดที่ [ ป้องกัน ]
ก่อนหน้านี้ เขากำลังดูแนวคิดของการ [ ป้องกัน] แต่ตอนนี้เขาเริ่มมองผ่านแนวคิดการป้องกันที่มีธาตุอวกาศ อยู่ในนั้น
เอธานอ่านต่อไปสักพักก่อนจะหยุดและสูดหายใจเข้าลึกๆ
“บ้าเอ้ย!!”
เทียน่าตกใจเมื่อได้ยินดังนั้นจึงหันไปหาเขาก่อนจะถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
เอธานถอนหายใจและพูดพร้อมกับส่ายหัวว่า “เปล่าหรอก แค่ฉันพบองค์ประกอบใหม่ๆ มากมายและมี เจตจำนงลึกลับในนั้นมากเกินไป”
เทียน่าพยักหน้าและยิ้มขณะที่เธอพูดว่า “ใช่ แต่เราเพิ่งเริ่มต้นและเส้นทางยังยาวไกลมาก อย่าปล่อยให้ถูกครอบงำและฝึกฝนทีละขั้นตอน”
“ แน่นอน แต่ฉันไม่สนแนวคิดใดที่น้อยกว่าแนวคิดระดับ S” เอธานกล่าวอย่างเฉียบขาด
เทียน่ามองไปที่เอธาน และพูดในลักษณะที่แสดงให้เห็นว่าเธอมั่นใจในตัวเขามากแค่ไหน “เมื่อรู้ความสามารถและพรสวรรค์ของนายแล้ว นายก็จะเข้าใจแนวคิดแรงค์ S ได้อย่างแน่นอน เมื่อเดือนที่แล้ว นายยังไม่มีเจตจำนงใดๆ แต่ตอนนี้ นายมีมันแล้ว และตอนนี้พวกมันก็ถึงระดับกลางในเจตจำนงธาตุทั้ง 9 ครูคนนั้นควรนำนายเป็นนักเรียนของพวกเขาแล้วหากพวกเขารู้เรื่องนี้ ”
เอธานส่ายหัวแล้วพูดว่า “ศาสตราจารย์ลอมพูดไม่ใช่หรือว่าก่อนที่จะไปถึงระดับกลางในเจตจำนง ทุกอย่างก็ไร้ประโยชน์ น่าจะมีหลายคนที่ไปถึงระดับกลางในองค์ประกอบต่างๆ อย่างฉัน แต่คุณค่าที่แท้จริงของเราจะแสดงได้ก็ต่อเมื่อเรา สามารถไปถึงระดับกลางของเจตจำนงมากมายนั่น”
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน มีบางอย่างเกิดขึ้นในที่อื่นซึ่งพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่เอธานพูดนั้นถูกต้อง
…
ชายในวัย 40 นั่งไขว่ห้างขณะลอยอยู่บนท้องฟ้า ร่างกายส่วนบนของเขาไม่มีเสื้อผ้าและแสดงกล้ามเนื้อที่แทบจะระเบิดออกมา
ผมสีน้ำเงินเข้มยาวปลิวไสวตามแรงลม แต่ที่น่าตกใจที่สุดคือสภาพแวดล้อมรอบตัวเขา
เป็นเรื่องปกติแต่ไม่ปกติ
ไม่มีต้นไม้และมีแต่หินและภูมิประเทศอื่นๆ ที่เขียวขจีเป็นศูนย์
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งถูกเคลื่อนย้ายจากที่ไหนสักแห่งมายังสิ่งนี้ แต่ทันทีที่ปรากฏ เข่าของเขาคุกเข่าลงก่อนที่เขาจะกระแทกกับพื้นโดยที่ใบหน้าของเขาเกือบจะได้กินดิน
เสียงคร่ำครวญหลุดจากปากของเขา ในขณะที่เขาแทบไม่ได้พูดว่า “ท่านอาจารย์…”
ชายที่เพิ่งปรากฏตัวไม่ใช่ใครอื่นนอกจากกัปตันเลย์ฮาร์ทของยานอวกาศที่เอธานและเทียน่าเดินทางไปยังมีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่
ชายที่ลอยอยู่พูดในขณะที่ตายังหลับอยู่ “อยู่ใต้อาณาเขตของฉันเป็นเวลา 10 นาที ฉันไม่ได้ใช้พลังอะไรเลย เพราะมันเป็นเพียงแรงกดดันง่ายๆ นายควรจะสามารถต้านทานได้มากเพียงนั้นด้วยการฝึกฝนในอาณาเขตที่ลึกซึ้งของนาย”
กัปตันถึงกับพูดไม่ออก แต่ไม่มีทางเลือกอื่น เขาเปิดใช้งานขอบเขตอันลึกซึ้งของเขา แต่…
ร่างเล็กสีเขียวและสีแดงสว่างขึ้นรอบตัวเขาก่อนที่มันจะละลายในไม่กี่วินาที
‘ เฮ้อ ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันจะต้องอยู่แบบนี้เป็นเวลา 10 นาที ดูเหมือนว่ามีคนแจ้งอาจารย์เกี่ยวกับความพ่ายแพ้ของฉันเมื่อวานนี้ ‘ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขารู้สึกเหมือนกำลังทุบตีคนที่นินทาเขา
จากนั้นเขาก็คิดอย่างโกรธเคืองว่า ‘ ฉันเพิ่งมาถึงจากการไปรับเด็กจากกาแล็กซีซอร์คา และถูกเจ้าสารเลวนั่นท้าทายทันทีหลังจากนั้น แต่ถึงกระนั้น เขาก็ก้าวนำหน้าฉันหนึ่งก้าวและไปถึงจุดสูงสุดของแดนลึกล้ำในขณะที่ฉันไม่อยู่ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องทุ่มเทอย่างหนักในการฝึกซ้อม เพราะอีกแค่ก้าวเดียวก็จะไปถึงที่นั่นแล้ว ‘
10 นาทีผ่านไป…ในขณะที่ถอนหายใจออกมาจากปากของชายผมยาวสีฟ้าที่กำลังลอยอยู่
” เน้นการฝึกต่อจากนี้ไป นายจะไม่ได้ออกไปข้างนอก ก่อนจะถึงจุดสูงสุดของขั้น Profound Domain Plane (โปรฟาวด์ โดเมน เพลน)”
เลย์ฮาร์ทสามารถขยับตัวได้ แต่แทนที่จะยืนขึ้นตรงๆ เขาก้มหน้าลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพ “ท่านอาจารย์ คราวหน้าข้าจะไม่ล้มเหลวและจะเอาชนะบุตรของไบผู้นั้นอย่างแน่นอน…ข้าหมายถึงว่าข้าจะเอาชนะเขาให้ได้”
คนที่เอาชนะเขามีอาจารย์และอาจารย์ของพวกเขาเป็นคู่แข่งกันเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้การแข่งขันของพวกเขาเปลี่ยนไปเป็นสาวกของพวกเขาด้วย
” พูดมาเลย เด็กที่มีแนวโน้มดีที่นายได้พบในการสอบ ? “
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มีบางคนที่เข้าใจเจตจำนงระดับกลางในขั้น Origin Intent Plane ของฉัน ซึ่งคนๆเดียวก็ยังคงเชี่ยวชาญได้เพียง 3 เจตจำนงธาตุและ 2 เจตจำนงลึกลับ ซึ่ง 3 คนในนั้นได้ตระหนักถึงแนวคิดแล้ว หลังจากมาถึงที่นี่ แต่เป็นแนวคิดระดับ C เท่านั้น”
หลังจากนั้น เขาส่ายหัวก่อนจะพูดต่อ “กลุ่มคนระดับนั้นช่างน่าผิดหวังเช่นเคย ตระกูลร่ำรวยที่งี่เง่าเหล่านั้นซื้อยาความสัมพันธ์ให้กับรุ่นน้องของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงมีความสัมพันธ์มากมาย แต่มีเจตจำนงเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจ”
จากนั้นเขาก็จำคดีได้และพูดว่า “แต่มีเด็กคนหนึ่ง ฉันคิดว่าเขามีพลังของเจตจำนงที่น่าสะพรึงกลัว เพราะเมื่อเขาเพิ่งลงทะเบียน เขาได้เข้าใจ 0 เจตจำนง แต่ในเวลาไม่กี่วันเขาก็เข้าใจ 8 เจตจำนงในระดับกลางและหลังจากนั้นอีก 2-3 วัน เขาก็เข้าใจเจตจำนงอวกาศในระดับกลางด้วย ”
ชายที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าส่ายหัวและพูดว่า “ถ้าเขาเข้าใจได้เร็วและน่ากลัวอย่างที่นายพูดจริงๆ เขาก็ควรจะไปถึงระดับสูงสุดด้วยเจตจำนงเหล่านั้นด้วยสิ แต่สำหรับตอนนี้ มันไม่ได้พิสูจน์อะไรเลย”
“เอาล่ะ ไปเริ่มฝึกกันเลย ถ้าแกแพ้ลูกศิษย์ของ โฟกี้ อีก ฉันจะส่งนายไปฝึกที่ ทวีปสเตอร์ไลน์”
เมื่อได้ยิน ” ทวีปสเตอร์ไลน์ ” ใบหน้าของเลฮาร์ท ซีดเล็กน้อยก่อนจะรีบพูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงอาจารย์ ฉันจะท้าทายเขาอย่างแน่นอน หลังจากที่ฉันไปถึงจุดสูงสุดของขั้น Profound Domain Plane และเอาชนะเขาให้ได้”
…
…
หลังจากที่ เอธาน และ เทียน่า สำรวจวิธีการสร้างแนวคิดมาระยะหนึ่งแล้ว พวกเขาก็เริ่มการต่อสู้ที่ดุเดือดในห้องนอนของพวกเขา
เอธานยกเทียน่า ขึ้น ในขณะที่มือของเขาจับก้นที่กลมกล่อมของเธอและส่งมังกรของเขาเข้าไปข้างในอย่างดุเดือดเมื่อมันกระแทกส่วนที่ลึกที่สุดของเทียน่าด้วยทุก ๆ แรงผลักดัน
*อ้า…อื้มมม….*
เทียน่ามีใบหน้าที่มีความสุขอย่างยิ่งแต่กลับบิดเบี้ยว ขณะที่เธอเอามือโอบรอบคอของเอธาน และสนุกกับการกระแทกกระทั้นของเขา
…
…
หลังจากต่อสู้เป็นเวลา 2 ชั่วโมงและยืนในท่า 2-3 ท่าซักพัก เทียน่าก็เดินกะเผลก ขณะที่เอธานยังมีไม้เท้าที่ยังคงตั้งตรง พลางมองเข้าไปในดินแดนลึกลับของเขา
‘ อืม…ดูเหมือนว่าเราต้องฝึกฝนควบคู่กันทุกวันและรวบรวมพลังงานนี้ให้มากขึ้น ในขณะที่ฉันต้องทดสอบอะไรบางอย่าง ‘
จากนั้นเขาก็เดินไปทางเทียน่า และอุ้มเธอในท่าอุ้มเจ้าหญิงก่อนจะวางเธอลงบนเตียง ซึ่งตอนนี้เป็นเพียงเตียงไม้ที่สร้างโดยเอธาน แต่บนนั้นมีใบไม้ขนาดใหญ่สองใบที่พวกเขาพบอยู่ใกล้ ๆ
ใบเหล่านี้อ้วนและเด้งและพิสูจน์แล้วว่าเป็นวัสดุที่ดีในการต่อสู้ที่ดุเดือด
…
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง…
ทั้ง เทียน่า และ เอธานนั่งไขว่ห้างโดยหลับตา
เอธานนั้นใกล้จะเข้าใจเจตจำนงของการขับไล่ได้แล้ว ขณะที่เทียน่า กำลังเพิ่มเจตจำนงของเธอเกี่ยวกับ เจตจำนงของความมืด เพื่อยกระดับเป็นระดับกลาง
หลังจากที่มันถึงระดับกลาง การทดสอบหลักครั้งแรกของเธอจะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง เอธานก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นที่ปากของเขา
” เจตจำนงของการขับไล่…เข้าใจได้สำเร็จและมันวิเศษจริงๆ ” เอธานพึมพำด้วยรอยยิ้ม เขาพูดเสียงต่ำเพื่อไม่ให้รบกวนเทียน่าที่ในที่สุดก็เข้าสู่การทำสมาธิลึกหลังจาก 2 ชั่วโมงของการพยายามของเขา
‘ แต่ทำไมภารกิจยังไม่เสร็จ? ‘ เอธานคิดอย่างสับสน ขณะดูรายละเอียดบน Digiband ของเขา
< เอธาน >
– เครดิต: 97
< โลกเสมือน >
การเข้าถึงปัจจุบัน: มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่
[ ภารกิจ ]: ไม่มีในขณะนี้ ( ใน 4 ชม. )
[ การทดสอบหลัก ]: ทำความเข้าใจเจตจำนงลึกลับที่ระดับ เริ่มต้น—>รางวัล: 20 เครดิต ( จำกัดเวลา : 1 ปี )
{-สร้างแนวคิด-}
…
‘ ภารกิจจะถูกเปิดเผยหลังจากผ่านไป 4 ชั่วโมง…รอสักครู่ ฉันคิดว่า Digiband คงไม่รู้สึกได้ว่าฉันเข้าใจเจตจำนงลึกลับในการขับไล่แล้ว…ดูเหมือนว่าฉันจะต้องใช้มันก่อน ‘
จากนั้นเขาก็บินออกจากต้นไม้และลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่จะสร้างพื้นที่ของการขับไล่ขนาดเล็กต่อหน้าเขา
ทุ่งไม่มีสี แต่เขาได้สร้างสนามขนาดเล็ก 1 ตารางเมตรไว้ข้างหน้าเขา
หลังจากที่เขาสร้างสนามโดยใช้แรงลึกลับเสร็จแล้ว เขาก็โยนลูกไฟเล็กๆ ไปทางนั้น
เอธานมองดูลูกไฟเมื่อไปถึงสนามขับไล่ แต่เมื่อมันกระทบสนาม ทิศทางของมันเปลี่ยนไปด้านข้าง
[การทดสอบ (2) เสร็จสิ้น ]
– รางวัล: 30 เครดิต (เครดิตพิเศษ 50% สำหรับการสิ้นสุดการทดสอบในเวลาน้อยกว่า 50% ของเวลาที่กำหนด )
ตอนที่ 78: สถานะและข้อมูลของเทียน่า
<<เทียน่า~>
-> ขั้นกลางของ Origin Intent Plane
<สถิติ>
ความแข็งแกร่ง: 22
ร่างกาย: 24
จิตใจ: 20 ( พลังเวทย์ )
.
<~อาณาจักรลึกลับ~>: พลังงานดั้งเดิม- [ สายฟ้า ภูเขาไฟสายฟ้า น้ำ น้ำแข็ง เลือด ความมืด ]
.
<~เจตจำนงของธาตุ~>
-ระดับเริ่มต้น —–>[ เจตจำนงความมืด ]
-ระดับกลาง—->[ เจตจำนงภูเขาไฟสายฟ้า ]
.
<~อาณาจักรลึกลับ~>
– พลังลึกลับ พลังงานคริสตัลขาว
.
<~เจตจำนงลึกลับ~>
-ระดับเริ่มต้น-[ ยังไม่มี ]
.
<~วิธีการไหลของพลังงาน~>
– วิธีการคาถาสายฟ้าของงูเพลิง ( ขั้นเริ่มต้น )
—->[ คาถา: Boa (งูเหลือม) และการโจมตีอื่นๆ เช่นพวกคาถา Winged Serpent (พญานาคามีปีก) เพราะฉันต้องไปถึงขั้นสูงก่อน และคาถา Serpent Rope (เสื้อคลุมอสรพิษ)]
– วิธีการไหลของพลังงานสายเลือด ( เพิ่งเริ่มฝึก )
—->[ คาถา: ( ยังไม่ได้เรียน ) ]
.
<~ คาถาไหลของพลังงานจุดระเบิด~>
– ปุ่มระเบิด (ขั้นเริ่มต้น)
.
[ คาถาอักษรรูน ]
– ลูกไฟ, โซ่ไฟ, โดมภูเขาไฟ , คลื่นภูเขาไฟสายฟ้า, ลูกบอลพลังงานภูเขาไฟสายฟ้า
—————————————————-
สถานะ Digiband
< เทียน่า >
– เครดิต: 56
[ ภารกิจ ]: ไม่มีในขณะนี้ ( ใน 18 ชม. )
[ การทดสอบหลัก ]: ทำความเข้าใจ 2 เจตจำนงถึงระดับกลาง—>รางวัล: 20 เครดิต ( จำกัดเวลา : 1 ปี )
< โลกเสมือน >
การเข้าถึงปัจจุบัน: มีเรียดสตาร์อะคาเดมี่
ตอนที่ 79: คลาส & ฟังก์ชั่นใหม่
[ การทดสอบคลาสอย่างเป็นทางการครั้งแรกจะเริ่มใน 10 นาที ]
เอธานและเทียน่าลืมตาขึ้นเมื่อได้ยิน
“โอ้ เธอมาถึงแล้ว เป็นยังไงบ้าง” เอธานสังเกตเห็นเทียน่าและถาม
“ฉันทำเสร็จแล้ว แต่ฉันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เนื่องจากการแอบโจมตีจากด้านหลัง อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บนั้นรักษาได้ง่ายด้วยพลังงานคริสตัลขาว และมันก็ไม่ได้สำคัญอะไร”
เอธานถอนหายใจโล่งอกแล้วพูดว่า “คราวหน้าระวังให้ดี เราควรเก็บพลังคริสตัลสีขาวให้มากกว่านี้ เพราะดูเหมือนว่ามันจะมีประโยชน์ในสถานการณ์ที่เลวร้าย”
เทียน่าหน้าแดงเล็กน้อยและพยักหน้า “ใช่ เราควรจะทำ อย่างไรก็ตาม ฉันสงสัยว่าชั้นเรียนจะดำเนินไปอย่างไร”
…
10 นาทีผ่านไป ทั้ง เอธาน และ เทียน่า รู้สึกถึงแรงดึงก่อนที่จะหายตัวไป
เอธานรู้สึกว่าแรงดึงและมันก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Digiband โดยจะแสดงพิกัด และเมื่อทราบพิกัดแล้ว อะคาเดมี่จะใช้วิธีการบางอย่างในการเคลื่อนย้ายพวกเขาไป
…
เอธาน และ เทียน่ามาถึงสนามหญ้าที่มีนักเรียนจำนวนมากยืนอยู่ ทิวทัศน์รอบตัวพวกเขาเป็นธรรมชาติและเต็มไปด้วยความเขียวขจี
นักเรียนอยู่ห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร ขณะที่คู่อย่างเอธาน และ เทียน่ายืนอยู่ด้วยกัน
มีนักเรียนประมาณหนึ่งหมื่นคน
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ภาพฉายขนาดใหญ่ก็สว่างขึ้นบนท้องฟ้า ซึ่งแสดงชายคนหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะอายุ 30 เศษ เขามีผมสีน้ำตาลสั้นและหนวดสีน้ำตาลเล็กๆ
เขามีใบหน้าธรรมดาและการแสดงออกของเขาคือความเฉยเมย
เขาพูดขึ้นว่า “ฉันชื่อ จีเนีย ลอม และคุณจะเรียกฉันว่า โปรเฟสเซอร์ลอมก็ได้จนกว่าคุณจะก้าวไปสู่ ขั้น Genesis Conceptual Plane ฉันเป็นนักเรียนเหมือนคุณที่อะคาเดมี่แห่งนี้ แต่ฉันอยู่ที่ขั้น Soul Altar Plane และตอนนี้ได้เป็นครูที่แท้จริงแล้ว ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะฉันจะสอนนักเรียนขั้น Origin Intent Plane และ Genesis Conceptual Plane แต่แน่นอน หากคุณสามารถดึงดูดสายตาของครูคนนี้และกลายเป็นนักเรียนส่วนตัวของพวกเขาได้ มันจะเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตของคุณ ”
” และเพื่อสร้างความประทับใจให้กับครูเหล่านั้น คุณต้องทำให้ดีที่สุดในการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นบ่อย ๆ คุณจะได้รับการแจ้งเตือน เมื่อมันเกิดขึ้นและเป็นทางเลือกของคุณว่าคุณต้องการเข้าร่วมหรือไม่ แน่นอนฉันแนะนำให้คุณเข้าร่วมทั้งหมด เพราะคุณสามารถได้รับรางวัลมากมายและรางวัลที่ดีที่สุดคือการดึงดูดสายตาของครูเหล่านั้น เนื่องจากพวกเขาจะสนใจเฉพาะการแข่งขันเหล่านั้นเท่านั้น ”
ศาสตราจารย์ลอมก็กระแอมกระแอมแล้วพูดว่า “ตอนนี้เรามาพูดถึงขั้น Origin Intent Plane กันดีกว่า อย่างที่ทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้ว พลังงานของคุณเปลี่ยนไปและไม่สามารถกีดกันมันได้อีกต่อไป เมื่อคุณใช้วิธีการไหลของพลังงาน ซึ่งนั่นต้องหมายถึงว่าร่างกายของคุณต้องแข็งแกร่งขึ้นด้วย เพื่อฝึกฝนวิธีการไหลของพลังงานและคาถาเพิ่มเติม คุณก็ต้องแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน … ”
…
ศาสตราจารย์พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ เอธาน และ เทียน่า รู้อยู่แล้วในระยะเวลาหนึ่ง และหลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ได้ยินสิ่งใหม่
” เจตจำนงแห่งธาตุ และ เจตจำนงลึกลับ คืออะไร พวกมันคือความคิดที่มีอยู่ เป็นความคิดของจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้และโลกนับไม่ถ้วน เมื่อเข้าใจความคิดเหล่านั้น คุณจะสามารถเข้าถึงพลังของพวกมันได้ “
” เมื่อคุณบรรลุระดับมาสเตอร์ ในเจตจำนงใด ๆ คุณจะรู้สึกถึงอุปสรรคที่ผูกมัดการดำรงอยู่ของคุณ อุปสรรคนี้เรียกว่าอุปสรรคแห่งความคิด ”
นักเรียนหลายคนประหลาดใจ ในขณะที่คนอื่นไม่แปลกใจ
เอธาน และ เทียน่า ประหลาดใจ เมื่อได้ยินเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก
ศาสตราจารย์ลอมกวาดสายตามองไปรอบๆ นักเรียนทุกคนในขณะที่เขาพูดต่อไปว่า “การจะทำลายกำแพงแห่งความคิดนี้ คือการบุกทะลวงไปสู่ ขั้นของ Genesis Conceptual Plane”
” และเพื่อที่จะทำอย่างนั้น คุณต้องรวม เจตจำนงของธาตุ อย่างน้อย 2 อย่างและ เจตจำนงลึกลับ 1 อย่างเข้าด้วยกันและทำให้เกิดแนวคิดแบบใหม่ ”
พวกคุณหลายคนคงเคยได้รับ เจตจำนงของการหลอมรวมแล้วโดยบังเอิญ เจตจำนงเหล่านั้นเป็นส่วนผสมของ 2 องค์ประกอบของธาตุขึ้นไปและคุณสมบัติลึกลับอื่น ๆ เจตจำนงลึกลับ เหล่านั้นสามารถรับรู้ และกลายเป็นแนวคิดได้ทั้งหมด หากคุณเข้าใจเจตจำนงลึกลับที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติลึกลับ ในเจตจำนงเหล่านั้นแล้ว”
ศาสตราจารย์ลอมกล่าวต่อว่า ” แนวคิดแรกที่ฉันตระหนักได้คือ แนวคิดเรื่องน้ำแข็งแห่งความมืด แนวคิดนี้เป็นการผสมผสานระหว่าง เจตำจนงของน้ำแข็ง, เจตจำนงของความมืด, เจตจำนงของเงา, เจตจำนงถ้ำน้ำแข็ง และ เจตจำนงของความเชื่องช้า “
” ในหมู่พวกมัน เจตจำนงของถ้ำน้ำแข็ง และ เจตจำนงแห่งความเชื่องช้า คือ เจตจำนงลึกลับ ส่วน เจตจำนงของน้ำแข็ง, เจตจำนงของความมืด และ เจตจำนงของเงา เป็น เจตจำนงของธาตุ ฉันไปถึงระดับมาสเตอร์ ใน 5 เจตจำนง เหล่านี้แล้วหลอมรวมเพื่อสร้างแนวคิดใหม่ “
” เจตจำนงขององค์ประกอบและเจตจำนงลึกลับใด ๆ สามารถหลอมรวมได้ ตราบเท่าที่คุณรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรและมีโครงสร้างที่ชัดเจนของแนวคิดในความคิดของคุณและสำหรับการใช้แนวคิด เร็วเกินไปสำหรับคุณทุกคนที่จะรู้ว่ามันคืออะไร ”
เสียงของศาสตราจารย์ลอมกลายเป็นเสียงแหลมขณะที่เขาพูดต่อ
” คุณทุกคนมี 2 วิธีในการสร้างแนวคิด อย่างแรก คุณต้องเข้าใจเจตจำนง ที่คุณเข้าใจได้ง่ายและเข้าถึงระดับกลางก่อนที่จะดูการสร้างแนวคิดที่บันทึกไว้ หรือ ดูการสร้างแนวคิดที่บันทึกไว้ก่อนแล้ว จึงจะสามารถเข้าใจเจตจำนงตามถึงพวกเขาที่เคยบันทึกไว้ก่อนหน้านี้ได้ ”
” หากคุณต้องการเข้าถึงวิธีการสร้างมัน ให้ไปที่ร้านค้า [ การสร้างแนวคิด ] เพื่อลงทะเบียนด้วยตัวเองและรับฟังก์ชันใหม่บน Digiband ของคุณ ”
จากนั้นเขาก็สรุปชั้นเรียน
” ชั้นเรียนต่อไปจะเป็นอีกไม่กี่เดือนต่อมา ยังไม่มีการยืนยันเวลาที่แน่นอน และในชั้นเรียนถัดไป คุณสามารถบอกข้อสงสัยของคุณมา แล้วฉันจะตอบหรือแก้ไขให้”
โปรเจ็กเตอร์หายไปและนักเรียนรู้สึกถึงแรงดึงดูดอีกครั้งก่อนจะกลับไปบ้านที่พวกเขาสร้างเอง
…
หลังจากกลับไปที่บ้านต้นไม้ของพวกเขาแล้ว เอธานก็พูดว่า “เทียน่าใช้เวทมนตร์ธรรมดาของเธอกับพลังงานภูเขาไฟสายฟ้ากับฉัน ฉันต้องการตรวจสอบบางอย่าง “
จากนั้นเขาก็บินออกจากบ้านและลอยขึ้นไปในอากาศโดยใช้แรงลึกลับ
เทียน่าปฏิบัติตามและลอยไปก่อนที่จะปล่อยคลื่นภูเขาไฟสายฟ้า ไปทางเอธาน
เอธานปล่อยให้ตัวเองถูกคลื่นภูเขาไฟสายฟ้า ก่อนจะชะงัก พลางหลับตา
การโจมตีนี้ไม่สามารถทำร้ายเขาได้เพราะมันเป็นเพียงการโจมตีปกติและสถานะร่างกายของเขาก็สูงเช่นกัน
เขาใช้พลังเวทย์มนตร์ของเขาและแน่นอนว่ามันถูกเผาผลาญเร็วขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้มันมากในการลอยตัว
เมื่อเห็นเอธานลืมตา เทียน่าก็พูดถึงสิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับเจตจำนงของเธอว่า “เมื่อฉันเพิ่งได้รับพลังนี้ มันมีสายฟ้าสีน้ำเงินอยู่บ้าง แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสีแดงทั้งหมดแล้ว ฉันเข้าใจระดับเจตจำนงถึงระดับกลางแล้วในตอนนี้และตราบใดเมื่อฉันได้รับข้อมูลนี้ พลังของภูเขาไฟสายฟ้า ก็จะมีเอฟเฟกต์ของการเผาไหม้และทำให้มึนงงได้และยังสามารถเผาผลาญพลังงานกายสิทธิ์และพลังงานเวทย์มนตร์ของฝ่ายตรงข้ามได้อีกด้วย แต่ไม่รู้ว่ามันเผาผลาญแรงลึกลับด้วยไหม ซึ่งเป็นมันเป็นพลังงานรูปแบบอัพเกรดของพลังงานลึกลับนี่? ”
เอธานยิ้มและตอบว่า “มันเผาแรงลึกลับของฉันจริง ๆ เมื่อฉันใช้มันกับคาถาเธอ ดังนั้นจึงปลอดภัยที่จะถือว่ามันเป็นคุณสมบัติลึกลับของเจตจำนงของเธอ สำหรับการเผาไหม้และทำให้มึนงง พวกมันเป็นคุณสมบัติธรรมดาของธาตุไฟและองค์ประกอบสายฟ้า . “
“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ฉันไม่รู้ว่าเจตจำนงลึกลับนี้เรียกว่าอะไร และฉันยังไม่เข้าใจอะไรเลยในระดับเริ่มต้น ฉันคิดว่าเราควรไปที่ร้านค้าอะคาเดมี่ ที่ศาสตราจารย์ลอมพูดถึงและตรวจสอบมัน เกี่ยวกับการสร้างแนวคิดต่างๆ ”
เอธาน พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าสู่โลกเสมือนจริง หลังจากใช้มาตรการป้องกันรอบตัวพวกเขาเหมือนเมื่อก่อน
พวกเขามาถึงที่พลาซ่าเดียวกัน และคราวนี้พวกเขาใช้ถนนอีกเส้นหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่พื้นที่ร้านค้าอะคาเดมี่
บริเวณนี้มีร้านค้าขนาดใหญ่ริมถนน อาคารที่ 2 ที่พวกเขาเห็นมีป้ายชื่อ [ การสร้างแนวคิด ]
เมื่อเห็นดังนั้น ทั้งสองจึงเข้าไปในร้าน
ทางร้านมีโต๊ะเดียวอยู่ตรงกลางและนักเรียนก็เข้าแถวหน้าโต๊ะ
เมื่อพวกเขามองไปที่โต๊ะ นักเรียนที่ยืนอยู่ที่นั่นก็หายไปและสายก็เคลื่อนไปข้างหน้า แต่หลังจากนั้น 2 วินาที นักเรียนที่เดินไปที่โต๊ะก็หายไปเช่นกัน
โต๊ะมีขนาดเล็กและไม่มีใครอยู่ด้านหลังโต๊ะ ยกเว้นโฮโลแกรมเล็กๆ ที่ส่องสว่างอยู่ด้านบน
“ไปยืนเข้าแถวกันเถอะ เดี๋ยวก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ไม่นานก็ถึงคราวของ เอธานและเทียน่าขึ้น พวกเขาไม่ได้ยืนข้างหลังกันแต่อยู่ข้างๆ กันเพราะมีคู่อื่นๆ 2-3 คู่ที่ยืนขวางทางนั้นเช่นกัน
เมื่อพวกเขามาถึงโต๊ะ มีคำเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนโฮโลแกรม
[ วางมือของคุณลงในโฮโลแกรม หากคุณมากันจำนวน 2 คนขึ้นไป ให้วางมือของคุณทีละคน ]
ทั้ง เอธาน และ เทียน่า เหยียดมือที่มี Digiband ติดอยู่และใส่ไว้ในโฮโลแกรมทีละตัว
[ สแกนเสร็จแล้ว ลงทะเบียน ID ขอให้มีวันที่ดี ]
หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็หายตัวไปและปรากฏตัวที่ลานกว้างที่คุ้นเคย
ขณะที่พวกเขากำลังสับสน ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของพวกเขา
[ เพิ่มฐานข้อมูลการสร้างแนวคิดใน Digiband ของคุณแล้ว ]
เอธานมองไปที่ Digiband แต่แทนที่จะตรวจสอบก่อน เขาพูดว่า “กลับไปที่โลกแห่งความจริงก่อน”
เทียน่าพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อพวกเขาออกจากโลกเสมือนจริงและปรากฏตัวบน บ้านต้นไม้ ของพวกเขา ซึ่งถูกปกคลุมด้วยกำแพง 2 แห่งของ ปุ่มระเบิด และ โกเลมทั้ง 3
หลังจากมาถึงพวกเขาก็ตรวจสอบฟังก์ชั่นใหม่
…
สถานะ Digiband
< เอธาน >
– เครดิต: 97
< โลกเสมือน >
การเข้าถึงปัจจุบัน: มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่
[ ภารกิจ ]: ไม่มีในขณะนี้ ( ใน 16 ชม. )
[ การทดสอบหลัก ]: ทำความเข้าใจเจตจำนงลึกลับที่ระดับเริ่มต้น—>รางวัล: 20 เครดิต ( จำกัดเวลา : 1 ปี )
{-สร้างแนวคิด-}
….
เมื่อเห็นตัวเลือกใหม่เอธานก็กดเข้าไป และหน้าต่างใหม่ก็ปรากฏขึ้น
เอธานสามารถเห็นชื่อแนวคิดต่างๆ บนหน้าที่เขียนด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่ และด้านล่างชื่อแต่ละชื่อมีรายการว่าเจตจำนงของธาตุ และ เจตจำนงลึกลับใดๆก็ตามที่จำเป็นสำหรับการสร้างแนวคิด
[ Concept of Steamy Shredder Aqua – แนวคิดของสตรีมมี่เชร็ดเดอร์อะควอร์ ] – แรงค์ D
– เจตจำนงธาตุ: เจตจำนงน้ำ, เจตจำนงหมอก
– เจตจำนงลึกลับ : เจตจำนงความร้อน เจตจำนงของการฉีก
.
[ Concept of Stormy Sword – แนวคิดของสตรอมมี่ ซอร์ด (ดาบลม) ] – แรงค์ C
– เจตจำนงธาตุ: เจตจำนงสายฟ้า, เจตจำนงอากาศ, เจตจำนงน้ำ
– เจตจำนงลึกลับ: เจตจำนงของดาบ เจตจำนงของความเร็ว
….
เขาเห็นตัวเลือกของตัวกรองที่มุมบนขวาและกดมัน ซึ่งแสดงให้เห็นช่องว่าง 2-3 ช่อง
[ เลือก เจตจำนงขั้นเริ่มต้น ของคุณเพื่อจำกัดการค้นหาให้แคบลง ]
ตอนที่ 77: ภารกิจและการทดสอบหลัก
เอธาน และ เทียน่าออกจากโลกเสมือนจริงก่อนที่จะเปิดใช้งาน Digiband ของพวกเขา เอธาน ได้โอนคู่มือการกลั่นร่างกายน้ำแข็ง ให้กับ เทียน่าก่อน ในขณะที่ เทียน่าให้เครดิต 8 แต้มแก่เขา
ข้อมูลที่พวกเขาเห็นถูกฉายโดยตรงในดินแดนลึกลับของพวกเขาในรูปแบบของการแสดง
[ ภารกิจ ]: 1. กำจัด ต้นกำเนิดหลักของสัตว์ดุร้าย ( จำกัดเวลา: 1 เดือน )
(เลือก 1 ตัวเลือกจากด้านล่าง)
-> กำจัดต้นกำเนิดของสัตว์ดุร้ายด่านที่ 1 : 6 ตัว = 10 เครดิต
-> กำจัดต้นกำเนิดสัตว์ร้ายด่านที่ 2 : 4 ตัว = 15 เครดิต
-> กำจัดต้นกำเนิดสัตว์ดุร้าย ด่านที่ 3 : 2ตัว = 25 เครดิต
เอธาน เลือกตัวเลือกที่ 3 โดยไม่ลังเลเมื่อหน้าจอเปลี่ยนไป
[ รับภารกิจ: กำจัดต้นกำเนิดสัตว์ดุร้าย ด่านที่ 3 : 2 ตัว ]
– รางวัล: 25 เครดิต
หลังจากนั้นก็มาถึงการทดสอบหลัก
[ การทดสอบหลัก ]: ถนนสู่การตระหนักรู้
1) เข้าใจเจตจำนงระดับกลางอย่างน้อย 2 แบบ ( จำกัด เวลา : 1 ปี ) ( เสร็จสมบูรณ์ )
– รางวัล: 20 เครดิต
[ ได้รับ 30 หน่วยกิต ( 50% เครดิตพิเศษสำหรับทำการทดสอบให้เสร็จในเวลาน้อยกว่า 50% ของเวลาที่กำหนด ]
🠗🠗 การทดสอบครั้งต่อไป 🠗🠗
2) เข้าใจเจตจำนงลึกลับอย่างน้อย 1 อย่าง ระดับที่ระดับแรกสุด (จำกัดเวลา: 1 ปี )
– รางวัล: 20 เครดิต
หลังจากนั้นจอแสดงผลก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
< เอธาน >
– 29 หน่วยกิต
[ ภารกิจ ]: กำจัด สัตว์ร้ายต้นกำเนิดหลัก ด่านที่ 3 ระยะที่ 3—> รางวัล: 25 เครดิต [ เริ่ม ]
[ การทดสอบหลัก]: ทำความเข้าใจอย่างน้อย 1 เจตจำนงลับ—> รางวัล: 20 เครดิต
< โลกเสมือน >
การเข้าถึงปัจจุบัน: มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่
หลังจากเห็นสิ่งนี้ เขาพูดกับ เทียน่าว่า “มาทำภารกิจให้เสร็จกันเถอะ ฉันคิดว่าเราสามารถเริ่มได้ตราบเท่าที่เราใช้ตัวเลือก [ เริ่ม ] นั้น ”
” ใช่ เราตัดสินใจถูกต้องแล้วในการเข้าสู่โลกเสมือนจริง ก่อนการมาถึงของภารกิจและการทดสอบหลัก”
เมื่อได้ยินเธอ เอธาน ก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ใช่ ขอบคุณที่เราพบข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนของสัตว์ร้ายในตลาดสาธารณะ สัตว์ร้ายต้นกำเนิดด่านที่ 3 สามารถเอาชนะได้ตราบเท่าที่เราเข้าใจเจตจำนงระดับกลาง 2 ระดับ และมีชุดเวทย์มนตร์และวิธีการไหลของพลังงาน ที่เหมาะสม นอกจากนี้ เธอยังสามารถเอาชนะสัตว์ร้ายด้วยเจตจำนงของภูเขาไฟสายฟ้า ระดับกลางของเธอ รวมกับเจตจำนงของความมืดที่เธอเพิ่งเข้าใจด้วย ”
เทียน่าพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ใช่ คาถาแห่งความมืดที่ฉันใช้สามารถลดการป้องกันของสัตว์ร้ายได้ แต่ถึงแม้จะไม่มีพลังนั้น พลังภูเขาไฟสายฟ้าของฉันรวมกับวิธีการไหลพลังงานของฉันก็เพียงพอที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้”
หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เริ่มภารกิจทันทีเมื่อได้ยินการนับถอยหลังในใจ
[ ภารกิจเริ่มต้น ]
[3]
[2]
[1]
[0]
ขณะที่มันพุ่งไปที่ 0 แรงดึงก็พุ่งออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ และทั้งคู่ก็หายวับไป
เอธานมาถึงที่ที่กระแสลมแรงส่งเสียงหอนซึ่งไม่กระทบกระเทือนเขาเลย
*กี๊ดดดดดดดดดด….กี๊ดดดดดดดดด….*
เขาได้ยินเสียงกรีดร้องแปลก ๆ 2 ครั้งเหนือเขาและเห็นว่าสัตว์วิเศษ 2 ตัวบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยปีกสีขาวน้ำนมของพวกมัน
พวกมันดูเหมือนนกกางเขน แต่มีปีกกว้าง 50 เมตรและยาว 18 เมตร มีขนสีขาวเพียงตัวเดียวทั่วตัว
“อืม…” เอธานพึมพำด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นพวกเขา
หลังจากบรรลุขั้น Origin Intent Plane พลังงานของเขาได้รับการเปลี่ยนแปลง โดยพื้นฐานและกลายเป็นพลังงานต้นกำเนิด
สิ่งหนึ่งที่พิเศษเกี่ยวกับพลังงานนี้คือ การอยู่ร่วมกัน ตอนนี้เขาสามารถฝึกวิธีไหล 2 แบบพร้อมกันในพื้นที่เดียวกันและพลังงานที่ใช้งานจะไม่ปะทะกัน แต่ความต้องการของร่างกายจะทวีคูณถ้าใครต้องการฝึกสองไหล วิธีการในพื้นที่เดียวกันในเวลาเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น บุคคลหนึ่งเชี่ยวชาญในขั้นเริ่มต้นของวิธีการไหล (A) และข้อกำหนดของมันคือ 20 ความแข็งแกร่ง และ 20 ร่างกายสำหรับระดับเริ่มต้น เส้นทางของพลังงานที่ไหลนี้ครอบคลุมหน้าอกและแขนทั้งสองของเขา ตอนนี้บุคคลนี้ต้องการฝึกอีกวิธีหนึ่ง (B) วิธีการไหลและเส้นทางของมันครอบคลุมบริเวณหน้าอกและหลัง ความต้องการของวิธีการไหลนี้คือกำลัง 15 และ 25 ร่างกาย
ตอนนี้ เนื่องจากเขาอยู่ที่ระดับ Origin Intent Plane พลังงานของเขาจะไม่ปะทะกัน แต่ความเครียดในร่างกายจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากพลังงานที่เต็มเปี่ยมของทั้ง 2 วิธีการไหลของพลังงาน จะทำงานในเวลาเดียวกันในพื้นที่เดียวกัน
ดังนั้นหากเขาต้องการฝึกฝนสองวิธีนี้ ค่าสถานะร่างกายของเขาจะต้องมีหลากหลายเท่าของสถานะความต้องการสูงสุดของวิธีการไหลของพลังงานตามลำดับ
ตัวอย่างเช่น: (A) วิธีการไหลของพลังงาน -> 20 ความแข็งแกร่ง, 20 การป้องกัน ส่วน (B) วิธีการไหลของพลังงาน -> 15 ความแข็งแกร่ง, 25 การป้องกัน
ถ้าอย่างนั้น สถานะร่างกายของเขาจะต้องเป็น 20×2 ของความแข็งแกร่ง และ 25×2 ของการป้องกัน หมายถึง เขาต้องการความแข็งแกร่ง 40 หน่วยและ 50 ของค่าการป้องกัน เพื่อฝึกฝนขั้นเริ่มต้นของ 2 วิธีนี้ และเมื่อเขาฝึกฝนขั้นตอนขั้นสูงของวิธีการเหล่านี้ ค่าสถานะร่างกายของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอีกครั้งก่อนที่เขาจะใช้เวทมนตร์ได้สำเร็จ
ข้อกำหนดของคาถา คาถาระลอกคลื่นอวกาศ ของ เอธาน คือ 15 ความแข็งแกร่ง และ 15 ค่าความสัมพันธ์ในขั้นเริ่มต้น ในขณะที่ข้อกำหนดของวิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact คือ 15 ความแข็งแกร่ง และ 20 แต้มของค่าทางร่างกาย แต่เขาได้บรรลุถึงระดับสูงของวิธีการไหลแบบ Broken Impact และตอนนี้ต้องใช้ ค่าความแข็งแกร่ง 25 และ ค่าความสัมพันธ์ 35 แต้ม
โดยพื้นฐานแล้วเขาต้องการสถานะความแข็งแกร่ง 50 แต้ม และแต้มของร่างกาย 70 แต้มเพื่อใช้คาถาระลอกคลื่น ขณะใช้คาถาของวิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact
และเขาตอบสนองความต้องการได้อย่างง่ายดาย เพราะหลังจากที่เขาได้เข้าสู่ขั้น Origin Intent Plane แล้วความแข็งแกร่งและร่างกายของเขาทั้งคู่ก็มาถึง 100 แต้มแล้ว ในขณะที่จิตใจของเขาถึง 20 แต้มเท่านั้น
โดยทั่วไป ความก้าวหน้าทั่วไปในขั้นพื้นฐานของขั้น Origin Intent Plane จะทำให้ค่าสถานะ ความแข็งแกร่ง, ค่าการป้องกันของร่างกาย และ ค่าจิตใจ อยู่ที่ 20 แต้มอยู่แล้ว แต่ความแข็งแกร่งและองค์ประกอบธาตุของ เอธาน ถูกผนึกไว้เนื่องจากไม่มีการชำระล้างมลทินมาจากแหล่งกำเนิดอยู่แล้ว
และตอนนี้เขามี ค่าความแข็งแกร่ง และ ค่าของการป้องกันของร่างกาย ของเขาทะลุถึง 100 แต้มโดยตรง
…
กลับไปที่ฉากปัจจุบัน สัตว์อสูรสีขาวทั้ง 2 อ้าปากของพวกมันโดยเห็น เอธาน ที่ยืนอยู่ด้านล่างบนพื้นและยิงลำแสงเลเซอร์สีขาวตรงมาที่เขา
เมื่อเห็นลำแสงพุ่งมาที่เขา <ปีกสายฟ้า> ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขาในขณะที่เขาใช้ขั้นตอนการระเบิดพร้อมกันเพื่อหลบลำแสงก่อนที่จะยิง 2 อันไปทางนกทั้ง 2 ตัว
สิ่งที่แตกต่างเกี่ยวกับ Impact Shot 2 อันนี้คือพื้นที่รอบๆ พวกมันสั่นสะเทือนราวกับตัดพื้นที่รอบ ๆ ซึ่งเพิ่มความเร็วหลายเท่าและผสมผสานในอวกาศจริง ๆ เราต้องการความรู้สึกที่เฉียบคมอย่างยิ่งในการสังเกตว่าสัตว์วิเศษเหล่านั้นรู้สึกอย่างไร แต่ก็เจอกับความล้มเหลว เนื่องจากความเร็วของการโจมตีที่รวดเร็ว ในขณะที่ทั้ง 2 Impact Shotของเอธานยิงกระแทกเข้าที่ศีรษะโดยไม่พลาด
[ ภารกิจเสร็จสิ้น ]
– รางวัล: ได้รับ 38 หน่วยกิต (เครดิตพิเศษ 50% สำหรับการทำภารกิจให้สำเร็จภายในเวลาน้อยกว่า 50% ของเวลาที่กำหนด )
จากนั้นเอธานก็รู้สึกมีพลังอีกครั้งเมื่อเขาปรากฏตัวที่บ้านต้นไม้ของพวกเขา
เขาสังเกตเห็นว่าบรรยากาศโดยรวมไม่ได้เปลี่ยนไปเลยระหว่างสถานที่นี้กับสถานที่ที่เขาทำภารกิจเสร็จสิ้น
” ดูเหมือนว่าฉันแค่ถูกเทเลพอร์ตไปที่อื่นบนโลกใบนี้”
จากนั้นเขาก็ดูสถานะของเขาใน Digiband
< เอธาน >
– เครดิต: 97
[ ภารกิจ ]: ไม่มีในขณะนี้ ( ใน 24 ชั่วโมง )
[ การทดสอบหลัก ]: ทำความเข้าใจเจตจำนงลึกลับระดับต้น—> รางวัล: 20 เครดิต ( จำกัดเวลา: 1 ปี )
…
…
หลังจากนั้น เขาได้ตั้งเป้าหมายเล็กๆ
‘ งานแรกของฉันคือการทำความเข้าใจเจตจำนงลึกลับและภารกิจที่ 2 คือการค้นหาหินต้นกำเนิดธาตุเลือด เพื่อให้กระแสน้ำวนสีดำของฉัน สามารถดูดซับทุกสิ่งที่มันต้องการจากมันและให้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดแก่ฉัน ในขณะที่ยังทำให้ร่างกายของฉันแข็งแรงอีกด้วย ‘
‘ หลังจากนั้น ฉันจะมุ่งไปที่ระดับมาสเตอร์ของเจตจำนงของฉันเท่านั้น ‘
จากนั้นเขาก็หยิบแผ่นชนวนเจตจำนงของการขับไล่ ที่เขาได้รับจากกล่องธรรมดาและเริ่มทำความเข้าใจกับมัน
เอธาน ส่งจิตสำนึกของเขาไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของวังวนสีดำพร้อมกับนำแผ่นชนวนเจตจำนงของการขับไล่ไปด้วย
เมื่อเขาอยู่ที่สถานที่นี้ เขาสามารถนั่งสมาธิลึก ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยจิตใจที่แจ่มใส ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการสิ่งที่เรียกว่าธูปผ่อนคลาย
‘ คงจะดีถ้า เทียน่าสามารถส่งจิตสำนึกของเธอมาที่นี่ได้ แต่มันแย่เกินไปที่จิตสำนึกของเราไม่สามารถออกจากร่างกายของเราได้ ‘
หลังจากเคลียร์ความคิดแล้ว เขาก็เข้าสู่การทำสมาธิลึกและเริ่มเข้าใจเจตจำนงของการขับไล่
ขณะที่เอธานกำลังนั่งสมาธิอยู่ เทียน่าก็เสร็จสิ้นภารกิจและปรากฏตัวที่บ้านต้นไม้
แต่สถานการณ์ของเธอไม่ดีเท่าที่ควรหลังจากมาถึง เลือดไหลออกมาจากปากของเธอ แต่เธอรีบควบคุมมันด้วยพลังงานลึกลับของเธอแล้วโยนมันทิ้งไป
เลือดที่เธออ้วกไม่ใช่แค่สีแดงแต่ยังผสมกับพิษสีเหลืองเข้ม
หลังจากขว้างเลือดของเธอออกไปไกล เธอบินออกไปจากที่นี่และไปที่ต้นไม้อีกต้นพร้อมกับโยนเลือดพิษออกมาอีกคำหนึ่ง
บนหลังของเธอ ใต้ไหล่ขวามีรูหนา 5 ซม. และผิวหนังรอบ ๆ ตัวมันกลายเป็นสีเหลืองเข้ม พิษสีเหลืองเข้มในรูกำลังเข้าไปในร่างกายของเธออย่างช้าๆ
ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เธออดทนและบินหนีไปก่อนจะลงจอดบนต้นไม้อื่น
เธอกัดฟันไม่ยอมปล่อยเสียงใด ๆ ออกจากปาก แต่หลับตาลงและเข้าสู่ดินแดนลึกลับของเธอก่อนที่จะนำพลังงานทองคำขาวสองสามหยดและหยดลงบนบาดแผลโดยตรง
บาดแผลของเธอเริ่มปิดลงและเมื่อใดก็ตามที่พลังงานสีขาวทองไป พิษสีเหลืองเข้ม ณ ที่นั้นก็เริ่มระเหย
เสียงอู้อี้เล็ดลอดออกมาจากปากของเธอ ก่อนที่เธอจะพ่นเลือดสีเหลืองเข้มออกมาอีกคำหนึ่งและเป็นลม
หลังจากที่เธอเป็นลมหมดสติ พลังงานคริสตัลสีขาวที่เหลืออยู่ในดินแดนลึกลับของเธอก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยตัวมันเอง ขณะที่มันออกจากดินแดนลึกลับของเธอก่อนที่จะเดินทางเข้าไปในร่างกายของเธอและเริ่มกำจัดพิษทั้งหมดที่อยู่ในตัวเธอ
ปริมาณพลังงานคริสตัลสีขาวที่เธอมีนั้น น้อยกว่าที่เอธานมีเล็กน้อยเพราะบางส่วนถูกใช้เมื่ออาณาจักรพลังงานของเธอถูกฟื้นฟู
หลังจากที่พลังงานคริสตัลสีขาวซ่อมแซมร่างกายของเธอให้อยู่ในสภาพใหม่ทั้งหมด มันก็ลดลงเหลือเพียงเล็กน้อยเทียบเท่ากับหนึ่งช้อนโต๊ะ
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เธอลืมตาขึ้นและรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าร่างกายของเธอรู้สึกกระฉับกระเฉงกว่าเมื่อก่อน
แต่เธอเห็นว่าพลังงานคริสตัลสีขาวจากอาณาจักรลึกลับ ของเธอถูกใช้ไปมากกว่าที่เธอดึงออกมาในตอนแรก
“ ดูเหมือนว่ามันจะทำงานโดยอัตโนมัติเหมือนกับตอนที่อาณาจักรพลังงานของฉันถูกทำลาย” ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสับสน ขณะที่เธอคิดว่า ‘ มันคือพลังงานประเภทใด? ‘
เทียน่าเขย่าหัวของเธอ เธอวางความคิดนั้นและเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอก่อนจะบินไปยังบ้านต้นไม้ของพวกเขา
เมื่อเห็นว่าเอธานยังคงนั่งสมาธิอยู่ เทียน่าก็นั่งข้างเขาและเริ่มเข้าใจเจตจำนงแห่งความมืดที่จะไปถึงระดับกลางในนั้นเพื่อสิ้นสุดการทดสอบครั้งแรกของเธอ
…
หลังจากที่ใครรู้ว่านานแค่ไหน ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียง
[ คลาสแรกอย่างเป็นทางการจะเริ่มใน 10 นาที ]
ตอนที่ 76: โลกเสมือนจริง พื้นที่สถาบันการศึกษา
เอธาน และ เทียน่านั่งขัดสมาธิใกล้กันเพื่อทำสมาธิ
” เอธาน นายมีพลังงานของคริสตัลสีขาวอยู่ในตัวของนายด้วยใช่ไหม? นายรู้ไหมว่ามันมีประโยชน์อย่างไร ”
“ไม่นะ มันเป็นสิ่งที่ผลิตจากร่างกายของฉัน เมื่อเรามีเพศสัมพันธ์ดังนั้น ..” เอธาน แสดงความคิดอย่างเต็มที่และกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเรากำลังปลูกฝังบางสิ่งบางอย่างและบางสิ่งบางอย่างเป็นพลังงานของคริสตัลสีขาว แต่ฉันก็ยังทำอะไรกับมันไม่ได้ ไม่รู้อะไรเลย นอกจากการที่มันเกิดขึ้นมาจากการที่ฉันทำกับเธอ”
เทียน่ากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพยักหน้าเมื่อได้ยินเอธานอธิบาย “ใช่ มันเป็นการดีที่จะสันนิษฐานว่าอย่างน้อยพลังงานคริสตัลสีขาวมีคุณสมบัติในการรักษาที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของบาดแผลทางร่างกาย เมื่อมันฟื้นทะเลพลังงานของฉันพร้อมกับอาการบาดเจ็บ ฉันทรมานหลังจากกินกลีบดอกไม้เหล่านั้น ”
เอธานพยักหน้าและกล่าวว่า “ปล่อยให้มันอยู่ในตัวเธอ มันอาจช่วยได้ในช่วงเวลาอันตราย”
ทันใดนั้น ลัคกี้ ลูกแมวตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่ในอาณาจักรลึกลับ ของ เอธาน ตื่นขึ้นมาและปรากฏตัวข้างนอก
*เมี้ยว….*
เอธาน ไม่ตกใจเมื่อเขารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของมัน แต่ เทียน่าก็สะดุ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะยิ้มและพูดว่า “ในที่สุดเธอก็ตื่น ทำไมเธอถึงหลับนานจัง”
*เมี้ยว..เมี้ยวววว*
ลัคกี้ดูเหมือนจะใช้พลังเวทย์มนตร์ ในขณะที่มันลอยตัวก่อนที่จะนั่งบนไหล่ของเอธาน
เอธานค่อย ๆ เกาบริเวณใต้ศีรษะและคอของมัน ในขณะที่เขาสัมผัสได้ถึงขนที่อ่อนนุ่ม
*ครืดๆ….*
หลังจากส่งเสียงฟี้อย่างแมว 2 ครั้ง มันร้องหาเอธานหนึ่งครั้ง ในขณะที่ชี้บางอย่างด้วยอุ้งเท้าของมันก่อนที่จะหายไป
เอธาน มองเข้าไปในอาณาจักรลึกลับ และเห็นว่าลัคกี้กำลังชี้ไปที่พลังงานคริสตัลสีขาวที่ลอยอยู่ข้างอ่างน้ำวนสีดำ
*เมี้ยวว….เมี้ยวววว*
“เธอต้องการพลังงานนั้นหรือไม่”
เมื่อได้ยินคำถาม ลัคกี้ก็พยักหน้าน่ารัก *เมี้ยว*
แม้ว่าเอธานจะประหลาดใจ แต่เขาไม่ได้ปฏิเสธและนำพลังงานคริสตัลสีขาวทั้งหมด ซึ่งเพียงพอที่จะเติมถ้วยขนาดปกติให้กับลูกแมวตัวน้อย
เมื่อเห็นสิ่งที่เอธานทำ ลัคกี้ก็กระโดดขึ้นอย่างมีความสุขก่อนที่จะเริ่มกินพลังงาน
ผ่านไป 2 นาที มันก็กินพลังงานคริสตัลสีขาวเสร็จและผล็อยหลับไปอีกครั้ง
เอธานสงสัยมากว่าทำไมลัคกี้ถึงขอกินพลังงานคริสตัลสีขาว และมันจะช่วยได้อย่างไร
‘ เดาว่าฉันจะได้รับคำตอบเมื่อมันตื่นขึ้นมาในครั้งต่อไป ‘ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาออกจากอาณาจักรลึกลับ และพูดกับ เทียน่าหลังจากดู Digiband ของเขา
” ภารกิจและการทดสอบหลักจะถูกเปิดเผยหลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง จนกว่าจะถึงเวลานั้นเราไปที่โลกเสมือนจริงกันเถอะ ”
เทียน่าพยักหน้าและวางบาเรียปุ่มระเบิด 2 ชั้นขึ้นรอบตัวพวกเขา โดยมีช่องว่างระหว่างพวกเขา เพื่อไม่ให้ระเบิด จากนั้น เอธาน ก็เสกโกเลมดิน 3 ตัวนอกบาเรียเพื่อยืนเป็นยาม
“เข้าไปกันเถอะ”
…
…
ทั้งคู่มาถึงที่พลาซ่าขนาดใหญ่ที่มีผู้คนมากมายปรากฏตัวและหายตัวไป
ถนนหลายสายเชื่อมต่อกับพลาซ่าโดยมีป้ายขนาดใหญ่ลอยอยู่ด้านบน ตัวอย่างเช่น พื้นที่กิลด์, ตลาดสาธารณะ, ร้านค้าของอะคาเดมี่, ศูนย์กลางการเคลื่อนย้าย เป็นต้น
มีป้ายบอกทางมากมาย แต่ เอธาน และ เทียน่าตัดสินใจไปที่ตลาดสาธารณะก่อน
หลังจากเดินไปตามถนนที่มุ่งสู่ตลาดสาธารณะแล้ว ก็พบกับแผงลอยทั้งใหญ่และเล็กจำนวนมาก พวกเขาถูกบริหารงานโดยนักเรียนที่ดูเหมือนจะขายของต่างๆ
ทันใดนั้น มีคนเดินเข้ามาใกล้เอธานและเทียน่า เขาดูมีอายุประมาณ 20 ปีด้วยทรงผมสีเหลืองและรูปร่างผอมเพรียว
“สวัสดี ฉันชื่อเยแกน คุณทั้งคู่เป็นนักเรียนใหม่ใช่ไหม”
เอธานตอบพร้อมพยักหน้าพร้อมเสียงปรบมือจากเยแกน ขณะที่เขาพูดพร้อมกับหัวเราะว่า “ฮ่าฮ่า เยี่ยมมาก ฉันแน่ใจว่าคุณสองคนคงจะต้องการอะไรมากมายสำหรับการฝึกซ้อม ฉันกำลังจะเปิดแผงขายของ ดังนั้นฉันก็อาจจะเหมือนกัน ฉันจะเปิดมันที่นี่และเริ่มต้นกับคุณ 2 คน “
จากนั้นเขาก็สัมผัส Digiband ของเขาและหลังจากนั้นไม่กี่วินาที แผงลอยขนาด 3 ตารางเมตรก็ปรากฏขึ้นข้างหลังเขา ซึ่งมีสิ่งของวางอยู่ค่อนข้างน้อย
เอธาน และ เทียน่าประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น
จากนั้นเยเกนก็เดินไปข้างหลังร้านของเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มาดูนี่สิ ถ้าคุณพบสิ่งที่คุณชอบ คุณสามารถซื้อได้ด้วยคะแนนเครดิต
เอธาน และ เทียน่าก้าวไปข้างหน้าและมองดูสิ่งของที่แผงขาย
ในเวลานี้เยแกนก็พูดว่า “คุณสองคนอยู่ในระดับอะไร Origin Intent Plane หรือ Genesis conceptual Plane? หรือ …?
“ระดับ Origin Intent Plane”
หลังจากได้ยินคำตอบจากเอธาน เยแกนก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เข้าใจแล้ว ฉันคิดว่าคุณอาจต้องการสิ่งต่างๆ เช่น คู่มือการขัดเกลาร่างกาย ยารักษาความสัมพันธ์ และธูปหอมผ่อนคลาย”
“ธูปหอมผ่อนคลาย?”
เยแกนพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ ธูปหอมผ่อนคลาย จะช่วยให้คุณมีสมาธิลึกและทำให้จิตใจปลอดโปร่งเพื่อให้คุณสามารถจดจ่ออยู่กับการเข้าใจเจตจำนงต่างๆ” เมื่อพูดเช่นนี้ เขาก็หยิบม้วนกระดาษและกล่องสี่เหลี่ยม 2-3 ใบออกมาก่อนจะนำไปให้เอธานและ เทียน่า
” คุณสามารถดูรายการเหล่านี้ได้ ใน ที่เก็บสะสมของฉัน เฉพาะรายการเหล่านี้เท่านั้นที่มีประโยชน์สำหรับนักเรียนขั้น Origin Intent Plane เช่นคุณ ”
เอธานประหลาดใจที่ได้ยินเขาและถามว่า “คุณอยู่ในขั้นอะไร”
เยแกนยิ้มและพูดว่า “ฉันอยู่ใน Genesis Conceptual Plane ” หลังจากตอบ เขาแนะนำพวกเขาว่า ” นอกจากนี้ อย่าลืมปฏิบัติตามวิธีที่ถูกต้องเพื่อความก้าวหน้าในขั้น Origin Intent Plane ด้วยนะ”
ทั้งสองพยักหน้าและเริ่มมองผ่านสิ่งของที่ เยแกนมอบให้พวกเขา
มีคู่มือการกลั่นร่างกาย คาถาไหล วิธีการไหลของพลังงาน และภายในกล่องมีผลไม้หลากสีสัน
เอธานชี้ไปที่ผลไม้แล้วถามว่า “ผลไม้เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร”
เยแกนมองดูพวกเขาแล้วพูดว่า “ผลไม้พวกนี้เหมือนแผ่นเจตจำนงและแผ่นชนวน ซึ่งฉันแน่ใจว่าคุณเคยเห็นแล้ว ถ้าคุณกินพวกมัน คุณอาจเข้าใจเจตจำนง แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของคุณ เนื่องจากมีกรณีมากมายนับไม่ถ้วนที่ผู้คนไม่สามารถก้าวหน้าในเจตจำนงนั้นได้เป็นเวลาหลายปี คุณอาจเข้าใจเจตจำนงหลังจากกินผลไม้แล้ว แต่คุณจะต้องพึ่งพาความสามารถในการเข้าใจเพื่อความก้าวหน้าหลังจากนั้น “
หายใจเข้า เขายิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดว่า “หากคุณไม่สามารถบรรลุระดับกลางในเจตจำนงได้ มันก็จะเปล่าประโยชน์ทั้งหมดและการไปถึงระดับมาสเตอร์นั้นยาก อย่างน้อยนั่นก็ยากสำหรับฉัน แต่ถึงแม้จะไปถึงระดับมาสเตอร์ใน 4 เจตจำนงของธาตุและ 2 เจตจำนงลึกลับ โดยทำตามสิ่งที่สร้างขึ้นก่อนหน้านั้น ฉันก็พบเจอแต่ความล้มเหลวในการหลอมรวมเจตจำนง ของฉัน และตระหนักถึงแนวคิดที่ฉันตั้งเป้าไว้อย่างทันท่วงที ดังนั้นฉันจึงต้องจัดการกับสิ่งที่ทรงพลังน้อยกว่า ”
เอธาน และ เทียน่าสับสนกับการได้ยินคำศัพท์ใหม่ แต่เขาจับประเด็นสำคัญและถามว่า “ทำไมคุณถึงบอกว่าคุณล้มเหลว มีกำหนดเวลาหรือไม่”
เยแกนสับสนในตอนแรก แต่แล้วเขาก็ตระหนักและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนว่าคุณยังไม่ได้รับการทดสอบหลักของคุณ การทดสอบหลักเกี่ยวกับความก้าวหน้าของคุณ พวกเขาจะให้เวลาคุณหลายปีในการเรียนรู้ ตั้งใจและพร้อมที่จะก้าวไปสู่ Genesis Conceptual Plane และหากคุณล้มเหลว คุณจะต้องออกจากอะคาเดมี่นี้ และย้ายไปที่องค์กรบางแห่งภายใต้สถาบันการศึกษานี้ “
“คุณทั้งสองด้วย อย่าตั้งเป้าสูงเกินไป เพราะหากคุณไม่ผ่านการทดสอบหลัก คุณจะไม่สามารถเพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์มากมายที่สถาบันการศึกษานี้มอบให้คุณ ซึ่งคุณจะค่อยๆ ค้นพบ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฉันผ่านการทดสอบหลัก ฉันอยู่ที่นี่และตอนนี้ฉันสามารถตั้งเป้าหมายให้สูงได้เพราะสถาบันนี้ แต่ถ้าคุณล้มเหลว คุณจะต้องออกไปซึ่งมันจะลดอัตราการก้าวหน้าของคุณอย่างมาก”
“ฉันเข้าใจแล้ว…” เอธาน พยักหน้าด้วยท่าทางครุ่นคิดก่อนจะยิ้มไปทาง เยแกน และกล่าวว่า “ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลนี้”
เยแกนโบกมือของเขา “อย่ากังวลไปเลย ยังไงก็เถอะ คุณตัดสินใจแล้วว่าจะซื้ออะไรดี”
” ใช่ สิ่งเดียวที่มีประโยชน์สำหรับเราที่นี่คือคู่มือการกลั่นร่างกายน้ำแข็ง มันมีราคาเครดิตเท่าไหร่ ”
เมื่อได้ยินคำพูดของ เอธานเยแกนกล่าวว่า “มีค่าใช้จ่าย 8 แต้มเครดิต”
เอธาน พยักหน้าและจ่าย 8 เครดิตเมื่อคู่มือถูกโอนไปยังที่เก็บ Digiwatch ของเขา
รายการในโลกเสมือนจริงนี้เป็นสำเนาดิจิทัลอย่างชัดเจน แต่คุณสามารถถ่ายโอนสิ่งต่างๆ จาก Digiband ไปยัง Digiband อื่นได้โดยใช้ฟังก์ชันการแลกเปลี่ยน ซึ่งจะแสดงหลังจากที่ เอธาน ดูตัวเลือก แต้มเครดิต
หลังจากข้อตกลงเสร็จสิ้น เอธาน ก็ถามว่า “อ้อ คุณรู้หรือไม่ว่าสัตว์ชนิดใดที่สามารถเข้าสู่อาณาจักรลึกลับได้ และกินพลังงานลึกลับได้”
เยแกนประหลาดใจและแทนที่จะตอบ เขาถามว่า “อย่าบอกนะว่าคุณมีสัตว์ชนิดนี้ระหว่างการสอบก่อนหน้า”
เมื่อเห็นเอธานพยักหน้า เยแกนก็อุทานด้วยความอิจฉาว่า “ให้ตายสิ ทุกๆ 100 ปีจะมีผู้โชคดีไม่กี่คนที่ได้รับสัตว์ลึกลับและดูเหมือนว่าคุณจะเป็นหนึ่งในผู้โชคดีในครั้งนี้”
เยแกนสงบสติอารมณ์กับพวกเขาว่า “สัตว์ดุร้ายพวกนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดในดินแดนที่เหนือกว่า ถ้าคุณต้องการซื้อจากร้านค่าของอะคาเดมี่ คุณรู้หรือไม่ว่าคุณต้องการคะแนนเครดิตเท่าไหร่”
‘ แน่นอน ฉันไม่รู้ ‘ เมื่อคิดเช่นนี้ เอธาน และ เทียน่าก็ส่ายหน้า
” ราคาของสัตว์ดุร้ายลึกลับ เริ่มต้นที่ 5,000 แต้มเครดิต และคุณมีสัตว์ร้ายตัวหนึ่งแล้ว *ถอนหายใจ* … ” เยแกนส่ายหัว พลางพูดต่อด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว ” คุณจะรู้ว่ามันมีประโยชน์ในภายหลัง แต่คุณต้องแน่ใจว่าได้ให้อาหารมันด้วยพลังงานลึกลับแล้ว เพราะคุณต้องทำให้พวกมันโตก่อน”
หลังจากนั้น เอธาน และ เทียน่าก็เริ่มเดินเล่นในตลาดสาธารณะ
…
หลังจากเดินเล่นอยู่พักหนึ่ง เสียงบี๊บก็ดังขึ้นจาก Digiband ของ เอธาน และ เทียน่าเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงในหัว
[ ภารกิจแรกและการทดสอบครั้งแรกของคุณพร้อมแล้ว โปรดดู ]
ตอนที่ 75: การต่อสู้ หลังจากเวลาผ่านไปนาน (*R-18*)
เมื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับ Digiband แล้ว เอธานพูดกับเทียน่า หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ดูเหมือนว่าภารกิจและการทดสอบจะถูกเปิดเผยหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง และฉันเดาว่าเราต้องหาที่และสร้างบ้านก่อนนั้น”
เทียน่าพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอธาน หาที่ที่สูงๆบนท้องฟ้ากันเถอะ ต้นไม้ที่นี่ใหญ่มาก และฉันคิดว่าควรมีต้นไม้ที่ใหญ่กว่านี้เหมือนกับที่เราเห็นในถ้ำอินทรีที่สาบสูญ, คุกใต้ดิน “
“อ้อ บ้านต้นไม้น่ะเหรอ เป็นความคิดที่ดี ถ้าเราหาต้นไม้ที่เหมาะสมได้จริงๆ เราก็สร้างมันขึ้นมาได้”
“ใช่ เรามาเริ่มค้นหากันเลย อ่าาาา”
จากนั้นเขาก็คว้าเอวของเทียน่า และกาง <ปีกสายฟ้า> ออกก่อนที่จะบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
เทียน่าสะดุ้งแต่นั่งลงขณะที่ทั้งคู่บินหนีไป
เอธานเคลื่อนตัวขึ้นไปก่อนจะหันกลับมาทางภูเขาและเริ่มบิน
หลังจากบินตรงข้ามภูเขาเป็นเวลา 30 นาที ทิวทัศน์ใหม่ก็ปรากฏต่อหน้าพวกเขา
สระน้ำนับไม่ถ้วนที่มีเกาะเล็ก ๆ ล้อมรอบสามารถมองเห็นได้ทุกที่ มีสัตว์ประหลาดปลาตัวใหญ่และตัวเล็กอยู่ข้างในเอธานจับพวกมันและเก็บไว้ในที่เก็บของ Digiband ของเขา
หลังจากบินได้ 1 ชั่วโมง พวกเขาก็ผ่านบริเวณสระน้ำของเกาะแห่งหนึ่ง
คริสตัลอื่นของ เอธานก็หยุดหมุน แต่คริสตัลสายฟ้า และ อากาศ ของเขากำลังหมุนและดูดซับพลังงาน สายฟ้า และ อากาศออกมา เนื่องจาก <ปีกสายฟ้า> ของเขากินพลังงานทั้งสองอย่างอยู่
พื้นที่ใหม่เต็มไปด้วยสิ่งเก่าแก่และภูเขาไฟขนาดเล็ก และมีสัตว์วิเศษทุกชนิด เอธาน สัมผัสได้ถึงสัตว์วิเศษที่ทำให้เขารู้สึกว่ากำลังถูกคุกคาม
พวกเขาบินต่อไปและหลังจากบินต่อไปอีก 3 ชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็พบกับพื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ยักษ์
แต่ต้นไม้เหล่านี้แตกต่างไปจากที่เห็นในดันเจี้ยนถ้ำอินทรีย์ที่สาบสูญ
ต้นไม้เหล่านี้ไม่สูงเท่าต้นไม้เหล่านั้น แต่ความหนาและความกว้างของต้นไม้เหล่านี้ช่างเหลือเชื่อ
เอธานเดินไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งก่อนที่จะหยุดบนกิ่งไม้ที่มีความกว้างอย่างน้อย 100 ตารางเมตร
“บ้าเอ้ย ต้นไม้ต้นเดียวสามารถเป็นบ้านของหมู่บ้านเล็กๆ ได้อย่างง่ายดายเลย” เอธานอุทานเมื่อเห็นว่าต้นไม้ใหญ่โตเพียงใด
*กรี๊ดดดดดดดด….*
ทันใดนั้น ก็มีเสียงนกหวีดดังขึ้น ขณะที่นกยักษ์สูงประมาณ 2 เมตร ยาว 3 เมตร มีแถบสีดำเขียวบนลำตัวปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกมัน เหมือนออกมาจากรังที่เต็มไปด้วยใบไม้ ที่พวกเขาละเลยไป
พวกเขาไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของมันเลย ดังนั้นพวกเขาจึงตกใจ
ปีกของนกถูกพับและไม่โจมตีโดยตรง
*กรี๊….กรี..*
ดูเหมือนนกจะพูดอะไรบางอย่าง ขณะที่มันคลี่ลมด้านซ้ายออกและชี้ไปทางซ้ายซึ่งเป็นทางที่พวกมันมา
เอธานและเทียน่าตกตะลึง
เทียน่าลังเลว่า “ดูเหมือนว่ามันอยากจะบอกให้พวกเราออกไป”
เอธานพยักหน้าพร้อมกับเลิกคิ้วและคิดว่า ‘ สัตว์อสูรตัวนี้ไม่อยู่ในระดับ Energy Plane แน่นอน
ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอีกหลายครั้ง เมื่อมีสัตว์วิเศษที่มีลักษณะเหมือนกันปรากฏขึ้น แต่พวกมันดูแตกต่างไปจากสัตว์อสูรที่อยู่ตรงหน้า เอธาน และ เทียน่า เล็กน้อย
พวกมันมีจุดสีเขียวเล็กๆ ในขณะที่ร่างกายส่วนใหญ่เต็มไปด้วยขนสีดำ
ต้นไม้ใหญ่มากและมีกิ่งก้านประมาณ 100 ตารางเมตร พวกมันจึงยังมองไม่เห็นทุกสิ่ง แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าต้นไม้ต้นนี้เป็นบ้านของนกเหล่านี้
เทียน่ายิ้มอย่างมีเลศนัยและกล่าวว่า “ในเมื่อพวกมันบอกอย่างสุภาพว่าให้ไป เราก็ควรหาต้นไม้อื่น เพราะมันมีต้นแข็งแกร่งมากกว่าต้นนี้อีก”
เอธานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะหยิบปลาขนาดใหญ่จาก Digiband ออกมาแล้วมอบให้นกตัวแรก
“เอานี่..”
นกส่งเสียงก่อนอ้าปากกินปลา มันหักปลาครึ่งหนึ่งเมื่อมันกินครึ่งหนึ่งแล้วอีกครึ่งหนึ่งไปที่รังของมัน
“ไปกันเถอะ…” เอธานพูดกับเทียน่า ขณะที่ทั้งสองหันหลังกลับเพื่อจะจากไป แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงของมันอีกครั้ง
*คาว…คาว…*
หันหลังกลับเห็นผลไม้ลอยไปทางพวกเขาจากทิศทางของนกที่เอธานให้ปลา
เมื่อเห็นผลไม้ นกอื่นๆ ก็เริ่มเปล่งเสียงปกติเหมือนบ้าคลั่ง แต่ไม่มีตัวใดเดินไปข้างหน้า
ผลไม้มีรูปร่างเหมือนมะม่วง แต่มีแถบสีเขียวและสีดำเหมือนนกวิเศษ
*ค…คาว*
นกที่มีแถบสีดำและสีเขียวกางปีกข้างหนึ่งขณะชี้ไปที่ผลไม้แล้วจึงชี้ไปที่พวกมัน
ผลไม้มาถึงหน้าเอธาน ซึ่งเขาคว้าก่อนจะยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณ”
*คาววววว..* นกขยับหัวเหมือนกำลังพยักหน้า
จากนั้น เอธาน และ เทียน่า ก็จากไปโดยที่ยังรู้สึกเหนือจริงอยู่บ้าง
ขณะที่พวกเขาออกจากต้นไม้ เทียน่าก็พูดขึ้นว่า ” สัตว์วิเศษตัวนั้นดูเหมือนจะฉลาดพอๆ กับลูกแมวตัวน้อยที่คุณมี “
เอธานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนส่งผลไม้ให้เทียน่าแล้วพูดว่า “กินนี่ซะ มันอาจช่วยให้คุณเข้าใจไม้และเจตจำนงแห่งความมืดได้ และอย่าปฏิเสธเพราะมันไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน มันไม่ได้ผลกับฉันอย่างที่ฉันเข้าใจ ระดับกลางของเจตจำนงแห่งความมืดและไม้ และจากสิ่งที่ฉันสัมผัสได้ ผลไม้นี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธาตุมืดและธาตุไม้แก่เธอ อย่างมากที่สุด เธอต้องพึ่งพาตัวเอง เพื่อจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ “
เทียน่ายอมรับหลังจากได้ยินสิ่งที่เอธานพูด
จากนั้นพวกเขาก็ไปที่ต้นไม้ยักษ์อีกต้นและเริ่มสร้างบ้านด้วยพลังงานจากไม้และดิน
ผ่านไป 1 ชั่วโมง บ้านที่เรียบง่ายแต่แข็งแรงก็พร้อม
มี 3 ห้อง ห้องครัว อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ห้องนอนที่ไม่มีเตียง
” ต่อไปเราจะหาผ้านุ่มๆ อย่างคอตตอนมาทำเป็นเตียงกัน แต่สำหรับตอนนี้…อาบน้ำให้สบายตัวก่อนดีกว่า”
เทียน่าหน้าแดงเมื่อได้ยินว่าทั้งคู่ต้องเข้าไปในห้องน้ำ
เอธานใช้พลังงานไฟและพลังงานน้ำเพื่อสร้างน้ำร้อนบนอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
หลังจากถอดเสื้อผ้าออก พวกเขาก็เข้าไปในอ่างอาบน้ำ ด้วยความประหลาดใจที่เทียน่า เคลื่อนไหวครั้งแรกโดยไปข้างหลังของเอธานในทันที ขณะที่เธอเริ่มล้างแผ่นหลังของเขาด้วยหน้าอกอันใหญ่นุ่มของเธอ
เอธานรู้สึกดีกับแตงอ่อนๆของเธอที่กำลังขัดถูหลังของเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฮ่าฮ่า ฉันไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย รู้สึกดีจริงๆ”
” แน่นอนค่ะ “
เสียงของเทียน่าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ขณะที่เธอพูด
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เอธานก็หันกลับมาก่อนที่จะหยิบแตงอ่อนๆ ของเธอและเริ่มลูบไล้พวกมัน
ขณะที่ใช้มือลูบไล้พวกมัน เขาก็ขยับปากไปทางเทียน่า ขณะที่เธอขยับไปข้างหน้าด้วย ก่อนที่พวกเขาจะจูบกันอย่างเร่าร้อน ซึ่งพวกเขาไม่ได้รู้สึกมานานกว่า 1 เดือนแล้ว
มือของเทียน่า เดินไปที่แท่งเนื้อขนาดใหญ่ของเอธาน ซึ่งยื่นสั่นอยู่แล้วราวกับรอรางวัลดีๆ
เธอคว้ามันแล้วเริ่มลงมือทำอย่างช้าๆ
ไฟภายในของเอธาน ลุกไหม้หลังจากถูกสัมผัสเช่นนั้น และทันใดนั้นเทียน่า ก็ส่งลิ้นของเธอเข้าไปในปากของเอธาน ซึ่งทำให้เขาตกใจ แต่เขาได้ลิ้มรสความสุขอีกแบบหนึ่ง ในขณะที่เขาส่งลิ้นของเขาไปข้างหน้าเช่นกัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกเขารู้สึกหายใจไม่ออก ขณะที่แยกปากจากน้ำลายที่หยดลงมา
เทียน่ารู้สึกคัน ในขณะที่เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยั่วยวนโดยไม่ตั้งใจ “ใส่เข้าไปที~~….”
ไม้เท้าแห่งสวรรค์ของเอธาน สั่นอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่เขายืนขึ้นพร้อมกับดึงเทียน่า ขึ้นและเข้าไปในถ้ำสีชมพูที่เปียกชื้นของเธอ
“อ๊าาาาา…..” เทียน่าครางดังลั่น เมื่อได้ลิ้มรสความรู้สึกราวกับสวรรค์อีกครั้ง หลังจากไม่ได้ชิมมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน
เอธาน ขยับสะโพก ขณะจับตูดที่อ่อนนุ่มของเธอและเริ่มดูดเต้านม ซึ่งมีหัวนมตั้งตรงสีชมพูด้วยปากของเขา
“อ๊ะ…อ๊ะ…”
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็วางเทียน่าลง ก่อนที่เขาจะยกขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นและเพิ่มความเร็ว
เทียน่ารู้สึกปีติด้วยแรงผลักดันอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอหลงทางในความสุข
“อ๊าาาาาาาาา…..ฉันกำลังจะ….อ๊าาาา”
เทียน่าอดไม่ได้ เมื่อของเหลวพุ่งออกมาหลังจากที่เอธานกำลังดึงแท่งเนื้อของเขาออกมา
“เฮ้ เราเพิ่งเริ่มเองนะ…”
เทียน่ายิ้มหวานก่อนที่เธอจะใช้พลังลึกลับยกพวกมันขึ้นก่อนจะโบกมือให้น้ำเย็นจัด
จากนั้นเธอก็วางตัวบนนั้นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มาเถอะ ฉันพร้อมแล้ว”
เอธานหัวเราะดังลั่น ก่อนจะนอนทับเธอและฉีดไปบนเนื้อถนนที่ไหลลื่น ในถ้ำสีชมพูเปียกของเธอ
“เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้อันยาวนาน ที่ฉันยังไม่ได้เริ่ม”
เทียน่าโอบรอบคอของเขาก่อนจะจูบเขาและพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวนเต็มไปด้วยความยั่วยวนขณะที่รอยยิ้มของเธอกว้างขึ้น “เริ่มเคลื่อนไหวได้แล้วนะ”
เอธานต้องยอมแพ้ ในขณะที่เขาเริ่มเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่เร็วขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่เอาลิ้นเข้าปากเธอเพื่อจูบยาวๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เทียน่าก็คร่ำครวญเสียงดังอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นเพราะเอธาน ปล่อยของเหลวสีขาวร้อนในตัวเขาออกมา
จากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอนโดยวางเทียน่า ไว้บนตัวเขา ในขณะที่เขาลูบไล้หน้าอกของเขาและเริ่มการต่อสู้อีกรอบในขณะที่เทียน่าก็เคลื่อนไหวเช่นกัน โดยทั้งคู่ ทำการเคลื่อนไหวสะโพกของเธอกับเขา ขณะที่พวกเขาบรรลุความสามัคคีที่สมบูรณ์แบบ ในการต่อสู้ที่เร่าร้อน ซึ่งส่งความสุขให้กับตัวเธอ
…
เสียงครวญครางเต็มไปด้วยความสุขที่ก้องกังวานออกจากบ้าน เติมบรรยากาศอันเงียบสงบด้วยบรรยากาศที่เร่าร้อน
ตอนที่ 74: ด้านนอกของอะคาเดมี่แท้จริงแล้ว….
” ขั้นของ Origin Intent Plane (ออริจินอล อินเทนต์ เพลน) เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ขั้นนี้ คุณต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือธรรมชาติของพลังงานของคุณ สิ่งที่คุณฝึกฝนคือพลังงานธาตุทั่วไป และมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ในทุกภาคส่วน แต่พลังงานต้นกำเนิดไม่ได้มีอยู่ในทุกภาคส่วน ”
” ฉันจะพูดบางสิ่งเกี่ยวกับภาคส่วนต่างๆ มันมีทั้งหมด 6 ประเภท ภาคของกรวดดิน ภาคพื้นฐาน ภาคขั้นกลาง ภาคขั้นสูง ภาคสุพีเรีย และภาคในตำนาน ”
” ที่มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ ตั้งอยู่ในภาค สุพีเรีย และเรามี ภาคสุพีเรีย ทั้งหมด 13 ภาค ในขณะที่จำนวนภาคในตำนานที่เรามีนั้นมีเพียง….1 “
ทุกคนประหลาดใจที่พบว่าในดินแดนมนุษย์อันกว้างใหญ่ของพวกเขา มีเพียง 13 ส่วนของสุพีเรียเท่านั้น และเพียง 1 ส่วนในตำนาน
ชายมีเคราทำท่าทาง *อะแฮ่ม* ก่อนดำเนินการต่อ
” ภาคกรวดดินไม่สามารถผลิตพลังงานต้นกำเนิดได้ พวกคุณบางส่วนน่าจะมาจากภาคกรวดดิน ที่อยู่ในขั้น Energy Plane และคุณไม่สามารถหาหินธาตุระดับ 2 หรือธาตุกำเนิดที่นั่นได้ ”
” แต่ใน ภาคสุพีเรียนี้ คุณจะไม่ถูกขัดขวาง ขณะฝึกบนเครื่องบินใดๆ ในตอนนี้ ไปที่หัวข้อหลักของเรา พลังงานของคุณคือพลังงานเดิมและคุณสามารถทำอะไรได้มากมายกับมัน หากคุณเชี่ยวชาญในเจตจำนงของพวกมัน ”
ใบหน้าของชายมีหนวดมีสีหน้าจริงจังและพูดขึ้น “คุณจะสามารถหายาเพิ่มความสัมพันธ์ธาตุ ได้ทุกประเภทที่นี่ แต่หากไม่เข้าใจเจตจำนงของมัน มันก็ไร้ประโยชน์ที่จะมีความสัมพันธ์ขององค์ประกอบธาตุดังกล่าว ในขั้น Origin Intent Plane คุณต้องเข้าใจและไปถึง เจตจำนงระดับขั้นสูงสุดบ้าง และ 2 ธาตุของ เจตจำนงขั้นพื้นฐาน และ 1 เจตจำนงของพลังลึกลับ หากคุณต้องการ คุณมีโอกาสก้าวเข้าสู่ขั้น Genesis Conceptual Plane ”
” จำสิ่งที่เกี่ยวกับวิธีการเข้าสู่ขั้น Genesis Conceptual Plane ให้ได้ และสิ่งที่คุณต้องทำในขั้น Origin Intent Plane คือการไปถึงระดับมาสเตอร์ ในเจตจำนงของธาตุให้ได้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ถูกต้องแล้ว การมีความสัมพันธ์กับธาตุมากมาย หลังจากเกิดมานั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มีความพากเพียร จิตใจที่เฉียบแหลม และคุณสมบัติดังกล่าว เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้หากคุณต้องการเป็นมหาอำนาจ ”
” ขั้นย่อยของระดับ Origin Intent Plane เชื่อมโยงกับระดับเจตจำนงของ เจตจำนง ที่เป็นตัวกำหนดว่าพลังงานพื้นฐานของแต่ละองค์ประกอบที่คุณสามารถมีในอาณาจักรลึกลับได้มากน้อยเพียงใด “
” หากคุณมีระดับเจตจำนงแห่งไฟและระดับธาตุในเจตจำนงน้ำ คุณจะสามารถสำรองพลังงานไฟในทะเลธาตุของคุณได้มากขึ้น ตามด้วยพลังงานน้ำ ”
” อีกสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับทะเลธาตุของพลังงานของคุณ หลังจากไปถึงขั้น Origin Intent Planeแล้ว คือการหายไปของประตูปรับแต่งของคุณ ไม่ต้องกังวลกับมันเพราะคุณไม่ต้องการมันอีกต่อไปแล้ว คุณสามารถดูดซับพลังงานต้นกำเนิดจากชั้นบรรยากาศหรือ หินธาตุดั้งเดิมได้เอง ”
“ ตอนนี้เกี่ยวกับร่างกายของคุณ หลังจากก้าวสู่ขั้น Origin Intent Plane คุณต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของคุณ ด้วยพลังงานธาตุดั้งเดิมที่คุณมี แต่ก็ต้องมีวิธีที่เหมาะสมที่จะทำ”
ทุกคนฟังอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ชายคนนั้นที่ลอยอยู่ก็ได้พูดต่อ “พวกคุณหลายคนต้องมีความสัมพันธ์กับธาตุอย่างน้อย 5, 10 หรือ 15 อย่าง แต่มีเจตจำนงเพียงไม่กี่อย่าง ฟังนะ.. ถ้าคุณขัดเกลาร่างกายด้วยพลังงานที่เจตจำนงของคุณไม่เข้าใจ มันจะไม่มีผลใดๆ ต่อร่างกายของคุณเลย “
“ ตัวอย่างเช่น หากคุณปรับแต่งร่างกายของคุณด้วยพลังงานมืด ในขณะที่ไม่เข้าใจเจตจำนงของความมืด มันจะไม่ส่งผลใดๆ ต่อร่างกายของคุณ ร่างกายของคุณจะไม่แข็งแกร่งขึ้นเลย”
เสียงของชายมีหนวดมีเสียงดังขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่เขาพูดต่อ ” วิธีที่เหมาะสมในการแข็งแกร่งขึ้นใน ขั้นของ Origin Intent Plane นั้นเรียบง่าย แต่ต้องใช้ทั้งความพยายามและความสามารถ อย่างแรก คุณต้องเข้าใจ เจตจำนงต่างๆและถ้าคุณเข้าใจเจตจำนงขององค์ประกอบของธาตุที่คุณไม่มี คุณก็แค่ต้องซื้อยาเพิ่มความสัมพันธ์ของธาตุนั้น”
“หลังจากไปถึงระดับพื้นฐานของเจตจำนงนั้น คุณต้องซื้อคู่มือการปรับแต่งร่างกายขององค์ประกอบนั้นและเริ่มปรับแต่งร่างกายของคุณก่อน คู่มือการปรับแต่งร่างกายแต่ละเล่มมี 3 ขั้นตอนในนั้น และหลังจากที่คุณทำครบทั้ง 3 ขั้นตอนแล้ว คุณจะได้รับร่างกายขององค์ประกอบธาตุนั้นสำเร็จ และคุณจะสามารถฝึกฝนวิธีการไหลของพลังงานที่เกี่ยวข้องกับมันได้ “
” หากคุณฝึกฝนตามคู่มือการขัดเกลาร่างกาย ร่างกายของคุณก็จะแข็งแกร่งขึ้น”
” ขั้นย่อยของระดับพื้นฐานของเจตจำนงเดิมนั้นไม่สำคัญนัก แต่ฉันจะบอกคุณว่าต่อไปพวกมันคือ จุดกำเนิดระดับพื้นฐาน, จุดกำเนิดระดับกลาง, จุดกำเนิดระดับสูง และ จุดกำเนิดระดับมาสเตอร์ ….”
เขาหยุดพูดอยู่ที่ประโยคนั้น พลางยิ้มเยาะเย้ยแล้วพูดว่า “อะไรนะ พวกคุณทุกคนคิดว่า จะได้มีชื่อยิ่งใหญ่เหมือนกับขั้นตอนย่อยของระดับ Energy Plane หรือเปล่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า “
หลังจากหัวเราะ เขาพูดต่อ “ชื่อที่ยิ่งใหญ่ของระดับ Energy Plane นั้นก่อตัวขึ้น เมื่อมนุษย์เริ่มฝึกฝนเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นโดยใช้พลังงานและอื่น ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปตามทาง ดังนั้นภายหลังชื่อที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้น ตอนนี้กลายเป็นระดับต่ำสุด ซึ่งก็คือระดับ Energy Plane นั่นแหละ ”
” ถ้าคุณต้องการชื่อที่ยิ่งใหญ่แล้วก็แข็งแกร่งขึ้น คุณจะได้รับการจดจำอย่างแท้จริง เมื่อคุณบรรลุ ระดับ Profound Domain Plane แล้ว แต่นั่นไม่ใช่จุดจบ ยังมีหนทางอีกยาวไกลที่จะไปถึงจุดสูงสุดของมหาอำนาจมนุษย์ของเรา และแม้ว่าพวกเขาจะยังค้นหาอยู่ เพื่อจะได้แข็งแกร่งขึ้นอีก เพราะเราคือ…” เมื่อพูดจบ ชายมีเคราก็ส่ายหัวไม่พูดต่อ
” ยังไงก็ตาม จำวิธีที่จะแข็งแกร่งขึ้นให้ได้อย่างเหมาะสม สิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปนั้นเป็นพื้นฐานที่สุด เนื่องจากยังมีบางสิ่งในขั้น Origin Intent Plane ซึ่งคุณจะรู้ในภายหลัง สำหรับตอนนี้ พวกคุณทุกคนถือเป็นนักเรียนนอกแล้ว ”
ชายมีเครามองไปทางด้านซ้ายของเขา ในขณะที่พยักหน้าก่อนจะหันหลังกลับและกล่าวว่า “หมดเวลาแล้ว นักเรียนกลุ่มต่อไปกำลังมา ยืนอยู่นิ่งๆ ในขณะที่กำลังจะเทเลพอร์ตไปยังด้านนอกของอะคาเดมี่ มันจะเริ่มใน 3 วินาที”
…
หลังจากผ่านไป 3 วินาที นักเรียนนับล้านที่ยืนอยู่บนลานโลหะมืด ก็หายตัวไปและปรากฏตัวขึ้นในสถานที่ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
มีแม่น้ำ ภูเขา และต้นไม้ใหญ่อยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่ไม่มีแม้แต่อาคารเดียวในสายตา
เอธานสังเกตว่ามีนักเรียนประมาณ 1,000 คนเท่านั้นที่อยู่ที่นี่ และพวกเขาทั้งหมดถูกแยกออกจากกันในพื้นที่ขนาดใหญ่นี้
เขาและเทียน่าพบกันอย่างง่ายดายเพราะพวกเขาอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ 10 เมตรและได้พบกัน
ด้านซ้ายเป็นแอ่งน้ำและน้ำตก ด้านหลังเป็นภูเขาที่มีน้ำไหลลงมาด้านหน้า และด้านขวามีความเขียวขจีเหมือนต้นไม้และพืชอื่นๆ
ทุกคนต่างสับสนว่า ด้านนอกของอะคาเดมี่อยู่ที่ไหน แต่ทันใดนั้น ก็มีแสงก็สว่างขึ้นบนท้องฟ้า ซึ่งเผยให้เห็นใบหน้าของผู้หญิงที่ดูราวกับอายุ 20 ปี
เธอมีผมหยักศกสีบลอนด์และดูสวยมาก ด้วยรอยยิ้มหวาน เธอพูดว่า “ไม่ต้องแปลกใจ นี่คือ ด้านนอกสุดของอะคาเดมี่ของคุณ คุณต้องสร้างบ้านของคุณเองและอาศัยอยู่ทุกที่ที่คุณต้องการในดินแดนอันกว้างใหญ่นี้ กิโลเมตรรอบๆ สถานที่แห่งนี้ไม่มีสิ่งปลูกสร้างและมีเพียงที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติต่างๆ เช่น ภูเขา ป่า แม่น้ำ ทะเลสาบ เป็นต้น “
เมื่อได้ยินดังนั้น ก็เกิดความโกลาหลเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงอุทานจากนักเรียนเนื่องจากคำพูดของเด็กสาวผมบลอนด์
เอธานและเทียน่าก็ตกตะลึงเมื่อเอธานก็ได้แสดงความคิดเห็นด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า อย่างที่ชื่อของมันบอก สถาบันชั้นนอกสุดนั้น แท้จริงแล้วคือชั้นนอกของอะคาเดมี่นี้”
เทียน่ายังหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินที่สาวผมบลอนด์พูดและเธอกำลังจะพูดอีกครั้ง เธอยิ้มมากขึ้นเมื่อเห็นหน้าผู้คน และพูดต่อ “เงียบไว้และฟังทุกอย่างก่อน”
ทุกคนสงบลง เมื่อพวกเขาให้ความสนใจกับน้องสาวคนสวยบนท้องฟ้าขณะที่เธอพูดต่อ “ตอนนี้ Digiband (ดิจิแบนด์)ของคุณเชื่อมต่อกับโลกเสมือนจริงที่ตอนนี้ถูก จำกัด ไว้ในส่วนของมีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ ของเราเท่านั้น คุณจะปลดล็อกฟังก์ชันและสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ในโลกเสมือนจริงในอนาคต แต่ขึ้นอยู่กับอัตราความก้าวหน้าและผลงานของคุณ ”
” หลังจากที่ฉันพูดจบ คุณสามารถตรวจสอบ Digiband (ดิจิแบนด์) ของคุณอีกครั้งและคุณจะเห็นสิ่งใหม่ ๆ อยู่ในนั้นพร้อมกับตัวเลือกในการเข้าสู่โลกเสมือนจริง คุณสามารถซื้ออะไรก็ได้ที่คุณต้องการ หลังจากเข้าไปที่นั่นด้วยเครดิตของคุณ แต่.. ”
เธอหยุดตรงนั้น เธอยิ้มก่อนจะพูดต่อ “แต่พวกคุณทุกคนต้องทำมาหากินที่นี่ หาที่ดีๆ สร้างบ้านและฝึกฝน ความหนาแน่นของพลังงานต้นกำเนิดที่นี่เพียงพอแล้วที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้ หินธาตุดั้งเดิม เพื่อดูดซับพลังงานชนิดใดก็ได้ ”
” ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องทำคือทำคือเจตจำนงเพื่อให้สำเร็จภารกิจที่คุณจะได้รับเป็นประจำเพื่อรับคะแนนเครดิต และผ่านการทดสอบหลักอย่างทันท่วงที ”
สีหน้าของเธอกลายเป็นจริงจังในขณะที่เธอพูด “แต่ไม่ควรทำร้ายเพื่อนนักเรียนของคุณ และไม่ควรมีเจตนาจะฆ่าใคร ถ้าคุณมีปัญหากัน ก็ท้าทายกันเองหรือสู้กันด้วยชีวิตและคุณจะตายได้ หลังจากได้รับความยินยอมจากสถาบันแล้วเท่านั้น”
” บทลงโทษของการฆาตกรรมนั้นยากกว่าการได้รับความตาย ดังนั้นจงระวังให้ดี เสร็จแล้ว คุณจะได้สนุกกับชีวิตใหม่ของคุณ “
การฉายภาพก็หายไปเมื่อความเงียบลงมา แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ความโกลาหลครั้งใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น
เอธาน และ เทียน่า ตรวจสอบ Digibands (ดิจิแบนด์) ของพวกเขาว่ามีหลายอย่างปรากฏขึ้น
<เอธาน>
– เครดิต: 29
[ ภารกิจ ]: ไม่มีในขณะนี้ ( ใน 24 ชม. )
[ การทดสอบหลัก ]: ไม่มีในขณะนี้ ( ใน 24 ชม. )
<โลกเสมือนจริง>
– การเข้าถึงปัจจุบัน: มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่
ตอนที่ 73: การมาถึงที่มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ และความก้าวหน้า
เอธาน และ เทียน่าอยู่ในที่ราบหญ้า
” 2 วันนี้เราต่อสู้กันหนักมาก ตอนนี้ฉันมีคะแนนรวม 285 คะแนน หลังจากขายของเมื่อ 2 วันที่แล้ว เธอมีคะแนนเท่าไหร่?”
เทียน่ามองไปที่หน้าต่างของเธอและตอบว่า “ฉันมี 260 คะแนน ฉันคิดว่าเราควรจะช่วยพวกเขา เพราะ อะคาเดมี่น่าจะมีสิ่งที่ดีกว่านี้”
เอธาน พยักหน้าเห็นด้วยกับการแสดงออกที่ครุ่นคิดและกล่าวว่า “ใช่ เราไม่รู้อัตราการแปลงจากคะแนนเป็นหน่วยกิต แต่ไม่ควรขาดทุนมากนัก เพราะสถาบันแห่งนี้มีชื่อเสียงมาก”
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆ ก็มีการประกาศดังก้องไปทั่ว
[ เราจะออกจากโลกเสมือนจริงใน 5 วินาที ]
[5]
[4]
[3]
[2]
[1]
[0]
…
ภายในห้องโถงใหญ่ของยานอวกาศ แว่นตาของแคปซูลเสมือนทั้งหมดเปิดออกพร้อมกัน
เอธาน และ เทียน่า ยืนขึ้นจากท่านอนของพวกเขา จากท่อขณะที่พวกเขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่ค้นพบใหม่ของพวกเขาอย่างแท้จริง
เอธาน สังเกตว่ามือซ้ายของ เทียน่า และ เธอมีบางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
[ สิ่งที่อยู่รอบข้อมือซ้ายของคุณเรียกว่า Digiband มันเป็นอะไรที่เหมือนกับ ID ของคุณ และถ้าคุณต้องการทำอะไร คุณจะต้องใช้มัน ]
[ Digiband ยังมีพื้นที่ภายใน 100 ลูกบาศก์เมตรและรายการทั้งหมดของคุณที่คุณรวบรวมในโลกเสมือนจริงจะถูกเก็บไว้ในนั้น ]
[ คะแนนของคุณถูกแปลงเป็นเครดิต และคุณสามารถดูได้โดยการเปิดใช้งาน Digiband ของคุณโดยการสัมผัสหรือด้วยพลังงานลึกลับของคุณ ]
[ เราจะลงจอดหลังจาก 30 นาที ]
เอธาน เข้าไปในอาณาจักพลังลึกลับก่อน และเห็นว่าลูกแมวน้อยลัคกี้ ยังคงหลับอยู่
‘ ฉันสงสัยว่ามันจะนอนนานแค่ไหน? ฉันคิดว่าฉันจะพบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อไปถึงอะคาเดมี่ ‘
จากนั้นเขาก็เปิดใช้งาน Digiband และโฮโลแกรมขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้น
[ เอธาน ]
– 29 หน่วยกิต
จากนั้นเขาก็นำคู่มือการกลั่นร่างกายโลหิตขั้นพื้นฐาน ยาสัมพันธ์เลือด และวิธีการไหลสายโลหิตจาก Digiband ของเขาออกมาก่อนที่จะมอบให้ เทียน่า เธอแปลกใจว่า “ทำไมนายถึงให้ฉันมา ทำไมนายถึงไม่กินยา นายยังไม่มีความสัมพันธ์ของเลือดนี่มันจึงเป็นประโยชน์กับนายมากกว่า ”
เอธาน ยิ้มในขณะที่ส่ายหัวและพูด “ฉันมีวิธีอื่นในการดึงดูดสายเลือดและฉันก็ไม่ต้องการคู่มือการกลั่นร่างกายโลหิตขั้นพื้นฐาน สำหรับวิธีการไหลของสายเลือด ฉันได้เรียนรู้แล้ว”
ตอนแรกเทียน่าลังเล แต่ เอธาน บังคับให้เธอยอมรับสิ่งต่าง ๆ โดยยืนยันว่าเขามีวิธีการของตัวเองที่จะแข็งแกร่งขึ้น
ทันใดนั้น ทุกคนที่อยู่บนพื้นก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่เมื่อผู้คนเริ่มกรีดร้อง
สาเหตุของความโกลาหลคือสิ่งที่พวกเขากำลังเห็นอยู่
ห้องโถง ผนัง และสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมดหายไปเมื่อมาถึงอวกาศ
[ โหมดโปร่งใสเปิดอยู่ ตอนนี้คุณสามารถสังเกตเซกเตอร์นับไม่ถ้วนอันงดงามได้แล้ว ]
ดวงตาของ เอธาน และ เทียน่า เบิกกว้างเมื่อเห็นมุมมองปัจจุบัน
ข้างหน้าพวกเขาคือดาวเคราะห์ขนาดมหึมาที่ใหญ่กว่ายานอวกาศที่พวกเขาอยู่มาก
เอธาน รู้ว่ายานอวกาศลำนี้มีขนาดเพียงครึ่งเดียวของดาวเคราะห์ เรซคีล แต่ดาวเคราะห์ที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นใหญ่กว่ามาก
เมื่อยานอวกาศเคลื่อนตัวออกไปอีก พวกเขาเห็นดาวเคราะห์ทุกชนิด และแต่ละดวงเป็นวัตถุท้องฟ้าขนาดใหญ่ ใหญ่กว่า ดาวเคราะห์เรซคีล มาก
ดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุดที่พวกเขาสังเกตเห็นอาจสามารถครอบคลุมดาวเคราะห์ขนาดเรซเคียลได้อย่างน้อย 20 ดวง
แต่หลังจากผ่านไป 10 นาที สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขากลับทำให้จิตใจของพวกเขาสั่นสะท้าน
พวกเขาเห็นดาวเคราะห์ยักษ์ 2 ดวงที่ใหญ่กว่าที่พวกเขาสังเกตเห็นมาก และแท้จริงแล้วพวกมันเชื่อมต่อกันด้วยวัสดุบางชนิดและพลังงานที่เป็นประกาย
[ ดาวเคราะห์ทั้งสองนี้เป็นส่วนหนึ่งของการก่อตัว พวกคุณทุกคนไม่สามารถสังเกตได้จากยานอวกาศ แต่มีดาวเคราะห์ที่คล้ายคลึงกันอีก 5 ดวงและพวกมันเชื่อมต่อกัน ในขณะที่ดาวเคราะห์ประดิษฐ์ขนาดยักษ์ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของการก่อตัวซึ่ง คือจุดหมายปลายทางของเรา ]
…
ภายในห้องทำงานของกัปตัน
กัปตันกำลังคุยกับใครบางคนบนโฮโลแกรมที่ปรากฏต่อหน้าเขา
” สแกนยานของเราแล้วอนุญาติให้เข้าไปข้างในได้ “
คนบนโฮโลแกรมทำความเคารพและพูดว่า ” เราจะเริ่มทันที “
จากนั้นกัปตันก็เอนหลังบนเก้าอี้แล้วพูดว่า “เอาล่ะ ให้รางวัลสุดท้ายแก่เด็กขั้น Energy Plane และให้ของขวัญสุดท้ายแก่เด็กขั้น Origin Intent Plane สิ่งนี้จะขึ้นอยู่กับพวกเขาแล้ว หากพวกเขาสามารถก้าวเข้าสู่ Genesis Conceptual Plane ได้”
” ครับท่าน “
…
ในห้องโถงทั้งหมดที่มีคน Energy Plane มีการประกาศดังก้อง
โหมดโปร่งใสปิดลงเมื่อการตกแต่งภายในปกติของยานอวกาศปรากฏขึ้นอีกครั้ง
[ นักเรียนขั้น Energy Plane ทุกคน โปรดก้าวเข้าสู่หลอดเสมือนจริงของคุณ อย่านอน แต่จงยืนอยู่ข้างในพวกมัน ]
เอธาน และเทียน่าพร้อมกับคนอื่นๆ ทั้งหมดก้าวเข้าไปในหลอกเสมือนจริง และยืนอยู่ที่นั่น
[ หลังจาก 5 วินาที พลังงานทั้งหมดที่คุณได้ฝึกฝนจะอิ่มตัว และคุณก็พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ขั้น Origin Intent Plane โดยการเหนี่ยวไก แต่อย่าเหนี่ยวไกภายในยานอวกาศ ]
[ ย้ำ ห้ามเหนี่ยวไกในยานอวกาศ ]
…
[2]
[1]
[0]
ในขณะที่การนับถอยหลังมาถึง 0 เอธาน รู้สึกถึงพลังงานต่างๆ มากมายที่อยู่ด้านล่างเขา
‘ เหล่านี้เป็นพลังงานที่ฉันได้เข้าใจในขณะนี้ ’ เขาตกใจหันไปหาเทียน่าและพูดว่า “เทียน่า รีบไปกินยาสายสัมพันธ์เลือดกันเถอะ”
เทียน่ารู้สึกได้ถึงสิ่งต่างๆ และกินยารักษาความสัมพันธ์ทางสายเลือดโดยตรง
หลังจากที่เธอกินยา เธอยังกินยาสร้างประตูควบแน่นเพื่อสร้างประตูควบแน่นสำหรับพลังงานเลือด
ตอนนี้เธอมีพลังงานภูเขาไฟสายฟ้า พลังงานน้ำ พลังงานน้ำแข็ง พลังงานมืด พลังงานไฟ พลังงานสายฟ้า และพลังงานเลือด
พลังงานภูเขาไฟสายฟ้า ไม่ต้องการประตูควบแน่น เนื่องจากเทียน่า จะต้องสร้างขึ้นด้วยตนเองโดยใช้ เจตจำนงของภูเขาไฟสายฟ้า ของเธอโดยรวบรวมพลังงานจากทะเลพลังงานไฟและทะเลพลังงานสายฟ้า
สำหรับพลังงานแห่งความมืด เธอได้สร้างประตูควบแน่นภายในโลกเสมือนในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
และตอนนี้เมื่อกินยาเม็ดที่สัมพันธ์กับโลหิตและยาเม็ดประตูควบแน่น พลังงานจากเลือดเพิ่มเติมก็ปรากฏขึ้นจากใต้ฝ่าเท้าของเธอ และประตูควบแน่นของมันก็ก่อตัวขึ้นเช่นกันเมื่อพลังงานลึกลับของเธอเริ่มระบายออก
จากนั้นเธอก็เริ่มดูดซับพลังงานทั้งหมดเหมือนกับคนอื่นๆ เพื่อให้อิ่มตัว
เอธานก็ดูดซับพลังงานเช่นกัน
หลังจากผ่านไป 10 นาที พลังงานทั้งหมดของเขาอิ่มตัวและเขารู้สึกว่ามีการกระตุ้นในตัวเขา
“ก็เลยรู้สึกแบบนี้”
เขาหันหน้าไปด้านข้างและเห็นว่าเทียน่ายังคงดูดซับพลังงาน น้ำแข็ง ความมืด และเลือดเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่พลังงานอื่นๆ ของเธออิ่มตัว
หลังจากผ่านไปประมาณ 6 นาที เธอก็ได้เติมพลังงานของเธอจนเต็มและรู้สึกถึงแรงกระตุ้นในตัวเธอ
ผ่านไปไม่กี่นาทีก็มีเสียงประกาศดังขึ้น
[ เนื่องจากทุกคนมีพลังงานที่อิ่มตัว พวกคุณทั้งหมดจะถูกเคลื่อนย้ายมวลไปที่พลาซ่าบนดาวเคราะห์หลักนี้ หลังจากไปถึงที่นั่น คุณสามารถเหนี่ยวไกและเลื่อนขั้นไปยัง Origin Intent Plane ]
[3]
[2]
[1]
[0]
…
เช่นเดียวกับที่พวกเขามาถึงยานอวกาศ พวกเขารู้สึกถึงแรงดึงขณะที่พวกเขาหายตัวไปจากห้องโถงและมาถึง ไจแอ้นพลาซ่า ด้วยพื้นสีเงินสีเข้มด้านล่าง
เมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น พวกเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล
ทุกคนสูญเสียการควบคุมพลังงาน พวกเขารู้สึกเหมือนขาดการเชื่อมต่อกับความสัมพันธ์ของพวกเขา
เสียงดังของชายคนหนึ่งดังขึ้นในเวลานี้ว่า “อย่าตกใจว่าจะไม่สามารถควบคุมพลังงานของคุณได้ เพียงเพราะบรรยากาศตามธรรมชาติของดาวเคราะห์ดวงนี้ โดยปกติแล้วเด็ก Energy Plane อย่างคุณจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันหรือมากกว่านั้น เพื่อฟื้นการควบคุมของคุณ แต่ไม่จำเป็นต้องรอ เพียงแค่เหนี่ยวไกและเริ่มต้นความก้าวหน้าของคุณสู่ Origin Intent Plane หลังจากบุกทะลวงไปยัง Origin Intent Plane แล้ว พวกคุณทุกคนก็สบายดี”
แต่มีความผิดปกติอย่างหนึ่งกับปรากฏการณ์นี้และนั่นก็คือเอธาน
เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเหมือนที่ทุกคนรู้สึกและสามารถควบคุมพลังของเขาได้อย่างสมบูรณ์ แต่เขาไม่ต้องการอธิบายอย่างละเอียดเพราะมันน่าจะเกี่ยวข้องกับวิธีที่เขาได้รับความสัมพันธ์และร่างกายที่แตกต่างจากที่คนอื่นได้รับ
จากนั้นเขาก็เหนี่ยวไกและรู้สึกได้ทันทีว่าเขาถูกล้างด้วยน้ำอ่อนโยน
คริสตัลของเขาเริ่มหมุนไปรอบ ๆ ด้วยความเร็วที่รวดเร็ว ในขณะที่ดูดซับพลังงานทั้งหมดในขณะที่เขาเริ่มสูญเสียพลังงานลึกลับของเขา
หลังจากนั้นไม่กี่นาที คริสตัลก็หยุดหมุนขณะที่พวกมันเช็ดทำความสะอาดทะเลพลังงานของเขา และเขาก็สูญเสียพลังงานลึกลับทั้งหมดไปด้วย
ทันทีหลังจากที่เขาเช็ดตัวให้สะอาด เขาก็รู้สึกเหมือนมีมดจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังคลานไปทั่วตัวเขา ทั้งภายในและภายนอกร่างกายของเขา
เขารู้สึกแปลกและน่ารำคาญอย่างยิ่ง แต่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่คริสตัลของเขาจะเริ่มหมุนอีกครั้งและเริ่มปล่อยพลังงานตามลำดับจากพวกมัน
สำหรับอาณาจักรลึกลับของเขา พลังงานประเภทอื่นเริ่มผลิตขึ้น
เอธาน คิดหลังจากที่เขารู้สึกถึงพลังงานใหม่ ‘ นี้รู้สึกเหมือนพลังงานลึกลับ แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปเล็กน้อยในธรรมชาติ น่าจะเป็นแรงลึกลับ ‘
จากนั้นเขาก็สังเกตขอบเขตพลังงานของเขา
‘ คริสตัลมีขนาดใหญ่ขึ้น ก่อนหน้านี้มีขนาดเพียงนิ้วเดียว แต่ตอนนี้มีขนาดเท่าฝ่ามือ สำหรับพลังงาน…’
เขารู้สึกได้ว่าพลังของเขาเปลี่ยนแปลงไปโดยพื้นฐานแล้ว
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ทะเลพลังงานของเอธานก็เต็มอีกครั้ง แต่ขนาดของพวกมันลดลงอย่างมาก
ทะเลพลังงานแต่ละแห่งของเขาตอนนี้มีขนาดเท่ากับถังและคริสตัลของเขาก็หยุดหมุนเช่นกัน
เอธาน ลืมตาขึ้นและเห็นว่า เทียน่า กำลังมองมาที่เขา
เมื่อเห็นเอธานลืมตา เทียน่าก็ยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่านายจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี นายรู้ไหม-”
ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค เสียงดังก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ใกล้กว่านั้นมาก
” ตอนนี้ เมื่อทุกคนทะลุทะลวงขั้นตัวเองเสร็จแล้ว ฉันจะเปิดการบรรยายครั้งแรกของคุณ เกี่ยวกับระดับขั้นต่างๆที่คุณเพิ่งบรรลุได้ในขั้น Origin Intent Plane “
ทุกคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นกระสุนปืนขนาดยักษ์ของชายมีหนวดมีเคราที่มีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา
ตอนที่ 72: ไดรฟ์ FTL หยุดทำงาน ออกจากไฮเปอร์สเปซ
[ การจับคู่เสร็จสมบูรณ์ ]
[ ทีม ]
– เอธาน
– เทียน่า
– ราซ
– วาเทลจูเซ
[ ในการผ่านดันเจี้ยนขุมนรกหมูอมตะให้สำเร็จ เพียงแค่เอาชนะบอสหลักให้ได้ ]
ทิวทัศน์รอบๆ เอธานและคนอื่นๆ เปลี่ยนไปเมื่อมาถึงพื้นดินที่เต็มไปด้วยโคลนสีน้ำตาล
เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ สมาชิกในทีมคนหนึ่งก็สาปแช่ง “ไอ้พวกปัญญาประดิษฐ์ของโลกเสมือนจริง มันมักจะย่อชื่อฉันแบบนี้เสมอเหรอ”
เขามีผมสีน้ำตาลแหลมคม รูปร่างผอมเพรียว และสวมเสื้อคลุมหลวมสีสันสดใส ซึ่งแสดงให้เห็นชุดสูทรัดรูปที่เขาสวม
สมาชิกในทีมอีกคนที่สวมชุดคลุมสีขาวราวกับปรมาจารย์กังฟูเหล่านั้นพูดด้วยสีหน้างุนงงว่า “คุณคือวาเทลจูเซงั้นหรอ ถ้านี่คือชื่อย่อ แล้วชื่อเต็มมันคืออะไรกันแน่ล่ะ?”
วาเทจูเซพูดหลังจากเคลียร์คอของเขา “มันเป็นชื่อที่พ่อของฉันมอบให้ฉัน ฟังให้ดี ฉันชื่อ แวน เออ เฮลูลิโอ ทริ เอิล ลู เจด อุซ ซี อีลาโน่ ”
*ตุ๊ด…*
*อวิ้งค์ๆๆๆๆ…
หมูสีน้ำตาลยักษ์ตกลงมาจากท้องฟ้าจริงๆ
ตัวมันสูง 20 เมตร ยาว 8 เมตร และมีเกล็ดสีน้ำตาลอยู่บนตัว หมูยักษ์ปล่อยเสียงหมูตามแบบฉบับและพุ่งตรงไปยังวาเทลจูเซ
“ดูเหมือนหมูจะไม่ชอบชื่อที่ยาวของนายนะ” ราซชมเชยขณะหัวเราะ
เอธาน และ เทียน่า กลั้นหัวเราะขณะที่ เอธาน พูดด้วยใบหน้าจริงจังว่า ” หมูตัวนี้ไม่ธรรมดาๆ ระวังตัวด้วย ” จากนั้นเขาก็หันไปหาวาเทลจูเซและพูดว่า ” เราจะเรียกนายว่าอีลาโน่ แทนชื่อเต็มของนายนะ “
“เอลาโน่ ช่วยทำให้หมูเสียสมาธิที เพราะมันกำลังตามนายมา” ราซพูดหลังจากนั้น
เอลาโน่วิ่งไปพร้อมกับพูดด้วยสีหน้ารำคาญ “ฉันทำได้แล้ว ไอ้หมูตาบอด”
จากนั้นเอธานและคนอื่นๆ ก็เริ่มโจมตีหมูยักษ์ ขณะที่เอลาโน่กำลังวิ่งหนีหมูโดยใช้คาถาเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนจะใช้ลมและพลังงานสายฟ้า
หมูยักษ์กำลังจู่โจมอย่างหนัก ทันใดนั้นมันก็ส่งเสียงหมูที่ดังออกมา
*อวิ๋งงงงงงงงงง….*
หลังจากนั้น โคลนที่พวกเขายืนอยู่ก็เริ่มลอยขึ้นก่อนที่จะกลายเป็นลูกบอลเล็กๆ ที่พุ่งเข้าหาทุกคน
เอธาน และ เทียน่า ซ่อนตัวอยู่หลังโกเลมดิน ขณะที่ราซ ร่ายเวทบาเรียที่ปกคลุมรอบตัวเขาซึ่งสะท้อนลูกบอลโคลนที่กระทบกับมัน
ส่วนเอลาโน่นั้น เขาสวมชุดเกราะเวทย์ที่ดูเหมือนจะไม่รวมพลังงานจากดินและแสง
หลังจากตะโกนออกไป หมูยักษ์ยังคงไล่ตามเอลาโน่ที่สาปแช่ง “ทำไมมันถึงตามล่าฉันคนเดียวล่ะ”
เอธานและคนอื่นๆ ยิงการโจมตีด้วยคาถาอีกครั้ง คราวนี้เอธานได้ปล่อยพลัง Impact Point ของธาตุไฟ 3 ชั้น
หลังจากโดนคลื่นโจมตีนี้ หมูยักษ์ก็ระเบิดเป็นของเหลวโคลน
แต่ก่อนที่ทีมจะฉลองกัน พวกเขาได้ยินบางอย่าง
*อวิ๋ง…อวิ๋งงงงงงงงง…*
จากทะเลโคลน หมู 2 ตัวที่ตัวเล็กกว่าหมูตัวก่อนเล็กน้อยก็กลายเป็นหมูยักษ์ตัวหนึ่งพุ่งเข้าหาเอลาโน่ ในขณะที่อีกตัวไล่ตามราซ
หมูสองตัวนั้นมีขนาดประมาณ 18 เมตร ดังนั้นพวกมันจึงค่อนข้างใหญ่และดูเหมือนว่าความเร็วของพวกมันจะเพิ่มขึ้น
เอลาโน่ได้เริ่มวิ่งหนีเพื่อชีวิตของเขาแล้ว แต่ราซก็ต้องตกใจที่จู่ๆ ก็มีหมูยักษ์วิ่งตามเขาไป และล้มเหลวในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาถูกจมูกหมูยักษ์กระแทก
[ ราซ ถูกคัดออก ]
“ห้ะ!!”
เอธานและคนอื่นๆ ตกตะลึงเพราะสิ่งที่พวกเขาเพิ่งเห็นทำให้สับสนมาก
ราซถูกกำจัดออกไปทันทีที่จมูกของหมูยักษ์สัมผัสเขา
เอธานแสดงสีหน้าจริงจังและพูดกับเทียน่าและเอลาโนว่า “ระวัง ดูเหมือนว่าพวกเราจะถูกกำจัดแม้ว่าพวกเราจะถูกเจ้าหมูแตะต้อง”
“ไอ้คนไร้ประโยชน์คนนั้น…” เอลาโน่สาปแช่งภายใต้ลมหายใจของเขาขณะที่หมู Gian ที่กำจัด Raz ไล่ตามเขา
แต่หมูยักษ์ทั้งสองไม่สามารถตามเขาทันในขณะที่ เอธาน และ เทียน่า เอาชนะหมูยักษ์สองตัวด้วยคาถาของพวกเขา
หลังจากนั้นเอธานก็พูดขึ้นว่า “ระวัง เราไม่ได้รับการประกาศให้เสร็จสิ้นดันเจี้ยน”
เมื่อเขาพูดจบ ได้ยินเสียงหมูทั่วไปสี่เสียง
คราวนี้หมูสี่ตัวขนาดประมาณ 15 เมตรได้ออกมาจากโคลน
หมูสองตัวพุ่งเข้าหา อีลาโน่ ในขณะที่อีกสองตัวพุ่งเข้าหาเอธาน และ เทียน่า
“ อย่าถูกจับและวิ่งต่อไป อีลาโน่เราจะช่วย หลังจากจัดการกับหมูที่นี่” เอธาน ตะโกนขณะที่เขาใช้ขั้นตอนการระเบิดในขณะที่คว้าเทียน่าที่เอวของเธอ
” เทียน่าสร้างบาเรียร์ ปุ่มระเบิด รอบตัวเราที ” เมื่อพูดอย่างนี้ เอธาน ก็ใช้ การระเบิด ของเขาเพื่อสร้างระยะห่างระหว่างหมูกับพวกเขาเอง
หลังจากใช้ขั้นระเบิด 2-3 ครั้ง เขาก็หยุดและเริ่มเตรียม Impact Point 2 ชั้นของพลังงานสายฟ้า
แต่เมื่อเขาอยู่ได้ครึ่งทาง พวกหมูก็เข้ามาใกล้เขา ดังนั้นเขาจึงใช้บันไดอีก 2-3 ก้าวและทำระยะห่างก่อนที่จะจบคาถา Impact Point และโยนมันไปทางหมูตัวหนึ่งที่อยู่ข้างหลังพวกมันซึ่งสามารถฆ่ามันได้
” เกราะของพวกเขาลดลง ในขณะที่ความเร็วเพิ่มขึ้น” เอธาน พูดหลังจากเห็นการป้องกันที่อ่อนแอ
จากนั้นเขาก็หยุดและปล่อยให้หมูชนกับสิ่งกีดขวางที่เปิดใช้งานปุ่มระเบิด จากนั้น เอธาน ยิง Impact Scatter สองอันในระยะใกล้จุดที่ว่างเปล่าไปยังหมูและฆ่าพวกมัน
“ดูสิ เอธาน…” เทียน่าที่ถูกเอธานวางลงเล็กน้อย ก่อนที่หมูจะกระแทกกับปุ่มระเบิดและพูดขึ้น
เมื่อได้ยินเธอ เขาเดินไปทางที่เธอมองอยู่และประหลาดใจ
อีลาโน่ที่กำลังวิ่งหนีจากหมูมีดาบอยู่ในมือ ซึ่งส่องแสงสีเงิน หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็หยุดวิ่งและโบกดาบของเขาในแนวนอน
ฟันกว้างที่มองไม่เห็นดูเหมือนจะเคลื่อนไปข้างหน้าในขณะที่มันผ่าหมูทั้งสองออกเป็นสองส่วน
” คาถาที่เขาปลดปล่อยจากดาบของเขา…ธาตุอวกาศของมัน…ใช่แล้ว ฉันก็อยากซื้อคาถาธาตุอวกาศด้วย แต่ลืมไป เดาว่าฉันคงจะต้องซื้อมันหลังจากนี้”
[ ขอแสดงความยินดี! คุณผ่านดันเจี้ยน ขุมนรกของหมูอมตะ สำเร็จแล้ว ]
[ 30 แต้มและกล่องธรรมดา สำหรับ เอธาน, เทียน่า และ อีลาโน่ สำหรับ ราซ จะไม่ได้อะไรเลยเนื่องจากที่เขาถูกกำจัด ]
…
หลังจากเสร็จสิ้นดันเจี้ยนนี้ เอธาน ก็เริ่ม ห้องใต้ดินของแมลงป่าเถื่อน ทันที
[ เข้ากัน….]
[ จับคู่เสร็จสิ้น ]
[ ทีม ]
– เอธาน
– เทียน่า
– ลุยนุส
– เซนี่
[ ฆ่าแมงมุมทุกตัวใน 10 นาทีเพื่อเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ ]
หลังจากการประกาศ แมงมุมนับไม่ถ้วนเริ่มคลานออกมาจากทุกที่ในห้องใต้ดิน ที่เต็มไปด้วยรูปปั้นของแมงมุม
ไม่มีใครมีเวลาพูดเพราะพวกเขามีงานเต็มมือ ในทันที เพื่อฆ่าแมงมุมและจัดการกับการโจมตีที่รวดเร็วของพวกมัน
เทียน่าใช้เวทมนตร์ภูเขาไฟสายฟ้า AOE ของเธอเพื่อกำจัดแมงมุมจำนวนมาก และ เอธาน ได้เรียกโกเลมมารอบๆ พวกเขา หลังจากที่เทียน่า สร้างพื้นที่บางส่วนด้วยเวทมนตร์ AOE ของเธอ
หลังจากที่เขาสร้างโกเลมเสร็จแล้ว เทียน่าก็ใช้ปุ่มระเบิดของเธอรอบๆ ตัวพวกมัน ซึ่งก็ทำลายแมงมุมด้วย
หลังจากผ่านไป 5 นาที ฝูงแมงมุมก็แข็งแกร่งขึ้นทั้งในด้านความเร็วและการโจมตี
[ ลุยนุส ถูกกำจัด ]
เอธาน สูญเสียพลังงานน้ำและสายฟ้าที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ เขาสำรองไฟและอากาศสำหรับขั้นตอนการระเบิดสำหรับการเคลื่อนที่ และพลังงานดินของเขาถูกระบายออกเนื่องจากโกเลม
ดังนั้นครั้งนี้ เขาจึงใช้พลังงานมืด
หลังจากผ่านไป 2 นาที เขาก็หมดพลังแห่งความมืด เทียน่า ใช้เวทมนตร์ของเธอเป็นครั้งคราว เพื่อฆ่าแมงมุมที่ทำลายการป้องกันของพวกมัน
เซนี่ มีดาบอยู่ในมือของเธอ ซึ่งเธอใช้ฆ่าแมงมุมที่ล้อมรอบเธอ เธอแกว่งดาบของเธออย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุด ใคร ๆ ก็เห็นว่าเธอมีสมาธิอย่างมาก ไม่มีแมงมุมตัวใดก้าวเข้าไปใกล้เธอในระยะ 1 เมตร
เมื่อพวกเขาผ่านไป 1 นาที แมงมุมยักษ์สีขาวล้วน 5 ตัวที่มีดวงตาสีดำสนิทก็มาถึงจากความมืดเบื้องหน้าพวกมัน
พวกมันเหวี่ยงใยแมงมุมออกไปพร้อมๆ กันกับที่ เอธาน หลบเลี่ยงในขณะที่จับเทียน่า ไปด้วย และ เซนี่ฟันใยแมงมุมด้วยคาถาดาบของเธอ
จากสิ่งที่ เอธาน สังเกตจนถึงตอนนี้ เธอใช้เฉพาะการโจมตีทางอากาศ ธาตุมืด ไฟ และสายฟ้าด้วยดาบของเธอ
หลังจากหลบใยแมงมุมกว้างด้วยขั้นตอนการเผาไหม้ระเบิด เขาไม่มีที่พึ่งเพราะตอนนี้โกเลมของเขาติดอยู่ในใย
” เราจะต้องกำจัดแมงมุมพวกนั้นให้เร็วที่สุด” เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็เริ่มพุ่งเข้าหาแมงมุมตัวหนึ่งก่อนจะดันมือทั้งสองของเขาเข้าหาตัวของมันในระยะใกล้ที่ว่างเปล่าและปล่อย
หลังจากนั้น เขาก็ใช้ขั้นตอนการระเบิด เพื่อหลบใยแมงมุมที่เข้ามาจากแมงมุมอีกตัวหนึ่ง ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปใกล้แมงมุมตัวอื่นอีกครั้งและทำแบบเดียวกัน
เทียน่ายังได้เตรียมลูกบอลพลังงานขนาดใหญ่ของพลังงานภูเขาไฟสายฟ้า และยิงไปที่แมงมุมที่พุ่งเข้าหาเธอเพื่อฆ่ามัน
ในทางกลับกัน เซนี่ได้ฆ่าแมงมุมไปแล้วหนึ่งตัวและพร้อมที่จะฆ่าตัวสุดท้าย
พลังงานรวบรวมอยู่บนดาบของเธอก่อนที่เธอจะปล่อยพลังงานคลื่นสีฟ้ารูปตัว X ไปทางแมงมุมซึ่งตัดมันเป็นสี่ชิ้น
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้เคลียร์ ห้องใต้ดินของแมลงป่าเถื่อน ได้]
[ 30 แต้มและกล่องกล่องธรรมดาสำหรับ เอธาน, เทียน่า และ เซนี่ และไม่มีอะไรสำหรับ ลุยนุส เมื่อเขาถูกกำจัด ]
…
หลังจากมาถึงศุนย์กลางดันเจี้ยนแล้ว เทียน่าก็พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย “เปิดกล่องก่อน เรามีกล่อง 5 กล่องให้เปิด”
จากนั้นเธอก็ดูกล่องของเธอในช่องเก็บของและเห็นตัวเลือกเพิ่มเติม [ เปิดกล่อง x5 ] ก่อนที่จะกด
[ยินดีด้วย!!!!! คุณได้รับ ดาบอุกกาบาต, ยาธาตุไม้,ยาสร้างประตูควบแน่น, บู๊ทเมฆา, ความสัมพันธ์ธาตุมืด ]
ดวงตาของเทียน่าเป็นประกายเมื่อเห็นรายการสุดท้ายที่เธอได้รับและพูดว่า “ในที่สุดฉันก็ได้ ยาเพิ่มความสัมพันธ์ แต่น่าเสียดายที่ร้านค้าแต้มนั้นไม่ได้ขายยาเพิ่มความสัมพันธ์ และฉันสามารถหาได้จากกล่องธรรมดาเท่านั้น”
เอธาน มองดูสิ่งของของเธอและพยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะเปิดกล่องเป็นชุดๆ
[ คุณได้เปิดใช้งานเอฟเฟกต์เซ็ต ซึ่งสามารถมอบให้กับไอเท็มที่มีองค์ประกอบเดียวกัน มันจะใช้ได้เฉพาะเมื่อคุณเปิดกล่องธรรมดา 5 กล่องขึ้นไปพร้อมกัน และโอกาสในการเปิดใช้งานคือ 1% ]
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้รับ คู่มือการกลั่นเลือดร่างกายขั้นพื้นฐาน , ยาความสัมพันธ์แห่งเลือด, จดหมายลูกโซ่แห่งเลือด , วิธีการไหลของสายเลือด และคุณยังไม่ได้รับไอเทมใด ๆ จากกล่องธรรมดาหนึ่งกล่อง ]
เอธาน และ เทียน่าตกตะลึงเมื่อเห็นรายการสิ่งของ
เทียน่าอ้าปากกว้างขณะที่เธอพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “เซ็ตเอฟเฟกต์นี้เป็นสิ่งที่ดี หากเรารู้สิ่งนี้ เราจะเปิดกล่องเป็นกลุ่ม 5 กล่องตลอดเวลาที่ผ่านมาแล้ว”
เอธานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ไปพักเถอะ ฉันอยากเรียนคาถาธาตุอวกาศก่อนแล้วทำอย่างอื่น ฉันน่าจะเสร็จในอีกไม่กี่วัน หลังจากนั้นเราจะทำโหมด 2 คนในด่าน3 ดาวนี้ให้เสร็จ”
” เอาล่ะ ฉันจะกินยาเม็ดนี้และหาคาถาธาตุมืดจากร้านค้าจุดเพื่อฝึกฝน “
จากนั้นเอธานก็เข้าไปในห้องทดสอบคาถาก่อนที่จะเปิดร้านค้าแต้ม และซื้อแผ่นเจตจำนงของความมืด โดยใช้คะแนน 10 คะแนนก่อนจะย้ายไปที่หน้า 3 เพื่อค้นหาคาถาธาตุอวกาศ
หลังจากค้นหาอยู่ซักพัก เขาก็พบคาถาที่เขาชอบ
[ ระลอกคลื่นอวกาศ ]
– ข้อกำหนด: เจตจำนงของธาตุอวกาศ, ความสัมพันธ์อวกาศ, พลังงานธาตุอวกาศ
– คุณสามารถใช้คาถานี้เพื่อสนับสนุนคาถาที่ก่อนหน้าของคุณเพื่อเพิ่มความเร็วและการโจมตี
– คุณยังสามารถสร้างระลอกคลื่นของอวกาศเพื่อขัดขวางการโจมตีที่เข้ามา แต่ถ้าคาถาที่เข้ามามีพลังมากกว่า พวกมันก็สามารถเพิกเฉยต่อคลื่นอวกาศได้ ดังนั้นมันจึงดีกว่าที่จะใช้กับการโจมตีที่อ่อนแอกว่า ตัวอย่างเช่น หากคุณสร้าง ระลอกคลื่นอวกาศ ในขณะที่มี เจตจำนงธาตุอวกาศ และพยายามบล็อกเวทย์มนตร์ปกติเช่น ลูกไฟ จากบุคคลที่เข้าใจ เจตจำนงของธาตุไฟระดับกลาง คุณจะไม่มีปัญหาในการรบกวนการสะกดนั้น แต่ถ้าบุคคลเดียวกันใช้มากกว่า คาถาไฟที่ทรงพลังจากนั้นระลอกคลื่นอวกาศของคุณอาจไม่ทำงาน
…
เอธาน ซื้อเวทมนตร์ 120 แต้มนี้หลังจากอ่านคำอธิบาย
“เรามาทำความเข้าใจเจตจำนงของอวกาศกันก่อน”
…
เขาใช้เวลา 2 วันกว่าจะเข้าใจระดับองค์ประกอบของเจตจำนงอวกาศ แต่แทนที่จะเรียนต่อ เขาตัดสินใจที่จะเรียนรู้ คาถาระลอกคลื่นอวกาศ ก่อน
เขาใช้คู่มือนี้เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดของ คาถาระลอกคลื่นอวกาศ ถูกส่งเข้ามาในหัวของเขา
“ ดังนั้นเส้นทางการไหลของพลังงานของคาถานี้อยู่ในมือของฉันแล้ว” เอธาน พึมพำหลังจากดูข้อมูล
เขาพยายามฝึกเส้นทางไหลของคาถานี้ในขณะที่วิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact ของเขากำลังทำงานอยู่ แต่พลังของพวกมันปะทะกัน
เอธานขมวดคิ้วและคิดว่า ‘ถ้าเป็นเช่นนี้ คงจะไม่มีทางเลือก และถูกจำกัดเหรอ? ‘
จากนั้นเขาก็เลือกตัวเลือกไกด์ ในขณะที่เขาปรากฏตัวในพื้นที่อื่นก่อนที่จะถามออกมาดังๆ
“ คุณจะฝึกวิธีการไหลหรือคาถา 2 วิธีที่แตกต่างกันได้อย่างไร หากเส้นทางไหลของพลังงานของพวกเขาอยู่ในส่วนเดียวกัน”
[ คุณไม่สามารถใช้วิธีการไหลของพลังงานในแบบที่แตกต่างกัน 2 แบบในส่วนเดียวกันในขั้น Energy Plane แต่คุณสามารถทำได้หลังจากไปถึงขั้น Origin Intent Plane ]
เอธานถอนหายใจ ‘ คงต้องรอไปก่อน เดาเอานะ ‘
จากนั้นเขาก็กลับไปที่ห้องทดสอบคาถาและคิดถึงบางสิ่ง
‘ อย่างแรกเลย ยาเพิ่มความสัมพันธ์แห่งเลือด และ คู่มือการกลั่นเลือดร่างกายขั้นพื้นฐานนั้นไร้ประโยชน์สำหรับฉัน เพราะฉันจะสามารถได้รับค่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดและโครงสร้างของมันด้วยการใช้วังวนสีดำ ดังนั้นจะมอบให้เทียน่า หลังจากที่ฉันได้รับสิ่งเหล่านั้นทางร่างกาย ‘
หลังจากตัดสินใจแล้ว เขาก็หยิบวิธีไหลของสายเลือดออกมาและใช้เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับมัน
หลังจากอ่านเรื่องนี้แล้ว เอธานรู้สึกประหลาดใจที่ไม่เป็นไปตามที่เขาคาดไว้
วิธีการไหลของสายเลือดนี้ กลายเป็นวิธีการไหลป้องกันอย่างเต็มที่ ‘ เดาว่าฉันจะบันทึกคู่มือและรับฉบับพิมพ์หลังจากออกจากยานอวกาศเพื่อให้เทียน่าสามารถฝึกฝนได้ ‘
หลังจากนั้น เขาก็หยิบจดหมายลูกโซ่แห่งเลือดออกมาขาย
[ ได้รับ 98 คะแนน ]
จากนั้นเขาก็ยังคงเข้าใจเจตจำนงของอวกาศ
หลังจาก 6 วันของการนั่งสมาธิอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับองค์ประกอบอวกาศภายใต้วังวนสีดำ ในที่สุดเขาก็เข้าใจเจตจำนงของอวกาศในระดับกลาง
หลังจากลืมตาแล้ว เอธาน มองดูนาฬิกาที่เขาสร้างโดยใช้พลังงานเวทย์มนต์และคิดว่า ‘ ใช้เวลานานกว่าที่ฉันคาดไว้ ‘
ลุกขึ้นยืน เขาออกจากห้องทดสอบคาถาก่อนที่จะพบกับเทียน่าหลังจากรอสักครู่
เทียน่าเดินไปหา เอธาน ขณะยิ้ม
เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ เอธานถามด้วยรอยยิ้มว่า “มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นหรือเปล่า?”
เทียน่าพยักหน้าในขณะที่ยิ้มและพูดว่า “ฉันรู้สึกว่าฉันจะสามารถเข้าใจเจตจำนงของน้ำแข็งได้ในไม่ช้า ฉันคิดว่าฉันขาดเพียงขั้นสุดท้ายก่อนที่ฉันจะเข้าใจเจตจำนงน้ำแข็งได้ ”
เอธาน รู้สึกประหลาดใจและพูดว่า “เยี่ยมมาก คุณต้องการซื้อกระดานชนวนเจตจำนงของธาตุน้ำแข็ง หรือแผ่นเพื่อรับพลังสุดท้ายนั้นหรือไม่”
เทียน่าส่ายหัวและพูดว่า “ไม่จำเป็น หลังจากที่เราไปถึงมีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่แล้ว ฉันจะลองนั่งสมาธิอีกครั้ง ยังไงก็ตาม มาทำดันเจี้ยนระดับ 3 ดาวในโหมดคู่กันเถอะ ฉันได้เรียนรู้เวทมนตร์แห่งพลังมืดด้วย ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ทรงพลังเท่ากับคาถาของการไหล แต่ก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้างในการลดพลังป้องกันของศัตรู ”
“ก็ได้ครับ”
…
พวกเขาเคลียร์ดันเจี้ยนขุมนรกของหมูอมตะเป็นครั้งแรก โดยที่คาถาแห่งความมืดที่กัดกร่อนของเทียน่า ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์มาก
หมูตัวใหญ่ ตัวแรกนั้นค่อนข้างลำบาก แต่หลังจากวิ่งและใช้กลยุทธ์แล้ว พวกเขาก็เอาชนะมันและหลังจากนั้นก็ไม่จำเป็นต้องวิ่งเพราะ เทียน่าจะลดการป้องกันลงก่อนที่ เอธาน จะกำจัดหมูยักษ์
สำหรับ ห้องใต้ดินของแมลงป่าเถื่อนแล้ว พวกเขาสามารถเคลียร์มันได้แม้ว่า เอธาน จะถูกทิ้งไว้กับพลังงานอวกาศเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาทำเสร็จเท่านั้น จริงๆแล้วมันเป็นการเรียกที่ใกล้เคียง
ในกล่องธรรมดาที่เปิดออก เทียน่าก็ได้รับอาวุธที่ใช้พลังงานเสียงและการเคลื่อนไหว คาถาของการไหลแบบ Mirage ซึ่งต้องใช้น้ำและน้ำแข็งในการฝึกฝน
เอธาน ได้รับกระดานเจตจำนง อีกแผ่นหนึ่ง แต่มันคือ แผ่นของเจตจำนงของแสง ซึ่งไม่มีประโยชน์สำหรับเขา เขาจึงขายมันออกไป และไอเทมชิ้นที่ 2 ที่เขาได้รับคือคาถาไม้ธรรมดาที่เรียกว่ากำแพงโล่ไม้
เขาเรียนรู้คาถาแม้ว่าเขาอาจจะไม่ใช้มันในอนาคตแล้วขายมัน
หลังจากที่พวกเขาจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จแล้ว เอธาน ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เนื่องจากเราเหลือเวลาอีก 2 วัน มาต่อสู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในอารีน่าต่อสู้เพื่อรับคะแนนกัน”
“ตกลง! ไปกันเถอะ…”
…
…
ในขณะเดียวกัน ยานอวกาศได้ปิดไดรฟ์ FTL เมื่อออกจากไฮเปอร์สเปซและสิ่งที่ห่มวัตถุท้องฟ้าอันงดงามก็เริ่มปรากฏขึ้น
ตอนที่ 71: เคลียร์ได้ง่ายๆ
“ ฉันจะเปิดกล่องก่อน” เมื่อพูดแบบนี้ เทียน่าก็เปิดกล่องธรรมดาทั้ง 2 ของเธอทีละกล่อง
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้รับอุปกรณ์ เสื้อคลุมแห่งแสงและน้ำแข็ง ]
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้รับอาวุธ คฑาสายเลือด ]
“อืม….ชุดเกราะกับไม้พลอง ฉันใช้เกราะได้ แต่ร่างกายกับความสัมพันธ์เข้ากันไม่ได้”
[ ร้านค้าแต้มราคา: 120, ราคาซื้อขาย: 118, คะแนนที่ได้รับ: 110 ]
จากนั้นเธอก็ขายคทาสายเลือด ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 120 คะแนนซึ่งมันน่าประหลาดใจ
หลังจากนั้น เอธาน ก็เปิดกล่อง 2 กล่องของเขา
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้รับคู่มือคาถา โกเลมธาตุดิน ]
ด้วยความประหลาดใจ เอธานมองดูคำอธิบายของคู่มือคาถาก่อนเปิดกล่องที่ 2
[ โกเลมดิน ]
– ข้อกำหนด: พลังงานดิน, ความสัมพันธ์ธาตุดิน, เจตจำนงระดับกลางของธาตุดิน
– เสก โกเลมดิน ด้วยโครงสร้างที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องผู้ใช้
หมายเหตุ:- หากคุณสามารถเพิ่มความสามารถของคาถานี้เป็นขั้นสูงสุด ขั้นหลังจากนี้ไปจนถึงระดับ Origin Intent Plane คุณจะมีเวลาฝึกคาถาเวอร์ชันอัพเกรดในระดับขั้น Genesis Conceptual Plane ได้ง่ายขึ้น
หลังจากเห็นคำอธิบายแล้ว เอธานก็พูดพลางพยักหน้า “ฉันสามารถสำรองพลังงานจากดิน เพื่อเสกโกเลมได้ แต่การใช้พลังงานของพวกมันน่าจะสูง ยังไงก็ตาม พวกมันจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นเกราะป้องกันที่ดีสำหรับพวกเรา”
จากนั้นเขาก็เปิดกล่องที่ 2 ของเขา
[ ยินดีด้วย คุณได้รับไอเทม กระดานชนวนเจตจำนงของการขับไล่ ]
“โอ้…” ทั้งเอธานและเทียน่าต่างประหลาดใจที่ได้รับกระดานชนวนเจตจำนง และดูเหมือนว่าจะเป็นเจตจำนงลึกลับ
[ เจตจำนงแห่งการขับไล่]
– ข้อกำหนด: ต้องการพลังลึกลับ เพื่อสร้าง พื้นที่ที่มีผลกับคาถาของการขับไล่
– หลังจากเข้าใจเจตจำนงลึกลับแล้ว ผู้ใช้สามารถใช้แรงของพลังลึกลับ เพื่อสร้าง พื้นที่ของการขับไล่ เพื่อขับไล่เวทมนตร์และการโจมตีอื่นๆ
หมายเหตุ: คุณอาจพยายามทำความเข้าใจเจตจำนง แต่จะไม่มีประโยชน์มากนัก หากไม่มีพลังลึกลับ
เมื่อเห็นกระดานชนวน เทียน่าพูดด้วยความผิดหวัง “ดูเหมือนว่าเจตจำนงลึกลับ เหล่านี้ต้องการแรงลึกลับ เพื่อใช้งานซึ่งเรายังไม่มีในตอนนี้ ฉันคิดว่าอรงลึกลับที่เรียกกัน น่าจะเป็นของขั้น Origin Intent Plane ยังไงก็ตาม นายทำมันได้แน่ๆ พยายามเข้าใจเจตจำนงนี้ในตอนนี้และใช้อย่างถูกต้อง หลังจากได้รับแรงลึกลับแล้ว”
เอธานตกอยู่ในความคิด ‘ ฉันวางแผนที่จะซื้อจานของเจตจำนงของพลังลึกลับ มันขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของสิ่งที่ฉันทำตั้งแต่สอบผ่าน แต่ตอนนี้ฉันได้กระดานชนวนความตั้งใจนี้แล้ว ฉันจะพยายามทำความเข้าใจมัน ‘
หลังจากการตรวจสอบสิ้นสุดลงเอธานได้ป้อนคาถาของพลังงานลึกลับของเขาไปยังวังวนสีดำ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตอบกลับจากมัน
‘ อย่างไรก็ตาม ฉันจะดูว่าฉันสามารถเข้าใจเจตจำนงของการขับไล่นี้ในภายหลังหรือไม่ แต่ตอนนี้ ฉันจะฝึกคาถาโกเลมดิน ‘
จากนั้นเขาก็หันความสนใจไปที่เทียน่าและพูดว่า ” ฉันคิดว่าเราอาจจะสามารถจบดันเจี้ยน 2 ดาวในโหมดคู่ได้ในขณะนี้ เนื่องจากคุณมีคาถาป้องกันที่ดี แต่ฉันก็ยังจะไปและเป็นมาสเตอร์คนแรกของโกเลมดิน นี้ ”
เทียน่าพยักหน้าก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นฉันจะต่อสู้ในอารีน่าการต่อสู้ เพื่อรับประสบการณ์และคะแนน ถ้าฉันทำได้”
“ก็ได้ ครับ”
หลังจากนั้นเอธานก็มาถึงห้องทดสอบคาถาก่อนที่จะใช้คู่มือคาถา
ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคาถาโกเลมดิน ถูกส่งไปยังจิตใจของเขาและหลังจากนั้นเขาก็ขายคู่มือ
” ตอนนี้ฉันมี 149 แต้ม แต่ตอนนี้ฉันจะเก็บไว้ก่อน “
จากนั้นเขาก็เริ่มดูข้อมูลของเวทย์มนตร์ โกเลมดิน และหลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็คิดว่า ‘ ให้ตายเถอะ คาถานี้ใช้พลังงานจากดินเท่านั้น แต่ความซับซ้อนของเวทย์มนตร์นั้นเหนือกว่าวิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact และ คาถาระเบิดนั่นแล้ว ‘
‘ คาถานี้ต้องใช้เจตจำนงในระดับกลาง…..และบนเส้นทางที่ซับซ้อนนี้ ดูเหมือนว่าโกเลมที่เสกจะมีพลังมาก…และนอกเหนือจากข้อความนั้นเกี่ยวกับเวอร์ชันอัปเกรดของคาถานี้…’
เอธานรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อคิดเกี่ยวกับมันและเริ่มฝึกฝน
…
…
หลังจากผ่านไป 3 วัน ในที่สุด เอธานก็เชี่ยวชาญขั้นเริ่มต้นของ โกเลมดิน
โกเลมดินสูง 4 เมตรและกว้าง 2.5 เมตรยืนอยู่หน้าเอธาน
เขาสั่งให้โกเลมโจมตีเขา
เอธานไม่ได้เรียกเวทย์มนตร์ใดๆ เพื่อปกป้องตัวเอง ในขณะที่เขาต้องการลองใช้พลังโจมตีของโกเลมนี้ก่อน
เขาเพียงแค่ยืนอยู่ที่นั่น ในขณะที่วางมือทั้งสองไว้ข้างหน้าเขาในท่าทางป้องกัน
แขนหนาของโกเลมปฐพีพุ่งเข้ามาหาเขา ก่อนที่หมัดของมันจะกระทบมือเขา
*บู้ม*
เอธานถูกส่งตัวไปชนกำแพงแต่ก็ไม่ตาย
“ไม่เลว แต่ประเด็นหลักคือการป้องกัน เรามาลองดูกัน”
หลังจากยืนขึ้น เขาเหยียดมือไปข้างหน้าและปล่อยพลังงานไฟ ไปทางศีรษะของ โกเลมดิน
*สวี้…บู้ม*
ครึ่งหัวของโกเลมถูกทำลาย ก่อนที่รอยร้าวจะก่อตัวขึ้นที่คอของเขาและส่วนอื่นๆ ของส่วนหัว
” อืม ค่อนข้างเป็นไปตามที่คาดหวังเพราะฉันเชี่ยวชาญวิธีการไหลของพลังงานของฉัน และคาถาพวกนั้นในระดับสูงสุด และพวกมันไม่เคยล้มเหลวในการฆ่าอะไรในดันเจี้ยนจนถึงตอนนี้… อย่างไรก็ตาม ฉันจะฝึกสกิล โกเลมดินนี้ไปยังขั้นสูงสุดด้วยเช่นกันซึ่งจะทำให้มันสำเร็จ น่าเกรงขามยิ่งกว่า”
หลังจากตัดสินใจแล้ว เขาก็เริ่มฝึกเวทย์มนตร์ โกเลมดิน ขั้นสูง
….
หลังจากฝึกฝนมา 4 วัน ในที่สุดเขาก็เชี่ยวชาญขั้นสูงของ คาถาโกเลมดิน
การปรากฏตัวของโกเลมดินไม่เปลี่ยนแปลง แต่เอธานรู้ว่าโกเลมนี้แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก
จากนั้นเขาก็เหยียดมือไปข้างหน้าและปล่อยพลังงานไฟ
*สวี้…บู้ม..บู้ม*
“อึก….”
เอธานสาปแช่งเมื่อเห็นการป้องกันของโกเลมดิน การยิงกระแทกของเขาทำได้เพียงผลักโกเลมกลับและสร้างรอยร้าวเล็กน้อยเท่านั้น นั่นคือทั้งหมด
“ดูเหมือนตอนนี้จะเคลียร์ดันเจี้ยนได้ง่ายขึ้นมาก ไม่เหมือนกับเกราะป้องกัน ที่ฉันเคยต้องใช้ ตอนนี้ควรไปลองมันที่ดันเจี้ยนเพื่อปลดปล่อยคาถาที่น่าตื่นเต้นนี้กัน โกเลมดินเหล่านี้สามารถใช้เป็นเกราะป้องกัน ซึ่งยืดหยุ่นได้ แต่ถึงแม้จะมีพลังงานสำรองเต็มของดิน ฉันก็สามารถเสกโกเลมได้เพียง 3 ตัวเท่านั้น ” เอธานพูดกับตัวเองหลังจากเห็นการป้องกันของโกเลม
จากนั้นเขาก็ออกจากห้องฝึกคาถาและพบกับ เทียน่า หลังจากรอ 10 นาที
” ไปพิชิตดันเจี้ยน 2 ดาวในโหมดคู่กันเถอะ เวทมนตร์ โกเลมดิน นั้นน่ากลัวจริงๆ คาถา โดมควอดิกน้ำแข็งของเธอควรเป็นคาถาป้องกันที่ทรงพลังด้วย ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เทียน่าก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความลำบากเล็กน้อย “ใช่ ฉันมองผ่านคาถานั้นและความซับซ้อนของมันคล้ายกับวิธีการไหลของพลังงานของฉัน”
…
หลังจากพูดคุยกันว่าพวกเขาจะดำเนินการอย่างไรในแต่ละดันเจี้ยน เอธานก็ได้เริ่มดันเจี้ยนถ้ำนกอินทรีย์ที่หลงทาง ก่อน
[ การจับคู่เสร็จสมบูรณ์ ]
ลมที่รบกวนพวกเขามากที่สุดในดันเจี้ยนนี้ได้รับการแก้ไขโดย โกเลมดินตัวใหญ่ ที่ยืนนิ่งเหมือนก้อนหิน ขณะที่ เอธาน และ เทียน่า ซ่อนอยู่ข้างหลังพวกมัน
เอธานเรียกโกเลมทั้งสามออกมา ตัวหนึ่งอยู่ข้างหน้า ตัวหนึ่งอยู่ทางซ้าย และอีกหนึ่งตัวอยู่ทางขวา หลังของพวกเขาถูกปกคลุมด้วยลำต้นของต้นไม้ที่พวกเขายืนอยู่
ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจัดการกับศัตรูทั้งหมดและแม้แต่การโจมตีของ อินทรีย์ตัวใหญ่ยักษ์ ก็ไม่ได้ผลกับโกเลม เนื่องจากเอธานได้ฆ่ามันได้อย่างง่ายดายด้วยคาถาของเขา และไม่จำเป็นต้องใช้ Impact Point ด้วยซ้ำ
[ ขอแสดงความยินดี คุณเสร็จสิ้น ดันเจี้ยนถ้ำของอินทรีย์ที่หลงทาง ในโหมดคู่ ]
[ 10 แต้มและกล่องธรรมดาสำหรับ เอธาน และ เทียน่า ]
…
หลังจากจบดันเจี้ยนนี้ เอธานก็เริ่ม หลุมขุมนรก ในโหมดคู่โดยทันที
[ การจับคู่เสร็จสมบูรณ์ ]
ในดันเจี้ยนนี้ เอธานใช้โกเลมดินเป็นเกราะป้องกันอีกครั้ง ในขณะที่เทียน่า ร่ายปุ่มระเบิด ไปรอบๆ โกเลม
เอธานวางโกเลมดิน ไว้ที่ด้านหลัง ขวา และซ้าย และหมาป่าอาจถูกโกเลมฆ่าหรือโดยโหนดการระเบิดของเทียน่า ในขณะที่หมาป่าที่อยู่ข้างหน้าจะถูกจัดการโดย เอธาน
สำหรับหัวหน้าหมาป่า เขาบอกให้เทียน่าหันเหความสนใจของหมาป่าไปพร้อมกับโกเลมดินของเขา และจากนั้นก็จัดการมันให้เสร็จโดยใช้ Impact Point 2 ชั้นของเขา
ใช่ 2 ชั้น Impact Point ก็เพียงพอแล้วที่จะเอาชนะบอสหมาป่าได้
[ ยินดีด้วย คุณจบดันเจี้ยนหลุมขุมนรก ในโหมดคู่แล้ว ]
[ 10 แต้มและกล่องธรรมดาสำหรับ เอธาน และ เทียน่า]
…
เมื่อพวกเขามาถึงศูนย์กลางดันเจี้ยน หลังจากนั้น ก็มีการประกาศดังก้องไปทั่ว
[ เราจะไปถึง มิเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ หลังจาก 10 วันผ่านไป คะแนนที่คุณได้รับที่นี่จะถูกแปลงเป็นเครดิตหลังจาก 10 วัน และด้วยเครดิต คุณสามารถซื้อสิ่งของประเภทต่างๆ ได้ที่อะคาเดมี่]
[ โลกเสมือนจริงนี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ของทางโลกเสมือนจริงที่ใหญ่กว่า ซึ่งเชื่อมโยงองค์กรมนุษย์ที่สำคัญทั้งหมดในระดับที่สูงกว่าระดับหนึ่ง เพื่อให้พวกเขาสามารถติดต่อกันได้อย่างต่อเนื่อง ]
‘ 10 วัน…’
เอธานหันไปหาทางเทียน่าและพูดว่า “มาทำดันเจี้ยนทั้งหมดให้เสร็จภายใน 10 วันนี้และรับคะแนนมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้กันเถอะ”
จากนั้นเขาก็เริ่มดันเจี้ยน [ ถ้ำหมีดำ ] ในโหมดคู่
[ การจับคู่เสร็จสมบูรณ์ ]
…
เอธานรู้สึกว่าดันเจี้ยนนี้ง่ายกว่า 2 ดันเจี้ยนก่อนหน้าที่พวกเขาทำจริงๆ
เขาสามารถยิงหมีนัดเดียวได้และด้วยพลังงานที่สำรองไว้ พวกมันจึงผ่านการทดสอบนี้ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจาก เทียน่า และ โกเลม จะโจมตีหมีเป็นบางครั้ง ในขณะที่ยังคงตั้งรับเป็นส่วนใหญ่
[ ขอแสดงความยินดี คุณได้เสร็จสิ้น ถ้ำหมีดำ ในโหมดคู่ ]
[ 10 แต้มและกล่องธรรมดาสำหรับ เอธาน และ เทียน่า ]
หลังจากมาถึงที่ศูนย์กลางดันเจี้ยน แล้วเทียน่า ก็ถามว่า “เราควรไปต่อที่ดันเจี้ยนที่ 3 ดาวหรือเปิดกล่องกันดี?”
” ไปต่อกับดันเจี้ยน 3 ดาวกันเถอะ”
…
…
ตอนที่ 70: หมาป่าและหมี
[ การจับคู่เสร็จสมบูรณ์ ]
[ ทีม ]
– เอธาน
– เทียน่า
– เจอรูนิล
– เกาเร็ค
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปเมื่อทุกคนมาถึงพื้นดินสีดำพร้อมกับดวงอาทิตย์สีแดงบนท้องฟ้า พื้นดินมีขนาดแตกต่างกันและมีหลุมอยู่รอบๆเท่าที่พวกเขาจะมองเห็นได้
[ ในการจบ ด่านขุมนรกอันยิ่งใหญ่ คุณต้องทำ 2 งานให้เสร็จก่อน ขั้นแรกคือ คุณต้องเอาตัวรอดเป็นเวลา 10 นาที ในขณะที่เดินหน้าต่อไป หากคุณหยุดเคลื่อนไหวแม้แต่วินาทีเดียว 10% ของพลังงานทั้งหมดของคุณจะถูกลดลงทันที ]
[3]
[2]
[1]
[ เริ่ม ]
[ 9:59 ]
เอธานและคนอื่นๆ ไม่มีเวลาพูดคุยกันก่อนที่การนับถอยหลังจะเริ่มขึ้นเมื่อทุกคนเริ่มเดินหน้า
” ดูเหมือนว่าดันเจี้ยนนี้จะจำกัดการบินด้วย” เอธานแสดงความคิดเห็น เมื่อเขาล้มเหลวในการร่าย มนต์ <ปีกสายฟ้า>
เทียน่ายิ้มเมื่อพลังงานภูเขาไฟสายฟ้า ปล่อยออกมา ขณะที่เธอร่าย <ปุ่มระเบิด> รอบตัวเธอและเอธาน
“นี่คือคาถาที่ฉันพูดถึงเกี่-“
เสียงของเทียน่าถูกตัดขาดเมื่อเงา 2 เงากระโดดออกมาจากหลุมที่อยู่ใกล้พวกเขา
*อ๊ะ-อ๊ากกกกกกก*
เสียงหอนคล้ายหมาป่าสองตัวดังขึ้นพร้อมกัน ขณะที่หมาป่าสีดำสองตัวพุ่งเข้าหาเอธานและตัวอื่นๆ ขนาดของพวกมันสูงประมาณ 2 เมตรและยาว 4 เมตร
หมาป่าตัวหนึ่งพุ่งเข้าหาเอธาน และ เทียน่า ในขณะที่หมาป่าอีกตัวไปหา เจอรูนิล และ เกาเร็ค
เอธานใช้การเคลื่อนไหวกับคาถาระเบิดเพื่อขับเคลื่อนตัวเองขึ้นไปในอากาศก่อนที่จะใช้ เพื่อกำจัดหมาป่าในขณะที่ เจอรูนิล ที่มีหอกสีน้ำเงินอยู่ในมือของเขาชี้ไปที่หมาป่าที่พุ่งเข้าหาพร้อมกับพ่นน้ำที่หมุนเร็ว ซึ่งปล่อยออกจากมัน ซึ่งทำให้หมาป่าแตกเป็นเสี่ยง สู่แสงสีขาว
เจอรูนิลมีผมสีน้ำเงินเป็นลอนและรูปร่างผอมเพรียวและมีใบหน้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในขณะที่ เกาเร็คเป็นชายสูง 7 ฟุตที่มีใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสและมีศีรษะล้าน
เอธานพูดกับเทียน่า หลังจากจัดการกับหมาป่าสีดำ ” ระวังและใส่ใจกับหลุมรอบตัวเราด้วย “
ทันทีที่เขาพูดจบ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเขาหันหลังกลับ แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่หมาป่าพุ่งชนกำแพงของปุ่มระเบิดที่อยู่รอบตัวเขาแล้ว
*บูม*
หมาป่าถูกฆ่าจริง ๆ หลังจากที่มันพยายามกัดบาเรีย
เทียน่าที่สังเกตเห็นในเวลาต่อมาก็ปล่อยพลังงานนรกสายฟ้าบางส่วนเพื่อซ่อมแซมบาเรียร์ระเบิดของเอธาน
เอธานไม่เสียเวลาในขณะที่เขาพูดอย่างเร่งรีบ “หมาป่าตัวนั้นไม่ส่งเสียงใดๆ และฉันสัมผัสได้ถึงมันเมื่อมันเข้ามาใกล้ฉัน… เราต้องกระจายพลังงานลึกลับรอบๆ ตัวเราให้รับรู้ถึงการมีอยู่กันเถอะ”
“อย่ามัวแต่พยายามทำอย่างนั้น ฉันเคยลองพยายามแล้วแต่กลับล้มเหลวในการดึงพลังงานลึกลับออกมา มันทำให้เราตื่นตัวและพยายามอย่าฟุ้งซ่าน”
เอธานได้ยินเสียงของเจอรูนิล เมื่อเขาล้มเหลวในการดึงพลังงานลึกลับออกมา จากนั้นเขาก็พยักหน้าไปทางเขาก่อนที่จะพูดกับเทียน่าว่า “ร่ายบาเรียไว้รอบตัวฉันและเธอ ฉันจะพยายามฆ่าหมาป่า ขณะที่พวกมันพุ่งเข้ามาหาเรา”
เทียน่าพยักหน้าเมื่อได้ยินเขาขณะที่เอธานกำลังทำให้ตัวเองมีสติอย่างเต็มที่ในขณะที่เขาขยายความรู้สึกของตนเองออกไป
พวกมัน 4 ตัวเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยไม่หยุดแม้แต่วินาทีเดียว เมื่อหมาป่าโจมตี พวกเขาสามารถกระโดด ถอยหลัง หรือเดินหน้าได้ แต่ถ้าพวกเขาหยุดเคลื่อนไหว 10% ของพลังงานทั้งหมดจะถูกระบายออกไป
หลังจากที่พวกเขารอดชีวิตมาได้ 5 นาที หมาป่าที่โจมตีพวกเขาก็เล็กลง แต่ความเร็วและวิธีการโจมตีของพวกมันเปลี่ยนไป
ตอนนี้พวกมันปล่อยกระสุนสีดำรูปกรงเล็บจากระยะไกลก่อนที่จะกระโจนใส่พวกเขา
ปุ่มป้องกันคาถา ของ เทียน่า จะระเบิดหากการโจมตีเหล่านั้นกระทบกับบาเรีย แต่จะไม่สร้างความเสียหายให้กับหมาป่าเนื่องจากพวกมันอยู่นอกระยะ
แต่โชคดีที่ เอธานมีสติอย่างเต็มที่ ในขณะที่เขาจะจัดการกับหมาป่าได้ทันทีด้วย
ทั้ง เจอรูนิล และ เกาเร็ค ก็ทำได้ดีเช่นกัน เนื่องจาก เจอรูนิล มักจะจัดการกับหมาป่าด้วยหอกของเขา เขายังมีคาถาเคลื่อนไหวที่ดีซึ่งเขาเคยหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย
ในอีกทางหนึ่ง เกาเร็ค มีเกราะสีน้ำตาลหนาของดินและพลังงานโลหะสวมอยู่บนตัวเขาเองและเพื่อเอาชนะหมาป่า เขาได้ปล่อยกระสุนหมัดแมกมาเข้าหาหมาป่า
เขาถูกหมาป่าโจมตี 2-3 ครั้ง แต่เกราะของเขาทนพวกมันได้ และถ้ามันเกิดรอยร้าว เขาจะซ่อมมันทันที
หลังจากผ่านไป 8 นาที จำนวนหมาป่าก็เพิ่มขึ้น ซึ่งบังคับให้ เอธานใช้เวทย์มนตร์ที่เขาไม่ได้ใช้มาระยะหนึ่งแล้ว
เขาใช้เรือนจำนับไม่ถ้วนที่ประกอบขึ้นจากพลังงานดินกับหมาป่าเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของพวกมัน และเนื่องจากเขามีเจตจำนงดินระดับกลาง เรือนจำจึงสามารถกักขังหมาป่าไว้ได้ระยะหนึ่ง
ในที่สุดการนับถอยหลังก็มาถึง 0 เมื่อทุกคนรอดชีวิตมาได้
แต่…
[ ภารกิจที่ 2 : ปราบหมาป่ายักษ์ภายใน 1 นาทีเพื่อผ่านด่านหลุ่มแห่งนรกให้สำเร็จ ]
*อา-วู้ววววววววววววววววววววววววว*
หมาป่ายักษ์สูงประมาณ 6 เมตรและยาว 11 เมตรออกมาจากหลุมยักษ์ที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา
เจอรูนิลโจมตีด้วยคาถาปกติของเขา แต่หมาป่าก็กลายเป็นความมืดที่ไหลโดยไม่คาดคิดขณะที่มันหลบการโจมตี
หมาป่าเข้ามาใกล้ เกาเร็คเมื่อมันปล่อยกรงเล็บสีดำเข้าหาเขา ซึ่งประสบความสำเร็จในการตีและทำลายเกราะของเขา ทำให้เขาบาดเจ็บเล็กน้อย
เอธานไม่เสียเวลาเลยแม้แต่น้อยเมื่อเห็นหมาป่าโจมตีและพุ่งเข้าหามันโดยใช้ขั้นตอนการระเบิดเพื่อให้ไวขึ้น
เขาเข้ามาใกล้หมาป่าด้วยความเร็วที่เร็วมาก และไม่ให้เวลาหมาป่าตอบสนองใดๆ เขากดทั้งสองไปข้างหน้าแล้วปล่อย ที่มัน
*กรรรรร์…
…
[ ขอแสดงความยินดี! คุณเอาชนะหมาป่ายักษ์ได้ในเวลาไม่ถึง 1 นาที ดังนั้นจึงสำเร็จในดันเจี้ยนหลุ่มนรก ]
[ 15 แต้มและกล่องธรรมดาสำหรับ เอธาน, เทียน่า, เจอรูนิล และ เกาเร็ค ]
[ คุณได้ปลดล็อคตัวเลือกในการเล่นดันเจี้ยนนี้ในโหมดคู่ หากคุณสามารถเอาชนะดันเจี้ยนนี้แบบคนสองคนได้ คุณจะได้รับเพิ่มอีก 10 คะแนน ]
หลังจากนั้น เอธาน และ เทียน่า ก็มาถึง ศูนย์กลางของดันเจี้ยน
หลังจากที่มาถึงที่นี่แล้ว เอธาน ก็พูดขึ้นว่า “เรามาจบ [ ถ้ำหมีดำ] กันก่อน เราจะเปิดกล่องหลังจากนั้น ”
“เป็นความคิดที่ดี…” เทียน่าพยักหน้าก่อนจะยิ้ม “มันน่าตื่นเต้นเสมอที่จะเปิดกล่องเหล่านั้นโดยสงสัยว่าเราจะได้อะไร”
เอธานหัวเราะ “นั่นเรียกว่ากาชา” เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็เริ่มดันเจี้ยน
[ เข้ากัน….]
เทียน่าถามอย่างสับสน “กาชา?”
เอธาพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ใช่ กล่องธรรมดาคือลูกบอลกาชาที่ให้บางสิ่งที่เราไม่คุ้นเคยล่วงหน้า นั่นคือกาชาสำหรับเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะติดใจที่จะเปิดกล่องธรรมดาๆ เหล่านี้อยู่บ้างแล้ว”
เทียน่ายิ้มและพยักหน้า ” จริง ถ้าร้านค้าแต้มขายกล่องพวกนี้ ฉันจะซื้อเพราะมันอาจทำให้มันมีมูลค่ามากกว่าราคาเดิม…เหมือนว่าเราจะมีแต่ของดีๆ มากมายที่คุ้มค่าและมีหลายคะแนนจากกล่องพวกนี้ . “
[ การจับคู่เสร็จสมบูรณ์ ]
[ ทีม ]
– เอธาน
– เทียน่า
– แร็กนา
– นิเมี่ยน
ทุกคนมาถึงถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ ซึ่งมีแอ่งน้ำและถ้ำเล็กๆ
ก่อนที่จะได้เวลาดูรอบๆ ด้วยซ้ำ มีหมี 2 ตัวอยู่ข้างหน้าพวกเขาแล้ว และเมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ พวกมันก็โจมตี
หมีดำทั้งคู่สูง 4 เมตร มีขนสีดำหนาและเต็มไปด้วยพลังระเบิด
แต่มันไม่ยากสำหรับทีมที่จะจัดการพวกมันให้เสร็จเมื่อเอธานจบมันด้วยการใช้คาถา ในขณะที่ แร็กนา ที่มีผมสีแดงยาวและร่างกายแข็งแรงจัดการหมีอีกตัวหนึ่งด้วยการตบมันด้วยดาบกว้างที่ถือโดยเขา
ดาบกว้างส่องแสงสีทองก่อนที่เขาจะตบหมีจริง ๆ แทนที่จะเจาะมัน ซึ่งทำให้หมีตัวใหญ่บินได้ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นแสงสีขาว
เอธานและคนอื่นๆ ตกตะลึงเมื่อเห็นการโจมตีดังกล่าว
แร็กน่ารู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาที่เขา ในขณะที่เขามองพวกเขาก่อนที่จะพูดพร้อมกับขมวดคิ้วว่า “อะไรนะ ฉันชอบใช้ดาบของฉันโจมตี มันรู้สึกดีกว่าน่ะ”
*ระแวงๆๆๆ….
มีหมีออกมาจากถ้ำเล็กๆ รอบๆ พวกมันมากขึ้น คราวนี้มีหมี 6 ตัวมาพร้อมกัน แต่พวกมันก็พ่ายแพ้เช่นกัน
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้พัก หมีก็มาถึง คราวนี้หมี 10 ตัว
*รอวว์*x10
หลังจากเอาชนะพวกมันได้ หมี 15 ตัวก็มาถึง
“เอ่อ ดูเหมือนพวกมันจะไม่มีวันจบสิ้น…” เทียน่าพูดขณะที่เธอเอาชนะหมีด้วยคาถา Firebolt (ลูกไฟ) ของเธอ
เอธานยังคงใช้ Impact Scatter อย่างต่อเนื่องเพื่อเอาชนะหมี ในขณะที่แร็กนา เพียงแค่ตบหมีด้วยดาบกว้างของเขา และ นีเมี่ยน ก็ปล่อย Projectile blades (ดาบแบบโค้งยาว) ที่ประกอบด้วยธาตุ ลม และ ความมืด ที่ฟันหมีเหมือนมีดตัดเนย ก่อนที่คลื่นที่เขาจะใช้ คาถาอีกประเภทหนึ่งที่ประกอบด้วยธาตุน้ำแข็ง แต่เริ่มใช้ดาบโปรเจกไทล์ในคลื่นนี้เนื่องจากดูเหมือนว่าพลังงานน้ำแข็งจะหมด
เอธานยังได้ระบายพลังงานไฟของเขาในขณะที่เขาเริ่มการไหลของพลังงานดิน และเริ่มใช้ Impact Scatter ต่อไป
หลังจากเอาชนะคลื่นนี้หมด เทียน่าก็ใช้พลังของภูเขาไฟสายฟ้าหมดแล้ว ดังนั้นเธอจึงเติมมันเข้าไป ในขณะที่ปล่อย Water shot (กระสุนน้ำ) เพื่อช่วยเอธานเป็นครั้งคราว
หลังจากที่หมี 15 ตัวโบกมือ หมี 20 ตัวก็มาถึง
เมื่อเห็นพวกมัน แร็กนาก็พูดด้วยอาการท้องผูกบนใบหน้าของเขา “โอ้ ดีแล้วที่หมีกลายเป็นแสงสีขาว หลังจากที่เราเอาชนะพวกมันไปได้ มิฉะนั้นคงจะมีเลือดจะไหลที่นี่แล้ว”
” ดูเหมือนว่าดันเจี้ยนนี้จะทดสอบพลังและเวทมนตร์สำรองของเรา” เอธานยังแสดงความคิดเห็นเมื่อเห็นฝูงหมีตัวนี้
*รอววววววว์*x20
พวกเขาทั้งสี่เริ่มโจมตีหลังจากนั้นและเอาชนะหมี 20 ตัว
แต่คลื่นลูกอื่นมาถึงและคราวนี้มีหมี 30 ตัวมาถึงจริงๆ
*รอววววว์*x30
” ให้ตายเถอะ ดันเจี้ยนนี้มันเริ่มน่ารำคาญกับเสียงคำรามพวกนั้นแต่มันก็รู้สึกดีที่ได้ตบมัน นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้ตบสัตว์ประหลาดมากมาย” แร็กนาสาปแช่ง ในขณะที่รู้สึกดีในขณะที่เขาเตรียมจะตบหมีอีก
เอธานหมดพลังงานจากดิแล้ว และในไม่ช้าและเริ่มใช้พลังงานการไหลของธาตุสายฟ้า ก่อนที่เขาจะเริ่ม Impact Shots
ข้อดีอีกประการของการฝึกฝนขั้นสูงของวิธีการไหลของพลังงาน คือเขาสามารถรวบรวมพลังงานได้เร็วขึ้น เนื่องจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นของการไหลของพลังงาน
หลังจากที่พวกเขาเอาชนะคลื่นนี้ไปได้ นิเมี่ยนที่เงียบอยู่เสมอก็พูดขึ้นว่า ” หวังว่าคงไม่มีคลื่นอีกแล้ว เพราะผมใกล้จะหมดแรงแล้ว ”
ก่อนหน้านี้เขาหมดพลังงานลมและความมืดและใช้เวทมนตร์พลังงานโลหะในช่วงคลื่นนี้
*รอวววววววววววววววววววววววววววว์*
หมียักษ์มาถึงแล้วซึ่งสูง 18 เมตรและมีเกราะเหล็กสีดำอยู่บนตัวของมัน
“ชายร่างใหญ่คนนั้นอยู่ที่นี่ จัดการเขาให้เสร็จและจบมันในตอนนี้” แร็กนาพูดกับนิเมี่ยน แล้วพุ่งไปที่หมีตัวใหญ่ก่อนจะตบมันด้วยดาบของเขา
ดาบของเขาส่องแสงสีทองในขณะที่มันพยายามผลักหมี
*รอวววววววววววววววววว์ *
ด้วยเสียงคำรามนี้ ใบมีดโลหะปรากฏขึ้นรอบๆ ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าหาแร็กน่า ซึ่งหลบเลี่ยงพวกเขาด้วยคาถาเคลื่อนไหวที่ใช้พลังงานอากาศและอวกาศ
เอธานรู้สึกประหลาดใจที่คาถาเคลื่อนไหวที่ใช้โดยแร็กน่า นั้นดูลึกซึ้งมากเพราะมันครอบคลุมระยะทางค่อนข้างมาก
แต่เขาไม่ได้เสียเวลายืนมอง เมื่อแร็กน่ากำลังโจมตีมัน ในขณะที่เขาเตรียม Impact Point 3 ชั้นด้วยพลังงานแห่งความมืดอยู่แล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจคาถานี้ แต่ความชำนาญของเขาเพิ่มขึ้นหลังจากใช้ 3 ครั้ง ดังนั้นคราวนี้ ใช้เวลาไม่นานนักเนื่องจากเขาได้สร้าง 2 ชั้นแล้ว
เทียน่าและคนอื่นๆ หันเหความสนใจของหมีในขณะที่พวกเขาสังเกตเห็นความผันผวนของพลังรอบ ๆ เอธานและคาถาที่เขาสร้างขึ้น
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ในที่สุดเขาก็สร้างชั้นที่ 3 และดึงมือของเขากลับก่อนที่จะส่งผลกระทบอย่างทรงพลังต่อพลังงานมืดที่อยู่ในแขนของเขาไปทางมือ ในขณะเดียวกันก็ผลักมือของเขาไปข้างหน้าในทิศทางของหมีดำ
Dark Impact Point พุ่งเข้าหาหมีด้วยความเร็วเหนือเสียงก่อนจะกำจัดมัน
[ ยินดีด้วย คุณสำเร็จดันเจี้ยนถ้ำหมีดำสำเร็จแล้ว ]
————————————————————–
ตอนที่ 69: การเรียนรู้คาถาใหม่
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้รับคู่มือคาถา กระบวนท่าของการลุกไหม้ ]
” มันเป็นคาถาของการเคลื่อนไหว” ดวงตาของเอธานเป็นประกาย เมื่อเขาใช้คู่มือ ซึ่งส่งข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับมันเข้าไปในหัวของเขาโดยตรงแล้วหลับตาขณะที่อ่านผ่านๆมัน
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เขาก็ลืมตาขึ้น ในขณะที่เขารู้สึกถึงความตื่นเต้นที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเขา เพราะเวทมนตร์นั้นค่อนข้างดีและเป็นสิ่งที่เขาต้องการ
” เทียน่า ฉันจะไปฝึกคาถานี้ก่อน อีกไม่นานหรอก อย่างน้อย 1 วัน ไม่เกิน 2 วัน ”
เทียน่ากล่าวยิ้มๆ “คราวนี้เราทั้งคู่ได้คาถาและคาถาเคลื่อนไหวนั่นก็ฟังดูดี เอาล่ะ ฉันจะทำอย่างอื่นในขณะที่นายฝึกคาถา”
“ได้” เอธานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและเข้าไปในห้องทดสอบคาถา
หลังจากไปถึงที่นั่น เขาก็หลับตาอยู่ที่นั่นและเริ่มฝึกกระบวนท่าของการลุกไหม้
พลังงานจากไฟและอากาศกลายเป็นพลังงานที่เต็มเปี่ยมและกำลังเคลื่อนไปที่ขาของเขา เมื่อพวกมันเริ่มเคลื่อนไหวในทางที่ซับซ้อนจากต้นขาของเขาแล้วไปที่เท้าของเขา
‘ ฉันจะทำอย่างช้าๆ ก่อน และทำความคุ้นเคยกับเส้นทาง ‘
พลังงานเคลื่อนไปที่เท้าของเขาอย่างช้าๆ และเมื่อมันมาถึง หลังจากเดินทางในรูปแบบที่ซับซ้อน ไฟเล็กๆ 2 ลูกก็ระเบิดออกมาใต้ฝ่าเท้าของเขา ซึ่งทำให้เขากระโดดได้
หากมีคนเห็นเขาประสบความสำเร็จในการลองครั้งแรกและเร็วขนาดนี้ กรามของพวกเขาจะตกลงไปที่พื้นอย่างแท้จริง
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องยากที่จะไหลเวียนพลังงานภายในร่างกาย แต่เอธาน สามารถเคลื่อนย้ายพลังงานที่ใช้งานได้อย่างอิสระภายในร่างกายของเขาในเส้นทางที่ซับซ้อนต่างๆ โดยไม่รู้สึกลำบากเหมือนที่คนอื่นทำ
หลังจากฝึกฝนอย่างช้าๆ อีก 2-3 ครั้ง เขาก็คุ้นเคยกับเส้นทางการไหลของมันและเริ่มใช้งานพลังงานที่เต็มเปี่ยมให้ไหลด้วยความเร็วมาตรฐานของขั้นเริ่มต้น
เอธานใช้พลังงานไฟและอากาศจากทะเลพลังงานของเขา ทำให้พวกมันคล่องแคล่วมากขึ้น ก่อนที่เขาจะขยับให้มันไหลภายในขาของเขา แล้วไหลไปที่เท้าของเขา
*ตูม*
เกิดเพลิงไหม้ 2 ครั้งที่ใต้เท้าของเอธาน ขณะที่เขาถูกยิงให้ลอยขึ้นไป
บนท้องฟ้า เอธานใช้ <ปีกสายฟ้า> และเริ่มบินในห้อง บางครั้งเขาก็จะปล่อยระเบิดออกจากเท้าของเขาโดยชี้เท้าไปในทิศทางที่ต่างกัน
ตัวอย่างเช่น ถ้าเขาบินตรง เขาสามารถขยับขาซ้ายไปทางซ้ายเล็กน้อย ก่อนที่จะปล่อยระเบิด ซึ่งสามารถเปลี่ยนทิศทางการบินของเขาได้ทันที
” สุดยอดมาก ขณะบินด้วยปีก ฉันสามารถใช้คาถานี้เพื่อหลบและพุ่งได้ทันทีในทุกทิศทาง เนื่องจากการระเบิดที่ปล่อยออกมาจากเท้าของฉัน แต่สำหรับสิ่งนั้น ฉันจะต้องเชี่ยวชาญขั้นเริ่มต้นก่อนอย่างน้อยที่สุด เพราะสำหรับตอนนี้ ฉันยังต้องใช้เวลาในการเตรียมระเบิดพวกนั้น “
จากนั้นเขาก็เริ่มฝึกฝนด้วยคาถาที่ของการไหลของพลังงานนี้ เพื่อที่จะได้ใช้ในระหว่างการต่อสู้
หลังจากผ่านไป 1 วัน ในที่สุดเขาก็สามารถใช้ขั้นตอนของคาถานี้ได้อย่างอิสระและรวดเร็ว
ถ้าลอนโซเห็นเขาเชี่ยวชาญคาถานี้ในหนึ่งวัน เขาจะตำหนิโลกว่าทำไมการเปรียบเทียบระหว่างผู้ชายถึงมีอยู่จริง
หลังจากเชี่ยวชาญขั้นเริ่มต้นแล้ว เอธานก็คิดว่า ‘ อยากจะลองขั้นสูงด้วย หากฉันเชี่ยวชาญขั้นสูงของวิธี การไหลของพลังงานแบบ Broken Impact ฉันก็สามารถควบคุมขั้นขั้นสูงของคาถา กระบวนท่าของการลุกไหม้ได้ ‘
จากนั้นเขาก็เริ่มมองผ่านขั้นตอนขั้นสูงของข้อมูล
หลังจากมองผ่านมัน เขาคิดว่า ‘ ดังนั้นการระเบิดจะเพิ่มขึ้นและฉันจะต้องเพิ่มความเร็วในการไหลมาก ด่านที่ยากที่สุดตามข้อมูลจะเป็นการควบคุมพลังงานอากาศและไฟในทางเดินที่มีความซับซ้อน แบบแผน แต่ฉันดูเหมือนจะไม่มีปัญหาในบริเวณนั้น…’
เอธานเริ่มฝึกขั้นสูงของกระบวนท่าการลุกไหม้ และละเว้นความคิดอื่นๆ ของเขา
ในขณะเดียวกัน เทียน่าเพิ่งกลับจากการสู้รบอีกนัดในอารีน่าต่อสู้ แต่เธอไม่ได้อยู่ที่นั่นนานกว่านี้และเธอเข้าไปในห้องทดสอบเวทย์มนตร์
หลังจากเข้ามา เธอคิดว่า ‘ ตอนนี้ฉันเชี่ยวชาญขั้นตอนเริ่มต้นของวิธีการไหลของพลังงานแล้วและขั้นตอนเริ่มต้นของคาถาสายฟ้าฟาดของงูเพลิงแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ… ฉันไม่สามารถศึกษาคาถาป้องกันของ วิธีการไหลของพลังงาน Boa (งูเหลือม) และการโจมตีอื่นๆ เช่นพวกคาถา Winged Serpent (พญานาคามีปีก) เพราะฉันต้องไปถึงขั้นสูงก่อน และคาถา Serpent Rope (เสื้อคลุมอสรพิษ) คาถาสนับสนุนก็ไร้ประโยชน์ในตอนนี้เพราะมันเป็นเพียงโครงร่าง ‘
“เฮ้อ…” เสียงถอนหายใจดังออกมา เพราะเธอกำลังชนกำแพงขีดจำกัดของเธอเอง
จากนั้นเธอก็ดูคะแนนของเธอ “อืม ตอนนี้ฉันมี 50 คะแนน….เรามาดูกันว่าเวทมนตร์ป้องกันตัวดีๆ ที่ฉันสามารถใช้กับความสามารถปัจจุบันของฉันมีอะไรบ้าง”
จากนั้นเธอก็เริ่มมองหาในร้าค้าแต้ม…
หลังจากนั้นไม่นาน เธอพบคาถาป้องกันที่ต้องการทั้งธาตุสายฟ้าและไฟ
[ จุดระเบิด ]
เมื่อพิจารณาจากคำอธิบาย ดวงตาของเทียน่า เริ่มส่องแสงเพราะเป็นคาถาที่ดีที่เพิ่มความแรงในด้านการป้องกัน
โดยพื้นฐานแล้วคาถาของ กำแพงระเบิด จะสร้างสิ่งกีดขวางที่ประกอบด้วยปุ่มเล็กๆภายใน ซึ่งมีพลังงานสายฟ้าและไฟระเบิด ในกรณีของเธอ มันคือ พลังของภูเขาไฟสายฟ้า
เมื่อการโจมตีกระทบกับสิ่งกีดขวาง ปุ่มเล็กๆจะถูกกระตุ้น เนื่องจากการปะทะและระเบิด ซึ่งจะปล่อยพลังงาน ภูเขาไฟสายฟ้าของเทียน่าออกมา ซึ่งสามารถลบล้างการโจมตีที่รุกเข้ามาได้
” โชคดีที่คาถาซับซ้อนน้อยกว่าคาถาของการไหลของพลังงานของฉัน อาจเป็นเพราะการตั้งค่าปุ่มระเบิดนั้นมันตรงไปตรงมา และฉันยังเข้าใจระดับกลางของเจตจำนงของภูเขาไฟสายฟ้าอีก ซึ่งค่อนข้างจะทำให้ยากสำหรับฉัน แต่ราคา.. … “
-ราคา: 65 คะแนน
เทียน่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจขาย โดมควอดิกน้ำแข็ง
แต่หลังจากที่เธอเลือกตัวเลือกการขาย เธอได้รับการแจ้งเตือน 2 ครั้งแทนที่จะเป็นแบบปกติ
[ คะแนนสะสม : 20 ]
[ คุณอาจเรียนรู้คาถาได้ ก่อนที่จะขาย แต่ไม่ว่าคุณจะเรียนรู้มันหรือไม่ คะแนนที่ได้รับจะลดลง 80% ของราคาเดิม ไม่ว่าคุณจะขายคู่มือประเภทใด ]
” โอ้…ถ้าอย่างนั้น ฉันควรเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับคาถานี้ไว้ในใจก่อนจะขายมัน” หลังจากแปลกใจอยู่ครู่หนึ่ง เทียน่าก็กด ใช้ และข้อมูลเกี่ยวกับ โดมควอดิกน้ำแข็ง ก็ถูกส่งไปยังสมองของเธอ
หลังจากที่เธอทำเสร็จแล้ว เธอขายคู่มือคาถาและได้รับ 20 คะแนนโดยตรง
‘ แต่ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าราคาเดิมของคาถา โดมควอดิกน้ำแข็งจะอยู่ที่ 100 คะแนน มันควรจะเป็นคาถาที่ทรงพลังเพราะอย่างน้อยต้องมีเจตจำนงน้ำแข็งระดับกลาง ก่อนที่จะเริ่มฝึกฝน ในขณะที่ คาถาปุ่มระเบิด ต้องใช้ เจตจำนงของธาตุขั้นเริ่มต้น เพื่อเริ่มฝึกฝน ‘ เทียน่าคิดและตัดสินใจที่จะดูที่โดมควอดิกน้ำแข็งในภายหลัง
แต่ก่อนอื่น เธอซื้อปุ่มระเบิดก่อนและเริ่มฝึกฝน
…
…
ในที่สุด เอธานก็เชี่ยวชาญขั้นสูงของกระบวนท่าของการลุกไหม้
‘ แต่เอาจริงๆ นะ มันยากกว่าที่ฉันคิดนิดหน่อย ไม่นึกว่าจะใช้เวลา 3 วันในการฝึกฝนขั้นสูง ‘
3 วันผ่านไปตั้งแต่เขาเชี่ยวชาญขั้นเริ่มต้นของกระบวนท่าของการลุกไหม้ ดังนั้นตอนนี้ก็ผ่านมาทั้งหมด 4 วันแล้ว ตั้งแต่เขามาถึงการทดสอบคาถาขั้นสูง
จากนั้นเขาก็ร่ายมนต์ <ปีกสายฟ้า> และบินขึ้นไปก่อนที่จะปล่อยการระเบิดออกมาจากฝีเท้า
พลังการระเบิดนั้นสูงกว่าเมื่อก่อนและระเบิดได้มากกว่านี้ แต่ก็ทำให้เขาใช้มันในการต่อสู้โดยไม่ได้ฝึกฝนได้ยากขึ้น
“ดูเหมือนฉันจะต้องใช้เวลาครึ่งวัน กว่าจะชินกับทริคการเคลื่อนไหวแบบนี้…”
…
ในขณะเดียวกัน ในที่สุดเทียน่าก็เชี่ยวชาญขั้นเริ่มต้นของปุ่มระเบิด
ในตอนนี้ พลังงานภูเขาไฟสายฟ้าของเธอกำลังวิ่งตาม วิธีการไหลของพลังงานของเธอภายในร่างกายของเธอเอง
แต่กระแสของพลังงานก็เปลี่ยนไปในวินาทีนั้น และบาเรียที่มีปมกลมเล็ก ๆ อยู่ทุกหนทุกแห่งก็ปรากฏขึ้นรอบตัวเธอ
หลังจากทำเช่นนี้ เธอพึมพำ ” นั่นคือเหตุผลที่เราควรเชี่ยวชาญวิธีการหรือคาถาก่อนที่จะใช้มันในการต่อสู้ ตอนนี้ฉันเชี่ยวชาญขั้นตอนเริ่มต้นของคาถาปุ่มระเบิด แล้ว การควบคุมคาถานั้นของฉันก็ไร้ที่ติในขั้นเริ่มต้น ดังนั้น ฉันสามารถควบคุมมันได้ โดยพลังไม่ขัดแย้งกันในตัว ตราบใดที่คาถา 2 อันนี้มีพลังงานประเภทเดียวกัน ”
พลังงานของเธอที่ไหลอยู่นั้น เริ่มไหลใหม่อีกครั้ง เมื่อเธอยื่นมือของเธอก่อนที่จะร่ายมนต์ออกมา
” ตราบใดที่ฉันเชี่ยวชาญคาถาต่างๆ ที่ใช้พลังงานภูเขาไฟสายฟ้าแบบเดียวกัน มันจะไม่ปะทะกับเวทมนตร์ของการไหลของพลังงานของฉัน เพราะทั้งคู่ใช้พลังงานภูเขาไฟสายฟ้าเหมือนกัน ”
‘ เอธานน่าจะเสร็จสิ้นการฝึกฝนของเขา ‘ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็ออกจากห้องทดสอบคาถาเมื่อฝึกเสร็จ
…
เอธานคุ้นเคยกับขั้นสูงสุดของคาถาใหม่แล้วและออกจากห้องฝึกเวทย์มนตร์ เมื่อทั้งคู่มาถึงที่ราบหญ้า พร้อมกัน
ทั้งสองคนประหลาดใจในความบังเอิญและหลังจากพูดคุยกันเกี่ยวกับการฝึกฝนของพวกเขา เทียน่า ก็กล่าวว่า ” จริงๆแล้ว เอธาน นายสามารถขายคู่มือเวทย์มนตร์หลังจากใช้แล้วได้นะ แต่ราคาจะลดลง 80% ของต้นฉบับ ”
” อืม…ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันก็จะขายมันเหมือนกัน เพราะคาถาการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact ได้ 100 แต้ม ฉันจึงได้แค่ 20 แต้มสินะ ส่วนเรื่องราคาของคาถากระบวนท่าของการลุกไหม้นั้น…ขอดูก่อนนะ ” พูดแบบนี้เขาก็ได้ขายวิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact ก่อนและขายคาถากระบวนท่าของการลุกไหม้ต่อ
[ คะแนนที่ได้รับ : 20 คะแนน. ]
…
เอธานก็ขายมันเช่นกัน เขาค่อนข้างแปลกใจที่ราคาของคู่มือทั้งสองนั้นอยู่ที่ 100 คะแนน
“ได้เวลาทำ ด่านขุมนรกอันยิ่งใหญ่ แล้ว” เมื่อพูดจบเอธานก็เปิดดันเจี้ยน
[ ตรงกัน…]
————————————————————–
ตอนที่ 68: ถ้ำของนกอินทรีที่หลงทาง
“บ้าเอ้ย…..” ฝ่ายตรงข้ามสบถ
*บู้ม…..ตึ้ง…..บู้ม…..ตึ้ง…..*
…
[ เอธาน ชนะ ]
[ สถิติที่ชนะ: 5 ]
[ รางวัล 1 แต้มเมื่อได้รับชัยชนะติดต่อกัน 5 ครั้ง ]
” หวู่… ฉันยังคงได้จับคู่กับคนที่มีความเชี่ยวชาญวิธีการไหลของพลังงานอยู่สินะ…” เมื่อมาถึงที่ราบหญ้าหลังจากเอาชนะคู่ต่อสู้คนสุดท้ายของเขาได้ เอธานก็สูดลมหายใจเสมือนจริงเข้าไป
‘ พลังโจมตีของฉันแข็งแกร่งมากในตอนนี้ แต่สำหรับฝ่ายตรงข้ามที่มีคาถาการไหลของพลังงานที่รุนแรงและเชี่ยวชาญวิธีการไหลของพลังงานมากกว่านั้นก็ยังคงน่ากลัว เวทมนตร์ป้องกันของฉันก็เหมือนกับไม่มีอยู่จริงเช่นกันถ้าเจอคนพวกนั้น และสิ่งที่เรเวร่าพูดถึงก็เป็นความจริงเช่นกัน ที่คนเรามีขีดจำกัดของเวทมนตร์ ‘
เวทมนตร์ที่เขาสร้างขึ้นนั้นไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงในตอนนี้ ยกเว้น <ปีกสายฟ้า> แต่เมื่อเทียบกับคู่ต่อสู้ของเขาที่มีคาถาบินและเคลื่อนที่ได้ดีกว่า <ปีกสายฟ้า> ของเขามีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตรฐาน
เขาเกือบแพ้นัดเดียวเพราะความเร็วที่ต่ำกว่ามาตรฐาน เหตุผลที่เขาชนะนัดนั้นเพราะเกมรุกของเขาทรงพลังและเร็วมาก
“ดูเหมือนว่าอีกไม่นาน ฉันจะชนกำแพงตัวเอง ถ้าฉันยังมุ่งหน้าไปทางนี้”
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจซื้อของเล็กๆ น้อยๆ จากร้านค้าแต้ม ‘ แต่ตอนนี้ฉันมีเพียง 43 แต้มเท่านั้น…’
ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงของเทียน่า “เอธาน~ หยุดเข้าอารีน่าต่อสู้มาสักพักแล้วมาทำดันเจี้ยนกัน ฉันต้องการซื้อของเล็กน้อยจากร้านค้าแต้มน่ะ”
เมื่อหันหลังกลับ เขายิ้มและตอบว่า “เป็นเวลาที่เหมาะสม ฉันก็คิดจะทำอย่างนั้น” เมื่อพูดเช่นนี้ เอธาน ก็เพิ่มเทียน่าเข้าไปในปาร์ตี้ของเขา และเริ่ม [ ถ้ำนกอินทรีย์หลงทาง ]
[ ตรงกัน…]
[ จับคู่เสร็จแล้ว ]
[ ทีม ]
– เอธาน
– เทียน่า
– เทรวิส
– จูดิธ
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปเมื่อพวกเขามาถึงที่ที่ไม่คุ้นเคย
เอธาน และ เทียน่า มองไปรอบ ๆ ขณะที่เทียน่าพูดด้วยเสียงหอบ ” ทำไมถึงมีต้นไม้ใหญ่และสูงเช่นนี้ … ” อีก 2 คนในทีมก็ประหลาดใจเช่นกัน กิ่งก้านของต้นไม้กว้างพอสำหรับ 4-5 คนที่จะยืนและ ต้นไม้ก็ใหญ่โต
เทรวิสดูเหมือนผู้ชายหน้าตาของเขาบูดบึ้งและรูปร่างอ้วนเล็กน้อยและดูเหมือนอายุประมาณ 26 ปี ในขณะที่จูดิธยังเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กและอวบอ้วน ซึ่งอายุยากจะวัดได้
ทั้ง 4 คนกำลังยืนอยู่บนกิ่งไม้ขนาดยักษ์ที่มีความสูงไม่กี่พันเมตร
เป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นพื้นดินจากที่ที่พวกเขายืนอยู่
*สควี่…..ววววววววว *
ทันใดนั้น ลมแรงก็เริ่มพัดเมื่อนกอินทรีตัวใหญ่ 2 ตัวมาถึง นกอินทรีทั้งสองถูกปกคลุมไปด้วยขนสีน้ำเงินเข้มและสีขาว
เอธานใช้ <ปีกสายฟ้า> แต่…ล้มเหลว
” ดูเหมือนว่าการบินจะถูกห้ามโดยเด็ดขาดในดันเจี้ยนนี้ แทนที่จะต้องเสียพลังงานเพียงอย่างเดียว” เอธานพูดเสียงดังหลังจากที่เขาล้มเหลวในการเรียก <ปีกสายฟ้า>
เทรวิสพยักหน้าและตอบเอธานเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น “เราจะต้องเอาชนะนกอินทรีด้วยการกระโดดไปรอบๆ ในกิ่งก้านเหล่านี้ และถ้าเราล้มลงโดยบังเอิญ เราน่าจะถูกกำจัด”
ทันใดนั้น นกอินทรีก็อ้าปากออก และมีลูกสายฟ้าสองลูกพุ่งเข้าหาพวกเขา
ทุกคนต่างกระโดดไปยังกิ่งไม้ต่าง ๆ เมื่อเห็นการโจมตี
ลมแรงพัดมาอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนนกอินทรี กระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ต่าง ๆ พวกมันก็พยุงตัวเอง
เอธานใช้มือข้างหนึ่งคว้าลำตัว ในขณะที่เขาเหยียดมืออีกข้างไปทางนกอินทรีตัวหนึ่งแล้วปล่อย ก่อนที่จะเล็งไปที่นกอินทรีอีกตัวและทำแบบเดียวกัน
*กรี๊ดดด…*
นกอินทรีไม่สามารถหลบได้ในขณะที่พวกมันตายจากการยิงกระแทกอันรวดเร็วของเอธาน
แต่ไม่นานนักก็มีนกอินทรีอีก 2-3 ตัวก็มา นกอินทรีที่มาถึงครั้งนี้มีขนาดเล็กกว่า แต่มีกรงเล็บที่แหลมคมและน่าสะพรึงกลัวและมีปีกสีเขียวน้ำเงิน
จำนวนอินทรีทั้งหมดมี 4 ตัว และอินทรีแต่ละตัวก็เลือกตัวที่แตกต่างกันก่อนที่จะบินเข้าหาพวกมันด้วยความเร็วเสียงขณะที่สายฟ้าเต้นรำไปรอบๆ กรงเล็บและปีกอันร้ายกาจของพวกมัน
เอธานตะโกนไปทางเทียน่า “มานี่เร็ว และสนับสนุนฉันที”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเอธาน เทียน่าที่ยืนอยู่อีกที่หนึ่งใกล้กับกิ่งไม้ของเอธาน ก็กระโดดเข้าหาเขา ก่อนที่เธอจะร่ายงูยาว 2 ตัวและคว้าหางตัวหนึ่งไว้รอบเอวของเอธาน และใช้งูอีกตัวพยุงตัวเองโดยปล่อยให้มันขุดเข้าไปในลำต้นของต้นไม้แล้วคว้าหางมันด้วยมืออีกข้างหนึ่ง
นกอินทรีที่พุ่งเข้าหาเทียน่าก็เปลี่ยนทิศทางเช่นกัน เมื่อนกอินทรีทั้งสองบินตรงไปยังเอธาน
เขาใช้มือทั้งสองข้างเล็งไปที่นกอินทรีและรอให้พวกมันเข้ามาใกล้
หลังจากผ่านไป 2 วินาที ขณะที่อินทรีทั้งสองอยู่ห่างจากเอธานเกือบเท่าแขน เขาก็ปล่อย ไปทางพวกมัน
*กรี๊ด….กรี๊ดดดด…..*
นกอินทรีทั้งสองตายก่อนที่กรงเล็บของพวกมันจะโจมตีเอธาน ขณะที่พวกมันกลายเป็นแสงสีขาว
ในขณะเดียวกัน เทรวิสที่มีเคียว ซึ่งเขากำลังหมุนมันอยู่และในเวลาที่เหมาะสม เขาก็โยนมันไปทางนกอินทรีที่เข้ามาก่อนที่จะฆ่ามันด้วยคาถาบางอย่างที่ปล่อยออกมาจากเคียว
ในเวลาเดียวกัน จูดิธอ้าปากของเธอ ขณะที่ฟองสบู่สีฟ้าที่มีสีเหลืองพุ่งเข้าหานกอินทรี
ฟองสบู่มีขนาดใหญ่พอที่จะดักนกอินทรีหลังจากที่มันหลุดออกจากปากของเธอ หลังจากที่ฟองสบู่กระทบกับนกอินทรี มันไม่เด้ง แต่กลับขังนกอินทรีไว้ข้างใน ก่อนที่นกอินทรีจะถูกไฟฟ้าดูดจนตาย
เอธานและคนอื่นๆ ประหลาดใจที่เห็นการโจมตี ฟองสบู่ผสมกับน้ำ พลังงานแสง และสายฟ้า และนกอินทรีเองก็ตายเพราะตัวมันเองเพราะสายฟ้าของมันถูกใช้กับตัวมันเองภายในฟองสบู่
‘ ดูเหมือนว่าเธอมีเจตจำนงที่หลอมรวมเหมือนกับเทียน่าและเจตจำนงของแสงและแสงสว่าง ซึ่งเจตจำนงของเธอใช้สายฟ้าของนกอินทรีเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นก่อนที่จะถูกไฟฟ้าดูดตาย ‘
หลังจากเอาชนะฝูงนกอินทรีนี้ได้ นกอินทรียักษ์ก็มาถึงซึ่งน่าจะเป็นเจ้านาย
ลมที่พัดมาก็แรงมากในทันใด
‘มันก็จะวุ่นวายหน่อยๆ…’
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเอธานก็ตะโกนว่า “ฉันได้คาถาที่สามารถเอาชนะนกอินทรีตัวนี้ได้ในทันที พวกคุณแค่ต้องปกป้องฉัน”
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเอธาน จูดิธก็หันหน้าไปทางเทรวิสแล้วพูดว่า “เทรวิส ใช้โซ่เคียวของนายรอบตัวฉัน ป้องกันไม่ให้ฉันล้ม ขณะที่ร่ายเวทย์ป้องกัน เราต้องรีบแล้วเพราะอินทรียักษ์ตัวนี้กำลังจะใช้ท่าของมัน เร็วๆ นี้”
ขณะพูด เธอกระโดดไปที่กิ่งของเอธาน แต่ในขณะนั้น มีคลื่นลมพัดเข้ามาหาเธอจากนกอินทรียักษ์ที่กำลังกระพือปีก
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เทรวิสสาปแช่งภายใต้ลมหายใจของเขา ในขณะที่เขารีบยิงโซ่ของเขาไปทางจูดิธ ก่อนที่เขาจะกระโดดไปที่กิ่งไม้ที่เอธานและเทียน่ายืนอยู่
ที่จริงแล้วเขาสร้างห่วงโซ่พลังงานโลหะด้วยจุดที่คมและขุดโซ่ไปทางลำต้นเพื่อตั้งหลักแล้วดึงเคียวของเขาที่มีโซ่พันรอบจูดิธ
จากนั้นเธอก็มาถึงที่เดียวกันกับคนอื่นๆ ก่อนที่จะสร้างบาเรียสีเหลืองสดใสที่มีสายฟ้าสีเหลืองเต้นรำอยู่ทุกหนทุกแห่ง จากนั้นเธอก็เตรียมร่ายเวทย์ป้องกันที่แข็งแกร่งอีกครั้ง
บาเรียที่เธอร่ายไม่ได้หรือไม่สามารถป้องกันลมพัดแรงได้
เอธานก็ร่ายเวทย์ ทันที
เมื่อเห็นว่าทั้ง 4 อยู่ในที่เดียว อินทรีอ้วนยักษ์ที่มีปีกกว้างประมาณ 130 เมตรและยาว 50 เมตรก็ส่งเสียงแหลม เมื่อขนของมันเริ่มส่องแสงเป็นสีน้ำเงินเข้ม ก่อนที่เข็มสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนจะพุ่งเข้าหาเอธาน และกลุ่ม
แต่บาเรียสามารถต้านทานเข็มสายฟ้าเหล่านั้นได้ทั้งหมด
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที นกอินทรียักษ์ก็ปล่อยการโจมตีแบบเดิมอีกครั้ง
*แกร๊บ….*
บาเรียต้านทานการโจมตีนี้ได้ แต่มีรอยแตกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น
นกอินทรีร้องเสียงดัง เมื่อเห็นว่ามันเป็นลูกบอลสายฟ้าและพลังงานลมเริ่มก่อตัวขึ้นตรงหน้าปากที่เปิดอยู่
<วิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว>
แต่ในขณะนั้น สี่เหลี่ยมสีเหลืองทึบปรากฏขึ้นรอบตัวพวกเขา ซึ่งส่องประกายด้วยประกายไฟสีเหลืองเข้ม
“เสร็จแล้ว แม้ว่าอินทรีตัวนั้นจะโจมตีเราด้วยพลังของมัน พวกเราก็จะรอด” จูดิธพูดขณะที่ร่ายเวทย์เสร็จ
ลมที่รบกวนพวกเขาก็หยุดลง เมื่อถูกบล็อกด้วยเวทมนตร์ป้องกันของจูดิธ
เอธานได้สร้าง Impact Point 3 ชั้นเสร็จแล้ว แต่ก่อนที่เขาจะยิงได้ การโจมตีของนกอินทรีก็มาถึง
*บู้ม…บู้ม*
เวทมนตร์ป้องกันของจูดิธต้านทานการโจมตีได้จริงๆ และหลังจากนั้น เอธาน ก็ทิ้งบาเรียของเธอไว้ก่อนจะปล่อย ไปทางนกอินทรีตัวใหญ่ทันที
เขาจำเป็นต้องออกจากพื้นที่ของวิหารศักสิทธิ์แห่งดวงดาว ไม่เช่นนั้นเวทย์มนตร์ของเขาจะชนกับคาถาป้องกันแทน
Impact Point ยิงด้วยความเร็วเหนือเสียงเข้าหานกอินทรี ในขณะที่มันกระแทกเข้าที่คอของมันก่อนที่จะเกิดเสียงดัง
[ ขอแสดงความยินดีที่ปราบ ถ้ำนกอินทรีย์ที่หลงทาง ได้ ]
[ 15 แต้มและกล่องธรรมดาสำหรับ เอธาน, เทียน่า, จูดิธ และ เทรวิส ]
[ คุณได้ปลดล็อคตัวเลือกในการเล่นดันเจี้ยนนี้ในโหมดคู่ หากคุณสามารถเอาชนะดันเจี้ยนนี้แบบคน 2 คนได้ คุณก็จะได้รับคะแนนเพิ่ม 10 คะแนน ]
…
…
หลังจากนั้นเอธานและเทียน่าก็มาถึงศูนย์กลางดันเจี้ยน
“นั่นค่อนข้างยาก สิ่งที่ลำบากที่สุดคือลมที่พัดแรงและข้อจำกัดในการบิน”เทียน่า แสดงความคิดเห็น ขณะที่เธอนำกล่องปกติจากคลังของเธอ
” อันที่จริง เราไม่สามารถจบดันเจี้ยนนี้ในโหมดคู่ได้ ดังนั้นเราจะทำดันเจี้ยน 2 ดาวอันอื่นให้เสร็จและมีพลังมากขึ้นก่อนที่จะพยายามลองในโหมดคู่” เอธานตอบในขณะที่พยักหน้าขณะที่เขาดึงเอา กล่องธรรมดาออกมา
“ฉันจะเปิดก่อน” เมื่อพูดเช่นนี้ เทียน่าก็แตะล็อคของกล่องธรรมดา
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้รับคู่มือคาถา โดมควอดิกน้ำแข็ง ]
เมื่อเห็นรางวัล เทียน่าก็พูดด้วยความยินดี “ดูเหมือนว่าจะเป็นคาถาป้องกัน ขอฉันดูคำอธิบายของมันก่อน”
<โดมควอดิกน้ำแข็ง>
– คาถาการไหลของพลังงานที่ต้องใช้พลังงานน้ำแข็งและเจตจำนงน้ำแข็งระดับกลาง
– สร้างโดมป้องกันน้ำแข็งที่แข็งแกร่งด้วยโครงสร้างภายในที่แข็งแกร่ง และฐานรากที่ทนทานต่อการโจมตีประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทื่อ ระเบิด เจาะ ฯลฯ แต่ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน เช่น การโจมตีหลอมละลายของธาตุไฟ และการโจมตีของของเหลวที่เป็นกรด มีธาตุไฟอยู่ในนั้น
หมายเหตุ:- อย่าพยายามฝึกคาถานี้ หากคุณมีคุณสมบัติไม่ตรงตามข้อกำหนด คุณต้องมีเจตจำนงของน้ำแข็งระดับกลางและร่างกายที่มีความเกี่ยวข้องกับน้ำแข็ง และในกรณีที่คุณมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด ให้คุณเชี่ยวชาญเฉพาะขั้นเริ่มต้น หากคุณยังอยู่ในระดับ Energy Plane
เอธานมองดูคำอธิบายของคาถาและส่ายหัว “ดูเหมือนว่ามันเป็นคาถาที่ไร้ประโยชน์สำหรับตอนนี้ ฉันไม่มีธาตุน้ำแข็ง ในขณะที่คุณมีธาตุน้ำแข็ง แต่ไม่มีร่างกายของน้ำแข็งหรือเจตจำนงน้ำแข็ง”
เทียน่าก็ผิดหวังพยักหน้าเห็นด้วยและถอนหายใจ “ฉันต้องการคาถาป้องกัน ฉันอยากจะปกป้องนาย ขณะที่นายโจมตี พลังโจมตีของคาถาของนายสูงกว่าคาถาของฉันแล้ว ดังนั้นฉันอยากจะซื้อคาถาป้องกันที่ดีจากร้านค้านั้น หลังจากสะสมแต้มได้เพียงพอแล้ว แต่ช่างเรื่องนั้นไปก่อน เรามาเปิดกล่องธรรมดาของนายก่อน แล้วมาดูกันว่านายจะได้อะไร”
จากนั้นเอธานก็แตะล็อคของกล่องธรรมดา
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้ค…]
————————————————————–
ตอนที่ 67: Impact Point
เอธานนั่งขัดสมาธิ ขณะหลับตา ใบหน้าของเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ในขณะที่เขาส่ายหัวและพยักหน้าเป็นครั้งคราว
เขากำลังฝึกขั้นตอนขั้นสูงของวิธีการไหลของพลังงาน
หลังจากใช้เวลา 1 ชั่วโมง ในที่สุดเขาก็เสร็จสิ้นการไหลเวียนของพลังงานของขั้นสูงแล้ว 1 รอบ และตกอยู่ในความคิด ‘ ความยากเพิ่มขึ้นระดับหนึ่ง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอันตราย ถ้าฉันฝึกฝนสิ่งนี้เป็นเวลาประมาณ 3 วัน ฉันก็จะสามารถเชี่ยวชาญขั้นสูงได้เช่นกัน…แต่มันแปลก มีการระบุไว้ชัดเจนว่า ฉันต้องการความแข็งแกร่งอย่างน้อย 15 และ 20 แต้มของร่างกายเพื่อฝึกฝนขั้นตอนขั้นสูงของวิธีการไหลของพลังงานนี้ ‘
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและได้ข้อสรุปว่าทำไมเขาถึงสามารถฝึกขั้นสูงสุด ได้ แม้ว่าจะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดก็ตาม
“ มันควรจะเกี่ยวข้องกับการกลั่นร่างกายของฉัน คนอื่น ๆ กลั่นร่างกายของพวกเขาด้วย พลังงานแก่นแท้ ในขณะที่ร่างกายของฉันได้รับการขัดเกลาด้วยพลังงานแปลก ๆ ที่ปล่อยออกมาจากวังวนสีดำ หลังจากที่ดูดซับพลังงานแก่นแท้ ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความสัมพันธ์ฉันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงร่างกายขององค์ประกอบธาตุด้วย …”
เขาพยักหน้าคิด ขณะยิ้ม ‘ นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ฉันนึกได้ว่าทำไมฉันถึงฝึกขั้นสูงสุดได้ และเนื่องจากฉันสามารถฝึกฝนได้ ฉันจึงควรเชี่ยวชาญมันได้ด้วย ฮิฮิฮิ ‘
จากนั้นเขาก็ยังคงฝึกฝนขั้นตอนขั้นสูงด้วยความยากลำบาก ‘ ความเร็วที่รวดเร็วของพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายนั้นเป็นปัญหาที่มากที่สุดของเส้นทางของเขา และพลังงานก็มีพลังมากขึ้นไปอีก…มันน่าจะเกี่ยวข้องกับการที่มีพลังงานไหลเวียนในร่างกายธาตุไฟของเรา หืม…ดูเหมือนว่าจะมีอะไรมากกว่าที่เห็นในร่างกายของเรา สิ่งพิเศษที่เรียกว่าการชำระล้างมลทินโดยกำเนิด ฉันสงสัยว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับคน หลังจากที่ร่างกายของพวกเขาได้รับการชำระมลทินมาตั้งแต่กำเนิด? ‘
เอธานสั่นศีรษะ ขจัดความคิดและจดจ่อกับการฝึกฝน
…
หลังจากนั้น 4 วัน…
ปัจจุบันเอธานยกมือทั้งสองข้างไปข้างหน้าและปล่อย 2 อัน
*สวี้….บู้มม สวี้….บู้ม*
หลังจากนั้น เขาปล่อย จากมือทั้งสองข้างของเขา
*บู้ม…..ตึ้ง…..บู้ม…..ตึ้ง…..*
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขาพยักหน้าและคิดว่า ‘ ตามที่คาดไว้ในขั้นสูง ความเสียหายที่ส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบกับขั้นเริ่มต้น ตอนนี้มาลองใช้ กัน ‘
แต่ก่อนหน้านั้น เขาได้กู้คืนพลังงานไฟของเขาจนเต็มก่อนเพราะจากข้อมูล เขารู้ว่าการใช้ สิ้นเปลืองพลังงานมาก
หลังจากฟื้นพลังแล้ว เขาก็หลับตาและยื่นมือทั้งสองไปข้างหน้าพร้อมกับประสานนิ้ว (และนิ้วหัวแม่มือ) ของมือซ้ายและมือขวาเข้าด้วยกัน
พลังงานภายในร่างกายของเขาไหลเวียนอย่างรวดเร็วและแข็งขัน เมื่อมันกระทบมือทั้งสองข้างของเขาหลังจากแต่ละรอบการไหล
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ช่องว่างระหว่างมือของเขาก็เริ่มเต็มไปด้วยพลังงานสีแดงหนาแน่น จากนั้นเอธานก็ทำให้ลูกบอลพลังงานระหว่างมือของเขาหดตัวลงด้วยการควบคุมของเขา
หลังจากที่มันหดตัวเป็นจุดเล็กๆ เอธานก็ทำสิ่งเดียวกันอีกครั้ง พลังงานเริ่มเต็มไปด้วยจุดพลังงานที่อยู่ตรงกลางก่อนที่เขาจะหดตัวอีกครั้ง
จุดพลังงานก่อนหน้านี้ตอนนี้ดูใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เพราะถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานที่หดตัวของรอบนี้
เอธานทำแบบเดียวกันอีก 2 ครั้งเนื่องจากจุดพลังงานเล็กๆ ก่อนหน้านี้ตอนนี้มันมีขนาดเท่ากับลูกกอล์ฟ มือของเขายังสั่นอยู่ตลอดเวลา
ทันใดนั้น หน้าของเอธานก็เปลี่ยนไปและเขาก็ได้สาปแช่งออกมา ” SH!T!!! “
*บู้มมมมมม*
[ คุณเสียชีวิต. ]
เอธานปรากฏตัวบนที่ราบหญ้า หลังจากนั้นไม่กี่วินาที
“เอ่อ…ไม่รู้เลยแฮะว่าพลังงานไฟหมดแล้ว”
จากนั้นเขาก็ตกอยู่ในความคิด ‘ ดังนั้น ถ้าฉันใช้พลังงานทั้งหมดของฉัน ฉันก็สามารถสร้าง 4 ชั้นได้ ‘
จากนั้นเขาก็ดูรายชื่อเพื่อนของเขาและเห็นว่าขณะนี้เทียน่าอยู่ใน อารีน่าต่อสู้
เขายิ้ม เขาคิดว่า ‘ ฉันควรลองใช้พลังใหม่ของฉันในการต่อสู้ด้วย ‘
[ ตรงกัน…]
[พบการแข่งขัน]
[ เอธาน vs ลอนโซ ]
[ สถิติที่ชนะ ]
เอธาน: 0
ลอนโซ: 8
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปเมื่อเอธานมาถึง…ท้องฟ้า
” เวรเอ้ย!! ” เอธานพ่นคำสาปแช่ง และใช้ <ปีกสายฟ้า> ช่วยให้เขาลอยขึ้นไปในอากาศ
ไม่มีแผ่นดินเบื้องล่างเหมือนทุกที่ที่เขามอง มีแต่น้ำ
“งั้นพวกเราก็จะบินไปสู้กันสินะ…” เอธานหรี่ตาลงขณะมองไปข้างหน้า
เขาสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ที่ห่างไกลจากตัวเขาที่กำลังเข้าใกล้เขามากขึ้น
‘ ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่ด้วยตัวเขาเอง ต้อนรับเขาด้วยคาถา ล้ะกัน ‘
เอธานไม่ได้สร้างสิ่งกีดขวางรอบตัวเขาเพราะเขาต้องการใช้ ขณะที่เขาเห็นคู่ต่อสู้เข้ามาใกล้ เขายื่นมือไปข้างหน้า
แต่ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงอันดังที่ดังแว่วมาที่หูจากด้านหน้า
“อย่าโจมตี อย่าโจมตี…”
เอธานขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่เขาไม่ได้วางมือลง
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ลอนโซก็มาถึงและหยุดที่ระยะ 100 เมตรจากเอธาน ทรงผมตัดแบบทหารและสวมชุดกีฬารัดรูปสีเขียว จากใบหน้าของเขา เขามองไปรอบๆตัวคน อายุเขาคง 23 หรือ 24 ปี
เขาพูดกับเอธานด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “สวัสดี ขอบคุณที่ไม่โจมตีฉัน เหตุผลที่ฉันตะโกนว่าไม่ให้โจมตี คือฉันต้องการลองเวทมนตร์ใหม่ของฉัน ฉันเพิ่งเชี่ยวชาญเวทมนตร์ป้องกันและฉันต้องการที่จะลองมันหน่อย “
เอธานลดมือลงก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ช่างเป็นความบังเอิญที่ฉันเพิ่งเรียนรู้คาถาโจมตีมา แต่ไม่มีโอกาสได้ลองเลย”
นัยน์ตาของลอนโซเป็นประกายเมื่อได้ยินแบบนั้น “เยี่ยมมาก นายสามารถลองใช้คาถาป้องกันตัวของฉันได้ แต่นายต้องรอสักครู่ มันต้องใช้เวลาพอสมควรในการเตรียมคาถาป้องกันของฉัน”
เมื่อพูดเช่นนี้ เขาก็หลับตาลง ขณะที่พลังงานดิน น้ำ โลหะ และไฟเริ่มล้อมรอบตัวเขา
เอธานไม่พูดอะไรและเริ่มเตรียมร่ายคาถา , ‘ ฉันสามารถร่าย Impact Point 4 ชั้นได้ แต่ฉันจะลองแค่ 3 ชั้น เพื่อไม่ให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้น เพราะสุดท้ายแล้ว ฉันยังไม่ได้ฝึกคาถานี้เพียงพอ ดังนั้น ความสามารถของฉันไม่ดีเท่าคาถา Impact Shot และ Impact Scatter ‘
จากนั้นเขาก็ยื่นมือทั้งสองไปข้างหน้า ในขณะที่เขาเริ่มสร้าง Impact Point 3 ชั้น
ผ่านไปซักพัก เขาก็กำลังจะทำ Impact Point ชั้นที่ 3 ให้เสร็จ เมื่อเขาได้ยินเสียงของลอนโซ “เฮ้ น้องชาย ฉันร่ายเวทย์เสร็จแล้ว นายสามารถยิงเวทย์ของนายได้ทุกเมื่อที่พร้อมเลยนะ”
“ฉันใกล้เสร็จแล้ว”
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เอธานได้สร้างImpact Point 3 ชั้น ซึ่งดูเล็กกว่าลูกกอล์ฟเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็มองไปที่คาถาป้องกันของลอนโซและรู้สึกประหลาดใจ
“ นั่นคือคาถาป้องกันของคุณ…” เอธานพูดพร้อมพยักหน้า ‘ เวทย์ป้องกันของเขาน่าประทับใจจริงๆ ถ้าเขาบรรลุระดับเจตจำนงขั้นกลางในทั้ง 4 ธาตุแล้ว มันจะยากสักหน่อยที่จะทำลายคาถาป้องกันนี้ ‘
ลอนโว ผู้ซึ่งอยู่ในอาคมป้องกันของเขามองไม่เห็นอะไรเลย คาถาป้องกันของเขาเป็นลูกบอลทรงกลม แต่เอธานสัมผัสได้ถึงโครงสร้างที่ซับซ้อนของมัน
คาถาป้องกันทรงกลมมีดินและโลหะ ทั้งคู่เชื่อมต่อกับโครงสร้างที่ซับซ้อน ซึ่งดูคล้ายกับรวงผึ้ง ในขณะที่น้ำและไฟถูกแทรกแซงระหว่างพวกมันด้วย
‘ โครงสร้างที่ซับซ้อนนี้ เป็นสัญญาณของคาถาที่เกี่ยวข้องกับวิธีการไหลของพลังงาน แต่รู้สึกแตกต่างเล็กน้อย…อืมม มันต้องเป็นคาถาของการไหลของพลังงานเฉพาะตัว มันน่าประทับใจที่เขาสร้างมันจากทั้ง 4 ธาตุด้วยคาถาการไหลของพลังงาน มาดูกันว่ามันเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับ Impact Point ของฉัน ‘
จากนั้นเขาก็ดันมือทั้งสองไปข้างหลัง ในขณะที่ลูกบอลสีแดงลอยอยู่กลางมือของเขา
หากดูดีๆ มีชั้นพลังงานสีส้มบางๆ ล้อมรอบลูกบอลขนาดเล็ก ชั้นนั้นถูกผลักไปที่ผิวหนังของเอธาน
หลังจากผลักมือไปข้างหลัง เขาก็ส่งพลังงานที่ใช้งานภายในร่างกายของเขาและกระแทกมันไปทางมือของเขา ในขณะที่ยังผลักมือทั้งสองข้างของเขาไปข้างหน้า (ฮ่าๆๆๆ)
ชั้นสีส้มบาง ๆ ของลูกบอลกลมที่มีลูกบอลสีแดงสดขนาดเล็กตรงกลาง ยิงจากมือของเอธาน และทะลุคาถาป้องกันของลอนโซได้ ในเสี้ยววินาที
*บู้มมมมมมมมม*
…
…
[ เอธาน ชนะ ]
[ สถิติที่ชนะ: 1 ]
เอธานมาถึงที่ราบหญ้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างพอใจ ‘ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ถึงระดับกลางด้วยเจตจำนงของธาตุใดๆก็ตามสินะ และคาถาป้องกันของเขายังคงอยู่ในขั้นเริ่มต้น ‘
แต่ลอนโซก็ต้องตกตะลึงเมื่อเขากลับมายังที่ของเขา
เขามีท่าทางสับสน ในขณะที่เขาคิดว่า ‘ ฉันสามารถสัมผัสได้ถึงพลังของการโจมตีของเอธาน เมื่อมันกระทบกับบาเรียของฉัน บ้าเอ้ย นั้นไม่ใช่สิ่งที่คนที่อยู่ในขั้น Eney Plane สามารถดึงออกมาได้ ‘
เขายังคงครุ่นคิดด้วยใบหน้าสับสน “วิธีเดียวที่จะบรรลุขั้นขั้นสูงในวิธีไหลของพลังงานของเขา แต่…เขาอยู่ในระดับ Energy Planeนี่”
ขณะที่เขาบ่น เด็กผู้หญิงอายุราวๆ เขาตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “เฮ้ ลอนโซ เกิดอะไรขึ้น”
เธอมีผมสั้นสีแดงและมีรูปร่างที่พอดี เธอสวมชุดเดียวกันกับลอนโซ แต่เธอมีหน้าอกคัพ D ที่ยื่นออกมาในชุดกีฬาสุดคับด้วย
ลอนโซหันหน้าไปทางเธอและถามว่า “โอ้ ลิน่า เธอจบการแข่งขันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง”
“ฉันชนะแล้ว แล้วนายล่ะ นายดูสับสนมาก นายแพ้หรือเปล่า”
ลอนโซพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น ” ฉันแพ้ ดูเหมือนว่าคู่ต่อสู้ของฉันจะเชี่ยวชาญขั้นสูงสุด ใน วิธีการไหลของพลังงานแล้ว และเวทมนตร์ของเขาก็ทำลายเกราะฉันได้อย่างสิ้นเชิงพร้อมกับเวทมนตร์ป้องกันของฉัน “
ลิน่าคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด ” ถ้าเขาเชี่ยวชาญขั้นสูงสุดในวิธีการไหลของพลังงานแล้ว แม้จะอยู่ในขั้น Energy Plane เขาต้องมีร่างกายที่ไม่เหมือนใคร เหมือนกับสัตว์ประหลาดที่เราเห็นเมื่อตอนที่เราเริ่ม [ ถ้ำหมีดำ ] แน่นอน “
ด้วยใบหน้าที่ขมขื่น ลอนโซพยักหน้าและพูดว่า “ต้องเป็นอย่างนั้นแน่….*ถอนหายใจ* ทำไมฉันถึงเหมาะกับคนแบบเขาล่ะ? 8 ครั้งที่ชนะของฉันหายไปแล้ว”
————————————————————–
ตอนที่ 66: การเรียนรู้ขั้นตอนเริ่มต้นของ วิธีการไหลของพลังงาน, คาถาที่ส่งผลกระทบ
—————————————-
ผู้แปลถึงผู้อ่าน: ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อคาถาเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อความสละสลวยของเนื้อเรื่องค่ะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ
—————————————
เอธานหมุนเวียนพลังงานที่เต็มเปี่ยมไปโดยเดินตามเส้นทางการไหลของพลังงาน และทำให้มันเสร็จสิ้นไป 2-3 รอบก่อนที่เขาจะเริ่มอ่านคาถา
< Impact Shot >
เขาอ่านคาถา Impact Shot ครั้งแรก…
หลังจากอ่านคาถาแล้ว เขาก็ลืมตาและเหยียดมือซ้ายไปข้างหน้า พลังงานในมือของเขาสะสมโดยทำตามวิธีการไหลของพลังงานโดยทำให้มันกระแทกและแตกสลาย
ตามคำแนะนำของ < Impact Shot > เขาส่งพลังงานสะสมในฝ่ามือซ้ายของเขา เป็นลูกบอลกลมก่อน ขณะที่เขาเพิ่มความเร็วของพลังงานธาตุไฟที่ไหลอยู่รอบๆร่างกายเขา และพลังงานนั้นๆก็ ไหลในรูปแบบที่ซับซ้อนรอบไหล่ของเขา ก่อนที่จะส่งผลกระทบอย่างทรงพลังไปยัง ลูกบอลพลังงานที่เขาควบแน่นในฝ่ามือของเขาและ …..
*สวี้วววววววว….บู้ม*
เช่นเดียวกับกระสุน กระสุนอันทรงพลังถูกปล่อยออกจากมือซ้ายของเอธาน ด้วยความเร็วเหนือเสียง ก่อนที่จะชนกับกำแพงด้านหน้าในเสี้ยววินาที
กรามของเอธานร่วงลงกับพื้น เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของ ที่เขาเพิ่งปล่อย
กำแพงซ่อมแซมตัวเองหลังจาก < Impact Shot > พังกำแพง แต่เอธาน สัมผัสได้ถึงพลังอันเหลือเชื่อที่บรรจุอยู่ภายใน
จากนั้นเขาก็ผลักมือทั้งสองข้างไปข้างหน้าและยิง 2 นัดออกจากมือแต่ละข้างของเขา
*สวี้ววว….บู้มมม, สวี้วววว….บู้มมม*
‘ ดังนั้นตอนนี้ คาถานี้ก็เป็นคาถาที่ทรงพลังที่สุดของฉันอย่างเป็นทางการ อืม…’
เขาเริ่มอ่านเกี่ยวกับคาถาต่อไป แต่หลังจากอ่านแล้ว เขาคิดว่า ‘ อืม…นี่อาจจะดูยุ่งยากหน่อย ‘
เขาเหยียดมือซ้ายไปข้างหน้า เขาบีบลูกบอลเล็กๆ ของพลังงานไฟเข้าที่นิ้วของเขา
‘ ดูเหมือนว่าการควบคุมของฉันดีกว่าที่ฉันคิด ‘
เขายังคงบีบอัดกระสุนขนาดเล็กของพลังงานไฟที่ใช้งานอยู่ในนิ้วของเขา และใช้เวลา 2-3 นาทีก่อนที่เขาจะกลั่นกระสุนกลมๆ เดียวในนิ้วมือแต่ละข้างของเขา เขารวมพลังทั้งนิ้วหัวแม่มือของเขา
หลังจากนั้น เขาควบคุมพลังงานไฟ ที่ไหลในรูปแบบที่ซับซ้อนภายในบริเวณไหล่และแขนของเขา ก่อนที่เขาจะส่งผลกระทบไปยังมือของเขาอย่างแรง
*บู้มมม…..ทิ้ก…..*
ได้ยินเสียง ‘ซวู่’ คล้ายเสียงลม 5 ครั้งเมื่อกระสุนควบแน่น 5 นัดออกจากนิ้วและนิ้วหัวแม่มือของเขาก่อนที่จะกระแทกผนังพร้อมกัน
” เอาล่ะ นั่นเป็นคาถา AOE ที่ดีและมันสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า ถ้ากระสุนทั้งหมดของฉันโดนเป้าหมายเดียวกัน ”
‘ เดี๋ยวก่อน….ถ้าฉันใช้เวทมนตร์ทั้ง 2 นี้ในระยะที่เดียวกันงั้น…’ เอธาน รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงความเสียหายที่พวกมันจะทำในระยะประชิด
เขาพยักหน้า เขาพึมพำ “ถ้าพวกมันโดนเข้ากับใครซักคนในระยะที่ใกล้มากในเวลาใกล้กัน มันจะพิสูจน์ชื่อของพวกมันว่าเป็น Impact shot และ Impact Scatter อย่างแท้จริง ตอนนี้เรามาดูกันว่าคาถาสุดท้ายเกี่ยวกับอะไร”
…
ยิ่งเอธานอ่านเกี่ยวกับคาถานี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งประหลาดใจกับการใช้คาถานี้และคิดว่า ‘ นี่ควรเป็นสิ่งที่เรียกว่าการเคลื่อนไหวขั้นสูงสุดของวิธีนี้หรือ? หลังจากใช้มัน ฉันจะสูญเสียพลังงานจำนวนมาก…แต่มันบอกว่าฉันต้องไปถึงขั้นขั้นสูงของ วิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact ก่อนจึงจะสามารถใช้คาถานี้ได้ ‘
แต่…เขาจำข้อความนี้ได้ในคำอธิบายคาถา
” ผู้ที่อยยู่ในขั้น Energy Plane ไม่ควรก้าวข้ามขั้นเริ่มต้น….อืมม ” เขาตกอยู่ในความคิดชั่วครู่ เขาพบจุดสำคัญและคิดว่า ‘ เดี๋ยวก่อน เราอยู่ในโลกเสมือนจริง จึงไม่เป็นปัญหาถ้าฉัน ลองฝึกสักหน่อยแล้วจะรู้ว่าทำไมมันถึงไม่อนุญาต จริงไหม? ‘
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาได้ดูข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนขั้นสูงของวิธีการไหลกระทบกระแทกที่แตกสลาย
หลังจากอ่านไปเล็กน้อย เขาก็พบว่าเหตุใดผู้คนในขั้น Energy Plane จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ฝึกขั้นตอนขั้นสูงของวิธีการไหลของพลังงานแบบนั้น
‘ ความเร็วของพลังงานที่เต็มเปี่ยมและไหลในร่างกาย ควรเพิ่มขึ้น 2 เท่า และเรายังต้องเคลื่อนไหวพลังงานพวกนั้นในรูปแบบที่ชัดเจนภายในร่างกายของเราอีกด้วยมันจึงยากสินะ ในกรณีของฉัน มันคือไหล่ แขน และมือที่สะสมพลังงานเพื่อใช้คาถา ‘
” นอกจากนี้ วิธีการไหลของพลังงานยังหมายความว่าเราต้องปล่อยให้มันไหลเข้าสู่ร่างกายของเราตลอดเวลา ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันควรควบคุมระดับเริ่มต้นก่อนดีกว่า “
จากนั้นเขาก็ทิ้ง และขั้นตอนขั้นสูงของการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact ในขณะที่เขามุ่งเน้นไปที่การควบคุมขั้นเริ่มต้นของวิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact
ชั่วขณะหนึ่ง เขาก็ได้ใช้วิธีการไหลของพลังงานขั้นต้นต่อไป ในขณะที่เขานั่งสมาธิ แต่หลังจากนั้น เขาก็ลุกและยืนขึ้น
‘ การไหลเวียนของพลังงานหยุดชะงักเล็กน้อย เมื่อฉันยืนขึ้น แต่ฉันควบคุมมันได้ค่อนข้างเร็ว ‘ เอธานพยักหน้า เขาเริ่มเคลื่อนไหวช้า ๆ ในขณะที่พลังงานยังคงไหลเวียนอยู่
หลังจากเคลื่อนที่ช้าๆ ขณะที่ยังมีการไหลของพลังงาน เขาเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่แล้วค่อยๆ วิ่งไปรอบๆ และต่อมาเขาก็กระโดดไปรอบๆ ขณะที่พลังงานยังคงไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา
ในขณะที่เอธานฝึกฝนวิธากรไหลของพลังงานของเขาอย่างง่ายดายอย่างที่ไม่มีใครทำได้ เทียน่า ก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากอยู่
…
…
ขณะนี้เธอนั่งขัดสมาธิ เธอตัวสั่นตลอดเวลา ขณะที่มือซ้ายเหยียดไปข้างหน้า
พลังงานของภูเขาไฟสายฟ้า ของเธอไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายของเธอ ในลักษณะที่ซับซ้อน ซึ่งไหลแตกต่างจากวิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact ของเอธาน
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที สิ่งมีชีวิตที่เหมือนงู ซึ่งสร้างจากพลังงานภูเขาไฟสายฟ้า ร่ายมนตร์ต่อหน้าเธอ ก่อนที่มันจะพุ่งไปข้างหน้า
งูมีโครงสร้างร่างกายที่ซับซ้อน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับวิธีการไหลของพลังงานของเธอ
” อืม… ถ้าจะเสกงูขั้นที่ง่ายที่สุดในการที่จะเสกมัน ฉันต้องใช้ความพยายามมากขนาดนี้ แล้วอีกนานไหม กว่าฉันจะร่ายคาถา Boa (งูเหลือม), Winged Serpent (พญานาคามีปีก) และ Serpent Robe (เสื้อคลุมอสรพิษ) หลังจากเชี่ยวชาญขั้นตอนเริ่มต้นของวิธีการไหลของพลังงานนี้แล้ว ฉันควรจะสามารถเสกงูตัวเล็ก ๆ หลาย ๆ ตัวได้อย่างง่ายดายและสร้างโครงร่างของ Serpent Robe ซึ่งมีประโยชน์ไม่มากเพราะมันเป็นเพียงโครงร่างเท่านั้นได้ ”
จากนั้นเธอก็ควบคุมงูที่เธอเพิ่งร่ายมนต์มาพันรอบเสาหินสีขาวข้างหน้าเธอและกำหมัดแน่น
*บูม*
งูระเบิดออกอย่างแรง เมื่อมันทำลายเสา ซึ่งได้รับการฟื้นฟูโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที
” วิธีการไหลของพลังงานแบบนี้ค่อนข้างคล้ายกับที่พี่น้องฝาแฝดเหล่านั้นที่พวกเธอได้เคยฝึกฝน แต่แทนที่จะเป็นกรงเล็บ ฉันสามารถเสกงูที่สามารถระเบิดได้อย่างทรงพลัง “
จากนั้นเธอก็ฝึกฝนวิธีการไหลต่อไปโดยหมุนเวียนพลังงานภูเขาไฟสายฟ้า ภายในร่างกายของเธออย่างช้าๆ
แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอหยุดและคิดว่า ‘ มันค่อนข้างยากที่จะควบคุมการไหลของพลังงาน บางทีฉันควรทำความเข้าใจระดับขั้นกลางของพลังงานภูเขาไฟสายฟ้าก่อนจะก้าวไปสู่ระดับเริ่มต้นของวิธีการไหลของพลังงาน ‘
หลังจากตัดสินใจแล้ว เธอหยุดฝึกวิธีไหลของพลังงานและเริ่มเข้าใจเจตจำนงของภูเขาไฟสายฟ้า
…
เวลาผ่านไปโดยที่ทั้งเอธานและเทียน่าได้รับการฝึกฝนกันทั้งคู่…
หลังจากผ่านไป 2-3 วัน ในที่สุดเอธานก็เชี่ยวชาญขั้นตอนเริ่มต้นของวิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact
ตอนนี้เขาสามารถปล่อยให้พลังงานไฟไหลไปตามรูปแบบของขั้นตอนเริ่มต้นของวิธีการไหลของพลังงานแบบ Broken Impact ได้แล้วและไม่ต้องเพ่งจิตเพื่อควบคุมมันอีก
‘ ลองใช้วิธีการใหม่ในการใช้คาถา ดีกว่า ‘ เมื่อคิดถึงปืนลูกซองในชีวิตก่อน เขานึกถึงวิธีการนี้
เขาเริ่มรวมกระสุนขนาดเล็กไว้ในนิ้วของเขา ประการแรก เขาสร้างกระสุน 5 นัด และจากนั้นสร้างกระสุนอีก 5 นัด และวางไว้ด้านหลังฝ่ามือ และตอนนี้เขามีกระสุน 5 นัดแรกในมือทั้งสองของเขา
หลังจากนั้น เขาก็ยื่นมือไปข้างหน้าและส่งพลังงานที่มีอย่างเต็มเปี่ยม ที่มือของเขาการปล่อยออกไปนั้นทรงพลังอย่างมาก
*บู้ม…..ตึ้ง…..บู้ม….ตึ้ง…..*
5 นัดจากมือซ้ายของเขา และอีก 5 นัดจากมือขวาของเขา ถูกปล่อยอย่างกระจัดกระจาย ก่อนที่พวกมันจะเคลื่อนที่ไปในระยะกว้างต่อหน้าเขา
จากนั้นเขาก็สร้างเพิ่มอีก 10 นัด และขณะนั้นอีก 10 นัดถูกปล่อยออกจากมือทั้งสองข้างของเขาอีกครั้ง
” สุดยอด!! แต่มันจะต้องใช้พลังงานสูงขึ้นเล็กน้อย ถ้าฉันสร้างกระสุนพลังงาน 20 นัด อย่างไรก็ตาม ฉันเชี่ยวชาญขั้นตอนเริ่มต้นของวิธีการไหลพลังงานนี้อย่างสมบูรณ์แล้วด้วยพลังงานธาตุไฟ ตอนนี้ได้เวลาฝึกฝนในพลังงานธาตุแบบอื่นแล้ว ”
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจที่จะใช้พลังน้ำและเปลี่ยนมันให้เป็นรูปแบบการใช้งานก่อนที่จะทำแบบเดียวกันกับที่เขาทำเมื่อฝึกฝนด้วยพลังงานไฟ
ในขณะเดียวกัน ในที่สุดเทียน่าก็เข้าใจเจตจำนงขั้นกลางและเริ่มฝึกฝนวิธีการไหลของพลังงานอีกครั้ง
…
…
ผ่านไปแล้ว 7 วันนับตั้งแต่การสอบสิ้นสุดลง
วันนี้เทียน่าสามารถทำให้วัฏจักรการไหลสมบูรณ์ได้โดยไม่ติดขัดแล้ว แต่เธอยังมีทางอีกยาวไกล กว่าที่เธอจะเชี่ยวชาญในขั้นเริ่มต้นของวิธีการไหลของพลังงาน
หลังจากฝึกวิธีไหลของพลังงานแล้ว ขณะนั่งสมาธินั้น เธอยังได้ลองที่จะยืนขึ้นและฝึกวิธีไหลของพลังงานขณะยืนแล้ววิ่งช้าๆ ก่อนจะวิ่งเร็วและกระโดด
เธอใช้เวลา 6 วันในท้ายที่สุดเธอก็ได้เชี่ยวชาญขั้นตอนเริ่มต้นของวิธีการไหลของพลังงานและควบคุมคาถาแรกได้
ขณะนี้เธอกำลังยืนขึ้น และเหยียดมือทั้งสองไปข้างหน้า ขณะที่พลังงานของคาถาภูเขาไฟสายฟ้าก็กำลังไหลอยู่ภายในร่างกายของเธอ
ผ่านไปครู่หนึ่ง งูตัวเล็ก 2 ตัวที่ยาวประมาณ 1 เมตรก็พุ่งไปข้างหน้าและพันเสาไว้ข้างหน้าเธอก่อนที่จะ…
*บูม….*
“สุดท้าย…”
…
ในช่วง 6 วันนี้ของการฝึก เอธาน ได้ผ่านการฝึกของรูปแบบของพลังงานธาตุทั้งหมดและเชี่ยวชาญขั้นตอนเริ่มต้นของธาตุทั้งหมดยกเว้นพลังงานธาตุอวกาศ
เขายังพยายามที่จะใช้พลังงานอวกาศ แต่คุณสมบัติของมันไม่เหมาะกับวิธีการไหลของพลังงานแบบนี้เลย ดังนั้นเขาจึงไม่ฝึกมัน
‘ ฉันควรซื้อคู่มือการสะกดธาตุอวกาศในร้านค้าแต้ม ก่อนเพื่อให้รู้ถึงคาถาของธาตุอวกาศ แต่สำหรับตอนนี้ มาลองใช้ขั้นตอนขั้นสูงของวิธีการไหลนี้กัน ‘
————————————————————–
ตอนที่ 65: ฝึกฝน
เทียน่าเปิดกล่องธรรมดาของเธอก่อน
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้รับอาวุธ พัดฟีนิกซ์น้ำแข็ง ( เลียนแบบ ) ]
ตาของเทียน่า เป็นประกายเมื่อเห็นไอเทมและพูดว่า “ฉันได้อาวุธแล้ว มาดูกันว่ามันขายได้เท่าไหร่” เธอเพิ่งได้รับยาสเริมความสัมพันธ์น้ำแข็ง และสร้างประตูปรับแต่งสำหรับมันได้ ดังนั้นเธอจึงมีพลังงานน้ำแข็งอยู่เต็ม 100,000 หน่วย แต่เธอ ไม่ต้องการอาวุธใด ๆ ในตอนนี้
หลังจากที่ได้เห็นพลังของสาวฝาแฝดแล้ว ทั้ง เอธาน และ เทียน่า ก็แทบรอไม่ไหวที่จะเริ่มฝึกวิธีการไหลของพลังงาน
[ ร้านค้าแต้ม ราคา: 80 คะแนน, ราคาซื้อขาย: 78 คะแนน, คะแนนที่จะได้รับ: 70 ]
” ตอนนี้มันเป็นอาวุธราคาแพงชิ้นหนึ่ง มันขายได้หลายคะแนน แม้ว่าจะเป็นแค่ของเลียนแบบก็ตาม” เอธานที่ยืนอยู่ข้าเทียน่าสามารถมองเห็นหน้าจอและแสดงความคิดเห็นได้อย่างเป็นธรรมชาติได้
เทียน่าพยักหน้าขณะที่เธอลดราคาอาวุธ แล้วพูดกับเอธานด้วยรอยยิ้มว่า “ได้เวลาเปิดกล่องธรรมดาของนายแล้ว มาดูกันว่านายจะได้อะไร”
เอธานแตะที่กุญแจบนกล่องแล้วมันก็เปิดออก…
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้รับ ตราประทับแห่งความพิโรธ]
[ ผิดพลาด! คุณไม่สามารถรับรายการนี้ได้ในขณะนี้เนื่องจากระดับต่ำของคุณ ]
…
เทียน่าและเอธานตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งนี้ ขณะเดียวกัน…
ในห้องทำงานของกัปตัน
กัปตันกำลังดูกราฟที่ซับซ้อน เมื่อได้ยินเสียงของ AI ของยานอวกาศ
” กัปตัน ใครบางคนได้ตราประทับแห่งความพิโรธจากกล่องธรรมดา ”
กัปตันเลิกคิ้วขึ้นในขณะที่เขาพูด “เรือของเรามีเพียงผู้เข้าร่วม Energy Plane และ Origin Intent Plane ซึ่งหมายความว่าไม่มีใครสามารถรับมันได้ เพราะพวกเขามีระดับน้อยกว่าที่จะพยายามทำความเข้าใจ … ” เขาหยุดพูดชั่วครู่หนึ่งเขาถาม “มันคือตราประทับใช่มั้ย”
“ตราประทับแห่งความพิโรธ”
เขาพยักหน้า เขาพูดอย่างเฉยเมย “เอาละ ทำตามระเบียบปกติ เขาจะได้รับรายการนี้หลังจากที่เขาไปถึงขั้น Soul Altar Plane “
“ครับกัปตัน ผมจัดการให้แล้ว”
…
[ หลังจากที่คุณไปถึง Soul Altar Plane คุณจะได้รับไอเทมนี้จากมีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ ]
“อะไรนะ…” เอธานพึมพำเมื่อเห็นการตอบกลับ
” มาจบ [ ถ้ำของปีศาจมด ] ในโหมดคู่กันเถอะ เราจะได้รับกล่องธรรมดาอีกกล่อง หลังจากทำเสร็จแล้ว และนายอาจได้ไอเทมที่ขายได้จากมัน ” เทียน่าพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยน
เอธานพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “นั่นเป็นวิธีเดียวแหละนะ”
จากนั้นเขาก็เริ่มดันเจี้ยนในโหมดคู่และทั้งคู่ก็มาถึงถ้ำมืดโดยตรง
เอธานและเทียน่า ได้สร้างลูกไฟแบบธรรมดา และส่งพวกมันไปที่ถ้ำเพื่อให้แสงสว่าง
*กรี๊ดดด*
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสียงก้องกังวานก็ดังขึ้นเมื่อมด 2 ตัวมาถึง
เอธานสร้าง <ทอร์นาโดไฟ> และควบคุมมันโดยใช้พลังลึกลับ ขณะที่มันเผามดทั้งสองให้กลายเป็นแสงสีขาว
หากเขาไม่เข้าใจเจตจำนงแห่งไฟและลม เขาก็คงไม่สามารถกำจัดมดเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายและจะต้องใช้ <สว่านเจาะ> แทน แต่เนื่องจากเขาเข้าใจระดับเจตจำนงระดับกลางแล้วจึงใช้ <สว่านเจาะ> กับมดตัวเล็ก ๆ เหล่านี้และมันคงจะเกินกำลัง
หลังจากเอาชนะมดทั้งสองได้เอธานก็เก็บ <ทอร์นาโดไฟ> ไว้และทุ่มเทแรงกายเพื่อทำให้มันใหญ่ขึ้น
*กรี๊ดดด*
มีมดเข้ามามากขึ้น แต่เอธานจัดการกับพวกมันโดยใช้ <ทอร์นาโดไฟ> ที่ยังคงหมุนโดยใช้พลังงานไฟและอากาศของเขา
แม้ว่าเขาจะหมดพลังงานจากไฟและอากาศ แต่เขายังมีพลังงานอื่น ๆ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน และเขามั่นใจว่า <สว่านเจาะ> ของเขาที่ไม่มีพลังงานไฟจะยังคงสามารถทำลายบอสปีศาจมดได้ เนื่องจาก เขาเข้าใจระดับกลางของเจตจำนง
เจตจำนงของภูเขาไฟสายฟ้า ของเทียน่า นั้นใกล้จะถึงระดับกลางแล้ว และพลังการยิงที่แท้จริงของเธอนั้นสูงกว่าเอธาน เนื่องจากพลังงานพิเศษที่เกิดจากเจตจำนงภูเขาไฟสายฟ้า จาก ไฟ และ สายฟ้า
พายุทอร์นาโดไฟของเอธาน ยังคงเอาชนะมดในขณะที่พวกมันมา และหลังจากเอาชนะมด 8 ตัวสุดท้ายได้ในที่สุด พวกเขาก็เริ่มเคลื่อนตัวเข้าหาบอสมด
ก่อนออกจากถ้ำอีกฝั่ง เอธานได้เตรียม <สว่านเจาะ> 3 อันแล้ว ในขณะที่เทียน่า ได้เสก <ลูกไฟ> 5 ลูกด้วยคาถาภูเขาไฟสายฟ้าของเธอ
เมื่อพวกเขาออกจากถ้ำและเผชิญหน้ากับหัวหน้ามดที่อ้าปากเพื่อปล่อยของเหลวสีเขียวที่เป็นกรด เอธาน และ เทียน่า ก็โจมตี มดปีศาจยักษ์ด้วย
เอธานก็เตรียมพร้อมสำหรับการป้องกันจากการโจมตีด้วยกรด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สร้างแค่ 1 หรือ 2 แต่เป็น 4 ชั้นของบาเรียที่ปกคลุมเขาและเทียน่าไว้
ทั้งคู่ยังคงโจมตีต่อแม้ว่ามดจะกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าและก่อนที่มดจะโจมตีด้วยขาของมันและสุดท้ายมันก็พ่ายแพ้
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้เสร็จสิ้น ดันเจี้ยนถ้ำของปีศาจมด ในโหมดคู่ ]
[ 2 แต้มและกล่องธรรมดาสำหรับ เอธาน และ เทียน่า ]
หลังจากกลับมาที่ ศูนย์กลางของดันเจี้ยน แล้วเอธาน ก็เปิดกล่องธรรมดาทันที ในขณะที่เทียน่า สวดอ้อนวอนขอให้เอธานโชคดี
‘ เดี๋ยวก่อน ฉันไม่ควรสวดอ้อนวอนขอให้โชคดี มิฉะนั้น ถ้าเขาได้รับสิ่งอื่นที่ไม่ควรได้รับเช่น ตราแห่งความพิโรธนั่นแล้ว เอธานก็จะไม่สามารถซื้อวิธีการไหลของพลังงานได้ ‘
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอปรารถนา ‘ ฉันหวังว่าเอธานจะได้อาวุธมาเพื่อที่เขาจะได้ขายมัน ‘
เอธานแตะกุญแจแล้วกล่องก็เปิดออก…
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้รับคฑาไม้ 1x ]
เอธานดูที่คำอธิบายแล้วกด [แลกเปลี่ยน]
[ คฑาไม้ ]
– คาถาธาตุไม้ที่ปล่อยออกมาผ่านไม้เท้านี้ จะได้รับบูสต์เพิ่มเติมตามคาถา
…
…
[ ร้านค้าแต้ม ราคา: 64 คะแนน, ราคาซื้อขาย: 62 คะแนน, คะแนนที่จะได้รับ: 54 ]
เอธานพยักหน้าเมื่อเห็นราคาและลดราคาก่อนจะหันไปทางเทียน่าแล้วถามว่า “แล้วอาวุธของเธอล่ะ เธอขายมันไปแล้วเหรอ?”
เทียน่าพยักหน้าและตอบด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ฉันได้รับคะแนนทันที หลังจากที่เราเสร็จสิ้นดันเจี้ยน ตอนนี้ฉันสามารถซื้อวิธีการไหลของพลังงาน [ สายฟ้าฟาดของงูเพลิง ] ได้แล้ว ”
ขณะที่เอธานกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนเช่นกัน
[ ไม้เท้าของคุณถูกขายแล้ว ได้รับ 54 แต้ม ]
เอธานหัวเราะออกมาเมื่อเห็นมันและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สมบูรณ์แบบ มาซื้อ วิธีการไหลของพลังงาน และเริ่มฝึกกันทันทีเลยเถอะ”
เทียน่าพยักหน้าอย่างตื่นเต้น ขณะที่ทั้งคู่เปิดร้านค้าแต้มก่อนที่จะซื้อวิธีการไหลของพลังงาน
หลังจากซื้อวิธีการไหลของพลังงาน พวกเขาได้รับข้อความทันที
[ แนะนำให้ฝึกวิธีการไหลของพลังงานในห้องทดสอบการสะกดคำ ]
เมื่อเห็นสิ่งนี้เอธานก็หันหน้าไปทางเทียน่า และพูดว่า “เราจะไปที่นั่นและออกมาหลังจากที่เราเข้าใจขั้นเริ่มต้น และหลังจากเรียนรู้วิธีใช้เวทมนตร์ในวิธีการแล้วเท่านั้น”
เทียน่าพยักหน้าเห็นด้วยขณะที่ทั้งคู่หายตัวไป
เอธานเลือก [ ห้องทดสอบการสะกดคำ ] เมื่อเขามาถึงห้องสีขาวทรงกลมก่อนจะนั่งลงก่อนจะหลับตาลง
เมื่อพวกเขาซื้อวิธีการไหลของพลังงานแล้ว พวกเขาได้รับคู่มือที่อยู่ในสินค้าคงคลัง และข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการก็ถูกส่งเข้าไปในใจของพวกเขาด้วย
คู่มือสินค้าคงคลังหมายความว่าพวกเขาจะได้รับฉบับพิมพ์หลังจากออกจากหลอดเสมือน
‘ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่เข้มงวดเกินไปเกี่ยวกับคนอื่น ๆ ที่เห็นเนื้อหาของวิธีการไหลของพลังงาน ที่เราสามารถซื้อได้จากร้านค้าแต้ม…อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่เห็นความสำคัญของมันในสายตาของพวกเขา ‘
เอธานเขย่าหัวของเขาขจัดความคิดที่ไร้ประโยชน์และมองไปที่เนื้อหาของวิธีการไหลของพลังงาน
เขาเริ่มต้นด้วยพลังงานไฟ เขาเปลี่ยนพลังงานไฟ ซึ่งอยู่ในรูปแบบพลังงานเป็นพลังงานที่เต็มเปี่ยม โดยทำตามคำแนะนำ
รูปแบบพลังงานที่ใช้งานได้ คือ รูปแบบที่อยู่ระหว่างรูปแบบพลังงานธรรมดาและรูปแบบขั้นแรก
รูปแบบพลังงานหมายถึงสถานะที่พลังงานยังคงอยู่ในอาณาจักรพลังงานของเขา ซึ่งขณะนี้อยู่ในสถานะเหลวและรูปแบบแรกหมายถึงสถานะที่แสดงองค์ประกอบธาตุของพลังงานนั้นๆ
เช่นเดียวกับที่พลังงานไฟในอาณาจักรพลังงานของเขาจะกลายเป็นลูกบอลแห่งไฟ เมื่อเขาใช้ <ลูกไฟ> หลังจากที่ถูกปล่อยออกจากมือของเขา
พลังงานที่เต็มเปี่ยมนั้น สร้างบางสิ่งที่อยู่ระหว่างพวกมัน มันไหลเหมือนของเหลว แต่ยังแสดงคุณสมบัติของเปลวไฟได้ ในขณะที่ไหลอยู่ภายในร่างกายของเขา
เอธานประหลาดใจที่พบความคล้ายคลึงกันระหว่าง รูปแบบพลังงานเต็มเปี่ยม และ พลังงานซึ่งได้มาจากวังวนสีดำ ที่ปรับแต่งร่างกายของเขา หลังจากดูดซับพลังงานแก่นแท้ขององค์ประกอบธาตุแบบต่างๆ
จากนั้นเขาก็อ่านข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการไหลของพลังงานการแตกหักที่ยิ่งใหญ่ต่อไปและปฏิบัติตาม
เขาควบคุมพลังงานที่เต็มเปี่ยม ภายในร่างกายและปฏิบัติตามเส้นทางที่อธิบายไว้ในข้อมูล
เส้นทางที่อธิบายไว้ในวิธีนี้คือบริเวณไหล่ แขน และมือทั้งสองข้างของเขา
ในตอนแรก เขามีความยากลำบากในขณะที่เขาชนกับพลังงานที่เต็มเปี่ยมนั้น ซึ่งไหลอยู่ในเส้นทางของแขนและไหล่ของเขา แต่หลังจากพยายาม เขาได้รับกระแสตอบรับและควบคุมพลังงานที่เต็มเปี่ยมได้ ขณะที่ไหลผ่านแขนและไหล่ทั้งสองข้างของเขา
เขาสังเกตเห็นว่ากระแสพลังงานจะรวมตัวกันที่ฝ่ามือและนิ้วของเขา เขารู้สึกได้ว่าพลังงานสะสมในลักษณะแปลก ๆ ในฝ่ามือของเขา
หลังจากไหลผ่านไหล่และแขนของเขา มันจะไหลไปทางมือของเขาอย่างทรงพลัง
แต่แทนที่จะถูกรบกวนเหมือนตอนที่เขาชนกับพลังงานโดยไม่ได้ตั้งใจ มันจะสะสมอยู่ในฝ่ามือของเขา
จากนั้นเขาก็ยังคงแล่นเรืออย่างราบรื่นในขณะที่ปฏิบัติตามวิธีการ
‘ ไม่ยากอย่างที่คิด ‘ เอธานคิดขณะฝึกวิธี การไหลของพลังงานที่แตกหักอย่างยิ่งใหญ่
ถ้ามีคนเห็นเอธานฝึกวิธีการไหลของพลังงานนี้แบบง่ายๆ แบบนี้ พวกเขาอาจจะฆ่าตัวตายก็ได้
…
เทียน่ายังฝึกฝนวิธีการไหลแม้ว่าจะไม่ราบรื่น เหมือนเอธานซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ
เธอยังเดินตามเส้นทางที่อธิบายไว้ใน วิธีการไหลของพลังงาน แต่เป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะย้าย พลังงานที่ไหลอย่างเต็มเปี่ยมนั้นภายในร่างกายของเธอ
เธอใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็มเพื่อจบขั้นตอนการไหล เพียงครั้งเดียว ในขณะที่เธอจะรู้สึกเจ็บปวดเมื่อใดก็ตามที่พลังงานชนกันอย่างผิดพลาด
ซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก โดยทั่วไปแล้วเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พลังงานที่เต็มเปี่ยมไหลภายในร่างกาย
————————————————————–
ตอนที่ 64: วิธีการทำให้พลังงานเต็มเปี่ยม ฝาแฝดทรงพลัง
เอธานมองไปที่คำอธิบายของอาวุธ
[ ดาบแส้ เวนเซร่า ]
-คุณสมบัติสายฟ้า
– ตัวแส้ทำจากใบมีดขนาดเล็กและด้ามจับทำจากแร่สีเขียว ซึ่งสามารถเข้ากันได้ดีกับมือในการถือมันและด้วยวัสดุเพียงเล็กน้อยนั้นสามารถทำให้ด้ามจับถนัดมือยิ่งขึ้น
-แส้สามารถยืดออกได้ไกลถึง 50 เมตร และคุณสามารถฉีดพลังงานสายฟ้าเข้าไปเพื่อเพิ่มพลังและโอกาสที่จะทำให้คู่ต่อสู้เป็นอัมพาตเมื่อโดนได้
เมื่อมองไปที่อาวุธเอธานก็คิด ‘ อืม… ฉันไม่คิดว่าฉันจะสามารถใช้มันในการต่อสู้ได้ทันที ดูเหมือนอาวุธนี้จะใช้ยาก และฉันไม่อยากเสียเวลาฝึกอาวุธแบบนี้ ‘
จากนั้นเขาก็มองไปที่เทียน่าและพูดว่า “ฉันจะไม่ใช้อาวุธนี้ในการต่อสู้ ดังนั้นฉันอาจจะขายมันตอนนี้เลย”
เทียน่าพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ ดูเหมือนว่าถ้าจะต้องใช้อาวุธนี้ เราต้องฝึกฝน แต่หลังจากเปิดหน้า 3 ของ ร้านค้าแต้ม และซื้อวิธีการทำให้พลังงานไหลออกมาอย่างเต็มเปี่ยมให้ได้ เราก็ต้องใช้เวลาในการควบคุมมันด้วย เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับการควบคุมอาวุธ ในตอนนี้ “
จากนั้นเอธานก็กดปุ่ม [ แลกเปลี่ยน ] ซึ่งแสดงอยู่ใต้คำอธิบายของไอเทม
[ ร้านค้าแต้ม ราคา: 50 คะแนน, ราคาซื้อขาย: 48 คะแนน, คะแนนที่จะได้รับ: 40 คะแนน ]
[ ใครซื้อสินค้านี้จะจ่าย 48 คะแนน แต่คุณจะได้เพียง 40 คะแนน จะหัก 8 คะแนนออก ]
เอธานลดราคาอาวุธ และหลังจากนั้น มันถูกแสดงบนหน้าจอขนาดใหญ่ที่สว่างขึ้นบนท้องฟ้า
เขาสามารถตรวจสอบรายการอย่างใกล้ชิดในอินเทอร์เฟซส่วนตัว แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา ข้อความก็ปรากฏขึ้น
[ อาวุธของคุณขายสำเร็จ ได้รับ 40 แต้ม ]
เอธานประหลาดใจที่มันผ่านไปด้วยดีและรวดเร็ว ‘ ต้องมีใครสักคนที่เชี่ยวชาญอาวุธประเภทแส้และต้องหาทางซื้อมัน ‘
ในเวลานี้ เทียน่ายังพูดอีกว่า “ฉันคิดว่าฉันจะขายอาวุธของฉันด้วย เวทมนตร์ของฉันก็มีพลังมากกว่าอยู่ดี และสิ่งสำคัญคือต้องฝึกฝนวิธีการไหลของพลังงานอีก ซึ่งจะทำให้เรามีพลังมากขึ้นกว่า”
เอธานพยักหน้าเห็นด้วยและพูดว่า “จริงสิ เธอควรทำอย่างนั้น”
จากนั้นเทียน่าก็กดปุ่ม [ แลกเปลี่ยน ] ใต้คำอธิบายอาวุธของเธอ
[ ร้านค้าแต้ม ราคา: 62 คะแนน, ราคาซื้อขาย: 60 คะแนน, คะแนนที่จะได้รับ: 52 คะแนน ]
…
ราคาของปืนไรเฟิลนั้นสูงเพราะมันมีการใช้งานที่ตรงไปตรงมาและง่ายต่อการใช้งาน มันสร้างความเสียหายโดยตรงได้สูงมากสำหรับผู้ที่เข้าใจเจตจำนงแห่งไฟระดับกลาง และใช้พลังงานไฟ ได้
แต่คาถาของเทียน่านั้นทรงพลังกว่าเพราะเธอมีเจตจำนงของคาถาภูเขาไฟสายฟ้า ซึ่งมอบพลังงาน ภูเขาไฟสายฟ้า ที่ทรงพลังกว่าให้กับเธอ
เมื่อเธอวางขายมันแล้วทั้งคู่ก็เลือกที่จะรอ คะแนนของเอธานกลายเป็น 82 หลังจากขายอาวุธ ดังนั้นเขาจึงเริ่มเรียกดูไอเท็มในหน้า 3 ของร้านค้าแต้มได้
ในหน้านี้ เอธานพบไอเท็มประเภทใหม่มากมาย เช่น วิธีการไหลของพลังงาน และ คาถา ที่สามารถใช้ร่วมกับ การไหลของพลังงานต่างๆ
[ เทคนิคพลังน้ำไหลแบบรุนแรง ]- ★
‘ โอ้… ดีที่เราจะได้เห็นคำอธิบายของ เทคนิคการไหลอันนี้ ‘
[ วิธีของการทำให้พลังน้ำไหลแบบรุนแรง ]
– ราคา: 50 คะแนน
– ต้องใช้ร่างกายที่เข้าใจถึงน้ำ
– โดยการไหลของพลังงานน้ำภายในร่างกายของคุณตามวิธีการไหลนี้ จะทำให้พลังงานน้ำที่ไหลได้รับความหนาแน่นและพลังมากขึ้น ซึ่งทำให้คาถาของคุณมีพลังและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
– มาพร้อมกับ 2 คาถา: ค้อนหนักหน่วง และ น้ำท่วมที่บ้าคลั่ง
– ขั้นเริ่มต้น ขั้นขั้นสูง ขั้นหลัก
หมายเหตุ: – เช่นเดียวกับ วิธีการไหลของพลังงาน และคาถาทั้งหมด คุณต้องฝึกฝนจนถึงระดับพีคของขั้นเริ่มต้น หากคุณอยู่ใน Energy Plane เนื่องจากร่างกายที่ไม่ได้รับการชำระมลทินมาของคุณจะไม่สามารถรับ พลังงานที่เต็มเปี่ยมและไหลผ่านร่างกายของคุณได้
เมื่ออ่านคำอธิบายเสร็จแล้ว เขาก็ได้ยินเสียงของเทียน่า “เอธาน ฉันขายอาวุธของฉันได้แล้ว ฉันจะเริ่มมองหาวิธีการไหลของพลังงานที่เหมาะสมกับฉันด้วย”
” แน่นอน มองหาวิธีการไหลของพลังงาน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง สายฟ้า และ ไฟ เพราะมันจะเพิ่มความสามารถโดยรวมของคุณได้ ”
จากนั้นเขาก็เรียกดูวิธีการไหลของพลังงานอื่นๆต่อไป
[ วิธีการไหลของเปลวไฟ ]- ★
[ สี่ชิงช้าแห่งลมหมุน ]- ★★
…
ขณะที่เอธานกำลังดูสิ่งต่างๆ ในหน้า 3 เขาพบวิธีการไหลที่น่าสนใจ
[ วิธีการไหลแบบกระแทกหัก ]
– ราคา: 100 คะแนน
– ข้อกำหนด: ร่างกายมีคุณสมบัติใด ๆก็ได้
– คุณสามารถใช้พลังงานธาตุชนิดใดก็ได้ในสถานะการไหลของพลังงานที่ใช้งานอยู่โดยใช้วิธีนี้ (แน่นอน คุณต้องมีร่างกายของคุณลักษณะนั้น )
– พลังงานที่ใช้งานใด ๆ ที่ไหลอยู่ภายในร่างกายของคุณโดยวิธีการไหลของพลังงานที่เต็มเปี่ยม นี้จะเข้มข้น
– ยิ่งไหลไปตามแบบที่อธิบายนานเท่าไหร่ ยิ่งใช้เวทย์มนต์ได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลมากเท่านั้น แต่ร่างกายของคุณจะได้รับบาดเจ็บภายในและอ่อนล้า หากคุณปล่อยให้พลังงานไหลผ่านด้วยวิธีนี้เป็นเวลานาน ดังนั้นให้หาขีดจำกัดของคุณก่อน
– คาถาที่มาพร้อมกับวิธีนี้ ได้แก่ การยิงที่ทรงพลัง, การสาดที่ทรงพลัง และ คะแนนที่ทรงพลัง
หมายเหตุ: – วิธีการไหลนี้อันตรายมาก แนะนำให้ใช้เพื่อการฝึกฝนเท่านั้น และไม่แนะนำสำหรับการใช้งานในระยะยาว
เมื่อมองไปที่วิธีการไหลของพลังงานนี้ เอธานก็คิดว่า ‘ ฉันไม่ต้องการที่จะฝึกฝนในองค์ประกอบธาตุแบบเดียวและมันบอกว่าเป็นการดีสำหรับการฝึกฝน ฉันสามารถฝึกองค์ประกอบทั้งหมดโดยใช้วิธีนี้ได้ในตอนนี้ และฉันจะซื้ออันที่ดีกว่านี้ในภายหลัง ‘
แต่เมื่อดูราคาแล้ว เขายังต้องการอีก 20 คะแนน
จากนั้นเขาก็ถาม เทียน่า ที่ยืนอยู่ข้างเขา ขณะที่ดูสิ่งของในหน้า 3 “เธอพบวิธีการที่เหมาะสมหรือไม่”
เทียน่าพยักหน้าช้า ๆ และพูดอย่างหมดหนทาง ” ฉันพบสิ่งหนึ่ง เรียกว่า [ สายฟ้าฟาดของงูเพลิง ] แต่มันมีราคา 120 คะแนนและฉันมีเพียง 77 คะแนน ฉันยังขาด 43 คะแนนในการซื้อ “
” ฉันยังต้องการอีก 20 คะแนนเพื่อซื้อวิธีการไหลของพลังงานที่ฉันเลือกเหมือนกัน ดังนั้นเรามาจบดันเจี้ยน [ ถ้ำของปีศาจมด] กัน และโดยบังเอิญ ถ้าเรามีอาวุธหรือยาชนิดใด เราก็ไม่ต้องการอะไรจากกล่องสีขาวแล้ว เราสามารถขายมันและซื้อวิธีการไหลของพลังงานได้ ”
เทียน่าพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อเอธานเริ่มดันเจี้ยน [ ถ้ำปีศาจมด ]
[ ตรงกัน…]
[ การจับคู่เสร็จสมบูรณ์ ]
[ ทีม ]
– เอธาน
– เทียน่า
– เรนนี่
– เจนนี่
หลังจากนั้น ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าพวกเขาเมื่อพวกเขามาถึงถ้ำที่เต็มไปด้วยความมืดมิด
*กรี๊ดดด*
พวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่ว ทำให้ยากสำหรับพวกเขาที่จะระบุตำแหน่งที่แน่นอนของพญามด
เอธานร่ายมนตร์ลูกไฟ 4 ลูกที่ลอยอยู่รอบตัวพวกเขา ในที่สุดพวกเขาก็มองเห็นสภาพแวดล้อมได้ชัดเจน
พื้นดินที่พวกเขายืนอยู่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30 เมตร และมีรูในถ้ำมากมาย
เทียน่าและเด็กหญิงอีกสองคนในทีมก็ปล่อยลูกไฟและปล่อยให้พวกมันลอยไปรอบ ๆ รูถ้ำโดยใช้พลังเวทย์มนต์ของพวกมัน
เด็กสาวคนหนึ่งอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนหน้านั้น ได้ยินเสียงก้องจากถ้ำสองแห่ง และมดปีศาจสองตัวที่มีความยาว 8 เมตรและสูง 3 เมตรวิ่งเข้ามาหาพวกเขา
ด้วยร่างสีดำสนิทและเขาสีน้ำตาลสองอันบนหัวของพวกเขา พวกเขาเดินเข้ามาหาพวกเขา
เอธานรู้สึกว่าเขาสามารถฆ่ามดสองตัวนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่เขากลับจับมือตัวเองไว้ในขณะที่ส่งสัญญาณให้เทียน่าทำเช่นเดียวกัน
เด็กหญิงอีกสองคนที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมสังเกตเห็นท่าทางของเอธานและพยักหน้าให้กันและกัน ขณะที่ทั้งสองโบกมือและกระสุนสีดำเหมือนกรงเล็บพุ่งเข้าหามดแต่ละตัว ซึ่งแบ่งมดสองตัวออกเป็นสี่ชิ้น
เอธานและเทียน่า มองเข้าไปใกล้พวกเธอและตกใจเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนมีใบหน้าและสีผมคล้ายกัน ยกเว้นว่ามีผมสีดำยาวในขณะที่อีกคนมีผมบ็อบสั้นที่มีขอบมน
หลังจากเอาชนะมดได้ หญิงสาวผมยาวก็พูดขึ้นว่า “คุณทั้งคู่ยืนดูได้ ฉันและน้องสาวของฉันสามารถจบดันเจี้ยนนี้ได้ด้วยตัวเอง”
เทียน่ากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เอธานก็หยุดเธอและพูดด้วยรอยยิ้ม “โอ้ ถ้าอย่างนั้น ขอบคุณมาก เราจะรอดูการแสดง”
จากนั้นเขาก็หันหน้าไปทางเทียน่าและพูดว่า “หลังจากดูพวกเขาจบดันเจี้ยนนี้ เราก็สามารถจบโหมด ดูเอลได้ด้วยตัวเอง”
‘ ทั้งคู่อยู่ในสถานะพลังงานเต็มเปี่ยมและอายุประมาณ 19 หรือ 20 ปี พวกเขาต้องมาจากที่ๆมีภูมิหลังที่ดี ‘
*กรี๊ดดด*
เสียงกรีดร้องที่แหลมคมดังขึ้นอีกครั้งจากทุกรูในถ้ำเมื่อได้ยินเสียงดังก้องกังวานมากขึ้น
คราวนี้ มด 4 ตัวมาพร้อมกัน แต่พี่สาวใช้เวทมนตร์เดียวกัน รูปแบบนี้ดำเนินต่อไปหลังจากที่มด 8 ตัวส่งเสียงร้องครวญครางต่อไป
คาถาของน้องสาวสามารถเอาชนะมดด้วยกระสุนครั้งเดียว และดูเหมือนว่าพวกเธอไม่จำเป็นต้องมีปัญหาในการร่ายมนตร์อย่างต่อเนื่อง เพราะพวกเธอเอาชนะมดทั้ง 8 ตัวได้แล้ว
หลังจากดูคาถาของพวกเขาหลายครั้งแล้ว เอธาน ก็มั่นใจว่าพลังงานแห่งความมืดที่พวกเขาใช้นั้นแตกต่างจากพลังงานมืดที่เขาคุ้นเคยอย่างมาก
หลังจากมดทั้ง 8 ตัวถูกกำจัด สาวๆทั้งสองก็เริ่มเคลื่อนตัวไปยังโพรงถ้ำ
“ตามพวกมันไป เสียงโหยหวนที่เราได้ยินทุกครั้งดูเหมือนจะมาจากบอสหลัก”
หลังจากเดินอยู่ในโพรงถ้ำเป็นเวลา 5 นาที พวกเขาก็มาถึงพื้นที่กว้างอีกที่หนึ่ง ซึ่งมีมดยักษ์ขนาดประมาณ 50 เมตร สูง 4 ชั้น พ่นสเปรย์ของเหลวสีเขียวเป็นช่วงกว้างจากปากของมัน
มดดูแปลกเพราะหัวของมันเป็นสีเขียวทั้งหมด ซึ่งมีเขาสีเข้มสองเขาและตัวสีดำของมันมีจุดสีเขียวขนาดยักษ์
เอธานเรียก <ม่านกั้นแสง> ซึ่งปกคลุมเขาและเทียน่า เมื่อเห็นสเปรย์สีเขียวพุ่งเข้ามาหาพวกเขา
*แฉ่…แฉ่…แฉ่*
เมื่อเห็นว่าบาเรียของเขากำลังละลาย เอธานจึงเรียกบาเรียแห่งแสงและความมืดมาทับกัน อันหลังก็อยู่ด้านบนสุดของอดีต
สาวๆทั้งสองถูกปกคลุมไปด้วยชุดเกราะขนยาวสีเข้มซึ่งเอธาน รู้สึกว่าสร้างขึ้นจากพลังแห่งความมืดอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเธอ พวกเธอมีหมวกเหมือนหมาป่าและกรงเล็บเหมือนหมาป่า
สเปรย์ของเหลวสีเขียวไม่สามารถทำอะไรกับเกราะของพวกเธอได้ ขณะที่พวกมันเริ่มเคลื่อนตัวเข้าใกล้มดมากขึ้น
เมื่อเห็นพวกมันเข้ามาใกล้ มดก็กระโดดขึ้นและขาทั้งสองข้างแยกออกจากตัวของมัน และพุ่งเข้าหาสาวๆสองคนด้วยความเร็วสูง
แต่สีหน้าของพวกเธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ขณะที่พวกเธอโบกมืออย่างทรงพลัง เมื่อขาทั้งสองข้างเข้ามาใกล้และหักออกเป็น 2 ชิ้นด้วยกรงเล็บสีดำที่ปิดมือของพวกเขา
พวกเธอไม่รอให้เสียเวลา ในขณะที่ยิงกระสุนเล็บไปทางมดที่ยังคงอยู่ในอากาศ กระสุนปืนที่พวกเขายิงในครั้งนี้นั้นใหญ่กว่าและหนาแน่นกว่ามาก เนื่องจากพวกเธอสามารถตัดแม้แต่มดบอสตัวนี้ได้สำเร็จ
เอธานรู้สึกว่าพี่สาว น้องสาวคู่นี้ใช้พลังงานมหาศาลในการโจมตีครั้งสุดท้าย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่น่าเป็นห่วงในโลกเสมือนจริงนี้
[ ขอแสดงความยินดี! คุณเสร็จสิ้น ดันเจี้ยนถ้ำของปีศาจมด แล้ว ]
[ 5 แต้มให้ เอธาน, เทียน่า, เรนนี่ และ เจนนี่ ]
[ 1x กล่องสีขาวแบบธรรมดาสำหรับ เอธาน, เทียน่า, เรนนี่ และ เจนนี่ ]
[ คุณได้ปลดล็อคตัวเลือกในการเล่นดันเจี้ยนนี้ในโหมดคู่ หากคุณสามารถจบดันเจี้ยนนี้เป็นสองคนได้ คุณจะได้รับคะแนนเพิ่ม 2 คะแนน ]
หลังจากนั้น เอธาน และ เทียน่า ก็กลับไปที่ ศูนย์กลางของดันเจี้ยน
” สาวๆสองคนนั้นดูเหมือนจะฝึกวิธีการไหลของพลังงานแห่งความมืด แต่ฉันก็รู้สึกว่าพวกเขาเข้าใจประเภทพิเศษของเจตจำนงแห่งความมืด เช่นเดียวกับเจตจำนงของคาถาภูเขาไฟสายฟ้าของฉัน “
เอธานพยักหน้าเห็นด้วยและเปลี่ยนเรื่องโดยกล่าวว่า “เปิดกล่องสีขาวธรรมดาๆนี่กันเถอะ ถ้ามันเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับเราหรืออาวุธ เราก็ขายมันได้ และในที่สุดก็เริ่มฝึกวิธีการไหลของพลังงานได้”
…
————————————————————–
ตอนที่ 63: คะแนนและกล่องแบบธรรมดา
[ ถ้ำปีศาจมด ]- ★
[ ที่ราบลาวาของตัวนิ่ม ]- ★
[ ถ้ำนกอินทรีหลงทาง ]- ★★
[ขุมนรกอันยิ่งใหญ่]- ★★
[ ถ้ำหมีดำ ]- ★★
[ ขุมนรกหมูอมตะ ]- ★★★
[ ห้องใต้ดินของแมลงสาปป่าเถื่อน ]- ★★★
” ยิ่งดาวมากขึ้น มันคงหมายถึงความยากที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้ว หนึ่งในสิ่งที่ฉันทำเสร็จแล้วคือ [ ที่ราบลาวาของตัวนิ่ม ] เมื่อฉันเริ่มเข้าไปหามัน ฉันมาถึงที่ราบลาวาพร้อมกับคนสุ่มอีก 3 คน และตัวนิ่มตัวใหญ่นี้กลิ้งเป็นก้อนลาวา และพยายามจะโจมตีเรา มันพ่นลาวาพ่นออกมาจากปากของมันทุกที่ และเราต้องโจมตี เมื่อมันทำอย่างนั้น เพราะถ้ามันกลายเป็นลูกบอล เราก็จะไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เลย”
เทียน่าสูดหายใจเข้าก่อนจะพูดต่อ “และเราต้องทำให้จบในครั้งเดียว หลังจากที่มันกลายเป็นร่างปกติและโจมตีเราด้วยปากของมัน เพราะถ้าเราไม่ทำให้มันจบในจังหวะเดียว เมื่อมันกลายเป็นลูกบอล มันจะค่อย ๆ ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บทั้งหมด ในขณะที่กลิ้งไปทุกที่ในรูปแบบลูกบอล “
เอธานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เข้าใจแล้ว และเดาว่าถ้าเป็นที่ราบลาวา ก็คงยากที่จะเคลื่อนที่ไปรอบๆ ไม่ได้ และเราต้องระวังตัว”
“ใช่ พื้นดินเป็นสีแดงทั้งหมด เพราะด้านล่างเป็นทะเลลาวา พื้นผิวแตกบ่อย และถ้านายไม่ระวัง นายอาจตกลงไปในนั้นและตาย และถ้านายตาย นายจะไม่ได้รับคะแนน แม้ว่าอื่นๆในตี้จะเอาชนะตัวนิ่มได้ก็ตาม นอกจากนี้ยังมีรางวัลเล็กน้อยหลังจากที่นายเอาชนะมันได้อีก ”
เอธานพยักหน้า เมื่อได้ยินทั้งหมดนั้นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ก็ในเมื่อเธอมีข้อมูลเกี่ยวกับดันเจี้ยนนั้นแล้ว พวกเราจะเริ่มที่มันก่อนล่ะนะ”
เมื่อกล่าวเช่นนี้ เขาก็เลือก [ ที่ราบลาวาของตัวนิ่ม ]
[ ตรงกัน…]
[ จับคู่เสร็จสิ้น ]
[ ทีม ]
-เอธาน
-เทียน่า
-เวลพิน
-เบธ
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปเมื่อมาถึงที่ราบลาวา
ทั้ง 4 คนก็ปรากฏตัวเคียงข้างกัน และหลังจากนั้น…
*ตุ้บๆๆๆ*
พวกเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ ข้างหลังพวกเขาและหันกลับมา และได้เห็นตัวนิ่มสูง 3 เมต พ่นไอพ่นแห่งลาวาที่พุ่งเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างรวดเร็ว
เอธานหลบในขณะที่ [ ปีกสายฟ้า ] ปรากฏขึ้นข้างหลังเขา และเทียน่า ก็หลบเช่นกัน เมื่อปีกคู่หนึ่งที่มีสีแดงและสีส้มเป็นประกายปรากฏขึ้นข้างหลังเธอ
อีก 2 คนในทีม เวลพิน และเบธก็หลบด้วยวิธีการของตัวเอง แต่น่าเสียดายสำหรับเบธ ขณะที่เขาหลบอย่างเร่งรีบด้วยการกระโดดที่ได้รับการสนับสนุนจากคาถาอากาศของเขา เขาก็ตกลงบนพื้นไม่ไกลจากจุดเดิม และเขาก็ตาย
เพราะพื้นดินที่เขาลง มันกระแทกเปิดออกอย่างกะทันหันและตกลงไปในลาวา
[ เบธถูกคัดออก ]
ตัวนิ่มลาวากลายเป็นลูกบอลลาวาและกลิ้งเข้าหาพวกเขา
เทียน่าพูดด้วยน้ำเสียงกังวลเมื่อเธอร่อนลงพื้น “เอธานอย่าบินด้วยปีก ลงให้เร็ว ถ้าคุณบิน พลังงานทั้งหมดของคุณจะถูกใช้ไปทีละน้อย และความเร็วของการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นหากคุณยังคงบินต่อไป”
เอธานสังเกตเห็นสิ่งนี้แล้วและลงมาข้างล่างด้วย
“ดูเหมือนว่าเธอสองคนจะรู้จักกันแล้ว และผู้หญิงที่นั่นดูเหมือนจะรู้รายละเอียดบางอย่าง” เสียงหนึ่งดังก้องไปยัง เอธาน และ เทียน่า
ทั้งสองมองไปทางซ้าย ซึ่งมีคนอายุประมาณ 25 ปียืนอยู่ไม่ไกลจากพวกเขามากนัก
เขามีผมยาวสีขาวและใบหน้าที่โกนสะอาด ความสูงของเขาอยู่ที่ประมาณ 5.6 ซึ่งค่อนข้างเล็ก และร่างกายของเขาเรียวยาวราวกับไม้ไผ่
เขายิ้มให้พวกเขาเห็นฟันของเขาและพูดว่า “ฉันมีความสัมพันธ์ธาตุ อากาศ ไฟ น้ำ แสง ไอน้ำ และเสียง ถ้าพวกเธอมีกลยุทธ์ใด ๆ ฉันก็พร้อมเสมอ”
แต่ในขณะที่เขาพูด ลูกแมกมาที่เป็นตัวนิ่ม ก็กลิ้งมาหาเขา ขณะที่เขาหลบไปทางเอธาน และ เทียน่า
เทียน่าพูดอย่างไม่อดทน ” เรามีกลยุทธ์ที่จะทำให้ ตัวนิ่มนี้ ตายได้ในนัดเดียว แต่ถ้านายต้องการที่จะช่วยเราก่อน ช่วยหันเหความสนใจของตัวนิ่มด้วยเสียงของนายที ในขณะที่เราจะเตรียมคาถาที่ทรงพลัง ครั้งต่อไปที่มันเปลี่ยนรูปแบบเราจะสามารถฆ่ามันได้ในนัดเดียว ”
” ง่ายจัง เอาล่ะ ฉันจะทำให้มันเสียสมาธิก่อน ” เมื่อพูดอย่างนั้นเขาก็รวมอากาศไว้ใต้เท้าพร้อมกับธาตุอากาศ ขณะที่เขากระโดดเหมือนสปริงไปทางทิศตะวันตก
ขณะที่เขาอยู่บนท้องฟ้า เขาได้ปรบมืออย่างทรงพลังด้วยมือทั้งสองของเขาไปยังตัวนิ่ม ซึ่งส่งคลื่นเสียงโจมตีเข้าหามัน ดึงดูดมันได้สำเร็จ
ในขณะเดียวกัน เอธานและ เทียน่า ก็สร้างเวทย์มนตร์คาถาขึ้น
เอธานสร้างคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันของเขา <สว่านเจาะ> และ เทียน่า เรียก ปืนไรเฟิลเบลซซิ่ง ของเธอออกมา ก่อนที่จะชาร์จด้วยพลังงานคาถาภูเขาไฟสายฟ้าของเธอ
แต่กลับมีฉากประหลาดเกิดขึ้น ตัวนิ่มที่เคลื่อนเข้าหาเวลพิน ประสบอุบัติเหตุ
ขณะที่มันกลิ้ง พื้นผิวระเบิดและตกลงมา ซึ่งทำให้ทั้งเอธานและ เวลพินตกตะลึง แต่ไม่ใช่กับเทียน่า ขณะที่เธอรีบพูด “อย่าปล่อยสติของนายลง มันจะยิงพลังออกมาจากที่ใดก็ได้ในตอนนี้ เมื่อมันอยู่ในทะเลลาวา ประสาทสัมผัสทั้งหมดของมันมีพลังพร้อมกับความเร็วของมัน ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด ใบหน้าของเอธาน และเวลพิน เริ่มจริงจังเมื่อพวกเขาขยายพลังงานลึกลับ ออกไปด้านนอก
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ใบหน้าของ เอธาน และ เทียน่า ก็เปลี่ยนไปเมื่อทั้งคู่หลบไปในทิศทางที่ต่างกัน
ไม่ถึงวินาทีหลังจากที่พวกมันหลบได้ ตัวนิ่มก็ปรากฏตัวขึ้นที่จุดที่พวกเขายืนก่อนหน้านี้ และกลับสู่รูปแบบปกติก่อนที่จะอ้าปากออกและพ่นไอพ่นของลาวาออกไปทุกหนทุกแห่ง
“โจมตีเดี๋ยวนี้!!”
เมื่อได้ยินเสียงของเทียน่า เอธานก็ขว้าง <สว่านเจาะ> ด้วยกำลังกายเต็มที่ไปยังหัวของตัวนิ่มลาวา ขณะที่เทียน่าก็โจมตีด้วยปืนไรเฟิลเบลซซิ่ง ของเธอด้วยลำแสงของพลังงานคาถาภูเขาไฟสายฟ้า พุ่งเข้าใส่
เวลพินเองก็ไม่หยุดยั้ง ในขณะที่เขาปล่อยใบมีดน้ำแรงดันสูงด้วยพลังการหั่นอันทรงพลังและกระแทกที่ท้องของตัวนิ่ม
*อุนรรรรรรรรรรรรร*
…
[ ยินดีด้วย คุณเอาชนะ ตัวนิ่มลาวา ได้แล้ว ]
[ 5 คะแนนให้กับ เอธาน และ เวลพิน และ 0 คะแนนสำหรับ เบธ ]
[ 1x กล่องธรรมดา ให้ เอธาน และ เวลพิน สำหรับการผ่านดันเจี้ยนให้สำเร็จ ]
[ คุณได้ปลดล็อคตัวเลือกในการเล่นดันเจี้ยนนี้ในโหมดคู่ หากคุณสามารถเอาชนะ ตัวนิ่มลาวา แบบคู่ 2 คนได้ คุณจะได้รับเพิ่มอีก 2 คะแนน ]
หลังจากการประกาศจบลง เอธาน และ เทียน่า ก็ปรากฏตัวขึ้นที่สถานที่ก่อนหน้านี้ ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากกำลังโต้ตอบกันและมีหน้าจอจำนวนมากสว่างขึ้นบนท้องฟ้า
เทียน่าพูดกับเอธานและพูดว่า “เปิดกล่องธรรมดาของนายสิ ฉันได้ยินมาว่ามันบรรจุไอเท็มแบบสุ่ม เมื่อฉันทำดันเจี้ยนนี้เสร็จก่อนหน้านี้ ฉันยังได้มันมาหนึ่งอัน และจากมัน ฉันก็ได้รับยาสร้างประตูควบแน่น”
เอธานแปลกใจที่ในกล่องบรรจุสิ่งของต่างๆ เช่น ยาสร้างประตูควบแน่น ราคา 20 แต้มไว้ด้วย
‘ แต่ฉันไม่คิดว่าเม็ดยาจะคุ้มกับการใช้คะแนนหลายคะแนนขนาดนั้น ‘
จากนั้นเขาก็นำกล่องออกจากช่องเก็บของ กล่องนั้นเป็นสีขาวทั้งหมด และในการเปิดเขาเพียงแค่แตะปุ่มล็อคบนกล่องที่เขาทำ
[ ขอแสดงความยินดี คุณได้รับ 1x ยาเม็ดพลังงานแสง ]
เมื่อมองไปที่เม็ดยา เอธานรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่เขาก็เอาเม็ดยาเข้าปาก
“ ยาเม็ดนี้จะทำให้พลังงานแสงของฉันอิ่มตัวถึง 100,000 หน่วยในร่างกายจริงของฉัน ดังนั้นฉันอาจจะกินมันตอนนี้ก็ได้”
เทียน่าพยักหน้าและถามว่า “ใช่ แต่เราควรทำอย่างไรตอนนี้ เราจะจบ [ ที่ราบลาวาตัวนิ่ม ] ในโหมด คู่ หรือทำ [ ถ้ำปีศาจมด ] ดี? ”
เอธานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ
” เราควรจะทำ [ ที่ราบลาวาตัวนิ่ม ] ในโหมดคู่ ตอนนี้ไม่น่าจะยากนัก เราจะโจมตีมันโดยตรงหลังจากเข้าไป แต่ถ้าเราล้มเหลว เราก็ยังสามารถเอาชนะได้อีก ”
เทียน่าพยักหน้าและทั้งคู่เริ่มดันเจี้ยนในโหมดคู่
…
*อุนรรรรรรรรรรรรร*
พวกเขาโจมตีตัวนิ่มทันที หลังจากเข้ามา แต่ล้มเหลว เนื่องจากตัวนิ่ม หนีเข้าไปในทะเลลาวาหลังจากได้รับบาดเจ็บ
และเมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้งใต้ฝ่าเท้าของเอธาน เขาทำการหลบอย่างระมัดระวัง อาการบาดเจ็บของมันก็หายดีแล้ว แต่คราวนี้เอธานได้เตรียม [ สว่านเจาะ อันทรงพลัง 2 อัน ] และโจมตีพร้อมกับเทียน่า ที่โจมตีมันด้วยคาถาอันทรงพลังแทน ปืนไรเฟิลเบลซซิ่ง
[ ยินดีด้วย คุณเอาชนะตัวนิ่มลาวา ในโหมดคู่ได้ ]
[ รางวัล: 2 แต้มและกล่องธรรมดาสำหรับ เอธาน และ เทียน่า ]
ทั้งสองมาถึงศูนย์กลางหลังจากนั้น
เทียน่าเปิดกล่องธรรมดาของเธอก่อน
[ ยินดีด้วย คุณได้รับยาความสัมพันธ์น้ำแข็ง ]
!!!
ทั้ง เอธาน และ เทียน่า ต่างตกใจที่เธอได้รับของล้ำค่าจากกล่อง
เอธานยิ้มและพูดว่า “เธอควรกินมันตอนนี้ ความสัมพันธ์ของเธอจะได้มีมากขึ้น หมายถึงพลังงานสำรองที่มากขึ้นน่ะนะ เพื่อที่จะใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันและวิธีการอื่น ๆ ตอนนี้เธอมีเพียง 3 ความสัมพันธ์เท่านั้นและเธอจะต้องมีความสัมพันธ์ที่มากขึ้นในอนาคตให้ได้ก่อน”
เทียน่าพยักหน้าและหยิบยาเข้าปาก
หลังจากนั้นเอธานก็เปิดกล่องของเขาด้วย
[ ขอแสดงความยินดี คุณได้รับ 1xใบมีดแบบแส้เวนเซล่า]
“เอ่อ…”
เอธานประหลาดใจที่เห็นอาวุธในมือของเขา
————————————————————–
ตอนที่ 62: วิธีการทำให้พลังงานเต็มเปี่ยม สภาพร่างกาย
เอธานลืมตาขึ้นบนพื้นหญ้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อเขานึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งเห็น ‘ สถานะพลังงานที่ไหลออกมาเต็มเปี่ยม…ยอดเยี่ยมมาก ฉันต้องการที่จะเรียนรู้มันด้วย ‘
เขาไม่เห็นเทียน่าอยู่รอบตัวเขา ดังนั้นเธอต้องยังคงอยู่ในอารีน่าการต่อสู้
‘ เดาว่าฉันจะไปที่ห้องทดสอบการสะกดก่อน ‘
เมื่อคิดอย่างนั้น เขาก็เลือก [ ห้องทดสอบการสะกดคำ ] และทิวทัศน์ตรงหน้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้งเมื่อเขามาถึงห้องทรงกลมสีขาว
[ การฝึกคาถา ]
[ การทดสอบร่างกาย ]
[ คำแนะนำ ]
[ ออก ]
หลังจากที่มาถึงที่นี่ได้ไม่กี่วินาที ก็มีจอแสดงผลปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา และมี 4 ตัวเลือกปรากฏขึ้น
” หืม? การทดสอบร่างกายและคำแนะนำ? ” เอธานแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นตัวเลือกและคิดว่า ‘ คำแนะนำเหรอ…ไหนลองดูสิ คงจะดีถ้ามีข้อมูลเกี่ยวกับสถานะพลังงานที่ไหลอยู่เต็มเปี่ยม ‘
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ได้เลือก [ คำแนะนำ ] และมีตัวเลือก 3 ตัวเลือกปรากฏขึ้น
[ เพิ่มความชำนาญของคาถา ]
[ สถานะการไหลของพลังงานที่เต็มเปี่ยม ]
[ ออก ]
” โอ้ มีคำแนะนำเกี่ยวกับสถานะการไหลของพลังงานที่เต็มเปี่ยมอยู่จริง ๆ ” จากนั้นเขาก็เลือกตัวเลือกนั้นและได้ยินเสียงพร้อมกับข้อความที่อยู่ข้างหน้าเขา
[ ขั้นตอนการใช้สถานะพลังงานที่ไหลอย่างเต็มเปี่ยม เป็นสถานะที่จะร่ายคาถา เมื่อพลังงานอยู่ระหว่างรูปแบบแรกและรูปแบบพลังงานนั้นไหลออกมาอย่างต่อเนื่องในร่างกายของคุณ ตาม กระบวนการไหลของพลังงานที่คุณกำลังฝึกอยู่ ]
[ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกวิธีการไหลของพลังงานที่ตรงกับโครงสร้างร่างกายของคุณ คนบางคนอาจปลุกคุณลักษณะบางอย่างของโครงสร้างร่างกาย ในขณะที่พวกเขากำลังปรับแต่งร่างกาย แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น คุณจะต้องฝึกฝนในวิธีการปรับแต่งร่างกายที่ตรงกับองค์ประกอบธาตุที่คุณฝึกฝนมาจนถึงตอนนี้ ]
[ สมมติว่าคุณมีความสัมพันธ์แบบไฟ สายฟ้า และอากาศ และเมื่อคุณปรับแต่งร่างกายด้วยพลังงานขององค์ประกอบธาตุทั้งสามนี้แล้ว คุณจะปลุกร่างกายแห่งไฟให้ตื่นขึ้นมาได้ จากนั้นคุณสามารถฝึกฝนวิธีการของพลังงานที่ไหลอยู่เต็มเปี่ยมของธาตุไฟได้ แล้วใช้เวทย์มนตร์ที่มีอยู่ในวิธีการนั้นหรือลองฝึกเวทย์มนตร์ ธาตุไฟอื่น ๆ ของขั้นตอนการไหลของพลังงานได้ ]
[ ผู้คนอาจปลุกหรือปรับแต่งร่างกายให้มีการตื่นขึ้นได้มากกว่าหนึ่งแบบ และพวกเขาสามารถพยายามปลุกหรือปรับแต่งร่างกายให้มากขึ้นได้ ด้วยการฝึกฝนวิธีการปรับแต่งร่างกาย ]
[ สรุปได้ว่า หากคุณต้องการใช้คาถาที่ทรงพลังกว่านี้ คุณต้องฝึกฝนรูปแบบการไหลของพลังงานต่างๆ แต่การฝึกฝนในการไหลของพลังงานประเภทใดก็ได้นั้นคุณต้องมีร่างกายที่ตรงกับคุณลักษณะของการไหลของพลังงาน ]
[ ก่อนอื่น ทดสอบร่างกายของคุณและตรวจสอบว่าคุณปลุกร่างกายประเภทใดได้บ้างแล้ว และหากคุณยังไม่เคยปลุกมันได้เลย ให้ซื้อ วิธีการทำร่างกายให้บริสุทธิ์ จากหน้าที่ 3 ของร้านค้าแต้มได้ แต่ถ้าล็อคอยู่ ให้รวบรวม 50 คะแนนก่อนเพื่อปลดล็อกมันออก ]
เอธานอ่านข้อมูลทั้งหมดอีกครั้งก่อนที่เขาจะคิดว่า ‘ อืมม…วิธีการไหลของพลังงานของเรเวร่า ดูเหมือนจะซับซ้อนกว่าที่อธิบายไว้ในคู่มือนี้เล็กน้อย…’
เมื่อคิดถึงมัน เขาจำได้ว่าครั้งแรกที่เธอมีพลังงานสีเขียวเข้มบนดาบของเธอ และเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มเมื่อเธอละลาย <พายุทอร์นาโดไฟ> ของเขา และเมื่อเธอใช้ <การฝังศพผูกมัด> พลังงานของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีของธษตุมืดอีกครั้ง และเปลี่ยนกลับไปเป็นสีเขียว
‘ เอาล่ะ ไปตรวจร่างกายของฉันกันดีกว่า ดูว่าฉันได้ปลุกหรือปรับแต่งร่างกายของฉันไปบ้างหรือยัง ‘ เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาเลือกที่จะออกแล้วเลือกตัวเลือก [ การทดสอบร่างกาย ]
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปและมาถึงห้องไม้ที่มีโต๊ะอยู่ข้างหน้าเขา
[ คุณต้องการทดสอบร่างกายของคุณและดูว่าคุณได้ปลุกร่างกายประเภทใดไปแล้วบ้าง ใช่หรือไม่? ]
[ ใช่หรือไม่ ]
ขณะที่เขากำลังจะกด [ ใช่ ] ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงวิธีที่ร่างกายของเขาได้รับการขัดเกลามาจนถึงตอนนี้
‘ เดี๋ยวก่อน ฉันไม่เคยขัดเกลาร่างกายของฉันโดยใช้พลังงานเลย แต่ก่อนอื่น ร่างกายของฉันได้รับการขัดเกลาด้วยพลังงานที่ปล่อยออกมาจากวังวนสีดำแทน ซึ่งทำให้ฉันได้รับการทำให้บริสุทธิ์ไปบ้างแล้ว ‘
จากนั้นเขาก็นั่งลงและเริ่มคิดถึงบางสิ่ง ‘ อย่างแรก ไม่ใช่ทุกคนที่มีคริสตัลเหมือนที่ฉันมี ประตูการควบแน่นของคนอื่นเป็นเหมือนพายุทอร์นาโดไฟขนาดเล็ก แต่ฉันมีคริสตัลแทน
ประการที่ 2 การขัดเกลาร่างกายของฉันดูเหมือนจะแตกต่างจากวิธีของคนอื่นๆ เนื่องจากมันเป็นกระบวนการย้อนกลับสำหรับฉัน โดยปกติ ผู้คนในระดับ Energy Plane คือคนที่ไปถึง Elemental Archlord และ Elemental Dominator แล้ว และพวกเขาจะเริ่มปรับแต่งร่างกายของพวกเขาอย่างจริงจังด้วยพลังงานของแก่นแท้ แต่ในกรณีของฉัน ร่างกายของฉันได้รับการขัดเกลาด้วยพลังงานแปลก ๆ ซึ่งตอนนี้อยู่ในรูปของคริสตัล ‘
เขาหายใจเข้าลึก ๆ เสมือนว่า ‘ เนื่องจากฉันไม่เคยปรับแต่งร่างกายของฉันโดยใช้พลังงานแก่นแท้แบบปกติ ดังนั้นการทดสอบร่างกายจะมีผล 2 แบบ อย่างแรก ฉันไม่ได้ปลุกคุณลักษณะใดๆ ของ ร่างกายเลย หรือประการที่ 2 ฉันได้…ปลุกคุณลักษณะทั้งหมดของโครงสร้างร่างกายที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบธาตุปัจจุบันที่ฉันมีหรือควรพูดว่าคริสตัลที่ฉันมีนั่นแหละ ‘
ตอนนี้เขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาควรจะทดสอบร่างกายของเขาหรือไม่?
เขานั่งอยู่ที่นั่นโดยหลับตา ขณะที่เขาคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างหลังจากมาถึง ดาวเรซคีล
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจทดสอบร่างกายของเขาด้วยเหตุผลหลายประการ
ประการแรก เขามีองค์ประกอบธาตุมากมาย และเพราะเขาเคยได้ยินจากริสะ และ ลัคเซล ว่ามีผู้คนที่มีองค์ประกอบธาตุมากมายนั้นน่าประทับใจ
ประการที่สอง จากข้อมูลในคู่มือนี้ เป็นไปได้ที่จะปลุกโครงสร้างร่างกายมากกว่าหนึ่งแบบและมีวิธีปลุกพวกมันด้วยการฝึกปฏิบัติ ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีร่างกายหลายแบบที่มีคุณลักษณะต่างกันมากนัก
ประการที่สามและสุดท้าย ความรู้สึกในท้องของเขากำลังบอกให้เขาทำ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีพื้นฐาน เพราะหนทางข้างหน้าเขาดูเหมือนจะยาวไกลกว่าที่คิด
สำหรับตอนนี้ เขารู้แค่เพียงว่าเขาจะต้องฝ่าฟันไปถึงขั้นของ Origin Intent Plane ได้อย่างไร แต่สิ่งที่อยู่ในนั้นและระดับขั้นต่อไป เช่น Genesis Conceptual Plane, Soul Altar Plane และ Profound Domain Plain ? มันมีแนวโน้มว่าจะมีขั้นตอนมากขึ้น เพราะสำหรับเขาแล้ว ดาวเคราะห์มากมายแห่งนี้ ถือว่าผู้คนในระดับทั้งสี่นี้เป็นนักเรียนที่ต้องได้รับการฝึกและสอนให้
เขาคัดแยกความคิดของเขา และเขากดตัวเลือก [ ใช่ ]
[ กรุณานั่งพักสักครู่ ในขณะที่เราทำการตรวจร่างกาย ซึ่งอยู่ในท่อเสมือนจริง ]
เอธานนั่งลงแล้วจึงรออยู่ที่นั่น โดยหลับตาขณะกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป ‘ ฉันยังต้องเข้าใจเจตจำนงของอวกาศ แต่ก่อนหน้านั้น อย่างน้อยฉันต้องพยายามสร้างคาถาแห่งธาตุอวกาศ และนอกจากนี้ยังมี….’
…
เมื่อผ่านไปนานมากและใครจะรู้ว่ามันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เสียงหนึ่งก้องอยู่ในหูของเขา ในขณะที่การแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาเช่นกัน
[ ร่างกายของคุณได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดและเราพบว่าคุณได้ปลุกร่างกายของคุณทั้งหมด 9 แบบ]
[ ธาตุทั้ง 9 ที่คุณปลุกให้ตื่นขึ้นและครอบครองนั้น คือ คุณสมบัติของ ไฟ, น้ำ, ดิน, ไม้, สายฟ้า, อากาศ, แสง, มืด และอวกาศ ]
“เอาล่ะ ในที่สุดฉันก็ได้ตัวแปรสำคัญแล้ว แต่…”
เอธานหยุดนิ่งและนั่งรออยู่ตรงนั้น
หลังจากเวลานานผ่านไป…
‘ แน่นอน…’ เขาส่ายหัวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ และยืนขึ้นก่อนออกจากห้องและมาถึงที่ราบที่มีหญ้าเขียวขจี
เมื่อเขาไปถึงที่นั่น เขาได้ยินเสียงของเทียน่า “โอ้ ในที่สุด คุณก็มาถึงแล้ว ไปลอง [ ดันเจี้ยน ] กันเถอะ นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้รับคะแนน และฉันก็พบข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของการไหลของพลังงาน แต่เราต้องซื้อ วิธีการไหลของพลังงานนั้นก่อน และเราจะต้องปลดล็อคหน้า 3 ของร้านค้าแต้มและต้องการการปลุกร่างกายก่อนด้วย ”
เขาหยุดพูดตรงนี้ เธอมองเอธานด้วยความตื่นเต้นและพูดต่อ ” ฉันทดสอบแล้ว และฉันมีร่างกายที่ปลุกได้นั่นคือ ร่างกายของคาถาภูเขาไฟสายฟ้า ซึ่งน่าจะเป็นผลจากดอกไม้เบลซอล ตอนนี้ที่ฉันต้องการคือวิธีการไหลของพลังงานธาตุไฟ หรือ สายฟ้า หรือ วิธีการที่มีคุณสมบัติทั้ง 2 อย่าง แต่คงจะแพงน่าดูเลย”
เอธานยิ้มและพูดด้วยว่า ” อันที่จริง ฉันยังค้นพบเกี่ยวกับขั้นตอนของการไหลของพลังงานที่เต็มเปี่ยมอีกด้วย และดูเหมือนว่าฉันได้ปลุกร่างกายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบปัจจุบันที่ฉันมี แต่เราต้องรวบรวมคะแนนก่อน … ก่อนหน้านี้เธอได้พูดเกี่ยวกับ [ ดันเจี้ยน ] ใช่ไหม ซึ่งฉันยังไม่ได้ตรวจสอบมันมาก่อนเลย “
เทียน่าพยักหน้าด้วยรอยยิ้มตื่นเต้นและพูด “ใช่ [ ดันเจี้ยน ] เป็นสิ่งที่ดี เราสามารถรวบรวมคะแนนได้เร็วขึ้นในที่นั้น ฉันลองไปแล้ว 1 ครั้งและได้มา 5 คะแนน แต่ดูเหมือนว่าจะมีข้อ จำกัดบางอย่างในการรับคะแนนในแต่ละดันเจี้ยน แม้ว่าถ้าเราจบดันเจี้ยนทั้งหมดได้อย่างน้อย 1 ครั้งและได้รับคะแนนในครั้งแรกมา เราก็ยังสามารถรวบรวมคะแนนได้มากพอที่จะปลดล็อกหน้า 3ได้อีก และแม้กระทั่งซื้ออะไรบางอย่างจากมันมาก็ได้อีกด้วย ”
ตาของเอธานก็เปล่งประกายเล็กน้อย เมื่อได้ยินเกี่ยวกับมันและพูดว่า “ไปกันเถอะ ฉันอดใจรอไม่ไหวที่จะลองใช้วิธีการไหลของพลังงานที่เต็มเปี่ยม และใช้คาถาที่เกี่ยวข้องกับมันแล้ว แต่ฉันคิดว่ามันต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะชำนาญมัน “
ทั้งคู่สร้างปาร์ตี้ขึ้น หลังจากนั้นขณะที่เอธานที่เป็นหัวหน้า เขากดเลือก [ ดันเจี้ยน ]
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปต่อหน้าพวกเขา เมื่อพวกเขามาถึงที่อื่น ซึ่งมีหน้าจอจำนวนมากบนท้องฟ้าและผู้คนจำนวนมากสามารถมองเห็นได้ทุกที่
[ ดันเจี้ยนไหนที่คุณอยากจะเข้า? ]
[ ถ้ำปีศาจมด ]- ★
[ ที่ราบลาวาของตัวนิ่ม ]- ★
[ ถ้ำนกอินทรีหลงทาง ]- ★★
…
————————————————————–
ตอนที่ 61: สถานะของพลังงานที่เต็มเปี่ยม
เสียงที่คมชัดและชัดเจนดังออกมาจากปากของคู่ต่อสู้ “สวัสดี ฉันชื่อเรเวร่า และฉันอนุญาตให้นายเคลื่อนไหวก่อนได้”
เอธานตกใจเมื่อได้ยินเสียงของคู่ต่อสู้และคิดว่า ‘ คู่ต่อสู้ของฉันเป็นผู้หญิง…มันดูไม่เหมือนว่าเธอเป็นผู้หญิงเลยเพราะเครื่องแต่งกาย ‘
เรเวร่าสวมชุดเกราะซามูไรและไม่เห็นส่วนใดของร่างกายของเธอเลย หลังจากที่บอกว่าเธอจะปล่อยให้เอธานทำการเคลื่อนไหวครั้งแรก เวทมนตร์หลายอย่างก็ก่อตัวขึ้นรอบตัวเธอ
รองเท้าบูททองคำคู่หนึ่งที่มีปีกสีเขียวปรากฏขึ้นที่เท้าของเธอ ดาบสีน้ำเงินเข้มปรากฏขึ้นในมือของเธอ ก่อนที่มันจะปกคลุมไปด้วยพลังงานสีเขียวเข้ม และคาถารูปเกราะสีทองปกคลุมร่างกายของเธอ ก่อนที่ปีกสีเขียวอีกคู่หนึ่งจะปรากฎขึ้นข้างหลังเธอ
“ทำการเคลื่อนไหวของนายซะสิ!”
เอธานเลิกคิดในขณะที่เขามองดูคาถาสนับสนุนเหล่านั้นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันหวังว่าเธอจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจของเธอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเอธาน เรเวร่าก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “ถ้าฉันแพ้ ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ฉันจะไม่เสียใจที่ตัดสินใจแบบนั้น ฉันมาที่นี่เพื่อฝึกฝนตัวเองและดูว่ามีคู่ต่อสู้ที่คู่ควรหรือไม่”
“ทำมันเดี๋ยวนี้” พูดจบเธอก็ชักดาบออกจากฝัก
เอธานรู้สึกมั่นใจและรู้สึกว่าเธอแก้ปัญหาได้ดี เนื่องด้วยน้ำเสียงของเธอ และการแสดงออกของเขาก็กลายเป็นจริงจัง ในขณะที่เขาพยักหน้า “ก็ได้”
เขาสร้าง <สว่านเจาะ> อันทรงพลังและขว้างมันใส่คู่ต่อสู้ด้วยพลังเต็มที่
*เฟี้ยว*
<สว่านเจาะ> มาถึงหน้าเรเวร่าในไม่กี่วินาที แต่เธอยืนอยู่ที่นั่นและมือของเธอขยับ เมื่อดาบออกมาจากฝักของเธอในเวลาไม่ถึงวินาที และฟัน <สว่านเจาะ> ของเอธานออกเป็น 3 ชิ้น
เอธานหรี่ตาลงที่ฉากนั้นและคิดว่า ‘ ดีมาก การฟันครั้งแรกคือตอนที่เธอชักดาบ และครั้งที่สองเมื่อเธอฟันลงไป การกระทำทั้งสองเสร็จสิ้นในเสี้ยววินาที ซึ่งทำให้ <สว่านเจาะ> ของฉันแตกออกเป็น 3 ส่วน พลังงานของเธอก็ถูกจ่ายให้กับดาบ ในขณะที่มันสลายพลังงานของ <สว่านเจาะ > ของฉันอย่างแรง ‘
เรเวร่าไม่ได้ทิ้งฝักดาบของเธอ และถือมันไว้ในท่าเดิมก่อนจะพูดขึ้นว่า “เจตจำนงแห่งไฟ ดิน และอากาศที่ระดับกลาง ไม่เลวเลย แต่ไม่เพียงพอที่จะเอาชนะฉันได้”
หลังจากพูดเสร็จ ปีกบนหลังของเธอก็กระพือปีกพร้อมกับรองเท้าบู๊ต ขณะที่เธอ….พุ่งเข้าหาเอธานด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก
เธอไม่ได้บิน แต่ด้วยการก้าวเท้าอย่างแรง เธอยิงด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อไปยังเอธานโดยใช้ปีกบนหลังและรองเท้าบู๊ตของเธอ
เอธานได้สร้างปีก <ปีกสายฟ้า> ไว้ด้านหลังของเขาแล้ว ดังนั้นการเคลื่อนไหวที่เขาเห็น คือเธอพุ่งไปข้างหน้า เขาจึงบินขึ้นไปข้างบน
แต่ในเวลานี้เรเวร่า ซึ่งอยู่ห่างจากเขา 10 เมตรได้โบกดาบของเธออย่างเจ็บแสบใจ ขณะที่พลังมืดบางอย่าง พุ่งเข้าหา เอธานด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก
*ฟ้าววว*
เอธานรีบสร้าง <เกราะแสง> ขึ้นมารอบตัวเขาเพื่อป้องกันการโจมตี
*กี๊ดดดดดดดด…
บาเรียถูกทำลายและฟันกระทบไหล่ของเอธาน ทิ้งร่องรอยเลือด 15 ซม.ไว้ข้างหลัง
โชคดีที่ <เกราะแสง> ทำให้มันสูญเสียพลังงานส่วนใหญ่ไปในระหว่างการป้องกันแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาคงตายไปแล้วและที่นั่น
เอธานไม่ได้ฟุ้งซ่านแม้แต่กับบาดแผล ในขณะที่เขารีบร่ายคาถาที่ 2 รอบรอบตัวเขา อย่างแรก เขาป้องกันตัวเองด้วย <เกราะแสง> และสร้าง <เกราะมืด> ไว้ด้านบน
เรเวร่าไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว เมื่อเธอมาถึงหน้าเอธานด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ก่อนที่จะฟัน <เกราะมืด> ด้วยดาบของเธอโดยตรง และทำลายมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนที่จะส่งพลังจากการฟันดาบอีกอันหนึ่งไปข้างหน้า
<เกราะแสง> ของเขาถูกทำลายอีกครั้ง ซึ่งทำให้เขาบาดเจ็บที่ท้องของเขาในครั้งนี้
‘ ห่าเอ้ย ทำไมเธอถึงโจมตีแรงจัง? ฉันรู้สึกว่าเธอเข้าใจเจตจำนงหลายอย่างในระดับกลาง เช่น มืด น้ำ อากาศ และแสง แต่คาถาของฉันไม่สามารถป้องกันการโจมตีของเธอได้ และความเร็วในการร่ายของเธอก็เร็วพอๆ กับของฉัน ‘
เขาไม่ได้หยุดการกระทำของเขา ในขณะที่คิดเขาสร้าง <ทอร์นาโดไฟ> ด้วยพลังงานสูง
เมื่อเห็น <พายุทอร์นาโดไฟ> เรเวร่าพ่นลมหายใจด้วยความรังเกียจและพูดว่า “คุณเป็นคนงี่เง่าเหรอ คิดว่าคาถาแบบนี้จะสร้างความเสียหายให้ฉันได้ใช่ไหม”
หลังจากพูดแบบนี้ เธอก็แค่ยืนอยู่ที่นั่นและรอให้ <ทอร์นาโดไฟ> โจมตีเธอ
*วู้ววว*
เอธานเติมพลังงานลงใน <ทอร์นาโดไฟ> มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ แต่เรเวร่า สังเกตเห็นและส่ายหัว ดูเหมือนผิดหวังกับการกระทำของเขา
พายุทอร์นาโดไฟมาถึงหน้าเธอและในที่สุดก็โจมตีเธอ แต่เธอไม่แม้แต่จะเคลื่อนไหวภายใต้ไฟที่โหมกระหน่ำ
หลังจากที่เธอถูกล้อมรอบด้วย <พายุทอร์นาโดไฟ> โดยสมบูรณ์แล้ว เธอพูดว่า ” ฉันแปลกใจที่นายมีเจตจำนงถึงระดับกลางในองค์ประกอบธาตุต่างๆ เช่น อากาศ สายฟ้า ไฟ ดิน แสงสว่าง และความมืด…ในบรรดาองค์ประกอบพื้นฐาน แต่ไม่มีธาตุน้ำ ไม้ และอวกาศ…”
เสียงของเธอขาดหายไปในขณะที่เอธานสร้าง <เถาวัลย์แสง> และลูกบอลน้ำธรรมดา
เขาจงใจแสดงสิ่งนี้แก่เธอเพราะเขารู้สึกว่าเขาสามารถเรียนรู้บางอย่างจากเธอได้ และเขาก็มีองค์ประกอบธาตุอวกาศด้วย แต่เขาไม่รู้คาถาของธาตุนั้นเลย และมันก็ดูยากที่จะสร้างมันขึ้นมาทันทีเพราะเขาไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ธาตุนั้นทำงานอย่างไร เขาจึงไม่แสดงมันออกมา ยิ่งกว่านั้น เขายังไม่เข้าใจแม้แต่เจตจำนงเบื้องต้นของธาตุอวกาศด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ใส่ใจกับมันในตอนนี้
เมื่อเห็นคาถาอีกสองอันที่เอธานก่อตัวขึ้นและรู้สึกถึงเจตจำนงในตัวมัน เรเวร่าก็ประหลาดใจแต่เธอส่ายหัวและพูดต่อ “ดูเหมือนว่านายจะไปถึงระดับกลางในไม้และน้ำด้วย แต่…”
เธอหยุดพูดที่ประโยคนี้ และเธอโบกดาบของเธอเป็นวงกลม เมื่อพลังงานบนดาบของเธอเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มจากสีเขียวเข้ม และสร้างวงแหวนแห่งพลังงานสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งสลาย <พายุทอร์นาโดไฟ> ออกไปอย่างแรง
หลังจากนั้น เธอมองไปที่เอธานและพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “แต่…คาถาของนายก็ยังอ่อนแอ พลังพวกนั้นไม่ได้มีความลึกมากนัก พวกมันช่างตื้นเขินเสียจริง”
เธอชี้ดาบไปที่เอธานและพูดว่า “นายดูเหมือนไม่รู้วิธีอื่นในการต่อสู้ด้วยพลังธาตุ นายต้องมาจากที่ที่ค่อนข้างล้าหลังแน่นอน”
โดยไม่สนใจคำพูดของเธอ เอธานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “ที่จริงแล้ว ดูเหมือน ฉันจะมาจากที่ ที่ล้าหลัง ซึ่งฉันเพิ่งพบที่นี่เมื่อไม่นานนี้เอง”
“นายเห็นไหมว่าดาบของฉันเคลือบด้วยพลังงานอยู่เสมอ นั่นคือสถานะ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังงาน แต่คาถาที่จะใช้ในสถานะนี้ยากที่จะเรียนรู้และเข้าใจ นอกจากนี้นายยังต้องฝึกฝนอีกมาก นายยังสามารถใช้ร่างกายของนายปานกลางแทนที่จะเป็นดาบอย่างฉัน ถ้านายรู้จักศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลัง ”
เอธานสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม เขายังสัมผัสได้เล็กน้อยว่าพลังงานเคลื่อนตัวอยู่ภายในร่างกายของเธอตลอดเวลาและต่อด้วยดาบ
เนื่องจากเขาสงสัยในเรื่องนี้ เขาจึงถามเรเวร่าโดยหวังว่าจะได้คำตอบว่า “ฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เคลื่อนไหวภายในร่างกายของเธอได้อย่างแผ่วเบา…”
ก่อนที่เขาจะพูดต่อ เรเวร่าขัดจังหวะเขา “นั่นคือรูปแบบการสะกดในสถานะพลังงานที่เต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตามนั่นเป็นความรู้ที่ลึกซึ้งและหากคุณต้องการเรียนรู้เวทมนตร์ของสถานะพลังงานเต็มเปี่ยม นายต้องปลดล็อกหน้าที่ 3 ของการจัดเก็บคะแนนและฝึกฝนใน ห้องทดสอบการสะกดคำก่อน”
จากนั้นเธอก็พุ่งไปหาเอธานพร้อมกับพูดว่า “สิ่งต่าง ๆ จะซับซ้อนขึ้นมากในขั้นของ Genesis Conceptual Plane และเป็นเพียงขั้นที่น่าตกใจที่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่นายจะกลายเป็นคนทรงพลังอย่างแท้จริง ถ้านายต้องการไปถึงที่นั่น จงทำงานหนัก แต่ตอนนี้ นายคือ ไม่ใช่ศัตรูของฉันและคนอื่น ๆ อีกมากมาย ”
เอธานถอยกลับด้วย <ปีกสายฟ้า> และสร้างคาถาป้องกันรอบตัวเขา แต่ความเร็วและพลังของเรเวร่า ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นอีกขั้น เมื่อเธอโจมตีเขาอย่างดุดัน ซึ่งเพิ่มบาดแผลของเขาในขณะที่เวทมนตร์ของเขาไม่สามารถทำลายเธอได้
‘ บ้าเอ้ยยย… ฉันไม่สามารถทำอะไรเธอ ในขณะที่เธอกำลังทุบตีฉัน ‘เอธานรู้สึกแย่ในตอนนี้ ในช่วงไม่กี่นาทีที่ผ่านมา สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือหลบแทบไม่ทันและสร้างแนวรับ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไร้ประโยชน์และเขาได้รับบาดแผลมากขึ้น
จู่ๆ เรเวร่าก็หยุดและพูดว่า ” ฉันจะใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของฉันแล้ว เตรียมตัวไว้ ” เมื่อพูดอย่างนี้ เธอเอาดาบใส่ฝักแล้วยืนนิ่งอยู่ในท่าที่พลังงานสีดำและสีเขียวค่อยๆ ปกคลุมร่างกายของเธออย่างช้าๆ
หลังจากที่ร่างกายของเธอถูกปกคลุมไปด้วยพลังงาน พลังงานเหล่านั้นค่อย ๆ แยกออกจากเธอและรวมตัวกันบนตัวเธอกลายเป็นนกที่เหมือนกาซึ่งถูกล่ามด้วยโซ่
เมื่อนกที่เหมือนกาถูกล่ามโซ่ไว้บนหัวของเธอ เรเวร่าค่อย ๆ เอาดาบของเธอออกขณะพูด ” ฉันมักจะไม่ใช้คาถานี้ในการต่อสู้ปกติ เพราะมันไม่ได้มีไว้สำหรับใช้เมื่ออยู่ในขั้นของ Energy Plane เพราะ ฉันต้องการเวลาเพื่อสร้างคาถานี้และคู่ต่อสู้จะไม่ให้โอกาสนั้นแก่ฉัน แต่ฉันรู้สึกว่านายเปิดใจกว้างและต้องการความรู้เพิ่มเติม ดังนั้นฉันจะขยายขอบเขตความรู้ของนายให้เล็กน้อย ”
ดาบของเธอที่แกะเปลือกออกจนหมด เมื่อมันชี้ไปที่ เอธาน” ฉันซาบซึ้งที่นายไม่โจมตีฉัน ในขณะที่ฉันกำลังสร้างคาถา และฉันหวังว่าครั้งต่อไปที่เราพบกันนายจะได้เรียนรู้คาถาอันทรงพลังของ ขั้นที่มีพลังงานเต็มเปี่ยม ”
“คาถานี้เรียกว่าการฝังศพแบบผูกมัด”
จากนั้นเธอก็โบกดาบของเธอในแนวขอบฟ้าขณะที่โซ่จากอีกาพุ่งเข้าหาเอธานด้วยความเร็วที่เขาไม่สามารถหลบได้ ในขณะที่เขาถูกมัดไว้ จากนั้นเธอก็โบกดาบของเธออีกครั้งซึ่งส่งนกให้ยิงเข้าหาเขา
‘ บัดซบ…’ เอธานอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งเมื่อเห็นโซ่สีเขียวมัดเขาไว้อย่างแรง ไม่ยอมให้เขาเคลื่อนไหว และนกที่มาถึงตรงหน้าเขาก่อนที่มันจะปิดปีกของมันด้วย
*บูม*
หากเป็นโลกแห่งความจริง ศพของเอธานก็ยังมีชิ้นส่วนสีดำหลงเหลืออยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่ตอนนี้เขาเพียงสลายไปเป็นแสงสีขาวหลังความตาย
[ คุณพ่ายแพ้ ]
[ การพ่ายแพ้ของคุณสิ้นสุดที่ 1 ครั้ง ไม่มีรางวัล ]
————————————————————–
ตอนที่ 60: สิ้นสุดการสอบ
[ ในที่สุดก็ถึงรอบสุดท้ายแล้ว ]
[ ผู้ที่ผ่านรอบนี้จะถูกลงทะเบียนใน มิเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ และมีโอกาสได้รับพลังและความรู้ ]
[ รอบสุดท้ายเป็นรอบที่ง่ายที่สุด แต่ก็เป็นรอบที่สำคัญที่สุดในเวลาเดียวกัน ]
[ เนื้อหาเฉพาะของรอบนี้จะเป็นความลับ แต่กุญแจสำคัญในการผ่านรอบไม่ใช่พลังหรือความรู้ ก็แค่นั้นเอง… โชคดีนะทุกคน.]
[ รอบสุดท้ายจะเริ่มหลังจาก 10 วินาที]
เมื่อได้ยินเกี่ยวกับรอบลึกลับดังกล่าว ผู้คนต่างประหลาดใจและเริ่มพูดถึงมัน
“ลึกลับมากเลยเหรอ? ฉันสงสัยแล้วว่าเนื้อหาของรอบที่ไม่ต้องการพลังหรือความรู้จะเป็นอย่างไร”
“จริงสิ ฉันรู้สึกเหมือน…”
…
เอธาน และ เทียน่า ก็ตกใจเช่นกัน
” หวังว่ามันจะไม่ไร้สาระเกินไปนะ…” เทียน่าพึมพำและคิดว่า ‘ ในเมื่อมันไม่ต้องใช้พลังหรือความรู้ พวกเขาจะตรวจสอบข้อมูลของเราไหม ? หรือความคิดของเรางั้นหรอ? ‘
เอธานพยักหน้าเห็นด้วยกับเทียน่า และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เรามาทำให้ดีที่สุดกันเถอะ”
[2]
[1]
[0]
….
เมื่อมันเดินมาถึงเลข [0] ทุกอย่างก็มืดลง
เอธานมองไปรอบ ๆ และพบว่าตัวเองอยู่ในที่มืดที่น่ากลัว ซึ่งให้ความรู้สึกที่น่าขนลุก
*แกร๊บ กร๊อบ แกร๊บ กร๊อบ แกร๊บ กร๊อบ*
ได้ยินเสียงแตกเมื่อแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวลงมาที่เอธาน
เหงื่อเริ่มก่อตัวบนใบหน้าของเขาและดวงตาของเขามีอารมณ์สับสนและความกลัวเล็กน้อย ‘ การปรากฏตัวของเลือดนี้มันคืออะไรกัน? ขาของฉันกำลังเปลี่ยนเป็นวุ้นโดยที่ฉันควบคุมไม่ได้…’
เอธานส่ายหัวและกลับมีดวงตาที่ชัดเจนอีกครั้งโดยปราศจากความกลัว แต่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เนื่องจากร่างกายของเขาอยู่เหนือการควบคุม และเนื่องจากเขารู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังคุกคามเขาอย่างมาก
เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่อยู่ข้างหลังเขา เขาจึงพยายามหันหลังกลับให้ดีที่สุด และในที่สุดเขาก็หันหน้าไปทางอื่น…
สั่นสะท้าน
“นี่มัน…อะไรกันเนี่ย” ความตกใจและความรู้สึกสั่นเทาที่เขารู้สึกไม่สามารถอธิบายได้ เมื่อเขาเห็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างหน้าเขา
สิ่งมีชีวิตมีรูปร่างเป็นวงรีที่มีดวงตานับไม่ถ้วนบนใบหน้าและมีหนวดนับไม่ถ้วนบนร่างกาย
เสียงแตกออกมาจากปากของมัน ซึ่งกำลังหักและกินวัตถุ…
ร่างกายของเอธาน รู้สึกหวาดกลัวเมื่อมองไปที่ความผิดปกตินั้น และในขณะที่เขามองอย่างระมัดระวัง เขาก็ตระหนักและรับรู้ถึงสิ่งที่ถูกกินโดยมันอย่างน่าตกใจ
‘ นั่นคือ…ดาวเคราะห์ ‘
ระยะห่างระหว่างเอธานกับสิ่งที่เขาเห็นนั้นกว้างใหญ่เกินไป ดังนั้นเอธานจึงจำมันไม่ได้ในทันที
แต่สิ่งมีชีวิตรูปวงรีที่มีหนวดนับไม่ถ้วนอยู่บนร่างกายและมีดวงตามากมายบนใบหน้าของมันกำลังกินดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง
ดาวเคราะห์ดวงนี้ดูเหมือนหินอ่อนทรงกลมภายในปากของมัน และมันจะถูกกินภายในไม่กี่นาที
เอธานค่อย ๆ สงบสติอารมณ์และคิดว่า ‘ รอบที่ 3 คืออะไร? ดูสิ่งมีชีวิตนี้กินดาวเคราะห์งั้นเหรอ? ‘
เขาได้ควบคุมร่างกายของเขากลับคืนมาต่อหน้าสัตว์ประหลาดที่กำลังคุกคามเขาในตอนนี้แล้ว
“เราต้องทำยังไงถึงจะผ่านรอบนี้ได้นะ” เอธานพูดโดยหวังว่าจะได้คำตอบ
*คริๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ*
เอธานตกใจ เมื่อได้ยินเสียงร้องของสิ่งมีชีวิตดังกล่าว ขณะที่มันเริ่มเคลื่อนไปข้างหน้า
‘วิ่งหนีเลยจะไหวมั้ยนะ? แต่ทำไม? ‘ เอธานคิดอย่างสับสน แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ความคิดที่สับสนของเขาก็ถูกเอาออกไปทันที ขณะที่เขายืนอยู่ตรงนั้นและตัวเขากลายเป็นหินแล้ว
เขาไม่ได้ตั้งใจตัวสั่นเพราะสิ่งมีชีวิตที่เพิ่งกินดาวเคราะห์ไป
หากคุณต้องการเปรียบเทียบขนาดของพวกมัน ดาวเคราะห์จะมีขนาดเท่ากับโลมา และสิ่งมีชีวิตที่กินดาวเคราะห์ไปนั้นมีขนาดเท่ากับวาฬสีน้ำเงิน
จิตใจของเอธาน ว่างเปล่าและหลังจากนั้นไม่นานเขาก็นึกถึงคำเดียว ‘นั่นมันของจริงเหรอ? ‘
‘ มันน่ากลัว…แต่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกลัว เพราะ…ความตายก็เหมือนกัน หากสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นั้นกินคุณ คุณก็จะตาย และคุณก็จะตายเช่นเดียวกันหากคุณถูกยิงไปที่ศีรษะ เหตุใดจึงต้องรู้สึกกลัว สิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้? ‘
เขาหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ จู่ๆ เขาก็นึกถึงข้อเท็จจริงว่า ‘ ถ้าสิ่งที่ฉันเห็นเป็นเรื่องจริง มนุษย์จะจดจำเรื่องนั้นได้อย่างไร? เป็นไปได้ไหมว่า…’
ทันใดนั้น ทิวทัศน์ตรงหน้าเขาเปลี่ยนไปเมื่อเขามาถึงที่ราบหญ้า
เทียน่าก็อยู่ที่นั่นด้วยและดวงตาของเธอยังคงมีความกลัวอยู่ แต่ด้วยความกลัวก็มีความเชื่อมั่นในบางสิ่งเช่นกัน
[ ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ผ่านรอบสุดท้าย ]
[ ใช่ พวกคุณทุกคนได้ยินถูกต้องแล้ว ทุกคนที่ผ่านรอบที่ 2 จะได้รับเลือกให้เข้าสู่ มิเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ แล้ว ]
[ รอบที่ 3 จะแสดงให้คุณเห็นศัตรูทั้งหมดของมนุษยชาติ พวกมันคือสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาที่ก่อให้เกิดการทำลายล้างสูง ]
[ การแข่งขันจริงจะเริ่มขึ้นหลังจากที่คุณเข้าสู่มิเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ มีคนมากมายที่คิดว่าพวกเขาเป็นอัจฉริยะ แต่ไม่มีใครเป็นอัจฉริยะตั้งแต่แรกพบ ยังมีอีกหลายคนที่มาสาย ถ้าคุณต้องการที่จะไปถึงจุดสูงสุดและพบจุดสูงสุดใหม่หลังจากนั้น พวกคุณทุกคนต้องทำงานหนัก นั่นเป็นเหตุผลที่เราได้เพิ่มอัตราการยอมรับของนักเรียน ]
[ แต่อย่าดีใจเร็วเกินไป หากคุณต้องการได้รับทรัพยากรและความรู้เพิ่มเติมในอะคาเดมี่มากขึ้น คุณต้องพยายามเพื่อที่จะได้รับมัน หากคุณตามเพื่อนไม่ทันและไม่ตรงตามเกณฑ์ของเรา คุณจะถูกไล่ออกจาก อะคาเดมี่ ]
[ เพราะท้ายที่สุด เป้าหมายของเราคือการดูแลมนุษย์ชั้นยอด ]
[ เราจะออกเดินทางไปยังมิเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง และจะไปถึงที่นั่นหลังจากผ่านไป 1 เดือน ก่อนหน้านั้น พวกคุณทุกคนสามารถใช้เวลาทั้งวันในโลกเสมือนจริงนี้ได้ ]
[ เป็นเวลา 1 เดือน เราจะปลดล็อกสิ่งอำนวยความสะดวกการฝึกอบรมต่างๆ สำหรับทุกคนในโลกเสมือนจริง คุณสามารถเพิ่มความชำนาญในคาถาและการต่อสู้ที่นั่น ]
ทุกคนตกตะลึง เมื่อได้ยินประกาศเหล่านี้ แต่ไม่นานหลังจากนั้น เสียงคำรามแห่งความตื่นเต้นก็ดังก้องไปทั่วทุกแห่ง
เทียน่ารู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อเทียบกับเอธานที่ไม่ตื่นเต้นมากนักแต่อยากรู้เกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกอบรมที่กล่าวถึงในประกาศ
มีตัวเลือกเพิ่มเติม 2-3 ตัวปรากฏขึ้นที่หน้าจอแสดงผลของเอธาน
[ อารีน่าการต่อสู้ ]
[ ดันเจี้ยน ]
[ ห้องทดสอบการสะกด ]
[ ออก ]
“นี่คือสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ฟังดูน่าสนใจดี” เขาพูดพึมพำกับเทียน่าที่กำลังมองอะไรบางอย่างที่จัดแสดงอยู่ข้างหน้าเธอ “ฉันจะลองอารีน่า เธอยังสามารถลองมันได้เหมือนกันนะ ฉันคิดว่ามันจะจับคู่เรากับคนสุ่ม ที่จะมาต่อสู้กับเรา ซึ่งจะช่วยให้เราได้รับประสบการณ์การต่อสู้มากขึ้น ”
เทียน่าพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ขณะที่ทั้งคู่เริ่มเข้าไปที่ [ อารีน่าต่อสู้ ]
[ กำลังจับคู่ ]
[ พบฝ่ายตรงข้าม ]
หลังจากนั้นเอธานก็มาถึงที่ที่ไม่คุ้นเคย มีต้นไม้ หิน และสิ่งอื่น ๆ ดังนั้นมันจึงดูเหมือนป่า
[ เอธาน vs กาซิล ]
[ ฆ่าอีกฝ่ายให้ชนะ ]
[ คุณจะได้รับรางวัลเป็นคะแนน หากคุณชนะ 5 นัดติดต่อกัน ]
[ พลังงานของคุณจะถูกกู้คืนจนเต็ม หลังจากการแข่งขันจบลง ]
[ คะแนน]
– เอธาน: 0
– กาซิล: 0
หลังจากดูคำแนะนำและข้อมูลแล้ว เอธานได้สร้าง <เกราะความมืด> และ <เกราะแสง> ขึ้นรอบตัวเขา
จากนั้นเขาก็ส่งพลังจิตออกไปด้านนอกเพื่อสัมผัสสภาพแวดล้อม
หลังจากสัมผัสได้สักพัก เอธานก็ขมวดคิ้วและคิดว่า ‘ ดูเหมือนว่าคู่ต่อสู้ของฉันจะตั้งรับด้วยเหมือนกัน ‘
‘ ฮิฮิ เพราะเป็นอย่างนั้น ฉันจะโจมตีล่ะนะ ‘
จากนั้นเขาก็บินขึ้นโดยใช้ <ปีกสายฟ้า> และเริ่มมองไปรอบๆ
เมื่อกวาดสายตาไปทางทิศตะวันตก เขาสังเกตเห็นบางสิ่งและพุ่งไปในทิศทางนั้น
ขณะที่เขาเข้าใกล้จุดนั้น เขาเห็นสิ่งสีน้ำเงินพุ่งเข้าหาเขาด้วยความเร็วสูง
*วูบ*
มันคือลูกศรน้ำที่เคลือบด้วยพลังงานสายฟ้าเพราะมีไฟฟ้าอยู่ภายใน
หลังจากหลบลูกศรนั้นแล้ว เอธานก็พึมพำหลังจากมองไปยังจุดหนึ่ง “นายอยู่ที่นั่นเหรอ”
*ฟิ้ว* *ฟิ้ว* *ฟิ้ว*
ในเวลานี้ ลูกศร 3 ลูกพุ่งเข้ามาหาเขาทันที แต่เอธานได้สร้าง <เกราะแสง> ขึ้นรอบตัวเขาเพื่อป้องกันพวกมันแทนที่จะหลบ
‘ ในเมื่อพลังงานของเราจะฟื้นขึ้นมา ฉันก็เลยต้องทุ่มสุดตัวเช่นกัน ‘
หลังจากตัดสินใจแล้ว เขาใช้ <ที่จองจำมากมาย> ของธาตุดิน แต่เทพลังงานมากกว่าปกติ เพื่อทำให้มันใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจึงทิ้งไปที่จุดที่เกิดลูกศร
เขาทำให้มันใหญ่ขึ้นโดยหวังว่าจะไม่ให้คู่ต่อสู้ของเขามีโอกาสวิ่ง ถ้าเขาสร้าง <เรือนจำนับไม่ถ้วน> ที่เล็กลง จากนั้นคู่ต่อสู้ของเขาอาจวิ่งหนีไปหลังจากสัมผัสได้
” เอาล่ะ เราจะดูว่าเขาจะติดอยู่ในนั้นหรือไม่ ” เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็เริ่มขว้าง <ฟองอากาศมืด> ไปทางปากปีศาจทั้ง 2 ที่อยู่บนเรือนจำธาตุดิน
เขาไม่ได้หยุดและโยน <ฟองอากาศมืด> นับไม่ถ้วนโดยไม่ยั้งพลังงานมืดของเขาเลย
หลังจากนั้นสักครู่….
[ ขอแสดงความยินดี! คุณได้เอาชนะ กาซิล ได้แล้ว]
[ ชนะ: 1 ]
[ พลังงานของคุณได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ดังนั้น คุณอยากจะดำเนินการต่อและหาคู่ต่อสู้ใหม่หรือไม่? ใช่หรือไม่? ]
เอธาน กด [ใช่] และใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการจับคู่กับคู่ต่อสู้ใหม่
ทิวทัศน์เปลี่ยนไปคราวนี้ เขามาถึงสนามกลาดิเอเตอร์ ซึ่งไม่ใหญ่มาก
มันดูเหมือนโคลอสเซียมในสมัยโบราณ
[ เอธาน vs เรเวร่า ]
[ ฆ่าอีกฝ่ายให้ชนะ ]
[ คุณจะได้รับรางวัลเป็นแต้ม หากคุณชนะ 5 แมตช์ติดต่อกัน ]
[ พลังงานของคุณจะถูกกู้คืนจนเต็มหลังจากการแข่งขันจบลง ]
[ คะแนน ]
อาธาน: 1
รีเวร่า: 1
เอธานคิดหลังจากมองไปยังคู่ต่อสู้ที่อยู่ข้างหน้าเขา ‘ นี่จะเป็นการต่อสู้ที่ตรงไปตรงมา…’
ตอนที่ 59: จบรอบที่ 2 คนๆนี้ช่างโง่เขลา
จากนั้นเอธานก็ได้สร้าง <สว่านเจาะ> และโยนมันไปทางหินขาวก้อนใหญ่
*บึมมมม*
[ พลังโจมตี: 200+ ]
[ยินดีด้วย คุณผ่านชั้นที่ 31 แล้ว รับรางวัล 1 คะแนน]
” อ๋อ… 1 แต้มโดยตรงเลยเหรอ ” เอธานแปลกใจที่ได้ 1 แต้มหลังจากผ่านชั้นที่ 31 ไป
…
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็มาถึงชั้น 32
[ โปรดสร้างคาถาป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของคุณและทนต่อการโจมตีที่จะถูกขว้างใส่คุณใน 10 วินาที และคุณได้รับอนุญาตให้ใช้เวทมนตร์ป้องกันเพียงคาถาเดียวเท่านั้น ]
[10]
[9]
…
‘ ฉันควรใช้ <เกราะความมืด> หรือ <ที่คุมขังจำนวนมาก> ดีล่ะ? ‘
[5]
[4]
…
‘ ไม่เป็นไร ฉันจะสร้าง <เกราะแห่งแสง> เนื่องจากองค์ประกอบของแสง จะสามารถต้านทานการโจมตีขององค์ประกอบอื่น ๆ ได้ดีกว่า แต่จะมีปัญหากับ ธาตุมืดเพียงอย่างเดียว…’ คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาตัดสินใจ ‘ Fvck ฉันจะใช้ <เกราะแห่งแสง> ‘
[1]
[0]
[ โจมตีเข้ามา ต้านทานการโจมตี 1 นาที ]
เอธานได้เสร็จสิ้นการสร้าง <เกราะแห่งแสงแล้ว> หนา ๆ รอบตัวเขาเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับการโจมตีที่เข้ามา เขาได้เทพลังงานแสงของเขามากกว่าครึ่งหนึ่งลงในบาเรียนี้
[0:59]
*บูม*
ลูกไฟพุ่งชน <เกราะแสง> จากด้านหลังเขา
หลังจากนั้น เศษน้ำแข็งก็ตกลงมาจากท้องฟ้าบนบาเรียของเขา
เช่นนี้ การโจมตีขององค์ประกอบต่าง ๆ จำนวนมากกระทบกับบาเรีย
*พิสตู้ม*
*บึ้ม*
*กรี้ๆ*
…
มีรอยแตกบนบาเรียแต่มันยังคงอยู่
เอธานมองดูการโจมตีจำนวนมากกระทบกับบาเรียในขณะที่เกิดรอยร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ
[0:01]
*บึ๊ก*
เอธานพึมพำ “การโจมตีครั้งสุดท้าย”
ใบมีดพลังงานรูปตัว X ที่มีสีเข้มและสีเขียวมาด้านหน้าของเขาและกระแทกบาเรีย
*สแลซๆๆๆ*
รอยแตกเพิ่มขึ้นอย่างมากและบาเรียของเขาใกล้จะแตกออกจากกัน
แต่…
[ ยินดีด้วย!! คุณผ่านชั้น 32 แล้ว ให้รางวัล 1 คะแนน ]
“วุ้ย ดีที่ฉันไม่ลังเลที่จะใช้พลังแห่งแสง” เอธานพูดขณะที่เช็ดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริง
หลังจากผ่านชั้นนี้ไป ชั้นก็สูงขึ้น และเขาก็มาถึงชั้นที่ 33
…
[ ในการผ่านชั้นนี้ คุณต้องหลบการโจมตีทั้งหมดโดยใช้คาถาสนับสนุนเพียงครั้งเดียวเป็นเวลา 1 นาที การโจมตีจะเริ่มใน 10 วินาที ]
[10]
[9]
…
[1]
[0]
[ โจมตีเข้ามา ]
เอธานได้สร้าง <ปีกสายฟ้า> ขึ้นแล้วและพร้อมที่จะหลบการโจมตี
[0:59]
การโจมตีครั้งแรกมาต่อหน้าเขา ซึ่งเขาหลบได้ง่าย การโจมตีครั้งที่สองมาจากข้างหลังเขา และในขณะที่เขากำลังจะหลบไปทางขวา เขารู้สึกว่ามีการโจมตีอื่นมาจากทิศทางนั้น
“ไอ้ที่ม้วนๆ อยู่นั่นแหละ เอาเลย!”
จากนั้นเขาก็จดจ่อกับการหลบหลีกอย่างเต็มที่ในขณะที่การโจมตีเริ่มเร็วขึ้นและความถี่ของการโจมตีที่เข้ามาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
…
[00:00]
[ ขอแสดงความยินดี! คุณผ่านชั้น 33 แล้ว ให้รางวัล 1 คะแนน ]
‘ ให้ตายสิ มันเหนื่อยมากเลยนะเนี่ย ‘ เอธานหายใจเข้าพลางคิด ‘ วินาทีสุดท้ายนั้นยากเพราะการโจมตี 4 ครั้งมาจากทิศทางที่ต่างกัน และฉันต้องหาจุดที่สมบูรณ์แบบเพื่อหลบพวกมัน ดูเหมือนว่าความท้าทายจะยากขึ้นเรื่อยๆ ‘
เมื่อผ่านขั้นนั้นมา น้ำก็ท่วมตัวเขาสูงขึ้นเมื่อเขามาถึงชั้น 34
…
[ กรุณาตอบคำถาม หากคุณตอบถูก คุณจะสามารถผ่านชั้นนี้ได้ ‘
เมื่อได้ยินความท้าทายของชั้นนี้ เอธานก็ขมวดคิ้วและพึมพำว่า “เป็นความท้าทายในการตอบคำถามเหรอ?”
[ คุณได้สำเร็จในการสำรวจยานอวกาศเอเลี่ยนที่มี “สิ่งสำคัญ” ที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติทั้งหมดได้ หากคุณสามารถนำสิ่งนั้นไปให้พันธมิตรคนใดคนหนึ่งของยูเนี่ยนได้ แต่คนที่คุณรักหรือคนที่คุณรักถูกจับเป็นตัวประกันโดยมนุษย์ต่างดาวบนยานอวกาศลำอื่น และพวกเขาเรียกร้องให้คุณคืน “สิ่งสำคัญ” กลับไปให้พวกเขา คุณจะทำอย่างไร? คุณจะนำ “สิ่งสำคัญ” กลับมาที่ ศูนย์ใหญ่หรือส่งคืน “สิ่งสำคัญ” กลับไปที่เรือเอเลี่ยนเพื่อแลกกับคนที่คุณรักหรือคนที่คุณรักหรือไม่? ]
เอธานขมวดคิ้วเมื่อเห็นคำถามและยิ้มเยาะ ‘ เป็นคำถามแบบนี้ ฉันคิดว่าคำถามอาจเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ฉันไม่รู้ ‘
เอธานตอบพลางกระแอมว่า “คำตอบของฉันคือ…..”
…
[ คุณล้มเหลวในการผ่านชั้นที่ 34 แต่เนื่องจากคำตอบของคุณเป็นไปได้และกล้าหาญเช่นกัน คุณจะได้รับ 10 แต้มเป็นรางวัล ]
“อะไรนะ…ถ้าคำตอบของฉันดีพอที่จะทำให้ฉันได้ 10 คะแนน เธอก็ควรจะผ่านฉันไปซะ”
หลังจากนั้น ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าเขาเมื่อเขากลับมายังที่ราบหญ้า
[ คะแนนร้านค้า ] : 42.47 คะแนน
เอธานมองไปที่จุดต่างๆ และเปิด [ ร้านค้าแต้ม ]
รายการในหน้า 2 ของ [ ร้านค้าแต้ม ] คล้ายกับรายการในหน้า 1 แต่แต่ละรายการในหน้า 2 มีดาวอยู่ข้างชื่อ
[ ยาเสริมแก่นแท้ ] – ★
[ ดาบนิคานิแห่งดอกบัวสีน้ำเงิน ]- ★★
[ กระดานชนวนน้ำ ]- ★★
[ ยาสร้างประตูควบแน่น ]- ★
…
…
ราคาของรายการในหน้า 2 อยู่ระหว่าง 20 คะแนนถึง 100 คะแนนและดาวสูงสุดคือ 2
ไอเท็มที่แพงที่สุดคือ กระดานชวนเจตจำนง และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ
เขาเพียงแค่ดูรายการเหล่านั้นและไม่ได้วางแผนที่จะซื้อใดๆ หลังจากดูรายการเหล่านั้นแล้ว เขานั่งลงในการไกล่เกลี่ยและเริ่มเข้าใจเจตจำนงระดับกลางแห่งอากาศ
…
หลังจากที่ไม่มีใครรู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน การประกาศก้องกังวาน
[ รอบที่ 2 จบลงอย่างเป็นทางการแล้ว และรอบสุดท้ายจะเริ่มหลังจาก 2 ชั่วโมง ]
เอธานลืมตาขึ้นและคิดว่า ‘2 ชั่วโมง…..นั่นน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับฉันที่จะเข้าใจระดับกลางของเจตจำนงธาตุอากาศในขณะนี้ที่ฉันใกล้จะทำมันเสร็จแล้ว’
จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นการปรากฏตัวของเทียน่าและยิ้มในขณะที่เขาหันไปหาเธอ ‘ เธอต้องอยู่ที่นี่ซักพักแต่ไม่ได้รบกวนฉันในขณะที่ฉันกำลังทำสมาธิอยู่ ‘
เทียน่าถามด้วยความคาดหมายเมื่อเห็นเอธานมองมาที่เธอ “นายขึ้นไปกี่ชั้น”
เอธานส่ายหัวและตอบด้วยน้ำเสียงที่ทำอะไรไม่ถูก “ฉันสอบไม่ผ่านชั้นที่ 34 แต่พวกเขาให้ 10 คะแนนสำหรับคำตอบของฉัน ฉันไม่เข้าใจว่าพวกเขาไปถึงข้อสรุปนั้นได้อย่างไร พวกเขามอบความล้มเหลวให้ฉัน แต่ให้ 10 คะแนน อย่างไรมันก็แปลก ๆอยู่ดี “
จากนั้นเขาก็ถามเทียน่าว่า “แล้วเธอล่ะ”
เทียน่ายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า “ฉันแทบจะไม่ได้ผ่านชั้น 30 โดยฉันน่ะใช้เวทมนตร์เกือบทั้งหมดที่ฉันได้รับจากดอกไม้เบลซอล และฉันก็ใช้พลังงานต่ำมาก หลังจากนั้น สำหรับเรื่องนั้น [ ปืนไรเฟิลเบลซซิ่ง ] ฉันได้รับจากหิน มันเป็นอาวุธที่ดี แต่ไม่เหมาะกับ หอคอยแห่งการท้าทายเลย เพราะใช้พลังงานมาก ”
” โชคดีที่ความท้าทายของชั้นที่ 31 นั้นง่ายเพราะ พลังงานคาถาภูเขาไฟสายฟ้าของฉัน แต่ฉันไม่สามารถผ่านชั้น 32 ได้เพราะเวทย์ป้องกันของฉัน <โดมเบลซซิ่ง> ไม่สามารถต้านทานการโจมตีทั้งหมดได้ เนื่องจาก พลังงานภูเขาไฟสายฟ้านั้นเหลือน้อย “
จากนั้นเธอก็คิดอย่างกังวลว่า ‘ ฉันหวังว่าฉันจะสามารถผ่านรอบที่ 3 ได้เช่นกัน เพราะถ้าฉันไม่ผ่าน เอธานอาจเลือกที่จะไม่ลงทะเบียนในมีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่และถ้าเขาตัดสินใจที่จะรอฉันจริงๆ มันก็มาจากความล้มเหลวของฉัน …’
เธอมองไปที่เอธานที่มองเธอด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“เธอกำลังคิดอะไรอยู่” เอธานถามเมื่อเห็นเทียน่าที่กำลังมึนงงราวกับว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
เทียน่าส่ายหัวและพูดว่า “ไม่มีอะไร”
‘ เอธาน นายจะต้องทะยานสู่จุดสูงสุดของโลกนี้อย่างแน่นอน และฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองกลายเป็นโซ่ตรวนที่ผูกมัดนายจากการทำเช่นนั้น ดังนั้นหากเป็นอย่างนั้น…..ฉันจะปลดปล่อยนายเอง ‘
‘ แต่ฉันไม่มีแผนที่จะแพ้ไปโดยไม่มีการพยายามที่จะต่อสู้หรอก ฉันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ไปกับนายได้ ‘
จากนั้นเธอก็ยิ้มและพูดกับเอธานว่า “ฉันแค่คิดว่าจะซื้ออะไรจากร้าน ฉันต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเองไปรอบที่ 3”
“โอ้….” เอธานเริ่มคิดหาวิธีเสริมความแข็งแกร่งให้กับพลังปัจจุบันของเทียน่า
เขาดูค่าสถานะของเธอก่อน แล้วหลังจากนั้น เขาก็พูดว่า ” เธอมีเวทมนตร์ทุกประเภทเพียงพอแล้ว เพราะดอกไม้เบลซอล และสำหรับพลังงาน ไฟของเธอ สายฟ้า น้ำ และภูเขาไฟสายฟ้าจะเต็มหลังจากเราฟื้นคืนมันมาจากที่นี่ ดังนั้น สิ่งเดียวที่เธอสามารถปรับปรุงได้ในขณะนี้คือร่างกายของเธอ ”
หลังจากนั้น เขาแนะนำว่า ” ฉันคิดว่าเธอควรซื้อยาเหล่านั้นจากหน้า 1 ของร้านค้าแต้ม และเพิ่มความแข็งแกร่งและร่างกายของเธอ มันจะใช้จำนวนประมาณ 10 เม็ด ยาเม็ดเหล่านั้นมี 5 แต้ม ดังนั้นเธอสามารถจ่ายได้ “
เทียน่าพยักหน้าเห็นด้วยขณะที่เธอพูด “ฉันก็คิดอย่างนั้น เป็นการดีที่สุดที่จะใช้คะแนนเพื่อเสริมกำลังตัวเองให้มากที่สุด เพื่อที่ฉันจะได้เพิ่มโอกาสในการผ่านรอบสุดท้าย”
หลังจากนั้น เทียน่าก็ซื้อยาเม็ด 2 เม็ดและกินเข้าไปก่อนที่จะนั่งสมาธิ และ เอธาน ก็เริ่มเข้าใจระดับกลางของเจตจำนงอากาศ ในขณะที่เขาปล่อยให้จิตสำนึกของเขานั่งอยู่ในวังวนสีดำ
…
…
ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ภายในห้องทำงานของกัปตัน
[ คำตอบของฉันคือ เนื่องจาก ” สิ่งสำคัญ ” ก็สำคัญมากสำหรับพวกเขาเช่นกัน ฉันจะขอให้พวกเขาปล่อยคนที่รักของฉัน เพื่อแลกกับการปล่อยให้ตัวเองถูกกักขังโดยพวกเขาพร้อมกับ “สิ่งสำคัญ” หลังจากที่พวกเขาพาฉันขึ้นยานไป ฉันจะทำลายพวกมันและนำ “สิ่งสำคัญ” กลับคืนสู่คลัสเตอร์ยูเนี่ยน(ศูนย์ใหญ่)ทันที! ]
กัปตันมีรอยยิ้มบนใบหน้าขณะคิดว่า ‘ คำตอบของเด็กคนนั้นน่าสนใจแน่นอน ไม่ว่าเขาจะเขลาหรือโง่เขลา แต่คำตอบของเขาเป็นไปได้ด้วยความแข็งแกร่ง ความสามารถ และความกล้าหาญที่มากพอ ‘
จากนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไปและพูดว่า “มันสนุกเสมอที่ได้อ่านคำตอบของเด็กเหล่านี้ บอกฉันทีว่ายังมีคำตอบนอกรีตอื่นๆ อีกไหม”
[ ครับ กัปตัน ]
ตอนที่ 58: รอบ 2 หอคอยแห่งความท้าทาย
รอบแรกยังคงดำเนินต่อไป ดังนั้นเอธานจึงนั่งลงและเริ่มทำความเข้าใจเจตจำนงในขณะที่เทียน่า ก็ตัดสินใจที่จะนั่งสมาธิ เพื่อทำความเจตจำนงคาถาภูเขาไฟสายฟ้าของเธอลึกซึ้งยิ่งขึ้น
หลังจาก 3 ชั่วโมง เอธานเข้าใจเจตจำนงของน้ำถึงระดับกลางได้
หลังจาก 7 ชั่วโมง เอธานก็เข้าใจเจตจำนงของสายฟ้า ถึงระดับกลาง
หลังจาก 10 ชั่วโมง เอธานก็เข้าใจ เจตจำนงของไม้ ถึงระดับกลาง
แต่ละครั้งก่อนที่จะเริ่มเข้าใจเจตจำนง เอธาน จะคว้าพลังงานธาตุและเปลี่ยนมันให้อยู่ในรูปแบบขั้นต้นก่อนที่จะศึกษามัน ตัวอย่างเช่น ตอนนี้เขามีพลังงานมืดลอยอยู่ในมือ และเขารู้สึกและศึกษามันอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับผลกระทบของมัน คุณสมบัติของมัน ฯลฯ
หลังจากศึกษาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เขาก็หลับตาและส่งจิตสำนึกของเขาไปยังส่วนลึกที่สุดของวังวน ก่อนที่จะเริ่มเข้าใจเจตจำนงแห่งความมืดตามความเข้าใจของเขาที่มีเกี่ยวกับธาตุมืด
หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง เอธานก็ได้เข้าใจเจตจำนงแห่งความมืด และหลังจากนั้นอีก 4 ชั่วโมง เขาก็ไปถึงระดับกลาง
เขายังพยายามทำความเข้าใจระดับสูงสุดต่อไปด้วย แต่ที่ลัคเซลพูดมันถูก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจระดับสูงสุดได้ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ขั้น Origin Intent Plane เพราะหลังจากไปถึงระดับกลางในเจตจำนงต่างๆแล้ว เขาจะรู้สึกราวกับว่าเขาถูกหยุดไว้ เช่นเดียวกับเมื่อคุณเดินอยู่บนถนน แต่เดินได้สักพักก็เจอทางตัน
เพื่อขจัดทางตันนี้ เอธานก็ต้องทำการชำระมลทินมาจากแหล่งกำเนิด
หลังจากนั้นเขาลืมตา และเข้าใจระดับกลางของเจตจำนงธาตุมืดและเริ่มศึกษาพลังงานแสง เขาไม่เคยสร้างคาถาธาตุแสงใดๆ เพราะเขาไม่เข้าใจธาตุนี้ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เขากำลังวางแผนที่จะสร้างพลัง คาถาของธาตุแสง
หลังจากผ่านไป 9 ชั่วโมง เขาเข้าใจระดับกลางเจตจำนงแห่งแสงและตัดสินใจสร้างคาถารักษาของธาตุแสง
คาถารักษาตรงไปตรงมา พลังงานแสงมีคุณสมบัติในการรักษา และเขาเพียงแค่ต้องควบคุมอัตราการบีบอัดของพลังงานและปริมาณของพลังงาน
เขาตัดสินใจว่าคาถานั้นจะอยู่ในรูปของ ผงแสงเล็ก ๆ ที่มีปริมาณพลังงานแสงเข้มข้น ดังนั้นชื่อของมันคือ <ผงแห่งการรักษา>
ความพิเศษอื่น ๆ ขององค์ประกอบแสง คือมีความต้านทานสูงต่อองค์ประกอบอื่น ๆ ยกเว้นองค์ประกอบที่มืด แต่ยังทำงานได้ดีกับองค์ประกอบที่มืด กล่าวโดยย่อ องค์ประกอบทั้ง มืด และ แสง ต่างก็เป็นศัตรูกัน
หลังจากศึกษาพลังงานทั้งแสงและความมืดแล้ว เอธานพบว่าธาตุแสงมีความต้านทานสูงต่อธาตุอื่น ยกเว้นธาตุมืด ในขณะที่ธาตุมืดมีผลทำให้ธาตุอื่นอ่อนแอลง ยกเว้นธาตุแสง
เอธานลืมตาขึ้นว่า ‘ ตอนนี้ฉันเข้าใจเจตนาขั้นกลางของไฟ อากาศ ไม้ ดิน น้ำ สายฟ้า มืดและสว่างแล้ว และสิ่งเดียวที่เหลือให้เข้าใจคือเจตจำนงของอวกาศ ‘
จากนั้นเขาก็ดูนาฬิกาจับเวลาที่เขาสร้างขึ้นโดยใช้พลังงานลึกลับภายในอาณาจักรลึกลับของเขา และพบว่าตอนนี้ได้ผ่านไป 26 ชั่วโมงแล้ว
‘ หวังว่ารอบนี้จะดำเนินต่อไปจนกว่าฉันจะเข้าใจเจตจำนงของอวกาศ ‘
เขาแทบจะเข้าสู่การทำสมาธิที่คล้ายๆการหลับลึกเป็นเวลา ครึ่งชั่วโมง ก่อนที่เขาจะต้องหยุดมันลง
การประกาศดังก้องไปทุกหนทุกแห่งพร้อมกับการแสดงขนาดใหญ่บนท้องฟ้า
[ รอบแรกจบลงอย่างเป็นทางการ รอบที่ 2 จะเริ่มในอีกหนึ่งชั่วโมง ]
เอธานได้ยินประกาศและคิดว่า ‘ ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นในตอนนี้ เนื่องจากฉันไม่สามารถเข้าใจระดับกลางของเจตจำนงธาตุอากาศได้ภายใน 1 ชั่วโมง ‘
เทียน่าลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินประกาศดังกล่าว
เมื่อมองไปที่เธอ เอธานถามว่า “เธอได้อะไรไปบ้างไหม”
เทียน่าพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ฉันรู้สึกว่าในไม่ช้า ฉันจะสามารถเข้าใจระดับกลางของเจตจำนงของคาถาภูเขาไฟสายฟ้าได้ และฉันคิดว่าพลังของฉันเพิ่มขึ้นเนื่องจากการทำความเข้าใจในเจตจำนงของคาถาภูเขาไฟสายฟ้า ในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น “
“ก็ดี ยังไงก็รอกันก่อน อีกชั่วโมงเดียวก็จะผ่านไป”
…
…
[ ถึงเวลาสำหรับรอบที่ 2 แล้ว ]
[ รอบที่ 2 ครั้งนี้คือ หอคอยแห่งการท้าทาย หากต้องการผ่านรอบนี้ จะต้องผ่านชั้น 30 เป็นอย่างน้อย ผู้ที่ไม่สามารถผ่านชั้น 30 จะถูกคัดออกและส่งกลับบ้านผ่านการเคลื่อนย้ายมวลสาร ]
[ ผู้ที่ผ่านชั้น 30 จะได้รับ 10 แต้ม หลังจากนั้น คุณยังสามารถท้าทายชั้นถัดไปเพื่อรับคะแนนเพิ่มเติม ดังนั้นพยายามให้ดีที่สุด ]
[ รอบที่ 2 เริ่มใน 10 วินาที ]
[10]
[9]
…
[2]
[1]
[0]
…
…
ทันทีที่นับถอยหลังเข้าสู่ศูนย์ เอธานก็ได้มาถึงห้องทรงกลม ห้องไม่เล็กเกินไป แต่ก็ไม่ใหญ่เกินไป มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 25 เมตร
ขณะที่เขาสงสัยว่าความท้าทายคืออะไร หน้าจอก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา
ปูดำตัวใหญ่ สูง 2 เมตร กว้าง 4 เมตร มีก้ามหนีบและตาโต
ทันทีที่ปรากฏ มันก็เปิดปากของมันและปล่อยกระแสน้ำสีดำออกมา
เขาหลบมันอย่างง่ายดาย ก่อนที่จะกระโดดเข้าหามัน เมื่อมาถึงหลังของมัน เขาก็ชกอย่างแรงและเอาชนะมันได้อย่างง่ายดาย
หลังจากที่มันหายไป เขาก็อยู่บนชั้นสูงและเขาก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องกลมอีกห้องหนึ่ง
คราวนี้ หมาป่า 2 ตัวปรากฏตัวต่อหน้าเขา ขณะที่ทั้งสองพุ่งเข้าหาเอธานโดยแยกเขี้ยวอันแหลมคม แต่พวกมันก็พ่ายแพ้อย่างง่ายดายเช่นกัน
เขาไม่ได้ใช้พลังงานใด ๆ และไม่ได้วางแผนที่จะใช้พลังงานเว้นแต่จำเป็น เพราะหากเขาต้องการไปถึงชั้นที่สูงขึ้น เขาต้องใช้มันอย่างระมัดระวังและประหยัดพลังงาน เนื่องจากเขาไม่มีเวลาพักหลังจากผ่านแต่ละชั้น
บนชั้น 20 ในที่สุดเขาก็ใช้คาถาแรก
ศัตรูคือเต่าธาตุที่มีสถานะและความสามารถในการป้องกันสูงและปล่อยก้อนหินดิน ซึ่งไม่ใช่เรื่องตลก ดังนั้นเอธานจึงตัดสินใจจบมันโดยใช้ < ฟองอากาศธาตุมืด> กับมัน
หลังจากเข้าใจเจตจำนงแล้ว คาถาของเขาก็มีพลังมากอย่างเห็นได้ชัด
ในชั้นต่อมา เอธานต้องใช้เวทมนตร์อย่างน้อย 1 คาถาและมันก็ขึ้นอยู่กับศัตรู โชคดีที่พลังโจมตีของเวทย์มนตร์ของเขาเพียงพอที่จะเอาชนะศัตรูได้ในการโจมตีครั้งเดียว ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะต้องใช้พลังงานมากขึ้น
ศัตรูบนชั้น 27 ซึ่งดูเหมือนนกกระจอกสีเงินพิสูจน์แล้วว่าเขาจะเอาชนะมันได้ค่อนข้างลำบากเพราะมันเร็วมากเกินไป
ขนาดของมันเท่ากับแร้งธรรมดาที่พบในชาติก่อน จากสัตว์อสูรที่เขาเคยเห็นมาจนถึงตอนนี้ นกกระจอกตัวนี้มีขนาดเล็กที่สุด
แต่ถึงแม้จะตัวเล็ก มันก็เร็วเกินไปและมันยังปล่อยดาบอวกาศที่ฟันบนร่างของเอธาน และพิสูจน์ได้แล้วว่ามันเป็นปัญหากับเขา ดังนั้นเขาจึงวาง <เกราะป้องกันความมืด> เพื่อป้องกันพวกมัน
” ปัญหาตอนนี้คือเขาจะฆ่านกกระจอกตัวนั้นยังไง ฉันแค่ต้องตีมันครั้งเดียวและมันจะพ่ายแพ้ แต่ฉันจะเสีย <หอกสายฟ้า> และ <ลูกไฟ> ไปเสียแล้ว แต่ไม่สามารถโจมตีมันได้”
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็จำคาถาที่เขาไม่ได้ใช้มาเป็นเวลานานหรือไม่เคยใช้จริงๆ หลังจากที่สร้างคาถาได้สำเร็จ
เอธานพยักหน้าคิดว่า ‘ อืม มันจะได้ผลแน่นอน ‘
<ทอร์นาโดไฟ>
พายุทอร์นาโดก่อตัวขึ้นต่อหน้าเขาและมีขนาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเอธานเทพลังงานลงไป
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที พายุทอร์นาโดไฟก็ใหญ่พอที่จะครอบคลุมพื้นที่ 75% ของห้อง ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับความสามารถในการบินของนกกระจอก
หลังจากเอาชนะนกกระจอกแล้ว เอธานก็ไม่พบสัตว์วิเศษที่น่ารำคาญแบบนั้นและไปถึงชั้น 30 อย่างราบรื่น
แน่นอน เขาต้องใช้คาถาบนชั้นเหล่านั้นด้วย เพราะไม่เช่นนั้น พวกมันจะกลายเป็นปัญหา สำหรับเขา และร่างกายของเขาเพียงคนเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะจัดการกับสัตว์ร้ายเหล่านั้น เนื่องจากสถานะของร่างกายของเขาถูกจำกัดไว้ที่ 10/10/10
ในตอนนี้ที่ชั้น 30 ศัตรูของเอธานก็ปรากฏตัวขึ้นในที่สุด
มันเป็นลิง…มีขนาดเท่าคนปกติ มีขนสีน้ำตาลและปีกสีดำ
ทันทีที่ปรากฏ มันโบกมือทั้งสองข้างและดาบสีดำสองเล่มพุ่งเข้าหาเอธานด้วยความเร็วที่รวดเร็ว
เอธานยังกาง <ปีกสายฟ้า> จากด้านหลังของเขาในขณะที่เขาหลบการโจมตี
การควบคุมมันจากการซ้อมรบของเขาดีขึ้นเล็กน้อย หลังจากเข้าใจเจตจำนงของสายฟ้า และ เจตจำนงของอากาศแล้ว ซึ่งทำให้ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาควบคุมปีกสายฟ้าได้มากกว่าปีกธรรมดา ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ชัดเจน
เอธานไม่สนใจและเรียก <หอกสายฟ้า> แต่แทนที่จะขว้างมัน เขาพุ่งเข้าหาลิงด้วยหอกในมือ
ลิงวิ่งหนีไปพร้อมกับปล่อยดาบแห่งความมืด แต่เอธานวาง <เกราะป้องกันแห่งความมืด> ไว้บนตัวเขาเอง และในไม่ช้าก็หยิบเงินขึ้นมาและขว้างหอกเมื่อเขาแน่ใจว่ามันจะโดนลิง
*วูบ*
ลิงถูกหอกตีจนเป็นอัมพาต จึงปิดบังชะตากรรมของมันไว้
[ ขอแสดงความยินดี! คุณผ่านชั้นที่ 30 พร้อมกับรอบที่ 2 แล้ว ]
[ รางวัล : 10 แต้ม ]
[ คุณจะถูกส่งไปยังชั้นที่ 31 ใน 5 วินาทีเพื่อดำเนินการท้าทายต่อไป ทำให้ดีที่สุด. ]
[5]
[4]
…
[1]
[0]
ทันทีที่เขามาถึงชั้นที่ 31 หน้าจอก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาพร้อมกับเสียงโมโนโทน
[ หากต้องการผ่านชั้นนี้ ให้ใช้เวทย์มนตร์ที่มียูนิตโจมตีอย่างน้อย 200 บนก้อนหินที่อยู่ตรงหน้าคุณ ]
“โอ้ ดูเหมือนว่ารูปแบบการท้าทายจะเปลี่ยนไป รอบต่อไปจะเหมือนเดิมไหม” พึมพำแบบนี้ เขามองไปข้างหน้าและเห็นหินสี่เหลี่ยมสีขาว
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เรียก <หอกสายฟ้า> และโยนมันไปที่หินสีขาวด้วยพลังเต็มที่
*ฟีสสสส*
หอกกระทบหินและละลาย แต่หลังจากนั้น หน้าจอก็ปรากฏขึ้นบนหินซึ่งแสดงตัวเลข
[ พลังโจมตี: 104]
‘ ฉันเข้าใจแล้ว…’
ตอนที่ 57: แกลลอรี่ธาตุ ฉันได้…
[ เนื่องจากคุณทำรอบแรกเสร็จแล้ว คุณสามารถเลือกที่จะขนส่งไปยัง แกลลอรี่ธาตุ และเลือกรางวัลของคุณได้ ]
” แกลลอรี่ธาตุ คืออะไร “
ริสะยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย “เป็นสถานที่ที่ดีมาก มีรางวัลมากมายอยู่ในนั้น แต่สิ่งที่ได้จากมันขึ้นอยู่กับโชคของนายเองนะ” พูดจบเธอก็หันไปมอง เอธานและคนอื่นๆ “ฉันจะไปรับรางวัลเอง และเราอาจไม่ได้พบกันอีก ดังนั้นโชคดีในรอบต่อไปของนายนะ”
หลังจากนั้นเธอก็หายไป
ลัคเซลก็ยิ้มก่อนจะหันหน้าไปทางเอธานและเทียน่าก่อนจะพูดว่า “รอบแรก เสมอสินะและถือเป็นรอบรางวัลไม่มีใครตกรอบ แต่จะต่างไปกับรอบที่ 2 ผู้เข้าร่วมจะถูกคัดออก ถ้าไม่ผ่านก็ควรระวัง ส่วนแกลลอรี่ธาตุนายควรจะไปดูเอง”
หลังจากพูดเช่นนี้ เขาก็กล่าวคำอำลากับเอธานและเทียน่าก่อนที่จะหายตัวไป
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนหายตัวไป เอธานก็พูดว่า “เราควรไปดูสิ่งที่เรียกว่า แกลลอรี่ธาตุนี้ด้วย”
หลังจากพยักหน้าให้กัน ทั้งคู่ก็หายตัวไปขณะที่พวกเขาถูกส่งไปยัง แกลลอรี่ธาตุ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนไป เมื่อเอธานมาถึงสถานที่กว้างใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยหินรูปร่างต่างๆ ขนาดของหินมีตั้งแต่ 1 เมตร ถึง 2 เมตร และแต่ละก้อนมีรูปร่างต่างกัน
[ ผู้เข้าร่วม เอธาน คุณมีเวลา 30 นาทีในการเลือกหินที่เป็นรางวัลของคุณ หินแต่ละก้อนมีรายการเดียว บางชนิดอาจมีผลไม้ลึกลับหรือสมบัติทางธรรมชาติ บางชนิดอาจมีคู่มือคาถาอันทรงพลัง บางชนิดอาจมีอุปกรณ์หรือสิ่งประดิษฐ์ ฯลฯ ขึ้นอยู่กับโชค ดังนั้น ขอให้โชคดี ]
” ฉันเข้าใจแล้ว…” เขามองไปที่จอแสดงผลที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาเข้าใจและคิด ‘ลองดูว่าดวงตาที่มีพลังเวทย์มนตร์สามารถเห็นอะไรไหม แม้ว่าฉันจะสงสัยว่ามันจะไม่ได้ผลก็ตาม’
เขาฉีดพลังเวทย์มนตร์เข้าไปในดวงตาเพื่อเพิ่มพลังและมองไปรอบ ๆ แต่ทุกอย่างดูเหมือนกับตอนที่เขามองปกติ
‘ อืม. ฉันคิดว่าวังวนสีดำก็ใช้ไม่ได้เช่นกัน ของจริงจะอยู่ในโลกแห่งความจริง ในขณะที่หินก้อนนี้เป็นเพียงตัวแทนของสิ่งของเหล่านั้น ‘
เขามองดูก้อนหินรอบๆ ตัว ‘ โชค ห๊ะ…ฉันไม่รู้ว่าโชคของฉันดีหรือไม่ดี ‘
เมื่อคิดดูแล้ว เขาก็เลือกหินที่ใกล้ที่สุดสำหรับเขา หินนั้นสูงประมาณ 1.4 เมตร และมีรูปร่างแปลก ๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้
[ คุณแน่ใจหรือว่าต้องการเลือกหินก้อนนี้เป็นรางวัลของคุณ? ]
“ฉันแน่ใจ” เอธานพยักหน้า ‘ เนื่องจากไม่มีทางรู้ว่ามีอะไรอยู่ในหิน แล้วเสียเวลาเปล่าไปเพื่ออะไร ‘
หลังจากที่เขาตอบ หินที่เขาหยิบยังคงอยู่และหินอื่นๆ ทั้งหมดหายไป
[ คุณต้องการเปิดตอนนี้หรือหลังจากนั้น? ]
“เปิดเดี๋ยวนี้”
หลังจากตอบ เอธานก็เห็นว่ารอยร้าวเริ่มปรากฏบนหิน และหลังจากนั้น 5 วินาที มันก็พังลงและเผยให้เห็นสิ่งที่น่ารักต่อหน้าเขา
[ ยินดีด้วย คุณได้…..]
…
…
หลังจากได้รับรางวัลแล้ว เอธานก็มาถึงดินแดนหญ้าอันกว้างใหญ่อีกครั้ง แต่เขายืนอยู่ที่นั่นอย่างตะลึงงันมองไปที่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างหน้าเขา
“อืม เจ็บนะ…” เอธานบีบแก้มตัวเองอย่างงุนงง เอธานยืนยันว่าไม่ได้ฝันไป
*เมี้ยววววววววว…*
ลูกแมวตัวเล็กและน่ารักมากที่มีขนสีขาวมีแถบสีดำและสีเทากำลังลูบหัวไปทางขาของเอธาน ขณะที่มันร้อง
“เฮ้ เพื่อน อย่าบอกนะว่านายได้ลูกแมวตัวนี้มาจาก แกลลอรี่ธาตุ”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น เอธานมองไปทางด้านซ้ายและเห็นชายคนหนึ่งอายุ 19 หรือ 20 ปี เขามีผมสีเขียวเข้ม และสวมชุดปีศาจแดง
เอธานหยิบลูกแมวขึ้นมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่ เป็นอะไรไป”
หัวเราะ ชายคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่โชคยังดีเกินกว่าจะได้แมวจากหิน 555”
*เมี้ยวววว….*
ลูกแมวตัวเล็กปีนบนไหล่ของเอธานจากมือของเขาและร้องเหมียวอีกครั้ง
เอธานพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “จริงสิ ดีมาก แมวเป็นสัตว์ที่ฉันชอบ จริงๆ แล้วฉันมีความสุขมากที่ได้แมวเป็นรางวัล มันน่ารักมาก…เหมือนแมวที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา “
“…นายจริงจังไหม ผู้คนสามารถรับผลไม้หรือยาเพิ่มความสัมพันธ์ คู่มือคาถาอันทรงพลังและสิ่งประดิษฐ์ แต่นายเพิ่งมีแมว ไม่ควรดีใจสักหน่อย….นายรู้ไหม” ชายคนนั้นพูดด้วยความสับสน สีหน้าและความคิด ‘ เขาไม่ควรจะหงุดหงิดหรือ? ‘
“ แท้จริงแล้ว พวกเขามีโชครองลงมาจากฉัน ในขณะที่ฉันโชคดีมาก…” เขาหยุดพูดชั่วครู่หนึ่ง เอธานถาม “นายเคยเห็นคนเอาแมวออกจากหินมาก่อนหรือไม่”
“เอ่อ….ไม่เคยครับ” ชายคนนั้นตอบขณะเกาหัว
เมื่อได้ยินเขา เอธานก็พยักหน้าและยิ้ม “เห็นไหม มันหมายความว่าโชคของฉันดีจริงๆ”
“ยังไงก็ได้ ขอแค่นายมีความสุข” พูดจบชายคนนั้นก็จากไป
เอธานหยิบแมวขึ้นมาจากไหล่แล้วมองดู
*เมี้ยว…เมี้ยว*
เอธานพึมพำ “แมวตัวนี้…” เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เกี่ยวกับแมวตัวนี้ มันให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนใคร
‘ อย่างไรก็ตาม มันเป็นความจริงที่แมวเป็นสัตว์ที่ฉันชอบ นอกจากนี้ แมวตัวนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่สัตว์ธรรมดา ‘
เมื่อมองไปที่แมวที่กำลังนั่งอยู่บนฝ่ามือขณะมองดูเขา เอธานก็คิดว่า ‘ ต่อไปฉันจะรู้ว่ามันเป็นสัตว์ปกติหรืออย่างอื่น แต่ตอนนี้ฉันควรจะตัดสินใจเกี่ยวกับชื่อของมัน ‘
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ
“ลัคกี้…จากนี้ไปแกจะได้โชคดี”
*เมี้ยววววว….*
“ว้าว นั่นเป็นแมวที่น่ารักมาก!!” เสียงของเทียน่า ก็มาถึง เอธานตอนนี้ที่กำลังน่าตกใจเล็กน้อย
เมื่อมองไปทางขวา เอธานก็ยิ้มและพูดว่า “มันชื่อลัคกี้” หลังจากนั้นเขาก็ถามว่า “เดี๋ยวนะ เธอได้อะไรจากหินที่หยิบมา?”
” ฉันได้อาวุธชื่อ ปืนไรเฟิลเบลซซิ่ง” เทียน่าโบกมือ และปืนไรเฟิลก็ปรากฎขึ้นในมือของเธอ ปืนไรเฟิลนั้นดูคล้ายกับปืนไรเฟิลฟลิ้นล็อค แต่ลำกล้องของมันใหญ่กว่าเล็กน้อย มันมีสีส้มพระอาทิตย์ ซึ่งไม่ได้ดู เหมือนทาสีแต่เป็นสีของตัววัสดุเอง
จากนั้นเธอก็ปัดมือและหน้าจอที่มีรายละเอียดของ ปืนไรเฟิลเบลซซิ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอธาน
[ ปืนไรเฟิลเบลซซิ่ง ]
-ธาตุไฟ
– ด้วยการฉีดพลังงานอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถยิงกระสุนท่อที่ทรงพลังด้วยพลังระเบิดและพื้นที่สูง
– แนะนำให้ใช้พลังงานไฟ การโจมตีด้วยพลังงานขององค์ประกอบธาตุอื่นๆ จะลดลงเนื่องจากวัสดุที่ใช้สร้างอาวุธ
” มันดูทรงพลัง คงจะดีมาก ถ้ามันสนับสนุน ธาตุสายฟ้าได้ด้วย ” เอธานพูดหลังจากดูข้อมูล
หลังจากนั้น เขามองไปที่เทียน่าและถามว่า “เทียน่า เธอมีพลังงานสีขาวที่มีสีทองอยู่ภายในอาณาจักรลึกลับของเธอหรือไม่”
*เมี้ยววว….* ลัคกี้สะกิดหน้าเอธาน
” อ่า….ดูเหมือนลัคกี้จะติดนายแล้ว ” เทียน่ายิ้มอย่างมีความสุขและตอบคำถามของเอธาน “ใช่ พลังงานนั้นซ่อมแซมอาณาจักรพลังงานของฉัน และนั่นเป็นสาเหตุที่ฉันไม่ตายเมื่อฉันไปรับกลีบดอกไม้จากโซนอันตรายนั้น”
“โอ้…” เอธานคิดในใจเมื่อได้ยินเธอ ‘ พลังงานนั้นมีคุณสมบัติในการรักษาเหรอ? ‘
*เมี้ยว…เมี้ยววว…เมี้ยว…เมี้ยว*
ลัคกี้สะบัดศีรษะเข้าหาใบหน้าของเอธานอย่างต่อเนื่อง
เอธานมองดูอย่างสับสน ลูกแมวก็มองมาที่เขาและ…เมี้ยวววววว
“อืมม…ฉันไม่เข้าใจที่มันพูด”
เทียน่ามองที่ลัคกี้และพูดว่า “มันกำลังพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง”
เอธานจำได้ว่าลัคกี้ที่สะกิดเขา เมื่อเขาถามคำถามเทียน่าเกี่ยวกับพลังงานสีขาวที่มีเฉดสีทองอยู่ แต่ลูกแมวไม่รู้เรื่องนี้ ซึ่งหมายความว่า…
เพื่อยืนยันการเดาของเขาเอธานมองไปที่ลัคกี้และพูดว่า ” อาณาจักรลึกลับ? “
*เมี้ยว…เมี้ยว*
มันพยักหน้าจริงๆ
” ดูเหมือนว่าลูกแมวตัวนี้ไม่ใช่สัตว์ปกติจริงๆ ” เอธานพูดด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นมันพยักหน้า
*เมี้ยวววว…* ลัคกี้พยักหน้าก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนหัวและเอาอุ้งเท้ามาตบที่หัวของเขา
*ซิกซี้…*
เทียน่าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เมื่อเห็นการแสดงตลกของมันและพูดติดตลกว่า “บางทีมันอาจต้องการเข้าไปในอาณาจักรลึกลับของนาย”
*เมี้ยว…เมี้ยว…เมี้ยววววว*
“โอ้…” ทั้ง เทียน่า และ เอธาน ต่างประหลาดใจที่ลัคกี้พยักหน้าอีกครั้ง ซึ่งแสดงว่าสิ่งที่ เทียน่า พูดนั้นถูกต้อง
“แต่ฉันจะทำยังไงดี…” พูดจบเอธานก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้
‘ เนื่องจากฉันไม่สามารถให้เลือดที่แท้จริงของฉันสักหยดในโลกเสมือนจริงนี้ได้ หมายความว่าฉันอาจจำเป็นต้องให้พลังงานเวทย์มนตร์ของฉัน ความพยายามก็ไม่เสียหาย ‘ เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เอธาน ได้นำพลังงานลึกลับบางอย่างด้วยจิตสำนึกของเขาและมอบมันให้กับลูกแมว
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังลึกลับของเอธาน ลัคกี้ก็ร้องเสียงดัง ขณะที่มันดูดซับพลังงานลึกลับจริงๆ
*เมี้ยววววว…*
“อยากได้อีกไหม?”
*เมี้ยว…เมี้ยว*
“ก็ได้…” เมื่อพูดเอธานคนนี้ก็เพิ่มพลังเวทย์มนตร์ให้มากขึ้น
หลังจากที่ลัคกี้กินพลังเวทย์มนตร์ไปเป็นจำนวนมาก มันก็หายไปในทันใด
เทียน่าที่กำลังมองดูอยู่ก็ตกใจ “เอ๊ะ…มันหายไปแล้ว”
ในเวลาเดียวกัน เอธานรู้สึกบางอย่างในอาณาจักรลึกลับ ของเขาและรีบส่งจิตสำนึกของเขาไปยังอาณาจักรลึกลับ
หลังจากไปถึงที่นั่น เอธานก็พบว่าลูกแมวนอนอยู่ในสถานที่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชุดมังกรดำของเขา
‘ มันเข้าไปข้างในจริงๆ แต่ทำไม? ‘ เอธานตกตะลึงและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ‘ เดี๋ยวก่อน…หลังจากที่ลูกแมวตื่นและเข้าไปใกล้อ่างน้ำวนสีดำ มันจะไม่ถูกดูดกลืนโดยวังวนสีดำใช่ไหม? ‘
เอธานรู้สึกปวดหัวเล็กน้อยเมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาตัดสินว่าวังวนสีดำจะไม่ทำอะไรแบบนั้น เพราะปกติแล้วมันจะดูดซับสิ่งต่างๆ ได้แม้ว่าพวกมันจะออกไปข้างนอก และตอนนี้ลูกแมวนั้นอยู่ใน อาณาจักรลึกลับแล้วแต่ ยังไม่ถูกดึงดังนั้นมันคงปลอดภัย
ตอนที่ 56: ต้นไม้ธาตุศพ ,ช็อค
เอธานหลับตาลง พยายามทำให้จิตสำนึกของเขาเข้าสู่อาณาจักรลึกลับและเขาก็ทำสำเร็จ นานแล้วที่เขาเข้ามาที่นี่
ชุดมังกรดำของเขา วังวนสีดำ และพลังงานสีขาวที่มีสีทองอยู่ในนั้นด้วย เขาสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่เขาและเทียน่ามีสัมพันธ์อันลึกซึ้ง วังวนสีดำจะดูดซับบางสิ่งและจากนั้นก็ให้พลังงานนี้ แต่เขาก็ยังไม่รู้จักการใช้พลังงานนี้
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่เขาเข้ามาที่นี่ก็ เพื่อดูว่าเขาสามารถเข้าใจเจตจำนงของดินระดับสูงได้หรือไม่ ดังนั้นจิตสำนึกของเขาจึงมาถึงวังวนสีดำ
เขาไม่ได้หยุดแค่บริเวณรอบ ๆ แล้วไปยังส่วนที่ลึกที่สุด ซึ่งเขาชนกับกำแพงหรือประตู เขาแค่รู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่หลังกำแพง เขาจึงคิดว่ามันเหมือนประตูมากกว่าไม่ใช่กำแพง
และเหตุผลที่เขามาที่นี่ เพื่อทำความเข้าใจเจตจำนงก็คือ เมื่อเขาเข้าใจแผ่นเจตจำนงของธาตุดิน เขาก็รู้สึกว่ามีวังวนสีดำปล่อยอะไรบางอย่างออกมาและบางสิ่งก็ถูกดูดซับโดยคริสตัลธาตุดินในเวลาต่อมา
หลังจากที่คริสตัลธาตุดินดูดซับบางสิ่งที่ปล่อยออกมาจากวังวนสีดำ เขาก็เข้าใจระดับเบื้องต้นของเจตจำนงของธาตุดินทันที
เขารู้สึกว่ามันแปลก แต่เขามั่นใจว่าวังวนสีดำให้บางสิ่งบางอย่างแก่เขาโดยไม่ดูดซับอะไรไว้ล่วงหน้า
‘ ดังนั้น ถ้าฉันพยายามเข้าใจเจตจำนงของดิน ตอนนี้ ฉันอาจจะสามารถเพิ่มระดับเจตจำนงของธาตุดินของฉันเป็นระดับกลางได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่แย่ที่จะลอง’
หลังจากเตรียมการ เขาได้เคลียร์ทุกอย่างในใจและเริ่มทำความเข้าใจธาตุดินในแบบของเขา
‘ โลกนี้ช่างแข็งแกร่ง มั่นคง แข็งแกร่ง และดื้อรั้น ธาตุของความอดทน….’
…
…
เขาเข้าสู่สภาวะคล้ายๆการหลับลึก ในขณะที่เขาเริ่มเข้าใจธาตุดินด้วยวิธีของเขาเอง และด้วยเหตุนี้ เขาไม่ได้สังเกตเห็นวังวนสีดำค่อยๆ ปล่อยประกายไฟสีเหลือง ประกายไฟได้เดินทางเข้าสู่อาณาจักรพลังงานของเขาและเข้าไปใน โลกของคริสตัลของเขา ซึ่งทำให้เขาเข้าสู่สภาวะที่หลับลึกกว่าโดยไม่รู้ตัว และความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับเจตจำนงของดินก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เอธาน ที่ไม่สามารถติดตามเวลาได้ในขณะที่อยู่ในสถานะหลับลึกไม่รู้ว่าเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงแล้ว
…
ลัคเซลเหลือบมองเอธานที่หลับตาอยู่ 1 ชั่วโมงแล้ว และพูดอย่างลังเลว่า “มัน…ผ่านไป 1 ชั่วโมงแล้ว เราควรปลุกเขาไหม”
“ไม่!!”
คำพูดหนักแน่นออกมาจากปากของเทียน่า
ริสะมีสีหน้าหงุดหงิด ขณะพูด “ถ้าอย่างนั้นเราควรรอจนกว่าเขาจะตื่นไหม ต้องใช้เวลานานแค่ไหน? ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าสู่สมาธิหลับลึกแล้ว”
เทียน่าพ่นลมหายใจและพูดว่า “ใช่ เราจะรอจนกว่าเขาจะตื่น การนั่งสมาธิแบบนี้หมายความว่าเขาเข้าใจอะไรบางอย่าง และเขาน่าจะสามารถเข้าใจระดับถัดไปของเจตจำนงของธาตุดินได้ หากเราต้องการคะแนนมากกว่านี้ ก็รอดีกว่า ”
ลัคเซลส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “มันไม่ง่ายขนาดนั้น ถ้าเราไม่ล่ามดทุกๆ 8 ชั่วโมง มดจะถูกอัญเชิญมาที่ตำแหน่งของเรา และมดที่ถูกอัญเชิญจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย เราจึงต้องไปหามดเอง”
หลังจากลัคเซลพูดจบ ริสะก็ประกาศว่า “เราจะรอ 5 ชั่วโมง ถ้าเขายังไม่ตื่นทันก็คงต้องปลุกเขาแรงๆ”
ลัคเซลพยักหน้า “ฉันเดาว่าเขาคงจะลืมเรื่องเวลาไปเหมือนกัน ดังนั้นมันจึงอยู่ในความสนใจของเขาและพวกเราทั้งหมดที่จะปลุกเขาให้ตื่นหลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมง”
…
…
“ อีก 1 ชั่วโมงต่อมา เราจะต้องปลุกเขาให้ตื่น” ริสะพูดหลังจากผ่านไป 4 ชั่วโมง
เทียน่าเหลือบมองริสะ “เธอไม่ต้องพูดแบบนี้ทุกชั่วโมง”
” ฉันแค่บอกเวลา เที –” เสียงของริสะ ขาดหายไปเมื่อเธอสังเกตเห็นเอธานลืมตาขึ้น
ลัคเซลสังเกตเห็นและถามด้วยความคาดหมายว่า “แล้วนี่นายเข้าใจระดับกลางของเจตจำนงของดินหรือยัง?”
เอธานยิ้มจางๆ แล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้…ไม่”
ริสะมองเอธานอย่างรำคาญ “แล้วทำไมเธอถึงยิ้มแบบนั้นล่ะ”
“เพราะว่า…ฉันไม่ได้แค่เข้าใจระดับกลางของเจตจำนงของดิน”
เทียน่ามองไปที่เอธาน และถามด้วยน้ำเสียงที่น่าตื่นเต้น “นายหมายถึงนายเข้าใจ ระดับสูงสุดของเจตจำนงธาตุดินแล้วใช่ไหม”
แต่ทันทีที่เธอพูดจบ ลัคเซลก็ส่ายหัวด้วยความไม่เชื่อ “มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจเจตจำนงขั้นสูงของธาตุดินได้โดยไม่ได้รับการชำระล้างมาจากแหล่งกำเนิดหรอก”
” ฉันจะไม่ทำให้คุณระแวง ฉันเข้าใจเจตจำนงระดับกลางของดิน แต่ยิ่งไปกว่านั้น ฉันยังเข้าใจเจตจำนงระดับกลางของไฟ และ เจตจำนงระดับกลางของอากาศ(ลม)อีกด้วย “
“ เป็นไปได้ยังไง” ลัคเซลและริสะตกใจมาก เมื่อได้ยินสิ่งที่เพิ่งได้ยิน กรามของพวกเขาตกลงไปที่พื้น
เอธานกระแอมแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ฉันเชื่อว่าฉันสามารถเข้าใจเจตจำนงของ ไม้, สายฟ้า และ น้ำ ได้เช่นกัน และทั้งหมดเป็นเพราะผลไม้ที่ฉันกินเข้าไป…” เขาหยุดพูดตรงนี้สักครู่แล้วมองไปที่ ริสะ และลัคเซลก่อนจะถามว่า ” รู้ไหมว่าฉันกินผลไม้ชนิดใด?”
หลังจากตั้งหลักได้แล้ว ลัคเซลก็ถามว่า “อธิบายผลไม้และต้นไม้ให้เราฟัง…”
เอธานพยักหน้ากล่าวว่า “ผลไม้ทั้งหมดนี้มาจากต้นไม้ต้นเดียว ต้นไม้สูง 100 เมตร ต้นไม้มีทั้งหมด 6 ผล และอย่างที่ฉันบอกนายไปแล้ว ผลไม้ก็มีลวดลายเหมือนกันกับที่ฉันเห็น แผ่นเจตจำนงก่อนหน้านี้ แต่ผลของมันก็ใหญ่มากและมีลวดลายมากกว่า…”
เมื่อเอธานบรรยายถึงต้นไม้และผลได้ครึ่งทาง เทียน่าก็สะดุ้งเพราะเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นเช่นนั้น ต้นไม้สูง 3 เมตรและผลมีขนาดเท่าฝ่ามือ แต่เธอก็เข้าใจเหตุผลหลังจากคิดได้ไม่นาน
ทั้ง ลัคเซล และ ริสะ ต่างครุ่นคิดอย่างหนัก หลังจากได้ยินคำอธิบายเกี่ยวกับต้นไม้และผลไม้จากเอธาน
เอธานไม่ได้โกหกแต่ก็ไม่พูดความจริงด้วย ผลไม้เหล่านั้นเห็นได้ชัดว่าสามารถเพิ่มความเข้าใจในเจตจำนงแม้ว่าผลกระทบจะน้อยมาก แต่ถ้ามีต้นไม้ที่ใหญ่กว่านั้นล่ะ? เกิดอะไรขึ้นถ้าต้นไม้และผลมีขนาดใหญ่ขึ้น? ถ้าผลมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะมีลวดลายมากขึ้นและลวดลายมากขึ้นก็หมายถึงการเข้าใจองค์ประกอบของธาตุต่างๆ มากขึ้น
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ลัคเซลและริสะก็มองหน้ากันและพยักหน้าพร้อมกัน ดูเหมือนว่าจะได้ข้อสรุปเช่นเดียวกัน
ลัคเซลมองไปยังเอธานและพูดว่า “มันคือต้นไม้ธาตุศพ ต้นไม้กลายเป็นเถ้าหลังจากที่คุณเก็บผลไม้ทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่?
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออก เขาพยักหน้าไปทางลัคเซล ขณะที่เขาคิดในใจ ‘ แม้ว่าจะไม่ใช่ขนาดนั้นก็ตาม ‘
เมื่อเห็นเอธานพยักหน้า ริมฝีปากของริสะก็เงยหน้าขึ้นด้วยความรังเกียจ ขณะที่เธอพูด “แล้วก็เป็นต้นไม้ธาตุซากศพ หากต้องการให้สูงถึง 100 เมตร คนๆนั้นจะต้องอยู่ที่ขั้นพีคของระดับ Origin Intent Plane เลยนะ ”
เอธานสับสนและถามว่า “หมายความว่าอย่างไร?”
ลัคเซลสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “วิธีการปลูกต้นไม้ธาตุศพนั้นน่ากลัวมาก โดยพื้นฐานแล้วเป็นแบบนี้ นายป้อนผลไม้และพืชจำนวนหนึ่งไปที่ตรงนั้น ซึ่งพลังงานนั้นเป็นระดับใดก็ตามที่นายควบคุมได้ และควบคุมพวกมันด้วยวิธีการที่ฉันเองก็ไม่รู้ นายจะไม่ปล่อยให้คนๆนึงจำแนกอะไรได้ แต่ปล่อยให้คนๆนั้นผสมและเติบโตในตัวพวกเขาเอง จากนั้นหลังจากฝังเขาทั้งเป็นแล้ว ร่างกายของเขาพร้อมกับการฝึกฝนทั้งหมดของเขาจะกลายเป็นสารอาหารและกลายเป็นต้นไม้ไปทันที “
เมื่อได้ยินคำพูดของพวกเขา ทั้งเอธานและเทียน่าก็ตกตะลึง
” แต่วิธีการนั้นถูกห้ามโดยพวกสหภาพ ซึ่งประกอบด้วยองค์กรระดับสุดยอด เมื่อนานมาแล้ว “
“นี่…” เอธานและเทียน่า มองหน้ากันเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ลัคเซลเห็นสีหน้าลำบากใจก็พูดขึ้นว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก เราไม่ไปบอกคนอื่นถึงสิ่งที่นายพูดเมื่อกี้ แล้วนี่นายไปเจอต้นไม้นั้นโดยบังเอิญนี่ ต่อให้สอบสวนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ” ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 100 ปีหรือมากกว่านั้นสำหรับต้นไม้ที่จะเติบโตถึงขนาดนั้นและนายไม่ได้เกิดในเวลานั้น ดังนั้นอย่ากังวลเลย ”
จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดต่อ “แต่ด้วยความช่วยเหลือของนาย เราอาจจะสามารถไปถึง 500 หรือ 100 อันดับแรกในการจัดอันดับในการสอบ Energy Plane รอบนี้ได้เลยล่ะ”
“ไปทุบมดกัน”
จากนั้นทีมก็กลับไปยังที่ที่พวกเขาพบมดตัวก่อน
[A3. Ant]
ค่าความแข็งแกร่ง: 410
โจมตี: 200
การป้องกัน: 140
ความเร็ว: 80
ครั้งนี้ ลัคเซลไปก่อนเพื่อดึงดูดความสนใจของมดและป้องกันการโจมตีของมัน แต่ก่อนที่มดจะโจมตีเขาได้เอธานได้ฟาด <สว่านขุดเจาะ> ของเขาซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากเจตจำนงธาตุไฟ ดิน และอากาศขั้นกลาง ซึ่งได้ทำลายการเปิดเกราะของมด การป้องกันและคาถาภูเขาไฟสายฟ้าของเทียน่า ทำลายร่างกายของมดจากภายใน
[ ลัคเซล: 0.15, ริสะ: 0.15, เอธาน: 0.40, เทียน่า: 0.30 ]
เทียน่าทำได้เพียงโจมตีครั้งสุดท้าย แต่ยิ่งมดมีพลังมากเท่าไหร่ การโจมตีครั้งสุดท้ายของเธอที่ฆ่ามดได้นั้น ก็จะได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นเช่นกัน
[ทีม]
เอธาน: 2.59
เทียน่า: 2.17
ริสะ: 1.91
ลัคเซล: 2.33
จากนั้นทีมเขาก็ยังคงค้นหามดต่อไปอย่างสุขุมโดยใช้วิธีการของริสะ และด้วยกลยุทธ์เดียวกัน พวกเขาเอาชนะมดไปแล้ว 11 ตัว
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั้นยากเพราะ เอธาน, เทียน่า และ ริสะ เกือบตายเพราะมด ใช้การโจมตีระยะไกล หลังจากที่ถูกโจมตีด้วยเวทย์มนตร์ของ เอธาน และ เทียน่า ซึ่งเป็นช่วงที่เทียน่าล้มลงไปและไม่สามารถสู้ได้
แต่โชคดีที่ ริสะ ใช้เวทมนตร์ใหม่ <โดมของลมและน้ำแข็ง> และเอธานก็ใช้ <ที่จองจำจำนวนมาก> อย่างเร่งรีบเพื่อป้องกันการโจมตี แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังบล็อกไม่ได้อย่างถูกต้องและได้รับความเสียหายบางส่วน
ตอนนี้พวกเขากำลังฟื้นฟูพลังและพักฟื้นอาการบาดเจ็บของพวกเขา
” ให้ฉันรักษา ฉันยังมีธาตุแสงและเข้าใจเจตจำนงแห่งแสง”
ทุกคนแปลกใจและมองมาที่ริสะ
จากนั้นเธอก็รักษาอาการบาดเจ็บของ เอธาน, เทียน่า และ ลัคเซล
หลังจากที่ทีมฟื้นพลังและรักษาอาการบาดเจ็บ พวกเขาก็เริ่มออกล่ามดอีกครั้ง
ในไม่ช้าพวกเขาก็พบกับสิ่งหนึ่ง
[GS6. Ant]
ค่าความแข็งแกร่ง: 750
พลังโจมตี: 180
ค่าป้องกัน: 170
ความเร็ว: 400
เมื่อดูสถิติของมดตัวนี้ คนทั้งทีมก็เงียบไป
” นี่คือ ค่าความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด 150 จากตัวจากมดตัวสุดท้ายที่เราฆ่า ความเร็วนั้นมันช่างไม่สมดุลเสียจริง ” เอธานอดไม่ได้ที่จะพูดพึมพำเมื่อเห็นสถิติของมดตัวนั้น
ลัคเซลถอนหายใจ พูดว่า ” เรามาลองกัน … ฉันจะออกไปทางซ้าย พวกเธอก็เร็วๆเข้าหน่อยนะ ” พูดแล้วเขาก็รีบออกจากคาถาของริสะ
มดสังเกตเห็นเขาในทันที จากนั้นปีกที่เรียวบางก็กางออกจากด้านหลังทำให้เกิดเสียงหึ่งๆ ปรากฏขึ้น ปีกของมันกระพือด้วยความเร็วเหนือเสียง
*ฉวัดเฉวียน….*
แล้ว….มดก็หายตัวไปก่อนที่มันจะถึงหน้าลัคเซลโดยตรงและฆ่าเขาด้วยขากรรไกรของมัน
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นใน 1 วินาทีครึ่ง ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลัคเซลออกจากทีมและเมื่อเขาวิ่งไม่ถึง 2 เมตร มดก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาและฆ่าเขา
หลังจากฆ่าเขา มดก็มองไปข้างหน้าที่เอธานและคนอื่นๆ ยืนอยู่
“ชิ!”
…
[ ยินดีด้วย คุณจบรอบแรกแล้ว ]
หลังจากนั้น ทั้งหมดก็มาถึงดินแดนกว้างใหญ่ที่มีหญ้าเป็นหย่อมๆ ล้อมรอบ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในบริเวณนั้น แต่มีผู้คนมากมายรอบๆ พวกเขาน่าจะเสร็จแล้ว…หรือค่อนข้างตายก่อนพวกเขา
เมื่อไปถึงที่นั่น พวกเขาเห็นการจัดแสดงปรากฏอยู่ข้างหน้าพวกเขา
[ คะแนนสะสมตามผลงาน ริสะ: 5 คะแนน, เอธาน: 4 คะแนน, เทียน่า: 4 คะแนน, ลัคเซล: 4 คะแนน ]
[สุดท้าย.]
เอธาน: 9.32
เทียน่า: 8.89
ริสะ: 9.71
ลัคเซล: 9.08
ไม่มีใครแปลกใจที่ริสะได้ 5 คะแนนในการประเมินขั้นสุดท้าย เพราะอย่างแรกคือคาถาของเธอที่ทำให้พวกเขาเคลื่อนที่ไปได้โดยไม่มีมดมายุ่มย่ามมากนัก ในขณะที่พวกเขาถูกซ่อนไว้และคาถารักษาของเธอมีประโยชน์มากในการเดินทางของพวกเขา
หลังจากการแสดงนั้น จอแสดงผลทั้ง 4 ก็แยกและปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา
[ เนื่องจากคุณทำรอบแรกเสร็จแล้ว คุณสามารถเลือกที่จะขนส่งไปยัง แกลลอรี่ธาตุ และเลือกรางวัลของคุณ ]
————————————————————–
ตอนที่ 55: พุ่งชน
หลังจากที่เอธานเข้าใจ เจตจำนงของดินแล้ว ร่างกายของเขาก็เริ่มฟื้นฟูพลังงาน อัตราการฟื้นตัวก็เร็วมากในโลกเสมือนจริงนี้ และในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง เขาก็ฟื้นพลังจากธาตุต่างๆ ได้ค่อนข้างมาก
เขารู้จากลัคเซลว่าเขาสามารถเห็นค่าพลังของเขาได้หากแตะคำ [ ธาตุ ] ในหน้าต่างโปรไฟล์ของเขา
[ องค์ประกอบธาตุ: ไฟ, สายฟ้า, น้ำ, ไม้, ดิน, อากาศ, แสง, มืด, อวกาศ ]
ไฟ: 8/10
สายฟ้า: 9/10
น้ำ: 10/10
ไม้: 10/10
ดิน: 7/10
อากาศ: 10/10
แสง: 6/10
มืด: 6/10
อวกาศ:5/10
รวม: 71/90 EP
“ แล้วร่างกายจริงของเราล่ะ การกู้คืนพลังงานและการใช้พลังงานของเราสามารถสะท้อนถึงร่างกายจริงของเราในแคปซูลเสมือนจริง ได้หรือไม่” เอธานถามด้วยความสงสัย แม้ว่าเขาจะเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะถามเพราะหลายอย่างมันมีสิ่งมหัศจรรย์ที่เขาไม่เคยเห็นมาจนถึงตอนนี้
ริสะส่ายหัว เมื่อได้ยินคำพูดของเอธาน “ไม่พลังงานและตัววัดค่าความแกร่ง นี้ใช้ได้เฉพาะในขณะที่เราอยู่ในโลกเสมือนจริงนี้ แต่แผ่นเจตจำนง เจตจำนงหินชนวน ยาและอุปกรณ์ที่เราซื้อจากร้านค้าแต้ม จะนำไปใช้กับร่างกายที่แท้จริงของเราได้ ตัวอย่างเช่น หากนายซื้อยาที่นี่และกินมันในโลกแห่งความเป็นจริง พนักงานบนยานอวกาศนี้จะฉีดเซรั่มที่มีคุณสมบัติคล้ายกับเม็ดยาเข้าสู่ร่างกายของนายผ่านแคปซูลเสมือนจริง ซึ่งอาจส่งผลต่อร่างกายและร่างกายเสมือนจริงของนาย ทั้งสองที่”
ลัคเซลพยักหน้าด้วยใบหน้าเรียบๆ แล้วพูดพร้อมกับมองเอธาน “ในทำนองเดียวกัน ถ้านายซื้ออุปกรณ์ในโลกเสมือนจริง ไม่ว่านายจะสอบผ่านหรือไม่ผ่าน พวกเขาจะมอบอุปกรณ์ที่นายซื้อที่นี่และในโลกแห่งความเป็นจริง ตามเจตจำนงได้ แผ่นหินชนวน อืม ในเมื่อนายเข้าใจเจตจำนงแล้ว นายก็ควรรู้เรื่องนี้ด้วย”
เอธานพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ในความเป็นจริง เราเข้าใจเจตจำนงด้วยจิตสำนึกของเรา และเนื่องจากจิตสำนึกของเราอยู่ในโลกเสมือนจริง สิ่งที่เราเข้าใจในที่นี้จะถูกนำไปใช้กับร่างกายจริงของเราโดยตรงผ่านจิตสำนึกเป็นสะพานเชื่อมระหว่างร่างกายเสมือนของเรากับ ร่างกายที่แท้จริง”
จากนั้นเขาก็มองไปที่เทียน่าและถามว่า “เธอกินยาชำระมลทินหรือเปล่า”
” ใช่ และสถานะมลทินกลายเป็น 10 ใน 5 นาที หลังจากที่ฉันกินยาไป มันได้ผลเร็วมาก ” เทียน่า พยักหน้าอย่างมีความสุข
เอธานรู้สึกประหลาดใจกับประสิทธิภาพและประสิทธิผลของยาเม็ด
” ไปฟื้นฟูพลังกันต่ออีกสักชั่วโมงเถอะ หลังจากนั้นก็ออกไปล่ามดกันใหม่ได้ ”
เมื่อได้ยินคำพูดของริสะ ทุกคนก็เริ่มฟื้นพลังของพวกเขา แต่เอธานทำมากกว่าแค่การฟื้นฟูพลังงานของเขา
ผ่านไป 1 ชั่วโมง พวกเขาทั้งสี่ออกจากลำต้นของต้นไม้และเริ่มเคลื่อนที่ไปในทิศทางแบบสุ่มโดยใช้คาถาหมอกอีกประเภทหนึ่งของริสะ ที่สามารถปกปิดออร่าและความร้อนในร่างกายได้
หลังจากเคลื่อนที่ไปได้ 30 นาที พวกเขาก็พบมดอีกตัวหนึ่ง มดตัวนี้ไม่มีเกราะขนาดใหญ่เหมือนมดตัวก่อน แต่มีขาแหลมคมมีหนามแหลมอยู่เต็มตัว และตัวผอมบาง สีลำตัวเป็นสีเขียวผสม และสีฟ้า
[H.Ant]
ตัววัดความแข็งแกร่ง: 320
โจมตี: 120
ค่าป้องกัน: 80
ความเร็ว: 120
เมื่อดูสถิติของมดตัวนี้ เอธานก็ถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “มดตัวนี้เห็นได้ชัดว่ามีพลังมากกว่ามดตัวก่อน”
ลัคเซลพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกล่าวว่า “จริง แต่มดตัวนี้ยังให้ 1 แต้ม อันที่จริงเราจะเจอมดที่มีพลังมากขึ้นด้วยค่าสถานะต่างๆ ในอนาคต แต่พวกมันจะให้ 1 แต้ม ซึ่งเป็นความเสียหายอย่างแท้จริง”
” อีกอย่าง พวกเขาไม่ได้บอกช่วงเวลาของรอบนี้ รอบนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน ” เทียน่าตั้งคำถามสำคัญ
ริสะชำเลืองมองเธอแล้วพูดว่า “รอบจะจบลง เมื่อเราตายเพราะหลังจากมดแต่ละตัวที่เราฆ่ามด ที่ตามมาจะมีพลังมากขึ้นและในที่สุดเราก็จะตาย ซึ่งเหมือนกันสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคน ดังนั้นในที่สุด ผู้เข้าร่วมจะเสียชีวิต รอบนี้ก็จะสิ้นสุด ”
ขณะที่พวกเขากำลังพูด ดูเหมือนมดจะสังเกตเห็นบางสิ่งและเคลื่อนไปในทิศทางของพวกมัน
” เอาล่ะ หยุดคุยกันเดี๋ยวนี้ ฉันจะเข้าไปก่อนแล้วหันเหความสนใจของมด ริสะจะมัดมดทันที ขณะที่ เอธานและเทียน่าจะเตรียมการรุกราน การป้องกันของมดตัวนี้ต่ำ เราน่าจะจบมันได้ด้วยคอมโบเดียวของนาย ”
เมื่อพูดเช่นนี้ เขาก็พุ่งเข้าหามดในขณะที่เขาดึงความสนใจได้สำเร็จ
หลังจากนั้น ริสะก็ทำตาม ขณะที่เธอใช้เวทมนตร์ผูกมัดน้ำแข็งที่ขาของมด ในขณะที่เอธานและเทียน่าเริ่มเตรียมคาถาที่เหมาะสมของพวกเขา
หลังจากทำลายคาถาป้องกันของลัคเซล มดก็โจมตีอีกครั้งเมื่อมันถูกผูกไว้ด้วยคาถาน้ำแข็งของริสะ
แต่มนต์สะกดของริสะ ไม่ได้ผูกมัดมดไว้เลยแม้แต่ 2 วินาที และก่อนที่เธอจะร่ายคาถาอื่นเพื่อมัดมัน มดก็แยกน้ำแข็งออกโดยไม่สนใจลัคเซล และพุ่งเข้าหาริสะ
เมื่อเห็นสถานการณ์นั้น เอธานจึงใช้เวทมนตร์ใหม่ที่เขาสร้างขึ้น ในขณะที่พวกเขากำลังพักฟื้น <เถาวัลย์สายฟ้า> ไปทางขาของมด
เขาได้สร้างรูนเวทมนตร์ของ <สว่านเจาะ> และ <เถาวัลย์สายฟ้า> ในขณะที่เขากำลังพักฟื้น
<เถาวัลย์สายฟ้า> ประกอบด้วยธาตุไม้และธาตุสายฟ้า ขั้นแรก เถาวัลย์แห่งพลังงานไม้จะถูกสร้างขึ้น จากนั้นสายฟ้าจะเคลือบเถาวัลย์ในรูปแบบลายไม้เลื้อย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอัมพาตหลังจากที่ <เถาวัลย์สายฟ้า> พันรอบส่วนของร่างกายของเป้าหมาย
<เถาวัลย์สายฟ้า> 2 อันพุ่งเข้าหามด ก่อนที่ขาทั้งสองข้างของมันจะพันด้วยเถาวัลย์ทำให้การเคลื่อนไหวของมันบกพร่อง
<สว่านเจาะ> ของเอธานก็ถูกสร้างขึ้นเช่นกัน มันอาจจะดีกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า เนื่องจากเจตจำนงของดิน
ปัจจุบันมดหันหน้าไปทางเขา ดังนั้นเขาจึงขว้าง <สว่านเจาะ> ไปที่หัวของมัน และคาถาของเทียน่า ก็ตามมาในไม่ช้า
เกราะของมดบนหัวของมันถูกเปิดออก และเทียน่าจัดการกับเวทย์มนตร์ของเธอจนหมดสิ้น
[ ลัคเซล : 0.15 แต้ม ริสะ : 0.15 แต้ม เอธาน : 0.50 แต้ม เทียน่า : 0.20 แต้ม ]
[ทีม]
เอธาน: 0.65
เทียน่า: 0.40
ริสะ: 0.30
ลัคเซล: 0.65
เอธานมองไปที่ ตัววัดค่าความเข็งแกร่งของเขา
<-เอธาน ลอง->
[~สถิติ~]-↓
[องค์ประกอบ]-↓
ตัววัดค่าความแข็งแกร่ง: 181
พลังโจมตี: 101
ป้องกัน: ~
ความเร็ว: ~
การควบคุม: 80
เขาประหลาดใจที่พบสถานะใหม่ ‘ ดูเหมือนว่าถ้าฉันสามารถใช้คาถาที่มีเอฟเฟกต์ดังกล่าวได้ ฉันใช้คาถาควบคุม ดังนั้นมันจึงถูกเพิ่มใน [พลังต่อสู้] ของฉัน และเนื่องจากฉันไม่ได้ใช้คาถาป้องกันหรือคาถาเคลื่อนไหว ตอนนี้ตัวเลขของพวกมันจึงเป็นศูนย์ ‘
จากนั้นเขาก็มองไปที่ทุกคนและพูดว่า ” ไปต่อกันเถอะ เรายังมีพลังงานมากพอที่จะเอาชนะมดตัวหนึ่งได้ แม้ว่ามันจะทรงพลังกว่าเล็กน้อย หลังจากนั้นเราก็สามารถพักฟื้นได้”
ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าทีมยังคงเดินหน้าต่อไปได้ชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะพบกับมดอีกตัวหนึ่ง
[G2.Ant]
ค่าความแข็งแกร่ง: 330
พลังโจมตี:110
ป้องกัน: 110
ความเร็ว: 110
เมื่อดูสถิติของมดตัวนี้ เอธานก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ให้ตายเถอะ คาถาของฉันไม่สามารถเจาะการป้องกันของมันได้ ดูเหมือนว่าการปราบมดตัวนี้คงจะลำบาก”
ทั้งทีมเงียบ เมื่อได้ยินเขา แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ลัคเซลก็พูดขณะที่เขามองไปที่เอธาน “ฉันสามารถทำลายการป้องกันด้วยคาถาของฉัน แต่แล้วนายก็ต้องไปดึงดูดความสนใจและป้องกันการโจมตีของมดแทน”
เอธานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ ฉันจะทำหน้าที่ป้องกัน”
เทียน่าต้องการจะพูดแต่มองไปยังเอธานที่มีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจว่าเธอไม่ได้พูด
“ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ฉันจะออกไป” พูดจบเขาก็ออกจากกลุ่มและพุ่งตรงไปที่มด
มดสังเกตเห็นเขาในไม่ช้าและไล่ตามเขา
มดตัวนี้คล้ายกับตัวแรกที่พบ เมื่อเห็นมดไล่ตามเอธาน ริสะและคนอื่นๆ ก็ติดตามไปด้วย
เอธานหยุดวิ่งแล้วและใช้ <ที่คุมขังจำนวนมาก> กับตัวเอง <ที่คุมขังจำนวนมาก> นี้สร้างขึ้นจากพลังงานจากดิน ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากเจตจำนงของดิน และหลังจากที่เขาขังตัวเองในที่คุมขังแล้ว เขาควบคุมทางเดินของปากปีศาจทั้งสองและโยนลูกไฟไปทางมด เพื่อดึงดูดความสนใจของมด ขณะที่ริสะใช้ พลังผูกมัดกับมัน
แต่ <ที่คุมขังจำนวนมาก> ของ เอธาน ถูกทำลายในการโจมตีครั้งเดียว และเขาแทบจะไม่สามารถหลบปากของมดที่จะตบเขาได้ และเมื่อมันทำลาย <ที่คุมขังจำนวนมาก> ด้วยกรามอันทรงพลังของมัน
ความกดดันที่กดขี่ลงมาที่เอธาน ทำให้เขาขยับตัวได้ยาก ‘ บ้าเอ้ย นี่มันยากกว่าที่ฉันคิดไว้มาก ‘
เขาใช้ <ปีกสายฟ้า> ทันที แต่นึกขึ้นได้ว่าเขามีปัญหาในการใช้งานมันมาก อะไรทำให้เกราะป้องกันของเขาแตก? ภายใต้แรงกดดันนี้ เขาอาจจะไม่สามารถเอาชนะมดได้ด้วยซ้ำ
แต่อย่างไรก็ตาม เขาหลบมดด้วย <ปีกสายฟ้า> และคาถาของริสะ หลังจากนั้น เขาได้ซ้อน <ที่คุมขังจำนวนมาก> 2 อัน ก่อนที่มดจะโจมตีอีกครั้ง
ในเวลานี้ คาถาของลัคเซลก็พร้อมเช่นกัน คราวนี้ไม่ใช่หอกเหล็ก แต่เขามีธนูที่ทำจากไม้และมีลูกศรที่ทำจากโลหะและพลังงานแห่งความมืดอยู่ในนั้น
หลังจากดึงอย่างแรง เขาปล่อยลูกศรไปทางท้องของมด และของเทียน่าก็ตามตามมา มดที่จะตะครุบกรามของมันอีกครั้งและกำลังเข้าหาเอธานได้ มันโดนเวทมนตร์ทั้ง 2 อย่าง ซึ่งทำให้มันกรีดร้อง เทียน่าได้ปล่อยเวทมนตร์อีกครั้งด้วย พลังงานภูเขาไฟสายฟ้า ของเธอทำให้มดหรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอีก 2-3 วินาทีก่อนที่มันจะหายไป
[ ลัคเซล : 0.23 แต้ม ริสะ : 0.21 แต้ม เอธาน : 0.34 แต้ม เทียน่า : 0.22 แต้ม ]
หลังจากเอาชนะมดตัวนี้ ทั้งทีมได้ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำที่พวกเขาพบก่อนที่จะฟื้นฟูพลังของพวกเขา
หลังจากพักฟื้นพลังงานเป็นเวลา 3 ชั่วโมง พวกเขาก็ออกเดินทางล่ามดเพิ่มอีกครั้ง
ริสะพูดก่อนหน้านี้ว่ามดจะมีพลังมากขึ้นทุกครั้งที่พวกมันเอาชนะมันได้ และดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
[S.Ant]
ตัววัดความแข็งแกร่ง: 340
โจมตี: 140
พลังป้องกัน: 110
ความเร็ว: 90
พวกเขาแทบจะไม่สามารถเอาชนะมดตัวนี้ได้ด้วยความช่วยเหลือของริสะที่ใช้คาถาป้องกันน้ำแข็งเพื่อช่วยเอธานเพื่อปกป้องการโจมตี ขณะเดียวกันก็ผูกมดด้วยคาถาน้ำแข็งที่ทรงพลังกว่าด้วย แต่การใช้พลังงานนั้นยอดเยี่ยมมาก คนในทีมจึงได้พักอีกครั้ง
พวกเขาเดินต่อไปด้วยวิธีเดิมนี้และเอาชนะมดอีก 5 ตัว คาถาของลัคเซล นั้นค่อนข้างทรงพลังเพราะมันสามารถทำลายการป้องกันของมด ที่เปิดอยู่ได้เสมอ มันยังฉีกเกราะของมด ที่เปิดอยู่ได้อีก ซึ่งมี 130 แต้มในการป้องกัน แต่มดที่พวกเขาเผชิญอยู่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็น ลำบากมาก
[A3.Ant]
ค่าความแข็งแกร่ง: 410
โจมตี: 200
การป้องกัน: 140
ความเร็ว: 80
เมื่อดูสถิติของมดตัวนี้ เอธานก็พูดว่า “เรามาฟื้นฟูพลังงานของเราให้เต็มและวางแผนกันก่อน”
พวกเขาค่อย ๆ ถอยกลับและซ่อนตัวอยู่ในลำต้นของต้นไม้
หลังจากซ่อนตัวอยู่ข้างใน เอธานก็ถามว่า “โดยทั่วไปแล้วพวกเธอเพิ่มระดับเจตจำนงได้อย่างไร”
“ ไม่ว่านายจะต้องซื้อจานเพิ่มค่าเจตจำนงระดับกลาง ซึ่งนายไม่สามารถซื้อได้ในตอนนี้ หรือเข้าใจเจตจำนงได้ด้วยตัวเอง” ลัคเซลตอบคำถามของเอธานเมื่อได้ยิน
เอธานนิ่งเงียบ เขาเข้าใจว่าเขาต้องการเพิ่มความเจตจำนงของดิน เพื่อยกระดับเจตจำนงของเขา แต่พูดง่ายกว่าทำ ‘ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องลองดู ‘
หลังจากตัดสินใจแล้ว เขาพูดกับกลุ่มว่า “ให้เวลาฉัน 1 ชั่วโมงแล้วฉันจะพยายามเพิ่มค่าเจตจำนงระดับกลางของธาตุดินให้ได้”
ทั้ง ลัคเซล และ ริสะ มีสีหน้าแปลกๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเอธาน
เมื่อมองไปที่การแสดงออกของพวกเขา เอธานยิ้มและพูดว่า “พวกเธอไม่แปลกใจที่ฉันสามารถเข้าใจ เจตจำนงของดิน โดยใช้แผ่นเจตจำนง ที่เป็น ขยะเหรอ”
“ใช่” ทั้งสองพยักหน้าอย่างสงสัยเช่นกัน
” จริงๆ แล้ว เหตุผลที่ฉันสามารถเข้าใจเจตจำนงของดินได้อย่างง่ายดายก็คือฉันได้กินผลไม้ลึกลับที่มีลวดลายแบบเดียวกับที่ฉันเห็นในแผ่นดินนี้มาก่อน ฉันซื้อแผ่นเจตจำนงมา ตอนนั้นฉันคิดว่าฉันแค่จินตนาการถึงสิ่งต่างๆ เพราะฉัน ไม่รู้ถึงการมีอยู่ของเจตจำนง แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้ว และฉันคิดว่าฉันอาจจะเข้าใจระดับต่อไปของเจตจำนงของดินได้หากฉันลอง” เอธานสูดหายใจลึกๆ บอกพวกเขาเกี่ยวกับผลไม้
ลัคเซลและริสะแปลกใจที่ได้ยินเช่นนั้น ทั้งสองพยักหน้าเข้าใจ ขณะที่ริสะพูดอย่างอิจฉา “ผลไม้แบบนี้มีจริง แต่หายากและมีค่ามาก นายโชคดีมากที่ได้กินผลไม้แบบนี้”
แน่นอน เขาโกหก ลวดลายในผลไม้มีปริมาณน้อยมาก และแม้ว่าเขาจะพยายามในเวลานั้น เขาก็ไม่สามารถเข้าใจเจตจำนงได้
แต่เขาอยากลองทำอะไรซักอย่าง และถ้าเขาทำสำเร็จ เขาอาจจะสามารถเข้าใจเจตจำนงของดินในระดับต่อไปได้
ตอนที่ 54: เข้าใจเจตจำนงครั้งแรก
หลังจากเอาชนะมดตัวนั้นได้ พวกเขาทั้ง 4 คนก็ซ่อนตัวอยู่ในลำต้นของต้นไม้อีกครั้ง เพราะว่าถ้ามดตัวอื่นเข้ามา พวกเขาคงรับมือไม่ได้ ถ้าไม่มีลัคเซล ซึ่งตอนนี้กำลังใกล้จะหมดแรงเพราะเขาใช้พลังงานไปมากแล้ว เพื่อสร้างคาถาป้องกันที่สามารถต้านทานการโจมตีของมดได้
“เราต้องวางแผนกลยุทธ์ให้เหมาะสม ไม่ใช่ว่ามดทุกตัวจะเหมือนอันนี้ จะมีมดหลากหลาย มดบางตัวอาจจะแข็งแกร่งเหมือนที่เราเพิ่งฆ่าไป มดบางตัวจะมีความเร็วและการโจมตีที่ไม่ธรรมดา ในขณะที่บางตัวจะมีเกราะและการโจมตีที่ทรงพลัง” ภายในลำต้นของต้นไม้ ลัคเซลพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง
ริสะพยักหน้าและพูดขณะที่เธอมองไปที่เอธานและเทียน่า “ดูเหมือนว่าคุณสองคนจะไม่รู้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการสอบรอบแรก ทุกๆ 100 ปี มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ รอบแรกจะเหมือนกันทุกประการนั่นคือ ตามล่ามด รอบนี้ต้องรวบรวมแต้มให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้ซื้อของที่มีประโยชน์จากร้านค้าคะแนน ซึ่งจะช่วยเราได้ในรอบต่อไป”
“ ฉันเข้าใจแล้ว…ทำไมเราไม่ใช้กลยุทธ์เดียวกันกับที่เราใช้ก่อนหน้านี้ล่ะ ริสะ จะควบคุมมดด้วยเวทมนตร์น้ำแข็งและหมอกของเธอ ลัคเซล จะบล็อกการโจมตีของมด ในขณะที่ฉันและเทียน่าจะจัดการกับการโจมตีสุดท้าย” เอธานพูด ด้วยรอยยิ้มหลังจากริสะพูดจบ เขาอาจฟังดูงี่เง่า แต่เขามีแผน
และแท้จริงแล้ว ลัคเซลและริสะก็ขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินลัคเซลพูดอย่างเคร่งขรึม “นายรู้ไหมว่าคาถาที่นายใช้มีพลังการเจาะต่ำกว่าหอกโลหะดำของฉัน ถ้านายต้องการที่จะเจาะเกราะของมด นายต้องมีเจตจำนง และคาถาของฉันคือ ด้วยเจตจำนงแห่งโลหะของฉัน พลังการเจาะทะลุของหอกโลหะทมิฬของฉันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งสร้างรอยร้าวบนเกราะของมัน การเจาะของนายไม่สามารถทำลายมันได้ “
ริสะพยักหน้า “ถึงแม้ว่านายจะใช้เวทมนตร์เดิม ๆ อยู่เรื่อย ๆ มันจะไม่ทำลายเกราะ นั่นคือวิธีที่มดเหล่านี้ถูกสร้างขึ้น สมมติว่า เกราะป้องกันของมด คือ 100 และ สว่านที่เจาะของนายก็มีพลังโจมตีแค่ 99 นายอาจคิดว่า มันเป็นข้อแตกต่างของ 1 คะแนน และถ้าคุณใช้คาถาในจุดเดิมต่อไป นายจะทำลายการป้องกันของมันไหม? คำตอบคือไม่! เว้นแต่ว่านายมีคาถาที่มีพลังโจมตี 100 ขึ้นไป นายจะไม่สามารถสร้างรอยร้าวได้ด้วยเกราะพลังป้องกัน 100 อัน ”
หลังจากพูดจบ เธอโบกมือ ซึ่งทำให้มีการแสดงอะไรบางอย่างต่อหน้าเธอ จากนั้นจึงส่งผ่านไปยังเอธาน
[ จี แอนท์ ]
ตัววัดค่าความแข็งแกร่ง: 300
โจมตี: 100
ค่าป้องกัน: 100
ความเร็ว: 100
เมื่อมองไปที่จอแสดงผล เอธานก็ประหลาดใจ
” นายสามารถดูสถิติของมดได้ที่นี่ และพลังการต่อสู้ของนายควรถูกคำนวณไว้แล้วด้วย ลองดูสิ “
เมื่อได้ยินเสียงของริสะ เอธานมองไปที่หน้าจอแสดงสถานะนี้ ซึ่งปรากฏขึ้นหลังจากที่เขาบ่นว่า “สถานะเหรอ”
<-เอธาน ลอง->
[~สถิติ~]-↓
[องค์ประกอบ]: น้ำ, ไม้, ไฟ, ดิน, อากาศ, สายฟ้า, มืด, แสง, อวกาศ
พลังงาน: 44.2
ตัววัดความแข็งแกร่ง: 72
โจมตี: 72
ป้องกัน: ~
ความเร็ว: ~
[ชุด ]:- แอสซาซินเมจ V.1
[เพื่อน]:- เทียน่า
[ร้านค้าแต้ม]: 10.15 คะแนน
การประเมิน: อ่อนแอกว่ามด ไม่ได้ล้อเล่น
‘ อืม…พลังงานของฉันก็ลดลงหลังจากที่ฉันใช้ <สว่านเจาะ> ท้ายที่สุด ฉันใช้พลังงานจากดิน ไฟ และอากาศจำนวนมากในขณะสร้างเวทมนตร์นั้น ‘
เอธานคิดหลังจากดูข้อมูลของเขาแล้ว เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่เขากำลังจะทำ
ก่อนที่เขาจะพูดลัคเซล มองไปที่เอธานและพูดว่า “ถ้านายมีเจตจำนงแห่งดินแล้ว <สว่านเจาะ> ของนายอาจจะสามารถเจาะการป้องกันของมดได้ แต่…” เขาส่ายหัวเขาพูดต่อ “การเข้าใจเจตจำนงไม่ใช่อย่างเรื่องง่าย จริงๆ แล้ว การหาความสัมพันธ์ง่ายกว่า การหาเจตจำนงมาก ตอนแรกฉันไม่มีความสัมพันธ์ของโลหะหรอก แต่ฉันเข้าใจ เจตจำนงของโลหะโดยบังเอิญ ครอบครัวของฉันจึงช่วยฉันซื้อยาสร้างความสัมพันธ์โลหะให้ ”
เอธานพยักหน้าหลังจากได้ยินเขาพูด หลังจากนั้น เอธานก็พูดด้วยใบหน้าที่ไม่แน่นอน “ฉัน…จะต้องได้รับ เจตจำนงของดิน ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันมี 10 คะแนน ซึ่งเพียงพอที่จะซื้อ แผ่นเจตจำนงของดินแล้ว “
ริสะสั่นศีรษะพูดด้วยน้ำเสียงราวกับว่าเธอเคยได้ยินเรื่องตลกแห่งปี ” ล้อเล่นใช่มั้ย นายคิดว่านายจะได้ เจตจำนง โดยใช้แผ่นเจตจำนงหรอ ให้ฉันบอกนายไหม ว่าโอกาสที่จะเข้าใจเจตจำนงจาก แผ่นเหล่านี้ในร้านนั้นมันมีโอกาสแค่ 0% ทำไมนายถึงคิดว่าเจตจำนงมีค่า ถูกแค่ 10 แต้ม?”
ลัคเซลพยักหน้าโดยกล่าวว่า “อันที่จริง เป็นการดีกว่า ถ้าใช้แต้มเพื่อซื้อยาเพื่อเติมพลังงานตามธาตุของเรา หรือซื้ออุปกรณ์เพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้ของเรา แทนที่จะเสียมันไปกับแผ่นเจตจำนงนั่นดีกว่า”
“นอกจากนี้ หลังจากที่เราสอบรอบที่ 2 เสร็จแล้ว หน้า 2 ของร้านจะเปิดขึ้น จากนั้น คุณสามารถซื้อ เจตจำนงของหินชนวนได้ แม้ว่าอัตราความสำเร็จจะยังคงขึ้นอยู่กับผู้ใช้ และโดยทั่วไปแล้วยังประมาณ 1% แต่ก็ยังดีกว่าแผ่นเจตจำนง ซึ่งเป็นเพียงแค่ขยะน่ะนะ “
เอธานส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ขอฉันลองหน่อยล้ะกัน ใครจะรู้ว่าฉันอาจจะสามารถเข้าใจเจตจำนงพื้นฐานของดินได้”
ภายในความคิดของเขา ‘ ฉันหวังว่าวังวนสีดำจะสามารถใช้เวทมนตร์กับสิ่งของในโลกเสมือนจริงได้เช่นกัน แม้ว่าโลกเสมือนจริงนี้จะเกินจริงเกินกว่าจะถือว่าเป็นเสมือนได้ แต่พวกเขาทำได้อย่างไร ‘
เอธานระงับความคิดที่ไร้ประโยชน์ของเขา เขาซื้อแผ่นเจตจำนงแห่งดินโดยตรง และในชั่วพริบตามันก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขา
“นาย…” เมื่อเห็นว่าเอธานซื้อจานไปแล้ว ลัคเซลก็ส่ายหัว
แต่ในเวลานี้ เทียน่า ” ใจเย็นก่อนสิ… ” ด้วยความไม่พอใจต่อลัคเซลและริสะ ขณะที่เธอคิดว่า ‘ เอธานจะเข้าใจเรื่องนี้อย่างแน่นอน ‘
“เธอจะโกรธทำไม ที่เราพูดไปก็เป็นเรื่องจริงนี่” ริสะพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิดเมื่อมองมาที่เทียน่า
เห็นได้ชัดว่าริสะและลัคเซล ไม่เชื่อว่าเอธานสามารถเข้าใจเจตนาของพื้นฐานของดินได้ โดยใช้แผ่นเจตจำนงของดิน เพราะผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนได้พยายามที่จะเข้าใจเจตนาจากแผ่นจารึกราคาถูกเหล่านี้ แต่ก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จ
ในเวลานี้เอธานกำลังดูแผ่นเจตจำนงของดินในมือ ดูเหมือนจานกลมสีน้ำตาลที่มีลวดลายแปลก ๆ จารึกไว้
เขาสามารถเติมบางอย่างได้เมื่อมองดูจานเจตจำนงดินนี้ ‘ฉันรู้สึกเหมือนเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน…’ เมื่อนึกถึงอดีตของเขา เขาจำได้ ‘ ฉันรู้สึกคล้ายกันหลังจากกินผลไม้เหล่านั้นในถ้ำใต้ดินด้านล่าง บ่อ ‘
ในขณะที่เขายังคงรู้สึกถึงแผ่นเจตจำนงของดิน ก็มีบางอย่างเกิดขึ้น จานเริ่มหายไปอย่างช้าๆ หลังจากผ่านไป 3 วินาทีจานก็หายไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งทำให้ทุกคนตะลึง
ในเวลานี้ ตาของเอธานถูกปิดราวกับว่าเขาเข้าสู่สภาวะบางอย่าง
ในขณะเดียวกัน ทั้ง ลัคเซล และ ริสะ ต่างก็มีสีหน้างุนงง ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ‘WHAT THE FUVK!’
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อแผ่นป้ายแสดงเจตจำนงปรากฏอยู่ในมือของเอธาน ภายในร่างของเขา ซึ่งอยู่ในท่อแคปซูลเสมือนจริง วังวนสีดำเริ่มหมุน แต่คราวนี้แทนที่จะดูดซับสิ่งใด มันปล่อยประกายไฟสีน้ำตาลจาง ๆ ประกายไฟสีน้ำตาลเหล่านี้เดินทางเข้าไปในอาณาจักรพลังงานของเขาก่อนที่จะเข้าไปในโลกของคริสตัล ที่หมุนอยู่เหนือ ทะเลธาตุดิน.
หลังจากที่ประกายไฟทั้งหมดเข้าไปในโลกคริสตัลแล้ว แผ่นจารึกที่อยู่ในมือของเอธานก็หายไป ทำให้เอธานเข้าสู่ภวังค์
เมื่อจานเจตจำนงหายไป สิ่งหนึ่งก็เกิดขึ้น
ภายในสำนักงานของกัปตัน เขาได้ยินการแจ้งเตือนว่า “ผู้ใช้ Energy Planetได้เข้าใจเจตจำนงแห่งดินโดยใช้แผ่นเจตจำนงดินแล้ว”
การแสดงออกที่ประหลาดใจเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เบื่อหน่ายของกัปตัน ในขณะที่เขาพูด “แสดงรายละเอียดของเขาให้ฉันดู”
ภาพโฮโลแกรมปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา ซึ่งแสดงรายละเอียดของเอธาน
” อืม… ไอ้เด็กเหลือขอไม่มีคุณสมบัติที่น่าประทับใจ แต่คนสมัยนี้ไม่ซื้อ แผ่นเจตจำนงเลย ในขณะที่เจ้าเด็กนี่ ซื้อมันมาสักอันและจนกระทั่งเข้าใจเจตจำนงได้ มันเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่คนซักคนหนึ่งจะเข้าใจเจตจำนงโดยใช้แผ่นความสัมพันธ์ เขาต้องมีความเข้าใจอย่างสูงเกี่ยวกับธาตุดิน”
หลังจากนั้น เขาเลื่อนโฮโลแกรมออกไปและการแสดงออกของเขากลับเป็นภาพที่น่าเบื่อ ในขณะที่เขามองผ่านกราฟที่ซับซ้อน
…
ในขณะเดียวกัน…
ริสะ และ ลัคเซล มองไปที่เอธานที่อยู่ในภวังค์จากนั้นก็มองหน้ากันด้วยความตกใจ
“เขา…เข้าใจเจตจำนงของดินแล้วจริงๆ” ริสะพูดด้วยท่าทางงี่เง่า
ลัคเซลพยักหน้าเบาๆ พูดอย่างเคืองๆ “ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นจานจะไม่หายไป”
เทียน่ามองดูทั้งสองคนและหัวเราะด้วยความรังเกียจ
ริสะมองเธอก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ “ฉันรู้นะว่าเธอสองคนเป็นเพื่อนกัน แต่ดูจากพฤติกรรมแล้ว ความสัมพันธ์ของเธอดูไม่ธรรมดาเลย”
ใต้หน้ากากหัวกะโหลกของเทียน่า เธอกำลังมีรอยยิ้ม ขณะที่เธอพูด “เขาคือ…สามีของฉัน”
“อ้อ…” ทั้งริสะและลัคเซล ‘เข้าใจ’ แล้วมองไปยังเอธานที่เพิ่งลืมตาขึ้น
เอธานพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ” ฉันเข้าใจเจตจำนงขั้นพื้นฐานของดินแล้ว ดูเหมือนว่าด้วยเจตจำนงของดิน เวทมนตร์แห่งธาตุดินของฉันจะมีพลังอย่างน้อย 30% ”
หลังจากเข้าใจเจตจำนงของโลกแล้ว เอธานก็เข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน มันไม่ใช่พลังงาน แต่เป็นความคิดที่เต็มไปด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับธาตุดิน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับ Elementry
ด้วยเจตจำนงของดิน การควบคุมพลังงานโลกและพลังของพลังงานดินยังเพิ่มระดับเหนือองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหมดที่เขามีอยู่ในปัจจุบัน
ตอนที่ 53: มด!!
หลังจากเลื่อนลงมาอีกเล็กน้อย เอธานก็กดที่ส่วนท้ายของหน้าแรกในร้านค้าคะแนน แต่เมื่อเขาพยายามเปิดหน้าที่ 2 เขาได้รับการห้าม
[ ไม่มีสิทธิ์เปิดหน้า 2 ]
“ก็ดีนะ ฉันไม่อยากเห็นของแปลกอีกแล้ว” พูดจบเอธานก็ปัดมือทำให้จอแสดงผลหายไป
…
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น และไม่นานก็ถึงเวลาที่การสอบจะเริ่มขึ้น
[ การสอบครั้งแรกเกี่ยวกับการฆ่ามด การฆ่ามด 1 ตัวจะทำให้คุณได้รับ 1 แต้ม ผู้เข้าร่วมจะรวมกลุ่มกัน 4 คน และคะแนนจะกระจายไปตามปัจจัยต่างๆ ระหว่างการล่ามด ]
[ หากคุณมีเพื่อน คุณสามารถเพิ่มพวกเขาเข้าไปในทีมได้ ถ้ามีน้อยกว่า 4 คนในทีมที่สร้างไว้แล้ว ช่องที่เหลือจะถูกสุ่มเติมคนทันที ]
[ ทุกคนมีเวลา 1 นาทีในการสร้างทีม หลังจากนั้น ช่องที่เหลือในทีมจะถูกเติมโดยอัตโนมัติ และการทดสอบจะเริ่มใน 5 นาทีหลังจากสร้างทีม ]
หลังจากประกาศจบลง การแสดงก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเอธาน ซึ่งมีชื่อหน่วยและนับถอยหลัง
[ทีม]- 0:59
อาธาน
2.
3.
4.
นอกจากนี้ ยังมีหน้าต่าง [ เพื่อน ] ที่เขียนชื่อของเทียน่า
เขากดชื่อเทียน่า ซึ่งทำให้เทียน่า ได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมทีมของเอธาน
เธอกด { ใช่ } ทำให้ชื่อเพิ่มเติมปรากฏในหน้าต่างทีมของเธอ
[ทีม]- 0:51
เทียน่า
เอธาน
3.
4.
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็รอการนับถอยหลังให้ถึง 0
ขณะที่การนับถอยหลังแตะ 0 มีชื่อเพิ่มเติมอีก 2 ชื่อปรากฏขึ้นในหน้าจอของเอธานและเทียน่า
เอธานมองดูรายชื่อ
[ทีม]
เอธาน
เทียน่า
ลัคเซล
ริสะ
ข้างหน้าต่างของการนับถอยหลังปรากฏขึ้นอีก
[5.00 น.]
[4:59]
[4:58]
…
…
…
[0:03]
[0:02]
[0:01]
[0:00]
ทันทีที่การนับถอยหลังมาถึง [0:00] ทิวทัศน์ด้านหน้าของเอธาน และเทียน่า เปลี่ยนไปเมื่อทั้งคู่มาถึงที่ที่ไม่คุ้นเคย มีต้นไม้ใหญ่และเนินเขาล้อมรอบไปด้วยขนาดหลายพันเมตรและท้องฟ้าก็มีกลางคืน มองดูดาวระยิบระยับบนนั้น
นอกจากเอธานและเทียน่าแล้ว ยังมีอีก 2 คนที่ปรากฏตัวในชุดแปลก ๆ
หนึ่งในนั้นคือเด็กผู้หญิงที่สวมชุดเดรสสีฟ้าอ่อนและมีปีกผีเสื้อสีฟ้าอยู่ด้านหลัง ใบหน้าของเธอสวยแต่ไม่สวยเท่าเทียน่า และเธอมีหน้าอกขนาดพอดี
อีกคนหนึ่งเป็นผู้ชายอายุประมาณ 25 ปี เขาสวมชุดศิลปะการต่อสู้สีขาวเรียบง่ายพร้อมแถบคาดศีรษะและขอบเอวสีดำ ใบหน้าของเขาเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กน้อยพร้อมกับคาง
ผู้ชายที่น่าจะเป็นลัคเซลพูดด้วยรอยยิ้มธรรมดาๆ ว่า “ฉันจะเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัว อย่างที่คุณรู้ ฉันชื่อลัคเซล ฉันมีธาตุดิน ไฟ โลหะ ธาตุมืด และธาตุไม้ ” เขามีเจตจำนงพื้นฐานธาตุต่างๆทั้งหมด “ยิ่งไปกว่านั้น สถิติของฉันยังอยู่ที่จุดสูงสุดของขั้น Energy Plane ยินดีที่ได้รู้จัก หวังว่าเราจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสงบสุข “
หลังจากนั้น เด็กสาวก็ทำท่าทางราวกับเจ้าหญิงและพูดด้วยรอยยิ้มที่มีลักยิ้ม “สวัสดี ฉันชื่อริสะ ฉันมีธาตุน้ำ อากาศ น้ำแข็ง ไฟ และหมอก สถิติร่างกายของฉันเป็นความลับและฉัน ได้เข้าใจ เจตจำนงขั้นพื้นฐานของน้ำแข็ง รวมถึงอากาศ และ…..เท่านั้นแหละ “
เอธานตกใจเล็กน้อย ‘ ทั้งสองคนเข้าใจเจตจำนงมากกว่าหนึ่งอย่าง และยังมีองค์ประกอบบางอย่างที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน นอกจากนี้ พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีพลังมากกว่าฉันในแง่ของพลังเวทย์ ‘
‘ และบางทีพวกเขาอาจซ่อนข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งริสะ ที่บอกเป็นนัยอย่างชัดเจนว่าเธอไม่ได้บอกทุกอย่าง เพราะนี่เป็นเพียงการสอบรอบแรกเท่านั้น ‘
จากนั้นเอธานก็เดาเอาว่าสองคนนี้น่าจะก้าวเข้าสู่ Origin Intent Plane ได้ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้ก้าวเข้าไป เหตุผลนั้นเขาไม่รู้ แต่จะหาโอกาสถามทีหลัง
จากนั้นเขาก็สงบสติอารมณ์และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณสามารถเรียกฉันว่าเอธาน ฉันมีไฟ, อากาศ, สายฟ้า, ดิน, น้ำ, ไม้และธาตุมืด ฉันไม่เข้าใจเจตจำนงใด ๆ และสถานะร่างกายของฉันก็อยู่ที่ จุดสูงสุดของ Energy Plane “
หลังจากนั้น ขณะที่เทียน่ากำลังจะพูด ก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยจากด้านซ้าย ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของลัคเซลและริสะ
ลัคเซลทำหน้าจริงจังพลางบอกทั้งคู่ว่า “ไปซ่อนในต้นไม้กันก่อน แล้วค่อยวางแผนกันว่าจะไปยังไง” พูดจบก็รีบวิ่งไปที่ต้นไม้ที่มีโพรง แล้วริสะก็เดินตามไปทันที
แม้ว่า เอธาน และ เทียน่า จะสับสน แต่พวกเขายังเลือกที่จะติดตามพวกเขา ขณะที่พวกเขาทั้งหมดเข้าไปในช่องว่างภายในลำต้นของต้นไม้
หลังจากที่ทุกคนเข้ามาข้างในแล้ว ริสะก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เงียบงันว่า “จงปิดบังตัวตนของคุณให้มากที่สุดและอย่าพูดต่อจากนี้ไป ฉันจะร่ายเวทย์ที่จะช่วยปกปิดรัศมีของเรา”
หลังจากนั้น เธอหลับตาลง 2 วินาทีก่อนจะโบกมือทั้งสองข้างเบา ๆ ขณะที่หมอกเริ่มลามไปทั่วทั้งสี่ใน 2 วินาที
หลังจากหมอกปกคลุมทุกคน ต่างก็มองออกไปข้างนอกจากลำต้นของต้นไม้ เพราะสิ่งที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนนั้นเกือบจะอยู่ใกล้พวกเขา
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที มันก็ปรากฏขึ้นจริงๆ
เมื่อมองไปที่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างหน้า เอธาน ก็พูดไม่ออกและคิดถึงการประเมินที่แสดงในหน้าต่างสถานะของเขา
[ อ่อนแอกว่ามด ไม่ได้ล้อเล่น ]
ข้างหน้ามีมดตัวหนึ่งยาว 100 เมตร สูง 40 เมตร ตัวของมันถูกหุ้มด้วยเกราะสีดำลายสีน้ำเงิน ขาเหล็กที่เหมือนขาเหล่านั้นก็ส่องแสงสีฟ้า นอกจากนี้ ระหว่างขากรรไกรล่างขนาดใหญ่นั้น ฟันของมดก็ถูกกระทบ ซึ่งกันและกันทำให้เสียงกระทบโลหะ
เอธานเคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่กว่า แต่มดตัวนี้กำลังกดดันเขาอย่างไร้รูปแบบและมีสัญญาณอันตรายสูง ถ้าเขาต่อสู้กับมด เขาจะตายแน่นอน
ปัจจุบันมดหยุดอยู่ในที่ที่เอธานและกลุ่มยืนอยู่ก่อนหน้านั้น จากนั้นมันก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปยังลำต้นของต้นไม้ที่พวกมันเขาอยู่
เมื่อเห็นเช่นนั้น สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไป เมื่อลัคเซลพูดด้วยน้ำเสียงที่เบามาก “ไอ้บ้า มาวางแผนง่ายๆ กันเร็ว ฉันมีคาถาป้องกันขั้นสูง ฉันจะพยายามบล็อกการโจมตีของมันและโจมตีด้วยคาถาโลหะของฉันเมื่อ ฉันได้รับโอกาส นี่จะเป็นงานของฉัน แต่เรายังต้องการพลังโจมตีและเจาะเกราะมากกว่านี้เพื่อทำลายเปลือกแข็งของมัน และเรายังต้องทำให้การเคลื่อนไหวของมันให้แย่ลงด้วย”
ริสะพูดอย่างเร่งรีบหลังจากนั้น ” ฉันจะบั่นทอนการเคลื่อนไหวของมันด้วยเวทมนตร์น้ำแข็งของฉันให้มากที่สุด และพยายามบดบังความรู้สึกของมันเป็นครั้งคราวด้วยเวทมนตร์แห่งหมอก “
” ให้พลังโจมตีแก่ เทียน่า และฉัน เธอมีเจตจำนงอันทรงพลังที่จะมีผล แต่พลังการเจาะของเธอก็ไม่สูง เราจึงต้องทำลายเกราะของมันก่อน หลังจากนั้น การโจมตีของเทียน่าจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น “
เอธานพูดทันทีหลังจากที่ริสะพูดจบ
ลัคเซลพยักหน้าให้ทุกคนว่า “ฉันจะไปกวนสมาธิมันก่อน หลังจากนั้นริสะและคุณสองคนจะทำงานของพวกคุณเลย” เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็พุ่งตรงออกไปนอกลำต้นของต้นไม้และทำให้มดไล่ตามเขาไป ด้านซ้าย.
เอธานและคนอื่นๆ ออกไปหลังจากเห็นมดตามลัคเซล
หลังจากออกมา พวกเขาเห็นมดยกขาหน้า 2 ข้างขึ้นก่อนที่จะตบพวกเขาไปทางลัคเซล ซึ่งพวกเขาหยุดการกระทำนั้นได้แล้วและสร้างกำแพงโลหะสีเทา
*รอยแตก…*
รอยแตกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนบาเรีย เมื่อถูกตีด้วยขาของมด
หลังจากนั้น ริสะก็เริ่มร่ายคาถาน้ำแข็งรอบขาของมด เพื่อหยุดการเคลื่อนที่ในขณะที่เอธานสร้าง <หอกสายฟ้า> 5 อันรอบตัวเขา
เทียน่าก็เริ่มรวบรวมพลังงานเพื่อเวทย์มนตร์อันทรงพลังตามคำสั่งของเอธาน
เอธานหยิบหอกและใช้พลังเต็มที่เพื่อโยนมันไปที่หัวของมด
*ฟิ้ง*
หอกตีเข้าที่ด้านหลังศีรษะของมด แต่มันไม่แม้แต่รอยขีดข่วนเมื่อมันละลายไป
“F*ck เกราะนั้นแข็งแค่ไหน?”
บาเรียของลัคเซลถูกทำลายไปแล้ว แต่เขากำลังเตรียมคาถาอื่นที่เขาใช้ก่อนที่บาเรียจะถูกทำลาย
มันเป็น เกราะความมืด ขนาดใหญ่ที่ไม่รวม ดิน, โลหะ และ ความมืด มดโจมตีอีกครั้งด้วยขาของมัน และครั้งนี้ ขาทั้งสองของมันทะลุกำแพงได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อพยายามดึงหรือทำลายกำแพง ดิ้นรนเพราะมันทำไม่ได้ซึ่งทำให้เสียการทรงตัวและทำให้การเคลื่อนไหวของมันแย่ลงเล็กน้อย
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ลัคเซลก็พุ่งไปอีกด้านหนึ่งและสร้างหอกโลหะทมิฬ ก่อนที่เขาจะคว้ามันและโยนมันไปยังจุดที่ท้องของมด
” นั่นคือจุดสำคัญของมด –” เสียงของเขาขาดหายไปเมื่อมดเริ่มโกรธ ที่มีขาข้างหนึ่งออกมาจากกำแพงพบว่าทรงตัวหันมาทางเขาก่อนที่จะหันปากใส่เขา
เขาหลบการโจมตี เขาได้สร้างบาเรียขึ้นอีกอัน
ริสะยังก่อน้ำแข็งรอบขาของมัน และใช้หมอกคลุมหัวของมด
เอธานไม่มีทางเลือกนอกจากสร้างคาถาใหม่ด้วยตนเอง เนื่องจาก <หอกสายฟ้า> ของเขาพิสูจน์แล้วว่าไร้ประโยชน์
เขาเริ่มสร้างเวทย์มนตร์หลังจากที่เห็นว่า <หอกสายฟ้า> ของเขาไม่ได้ทำเรื่องอะไรกับมดเลย เมื่อได้ยินเสียงของลัคเซล เขาก็ตอบว่า “ขอเวลาสักครู่…”
หลังจากผ่านไป 4 วินาที เขาก็เสร็จสิ้น ในขณะที่เขาเริ่มร่ายคาถาต่อหน้ามือของเขา
คาถาที่เขาสร้างขึ้นดูเหมือนกับหอก แต่ปลายของมันซึ่งครอบคลุม 60% ของร่างกายหมุนด้วยพลังงานอากาศและเขาใช้พลังเวทย์มนตร์เพื่อเพิ่มพลังการหมุน ในขณะที่เปลือกนอกของมันถูกสร้างด้วยพลังงานดิน จากนั้นเขาก็เพิ่มพลังงานไฟที่ด้านบน ของมัน ดังนั้น สว่านจึงเริ่มหมุนในกองไฟ
คาถาดูหยาบเพราะองค์ประกอบไม่ได้รวมกันเหมือนคาถาภูเขาไฟสายฟ้าของเทียน่า
หลังจากร่ายมนตร์ เขาคว้าด้ามเล็ก ๆ แล้วขว้างมันด้วยพลังเต็มที่ไปยังจุดอ่อนของมด ที่หอกโลหะแห่งความมืดของลัคเซลพุ่งชน
หลังจากที่ขว้าง <สว่านเจาะ> ออกไป เขาก็พูดว่า ” เทียน่า ร่ายคาถาของเธอเดี๋ยวนี้ “
เมื่อเขาพูดจบ สว่านก็เจาะทะลุจุดนั้นและเปิดจุดออกของมันออกโดยตรง ซึ่งมีรอยแตกอยู่แล้ว เนื่องจากหอกโลหะแห่งความมืดของลัคเซล
เทียน่ายังนำทั้งคู่ไปข้างหน้าด้วยพลังงานสีแดงที่มีประกายไฟสีน้ำเงินและสีแดงที่ปล่อยออกมาในรูปแบบการยิงปืนใหญ่เลเซอร์
คาถาที่เทียน่าปล่อยออกมาได้เข้าสู่ช่องว่างที่เกิดจากการโจมตีของเอธานและลัคเซลทำให้มด ร้องออกมาดังด้วยความเจ็บปวด
เทียน่าไม่ได้หยุดและร่ายคาถาเดิมอีกครั้ง แม้ว่าจะเล็กกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังโดนโจมตีอย่างหนักเมื่อมด ล้มลงข้าง ๆ เนื่องจากไม่สามารถจัดการกับความเสียหายต่อส่วนสำคัญของมันที่เป็นหัวใจได้
หลังจากนั้นมดก็หยุดร้องเสียงดัง
ร่างของมดก็หายไปพร้อมกับเสียงร้องที่หายไป
[ยินดีด้วยที่เอาชนะมดตัวที่ 1 ของคุณได้ ]
[ ลัคเซล: 0.50 คะแนน, ริสะ: 0.15 คะแนน, เอธาน: 0.15 คะแนน, เทียน่า: 0.20 คะแนน ]
ตอนที่ 52: [ชุด] [ เพื่อน ] [ ร้านค้าแต้ม ]
ขณะที่เอธานมองดูพลังของเขา และไม่พูดอะไร เขาก็ได้ยินเสียงอื่นพร้อมกับหน้าจอของระบบแจ้งเตือนข้างหน้าเขา
[ คุณต้องการถามคำถามหรือย้ายเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงหรือไม่? ]
เอธานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูด “ฉันอยากรู้ว่า ฉันจะฝ่าฟันจากขั้นพื้นฐานของพลังงานไปเป็นOrigin Intent Plane ได้อย่างไร”
[ ในการก้าวเข้าสู่ Origin Intent Plane คุณต้องมีอย่างน้อยหนึ่ง Intent(เจตจำนง) ความอิ่มตัวของพลังงานของคุณ และสถานะร่างกายที่ 10 พละกำลัง, 10 ความทนทาน, 10 ค่าจิตใจ เมื่อตรงตามเงื่อนไข 3 ข้อนี้ คุณจะรู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นในตัวคุณ ซึ่งคุณสามารถดึงมันออกมาได้ทุกเมื่อ เมื่อดึงมันออกมา คุณจะได้รับการชำระล้างโดย Origin Force (แรงต้นกำเนิด) ซึ่งจะทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในตัวคุณ หลังจากการเปลี่ยนแปลง คุณจะถือว่าได้ก้าวเข้าสู่ขั้น The Origin Intent Plane ]
เอธานพยักหน้าอย่างครุ่นคิด เมื่อดูข้อความที่แสดงอยู่ข้างหน้าเขา จากนั้นมีอีกบรรทัดหนึ่งปรากฏขึ้น
[ การตรวจสอบจะทำให้ทุกคนมีโอกาสก้าวเข้าสู่ขั้นถัดไป ขั้น Energy Plane–>Origin Intent Plane (เจตจำนงต้นกำเนิด), Origin intent Plane–>Genesis Conceptual Plane (แกล่งกำเนิดเจตจำนง) , Genesis Conceptual Plane–>Soul Altar Plane (แท่นบูชาจิตวิญญาณ) , Soul Altar Plane –> Profound Domain Plane (อาณาจักรความลึกซึ้ง)]
‘ Holy Sh!t มันมีระดับขั้นมากมาย แต่ละระดับก็จะมีขั้นตอนย่อยอยู่ในนั้นด้วย ฉันเดาว่า…เดี๋ยวก่อน ‘ จู่ๆ เอธานก็ตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่น่าตกใจในขณะที่เขาพึมพำว่า ” ถ้าการสอบที่ดำเนินการโดยสถาบัน ด้วยจำนวนคนที่นับไม่ถ้วน ก็ถือว่าคนที่อยู่ในระดับพลังเหล่านี้เป็นนักเรียน แล้วครูจะมีพลังอำนาจมากขนาดไหนกัน”
เอธานสูดหายใจเข้าลึกๆ จนตัดสินใจในใจว่า ‘ จากนี้ไปฉันจะต้องอยู่แบบง่ายๆสบายๆอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อฉันมีวังวนสีดำอยู่ภายในตัวฉันแล้ว ‘
[ คุณต้องการย้ายไปอยู่ใน โลกเสมือนจริงหรือไม่? หรือถามคำถามเพิ่มเติม? ]
“ย้ายเข้าสู่โลกเสมือนจริง”
เหมือนกับที่เอธานพูด ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนไปในทันทีที่เขามาถึงบนผืนหญ้าอันกว้างใหญ่ที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างในสายตา
แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยู่รอบตัวเขา และทุกคนสวมเสื้อผ้าแปลก ๆ เขาพยายามค้นหาว่าเทียน่าอยู่ใกล้เขาหรือไม่ แต่หลังจากกวาดสายตาไปทุกทิศทุกทาง เขาก็ไม่พบเธอ
ทันใดนั้น การแสดงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
<-เอธาน ลอง->
[~สถิติ~]
พละกำลัง: 10
ความทนทาน: 10
จิตใจ: 10
[องค์ประกอบ]: น้ำ, ไม้, ไฟ, ดิน, อากาศ, สายฟ้า, มืด, แสง, อวกาศ
พลังงาน: 56.5
ตัววัดความแข็งแกร่ง: ~
[ชุด ]:- ไม่ได้เลือก
[เพื่อน]:- ไม่มี
[ร้านค้าแต้ม]: 10 คะแนน
การประเมิน: อ่อนแอกว่ามด ไม่ได้ล้อเล่น
เอธานพูดไม่ออกเมื่อมองดูการประเมินของเขา
จากนั้นเขาก็ตรวจสอบ 2 ตัวเลือกที่มี
[ ชุด ]
ขณะที่เขากดลงไป รายชื่อเสื้อผ้าก็ปรากฏขึ้น
เอธานแปลกใจที่เห็นดีไซน์หลากหลาย มีชุดทุกแบบ ทั้งยังเห็นชุดคาวบอย ชุดศาสนา ชุดทักซิโด้ และชุดแปลกๆ มากมายที่มีสัญลักษณ์กำกับอยู่ ซึ่งถ้าให้พูดถูกก็จะประมาณนี้ ชุดฮีโร่เหล่านั้น
ขณะที่ เอธานเลื่อนดูพวกมัน เขาพบชุดสีดำเรียบง่าย ซึ่งมีหมวกสีดำที่ดูเท่ หน้ากากดำ และเสื้อคลุม มันดูคล้ายกับชุดของ Zorro (จากหนังเรื่อง The Mask of Zorro) แต่มีหมวกคลุมเพิ่มเติมและเสื้อคลุมขนาดใหญ่กว่า ซึ่งครอบคลุมทั่วตัวแทนที่จะเป็นเพียง กระพือปีกอยู่ด้านหลัง
‘ มันดูเรียบง่าย เท่ และปิดบังใบหน้าของฉันได้ มันสมบูรณ์แบบมาก ‘ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เอธานก็เลือกโดยแตะที่รูปนั้นทำให้เสื้อผ้าของเขาเปลี่ยนไป
เพียงแค่นั้น…
[ เทียน่าส่งคำขอเป็นเพื่อนถึงคุณ ต้องการที่จะยอมรับ? { ใช่หรือไม่ } ]
หลังจากตกใจไปครึ่งวินาที เขาก็กด { ใช่ }
หลังจากนั้นเขาก็คลิกที่ [ เพื่อน ]
เทียน่า โซนที่ 21
เขาดูในรายการ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีหมายเลขโซนของเธอก็เปลี่ยนจาก 21 เป็น 22 และหลังจากนั้น เขารู้สึกว่ามีคนกอดเขาจากด้านหลัง
เขาหันกลับมาด้วยรอยยิ้ม ” เทียน่า ” แต่หลังจากมองดูเธอ เอธานก็แปลกใจเพราะชุดของเธอ
เธอดูเหมือนผีสีซีด เธอสวมเสื้อผ้าสีซีดหลายชั้นทั่วร่างกายและมีหน้ากากหัวกะโหลกผีอยู่บนใบหน้าของเธอ
“อืม เอธาน…ฉันเลือกชุดนี้เพราะ…นายก็รู้ว่าเราต้องอยู่เงียบๆ สักหน่อย ไม่อย่างนั้น…” เทียน่าลังเล หลังจากนั้น และขณะที่เธอกำลังหาคำพูดที่จะพูดต่อ…แต่เอธานขัดจังหวะเธอ ด้วยการส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันเปี่ยมด้วยความรัก “ฉันรู้ว่าเธอกำลังพยายามจะพูดอะไร…”
จากนั้นเขาก็จับมือเสมือนของเธอก่อนจะพูดต่อ “ผู้ชายที่โลภผู้หญิงสวย เป็นความจริงและเรื่องปกติ ฉันเข้าใจว่าตอนนี้ฉันอ่อนแอมากเช่น อ่อนแอกว่ามดแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า เธอเป็นภรรยาคนสวยของฉันที่เข้าใจฉันมากที่สุด มันเป็นโชคของฉันจริงๆ “
เทียน่า พยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดของเอธาน ขณะที่เธอรู้สึกถึงความสุขที่ได้รับการยอมรับ
เอธานจึงถามต่อว่า “ดูเหมือนเธอจะไม่ได้อยู่ที่โซนนี้มาก่อน แต่เธอมาถึงหลังจากที่ฉันเพิ่มเธอเข้าไปในรายชื่อเพื่อนแล้ว”
” ใช่ นายสามารถเปลี่ยนโซนของนายได้หากต้องการ ฉันอยู่ในโซน 21 และหลังจากเพิ่มนาย ฉันกดชื่อของนายและตัวเลือกบางอย่างปรากฏขึ้น ซึ่งฉันกด [ โซนท่องเที่ยว ] และระบบมันก็ถามว่าฉันต้องการเดินทางไปที่โซน 22 หรือไม่ มันอยู่ใกล้ตำแหน่งของนาย ” เธอตอบข้อสงสัยของเอธาน
จากนั้น เอธานก็กดที่ชื่อของเทียน่า และมีตัวเลือกบางอย่างปรากฏขึ้น
[ข้อมูลส่วนตัว]
[โซนท่องเที่ยว]
[ดวล]
[ลบ]
ในบรรดาตัวเลือก [โซนท่องเที่ยว] เป็นสีเทา อาจเป็นเพราะพวกเขาอยู่ในโซนเดียวกัน จากนั้นเขาก็ดูที่ตัวเลือก [โปรไฟล์] แล้วกดเข้าไป
ขณะที่เขากดลงไป เทียน่าก็ได้รับข้อความ
[ คุณต้องการอนุญาตให้ เอธาน ดูโปรไฟล์ของคุณหรือไม่? { ใช่หรือไม่ } ]
เทียน่ากด { ใช่ } และข้อมูลเกี่ยวกับเธอปรากฏบนจอแสดงผลของเอธาน
<-เทียน่า->
[~สถิติ~]
พละกำลัง: 7
ความทนทาน: 7
จิตใจ: 5
ธาตุ: น้ำ ไฟ สายฟ้า
เจตนา: ภูเขาไฟสายฟ้า – ขั้นเบื้องต้น
พลังงาน: 28.8
ตัววัดความแข็งแกร่ง: ~
[ชุด ]:- กะโหลกผีสิง
[เพื่อน]:- เอธาน
[แต้มร้านค้า]:- 10 คะแนน
การประเมิน: อ่อนแอกว่ามด ไม่ได้ล้อเล่น
หลังจากดูค่าสถานะของเธอแล้ว เอธานก็บอกเทียน่าว่าเราจะก้าวเข้าสู่ขั้นของ Origin Intent Plane ได้อย่างไร
เมื่อฟังเอธานแล้ว เธอพยักหน้าและพูดว่า “ดูเหมือนว่า ฉันต้องปรับแต่งร่างกายและเปลี่ยนอาณาจักรพลังจิตให้เป็นดินแดนลึกลับให้ได้ และขจัดสิ่งเจือปนสีดำในนั้น หลังจากนั้นฉันจะรู้สึกถึงการกระตุ้น”
“ใช่ และฉันก็จะบอกอีกว่า ทุกคนมีโอกาสก้าวเข้าสู่ ขั้นถัดไปได้ในระหว่างการสอบ แต่ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะให้โอกาสนี้ได้อย่างไร ยังไงก็ลองตรวจสอบ [ ร้านค้าคะแนน ] กัน ฉันสงสัยว่าเราจะทำอย่างไรไดบ้าง และซื้อของอะไรได้ไหม”
เมื่อพูดเช่นนี้ เขาก็กดที่ [ ร้านค้าคะแนน ] ทำให้หน้าจอใหม่ปรากฏขึ้น ซึ่งมีรายการของหลายอย่างพร้อมคำอธิบาย
แต่ละแถวมี 3 รายการ และรายการแรกมีประโยชน์มากสำหรับเทียน่า
[ ยาล้างพลังจิตลึกลับ ]
– การกินยาจะทำให้อาณาจักรพลังจิตกลายเป็นดินแดนลึกลับ ก่อนจะล้างสิ่งสกปรกสีเทาภายในด้วยการชำระจิตใจจากความคิดด้านลบและล้างสิ่งสกปรกสีดำ
– ค่าใช้จ่าย: 5 คะแนน
หลังจากที่เขาอ่านจบ เขาได้ยินเทียน่าถามว่า “ฉันควรซื้อยานี้ไหม แต่ฉันจะกินมันในโลกเสมือนจริงนี้ได้อย่างไร”
“โอ้….ไม่เป็นไร มันบอกว่ายาจะได้ผล แม้ว่าเราจะกินมันในโลกเสมือนจริงก็ตาม”
เอธานคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากได้ยินคำพูดของเทียน่าและกล่าวว่า “สถาบันยักษ์ใหญ่แห่งนี้ น่าจะมีวิธีการวิเศษของตัวเอง ดังนั้นเพียงแค่ซื้อมันและกินมัน อย่างไรก็ตาม ฉันเดาว่าการเปิดอาณาจักรลึกลับ และรับพลังลึกลับเพิ่ม จะเพิ่มโอกาสในการผ่านบางการทดสอบ “
เธอตอบกลับมาด้วยคำว่า “อืม” เทียน่าซื้อยามากินหลังจากที่มันปรากฏตัวต่อหน้าเธอ
จากนั้นเอธานก็มองดูสิ่งอื่น ๆ ในร้านต่อไป มีอาวุธ อุปกรณ์ หนังสือคาถา และยาในหน้าต่างร้านค้า ซึ่งแสดงให้เห็นในรูปแบบตาราง
ขณะที่เอธานเลื่อนลงไปเรื่อยๆ เขาก็ต้องประหลาดใจที่เห็นไอเท็มประเภทใหม่
< เจตจำนงของธาตุ- ต้องการพลังงานธาตุตามลำดับ>
[ แผ่นเจตนาธาตุไฟ ]
– ไม่ทราบจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่จะเข้าใจ เจตจำนงธาตุไฟพื้นฐาน อัตราความสำเร็จขึ้นอยู่กับผู้ใช้
– ค่าใช้จ่าย: 10 คะแนน
[ จานธาตุน้ำ ]
-ไม่ทราบจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่จะเข้าใจเจตจำนงธาตุน้ำพื้นฐาน อัตราความสำเร็จขึ้นอยู่กับผู้ใช้
– ค่าใช้จ่าย: 10 คะแนน
…
ขณะที่เขาเลื่อนลงต่อไป เขาก็เห็นอีกสิ่งหนึ่ง
<เจตจำนงลึกลับ- ต้องใช้พลังเวทย์มนตร์เพื่อปลูกฝังพลังแห่งเจตจำนงลึกลับเหล่านี้>
ภายใต้ชื่อนี้มี ขั้นของเจตจำนง แปลก ๆ เช่น [ เจตจำนงของดาบ ], [ เจตจำนงของคทา ], [ เจตจำนงของธนู ] … ขั้นเหล่านี้ทั้งหมดมีราคา 10 แต้มและมีเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ทราบจำนวนที่จะเข้าใจ
…
เมื่อมองไกลออกไป เขาเห็นเจตจำนงที่แปลกประหลาด [ เจตจำนงของเลือด ], [เจตจำนงของการกัดกร่อน ], [ เจตจำนงของน้ำหนัก ], [ เจตจำนงของความเร็ว ] เป็นต้น…
เขากดหนึ่งในนั้นเพื่อดูรายละเอียด
[ เจตจำนงของเลือด ]
– การโจมตีของคุณที่มีพลังของเลือด จะทำให้เลือดไหลไปยังคู่ต่อสู้ของคุณและจะไม่หยุดจนกว่าฝ่ายตรงข้ามจะมี เจตจำนงของการรักษา หรือยาบางชนิด
-คำขอ: มีค่าอย่างน้อย 100 ในค่าจิตใจ, แรงลึกลับ
“เหลือเชื่อ…..” เอธานพึมพำขณะมองดูหน้าจอ
ตอนที่ 51: ยานอวกาศยักษ์ ฉันอ่อนแอขนาดนั้นเหรอ?
หลังจากบินอยู่นาน ในที่สุดพวกเขาก็เห็นโครงร่างของเมือง
การบินถูกห้าม ดังนั้นพวกเขาจึงลงมาและเดินไปที่ประตูเมือง และน่าประหลาดใจที่ทหารยืนอยู่ที่นั่นราวกับเป็นยาม เนื่องจากที่นี่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าเมือง
เมืองนี้มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากกว่าที่เอธานคิด มีอาคารสูงและรถยนต์ที่บินได้ นอกจากนี้ยังมีจอภาพดิจิตอล และเรือเหาะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
นี่เป็นครั้งแรกที่เทียน่าที่ได้เห็นของไฮเทค ดังนั้นเธอจึงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อได้ดูสิ่งมหัศจรรย์เหล่านั้น
เอธานรู้สึกประหลาดใจ แต่ไม่ตื่นเต้นเท่ากับที่เขาคาดไว้พอสมควร หลังจากเดินไปได้ซักพัก พวกเขาก็พบโรงแรมที่มีความสูง 50 ชั้น
เมื่อเข้าไปข้างใน เอธานถามพนักงานต้อนรับว่า “คืนเดียวเท่าไหร่”
พนักงานต้อนรับเป็นหญิงสาวสวยในวัย 20 กลางๆ เธอพูดด้วยรอยยิ้มอย่างมืออาชีพว่า “บริการชั้นหนึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายหินธาตุระดับ 2 จำนวน 3 ก้อนสำหรับการเข้าพัก 24 ชั่วโมง บริการชั้นสองจะเสียค่าใช้จ่ายหนึ่งระดับหินธาตุ 2 ก้อนสำหรับการเข้าพัก 24 ชั่วโมง และบริการระดับสามจะเสียค่าใช้จ่าย 500 หินองค์ประกอบสำหรับการเข้าพัก 24 ชั่วโมง ท่านต้องการจองบริการใดค่ะ ”
เอธานหยิบหินองค์ประกอบระดับ 1 จำนวน 500 ก้อนออกมาโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกและพูดว่า ” บริการระดับสามน่าจะเพียงพอ คุณช่วยอธิบายให้เราฟังได้ไหมว่ามีอะไรรวมอยู่ในบริการนี้บ้าง “
” ค่ะท่าน บริการชั้นสามมีห้องเดียวขนาด 400 ตารางฟุต และอาหารวันละ 3 ครั้งที่ทำจากสัตว์และสมุนไพรชั้น 1 บริการชั้นสองรวมห้องชุด 1500 ตารางฟุต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ในขณะที่บริการชั้นหนึ่ง รวมพื้นที่กว่า 5,000 ตารางฟุต และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย”
เอธานพยักหน้าในขณะที่จองบริการชั้นหนึ่ง หลังจากนั้นพนักงานต้อนรับก็ให้บัตรที่มีหมายเลขกำกับไว้และพูดด้วยรอยยิ้มว่า ” ขอบคุณที่เลือกโรงแรมของเรา ห้องของคุณคือ 605 ที่ชั้น 6 “
เอธานพยักหน้า เขา และ เทียน่า เริ่มเดินไปที่ลิฟต์ ลิฟต์ไม่มีสายไฟเชื่อมต่อด้านบนหรือด้านล่าง
พอเข้าไปข้างใน. เอธานกดปุ่มที่ชั้น 6 รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดเล็กน้อยเล็กน้อย ประตูลิฟต์เปิดออกอย่างน่าประหลาดใจ เอธานคิด ‘มันเร็วมาก..’
ไม่นานพวกเขาก็พบห้องเลขที่ 605 และพวกเขาก็เดินเข้าไปข้างใน ห้องไม่ใหญ่มากแต่มีพื้นที่เพียงพอ มีเตียงใหญ่ ห้องน้ำ จอโฮโลแกรม และของทั่วไปอื่นๆ ที่พบในโรงแรม
ทั้งสองคนนั่งอยู่บนเตียง ขณะที่เอธานหยิบหินธาตุที่เหลือออกมา ซึ่งเขาต้องการเพื่อเติมพลังงาน
จากนั้นเขาก็พูดกับเทียน่า ที่นั่งอยู่ข้างหน้าเขาว่า “เรามาฝึกฝนกันจนกว่าการทดสอบของ มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ จะมาถึงเพื่อทำการทดสอบ แม้ว่าเราจะยังไม่รู้ว่าพวกเขาจะทดสอบอย่างไรก็เถอะ”
เทียน่าพยักหน้า ขณะที่เธอหยิบหินไฟระดับสูงสุด เทียร์-1 และหินสายฟ้าออกมา
…
…
ผ่านไปหลายชั่วโมง เอธาน และ เทียน่า ยังคงฝึกซ้อมอยู่ ในเวลานี้ แรงกดดันก็ลงมาที่พวกเขาทั้งคู่ลืมตาขึ้น หลังจากนั้นก็มีเสียงดังก้องกังวาน
[ ทุกคนที่ต้องการเข้าร่วมการทดสอบ ออกจากอาคารที่เกี่ยวข้องที่คุณทั้งหมดพักและยืนอยู่ใต้ท้องฟ้า ]
“ไปกันเถอะ” เอธานพูดขณะที่เขากับเทียน่า เริ่มออกจากโรงแรมพร้อมกับคนอื่นๆ อีกหลายคน ไม่นานพวกเขาก็ออกจากโรงแรม ขณะที่พวกเขายืนอยู่บนถนน
เมื่อเห็นว่าผู้คนกำลังมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ทั้ง เอธาน และ เทียน่า ก็มองขึ้นไปและพวกเขารู้สึกตกใจอย่างมาก
สามารถเห็นโลหะขนาดมหึมาบนท้องฟ้า เอธาน และ เทียน่า มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดหรือความสูงของมัน แต่พวกเขาเห็นว่ามันลอยอยู่นอกชั้นบรรยากาศและยังดูใหญ่มาก
[ บุคคลที่ผ่านการรับรองจะถูกเลือกและดึงขึ้นโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไป 1 นาที หากคุณไม่ต้องการเข้าร่วมการทดสอบ คุณจะได้รับตัวเลือกให้ออกหลังจากเข้าสู่ยานอวกาศ ]
เสียงไม่แยแสดังมาจากด้านบน ขณะที่มันก้องกังวานไปทุกหนทุกแห่ง
ขณะที่เอธาน เทียน่า และคนอื่นๆ กำลังรออยู่…
หากมีใครยืนอยู่ในอวกาศและมองดู พวกเขาจะมองเห็นยานอวกาศยักษ์ ยานอวกาศนั้นใหญ่และกว้างใหญ่จนใจจะปลิวทันที
รูปร่างของมันสามารถอธิบายได้ว่าเป็นปลามันตาเรย์ตัวอ้วนใหญ่ที่ลอยอยู่ในอวกาศ โดยไม่ทราบความสูงและความกว้าง แต่จากรูปลักษณ์ มันกว้างกว่าดาวเรซคิลนี้ แต่มีความสูงต่ำกว่าเล็กน้อย
ภายในยานอวกาศ ชายคนหนึ่งที่ดูราวกับอายุ 50 กว่าด้วยผมสีแดงอ่อน และผิวสีซีดสวมชุดเครื่องแบบทหารรัดรูปที่มีสีเงินและสีดำ สามารถมองเห็นได้พูดคุยกับคนหลายคนในวัยเดียวกันในแต่ละคน บนไหล่ของเขามีดาวสีทอง 3 ดวง
ชายผู้นั้นมองไปยังบุคคลที่อยู่ข้างหน้าเขามีเครื่องแบบเหมือนกัน แต่มี 1 ดาวอยู่บนบ่าของเขาและพูดว่า “เรโนล เราพบบุคคลที่มีคุณสมบัติกี่คนบนโลกใบนี้”
เรโนล มองไปที่โฮโลแกรมขนาดเล็กที่ลอยอยู่เหนือมือของเขาและพูด “จากการสแกนกัปตัน มีบุคคล Energy Plane ที่มีคุณสมบัติ 84,859 คน บุคคลที่อยู่ในระดับOrigin Intent Plane ที่ผ่านการรับรองมี 327 คน บุคคลที่อยู่ในระดับ Genesis conceptual Plane มี 0 คน ส่วน คนที่ผ่านระดับ Soul Alt— “
” พอแล้ว…กาแล็กซีนี้เป็นระดับล่างสุด เราจะพบเฉพาะ Energy Plane และ Origin Intent Plane ที่นี่เท่านั้น ”
“กัปตันเลย์ฮาร์ หมดเวลาแล้ว”
“เอาล่ะ ดึงพวกมันเข้ามา หลังจากนี้เรายังเหลืออีก 2 ที่ให้เก็บ หลังจากนั้นเราจะทำการทดสอบ”
…
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที เอธาน และ เทียน่า ก็เห็นแสงสีขาวส่องลงมาจากท้องฟ้า และทั้งคู่ก็หายไปพร้อมกับคนอื่นๆ อีกหลายคน
ยานอวกาศมีห้องโถงหลายห้องจากบนลงล่าง ห้องโถงเหล่านี้แต่ละห้องมีห้องโดยสารจำนวนนับไม่ถ้วนวางอยู่บนนั้น
ในห้องโถงแห่งหนึ่งเอธานและ เทียน่า ลืมตาขึ้น พวกเขามองไปรอบ ๆ และพบผู้คนอีกมากมายที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีในห้องโถงที่ใหญ่เท่ากับทวีปอันกว้างใหญ่
ทันใดนั้น หน้าจอขนาดใหญ่ก็สว่างขึ้นบนท้องฟ้า ซึ่งมีใบหน้าของกัปตันเลย์ฮาร์ปรากฏขึ้น
เขากวาดสายตามองไปทั่วห้องโถงจากโฮโลแกรมแล้วพูดว่า “ถ้ามีคนที่นี่ที่ไม่ต้องการเข้าร่วมการทดสอบให้กด [ ใช่ ] หรือกด [ ไม่ ] เลือกตัวเลือกของคุณใน 10 วินาที ไม่เลือกใด ๆ จะถือว่ากด [ ไม่ ] โดยอัตโนมัติ”
ทันทีที่เขาพูดจบ ภาพโฮโลแกรมก็ปรากฏขึ้นต่อหน้า เอธาน และ เทียน่า [ คุณอยากจะถูกริบรอนสิทธิ์จากการสอบไหม? [ใช่หรือไม่ ].
ทั้งคู่กด [ ไม่ ] โดยไม่ลังเล
ผ่านไปไม่กี่วินาที กัปตันเลย์ฮาร์ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดี ตอนนี้สิ่งที่คุณเห็นอยู่ตรงหน้าเรียกว่า หลอดแคปซูลเสมือนจริง จะเปิดขึ้นหลังจากผ่านไป 30 วินาที และคุณต้องนอนข้างในนั้น หลังจากนอนข้างในแล้ว คุณจะมาถึงโลกเสมือนจริงที่จะดำเนินการสอบ แต่การสอบจะเริ่มหลังจาก 1 ชั่วโมง เนื่องจากเรายังต้องไปรับคนจากภาคดวงดาวอีก 2 ดวง ”
หลังจากนั้นโฮโลแกรมก็หายไป
กัปตันในห้องควบคุมหลักถามว่า “เราจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการเลือกประชากรจากภาคดวงดาวทั้ง 2 ภาค”
” เราต้องใช้เวลาอย่างน้อย 45 นาที เนื่องจากมีดาวเคราะห์สะสม 54 ดวงในภาคดาวทั้งสองนี้รวมกัน “
“เข้าใจแล้ว รีบไปกันเถอะ อย่าให้เสียเวลา”
จากนั้นยานอวกาศก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเป็นเวลา 3 วินาทีก่อนที่จะหายไปเมื่อเปลี่ยนเป็นไฮเปอร์สเปซ
…
…
ในขณะเดียวกัน 30 วินาทีก็ขึ้นไปในห้องโถงที่ เอธาน และ เทียน่า ยืนอยู่ เอธานมองไปที่ หลอดแคปซูลเสมือนจริง และ เทียน่า ก่อนพูดด้วยรอยยิ้มอย่างตื่นเต้น “เข้าไปข้างในกันเถอะ เราอาจได้พบกันในโลกเสมือนจริง”
เทียน่า พยักหน้าด้วยรอยยิ้มขณะที่ทั้งคู่นอนอยู่ใน หลอดเสมือนจริงนั้น
หลังจากนอนอยู่ข้างในพวกเขาหลับตาขณะที่กระจกของ หลอดแคปซูลเสมือนจริง ปิดโดยอัตโนมัติ
หลังจากความมืดไม่กี่วินาที เอธานก็ได้ยินเสียง ก่อนที่หน้าจอจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
[ ใส่ชื่อของคุณ ]
เอธาน ป้อนชื่อของเขา เมื่อเห็นบรรทัดบนหน้าจอขณะที่อีกบรรทัดหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงโมโนโทน
[ คุณต้องการประเมินพลังร่างกายและพลังพลังงานของคุณหรือไม่? ]
เอธานประหลาดใจแต่ก็ตื่นเต้น ‘ดูเหมือนว่าหลอดแคปซูลเสมือนจริงนี้จะมีฟังก์ชันมากกว่าหนึ่งอย่าง’ เขาคิดเกี่ยวกับมัน และเขาตอบว่า “ใช่”
<เอธาน ลอง>
ที่จุดสูงสุดของ Energy Plane—> ด่าน 9
ร่างกายไม่ได้รับการชำระให้สะอาดมาจากต้นกำเนิด ดังนั้นคุณสมบัติของร่างกายถูกล็อคเป็นคุณลักษณะที่อาจเกิดขึ้นได้
ความแข็งแกร่ง: 10(100)
ร่างกาย: 10(100)
จิตใจ: 10
ตรวจพบองค์ประกอบของธาตุ: ไฟ, สายฟ้า, น้ำ, ดิน, ไม้, อากาศ, มืด, แสง, อวกาศ
พลังงาน: 56.5
เอธานตกตะลึงเมื่อเห็นข้อมูลบนหน้าจอ ‘ ร่างกายไม่ได้รับการชำระให้สะอาดมาจากต้นกำเนิดหมายความว่าอย่างไร? ฉันเดาว่ามันน่าจะเกี่ยวกับพวกระดับ Origin Intent Plane แต่..’
เอธานมองไปที่พลังงานซึ่งทำให้เขาแทบกระตุกคิ้วของเขา ‘ เพียง 56.5? คุณล้อเล่นหรือเปล่า ถ้าฉันวัดตามจำนวนหน่วย หน่วยของพลังงานแก่นแท้ที่รวมเข้าด้วยกันจะอยู่ที่ประมาณ 565,000 หลังจากการฝึกเมื่อคืนนี้ แต่มันแสดงให้เห็นเพียง 56.6 ที่นี่ ฉันอ่อนแอขนาดนั้นเหรอ? ‘
ความตื่นเต้นและประหม่าปะทุขึ้นภายในเอธานขณะที่เขาคิดว่า ‘ ดูเหมือนว่า….การเดินทางของฉันที่จะแข็งแกร่งขึ้น จะอีกยาวไกลจริงๆ ฉันรู้สึกเหมือนเพิ่งมาถึงเส้นสตาร์ทเมื่อเห็นสิ่งนี้ ‘
ในขณะเดียวกัน…
กัปตันเลย์ฮาร์กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน กำลังดูข้อมูลบางอย่างในโฮโลแกรม
” อืม เรซเคียล คาล อายุ 25 ปี มีธาตุทั้งหมด 12 ธาตุ และเข้าใจธาตุพื้นฐาน 3 อย่าง ได้แก่ เจตนาน้ำ เจตนาโลหิต และเจตนาของสายฟ้า เผ่าเรซเคียลกำลังเสื่อมถอย ” เขาพูดพึมพำ เขาส่ายหัว
” มิร่า ฉีหยุน อายุ 22 ปี 6 ธาตุ และเข้าใจ 2 พื้นฐานและ 1 เจตนาหลอมรวม: เจตนาแห่งไฟ เจตนาเสน่ห์ และเจตนาของ เปลวไฟของการเหี่ยวเฉา ไม่เลว ”
เทียน่า อายุ 18 ปี ธาตุ 3 ธาตุ และเข้าใจเจตนาหลอมรวม 1 ระดับชั้น 2 : เจตนาภูเขาไฟ สายฟ้า เจตนาระดับ 2 นี้ไม่เลว แต่…เธอไม่มีแม้แต่อาณาจักรลึกลับและร่างกายของเธอก็อ่อนแอเช่นกัน อืม เธอต้องได้รับมรดกแห่งเจตนาของภูเขาสายฟ้าแน่นอน “
กัปตันยังคงมองดูผู้สมัครที่เข้าใจเจตนาขณะดื่มกาแฟ
————————————————————–
ตอนที่ 50: ข้อมูลที่น่าเหลือเชื่อ จำนวนดวงดาวที่มีมากมาย
หลังจากที่ เอธาน และ เทียน่า เดินผ่านสตาร์เกทมา พวกเขารู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยก่อนที่ภาพตรงหน้าจะเปลี่ยนไป
เมื่อมองไปรอบ ๆ พวกเขาพบว่าตัวเองอยู่บนแท่นเหล็กขนาดยักษ์ บนท้องฟ้ายามราตรี นอกจากนี้ ทั้งคู่ต่างประหลาดใจที่เห็นผู้คนรอบตัวพวกเขาหลั่งไหลเข้ามามากมาย
เมื่อหันหลังกลับ พวกเขาเห็นสตาร์เกทก่อตัวขึ้นเป็นครั้งคราวและมีคนออกมาจากประตูเหล่านั้น
สิ่งที่แปลกคือไม่มีเมืองหรือเมืองใดอยู่รอบๆ แท่นขนาดใหญ่นี้ มันเป็นดินแดนที่แห้งแล้ง ผู้คนกำลังออกมาจากประตูมิติและกำลังออกไปในทิศทางที่แน่นอน
“ที่นี่ไม่มีสตาร์เกท แล้วเรามาที่นี่ได้ยังไง” เอธานถามเสียงดัง
บังเอิญชายชราอายุ 60 เศษได้ยินเสียงของเอธานเมื่อเขาผ่านไป
เขามีผมสั้นสีขาวและสวมเสื้อผ้าหลวมๆ ชายชราหยุดฟังสิ่งที่เอธานพูดและหันมามองเขาก่อนจะพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณสองคนจะยังใหม่ที่นี่ และดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่คุณเดินทางไปยังดาวดวงอื่น จากเสียงของคุณ คุณดูเด็กและคงไม่รู้เรื่องทั่วๆ ไป เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณสองคนใช้สตาร์เกทโดยไม่ได้แจ้งผู้อาวุโสของคุณมาสินะ” ชายชราพูดขึ้นเมื่อถึงประโยคท้ายแล้วส่ายหัว
ทั้ง เอธาน และ เทียน่า สวมเสื้อคลุมและหมวกคลุมสีดำที่คลุมร่างกายและศีรษะของพวกเขา ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในเกท นั่นเป็นสาเหตุที่ชายชราได้ยินเสียงของเอธาน
เอธานหยิบหินไฟระดับสูงสุดออกมาก่อนจะขว้างใส่ผู้เฒ่าแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้อาวุโสท่านนี้ ช่วยกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่นี้และเรื่องทั่วไปอื่นๆ ให้เราทราบได้ไหม”
เมื่อจับหินไฟระดับสูงสุดได้ ผู้อาวุโสมองดูก่อนที่จะถุยน้ำลายลงกับพื้น แล้วพูดเยาะเย้ยว่า “หินไฟระดับสูงสุดระดับ 1 คุณคิดว่าฉันเป็นขอทานหรือเปล่า”
‘ หินไฟระดับ 1? ‘ เอธานคิดอย่างสับสนเพราะเขาไม่รู้ว่ามีระดับ แต่ดูเหมือนว่าจะมีระดับหลังจากได้ยินชายชรา
หยิบหินไฟระดับ 1 ออกมาอีก 10 ก้อน เอธานถามก่อนจะมอบให้ผู้อาวุโส “แล้วนี่เป็นไง”
ผู้อาวุโสส่ายหัว แต่แสดงออกอย่างไม่เต็มใจขณะพูด “ดูเหมือนว่าคุณมาจากที่ที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งธรรมชาติสร้างหินธาตุระดับ 2 ไม่ได้สินะ”
พูดจบเขาก็รับหินเพลิงจากเอธานแล้วพูดพลางถอนหายใจ “ไม่เป็นไร ฉันจะใจดีกรอกรายละเอียดให้คุณ อย่างแรกชานชาลาทิศใต้นี้คือสถานที่เทเลพอร์ทขนาดใหญ่ เมื่อคุณใช้แผ่นพิกัดที่เชื่อมต่อ สู่เกทที่นี่กับเกทของคุณ ซึ่งเป็นพอร์ทัลที่สร้างขึ้นที่นี่ และมันเชื่อมต่อกับพอร์ทัลเกทของคุณ ดังนั้นคุณจึงมาถึงที่นี่ได้ “
” ประการที่ 2 ชื่อดาวเคราะห์ดวงนี้คือเรซคีล เพราะ แคลนเรซคีลปกครองมันอยู่ และส่วนของดาวดวงนี้เรียกว่า Elisk (อีลิส) สำหรับชื่อของกาแลคซีนี้ ควรจะเป็นความรู้ทั่วไปแม้ในที่ของคุณ แต่ฉันก็ยังจะบอกคุณ เราอาศัยอยู่ใน The Sorca Galaxy (กาแล็กซี่ซอร์ก้า) และประกอบด้วย 57 ดวงดาวในหมู่พวกเขา ดาว Elisk น่าประทับใจเป็นอันดับ 4 ในด้านความแข็งแกร่งโดยรวมและการพัฒนาองค์ประกอบของธาตุ “
“ประการที่ 3 หินธาตุระดับ 2 มีพลังงานต้นกำเนิดอยู่ ดังนั้นพวกมันจึงถูกเรียกว่าหินต้นกำเนิด และเพื่อให้ได้หินธาตุระดับ 2 คุณต้องมีหินระดับพีคระดับ 1 และระดับสูงสุด 1,000 ก้อน แต่แน่นอนว่าไม่มีใครใช้ธาตุระดับ 1 หิน ที่นี่มันเป็นสกุลเงินทั่วไปเท่านั้น เพราะมันเอาไว้ใช้เลี้ยงรุ่นน้องใน Energy Plane เท่านั้น”
“สกุลเงินหลักของกลุ่มดาว 10 อันดับแรกคือหินธาตุระดับ 2 ในขณะที่กลุ่มดาวอื่น ๆ มีหินธาตุระดับ 1 เป็นสกุลเงินหลัก และหินธาตุระดับ 2 เป็นสกุลเงินล้ำค่า ฉันเดาว่าในกลุ่มดาวของคุณ หินระดับสูงสุดจะเป็นสกุลเงินล้ำค่า ในขณะที่หินเกรดต่ำถึงระดับสูงจะเป็นสกุลเงินหลัก ถือว่าเป็นตำแหน่งระดับล่างสุด เมื่อดาวของคุณไม่มีแม้แต่ธาตุระดับ 2 ”
หลังจากพูดเช่นนี้ ชายชราก็เงียบไป เมื่อเขามองไปที่เอธานด้วยใบหน้าที่เขียนว่าหินอัคคีระดับสูงสุด 10 ก้อนของเขามีค่าเพียงข้อมูลนี้
เอธานพูดไม่ออก เขาหยิบหินธาตุดิน ระดับสูงสุดระดับ เทียร์-1 จำนวน 10 ก้อนและมอบให้ผู้อาวุโส
“ผู้อาวุโสคนนั้นผงกหัวรับก้อนหิน ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ประการที่ 4 คุณสองคนโชคดีมากที่มาถึงเวลานี้…เพราะว่า มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ จะเริ่มการสรรหาคนให้เข้าไปเรียนในวันพรุ่งนี้ และตั้งแต่สถานที่นั้น คุณมาจากที่ๆไม่มีหินธาตุระดับ 2 คุณสองคนน่าจะอยู่ใน Energy Plane เกณฑ์ของ อะคาเดมี่ ในการเข้าร่วมการทดสอบคือ”
“หากคุณอยู่ในระดับ Energy Plane คุณต้องอายุต่ำกว่า 30 ปี หากคุณอยู่ใน Origin Intent Plane คุณต้องอายุต่ำกว่า 90 ปี และหากคุณอยู่ใน Genesis Conceptual Plane คุณจะต้องอายุต่ำกว่า 240 ปี จากเสียงของคุณ ฉันเห็นว่าคุณอายุต่ำกว่า 30 ปีแน่นอน ดังนั้นคุณสามารถเข้าร่วมการสอบ Energy Plane ได้ในวันพรุ่งนี้เลย “
เอธานพยักหน้าเมื่อได้ยินอบบนั้น ในขณะที่เขารู้ชื่อของระดับขั้นต่อไป หลังจาก Energy Plane แล้ว
——————————————————————–
**Energy Plane คล้ายๆกับระดับการเข้าเรียนเช่น ระดับมัธยมต้น ระดับมัธยามปลาย**
——————————————————————–
” แล้วการทดสอบเป็นยังไงบ้างครับ และเรายังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของ มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่เลย ดังนั้นคุณพอจะช่วยเติมเต็มความรู้ให้เราด้วยได้ไหม ” เมื่อพูดอย่างนี้เอธานก็ได้มอบหินไม้เกรดสูงสุดระดับ 1 จำนวน 10 ก้อนแก่ผู้เฒ่า
ผู้เฒ่ารับก้อนหินแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าหนู ถ้าข้าบอกว่าพวกเขาจะทำการทดสอบอย่างไร เจ้าจะพบว่ามันยากที่จะเชื่อ และปัจจัยที่เหลือเชื่อที่เจ้าจะรู้สึกในวันพรุ่งนี้จะลดลง ดังนั้นฉันจะไม่ พูดอะไรเกี่ยวกับมัน สำหรับ มีเรียด สตาร์อะคาเดมี่ มันเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ยิ่งใหญ่ของ เทอรร่า ซุปเปอร์คลัสเตอร์อันกว้างใหญ่แห่งนี้ “
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของชายชราอดไม่ได้ที่จะส่องแสง ในขณะที่เขาพูดต่อไป “มันทำการตรวจสอบทุกๆ 100 ปีเพื่อเก็บต้นกล้าที่ดีจากกาแล็กซีมากกว่า 5,000 กาแล็กซี่ ภายใต้เขตอำนาจของตน โดยที่ ซอร์ก้า กาแล็กซี่ ของเราเป็นเพียงหนึ่งในนั้น ถ้าคุณสองคนสอบผ่านการทดสอบของระดับ Energy Plane ได้ คุณก็จะได้เห็นและสัมผัสถึงสิ่งต่างๆ ที่แม้แต่ชายชราคนนี้ก็ยังไม่รู้….แต่ “
ชายชราส่ายหัวและพูดต่อ “แต่ฉันได้ยินมาว่าการสอบนั้นเข้มงวดและยากมาก แค่ผู้เข้าร่วม Energy Plane ที่อายุต่ำกว่า 30 ปีก็น่าจะเกินล้านล้านคนแล้ว และจะรับนักเรียน Energy Plane เพียง 1 ล้านคนเท่านั้น…ยังไงก็ตาม ใครจะไปรู้ว่าเจ้าอาจจะผ่านไปได้”
เอธานและเทียน่าต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของชายชรา
‘ มีกาแล็กซีเพียงดวงเดียวนี้มันใหญ่มากขนาดไหน จนมีสถาบันที่รองรับคนจำนวนมากจากดวงดาวมากมาย และกาแล็กซีจำนวน 5,000 กาแล็กซี่จะมากมายขนาดไหน และอีกอย่าง มีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ ที่จัดการสอบพวกนั้นล่ะ นี่มันบ้าแล้ว ‘
ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแต่เบาว่า “ฉันได้ยินมาว่าองค์กรทรงพลังต่างๆ อย่าง สถาบันนี้ ดำเนินการสอบและเลือกคนที่มีความสามารถเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามขนาดใหญ่ที่อยู่นอก เทอรร่า ซุปเปอร์คลัสเตอร์ องค์กรชั้นนำเหล่านั้นมีสำนักงานใหญ่ ที่ชายแดนต่าง ๆ เพื่อป้องกันภัยคุกคาม “
สิ่งน่าตกใจที่พูดโดยชายชราทำให้จินตนาการของเอธานบ้าคลั่ง ‘ เป็นไปได้ไหมว่ามีเผ่าพันธุ์อื่นที่ไม่ใช่มนุษย์อยู่ที่นั่น? เหมือนปีศาจ หรือเผ่าพันธุ์วิญญาณ และอย่างที่ข้าเคยอ่านเจอในนิยายในชาติที่แล้ว? ‘
จะมีเผ่าพันธุ์อื่นจริง ๆ แต่ใครจะรู้ว่าพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ หรือวิญญาณ? เขาจะได้รู้เมื่อถึงเวลา
จากนั้นเอธานก็ถามว่า “ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่บอกเราว่ามีเรียด สตาร์ อะคาเดมี่ ดำเนินการสอบอย่างไร แต่อย่างน้อยก็บอกเราว่าเราจะลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมในการสอบได้อย่างไร”
ชายชราลึกลับยิ้มและพูดว่า “คุณไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน ตราบใดที่คุณมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดในการเข้าร่วม คุณก็สามารถเข้าสอบได้ แต่หากคุณไม่ต้องการเข้าร่วม คุณจะมีตัวเลือกให้ออกจากการทดสอบได้ มีแต่คนงี่เง่าเท่านั้น ที่จะปฏิเสธโอกาสที่ดีเช่นนี้ “
” ฉันเห็นด้วย…”
หลังจากนั้น เอธานถามสิ่งสุดท้ายกับชายชราก่อนที่ชายชราจะจากไป สิ่งที่เขาถามคือทิศทางทั่วไปของเมืองที่ใกล้ที่สุด
เอธานร่ายมนตร์พายุเฮอริเคน 4 ปีก ขณะที่ทั้งสองบินไปทางเมืองที่ใกล้ที่สุด ซึ่งชายชราชี้มาที่พวกเขา
ตอนที่ 49: การจัดการเรื่อง (2)
“ฉัน…” ไมค์อ้าปากจะพูดแต่ปิดปากก่อนจะพูดอะไรและคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดพร้อมกับส่ายหัว “ฉันจะไม่ไป” แล้วเขาก็ยิ้มและพูดต่อ “แต่เมื่อนาย มีสถานที่สำหรับตัวนายเองในโลกอันกว้างใหญ่ อย่าลืมเชิญฉันไปล่ะ”
เอธานก็ยิ้มและพูดว่า “รอก่อนเถอะ อีกไม่นานหรอก”
ไมค์มีอารมณ์เศร้าเล็กน้อย ขณะที่เขากอดกับเอธาน
อยู่ด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก พอเพื่อนไปแดนไกล ก็มีอารมณ์เศร้าบ้าง “ถึงจะไม่เคยประมาท แต่ก็อยากให้ดูแลตัวเองดีๆ นะ เพราะอย่างที่นายว่าไว้ ข้างนอกนั่นอันตรายมาก”
” ไม่ต้องห่วง เทียน่าก็ทรงพลังมากเช่นกัน ฮ่าฮ่า ในแง่ของพลังโจมตี เธออยู่เหนือฉัน ดังนั้นเราจึงสามารถดูแลกันและกันได้ “
เทียน่าพูดจากด้านข้างด้วยรอยยิ้มว่า “เพราะนาย ฉันถึงได้ทรงพลัง แต่นายน่าจะแซงหน้าฉันได้ในทันที ฉันรู้อัตราความก้าวหน้าของนายดี แล้วเราจะเอาเจ้าเมืองและเมือง Lotus Ridge Sect มารวมกันได้ยังไง เจ้าเมือง Lotus Ridge Sect จะอยู่ภายใต้คำสั่งของไมค์เหรอ?”
ไมค์ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ ปล่อยให้พวกเขาอยู่ภายใต้คำสั่งของอาจารย์ฉันเถอะ ฉันแค่ต้องมุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้ให้ได้ก่อน”
เอธานพยักหน้าในขณะที่เขาหยิบแหวนสำหรับเก็บของออกมาและยื่นให้ไมค์ก่อนจะพูดว่า “เอาแหวนเก็บของนี้ไป ฉันใส่หินองค์ประกอบธาตุระดับพีคและระดับสูงขององค์ประกอบทั้งหมดไว้ข้างในแล้ว มันจะมีประโยชน์สำหรับนาย โดยเฉพาะหินธาตุอวกาศ “
หลังจากพูดคุยกับไมค์มาระยะหนึ่งแล้ว พวกเขาก็ออกเดินทางไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเทียน่า ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงของหุบเขาสายฟ้า-ไฟ
เมืองที่เธอมาจากเป็นที่รู้จักในชื่อ ดูรันทา และใหญ่กว่าเมืองที่ ไมค์ และ เอธาน จากมาเป็นไหนๆ
ดูรันทา ตั้งอยู่ใกล้เมืองหลักของ พาวินเลี่ยนเงาดิน ซึ่งเป็นกลุ่มชั้นนำเช่นกัน
เทียน่ามีเพียงคนๆเดียวที่เธอต้องการพบ และนั่นคือคุณโรสลี เจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ซึ่งแตกต่างจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าขนาดเล็กที่ เอธาน และ ไมค์ จากมา สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากชาวเมืองที่ร่ำรวยหลายคน
เทียน่าและเอธานใช้เวลา 2 ชั่วโมงที่นั่นก่อนออกเดินทาง
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาก็มาถึงเมืองเล็ก ๆ ของเอธาน ก่อนที่จะตรงไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเขา
ภายในสำนักงานของมิสซิสราล์ฟ
เอธาน กับ มิสซิสราล์ฟ พูดคุยกันถึงเรื่องของเขาและ ไมค์ หลังจากพูดคุยกันสักพักเอธาน ก็ยืนขึ้นและหยิบแหวนเก็บของออกมาก่อนที่จะพูดว่า “มิสซิสราล์ฟ โปรดนำแหวนเก็บของนี้ไว้กับคุณ มันมีทองคำและหินที่มีธาตุอยู่ข้างในด้วย โปรดอย่าปฏิเสธสิ่งนี้ คุณได้ดูแล ผมกับไมค์มาหลายปีแล้ว นี่เป็นอย่างน้อยที่สุดที่ผมทำได้ “พูดแบบนี้เขาก็วางแหวนลงบนโต๊ะแล้วโค้งคำนับ
มิสซิสราล์ฟมีอารมณ์เศร้าปนดีใจ ทั้งน้ำตาเอ่อคลอในดวงตาของเธอ ขณะที่เธอพูด “เธอกับไมค์กลายเป็นมังกรในหมู่ผู้ชายอย่างแท้จริง ในเวลาเพียง 2 ปี มันดูเหลือเชื่อมาก แต่เอธาน…ฉันรับไม่ได้จริงๆ ความมั่งคั่งดึงดูดความโลภของผู้อื่นและฉันไม่มีพลังพอที่จะปกป้องความมั่งคั่งจำนวนมากนี้จากความโลภ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเราได้รับการสนับสนุนจากหุบเขาสายฟ้า – ไฟ ตั้งแต่ไมค์กลายเป็นลูกชายศักดิ์สิทธิ์แล้ว ดังนั้นตอนนี้เราไม่ต้องการอะไรเลย “
หลังจากที่คิดได้แล้ว เอธานก็พยักหน้าและหยิบแหวนเก็บของกลับมาก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะอย่างที่คุณพูด มิสซิสราล์ฟเราจะออกไปตอนนี้แล้ว ผมหวังว่าคุณจะไม่ทำงานหนักเกินไปสุขภาพก็ สำคัญด้วย”
มิสซิสราล์ฟยิ้มอย่างใจดีและพูดขณะที่เธอมองไปที่ เอธาน และ เทียน่า “คุณทั้งคู่ระวังตัวด้วยและเอธานดูแลผู้หญิงของคุณด้วย และการที่คุณได้ภรรยาที่สวยเช่นนี้ คุณโชคดีแน่ ๆ เด็กน้อย”
เทียน่าหน้าแดงและพูดว่า “ฉันเป็นคนที่โชคดีมากกว่าค่ะ ที่มีเอธานเป็น … หุ้นส่วนชีวิตของฉัน”
มิสซิสราล์ฟหัวเราะเบา ๆ และเอธานก็ลูบจมูกเมื่อได้ยินเช่นนั้น
…
…
“ ตอนนี้เรามีอะไรต้องทำอีกไหม?” เอธานถามเทียน่า ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนตักของเขาในรถม้า
“ฉันไม่คิดอย่างนั้น … ” เทียน่าส่ายหัวหลังจากคิดได้ไม่กี่วินาที
“เราไม่รู้ว่าจะพัฒนาความแข็งแกร่งอย่างไร หลังจากได้เข้ามาสู่ขั้น Elemental Dominator แล้ว ดังนั้นเราอาจจะต้องออกไปจากที่นี่ในตอนนี้ เพราะมันไม่สมเหตุสมผลที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไปให้เสียเวลา อย่างไรก็ตามฉันไม่ได้เพิ่มพลังในการต่อสู้กับเจ้าเมือง Lotus Ridge เลย ดังนั้นฉันยังคงมีพลังงานแก่นแท้ 100,000 หน่วยของทั้งไฟและสายฟ้าส่วนองค์ประกอบอื่น ๆ เกือบจะใกล้เคียงกับ 100,000 หน่วยแล้วยกเว้นองค์ประกอบธาตุอวกาศแล้วเธอล่ะ? “
เทียน่า เห็นด้วยกับ เอธาน ขณะที่เธอพยักหน้าและพูด ” ฉันกู้คืนพลังงานของฉันแล้ว พลังงานแก่นแท้ สายฟ้า และ ไฟ ของฉันคือ 100,000 หน่วย ในเชิงเปรียบเทียบคือพลังงานในการใช้คาถาภูเขาไฟสายฟ้าอยู่ที่ประมาณ 60,000 หน่วย และ พลังงานแก่นแท้ของธาตุน้ำ ยังคงเป็น 0 หน่วยเพราะเหตุนั้น ฉันต้องการดินแดนลึกลับและสร้างพายุทอร์นาโด (ประตูควบแน่นหมุนเวียน) โดยใช้พลังงานลึกลับนั่นเพิ่ม “
” ยังไงก็ตาม นายรู้ได้ยังไงว่าอาณาจักรพลังจิตของนายกลายเป็นอาณาจักรลึกลับแล้ว ” เธอถาม
เอธานยิ้มอย่างเคอะเขิน เมื่อนึกขึ้นได้ “อันที่จริง มันเกิดขึ้นระหว่างเรา…” เอธานบอกกับเธอเรื่องนี้
“โอ้…อาณาจักรพลังจิตของฉันก็ถูกเปิดในวันนั้นด้วย ดังนั้นเหตุผลที่เราทั้งคู่ถึงเป็นลมก็คือว่าอาณาจักรพลังจิตของคุณ เปิดอาณาจักรพลังลึกลับในขณะที่ฉันเปิดอาณาจักรพลังจิตของฉัน”
จากนั้นเทียน่าก็บีบมังกรของเอธาน ขณะที่เธอพูดอย่างเยาะเย้ยด้วยรอยยิ้ม “พวกเราสามารถเลือกที่จะออกเดินทางในเช้าวันพรุ่งนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นคืนนี้เรามาพักกันที่ไหนสักแห่งที่นี่”
“ตามใจครับท่านราชินี … แต่เราไม่จำเป็นต้องลงจากทำรถม้าคันนี้หรอกนะ … “
<เกราะความมืด> ปรากฏขึ้นบนรถรบที่ลอยได้ และมันก็ได้ปิดผนึกเสียงคร่ำครวญ
…
…
วันรุ่งขึ้น ตอนบ่าย …
ทั้ง 2 คน มาถึงสถานที่บนภูเขาที่สตาร์เกทตั้งอยู่
เอธานหยิบแผ่นพิกัดออกจากวงแหวนจัดเก็บก่อนจะใส่เข้าไปในช่องของมัน
สตาร์เกท สว่างขึ้นขณะที่พอร์ทัลก่อตัวขึ้นภายในวงแหวน
ทั้งคู่หายใจเข้าลึก ๆ เอธาน และ เทียน่า จับมือกันและกัน
” อืมม…ฉันค่อนข้างประหม่าและตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กัน “
“ฉันด้วย…ไปกันเถอะ โลกใบใหม่กำลังรอเราอยู่”
จากนั้นทั้งสองก็ก้าวเข้าสู่พอร์ทัล
ตอนที่ 48: การจัดการเรื่อง (1)
เอธานไม่ได้เอามืออกจากการจับกุมของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังก้องว่า “ถ้าคุณต้องการมีชีวิตอยู่ คุณจะต้องกลายเป็นคนรับใช้ของฉันพร้อมกับคนในเมือง Lotus Ridge Sect ทั้งหมดด้วย!”
ในเวลานี้ เทียน่าก็มาถึงเขาแล้วเช่นกัน เธอถูกปกคลุมไปด้วยชุดเปลวไฟที่ลุกโชนอย่างสวยงาม ด้วยประกายไฟสีน้ำเงินเข้มและสีแดง
เมื่อมาถึงข้างเอธาน เธอพูดว่า “ฉันสามารถใส่คาถาไว้ในอาณาจักรลึกลับของเขาได้ เพื่อให้เขาเชื่อฟังเรา ถ้าเขาปฏิเสธคำสั่ง คาถานั้นจะระเบิดเข้าไปข้างในโดยตรง และมันจะฆ่าเขาให้ตายในทันที”
จากนั้นเทียน่าก็ส่งความคิดทางกระแสจิตไปยังเอธาน “มันเหมือนกับที่เราควบคุมสัตว์อสูร โดยการสร้างตราสัญลักษณ์แห่งพลังจิตหรือพลังงานลึกลับไว้ข้างใน และด้วยวิธีเดียวที่เขาสามารถกำจัดมันได้ คือการหาคนที่มีระดับสูงกว่า ระดับของคนที่ผนึก เพื่อแก้ไขคาถาผูกนั้นใช่ไหม ”
เอธานพยักหน้าและพูดในขณะที่เขามองไปที่ เจ้าเมือง Lotus Ridge “ถ้าคุณอยากมีชีวิตอยู่ ก็ปล่อยให้เธอร่ายมนตร์ที่ผูกมัดไว้ในตัวคุณซะ ไม่เช่นนั้นคุณก็จงตายไป”
ไลนัส คอนเซอร์ รีบพยักหน้าโดยไม่สนศักดิ์ศรีของเจ้าเมืองอีกต่อไป
ผู้อาวุโสของเมือง Lotus Ridge ต้องการพูดอะไรบางอย่างแต่ลังเลและในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไร
ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยิน…
“จงใส่คาถาผูกจิตไว้ในสุภาพบุรุษทั้ง 8 คนนี้ด้วย”
ใบหน้าของทั้ง 8 คนเปลี่ยนไป แต่พวกเขาก็ยังยอมแพ้ เมื่อพวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของเอธาน แล้ว
หลังจากนั้น เอธานถามว่าทำไมเมือง Lotus Ridge ถึงมาอยู่บนโลกนี้และทำไมต้องมาทำแบบนี้
ไลนัส คอนเซอร์ รู้สึกได้ถึงพลังในตัวเขาที่คุกคามชีวิตของเขา ถ้าเขาปฏิเสธที่จะพูดหรือโกหก เขาจะตาย ดังนั้นเขาจึงรีบทำและบอกทุกสิ่ง ” เรามาถึงที่นี่ผ่านรูปแบบเทเลพอร์ตที่ตั้งอยู่ในโถงของวังพันเทพ แห่งนี้ และมันถูกสร้างขึ้นโดยผู้อาวุโสของเมืองเราที่เคยมาถึงโลกนี้เมื่อหลายปีก่อนโดยยานอวกาศ
และเช่นเดียวกับดาวเคราะห์ดวงนี้ ดาวเคราะห์โดยรอบและดาวเคราะห์อื่น ๆ อีกจำนวนมากก็มี สถานที่เทเลพอร์ท ที่เชื่อมต่อกับเมือง Lotus Ridge Sect เมืองหลักของเรา ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางดาวเคราะห์ ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในดาวแถวนี้ด้วย และยังมีเมืองอื่นอีกมากมายที่นั่นด้วย แต่ เราถือว่าแข็งแกร่งที่สุด เพราะมันถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษของฉัน ที่มาจากเมืองที่มีอำนาจและทิ้งมรดกอันแข็งแกร่งไว้เบื้องหลัง “
เขาหายใจเข้าลึกๆ และพูดต่อ ” จากนั้นเขาก็ฝากข้อความว่าเขาได้สร้างสตาร์เกทบนดาวเคราะห์ และทิ้งแผ่นพิกัดซึ่งมีพิกัดของภาคดาวที่เขาจากมา เพื่อให้ลูกหลานของเขาสามารถเดินทางไปที่นั่นได้
แต่เขาไม่ได้บอกเราถึงตำแหน่งของโลกที่เขาสร้างเกทสตาร์เกท ดังนั้นเราต้องฝ่าฟันดาวเคราะห์หลายดวงมาหลายชั่วอายุคน และสุดท้ายในรุ่นของฉัน ฉันพบว่ามันอยู่ที่นี่แน่นอน มันเป็นงานหนักของพ่อฉัน ปู่และบรรพบุรุษอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าจำไม่ผิด ผู้เฒ่าที่มายังดาวดวงนี้และสร้างวังพันเทพนั้นมาจากรุ่นปู่ของฉัน “
เอธานพยักหน้าและถามเรื่องอื่นต่อ
…
…
เอธาน และ เทียน่า กำลังเดินทางไปที่รถลาก มันคือ รถม้าลาก ที่ลากโดย 6 เพกาซัส เอธาน ได้สั่งให้ผู้นำเหล่านั้นและ ไลนัส คอนเซอร์ รายงานต่อ หัวหน้าหุบเขา หลังจากจัดระเบียบผู้คนของพวกเขาเสร็จแล้ว
เขาได้ล้างความมั่งคั่งของผู้นำกลุ่ม 5 อันดับแรก ผู้อาวุโสและเจ้าเมือง Lotus Ridge Sect
การรวมความมั่งคั่งของคนเหล่านั้นมีมากและเขายังมีแหวนเก็บที่ดีกว่าด้วยพื้นที่ 300 ลูกบาศก์เมตร
“ เอาแหวนนี้ไป มันมีหินน้ำระดับสูงสุด 100 ก้อนและอย่าปฏิเสธ เพราะฉันยังมีหินน้ำระดับสูงสุดมากกว่า 200 ก้อน” เอธานกล่าวขณะส่งแหวนที่มีพื้นที่ 250 ลูกบาศก์เมตรให้ เทียน่า
เทียน่ายิ้มและหยิบแหวนขึ้นมาก่อนจะถามว่า “ตอนนี้เราจะทำอย่างไรต่อ?”
เอธานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “งานสุดท้ายของฉันคือทิ้ง เรื่องดวงดาวพวกนี้ไว้ และมุ่งหน้าหาคำตอบของ สตาร์เกท แต่ก่อนหน้านั้นฉันจะถามลาฟิวเกี่ยวกับปัญหาของเขา แล้วถามว่าไมค์ก่อนว่าเขาอยากจะมากับเราไหม ฉันต้องไปเยี่ยมมิสซิสราล์ฟก่อนจากไปอีกด้วย”
“ ฉันอยากไปเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้าที่ฉันจากมาด้วย” เทียน่ายังบอกภารกิจของเธอด้วยรอยยิ้ม
หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงเมื่อถึงเวลากลางคืน ในที่สุดพวกเขาก็กลับไปที่หุบเขาสายฟ้า-ไฟ และเข้าไปในบ้านเพื่อมี การพักผ่อนที่ดี
…
หลังจากแต่งตัวและพร้อมแล้ว พวกเขาก็ไปที่บ้านของลาฟิวก่อน
พวกเขา 3 คนนั่งบนโต๊ะกลม ขณะที่เอธานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ บอกมาสิว่า คุณต้องการความช่วยเหลืออะไรจากผม และผมจะช่วยคุณตราบเท่าที่ยังอยู่ในความสามารถของผมนะ”
ลาฟิวส่ายหัวขณะที่เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“ ดูเหมือนว่านายจะไม่ได้ไปที่พระราชวังหลักก่อน และมาที่นี่ทันทีเลย ที่จริงแล้วเหตุผลที่ฉันต้องการความช่วยเหลือจากนายคือการฆ่าผู้อาวุโสสูงสุดของโถงพันเทพเจ้านั่น และมันก็สำเร็จแล้วขอบคุณนายมาก “
“เอ่อ กรณีนั้น… มันสำเร็จได้อย่างไร? ฉันจำไม่ได้ว่าฉันเคยฆ่าผู้อาวุโสคนใดของวังพันเทพเจ้าไปเลย”
ลาฟิวยิ้มและพูดว่า “ใช่ นายไม่ได้ทำ แต่เมื่อฉันไปเยี่ยมชมพระราชวังหลัก เมื่อเช้านี้ ผู้อาวุโสสูงสุดและหัวหน้าเมืองที่เก่งที่สุด 5 เมืองมาถึงกับคนของเมือง Lotus Ridge Sect และ เจ้าเมืองของพวกนั้น และหนึ่งในนั้นเป็นผู้อาวุโสสูงสุดที่ฉัน อยากฆ่ามาก … “
เขาหยุดพูดตรงนี้ราวกับจำบางอย่างได้ ลาฟิวทำหน้าเศร้าและโกรธเล็กน้อย ขณะพูดว่า “ผู้อาวุโสคนนั้น เป็นฆาตกรของที่ฆ่าตระกูลฉัน เขาฆ่าทุกคนเพราะความผิดเล็กน้อย ตอนนั้นฉันอายุแค่ 16 ปี และอยู่ในห้องทดสอบความสัมพันธ์ วันนั้นฉันก็ถูกรับเข้าหุบเขาสายฟ้า-ไฟด้วย…”
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ กวาดท่าทางเศร้าของเขาออกไป พร้อมกับยิ้มและพูดว่า “ลืมมันไปซะ ยังไงก็ตาม ผู้อาวุโสสูงสุดคนนั้น ก็ถูกเจ้าวังของวังพันเทพฆ่าตายแล้ว เมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เอง”
เทียน่าหัวเราะคิกคักและพูดว่า “คุณต้องเปิดเผยความคับข้องใจของคุณและเรื่องของเอธาน ต่อหน้าพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ มันจึงทำให้เจ้าแห่งเมือง Lotus Ridge Sect รับทราบและเขาคงจะระแคะระคายสินะ”
“ใช่” ลาฟิวพยักหน้า
หลังจากพูดคุยกับลาฟิวแล้ว ทั้งคู่ก็ไปที่ห้องของไมค์ ซึ่งเขาฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง
“ไมค์ ฉันจะไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก และสถานที่นั้นน่าจะอันตรายกว่า เหตุผลที่ฉันจะจากไปก็คือฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะเพิ่มความแข็งแกร่งจากที่นี่ได้อีกแล้ว…”
เอธานหายใจเข้าลึก ๆ ถาม “ฉันจะถามนายตรงๆว่านายอยากไปกับเราที่นั่นไหม?”
ตอนที่ 47: ไลนัส คอนเซอร์ กับ เอธานในชุดมังกรดำ
เอธานจึงถามหัวหน้าหุบเขาเกี่ยวกับที่อยู่ของไมค์และ ลาฟิว
“พวกเขายังคงต้องอยู่ระหว่างทางตรงไปยังทิศทางนี้และคุณจะพบพวกเขา หากพวกเขายังไม่เปลี่ยนเส้นทางกลางคัน”
หลังจากพยักหน้าให้กับหัวหน้าหุบเขา ที่เขาในตอนนี้จะได้รับการดูแลจากผู้อาวุโสแล้ว เอธาน และ เทียน่า ก็เร่งไปยังทิศทางที่หัวหน้าหุบเขาชี้
เมื่อเอธานมีพลังลึกลับแล้ว ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาไม่นานในการเผชิญหน้ากับ ลาฟิว และ ไมค์
หลังจากจับตัวพวกเขาได้ เอธานกล่าวขณะถอนหายใจด้วยความโล่งอก“ คุณสองคนกลับไปได้แล้ว เพราะทั้ง 4 คนนั้นตายไปแล้ว …. ในขณะที่ฉันจะไปเยี่ยมโถงพันเทพนั่นก่อน คนเหล่านั้นของ Lotus Ridge Sect ยังคงต้องอยู่ที่นั่น”
“ระวังนะครับ .. ” ไมค์พูดอย่างเป็นห่วง ในขณะที่ใบหน้าของลาฟิว ก็ดูเคร่งขรึมเหมือนกัน ขณะที่เขาพูดว่า “อย่าต่อสู้ตัวต่อตัว และโจมตีพวกมัน ขณะซ่อนตัวให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งที่ต้องระวังไม่ใช่เรื่องแย่ แม้แต่กับสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังก็ยังต้องระวัง ”
เอธานพูดด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจว่า “ไม่ต้องกังวลครับ เราจะดำเนินการอย่างระมัดระวัง”
“อ๋อ ไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นกับเราแน่นอนค่ะ ท่านไม่ต้องกังวล” เทียน่าพูดขณะที่เธอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเอธานก็ร่ายเวทย์ เสือเฮอริเคน 4 ปีก ก่อนที่ทั้งคู่จะเร่งความเร็วไปยังวังพันเทพหลังจากถามถึงทิศทางจากลาฟิวมาแล้ว
หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง พวกเขาก็เข้าสู่บริเวณที่วังพันเทพตั้งอยู่ ดูเหมือนว่าจะมีผู้คนจำนวนมากบินไปในทิศทางเดียวกันกับเอธาน
“ ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่วังพันเทพ”
เทียน่าพยักหน้าและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น เราก็ไม่จำเป็นต้องแอบไป เราบินไปหาพวกเขาได้เหมือนคนอื่น ๆ และเราก็ยังเด็ก คงไม่มีใครสงสัยว่าเรามาที่นี่เพื่อก่อปัญหาหรอก”
“ แน่นอน … ” จากนั้นเขาก็สลายสัตว์ร้ายและทั้งคู่ก็บินไปเอง
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงศูนย์กลางขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึงพระราชวังพันเทพ
ศูนย์กลางนั่นคือแพลตฟอร์มลอยน้ำขนาดใหญ่และด้านหลังเป็นพระราชวังที่สง่างาม แม้ว่าพระราชวังทั้ง 3 แห่งของหุบเขาสายฟ้า – ไฟจะรวมเข้าด้วยกัน แต่ก็ยังคงดูเล็กอยู่ตรงหน้าพระราชวังแห่งนี้
เอธานรู้สึกว่าพระราชวังมีความสูงประมาณ 1 กม. และกว้าง 4 ตร.กม.
หลังจากรอเป็นเวลา 30 นาที พวกเขาก็เห็นรถม้าคู่บารมีถูกลากโดยเพกาซัสสีขาว 6 ตัวที่ลงมาจากยอดวังพันเทพ และมาถึงลานกว้าง
รถม้าเคลื่อนลงมาบนศูนย์กลางแห่งนี้ในขณะที่คน 8 คนที่มีอายุต่างกัน แต่เสื้อผ้าแบบเดียวกับ 4 คนที่เทีน่าฆ่าออกมาและแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มก่อนที่จะยืนด้วยความเคารพในแต่ละด้าน
ใบหน้าของผู้คนเปลี่ยนไป เมื่อเห็น 5 คนใน 8 คนเพราะพวกเขาเป็นคนตัวใหญ่ที่น่ากลัวและมีชื่อเสียงมานาน
หัวหน้าเมืองวังพันเทพ
เจ้าแห่งเมืองพระราชเมฆาสีรุ้ง
เจ้าแห่งเมืองพระราชวังพันทะเล
เจ้าแห่งเมืองโฟร์ซีซั่น
เจ้าแห่งเมืองมหาพายุ
ในขณะที่อีก 3 คนเป็นผู้อาวุโสของ Lotus Ridge Sect ในหมู่พวกเขา 2 คนมีอำนาจที่ระดับ Elemental Dominator แม้ว่าจะอยู่ในระดับกลาง
ผู้นำของกลุ่มเมืองที่เก่งที่สุด 5 อันดับแรกยืนอยู่ด้านข้าง ด้วยความเคารพพร้อมกับผู้อาวุโสของ Lotus Ridge Sect
เมื่อเห็นผู้คนที่น่ากลัวนี้ ผู้คนในศูนย์กลางนี้กำลังคุยกันในเรื่องนั้น
หลังจากนั้นชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอายุ 40 เศษผมยาวสีน้ำตาลและเสื้อผ้าที่มีลวดลายเดียวกัน แต่การออกแบบที่หรูหรากว่าในเสื้อคลุมของเขา ก็ปรากฏออกมาในขณะที่เขาเดินอย่างสง่าผ่าเผย
เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ฝูงชนและพูดในขณะที่เสียงทุ้มของเขาดังก้องไปทั่วทุกหนทุกแห่ง “ฉันชื่อไลนัส คอนเซอร์ หัวหน้าของ Lotus Ridge Sect พวกคุณทุกคนต้องตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 10 วันที่ผ่านมา กลุ่มที่เก่งที่สุดจากเมือง 5 อันดับแรกอยู่ข้างเราแล้ว และได้ส่งตัวแทนมายัง Lotus Ridge Sect ของฉัน และฉันได้ส่งคนของฉันไปปราบกลุ่มที่เหลือจากอันดับ 6 ถึง 10 แล้ว ”
ฝูงชนตกอยู่ในความเงียบสนิทเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ฉันจะให้โอกาสกลุ่มย่อยทั้งหมดของคุณ ในการส่งตัวแทนมาหาฉัน หากคุณปฏิเสธ ฉันจะเข้ายึดความมั่งคั่งของเมืองของคุณ หรือถ้าคุณสามารถเอาชนะฉันได้แบบตัวต่อตัว คุณก็สามารถอยู่อย่างอิสระได้”
หลังจากพูดจบเขาก็กวาดสายตามองไปยังฝูงชนอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครคัดค้านเขาก็พยักหน้าและอ้าปาก … แต่ก่อนที่เขาจะทำเช่นนั้น เขาก็ได้ยินเสียงที่แหบพร่าและฟังดูสบาย ๆ
“ฉันอยากจะให้เมืองที่เรียกตัวเองว่าหัวหน้าของ Lotus Ridge Sect แข็งแกร่งเพียงใดกันเชียวนะ”
ฝูงชนตกใจเมื่อได้ยินเสียงนั้นและแม้แต่คอนเซอร์ก็ยังประหลาดใจกับน้ำเสียงที่หยิ่งผยอง
จากนั้นเขาก็เห็นเป็นบุคคลหนึ่งที่มีชุดสูทสีดำพร้อมการออกแบบของเกล็ดมังกร เขาเหมือนมังกรและมีเขาโค้งสีดำที่ส่องแสงยื่นออกมาด้านนอก เขาคนนั้นสวมถุงมือและรองเท้าบู๊ตที่ดูเท่ …. และตอนนี้กำลังบินมาหาเขา
สายตาของเขาเริ่มเย็นชา เมื่อเขาพูด “คุณต้องการที่จะท้าทายฉันเหรอ?”
เอธานที่อยู่ในชุดมังกรพยักหน้าและพูดด้วยท่าทีที่ทำให้อีกฝ่ายโกรธ“ ใช่ คุณดูเหมือนโจ๊กเกอร์ ที่มีชุดที่มีสีสันสดใส และฉันไม่ชอบมัน เนื่องจากคุณพูดอย่างหยิ่งผยองโดยที่ไม่ได้มองใครเลยด้วยซ้ำ น่าประทับใจ ฉันรู้สึกเหมือนอยากจะเอาชนะคุณ ดังนั้นในตอนท้ายเมื่อคุณบอกว่าคุณยอมรับการท้าทาย ฉันก็อดไม่ได้ที่จะก้าวเข้าไป “
“ คุณ … ” ไลนัสตกตะลึงจนพูดไม่ออก เมื่อได้ยินคำหยาบที่เขาไม่เคยได้ยินมาในชีวิตเขาเลย ‘คุณหมายถึงอะไร ที่ฉันดูเหมือนโจ๊กเกอร์ ?? คุณดูเหมือนตัวตลกมากกว่าฉันซะอีก หึ ‘
จากนั้นเขาก็สงบสติอารมณ์ลงและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เนื่องจากคุณกระตือรือร้นที่จะตายตอนนี้ ดังนั้นมาเริ่มกันเลย” เมื่อพูดเช่นนี้เขาก็บินขึ้นไปในระดับเดียวกับเอธาน และโบกมือซ้ายไปข้างหน้า ขณะที่ใบมีดหลายอันถูกยิง ไปทางเอธานในขณะที่เขาเอามือขวาไพล่หลัง และขณะที่พลังงานเริ่มรวมตัวกัน
เอธานหลบใบมีดลม ไม่ใช่เพราะเขากลัวพวกมัน แต่เป็นเพราะถ้าหัวหน้าเมืองคนนั้นพบว่าใบมีดลมของเขาไม่ได้ทำให้เขามีรอยขีดข่วน ก็มีโอกาสที่เขาจะหนีไปโดยไม่ระมัดระวัง
หลังจากหลบใบมีดลมแล้ว เอธานก็พุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้แทนที่จะใช้คาถา
เมื่อเห็นสิ่งนี้หัวหน้าเมืองก็ถอยกลับไป ในขณะที่มือขวาของเขามีดอกบัวขนาดเล็ก ซึ่งประกอบด้วยธาตุไม้ความมืดและน้ำ กำลังก่อตัว สีของมันกลายเป็นสีเขียวเข้ม
หลังจากถอยไป 5 วินาที ทันใดนั้นเขาก็หยุดและรอให้เอธานเข้ามาหา เอธานมองไม่เห็นดอกบัว แต่เขารู้สึกได้ถึงพลังงานที่สามารถกัดกร่อนได้ และส่งความน่ากลัวออกมาจากหัวหน้าเมือง แต่เขาไม่กลัวเพราะเขาไม่รู้สึกถึงการคุกคามใด ๆ และ ยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่เขาอยู่ห่างจากคู่ต่อสู้เพียง 5 เมตร ทันใดนั้นเขาก็เห็นดอกบัวสีเขียวเข้มขยายตัวอย่างรวดเร็วและเข้ามาในทิศทางของเขา
เอธานไม่หลบ แต่ไม่สามารถชนกับมันได้ตรงๆ ดอกบัวก็ระเบิดเหมือนฟองสบู่และปล่อยของเหลวพิษสีเขียวเข้มไปทั่วชุดของเขา
เมื่อเห็นเช่นนี้ หัวหน้าเมืองก็เยาะเย้ย “คาถานี้เป็นเครื่องหมายของ Lotus Ridge Sect ของเรา มันมีพิษร้ายแรงและสึกกร่อน เว้นแต่คุณจะรวมพลังงานมืด ไม้ และน้ำในปริมาณที่ถูกต้องได้ ในขณะที่สร้างคาถา คุณคงจะไม่สามารถสร้างคุณสมบัติกัดกร่อนและพิษได้ทัน ของ — ”
คำพูดของเขาหยุดกะทันหัน เมื่อเขาเห็นชุดสูทสีดำของฝ่ายตรงข้ามส่องแสง
เอธาน เพิ่งค้นพบฟังก์ชั่นอื่นๆของชุดสูท มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองได้ โดยการใช้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขา มิฉะนั้นถ้ามันเป็นเพียงชุดสูทสีดำ มันจะได้รับการกัดกร่อนจากพลังงานของดอกบัว แต่เมื่อเอธานสวมมันและเพิ่มพลังให้กับมัน ร่างกายที่บริสุทธิ์อันทรงพลังของเขา ชุดนี้จึงสามารถต่อต้านพลังงานที่เป็นพิษและกัดกร่อนได้
ในขณะที่หัวหน้าเมืองกำลังตกใจ เอธาน ก็พุ่งตรงไปด้านหน้าของเขา และคว้าคอของเขาด้วยมือข้างหนึ่ง ในขณะที่ใช้อีกมือต่อยด้วยความกล้า
หัวหน้าเมืองไม่สามารถต้านทานพลังหมัดของเอธานได้ แม้ร่างกายที่ทรงพลังของเขาและเลือดก็ได้ไหลมาที่คอของเขา ในขณะที่เอธานจับคอของเขา
“ใช่ สำหรับคาถาที่ทรงพลังของ Lotus Ridge Sect, มันไม่ได้ทำให้ฉันเป็นรอยเลย” เอธาน พูดด้วยเสียงเดียวกันและมันแหบพร่าเล็กน้อย ขณะที่เขาเยาะเย้ยหัวหน้าเมืองของ Lotus Ridge
ผู้นำของเมือง 5 อันดับแรกและคนอื่นๆ ต่างก็ตกใจ แต่พวกเขาไม่กล้าออกมาข้างหน้า แม้แต่ผู้อาวุโสของเมือง Lotus Ridge Sect ซึ่งอยู่ในขั้น Elemental Dominator ก็ไม่ได้ออกมาข้างหน้าด้วยความกลัวต่อความปลอดภัยของผู้นำเมืองของพวกเขา
ดวงตาของ ไลนัส คอนเซอร์ เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เพราะเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาแพ้คนแบบนั้น
เขาขยับริมฝีปาก ขณะพูดด้วยความยากลำบาก “เรา…จะ…พูดไม่ได้”
เอธานไม่ได้นำมือออกจากคอของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีข้อสงสัย “ถ้าคุณต้องการมีชีวิตอยู่ คุณจะต้องกลายเป็นคนรับใช้ของฉัน พร้อมกับคนทั้งเมือง Lotus Ridge Sect ทั้งหมด”
ตอนที่ 45: มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย (เพิ่มเติม)
[หมายเหตุผู้แต่ง: พูดตามตรงสิ่งนี้ไม่สำคัญจริงๆเพราะ Energy Plane เป็นพลังงานระดับต่ำสุดและก้าวหน้าได้ง่ายมาก มันไม่ได้ถือว่าเป็นอะไรที่น่าตกใจสำหรับมาตรฐานสากล เนื่องจากผู้คนสามารถไปถึงจุดสูงสุดของ Elemental Dominator ได้เพียงแค่ การกินยา ]
จากนี้ไปฉันจะใช้ยูนิตแทนการดรอปของหยด ดังนั้นฉันจะใช้ หยด=ยูนิต จะใช้ยูนิตหลังจากนี้
เช่นเดียวกับที่มีมานาในนิยายบางเรื่อง … ตัวอย่างเช่นคน ๆ หนึ่งมีมานา 3300 และเขาใช้มานา 300 เพื่อใช้ไฟร์บอลหรือใช้มานา 1,000 มานาเพื่อใช้ลูกไฟ … ฯลฯ … เช่นนั้น แทนที่จะเป็นมานา ฉันจะใช้ [ยูนิต + พลังงานรูปแบบต่างๆแทน] เพื่อที่จะเข้าใจหลาย ๆ อย่างในปัจจุบันและอนาคตได้ง่าย
ตัวอย่าง: ปัจจุบันเอธานมีแก่นแท้ของพลังงานธาตุไฟ 23,450 หน่วย
ปัจจุบันไมค์มีพลังงานธาตุอวกาศที่ผ่านการกลั่นแล้ว 14,000 หน่วย
โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติม
Energy Plane
Elemental Guider -พลังงานก๊าซ
Elemental Apprentice – พลังงานก๊าซ
Elemental Journeyman – พลังงานก๊าซ
Elemental Master – พลังงานก๊าซ
Elemental Mage – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต
Elemental Archmage – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต
Elemental Overlord จากเดิมเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ – พลังงานเหลว, อาณาจักรลึกลับ, พลังลึกลับ
Elemental Archlord จากเดิมผู้พิพากษาธาตุ – พลังงานเหลว + พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ,พลังลึกลับ
ระดับที่ 1: 1,000 KG พลังงานน้อยกว่า 1,000 หน่วยของพลังงานสาระสำคัญ
ระดับที่ 2: กำลัง 5,000 KG, พลังงานแก่นแท้น้อยกว่า 1,000 หน่วย
ระดับที่ 3: กำลัง 25,000 KG, พลังงานแก่นแท้น้อยกว่า 1,000 หน่วย
Elemental Dominator จากเดิมผู้ครอบครองพลังงานแห่งธาตุ – พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ , พลังลึกลับ
ระดับ-1: กำลัง 25,001 KG , 1001 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ-2: กำลัง 30,000 KG , 5000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ 3: กำลัง 35,000 KG, 10,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ 4: กำลัง 45,000 KG, 20,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ-5: กำลัง 55,000 KG, 30,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ-6: กำลัง 65,000 KG , 40,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ 7: กำลัง 75,000 KG, 50,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ-8: กำลัง 85,000 KG, 60,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ-9: กำลัง 95,000 KG, 70,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ 10: กำลัง 100 ตัน, 80,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ -11: กำลัง 110 ตัน, 90,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ -12: กำลัง 150 ตัน (ขีดจำกัด ), 100,000 หน่วยของแก่นแท้ (ขีดจำกัด )
ขีดจำกัด 100,000 หน่วยต่อองค์ประกอบธาตุ หมายความว่า หากคุณมีธาตุน้ำ ไฟ และความสัมพันธ์ธาตุมืด คุณจะสามารถมีพลังงานน้ำ 100,000 หน่วยของแก่นแท้ และพลังงานธาตุไฟ 100,000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้ รวมถึงพลังงานแห่งความมืด 100,000 หน่วยของแก่นแท้ ที่คนที่อยู่ในขั้น DOMINATOR ระดับ-12 ทำได้
ตอนที่ 45: มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย (เพิ่มเติม)
[หมายเหตุผู้แต่ง: พูดตามตรงสิ่งนี้ไม่สำคัญจริงๆเพราะ Energy Plane เป็นพลังงานระดับต่ำสุดและก้าวหน้าได้ง่ายมาก มันไม่ได้ถือว่าเป็นอะไรที่น่าตกใจสำหรับมาตรฐานสากล เนื่องจากผู้คนสามารถไปถึงจุดสูงสุดของ Elemental Dominator ได้เพียงแค่ การกินยา ]
จากนี้ไปฉันจะใช้ยูนิตแทนการดรอปของหยด ดังนั้นฉันจะใช้ หยด=ยูนิต จะใช้ยูนิตหลังจากนี้
เช่นเดียวกับที่มีมานาในนิยายบางเรื่อง … ตัวอย่างเช่นคน ๆ หนึ่งมีมานา 3300 และเขาใช้มานา 300 เพื่อใช้ไฟร์บอลหรือใช้มานา 1,000 มานาเพื่อใช้ลูกไฟ … ฯลฯ … เช่นนั้น แทนที่จะเป็นมานา ฉันจะใช้ [ยูนิต + พลังงานรูปแบบต่างๆแทน] เพื่อที่จะเข้าใจหลาย ๆ อย่างในปัจจุบันและอนาคตได้ง่าย
ตัวอย่าง: ปัจจุบันเอธานมีแก่นแท้ของพลังงานธาตุไฟ 23,450 หน่วย
ปัจจุบันไมค์มีพลังงานธาตุอวกาศที่ผ่านการกลั่นแล้ว 14,000 หน่วย
โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติม
Energy Plane
Elemental Guider -พลังงานก๊าซ
Elemental Apprentice – พลังงานก๊าซ
Elemental Journeyman – พลังงานก๊าซ
Elemental Master – พลังงานก๊าซ
Elemental Mage – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต
Elemental Archmage – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต
Elemental Overlord จากเดิมเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ – พลังงานเหลว, อาณาจักรลึกลับ, พลังลึกลับ
Elemental Archlord จากเดิมผู้พิพากษาธาตุ – พลังงานเหลว + พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ,พลังลึกลับ
ระดับที่ 1: 1,000 KG พลังงานน้อยกว่า 1,000 หน่วยของพลังงานสาระสำคัญ
ระดับที่ 2: กำลัง 5,000 KG, พลังงานแก่นแท้น้อยกว่า 1,000 หน่วย
ระดับที่ 3: กำลัง 25,000 KG, พลังงานแก่นแท้น้อยกว่า 1,000 หน่วย
Elemental Dominator จากเดิมผู้ครอบครองพลังงานแห่งธาตุ – พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ , พลังลึกลับ
ระดับ-1: กำลัง 25,001 KG , 1001 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ-2: กำลัง 30,000 KG , 5000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ 3: กำลัง 35,000 KG, 10,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ 4: กำลัง 45,000 KG, 20,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ-5: กำลัง 55,000 KG, 30,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ-6: กำลัง 65,000 KG , 40,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ 7: กำลัง 75,000 KG, 50,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ-8: กำลัง 85,000 KG, 60,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ-9: กำลัง 95,000 KG, 70,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ 10: กำลัง 100 ตัน, 80,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ -11: กำลัง 110 ตัน, 90,000 หน่วยของแก่นแท้
ระดับ -12: กำลัง 150 ตัน (ขีดจำกัด ), 100,000 หน่วยของแก่นแท้ (ขีดจำกัด )
ขีดจำกัด 100,000 หน่วยต่อองค์ประกอบธาตุ หมายความว่า หากคุณมีธาตุน้ำ ไฟ และความสัมพันธ์ธาตุมืด คุณจะสามารถมีพลังงานน้ำ 100,000 หน่วยของแก่นแท้ และพลังงานธาตุไฟ 100,000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้ รวมถึงพลังงานแห่งความมืด 100,000 หน่วยของแก่นแท้ ที่คนที่อยู่ในขั้น DOMINATOR ระดับ-12 ทำได้
ตอนที่ 44: ความตั้งใจหลัก และความโปรดปรานของเอธาน
หลังจากต่อสู้กันมาทั้งคืน พวกเขาทั้งคู่ก็ได้นอนตอนเช้าและตื่นขึ้นมาในตอนบ่ายเทียน่า กำลังนอนเปลือยอยู่บนหน้าอกของเอธาน ขณะที่เธอพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันต้องการแสดงอะไรบางอย่างให้นายเห็น แต่เรามาอาบน้ำก่อนเถอะ”
มือของเอธานที่ลูบไล้หน้าอกของเธอหยุดลง จากนั้นเขาก็โบกมือข้างหนึ่งและทั้งคู่ก็เริ่มลอยตัว ก่อนที่เตียงที่พวกเขานอนจะถูกโยนไปทางด้านข้าง และด้วยคลื่นอีกอัน อ่างอาบน้ำไม้ก็เริ่มก่อตัวขึ้นภายใต้พวกเขา หลังจากสร้างเสร็จแล้วน้ำร้อนก็เริ่มไหลลงมาในอ่างอาบน้ำ ขณะที่เอธานทิ้งตัวเองและเทียน่าลงไป
“เธอต้องการให้ฉันเห็นอะไร” เอธานพูดด้วยรอยยิ้มขณะวางเทียน่าบนตักของเขา
“ฉันให้นายเห็นที่นี่ไม่ได้…” เธอหยุดพูดก่อน ขณะที่หน้าแดงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “แต่ก่อนหน้านั้น ฉันอยากลองเอามันเข้าปาก นายชิมของฉันแล้ว แต่ฉันยังไม่ได้ลองของนายเลย”
เอธานรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินเช่นนั้น และพูดพร้อมกับหัวเราะว่า “จริงๆแล้วฉันอยากจะขอให้เธอทำแบบนั้นนั่นแหละ”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนหลังจากที่เทียน่า ลุกจากตักของเขาและตอนนี้มันก็เปิดเผยให้เห็นมังกรตัวใหญ่ของเขาที่หันไปทางใบหน้าของเทียน่า
เมื่อเห็นมังกรที่พาเธอไปสวรรค์ชั้น 9 เมื่อคืนต่อหน้าเธอ เทียน่าก็อ้าปากอมมันเข้าไป ในขณะที่เธอเริ่มดูดมัน …
…
…
ผ่านไป 1 ชั่วโมง ทั้งเอธานและเทียน่าก็ได้เสร็จสิ้นการอาบน้ำที่ ดีเยี่ยม
เมื่อพวกเขาออกจากบ้านหลังจากเตรียมตัวให้พร้อมแล้ว เทียน่าก็จับมือของเอธาน ขณะที่เธอลอยออกไป
“ฉันจะแสดงให้นายเห็นถึงพลังที่ฉันได้รับเพราะนายเลย”
เอธานยิ้มในขณะที่เขาปล่อยให้เธอดึงพลังงานสำรองของเขาไป พลังจิตของเทียน่า ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากเอธานช่วยล้างสิ่งเจือปนสีเทาทั้งหมดในนั้นให้เธอแล้ว เธอจึงลอยได้อย่างง่ายดาย
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงพื้นที่ที่แห้งแล้ง เอธานไม่เคยมาที่นี่ก่อนหน้านี้ แต่เขารู้ว่ามีดินแดนที่แห้งแล้งอยู่ด้านหลังพื้นที่ที่ไกลที่สุดของหุบเขาอยู่ ซึ่งอยู่ด้านหลังพื้นที่อันตาย
เทียน่าหยุด ขณะที่เธอมองไปที่เอธาน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าวันนั้น ฉันไม่มาหานายเพื่อแสดงความรู้สึกและความมุ่งมั่นของฉัน ตอนนี้ฉันก็คงจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับการได้รับพลังนี้ , เธอมองไปที่ดินแดนที่แห้งแล้งและชี้นิ้ว ขณะที่เธอเรียกพลังของเธอ แต่คราวนี้เธอควบคุมมันได้
“ สายฟ้าฟาด”
หลังจากนั้นสายฟ้าที่น่ากลัวที่เต็มไปด้วยธาตุสายฟ้าทำลายล้างที่มีสีแดงและเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อพลังงานต่างๆในตัวเธอเริ่มหมดลง
พลังงานสายฟ้าขนาด 20 เส้นผ่านศูนย์กลางที่มีสายฟ้าสีแดงอยู่ข้างในถูกทำให้เห็นต่อหน้าเอธาน ในขณะที่เขาตกตะลึง
เพราะเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงอันตราย สิ่งนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขา มีพลังที่จะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของเขาและนั่น … ทำให้เขาตื่นเต้นเล็กน้อย
เขาต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาจริงๆ เขาสามารถทำได้โดยการต่อสู้กับอาจารย์ของนิกายที่เขาเคยเจอก่อนหน้านี้ แต่นั่นอาจจะเป็นเรื่องโง่เขลาสำหรับเขา เพราะเขาไม่แน่ใจว่าร่างกายของเขามีพลังมากเพียงใด จะเป็นอย่างไรถ้าหัวหน้านิกายนั้นมีความสามารถและวิธีการที่จะฆ่าเขา? เขาจะไม่ตายเพราะเหตุผลโง่ ๆ อีกแล้วเหรอ? แต่ตอนนี้เขาสามารถตรวจสอบขีดจำกัดของร่างกายของเขาได้แล้ว
เอธานหันไปหาเทียน่าและถามว่า “เทียน่า เธอสามารถควบคุมไฟ และสายฟ้าได้ใช่มั้ย?”
“ฉันควบคุมมันได้ แต่มันจะอยู่แบบนี้แค่ 1 นาที หลังจากนั้นฉันจะรักษามันไว้ไม่ได้”
เอธานพยักหน้าและพูดว่า “ดี ฉันจะตรวจสอบความแข็งแกร่งของร่างกาย ถ้าทนไม่ไหว ฉันจะส่งสัญญาณให้เธอสลายมันไปไม่งั้นฉันจะออกมาเอง”
จากนั้นเขาก็พุ่งตรงไปยังเมฆเพลิงและสายฟ้าที่ปล่อยพลังทำลายล้าง
ทันทีที่เขาเข้าไป เอธาน รู้สึกได้ถึงความร้อนและกระแสไฟฟ้าเป็นครั้งแรก หลังจากร่างกายของเขาได้รับการขัดเกลาด้วยพลังงานไฟ และ สายฟ้า ที่แปลกประหลาดจากวังวนสีดำ
หลังจากอยู่ได้ 5 วินาที ผิวของเขาก็เริ่มไหม้และฉีกขาด เมื่อมีเลือดไหลออกมา เขายังตระหนักว่าพลังงานลึกลับของเขากำลังถูกกลืนกินไปอย่างช้าๆ
แม้ว่าร่างกายของเขาจะได้รับการรักษาในเวลาเดียวกัน แต่อัตราการรักษาก็ช้ากว่าอัตราความเสียหาย ดังนั้นเขาจึงยังคงได้รับบาดเจ็บมากกว่าเมื่อเวลาผ่านไป
จากนั้นเขาก็บินออกมาจากไฟ และ สายฟ้าโดยตรง หลังจากนั้นในขณะที่เขาทดสอบร่างกายของเขาและความสามารถที่น่ากลัวของเทียน่า
เมื่อเห็นเอธานออกมาเทียน่า ก็หยุดความสามารถของเธอ ใบหน้าของเธอซีดลง เนื่องจากเธอใช้พลังงานจิตไปจำนวนมาก
จากนั้นเอธานก็เริ่มรักษาร่างกายของเขาโดยใช้คุณสมบัติการรักษาของพลังงานจากไม้และน้ำ ในขณะที่รู้สึกตกใจและมีความสุขที่เทียน่าได้รับวิธีการต่อสู้และพลังอันทรงพลังดังกล่าวแล้ว
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าดอกไม้ได้ให้พลังนี้กับเธอ เธอรู้รายละเอียดเกี่ยวกับมันไหม?”
เทียน่าพยักหน้าอย่างมีความสุขและพูด “ที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้ใช้พลังนี้อย่างถูกต้องนัก ตามข้อมูลที่ฉันได้รับ เมื่อดอกไม้กลายเป็นประกายไฟและเข้ามาภายในตัวฉัน สิ่งที่ฉันได้รับคือความสัมพันธ์ของไฟและสายฟ้า โดยใช้ความตั้งใจที่แน่วแน่ ฉันจึงสามารถฝึกฝนทะเลธาตุที่ผสมผสานระหว่าง สายฟ้า และ ไฟ ซึ่งมันเป็นคุณสมบัติเฉพาะของคาถาภูเขาไฟสายฟ้า” หลังจากนั้นเธอก็หลับตาลง2-3วินาทีก่อนที่จะเปิดอีกครั้ง
ภูเขาไฟสายฟ้ามีคุณสมบัติของการเผาไหม้และทำให้การไหลของพลังงานของคู่ต่อสู้มึนงง นอกจากนี้ยังเผาผลาญพลังงานจิตและพลังงานลึกลับของคู่ต่อสู้ หลังจากที่ฉันสามารถปลูกฝังทะเลพลังงานแห่งภูเขาไฟสายฟ้า ฉันสามารถใช้คาถาที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานนี้และ จากข้อมูลฉันยังได้รับคาถาบางอย่างด้วย “
กรามของเอธานแทบจะหล่นลงไปที่พื้น เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ในขณะที่เขาพูดด้วยความตกใจ “โอ้โห! นี่เธอกำลังจะทำลายบรรยากาศนั่นด้วยสิ่งนั้น”
“ฮ่าฮ่าฮ่า..” จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ หลังจากนั้น ขณะที่เขาตระหนักว่าเทียน่า จะทรงพลังเพียงใด หลังจากฝึกฝนทะเลธาตุโดยใช้ความตั้งใจของคาถาภูเขาไฟสายฟ้า
เทียน่ายิ้ม แต่เธอรู้ดีว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีเอธาน
…
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลับไปที่หุบเขา เพราะเอธานต้องการคุยกับไมค์และหัวหน้าหุบเขา
ในพระราชวังหลัก ไมค์นั่งทำสมาธิอยู่ ในขณะที่เขากำลังดูดซับพลังงานจากหินอวกาศคุณภาพสูงในมือของเขา ในขณะที่หัวหน้าหุบเขากำลังคุยกับ ลาฟิว ที่เพิ่งกลับมาที่หุบเขาแห่งนี้ และมารายงานตัวก่อนที่เขาจะไปคุ้มกันเขตอันตราย
ราวกับสัมผัสได้ถึงบางสิ่งทั้งหัวหน้าหุบเขา และ ลาฟิว มองไปที่ระเบียง ขณะที่ เอธาน และ เทียน่า กำลังลอยลงมาที่นั่น
ลาฟิวตกใจ เมื่อเห็นพวกเขา เพราะเขาไม่รู้เกี่ยวกับการกระทำของเอธานเมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาหันหน้าไปทาง หัวหน้าหุบเขา และตกใจอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าแทนที่จะโกรธเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
‘เกิดอะไรขึ้น ในขณะที่ฉันไม่อยู่? ‘
“เทียน่ากับเอธาน อะไรพาคุณมาที่นี่?” อาจารย์หุบเขาพูดอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็นพวกเขามา
ไมค์ก็ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น
“สวัสดี … ” เอธานแลกเปลี่ยนคำทักทายกับไมค์และเห็นลาฟิวในห้องโถง
เขาคิดถึงเรื่องของเขตอันตรายและตัดสินใจบอกหัวหน้าหุบเขา ว่า “จริงๆแล้ว ฉันอยากไปในเขตอันตรายเพื่อฝึก ฉันหวังว่าคุณจะปล่อยให้ฉันและเทียน่าได้ฝึกอยู่ที่นั่นสักหน่อย” เขาก็โค้งคำนับ เล็กน้อยไปทางหัวหน้าหุบเขา
หัวหน้าหุบเขาสะดุ้งเมื่อเห็นเอธานโค้งคำนับ ขณะที่เขารู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของเอธานแล้ว ในขณะที่เขาโบกมืออย่างไม่เป็นทางการและพูดอย่างเอื้อเฟื้อ “ฮ่าฮ่า แน่นอนไม่มีปัญหา พวกคุณทั้งสองเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของหุบเขาแห่งนี้แล้ว ถ้าคุณสองคนไม่ได้ฝึกที่นั่นแล้วใครจะฝึกล่ะ?”
หลังจากพูดแล้วเขาก็หันไปหาลาฟิวและพูดว่า “ลาฟิว ไปและนำพวกเขาทั้งสองไปยังเขตอันตราย นำพวกเขาไปยังแกนกลางที่มีความเข้มข้นของธาตุไฟและสายฟ้าสูงที่สุด”
ลาฟิว ตะลึงเมื่อได้ยินการแลกเปลี่ยนระหว่างพวกเขา และพยักหน้าอย่างว่างเปล่า เมื่อเขาได้ยินคำสั่งของหัวหน้าหุบเขา
ไมค์ก็สับสนเล็กน้อยเพราะเขารู้ว่าเอธานแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งกว่าอาจารย์ของเขา แต่เทียน่าแข็งแกร่งเช่นกันงั้นหรือ ถึงได้ทำให้อาจารย์ของเขาจะพูดคำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
ไมค์ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่เขาอยู่ในห้องของเขาในวัง เพราะเขาดูดซับพลังงานจากหินอวกาศคุณภาพสูง 2-3ก้อนที่เขาได้รับอีกครั้งจากเอธานระหว่างทางไปยังหุบเขาแห่งไฟสายฟ้าจากป่าต้นกำเนิด
แต่เขาไม่ได้ถามรายละเอียดในทันทีเมื่อลาฟิวได้พา เอธาน และ เทียน่า ไปสู่ใจกลางเขตอันตรายแล้ว
…
…
หลังจากผ่านไป 15 นาที เอธาน & เทียน่า ถูกนำไปยังแกนกลางของโซนอันตรายโดย ลาฟิว
เอธาน คิดว่า ลาฟิว จะถามอะไรบางอย่างระหว่างทาง แต่เขาไม่ได้พูดอะไรเลยและนำทางไปอย่างเงียบ ๆ นี่ไม่เหมือนกับลาฟิวเลย
โดยทั่วไปเขาจะเริ่มต้นด้วยการเรียกเขาว่า “ไอ้เปี๊ยก” และถามเกี่ยวกับรายละเอียดอย่างกระตือรือร้น
แม้ว่าเอธานจะสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเลย เมื่อเห็นการแสดงออกของลาฟิว
‘บางทีเขาอาจจะโกรธเพราะเขากลัวว่าเขาจะไม่ได้รับความโปรดปรานจากฉันแล้วหรือเปล่า? ตอนที่หัวหน้าหุบเขายอมทำหลายๆอย่างให้ฉัน เขาอาจจะคิดว่าฉันโปรดปรานหัวหน้าหุบเขาแทนแล้วงั้นหรือ ?’
เอธานส่ายหัวและตัดสินใจว่า ‘เขาดูแลเรามาก่อน และเขาจะยอมเสี่ยงเพื่อฉันมาตลอด เพราะเป็นเช่นนั้นฉันจะช่วยเขาบ้าง ‘
จากนั้นเขาก็มองไปข้างหน้าขณะที่ลาฟิวหันหลังไปแล้วและกำลังจะหันกลับมา
“ลาฟิวความโปรดปรานของฉัน ยังคงมีอยู่ คุณสามารถขอความช่วยเหลือจากฉันได้ทุกเมื่อ” เขาตะโกนใส่
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเอธาน ลาฟิวก็หยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะกลับมาอีกครั้งเมื่อเสียงของเขาดังก้อง “เอาล่ะ เด็กน้อย รีบทำงานของนายให้เสร็จที่นี่ เพราะฉันจะต้องการความช่วยเหลือจากนายเร็ว ๆ นี้”
เอธานยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น
หลังจากนั้นเขาหยิบหินสายฟ้าระดับพีคออกมาจำนวนหนึ่งและป้อนพลังงานเวทย์มนตร์ให้กับวังวนสีดำเพื่อเพิ่มผลของมัน ในขณะที่เทียน่าเข้าสู่สภาวะเข้าฌานเพื่อเพิ่มอัตราการดูดซึมของพายุทอร์นาโดทั้งสองของเธอ
เอธานยังต้องการล้างสิ่งสกปรกสีดำ แต่พลังเวทย์มนตร์ของเขาตอนนี้ก็ได้ช่วยเพิ่มพลังให้กับวังวนสีดำของเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะสร้างทะเลธาตุสายฟ้าก่อนที่จะดำเนินการล้างสิ่งสกปรกสีดำ
อย่างไรก็ตาม เทียน่า จะปกป้องเขา ในขณะที่เขาเป็นลม ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะป้อนพลังงานเวทย์มนตร์ทั้งหมดของเขาไปที่วังวนสีดำ เพื่อให้มันทำงานได้อย่างรวดเร็ว
ตอนที่ 43: ภูเขาไฟสายฟ้าของดอกไม้เบลซอล
ปัจจุบันหัวหหน้าหุบเขา และ เทียน่า อยู่ในสถานที่ใต้ดินที่มีพลังงานไฟและสายฟ้ามากมาย
สถานที่แห่งนี้มีเสาหินธรรมชาติที่เชื่อมต่อกับเพดาน เนื่องจากเขตอันตรายนี้อยู่ใต้พื้นดินจริงๆ
หลังจากเดินไปสักพักในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสถานที่ ซึ่งดอกไม้อาถรรพ์มีกลีบดอก ประกอบด้วยสีแดงและสีน้ำเงินเข้ม
รัศมี 10 เมตรรอบ ๆ ดอกไม้ลึกลับมีสิ่งกีดขวางจาง ๆ
“นี่คือ …. ดอกไม้ -” ก่อนที่หัวหน้าหุบเขาจะพูดอะไรมากกว่านี้ เขาก็เห็นเทียน่าเดินไปหาดอกไม้พร้อมกับก้าวอย่างเด็ดเดี่ยว
เมื่อเทียน่าใกล้ดอกไม้กลีบดอกหนึ่งในสองกลีบก็พุ่งเข้าหาเธอก่อนจะเข้าปาก
กลีบดอกไม้ละลายโดยตรงเมื่อเข้าไปข้างในและพลังงานจากมันจะระเบิดออกมาภายในร่างกายของเธอในขณะที่เธอเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างมากและล้มลง
หัวหน้าหุบเขาก็ออกจากที่นั่นทันที โดยเมื่อเขาเห็นกลีบดอกเข้าปากเทียน่าเขาจึงคิดว่า ‘ฉันต้องบอก เอธานเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้ว่าเทียน่าจะบอกตัวเองว่าไม่ต้องบอกเขาก็ตาม ‘
กระบวนการที่เกิดขึ้นกับเธอคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเอธาน เมื่อพลังงานประหลาดจากวังวนสีดำกลั่นร่างกายของเขา
ร่างกายของเธอถูกขัดเกลาด้วยไฟประหลาดและพลังงานสายฟ้าที่มีอยู่ภายในกลีบดอกไม้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่เกิดขึ้นพลังงานยังทำลายอาณาจักรพลังงานของเธอโดยตรง
เมื่อรู้สึกว่าอาณาจักรพลังงานของเธอถูกทำลาย เทียน่าต้องเผชิญกับความสิ้นหวังจากความเจ็บปวดอันยิ่งใหญ่ที่เธอรู้สึก
หลังจากที่พลังงานขัดเกลาร่างกายของเธอ พวกมันก็เคลื่อนไปรอบๆ ในร่างกายของเธอ
เทียน่าเข้าใจว่าเธอต้องมีพลังงานเหล่านี้ไม่เช่นนั้นเธอก็จะตายเหมือนกับที่ผู้หญิงคนก่อน ๆ ที่กินกลีบดอกไม้และตาย
‘แต่ยังไง ฉันจะสร้างอาณาจักรพลังงานอื่นได้อย่างไร ‘
ในขณะที่เธอสิ้นหวังกับเรื่องนี้ จู่ๆเธอก็รู้สึกถึงความรู้สึกอบอุ่นทั่วร่างกาย ซึ่งทำให้เธอนึกถึงเอธาน
แสงสีขาวที่รุนแรงปรากฏขึ้นที่ขอบเขตพลังงานของเธอ และทำลายความเจ็บปวด การเรืองแสงนี้จะคงอยู่เป็นเวลา 1 นาทีก่อนที่มันจะลดลง
เมื่อแสงลดลง พลังงานไฟและสายฟ้าที่ไม่ได้หายไปตาม และอาณาจักรพลังงานใหม่ก็ปรากฏขึ้น
มันใหญ่กว่าอาณาจักรพลังงานก่อนหน้าของเธอ ทั้งสองคนแปลกประหลาดที่หายไปจากร่างกายของเธอมาถึงขอบเขตพลังงานใหม่ของเธอ
แต่พลังงานทั้งสองนี้ไม่ได้อยู่ภายในเหมือนพลังงานปกติ เมื่อพวกมันก่อตัวเป็นพายุทอร์นาโดสองลูกหนึ่งสีแดงและหนึ่งสีน้ำเงินเข้ม ก่อนที่พวกมันจะเริ่มดูดพลังงานจากชั้นบรรยากาศ
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที …
จากปลายด้านล่างของพายุทอร์นาโดหยดประกายสีแดงและสีน้ำเงินเข้มเริ่มตกลงมา
ดอกไม้ข้างนอกดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง เนื่องจากกลีบดอกสุดท้ายของมันก็พุ่งเข้าหาเทียน่าก่อนที่จะเข้าปาก
กลีบดอกสลายออกเป็น 2 พลังงานอีกครั้ง แต่แทนที่จะปรับแต่งร่างกายของเธอ พลังกลับเข้ามาในอาณาจักรพลังงานของเธอโดยตรงและเข้าไปในพายุทอร์นาโดตามลำดับเมื่อพลังงานไฟและสายฟ้าเหลวจำนวนมากเริ่มก่อตัวขึ้นด้านล่าง
เทียน่ารู้สึกประหลาดใจเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จากนั้นเธอก็มองไปที่ดอกไม้ลึกลับที่มี สิ่งลึกลับอีกอย่างมันเริ่มเกิดขึ้น เมื่อเธอมองดูดอกไม้ที่ละลายเป็นสีแดงและสีน้ำเงินเป็นประกายก่อน…จะกระแทกเข้าที่หัวของเธอ
ประกายไฟเข้ามาในอาณาจักรพลังจิตของเธออย่างชัดเจนยิ่งขึ้นและส่งความคิดที่ท่วมท้นว่าเธอเป็นอย่างไร
[สายฟ้าแห่งดอกไม้ เบลซอล]
เทียน่ารู้สึกว่าเธอได้รับบางสิ่ง … บางอย่างที่ทรงพลัง แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เธอนึกถึงคำพูด [ ภูเขาไฟสายฟ้าของดอกไม้เบลซอล ] และทันใดนั้นข้อมูลบางอย่างก็เข้ามาในใจของเธอ
“เจตนางั้นเหรอ ความคิดนั้นคือเจตนาที่เรียกว่าภูเขาไฟสายฟ้า ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากดอกไม้เบลซอล” ความสับสนอย่างมากของ เทียน่า ถูกทำให้กระจ่าง
จากนั้นเธอก็มองไปที่สถานที่แบบสุ่ม เพื่อลองใช้พลังที่เธอเพิ่งได้รับ “ภูเขาไฟสายฟ้า … ” ทันใดนั้นไฟและพลังงานสายฟ้าทั้งหมดของชั้นบรรยากาศก็รวมตัวกันที่สถานที่นั้น แม้แต่สายฟ้าและพลังงานที่เป็นของเหลวของเธอก็ลดลงเล็กน้อย พร้อมกับพลังจิตจำนวนเล็กน้อยที่เธอมี
เธอรู้สึกวิงเวียนศีรษะและปวดศีรษะเพราะใช้พลังงานจิตมากเกินไปเธอจึงเป็นลม
แม้ว่าเธอจะเป็นลม แต่พลังที่เธอเปิดใช้ก็ใช้ได้ผล
พื้นที่เล็ก ๆ ของนรกที่น่ากลัว ซึ่งมีสายฟ้าปะปนอยู่ภายในที่โหมกระหน่ำในสถานที่ที่เทียน่าเปิดใช้งานพลังของเธอ
มันกินเวลาเพียงไม่กี่วินาที ก่อนที่มันจะสลายไปเพราะเทียน่าเป็นลม แต่แม้ว่าเธอจะเป็นลม แต่พายุทอร์นาโดทั้ง 2 ในอาณาจักรพลังงานของเธอก็ยังคงดึงดูดไฟและพลังงานฟ้าร้องจากรอบข้างก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นพลังงานเหลว
…
เอธานเพิ่งอาบน้ำเสร็จและสวมเสื้อผ้าขณะที่เขาเตรียมถามหัวหน้าหุบเขาเกี่ยวกับที่อยู่ของเทียน่า
แต่ทันทีที่เขาออกมาจากบ้านและเตรียมพร้อมที่จะบินไปยังพระราชวังหลักเขาก็เห็นใครบางคนบินมาหาเขา
หัวหน้าหุบเขาเห็นเอธานออกมา ในขณะที่เขาเพิ่มความเร็วและมาถึงเอธาน ก่อนที่จะพูดอย่างเร่งด่วน “เอธาน เทียน่ากำลังตกอยู่ในอันตราย !!”
ใบหน้าของ เอธานเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินที่เขาบอก ขณะที่กำลังระงับความปั่นป่วน “เกิดอะไรขึ้นเธออยู่ไหนบอกฉันเร็ว!”
เขาเพิ่งประสบกับสิ่งเลวร้ายในความฝันหรืออะไรก็ตามและไม่คาดคิดว่าจะได้ยินข่าวร้ายเกี่ยวกับเทียน่าหลังจากนั้น
“ตามฉันมา”
หัวหน้าหุบเขาไม่อ้อมค้อมและพาเอธานตรงไปยังสถานที่ที่ดอกไม้ลึกลับอาศัยอยู่ในเขตอันตราย
หลังจากผ่านไป 10 นาที พวกเขาก็มาถึงเขตอันตราย ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าไปข้างในและใช้เวลาไม่นานนักในการมาถึงสถานที่ใต้ดินที่เทียน่าเป็นลม
ทันทีที่เอธานเห็นเทียน่า เขาก็รีบวิ่งไปข้างหน้าและมาอยู่ข้างๆเธอก่อนจะตรวจชีพจรของเขาโดยตรงและตรวจสอบร่างกายของเธอด้วยพลังลึกลับ เพื่อประเมินสถานการณ์ของเธอ
หลังจากตรวจสอบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ เอธานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะหันไปหา หัวหน้าหุบเขา และถามพร้อมกับขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นที่นี่ เธอมาทำอะไรที่นี่?”
“นั่น … ” หัวหน้าหุบเขากำลังจะพูด แต่จากนั้นเขาก็จำจดหมายได้และส่งให้เอธาน
เอธาน จับจดหมายและเปิดมัน ในขณะที่เขาเริ่มอ่านเขาใช้เวลาไม่นานในการอ่านจดหมาย ก่อนที่เขาจะกอดจดหมายไว้ในกำปั้น เขามองไปที่เทียน่า ขณะที่เขาพึมพำ“ คนโง่เอ้ย .. ” หลังจากนั้นเขาก็ไปรับเธอ ก่อนที่จะบินกลับขึ้นสู่ผิวน้ำ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มาถึงบ้านของเขาก่อนที่จะเข้าไปในห้องของเทียน่า
หลังจากวางเธอลงบนเตียงแล้ว เขาก็ส่งพลังเวทย์มนต์ของเขาเข้าไปในอาณาจักรพลังจิตของเธอและเริ่มล้างสิ่งสกปรกสีเทา
ด้วยจำนวนพลังลึกลับ ในปัจจุบันของเขา มันเป็นเรื่องง่ายที่จะล้างสิ่งสกปรกสีเทาทั้งหมดในอาณาจักรพลังจิตของเทียน่า โดยทุกสิ่งที่มีการเจือปนสีเทา เขาก็ได้ทำการล้างออกจากเทียน่าและให้เธอได้รับพลังจิตเพิ่มไป
หลังจากผ่านไป 5 นาที เขาได้ล้างสิ่งสกปรกสีเทาทั้งหมดในตัวเธอเสร็จแล้ว และพลังจิตจำนวนมหาศาลก็เกิดขึ้นภายในอาณาจักรพลังจิตของเธอ
เทียน่าค่อยๆลืมตาขึ้นและสิ่งแรกที่เธอเห็นคือใบหน้าของ เอธาน
กล้ามเนื้อใบหน้าของเอธาน ผ่อนคลาย เมื่อเขาเห็นเทียน่าลืมตาและพูดด้วยความเสน่หา “เทียน่า … ไม่สำคัญว่าเธอจะอ่อนแอหรือแข็งแกร่ง เธอก็ทำให้ฉันประทับใจในคำพูดของเธอในตอนแรก จากนั้นด้วยการกระทำของเธอ แม้ว่า เธอจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอที่สุดที่นั่น แต่ฉันจะยังคงกอดเธอไว้ ที่รักจากนี้ไปฉันจะปกป้องเธอเอง เพราะตอนนี้เธอเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของฉันและความรับผิดชอบของฉัน “
ดวงตาของเทียน่าเริ่มหยดน้ำตาแห่งความสุข ขณะที่เธอยื่นมือทั้งสองข้างและกอดเอธานไว้แน่น “แต่ฉันไม่ได้ต้องการเพียงแค่ได้รับการปกป้องจากนาย ฉันต้องการต่อสู้เคียงข้างนายและใช้ชีวิตของฉันเคียงข้างนาย ฉันรู้สึกถึงการได้รับการปกป้อง เมื่อฉันอยู่กับนาย และฉันก็ชอบมัน แต่ยังมีอีกความรู้สึกหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวฉัน และนั่นคือการอยู่เคียงข้างนาย…ฉันไม่ต้องการยืนข้างหลังนายหรอก แต่ฉันต้องการยืนอยู่ข้างๆนาย “
เธอผละออกจากอ้อมกอดและมองไปที่เอธานด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ที่สุด“ และตอนนี้ฉันสามารถยืนอยู่ข้างๆนายได้แล้ว”
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงขยับปากไปข้างหน้า เมื่อริมฝีปากของเธอสัมผัสกับเอธาน ขณะที่ทั้งสองพัวพันกัน
จากนั้น <เกราะป้องกันแห่งความมืด> ก็เข้ามาล้อมบ้าน ขณะที่เอธานและเทียน่า เริ่มการต่อสู้แบบก่อนหน้านี้อีกรอบ……
ตอนที่ 42: อาณาจักรของพลังลึกลับ และ ความมุ่งมั่นของเทียน่า
* หายใจหนัก *
“อ๊าาาาาา …. ” เทียน่าครางในขณะที่เธออยู่ด้านบนของเอธาน หน้าอกที่กระตุกของเธอเป็นภาพที่น่าจับตามองสำหรับเอธาน
เอธาน จับเอวของเธอ ในขณะที่เขาขยับเธอขึ้นและลง และในขณะที่ประสานกับการเคลื่อนไหว สะโพกของเขาแรงผลักดันทุกครั้งของเขาที่ส่งเทียน่าไปสู่สรวงสวรรค์
หลังจากนั้นไม่นาน เอธานก็ลุกขึ้นและผลักเทียน่าลง ในขณะที่พวกเขาแลกเปลี่ยนตำแหน่งกับเอธาน ที่อยู่ด้านบนในครั้งนี้
เขาจับหน้าอกของเธอและจูบเธอ ในขณะที่ขยับสะโพกของเขาอย่างรุนแรงพลางส่งความสุขให้กับเทียน่า
เทียน่าอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ไม่นานโดยที่เอธานก็กำลังส่งความสุขให้เธอจากหลาย ๆ ที่ ในขณะที่เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างออกมาอีกครั้ง เอธาน รู้สึกได้ถึงความคับแน่นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เขารู้สึกปลาบปลื้มใจ ขณะที่เขาเพิ่มความเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและ ..
เกิดการระเบิดขึ้น คราวนี้เป็นของจริง ภายในสมองของเอธาน ในขณะที่เขาเป็นลม หลังจากหลั่งน้ำกาม
เทียน่า ก็เป็นลม หลังจากการสำเร็จความใคร่ของเธอ เมื่อมีบางสิ่งที่คล้ายกันเกิดขึ้นภายในตัวเธอ สภาพของเธอคล้ายกับตอนที่คนๆหนึ่งสามารถเปิดอาณาจักรพลังจิตของพวกเขาได้
แต่สถานการณ์ของเอธานนั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
สติของเขามาถึงพื้นที่สีดำสนิท เขามองไปรอบ ๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นคือความมืด
“ ที่นี่คือที่ไหน เมื่อกี้ฉันอยู่กับเทียน่านี่ … ” เอธานคิดอย่างสับสน
เอธานไม่รู้ว่ามีเพียงสติสัมปชัญญะของเขาเท่านั้น ที่มาถึงที่นี่เพราะเขาสามารถมองเห็นและสัมผัสได้อย่างชัดเจนในร่างกายของเขาในสถานที่แห่งนี้
ทันใดนั้นทิวทัศน์ก็เปลี่ยนไปและเขาพบว่าตัวเองอยู่ใจกลางเมืองที่พลุกพล่าน ทำให้เขาตกตะลึงอย่างมากเพราะเขาคุ้นเคยกับเมืองนี้
* แปร๊น *
เมื่อได้ยินเสียง เอธานก็รีบถอยออกไป
“นี่มันเรื่องจริงเหรอ เกิดอะไรขึ้น?” เอธานสับสน เขาพยายามใช้พลังของเขา แต่ไม่มีผลอะไรเลยแม้แต่พลังจิตของเขา
เขาเริ่มเดินไปที่บ้านของลุง ขณะที่เดินอยู่ก็บังเอิญเห็นตัวเองในกระจก ซึ่งทำให้เขาตกใจอีกครั้งเพราะหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นผู้ชายอายุราวๆ 30 ปี ผมสั้นสีดำและเครา ซึ่งสวมเครื่องแบบของ ….. เจ้าหน้าที่ตำรวจระงับเหตุ เขาเดินต่อไป เขาใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าจะมาถึงบ้านเดิมของเขา
เขาไม่ได้เข้าไปโดยตรงและเดินตามปกติ ขณะที่เขาเดินผ่านบ้าน และขณะที่เขากำลังมองผ่านบ้านหลังนั้น เขาเห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยภายในบ้านจากหน้าต่าง บุคคลนั้นเป็นผู้ชายที่ดูเหมือนเขาอยู่ใน อายุ 20 ปี แต่เอธานและครอบครัวของลุงของเขาไม่มีญาติที่มีลักษณะเช่นนั้น
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตัดสินใจ
เขาเดินไปที่ประตูและกดปุ่มกระดิ่ง
ในไม่ช้าประตูก็เปิดออกเผยให้เห็นชายวัยกลางคนที่อายุ 40 กว่าเขามองไปที่เอธาน และเครื่องแบบของเขา ชายคนนั้นเกร็งเล็กน้อยและพูดว่า “มีอะไรให้ฉันช่วยเจ้าหน้าที่ได้บ้าง”
เอธานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณอยู่บ้านนี้มานานแค่ไหนแล้ว?”
“เราเริ่มอาศัยอยู่ที่นี่เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว” ชายคนนั้นตอบอย่างตรงไปตรงมา ขณะที่เขารู้สึกตึงเครียดจากการพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“นายรู้อะไรเกี่ยวกับคนที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มาก่อนหรือเปล่า” เอธานถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“อิอิ ….. รู้เรื่องพวกนี้มาบ้างล่ะนะ”
“พูด!”
“ฉันได้ยินมาว่าหลานชายของพวกเขาถูกทรมานและถูกฆ่าตายในโกดัง หลังโรงเรียนแห่งชาติ การสอบสวนดำเนินไประยะหนึ่ง แต่ทันใดนั้นตำรวจก็หยุดสอบสวนและครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน …. นั่นคือทั้งหมดที่ฉันรู้”
เอธานพยักหน้า ขณะที่ความโกรธเดือดพล่านอยู่ภายในตัวเขาหลังจากได้ยินข้อมูล แต่เขาระงับและพูดว่า “ขอบคุณสำหรับข้อมูล…” พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป
ชายในวัย 40 ปี คิดพลางกำลังเช็ดเหงื่อของเขาออก ‘ นี่ฉันคิดว่าฉันจะถูกจับได้ในสิ่งที่ฉันทำเมื่อวานนี้…’ “คุณเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของคุณ คุณสามารถไปที่สถานีตำรวจและอ่านข้อความ ไฟล์เกี่ยวกับคดีนี้ได้ ”
…
…
ขณะนี้เอธานรู้สึกโกรธและสับสน ‘สถานที่นี้มีจริงหรือ? แต่ทำไมร่างกายของฉันถึงเป็นตำรวจ? f ** k เกิดอะไรขึ้น? ‘
เอธานยังคิดถึงสาเหตุการตายของเขา ซึ่งเป็นโชคร้ายจริงๆ ‘ฉันคิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว ตั้งแต่ฉันเลิกคุยกับลิลี่ … แต่ฉันไม่ได้คาดหวังว่าฉันจะถูกฆ่าเพียงเพราะลิลี่มาเยี่ยมบ้านของฉันเพื่อกลับมา คืนหนังสือ…’
หลังจากเดินไปได้สักพักเขาก็มาถึงโรงเรียนของเขา มันไม่ได้ทำให้เขาลำบากมากนักในการเข้าโรงเรียนในนามของการสืบสวน
ครูใหญ่ซึ่งเป็นหญิงวัยกลางคนรูปร่างผอมในวัย 50 เดินมาพร้อมกับเขา ขณะที่เธอถามว่า “เจ้าหน้าที่คุณช่วยบอกฉันเกี่ยวกับคดีที่คุณกำลังสืบสวนอยู่ได้ไหม”
ใบหน้าของเอธานไม่แยแส ขณะที่เธอพูดกับผู้มีอำนาจ “ไม่ คดีนี้เป็นความลับสุดยอด ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลาย ๆ สิ่ง ฉันมาที่นี่เพื่อทำการสอบสวนล่วงหน้า หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ทีมหลักจะมาถึงที่นี่หลังจากพวกเขาสอบสวนโรงเรียนเสร็จ ที่บริเวณสวนสาธารณะด้านทิศตะวันตก “
ครูใหญ่ไม่ได้พูดอะไรเลย หลังจากนั้นเธอก็เดินไปพร้อมกับเอธาน
ในไม่ช้าเอธานก็มาถึงชั้นเรียนที่เขาเรียนและหยุดการเคลื่อนไหวก่อนจะพูดว่า “เราจะเริ่มด้วยชั้นเรียนนี้”
จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องเรียนและเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยมากมาย เช่น นักเรียน 3 คนที่ทุบตีเขาและสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างโง่เขลาของเขา จากการเข้าหาลิลี่
เขาบอกให้ทุกคนออกจากห้องเรียนโดยบอกว่าจะถามนักเรียนเป็นกลุ่ม 5 คน เพื่อให้พวกเขาไม่รู้สึกกังวลและยังบอกให้ครูใหญ่ปิดกล้อง
จากนั้นเขาก็หันไปหาครูใหญ่ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าที่เข้มงวด “ส่งนักเรียน 5 คนเข้าไปข้างใน หลังจากพวกเขาออกมา” ในขณะที่พูดเขาก็ชี้ไปที่นักเรียนทั้งห้าคน
นักเรียน 5 คนแรกที่เขาเลือก ได้แก่ เด็กชาย 3 คนและลิลี่และเด็กผู้หญิงอีกคนที่สวมแว่น
เขากวักมือเรียกสาวแว่นให้เข้ามาหาเขา ขณะที่เขานั่งบนเก้าอี้ของครูหลังจากที่เธอมาถึงเขา เอธาน ก็ถามถึงชื่อของเธอและสิ่งอื่น ๆ เช่น ‘คุณเคยเห็นการทำร้ายร่างกายหรือไม่’ และก็คลุมเครือเช่นนั้น
หลังจากทำเสร็จแล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนและปลดล็อกประตูเพื่อให้หญิงสาวคนนั้นออกไปก่อนจะล็อกประตูอีกครั้ง
หลังจากนั้นเขาหันไปหาเด็กชายทั้ง3และลิลี่ก่อนที่จะพูดคำที่ทำให้พวกเขาตกใจ “เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวลุงของเอธาน” เมื่อพูดแบบนี้เขาก็ดึงปืนพกออกมาจากซองหนัง
ใบหน้าของเด็กผู้ชายซีดเซียว ขณะที่ลิลี่ตื่นตระหนกเมื่อเห็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อหน้าพวกเขา
“ถ้าพวกคุณกรีดร้องฉันจะยิงคุณ” เอธานพูดขณะที่เขาเล็งปืนไปที่พวกเขาและพูดต่อ “พูดตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของลุงของเอธาน?”
เด็กชายคนหนึ่งทำเป็นยิ้มแหยบนใบหน้าของเขาและพูดว่า “พ่อของบอสลอนรี่ หยุดการสอบสวนเรื่องนี้ไปแล้ว สิ่งที่คุณทำนั้นผิดกฎหมายและคุณจะถูกลงโทษ”
เอธานหัวเราะเยาะ“ ผิดกฎหมายเหรอ สิ่งที่คุณทั้ง 3 ทำกับเอธานเรียกถูกกฎหมาย?”
ในที่สุดเด็กชายก็ตื่นตระหนก เมื่อได้ยินเช่นนั้นและหนึ่งในนั้นก็พูดอย่างหวาดกลัวว่า “เราได้รับคำสั่งจากบอสลอนรี่เกี่ยวกับกิจการของโรงเรียนเท่านั้น งานของเราที่นี่คือเฝ้าดูว่ามิสลิลี่กำลังทำอะไรอยู่และเธอกำลังพบใครในโรงเรียนนั่นคือ ทั้งหมดเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเอธาน ”
“คุณ 3 คนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเขาจริงๆหรือ” เอธาน พูดขณะที่เขาเดินเข้าไปหาพวกนั้น ในขณะที่ยังคงชี้ปืน
เด็กชายทั้งสามส่ายหัวอย่างแน่วแน่เมื่อได้ยินคำถาม
เอธานพยักหน้าอย่างไม่แยแสและพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้วคุณสามารถตายได้”
*แทค แทค แทค*
ทันทีที่ยิงปืนใส่เด็กชายทั้ง 3 คนนั้น เอธาน รู้สึกปวดหัวเมื่อทัศนียภาพรอบตัวเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
จากนั้นเขาก็มาถึงพื้นที่มืดแต่มันดูแตกต่างไปจากเดิม เขามองย้อนกลับไปและพบวังวนสีดำที่นั่นและชุดมังกรดำที่เป็นโลหะของเขาด้วย
นอกจากนี้เขายังพบลูกบอลสีขาวขนาดเล็กลอยอยู่ใกล้กับวังวนสีดำ
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงบางอย่าง …
“นี่.. นี่คือพลังงานลึกลับนั่น หมายความว่าอาณาจักรพลังจิตของฉันเปลี่ยนเป็นอาณาจักรลึกลับแล้ว … ซึ่งหมายความว่าความมืดนี้ต้องเป็นสิ่งสกปรกสีดำ”
เอธานมีความสุขในขณะที่เขาควบคุมพลังงานเวทย์มนต์ “ปริมาณพลังงานเวทย์มนตร์ที่ฉันมีในตอนนี้คือครึ่งหนึ่งของพลังจิตทั้งหมดที่ฉันมี แต่หลังจากที่ฉันล้างสิ่งสกปรกสีดำออกไปปริมาณจะมากกว่าพลังจิตทั้งหมดที่ฉันมี”
จากนั้นเขาก็หันไปสนใจจากอาณาจักรลึกลับและฟื้นคืนสติหลังจากลืมตา เอธานมองไปรอบ ๆ แต่ไม่พบเทียน่า
เขายังคงเปลือยเปล่าและผ้าปูที่นอนก็ยุ่งเหยิงเช่นกัน แต่เทียน่าไม่อยู่ที่นี่
“ เธอไปไหน?”
…
…
2 วันที่ผ่านมา.
หลังจากเอธานและเทียน่า ต่อสู้กันไม่กี่ชั่วโมงและในตอนท้ายของการต่อสู้ทั้งคู่ก็ได้เป็นลมในเวลาเดียวกัน
เทียน่าเป็นลมและหลับไป 10 ชั่วโมง ขณะที่เธอเปิดอาณาจักรพลังจิตของเธอได้ หลังจากตื่นขึ้นมาเธอมองไปที่เอธานด้วยความปรารถนาและสาบานในใจด้วยความมุ่งมั่นว่า ‘ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน เพื่อที่ฉันจะได้อยู่เคียงข้างนายตลอดไป ‘
หลังจากจูบเอธานแล้วเธอก็อาบน้ำสวมเสื้อผ้าและจากไป
….
หัวหน้าหุบเขามองไปที่เทียน่าและถอนหายใจ “ถ้าอย่างนั้น เธอตัดสินใจแล้วเหรอ *ถอนหายใจ* ถ้า เอธานถามฉันเกี่ยวกับที่อยู่ของเธอล่ะ?”
เทียน่ายื่นจดหมายให้หัวหน้าหุบเขาและพูดว่า “เมื่อเขาถามเกี่ยวกับฉัน โปรดส่งจดหมายนี้ให้เขา”
หลังจากพูดแล้วเธอก็โค้งคำนับเล็กน้อยต่อ หัวหน้าหุบเขา และกล่าวว่า “ตอนนี้ช่วยพาฉันไปที่ดอกไม้นั้นด้วย”
หัวหน้าหุบเขาถอนหายใจอีกครั้ง แต่เขาก็รวบรวมและพาเธอไปยังแกนกลางของเขตอันตรายที่ดอกไม้นั้นอาศัยอยู่
ตอนที่ 41: มังกรที่กำลังเดินทางไปยังดินแดนแห่งพีช ( *R-18* )
“ ฉัน … อยากให้นายมีทั้งหมดของฉัน”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เอธานรู้สึกว่ามีม้าหลายพันตัววิ่งไปทั่วทั้งหัวใจและความคิดของเขา
เขาดึงดูดเธออย่างแท้จริงและหลังจากได้ยินทุกสิ่งที่เธอพูดก่อนหน้านี้ เขาจะไม่รู้สึกอะไรได้อย่างไร?
เมื่อสาวสวยคนนี้มาหาคุณ สารภาพรักด้วยสายตาแบบนั้น จูบคุณและพูดคำแบบนั้น
เขาควรทำอย่างไร?
บู้มมมมมมมม
มีการระเบิดในจิตใจของเอธาน ขณะที่เขาจับเอวของเธอเพื่อดึงเธอเข้าหาเขาและจูบเธอ
ทั้งคู่หายไปในความรักและความอิ่มเอมใจ การจูบไม่ได้หยุดจนกว่าพวกเขาจะหมดลมหายใจ
ได้ยินเสียงหอบ ขณะที่พวกเขาแยกปากออกจากกันและจ้องหน้ากัน
“เอธานนายจะยอมรับฉันไหม ที่ฉันยังคงอ่อนแอในตอนนี้ ฉันก็ยังอยากอยู่กับนาย” เทียน่าพูด ขณะที่เธอหอบหน้าแดง แต่ดวงตาของเธอไม่เปลี่ยนไปจากความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ก่อนหน้านี้
เอธานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเทียน่า แต่ตอนนี้ยิ่งเขามองไปที่เทียน่า มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบว่าเธอมีเสน่ห์มากขึ้น โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น เขาไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงเต็มไปด้วยการจ้องมองกันแบบนี้ แต่เขาไม่สามารถหยุดได้ ตัวเขาเองก็ถูกการดึงดูดแปลกๆที่ดึงดูดให้เข้าหาเธอ
“ เทียน่า … ”
เอธานหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบใจที่เต้นของเขา แต่ไม่เป็นประโยชน์ ในขณะที่เขาพูดอย่างจริงจังว่า “การเดินทางของฉันมันจะยากมากและเต็มไปด้วยอันตราย เธออาจตกอยู่ในอันตราย แต่ … ฉันยังต้องการให้เธออยู่ ฉันรักเธอแล้วล่ะ !! ตอนนี้เธอน่าทึ่งมากจนฉัน … “
เทียน่าวางนิ้วของเธอบนริมฝีปากของเขา ขณะที่เธอหยุดเขาไม่ให้พูด
“พอแล้ว …. ” น้ำตาร่วงหล่นจากดวงตาของเทียน่า เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเอธาน เธอคิดว่าเขามีพลังมากแค่ไหน และเขาจะไม่ยอมรับผู้หญิงที่อ่อนแออย่างเธอง่ายๆ
…
ขณะนี้เอธานและเทียน่ากำลังนั่งอยู่บนเตียง
ทั้งสองคนค่อนข้างเขินอาย แต่เอธานก็เป็นผู้นำ ในขณะที่เขาถอดเสื้อคลุมของเธอออกช้าๆ
ในขณะที่เสื้อคลุมค่อยๆหลุดออกไป เอธาน ก็อดไม่ได้ที่จะมองสิ่งที่ดึงดูดเขานั่นคือแตงโมลูกใหญ่ทั้งสองลูกที่เธอเอามือข้างหนึ่งปิดไว้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่มืออีกข้างของเธอก็ปิดลูกพีชสีชมพูของเธอเอาไว้
“ถึงตานายแล้ว …. “
ครู่ต่อมาทั้งคู่เปลือยกายอยู่บนเตียงเพราะ เอธาน สามารถมองเห็นทุกอย่างยกเว้นผลพีชและหัวนมสีชมพูที่เทียน่าเอามือปิดไว้
มังกรของเอธาน แข็งกระด้างยิ่งขึ้น เมื่อเขามองไปที่ร่างเพรียวบางที่ ที่ถูกแกะสลักอย่างสมบูรณ์แบบของเธอ ซึ่งดูเหมือนงานศิลปะ ผิวของเธอเรียบเนียนและขาวราวกับหยกและแต้มสีแดงและสีชมพูบนตัวเธอทำให้มันน่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น
ร่างกายที่สมบูรณ์แบบของเธอนั้นไม่มีผมสักเส้นเดียวเพราะเธอดูงดงามราวกับจินตนาการ
เอธานยื่นมือข้างหนึ่งไปข้างหน้าและถามว่า “ฉันขอได้ไหม” เมื่อเห็นเทียน่า พยักหน้าด้วยความหน้าแดง เขาก็แตะหน้าอกที่สุกงอมของเธอเบา ๆ
“ อะอ๊ะ … ”
เทียน่ารู้สึกเหมือนไฟฟ้าช็อต เมื่อมือของเอธานสัมผัสหน้าอกของเธอ แต่เมื่อเขาเริ่มลูบไล้มากขึ้นเธอก็เริ่มรู้สึกดี
เอธาน รู้สึกเหมือนอยู่ในสวรรค์ ความรู้สึกของการสัมผัสหน้าอกนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง เขาบีบพวกมันเล็กน้อยและสำรวจรอยแยกและนวดพวกมัน ขณะที่เขาสัมผัสหัวนมที่สั้น แต่แหลมมันให้ความรู้สึกมหัศจรรย์
เทียน่าจะไม่แพ้เขาง่ายๆ เพราะจู่ๆเธอก็ยื่นมือออกไปคว้ามังกรของเอธาน
เอธานสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่ามือของเทียน่าสัมผัสกับแท่งของเขา แต่เขาโฟกัสที่หน้าอกของเธอ ในขณะที่เขาค่อยๆเคลื่อนไปข้างหน้าและค่อยๆผลักเธอลง
เขาถามว่าเขาจะดูดหน้าอกของเธอได้ไหม ซึ่งเธอพยักหน้าอย่างเขิน ๆ แต่เธอไม่ได้เอามือออกจากแท่งของเอธาน ขณะที่เธอยังคงสัมผัสมัน
เอธานเปิดปากของเขาและดูดหัวนมของเธอเบา ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายของเธออีกครั้ง ขณะที่เธอสั่นเล็กน้อย เนื่องจากความอ่อนไหว
ในขณะที่ทั้งคู่เล่นกับสิ่งของของกันและกันอยู่สักพักมืออีกข้างของ เอธาน ก็เข้าหาครึ่งล่างของร่างกายของเธอซึ่งเทียน่าใช้มืออีกข้างปิดไว้
เมื่อเธอรู้สึกว่ามือของเอธานกำลังมาที่นั่น เธอก็เอามือออกจากที่นั่นปล่อยให้เอธาน รู้สึกถึงดอกไม้สีชมพูของเธอ ขณะที่เธอใช้มือทั้งสองข้างสัมผัสกับแท่งของเอธาน ซึ่งดูเหมือนวัตถุศักดิ์สิทธิ์ในดวงตาของเธอมันยาวและหนาเหมือนมังกร .
‘จะใหญ่ขนาดนี้ … ก้านจะพอดีกับตัวฉันจริงๆเหรอ? ความคิดดังกล่าวผุดขึ้นในใจของเธอเมื่อเห็นแท่งเนื้อของเอธาน
หลังจากนั้นไม่นานเอธานก็ขยับปากของเขาลง ในขณะที่เขาจูบท้องของเธอก่อนที่จะค่อยๆลงไป
‘ฉันเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่ง ว่าควรสำรวจโลกสีชมพูของเด็กผู้หญิงด้วยลิ้น ก่อนที่จะดำเนินการสำรวจจริงและทำให้เธอเปียกโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นครั้งแรกของเธอ ‘
เอธานไม่มีประสบการณ์ แต่เขาได้อ่านเกี่ยวกับวิธีการมากมายที่จะทำให้แฟนของคุณพอใจทั้งๆที่ไม่มีแฟนเลย
ในขณะที่เขาเคลื่อนตัวลงไปด้านล่าง เทียน่าก็สูญเสียการยึดจากเอธานไป เธอกำลังมองไปที่เอธานที่กำลังขยับปากไปทางนั้น แต่เธอไม่ได้หยุดเขา ขณะที่เธอหลับตา
ในที่สุดเอธาน ก็มาถึงผลไม้ลูกพีชของเธอและ โดยไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป เขากดริมฝีปากลงกับผลพีชของเธอและส่งลิ้นไปข้างหน้าเพื่อสำรวจโลกสีชมพูของเธอ
“อ๊าาา !!!” เทียน่าอดไม่ได้ที่จะครางออกมา ขณะที่เธอรู้สึกได้ถึงลิ้นที่นุ่มนวลและลื่นของเอธาน ภายในโลกสีชมพูของเธอ ทำให้ร่างกายของเธอสั่นอย่างรุนแรง ขณะที่เธอรู้สึกได้ถึงกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างกายของเธออีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่รุนแรงที่สุดจนถึงตอนนี้
เอธานยังคงสำรวจเธอด้วยลิ้นของเขาทำให้เทียน่า รู้สึกถึงคลื่นแห่งความสุข เมื่อจู่ๆเธอก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างออกมาและครางออกมา
ในขณะที่ เอธาน ไม่เห็นการมาครั้งนี้ มันคือเคลียร์วอเตอร์เหมือนฤดูใบไม้ผลิแห่งสวรรค์ที่กำลังออกมาจากถ้ำสีชมพูของเธอ ขณะที่มันพ่นลงบนใบหน้าของเอธาน
เทียน่าอายมาก ขณะที่เธอพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ขะ – ขอโทษ … “
เอธานลุกขึ้นชิมของเหลวด้วยลิ้นของเขาก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “นั่นคือจุดประสงค์ของฉันในตอนแรก ส่วนตอนนี้ … เราสามารถก้าวไปสู่ขั้นตอนสุดท้าย ในขณะที่เราเชื่อมต่อร่างกายและจิตวิญญาณของเราเข้าด้วยกัน เธอพร้อมหรือยัง? “
เทียน่าพยักหน้าอย่างเขินอายเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เอธาน ขยับไปข้างหน้าเล็กน้อย ในขณะที่เขาถูทางเข้าของเธอด้วยแท่งหนาของเขาเป็นเวลา 2-3 วินาที ก่อนที่จะค่อยๆดันอวัยวะเพศที่เหมือนมังกรของเขาเข้าไปในถ้ำสีชมพูของเธอ
เทียน่ารู้สึกเจ็บปวดเมื่อหยดน้ำก่อตัวขึ้นภายในดวงตาของเธอ แต่เธอก็ไม่แม้แต่จะสะดุ้ง ในขณะที่เธออดทนต่อความเจ็บปวดอย่างสุดกำลัง เธอรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่ฉีกขาดออกจากท่อนไม้หนา ๆ ของ เอธานและมีรอยเลือดเล็ก ๆ ออกมาจากข้างในเพราะแท่งหนาของเอธาน แทบจะไม่เหลือช่องว่างใด ๆ
เอธานไม่ต้องการให้เธอรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น เขาจึงเจาะช่องคลอดที่คับแน่นของเธออย่างระมัดระวัง ภายในของเธอกำลังพันรอบดาบใหญ่ของเอธาน แน่นหนา ในขณะที่เขายังคงเจาะเข้าไปในโลกสีชมพูของเธอก่อนที่จะถึงจุดจบ
มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มากสำหรับทั้งคู่เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน
เอธานไม่ได้เริ่มขยับทันทีและถามว่า “ฉันจะขยับมันตอนนี้ เธอโอเคไหม จะได้ไม่เจ็บขนาดนั้นอีกแล้ว”
จากนั้นเขาก็ค่อยๆขยับสะโพกอย่างช้าๆในตอนแรก ขณะที่เขามองดูการแสดงออกของเทียน่าอย่างระมัดระวัง
จากนั้นเขาก็ค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ในขณะที่เขาไม่เร็วเกินไปหรือช้าเกินไปเขาก็ได้ยิน
*อ๊ะ…*
ได้ยินเสียงครวญครางที่มีเสน่ห์อย่างยิ่งและมองไปที่เทียน่าที่กำลังแสดงความหลงใหลและมีความสุข
ไฟภายในของเอธานลุกเป็นไฟอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่เขาเพิ่มความเร็วและความรุนแรงของเขา
“ อ๊าาา …. หนักกว่านี้ … อยากให้หนักขึ้นเร็ว ๆ ” เทียน่าพูดอย่างหลงใหล ขณะที่เธอจับคอของเอธาน และกดหน้าอกที่ยั่วยวนสมบูรณ์แบบของเธอแน่นกับหน้าอกของเอธาน
เอธาน สูญเสียมันไปอย่างสมบูรณ์และคว้าเอวของเธอก่อนที่จะขยับขึ้นและลงพร้อมกับสะโพกของเขาเพิ่มความเร็วและความรุนแรง
เทียน่าครวญครางเสียงดัง ขณะที่เธอรู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างรุนแรงเมื่อมังกรของเอธาน กระแทกเข้าที่ส่วนท้ายของรูของเธอพลางส่งคลื่นความสุขมาให้เธอซ้ำ ๆ
ในขณะที่รู้สึกมีความสุขอย่างรุนแรงเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างออกมาขณะที่เธอครางขณะพูด ”
บางอย่าง … มีบางอย่างออกมา … อ้าาาาาาา … ! “
เสียงครางที่เต็มไปด้วยความสุขนี้ทำหน้าที่เพียงเพื่อเพิ่มความเร็วของเอธาน ให้มากยิ่งขึ้นในขณะที่เขามาในเวลาเดียวกันกับเทียน่า
ช่วงเวลาที่ทั้งคู่ถึงจุดสุดยอดวังวนสีดำได้ดูดซับพลังงานบางอย่างจากน้ำอสุจิของเอธานและเทียน่า ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้สังเกตเห็นอย่างชัดเจน
เขามองไปที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของเทียน่าและรู้สึกมีความสุขอย่างสุดขีด ขณะที่เทียน่าก็มองไปที่เอธานก่อนที่เธอจะร้องอุทาน “มันยังยาวและแข็งแรงและรู้สึกยิ่งใหญ่กว่าเมื่อก่อนอีก”
เขาไม่ได้ดึงอวัยวะเพศออกจากรู ดังนั้นเทียน่าจึงรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในทันที
เอธานยิ้มอย่างซุกซนขณะที่เขาพูด “เดาว่าถึงเวลารอบ 2 แล้วนะ” พูดแบบนี้เขาแยกขาของเธอออกจากกันและจับเอวเธอไว้ในขณะที่เขาเริ่มขยับสะโพกอีกครั้ง
เทียน่าไม่ขัดข้องเพราะเธอยังต้องการลิ้มรสความรู้สึกและรสชาติของเอธาน ให้มากที่สุดก่อนที่เธอจะเข้าสู่การพิจารณาคดีความตายของคน 9 คนและ 1 ชีวิตของเธอ
จากนั้นเธอก็ลืมทุกสิ่งในขณะที่ปล่อยให้เธอสูญเสียความสุขอย่างรุนแรงก่อนที่จะปล่อยเสียงครวญครางอันเร่าร้อนที่เกิดจากมังกรของเอธาน ที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในตัวเธอ
จากนั้นเอธานก็ดึงเทียน่า ขึ้นไป ในขณะที่เขาจับตูดของเธอ และในขณะที่เธอโอบแขนรอบคอของเขาก่อนที่จะจูบและขี่ในเวลาเดียวกัน
ในขณะที่พวกเขากำลังสนุกสนานอยู่นั้นวังวนสีดำก็ปล่อยพลังงานสีขาวน้ำนมออกมา ซึ่งเดินทางเข้าไปในร่างกายทั้งของ เอธาน และ เทียน่า
ตอนที่ 40: สตาร์เกท, ดาวดวงอื่นๆ และ ……… จูบแรก
ในขณะที่เอธานและไมค์กำลังเดินทางกลับไปที่หุบเขา ผู้คนของ Lotus Ridge Sect ก็มาถึงภูเขาที่ล้อมรอบไปด้วยพลังงานอวกาศที่วุ่นวายแล้ว
เมื่อมองไปที่ปากของภูเขา ซึ่งเต็มไปด้วยใบมีดอวกาศและพายุใบหน้าของหัวหน้านิกาย ก็แสดงสีหน้าที่รู้สึกว่ามันเหมือนหลุมฝังศพ
เขามองไปที่ทุกคน ในขณะที่พูดอย่างจริงจัง “รอฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะเข้าไปข้างในภูเขาที่มีใบมีดอวกาศและพายุเหล่านั้น ซึ่งมันอาจจะสามารถทำร้ายฉันได้ แสดงว่ามันไม่จำเป็นต้องพูดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกนายเข้าไป
“ครับ ท่านอาจารย์”
หัวหน้านิกายพยักหน้ารับคำตอบพลางเดินไปที่ปากภูเขา ขณะที่เขาร่ายคาถาป้องกันใส่ตนเอง
หลังจากเข้าสู่พื้นที่ที่เต็มไปด้วยใบมีดอวกาศและพายุอวกาศ สิ่งที่เป็นเกราะป้องกันจากธาตุไม้ของเขาจะถูกทำลายด้วยใบมีดอวกาศหนึ่งเล่มเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงต้องพร้อมป้องกันมันเสมอ และเมื่อเขาเจอพายุอวกาศที่ด้านบนของเกราะป้องกัน เกราะนั่นก็ถูกทำลาย ซึ่งเขาก็เช่นกัน เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เกราะธาตุไม้ของเขามีคุณสมบัติในการรักษาได้ ดังนั้นเขาจึงก้าวต่อไปในขณะที่ร่ายมันเพิ่ม
เขาใช้เวลาไม่นานในการเข้าไปในถ้ำและหลังจากก้าวไปข้างหน้าสักพัก ในที่สุดใบหน้าของเขาก็คลี่คลายจากสีหน้าเคร่งขรึมและกลายเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“มันคือสตาร์เกทจริงๆบันทึกไม่ได้เป็นเท็จ ในที่สุดตอนนี้ฉันก็สามารถเดินทางไปยังสถานที่ที่บรรพบุรุษจากมาและมีพลังมากขึ้นที่นั่นได้”
การก่อตัวของสตาร์เกทและสถานที่เทเลพอร์ทนั้นแตกต่างกัน รูปแบบการเทเลพอร์ตมีความซับซ้อนน้อยกว่าและสามารถเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งในดวงดาวดวงเดียวเท่านั้น
แต่ถ้าใครอยากไปที่ดาวดวงอื่น ก็ต้องสร้างประตูดวงดาวขึ้นมา และของที่ต้องใช้ในการสร้างสตาร์เกทนั้นสูงกว่าการสร้างสถานที่เทเลพอร์ท
ดวงดาวต่างๆเปรียบเสมือนโลกทั้งใบในทางใดทางหนึ่ง อุปสรรคที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติล้อมรอบกลุ่มดาวและเป็นงานที่ท้าทายที่จะทำลายมันและเคลื่อนตัวไปในอวกาศ
แต่สิ่งมีชีวิตที่มีความรู้และอำนาจนั้นสามารถสร้างสตาร์เกทที่สามารถทำให้คนหนึ่งเดินทางจากดาวดวงหนึ่งไปยังดาวอีกดวงได้
นอกจากนี้ดาวอื่นๆที่แตกต่างกันยังมีระดับการพัฒนาที่แตกต่างกัน กับดาว Griza Star นี้ เช่นดาวนี้อาจจะมีธาตุไฟ น้ำ ไม้ ดิน สายฟ้า อากาศ อวกาศ แสง และความมืด
จากนั้นก็มี ดาวอีกแห่งที่อยู่ห่างออกจากดาว Griza star Sector เพียงไม่กี่ปีแสง ดาวดวงนั้น มีขนาดค่อนข้างเล็กกว่า Griza Star Sector และในนั้นมีเพียงธาตุไฟ น้ำ ไม้ ดิน และอากาศ ดังนั้นผู้คนในที่นั่นจึงปลุกความสัมพันธ์จาก 5 องค์ประกอบของธาตุนี้เท่านั้น
เขารู้ดีว่าแม้แต่ Griza Star Sector ก็ถือว่าเป็นแมลงวันตัวเล็ก เมื่อเทียบกับกลุ่มดาวจำนวนมหาศาล ที่นั่น แม้ว่าบรรพบุรุษของเขาจะไม่ได้มาจาก ดาวที่ทรงพลังเช่นนี้ แต่สถานที่ที่เขามาจากนั้นก็ยังคงเป็น Griza Star Sector ที่ทรงพลังกว่า
‘ฉันจะต้องทำให้ดาวเคราะห์ดวงนี้ อยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน จากดาวเคราะห์ทั้งหมดใน Griza Star Sector ภูเขาของดาวเคราะห์ดวงนี้ มีแหล่งที่ดีที่สุดของธาตุอวกาศ ดังนั้นบรรพบุรุษจึงสร้างสตาร์เกท ขึ้นที่นี่ แทนที่จะเป็นดาวเคราะห์หลักของเราสินะ ‘
ในบันทึกที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ เขียนไว้ว่าใต้ภูเขานี้เป็นแหล่งธาตุอวกาศชั้นยอดและนั่นคือเหตุผลที่ บรรพบุรุษสร้างสตาร์เกทขึ้นมาด้านบนและทำให้พลังของพวกเขากำลังรบกวนพลังงานอวกาศซึ่งส่งผลให้พื้นที่รอบ ๆ วุ่นวาย บนภูเขานี้.
การก่อตัวนี้สามารถปกปิดพลังงานของแหล่งอวกาศและปกป้องสตาร์เกทในเวลาเดียวกัน โดยการสร้างพื้นที่ที่วุ่นวาย
จากนั้นเขาก็มองไปที่ส่วนล่างของประตูสตาร์เกท ซึ่งมีรูสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ และหยิบแผ่นสี่เหลี่ยมสีเงินขนาดเล็กที่พอดีกับรูเล็ก ๆขึ้นมา
แผ่นเงินขนาดเล็กเรียกว่าแผ่นประสาน
หลังจากที่เขาใส่แผ่นเงินที่เรียกว่าแผ่นประสาน สตาร์เกตก็สว่างขึ้นและมีรูหนอนเกิดขึ้น
“ดูเหมือนว่ามันจะยังคงทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
หลังจากตรวจสอบว่ามันใช้งานได้แล้ว เขาก็ถอดแผ่นเงินออกและกลับไป ในขณะที่คิดว่า ‘ฉันจะต้องเรียกกองกำลังของนิกายทั้งหมดมาที่นี่ และปกป้องสถานที่นี้ให้ละเอียดยิ่งขึ้น เนื่องจากนิกายอื่น ๆ จากดาวเคราะห์ต่างดวงกันอาจสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเรา ‘
…
…
หลังจากเดินทางเพียง 8 ชั่วโมง เอธานและไมค์ก็ใกล้จะถึงหุบเขาสายฟ้า-ไฟแล้ว
“ฉันลืมไปว่าความเร็วของเสือเฮอร์ริเคน 4 ปีกตัวนี้เร็วกว่านกอินทรีย์ และด้วยพลังงานธาตุอากาศของฉัน ความเร็วมันเร็วของมันก็เร็วกว่าเสือเฮอริเคน 4 ปีกตัวจริงเสียอีก”
ไมค์พยักหน้า เมื่อได้ยินและถามด้วยความสับสน “เกิดอะไรขึ้น กับนกอินทรีย์ไฟของพี่?”
เอธานครุ่นคิดสักวินาทีก่อนที่จะพูดว่า “มันต้องถูกคนที่จะเข้ามาในบ่อฆ่าเพื่อระบายความโกรธแน่ๆ”
“ ฉันเข้าใจแล้ว.. มันเป็นไปได้จริง ๆ หลังจากสิ่งที่คุณทำที่นั่นน่ะนะฮ่า ๆ ๆ ” ไมค์รู้เรื่องการกระทำของเอธานแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงหุบเขาและบินตรงไปยังพระราชวังหลัก ที่ หัวหน้าหุบเขาอาศัยอยู่
ก่อนเข้าวังเอธานได้สลายสัตว์ศิลปะธาตุของเขา
ในไม่ช้าพวกเขาก็เข้าไปในห้องโถงของหัวหน้าหุบเขา
เมื่อเห็นพวกเขาเข้ามา หัวหน้าหุบเขาก็กล่าวกับผู้อาวุโสที่อยู่ที่นั่นว่า “เราจะคุยกันเกี่ยวกับแผนการในภายหลัง พวกคุณทุกคนกลับไปในตอนนี้เลย”
“ ครับท่านหัวหน้าหุบเขา”
ผู้อาวุโสโค้งคำนับและจากไป ขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่เอธานด้วยความสงสัย 2-3 ครั้ง
ในขณะที่พวกเขารู้จักศิษย์โดยตรงของหัวหน้าหุบเขาดี แต่พวกเขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มอีกคนเป็นใคร
เมื่อเห็นว่าทุกคนจากไปแล้ว ไมค์จึงก้าวไปข้างหน้าและกล่าวด้วยความเคารพว่า “อาจารย์ ฉันกลับมาแล้วและฉันได้ล้างสิ่งสกปรกสีเทาทั้งหมดสำเร็จแล้ว และยังขยายทะเลธาตุอวกาศของฉัน ก่อนที่จะปรับแต่งไป ตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องทำเพื่อให้กลายเป็น Elemental Archmage ก็คือ การสร้างประตูปรับแต่งการหมุนเวียนครับ ”
หัวหน้าหุบเขารู้สึกประหลาดใจที่ไมค์ได้ล้างสิ่งสกปรกสีเทาของเขาแล้ว แต่เขาก็พบเหตุผลในไม่ช้า เมื่อมองไปที่เอธานพลังงานเวทย์มนตร์ของ Elemental Overlord สามารถมีประโยชน์อย่างมากในการกำจัดสิ่งปนเปื้อนสีเทาได้อย่างง่ายดายมากขึ้น เขายังวางแผนที่จะล้างมลทินสีเทาของไมค์โดยใช้พลังเวทย์มนต์ของเขา แต่ตั้งแต่ที่เอธานอยู่กับไมค์ เขาจึงต้องกำจัดสิ่งสกปรกสีเทาของเขาที่เคยได้รับมาก่อนหน้า
หลังจากประหลาดใจชั่วครู่ เขายิ้มขณะหยิบขวดเล็ก ๆ ออกมาจากแหวนเก็บของก่อนที่จะมอบให้ไมค์ “ดี ดี ตอนนี้กินยาในขวดนี้มันเป็นยาของความสัมพันธ์ธาตุอากาศ ที่ฉันซื้อจาก หัวหน้าเมืองพาวินเลียน ”
ไมค์ตกใจรีบพูดว่า “อาจารย์ … นี่มันมีค่าเกินไปฉันรับไม่ได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ก่อนที่หัวหน้าหุบเขาจะได้พูดอะไรเอธานก็พูดอย่างสบาย ๆ ว่า “มันเป็นแค่ยาเพิ่มความสัมพันธ์ธาตุอากาศ ไม่ใช่ของมีค่าเกินไป อย่าปฏิเสธความปรารถนาดีจากเจ้านายของนายและกินมันเถอะ”
“เอ่อ … ” ไมค์พูดไม่ออก
ริมฝีปากของอาจารย์หุบเขากระตุกในขณะที่เขาคิดว่า ‘ฉันใช้โชคเพื่อซื้อยาเม็ดนี้มาเลยนะ? คุณหมายถึงอะไรที่มันไม่มีค่ามากเกินไปน่ะ? ‘
แต่ภายนอกเขาพูดด้วยรอยยิ้มที่ใจดีว่า “แค่กินมันเข้าไปเท่านั้น องค์ประกอบของธาตุอากาศจะช่วยเสริมองค์ประกอบธาตุอวกาศของคุณได้ดี หลังจากที่คุณกินสิ่งนี้เสร็จแล้ว เรามาเริ่มรวบรวมพลังงานธาตุอากาศและขยายขอบเขตพลังงานของคุณกันเถอะ ขอบเขตพลังงานของคุณมีขนาดใหญ่เพียง 5 เมตรเท่านั้น ตอนนี้คุณต้องทำให้มันมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตรโดยการรวบรวมพลังงานอากาศและสร้างทะเลของธาตุอากาศ ”
หลังจากพูดสิ่งนี้เขาก็มองไปที่เอธษนและพูดหลังจากลังเลอยู่ 2-3 วินาที “เอธาน .. ”
เอธานมองไปที่หัวหน้าหุบเขาที่พูด “เทียน่า มีบางอย่างจะบอกคุณ ตอนนี้เธอกำลังรออยู่ในบ้านในสวนแห่งสันติ คุณน่าจะไปที่นั่นและคุยกับเธอ”
แม้ว่าเอธานจะสับสน แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรและเพิ่งออกจากพระราชวัง ก่อนที่จะเดินไปที่บ้านของเขา
ใช้เวลาไม่นานเขาก็มาถึงที่นั่นและเข้าไปในบ้าน
ทันทีที่เข้ามา เทียน่าซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องโถงก็สังเกตเห็นและรีบไปข้างหน้าก่อนจะกอดเอธาน
เอธานสะดุ้งและก่อนที่เขาจะพูดอะไร เขาก็ได้ยินเสียงของ เทียน่าพูดขึ้นมาก่อน
“เอธาน ฉันรักคุณ ฉันอยากให้คุณรู้ว่าช่วงเวลาไม่กี่วันที่ฉันใช้กับนาย แม้ว่าเราจะไม่ได้พูดคุยกันมากนัก ก็เป็นวันที่สงบสุขที่สุดที่ฉันเคยสัมผัสมา แต่ …. ”
เทียน่าหยุดหายใจ ขณะหายใจเข้าลึก ๆ และพูดต่อ “แต่ฉันเป็นคนอ่อนแอ ดังนั้นถ้าฉันอยู่กับนายฉันจะกลายเป็นภาระของนายเท่านั้น”
จากนั้นเธอก็ผละออกจากการกอด ขณะที่เธอมองไปที่เอธานด้วยความมุ่งมั่นผสมกับความลำบากใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เอธาน … ”
เอธานตกใจและหัวใจของเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้นเนื่องจากสิ่งที่ เทียน่าเพิ่งพูด
อย่างไรก็ตามเขาเพิ่งอายุ 18 ปีและนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสารภาพรักกับเขา
เขามองไปที่ดวงตาที่มุ่งมั่นของเทียน่าและรู้สึกถึงบางอย่างและอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด
* … *
ปากของเทียน่ากดไปข้างหน้าขณะที่ริมฝีปากของเธอกระทบริมฝีปากของเอธานอย่างเชื่องช้าและจูบเขา และเนื่องจากเอธานไม่มีใครเคยมีประสบการณ์มาก่อนเขาจึงไม่ได้รุกมากนัก แต่เทียน่าก็ไม่หยุดแค่นั้น
เมื่อได้ลิ้มรสริมฝีปากของหญิงสาวเป็นครั้งแรกปลายประสาทบนริมฝีปากของเอธาน ก็เข้าใจมากขึ้น ขณะที่เขารู้สึกอิ่มเอมใจและเสน่หา
เอธานเริ่มให้ความร่วมมือ ในขณะที่เขาเริ่มจูบอย่างเชื่องช้า
มันเป็นความรู้สึกมหัศจรรย์และพวกเขาไม่รู้สึกอยากหยุด
แต่เทียน่าไม่ได้ต้องการแค่จูบจากเอธาน
ก่อนที่เธอจะกระโดดลงไปในกองไฟ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 9 รายและ 1 ชีวิตคือเธอนั้น เธอต้องการมีทุกอย่างของเอธานและมอบทุกอย่างของเธอให้กับเขา
เธอดึงหน้ากลับมาและพูดอย่างมุ่งมั่น“ เอธาน .. ”
“ ฉัน … อยากให้คุณเอาทั้งหมดของฉันไป ซึ่งไม่ใช่แค่ริมฝีปาก…..”
ตอนที่ 39: แหวนประหลาดขนาดใหญ่?
เอธานใช้เวลา 3 วันสุดท้ายในการล่าสัตว์วิเศษกับไมค์และออกแบบชุดของเขา
ขณะนี้ไมค์กำลังฝึกอยู่ในค่ายข้างๆเขาและเอธานก็ กำลังทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในส่วนมือของชุดสูท
เนื่องจากเขาชอบมังกรมาโดยตลอด เขาจึงได้เพิ่มการออกแบบเกล็ดในชุดสูทและเพิ่มเขามังกร 2 อันที่ส่วนหัวของชุด ที่อยู่ใกล้กับดวงตา นอกจากนี้เขายังออกแบบถุงมือและรองเท้าบู๊ตที่มีเกล็ดด้วยลวดลาย และเพิ่มส่วนโค้งที่ยื่นออกมาเล็กน้อย ที่ไหล่
หลังจากที่เขาพอใจกับการออกแบบแล้ว เอธานก็เรียกคืนชุดกลับมา เขาสามารถใช้ชุดนี้เพื่อสร้างตัวตนที่ 2 ของเขาในอนาคตได้
จากนั้นเขาก็พูดกับไมค์ หลังเดินไปที่แคมป์ของเขา “หลังจากฝึกเสร็จแล้วก็รอฉันอยู่ที่นี่ก่อน และอย่าออกจาก <เกราะแห่งความมืด> เด็ดขาด ฉันจะไปดูที่ภูเขา”
ไมค์พยักหน้าพร้อมกับหลับตา
เมื่อเห็นเช่นนั้น เอธานก็เริ่มเดินไปที่ภูเขา
‘แม้แต่อาจารย์ประจำนิกาย Elemental Dominator ระดับพินนาเคิล (ระดับ-12) ก็มีความสนใจในภูเขาลูกนี้ แต่ก็ควรมีบางอย่างที่นี่และฉันก็ต้องรวบรวมพลังงานธาตุอวกาศไว้ในขอบเขตของพลังงานของฉัน เพื่อให้คริสตัลอวกาศสามารถเริ่มทำงานได้ ‘
ในขณะที่คิดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เขาอยู่ใกล้บริเวณที่มีใบพัดและพายุปรากฏอยู่บ่อยครั้ง
แต่เขาไม่ได้กลัวพวกมันและเหตุผลนั้นก็ชัดเจน
หลังจากเข้าสู่พื้นที่อันตรายเช่นเดียวกันตอนนี้เอธานกำลังก้าวไปข้างหน้า 3 ก้าว ดาบอวกาศก็ก่อตัวขึ้นใกล้มือซ้ายของเขาและพุ่งเข้าใส่ทันที
แต่เขาไม่ได้รับรอยขีดข่วนจากสิ่งนั้น ในขณะที่เขายังคงเดินต่อไปยังปากถ้ำ ที่ซึ่งมีพลังงานธาตุอวกาศวุ่นวายและอันตรายที่สุด
หลังจากเดินสบาย ๆไป 5 นาทีและถูกโจมตีโดยใบพัดอวกาศและพายุอวกาศ ซึ่งไม่ได้ทิ้งรอยขีดข่วนบนร่างกายของเขา เอธานก็มาถึงปากถ้ำและเข้าไปข้างในแล้ว
ตอนนี้เขากำลังเดินเข้าไปในถ้ำ เมื่อ เดินไปสักพัก ก่อนที่จะมาถึงพื้นดินกว้าง ซึ่งอาจเป็นจุดศูนย์กลางของภูเขาและเขาก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าตรงกลางของพื้นดินนี้เป็นวงแหวนขนาดใหญ่ ที่ทำจากโลหะวงแหวนมีลวดลายบางอย่างที่ออกแบบมา ซึ่งดูประณีตและลึกซึ้ง
จากนั้นเขาก็เดินไปที่วงแหวนและเริ่มตรวจสอบ แต่หลังจากดูทุกส่วนของแหวน และแม้กระทั่งมองผ่านช่องว่างในวงแหวนไปแล้ว 2-3 ครั้ง เอธานก็ไม่พบอะไรเลย
‘หืม คือแหวนวงนี้หรอกหรอ ถ้าให้เดา นี่น่าจะเป็นแหวนพอร์ทัลเทเลพอร์ต แต่ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ฉันจะเปิดใช้งานมันได้อย่างไร? ‘
หลังจากคิดไม่กี่วินาที เขาเดาว่า ถ้าวงแหวนนี้เป็นพอร์ทัลเทเลพอร์ต เขาอาจต้องใช้พลังงานจากธาตุอวกาศเพื่อเปิดใช้งาน แต่ตอนนี้เขายังไม่มีมัน
จากนั้นเขาก็มองไปที่ส่วนของแหวน ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นและคิดว่า ‘ฉันควรเอาแหวนนี้ออก และดูว่ามันมีอะไรอยู่ข้างใต้นั้นหรือไม่? แต่ฉันอยากรู้ว่าพอร์ทัลนี้จะพาฉันไปไหนได้ ถ้ามันคือพอร์ทัลเทเลพอร์ตจริงๆ ‘
จากนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ถอนรากถอนโคนวงแหวนวงนี้ และเริ่มรวบรวมพลังงานธาตุอวกาศผ่านการทำสมาธิ เพราะพลังงานอวกาศมีความเข้มข้นมากๆที่นี่
ดังนั้นหลังจากนั่งไขว้ขาและเข้าสู่สภาวะเข้าฌาน เอธานก็เริ่มรวบรวมพลังงานอวกาศ
ถ้าเขาใช้หินองค์ประกอบธาตุอวกาศระดับสูง ซึ่งเขามีอยู่ไม่กี่ชิ้นจากของขวัญที่เขาได้มา เขาสามารถเติมทะเลธาตุแห่งธาตุอวกาศได้โดยใช้หินธาตุอวกาศ แต่เขาตัดสินใจที่จะไม่ใช้หินเหล่านั้นและเก็บไว้เพื่อการใช้งานอื่น ๆแทน
หลังจากอยู่ในสภาพนั่งสมาธินานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่งแล้วเขาก็หยุด
‘ถึงเวลาต้องกลับแล้ว เรายังต้องใช้เวลาอีกประมาณ 18 ชั่วโมงเพื่อกลับไปที่หุบเขา’
จากนั้นเอธานก็ออกจากภูเขาก่อนที่จะเดินไปที่ค่ายของพวกเขา
เนื่องจากไมค์ได้ล้างสิ่งสกปรกสีเทาทั้งหมดในอาณาจักรพลังจิตของเขาเมื่อวานนี้ ดังนั้นเขาจึงรวบรวมพลังงานธาตุอวกาศตลอดทั้งวันในวันนี้
ตอนนี้เขาเพิ่งรวบรวมพลังงานอวกาศจำนวนหนึ่งเสร็จ หลังจากทำสมาธิเป็นเวลา 13 ชั่วโมง
เมื่อมาถึงค่ายของไมค์ เอธานก็เห็นเขากำลังยืดตัว“ เฮ้ ถึงเวลาที่เราต้องไปแล้ว นายคืบหน้าไปเท่าไหร่แล้วบ้าง?”
ไมค์ยิ้มอย่างบิดเบี้ยวและพูดว่า “ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะรวบรวมพลังงานของธาตุอวกาศที่นี่เลย … “
ก่อนที่ไมค์จะพูดจบ เขาก็เห็นธานขว้างอะไรบางอย่างมาที่เขาและเขาก็จับมันได้
เมื่อมองไปที่สิ่งนั้นไมค์ก็อุทานว่า “นี่ … คือหินอวกาศชั้นสูง”
“อันที่จริง หลังจากที่นายดูดซับพลังงานจากมันเสร็จแล้ว ก็มาขออีกอันหนึ่งได้” เอธาน ยิ้มและพูดต่อ “นายสามารถเริ่มดูดซับได้ ในขณะที่เรากำลังบินกลับไปที่หุบเขา”
เมื่อพูดอย่างนี้ เขาก็ร่ายเวทย์สร้างเสือเฮอริเคน 4 ปีก ก่อนที่เขาจะวางไมค์บนหลังของมัน และนั่งลงบนตัวมันด้วยตัวเอง ในขณะที่ตอนนี้พวกเขาเริ่มเดินทางกลับไปที่หุบเขาสายฟ้า – ไฟแล้ว..
ในขณะเดียวกัน…
ที่สำนักงานใหญ่ของโถงพันเทพเจ้า
ห้องโถงพันเทพไม่ใช่เกาะลอยน้ำ แต่เป็นวังที่ใหญ่มากๆที่อยู่ใจกลางเมืองพันเทพ
สำนักงานใหญ่ของพวกเขาดูใหญ่และดีกว่าพระราชวังหลักทั้ง 3 ของหุบเขาสายฟ้า-ไฟ ที่ด้านบนของเกาะลอย
ในวังตอนนี้ อาจารย์ของกลุ่มคนใหญ่คนโตดังกล่าวกำลังสนทนากับบุคคลที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัย 50 ปีของเขาด้วยความเคารพ บุคคลนั้นมีผมยาวสีน้ำตาลใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมและสวมเสื้อผ้าหรูหรา
ยาชิลและคนอื่น ๆ อีก 6 คนที่น่าจะมาจากนิกาย Lotus Ridge Sect ยืนอยู่ข้างหลังอาจารย์ของพวกเขาอย่างเงียบ ๆ
หลังจากพูดคุยกับหัวหน้าพระราชวังเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆเล็กน้อยแล้ว ผู้นำของนิกาย Lotus Ridge ก็หันไปหายาชิล และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ยาชิล ฉันจะถามนายอีกครั้ง” เพื่อนชายคนนั้นที่คุณพบ เขาอายุน้อยมากอย่างที่นายพูดจริงๆหรือ และมีพลังที่น่ากลัวอีกด้วยงั้นรึ?”
ยาชิลโค้งคำนับด้วยความเคารพก่อนกล่าวคำปฏิญาณ “อาจารย์ คำพูดที่ฉันพูด ไม่มีความเท็จใด ๆ ถ้าฉันโกหก ฉันขอตายโดยการสั่งให้ฟ้าผ่า ณ ตรงนี้”
อาจารย์ของนิกายนั้นพยักหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสงบ“ เอาล่ะ แต่แทนที่จะไปพรุ่งนี้ เราควรไปวันนี้เลย ถ้าอาจารย์ของเขามาพรุ่งนี้ ตามที่ตั้งใจไว้ เราก็ยังสามารถไหว้วานเขาได้ เพราะเขาเป็นคนที่มีอำนาจมากกว่าจุดที่สุดยอดกว่าสิ่งมีชีวิตในดวงดาวของเราอีก … แต่ “
เขาหยุดพูดอยู่ตรงนั้นชั่ววินาที ใบหน้าของหัวหน้านิกายเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วและพูด ขณะที่เขาปล่อยเจตนาที่อยากฆ่าคนของเขาออกมา “ แต่ถ้าเพื่อนชายคนนั้นกลายเป็นของปลอม เราก็สามารถฆ่าเพื่อนคนนั้นและยึดครองภูเขาได้ตามหลักของฉัน นั่นคือเป้าหมาย”
“ ครับ ท่านอาจารย์ ”
ทั้ง 6 คน ที่มีอายุต่างกันตั้งแต่ 40 ถึง 80 และ ยาชิลที่กำลังพูดด้วยเสียงที่ดัง ยอมรับคำสั่งของอาจารย์ของพวกเขา
ตอนที่ 38: ระดับของ Elemental Dominator
ในหน้านี้นั้น เอธานสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับ Elemental Archlord และข้อมูลเกี่ยวกับ Elemental Dominator ได้
เมื่อถึงระดับ 3 ของ Elemental Archlords แล้วสามารถเพิ่มปริมาณสำรองและปรับแต่งร่างกายของพวกเขาจนสามารถใช้พลังงานได้มากถึง 25000 กิโลกรัม และเพิ่มขนาดของขอบเขตพลังงานเป็นขนาดประมาณ 51 เส้นผ่านศูนย์กลาง แล้วพวกเขาก็จะถึงขีดจำกัด ของการกลั่นร่างกายด้วยพลังงานเหลวแล้ว และไม่สามารถทำการขยายขอบเขตพลังงานของพวกเขาได้อีกต่อไป
ณ จุดนี้ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามเสริมสร้างร่างกายด้วยพลังงานเหลวมากแค่ไหน พวกเขาก็จะไม่เห็นความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นและจะไม่สามารถขยายขอบเขตพลังงานของพวกเขา เพื่อทำลายอุปสรรคนี้ พวกเขาต้องการพลังงานแก่นแท้และเมื่อพวกเขา ได้รวบรวมพลังงานเหล่านั้นได้ถึง 1,000 หน่วยแล้ว พวกเขาจะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นทางการว่าเป็น Elemental Dominator ระดับ 1 ( เพิ่มเติม เกี่ยวกับความเป็นเอกลักษณ์ของพลังงานแก่นแท้ และเหตุใดผู้วิเศษแห่งธาตุระดับล่าง จึงไม่สามารถรวบรวมพลังงานแก่นแท้ได้ แม้ว่าจะมีความสามารถในการรับมันมาจาก อาณาจักรพลังจิตแล้วก็ตาม)
พลังงานที่มีศักยภาพและทรงพลังจากต่ำสุดถึงสูงสุดมีคำอธิบายไว้ตรงหน้านี้
พลังงานธาตุที่เป็นก๊าซ
พลังงานธาตุที่เป็นก๊าซบริสุทธิ์
พลังงานธาตุเหลว
พลังงานเหลวแก่นแท้ของธาตุ
พลังงานเหลวแก่นแท้ของธาตุ– คาถาที่เพิ่มขึ้นด้วยพลังงานเหลวแก่นแท้ที่มีพลังมากกว่าพลังงานเหลวธรรมดา
พลังงานก๊าซ – ธาตุหินลากาศประกอบด้วยพลังงานนี้ (Elemental Guider ถึง Elemental Master ใช้พลังงานนี้)
พลังงานก๊าซบริสุทธิ์ – เมื่อพลังงานก๊าซปกติถูกกลั่นโดยใช้พลังงานจิต เราจะได้รับพลังงานนี้ (Elemental Mage, Elemental Archmage สามารถทำได้)
พลังงานเหลว – เราได้รับพลังงานนี้โดยการควบแน่นของพลังงานก๊าซด้วยพลังงานจิต (Elemental Overlord, Elemental Archlord สามารถทำได้)
พลังงานแก่นแท้ (ทั้งสองแบบ): เราได้รับพลังงานนี้โดยการทำให้พลังงานธาตุแบบก๊าซ หรือพลังงานธาตุเหลว ภายในทะเลธาตุของเราบริสุทธิ์ ในช่วงแรก แม้แต่ Elemental Mages และ Archmages ก็สามารถได้รับพลังงานนี้ได้ โดยการทำให้พลังงานธาตุแบบก๊าซบริสุทธิ์ด้วยพลังจิต ของพวกเขา แม้ว่ากระบวนการจะยาวนานและลำบากมากและพวกเขาจะต้องเสียพลังงานจำนวนมากในระหว่างกระบวนการก็ตาม และการทำแบบนั้นก็เพื่อให้ได้สารสำคัญเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พลังงานที่พวกเขาเสียเวลาทั้งวันทั้งคืนและได้รับเพียงจุดของพลังสำคัญและนั่นคือขีดจำกัด หากพวกมันรวมตัวกันมากขึ้น พวกมันก็อาจะทำให้ถึงตายได้
แก่นแท้ของพลังงานมีอยู่ในหินธาตุจำนวนน้อยมาก ดังนั้นพวกมันจึงไม่สามารถดึงพลังที่แท้จริงออกมาได้ แต่เมื่อรวบรวมพลังงานแก่นแท้ได้อย่างเพียงพอแล้ว มันจะดึงดูดพลังบางอย่าง (และแรงกดดัน) จากจักรวาล ซึ่งไม่สามารถทนได้โดยร่างกายปกติและดินแดนพลังงานขนาดเล็ก ดังนั้นหากไม่มีร่างกายที่ทรงพลังเพียงพอและอาณาจักรพลังงานขนาดใหญ่พอ นักเวทธาตุก็จะไม่สามารถรวบรวมพลังแก่นแท้ไว้ในร่างกายของพวกเขา ได้
ระดับ-1 Elemental Dominator: ด้วยร่างกายที่กลั่นออกมา ซึ่งมีพลัง 25000 กิโลกรัม และขอบเขตพลังงานที่มีขนาดประมาณ 50 เส้นผ่านศูนย์กลาง พวกเขาสามารถรวบรวมพลังงานแก่นแท้ได้ 1,000 หน่วย เมื่อรวบรวม 1,000 หน่วยการแบ่งขีดจำกัดจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและจะได้รับพลังงาน 1 กิโลกรัม และขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของพลังงานจิตเพิ่มขึ้น 1 เส้น
ในการรวบรวมพลังงานแก่นแท้เหลว พวกเขาจะต้องทำให้พลังงานธาตุเหลวของตนบริสุทธิ์เป็นพลังงานแก่นแท้เหลวโดยตรง อัตราการแปลงคือ 10,000: 1 หมายถึงพลังงานไฟเหลว 10,000 หน่วยให้พลังงานแก่นแท้ของธาตุไฟแบบเหลว 1 หน่วย [เพิ่มเติม เนื่องจากพวกมันไม่สามารถทำให้มันบริสุทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบและอาจะเกิดของเสียในระหว่างการทำให้บริสุทธิ์ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการพลังงานมากขึ้น เพื่อสร้างพลังงานแก่นแท้เพียง 1 หน่วย ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาไม่ได้มีวังวนสีดำอยู่ข้างในเหมือนเอธาน ซึ่งรวบรวมพลังงานที่แท้จริงได้อย่างสมบูรณ์แบบและแม่นยำได้ )
กระบวนการรวบรวมพลังงานแก่นแท้ ถ้าจะใช้พลังงานลึกลับมันต้องใช้จำนวน 1000 หน่วย แต่เมื่อเทียบกับการใช้พลังงานจิตนั้น เราจะใช้เพียงแค่ 1 จุดพลังงานเล็กๆเท่านั้น
พลังงานแก่นแท้ 1,000 หน่วยจะถูกจำกัด ด้วยขอบเขตพลังงาน 51 เส้นผ่านศูนย์กลางและ 2500 กิโลกรัม ของร่างกาย เพื่อเพิ่มการสำรองของพลังงานแก่นแท้เหลว พวกเขาจำเป็นต้องเสริมสร้างร่างกายของพวกเขาและเพิ่มขนาดของขอบเขตพลังงาน โดยใช้พลังงานแก่นแท้แบบเหลวและพวกมัน ต้องการพลังงานแก่นแท้มากกว่า 1,000 หน่วย เพื่อปรับแต่งร่างกายและเพิ่มขนาดของอาณาจักรพลังงาน ดังนั้นกระบวนการนี้จึงยาวนาน
เมื่อพวกเขาสามารถรวบรวมพลังงานเหลวได้ 5,000 หน่วยพวกเขาจะถูกพิจารณาว่าเป็น Elemental Dominator ระดับ 2 แล้ว
ระดับ-2 Elemental Dominator: 5000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว, 30,000 กิโลกรัมของพลัง และ 55 เส้นผ่านศูนย์กลางของพลังงานจิต จะเพิ่มอายุได้ 5 ปี
ระดับ-3 Elemental Dominator: 10,000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว, 35,000 กิโลกรัมของพลัง, 60 เส้นผ่านศูนย์กลางของพลังจิต เพิ่มอายุได้ 10 ปี
ระดับ-4 Elemental Dominator: 20,000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว , 45,000 กิโลกรัมของพลัง และ 70 เส้นผ่านศูนย์กลางของพลังงานจิต จะเพิ่มอายุได้ 10 ปี
ระดับ-5 Elemental Dominator: 30,000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว, 55,000 กิโลกรัมของพลัง และ 80 เส้นผ่านศูนย์กลางของพลังจิต เพิ่มอายุได้ 10 ปี
ระดับ-6 Elemental Dominator: 40,000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว , 65,000 กิโลกรัมของพลัง และ 90 เส้นผ่านศูนย์กลางของพลังจิต เพิ่มอายุได้ 10 ปี
ระดับ-7 Elemental Dominator: 50,000 หน่วย ของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว ,70,000 กิโลกรัม และ 100 เส้นผ่านศูนย์กลางของพลัง เพิ่มอายุได้ 10 ปี
ขีดจำกัดของการขยายขอบเขตพลังงานโดยใช้พลังแก่นแท้คือที่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100
ระดับ-8 Elemental Dominator: 60,000 หน่วย ของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว , 80,000 กิโลกรัม เพิ่มอายุได้ 10 ปี
ระดับ-9 Elemental Dominator: 70,000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว , 90,000 กิโลกรัม เพิ่มอายุ 10 ปี
ระดับ-10 Elemental Dominator: 80,000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว, 1,000 ตันของพลัง เพิ่มอายุได้ 10 ปี
ระดับ-11 Elemental Dominator: 90,000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว, 1100 ตัน เพิ่มอายุ 10 ปี
ระดับ-12 Elemental Dominator: 100,000 หน่วยของพลังงานแก่นแท้แบบเหลว , พวกเขาสามารถปรับแต่งร่างกายของพวกเขาและได้รับพลัง 1,500 ตัน เพิ่มอายุ 30 ปี
หลังจากอ่านทุกอย่างเอธานก็รู้สึกประหลาดใจว่า ‘วังวนสีดำได้ใช้พลังงานแก่นแท้ของธาตุจากนั้นก็ได้ให้พลังธาตุแปลก ๆ กลับคืนมา ซึ่งมันเกิดการกลั่นในร่างกายของฉัน และกลายเป็นคริสตัลที่หมุนวนไปเรื่อยๆ คริสตัลที่หมุนวนนั้นจะดูดซับพลังงานจากชั้นธาตุอากาศหรือหินและ ให้พลังงานแก่นแท้แบบเหลวแก่ฉัน ‘
“นั่นหมายความว่าฉันเป็นผู้ควบคุมธาตุอยู่แล้ว ยกเว้นแต่ว่าฉันไม่มีดินแดนเวทย์มนต์และพลังเวทย์มนต์?” เอธานพึมพำเรื่องนี้ พลางตกใจ
จากนั้นเขาก็อ่านเกี่ยวกับคาถาบางอย่าง แต่ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแล้ว ดังนั้นหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วเขาจึงกลับลงไปที่ที่ไมค์นอนหลับ
เขาไม่ได้สลาย <เกราะแห่งความมืด> ทิ้ง และตอนนี้เขาก็กำลังนั่งลง ก่อนที่จะเข้าไปในอาณาจักรพลังจิตของเขา เพื่อออกแบบชุดสูท ซึ่งมันเคยเป็นคริสตัลสีดำมาก่อน
คริสตัลที่กำลังหมุนเรื่อยๆ ภายในขอบเขตพลังงานของเขา กำลังดูดซับพลังงานจากชั้นอากาศโดยอัตโนมัติ ในขณะที่วังวนสีดำกำลังดูดซับพลังงานแก่นแท้ของธาตุอากาศไปด้วย ดังนั้นเนื่องจากเขาไม่มีอะไรทำ เขาจึงออกแบบชุดที่ทำให้มันดูเท่มากขึ้นได้ใน 5 วันนี้ โดยที่เขาคาดการณ์ไว้ว่า ภายใน 4 หรือ 5 วัน วังวนสีดำจะดูดซับพลังแก่นแท้ของธาตุอวกาศได้เพียงพอ
ตอนที่ 37: หลอกให้หลงกล … แต่พลังที่แท้จริงนั้น
“ แต่อาจารย์ของฉันอารมณ์ร้ายและถ้าเขาเห็นใครที่เป็นคนนอก เขาก็จะเคลื่อนไหวเอง ถ้านายมั่นใจในการเอาชนะผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของระดับ Elemental Dominator ได้ล่ะก็ นายก็อยู่ที่นี่ต่อไปได้”
หลังจากพูดสิ่งนี้ยาชิลก็มองไปที่เอธานเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา แต่สิ่งที่เขาเห็นได้จากใบหน้าของเอธาน คือรอยยิ้มเล็กน้อยที่เต็มไปด้วยความเฉยเมย
เหมือนกับว่าเขาไม่สนใจเลยว่าอาจารย์ของเขาคือคนที่อยู่จุดสูงสุดของระดับ Elemental Dominator
เอธานมีเหงื่อออกเล็กน้อย หลังจากได้ยินเกี่ยวกับ Elemental Dominator แต่เขาก็ยังคงยิ้มและพูดอย่างเฉยเมย “แค่ … Elemental Dominatorเองเหรอ?”
ริมฝีปากของยาชิลกระตุก เมื่อได้ยินเช่นนั้นและคิดว่า ‘ แค่… Elemental Dominator งั้นเหรอ หมายความว่าอย่างไร? นายรู้หรือไม่ว่าการเข้าถึงขั้น Elemental Dominator นั้นยากแค่ไหน?’ เขาเริ่มสงสัยในตัวตนของชายหนุ่มคนนี้
เอธาน ได้คิดแผนการแล้ว หลังจากที่พูดไปเมื่อไม่นานมานี้ เขาพบว่าพลังงานของเขาคนนั้นนั้นทรงพลังและทรงพลังยิ่งกว่า Elemental Overlords เพียงแค่มีพลังงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาก็สามารถเจาะคาถาป้องกันของ Elemental Overlords ได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจ เพื่อแสดงพลังของเขาต่อหน้าผู้ชายที่ชื่อยาชิลคนนี้และทำให้เขาตกใจเล็กน้อย ด้วยวิธีนี้เขายังสามารถหาข้อมูลบางอย่างได้
เมื่อแยกแยะความคิดของเขาออกไปได้ เอธานก็มองไปที่ยาชิล และแสร้งทำสีหน้าประหลาดใจ ขณะพูด “อย่าบอกนะว่าคุณคิดว่าระดับ Elemental Dominator นั้นทรงพลังมาก?”
ยาชิลพูดไม่ออก เมื่อได้ยินสิ่งนั้นและเขาจึงตอบกลับด้วยใบหน้าที่มืดมน “แน่นอนว่าคนระดับนั้นมีพลังมาก ระดับ Elemental Dominators เป็นสิ่งมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน Griza Star Sector แล้ว”
“ไม่รู้อะไรแล้วสินะ !!” เอธานตะโกน ขณะที่ใบหน้าของเขาแสดงความผิดหวัง
เมื่อได้ยินสิ่งที่เอธานพูด ยาชิลก็เกือบสะดุด แม้ว่าจะยืนได้อย่างมั่นคง
เอธานมองไปที่ยาชิลราวกับว่าเขากำลังมองไปที่คนงี่เง่าและพูดพร้อมกับส่ายหัว “วันนี้ฉันจะขยายขอบเขตของคุณให้กว้างขึ้น อย่างน้อยคุณก็บอกได้ว่าฉันไปถึงขั้นไหนแล้ว?”
ยาชิลพยักหน้าและพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง “คุณมาถึงจุดสุดยอดของ Elemental Overlord แล้ว” ในความเป็นจริงยาชิลพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่ามี Elemental Overlord ที่อายุน้อยเช่นนี้อยู่
“งี่เง่า !!”
เอธานส่ายหัวโดยไม่สนใจสีหน้าของยาชิลที่ทำหน้าเหมือนมีอาการท้องผูกและพูดว่า “คราวนี้ดูดีๆนะและถ้าคุณมองไม่เห็นว่าขอบเขตของพลังของฉันเป็นอย่างไร หลังจากนั้นก็หมายความว่าคุณเป็นคนโง่เขลาเท่านั้น”
หลังจากพูดเสร็จเขาใช้ Fireball (ลูกไฟ) คราวนี้เขาไม่ได้อั้นพลังไว้เลยและใช้พลังงานไฟ 100 หยด
แม้ว่าเอธานจะบีบอัด Fireball อย่างสุดความสามารถ แต่มันก็ยังดูมีความใหญ่มาก เมื่อตอนนี้มันมีขนาดถึง 180 เส้นผ่านศูนย์กลาง
เมื่อเห็นลูกไฟขนาดมหึมา ผู้คนบางคนบนสัตว์ร้ายก็แทบจะอยากฉีกกางเกงของพวกเขาออกไป
ใบหน้าของยาชิลขึ้นสีด้วยความกลัว เมื่อเห็นลูกไฟและคิดว่า ‘พลังงานที่ทรงพลังนั้น ฉันไม่ได้รู้สึกมันมาจากหอกมากขนาดนั้นเลย เพราะเขาต้องใช้มันในปริมาณที่น้อยมากแน่ๆ แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่ทรงพลังของลูกไฟนั้นชายคนนั้น … ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาถึงระดับ Elemental Dominator แล้ว…’
แม้ว่าเขาจะรู้สึกกลัวกับการคาดเดาของตัวเอง ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเริ่มฝึกฝนตั้งแต่เมื่อเขาอยู่ในครรภ์มารดา แต่ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย
เนื่องจาก Elemental Dominator เป็นอุปสรรคใหญ่ที่ต้องผ่านหลังจากไปถึงขั้นของ Elemental Archlord
ถูกต้องหลังจากขั้นของ Elemental overlord มาถึง Elemental Archlord แล้วก็ถึงจะมาถึงขั้น Elemental Dominator
แต่เอธานไม่รู้ เขาแค่คิดว่าระดับ Elemental Dominator มาหลังจาก Elemental Overlord
“คุณคิดว่ายังไง คุณอยากเห็นพลังของ Fireball นี้หรือไม่” เอธานมองไปที่ยาชิลและพูด
แต่เขาไม่รอคำตอบของยาชิล ในขณะที่เขาโยน Fireball ไปยังภูเขาที่อยู่ห่างออกไป 1 กม. เนื่องจากพื้นที่ป่าแห่งนี้มีภูเขาสูงใหญ่จำนวนมาก
ผู้คนบนสัตว์ร้ายเฝ้าดู ขณะที่ลูกไฟมหึมาพุ่งชนภูเขาลูกใหญ่และจากนั้น …
* บู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม….. *
ภูเขาหายไปการระเบิดและมันได้ทำลายภูเขาขนาดใหญ่ให้หายไปอย่างแท้จริง และแม้กระทั่งสภาพแวดล้อมก็ถูกทำลายลง เมื่อคลื่นกระแทกของการระเบิดมาถึงพวกเขา
แม้แต่เอธานเองก็ตกใจจนพูดไม่ออก แต่โชคดีที่ไม่มีใครเห็นการแสดงออกของเขา ในขณะที่เขาเปลี่ยนมันกลับมาอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาก็หันไปมองที่ยาชิลและพูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่แยแส “ตอนนี้คุณรู้หรือไม่ว่าระดับของฉันคืออะไร”
เมื่อได้ยินเสียงของเขา ผู้คนต่างก็รู้สึกงุนงง ขณะที่พวกเขามองไปที่เอธานอย่างหวาดกลัว ใบหน้าของ ยาชิลก็ซีดลง ในขณะที่เขาโค้งคำนับอย่างรวดเร็วและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “ข้าเป็นเพียงเด็กน้อย ข้าขอทำความเคารพต่อท่าน Dominator ผู้ยิ่งใหญ่”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นริมฝีปากของเอธาน ก็กระตุก ในขณะที่เขาแทบไม่สามารถระงับการแสดงออกที่ไม่แยแสของเขาได้
‘F ** Dominator เหรอ ตอนนี้ฉันกลายเป็นผู้ครอบครองธาตุทั้งหมดแล้วเหรอ? ฉันต้องการข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปอีก ‘
“คุณรู้ไหมว่าที่ที่ฉันมามี Elemental Dominators เป็นองครักษ์ แน่นอนฉันเป็นข้อยกเว้นเพราะฉันเป็นอัจฉริยะและอาจารย์ของฉันก็มีพลังมาก จนคุณไม่สามารถจินตนาการถึงพลังของเขาได้เลย” แม้ว่า เขาไม่คุ้นเคยกับการยกย่องตัวเอง แต่เขาก็บังคับตัวเองให้ทำเพื่อประโยชน์ของแผนการที่เขาสร้างขึ้น
จากนั้นเขาก็ขึ้นเสียงของเขาและพูดด้วยเสียงทุ้ม “ตอนนี้ให้ฉันถามคุณอีกครั้งว่า Elemental Dominators มีพลังมากหรือไม่?
ร่างของยาชิลสั่นสะท้าน ขณะที่เขารีบพูด “ใช่ … ข้าหมายถึงไม่มีใครมีพลังเทียบท่านได้เลย”
เอธานพยักหน้าเมื่อได้ยินและพูดด้วยน้ำเสียงสั่งการ “แม้ว่าปกติแล้วฉันจะต้องฆ่าพวกคุณทั้งหมด นั่นเพราะคุณพยายามจะฆ่าฉัน แต่วันนี้ฉันอารมณ์ดี ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำก็คือทิ้งแหวนเก็บของของคุณไว้ข้างหลังและ บอกอาจารย์ของพวกคุณด้วยว่าอย่าเสียเวลามาที่นี่เพราะอาจารย์ของข้าก็จะมาที่นี่หลังจากนั้น 6 วันและเขาก็มีพลังมากกว่า Elemental Dominator ”
ไม่มีใครกล้าส่งเสียงประท้วง ขณะที่พวกเขารีบมอบแหวนเก็บของให้กับเอธาน ก่อนที่จะวิ่งหนีไป แม้ว่าจะมีเพียง 4 คนเท่านั้นที่มีแหวนเก็บของในกลุ่ม
เขาไม่ได้ฆ่าพวกเขาเพราะเขาต้องการเผยแพร่สิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับกลุ่มคนพวกนั้นและโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจารย์คนนั้นที่อยู่ที่ The Lotus Ridge Sect นั่นโดยให้ยาชิลคนนั้นไปบอก
พวกเขาอาจจะลังเลและคิดมาก ก่อนมาที่นี่และ เนื่องจากเขาบอกว่าอาจารย์ของเขาจะมาหลังจากนั้น 6 วัน พวกเขาคงจะไม่ทำการเคลื่อนไหวใด ๆ จนกว่าพวกเขาจะยืนยันการมีอยู่ของพี่ชายของเขา อย่างไรก็ตามเขาจะออกไปหลังจากนี้ 5 วัน เมื่อเวรการปกป้องโซนอันตรายของลาฟิวจะมาถึงในไม่ช้า
ในทางกลับกัน ถ้าเขาฆ่าพวกคนพวกนั้น เขาก็จะต้องหนีไปก่อนที่จะได้รับความสัมพันธ์ทางอวกาศแน่นอน และสิ่งต่างๆก็จะลำบากมากขึ้นเช่นกัน
จากนั้นเอธานก็มองไปที่แหวนเก็บของทั้ง 4 และเริ่มเรียกดูเนื้อหาของพวกมัน เขาต้องการข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการฝึกฝนอย่างเร่งด่วน
หลังจากเรียกดูแหวนเก็บของทั้ง 4 วง รวมทั้งแหวนเก็บของอีก 2 วงที่เขาได้รับหลังจากฆ่าคนที่ต่อสู้กับ หัวหน้าหุบเขาแล้ว เขาก็แยกเนื้อหาของพวกมันออก และใส่ไว้ในวงแหวนเก็บของที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นของยาชิล
มันมีพื้นที่ 200 ลูกบาศก์เมตร
ความมั่งคั่งในปัจจุบันของเขามีจำนวน
หินที่เอธานได้รับมาจากแหวนนั้น
หินทั้งหมด –
17x เกรดพีค(สูงสุด) และ 243x หินไฟเกรดสูง
14xเกรดพีค และ 122x หินน้ำเกรดสูง
16xเกรดพีค และ 98x หินไม้เกรดสูง
11xเกรดพีค และ 217x หินดินเกรดสูง
15x เกรดพีค และ 190x หินอากาศเกรดสูง
18xเกรดพีค และ 179x หินสายฟ้าเกรดสูง
9xเกรดพีค และ 67x หินมืดระดับสูง
10x เกรดพีค และ 87x หินแสงระดับสูง
เขายังใส่ข้อมูลนี้ในแผงสถานะของเขาด้วย เพื่อให้เขาสามารถติดตามความมั่งคั่งของเขาได้
________________________________________________
<เอธาน ลอง: ~ Elemental Overlord (ครึ่งหนึ่ง)>
<สถิติ>
ความแข็งแรง: –
ร่างกาย:—
ความเร็ว:—
จิตใจ: —
[~ อาณาจักรพลังจิต: ชำระแล้ว ~]
– พลังจิต: 100% / 100%
[~ ขอบเขตพลังงาน: ไฟ สายฟ้า น้ำ ดิน ไม้ อากาศ มืด ~]
[คาถาอักษรรูน]
-ลูกไฟ
– หอกสายฟ้า
-ฟองอากาศแห่งความมืด / อุปสรรคมืด
– ทอร์นาโดไฟ
-ปีกสายฟ้า
-ที่คุมขังจำนวนมาก
[ศิลปะอักษรรูน]
– เสือเฮอริเคน 4 ปีก
[ที่เก็บข้อมูล]
17x เกรดพีค(สูงสุด) และ 243x หินไฟเกรดสูง
14xเกรดพีค และ 122x หินน้ำเกรดสูง
16xเกรดพีค และ 98x หินไม้เกรดสูง
11xเกรดพีค และ 217x หินดินเกรดสูง
15x เกรดพีค และ 190x หินอากาศเกรดสูง
18xเกรดพีค และ 179x หินสายฟ้าเกรดสูง
9xเกรดพีค และ 67x หินมืดระดับสูง
10x เกรดพีค และ 87x หินแสงระดับสูง
__________________________________________________
นอกเหนือจากหินธาตุแล้วเขายังมีหนังสืออีก2-3เล่มที่บันทึกคาถาไว้ด้วย
และเขายังพบสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้จากแหวนของยาชิล
เป็นข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการฝึกฝน
เขาข้าม 2-3 หน้าแรกและเริ่มอ่านตั้งแต่ขั้นตอน Elemental Overlord
เอธานรู้แล้วว่า Elemental Overlords ต้องการพลังงานลึกลับเพื่อเปลี่ยนพลังงานก๊าซให้เป็นของเหลว ซึ่งจะนำการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพของพลังงานทำให้มีพลังมากขึ้น
แต่มีมันมี 3 ระดับใน Elemental Overlord
ระดับที่ 1 Elemental Overlord : Elemental Overlords เหล่านี้เพิ่งเปลี่ยน อาณาจักรพลังจิต ให้เป็น อาณาจักพลังลึกลับ และพลังงานลึกลับของพวกเขายังอยู่ในปริมาณเล็กน้อย ดังนั้นพวกเขาจึงมีพลังงานของเหลว สำรองอยู่ในระดับต่ำ
ระดับที่ 2 Elemental Overlord: หลังจากที่ล้างสิ่งสกปรกสีดำภายใน อาณาจักรพลังลึกลับ จนหมดแล้ว พวกเขาจะถูกพิจารณาว่าเป็น Elemental Overlord ระดับ 2 เพราะด้วยความช่วยเหลือของพลังงานึกลับ จำนวนมาก พวกเขาสามารถเร่งกระบวนการการเปลี่ยนแลงของพวกมันได้ จากพลังงานก๊าซเป็นพลังงานของเหลว และเนื่องจากสามารถใช้พลังงานลึกลับได้ ในการต่อสู้ เพื่อการควบคุมคาถาได้ดีขึ้นแล้ว คนที่อยู่ระดับ 2 ของ Elemental Overlords จึงมีข้อได้เปรียบที่สำคัญเหนือ Overlords ระดับ 1
ระดับที่ 3 Elemental Overlord: หากใครต้องการเป็นหัวหน้าระดับ 3 Elemental Overlord พวกเขาจำเป็นต้องสร้าง ประตูหมุนควบแน่น หลังจากทำลาย ประตูปรับแต่งหมุนเวียน ประตูนี้ที่สร้างจากพลังเวทย์มนต์และสามารถควบแน่นพลังงานที่ดูดซับจากชั้นบรรยากาศและหินธาตุให้เป็นพลังงานธาตุเหลวโดยอัตโนมัติ แต่กระบวนการนี้ยากและซับซ้อนมาก เนื่องจากต้องใช้ความพยายามมากมายในการสร้างประตูนี้
เอธานพลิกไปหน้าถัดไปและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ด่านต่อไปหลังจาก Elemental Overlord ไม่ใช่ Elemental Dominator แต่เป็น Elemental Archlord ซึ่งทำให้ เอธานตกใจมาก
‘F ** K ฉันดีใจที่ไม่ได้พูด Bullsh * t เกี่ยวกับสิ่งที่ฉันไม่รู้ ไม่อย่างนั้นการปกปิดของฉันจะถูกอีกฝ่ายรู้’
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเขาอ่านคำอธิบายของ Elemental Archlords และรู้สึกประหลาดใจ
Elemental Archlord: หลังจากที่สามารถสร้างประตูปรับแต่งหมุนเวียนได้สำเร็จ พวกเขาจำเป็นต้องเริ่มปรับแต่งร่างกายของพวกเขา โดยใช้พลังงานธาตุที่เป็นของเหลวที่พวกเขาฝึกฝนและพวกเขายังต้องเริ่มขยายขอบเขตพลังงานของพวกเขา เพื่อเพิ่มพลังงานทะเลสำรองมีเหตุผล 2 ประการ ทำไมพวกเขาถึงต้องปรับแต่งร่างกาย สิ่งแรกคือการขจัดสิ่งเจือปนในร่างกาย โดยใช้พลังงานที่ทำให้เป็นของเหลวและเพื่อเพิ่มอายุขัยของพวกเขา อย่างที่ 2 คือการควบคุมพลังงานธาตุของพวกมันให้ดีขึ้น หากร่างกายของพวกเขาได้รับการขัดเกลา การควบคุมพลังงานที่ทำให้เป็นของเหลวก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
เมื่ออ่านสิ่งนี้เอธานก็คิดว่า ‘สิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไมฉันถึงควบคุมพลังงานได้อย่างง่ายดาย ‘
(แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระดับพีคของเขาก็มีบทบาทเช่นกัน แต่ร่างกายที่บริสุทธิ์ของเขาก็มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบเช่นกัน)
Elemental Archlord ยังมีระดับต่างๆอีก
ระดับ 1 Elemental Archlord: ถ้าพวกเขาสามารถต้านทานการโจมตีของ Elemental Master ด้วยร่างกายของพวกเขาได้ และถ้าหมัดกายภาพของพวกเขาสามารถใช้พลังได้ถึง 1,000 กิโลกรัม พวกเขาก็อยู่ที่ ระดับ-1 Elemental Archlord อายุขัยของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น 5 ปี
ระดับ-2 Elemental Archlord: หากพวกเขาสามารถทนต่อการโจมตีของ Elemental Archmage ด้วยร่างกายของพวกเขาและถ้าหมัดกายภาพของพวกเขาสามารถใช้พลังได้ถึง 5,000 กิโลกรัมพวกเขาก็อยู่ที่ ระดับ-2 Elemental Archlord ช่วงชีวิตของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น 25 ปี
ระดับ-3 Elemental Archlord: ถ้าพวกเขาสามารถต้านทานการโจมตีของ Elemental Overlord ด้วยร่างกายของพวกเขาและถ้าหมัดกายภาพของพวกเขาสามารถใช้พลังได้ถึง 25000 กิโลกรัม พวกเขาก็อยู่ที่ ระดับ-3 Elemental Archlord ช่วงชีวิตของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น 125 ปี
‘โอ้ นั่นหมายความว่าอายุขัยของฉันก็เพิ่มขึ้นด้วย ฉันสงสัยว่าตอนนี้พลังกายของฉันแข็งแกร่งแค่ไหน? ‘ เอธานสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจึงพลิกไปหน้าถัดไป
ตอนที่ 36: ดาว Griza Star Sector และนิกาย Lotus Ridge Sect
บุคคลนั้นดูมีอายุราว ๆ 30 ปีและมีท่าทางห้าว ดวงตาของเขามีความเย่อหยิ่งและจองหอง แต่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและสุภาพ “น้องชายตัวน้อยทั้ง 2 คนนี้ พื้นที่รอบภูเขานี้จะไม่ถูกจำกัดการเข้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึง ตอนที่เราทำธุรกิจของเราที่นี่เสร็จแล้ว ฉันหวังว่าพวกนายจะโทรหาอาจารย์ของนายได้และจากไปเพราะพวกเราจากห้องโถงพันเทพเจ้า มีเรื่องสำคัญที่ต้องเข้าร่วมที่นี่ คุณสามารถกลับมาหลังจากนั้น 1 เดือนๆได้เพราะเราจะเสร็จธุระภายในเวลานั้น ”
เอธาน แปลกใจที่เห็นคนจากห้องโถงพันเทพมาที่นี่ … เพราะตอนนี้พวกเขาติดอันดับ 1 ใน 10 ของรายชื่ออาณาจักรที่เก่งกาจ
จากนั้นเขาก็มองไปที่ชายคนนั้นและส่ายหัว ขณะที่เขาพูดต่อว่า “คุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ แต่อย่ามารบกวนเราที่นี่และฉันจะไม่รบกวนคุณด้วยมิฉะนั้น …. “
“ ไม่งั้นจะทำยังไงได้ล่ะ ….. ” ท่าทางของชายคนนั้นเปลี่ยนไป เมื่อเขาตัดบทพูดของเอธาน ใบหน้าของเขาดูเย้ยหยันและปากของเขาโค้งขึ้น ขณะที่เขาพูดต่อ “ได้ยินที่ฉันพูดไหมพวกเรามาจากโถงพันเทพเจ้าจะมาครอบครองพื้นที่นี้เป็นเวลา 1 เดือนและพวกนายมีเพียง 2 ทางเลือกไม่ว่าจะเป็นตะเกียกตะกายหนีไปหรืออยากจะตายๆที่นี่”
เอธานพึมพำ“ ตะเกียกตะกายหนีไปเหรอ?”
จากนั้นเขาก็มองไปที่ชายคนนั้นและยิ้มอย่างสดใส ในขณะที่เขาพูดว่า “เอาล่ะ ถ้าคุณไม่หนีไปภายใน 10 ลมหายใจ …. “
ก่อนที่เอธานจะพูดจบ ซึ่งเขาอยากจะพูดเหมือนที่ตัวละครในนิยายพูด จู่ๆอีกฝ่ายก็เริ่มสร้าง ตะปูดินและปล่อยพวกมันไปที่ค่ายของเอธานและไมค์
เอธานงับนิ้วของเขา (เพื่อให้ดูเท่) และเกราะความมืด ก็ปรากฏขึ้น ซึ่งครอบคลุมค่ายของเอธานและ ไมค์ทันทีและทำให้ ตะปูดิน ที่ปล่อยออกมาโดยชายคนนั้นเป็นโมฆะได้อย่างง่ายดาย
“ ทำไมพวกคุณรีบหาที่ตายจังล่ะ?” เอธานส่ายหัวไปทางชายคนนั้นและคว้าคอของผู้ชายคนนั้น ก่อนที่จะบินไปหาสัตว์ร้ายบนท้องฟ้า
ชายที่ถูกจับที่คออยู่นั้น ตกใจกลัวและก่อนที่เขาจะพูดอะไร เขาเห็นเอธานกำลังบินไปหาสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง ซึ่งทำให้เขาดีใจเล็กน้อย
ใช้เวลาไม่นานนัก เอธานก็มาถึงด้านบนของสัตว์ร้ายและบนนั้นมีคนประมาณ 15 คน บนสัตว์ร้ายคนส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 30 ปี ยกเว้นชายหนุ่มคนหนึ่ง ในขณะที่คนแก่ 2 คนดูมีพลังมากเป็นพิเศษ
พวกเขาสังเกตเห็นได้โดยตรงเมื่อเอธานขึ้นมาหาพวกเขาและใบหน้าของพวกเขาก็มืดลง เมื่อเห็นชายที่โดนจับไว้
ชายที่ถูกคว้าตัวโดยเอธานรีบพูด “ได้โปรดช่วยฉันด้วยท่านผู้อาวุโส”
ผู้เฒ่าคนหนึ่งที่มีผมสีขาว มีหนวดเคราสีขาวและมีรูปร่างผอมบางพูดด้วยน้ำเสียงสั่งการว่า “วางเขาลงเดี๋ยวนี้! จากนั้นเราจะได้พูดเรื่องต่างๆออกไป อย่าทำท่าทางบุ่มบ่ามที่จะทำให้คุณต้องเสียใจในภายหลัง .”
เอธานยิ้มและวางเขาลงก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ คุณจะพูดอะไรออกมาเหรอ”
ผู้เฒ่าทั้งสองตกตะลึง เมื่อเห็นเอธานวางชายคนนั้นอย่างเชื่อฟัง แต่พวกเขาฟื้นตัวเร็วมาก ขณะที่ผู้อาวุโสอีกคนที่หัวโล้นและมีร่างกายใหญ่โตพูดด้วยท่าทางสบาย ๆ ว่า “เอาล่ะ ไปได้แล้วเรากำลังช่วยชีวิตคุณอยู่นะ ตั้งแต่ที่คุณปล่อยเขาออกมา คุณจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่อย่าเดินเตร่ไปบนภูเขาเป็นเวลา 1 เดือน มิฉะนั้นเราจะฆ่าคุณ ”
เอธานพยักหน้า ขณะยิ้มและพูดว่า “ดีแล้ว ลองมาพยายามที่จะฆ่าฉันดูสิ”
ผู้เฒ่าหัวโล้นโกรธมากที่เห็นเด็กหนุ่มคนนั้นไม่สนใจเขา“ ตั้งแต่เจ้าจับตัวเขาได้ นั่นหมายความว่าเจ้ามีพลังมากกว่าเขา ทั้งๆที่ยังเด็กอยู่ แต่ … เด็กน้อยแบบนี้ไม่มีทางเป็นถึง Elemental Archmage ด้วยอายุน้อยเช่นนี้ได้หรอก .. .. ”
“เฮ้ ชายชราหยุดเสียลมหายใจและไปฆ่าเขาเถอะ อาจารย์ของฉันต้องการให้พื้นที่นี้ถูกปิดผนึกภายในวันนี้ เนื่องจากเขาจะมาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญของนิกายของเราในวันพรุ่งนี้” คำพูดของผู้อาวุโสถูกตัดออกโดยชายหนุ่มที่อายุใกล้เคียงกับเอธาน ซึ่งเขายืนอยู่ไม่ไกลจากผู้อาวุโสทั้งสองและมีท่าทางที่เย่อหยิ่งอยู่รอบตัวเขา
เมื่อได้ยินคำพูดนั้นใบหน้าของผู้อาวุโสก็เปลี่ยนไป ในขณะที่เขารีบประสานมือเข้าหาชายหนุ่มและพูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพ “นายน้อย แน่นอน ฉันจะกำจัดศัตรูพืชนี้ทันที”
หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็หันไปหาเอธานและโบกมือของเขา ในขณะที่เขาขว้างแส้สายฟ้าไปที่คอของ เอธานด้วยความตั้งใจที่จะฆ่า
เอธานไม่ขยับและปล่อยให้แส้สายฟ้าพันรอบคอของเขา ในขณะที่เขาพูดพลางพยักหน้า “ความเร็วในการร่ายคาถาและการควบคุมดูดีนี่ Elemental Overlords คนนี้ดูทรงพลังอย่างแท้จริง”
ปัจจุบันผู้อาวุโสที่ปล่อยแส้สายฟ้ามีสีหน้าตกใจ
ประการแรกพลังสายฟ้าของแส้ของเขาน่าจะสร้างความเสียหายให้กับคอของเอธานแล้ว แต่มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นและเมื่อเขาพยายามดึงแส้ เขาก็พบว่า … พลังของเขาน้อยไปอย่างมาก
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เอธานคว้าแส้สายฟ้าและดึงมัน ซึ่งดึงชายชรามาด้วย
แต่ชายชราสลายแส้ของเขาไปครึ่งหนึ่งก่อน ขณะที่เขาถอยกลับไปหาผู้อาวุโสคนที่ 2 ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างจริงจังมากขึ้น
เอธานเรียก <หอกสายฟ้า> และคว้ามัน ก่อนที่จะพูดพร้อมกับแสยะยิ้มบนใบหน้าของเขา “ฉันให้เวลาคุณ 2 นาทีในการหาวิธีการป้องกันของคุณ ถ้าคุณสามารถรับการโจมตีนี้และอยู่รอดได้ … ฉันจะให้คุณได้ มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น “
เขาอยากจะพูดอะไรออกไปเพิ่มอีกเพราะเขาเพิ่งได้ยินบางอย่างที่น่าสนใจมากว่ามา ‘ทำไมผู้อาวุโสสูงสุดของฝ่ายอันดับ 1 ถึงแสดงความเคารพต่อหน้าชายหนุ่มที่ … มาจากนิกายอื่น? ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือนิกายที่เรากำลังมีปัญหานั้น เป็นหน่วยงานที่ทรงพลังกว่ามาก ‘
เมื่อเขาเดินทางมาที่นี่กับหัวหน้าหุบเขา เขาได้ถามโครงสร้างทั่วไปของโลกนี้และรายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มชั้นนำและสิ่งอื่น ๆ แต่เขาไม่เคยได้ยินว่ามีคนที่มีอำนาจมากขนาดนี้ ที่ชายหนุ่มจากที่นั่นสามารถสั่งการผู้อาวุโสสูงสุดของอาณาจักรอันดับที่ 1 ได้ และทำให้ผู้อาวุโสคนนั้นแสดงความเคารพต่อเขา
เมื่อนั้นเอธานก็เห็นว่า 2 นาทีผ่านไปผู้อาวุโสทั้งสองได้ร่ายเวทย์ป้องกันหลายประเภทไว้รอบตัวพวกเขา
คาถาเหล่านั้นส่วนใหญ่ประกอบด้วยธาตุดิน แสง และไฟ พวกเขาวางกำแพงดินแข็ง โล่สายฟ้า และโล่ไฟไว้ข้างหน้าพวกเขา
ผู้อาวุโส 2 คนนี้รู้สึกได้ว่าพลังงานที่บรรจุอยู่ในหอกว่ามันมีพลังมากขึ้น เนื่องจากสัญชาตญาณของพวกเขาเริ่มกรีดร้องใส่พวกเขาเกี่ยวกับอันตราย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลั้นพลังไว้ และสร้างที่กำบัง และเมื่อสร้างการป้องกันเสร็จแล้วภายใน 2 นาที
“เมื่อคุณพร้อมแล้วก็ …. ขอให้โชคดี” พูดแบบนี้แล้ว เอธานก็ กระชับกล้ามเนื้อของเขา ในขณะที่เขาดึงหอกกลับมาก่อนที่จะขว้างมันไปทางผู้อาวุโสด้วยพลังเต็มที่ของเขา
* บูม …. *
<หอกสายฟ้า> ฉีกกำแพงเสียงในเสี้ยววินาที ขณะที่มันชนแนวป้องกันที่ผู้อาวุโส 2 คนนั้นสร้างขึ้น
หอกฉีกผ่านกำแพงดินเหมือนมีดที่ตัดผ่านเนยและ เมื่อมาถึงโล่สายฟ้ามันก็ไม่ได้มีโอกาสได้ป้องกันแม้แต่น้อย แถมพลังงานสายฟ้าของหอก จะถูกดูดเข้ากับหอกสายฟ้าและนำไปใช้อย่างต่อเนื่องไปอีก หลังจากฉีกผ่านคาถาป้องกันมากมายและเมื่อมันโดนโล่อัคคีครั้งที่4แล้วในที่สุดหอกสายฟ้าก็สลายไป
เมื่อเห็นผลลัพธ์ผู้อาวุโสทั้ง 2 ก็เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า ขณะที่รู้สึกถึงพายุที่โหมกระหน่ำในใจ
‘ชายหนุ่มผู้นี้มีพลังเพียงใดกัน? ‘
แน่นอนว่าเอธานได้ใช้พลังงานสายฟ้า 5 หยดในหอกไปแล้ว ถ้าเขาเพิ่มพลังงานมากขึ้น เขาก็สามารถทำลายการป้องกันของพวกเขาได้ แต่นั่นจะทำให้จุดประสงค์ของเขาไม่อาจะเสร็จสมบูรณ์ได้
ด้วยการหยด 5 หยดลงในหอก เอธานสามารถสร้าง <หอกสายฟ้า> ขนาดที่สมบูรณ์แบบได้ เนื่องจากมันยังมีข้อจำกัด เรื่องของการบีบอัดพลังงานภายในและขนาดที่พอดีได้เท่าใดนั้นยังคงเป็นปัญหา หากเขาเพิ่มพลังงานมากขึ้น เขาจะต้องเพิ่มความหนาของหอก ซึ่งจะไม่พอดีกับด้ามจับของเขา หรือถ้าเขาเพิ่มความยาวของหอก ซึ่งจะทำลายสมดุลและทำให้ยากต่อการเล็งหากเขา เพราะเขาต้องการขว้างหอกให้เร็วขึ้น และเป็นระยะทางไกลมากกว่า
แน่นอนว่ามีอีกวิธีหนึ่งในการขว้างหอก นั่นคือการใช้พลังจิตของเขาในการขว้างหอก แต่พลังของพลังจิตนั้นอ่อนแอกว่าความแข็งแกร่งทางกายภาพในปัจจุบันของเขา
เอธานมองไปที่ผู้อาวุโสทั้งสอง ขณะที่เขายิ้มและถามว่า “งั้นตอนนี้เรามาคุยกันเถอะ”
ผู้อาวุโสทั้งสองพยักหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความกลัว ขณะที่ผู้อาวุโสที่มีผมสีขาวพูดว่า “เราคุยกันได้และคุณสามารถอยู่รอบ ๆ ภูเขานี้ได้ เพื่อฝึกฝน แต่ … ” เขาลังเลขณะมองไปที่ชายหนุ่มที่มาจากนิกายอื่น
ชายหนุ่มผมสีแดงและส่วนสูงประมาณ 5.8 ฟุต เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่ผู้อาวุโสมอบให้เขา เขาครุ่นคิดสักครู่ ก่อนที่จะมองไปที่ เอธานด้วยความไม่กลัวและพูดด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งผยองและไม่สุภาพว่า“ เนื่องจากนายมี พลังเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย แสดงว่านายต้องมาจากดวงดาวอื่นๆอย่างนั้นฉันจะแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อยาชิล และฉันมาจาก Griza Star Sector อาจารย์ของฉัน ซึ่งเป็นหัวหน้านิกายของ Lotus Ridge Sect จะมาในวันพรุ่งนี้ และทำการสำรวจภูเขาแห่งนี้ หากคุณต้องการที่จะอยู่ ก็เป็นทางเลือกของคุณ แต่ … ”
————————————————-
ขออนุญาตใช้คำทับศัพท์ชื่อเมือง เพราะแปลเป็นไทยแล้วอาจจะไม่ค่อยรื่นหู และแบบนี้จะทำให้เข้าใจ,จำได้ง่ายกว่าแบบภาษาไทยค่ะ
————————————————-
เขาหยุดชั่ววินาที และชายหนุ่มคนนั้นยิ้มพลางพูดต่อว่า “แต่เจ้านายของฉันอารมณ์ไม่ดี และถ้าเขาเห็นใครที่เป็นคนนอก เขาก็จะเคลื่อนไหวไปเอง ถ้านายมั่นใจว่าจะเอาชนะเขาที่อยู่จุดสูงสุดของระดับ Elemental Dominator ได้ นายก็อยู่ที่นี่ต่อไปซะ “
ตอนที่ 35: การตัดสินใจของเทียน่า และห้องโถงพันเทพเจ้า
ขณะที่เอธานและไมค์อยู่ในป่าต้นกำเนิดโดยที่ภูเขานั้นเต็มไปด้วยธาตุอวกาศอันวุ่นวาย
ก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นในหุบเขาสายฟ้า – ไฟ
การรักษาหัวหน้าหุบเขาใช้เวลาถึง 8 วัน ในขณะที่เขาขอคนที่มีพลังมากพอและต้องมาพร้อมกับความสัมพันธ์ของธาตุสายฟ้าจากอีกฝ่าย เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเขาด้วย
จากนั้นเขาก็ลงโทษเฮนนิลและปู่ของเขา ซึ่งลดตำแหน่งผู้อาวุโสเฮลนิลลง และถูกขับออกไปยังส่วนในของเมืองหุบเขา และ ผู้อาวุโสโอนุกก็ถูกลดระดับและกลายเป็นผู้อาวุโสของส่วนในหุบเขาสายฟ้า-ไฟแทน จากนั้นแล้วครอบครัวของเขาก็จะสูญเสียสิทธิ์ในการอาศัยอยู่ในเกาะลอยน้ำแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถกลับมาที่ส่วนกลางของหุบเขาสายฟ้า – ไฟได้ เว้นแต่ผู้อาวุโสโอนุกจะกลายเป็น Elemental Overlord เท่านั้น
หลังจากนั้นเขาก็ประกาศอีกเรื่องที่ทำให้ผู้คนตกใจ
เขารับศิษย์โดยตรงอีกคนและพิธีนั้นจะจัดขึ้นหลังจากการเตรียมการจะผ่านไป 2 วัน
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีอาจารย์และสาวกของส่วนกลางที่มีความสามารถหลายคนก็มาพร้อมกับผู้อาวุโสเพื่อขอแต่งงานกับเทียน่า และนี่ก็เป็นโอกาสดีที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับหุบเขาสายฟ้า -ไฟ
แต่เทียน่าปฏิเสธพวกเขาทั้งหมด
ขณะนี้เทียน่ากำลังอยู่ในอาการงุนงง ขณะที่เธอนั่งใกล้หน้าต่างชั้นบนสุดของพระราชวังหลัก
และตอนนี้หัวหน้าหุบเขาก็มาถึงตรงหน้าเธอแล้วและมองไปที่สภาพของเธอ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจและพูดว่า “เธอควรลืมเรื่องเอธานนะ เขา … ไม่ใช่คนที่จะอยู่ในที่ๆเดียวกันในโลกนี้ได้ เพราะโลกใบนี้มันเล็กเกินไปสำหรับเขา”
ร่างกายของเทียน่าสั่นสะท้าน หลังจากได้ยินคำพูดของหัวหน้าหุบเขาและน้ำตาก็เริ่มร่วงหล่นจากดวงตาของเธอ
เธอหันไปมองที่หัวหน้าหุบเขาด้วยใบหน้าที่ตึงเครียดและขาดความรู้สึกและพูดด้วยเสียงสั่น “ฉันรู้ค่ะ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ … ฉันได้ตกลงไปในเหวของความรู้สึกที่รู้จักกันในชื่อเอธาน แล้วตอนที่ฉันอยู่กับเขา แค่การปรากฏตัวของเขาก็ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยและสงบสุขมาก จนฉันรู้สึกว่าไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว นอกจากไปกับเขา ในการผจญภัยครั้งใหญ่ของเขา แต่ตอนนี้ฉันอยู่ห่างจากเขามาแล้วหลายวัน ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีและไม่สามารถโฟกัสอะไรได้ นี่มันคือความรู้สึกอะไรกัน …. การโหยหาเขา และมันยังอยู่ในใจของฉันและมันคงจะไม่หายไปไหน ”
จากนั้นดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมุ่งมั่น ขณะที่เธอพูดต่อว่า “อาจารย์ ถ้าฉันต้องการอยู่ร่วมกับเขา ฉันไม่สามารถเป็นภาระของเขาได้ โปรดบอกฉันว่าจะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไรโดยเร็ว ฉันเต็มใจที่จะแบกรับความเจ็บปวดหรือความเสี่ยงใด ๆก็ตาม ฉันรับได้หมด “
หัวหน้าหุบเขารู้สึกประหลาดใจที่เทียน่ามีความรู้สึกที่แข็งแกร่งเช่นนี้ต่อเอธาน จากนั้นเขาก็คิดอยู่พักหนึ่งและตอบว่า “มีวิธีที่จะทำให้แข็งแกร่งได้เร็วมาก แต่ .. ” เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่ใบหน้าที่มุ่งมั่นของเทียน่าก่อนที่จะพูดว่า “แต่มีโอกาส 90% ที่จะตาย .. “
เทียน่าขัดจังหวะและพูดด้วยความมั่นใจว่า “ฉันจะรับโอกาสนั้น และถ้าฉันล้มเหลว ฉันหวังว่าหัวหน้าหุบเขาจะสนับสนุนสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ฉันจากมาแทนฉันนะคะ”
หัวหน้าหุบเขาพยักหน้าและกล่าวว่า “วิธีที่ฉันรู้นั้นตรงไปตรงมา แต่อันตราย แต่ก่อนหน้านั้น ฉันจะบอกเธอเกี่ยวกับการก่อตั้งหุบเขาของเราก่อน เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับวิธีการนั้นด้วย”
จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ และพูดว่า “ไรอัน เฟลิโอ หัวหน้าแห่งหุบเขาคนแรกได้ก่อตั้งหุบเขาสายฟ้า – ไฟของเราขึ้นและในเวลานั้นหุบเขาสายฟ้า – ไฟของเราก็กลายเป็นที่ 1 ทันทีและสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ ภรรยาของเขาพิชิตโซนอันตรายได้สำเร็จ ครั้งแรกพวกเขาพบดอกไม้ประหลาดในส่วนที่ลึกที่สุด ดอกไม้นั้นมีองค์ประกอบของธาตุสายฟ้าและธาตุไฟอยู่ในนั้น แต่ …
ดอกไม้มีพลังที่น่ากลัว ไม่มีใครสามารถเข้าไปในรัศมี 10 เมตรรอบ ๆ ดอกไม้ได้ ผู้อาวุโสหัวหน้าหุบเขาในเวลานั้น นำมือของเขาเข้าไปในรัศมี 10 เมตรและมือของเขาก็กลายเป็นเถ้าในไม่กี่วินาที แต่สิ่งที่แปลกคือภรรยาของหัวหน้าหุบเขาไม่ได้รับผลกระทบ ต่อมาพวกเขาพบว่ามีเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถทำมันได้ นั่นคือการเข้าใกล้ดอกไม้นั่น”
หัวหน้าหุบเขาหยุดหายใจชั่วขณะ ก่อนที่จะพูดต่อ “หลังจากที่ภรรยาของหัวหน้าหุบเขาเข้าใกล้ดอกไม้ กลีบดอกไม้ก็บินออกมาจากมันโดยอัตโนมัติ ก่อนจะเข้าไปในปากของเธอ หลังจากนั้นพลังของเธอก็เพิ่มขึ้นตามและเธอก็ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับ 1 ในเวลานั้นไม่มีใครสามารถเทียบเคียงพลังของเธอได้ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญระดับสุดยอด เทียร์-3 ของ Elemental Overlords จะลองเทียงเคียงแล้วก็ตาม …. ชื่อของเธอแพร่กระจายไปทั่วในฐานะราชินีสายฟ้าพิโรธ ต่อมาเธอได้ยอมรับศิษย์หญิงที่มีพรสวรรค์ 2 คนและ หลังจากที่พวกเขาไปถึงระดับ Elemental Archmage แล้ว เธอก็ปล่อยให้พวกเขาเข้าใกล้ดอกไม้เพื่อรับพลังเช่นเดียวกับเธอ แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้และกินกลีบดอกไม้ แทนที่จะได้รับพลัง พวกเธอกลับตายในทันทีหลังจากกินมันเข้าไป “
จากนั้นใบหน้าของหัวหน้าหุบเขา ก็เปลี่ยนไปอย่างหวาดกลัว ในขณะที่เขาพูดต่อ “หัวหน้าหุบเขาในตอนนั้น เชื่อว่าบางทีหลังจากที่ใครมาถึงขั้นของ Elemental Overlord พวกเขาอาจจะสามารถดูดซับพลังภายในกลีบดอกไม้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยให้ผู้อาวุโสหญิง 2 คนเข้าใกล้ดอกไม้ได้และสิ่งเดียวกันก็เกิดขึ้นกับพวกเธออีก หลังจากกินกลีบดอก … พวกเธอก็ตายเช่นกัน
หลังจากนั้นพวกเขาจึงเขียนรายงานโดยละเอียดสำหรับคนรุ่นหลังเกี่ยวกับดอกไม้และบอกเราว่าอย่าให้ ใครเข้าใกล้ดอกไม้เด็ดขาด ซึ่งมันมีทั้งหมด 7 กลีบ แต่ตอนนี้เหลือเพียง 2 กลีบเท่านั้น วิธีที่ฉันจะบอกเธอก็เช่นกัน … ถ้าเธอสามารถประสบความสำเร็จเหมือนภรรยาของหัวหน้าหุบเขาคนแรกได้ เธอจะมีพลังมากกว่า เอธานในปัจจุบัน “
หลังจากที่เขาพูดทุกอย่างเสร็จแล้ว เขาก็มองไปที่เทียน่าอย่างลึกซึ้งและถามด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า “งั้นเธอยังอยากลองดูไหม มีโอกาสสูงมากที่เธอจะตายนะ”
เทียน่าไม่ลังเลใจและพูดว่า “ฉันยินดีที่จะเผชิญกับความเสี่ยงนี้ ถ้ามันหมายความว่าฉันสามารถอยู่กับเอธานได้ ค่ะ… แต่” เทียน่าหยุดชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “ก่อนที่จะไปที่นั่นเพื่อกินกลีบดอกไม้ ฉันต้องการที่จะ … เจอเอธานค่ะ”
หัวหน้าหุบเขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “พวกเขาน่าจะกลับมาหลังจากผ่านไป 7-8 วัน ดังนั้นเราจึงไม่ต้องไปที่นั่น ฉันมีเรื่องที่จะคุยกับหัวหน้าเมืองพาวินเลี่ยนแห่งเมืองลอยฟ้าพาวินเลี่ยนด้วย”
เทียน่าพยักหน้า ขณะที่เธอเริ่มมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนตนเอง หลังจากนั้น
…
…
ปัจจุบันเอธานในตอนนี้กำลังรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นสัตว์ร้ายขนาดมหึมาที่บินอยู่เหนือหัวของเขา
สัตว์ร้ายดูเหมือนปลาวาฬมีปีก มันเป็นสัตว์ที่แปลกประหลาดอย่างแท้จริงที่เอธานเองก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน … มันมี 4 ปีกและตัวของมันยาว 100 เมตรและกว้างประมาณ 50 เมตร
แต่สัตว์ร้ายไม่ได้บินหนีไปแต่กลับลอยขึ้นไปแทน
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเอธานก็หรี่ตาลง เมื่อเห็นใครบางคนกำลังเดินเข้ามาหาเขา
บุคคลนั้นดูมีอายุราว ๆ 30 ปีและมีท่าทางห้าว ดวงตาของเขามีความเย่อหยิ่งและจองหอง แต่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและสุภาพ “น้องชายตัวน้อย 2 คนนี้ ตอนนี้พื้นที่รอบๆภูเขานี้จะถูกจำกัด นับจากนี้เป็นต้นไป จนกว่าเราจะเสร็จธุระที่นี่ ฉันหวังว่าพวกนายจะเรียกอาจารย์ของนายมาได้และจากไป เพราะพวกเราจากโถงพันเทพเจ้า มีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ต้องเข้ามาทำงานที่นี่ นายสามารถกลับมาหลังจากนั้น 1 เดือนเพราะเราจะเสร็จธุระภายในเวลานั้น”
เอธานแปลกใจที่เห็นคนจากห้องโถงพันเทพเจ้ามาที่นี่ … เพราะตอนนี้พวกเขาติดอันดับ 1 ใน 10 ของรายชื่อเมืองเก่งที่สุด
ตอนที่ 34: ที่คุมขังจำนวนมากและความสัมพันธ์ของธาตุอวกาศ
หลังจากบินตรงไปด้วยความเร็วสูงสุดภายในเวลา 6 ชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสถานที่แห่งพลังงานของธาตุอวกาศอันวุ่นวายและที่มีอยู่มากมายแล้ว
พลังงานอวกาศล้อมรอบภูเขานี้อยู่อย่างวุ่นวายเต็มรอบๆ โดยเฉพาะบริเวณปากของภูเขา
สาเหตุที่เรียกว่าโกลาหลก็เนื่องมาจากภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าพวกเขานั่นเอง
แม้ว่าจะมีพลังงานจากธาตุของอวกาศจำนวนมากที่ไม่รวมกันกับในภูเขา แต่ตอนนี้ความอันตรายก็ปรากฏให้เห็นได้ชัด เนื่องจากรอยแยกและใบมีดของธาตุอวกาศที่น่าสะพรึงกลัวกำลังโผล่ขึ้นมาทุกหนทุกแห่ง
วังวนสีดำภายในอาณาจักรพลังจิตของเอธานเริ่มรวบรวมสารสำคัญจากพลังงานธาตุอวกาศโดยรอบแล้ว
หลังจากไปถึงที่นั่น หัวหน้าหุบเขาก็พูดว่า “เอาล่ะ เรามาถึงสถานที่นั้นแล้ว ตอนนี้ฉันจะกลับไปรักษาอาการบาดเจ็บก่อน และเตรียมตัวสำหรับพิธีหลังจากนั้นฉันจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง”
เอธานพยักหน้าและกล่าวว่า “ถ้าการรักษาและแผนการอื่น ๆ ของคุณใช้เวลานานกว่า 25 วัน คุณก็ไม่ต้องกลับมาเพราะเราจะกลับไปที่หุบเขานั้นทันที เพราะผมมีเรื่องบางอย่างที่ต้องไปทำที่นั่น”
เขาไม่อาจพูดได้ว่าเขาต้องการแอบเข้าไปในเขตอันตรายที่จะถูกเปิดในเวลาต่อมา … แม้ว่าแค่เอธานขอ เขาก็จะได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ในทันที
หลังจากเห็นว่าอาจารย์ของเขาจากไปแล้ว ไมค์จึงหันไปหาเอธานในทันที ด้วยความตื่นเต้นที่เขียนบนใบหน้าของเขาและพูดว่า “พี่ชาย พี่เป็นหนึ่งใน Elemental Overlord ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกในตอนนี้เลย ดูเหมือนว่าฉันจะต้องฝึกให้หนักเป็นพิเศษแล้ว .. เราจะไม่มีเวลาว่างและไม่ได้ทำสิ่งต่างๆได้เหมือนที่เราเคยทำร่วมกันอีก…”
เอธานหัวเราะและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันแน่ใจว่านายจะกลายเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดแน่นอน ตอนนี้เรามามุ่งเน้นไปที่การล้างมลทินสีเทาออกให้หมดก่อนเถอะ”
หลังจากพูดสิ่งนั้นจบ ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดที่ว่า “ใช่ … ให้ฉันเข้าสู่อาณาจักรพลังจิตของนายสิ ฉันอยากลองทำอะไรสักอย่าง ถ้ามันได้ผลนายจะสามารถชำระสิ่งสกปรกสีเทาได้เร็วขึ้น”
ไมค์พยักหน้า ขณะที่เขาเชื่อมั่นในตัวพี่ของเขา ในขณะที่เขาหลับตาลง
จากนั้นเอธานก็สัมผัสกับสิ่งที่เขาจะทำกับไมค์ ในขณะที่เขาฉีดพลังจิตเข้าไปในอาณาจักรพลังจิตของไมค์ เพื่อลองดูว่าเขาสามารถล้างมลทินสีเทาให้กับไมค์ได้หรือไม่
เอธาน สร้างยางลบขึ้นมาด้วยพลังจิตของเขาในอาณาจักรพลังจิตของไมค์ จากนั้นก็พยายามที่จะลบสิ่งสกปรกสีเทาออก …. แต่ก็ไม่ได้ผล
ไม่ว่าเขาจะถูสิ่งสกปรกสีเทามากแค่ไหน มันก็ไม่ได้ล้างมลทินนั้นออกได้เลยสักนิด
หลังจากคิดถึงเรื่องบางเรื่อง เอธาน ก็ได้หยิบชิ้นส่วนจากพลังเวทย์มนต์คาถาที่เหลืออยู่ของเขา และสร้างยางลบขึ้นมา โดยใช้มันก่อนที่จะพยายามล้างมลทินสีเทาภายในอาณาจักรพลังจิตของไมค์ …. และ
มันทำงานได้สำเร็จและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเกินไป
ด้วยยางลบขนาดเล็กของเอธาน เขาก็เสร็จสิ้นการล้างสิ่งเจือปนสีเทาครึ่งหนึ่งในอาณาจักรพลังจิตของไมค์ ก่อนที่ยางลบจะหมด
หลังจากทำเช่นนี้ เขาก็ดึงพลังจิตของเขากลับจากอาณาจักรพลังจิตของไมค์ทันที
ไมค์ตกตะลึง เมื่อเห็นพลังจิตของเขาพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่เขาเอ่ยออกมา“ พี่ พี่เก่งมาก !!! พี่นี่มันเป็นเรื่องจริงเหรอ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้คาดหวังว่าฉันจะประสบความสำเร็จ ตอนนี้ด้วยพลังจิตที่มากขนาดนี้ นายก็สามารถสร้างยางลบขนาดใหญ่ของนายเองได้ และล้างสิ่งเจือปนที่เหลือได้ใน 15 วันอย่างมากที่สุดอ่ะนะ”
หลังจากนั้นเอธาน ก็ได้สร้างค่ายพัก 2 แห่งด้วยพลังงานไม้และพลังงานดิน ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งลงและเริ่มการฝึกฝน
ไมค์เริ่มล้างสิ่งสกปรกสีเทา ในขณะที่เอธาน … ไม่ได้ทำอะไร เพราะวังวนสีดำของเขาสามารถดูดซับแก่นแท้ขององค์ประกอบของธาตุอวกาศได้โดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้เขายังไม่สามารถเพิ่มพลังวังวนสีดำได้เลย เพราะถ้าเขาทำอย่างนั้นและมีคนมาที่นี่ ไมค์จะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้? หลังจากที่ร่างกายของเขาได้รับการขัดเกลาด้วยองค์ประกอบมากมายแล้ว เขาก็สงสัยว่าตอนนี้เขาจะบาดเจ็บจากการโดนโจมตีได้หรือไม่ … เว้นแต่ แน่นอนว่าอีกฝ่ายใช้คาถาที่ทรงพลังมาก ซึ่งเขาไม่มีทางต้านทานมันได้เหมือนธาตุอวกาศและธาตุสายฟ้า
แต่โชคดีที่ 10 วัน ผ่านไปและไม่มีใครมาสร้างปัญหาให้พวกเขาได้ ตอนนี้พวกเขาสามารถหาของกินได้ โดยการล่าสัตว์วิเศษ พวกเขาจึงไม่ขาดแคลนอาหารเลย
ในเวลา 10 วันนี้ ไมค์ได้ล้างสิ่งสกปรกสีเทาไปแล้ว 75% ของอาณาจักรพลังจิตของเขาและเอธาน ก็สลักคาถาใหม่ในก้อนหินที่มีพลังลึกลับสุดท้าย และด้วยสิ่งนี้ในตอนนี้เขาไม่เหลือพลังเวทย์มนต์ใด ๆ
คาถาที่เขาสร้างขึ้นนั้นเป็นคาถาที่รวมทุกอย่างไว้ มันเรียกว่า <ที่คุมขังจำนวนมาก>
เอธานเชื่อมต่อทะเลธาตุทั้งหมดของเขา เข้ากับ คาถาภาษารูนที่สร้างมาก่อนหน้า และด้วยคำสั่งเดียวเขาสามารถสร้างที่จองจำขึ้นมา และเขาเลือกว่า หากเขาต้องการกับดักพ่อมดธาตุไฟ เขาก็จะสามารถใช้ที่จองจำจากธาตุน้ำได้
หากศัตรูมีหลายองค์ประกอบของธาตุ เขายังสามารถใช้ที่จองจำที่มีองค์ประกอบของธาตุหลายๆอย่างได้ และวางซ้อนมันเข้าด้วยกันได้อีก
ที่จองจำนั้น มาในรูปทรงของกล่องสี่เหลี่ยมที่ไม่มีช่องโหว่ใดๆ เอธาน ยังทำให้มันดูเท่มากขึ้น ด้วยการวางปีศาจ 2 ตัวไว้บนนั้น แต่พวกมันก็มีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง เนื่องจากเอธาน สามารถฉีดพลังงานจิตของเขาเข้าไปในปากของปีศาจได้ ซึ่งจะถูกส่งไปยังที่จองจำ ผ่านพวกคนที่ถูกคุมขังเพื่อให้ถูกทรมานตอนที่มีคนถูกขังอยู่ข้างใน
เอธาน ยังคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 วัน ก่อนที่วังวนสีดำจะรวบรวมแก่นแท้ของธาตุอวกาศได้เพียงพอที่จะปรับแต่งร่างกายของเขาและสร้างผลึกธาตุอวกาศขึ้นมาได้
พลังงานธาตุอวกาศที่นี่มีปริมาณมหาศาลมาก แต่คนปกติไม่สามารถดูดซับพวกมันอย่างสงบสุขแบบนี้ได้ เนื่องจากพลังงานของธาตุอวกาศนั้นวุ่นวายมากและต้องใช้ความพยายามในการรวบรวมพวกมัน แต่นั่นไม่ใช่กรณีของวังวนสีดำ แม้ว่าอวกาศจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม พลังงานไม่เป็นระเบียบที่นี่ยังคงสามารถดูดซับสารสำคัญจากมันได้อย่างง่ายดาย
หลังจากผ่านไป 4 วัน เอธานก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเข้ามาในร่างกายของเขาและเขาก็รู้ทันทีว่ามันคืออะไร
แต่เขาไม่ได้เตรียมการใด ๆ และนั่งอยู่ในค่ายอย่างสงบ
ในไม่ช้าพลังงานประหลาดที่ปล่อยออกมาจากวังวนสีดำ ซึ่งมีสีเงินและมันเริ่มสร้างความหายนะภายในร่างกายของเอธาน และเขาก็เริ่มปรับแต่งมันทันที
เช่นเดียวกับครั้งอื่น ๆ เอธานเป็นอัมพาตเป็นเวลา 10 นาที ก่อนที่กระบวนการจะเสร็จสิ้นและเขาก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดเท่าเมื่อก่อน
หลังจากที่เขาทำตามขั้นตอนนี้ เขาก็เริ่มดูดซับพลังงานของธาตุอวกาศและรวบรวมพลังงานจากธาตุอวกาศได้สำเร็จ เพื่อดึงดูดคริสตัลธาตุอวกาศจากอาณาจักรพลังจิตของเขาภายในเวลา 4 ชั่วโมง
จากนั้นเขาก็ยืดมือของเขาออก ขณะที่เขายืนขึ้นและคิดต่อไปว่า ‘เอาล่ะ ตอนนี้คริสตัลธาตุอวกาศจะรวบรวมพลังงานของธาตุอวกาศโดยรอบเข้าสู่ขอบเขตพลังงานของฉันโดยอัตโนมัติ และดูดซับมัน ก่อนที่จะดึงพลังงานของธาตุอวกาศที่เป็นของเหลวออกมา ‘
จากนั้นเขาก็เดินไปที่ค่ายพักของไมค์และเห็นว่าตอนนี้ไมค์กำลังนอนหลับ หมายความว่าเขากำลังฟื้นฟูพลังจิตของเขา
‘เรายังมีเวลาเหลืออีก 10 วัน ฉันจะทำยังไงดี? ‘
ในขณะที่เขาคิด เงาขนาดมหึมาก็เคลื่อนลงมา
เอธานเงยหน้าขึ้นมองพลางประหลาดใจที่เห็นสัตว์วิเศษขนาดมหึมาเช่นนี้
มันเป็นสัตว์วิเศษที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเห็นหลังจากมาถึงโลกนี้…….
ตอนที่ 33: การพบกันใหม่และความตกตะลึง
คนแรกที่หลุดออกจากความงุนงงคือศัตรูที่ใช้เวทมนตร์แห่งความมืดและไม้ เพื่อขัดขวางหัวหน้าหุบเขาก่อนหน้านี้
แต่เขาไม่ได้โจมตีเอธาน เพื่อล้างแค้นและไม่เข้าไปหาร่างของสหายของเขาเลยแม้แต่น้อย เขาแค่ใช้ทุกอย่างที่มีและเท่าที่จะทำได้เพื่อวิ่งให้เร็วที่สุด
การวิ่งของเขายังทำให้คนอื่น ๆ ออกจากสภาพที่ตกตะลึงได้
เอธานคว้าหอกอันที่ 2 ทันทีและเหวี่ยงไปที่ผู้ชายที่กำลังวิ่งอยู่
ก่อนที่ชายคนนั้นจะทำอะไร เขาก็ถูกหอกฟาดและเสียชีวิตในไม่ช้า เขาวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เขาจะหลบการโจมตีด้านหลังของเขาได้
หัวหน้าหุบเขาโค้งคำนับต่อเอธาน และกล่าวด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณมากสำหรับพระคุณที่ช่วยชีวิตนี้ ฉันขอทราบชื่อของคุณได้ไหม”
เอธานตอบอย่างสบาย ๆ ว่า “ฮ่าฮ่า คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอกเพราะ … คุณเป็นอาจารย์ของเพื่อนที่ดีที่สุดของผม”
หลังจากพูดสิ่งนี้เขาก็รีบและปรากฏตัวต่อหน้าไมค์ที่งุนงงก่อนจะพูดว่า “ใช่ไมค์ไหม?”
ริมฝีปากของไมค์สั่น ขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าด้วยความไม่เชื่อ“ อา – เอธานจริงๆเหรอ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย?”
เอธานพยักหน้ายิ้ม ๆ
ไมค์รีบไปหาเอธาน และกอดเขา ในขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และขณะที่ดวงตาของเขาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา “พี่ชาย ฉันคิดว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของฉันและฉันจะไม่ได้พบพี่อีก”
เอธานหัวเราะเบา ๆ และในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขาสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติกับไมค์
เขาดึงเขาออกจากอ้อมกอดและมองไปที่ใบหน้าของเขาเท่านั้นที่เห็นว่าเขาเป็นลม เมื่อมองอย่างระมัดระวังเอธานสังเกตว่าไมค์ไม่รวมพลังจิตบางอย่าง แม้ว่าจะอยู่ในปริมาณที่ต่ำมากก็ตาม
หัวหน้าหุบเขาที่ตกใจ เมื่อได้ยินการแลกเปลี่ยนระหว่างทั้งคู่มาถึงหน้าไมค์แล้วและกล่าวด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขอย่างแท้จริง สำหรับศิษย์ของเขา “ดูเหมือนว่าไมค์จะเปิดอาณาจักรพลังจิตของเขาได้แล้ว”
เอธานพยักหน้า เมื่อได้ยินเช่นนั้นจากนั้นจึงพูดกับหัวหน้าหุบเขาด้วยใบหน้าที่จริงจัง “ขอบคุณท่านหัวหน้าหุบเขา ที่ดูแลไมค์อย่างดี”
หัวหน้าหุบเขาส่ายหัวและพูดว่า “ไมค์เป็นนักเรียนของฉัน และตอนนี้เขาก็เป็นเหมือนลูกชายของฉันด้วยเช่นกัน เราเดินทางกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว … ดังนั้นคุณไม่ต้องขอบคุณฉันสำหรับเรื่องแบบนี้ .. . แต่. ” หลังจากพูดสิ่งนี้ใบหน้าของหัวหน้าหุบเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสงสัยและพูดว่า” แต่คุณเป็นเพื่อนของเขาจริงๆหรือ? แล้วคุณจะมีพลังเช่นนี้ได้อย่างไรในเมื่อคุณอายุแค่ 18 ปี? “
ที่จริงแล้วหัวหน้าหุบเขายังคงพบว่า มันยากที่จะเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นไปได้ เพราะการเป็นเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุในอายุเพียง 18 ปีนั้น…? ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มันกลายเป็นเรื่องง่ายมากที่จะประสบความสำเร็จได้กันนะ?
เอธานโบกมืออย่างสบาย ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า “ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ มีอัจฉริยะนับไม่ถ้วนที่มีพลังมากกว่าผมในวัยของผมบนโลกนี้ หรือผมควรจะบอกว่าโลกนี้เป็นเพียงฝุ่นเมื่อเทียบกัน กับโลกใบใหญ่นั้น”
ทันใดนั้นสีหน้าของหัวหน้าประจำหุบเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาและพูดว่า “นั่น …. ที่จริงฉันได้พบกับซากปรักหักพังซากหนึ่ง ฉันพบข้อมูลว่ามีโลกมากมายนับไม่ถ้วนอยู่ที่นั่นและโลกของเราก็เป็นโลก ล้าหลัง ฉันคิดมาตลอดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่คนโง่เขลาจารึกไว้ แต่มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม แสดงว่านั่นหมายความว่า …. “
เมื่อหยุดอยู่ที่นี่เขามองไปที่เอธานด้วยความไม่เชื่อและพูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจว่า “คุณเป็นผู้มีพลังกลับชาติมาเกิดจากโลกที่สูงกว่านี้หรือไม่?”
เอธานนิ่งงัน เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงอะไร แต่ส่วนของการกลับชาติมาเกิดเป็นเรื่องจริง ยกเว้นว่าเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง แต่เป็นนักเรียนมัธยมปลายธรรมดา
เอธานแสดงสีหน้าประหลาดใจ ในขณะที่ระงับความตกใจและพูดว่า “โอ้ ฉันไม่คิดว่าจะมีคนที่มีความรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกอยู่ที่นี่จริงๆ”
แต่หลังจากนั้นไม่นานใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างจริงจังและพูดว่า “อย่าบอกไมค์หรือบุคคลอื่นเกี่ยวกับสถานการณ์ของฉัน มิฉะนั้น …. ฉันก็มีวิธีการของฉันเช่นกัน” ในขณะเดียวกันเอธานก็คิดว่า ‘ฮึ่มม !! ถ้าคุณบอกไมค์เกี่ยวกับสิ่งที่คุณคาดเดา พฤติกรรมของไมค์ที่มีต่อฉันจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ‘
หัวใจของอาจารย์หุบเขาเต้นระรัว เมื่อเขาจำได้ว่าเด็กที่อาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกลับชาติมาเกิดได้ฆ่าเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุไป 2 คนบนเวทีเดียวกับเขาได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ 2 คาถาเท่านั้น
จากนั้นเขาก็รีบพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่บอกคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน”
เอธานพยักหน้าแล้วถามหัวหน้าหุบเขาเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์นี้ได้
จากนั้นหัวหน้าหุบเขา ก็เล่าทุกอย่างทันที ตั้งแต่วิธีที่พวกเขาไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังงานอวกาศที่วุ่นวายและพวกเขาก็มาจบลงที่นี่ได้ยังไง
เมื่อได้ยินว่ามีสถานที่ที่มีพลังงานอวกาศมากมาย เอธานก็ดีใจมาก ‘ถึงเวลาเพิ่มองค์ประกอบอวกาศแล้ว’
แต่ก่อนอื่นเขาถามอีกฝ่ายว่า “ตอนนี้คุณมีแผนอย่างไรบ้าง”
หัวหน้าหุบเขายิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ฉันยังต้องรักษาขาของฉัน ก่อนที่สถานการณ์จะไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้นฉันจะจากไปหลังจากพาคุณและไมค์ไปยังที่ที่มีพลังงานจากอวกาศ ฉันจะกลับมาหลังจากรักษาขาของฉันเสร็จ คุณ … ไม่รังเกียจใช่ไหม”
เอธานพยักหน้าอย่างมีความสุข ขณะที่เขาต้องการไปที่นั่น “ใช่ เราจะฝึกกันที่นั่นเพราะฉันมีความต้องการพลังงานอวกาศด้วย”
หัวหน้าหุบเขารู้สึกโล่งใจ เนื่องจากลูกศิษย์เขาได้อยู่กับคนแบบเอธาน ซึ่งมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับไมค์แน่นอน
“ก่อนอื่น เราไปเรียกเพื่อนของฉันก่อน เธอยังเป็นสาวกของหุบเขาสายฟ้า – ไฟของคุณอยู่ และดูเหมือนว่าเธอจะถูกรังแกและไม่ได้รับความยุติธรรม ดังนั้นฉันจึงพาเธอมาที่นี่กับฉัน”
หัวหน้าหุบเขาพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ฉันจะแก้ไขปัญหาของเธอ หลังจากกลับไปที่หุบเขาแล้วเอง”
ในขณะที่พยักหน้า เอธานกล่าวอย่างสบาย ๆ ว่า “อ่าใช่ คุณสามารถรับเธอเป็นศิษย์ของคุณได้ เธอไม่ได้เลวร้ายเพราะเธอมีความสัมพันธ์กับทั้ง 2 ธาตุทั้งน้ำและสายฟ้า”
หัวหน้าหุบเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “อืมม… โอเคไม่มีปัญหา”
เมื่อได้ยินคำยืนยันจากเขา เอธานก็คิดว่า ‘ด้วยสิ่งนี้ฉันได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธอแล้ว ‘
“งั้นก็ไปรับเธอก่อนที่จะไปยังจุดหมายกันดีกว่า” พูดแล้วเอธานก็ใช้ศิลปะของคาถาของเขาและเสกให้ สัตว์ดุร้ายเฮอริเคน 4 ปีก “
เมื่อได้เห็นสัตว์อสูรที่ถูกเสกขึ้นมา หัวหน้าหุบเขาก็ตกใจมาก ‘พลังที่บริสุทธิ์และทรงพลังเช่นนี้ … ฉันสงสัยว่า แม้แต่หัวหน้าเผ่าธาตุระดับ 3 ที่มีมัน และตามที่คาดไว้ผู้เชี่ยวชาญจากโลกที่ทรงพลังจะต้องมีมันเช่นกัน ฉันสงสัยว่าฉันจะสามารถไปสถานที่ดังกล่าวได้บ้างหรือไม่ ‘
“คุณกำลังทำอะไรอยู่รีบเข้ามาสิ” เอธาน กล่าว หลังจากที่เขารวบรวมแหวนเก็บของจากศัตรูทั้งสองที่เขาฟาดด้วย <หอกสายฟ้า> ก่อนหน้านี้
เมื่อได้ยินเสียง เขาก็ตะคอกออกมาด้วยความงุนงงและเรียกสัตว์ร้ายของเขา ซึ่งไมค์กำลังนอนหลับและนั่งอยู่บนนั้นก่อนจะเดินตามเอธานไป
…
…
หลังจากผ่านไป 20 นาที ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสระน้ำและเอธาน ก็เข้าไปข้างในก่อนจะออกมาพร้อมกับเทียน่า
แต่หลังจากมาถึงบนท้องฟ้าและเห็นผู้คนบนอินทรีย์ไฟ-สายฟ้า เธอก็ตกใจมาก และเธอรีบพูดว่า “ศิษย์กราบเรียนท่านอาจารย์แห่งหุบเขา”
หัวหน้าหุบเขาโบกมือและพูดอย่างใจดีว่า “ฉันได้ยินมาว่าเธอต้องทนทุกข์ทรมานกับความอยุติธรรมในหุบเขา แต่เธอไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อีกต่อไป จากนี้เธอจะเป็นศิษย์โดยตรงคนที่ 2 ของฉันและจะไม่มีใครกล้าทำอะไรเธออีก”
หลังจากหัวหน้าหุบเขาพูดจบเอธานก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เห็นไหม ฉันทำตามสัญญาแล้วและจากนี้ไปเธอจะไม่ถูกรังแกอีก”
เทียน่าพยักหน้าอย่างว่างเปล่า ในขณะที่เธอไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ แต่ … เธอไม่สามารถรู้สึกมีความสุขได้ แม้เรื่องที่หนักใจที่สุดของเธอจะได้รับการแก้ไขแล้ว และเธอก็ยิ่งมีมากขึ้น เมื่อเธอกลายเป็นศิษย์โดยตรงของหัวหน้าหุบเขา
เมื่อเห็นสภาพของเธอ หัวหน้าหุบเขาก็คิดว่า ‘เธอต้องตกใจแน่ ๆ ที่ฉันรับเธอเป็นศิษย์โดยตรง ‘ เขายิ้มและกล่าวว่า “ฉันจะต้องจัดพิธีของศิษย์และอาจารย์ ดังนั้นเธอจะต้องมากับฉันที่หุบเขา หลังจากที่ฉันส่ง เอธานและไมค์ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเสร็จ”
เทียน่าพยักหน้าอย่างว่างเปล่า ในขณะที่เธอนั่งลงบนสัตว์ร้ายที่ถูกเสกของเอธาน
หลังจากนั้นพวกเขาบินไปในทิศทางที่แน่นอน ขณะที่เอธานก็กำลังติดตามอินทรีย์ไฟ-สายฟ้าไปด้วย
ตอนที่ 32: คาถาใหม่และ การฆ่าภายในครั้งเดียว
หลังจากที่เอธานกลับไปที่ถ้ำที่ต้นไม้ลึกลับอยู่ เขาก็ได้นั่งลงและคิดว่าควรจะสร้างคาถาอะไรใหม่ดี
แต่ในขณะที่เขาอยู่ท่ามกลางความคิด ความสัมพันธ์ของเขากับเสือเฮอริเคน 4 ปีกในตอนนี้ก็ถูกตัดขาด
เอธานหลุดจากความคิดของเขา ในขณะที่เขาพึมพำ “ดูเหมือนว่าเสือเฮอริเคน 4 ปีกจะตายแล้วสินะ”
เขาลุกขึ้นยืนและออกไปตรวจสอบสถานการณ์
…
เมื่อมองไปรอบ ๆ ขณะที่ลอยอยู่เหนือบ่อน้ำ เอธานก็ไม่พบใคร เขาคิดว่า ‘หลังจากฆ่ามันแล้วพวกเขาก็หนีไปเหรอเนี่ย? กลัว? ‘
จากนั้นเอธานก็เปิดใช้งานศิลปะแห่งรูนและสร้างเสือเฮอริเคน 4 ปีกอีกตัว แต่สัตว์ร้ายที่เขาเรียกในครั้งนี้ มีพลังมากกว่าตัวก่อนหน้า แม้ว่าขนาดของมันจะเพิ่มขึ้นเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่พลังงานของมันก็มีขนาดกะทัดรัดกว่าและกินพลังมากกว่า 3 เท่าของ จำนวนพลังงานก่อนหน้านี้จากทะเลพลังงาน
เมื่อมองไปที่สัตว์ร้ายที่เขาเสกขึ้นมา เอธานก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ดี คราวนี้ฉันสงสัยว่ามันจะถูกฆ่าอย่างง่ายดายขนาดนั้นอีกไหม”
หลังจากนั้นเขาก็กลับลงไปในบ่อ
…
ที่ไหนสักแห่งในป่าต้นกำเนิด
ร่างสองร่างกำลังนั่งอยู่บนอินทรีย์ไฟ-สายฟ้าขนาดยักษ์ 1 ตัวและผู้อาวุโสที่มี
ใบหน้าของผู้สูงวัยทั้งซีดเซียวและขาซ้ายของเขาถูกตัดออกจากหัวเข่าและคนที่อายุน้อยกว่าเขาก็ดูเป็นกังวล ขณะที่เขาถามอาจารย์ของพวกเขาว่า “อาจารย์พวกมัน … พวกมันจะยังสามารถตามเรามาได้หรือไม่?”
ชายชราพยักหน้าช้าๆและกล่าวว่า “ตราบใดที่ฉันไม่สามารถขับไล่ธาตุไม้และพลังมืดที่อยู่ในขาของฉันออกไปได้ พวกมันก็จะสามารถตามฉันมาได้”
ศิษย์ที่ดูจะอายุเท่า ๆ กันก็เริ่มร้อนรน เมื่อได้ยินเช่นนั้น “อาจารย์ ฉันขอโทษจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันอยากแข็งแกร่งเร็วขึ้น ฉันคงไม่พาท่านไปที่นั่น … ”
ชายชราถอนหายใจขณะที่กำลังพูดขัดจังหวะลูกศิษย์“ อย่าพูดแบบนั้นอีก ใครจะคาดคิดว่าข้าจะไปพบศัตรูที่นั่นล่ะ ทั้งสองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันเพราะตอนแรกข้าคิดว่าพวกเขาน่าจะไปถึงเทียร์ 1 ของระดับเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ และข้าอยู่เทียร์ 2 ของเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ ข้าจึงคิดว่าอาจจะเอาชนะได้ แต่ตอนนี้ข้าคิดว่าพวกเขาน่าจะไปถึงเทียร์ 2 ของเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุซึ่งเท่ากับข้าแล้ว…”
ลูกศิษย์คนนั้นหยุดพูดเพื่อฟัง แต่เขาก็ยังรู้สึกอยากรับผิดชอบอยู่บ้าง
ทั้งคู่ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากหัวหน้าเผ่าแห่งหุบเขาและเพื่อนที่ดีที่สุดของเอธาน, ‘ไมค์’
ตอนนี้ไมค์มาถึงจุดที่สุดยอดที่สุดของผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุแล้ว และตราบใดที่เขาเปิดขอบเขตพลังจิต ของเขาได้ เขาก็สามารถผ่านอุปสรรคนั้นไปได้เช่นกัน จากนั้นเขาก็สามารถเริ่มปรับแต่งพลังงานธาตุของเขาและกลายเป็น นักเวทย์แห่งธาตุได้นั่นเอง
แต่สถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้เลวร้ายมาก
ในขณะที่หัวหน้าหุบขา พาไมค์ไปยังสถานที่ที่มีพลังงานอวกาศที่สับสนวุ่นวายอยู่นั้น พวกเขาพบกับศัตรูของหัวหน้าหุบเขาและพวกเขาก็ถูกโจมตีโดยส่งผลให้หัวหน้าหุบเขา ได้รับบาดเจ็บและสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขาก็ย่ำแย่
…
…
ในที่สุดเอธานก็คิดคาถาใหม่ที่เขาต้องการสร้าง <ฟองอากาศแห่งความมืด>
เพราะธาตุมืดมีความต้านทานอย่างมากต่อองค์ประกอบธาตุอื่น ๆ และยังสามารถทำให้องค์ประกอบอื่น ๆ อ่อนแอลงได้ เนื่องจากคุณสมบัติของมันเอง
คาถา <ฟองอากาศแห่งความมืด> ที่เอธาน คิดนั้นเขาคิดว่ามันเป็นคาถาแบบผสมผสาน เนื่องจากมันสามารถใช้ในการป้องกันและโจมตีได้
เมื่อ เอธานต้องการปกป้องสิ่งใด เขาสามารถสร้างฟองอากาศแห่งความมือดขนาดใหญ่เพื่อห้อมล้อมเขาและพรรคพวกของเขาได้ มันส่งผลให้เกิด <เกราะความมืด> และเพื่อโจมตี เขายังสามารถยิง <ฟองอากาศมืด> ขนาดเล็ก แต่รวดเร็วและทรงพลังได้อีกด้วย
ด้วยคาถารูน เขาต้องการเพียงความคิดเดียวที่จะปล่อยให้คาถารูน สร้างคาถาตามคำสั่งของเขา ตัวอย่างเช่น ถ้าเขาสั่ง <เกราะความมืด> คาถารูนจะก่อตัวเป็นฟองพลังแห่งความมืดขนาดใหญ่และถ้าเขาสั่ง <ฟองอากาศแห่งความมืด> คาถารูนจะสร้างฟองอากาศแห่งความมืดขึ้นมา
จากนั้นเอธานก็ได้ควบคุมพลังงานมืดจำนวนเล็กน้อยและควบคุมมันเพื่อสร้างอุปสรรคเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบตัวเขาและหลังจากนั้นเขาก็ใช้พลังงานบางส่วนอีกครั้งและควบคุมมันเพื่อสร้างฟองอากาศมืด
เมื่อเห็นว่าคาถาของเขาประสบความสำเร็จ เขาจึงเริ่มกระบวนการสร้างคาถาคาถาสำหรับการ
ตัดชิ้นส่วนอื่นๆออกจากพลังงานลึกลับ ที่เหลือและทำให้มันกลายเป็นหิน ก่อนที่จะเปลี่ยนให้มันเป็นสีเข้มและวาดฟองสีขาว 2-3 ฟอง จากนั้นเขาก็ทำขั้นตอนเดียวกันกับครั้งก่อน ๆ และสร้างคาถาอักษรรูนขึ้นมาอีกอันได้สำเร็จ <ฟองอากาศแห่งความมืด>
เอธานไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ในขณะที่เขาก็กำลังคิดคาถาอื่นอยู่ด้วย
คราวนี้เอธานต้องการสร้างคาถาแบบคอมโบ
หลังจากคิดมานาน ในที่สุด เอธานก็ตัดสินใจที่จะสร้างคาถาด้วยการรวมกันของอากาศและไฟ
นั่นคือ <ไฟทอร์นาโด>
เอธาน ใช้พลังงานอากาศจำนวนเล็กน้อย ก่อนที่จะควบคุมให้มันหมุนเหมือนพายุทอร์นาโด ก่อนที่เขาจะเพิ่มไฟเข้าไปโดยใช้พลังงานไฟ
เขาสร้างพายุทอร์นาโดขนาดเล็กบนฝ่ามือของเขา เนื่องจากเขาไม่สามารถสร้างพายุขนาดใหญ่ในถ้ำนี้ได้
เนื่องจากอากาศสามารถเผาไฟและดึงพลังงานออกมาได้มากขึ้น พวกมันจึงเหมาะสมซึ่งกันและกัน
ปัจจุบันคาถานั้นอยู่ในมือของเอธานแล้ว และพายุทอร์นาโดสีส้มขนาดเล็กกำลังหมุนไปรอบ ๆ มันเต็มไปด้วยเปลวไฟ
หลังจากเห็นว่าเขาสร้างคาถานี้ได้สำเร็จ เขาก็ทำการตัดพลังงานลึกลับอีกชิ้นหนึ่งออกมาทันทีและเปลี่ยนเป็นหินก้อนนั้นก่อนให้มันเป็นสีส้มอ่อนและวาดพายุทอร์นาโดสีฟ้าที่มีเปลวไฟสีแดงอยู่รอบ ๆ
จากนั้นเขาก็ทำการแกะสลักคาถาภายในหินเพื่อทำให้เป็นคาถาทอร์นาโดไฟ
หลังจากที่เขาทำตามขั้นตอนแล้ว เอธานก็กำลังมองดูพลังงานเวทย์มนต์ที่เขาสร้างอย่างระมัดระวังและเดาได้ว่าเขาจะสามารถสร้างเวทมนตร์ได้อีก 2 คาถาด้วยพลังงานแบบนี้
เขาสร้างคาถาทั้งหมด 5 คาถา: <ลูกไฟ (Fireball)>, <หอกสายฟ้า>, สัตว์ศิลปะธาตุ , <ฟองอากาศแห่งความมืด> & <ทอร์นาโดไฟ>
“ฉันมีคาถาโจมตีและคาถาป้องกัน และสิ่งที่ฉันขาดคือคาถาที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ง่าย”
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้มาระยะหนึ่ง เอธานก็คิดที่จะสร้างคาถาปีกสำหรับการบิน ขึ้นมา ซึ่งปีกที่เขาออกแบบจะต้องใช้ธาตุอากาศและสายฟ้า และจะตั้งชื่อมันว่า <ปีกสายฟ้าเหินเวหา>
จากนั้นเขาก็ดึงพลังงานอากาศและสายฟ้าออกมาและสร้างปีกคู่หนึ่งที่คล้ายกับปีกของนกขาบ
ซึ่งเอธานเคยเห็นนกตัวนี้ในโลกก่อนหน้า ตอนที่เขาอยู่บนโลกและเขาชอบปีกของนกตัวนี้มากเป็นพิเศษ
เอธานสร้างปีกซ้ายด้วยธาตุลม และปีกขวาที่มีธาตุสายฟ้า ด้วยวิธีนี้เขายังสามารถบินได้เร็วขึ้นอีก เนื่องจากอากาศและสายฟ้ามีความเร็วอยู่แล้วตามธรรมชาติ ในขณะเดียวกันมันก็สามารถกระตุ้นพลังงานภายในปีกให้บินได้เร็วขึ้นไปอีก
หลังจากสร้างปีกที่หลังของเขาแล้ว เอธานก็บินไปรอบ ๆ ถ้ำอย่างช้าๆ แต่เนื่องจากเขาไม่สามารถวัดขอบเขตที่แท้จริงของคาถานี้ได้ เอธาน จึงออกไปข้างนอกและบินไปในทิศทางที่สุ่มเลือก
“คราวนี้ฉันจะทดลองความเร็วของปีกและการโจมตี รวมถึงการป้องกันของฟองอากาศแห่งความมืดด้วย”
จากนั้นเอธานก็เร่งความเร็วด้วยการกระตุ้นพลังงานและ …
* บูม … *
เขาทำลายกำแพงเสียงอย่างง่ายดายและความเร็วยังคงเพิ่มขึ้นไปอีก
เขาบินตรงไปเป็นเวลา 10 นาที ในขณะที่เขายังคงเพิ่มความเร็ว แต่ก็ต้องหยุดกะทันหันเพราะเขารู้สึกได้ถึงการปะทะกันอันทรงพลังที่อยู่ตรงหน้าเขา
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอธาน ก็ตัดสินใจตรวจสอบสถานการณ์นั้น ในขณะที่เขาหายใจช้าลงและปีกของเขาสลายไป ขณะที่กำลังเดินไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ
เหตุผลที่เขาระวังก็คือการปะทะกันของพลังงานที่เขารู้สึกนั้นมันมีพลังมากกว่าพลังธาตุที่ถูกครอบครองโดย ผู้วิเศษด้านธาตุ
เมื่อเอธานเข้าใกล้การต่อสู้มากขึ้น ในที่สุดเขาก็เห็นผู้คนที่กำลังต่อสู้อยู่และเมื่อเขามองไปรอบ ๆ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันใด เมื่อเห็นคนที่แทบจะไม่ได้ปกป้องผู้คนและอีกคนที่ยืนอยู่บนสัตว์ปีกดุร้ายตัวหนึ่ง ด้วยใบหน้าที่เป็นห่วง
เอธานอยากจะรีบออกไปที่นั่น แต่เขาก็ระงับความต้องการและประเมินสถานการณ์ก่อน
เขาหายใจเข้าลึก ๆ และขมวดคิ้ว ขณะที่คิดว่า ‘นั่นคือไมค์และผู้อาวุโสคนนั้นคือเจ้านายของเขาสินะ ผู้อาวุโสคนนั้นจะล้มลงไปได้ทุกเมื่อ และตอนนี้ฉันสงสัยว่าพวกเขาจะไว้ชีวิตไมค์ไหม และศัตรูของเขา คือ เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุทั้ง 2 คน ฉันต้องลอบโจมตีพวกเขา ในขณะที่ตอนนี้ฉัน ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ‘
หลังจากตัดสินใจได้แล้ว เอธานก็เรียก <หอกสายฟ้า> 2 อันขึ้นมาทันที และคว้าหนึ่งในนั้นด้วยมือขวาของเขา ก่อนที่เขาจะทำการถอนกำลังกายของเขาออกไปและโยนมันไปยังศัตรูที่กำลังโจมตีด้วยคาถาธาตุน้ำ เนื่องจากศัตรูนั้นให้เวลาที่มากกว่าหัวหน้าหุบเขาและ ธาตุน้ำก็มีผลมากกับธาตุไฟของหัวหน้าหุบเขาเช่นกัน
ศัตรูอีกคนพยายามที่จะยึดการเคลื่อนไหวและปิดผนึกเส้นทางการล่าถอยนั้นของหัวหน้าหุบเขา
ขณะที่ศัตรูคนนั้นกำลังจะโจมตีด้วยเวทน้ำอีกครั้ง ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและพยายามหลบหอกของเอธาน แต่หอกในครั้งนี้มีพลังสายฟ้าทั้งหมด 3 หยดรวมอยู่ในนั้นและเอธาน ก็ขว้างมันด้วยพลังเต็มที่และเพิ่มความเร็วของมันมากขึ้นตามไปด้วย โดยเขาใช้วิธีเปิดการใช้งานพลังงานสายฟ้าที่หางของหอก
ดังนั้นศัตรูจึงไม่สามารถหลบได้เลยและก็ถูกหอกแทงเข้าที่หน้าอก ก่อนที่เขาจะถูกหอกระเบิดออกไปในระยะไกลและเริ่มพ่นเลือดออกมาเต็มปาก ก่อนที่เขาจะทรงตัวได้ หอกก็กลายเป็นกระแสสายฟ้าและ เข้าไปในร่างกายของเขาซึ่งสร้างความหายนะในร่างกายของศัตรูคนนั้น
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็สูดลมหายใจเฮือกสุดท้าย
ความเงียบ…..
ทุกคนยืนอยู่ที่นั่นด้วยความตกตะลึง ในขณะที่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุคนนั้นได้เสียชีวิตลงไปแบบนั้นได้อย่างไร
ที่จริงไม่ใช่แค่พวกเขา แม้แต่เอธานก็ยังตกตะลึงเช่นกัน…
ตอนที่ 31: คาถาอักษรรูน
เอธานสลายลูกไฟ ที่เขาถืออยู่ในตอนนี้เป็นครั้งแรก
จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึก ๆ และพูดว่า ‘Fireball!!’
ทันใดนั้นลูกไฟก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
คราวนี้เขาบัญชาให้ลูกไฟใหญ่ขึ้น
ทันใดนั้นลูกไฟขนาดใหญ่กว่าก็ปรากฏขึ้นในมืออีกข้างของเขา
‘F ** KING เยี่ยม ใช่แบบนี้สิ’
จากนั้นเขาก็ปล่อยให้ลูกไฟทั้งสองให้ลอย โดยใช้พลังจิตของเขาและสั่งให้ลูกไฟอีก 3 ลูกออกมา
ทันใดนั้นลูกไฟ 3 ลูกก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ขณะที่เขาปล่อยให้พวกมันลอยไปโดยใช้พลังจิตของเขาอีกครั้ง
การหายใจของเอธานเร็วขึ้นและใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงจากความตื่นเต้นมากเกินไป
วิธีการทำงานของเขา เขาสร้างการเรียกใช้คาถาของ FIREBALL ได้สำเร็จ
ตอนนี้ในการต่อสู้ เขาสามารถร่ายเวทย์ได้หลายครั้งด้วยความคิดของเขาเอง
คาถาแห่งลูกไฟจะยังคงดูดซับพลังงานจากทะเลธาตุไฟโดยอัตโนมัติ ตราบใดที่เขามีพลังงานเพียงพอในทะเลธาตุของเขา เขาก็สามารถใช้คาถาได้ทันที
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันทำสำเร็จ f ** k … “
จากนั้นเขาก็สลายลูกไฟและดูดกลับพลังงานคืน แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ใช้พลังงานเพียงครึ่งหยดของเขา แต่เอธานก็ไม่อยากเสียมันไป
จากนั้นเขาก็เข้าไปในอาณาจักรพลังจิตของเขา เพื่อตรวจสอบว่าเขามีพลังเวทย์มนต์เหลืออยู่เท่าใด ในขณะที่เขาต้องการพลังงานนี้เพื่อสร้างอักษรคาถารูน
เมื่อมองไปที่กลุ่มของพลังงานลึกลับ เอธานก็คิดว่า ‘ฉันอาจจะสร้างอักษรรูนเวทย์ได้ 6 หรือ 7 อันด้วยพลังงานนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องการพลังงานลึกลับมากขึ้นในภายหลัง ‘
จากนั้นเธานก็นำพลังงานเวทย์มนต์จำนวนหนึ่งออกจากก้อนหินและเริ่มสร้างรูนคาถาที่ 2
คาถาที่ 2 ที่เขาต้องการสร้างคือ <หอกสายฟ้า> แต่เขาต้องฝึกฝนก่อนจึงจะรวมกระบวนท่าลงในหินได้
ดังนั้นเขาจึงเริ่มฝึกฝนมัน ก่อนอื่นเขาสร้างภาพของ <หอกสายฟ้า> ขึ้นมาในหัวของเขา จากนั้นควบคุมพลังงานสายฟ้าตามภาพที่เขาสร้างขึ้น
เขาผสมพลังงานสายฟ้าเข้าไปอย่างช้าๆและสร้าง <หอกสายฟ้า> ขึ้นมาในมือ เขาสร้างหอกขึ้นมาหลังจากที่มันถูกแทงเข้าไปในบางสิ่งหรือใครบางคนมันก็จะสลายไปเป็นกระแสสายฟ้าที่ปลายของมัน ตรงจุดที่ถูกแทงเข้าไป
หลังจากสร้างหอกแล้ว เขาก็โยนมันไปที่มุมถ้ำและหลังจากที่มันถูกเจาะเข้าไปในผนังเล็กน้อย มันก็สลายไปในกระแสสายฟ้า
เมื่อเห็นว่าผลกระทบนั้นตรงกับสิ่งที่เขาสร้างขึ้น เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
จากนั้นเขาก็สร้างคาถาคาถาของ <หอกสายฟ้า>
ขั้นแรกเขาเปลี่ยนสีของรูนเป็นสีม่วง – น้ำเงินและชักหอกใส่มัน
จากนั้นเขาก็เชื่อมต่อกับทะเลธาตุสายฟ้า เพื่อให้หินสามารถใช้พลังงานจากมันได้
ในที่สุดเขาก็สลักคาถา <หอกสายฟ้า> ไว้ในรูน
หลังจากทำทั้งหมดนั้นด้วยความคิดเพียงครั้งเดียว <หอกสายฟ้า> ก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเขา
ในความคิดครั้งที่ 2 <หอกสายฟ้า> 3 อันก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็สลายหอกและมองไปที่เทียน่าก่อนที่จะพูดว่า “ฉันกำลังจะออกไปสักพัก เพื่อฝึก เธอรอที่นี่สักครู่ ฉันจะกลับมาอีกไม่นาน”
เทียน่าอยู่ในสภาพกึ่งเข้าฌาน ดังนั้นเธอจึงยังคงได้ยินเสียงของเอธานและพยักหน้าตอบ
จากนั้นเอธานก็ออกไปนอกถ้ำและในไม่กี่นาทีเขาก็บินออกจากบ่อ
สระว่ายน้ำยังคงเต็มไปด้วยพลังงานสายฟ้าของเขา
เขามองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นผู้คนและพึมพำว่า “ดูเหมือนพวกเขายอมแพ้ ฉันคิดว่าคนพวกนี้ไม่มีสมองและจะต้องถูกศาลตัดสินประหารชีวิตแน่นอน”
จากนั้นเขาก็บินไปในทิศทางแบบสุ่มเพราะเขาแค่อยากจะลองคาถาใหม่ของเขา <หอกสายฟ้า>
หลังจากบินได้เพียงหนึ่งนาทีเขาก็ได้พบกับสัตว์ร้ายระดับ 5 ดูเหมือนกอริลลาที่มี 4 มือและผิวหนังของมันมีเกล็ดสีน้ำตาล
เขาใช้ <หอกสายฟ้า> และหอกสายฟ้า 3 อันก็ปรากฏต่อหน้าเขา
เขาคว้าหอกเล่มหนึ่งและขว้างไปยังสัตว์ร้ายด้วยแรงเต็มที่
* บู้มมมมมมม *
ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพที่ยอดเยี่ยมของหอกนั้นของเอธาน จึงฉีกผิวหนัง และเกิดเสียงขึ้น ขณะที่มันสร้างเสียงดังขึ้นและโดนเข้ากับกอริลล่าปีศาจเกรด 5 อยู่นั้น
หอกสายฟ้าก็ได้เจาะเข้าไปในร่างกายของสัตว์ร้ายโดยตรงแล้ว แต่หลังจากหอกสายฟ้าทะลุเข้าไปในสัตว์ร้าย มันก็กลายเป็นกระแสสายฟ้าและสร้างความหายนะภายในร่างกายของสัตว์ร้ายตัวนั้น
ในหอกสายฟ้าเพียงอันเดียวสัตว์ร้ายได้พบกับความตาย
จากนั้นเอธานก็บินไปข้างหน้าพร้อมกับคว้าหอก 2 อันไว้ในมือและพบสัตว์ร้ายอีกตัว
มันเป็นสัตว์เกรด 6 ที่รู้จักกันในชื่อเสือเฮอริเคน 4 ปีก
เอธานรู้สึกประหลาดใจ เมื่อสัตว์ร้ายตัวนี้เป็นสัตว์อสูรระดับพิเศษระดับ 6 ที่หายากมาก หมายความว่าสายเลือดของมันสามารถทำให้มันไปถึงระดับ 7 ได้ตราบเท่าที่มีเวลาเพียงพอ
เอธานยังอยากลองใช้อีกอย่างนึง
ศิลปะธาตุ….
เขายังไม่ได้ลองใช้ ศิลปะแห่งธาตุ ใด ๆ และในการใช้พวกมัน เขาจำเป็นต้องศึกษาระบบภายในของสัตว์ร้ายและสิ่งอื่น ๆ ด้วยพลังงานจิตของเขา
เขาตัดสินใจที่จะสร้างศิลปะธาตุ หลังจากที่ได้เห็นเสือเฮอริเคน 4 ปีกตัวนี้ เนื่องจากเสือกำลังโกรธและอยากจะต่อสู้กับเอธาน เมื่อเห็นเขา
จากนั้นเอธานก็ขว้างหอกสายฟ้าที่อยู่ในมือซ้ายของเขาไปทางสัตว์ร้ายเฮอริเคน 4 ปีก มันสังเกตเห็นการโจมตี แต่มันไม่สามารถหลบได้ เนื่องจากความเร็วของหอกสายฟ้าเร็วเกินไป
จากนั้นเอธาน ก็สลายหอกที่อยู่ในมือขวาของเขา ในขณะที่เขารู้ว่าสัตว์ร้ายจะตายในไม่ช้า แม้ว่าจะไม่ตายทันทีเหมือน กอริลล่าก็ตาม
หลังจากผ่านไป 3-4 นาที เสือเฮอริเคน 4 ปีกก็ตายลง
จากนั้นเอธานก็มาถึงข้างๆมันและสแกนภายนอกของสัตว์ร้ายและภายในทั้งหมด
หลังจาก 10 นาที เอธานก็เสร็จสิ้นการสแกนทุกระเบียบนิ้วของสัตว์ร้าย ทั้งภายในและภายนอก จากนั้นเขาก็ผนึกสิ่งที่เขาเรียนรู้ทั้งหมดลงในหิน แล้วเชื่อมต่อหินกับอากาศ ดิน น้ำและไม้
ปีกแห่งอากาศ + ร่างของดินและภายในเป็นส่วนของน้ำ + ไม้
หลังจากนั้นเขาก็เปิดใช้งานรูน ในขณะที่มันดูดซับพลังงานจากอากาศ ดินและทะเลธาตุไม้มาได้
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ก็มีบางอย่างเริ่มปรากฏขึ้นต่อหน้าเอธาน
อีกไม่กี่วินาที สัตว์ร้ายก็พร้อมมาล้อมรอบต่อหน้าเอธานแล้ว มันคือเสือเฮอริเคน 4 ปีกเหมือนกัน แต่มีปีกของไม้และภายในปีกไม้เป็นกระแสอากาศ ร่างกายของมันทำจากธาตุดินและภายในเต็มไปด้วย ไม้และน้ำ
จากนั้นเขาก็ฉีดพลังจิตเข้าไปในสัตว์ร้าย แล้วนั่งบนสัตว์ร้ายก่อนที่จะบินไปที่บ่อน้ำ
หลังจากไปถึงที่นั่น เขาสั่งให้สัตว์ร้ายเฝ้าบ่อน้ำเพราะเขาไม่รู้ว่าพลังงานสายฟ้าของเขาจะทำงานในบ่อได้นานแค่ไหน
แต่ 10 นาที หลังจากที่เอธาน เข้าไปในบ่อน้ำ นกเมฆาศักดิ์สิทธิ์ 2 ตัวก็ปรากฏตัวขึ้น
สิ่งที่น่าตกใจคือนกเมฆาศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่งมีขนาดใหญ่กว่าอีกตัวหนึ่ง
ด้านบนของนกเมฆาศักดิ์สิทธิ์มีคนตัวเล็กๆนั่งอยู่กับผู้คนที่เอธาน พบก่อนหน้านี้ และบนนกเมฆาศักดิ์สิทธิ์ตัวใหญ่กว่ามีชายชราที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัย 50 นั่งอยู่
หลังจากมาถึงบ่อน้ำ ชายชราก็สังเกตเห็นสัตว์ศิลปะธาตุที่เอธานเสก และพูดกับคนที่นั่งอยู่บนนกเมฆาศักดิ์สิทธิ์อีกตัวหนึ่งทันที “ศิลปะธาตุของใครน่ะ เจ้าไม่เคยได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยนี่”
ผู้อาวุโสหญิงก็งงเช่นกันและพูดว่า “นี่ … เราก็พึ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกัน”
ชายชราเพียงแค่พยักหน้าและเสกดาบสีทองในมือของเขา หลังจากนั้นก็เหวี่ยงดาบสีทองไปทางเสือเฮอริเคน 4 ปีก
แต่สิ่งต่างๆกลับไม่เป็นไปตามที่ชายชราคาดหวัง
เสือตัวนั้นหลบการโจมตีอย่างกระปรี้กระเปร่าและคำรามไปทางผู้อาวุโส ก่อนที่มันจะกระพือปีกอย่างมีพลังและขว้างใบมีดทรงพลังไปทางชายชราแทน
ใบหน้าของชายชราเปลี่ยนไปเมื่อเห็นดาบลมนั่นและรีบวางเกราะสายฟ้าไว้รอบตัวเขาทันที
แต่เมื่อดาบลมกระทบกับเกราะสายฟ้า มันก็ไม่หยุดอยู่แม้แต่วินาทีเดียว
ใบหน้าของชายชราซีดเซียว ขณะที่เขาใช้ เครื่องรางพื้นที่ แสนล้ำค่าและเคลื่อนย้ายไปยังระยะทาง 50 เมตรทันที
สัตว์ร้ายไม่ยอมแพ้ ในขณะที่มันอ้าปากและยิงปืนใหญ่น้ำเข้าหาคนพวกนั้น ผู้อาวุโสรู้สึกถึงพลังงานที่น่ากลัวที่บรรจุอยู่ในปืนใหญ่น้ำ ผู้อาวุโสไม่ได้พยายามที่จะปิดกั้นมันอล้วในครั้งนี้ ในขณะที่เขาใช้คาถาหลอมรวมระหว่างอากาศและ ไฟ ที่ขับเคลื่อนเขาและเพิ่มความเร็วของเขา ซึ่งทำให้เขาหลบได้สำเร็จ
จากนั้นสัตว์ร้ายก็ใช้ดาบลมอีกครั้ง และคราวนี้ผู้อาวุโสก็ไม่สามารถหลบได้สำเร็จ เนื่องจากมือซ้ายของเขาถูกตัดออกโดยตรงทันที
แต่หลังจากการโจมตีครั้งนี้ สัตว์ร้ายได้ใช้พลังงานอากาศภายในปีกจนหมดแล้วและภายในของมันก็ผิดปกติ เนื่องจากขาดน้ำ ซึ่งทำให้สัตว์ร้ายตกลงมาจากท้องฟ้า
บ่อน้ำยังคงเต็มไปด้วยพลังสายฟ้าที่น่ากลัวและสัตว์ร้ายก็สลายไปทันที หลังจากที่มันตกลงไปในบ่อ
ชายชรากำลังหอบหายใจรุนแรง ขณะที่จ้องมองไปที่กลุ่มที่นั่งหลอกล่ออยู่บนนกเมฆาศักดิ์สิทธิ์
“คุณต้องการให้ฉันจัดการกับคนที่ครอบครองสัตว์ร้ายนี้หรือ คุณกำลังพยายามที่จะฆ่าฉันด้วยการทำเช่นนี้กันแน่?”
ชายชราคำรามไปทางกลุ่มที่มองดูเขาอยู่ ซึ่งทำให้พวกเขางุนงง
ผู้อาวุโสหญิงและคนอื่น ๆ ตัวสั่น เมื่อได้ยินคำพูดนั้น
“ผู้อาวุโสสูงสุด โปรดใจเย็น ๆ เราไม่รู้ว่าเจ้าหนูนั่นเป็นคนที่มีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้”
ชายชราสงบลงเล็กน้อย หลังจากนั้นและพึมพำด้วยความกลัว “แม้แต่ปรมาจารย์ในพระราชวังก็ไม่มีพลังที่ทรงพลังเช่นนี้ ที่จะสามารถปล่อยสัตว์ร้ายออกมาและทำลายกำแพงสายฟ้าของฉัน ซึ่งมันกินเวลาไม่ถึงวินาที ก่อนที่มันจะถูกฉีกออกในทันทีขนาดนั้น”
เขามองไปที่กลุ่มคนพวกนั้นอีกครั้งและพูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “พวกเราต้องรายงานเรื่องนี้ต่อเจ้าสำนักพระราชวัง พวกคุณทุกคนมากับฉันและเล่าทุกรายละเอียดเกี่ยวกับการเผชิญหน้าของคุณกับชายหนุ่มคนนั้น อย่าเก็บอะไรไว้ เข้าใจไหม ?”
พวกเขาทั้ง 6 คน ซึ่งนั่งอยู่บนนกเมฆาศักดิ์สิทธิ์พยักหน้าอย่างหวาดกลัว
เมื่อเห็นแบบนั้น ผู้อาวุโสคนนั้นก็ตะคอกและพูดว่า “ไปกันเถอะ”
หลังจากนั้นเขาก็นั่งบนนกเมฆาศักดิ์สิทธิ์ของเขาและบินจากไป ในขณะที่คนอื่น ๆ ก็ตามเขาไปด้วย
ตอนที่ 30: ดูดซึมผลไม้นั่นให้หมด….ได้เวลาลองสิ่งที่น่าสนใจแล้ว!
เอธานละทิ้งสิ่งที่สับสนที่เกิดขึ้นกับเขาและมุ่งความสนใจไปที่เทียน่า
เธอยังคงรักษาเสถียรภาพของขอบเขตพลังงานของเธอไว้อยู่ในตอนนี้
จากนั้นเอธานก็มาถึงต้นไม้แล้ว แต่วังวนสีดำก็ยังไม่ได้ดูดซับสิ่งสำคัญใด ๆ
‘ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเก็บผลไม้พวกนี้ออกจากต้นสินะ’ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เอธาน ก็เก็บผลไม้ทั้งหมดแล้ววางไว้รอบ ๆ ตัวเขา ขณะที่เขานั่งลงไม่ไกลจากเทียน่า
ปัจจุบันเอธานมี 4 องค์ประกอบของธาตุ ได้แก่ สายฟ้า ความมืด และน้ำ
ดังนั้นหลังจากดูดซับแก่นแท้ของไม้ ดิน และอากาศแล้ว ร่างกายของเขาจะได้รับการขัดเกลาและเขาจะได้รับธาตุ 3 ชนิดใหม่
อันที่จริง เอธาน กำลังลังเลว่าเขาควรจะปรับแต่งร่างกายของเขาทีละอย่างหรือปล่อยให้วังวนสีดำดูดซับพลังธาตุทั้งไม้ ดิน และอากาศทั้งหมดในคราวเดียว และปรับแต่งร่างกายของเขาด้วยพลังธาตุประหลาดทั้ง 3 ธาตุนี้ เหมือนกับครั้งแรกที่เขาใช้กับไฟและสายฟ้า
‘F ** k ฉันจะทำมันทั้งหมดในคราวเดียวล้ะกัน’ เมื่อเขาสรุปการตัดสินใจของเขาได้ เขาก็วางผลไม้ทั้ง 3 ไว้รอบตัวของเขา ในขณะที่วังวนสีดำเริ่มดูดซับพลังสำคัญจากมัน
…
หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง วังวนสีดำก็ดูดซับพลังสำคัญ 3 ประเภทจากผลไม้ของธาตุไม้ ดิน และอากาศและเริ่มปล่อยพลังงานแปลก ๆ ที่ประกอบด้วยสีเขียวสีน้ำตาลและสีฟ้า
เมื่อเห็นดังนั้นเอธานก็นอนลงบนพื้นและเอาผ้ามากั้นระหว่างฟันของเขาอีกครั้ง
ก่อนที่จะผ่านไป 1 นาทีวังวนสีดำก็ปลดปล่อยพลังงานประหลาดออกมาจนหมด ขณะนั้นร่างกายของเขากลายเป็นสนามเด็กเล่นของพลังงานเหล่านั้นไปแล้ว
…
10 นาทีผ่านไป เอธานรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย
‘ฉันจะไม่ปรับแต่งร่างกายของฉันด้วยองค์ประกอบมากกว่าหนึ่งอย่าง แล้ว ต่อจากนี้ เพราะมันกำลังทำให้ฉันเป็นบ้า โดยเฉพาะตอนนี้ที่ฉันประสบกับมันอยู่ แต่ฉันก็รู้สึกว่าเกณฑ์ความเจ็บปวดของฉันเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากทำกระบวนการนี้เสร็จแล้ว ‘
จากนั้นเอธานก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน ในขณะที่เขาตรวจสอบสถานการณ์ภายในขอบเขตพลังจิตของเขา
ปัจจุบันมีคริสตัลลอยอยู่ 4 แบบ: คริสตัลสีดำเมทัลลิกที่สามารถเปลี่ยนเป็นชุดสูทได้, คริสตัลลมสีฟ้า, คริสตัลไม้สีเขียว, คริสตัลสีน้ำตาลของธาตุดิน
จากนั้นเขาก็คว้าผลไม้สีฟ้าและเริ่มกินมันต่อไป
พลังงานลมพุ่งเข้าสู่ตัวเขาอย่างรุนแรง เมื่อมันมาถึงอาณาจักรพลังงานของเขาแล้ว
ในไม่กี่นาที เอธานก็กินผลไม้สีเขียวและสีน้ำตาลเสร็จ
จากนั้น เอธานก็ตรวจสอบสถานการณ์ของอาณาจักรพลังงานของเขาอีกครั้ง
ตอนนี้ทะเลธาตุน้ำของเขาเต็มไปด้วยน้ำจริง แม้ว่าขนาดของมันจะไม่เท่าทะเล แม้กระทั่งลดลงมามากหลังจากการเปลี่ยนรูปให้เป็นผลึกน้ำแล้ว แต่ก็ยังดูใหญ่พอ ๆ กับสระน้ำขนาดเล็กอยู่ดี
พลังงานก๊าซของธาตุดิน ลมและไม้ ตอนนี้มันดูมีขนาดใหญ่กว่าทะเลธาตุน้ำมากกว่า 2 เท่า แต่เป็นเพราะพวกมันอยู่ในรูปแบบของพลังงานก๊าซ หลังจากที่คริสตัลที่อยู่เหนือพวกมัน มันก็เปลี่ยนเป็นพลังงานเหลว ซึ่งพวกมันก็จะมีขนาดเล็กลงในทำนองเดียวกันนั่นเอง
แต่ในขณะที่เขามองไปที่พลังของน้ำ ดิน ลม และไม้ เขาก็เริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่ลึกลับอีกครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะอยู่ในตัวเขาแล้ว แต่มันก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นในเวลาเดียวกัน และเขาก็พยายามที่จะเข้าใจสิ่งนั้น แต่แล้ว ความรู้สึกก็หายไปอีกครั้ง
“F ** king บ้าเอ้ย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ฉันค่อนข้างแน่ใจว่ามันเกี่ยวข้องกับผลไม้พวกนั้นแน่ๆ เพราะฉันแค่รู้สึกและสัมผัสได้ว่ามันคืออะไร และหลังจากที่ฉันกินผลไม้นั่นไปแล้ว…” เอธาน รู้สึกสับสนไปหมดและก็รู้สึกรำคาญนิดหน่อย
มันเหมือนกับว่ามีสมบัติอยู่ตรงหน้าคุณ แต่เมื่อคุณพยายามที่จะสัมผัสมัน พวกมันก็หายไป
หลังจากนั้นเอธานก็คว้าผลไฟและกินมันเพื่อเพิ่มขนาดของพลังงานสำรองของเขา
หลังจากเขากินมันเข้าไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียง 1 ผลและนั่นคือผลไม้พลังสายฟ้า แต่เขาไม่ได้กินมันและรอให้เทียน่าฝึกเสร็จก่อน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอสามารถดูดซับพลังงานของผลไม้ได้เพียง 1% เท่านั้น ดังนั้นทำไมเขาถึงไม่ปล่อยให้เธอกัดคำที่เล็กที่สุดที่เธอสามารถรับได้จากผลไม้ แม้ว่าเธอจะได้รับพลังงานสายฟ้าที่มากล้นก็ตาม
เอธานยังคงต้องการการฝึกฝนคาถา เนื่องจากเขาได้คิดไอเดียที่ไม่เหมือนใครในการใช้คาถาไว้แล้ว
แต่วิธีการนั้นจำเป็นต้องใช้ พลังแห่งความลึกลับและเขายังคงมี พลังงานลึกลับ เหลืออยู่จำนวนหนึ่ง หลังจากที่เขาสร้างอินเทอร์เฟซของเขาเอง
<เอธาน ลอง: ~ เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ(ครึ่งหนึ่ง)>
<สถิติ>
ความแข็งแรง: –
ร่างกาย:—
ความเร็ว:—
จิตใจ: —
[~ อาณาจักรพลังจิต: ชำระแล้ว ~]
– พลังจิต: 100%
– สีดำเมทัลลิคคริสตัล ::: เหมาะสม
[~ ขอบเขตพลังงาน: ไฟ สายฟ้า ไม้ อากาศ ความมืด น้ำ และดิน ~]
– พลังงานไฟ: 100% / 100%
– พลังงานสายฟ้า: 42% / 100%
– พลังงานไม้: 100% / 100%
– พลังงานอากาศ: 100% / 100%
– พลังงานมืด: 100% / 100%
– พลังงานน้ำ: 100% / 100%
– พลังงานดิน: 100% / 100%
__________________________________________________
เอธานมองไปที่อินเทอร์เฟซของเขา แต่เขาไม่ชอบรายการองค์ประกอบยาว ๆแบบนั้นเลย ที่แสดงจำนวนพลังงานทั้งหมดในปัจจุบันของเขา และปริมาณที่เหลืออยู่หลังจากที่เขาใช้พวกมันไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงลบออก
<เอธาน ลอง: ~ เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ (ครึ่งหนึ่ง)>
<สถิติ>
ความแข็งแรง: –
ร่างกาย:—
ความเร็ว:—
จิตใจ: —
[~ อาณาจักรพลังจิต: ชำระแล้ว ~]
– พลังจิต: 100%
– สีดำเมทัลลิคคริสตัล ::: เหมาะสม
[~ ขอบเขตพลังงาน: ไฟ สายฟ้า ไม้ อากาศ ความมืด น้ำ ดิน ~]
_________________________________________________
เมื่อเห็นเอธานคนนี้พยักหน้า “ดีกว่าแฮะ ฉันจะได้รู้ว่าจะใส่อะไรไว้ตรงไหน แต่หลังจากที่ฉันลองใช้วิธีการสะกดที่เป็นเอกลักษณ์ของฉันแล้ว มาลองดูกันว่าได้ผลหรือไม่”
“ เอธาน ถ้าฝึกเสร็จแล้ว เราจะทำยังไงต่อดี?”
เอธานที่กำลังแยกแยะความคิดและสิ่งต่าง ๆ ของเขา เขาก็ได้ยินเสียงและมองไปที่เทียน่าก่อนจะพูดว่า “ฉันมีผลไม้ธาตุสายฟ้าอยู่ กินอะไรสักหน่อยสิ ฉันจะจัดการที่เหลือเอง”
หลังจากพูดแบบนี้ เขาก็ลุกขึ้นยืนและให้ผลไม้แก่เทียน่า ก่อนที่จะวางมือบนหลังของเธอ ก่อนที่จะพูดว่า “เอาเลย”
เทียน่ากัดฟันอย่างลังเล จากนั้นเธอก็รีบควบคุมพลังงานจากผลไม้ เพื่อขยายขอบเขตพลังงานของเธอ
เอธานที่มองเข้าไปในขอบเขตพลังงาน ของเธอ สังเกตเห็นพลังงานสายฟ้าที่กำลังพรั่งพรูออกมา หลังจากที่เธอกัดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และนั่นยังทำให้พลังงานสายฟ้าล้นออกมา แม้ว่ามันจะไม่ล้นออกไปมากเท่ากับที่พลังงานน้ำก่อนหน้านี้ที่ทำลายล้างในทะเลพลังงานของเธอก็ตาม
เอธาน ใช้เพียงปริมาณที่ล้นในทะเลธาตุน้ำและออกจากอาณาจักรพลังงานของเธอ ก่อนที่จะหยิบผลไม้พลังงานสายฟ้าขึ้นมา
เมื่อมองไปที่จุดที่เทียน่ากัดเอธานก็พูดไม่ออก
‘ไม่น่าแปลกใจที่มีเพียงปริมาณเล็กน้อยเท่านั้นที่ล้นออกมา ซึ่งแตกต่างจากผลไม้ธาตุน้ำ’ เอธานจับหัวของเขา พลางกินผลไม้ เขากัดครั้งใหญ่ 2-3 ครั้ง ในขณะที่พลังงานก๊าซสายฟ้าพุ่งเข้ามาในอาณาจักรพลังงานของเขา
“ตอนนี้ถึงเวลาที่ฉันจะสร้างวิธีการร่ายเวทย์ใหม่ของฉันแล้ว และหวังว่ามันจะได้ผล” เอธาน พึมพำขณะที่เขามองเข้าไปในอาณาจักรพลังจิตของเขา ก่อนที่จะคว้าพลังลึกลับจำนวนเล็กน้อยออกมา
ก่อนอื่นเขาเปลี่ยนพลังงานเวทย์มนต์ให้เป็นหินก้อนเล็กๆ หลังจากนั้นเขาต้องการตรวจสอบว่าหินพลังงานลึกลับนี้ สามารถนำพลังงานของธาตุออกมาได้หรือไม่
ดังนั้นเขาจึงยกมือซ้ายขึ้นและสร้างเปลวไฟเล็ก ๆ ขึ้นมาโดยใช้พลังงานไฟเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็เข้าใกล้เปลวไฟที่มือซ้ายของเขา เขาเข้าหาหินและประสงค์ให้หินดูดซับมันไป
ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้เอธานมีความสุขมาก เมื่อหินดูดซับเปลวไฟตามคำสั่งของเขา
“ดูเหมือนว่าพลังเวทย์มนต์จะสามารถนำพลังงานธาตุมาใช้ได้ ดังนั้นมันหมายความว่ามีโอกาสที่วิธีการของฉันจะได้ผล” เอธาน รู้สึกตื่นเต้น เพราะนี่หมายความว่าวิธีการของเขาอาจได้ผล
เขาไม่สามารถรอได้แล้ว ในขณะที่เขาเริ่มกระบวนการของเขาเอง
“เอาล่ะ เรามาทำให้มันเกิดขึ้นกันเถอะ” เอธาน ตั้งสมาธิ ในขณะที่เขาเปลี่ยนโครงสร้างของหินเล็กน้อยและทำให้มันเป็นสีส้มและยังดึงลูกไฟเข้าไปอีก
อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องเสกลูกไฟหรือเปลี่ยนสีของหิน ซึ่งเขาก็ทำแบบนั้น เพราะมันดูเท่และเพราะคาถาแรกที่เขาสร้างคือ ลูกไฟนั่นเอง … และนอกจากนี้เขายังสร้างมันด้วยวิธีการของเขาเอง
หลังจากทำเช่นนั้นแล้วขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการสร้างคาถาก็มาถึง เอธานสามารถทำมันได้ แต่เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย ในขณะที่เขาเริ่มทำ
เขาสร้างช่องจากทะเลธาตุไฟของเขาเป็นครั้งแรก และเชื่อมต่อกับหิน หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้หินดูดซับพลังงานไฟจากทะเลธาตุไฟอย่างต่อเนื่อง
‘ขั้นตอนแรกเสร็จสมบูรณ์’
จากนั้นเขาก็มองเข้าไปในหินด้วยพลังจิตของเขาและสร้างลูกไฟอีกครั้ง เขาทำให้ข้างในเต็มไปด้วยพลังงานไฟที่หินก้อนนั้นกำลังดูดซับและผนึกกระบวนการของลูกไฟที่ถูกสร้างขึ้นในหิน ‘ขั้นตอนที่สองเสร็จสมบูรณ์แล้ว’
จากนั้นเอธานก็ออกจากอาณาจักรพลังจิตของเขาและหายใจเข้าลึก ๆ
“หวังว่าขั้นตอนที่ 3 จะได้ผลนะ”
ในขั้นตอนที่ 3 เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไร เพียงแค่ต้องปล่อยก้อนหินเพื่อให้มันปล่อยลูกไฟออกมาเท่านั้น….
เขายกมือซ้ายขึ้นแล้วสั่งว่า ‘Fireball!! ‘
ภายในอาณาจักรพลังจิตของเขา หินก็ปล่อยลูกไฟออกมาทันที ตามที่เขาสั่งและมันก็ปรากฏบนมือของเอธานทันที จากนั้นเขาก็ผนึกกระบวนการนี้ไว้ในหินด้วยเช่นกัน
เอธาน ระงับความตื่นเต้นของเขาไว้ เนื่องจากยังเหลือขั้นตอนสุดท้ายและมันก็สำคัญที่สุด หากแต่ยังไม่ได้ผล ทุกสิ่งที่เขาทำจนถึงตอนนี้ก็จะไร้ผล
ขั้นตอนสุดท้ายนั้นง่ายมาก แต่ก็สำคัญที่สุดเช่นกัน
วิธีนี้จะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อคำสั่งของเขาเพียงอย่างเดียว และก้อนหินก้อนนี้สามารถสร้างลูกไฟที่อยู่ข้างในได้ด้วยพลังงาน จากนั้นมันจะปล่อยไปยังทิศทางต่างๆ … ทั้งหมดในทันที วิธีนี้เท่านั้นที่จะถือว่าประสบความสำเร็จ
ตอนที่ 29: ผลไม้ที่มีพลังเหลือล้น
เอธานมองไปที่เทียน่าและถามว่า “คุณรู้อะไรเกี่ยวกับผลไม้เช่นนี้หรือไม่?”
เทียน่าส่ายหัวและพูดว่า “ฉันอ่านเกี่ยวกับสมบัติทางธรรมชาติมาหลายประเภท แต่ฉันไม่เคยอ่านเกี่ยวกับต้นไม้ที่สามารถสร้างผลไม้ที่มีองค์ประกอบของธาตุต่างๆได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว เขาก็พยักหน้าและเข้าไปในบ่อเพื่อเก็บผลไม้ธาตุน้ำ
หลังจากดูผลไม้อย่างใกล้ชิดแล้วเอธาน ก็ประหลาดใจ เพราะผลไม้ไม่ได้รับความเสียหายและเป็นเพียงการปลดปล่อยพลังงานจากจุดแตกหน่อเท่านั้น
จากนั้นเขาก็กลับไปที่ด้านข้างของเทียน่าและพูดว่า “ฉันจะกัดมันก่อน และถ้าพลังงานไม่รุนแรงเกินไป ฉันจะปล่อยให้เธอกินมันได้”
ในขณะที่เขากำลังจะกัดมัน เขาจำได้ว่าอ่างน้ำวนสีดำต้องการผลึกน้ำระดับสูงที่มีมูลค่าพลังงานแก่นแท้เพียงไม่กี่ผลึกเท่านั้น จากนั้นมันจะปล่อยพลังงานประหลาดประเภทน้ำ เพื่อปรับแต่งร่างกายของเขาก่อนที่จะสร้างผลึกของมัน
ในขณะที่เขาส่งพลังงานไปที่ดวงตาของเขาด้วยพลังจิต เขาก็สังเกตเห็นว่าวังวนสีดำกำลังดูดซับพลังธาตุน้ำจากจุดงอกของผลไม้อยู่
‘จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าฉันไม่เร่งกระบวนการให้เร็วขึ้น แต่เดี๋ยวก่อน ฉันไม่อยากนอนเป็นเวลา 4 ชั่วโมงในตอนนี้หรอกนะ ‘
เทียน่างงว่าทำไมเอธานไม่กินผลไม้สักนิด หลังจากเขาบอกว่าจะกินมัน เธอกำลังจะถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า? เมื่อเอธานพูดกับเธอว่า “ฉันต้องรอ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะกินมัน “
เทียน่าถามอย่างงง ๆ “ทำไมต้องรอ 1 ชั่วโมง”
เอธานส่ายหัวและพูดว่า “คุณจะเข้าใจว่าทำไม หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง และจำไว้ว่าอย่าตื่นตระหนกกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับฉัน หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง เพราะมันถือเป็นเรื่องปกติมาก สำหรับฉันและฉันก็เคยประสบกับมันมาก่อนมากกว่า 1 ครั้ง ดังนั้นอย่าตกใจและสงบสติอารมณ์ด้วยนะ “
เทียน่าสับสนมากขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีกเพราะเอธาน บอกว่าเธอจะเข้าใจ หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมงแล้วนั่นเอง
ดังนั้นพวกเขาจึงสำรวจถ้ำเป็นเวลา 30 นาทีและหลังจากไม่พบอะไรอีกแล้ว พวกเขาก็นั่งลงและจ้องมองไปที่ต้นไม้
หลังจากผ่านไป 20 นาที เอธานก็รู้สึกได้ถึงพลังงานแปลก ๆ ที่เข้ามาในร่างกายของเขาทันที
‘ ได้เวลา…’
จากนั้นเขาก็มองไปที่เทียน่าและพูดอย่างจริงจังว่า “มันจะเริ่มในอีกไม่กี่นาทีนี้ จำไว้ว่าอย่ากังวลและอย่าตกใจ มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน”
หลังจากนั้นเขาก็ดึงผ้าออกจากแหวนเก็บของและวางไว้ระหว่างฟันของเขา
เทียน่ารู้สึกสับสน แต่เธอก็ยังพยักหน้าและพูดว่า “ฉันเข้าใจ”
หลังจากนั้นไม่กี่นาที วังวนสีดำก็ปลดปล่อยพลังงานน้ำแปลก ๆ ออกมาและกระบวนการทรมานก็เริ่มขึ้นภายในร่างกายของเอธาน
พลังงานน้ำที่แปลกประหลาด เริ่มสร้างความหายนะภายในทุกส่วนของร่างกายของเอธานแล้ว ในขณะที่ร่างกายของเอธาน เริ่มเปล่งประกายด้วยสีฟ้าทุกหนทุกแห่ง
ฟันของเขาขบกับผ้า ขณะที่เขานอนอยู่ที่นั่นและกำลังเป็นอัมพาต
เมื่อเห็นสภาพของเอธาน เทียน่าก็ตกใจมาก จนเธออดไม่ได้ที่จะส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ
จากนั้นเธอก็สงบลง เมื่อเธอจำสิ่งที่เอธานพูดก่อนหน้านี้ได้ และมองไปที่เอธานอย่างระมัดระวัง
จากการแสดงออกและสภาพร่างกายในปัจจุบันของเขา เธอสามารถเห็นได้ว่าเอธานนั้น กำลังประสบกับความเจ็บปวดอย่างมาก
‘เขาเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้วมากกว่า 1 ครั้งงั้นเหรอ? ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาใช้ชีวิตผ่านมันมาได้ยังไง ‘
…
10 นาทีผ่านไป หลังจากปรับแต่งร่างกายของเขา และพลังงานก็รวมตัวกันภายในอาณาจักรพลังจิตของเขา และกลายเป็นคริสตัลสีฟ้า
เอธานค่อยๆลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คราวนี้มันไม่เจ็บปวดเหมือนครั้งก่อน แต่ฉันขยับไม่ได้ เมื่อพลังงานกำลังกลั่นร่างกายของฉัน”
เทียน่าได้ยินเขาและพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ “คุณกำลังปรับแต่งร่างกายของคุณ ฉันไม่เคยเห็นใครปรับแต่งร่างกายของพวกเขาแบบนี้เลยนะ”
เอธานพยักหน้าเมื่อได้ยินเธอ แล้วจึงพูดว่า “เอาล่ะ ฉันจะกินมันแล้วนะ” พูดแบบนี้แล้วเขาก็กัดเบา ๆ
ทันทีที่พลังน้ำจำนวนมหาศาลพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรุนแรงและเข้ามาในอาณาจักรพลังงานของเขา
เพียงแค่กัดเพียงครั้งเดียวทะเลธาตุน้ำของเขาก็ก่อตัวขึ้นในทันที สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือขนาดของทะเลธาตุน้ำนี้มันใหญ่เท่าถังน้ำขนาดใหญ่
ตอนนี้คริสตัลน้ำก็ได้มาถึงด้านบนร่างกายของเขาแล้วและมันก็เริ่มหมุน เมื่อมันมีการดูดซับพลังงานของก๊าซทีละน้อย
หลังจากตรวจสอบสิ่งต่างๆแล้วเขาก็ให้ผลไม้แก่เทียน่าและกล่าวว่า “พลังงานนี้จะทำให้รู้สึกรุนแรงหน่อยนะ สำหรับฉันเมื่อมันเข้าไปข้างในมันรุนแรงมาก ดังนั้นเพียงกัดแค่เล็กน้อยก่อนเท่านั้นนะ”
เทียน่าพยักหน้า ขณะที่เธอคว้าผลไม้และกัดเล็กน้อย
แต่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันทีที่ผลไม้หล่นจากมือเธอและรีบนั่งไขว่ห้าง
“ เกิดอะไรขึ้น” เอธานสับสน ขณะมองไปที่เทียน่าที่ร่างกายสั่นเทา
เทียน่าต้องการเอาชนะเอธานเป็นอย่างมาก เพราะพลังงานนั้นไม่เพียงแค่รุนแรง แต่มันรุนแรงมากและปริมาณก็มากเกินไป แม้จะกัดเพียงเล็กน้อย แต่เธอก็รู้สึกเหมือนจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
“ ชะ – ช่วยด้วย … ”
เมื่อได้ยินเสียงเอธาน เธอก็เข้าใจว่าแม้กัดผลไม้นั้นไปเพียงเล็กน้อยก็ยังมากเกินไปสำหรับเธอ
เขารีบปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของเธอและแตะหลังเธอ ขณะที่เขาส่งพลังจิตเข้าไปข้างในเพื่อตรวจสอบสถานการณ์
เนื่องจากเทียน่ายังไม่ได้เปิดอาณาจักรพลังจิตของเธอ เอธาน ก็เห็นเพียงขอบเขตพลังงานของเธอและเขาก็พูดไม่ออก เมื่อเห็นมัน
เนื่องจากขอบเขตพลังงานของเธอมีขนาดเล็กมาก จึงมีพื้นที่เพียงพอสำหรับทะเลธาตุสายฟ้าและน้ำที่มีขนาดเท่าถังเล็กๆของเธอเท่านั้น แต่ตอนนี้ทะเลธาตุน้ำของเธอล้นออกมา เมื่อพลังงานน้ำกระจายออกไปข้างนอกและปะทะกับพลังงานสายฟ้าในทะเลธาตุสายฟ้า เหตุผลที่เห็นได้ชัดก็คือการกัดเล็ก ๆ ที่เธอกัดนั่นเอง
จากนั้นเขาก็รีบถ่ายโอนพลังงานน้ำที่กำลังล้นออกจากอาณาจักรพลังงานของเธอ ไปยังอาณาจักรพลังงานของเขาทันที
แน่นอนว่า เขาใช้พลังงานก๊าซจากน้ำที่ล้นออกมาเท่านั้น จากนั้นเมื่อเขามองไปอีก 2-3 นาที เขาก็เห็นว่าขอบเขตพลังงานของเธอกำลังขยายตัวอย่างช้าๆ ในขณะที่ทะเลธาตุน้ำของเธอค่อยๆดูดซึมพลังงานน้ำจากผลไม้
เมื่อเห็นเธอ เอธานก็เข้าใจทันที ‘ดังนั้นนี่คือวิธีที่พวกเขาขยายทะเลธาตุกันสินะ และ อาณาจักรแห่งธาตุของพวกเขา ฉันได้เปรียบเพราะขอบเขตพลังงานของฉันมีขนาดใหญ่ตั้งแต่เริ่มต้น แต่ดูเหมือนว่าคนอื่น ๆ ต้องค่อยๆดูดซับพลังงานและขยายทะเลธาตุของพวกเขา ซึ่งจะเพิ่มขนาดของอาณาจักรพลังงานได้ ‘
หลังจากตรวจสอบว่าสถานการณ์ของเธอคงที่ดีแล้วเอธาน ก็ดึงพลังจิตของเขากลับมา และหยิบผลไม้ขึ้นมาและเริ่มรับประทานอาหารหลังจากทำความสะอาดมันด้วยน้ำในบ่อแล้ว
เอธาน รู้สึกถึงความรุนแรงภายในร่างกายของเขา เมื่อพลังงานน้ำจำนวนมหาศาลเข้าสู่ขอบเขตพลังงานของเขาแล้ว
หลังจากกินผลไม้เสร็จแล้ว เอธานก็ตะลึง เมื่อเห็นขนาดของทะเลธาตุน้ำของเขา
มันใหญ่พอ ๆ กับสระว่ายน้ำ ที่มีคริสตัลที่อยู่ด้านบนของพวกมันและก็หมุนเร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ อาจเป็นเพราะพลังงานธาตุเหลวของพลังน้ำที่มีจำนวนมหาศาล
จากนั้นเขาก็มองไปที่ผลไม้อื่น ๆ บนต้นไม้ด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เขาพึมพำไปด้วย “ ยังมีผลไม้อีก 5 ชนิด ดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งนี้จะคุ้มค่ามาก ฉันจะดูว่าใครจะกล้ามาล่าฉันบ้าง หลังจากที่ฉันกินพวกนี้เสร็จ แล้ว”
แต่ในขณะที่เอธานกำลังมองไปที่ต้นไม้ เขาก็เริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่ … ลึกลับ
ความรู้สึกลึกลับนั้น เข้ามาและจากไป เขาพยายามมองต้นไม้อีกครั้ง เพื่อสัมผัสอีกครั้งแต่มันก็ล้มเหลว
ในขณะที่เขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่จินตนาการเท่านั้น ที่เขารู้สึกถึงสิ่งต่างๆ แต่ความรู้สึกนั้นก็กลับมาอีกครั้ง
คราวนี้เอธานสังเกตว่าเขารู้สึกได้ตลอดเวลา เมื่อมองไปที่บ่อน้ำ
มันกำลังจะมาและไปเหมือนสิ่งที่หายวับไปและไม่มีตัวตน
เอธานจดจ่ออยู่ที่บ่อน้ำ แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หยุดรู้สึกถึงสิ่งลึกลับนั้น
เอธานมองไปที่บ่อน้ำอีกครั้ง เพื่อจับความรู้สึกลึกลับนั้น แต่ครั้งนี้เขาไม่สามารถรับรู้ได้โดยสิ้นเชิง
เอธานพึมพำด้วยความสับสน “เกิดอะไรขึ้นกัน?”
ตอนที่ 28: ทรงพลัง !!!
หลังจากมาถึงทางเดินเล็ก ๆ ที่เขาระเบิดไปเอธานพูดกับเทียน่าว่า “เข้าไปข้างในทางนี้ แล้วเธอจะไปถึงที่นั่น คนข้างนอกจะไม่ยอมแพ้แน่ๆ ดังนั้นฉันจะต้องทำอะไรบางอย่างกับพวกเขา เธอไป ก่อน แล้วรอที่นั่น ฉันจะกลับมาในไม่ช้า ”
พูดแบบนี้เขาก็จากไป โดยไม่ให้โอกาสเทียน่าได้พูด
‘นี่ … แม้ว่าฉันจะรู้ว่าเขามีพลังมาก แต่ … มีคนมากมายอยู่ข้างนอกนั่น’ เทียน่าคิดอย่างเป็นห่วง ‘ฉันหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขานะ ‘
…
ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ บ่อต่างตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่พวกเขาจะฟื้นคืนสติมาและเริ่มพูดคุยกัน
“ชายหนุ่มผู้นั้นมีพลังมาก และการโจมตีของ ผู้วิเศษด้านธาตุ เหล่านั้นไม่ได้ทำให้เขามีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย … ”
“ เขามีพลังมากขนาดนี้ได้ยังไง?”
ผู้คนสงสัยและไม่มีใครอยากตามเขาไป
ทันใดนั้นคนในฝูงชนก็พูดขึ้นด้วยเสียงดังว่า “ฮึ่ม พวกเราทุกคนจะกลัวอะไร มีพวกเรามากมายที่นี่ที่เก่งกว่าเขา และเขามีเพียงคนเดียว พวกเราทุกคนไปข้างในด้วยกันเถอะ”
ในขณะที่เขาพูดจบ เสียงสาดน้ำดังขนาดใหญ่ก็ดังขึ้น เมื่อเอธานบินออกมาจากบ่อ
ทันใดนั้นทุกคนก็หันมาสนใจเขา
แต่เขาไม่เสียเวลา ในขณะที่เขาเริ่มถ่ายทอดพลังธาตุสายฟ้าจากขอบเขตพลังงานของเขาทันที และสิ่งนี้เขาไม่ได้ใช้เพียง 1 หยด แต่ใช้ที่เคยกลั่นมาทั้ง 5 หยด..
เขายกมือทั้งสองข้างขึ้น ขณะที่เขาเปลี่ยนพลังงานและพลังงานสายฟ้าจำนวนมากรวมตัวกันอยู่บนมือของเขา
เนื่องจากเขาใช้ 5 หยดในครั้งเดียว พลังงานที่ได้นั้นใหญ่เกินไปและเขาเกือบจะสูญเสียการควบคุม
ผู้คนที่อยู่ใกล้เอธาน เริ่มหน้าซีดด้วยความกลัวที่รู้สึกได้ถึงพลังงานและรีบถอยออกไป
ชายคนหนึ่งที่อายุ 40 กว่าพูดด้วยเสียงสั่น ขณะที่เขาชี้ไปที่มือของเอธานว่า “คะ – คุณจะทำอะไรกับสิ่งนั้น?”
ขณะนี้เอธานก็ถือลูกบอลสายฟ้าที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตรอยู่ในมือ
ประกายสายฟ้าที่น่ากลัวถูกปล่อยออกมารอบ ๆ
เอธานมองไปที่ชายคนนั้นและพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าใครในพวกคุณโดนสิ่งนี้เข้าไป พวกคุณสามารถอยู่รอดได้หรือไม่?”
ชายคนนั้นกลืนน้ำลายอย่างหวาดกลัว ขณะที่เขาเพิ่งบินจากไปจากเพื่อน ๆ และเพื่อนของเขาก็บินตามไปด้วย เมื่อเห็นเอธาน และพวเขาที่เหลือก็เริ่มบินหนี
สมาชิกของพระราชวังสายรุ้ง มองหน้ากันและพบว่าสถานการณ์ไม่น่าเชื่อเมื่อครู่นั้น ผู้ชายคนนี้พูดกับพวกเขาอย่างสุภาพและบอกให้พวกเขาดูแลเพื่อนของเขาให้ และตอนนี้เขากลับมีท่าทีเช่นนี้
ในหัวของพวกเขาคิดว่า ‘คุณแน่ใจหรือว่าพวกเขาเป็นคนเดียวกัน? ‘
ผู้อาวุโสที่พูดคุยกับเอธานยิ้มอย่างเป็นมิตรและพูดกับเอธานว่า “เราจะแก้ปัญหานี้อย่างสงบไม่ได้เหรอ สิ่งที่คุณถืออยู่นั้นแผ่พลังที่น่ากลัวออกมา แต่มันไม่สามารถโดนทุกคนที่นี่ได้นี่นา?” เขากล่าวต่อว่า “และการทำเช่นนี้ คุณกำลังทำให้ทุกคนที่นี่ขุ่นเคืองและมีแนวโน้มที่จะถูกตามล่าในอนาคต”
เอธานหรี่ตาลง ขณะมองไปที่ใบหน้าที่เป็นมิตรของผู้อาวุโสและกล่าวว่า “เนื่องจากท่านดูแลเทียน่ามาสักพักให้ข้า แล้วข้าจะช่วยท่านในเรื่องเล็กน้อยนั้นในอนาคตแน่นอน แต่ท่านควรลืมเรื่องที่จะเข้าไปข้างในบ่อน้ำนั่น “
ใบหน้าที่เป็นมิตรบนใบหน้าของเขาลดลง ขณะที่เขาพูดอย่างเย็นชา “ฉันพูดแบบนี้เพื่อประโยชน์ของคุณเอง คุณไม่สามารถฆ่าทุกคนที่นี่ได้และด้วยการทำเช่นนี้ คุณก็กำลังทำให้หลายฝ่ายขุ่นเคืองเช่นกัน”
เอธานส่ายหัวขณะที่พูดว่า “คุณไม่ต้องห่วงฉัน แต่ห่วงความปลอดภัยของคุณเองเถอะ”
จากนั้นเขาก็กวาดสายตามองไปที่ทุกคนและพูดว่า “ถ้าคุณเข้ามาในบ่อน้ำนี่ คุณจะต้องตาย ดังนั้นถ้าใครมีความปรารถนาที่จะตาย ก็สามารถไปข้างในนี้ได้” หลังจากพูดสิ่งนั้นจบเอธานก็ทำสิ่งที่น่าตกใจทันที
เขาทิ้งลูกบอลสายฟ้าที่น่ากลัวลงบ่อด้านล่าง
* ชริ้วววววววววว *
* ชิริ้วววววววววว *
…
ลูกบอลสายฟ้าระเบิดลงบนบ่อน้ำและพลังงานสายฟ้าที่น่ากลัวทั้งหมด ได้ผสมกับบ่อน้ำนั้น ซึ่งทำให้เกิดไฟฟ้าทั้งบ่อ
สัตว์ร้ายระดับ 5 และสัตว์เกรดต่ำอื่น ๆ ตายทันที แม้ว่าพวกมันจะอยู่ที่มุมบ่อก็ตาม
หลังจากโยนลูกบอลสายฟ้าลงไป เขาก็พูดด้วยเสียงดังว่า “ถ้าคุณสามารถอยู่รอดได้ในบ่อนี้แล้ว … ความตายของคุณจะรอคุณอยู่ที่นั่น” เอธานหัวเราะด้วยท่าทางที่กำลังครอบงำและพูด ก่อนที่จะดำลงไปในน้ำ “ ถ้าคุณไม่กลัวความตายก็ตามฉันมาได้เลย”
เมื่อเห็นเอธานดำน้ำอยู่ในบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยพลังงานสายฟ้าที่น่ากลัว พวกเขาก็ตกตะลึงอีกครั้ง
ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัย 50 ปีจากฝูงชนกล่าว ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าไปยังบ่อน้ำ “ฉันมี ความสัมพันธ์ของสายฟ้าและฉันก็มาถึงขั้นผู้วิเศษด้านธาตุ แล้ว ให้ฉันตรวจสอบว่าพลังสายฟ้าที่ทำในบ่อน้ำนั้นทรงพลังเพียงใด”
ฝูงชนมองมาที่เขาคนนั้น และเมื่อเขามาถึงขอบบ่อแล้ว หลังจากนั้นเขาก็สร้างลูกบอลสายฟ้าขนาดเล็กขึ้นมาและอยู่ใกล้เหนือผิวน้ำของบ่อ
ในขณะที่ลูกบอลสายฟ้าของเขาอยู่เหนือพื้นผิวของบ่อเพียงครึ่งเมตร มันก็ควบคุมไม่ได้และดึงดูดสายฟ้าจากบ่อ ซึ่งทำให้ลูกบอลสายฟ้าของเขาละลายในทันที ซึ่งทำให้ชายคนนั้นดึงมือกลับมาทันที
การแสดงออกบนใบหน้าของเขาเป็นความตกใจอย่างมาก เมื่อเห็นคนรอบข้างถามว่า “เกิดอะไรขึ้น ตอนนี้บ่อน้ำพลังไฟฟ้านี้ทรงพลังแค่ไหนกัน?”
“เป็นไปไม่ได้เป็นไปได้อย่างไร … ” ชายผู้นั้นตกใจ พลางพึมพำขณะที่เขาไม่ได้ยินคำถาม
ชายคนหนึ่งที่มีผมสีน้ำตาลอ่อนและมีกล้ามเนื้อ เขย่าไหล่ของชายที่ตกใจ ซึ่งทำให้เขาออกมาจากความมึนงง ขณะที่เขาสังเกตเห็นทุกคนมองมาที่เขา
“ มันทรงพลังขนาดไหน?” ชายผู้มีผมสีน้ำตาลอ่อนถาม
ผู้วิเศษด้านธาตุสายฟ้ามองไปที่ทุกคนและส่ายหัว “เราไม่สามารถอยู่รอดในบ่อน้ำนี่ได้ คุณจะตายทันทีที่คุณเข้าไปในบ่อ … ” เขาหยุดพูดชั่ววินาทีและหลังจากนั้นก็หายใจเข้าลึก ๆ เขาอธิบายต่อ ” ฉันมีโอกาสได้พบกับผู้อาวุโสที่มาถึงขั้น เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุแล้ว และเขายังแสดงพลังสายฟ้าและพลังของเขาให้ฉันได้เห็นอีกด้วย แต่ … ”
“แต่อะไร อย่าบอกนะว่าพลังงานของเจ้าหนูนั้นทรงพลังยิ่งกว่านั้น” ผู้อาวุโสหญิงที่อยู่ด้านบนของสัตว์อสูรเมฆศักดิ์สิทธิ์อดไม่ได้ที่จะพูดแทรกขึ้น ขณะที่เขาพูดด้วยสีหน้าไม่เชื่อ
ชายคนนั้นผงกศีรษะและดวงตาของเขาแสดงความกลัวอย่างชัดเจน ในขณะที่เขาพูด “ทั้งคู่เทียบกันไม่ได้ พลังงานสายฟ้านี้มีพลังอย่างน้อย 2 เท่าของที่ผู้อาวุโสที่มาถึงขั้นเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุที่ฉันเคยได้เห็น”
เมื่อได้ยินคำพูดที่น่าตกใจ ความโกลาหลก็แพร่กระจายไปทั่วทุกคน
โดยธรรมชาติแล้ว เอธานไม่รู้ว่าพลังงานของเขามีพลังเพียงใด เมื่อเทียบกับขั้นของเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ เขาคิดแค่ว่าเนื่องจากทั้งสองเป็นพลังงานเหลวจึงควรเหมือนกัน แต่มันไม่เป็นความจริง
หัวหน้าเผ่าธาตุใช้พลังงานลึกลับเพื่อทำให้พลังงานธาตุก๊าซ กลายเป็นพลังงานธาตุเหลว แต่ในกรณีของ เอธานสิ่งที่ทำงานคือผลึกแปลก ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากวังวนสีดำที่ดูดซับแก่นแท้ของพลังงานธาตุ
…
…
ในขณะเดียวกัน ตอนนี้เอธานก็มาถึงในถ้ำและเข้าไปในทางที่เขาเปิดไว้แล้ว หลังจากเข้ามาเขาได้ เขาก็ปิดผนึกอีกครั้งโดยการหลอมหินด้วยพลังงานไฟ ซึ่งเขาทำได้อย่างไรน่ะหรือ? มันง่ายมาก เขาแค่สร้างช่องทางเล็ก ๆ ขึ้นมาก่อนและค่อยๆดึงพลังงานไฟจากการปล่อยไฟเพียงครั้งเดียวและละลายหินรอบ ๆ ทางเดินนั่นเอง
เขาใช้พลังงานไฟเพียงไม่ถึงหนึ่งในสี่จากหยดนั้น เพื่อทำกระบวนการนี้สำเร็จ
จากนั้นเขาก็เข้าไปข้างในทางนั้นและมาถึงสถานที่ที่เขาพบก่อนหน้านี้
สถานที่นี้คล้ายกับถ้ำก่อนหน้านี้ แต่มีสิ่งลึกลับอย่างหนึ่งอยู่ภายในถ้ำ
ตรงกลางของถ้ำมีสระน้ำเล็ก ๆ และมีต้นไม้ที่สวยงามมากหยั่งรากอยู่กลางสระน้ำ ต้นไม้นั้นสวยงามเพราะมีผลไม้หลากสี และผลไม้สีฟ้าอ่อนกำลังอยู่ในบ่อน้ำนั้น ซึ่งมันมีพลังงานน้ำที่หนาแน่น มันจึงหล่นลงมา
เทียน่าสังเกตเห็นการมาถึงของเอธาน ขณะที่เธอวิ่งเข้าหาเขาอย่างตื่นเต้นและพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “ต้นไม้นี้คืออะไรและผลไม้เหล่านั้นคืออะไร มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆมาก”
เอธานก็จับความรู้สึกนั้นได้เช่นกัน เมื่อเขาเข้ามาครั้งแรกเพราะต้นไม้และผลไม้เหล่านั้นดูลึกลับมาก
มีทั้งหมด 6 ผล
ผลไม้สีแดงที่บ่งบอกถึงธาตุไฟ
ผลไม้สีน้ำเงินเข้มที่บ่งบอกถึงธาตุสายฟ้า
ผลไม้สีน้ำตาลที่บ่งบอกถึงธาตุดิน
ผลไม้สีเขียวที่บ่งบอกถึงธาตุไม้
ผลไม้สีฟ้าที่บ่งบอกถึงธาตุอากาศ
และผลไม้สีฟ้าที่หล่นจากต้นไม้ที่บ่งบอกถึงธาตุน้ำ
เอธานมองไปที่ผลไม้เหล่านั้นด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย ขณะที่เขาคิดว่า ‘ฉันสงสัยว่าผลของผลไม้เหล่านั้นคืออะไร ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่เหมือนผลไม้ธรรมดา ๆ ที่มีพลังเข้มข้นเพียงอย่างเดียว เนื่องจากผลไม้แต่ละชนิดมีลวดลายที่แตกต่างกันออกไป ‘…
ตอนที่ 27: โง่เขลา
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เอธานจึงตัดสินใจเข้าหากลุ่มนั้น
กลุ่มที่ขี่บนนกอัลบาทรอสสีเขียวตัวใหญ่ เห็นว่านกอินทรีไฟกำลังเข้ามาและเริ่มระมัดระวังตัว แต่เมื่อเห็นคนที่อยู่บนนั้นพวกเขาก็ผ่อนคลายลง
หลังจากเข้าใกล้พวกเขา เอธานก็มองไปที่ผู้อาวุโสและถามอย่างสุภาพ “ท่าน รู้ไหมว่ามีอะไรเกิดขึ้นในบ่อ”
ผู้อาวุโสมองไปที่เอธานและกล่าวว่า “เด็กน้อยผู้อาวุโสของคุณอยู่ที่ไหน”
“ไม่มีผู้ใหญ่มีแต่ฉันกับเธอคนนี้เท่านั้น”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เอธานพูดเอ็ลเดอร์ก็ประหลาดใจ แล้วก็ส่ายหัวพร้อมกับพูดอย่างใจดีว่า “คุณทั้งสองควรออกจากป่า นี่ไม่ใช่เรื่องดีที่จะแอบออกมาแบบนี้โดยไม่แจ้งให้ผู้อาวุโสให้ทราบ เพราะป่านี้อันตรายมาก”
เอธานยิ้มอย่างเชื่องช้า ขณะที่เขาอธิบาย “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของท่าน แต่ … ฉันมีพลังมากจริงๆ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เอธานพูดชาย 2 คนที่อยู่ในช่วงอายุ 20 ก็เริ่มหัวเราะและหญิงสาวก็หัวเราะด้วย
ผู้อาวุโสยังส่ายหัวและคิดว่า ‘เด็ก ๆ สมัยนี้หยิ่งผยอง พวกเขาจะไม่เรียนรู้อะไรเลย แค่การที่พวกเขาจะประสบกับความปราชัยเล็กน้อย และการที่มีนกระดับ 6 นั่น แสดงพวกเขาจะต้องมาจากหุบเขาสายฟ้าและต้องมี ผู้อาวุโสหรือ ผู้อาวุโสสูงสุดเป็นพี่ หรือพ่อ แม่แน่ๆ ‘
เอธานเพิกเฉยต่อทั้ง 3 คนที่กำลังหัวเราะเยาะตัวเขาเอง และถามผู้อาวุโสอีกครั้ง “แล้วท่านช่วยบอกข้าได้ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”
ใบหน้าของผู้อาวุโสเปลี่ยนไปอย่างเฉยเมย เพราะเอธานไม่เชื่อฟังคำแนะนำของเขาและพูดอย่างชัดเจนว่า “ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ที่นี่เรารู้ได้แค่ว่ามีใครบางคนหรือกลุ่มหนึ่งดำน้ำเข้าไปข้างในเพื่อตรวจสอบสถานการณ์”
เอธานพยักหน้าขอบคุณผู้อาวุโสก่อนจะบินออกไปจากพวกเขาเล็กน้อยเพื่อรักษาระยะห่าง
หลายคนยังคงมาที่นี่
30 นาทีผ่านไป แต่ไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์เลย
ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งก็บินตระหง่านและปรากฏตัวขึ้นเหนือพวกเขา มันมีความยาว 30 เมตรและมีปีกยาวมากกว่า 80 เมตร
ผู้คนต่างมองขึ้น ขณะที่พวกเขาร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ
“นั่นคือสัตว์ภูเขาที่มีชื่อเสียงของพระราชวังสายรุ้ง ที่รู้จักกันในชื่อ สัตว์ร้ายศักสิทธิ์”
ด้านบนของสัตว์ร้ายมีคน 6 คนและเป็นผู้หญิงทั้งหมด
เอธานมองอย่างถี่ถ้วนและพบว่าหญิงชราสองคนเป็น ผู้วิเศษด้านธาตุ ในขณะที่ผู้หญิงอีกคนที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัย 30 ของเธอก็เป็น ผู้วิเศษด้านธาตุ ด้วย ดูเหมือนว่าเธอจะอายุเท่ากันกับลาฟิวและอีก 3 คนเป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณเดียวกับเอธานและ เทียน่า
หลังจากความวุ่นวายเล็กน้อย ผู้คนก็กลับไปสนใจที่บ่อน้ำ
อีก 30 นาทีผ่านไป แต่ก็ไม่มีใครย้ายออกจากที่ของพวกเขา
เอธานหมดความอดทน เมื่อพบสาเหตุที่ไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบสิ่งต่างๆภายในนั้น
เหตุผลก็คือ ไม่มีใครต้องการที่จะทำการเคลื่อนไหวครั้งแรก เนื่องจากทุกคนคาดเดาว่าบ่อน้ำนั้น น่าจะเป็นอันตรายมากที่สุด เมื่อเห็นปรากฏการณ์นี้และควรมีสัตว์ทะเลที่ทรงพลังอยู่ข้างในด้วย
ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากไปก่อน เพราะคนที่ไปก่อนมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับสถานการณ์ที่อันตราย
เอธานมองไปที่เทียน่าและพูดว่า “คนพวกนี้น่าจะไม่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ นี้ ทุกคนมีพฤติกรรมเหมือนแมวขี้กลัว” จากนั้นเขาก็หยุดและมองไปที่สัตว์ขี่สีขาว ก่อนที่จะพูดกับเทียน่า “แล้วนี่จะทำยังไงได้บ้าง? ฉันจะไปตรวจสอบสิ่งต่างๆในบ่อน้ำ ในขณะที่ฉันปล่อยให้คุณอยู่ในความดูแลของผู้คนจากพระราชวังสายรุ้ง พวกเขาเป็นผู้หญิงทั้งหมด ดังนั้นคุณจะรู้สึกปลอดภัยเช่นกัน คุณคิดว่าอย่างไร? “
“นี่ … ” เทียน่าลังเลอยู่ 2-3 วินาทีก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดว่า “โอเค แต่ … อย่าใช้เวลานานเกินไปและอย่าเสี่ยงโดยไม่จำเป็น”
เอธานหัวเราะและพูดว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องกังวล ฉันจะออกมาทันทีที่เห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างใน”
จากนั้นเขาก็สั่งให้อินทรีเพลิงบินไปหาสัตว์อสูรเมฆศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเห็นอินทรีย์เพลิงใกล้เข้ามากลุ่มจากวังสายรุ้ง ก็หันมาสนใจมันทันที
หลังจากที่อยู่ใกล้พวกเขาแล้ว เอธานก็ยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ ขณะที่เขาชี้ไปที่เทียน่า “ผู้อาวุโส คุณช่วยดูแลเธอในขณะที่ฉันไม่อยู่ได้ไหม ฉันจะกลับมาในอีกไม่กี่นาที”
เมื่อมองไปที่ เอธานและ เทียน่า ผู้เฒ่าคนหนึ่งก็พยักหน้าอย่างเฉยเมย “เอาล่ะ เนื่องจากเรามีที่ว่างที่นี่ เธอจึงอยู่ที่นี่ได้จนกว่าคุณจะกลับ”
“ ขอบคุณมาก” พูดแบบนี้ เขาก็จับมือของเทียน่าแล้วพาเธอขึ้นไปบนสัตว์อสูรเมฆศักดิ์สิทธิ์
จากนั้นเขาก็หันไปหาผู้อาวุโสและพูดอย่างสุภาพว่า “ฉันจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ ฉันจะไม่ทำให้คุณลำบากอีกต่อไป”
จากนั้นเขาก็บินลงมาและดำดิ่งลงไปในบ่อน้ำทันทีสร้างความปั่นป่วนไปทั่ว
ผู้อาวุโสและคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านบนของพระราชวังเมฆาศักดิ์สิทธิ์ต่างตกตะลึง
คนที่คุยกับเอธานหันหน้ามาหาเทียน่า แล้วถามอย่างงง ๆ ว่า “เขากำลังทำอะไร”
ผู้หญิงที่อยู่ในวัย 30 เธอตะคอกและพูดด้วยความไม่พอใจ “เห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะไปตาย”
เทียน่ายิ้มและพูดกับผู้อาวุโสว่า “พวกท่านไม่ต้องห่วงเขา เขามีพลังมากจริงๆ แล้วเขาต้องมีพลังมากที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอทุกคนที่อยู่ด้านบนของสัตว์ร้ายเมฆศักดิ์สิทธิ์ก็ตกตะลึง
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเทียน่ามองเธอ เหมือนเธอเป็นคนงี่เง่าและพูดว่า “สมองของเธอมีปัญหาหรือเปล่า เขาอายุแค่เรา เขาจะมีพลังมากที่สุดที่นี่ได้อย่างไร”
เทียน่าส่ายหัวและยิ้มขณะที่เธอพูดว่า “รอดูสิ”
…
ในขณะเดียวกัน เอธานก็ตระหนักว่าบ่อน้ำนั้นลึกกว่าที่เขาคิด
เขาเดินตามทางที่พลังธาตุน้ำหนาแน่นมาจากและมาถึงทางเล็ก ๆ ที่ถูกสัตว์ร้ายที่ทรงพลังปิดกั้น
แต่ไม่มีสัตว์ตัวใดเป็นสัตว์ระดับ 6 ซึ่งทำให้เอธานสับสนว่า ‘มีคนบอกว่าที่นี่จะอันตราย แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจผิด ‘
เขาเริ่มเดินไปยังต้นเหตุของเรื่อง โดยไม่สนใจสัตว์ร้ายที่โจมตีใส่เขา เนื่องจากการโจมตีของพวกมันไม่ได้ทำให้เขามีรอยขีดข่วน
จากนั้นเขาก็เข้าไปข้างในทางเดิน
หลังจากเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดเป็นเวลา 5 นาที เขาก็มาถึงสถานที่ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มันเป็นถ้ำและระดับน้ำที่นี่ถึงหัวเข่าของเขาเท่านั้น
เขายังคงเดินตามเส้นทางของพลังงานธาตุน้ำและไปถึงทางตันของถ้ำ
เบื้องหน้าของเขาคือหลุมขนาดเท่าศีรษะที่ปล่อยพลังงานธาตุน้ำออกมาอย่างต่อเนื่อง
‘จะต้องมีอะไรบางอย่างถ้าเราผ่านพ้นทางตันนี้ไปแล้ว ‘
จากนั้นเอธานก็ชกไปอีก 2-3 ครั้งและมีการเปิดเผยทางเล็ก ๆ อีกครั้ง เมื่อเห็นสิ่งนี้เขาเดินเข้าไปข้างในด้วยความเร็วเต็มที่ ในขณะที่เขาใช้เวลามากกว่า2-3นาทีที่นี่
…
2 นาทีผ่านไป เอธานกลับมาพร้อมกับใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
‘ฉันจะพาเทียน่ามาที่นี่ก่อน แล้วฉันจะปิดกั้นทางเดินนั้นที่ฉันเจอ และมันก็จะกลายเป็นของฉัน ‘
ผู้คนรอบ ๆ บ่อน้ำกำลังคุยกันถึงคนที่เข้าไปข้างใน
มีคนพูดว่า “มันผ่านไป 10 นาทีเขาอาจจะตายไปแล้ว?”
อีกคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “เห็นได้ชัดว่าเขาตายไปแล้ว คุณไม่เห็นเหรอว่าเขาอายุเท่าไหร่ เขายังเป็นเด็กอยู่เขาคงจะเพิ่งเปิดอาณาจักรพลังจิตของเขาเมื่อไม่นานมานี้”
“ แต่ผู้อาวุโสของเขาอยู่ที่ไหน?”
ทันใดนั้นเอธานก็ออกมาจากบ่อพร้อมกับลอยและบินตรงไปยังสัตว์อสูรเมฆศักดิ์สิทธิ์และคว้ามือของเทียน่าก่อนที่จะหันไปหาผู้อาวุโสแล้วพูดว่า “ขอบคุณมาก ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้” จากนั้นเอธาน บินตรงลงไปข้างล่างด้วยความเร็วเต็มที่ของเขา
ก่อนที่ผู้อาวุโสที่ประหลาดใจและจะถามเอธานเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในทะเลสาบ เขาก็มาถึงใกล้ผิวน้ำของบ่อแล้วและกำลังจะดำลงไปข้างใน
แต่ในเวลานั้นการโจมตีที่ทรงพลัง 2 ครั้งก็พุ่งหาเอธาน
หนึ่งคือคาถาน้ำที่ทรงพลังลูกศรน้ำ และอีกคาถาหนึ่งที่ถูกขว้างออกมาคือ หินหลอมเหลว คาถาฟิวชั่นอันทรงพลังที่ต้องการพลังงานธาตุไฟและธาตุดิน
เอธาน สัมผัสได้ถึงคาถา ในขณะที่เขากำลังจะดำลงไปข้างในคาถาทั้งสองนี้จะไม่สร้างความเสียหายให้กับเขา เนื่องจากร่างกายของเขามีพลังมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้รับการขัดเกลาด้วยพลังแห่งความมืดอันแปลกประหลาดที่ปล่อยออกมาจากวังวนสีดำ แต่เทียน่า อาจได้รับความเสียหายบางอย่าง จากพลังงานที่กระจัดกระจาย เขาจึงโยนเทียน่าเข้าไปในบ่อน้ำ
หลังจากนั้นเขาก็ต่อยหินหลอมเหลวเป็นชิ้น ๆ และโบกมืออย่างทรงพลัง ซึ่งทำให้ลูกศรน้ำ สลายไป
เมื่อเห็นสิ่งที่เอธานทำความเงียบก็เกิดขึ้นรอบ ๆ บ่อน้ำ
เอธานไม่ได้ดำน้ำลงไปในบ่อน้ำโดยตรง แต่มองไปที่ทุกคนและพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังด้วยท่าทางที่ครอบงำว่า “ถ้าคุณทุกคนพอใจกับชีวิตของคุณแล้ว อย่าเข้ามาข้างในนี้เพื่อตัดสินการตายของคุณเลย”
หลังจากพูดสิ่งนี้ เขาก็ดำลงไปในบ่อและจับมือของเทียน่าอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปยังทิศทางของทางที่นำไปสู่ถ้ำ
เทียน่าปลุกความสัมพันธ์ของธาตุน้ำ ดังนั้นเธอจึงไม่มีปัญหาในการอยู่ในน้ำ
ในไม่ช้าพวกเขาก็เข้าไปในทางเดินและมาถึงในถ้ำ
เทียน่าก็ตะลึงกับสิ่งที่เอธานทำ แต่เธอก็ไม่กลัว เมื่อเธอรู้ถึงพลังของเขาและถามว่า “นายจะพาฉันไปที่ไหน?”
เอธานยิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดว่า “สถานที่ที่ลึกลับมาก..”
ตอนที่ 26: ป่าต้นกำเนิด
เอธานออกมาและเห็นว่าเทียน่ากำลังนั่งอยู่ในห้องโถงเมื่อเห็นเธอจึงพูดว่า “โอ้ เธออยู่ที่นี่รอสัก2-3นาทีนะ ฉันจะไปหาอะไรกินหน่อย” พูดอย่างนี้เสร็จ เขาก็ออกไปข้างนอกโดยไม่รอ การตอบของเธอ
…
…
เอธานกลับมาและทั้งคู่ก็กินข้าวกันก่อนที่เอธานจะถามว่า “แล้วคุณล่ะตัดสินใจได้หรือยัง?”
เทียน่ามองไปที่เอธานและพูด ในขณะที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในช่วง2-3วันที่ผ่านมา “ฉันจะไปกับคุณ”
“เยี่ยมไปเก็บเสื้อผ้าของเรา แล้วออกเดินทางตอนนี้เลย” พูดเสร็จเขาก็เข้าไปในห้องของเขาและเริ่มใส่เสื้อผ้าของเขาลงในกล่องเก็บของ
เทียน่าก็เข้าไปในห้องของเธอและเริ่มเก็บเสื้อผ้าของเธอลงกระเป๋า
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เก็บของเสร็จและมาถึงห้องโถงที่เอธานกำลัง รออยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีกระเป๋าติดตัวเทียน่าก็ถามด้วยความสับสน “กระเป๋าของคุณอยู่ไหน”
เอธานยิ้มและเดินเข้าไปหาเธอก่อนจะเอามือแตะกระเป๋า
“ คุณกำลังทำอะไรอยู่” เทียน่าสับสน แต่แล้วเธอก็เห็นว่ากระเป๋าของเธอหายไปในทันใด ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง แต่แล้วเธอก็สังเกตเห็นแหวนบนมือของเอธานและเข้าใจ
“โอ้ คุณซื้อแหวนเก็บของมาสินะ แต่มันแพงมากคุณหามาได้อย่างไร?”
เอธานพูดอย่างเมินเฉย “ฉันยอมรับคำขอจากกิลด์ฮอลล์และมันเกี่ยวกับการจับมังกรน้ำท่วมระดับพิเศษ นั่นคือระดับ 6 ที่มันต้องมีชีวิตอยู่ ซึ่งทำให้ฉันได้รับแหวนเก็บของนี้และของอื่น ๆ อีก 2-3 อย่างเป็นรางวัล”
เทียน่าพยักหน้า เมื่อได้ยินว่าตอนนี้เธอไม่แปลกใจกับความสามารถของเขา เธอยอมรับแล้วว่าเอธาน มีพลังมาก อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่เธอได้เห็นด้วยตาของเธอเองได้ ที่สิงโตปีกสีเขียวเกล็ดไฟระดับ 6 ได้รับความตายอย่างรุนแรงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเขา
จากนั้นเอธานก็เริ่มเดินไปที่ประตู ขณะที่เขาพูดว่า “ออกไปกันตอนนี้เถอะ ก่อนอื่นฉันจะจับสัตว์พิเศษที่บินได้ เพื่อที่ฉันจะได้ไม่ต้องใช้พลังจิตของฉันมากเกินไปนัก”
เทียน่าตามเอธานไปด้วย เมื่อทั้งสองคนออกจากบ้าน จากนั้นเอธานก็ยื่นมือไปทางเทียน่าที่เธอก็คว้ามือมา
จากนั้นเขาก็ถามเทียน่าว่า “คุณรู้ไหมว่าเราจะหาอินทรีย์ไฟได้ที่ไหน”
“เราสามารถพบพวกมันได้ลึกกว่านี้ในป่าบนเกาะหรือป่าใกล้ส่วนกลางของหุบเขา”
เอธานครุ่นคิดสักครู่แล้วพูดว่า “ไปที่ป่าใกล้ส่วนกลางของหุบเขากันเถอะ”
…
…
หลังจากผ่านไป 10 นาที ทั้งคู่ก็มาถึงป่าใกล้ส่วนกลางของหุบเขา
“ไปยังสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงและมีพลังงานไฟมากกว่า นั่นคือที่ที่สามารถพบอินทรีไฟได้”
เอธานพยักหน้ารับฟังคำพูดของเธอและเปลี่ยนทิศทาง หลังจากรับรู้พลังงานไฟมากขึ้นในทิศทางอื่น
พวกเขาบินด้วยความเร็วที่รวดเร็วเป็นเวลา 5 นาทีและใช้เวลาไม่นานก่อนที่พวกเขาจะพบกับอินทรีย์ไฟ
แต่แทนที่จะหยุดและจับมัน เอธานกลับส่ายหัวและพูดต่อ
เทียน่างงและถามว่า “ทำไมไม่จับมันล่ะ”
“ฉันต้องการจับนกอินทรีไฟระดับ 6 และนั่นก็คือนกอินทรีไฟระดับ 5”
ยิ่งเกรดสูงความสามารถของพวกมันก็สูงขึ้น และเห็นได้ชัดว่าอินทรีไฟระดับ 6 จะบินได้เร็วกว่าระดับ 5 มาก ดังนั้นเอธานจึงตั้งใจที่จะจับนกอินทรีไฟระดับ 6
หลังจากบินไปอีก 5 นาทีในทิศทางที่กำหนด ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับอินทรีเพลิงระดับ 6
เมื่อเห็นดังนั้น เอธานก็รีบซ่อนตัวเทียน่าไว้ หลังจากวางเธอลงและเร่งความเร็วไปหาอินทรีย์ไฟ ก่อนจะนั่งบนหลังของมัน
* กรีดกราย ….. *
อินทรีย์ไฟโจมตีไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเอธานกำลังบินเข้าหามัน แต่เอธาน ไม่สนใจมัน เพราะมันเป็นการโจมตีโดยบังเอิญเพราะธาตุไฟไม่แม้แต่จะขย้ำเส้นขนของเขา
จากนั้นเอธานก็เอาชนะมันอย่างไร้แผลบนร่างกายมัน เช่นเดียวกับมังกรน้ำท่วม จากนั้นก็ผนึกมันไว้ในนั้น
จากนั้นเอธานก็สั่งให้สัตว์ร้ายขึ้นฝั่งและรับเทียน่าก่อนที่จะบินจากไป
นกอินทรีไฟเป็นสัตว์ขี่ที่ดีมาก มันเร็วกว่ามังกรน้ำท่วมและการนั่งก็สบายมากบนหลังกว้าง
ปีกและหางของมันอยู่บนไฟตลอดเวลา ในขณะที่ส่วนอื่น ๆ ปกคลุมด้วยขนนุ่ม ๆ
ขณะที่บินอยู่นั้นเอธานถามว่า “เธอรู้จักสถานที่ใดบ้างที่เราสามารถพบสมบัติและสัตว์ร้ายนานาชนิดได้น่ะ?”
เทียน่าครุ่นคิดสักครู่ก่อนที่จะพูดว่า “ที่ฉันรู้จักคือป่าแห่งต้นกำเนิด เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมาก ที่ผู้คนจากกลุ่มต่างๆและ และพวชอบหลอกลวง ออกไปผจญภัยเพื่อค้นหาสมบัติทางธรรมชาตินานาชนิดในป่า ทั้งป่าใหญ่มากจนไม่มี มีใครรู้ขนาดที่แน่นอน นอกจากนั้นป่านั้นก็เต็มไปด้วยอันตรายจากสัตว์ร้ายนานาชนิด ”
ดวงตาของเอธานก็ส่องประกาย เมื่อได้ยินเกี่ยวกับสถานที่ที่น่าสนใจเช่นนี้ “ถ้าอย่างนั้นเราจะไปที่นั่นกัน เธอรู้ตำแหน่งของมันไหม”
“ฉันรู้แค่ทิศทางทั่วไป ซึ่งมันเป็นทิศเหนือ” เทียน่าตอบพร้อมกับส่ายหัว
เอธานยิ้มและพูดว่า “โอเค ทิศทางทั่วไปก็เพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้ เราจะแวะที่เมืองทางเหนือและถามถึงสถานที่ที่นั่น”
…
…
…
หลังจากบินขึ้นเหนือเป็นเวลา 6 ชั่วโมงในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเมืองใหญ่
เอธานสั่งให้อินทรีย์ไฟลอยอยู่บนท้องฟ้าและปกป้องเทียน่า หากมีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นเขาก็พูดกับ เทียน่าว่า “ฉันจะลงไปถามที่ตั้งของป่าต้นกำเนิด ดังนั้นอยู่ที่นี่สักสองสามนาที ฉันจะกลับมา เร็ว ๆ นี้”
เทียน่าพยักหน้า
เมื่อเห็นว่าเธอไม่มีปัญหาในการอยู่กับนกอินทรีย์เพียงคนเดียว เอธานจึงบินลงไปในเมือง
…
หลังจากผ่านไป 5 นาที เอธานก็กลับมา
“ไปกันเถอะ ฉันถามสถานที่มาแล้วและมันไกลมาก เราจะไปถึงที่นั่นให้ไวที่สุด ถ้าเราบินต่อเนื่องเป็นเวลา 14 ชั่วโมง” เอธานพูดกับเทียน่า หลังจากนั่งข้างเธอแล้วเขาก็สั่งให้นกอินทรีไฟบินตรงไปข้างหน้า
…
หลังจากผ่านไป 7 ชั่วโมง พวกเขาก็มาถึงเมืองเพื่อพักสมองและกินอะไรบางอย่างก่อนออกเดินทางต่อ
…
หลังจากผ่านไป 6 ชั่วโมง พวกเขาเริ่มเห็นผู้คนจำนวนมากบินไปในป่า บางคนกำลังบินด้วยตัวเอง ในขณะที่บางคนก็มีพาหนะที่บินได้เช่นเดียวกับเอธานเอง
หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมงในที่สุดพวกเขาก็เห็นรอบนอกของป่าผู้คนกำลังเข้าไปบนภูเขาหรือขณะบิน
เอธานสังเกตเห็นบางสิ่ง
อันดับแรกผู้คนอยู่ในกลุ่ม 3, 5 หรือ 10 คน
ผู้คนในกลุ่ม 3 หรือ 5 คนมี ผู้วิเศษด้านธาตุอย่างน้อยหนึ่งคนในนั้น
เขาเห็นกลุ่ม 5 คนโดยที่มี 2 ผู้อาวุโส และผู้วิเศษด้านธาตุชาย 3 คนที่อายุประมาณเอธานอยู่ด้วย พวกเขามีเสื้อผ้าที่คล้ายกัน ในขณะที่ผู้วิเศษด้านธาตุ ผู้อาวุโส 2 คนก็มีเสื้อผ้าที่คล้ายกัน พวกเขาน่าจะมาจากฝ่ายชั้นนำ
และเขายังเห็นกลุ่มคน 10 คนที่เป็นเลเวล 5 ทั้งหมดด้วย ได้เข้าไปในป่า
ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าที่นั่นในป่ามีความอันตรายมาก
เอธานและเทียน่าเข้าไปในป่าด้วย
เทียน่าเริ่มกลัวและกังวลเล็กน้อยเพราะบางคนที่เห็นพวกเขาพลางได้ชี้มาที่พวกเขา ขณะที่พวกนั้นก็ได้แต่ส่ายหัว
เมื่อสังเกตเห็นสิ่งนั้น เอธานมองไปที่เธอและยิ้มและพูดด้วยความมั่นใจว่า “ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นแน่นอน เราจะอยู่แค่รอบนอกของป่า ในตอนนี้เพราะฉันต้องการลองวิธีใหม่ในการร่ายเวทย์ เราจะไม่พบกับสัตว์ร้ายที่ทรงพลังแน่นอน ”
เทียน่ายิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ดี … ” แต่แล้วเธอก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยและพูดว่า “เดี๋ยวก่อน ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่เชื่อในความสามารถของคุณ ฉันรู้ว่าคุณมีพลังมากและสามารถฆ่าสัตว์ระดับ6ได้ อย่างง่ายดาย ไม่มีใครที่เหมือนกับคุณ และฉันก็รู้สึกปลอดภัยมาก เมื่ออยู่กับคุณ ฉะฉะ ….. ”
ทันใดนั้นใบหน้าของเทียน่า ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อเธอตระหนักถึงสิ่งที่เธอพูดในตอนท้าย
เอธานยิ้ม เมื่อเห็นเช่นนั้นและแซวว่า “โอ้ … เธอรู้สึกปลอดภัยมากเมื่ออยู่กับฉันหรือไม่” จากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างจริงจังและพูดกับเทียน่า ขณะที่มองไปที่เธอ “อืม สาวน้อยเธอรู้สึกอย่างนั้นสินะ ตั้งแต่เธอเห็นความสามารถของฉัน มันคงแปลกถ้าเธอจะไม่รู้สึกปลอดภัยกับฉันน่ะ “
เมื่อเห็นใบหน้าที่ดูเคร่งเครียดของเอธานและวิธีที่เขาพูดเทียน่า ก็เริ่มหัวเราะ ขณะที่เขาดูตลกกับคำพูดนั้น
ทันใดนั้นเอธานก็สังเกตเห็นความปั่นป่วนเล็ก ๆ
เขาเห็นว่ามีคนจำนวนมากบินไปในทิศทางหนึ่งด้วยความเร็วที่รวดเร็วมากและ เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็สั่งให้นกอินทรีไฟติดตามพวกเขา
เทียน่าก็สังเกตเห็นและพูดว่า “ต้องมีการค้นพบสมบัติหรือสิ่งที่คล้ายกัน”
เอธานพยักหน้าขณะที่เขาคิดเช่นนั้น
พวกเขาใช้เวลาไม่นานในการไปถึงสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากยืนอยู่บนพื้นใกล้สระน้ำขนาดใหญ่ของบ่อน้ำและมันก็ปล่อยพลังงานธาตุน้ำออกมาในปริมาณที่หนาแน่น
นอกจากนี้ยังมีผู้คนมากมายบนท้องฟ้า ขณะที่พวกเขาชี้ไปที่ทะเลสาบด้วยความตื่นเต้น
เอธาน อยู่ใกล้คนกลุ่มหนึ่งเพื่อฟังบทสนทนาของพวกเขา พร้อมกับการปรับแต่งของร่างกายประสาทสัมผัสของเขาให้เฉียบคมมากขึ้น ดังนั้นพลังการได้ยินของเขาจึงเหนือมนุษย์ทั่วไป
กลุ่มนั้นประกอบด้วย 4 คนผู้อาวุโส 1 คนชาย 2 คนในช่วงอายุ 20 และหญิงสาวที่มีอายุประมาณเอธาน และเทียน่า
เอธานสามารถได้ยินผู้อาวุโสพูดด้วยความสงสัยในน้ำเสียงของเขา “ครั้งที่แล้วที่ฉันมาที่นี่ บ่อน้ำนี้ไม่ได้ปล่อยพลังงานธาตุน้ำออกมาแม้แต่นิดเดียว แต่ตอนนี้มันล้นไปด้วยพลังธาตุน้ำที่หนาแน่นแล้ว”
ตอนที่ 25: ความสัมพันธ์ธาตุมืด
ความเร็วของมังกรน้ำท่วมไม่เร็วเท่ากับความเร็วของเอธาน ดังนั้นในที่สุด เมื่อเขากลับมาที่เมืองตอนนี้ก็เป็นเวลา 11 โมงเช้าแล้ว
เขาไม่สามารถปล่อยให้มังกรน้ำท่วมลงบนพื้นได้ดังนั้นเอธาน จึงสั่งให้มันลอยอยู่บนท้องฟ้า ในขณะที่เขาบินลงไปที่ร้านค้า Clear Sky Treasures
มีคนไม่กี่คนที่กลัวที่จะเห็นมังกรน้ำท่วมในตอนแรก แต่เมื่อพวกเขาเห็นมนุษย์อยู่บนนั้น พวกเขาก็โล่งใจเพราะนั่นหมายความว่ามังกรน้ำท่วมอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว
แต่เมื่อพวกเขาเห็นเอธาน พวกเขาก็ประหลาดใจมาก
“นี่ … เขาเป็นใคร เขาไม่สามารถมีพลังมากพอที่จะทำให้มังกรน้ำท่วมระดับ 6 เชื่องได้ขนาดนั้นที่ได้”
หลายคนพยักหน้าเห็นด้วยกับคนที่เพิ่งพูด
“ต้องเป็นเจ้านาย ของเด็กนั่นแน่ๆ เขาคงเป็นลูกศิษย์ตระกูลที่ทรงพลังหรือผู้ปกครองของเขาต้องเป็นผู้อาวุโสในกลุ่มที่ทรงพลัง และ พวกเขาต้องจับมังกรน้ำท่วมให้เด็กคนนั้นแน่ๆ”
ผู้คนยังคงพูดต่อไปในขณะเดียวกัน เอธาน ก็มาถึงทางเข้าของร้านแล้วและเข้าไปก่อนที่จะถูกพาเข้าไปในสำนักงานของเจ้านาย
ภายในสำนักงานเจ้านายคนเดิมก็ตกใจมาก เมื่อเขาเห็นมังกรน้ำท่วมลอยอยู่เหนือร้านของเขาจากหน้าต่างในห้องทำงานของเขา ‘มันยังไม่ถึงครึ่งวันเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ทำไมพี่ชายของเขาไม่มากับเขาด้วยล่ะ? ‘
เจ้านายคนนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย เมื่อเขาเห็นประตูห้องทำงานของเขาถูกเปิดออกและก็ปรากฎรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาทันที ที่กล่าวต้อนรับเอธาน“ ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ฉันไม่คิดว่าคุณจะนำมังกรน้ำท่วมมาที่นี่เร็วขนาดนี้ ยังดีที่ฉันมีงานต้องทำอยู่ จึงไม่ได้กลับบ้านไปนอน หลังจากที่คุณออกไปตอนกลางคืนนั่น ”
เอธานยิ้มและนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะพูดว่า “คุณเตรียมรางวัลไว้หรือยังและคุณสามารถดูมังกรน้ำท่วมตัวนี้ได้ด้วยนะ มันไม่มีอาการบาดเจ็บที่ผิวเผินด้วยซ้ำ”
บอสรีบกดกริ่งและคนในชุดพนักงานก็เดินมาหลังจากนั้นไม่นาน
“ไปเตรียมคริสตัลระดับสูงของน้ำ ดิน ไม้ ความมืด และอากาศจำนวน 20 ชิ้นแล้วใส่ไว้ในวงแหวนพื้นที่ 25 ลูกบาศก์เมตรที่เรามี เร็วเข้า!”
หลังจากพูดจบบอสก็ยิ้มให้เอธานและพูดว่า “รอสักหน่อยนะครับ ของรางวัลจะมาถึงในไม่กี่นาที แต่พี่ชายของคุณไม่ได้มากับคุณเหรอ?”
เอธานส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่ พี่ชายของฉันไม่ต้องการที่จะเสียเวลาที่นี่ เขาไปทำสิ่งต่างๆของเขา หลังจากที่เขาจับมังกรน้ำท่วมตัวนี้ก่อนที่จะให้ฉันพามันมาที่นี่และยังให้ฉันผนึกมันไว้เอง”
เจ้านายคนนั้นรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ที่แม้เขาจะยังเด็กอยู่ แต่เอธานก็ได้เปิดอาณาจักรพลังจิต ของเขาขึ้นมาแล้ว ‘บางทีเขาอาจเพิ่งเปิดอาณาจักรพลังจิตของเขา เมื่อไม่นานมานี้และเขาจะต้องไม่สามารถกำจัดสิ่งเจือปนสีเทาออกทั้งหมดได้ ‘
ไม่นานหลังจากนั้นเวลา 1 นาทีก็ผ่านไป คนในชุดพนักงานก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับแหวนเก็บของ
เจ้านายส่งสัญญาณให้เขาส่งแหวนให้เอธาน
เอธานใช้เวลาซักพักและตรวจสอบของโดยใช้พลังจิตของเขา ก่อนที่จะสวมแหวนที่นิ้วของเขา
จากนั้นเขาก็มองไปที่เจ้านายและพูดว่า “ดีๆ ไปข้างนอกกันเถอะ ฉันจะปลดผนึกของฉันออก ในขณะที่คุณทำเครื่องหมายตราสินค้าของคุณบนมังกรน้ำท่วมนั่น”
ทั้งสองคนออกไปข้างนอกและบินไปหามังกรน้ำท่วม เขาปล่อยให้เจ้านายคนนั้นลงตราสัญลักษณ์ของเขาก่อนที่เขาจะถอดของตัวเองออก
เจ้านายคนเดิมหัวเราะและยิ้ม ในขณะที่เขารู้สึกว่าต้องการที่จะยกไหล่ของเขาขึ้นด้วยความภาคภูมิและขอบคุณเอธาน
“เอาล่ะ ฉันกำลังรีบ ดังนั้นฉันจะกลับไปที่บ้านของฉัน ฉันขอให้การแต่งงานของลูกสาวของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นนะ” หลังจากพูดสิ่งนี้เขาก็บินลึกเข้าไปในหุบเขาไปยังเกาะลอยของหุบเขาสายฟ้า – ไฟ
เมื่อมองไปที่ภาพเงาที่บินได้ของเอธานที่บินจากไป เจ้านายคนนั้นก็คิดว่า ‘ชายหนุ่มคนนี้ไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด แถมยังดูไม่ออกว่าเขาเพิ่งสร้างอาณาจักรพลังจิตของเขาได้เลยสักนิด … ‘
…
…
ในขณะเดียวกัน เอธานก็มาถึงบ้านของเขาไม่นานนัก
หลังจากเข้าไปข้างใน เขาก็เดินไปที่ห้องนอนของเขาและปิดประตู ก่อนจะดึงคริสตัลคุณภาพสูง 2 ชิ้นของแต่ละองค์ประกอบออกจากวงแหวนและวางไว้ใกล้ข้างตัวเขา ในขณะที่เขานอนบนเตียงและหลับไป
…
เอธานตื่นขึ้นมาไวกว่าที่คาดไว้เพราะเขานอนไปเพียง 5 ชั่วโมง จากนั้นเขาก็ตรวจสอบภายในอาณาจักรพลังจิตของเขาและวังวนสีดำยังคงดูดซับแก่นพลังสำคัญจากคริสตัลอยู่
เมื่อเห็นแบบนั้น เอธานก็คิดว่า ‘ฉันจะเลื่อนแผนการผจญภัยออกไปก่อน จนกว่าฉันจะดูดซับแก่นแท้จากคริสตัลทั้งหมดให้เสร็จ ‘
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น ก่อนที่จะไปที่ห้องนอนของเทียน่าและเคาะสองสามครั้งว่า ‘ตอนนี้ประตูล็อคแล้ว เธอคงตื่นแล้วสินะ’
เทียน่าเปิดประตูแล้วถามว่า “มีอะไรเหรอคะ”
“ฉันกำลังวางแผนที่จะไปผจญภัย หลังจากนั้นไม่กี่วันและฉันมีแนวโน้มที่จะออกไปข้างนอก 1 เดือน ฉันขอแนะนำให้คุณมากับฉันเพราะการอยู่ที่นี่คนเดียวอาจไม่ปลอดภัย แม้ว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะอยู่ที่ตัวคุณก็ตาม” เอธานกล่าวต่อ “คุณลองคิดดูสัก 2-3 วัน เมื่อฉันจะออกไปอีกประมาณ2-3 วัน ฉันจะมาแจ้งให้คุณทราบ”
หลังจากพูดทั้งหมดจบเอธานก็กลับไปที่ห้องนอนของเขา
เทียน่าตกอยู่ในความงุนงง เมื่อได้ยินสิ่งที่เอธานพูดและคิดว่า ‘ฉันจะทำอย่างไรดี? ‘
…
หลังจากเข้ามาในห้องนอนของเขา เอธานก็ดึงคริสตัลทั้งหมด 110 ชิ้น ออกมาจากแหวนเก็บของโดยคริสตัล 10 ชิ้นที่เพิ่มขึ้นมานั้นคือ คริสตัลความมืดเกรดสูง ที่เขาได้รับจากการขายคริสตัลสีดำขนาดใหญ่
หลังจากจัดพวกมันไว้รอบตัวเขาบนเตียงแล้ว เขาก็ฉีดพลังจิตทั้งหมดของเขาเข้าไปในวังวนสีดำเพื่อเพิ่มผลกระทบและหลับไป
…
…
ขณะนี้เทียน่านั่งอยู่ในห้องโถงอย่างสับสน ขณะที่มองไปที่ประตูห้องของเอธานและเธอก็คิด
ว่า ‘นี่เป็นคืนวันที่ 4 แล้วเขายังอยู่ในห้องอยู่อีก เขาทำอะไรกันแน่? เขาไม่จำเป็นต้องกินเหรอ? “
…
ภายในห้องของเอธาน …
เนื่องจากพลังจิตของเขาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากระยะเวลาและผลของวังวนสีดำก็เพิ่มขึ้นเช่นกันใน 4 ซึ่งวันนี้เขาทำเพียงสิ่งเดียวนั่นคือการให้อาหารกับวังวนสีดำต่อไป ทันทีที่เขาฟื้นขึ้นมา เขาก็เห็นว่าตอนนี้ผ่านไป 4 ชั่วโมง 30 นาทีแล้ว
แต่…
วังวนสีดำไม่ได้ปล่อยสิ่งใดตอบแทนมาเลย แม้กระทั่งการดูดซับผลึกธาตุระดับสูงถึง 100 ชิ้น สิ่งนี้เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเขาดูดซับแก่นแท้จากคริสตัลสีดำก่อนหน้านี้
ตอนนี้เหลือเพียง 8 คริสตัลระดับสูงของธาตุมืดเท่านั้น
จากนั้นเขาก็ป้อนพลังงานจิตของเขา ไปยังวังวนสีดำอีกครั้ง ในขณะที่มันเริ่มดูดซับพลังงานจากผลึกธาตุมืดระดับสูง
หลังจากผ่านไป 4 ชั่วโมง 30 นาที เอธานก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทันทีที่เขาตื่นขึ้น เขาก็มีความสุขมาก เมื่อรู้สึกถึงสภาพร่างกายของเขา
วังวนสีดำปล่อยพลังงานสีเข้มเข้าสู่ร่างกายของเขา
แต่แล้วเขาก็นึกถึงความเจ็บปวดที่เคยเผชิญมาก่อนและสาปแช่งว่า ‘บ้าเอ้ย .. ‘
เขาลุกขึ้นยืนและรีบคว้าผ้า ในขณะที่เขายังทำได้และยัดมันเข้าไประหว่างฟันของเขา
หลังจากนั้นไม่ถึงนาที พลังแห่งความมืดก็เริ่มโหมกระหน่ำภายในร่างกาย
ของเอธานทำให้เขาเป็นอัมพาตและนอนอยู่บนเตียง
พลังแห่งความมืดท่วมท้นไปทั่วทุกมุมของร่างกาย ขณะที่เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
สิ่งเดียวที่ดีในตอนนี้คือสิ่งนี้กินเวลานานเพียง 10 นาที เหมือนพลังงานของคริสตัลดำ
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเอธานก็เอาแต่สาปแช่ง “F ** K ความเจ็บปวดนี้ … แต่ไม่เป็นไรตราบใดที่ฉันได้รับความเจ็บปวด แต่ได้พลังมาแทน ฉันก็ไม่รังเกียจ … ”
จากนั้นเขาก็ตรวจสอบอาณาจักรกายสิทธิ์ของเขาและคริสตัลแห่งความมืดก็ลอยอยู่ข้างๆคริสตัลสำดำเมทัลลิก
‘ดูเหมือนว่าฉันยังต้องการพลังงานแก่นแท้ของน้ำ ดิน ไม้ และอากาศอีก แต่ตอนนี้ฉันสามารถเริ่มสร้างทะเลธาตุมืดด้วยคริสตัลที่ฉันมีได้นี่ ‘
ไม่มีห้องฝึกฝนธาตุมืดบนเกาะลอยน้ำแห่งนี้ดังนั้น เอธาน จึงสามารถดูดซับพลังงานผ่านคริสตัลได้เท่านั้น
เอธานนั่งไขว่ห้างพลางหยิบคริสตัลธาตุมืดขึ้นมา 2 อันและเริ่มดูดซับพลังงานธาตุ
ถ้ามีคนเห็นความเร็วของ เอธานในการดูดซับพลังงานของธาตุมืด จากคริสตัล ขากรรไกรของพวกเขาคงจะต้องกระแทกพื้น
เพราะทุกครั้งที่ร่างกายของเอธาน ได้รับการขัดเกลาด้วยพลังประหลาดจากวังวนสีดำ เขาจะได้รับพลังธาตุตามลำดับและมันก็เป็นระดับที่สูงกว่าความสัมพันธ์ระดับสูงสุดด้วย..
ในเวลาเพียง 30 นาทีเขาดูดซับพลังงานทั้งหมดภายในผลึกธาตุมืดระดับสูงทั้ง 2
พลังงานก๊าซแห่งความมืดขนาดเล็กปรากฏขึ้นในขอบเขตพลังงานของเขา หลังจากที่เขาดูดซับคริสตัลคุณภาพสูงทั้ง 2 ชั้นเสร็จสิ้นและในไม่กี่วินาทีคริสตัลพลังมืด ก็มาถึงวังวนสีเและเริ่มหมุนบนทะเลธาตุมืด
เมื่อเห็นว่าคริสตัลมืดที่หมุนวน ได้ทำการดูดซับทุกอย่างใน 1 วินาที เอธานก็ยังคงดูดซับพลังธาตุจากคริสตัลมืดต่อ
เอธานสังเกตเห็นว่าหลังจากที่เขาดูดซับพลังงานธาตุมืดเป็นครั้งที่ 14 แล้ว ความเร็วในการดูดซับพลังงานของเขาจะเร็วขึ้นเล็กน้อย
เวลาผ่านไปประมาณ 12 ชั่วโมง เอธานก็ได้ดูดซับพลังงานธาตุมืดจากผลึกมืดระดับสูงทั้งหมดเสร็จสิ้น
ตอนนี้พลังงานธาตุมืดสำรองของเขาสูงกว่าพลังงานไฟและสายฟ้าไปแล้ว
ขณะนี้เอธานมีพลังงานไฟ 8 หยดและพลังงานสายฟ้า 9 หยด ในขณะเดียวกันพลังแห่งความมืดที่เขามีอยู่ 24 หยด
‘แต่ฉันไม่รู้คาถาธาตุมืด …ไม่เป็นไร ตั้งแต่ฉันออกผจญภัย ฉันจะสร้างคาถาของตัวเอง มันก็ไม่ยากอยู่ดี ฉันมีจินตนาการและความรู้ที่ดีจากโลกเดิมที่ฉันอ่านหนังสือแฟนตาซีเกี่ยวกับเวทมนตร์มากมาย ตอนนี้ฉันต้องการการควบคุมที่ดี ซึ่งฉันได้รับจากการฝึกฝน ‘
เอธานก็ลุกขึ้นและยืดตัว“ แต่ก่อนอื่นไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า”
ตอนที่ 24: การออกหมัดเพียงไม่กี่ครั้ง
เจ้าหน้าที่กลับมา หลังจากนั้นไม่กี่นาทีและบอกให้ เอธานขึ้นไปชั้นบนกับเขา
ทั้งคู่มาถึงชั้น 3 และเอธานเข้าไปในห้องทำงานของบอส ในขณะที่เจ้าหน้าที่กลับไปทำงาน
เจ้านายของเขาดูเหมือนว่าเขาจะอายุ 40 กว่าเขามีเคราและผมสีส้ม
บอสชี้เอธานบอกให้เขานั่งลง
หลังจากที่เอธานนั่งลงบนเก้าอี้แล้วบอสก็พูดว่า “แล้วคุณต้องการพูดถึงอะไรเกี่ยวกับคำขอของฉันล่ะ การนำมังกรน้ำท่วมคืนมานั่น่ะ ฉันจะบอกคุณไว้ก่อนเลยว่าฉันจะไม่เพิ่มรางวัลให้”
เอธานเพียงแค่ยิ้มและถามว่า “คุณรีบที่จะเอามันกลับมาไหม” เขามีแผนของตัวเองในการเล่นเกมลับสมองกับหัวหน้าคนนี้ เพื่อที่เขาจะสามารถเพิ่มรางวัลได้
สายตาของเจ้านายเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาตอบอย่างเย็นชาว่า “เราไม่รีบ”
“ฉันเข้าใจแล้ว” เอธานพยักหน้าและถาม “คุณมีข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของมังกรน้ำท่วมอีกตัวหรือไม่”
เจ้านายลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า “ไม่ เราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของมังกรน้ำท่วมตัวอื่นเลย”
จากนั้นเอธานก็ยิ้มและเสนอความช่วยเหลือของเขา “เพิ่มแหวนที่เอาไว้เก็บของ 50 ลบ.เมตร เป็นรางวัลและฉันจะนำมังกรน้ำท่วมมาที่นี่โดยไม่ได้รับบาดเจ็บมากภายใน 1 วัน”
เจ้านายเกือบจะสำลักออกมา เมื่อได้ยินสิ่งที่เอธานพูด แต่เขาก็สงบลงและพูดอย่างเย็นชาว่า “ดูเหมือนว่าเราไม่มีอะไรจะคุยที่นี่มากนัก คุณสามารถออกไปได้ในตอนนี้”
เอธานพยักหน้าอย่างเรียบง่ายและเงยหน้าขึ้นก่อนจะพึมพำ“ เนื่องจากคุณไม่ต้องการมัน ฉันเดาว่าฉันจะขอให้พี่ชายของฉันจับมันให้ฉัน ฉันต้องการสัตว์เลี้ยงที่แสนจะเย็นสบายมานานแล้ว และมังกรน้ำท่วมครั้งนี้ เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ “
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเจ้านายคนนี้ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป เอธานก็ยืนขึ้นและหันไปรอบ ๆ ก่อนที่จะเดินไปที่ประตูเพื่อออกจากห้อง
“เดี๋ยวก่อน คุณแขกผู้มีเกียรติ ฉันคิดว่าเราสามารถพูดคุยเรื่องข้อตกลงของเราได้อีกครั้ง” เจ้านายคนเดิมหายเย็นชาไปแล้วและพูดด้วยเสียงสั่น
เอธานมองกลับไปที่เจ้านาย ด้วยใบหน้าที่สับสนและถามว่า “แต่เนื่องจากคุณไม่รีบร้อน คุณสามารถหาที่อยู่ของมังกรน้ำท่วมอีกตัวได้ใช่ไหมล้ะ ฉันอยากได้สัตว์เลี้ยงที่เจ๋งจริงๆนี่นา”
เหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าของเจ้านายคนนั้น ขณะที่เขาพูดอย่างรีบร้อน“ ไม่ไม่ จริงๆเรากำลังรีบและถ้าไม่มีใครมาขอในอีก 3 วันข้างหน้า ฉันจะเพิ่มรางวัลให้ แต่เนื่องจากคุณเสนอความช่วยเหลือมา เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงได้เพิ่มขึ้น เพียงแค่เราไม่มีแหวนเก็บของที่มีพื้นที่ 50 ลูกบาศก์เมตรครับ ”
เอธานแสยะยิ้มเหมือนเด็กหน้าด้าน แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะถาม “ถ้าคุณไม่รังเกียจ คุณบอกฉันได้ไหม ว่าทำไมคุณถึงต้องการให้มังกรน้ำท่วมตัวนี้ที่มีชีวิต”
บอสครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นหลังจากถอนหายใจว่า “จริงๆแล้วลูกสาวของฉันตกหลุมรักลูกชายของผู้อาวุโสแห่งวังพันซีบอร์นทีล ขณะฝึกอยู่ที่นั่น แม้ว่าทั้งคู่จะรักกัน แต่แม่ของบอร์น ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของวังพันซีไม่พอใจกับความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่ลูกชายของเธอไม่ยอมถอยและในที่สุดเธอก็บอกกับลูกชายของเธอว่า ถ้าพวกเขาสามารถพิสูจน์ความสามารถของพวกเขาได้ โดยการมาขอแต่งงานกับสัตว์ร้ายเกรด 6 ที่ยอดเยี่ยมแล้วมอบให้กับพวกเขา เป็นของขวัญภายใน 30 วัน เธอจะให้ลูกชายแต่งงานกับลูกสาวของฉัน หากใน 30 วันเราไม่สามารถทำตามนี้ได้ เธอจะแต่งงานกับลูกชายของเธอกับลูกสาวของผู้อาวุโสในวังพันทะเลของพวกเขา “
หลังจากนั้นเจ้านายคนนั้นก็ถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า “สัตว์ร้ายเกรด 6 ที่ยอดเยี่ยมหมายถึงสัตว์ร้ายที่สามารถเข้าถึงระดับ 7 ได้และสัตว์ร้ายระดับ 6 ที่โดดเด่นเพียงตัวเดียวที่ฉันได้ยินเมื่อเร็ว ๆ นี้คือมังกรน้ำท่วม ตอนนี้เป็นเวลา 15 วันแล้วและมีเพียงอีกแค่ 5 วันเท่านั้น ใช่ ”
‘เป็นเช่นนั้นเอง ‘เอธานพยักหน้า หลังจากที่ได้ยินทุกอย่างและพูดว่า “เอาล่ะ ทำไมคุณไม่บอกฉันว่าคุณจะให้รางวัลเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ล่ะ?”
เจ้านายลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบว่า “คริสตัลไฟหรือสายฟ้าระดับสูง 150 ชิ้นและคริสตัลระดับสูงอีก 20 ชิ้น ที่คุณสามารถเลือกเองได้ทั้งจากน้ำ ดิน ไม้ ความมืด และอากาศ”
เอธานพยักหน้าและเสนอว่า “แล้วถ้าขอเปลี่ยนเป็นคริสตัลระดับสูงของน้ำ ดิน ไม้ ความมืด และอากาศให้ฉัน 20 อันและเพิ่มแหวนเก็บ 25 ลูกบาศก์เมตรให้ฉัน ฉันไม่ต้องการธาตุไฟระดับสูงและ ผลึกสายฟ้าคุณคิดยังไง?”
เอธานยังกล่าวเสริมอีกครั้งว่า “ถ้าคุณยอมรับข้อตกลงนี้ ฉันจะนำมังกรน้ำท่วมมาให้คุณภายในวันนี้วันเดียว”
เจ้านายคนนั้นครุ่นคิดและหลังจากคิดอยู่ 2-3 นาทีเขาก็กัดฟันและพูดว่า “เอาล่ะ ฉันยอมรับข้อตกลงนี้ โปรดนำมังกรน้ำท่วมมาให้ฉัน โดยไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายนัก ถ้าคุณทำร้ายมันมากเกินไปฉันจะต้อง ใช้เงินอีกก้อนเพื่อรักษามังกร โดยขอความช่วยเหลือจากพ่อมดธาตุแสงเลยนะ “
ในหัวของเขา เขายังคงอารมณ์เสียตั้งแต่ถูกแบล็กเมล์แล้ว ‘ฉันยอมรับข้อตกลงนี้ได้ ก็ตอนที่คุณบอกว่าคุณจะเอามังกรน้ำท่วมไปเป็นของตัวเองนั่นแหละ เหอะ ดังนั้นฉันจะทำอย่างไรได้ ถ้าไม่ยอมรับข้อเสนอของคุณ ‘
เอธานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “คุณต่อรองได้ดีนี่นา ตอนนี้แค่เตรียมรางวัลและรอข่าวดีได้เลย”
พูดแบบนี้แล้วเอธานก็ลุกขึ้นยืนและออกจากห้องไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
‘ถ้าคริสตัลระดับสูง 20 ชิ้น เพียงพอที่จะปรับแต่งร่างกายของฉันและสร้างคริสตัลที่หมุนได้ ฉันก็จะมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอีก 4 ขั้น นั่นคงจะยอดเยี่ยมมาก ด้วยความตื่นเต้นของเขา เอธาน จึงออกจากร้านค้าขนาดใหญ่และเริ่มบินไปยังที่ตั้งของทะเลสาบที่มังกรน้ำท่วมนั้นอาศัยอยู่
…
…
เอธานบินไปเรื่อย ๆ และตามหาสถานที่นั้นอีกครั้ง แล้วเมื่อเจอเมืองระหว่างทางจากนั้นเขาใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าจะมาถึงทะเลสาบ
เนื่องจากยังเป็นกลางคืน มังกรน้ำท่วมอาจกำลังหลับอยู่ เนื่องจากตอนนี้ทะเลสาบสงบมาก
เอธานมองไปที่อินเทอร์เฟซและสังเกตว่าพลังจิตของเขาใกล้หมดเช่นกัน
[~ อาณาจักรพลังจิต: ชำระแล้ว ~]
– พลังจิต: 31% / 100%
จากนั้นเอธานก็ดำลงไปในทะเลสาบและเริ่มค้นหามังกรน้ำท่วม
…
หลังจาก 30 นาที …
ทะเลสาบอันเงียบสงบดูเหมือนจะปั่นป่วนอยู่ตอนนี้ ขณะที่งูยาว 50 เมตรหนา 5 เมตรมีปีกเล็ก ๆ และมีเขา 2 อันบนหัวโผล่ขึ้นมาในทะเลสาบ
เอธานยังบินออกไปและลอยอยู่บนท้องฟ้าในการเผชิญหน้ากับมังกรน้ำท่วม
* รอวววววววว์ …… *
มังกรน้ำท่วมมองไปที่เอธาน ขณะที่มันคำรามว่า ‘ทำไมสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมดนี้ ต้องรบกวนมันตอนที่มันกำลังนอนหลับ? ‘นี่คือสิ่งที่มังกรน้ำท่วมคิด
จากนั้นมังกรน้ำท่วมก็เปิดปากของมันและปืนใหญ่น้ำขนาดใหญ่และหนาก็พุ่งเข้าหา เอธาน ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก
เอธานมองไปที่การโจมตีที่เข้ามาและคิดว่า ‘เรามาดูกันดีกว่าว่าสัตว์ร้ายระดับ 6 พิเศษนี้สามารถทำร้ายฉันได้หรือไม่ ‘
จากนั้นเอธานก็ลอยไปที่หามัน โดยไม่ขยับและปล่อยให้การโจมตีเข้าใส่เขา
* บึ้มมมม *
หลังจากได้รับการโจมตี เอธานก็รู้สึกเหมือนโดนใครมาเการ่างกายของเขาและไม่ได้ถูกผลักกลับไป
เมื่อเห็นฉากนั้น แม้แต่มังกรน้ำท่วมก็ดูสับสนและงุนงง
เอธาน เพียงแค่ยิ้มและยิงไปที่มังกรน้ำท่วม ด้วยความเร็วที่รวดเร็ว ก่อนที่จะนั่งบนหัวของมันและคว้าเขาทั้งสองข้าง
* รอววววว…. *
มังกรน้ำท่วมคำราม ขณะที่มันเริ่มจะกลับหัวและพยายามที่จะสลัด เอธานออกจากหัวของมัน
“ดูเหมือนว่าแกจะเชื่อฟังขึ้น ตอนที่แกจะรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นสินะ” จากนั้นเอธาน ก็สร้างหมัดขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวและชกเข้าที่หัวของมัน ในขณะที่ยังใช้มืออีกข้างหนึ่งจับเขามันไว้
ดวงตาของมังกรน้ำท่วมเปลี่ยนเป็นสีแดง ในขณะที่มันบ้าดีเดือดและเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เอธานก็รู้สึกรำคาญและให้หมัดหนัก ๆ อีกสองครั้งที่หัวของมัน ซึ่งทำให้มังกรน้ำท่วมพุ่งออกไป
จากนั้นเขาก็จับหางของมังกรน้ำท่วมและวางมันลงนอกทะเลสาบ
เมื่อมองไปที่มังกรน้ำท่วมที่ถูกเขาล้มลงเอธานก็คิดว่า ‘จะตื่นตอนไหนเนี่ย? ฉันไม่สามารถพกมันไปกับฉันและกลับไปร้านนั่น ขณะบินไปด้วยการพาสัตว์ร้ายตัวนี้ไปกับฉันจะต้องใช้พลังงานมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญฉันไม่มีพลังจิตเพียงพอที่จะกลับไปคนเดียวด้วยซ้ำ’
[~ อาณาจักรพลังจิต: ชำระแล้ว ~]
– พลังจิต: 8% / 100%
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้อยู่ 2-3 วินาที เอธานก็ตัดสินใจที่จะปลุกมังกรน้ำท่วมนี้ขึ้นมา
เขาขยับไปที่หัวของมังกรน้ำท่วมและตบ 2-3 ครั้ง
เมื่อเห็นว่ามังกรน้ำท่วมไม่ฟื้นคืนความรู้สึก เอธานจึงเพิ่มพลังของเขาเล็กน้อยและตบอีก 2-3 ครั้ง
หลังจากได้รับการตบ ดวงตาของมังกรน้ำท่วมก็เปิดขึ้น เมื่อมันกระพือปีกเล็ก ๆ ของมันบินขึ้น
เมื่อเอธานเห็น เขาก็เร่งความเร็วขึ้นและนั่งลงบนหัวของมันอีกครั้งทันที
“หยุดวิ่งและปฏิบัติตามคำสั่งของฉันอย่างเชื่อฟัง ไม่เช่นนั้นฉันจะฉีกแกเป็นชิ้น ๆ “
ดวงตาของมังกรน้ำท่วมสะท้อนความกลัวอย่างชัดเจน ขณะที่มันหยุดวิ่งเมื่อเห็นเอธาน เขายิ้มและพยักหน้า “ดี”
เขาตีตราพลังจิตของเขาอย่างรุนแรงในจิตสำนึกของมังกรน้ำท่วม ก่อนที่จะสั่งให้ มังกรน้ำท่วม บินไปในทิศทางของหุบเขา
มังกรน้ำท่วมไม่ได้ขัดขืนเพราะมันกลัวมนุษย์คนนี้ที่ทุบมันออกไปด้วยหมัดเพียงไม่กี่ครั้ง แต่มันก็ดีใจที่มันไม่ถูกฆ่า
การเอาตัวรอดเป็นสัญชาตญาณโดยกำเนิดของสัตว์มากที่สุด และมันก็ยิ่งเห็นได้ชัดในสัตว์ระดับสูง
ตอนที่ 23: ระบบอินเทอร์เฟซที่ยังไม่สมบูรณ์กับวิธีหาคริสตัลระดับสูง
หลังจากกลับมาถึงบ้านเทียน่าก็หลับไป ในขณะที่ยังรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เธอประสบในวันนี้
และตอนนี้เอธาน… ก็ทำตามแผนของเขา เขาป้อนพลังจิตของเขาเข้าสู่วังวนสีดำก่อนที่จะหลับไป
…
…
เอธานตื่นขึ้นมาหลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมงและไปตรวจสอบอาณาจักรพลังจิตตามปกติ
แต่ทันทีที่เขาเข้าไป เขารู้สึกได้ถึงการเชื่อมต่อกับบางสิ่งที่ทรงพลัง จากนั้นเขาก็เห็นว่ามีพลังงานที่ไม่คุ้นเคยอยู่ใกล้วังวนสีดำ
เอธาน เข้าใกล้พลังงานที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับพลังจิต เขาคิดที่จะควบคุมพลังงานเพื่อสร้างรูปร่างของยางลบเหมือนกับที่เขาทำกับพลังจิตของเขา เพื่อทำความสะอาดสิ่งเจือปนสีเทาและผลลัพธ์คือ?
มันเกินจินตนาการของเขา … พลังจิตที่เป็นรูปแบบของยางลบโดยมันไม่มีสีใดๆ เอธานรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่ง แต่เขาไม่สามารถทำให้มันมีสีสันได้ แต่พลังงานนี้ … เมื่อเอธาน เปลี่ยนมันเป็นยางลบมันก็ กลายเป็นยางลบอย่างแท้จริง ด้วยสีปกชื่อแบรนด์ยางลบที่เขาเคยเห็นได้กลายเป็นสิ่งที่เขาจินตนาการได้อย่างแท้จริง
จากนั้นเขาก็ละลายยางลบและรู้สึกถึงพลังงานอย่างใกล้ชิดอีกครั้งและเดาว่า ‘นี่อาจเป็นสิ่งที่เรียกว่า พลังงานลึกลับ ดังนั้นหมายความว่าฉันจะได้รับพลังเวทย์มนต์ ถ้าฉันป้อนพลังจิตของฉันไปที่วังวนสีดำ แต่ดูเหมือนพลังจิตของฉัน และอาณาจักรจิตใจของฉันยังจะไม่เปลี่ยนเป็นอาณาจักรลึกลับสินะ ฉันยังคงต้องพึ่งพาตัวเอง ดูเหมือนว่ายังไงก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลยล่ะนะฮ่า ๆ ๆ ‘
ตอนนี้ เอธานคิดว่า ‘ฉันจะสามารถสร้างอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายด้วยพลังงานลึกลับนี้ได้ แต่อย่างไรกัน?’
‘อย่างไรก็ตามเรามาลองสร้างอินเทอร์เฟซในสถานะว่างเปล่าก่อน หลังจากตัดสินใจเรื่องนี้ได้ ฉันค่อยจินตนาการถึงอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและสั่งให้พลังเวทย์มนต์เปลี่ยนเป็นสิ่งที่ฉันจินตนาการได้แล้วกัน’
อันที่จริงมันกลายเป็นกระดานชนวนที่มีสิ่งที่เขาได้เขียนไว้ไปแล้ว แต่ข้อมูลนั้นไม่มีค่าใด ๆ เลย
________________________________________________
<เอธาน ลอง: ~ เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ(เป็นเพียงครึ่งหนึ่ง)>
<ค่าสถิติ>
ความแข็งแรง: –
ร่างกาย:—
ความเร็ว:—
จิตใจ: —
[~ อาณาจักรพลังจิต: ชำระแล้ว ~]
– พลังจิต: 64% / 100%
[~ ขอบเขตพลังงาน: ไฟสายฟ้า ~]
– พลังงานไฟ: 90% / 100%
– พลังงานสายฟ้า: 100% / 100%]
__________________________________________________
“ฉันสามารถวัดพลังงานของฉันได้ เพราะฉันสามารถมองเห็นพวกมันได้อย่างชัดเจนแล้ว และรู้ว่าฉันเหลือสำรองไว้เท่าไหร่ ดังนั้นฉันจึงสามารถแสดงมันในอินเทอร์เฟซนี้ได้ แต่ค่าสถิติล่ะ?” เอธาน ชนกำแพงเมื่อมาถึงตรงนี้เขาไม่รู้วิธีคำนวณสถิติของเขา เช่นตัวเลขอะไรคือความแข็งแกร่งของเขา? ความเร็ว? ฯลฯ …
หลังจากครุ่นคิดอย่างหนักแล้ว เอธานก็ยังคงไม่พบทางออก “ไม่เป็นไรฉันจะทิ้งสิ่งนี้ไว้ ตอนนี้ฉันจะหาวิธีวัดค่าสถิติในภายหลัง”
“ ฉันไม่ต้องการพลังงานลึกลับอีกแล้ว เพราะมันจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาถาวร สิ่งที่ฉันต้องทำตอนนี้คือเพิ่มพลังงานสำรองของพลังงานไฟและพลังงานสายฟ้าของฉัน ซึ่งดูเหมือนว่าถึงเวลาที่จะได้รับคริสตัลสีดำขนาดใหญ่และ ขายมันซะแล้ว” หลังจากตัดสินใจเรื่องนี้ เอธาน ก็คิดว่าจะทำอะไรในเดือนหน้าดี
เอธานครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและตัดสินใจว่า “สำหรับเดือนหน้าฉันจะออกไปข้างนอกหุบเขานี้ และลองดูว่าฉันจะได้รับความสัมพันธ์กับองค์ประกอบอื่นไหม ในขณะที่ฉันกำลังผจญภัยอยู่หรือไม่”
ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่า ‘ฉันคิดว่าฉันควรถามเธอก่อน ว่าเธออยากมากับฉันไหม จากนั้น เอธาน ก็ออกจากห้องและมาถึงหน้าประตูห้องของเทียน่า ‘
เขายกมือขึ้นเคาะ แต่จริงๆแล้วประตูดันถอยหลังอยู่แล้วเล็กน้อย จากนั้น “ดูเหมือนเธอจะลืมล็อกประตู”
เอธานแอบมองเข้าไปในห้องเพื่อดูว่าเธอหลับไปรึยัง และเอธานก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า ‘ให้ตายเถอะเธอเป็นคนสวยจริงๆนะ ‘
‘ฉันควรออกไปจากที่นี่ตอนนี้ ฉันจะถามเธอว่าเธออยากมาผจญภัยกับฉันไหมหลังจากที่เธอตื่นล้ะกัน ‘
จากนั้นเอธานก็ออกไปข้างนอกและบินลงมาจากเกาะและมาถึงป่าที่อยู่ใกล้ ๆ ทางเข้าพระราชวังหุบเขา
เขาใช้เวลาไม่นานในการค้นพบทางเดินใต้ดินที่คริสตัลดำตั้งอยู่
เขาเข้าไปข้างในและพบคริสตัล และมองเห็นมันจากนั้น เอธาน ก็หยิบคริสตัลขึ้นมา แล้วบินไปยังตัวเมือง ขณะที่คิดว่า ‘ฉันควรซื้อแหวนเทเลพอร์ทก่อนเพราะฉันจะต้องใช้มันเมื่อออกไปข้างนอกพรุ่งนี้ ‘
เขามาถึงในเมืองและบางคนชี้ไปที่เขา ขณะที่เขาบินพร้อมกับคริสตัลสีดำขนาดใหญ่ในมือของเขา บางคนถึงกับแสดงความโลภ แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ในขณะที่อยู่ในเมือง
เอธานเพิ่งเร่งความเร็วและมาถึงร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Clear Sky Treasures
เอธานเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับคริสตัลสีดำ ทันทีที่เขาเข้าไปเจ้าหน้าที่เห็น เอธาน และคริสตัลขนาดใหญ่ในมือของเขา ก่อนที่เขาจะเข้าไปหาเอธานและถามว่า “ได้โปรดเชิญมาทางนี้ .. ” เมื่อพูดอย่างนี้เขาก็พา เอธานไปที่ชั้น 2
เห็นได้ชัดว่า เอธาน มาที่นี่เพื่อขายคริสตัลสีดำขนาดใหญ่ ดังนั้นเขาจึงพาเอธานไปที่ชั้น 2
หลังจากมาถึงชั้น 2 พนักงานก็ยิ้มให้กับเอธานอย่างมืออาชีพและถามว่า “ท่านครับท่านต้องการขายคริสตัลนี้เท่านั้นหรือต้องการซื้ออะไรไหมครับ?”
เอธานวางคริสตัลเม็ดใหญ่ไว้บนโต๊ะ ขณะที่เขาพูดว่า “มาดูกันก่อน ว่าคริสตัลนี้มีมูลค่าเท่าไร จากนั้นเราจะคุยเรื่องที่ฉันต้องการซื้อ”
“ได้เลยครับท่าน” เมื่อพูดแบบนี้เจ้าหน้าที่ก็หยิบคริสตัลขึ้นมาและเริ่มตรวจสอบหลังจากนั้น 2 นาทีเขาก็พูดว่า “ครับคริสตัลนี้เป็นเกรดพีคและขนาดก็ใหญ่ด้วย”
หลังจากนั้นเขาก็ถามเอธานว่า “ท่านต้องการรับคริสตัลประเภทไหนไหม ถ้าท่านต้องการการชำระเงินรับเป็นแบบธาตุไฟหรือสายฟ้าแบบเกรดสูงไหมครับ เราสามารถจ่ายได้ 20 ชิ้น แต่สำหรับองค์ประกอบอื่น ๆ นอกเหนือจากธาตุไฟและสายฟ้า เราสามารถจ่าย 15 คริสตัลระดับสูง และคริสตัลธาตุอื่น ๆ ที่เรามี ได้แก่ น้ำ ดิน อากาศและเรายังมีคริสตัลระดับสูงของธาตุมืดอีกด้วย แต่ถ้าคุณต้องการเราสามารถจ่ายได้เพียง 10 ชิ้นเพื่อแลกกับคริสตัลนี้”
เอธานรู้สึกประหลาดใจที่พวกเขามีคริสตัลธาตุมืด แต่ก่อนที่จะตัดสินใจ เขาถามว่า “คุณขายแหวนเทเลพอร์ทไหม ?”
เจ้าหน้าที่ยิ้มและพยักหน้าก่อนพูดว่า “ใช่ เราขายแหวนเทเลพอร์ทด้วยครับ แต่ตอนนี้เรามีแค่ 2 วง วงหนึ่งมีพื้นที่ 10 ลูกบาศก์เมตรและอีกวงมีพื้นที่ 25 ลูกบาศก์เมตร ราคา 10 ลูกบาศก์เมตร แหวนคือคริสตัลธาตุไฟหรือสายฟ้าระดับสูง 30 ชิ้น หากคุณมีคริสตัลธาตุน้ำดินหรืออากาศจะมีราคา 24 คริสตัล ระดับสูงหากคุณมีผลึกธาตุแสงและมืดจะมีราคาเพียง 16 คริสตัลระดับสูง .”
จากนั้น เอธานก็หยุดชายคนนั้นไม่ให้เปล่งเสียงแหวนราคา 25 ลูกบาศก์เมตรและพูดว่า “ขอคริสตัลธาตุแห่งความมืดให้ฉัน 10 อัน”
พนักงานยิ้มและพูดว่า “ได้ครับ” จากนั้นเขาก็เปิดลิ้นชักด้านข้างและหยิบคริสตัลธาตุมืดระดับสูง 10 ชิ้น ก่อนที่จะส่งมอบให้กับเอธาน
หลังจากได้รับ เอธานก็ถามพนักงานต่อ “คุณรู้วิธีที่รวดเร็วในการรับคริสตัลคุณภาพสูงหรือไม่”
เจ้าหน้าที่ครุ่นคิดสักครู่ก่อนที่จะตอบว่า “วิธีที่รวดเร็วในการรับผลึกธาตุระดับสูง คือการรับคำขอจากกิลด์ฮอลล์หรือเข้าร่วมกลุ่มและทำภารกิจที่โพสต์โดยพวกเขาให้สำเร็จอีกวิธีหนึ่งคือการฆ่าเกรด 5 และเกรด 6 ที่ทรงพลัง สัตว์ที่เป็นกระดูกและหนังของพวกมันสามารถใช้ทำเกราะและสิ่งอื่น ๆ ได้ แต่ … ” ในตอนท้ายเขาลังเลที่จะไม่พูดเพราะเขาคิดว่า เอธานอาจไม่สามารถฆ่าสัตว์ที่ทรงพลังเช่นนั้นได้
” คุณสามารถบอกฉันเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องโถงกิลด์ได้ไหม” เอธาน ถามในขณะที่เขาต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับห้องโถงกิลด์
“ใน กิลด์ฮอลล์ ผู้คนสามารถส่งคำขอและรางวัลของพวกเขา ซึ่งจัดการร่วมกันโดยฝ่ายที่ทรงพลังเช่น หุบเขาแห่งนี้, เกาะลอยฟ้าพาวิลเลี่ยน, พระราชวังพันทะเล, พระราชวังเมฆารุ้ง เป็นต้น และมีคำขอหลากหลายประเภทเช่น ในการคุ้มกันการล่าสัตว์ประเภทเฉพาะสำหรับลักษณะเฉพาะของมัน เช่นถุงพิษของกบสามตาเป็นต้น ”
เอธานพยักหน้า เมื่อเขาเข้าใจการทำงานของกิลด์ฮอลล์แล้ว
จากนั้นเขาก็ถามว่า “ร้านของคุณมีคำขออะไรหรือไม่”
เจ้าหน้าที่ลังเลอยู่ 2- 3 วินาทีก่อนที่จะพยักหน้าและพูดต่อขณะที่ยิ้มต่อว่า “ใช่แล้วเราได้โพสต์คำขอในกิลด์ฮอลล์ คำขอของเราเป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำมังกรน้ำท่วมกลับมามีชีวิต เหมือนที่อยู่ในนั้นจะต้องไม่บาดเจ็บเกินไป จากข้อมูลที่เราได้รับพบเมื่อเร็ว ๆ นี้มังกรน้ำท่วมที่ทะเลสาบใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างออกไป 140 กม. จากที่นี่ทางตอนใต้ ”
เอธานรู้สึกทึ่งเมื่อเขาถามว่า “มังกรน้ำท่วมตัวนั้นมีเกรดเท่าไหร่และรางวัลคืออะไร”
“มังกรน้ำท่วมตัวนั้นเป็นเกรด 6 และรางวัล … ” เจ้าหน้าที่ลังเลอีกครั้ง 2-3 วินาทีก่อนที่จะพูดว่า “รางวัลคือธาตุสายฟ้าระดับสูง 100 หรือผลึกธาตุไฟก็ได้ 100 ชิ้น”
ดวงตาของ เอธานเบิกกว้าง เมื่อได้ยินเกี่ยวกับรางวัล แต่เขามองเห็นบางสิ่งบางอย่างจากพฤติกรรมของพนักงานคนนี้และถามอย่างตรงไปตรงมา “รางวัลไม่ต่ำไปหน่อยเหรอ กับคำขอของคุณที่บอกว่าคุณต้องการให้มังกรน้ำท่วมตัวนั้นมีชีวิตโดยไม่บาดเจ็บมากใช่ไหม?”
“นี่ … ” พนักงานลังเลเล็กน้อยและลดเสียงลงก่อนจะพูดว่า “อันที่จริงฉันคิดว่ารางวัลต่ำไปหน่อย แต่ เจ้านายไม่เต็มใจที่จะเพิ่มราคา และนั่นเป็นสาเหตุที่ไม่มีใครยอมรับคำขอของเรา”
เอธานยิ้มแล้วถามว่า “เจ้านายของคุณอยู่ที่ไหน ฉันอยากจะปรึกษาบางอย่างกับเขา และไม่ต้องกังวลฉันมีพี่ชายที่เป็น ผู้วิเศษด้านธาตุที่ทรงพลังมากอยู่ ถ้าฉันสามารถพูดคุยกับเจ้านายของคุณเกี่ยวกับบางสิ่งได้ พี่ชายอาจยอมรับคำขอนี้ “
เจ้าหน้าที่รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนั้นและพูดว่า “อ้องั้นรอสักครู่นะครับเจ้านายอยู่ชั้น 3 ผมจะถ่ายทอดสิ่งที่คุณพูดกับเขาก่อน”
เมื่อพูดอย่างนี้เขาก็ขึ้นไปชั้นบนทันที
ตอนที่ 22: พลังของหยดเพียงหยดเดียว
จากนั้นเทียน่า ก็หันกลับไปและเดินกลับไปที่ห้องของเธอ เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรตอนนี้ เพราะปกติแล้วเธอควรจะได้รับการฝึกฝน แต่เธอไม่ได้นำคริสตัลมาด้วย และเธอก็ทำภารกิจไม่ได้ด้วยซ้ำ ซึ่งภารกิจนั้นก็คือ เพื่อตามล่าสัตว์พิเศษระดับ 3 ระดับ 5 เพราะเธออาจจะถูกพบเห็นได้ เธอจึงไม่ได้ทำภารกิจ
“เฮ้อออ ดูเหมือนสิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้ก็คือการฝึกฝนตามปกติ” จากนั้นเทียน่าก็หลับตาและเข้าสู่สภาวะเข้าฌาน
…
…
เอธานตื่นขึ้นมาหลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมง …
เมื่อมองไปที่นาฬิกามันเป็นเวลาบ่าย 2 โมง แล้ว จากนั้นเขาก็ปล่อยให้วังวนสีดำและมันก็ได้ดูดพลังงานทั้งหมดของเขาอีกครั้งก่อนที่จะหลับไป
…
เอธาน ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จะทำสิ่งเดียวกันนั่นคือการปล่อยพลังจิตจำนวนมหาศาลของเขาลงในวังวนสีดำและหลับไป
…
เมื่อเอธานตื่นขึ้นในเวลานี้เขามองไปที่นาฬิกาและคิดว่า ‘00.00 น. ตามเวลาที่ฉันคาดไว้ ‘
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากเตียงและหยิบฮูดและเสื้อคลุมออกจากกระเป๋าและออกจากห้องก่อนจะมาถึงหน้าห้องของเทียน่าและเคาะ2-3ครั้ง
เทียน่าเปิดประตูด้วยแววตาง่วงนอนแล้วถามว่า “มีอะไรเหรอคะ” แต่หลังจากนั้นดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไป เมื่อเธอจำสิ่งที่พวกเขาวางแผนไว้ได้ ‘ฉันเกือบลืมเรื่องนี้และหลับไป แต่เขาจำได้สินะ … ‘
“เธอลืมไปหรือเปล่าว่าเราวางแผนจะไปที่บ้านเธอเพื่อเอาของมาที่นี่” เอธานตอบด้วยรอยยิ้มและถามต่อว่า “อย่าบอกนะว่าเธอลืมเรื่องนี้”
“ไม่แน่นอนไปกันเถอะ … “
“รอสักครู่ฉันจะไปสวมฮูดนี้และเสื้อคลุม”
เทียน่าหน้าแดงเล็กน้อย เมื่อได้ยินดังนั้น เธอจึงหยิบฮูดและเสื้อคลุมออกมาก่อนจะสวมใส่
จากนั้นทั้งคู่ก็ออกจากบ้านและเริ่มเดินไปในทิศทางหนึ่ง ขณะที่เทียน่าเป็นผู้นำและ เอธาน ก็เดินตามเธอไป
…
หลังจากเดินเป็นเวลา 10 นาที พวกเขาก็มาถึงบริเวณที่ส่วนกลางของสาวกอยู่กัน
บ้านที่นี่ยังมีพื้นดินส่วนตัวและยังมีพื้นที่ว่างระหว่างบ้านแต่ละหลัง แม้ว่าบ้านเธอจะดูโทรมกว่าบ้านที่เอธานได้มาจากลาฟิวเล็กน้อยก็ตาม
ทั้งคู่เดินลึกเข้าไปในบริเวณนั้นเป็นเวลา 5 นาทีก่อนที่เทียน่าจะหยุดลงในที่สุด
เธอชี้ไปที่บ้านทางด้านซ้ายและกระซิบกับเอธานว่า “นี่คือบ้านของฉัน รอที่นี่สักพักฉันจะเก็บของเอง”
เอธานมองไปรอบ ๆ ก่อนจะกระซิบ“ เอาเลย ฉันจะคอยระวังหลังให้ อย่าเอาของไร้ประโยชน์ติดตัวไปมากเกินไป เก็บเฉพาะสิ่งของที่จำเป็นเช่นคริสตัล เสื้อผ้า ฯลฯ ”
เทียน่ากลอกตาของเธอโดยที่เอธานไม่เห็นและพูด “ฉันรู้น่า!”
จากนั้นเธอก็เดินไปที่บ้านของเธอและเข้าไปข้างใน
จากนั้นเอธานก็แผ่พลังจิตออกไปรอบ ๆ เพื่อให้เขารู้สึกได้ถึงสภาพแวดล้อมของเขา
…
…
หลังจาก 15 นาที ในที่สุดเทียน่าก็ออกมาจากบ้านพร้อมกระเป๋า 3 ใบ
เมื่อเห็นเทียน่าออกมา เอธานก็โบกมือและกระเป๋าทั้ง 3 ใบก็ลอยไปหาเอธาน
หลังจากนั้นเขาก็ยื่นมือไปทางเทียน่าและพูดว่า “จับมือฉันสิ … “
เทียน่าไม่ตอบ ขณะที่เธอตกใจกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
จากนั้นเอธาน ก็จับมือของเธอและเขาก็ลอยขึ้นไปก่อนจะเดินไปยังบ้านของเขา ขณะที่กระเป๋าทั้ง 3 ใบนั้นลอยอยู่ข้างหลังเขาเช่นกัน
เทียน่าตกใจมากขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขามองไปที่เอธานและพูดด้วยความไม่เชื่อ “คะ- คุณได้เปิดอาณาจักรพลังจิตของคุณแล้วเหรอ? และยังมีวิธีที่คุณบินแบบนี้ได้อย่างง่ายดายอีก คุณต้องล้างมลทินสีเทาจำนวนมากไปแล้วใช่ไหม”
เอธานมองไปที่เธอและพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันล้างสิ่งสกปรกสีเทาทั้งหมดของฉันแล้ว”
เทียน่าอ้าปากกว้าง เมื่อได้ยินสิ่งนั้น แล้วเธอก็ส่ายหัวขณะที่คิดว่า ‘เป็นไปไม่ได้เขาอายุแค่ 18 ปี และเขากำลังฝึกเป็นนักรบธาตุอยู่ … ‘ จากนั้นเธอก็อยากรู้อยากเห็นและถามเอธานต่อ
“ คุณเริ่มฝึกเมื่อไหร่? และคุณเป็นนักรบธาตุใช่ไหม?”
เอธานไม่ได้ตอบทันที เมื่อพวกเขามาถึงบ้านแล้ว เขาก็ค่อยๆลงมา ก่อนที่จะตอบเธอด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่าฮ่า ยังไม่ถึง 2 ปีเลยที่ฉันได้เริ่มฝึกเป็นนักรบธาตุน่ะและมันก็ยังไม่ถึง 1 ปีเลย ตั้งแต่ฉัน เปิดอาณาจักรพลังจิตของฉัน “
เห็นได้ชัดว่าเทียน่า ไม่เชื่อเขาเลย เธอคิดว่าเธอได้ยินอะไรบางอย่างที่ไร้สาระ และเพียงแค่กลอกตาก่อนจะหยิบกระเป๋าและเข้าไปข้างใน
เอธานเข้าใจว่าเธอไม่เชื่อเขา จากนั้นเขาก็เข้าไปในบ้านและถามเธอว่า “เธอมีภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จหรือไม่ ฉันรู้ว่าสาวกของส่วนกลางต้องทำภารกิจให้เสร็จทุกวัน” พูดแบบนี้ เขาโบกมือและควบคุมกระเป๋าของเธอด้วยพลังจิต จากนั้นก็เปิดประตูห้องของเธอและใส่ พวกมันไว้ข้างในห้องของเธอ ก่อนที่เขาจะพูดต่อ “แล้วเธอไม่ยอมรับใครเป็นนายของเธอเลยเหรอ เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับไอ้คนนั้นนะ ถ้าเธอจะมีผู้อาวุโสหลักเป็นเจ้านายของเธอเองน่ะ “
เมื่อเห็นว่าเอธานเก็บกระเป๋าของเธอไว้ในห้องแล้ว เธอจึงนั่งบนเก้าอี้และหายใจเข้าลึก ๆ และเล่าสถานการณ์ของเธอว่า “ฉันเพิ่งเข้าร่วมกับหุบเขา เมื่อ 6 เดือนก่อน โดยเห็นว่าฉันมีองค์ประกอบคู่และยัง เป็นระดับสูง ดังนั้นฉันจึงได้รับการยอมรับโดยตรงว่าเป็นศิษย์และภารกิจปัจจุบันของฉันคือฆ่าสัตว์พิเศษระดับ 3 จำนวน 5 ตัว “
จากนั้นเธอก็หยุดไป 2-3 วินาที ขณะที่เธอพูดต่อ ขณะนี้เธอสั่นเล็กน้อยและพูดในขณะที่เสียงของเธอแหบลงเล็กน้อย “ผู้อาวุโสหลัก 2 คน ต้องการรับฉันเป็นศิษย์ของพวกเขา แต่ฉันปฏิเสธพวกเขาเพราะทั้งสองคนเป็นชายชราและฉันก็ ไม่ชอบที่พวกเขามองฉันแบบนั้นและในบรรดาผู้อาวุโสหลักหญิง 3 คน ผู้อาวุโส 2 คน ไม่ได้อยู่ในหุบเขาและผู้อาวุโสหลักหญิงคนที่สามไม่ยอมรับฉันเป็นศิษย์ของเธอ ดังนั้นฉันจึงไม่มีอาจารย์ “
“ ต่อมาฉันเห็นว่าเฮนอิล ไอ้สารเลวคนนั้นตามฉันมาตลอดและมองฉันด้วยสายตาสกปรกทุกครั้ง ฉันจึงไปหาผู้อาวุโสหญิงคนที่ 3 และขอให้เธอรับฉันเป็นศิษย์ของเธอ และบอกเธอเกี่ยวกับเฮนอิล แต่เธอก็ยังปฏิเสธฉัน” ดวงตาของเทียน่ากำลังเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา แต่เธอก็กลั้นไว้ไม่อยู่
เอธานรู้สึกสับสนว่าทำไมผู้อาวุโสหญิงคนนั้นถึงไม่ยอมรับ Tiana เป็นศิษย์ของเธอ แต่เมื่อเขาบอก เทียน่าว่าเขาจะช่วยเธอ แล้วเขาก็จะช่วยเธอแน่นอน … แน่นอนเขาจะช่วยเธอโดยไม่ต้องเคลื่อนไหวมากนักและไม่ประมาท
‘ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้เธอในตอนนี้ ‘เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เขาก็ยิ้มให้ เทียน่าและพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจว่า “ไปทำภารกิจของเธอให้เสร็จก่อนและอย่าลืมเรื่องนั้นเฮลอิลไม่มีใครทำอะไรคุณได้ตราบเท่าที่เธออยู่กับฉัน”
แก้มของเทียน่าเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ ขณะที่เธอรู้สึกงุนงง เมื่อได้ยินคำพูดของเอธาน
เมื่อไม่เห็นการตอบสนองใด ๆ จากเทีน่า เอธาน ก็จับมือของเธอและลอยออกไปข้างนอก ก่อนที่จะไปในทิศทางของป่าของการฝึกฝน บนเกาะที่เหล่าสาวกหลักมักจะล่าสัตว์วิเศษกัน
เทียน่านิ่งเงียบ แม้หลังจากที่เอธานจับมือเธอ แต่ใบหน้าของเธอกลับแสดงอย่างอื่น ในขณะที่เธอหน้าแดงมากขึ้น
เธอหายใจเข้าลึก ๆ 2-3 ครั้งเพื่อให้หัวใจที่เต้นแรงของเธอสงบลง
จากนั้นเธอก็มองไปที่ เอธานที่กำลังมองไปด้านหน้า แต่การได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง ทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นดังนั้นเธอจึงมองออกไปทันที
หลังจากนั้นเพียง 5 นาทีพวกเขาก็มาถึงป่าแห่งการฝึกฝน ขณะที่ เอธาน และ เทียน่า ลอยลงมา
“ไปกันเถอะเธอสามารถทำภารกิจให้เสร็จได้แล้ว”
เทียน่าพยักหน้าโดยไม่มองไปที่เอธาน ขณะที่เธอเริ่มเดินไปข้างหน้า
เอธานแค่ส่ายหัวแล้วเดินตามไปข้างหลัง
…
…
เทียน่าและเอธานเพิกเฉยต่อสัตว์วิเศษระดับ 2 และเดินลึกเข้าไปอีกเล็กน้อยเพื่อค้นหาสัตว์ร้ายระดับ 3 เพราะพวกเขาไม่ต้องการเสียเวลา
ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้พบกับสัตว์วิเศษระดับ 3 ตัวแรกในป่า มันคือไลเกอร์เพลิงระดับ 3
เอธานซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้และเฝ้าดูเทียน่าเริ่มต่อสู้
เธอโจมตีไลเกอร์ไฟก่อนด้วยลูกบอลน้ำของเธอ แต่ไลเกอร์ไฟหลบมันได้อย่างง่ายดายจากนั้น ไลเกอร์ไฟก็เปิดปากและขว้างลูกไฟไปที่เทียน่า
เทียน่าไม่ได้พยายามหลบและใช้โล่น้ำ ซึ่งมันสามารถแก้ปัญหาลูกไฟได้อย่างง่ายดาย
‘ฉันต้องล่อให้มันเข้ามาใกล้ ไม่งั้นฉันจะไม่สามารถตีมันได้เพราะมันจะหลบการโจมตีของฉัน ‘ เทียน่าเริ่มคิดถึงกลยุทธ์และไม่ได้โจมตี แต่ไลเกอร์ขว้างลูกไฟอีก 2 ลูก ซึ่งเทียน่าปิดกั้นมันด้วยโล่น้ำของเธอ
แต่โล่น้ำของเทียน่าก็ถูกทำลายโดยลูกไฟลูกที่ 4 และเมื่อเห็นสิ่งนี้ไลเกอร์ไฟก็พุ่งเข้าหาเทียน่าทันที
เมื่อไลเกอร์ที่กำลังลุกเป็นไฟอยู่ห่างจากเธอเพียง 5 เมตร เธอก็ขว้างบอลสายฟ้าและขัดขวางการเคลื่อนไหวของไลเกอร์ไฟมันมีอาการอัมพาตและทันที หลังจากนั้นเทียน่าก็ใช้กระสุนน้ำ เพื่อฆ่าไลเกอร์ และคาถาปืนกลน้ำก็มีอำนาจทะลุทะลวงสูงเช่นเดียวกับ หยดน้ำที่ควบแน่นเหล่านี้ สามารถเปลี่ยนเป็นการโจมตีประเภทน้ำที่ทรงพลังด้วยความเร็วสูงและพลังทะลุทะลวงสูง
การโจมตีนี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกับไลเกอร์ไฟนี้ เนื่องจากไลเกอร์ไฟ เป็นสัตว์ที่มีคุณสมบัติไฟ ซึ่งทำให้การป้องกันของมันไม่มีโอกาสที่จะต่อสู้กับกระสุนน้ำเหล่านั้น
จากนั้นเทียน่าก็มาถึงก่อนที่ศพของไลเกอร์ไฟจะล่วงลงมา และเธอก็ทำการถอนฟันของมันออกก่อนที่จะเก็บมันไว้ในกระเป๋าใบเล็กที่ห้อยอยู่ที่เอวของเธอเสมอ
“ทำได้ดีเทียน่า” เอธานออกมาจากหลังต้นไม้ด้วยรอยยิ้มขณะที่เขาชมเชย
…
…
เช่นนั้นเทียน่าก็ล่าสัตว์ระดับ 3 อีก 4 ตัวได้อย่างง่ายดายมันเป็นเพียงสัตว์ร้าย และตัวสุดท้ายที่เธอล่า ซึ่งเรารู้จักกันในชื่อ สัตว์เถาวัลย์เรดวูด มันทำให้เธอมีปัญหาเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร เพราะมันทำได้เพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยที่ขาขวาของเธอ
อารมณ์ของเธอเปลี่ยนไป ขณะที่เธอยิ้มให้เอธานและถามว่า “เราจะกลับไปเดี๋ยวนี้เลยไหม”
เอธานยิ้มจาง ๆ และพูดว่า “ไม่แน่นอน ฉันยังไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันมีพลังมากแค่ไหนโดยเฉพาะพลังของ นักเวทย์ธาตุ ดังนั้นฉันต้องการตรวจสอบมันที่นี่สักหน่อย”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เทียน่าก็ตกใจเพราะทุกครั้งที่เธอคิดว่าเอธานเป็นเพียงนักรบธาตุเท่านั้น
แต่แล้วเธอก็คิดว่า ‘เขาคงจะเพิ่งเริ่มฝึกฝนได้ไม่นาน ดังนั้นฉันสงสัยว่าเขาจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับ นักเวทย์ธาตุได้จริงไหม ‘
เมื่อนึกถึงเรื่องนั้น เทียน่าก็พยักหน้าให้ เอธานพร้อมกับพูดว่า “เอาล่ะมาตรวจสอบความแข็งแกร่งของคุณ ในฐานะพ่อมดธาตุกันเถอะว่าคุณมีความสัมพันธ์กับธาตุไหนกันแน่”
เอธานจับมือของเทียน่าก่อนและเร่งความเร็วเข้าไปในป่าลึกซึ่งทำให้ เทียน่า กลัวและก่อนที่เธอจะพูดอะไร เอธานตอบคำถามของเธอว่า “ฉันมีความสัมพันธ์ของธาตุไฟและสายฟ้า”
“ทำไมคุณถึงไปลึกขนาดนี้?” เทียน่าตะโกนด้วยความกลัวเพราะเอธานกำลังเข้าไปลึกมากขึ้นในป่า
“ไม่ต้องกังวล ฉันสามารถเอาชนะสัตว์เกรด 5 ได้ เหมือนกับที่พวกมันเป็นของเล่นสำหรับสัตว์เกรด 6 แม้ว่าฉันจะไม่เคยต่อสู้กับพวกมันมาก่อน แต่มันก็ไม่น่าจะเหมาะกับฉัน”
เทียน่าแทบจะเป็นลม เมื่อได้ยินสิ่งที่เอธานพูดเพราะเห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อในสิ่งที่เอธานพูดเลย
แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อ ถ้าพวกเขาได้ยินว่าเด็กอายุ 18 ปี มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับ ผู้วิเศษด้านธาตุ
“ย – คุณหยุดเดี๋ยวนี้ … ” เทียน่าพูดอย่างสั่น ๆ แต่เอธานก็พูดว่า “อะไรนะ ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย”
‘เนื่องจากเธอไม่เชื่อคำพูดของฉัน ฉันเดาว่าการกระทำของฉันจะทำให้เธอเชื่อ และฉันก็อยากเห็นพลังของพลังงานธาตุที่ทำให้เป็นของเหลวด้วย ‘
ตอนนี้เอธาน สามารถสัมผัสถึงขอบเขตพลังงานของเขาได้โดยไม่ต้องเข้าไปข้างในและหลังจากการฝึกฝนอัตโนมัติทั้งวันทั้ง จากคริสตัลไฟ และ คริสตัลสายฟ้า มันก็ผลิตออกมาอย่างละ 1 หยดเท่านั้น
เทียน่าพูดอีก 2-3 ครั้งเพื่อหยุด แต่เอธาน ก็เพิกเฉยและเร่งความเร็วขึ้น จนในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับสัตว์เกรด 6 ตัวแรก หลังจากบินด้วยความเร็วเป็นเวลา 5 นาที
สัตว์ร้ายระดับ 6 สิงโตปีกสีเขียวเกล็ดไฟ สัตว์ร้ายตัวนี้มีความสูงมากกว่า 5 เมตรและยาว 3 เมตร มันขึ้นชื่อเรื่องขนาดของไฟที่แข็งแกร่งและสามารถปล่อยลูกบอลพลังงานที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วยธาตุไฟและไม้ ซึ่งหลังจากการระเบิดจะผลิตก๊าซพิษ
สิงโตปีกสีเขียวเกล็ดไฟกำลังหลับอยู่และจริงๆแล้วเอธานไม่ได้ตั้งใจที่จะปลุกมัน
เขามองไปที่เทียน่าก่อนส่งสัญญาณให้เธอเงียบและซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้หนาทึบ
หลังจากนั้นเอธานก็ค่อยๆเดินไปข้างหน้าและหยุด เมื่อเขาอยู่ห่างจากสัตว์ร้ายนั้น 50 เมตร
จากนั้นเขาก็ควบคุมพลังงานไฟที่ลดลงจากขอบเขตพลังงานของเขา และนำมันออกมาซึ่งทันทีที่หยดของพลังงานไฟออกมาอุณหภูมิโดยรอบก็เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก แต่มันก็ไม่ได้ปลุกสิงโตขึ้นมาเพราะ สิงโตปีกสีเขียวเกล็ดไฟ มีอุณหภูมิแบบนั้นเป็นปกติของมัน รวมถึงสิงโตมีปีกสูงมาก เนื่องจากเกล็ดไฟที่ปกคลุมร่างกายของมัน
เอธานรู้สึกได้ถึงพลังงานไฟจำนวนมหาศาลภายในหยดนั้น จากนั้นเขาก็จินตนาการถึงการควบคุมการลดลงของพลังงานไฟ เพื่อเปลี่ยนเป็นลูกบอลไฟ แต่เขาไม่สามารถควบคุมการขยายตัวของพลังงานจากการลดลงของพลังงานไฟได้ เนื่องจากมันกลายเป็นลูกไฟรัศมีขนาดใหญ่ 5 เมตรและมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่แล้วเอธานก็ควบคุมได้ และค่อยๆบีบอัด ลูกไฟ เข้าไปในรัศมี 2 เมตร
เมื่อเห็นฉากนี้ เทียน่าก็ตกใจมาก จนไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดอะไรขึ้นต่อหน้าเธอ แม้ว่าเธอจะเห็นมันก็ตาม
เธอหยิกแก้มตัวเองและรู้สึกเจ็บก่อนที่จะตระหนักว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นเป็นความจริง
‘แต่ยังไง … ? ‘
เมื่อเห็นความร้อนและพลังของลูกไฟ แม้แต่สิงโตที่หลับใหลก็ยังถูกรบกวนเมื่อตื่นขึ้นมา แต่ก่อนที่มันจะคำรามเอธานก็ขว้าง ลูกไฟ ไปทางสัตว์ร้าย
ซึ่ง 50 เมตรเป็นระยะทางที่สั้นมาก ดังนั้นลูกไฟจึงพุ่งเข้าหาสิงโตก่อนที่มันจะทำอะไรได้
และ…
* บูม …. *
จากนั้นเอธานก็พุ่งเข้าหาเทียน่า ในขณะที่เขาจับมือเธอแล้วบินขึ้นด้านบนเพื่อไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บจากอาฟเตอร์ช็อก
จากนั้นทั้งคู่ก็มองลงไปเพื่อดูผลลัพธ์ แต่พวกเขากลับพูดไม่ออก เมื่อสิงโตปีกสีเขียวเกล็ดไฟถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ เนื้อและกระดูกที่ถูกเผาไหม้เพียงไม่กี่ชิ้นเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ที่นั่น
เทียน่ารู้สึกงุนงง เมื่อเห็นความหายนะที่เกิดจากลูกไฟนั้นและเอธานเองก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อเขาคิดว่า ‘นี่คือพลังของ ‘เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ’ งั้นหรือ? ว้าว!!! นั่นเป็นเพียงหยดเดียว เพียงหนึ่งหยดเท่านั้น ‘
เอธานไม่รู้ว่ามีความแตกต่างเชิงคุณภาพอย่างมากระหว่างพลังงานห๊าซและพลังงานของเหลว สมมติว่าต้องใช้พลังงานก๊าซ 5 KG เพื่อสร้าง 1 หยดและตอนนี้ ผู้วิเศษด้านธาตุ ก็สามารถสร้าง ลูกไฟ ที่ใช้พลังงานก๊าซ 5 KG และ ‘เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ’ สามารถสร้าง ลูกไฟที่ราคา 1 หยดได้ และทั้งคู่ขว้างลูกไฟไปยังเนินเขาเล็ก ๆ 2 ลูกที่มีขนาดเท่ากันผลลัพธ์คืออะไรน่ะหรอ?
ลูกไฟของ ผู้วิเศษธาตุสามารถปรับระดับเนินเขาได้ แต่ลูกไฟของของ ‘เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ’ สามารถกำจัดเนินเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทั้งสองไม่สามารถเทียบได้ในมิติเดียวกัน
…
เอธานมองไปที่เทียน่าที่กำลังงุนงง ขณะที่เขาสะกิดมือของเธอที่เขาถืออยู่และถามด้วยรอยยิ้ม “เป็นยังไงบ้าง ฉันมีพลังมากใช่มั้ย”
เทียน่ามองไปที่เอธาน ขณะที่เธอพยักหน้าอย่างว่างเปล่า แต่ลึก ๆ แล้วเธอประทับใจมากจนคิดไม่ออกว่า ‘เขาอายุเท่าฉัน !! wtf … ‘
เอธานหัวเราะเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ ขณะที่เขาบินกลับไปที่บ้านของพวกเขา
…
…
ไม่กี่นาทีหลังจากที่เอธาน จากไป ชายชราที่มีเคราสีขาวและผมสีขาวก็มาถึงและมองไปที่ซากของสิงโต ขณะที่ลอยอยู่ก่อนที่จะคิดว่า “ผู้อาวุโสสูงสุดคนไหน เบื่อมากจนโยน ลูกไฟ ไว้ที่นี่ พวกเขาทั้งหมดควรอยู่ในประตูปิดมิดชินี่ และไหนจะเรื่องการฝึกอบรมเพื่อทำความเข้าใจความลึกลับขององค์ประกอบอีก เขาไม่มีทางออกมาในตอนนี้”
ชายชราส่ายหัวและหนีไป
ตอนที่ 21: คริสตัลที่หมุนวน
ตอนแรกเอธานหลับตาและเข้าสู่สภาวะเข้าฌาน เพื่อดูดซับพลังธาตุของ ไฟและ สายฟ้า จากชั้นบรรยากาศ
เขาได้เรียนรู้จาก ลาฟิว ว่าจิตใจของเขาต้องปลอดโปร่งจากความคิดที่ทำให้ไขว้เขวและว่างเปล่า เพื่อเข้าสู่สภาวะเข้าฌาน หลังจากที่เข้าสู่สภาวะเข้าฌาน ผลของความสัมพันธ์ของพวกเขา จะเริ่มเข้ามาเพราะมันจะดึงดูดพลังธาตุที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของพวกมันต่อตัวเขาเอง
เนื่องจากปัจจุบัน เอธานมีความสัมพันธ์กับ ธาตุไฟ และ สายฟ้า เขาจึงดึงดูดพลังธาตุ ไฟ และ สายฟ้า จากชั้นบรรยากาศ และแน่นอนว่ามีอีกวิธีหนึ่งในการรวบรวมพลังงานธาตุและนั่นคือการใช้ ธาตุคริสตัล แต่ตอนนี้ เอธานยังไม่มีมันเลย เขาจึงใช้วิธีนี้ได้เท่านั้น
ทันใดนั้นเอธานก็จำได้ว่าเขามีผลึกธาตุไฟระดับสูงและผลึกสายฟ้าระดับสูง
“ แต่แก่นแท้ของพวกมันถูกดูดออกไปโดยวังวนสีดำแล้วเนี่ยสิ … ” เอธานพึมพำและทันใดนั้นก็มีความคิด ‘บางทีฉันอาจจะลองใช้มันเป็นเงินในการฝึกฝนในห้องแทนได้สินะ? ‘
ห้องสร้างพลังงานธาตุในปริมาณมหาศาล ดังนั้นจึงเป็นวิธีที่ดีในการฝึกฝน แต่เราจำเป็นต้องจ่าย ค่าธาตุคริสตัลเป็นราคาที่จะใช้มันได้
เอธานยืนขึ้นและคว้าคริสตัลทั้งสองจากกระเป๋าของเขา ก่อนที่จะเคาะประตูที่เทียน่าพักอยู่
ภายในห้อง ตอนนี้เทียน่ากำลังตกใจและหลุดจากความคิดของเธอ ขณะที่เธอถามอย่างเป็นห่วงว่า “มันคืออะไรเหรอ”
“เพียงแค่มาแจ้งให้ทราบว่า ฉันจะออกไปฝึกฝนในห้องฝึกหัดน่ะ” หลังจากพูดสิ่งนี้ เอธาน ก็ออกไปข้างนอกและเดินไปตามทิศทางของโซนฝึกอบรมของนักเวทย์แห่งธาตุ
ในขณะเดียวกันเทียน่าก็สะดุ้งและคิดอย่างสับสนว่า ‘ห้องฝึกซ้อมเหรอ? แต่เขาไม่ใช่นักรบธาตุหรอกเหรอ? หัวหน้าแม่บ้านรูซี่บอกว่าเขาเป็นนักรบธาตุ ซึ่งเป็นญาติกับผู้อาวุโสลาฟิว ‘
…
…
ในขณะเดียวกัน เอธานก็เร่งความเร็วและมาถึงสถานที่ฝึก
ก่อนอื่นเขาไปที่ห้องจ่ายเงินสมัครก่อนเพราะห้องเหล่านี้ถูกล็อคและสามารถปลดล็อคได้ หลังจากจ่ายราคาที่ห้องจ่ายเงินแล้วเท่านั้น
เอธานจึงไปที่ห้องนั้นและพูดกับคนที่รับผิดชอบว่า “ฉันจะฝึกฝน และใช้คริสตัล ระดับสูงในการแลก ใช้ห้องนั้นได้นานแค่ไหน?”
ผู้รับผิดชอบคือชายในวัย 40 ของเขา เขายิ้มให้เอธานและตอบว่า “คุณสามารถอยู่ในห้องได้ 1 ชั่วโมงโดยใช้หินระดับสูง 1 ก้อน”
เอธานพยักหน้าขณะที่เขามอบคริสตัลธาตุไฟระดับสูงให้กับคน ๆ นั้น“ ฉันอยากอยู่ห้องฝึกไฟ เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง”
ชายคนนั้นหยิบคริสตัลขึ้นมาแล้วกดปุ่มบนโต๊ะของเขาภายในบูธของตนก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ฉันเปิด ห้องฝึกไฟหมายเลข 24 พลังงานจะหยุดจ่ายโดยอัตโนมัติ หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง”
เอธานก็มาถึง ห้องฝึกไฟหมายเลข 24 และเข้าไปข้างใน
ไม่มีที่จับบนผนัง แต่มีฟูกเล็ก ๆ อยู่ตรงกลาง เอธานเดินไปที่นั่นและนั่งลง
ในขณะที่เขานั่งลงพลังงานธาตุไฟในรูปแบบก๊าซก็ปรากฏขึ้น
เอธานก็เข้าสู่สภาวะเข้าฌานและเริ่มดูดซับพลังงานธาตุไฟโดยอัตโนมัติ
…
…
ทันใดนั้นเอธานก็ลืมตาขึ้นเมื่อเขารู้สึกว่าไม่มีพลังงานธาตุไฟอยู่รอบตัวเขา
“ ฉันไม่ได้สังเกตเวลาด้วยซ้ำ ฉันเพิ่งดูดซับพลังงานโดยสัญชาตญาณหลังจากเข้าสู่สภาวะเข้าฌาน”
ทันใดนั้นเอธานก็จำบางอย่างได้ …
“บ้าเอ้ย ฉันลืมที่จะปรับแต่งพลังงานธาตุตอนที่ฉันดูดซับพวกมัน ตอนนี้ฉันต้องปรับแต่งทะเลพลังงานไฟของฉัน และรอที่ทะเลพลังงานไฟของฉันอยู่ดี จากสิ่งที่ฉันอ่านในเล่มแรก หลังจากที่ทะเลพลังงานก่อตัวขึ้น ฉันควรจะเชื่อมต่อกับมันโดยอัตโนมัติและเปิดช่องจากมันสู่โลกภายนอกได้อย่างง่ายดาย เช่นการขยับแขนขาของฉัน
เอธาน ครุ่นคิดสัก 2-3 วินาที ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าสู่สภาวะเข้าฌานและทันทีที่เขาเข้าสู่สภาวะเข้าฌาน เขาจะรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่ามีบางสิ่งบางอย่างก่อตัวขึ้น ใต้อาณาจักรพลังจิตของเขาและดูเหมือนว่าสิ่งนั้นจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขามาก
จากนั้นเอธานก็จดจ่อและขยับสติไปที่นั่นเท่านั้นที่จะประหลาดใจ
ใต้อาณาจักรแห่งพลังจิตของเขา ดูเหมือนว่าอีกภูมิภาคหนึ่งเปิดออกเช่นเดียวกับอาณาจักรแห่งพลังจิต และภายในบริเวณนั้นมีก้อนก๊าซสีส้มรวมตัวกันอยู่ที่นั่น
เมื่อมองไปที่มวลก๊าซแล้ว เอธานก็คิดว่า ‘นี่คือทะเลพลังงานไฟของฉันเหรอ? มันเล็กมากจริงๆ ‘
ในตอนนั้นเขารู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวบางอย่างในอาณาจักรพลังจิตของเขา แต่ก่อนที่เขาจะไปตรวจสอบที่นั่น เขาก็ประหลาดใจที่เห็นบางสิ่งปรากฏขึ้นในพื้นที่นี้ ซึ่งมีทะเลพลังงานเพลิงของเขาอาศัยอยู่
มันคือคริสตัลสีแดง
คริสตัลสีแดงปรากฏขึ้นเหนือทะเลพลังงานไฟของเขาและเริ่มหมุน
จากนั้น เอธานก็ตกใจอีกครั้ง หลังจากที่คริสตัลเริ่มหมุน มันดึงดูดพลังงานก๊าซเข้าหามันและในเวลาเพียง 3 วินาที คริสตัลก็ดูดซับทะเลพลังงานไฟของเขาจนหมด
‘ เกิดอะไรขึ้น? ‘เอธานคิดด้วยความประหลาดใจ
แม้ว่าคริสตัลจะดูดซับทะเลพลังงานไฟของเขาแล้ว แต่มันก็ยังไม่หยุดหมุน หลังจากนั้น 1 นาทีคริสตัลก็ปล่อยบางสิ่งออกมา
เอธานรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นสิ่งนี้
‘นี่ … อย่าบอกนะว่านี่คือสิ่งที่ฉันคิด? ‘
เอธานเคยอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือที่ลาฟิวให้มาว่า ‘เมื่อเจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุและได้รับ พลังงานลึกลับ พวกเขาสามารถปรับแต่งพลังงานธาตุของพวกเขาและเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของเหลวได้ และสิ่งนี้ที่เกิดจากคริสตัลก็เหมือนกับพลังงานของเหลวที่กล่าวถึงในหนังสือ . ‘
‘นี่หมายความว่าฉันกลายเป็น เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ แล้วเหรอ? ‘ การคิดถึงความเป็นไปได้นี้เกือบจะทำให้เขากลัว
คริสตัลสีแดงยังคงหมุนต่อไป ในขณะที่มันผลิตพลังงานธาตุไฟ 5 หยด หลังจากนั้นมันก็ไม่เกิดหยดใดอีก ๆ แต่มันก็ไม่หยุดหมุน
เอธานสังเกตคริสตัลสีแดงอีก 5 นาทีและในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า ‘ดูเหมือนว่าคริสตัลนี้จะหมุนไปเรื่อย ๆ นับจากนี้เป็นต้นไป ‘
เขายังคงรู้สึกมึนงงอยู่เล็กน้อย พลางเดินไปรอบ ๆ ห้องและทันทีที่เขาเดินออกไป เขาก็ได้รับความประหลาดใจที่น่ายินดี
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมคริสตัลถึงหมุน …
มันดึงดูดพลังงานไฟ แต่เนื่องจากห้องหยุดผลิตพลังงานไฟแล้วจึงไม่สามารถรวบรวมพวกมันได้อีก
เมื่อเขาออกมาจากห้องนั้น พลังงานไฟจากชั้นบรรยากาศจะถูกดึงดูดโดยคริสตัลโดยอัตโนมัติ และมันก็ดูดซับพวกมัน
แต่ เอธาน ไม่รอ ที่จะสังเกตกระบวนการนั้น ในขณะที่เขาเดินไปที่บูธและจ่ายหินสายฟ้าคุณภาพสูง เพื่อฝึกฝนในห้องฝึกสายฟ้า
‘ฉันมีคริสตัลสีน้ำเงินเข้มนั่นด้วยและหน้าที่ของมันก็น่าจะคล้ายกับคริสตัลสีแดง งั้นเรามาดูดซับพลังงานสายฟ้าก่อน ‘เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เอธาน ก็มาถึงห้องฝึกสายฟ้าและเข้าไปข้างในก่อนจะนั่งตรงกลาง
จากนั้นเขาก็เข้าสู่สภาวะเข้าฌานและเริ่มดูดซับพลังงานสายฟ้าก๊าซที่กำลังถูกผลิตขึ้น
…
…
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เมื่อการไหลของพลังงานสายฟ้าหยุดลงเอธานก็เข้าสู่ อาณาจักรพลังงาน
[ อธิบายเพิ่มเติม: อาณาจักรพลังงาน ซึ่งมีพลังงานขององค์ประกอบต่างๆอาศัยอยู่]
หลังจากที่ เอธาน เข้าสู่อาณาจักรพลังงาน และรู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับมวลก๊าซของพลังงานสายฟ้า เขาก็รู้สึกเหมือนกันว่ามีการเคลื่อนไหวในอาณาจักรกายสิทธิ์ของเขาและแท้จริงแล้วคริสตัลสายฟ้าก็ลอยอยู่เหนือพลังงานสายฟ้าที่เป็นก๊าซและเริ่มหมุนไปเรื่อยๆอีกครั้ง
หลังจากนั้น ไม่กี่วินาที พลังงานสายฟ้าที่เป็นก๊าซทั้งหมด จะถูกดูดซับโดยคริสตัลสายฟ้า ขณะที่มันเริ่มผลิตพลังงานสายฟ้าออกมา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เอธานก็ยิ้มอย่างมีความสุขและคิดว่า ‘ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันกลายเป็น เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ แล้วโดยไม่มีแม้แต่พลังงานเหลว และ พลังงานลึกลับเลย ถ้ามีคนมาเห็นขากรรไกรของพวกเขาคงจะหล่นจากปากของเขา … พวกเขาจะพยายามจับฉันเพื่อหาความลับนั่นแน่นอน ‘
เอธานแสดงออกอย่างจริงจัง ในขณะที่เขาคิดว่า ‘แม้ว่าฉันจะมีพลังงานประเภทเดียวกับ เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ แต่ฉันก็ยังไม่ตรงกับคุณสมบัติของพวกเขาเพราะพวกเขามี พลังงานเหลวลึกลับ ที่อยู่เหนือพลังงานธาตุสำรองที่มีจำนวนมหาศาล ในขณะที่ฉันมีเพียงไม่กี่หยดเท่านั้น ทั้งของพลังงานไฟและพลังงานสายฟ้า ‘
เอธานตัดสินใจหลังจากคิดว่า ‘ฉันจะต้องคว้าโอกาสนี้ที่ ลาฟิว มอบให้และเข้าสู่เขตอันตรายและเพิ่มพลังงานสำรองของไฟและสายฟ้าให้ถึงขีดจำกัดในอีก 43 วันข้างหน้า ฉันไม่จำเป็นต้องฝึกฝนตัวเองด้วยซ้ำ ในขณะที่คริสตัลดูดซับพลังงานไฟและสายฟ้าในชั้นบรรยากาศอย่างช้าๆและในขณะที่ …’ฉันจะป้อนน้ำวนสีดำพลังจิตของฉันทุกวัน และดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ‘
…
…
หลังจากนั้นเอธานก็กลับบ้านและตะโกนตามเข้าไปว่า “ฉันกลับมาแล้ว” พูดแบบนี้แล้ว เขาก็เดินเข้าไปในห้องของเขาและป้อนพลังจิตทั้งหมดของเขาไปที่วังวนสีดำก่อนที่จะนอนหลับ
ในขณะเดียวกัน…
เทียน่ายังไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ เธอมักจะเฝ้ามองประตูห้องอยู่เสมอเพราะเธออาศัยอยู่ในบ้านของผู้ชายและผู้ชายคนนั้นก็ไม่คุ้นเคยกับเธอเลยด้วยซ้ำ
เธอตัดสินใจคุยกับ เอธานเกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้ที่เธอคิด
เธอออกมาจากห้องของเธอและมาถึงประตูห้องของเอธาน “หืม? ประตูของเขาเปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง !! เขากำลังทำอะไรอยู่?”
จากนั้นเธอก็ค่อยๆผลักเปิดประตูและเห็นว่าเอธานหลับอยู่บนเตียงของเขาไปแล้ว
‘ทำไมเขาถึงนอนตอนเช้าล้ะ? เมื่อคืนเขาไม่ได้นอนเหรอ? ‘
ตอนที่ 20: ผู้อยู่อาศัยมาใหม่
1 เดือนต่อมา …
เอธานได้ล้างสิ่งเจือปนไปแล้ว 90% และเพื่อล้าง 10% ที่เหลือเขาต้องการเพียง 3-4 วัน เช่นเดียวกับพลังจิตที่เพิ่มขึ้นรวมถึงความเร็วในการล้างสิ่งเจือปนสีเทาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่เวลาในการฟื้นตัวของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น 5 ชั่วโมงเช่นกัน…
เอธานเพิ่งตื่นขึ้นมา หลังจากการล้างมลทินสีเทาอีกครั้งและคิดว่า ‘ผู้ชายและผู้หญิงคนนั้น “เทียน่า” เธอไม่เคยมาขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้น แต่ไม่เป็นไรฉันจะล้างสิ่งสกปรกสีเทาให้หมดก่อน ‘
…
…
หลังจากนั้น 3 วัน …
เอธานกำลังลบสิ่งเจือปนสีเทาในส่วนสุดท้าย
ภายในอาณาจักรกายสิทธิ์ของเขายางลบขนาดใหญ่ก็กำลังล้างสิ่งเจือปนสีเทาสุดท้ายที่มุมหนึ่งในอาณาจักรพลังจิตของเขา
* ตอนนี้หน้าเอธานซีดเผือด *
* ตอนนี้หน้าเอธานซีดเผือด *
* ตอนนี้หน้าเอธานซีดเผือด *
…
‘ว้าวในที่สุดก็เสร็จแล้ว ‘
แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีมันก็มีบางอย่างเกิดขึ้น พลังจิตของเขาเริ่มฟื้นตัวด้วยความเร็วที่รวดเร็วเป็นพิเศษและผ่านขีดจำกัด ของเขาไปแล้ว เนื่องจากพลังจิตโดยรวมของเขาเพิ่มขึ้น 20%
อย่าคิดว่า 20% นี้เป็นจำนวนที่ต่ำ เพราะพลังงานจิตสำรองของเอธานตอนนี้ นั้นมหาศาลมากและ 20% นั้นไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยอย่างแน่นอน
เอธานรู้สึกสดชื่นมาก หลังจากเกิดปรากฏการณ์ลึกลับ ในขณะที่เขาคิดว่า ‘ฉันคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ ต้องเป็นเพราะฉันล้างสิ่งสกปรกสีเทาทั้งหมดออกแน่ๆดังนั้นฉันถึงได้รับรางวัลจากตัวเอง ฮ่า ๆ ๆ ‘
อันที่จริง หลังจากที่ทุกคนล้างสิ่งสกปรกสีเทาทั้งหมดภายในอาณาจักรพลังจิตของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็จะฟื้นพลังจิตทันทีและหลังจากนั้นพวกเขาจะได้รับพลังงานเพิ่มขึ้น 20% เหมือนกับว่าคุณใช้ชีวิตที่ถูกล่ามโซ่ไว้รอบมือและขาของคุณ หลังจากนั้น 1 ปี เมื่อโซ่ ถูกลบออก คุณจะพบว่าความแข็งแกร่งของคุณเพิ่มขึ้นมากจากการฟื้นฟูความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ของคุณ
ทันใดนั้นเอธานก็คิดต่อว่า ‘ทีนี้มาดูกันว่า วังวนนั้นยังคงดูดพลังจิตทั้งหมดของฉันอยู่หรือไม่ ‘
จากนั้นเอธานก็ค่อย ๆ มาถึงใกล้วังวนสีดำที่นำพลังจิตจำนวนเล็กน้อยมากับเขาด้วยจิตสำนึกของเขา
เมื่อเขาเข้าไปในพื้นที่ของวังวนสีดำ พลังจิตเพียงเล็กน้อยก็ถูกดูดเข้าไปในวังวนทันที พร้อมกับพลังจิตทั้งหมดของเขา เขาพยายามควบคุมพลังจิตของเขา แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ หลังจากผ่านไป 3 วินาที พลังจิตทั้งหมดของเขาก็ถูกระบายออกไป
เอธานออกมาจากอาณาจักรพลังจิตของเขา ในขณะที่ใบหน้าของเขากระตุกจากการพูดไม่ออกจากวังวนสีดำ
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หลับตาลงหลังจากพูดอะไรสักคำออกมา
“F ** K … “
…
…
หลังจากที่ผ่านไปไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว และเอธานก็ลืมตาขึ้นและมองไปที่นาฬิกาก่อนจะคิดว่า ‘ให้ตายเถอะ ฉันใช้เวลานานมากกว่า 6 ชั่วโมงในการฟื้นฟูพลังจิตทั้งหมดของฉัน ฉันต้องทำให้เวลาสั้นลงให้ได้ … ‘
*ก๊อก ก๊อก*
เสียงพูดคุยในใจของเอธานถูกตัดให้สั้นลง ด้วยเสียงเคาะ ขณะที่เขายืนขึ้นเพื่อเดินไปเปิดประตู
*ก๊อก ก๊อก*
“ใครจะมาหาฉันในตอนเช้าตรู่แบบนี้ มันยังไม่ถึงตี 5 ด้วยซ้ำ”
เอธานมาถึงที่ประตู ก่อนจะเปิดออก และเมื่อเห็นคนที่อยู่ข้างนอกเอธานก็แปลกใจ “โอ้ย … ” บทสนทนาของเขาถูกตัดสั้น เมื่อคนที่เข้ามาข้างในรีบปิดประตู
“ เทียน่า, อะ … ” เอธานตัดบทอีกครั้ง
“ คุณไม่ได้บอกฉันด้วยซ้ำว่าบ้านหลังไหนเป็นบ้านของคุณในสวนสันติภาพเมื่อ 10 วันก่อน ฉันถามหัวหน้าแม่บ้านรูซี่และเมื่อฉันอธิบายลักษณะของคุณ และสถานการณ์ของเธอให้ท่านฟัง เธอก็บอกที่อยู่ของคุณให้ฉันฟังด้วยความยินดี ตอนที่ฉันถามเกี่ยวกับที่อยู่ของคุณก่อนหน้านี้ … ฟิ้ว ” หลังจากที่เทียน่าพูดจบเธอก็ถอนหายใจโล่งอก แต่แล้วเธอก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย
เอธานมองไปที่เธออย่างสับสนแล้วถามว่า “เธอไม่ได้บ่นเรื่องเขาให้เจ้าหน้าที่ฟังเหรอ?”
เทียน่าสงบสติอารมณ์ลง ก่อนที่เธอจะพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ฉันบ่นและการลงโทษเขาก็เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และเขาก็ถูกบังคับเป็นเวลา 1 เดือน หลังจากนั้น 1 เดือนเขาจะมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้อีกครั้ง ที่เขาโดนแค่นั้น เพราะวิธีปู่ของเขาเป็น ผู้อาวุโสหลัก ถ้าเขาทำอะไรกับฉัน เขาก็จะได้รับการลงโทษที่เหมาะสมเหมือนเดิม แต่หลังจากนั้นความยุติธรรมคืออะไร?? เขาจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงกว่านี้แน่นอน แต่เขาจะได้รับอิสรภาพในไม่ช้าก็เร็ว… “
จากนั้นเทียน่าก็หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดต่อ “นั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ เนื่องจากคุณบอกฉันว่าคุณจะช่วยฉัน คุณ … ” เทียน่าลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดว่า ” คุณจะช่วยฉันเหมือนที่คุณพูดได้ใช่ไหม”
เอธานลังเลเล็กน้อย ขณะคิดว่า ‘ฉันพูดแบบนั้น … แต่. ฉันควรระวังตัวมากขึ้นตั้งแต่นี้ไป เพียงเพราะฉันแข็งแกร่งและแข็งแกร่งขึ้นเร็วมากไม่ได้หมายความว่าฉันจะสามารถประมาทได้ ‘
เทียน่าเห็นความลังเลของเอธานและรู้สึกเศร้า ‘ดูเหมือนว่าฉันไม่ควรมารบกวนเขา ใครจะอยากมีปัญหาในชีวิตกัน? แต่บุคคลนี้เป็นคนเดียวที่สามารถช่วยฉันได้ เนื่องจากเขาอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ ซึ่งมีเพียงญาติสนิทของผู้อาวุโสหลักเท่านั้นที่ควรจะอาศัยอยู่ได้ ‘
เธอคิดมากและตอนแรกไม่อยากรบกวนคนที่ช่วยเธอนัก แต่เธอได้รับแจ้งว่าเฮลินกำลังตามหาเธอและเธอก็รู้สึกกลัวมาก เธอจึงมาที่นี่ด้วยความหวังเท่านั้น เธอรู้จักคนบางคนที่นี่ แต่ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้และเธอจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน แต่เอธาน นั้นแตกต่างออกไป เนื่องจากเขาอาศัยอยู่ในสวนสันติภาพแห่งนี้ ซึ่งมีเพียงผู้อาวุโสหลักและญาติๆของพวกเขาเท่านั้น
เอธานเห็นใบหน้าที่ผิดหวังของเธอและในที่สุดเขาก็พูดกับเทียน่าว่า “ฉันบอกว่าฉันจะช่วยคุณ ดังนั้นฉันจะช่วยเธอแน่นอน แต่เราต้องการการวางแผน เพราะฉันไม่สามารถเอาชนะเขาได้ตลอด สิ่งที่เธอต้องทำ คือการซ่อนตัวจากเขา ฉันเป็นคนมีเหตุผล และตอนนี้เธอสามารถมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ บ้านหลังนี้มี 3 ห้องอยู่แล้วเธอคิดยังไง? “
เทียน่าครุ่นคิดสักครู่ ก่อนที่คิ้วของเธอจะย่นพร้อมกับขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงกังวล “ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ หัวหน้าแม่บ้านรูซี่เตือนฉันด้วย ว่ายันต์กายสิทธิ์ของเธอ ท่านเฮลินกำลังมาที่บ้านของฉัน ดังนั้นฉันจึงไม่ได้มีอะไรติดดตัวมาด้วย แต่ฉันยังกลับไปไม่ได้ เพราะไอ้เฮลินคนนั้น ต้องตามหาฉันอยู่ตอนนี้ ที่นั่นแน่นอน”
เอธานพยักหน้าก่อนมองตาแล้วพูดกับเธอ ขณะลูบหน้าตัวเองว่า “อย่ากังวลไปเลย ตอนนี้ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ก่อน วันนี้เมื่อถึงเวลากลางคืน ฉันจะพาเธอไปที่บ้านเพื่อไปเก็บของเช่นเสื้อผ้า และสิ่งอื่น ๆมา จากนั้นเธอสามารถอยู่ที่นี่ได้นานเท่าที่เธอต้องการ “
เทียน่าหน้าแดง แต่แล้วเธอก็พูดด้วยท่าทางแข็งกร้าว “คุณ … เพียงเพราะฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้หมายความว่า จะมีอะไรระหว่างเราสองคนได้นะคะ อย่ายุ่งกับความเป็นส่วนตัวของฉัน และฉันอยู่ที่นี่เพราะคุณบอกว่าคุณจะ ช่วยฉัน…. “
เอธานส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และยกมือทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกับพูดว่า “แต่ละห้องมีห้องน้ำแยกกัน ดังนั้นเธอไม่ต้องกังวลไป”
“อ๋อ … ” เทียน่าเพิ่งพูดและถามต่อ “แล้วห้องของฉันคือห้องไหนคะ”
เอธานชี้ไปที่ห้องทั้งสองและพูดว่า “เธอสามารถเลือกห้องใดห้องหนึ่ง ระหว่าง 2 ห้องนั้นได้เลย”
เทียน่าตรวจทั้ง 2 ห้องทีละห้อง ก่อนจะเลือกห้องที่เธอตรวจก่อน หลังจากนั้นเธอก็เข้าไปข้างใน และเธอก็ล็อกประตูและคิดในใจว่า ‘ผู้ชายคนนั้นจะไม่ข่มขู่ฉันใช่มั้ย? เขาดูเข้มแข็งพอที่จะทำเช่นนั้นได้ … ไม่ ไม่ ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนั้น ดูเหมือนเขาไม่ได้เป็นคนไม่ดีและฉันสามารถเห็นความจริงใจจากเขาได้ เมื่อเขามองเข้ามาในตาของฉัน แต่เขาก็ยังคงดูมีความดุร้ายอยู่บ้าง … ‘
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงสิ่งสำคัญได้ ขณะที่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นกังวลแทนว่า ‘ฉัน … ที่จริงฉันยังไม่รู้จักชื่อของเขาและฉันก็ไม่เคยถาม … เขาจะไม่คิดว่า ฉันจะมาแค่หลอกใช้เขาเพราะ คำพูดของเขาใช่ไหมนะ ไม่ๆ หลังจากที่ฉันเข้มแข็งขึ้น ฉันควรจะตอบแทนเขาอย่างแน่นอน ฉันจะชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนในภายหลัง ‘
จากนั้นเธอก็นอนลงบนเตียงและคิดว่า ‘แต่ฉันอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง เมื่อใดก็ตามที่ฉันคิดถึงเขา ฉันสงสัยว่านี่คืออะไร มันไม่ใช่ความรัก เขาเพิ่งเจอฉัน 2 ครั้งรวมกัน …อืม’
เธอคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะสรุปว่า ‘มันต้องเป็นสิ่งที่ดึงดูดฉันแน่นอน แค่ดึงดูดเท่านั้น หลังจากที่เขาทำกับฉันและเขาดูจริงใจ ใช่ นั่นมันแรงดึงดูด แล้วมันจะหายไปหลังจากฉันอยู่กับเขา 2-3 วัน ‘
…
…
ในขณะเดียวกัน….
ขณะนี้เอธาน อยู่ในอาณาจักรพลังจิตของเขา ในขณะที่เขากำลังตัดสินใจว่า เขาควรจะเข้าไปในวังวนสีดำด้วยพลังจิตนี้หรือไม่
ภายในอาณาจักรพลังจิต …
ขณะนี้เอธานกำลังมองไปที่วังวนสีดำ ขณะที่เขาคิดว่า ‘เมื่อฉันมองไปที่วังวนสีดำ มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมองดูตัวเอง ดังนั้นมันจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของฉัน โดยพื้นฐานแล้ววังวนสีดำควรจะ ไม่เป็นอันตรายต่อฉัน ‘
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอธานก็ตัดสินใจเข้าใกล้วังวนสีดำในที่สุด
สติของเขาค่อยๆมาถึงขอบเขตของวังวนสีดำ …
เมื่อเข้าสู่เขตแดนของพลังจิต เขาคิดว่าจะได้รับแรงดูดของวังวนสีดำ แต่เขาก็ไม่รู้สึกอะไรและเข้าสู่วังวนสีดำได้สำเร็จ
มันหมุนอยู่ตลอดเวลานั่นคือสาเหตุที่เอธานตั้งชื่อมันว่า วังวนสีดำ ความเร็วในการปั่นและแรงดูดและพลังการย่อยจะเพิ่มขึ้นเมื่อ เอธาน ให้พลังจิตแก่มัน ซึ่งไม่เหมือนกับตอนที่มันดูดพลังจิตทั้งหมดของเอธานเข้าไป
จากนั้นเขาก็เข้าลึกเข้าไปในวังวนสีดำ สิ่งสีดำที่หมุนอยู่ตลอดเวลานั้นไม่มีตัวตน เขาไม่สามารถรู้สึกได้ด้วยสติของเขาเอง
เขาเดินเข้าไปลึกขึ้นและจู่ ๆ ก็ตีตัวเอง ซึ่งหมายความว่าสติของเขาถูกปิดกั้นว่า ‘นี่ … ฉันก้าวไปข้างหน้า โดยไม่ได้ดูเหมือนว่า ฉันชนกำแพง ตอนนี้ฉันเข้าไปไม่ได้เหมือนฉันโดนประตูอะไรซักอย่าง มันน่าจะมีอะไรบางอย่างผ่านมาทางประตูนี้. ‘
จากนั้นเอธานก็พยายามผลักมันไปข้างหน้าอย่างแรง แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ มันไม่ขยับเลยไม่ว่ากำแพงหรือประตูที่เขาชนมันจะไม่ขยับ
‘บางทีฉันควรมาที่นี่ ในขณะที่วังวนสีดำกำลังดูดซับธาตุด้วยวิธีนั้น ฉันถึงจะได้เห็นว่าสิ่งนี้ทำงานอย่างไร ‘
จากนั้นเอธาน ก็เตรียมตัวให้พร้อม เพราะในที่สุดก็ถึงเวลาสร้างทะเลธาตุของเขาแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นของธาตุไฟและอีกหนึ่งสำหรับธาตุสายฟ้า
ตอนที่ 19: ออกไปเดินเล่นกันเถอะ
เอธานคิดอยู่นาน แต่แล้วเขาก็ส่ายหัวและหลับไป
…
…
หลังจากตื่นนอน เอธาน ก็ทำกิจวัตรประจำวันของเขา แม้ว่าเขาจะหยุดออกกำลังกายเพราะการออกกำลังกายแบบธรรมดา ๆ นั้นไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรกับร่างกายที่แข็งแรงและมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาอีกต่อไป
เอธานนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านนอกด้วยสีหน้าว่างเปล่า “ที่นี่ น่าเบื่อจริงๆ ก่อนมาที่นี่ ฉันไปทำงานและฝึกอบรม แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันทำคือการล้างมลทินสีเทาและการนอนหลับ …. “
เอธานลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่เขารู้สึกเหมือนกำลังเดินเล่นผ่านเกาะลอยแห่งนี้ “เกาะลอยแห่งนี้เป็นเมืองสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ แต่มีเพียงสาวกที่มีแนวโน้มและครอบครัวของสาวกหลักและผู้อาวุโสเหล่านั้นเท่านั้นที่อาศัยอยู่ที่นี่ได้ ดูแล้วคนค่อนข้างเยอะ … “
เอธานเพิ่งเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ก่อนที่เขาจะมาถึงโซนฝึกฝนของ ผู้วิเศษแห่งธาตุ มันคล้ายกับโซนฝึกของนักรบธาตุ แต่เนื่องจากมีห้องมากมายอยู่ที่นี่ แต่ละห้องที่นี่ มีห้องในตัวที่ดีกว่าและหรูหรากว่า แน่นอนการฝึกและวิธีการของผู้วิเศษแห่งธาตุนั้นแตกต่างกัน
เมื่อมองไปที่ห้องโถง เอธานก็คิดว่า ‘ควรลองดูทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้สร้างทะเลธาตุของฉันเลยดีไหมนะ? แต่เราจำเป็นต้องจ่ายค่าฝึกด้วยผลึกธาตุ เพื่อใช้มันฉันคิดว่า …’
ในขณะที่เขากำลังคิดว่าควรจะเข้าไปหรือไม่ เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างไม่ไกลจากตัวเขามากนัก มันมาจากห้องที่อยู่ทางด้านซ้ายจากจุดที่เขายืนอยู่
เอธาน เกิดความอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นเขาจึงมาถึงใกล้ๆกับต้นกำเนิดเสียงนั้นและเด็กชายอายุประมาณนึง ที่สวมเสื้อผ้าหรูหรากำลังจับมือของหญิงสาวในวัยเดียวกัน เธอดูสวยงามและพัฒนาขึ้นมาก
ตอนนี้ เอธานสามารถได้ยินสิ่งที่เด็กชายพูดได้อย่างชัดเจน
“ แม่บ้านเทียน่า ถ้าคุณมากับฉันแค่ครั้งเดียวนี้ ฉันจะให้ทรัพยากรมากมาย ฉันรู้ว่าคุณเป็นอัจฉริยะที่มีธาตุน้ำและสายฟ้า แต่ครอบครัวของคุณยากจนและตอนนี้คุณเป็นแค่ นักผจญภัยเกี่ยวกับธาตุ ถ้าคุณมาด้วย ฉันจะให้ทรัพยากรมากมาย เพื่อที่คุณจะได้เพิ่มขนาดของทะเลธาตุได้ ของคุณได้เร็วขึ้นด้วยทรัพยากรของฉัน ”
หญิงสาวชื่อเทียน่ามีใบหน้าที่สวยงามและมีผิวสีขาว ขณะนี้มีสีหน้ารำคาญ ขณะที่เธอโค้งงอริมฝีปากด้วยความรังเกียจก่อนจะพูด “ฉันบอกคุณไปแล้ว ว่าคำตอบของฉันคือไม่ ตอนนี้หยุดดึงฉันและปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวไม่งั้นฉันจะเริ่มตะโกน .”
เมื่อมองไปที่ฉากนั้นเอธาน ก็คิดว่า ‘ฉันควรเข้าไปแทรกแซงหรือไม่? เมื่อพิจารณาจากเสื้อผ้าของเด็กชายคนนั้นดูเหมือนว่าเขาจะมีคนหนุนหลังรออยู่ ฉันจะถามว่าเขามีใครหนุนหลัง ถ้าคนที่หนุนหลังเขาเป็นผู้อาวุโสลาฟิวเหมือนฉัน ฉันจะจัดการกับเด็กชายคนนี้และชื่นชมความงามนั้น ใครจะรู้ว่าเธอจะขอบคุณฉันได้อย่างไรกันนะ ‘
ทันใดนั้นเอธานก็จำลิลี่ได้ว่า ‘ลิลี่ … เมื่อถึงเวลาที่ฉันหาทางกลับสู่โลก ใครจะรู้ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีและมีเพียงฉันที่รักเธอ แต่เธอไม่ได้รักฉันกลับคืนมา นั่นคือสิ่งที่ฉัน รับรู้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันตายเพราะเธอมาที่บ้านเพื่อคืนหนังสือ .. F ** K ลอนรี่ หรือ ไอ้แลนดี้ดีนะ อะไรก็ตามที่เป็นลูกชายของคนเลวๆนั่น และลูกน้องของเขาโดยเฉพาะผู้ใหญ่ 2 คนที่ทรมานฉันและคนที่ 3 เด็กผู้ชายที่เยาะเย้ยฉัน พวกเขาเป็นราชารึไง? ฉันแค่หวังว่าพวกเขาจะไม่ตาย เมื่อถึงเวลาที่ฉันหาทางไปยังพื้นโลกได้ ‘
เอธานหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์และจากนั้น …
* หวีด *
ด้วยฟิสิกส์ที่เหนือกว่าและความเร็วสูงของเขา เขาปรากฏตัวต่อหน้าเด็กชาย ทันใดนั้นทำให้เด็กชายตกใจและทำให้เด็กสาวตกใจ
ก่อนที่เด็กชายจะพูด …
เอธานถามด้วยรอยยิ้ม “ใครเป็นคนหนุนหลังนาย”
ใบหน้าของเด็กชายแสดงความโกรธ ..
“แกเป็นใครมาขวางทางฉัน และแกยังหยิ่งพอที่จะถามผู้สนับสนุนของคนอื่นต่อหน้าพวกเขาด้วยงั้นเหรอ?”
หลังจากพูดจบเด็กชายก็ยกมือขึ้นและขว้างลูกไฟไปที่ใบหน้าของเอธาน
เอธาน ยิ้มหายไปและหน้าผากของเขาย่นเป็นขมวดคิ้ว แต่เขาไม่ขยับและปล่อยให้ลูกไฟกระทบใบหน้าของเขาเพราะ … ลูกไฟขนาดเท่าลูกคริกเก็ตที่น่าสมเพชนั้นจะไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้
‘WTF …. อนุญาตให้ฉันโจมตีได้อย่างอิสระเช่นนี้หรือ? ไม่มีกฎเกณฑ์ใด ๆ หรืออะไรเลยเหรอ … โอ้ ใช่เขาอาจจะไม่กลัว เพราะการสนับสนุนของเขาตอนนี้ฉันอยากรู้อยากเห็นแล้วว่าใคร …’ เด็กชายคนนั้นคิด
เอธานคว้าคอของเด็กชายด้วยความเร็วที่รวดเร็ว ก่อนจะดึงเขาขึ้นมาและถามอีกครั้ง “โย่ … ทำร้ายคนที่หน้าเหมือนค้างคาวแบบนี้ นี่คุณเป็นลูกของหัวหน้าหุบเขาหรืออะไร?”
ดวงตาของเด็กชายสะท้อนความกลัว เพราะลูกไฟของเขาทำอะไรกับเอธานไม่ได้เลย และเขาก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างง่ายดาย แต่ทันใดนั้นสีหน้าหวาดกลัวของเขาก็หายไปแทนที่ด้วยความรังเกียจ
แม้จะถูกเอธานคว้าตัวไป แต่เขาก็พูดด้วยความเหยียดหยาม “หึ … ฉันรู้ว่านายเป็นแค่นักรบธาตุชั้นต่ำที่ต้องการเป็นนักรบระดับสูง แต่ก็ยังเป็นนักรบธาตุอยู่ดี ตอนนี้วางฉันลงหรือไม่งั้น ฉันสาบานเลยว่า แกจะตายก่อนพระอาทิตย์ขึ้นของวันรุ่งขึ้นแน่นอน … “หลังจากนั้นเด็กชายก็เริ่มหัวเราะ แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน
* ค้อกแค้ก *
ขณะที่เอธานจับคอเขา เสียงหัวเราะของเขาก็กลายเป็นการไอ
เด็กคนนั้นพูดอย่างโกรธเกรี้ยวขณะที่ไอ“ แก… ไอ้ … วางฉันลงเดี๋ยวนี้ … ปู่ของฉันเป็นคนของศูนย์ใหญ่และ …. ค้อกแค่ก … แค่วางฉันลงตอนนี้”
เอธานยิ้มเมื่อได้ยินเขาพูดถึงคนที่หนุนหลังเขาและวางเขาลง
หลังจากที่วางลงเด็กหนุ่มก็หัวเราะเยาะ ขณะจัดเสื้อผ้าและพูดว่า “อะไรกัน แกกลัวไหมล้ะ หลังจากได้ยินชื่อของคนที่หนุนหลังฉันน่ะ มันคงไม่มีประโยชน์หรอกนะ เพราะฉันจะจัดการกับแกในไม่ช้า รอได้เลย .. ”
เอธานยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ขณะที่เขาส่ายหัวและพูดว่า “คุณตาบอดหรืออะไร ดูหน้าฉันดีๆไหม ฉันดูเหมือนกลัวคุณหรือเปล่า?”
เด็กชายมองไปที่เอธานและคิดว่า ‘บ้าเอ้ย ทำไมมันไม่กลัวล่ะ? ‘ เด็กชายที่กำลังคิดอยู่นั้น เขากำลังจะเปิดปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร …
*ปั้ก*
เอธานใส่หมัดหนัก ๆ กับเด็กคนนั้น และพูดว่า “คุณทำร้ายฉันก่อน ดังนั้นเตรียมที่จะโดนทุบได้”
หลังจากพูดสิ่งนั้นจบ เอธานก็เตรียมจะทุบตีเด็กชาย แต่เขาหยุดเพราะ …
* พึมพำ *
“คุณล้อเล่นฉันเหรอฉันไม่ได้ใช้กำลังหนึ่งในสี่ของฉันเลยนะ และคุณก็สลบไปแล้วเหรอ?”
จากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่พบหญิงสาวคนนั้น “ว้าว ฉันไม่ได้สังเกตตอนที่เธอแอบออกไปเลยแฮะ … “
“อย่างไรก็ตาม ฉันจะไปลองห้องใดห้องหนึ่งก่อนล่ะนะ”
เขาเริ่มเดินไปที่ห้อง แต่ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่าหญิงสาวคนก่อนหน้านี้ก็ยืนอยู่หน้าห้องนั้นเช่นกัน
…
เด็กหญิงชื่อเทียน่ากำลังเดินไปที่ห้องหนึ่งในโซนฝึก ซึ่งมีสัญลักษณ์สายฟ้าอยู่บนกระดาน
แต่ก่อนที่เธอจะเข้าไปเธอรู้สึกว่ามีลมพัดและได้ยินเสียง “สวัสดี … “
เทียน่ามองไปทางด้านขวาของเธอเท่านั้น และเห็นเอธาน ยืนอยู่ที่นั่นด้วยรอยยิ้ม
เธอตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ก็สงบลงและพูดว่า “คุณ … อืมขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือก่อนหน้านี้”
เมื่อเอธานมองไปที่สาวสวยคนนี้ก็คิดว่า ‘ถ้าฉันเป็นตัวเองก่อนหน้านี้ ใบหน้าของฉันจะกลายเป็นสีแดงไปแล้วและการเต้นของหัวใจของฉันก็เพิ่มขึ้นเมื่อเห็นสาวสวยคนนี้ ‘
เอธาน มองไปที่ใบหน้าของเธอและดวงตาของเขาก็พุ่งไปที่บริเวณหน้าอกของเธอ โดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อมีความคิดเกิดขึ้นในใจของเขาว่า ‘พวกมันเป็นแตงคู่ที่ดีขนาดไหนกันนะ … อ้ะ ไม่ไม่เอธาน นายไม่ใช่คนแบบนั้นนะ’
หลังจากนั้นเขามองเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว 2-3 วินาทีก่อนที่จะพูดว่า “ยินดีต้อนรับ ถ้าคนงี่เง่าคนนั้นรบกวนคุณอีกครั้ง คุณสามารถพบฉันได้ที่บริเวณด้านซ้ายข้างพระราชวังที่ 3 ฉันแน่ใจว่ามันเรียกว่าสวนสันติภาพ ”
เอธานพบว่าใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาจึงถามด้วยความเป็นห่วง“ อืม หน้าคุณแดงเหรอ มีไข้หรือเปล่า” เขายกมือขึ้นแตะที่หน้าผากของหญิงสาว เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิที่ทำให้หญิงสาวตกใจเช่น กระต่าย ขณะที่เธอเพิ่งผลักเปิดประตูและเข้าไปในห้อง
เอธานงง ‘อะไรเนี่ย? ฉันแค่ตรวจดูว่าเธอมีไข้หรือไม่ อย่างไรก็ตามฉัน …. รู้สึกว่าฉันไม่เป็นตัวของตัวเองเลยแฮะ … ฉันไม่ได้รู้สึกเครียดหรืออะไรก็ตามที่ฉันคิดและตอนนี้ฉันมีพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ … อืมม ‘
เขาคิดอยู่พักหนึ่งและตัดสินใจที่จะละทิ้งมันไป ‘ไม่เป็นไรฉันจะไปฝึกเดี๋ยวนี้ ‘
ในขณะเดียวกัน…
ภายในห้องสายฟ้าใบหน้าของเทียน่าเป็นสีแดง เมื่อการเต้นของหัวใจของเธอเพิ่มขึ้น
จากนั้น เทียน่าก็สงบสติอารมณ์และคิดถึงสิ่งที่เอธานพูดกับเธอ “สวนแห่งสันติภาพเหรอ? แต่มีเพียงญาติสนิทของผู้อาวุโสเท่านั้นนี้ที่สามารถอาศัยอยู่ที่นั่นได้! อย่าบอกนะว่าเขามีผู้สนับสนุนของผู้อาวุโสน่ะ?”
…
…
จากนั้นเอธานก็กลับไปบ้านใหม่ ในขณะที่เขาเพิ่งนอนบนเตียงและคิดว่า ‘วันนี้ฉันมีความสุขมาก หลังจากเบื่อหน่ายมาทั้งปี ‘
‘อย่างไรก็ตาม เรามาฝึกการลบสิ่งสกปรกสีเทาต่อไปดีกว่า ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะเริ่มควบคุมองค์ประกอบของธาตุให้ได้ หลังจากนั้น ฉันก็ยังสงสัยว่าไมค์ จะประหลาดใจแค่ไหน หลังจากเห็นฉันมีพลังเพิ่มขึ้นแล้วน่ะ!!…. ‘
ตอนที่ 18: คาถาและศิลปะ
เอธานพลิกหน้าจากนั้นก็หันไปที่หน้าถัดไป เพื่อดูว่ามันไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไป แล้ว แต่เป็นการแนะนำคาถาเท่านั้น
————————————————– —————-
คาถา: – คาถามาในทุกรูปแบบ พวกเขาสร้างมันขึ้นจากพลังธาตุล้วนๆ คาถาที่แตกต่างกัน ต้องการการควบคุมและปริมาณพลังงานที่แตกต่างกัน นอกเหนือจากความสามารถของการจินตนาการแล้ว ทั้งสามสิ่งต้องมีความสมดุลกันด้วย หากคุณต้องการสร้างคาถาแล้วจึงปล่อยมันให้เกิดขึ้น
ข้อควรจำ: คุณต้องใช้พลังงานในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมกับการควบคุมที่เหมาะสม เหนือพลังงานและโครงสร้างที่สมบูรณ์แบบของคาถาด้วยจินตนาการของคุณ คุณต้องมีการควบคุมที่เพียงพอ เพื่อสร้างรูปร่างหรือโครงสร้างตามที่คุณจินตนาการ
[~ คาถาถูกสร้างขึ้นและปล่อยออกมาได้อย่างไร ~]
– พลังงานอยู่ในรูปของก๊าซในทะเลธาตุของเรา และหลังจากที่มันออกมาแล้ว เราสามารถเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบของธาตุตามลำดับของ พลังงานของธาตุไฟได้ หลังจากที่ออกมาจากทะเลธาตุของเรา เราสามารถเปลี่ยนเป็นไฟไปเป็นพลังงานธาตุน้ำ หลังจากนั้น ที่ออกมาจากทะเลธาตุของเรา เราก็สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำพลังงานธาตุของโลก หลังจากที่ออกมาจากทะเลธาตุของเรา เราสามารถเปลี่ยนเป็นแม้กระทั่งโลกยังได้ ฯลฯ … นี่เป็นความสามารถตามธรรมชาติที่เราได้รับหลังจากที่เราปลุกพลังแห่งธาตุ
– ก่อนที่จะสร้างเวทย์มนตร์ ก่อนอื่นคุณต้องควบคุมพลังงานธาตุของคุณเองทั้งหมด และคาถาบางอย่างต้องการพลังงานธาตุในปริมาณต่ำ ในขณะที่บางคาถาต้องการพลังธาตุจำนวนมาก
– สมมติว่าคุณสามารถควบคุมพลังงานธาตุได้เพียง 1KG ในตอนนี้ แต่คุณพยายามสร้างคาถาที่ต้องใช้พลังงานธาตุ 2 KG จากนั้นคุณจะล้มเหลว 100% และแม้แต่สร้างความเสียหายให้กับตัวเอง (KG ในที่นี้มีไว้เพื่อการเปรียบเทียบเท่านั้น)
– ตอนนี้ไปสู่การสร้างเวทย์มนตร์ หลังจากที่คุณควบคุมพลังงานธาตุจำนวนหนึ่งจากทะเลธาตุของคุณแล้วคุณสามารถฉายออกไปด้านนอกเช่นในมือ หรือขาของคุณได้ทุกที่ ที่คุณต้องการ หลังจากที่มันออกมาข้างนอกคุณต้องจินตนาการถึง รูปแบบที่คุณต้องการมอบให้กับพลังงานธาตุของคุณ ตัวอย่างเช่นหากคุณต้องการใช้ ลูกไฟ คุณสามารถบีบอัดพลังงานธาตุในมือของคุณแล้วเปลี่ยนเป็นลูกไฟ ที่ระเบิด เมื่อสัมผัสกับบางสิ่งหรือใครบางคน
– พลังงานแต่ละธาตุมีคุณสมบัติของตัวเอง แต่การใช้งานของพวกมันขึ้นอยู่กับนักเวทย์ธาตุเองด้วย
– ตัวอย่างเช่นไฟนั้นร้อนแรงและทำลายล้างได้มาก แต่มันยังสามารถช่วยเหลือนักเวทย์ธาตุได้อีก ด้วยคาถาไฟที่ให้ความช่วยเหลืออย่างหนึ่งก็คือ ปีกแห่งไฟ
– ทุกองค์ประกอบมีการใช้งานที่ไร้ขอบเขตขึ้นอยู่กับพ่อมดธาตุเองว่าจะใช้อย่างไร
– แต่คุณต้องรู้ว่าคุณจะรักษาสมดุลระหว่างการควบคุมปริมาณและจินตนาการ คุณไม่สามารถสร้างบ้านด้วยดินเหนียว 100 กรัม ในการสร้างบ้านด้วยดิน คุณต้องมีดินเหนียวจำนวนมากพร้อมกับการออกแบบบ้านการสร้างบ้านเป็นสิ่งที่คล้ายกัน คุณต้องการจำนวนเงินที่เหมาะสมพร้อมการควบคุมที่เหมาะสม และโครงสร้างที่สมบูรณ์แบบของการสะกดด้วยจินตนาการของคุณ
ด้านล่างนี้เป็นคาถาบางส่วนที่มีโครงสร้างอธิบาย หากคุณมั่นใจในตัวเองคุณสามารถลองสร้างคาถาด้วยตัวเองได้ แต่จะดีกว่าถ้าค้นหาคาถาเพราะในช่วงไม่กี่พันปีที่ผ่านมา ผู้วิเศษแห่งธาตุ ได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อบันทึกคาถาทุกชนิด จากทุกระดับ
– มีระดับของคาถา แต่ก็ไม่มีความหมายสำหรับโรงไฟฟ้าเพราะแม้แต่ลูกไฟ ระดับต่ำสุด ก็สามารถทำลายล้างได้มากในมือของพวกเขามันเป็นไปได้อย่างไรกัน? มันจะเป็นการดีถ้าเพียงเพิ่มพลังงานในปริมาณที่สูงขึ้น และบีบอัดให้มากขึ้นก่อนที่จะปล่อยคาถาออกมา
* รายการคาถา “ชนิด” ทั้งหมด
[คาถาโจมตี]
– Fireball: – ลูกไฟ [ระเบิดความเสียหาย]
– Waterball: เหมือนกับลูกไฟ แต่แทนที่จะระเบิดเปลวไฟ มันจะระเบิดน้ำออกมาด้วยแรงดันสูง
– Fire Laser: – ต้องการการควบคุมที่ดีมากและการถ่ายทอดพลังธาตุอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบที่บีบอัด [พลังการทะลุทะลวงสูงมาก]
– ปืนใหญ่น้ำ: ต้องการการควบคุมที่ดีและการปล่อยพลังงานน้ำอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบการบีบอัดที่ไม่รุนแรง [ความเสียหายแบบทื่อและความเสียหายอย่างหนัก]
– Wings of Fire: – ต้องการการควบคุมที่สูงมากและการถ่ายทอดพลังงานธาตุอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบโบกมือที่นี่แทนที่จะบีบอัดคุณจะควบคุมพลังงานในรูปแบบโบกเพื่อกระพือปีกเพื่อบิน [สามารถใช้บินได้หากไม่มีใครปลดล็อกพลังจิต หลังจากปลดล็อกพลังจิตแล้ว พวกเขาสามารถใช้บินได้เร็วขึ้นด้วยปีกแห่งไฟ ]. คาถาการทำลายล้างนี้ สามารถทรงพลังได้ในมือของ ผู้ร่าย หากพวกมันทำให้ปีกใหญ่ขึ้นและปล่อยพลังงานไฟในขณะบินอยู่ มันสามารถสร้างความเสียหายให้กับทุกคนที่เดินผ่าน โดยทั่วไปจะใช้กับฝ่ายตรงข้ามที่อ่อนแอกว่า
– Water Shield: – ความต้องการการควบคุมที่เรียบง่าย คุณสามารถสร้างโล่ได้ตามที่คุณต้องการได้ โดยทั่วไปจะใช้ในการต่อสู้ระดับต่ำกับนักเวทย์ธาตุไฟ [ป้องกัน]
– กระจกน้ำ: – ต้องการการควบคุมที่ดีมากด้วยกระจกน้ำจำนวนมาก คุณสามารถสร้างความสับสนให้กับคู่ต่อสู้ในเขาวงกตที่สร้างจากกระจกน้ำ [การช่วยเหลือ, การควบคุม]
-Earth Shield: คล้ายกับ Water Shield [การป้องกัน]
-Earth Spikes: ต้องการการควบคุมที่ดีและพลังงานโลกจำนวนหนึ่ง คุณต้องทำให้ขอบคมและรูปทรงกรวยด้วยการควบคุมของคุณเอง ผู้ที่มีทักษะสูงและมีการควบคุมสูงสามารถใช้ Earth Spikes ได้หลายครั้ง [การเจาะ]
– Earth Prison: – ต้องการการควบคุมที่ดีมากและปริมาณพลังงานจะขึ้นอยู่กับขนาดของเรือนจำ คุณสามารถสร้างโครงสร้างของเรือนจำได้ตามที่คุณต้องการ [การควบคุม]
-Thunder Ball: – เหมือนกับ Fireball [อัมพาตและความเสียหาย]
– Thunder Net: – ต้องการการควบคุมที่ดีมากและปริมาณพลังงานขึ้นอยู่กับขนาดของตาข่าย สำหรับโครงสร้างนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณจินตนาการและวิธีที่คุณทำให้โครงสร้างนั้นสำเร็จโดยใช้การควบคุมของคุณ
…
…
เอธานอ่านคาถาและรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะมาถึงศิลปะของธาตุ
————————————————– –
ศิลปะของธาตุ: ในการใช้ศิลปะของธาตุเราต้องการมากกว่าแค่ พลังงานของธาตุ โดยทั่วไปแล้วพวกมันต้องการพลังงานพลังจิตที่มีพลังงานธาตุ
– ศิลปะเสริมความจำเป็นที่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากพลังจิตของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณฆ่างูก่อน จากนั้นคุณสแกนโครงสร้างร่างกายของงู ด้วยพลังจิตของคุณ หลังจากนั้นคุณจะสร้างโครงสร้างงูนั้นด้วยพลังงานธาตุของคุณได้ง่ายมาก เนื่องจากคุณเพิ่งคัดลอกหลังจากสร้างพญานาคด้วย พลังงานธาตุของคุณคุณจะฉีดพลังงานกายสิทธิ์จำนวนหนึ่งเพื่อให้คุณสามารถควบคุมมันได้ด้วยความคิดของคุณ
– แต่เหตุผลที่พวกมันถูกมองว่าเป็นศิลปะของธาตุก็คือพวกมันดูเหมือนศิลปะ แต่ก็ฟังดูน่าสับสน ดังนั้นนี่คือตัวอย่างที่ใช้ได้จริง: หลังจากที่คุณฆ่างู แทนที่จะใช้พลังงานธาตุเดียวในการสร้างงูตัวนั้นคุณสามารถสร้างร่างพื้นผิวได้ ของโครงสร้างที่มีธาตุดินและภายในด้วยธาตุไฟ แต่ธาตุดินนั้นมีความแข็งแกร่งในธรรมชาติ ดังนั้นคุณต้องมีการควบคุมที่สูงหากคุณมีธาตุสายฟ้าคุณสามารถเพิ่มเขี้ยวสายฟ้าเพื่อที่จะทำให้คู่ต่อสู้ของคุณเป็นอัมพาตหรือระเบิดได้ งูที่มีพลังงานไฟล้อมรอบเป้าหมายของคุณแล้วระเบิดด้วยพลังงานไฟ
– กล่าวโดยย่อขั้นตอนการสร้างโครงสร้างเป็นเรื่องง่ายที่จะบรรลุในศิลปะของธาตุ ด้วยความช่วยเหลือของพลังจิต แต่คุณต้องการการควบคุมพลังงานธาตุที่สูงมากและมีองค์ประกอบมากกว่าหนึ่งองค์ประกอบเพื่อให้ศิลปะของธาตุ ของคุณมีพลังมากขึ้นด้วย
– มีเกรดของ ศิลปะของธาตุ และจะพิจารณาจากความซับซ้อนของโครงสร้างและจำนวนองค์ประกอบที่สามารถใช้ในศิลปะได้
– ศิลปะธาตุระดับต่ำ: นกกระจอกไฟไส้เดือนปลาน้ำ ฯลฯ ใช้สำหรับสอดแนมและทดสอบกับดักหรืออะไรทำนองนั้น
-เกรดของแต่ละศิลปะของธาตุ: นางพญาน้ำ, โคดิน, สิงโตไฟ และอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบธาตุอื่นๆ ระดับกลางคือธาตุที่มีพลังโจมตี แต่มีเพียงองค์ประกอบเดียวในนั้น (แน่นอนว่าพลังจิตเป็นสิ่งจำเป็นในทุกธาตุ)
– ศิลปะของธาตุ ระดับสูง: ไม่มีการกล่าวถึงเฉพาะเนื่องจากธาตุระดับกลางทุกชิ้นสามารถเปลี่ยนเป็นศิลปะของธาตุ ระดับสูงได้ หากผู้ใช้มีมากกว่าหนึ่งองค์ประกอบและใช้อย่างชาญฉลาดเพื่อเพิ่มพลังโจมตีหรือประโยชน์ในด้านอื่น ๆ
-ถ้าใครคนใดคนหนึ่งสามารถฆ่าสัตว์เลเวล 6 หรือเลเวล 7 ได้ ซึ่งมีโครงสร้างที่แข็งแกร่งและใหญ่ จากนั้นพวกเขายังสามารถสแกนพวกมันและสร้างศิลปะของธษตุ ออกมาจากพวกมันได้เช่นกัน แต่โครงสร้างที่ใหญ่กว่านั้นต้องการพลังธาตุและพลังจิตที่มีความสามารถในการควบคุมที่สูงขึ้น
…
…
หลังจากอ่านทุกอย่างแล้วเอธานก็วางหนังสือลงและพึมพำว่า “F ** k นี่ก่อนอื่นฉันจะล้างสิ่งสกปรกที่เป็นสีเทาแล้วค่อยมาเจาะลึกถึงสิ่งนี้ดีกว่า ….. ”
จากนั้นเอธานก็เข้าสู่อาณาจักรพลังจิตของเขาและเริ่มลบสิ่งสกปรกสีเทาด้วย ….. ยางลบของเขาอีกครั้ง
…
…
หลังจากผ่านไป 3 เดือนเอธานได้ล้างสิ่งเจือปนสีเทา 70% ซึ่งทำให้พลังงานจิตสำรองของเขา เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่ความเร็วในการฟื้นฟูของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 4 ชั่วโมง ดังนั้นหลังจากที่เขาใช้พลังงานจิตทั้งหมดของเขาหมดแล้ว จำเป็นต้องพักผ่อนเป็นเวลา 4 ชั่วโมงเพื่อฟื้นตัวทั้งหมดของเขาเอง
ตอนนี้เขายังบินได้เป็นเวลานานด้วยกองหนุนนี้
เอธานนอนบนเตียงและเข้าสู่ อาณาจักรพลังจิตเพราะเขาต้องการตรวจสอบว่าเขาสามารถต้านทานการดึงของ วังวนสีดำด้วยพลังจิต จำนวนมหาศาลของเขาได้หรือไม่ หรือวังวนสีดำจะดูดทุกอย่างเหมือนที่เคยทำมาก่อน
เอธานมองไปที่การหมุนวนสีดำอย่างมีสติพลางคิดว่า ‘ไปทำกันต่อเถอะ .. ‘
จากนั้นเขาก็ควบคุมพลังจิตของเขาและเข้าไปใกล้วังวนสีดำเช่นเดียวกับที่เขามาถึงในระยะดูดของมัน
* ซู้ววว *
‘F ** K … ‘
เอธาน ออกมาจากอาณาจักรพลังจิตของเขาเพราะวังวนสีดำนั้นยังคงกินพลังงานจิตของเขาไปจำนวนมหาศาลในไม่กี่วินาที
“ดูเหมือนว่าวังวนสีดำนั้นจะเหมือนกับหลุมดำจริงๆสินะ” เมื่อมองไปที่เพดาน เอธานก็มีความรู้สึกอยากรู้ “ที่จริงฉันอยากเห็นสิ่งที่อยู่ในวังวนสีดำนั้นจริงๆ เนื่องจากมันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของฉันไปแล้ว ไม่เป็นปัญหาใช่ไหม?…”
ตอนที่ 17: เส้นทางที่ยาวนานและยากลำบาก แต่ฉันนั้นแตกต่าง!
เมื่อเอธานเดินออกมาจากสระว่ายน้ำ ประตูห้องโถงก็เปิดออกและมีคนเข้ามา
เมื่อมองไปที่คนนั้นชายชราคนที่อยู่กับเราก็โค้งคำนับและกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับผู้อาวุโส ลาฟิว”
ลาฟิวส่ายหัวและพูดอย่างทำอะไรไม่ถูก “หยุดเถอะตาแก่ฉันบอกคุณหลายครั้งแล้วว่าคุณไม่ต้องก้มหัวให้ฉัน”
ชายชราเพียงแค่นิ่งเงียบ ขณะที่ลาฟิวได้แต่ส่ายหัวเพราะเขารู้ว่าชายชราจะไม่เปลี่ยนไป เพราะเขาเป็นผู้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดเสมอ
จากนั้นลาฟิวก็มองไปที่เอธาน ขณะที่ริมฝีปากของเขากระตุกเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า “เด็กน้อย เธอทำให้ฉันประหลาดใจอีกครั้งแล้วนะ ก่อนอื่นเธอเปิดอาณาจักรพลังจิตของเธอได้ภายใน 1ปีและตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้นอีกครั้ง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายชราก็ตกใจ ในขณะที่เอธานเพียงแค่ยิ้มด้วยใบหน้าและกล่าวว่า ‘ฉันบอกนายแล้วว่าฉันจะปลุกความสัมพันธ์ในไม่ช้าแน่ๆน่ะ ‘
ลาฟิวเข้าใจ แต่เขาก็ส่ายหัวในขณะที่พูดว่า “ฉันเข้าใจและฉันยอมรับว่าตอนนั้นฉันไม่เชื่อเธอ แต่เธอบอกว่าเธอแค่รู้สึกว่าเธออยากจะปลุกความสัมพันธ์และมีพลังมากขึ้นให้ได้ ดังนั้นฉันแค่เชื่อเธอเพียงเพราะเธอ ‘รู้สึกอย่างนั้นแค่นั้นเหรอ?’ “
จากนั้น ลาฟิวก็มองไปที่ชายชราและถามว่า “แล้วปลาเรืองแสงนานแค่ไหน? 5 นาทีเหรอ?”
ชายชราส่ายหัว ขณะที่พูดต่อว่า “ไม่ครับ ปลาเรืองแสงเป็นเวลา 10 นาที และผมเชื่อว่าพวกมันยังคงเรืองแสงต่อไปได้อีก ถ้าพวกมันใช้พลังงานธาตุยังไม่หมดไปน่ะ”
” อะไรนะ!!! “
เมื่อมองไปที่ปฏิกิริยาของลาฟิวชายชราก็คิดในใจว่า ‘ใช่ ผมก็มีปฏิกิริยาแบบเดียวกัน ‘
ลาฟิวมองไปที่ เอธานเหมือนกำลังมองไปที่สัตว์ประหลาดและพูดว่า “เจ้าสัตว์ประหลาดตัวน้อย …. “
เอธานคิด ในขณะที่ยิ้มว่า ‘ถ้าฉันบอกเขาเกี่ยวกับความลับอื่น ๆ ของฉันเขาก็คงจะหัวใจวายน่ะสินะฮิฮิ’
…
…
จากนั้นลาฟิวก็พาเอธานตรงไปที่ศูนย์ใหญ่ของหุบเขาทันที ซึ่งเป็นที่ที่ลอยอยู่ในที่แห่งความพิศวง
แต่หลังจากมาถึงกองบัญชาการเขาได้ขอร้องกับลาฟิว“ ที่จริงตอนนี้ฉันไม่อยากให้ใครรู้หรอก ฉันแค่อยากจะปฏิบัติธรรมอย่างสงบ ดังนั้นถ้าคุณสามารถปล่อยฉันไปยังที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่มีทั้ง พลังงานธาตุไฟและสายฟ้า ฉันจะเป็นหนี้บุญคุณของคุณเลย “
ลาฟิวหยุดอยู่ตรงนั้นซักวินาที และเอธานก็พูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันไม่ได้หยิ่ง แต่ความโปรดปรานของฉันมันอาจจะเป็นประโยชน์กับคุณมาก ลองคิดดูสิเพราะฉันมีความรู้สึกนี้ มันจึงทำให้ฉันมีพลังมาก” หลังจากพูดจบ เขายิ้มจาง ๆ และใบหน้าแสดงความมั่นใจที่ไม่เปลี่ยนแปลง
ลาฟิวพูดไม่ออก แต่แล้วก็เผยให้เห็นสีหน้าครุ่นคิด
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็พูดกับเอธานด้วยสีหน้าจริงจัง “เนื่องจากเธอได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ฉันเห็นถึง 2 ครั้งแล้ว ฉันจะเดิมพันกับเธอในครั้งนี้ และยอมเสี่ยงเพื่อความโปรดปรานของเธอเอง และด้วยความหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับฉันในอนาคตน่ะนะ “
เอธานยกนิ้วโป้งให้เขาก่อนจะถามต่อ “แล้วคุณพูดถึงความเสี่ยงอะไรเหรอ”
ลาฟิวพาเอธานเข้าไปในบ้านของเขาใน พระราชวังลอยน้ำก่อน แล้วปิดประตู ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันจะส่งเธอไปยังโซนอันตรายที่ หุบเขาของเราเพื่อพิชิตเขตอันตรายนั้นและเชื่อมต่อกับแหล่งที่มาของธาตุไฟ และแหล่งที่มาของธาตุสายฟ้าด้วย เพราะที่นั่นมันมีพลังงานสายฟ้าและ พลังงานจากไฟอยู่จำนวนมาก “
ได้ยินแบบนั้นเอธานก็ตื่นเต้นทันที
“ แต่ … ”
‘โอ้ ไม่ได้ยินเขาพูดติดๆขัดๆ มานานแล้ว’ เอธานสงบลง เมื่อได้ยิน `แต่ ‘ของ ลาฟิว
ลาฟิวสูดลมหายใจก่อนที่จะพูดต่อ “ฉันจะต้องแอบนำเธอเข้าไปในโซนนี้ เพราะมันเปิดทุกๆ 100 ปีเท่านั้น และมีเพียงลูกชายศักดิ์สิทธิ์ ลูกสาวผู้ศักดิ์สิทธิ์ และผู้อาวุโสหลักเท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป”
เอธานงงขณะถามว่า “แต่มันก็จะมีการรักษาความปลอดภัยที่ทางเข้าประตูใช่ไหม? คุณจะแอบเอาฉันเข้าไปข้างในได้ยังไงเหรอ”
“ แน่นอน ว่าจะต้องมีการรักษาความปลอดภัยและผู้ที่รักษาความปลอดภัยที่นั่นก็คือผู้อาวุโสหลักเช่นกัน ผู้อาวุโสหลักทุกคนต้องผลัดกันทุกปี เพื่อรักษาสถานที่นั้นและตาของฉันคือหลังจาก 6 เดือน ดังนั้นเธอต้องรอ 6 เดือน เมื่อถึงคราวของฉัน ฉันจะแอบเอาเธอเข้าไปข้างใน ก่อนถึงเวลานั้นฉันจะปล่อยให้เธออยู่ในบ้านหลังหนึ่งของฉันที่เกาะลอยแห่งนี้ “
เอธานพยักหน้าเมื่อได้ยินแผนและกล่าวว่า “เอาล่ะ แต่คุณต้องบอกฉันเรื่องขั้นตอนต่อไปและวิธีการฝึกฝนตั้งแต่ตอนนี้ เพราะฉันได้ปลุกพลังของสายฟ้า และ ไฟขึ้นมาแล้ว”
ลาฟิว โบกมือของเขาพลางเปิดตู้ในห้อง ก่อนจะดึงหนังสือสองเล่มออกมา จากนั้นเขาก็มอบหนังสือทั้งสองเล่มให้กับเอธานพร้อมกับพูดว่า “หนังสือเล่มหนึ่งอธิบายถึงวิธีการฝึก และอีกเล่มมีข้อมูลเกี่ยวกับระยะหลังจากนั้น”
หลังจากที่ ลาฟิว พาเอธาน ไปยังพระราชวังอื่น ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าและเข้าไปข้างใน ซึ่งก็ไม่มีใครสนใจทั้งสองคนเลย เพราะพวกเขายุ่งอยู่กับงานของพวกเขา และแน่นอนว่าทุกคนไม่ใช่ผู้อาวุโสโอนุก
ทั้งสองคนมาถึงโต๊ะทำงานในวังที่มีหญิงสาวที่อยู่หลังโต๊ะ เธอได้มองไปที่ลาฟิว และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณต้องการอะไรคะ ผู้อาวุโสลาฟิว?”
ลาฟิวยิ้มตอบและพูดพร้อมกับชี้ไปที่เอธาน “แม่บ้านลูซี่นี่คือน้องชายของฉัน เอธาน ตามอำนาจของฉัน ในฐานะผู้อาวุโสหลัก ฉันสามารถอนุญาตให้ญาติของฉัน 2 คนอาศัยอยู่ในเกาะลอยนี้ได้ใช่ไหม? “
แม่บ้านลูซี่มองไปที่เอธาน จากนั้นก็มองไปที่ลาฟิว ขณะที่เธอพูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน คุณสามารถทำได้ค่ะ ท่านลาฟิว ดังนั้นฉันจะจดทะเบียนชื่อของเขาเป็นญาติของคุณ โอเคไหมคะ?”
“อ๋อ ขอบคุณแม่บ้านลูซี่”
หลังจากนั้นลาฟิวก็พาเอธานไปที่บ้านใหม่นอกวัง
เมื่อมองไปที่บ้านใหม่ของเขา ซึ่งมีพื้นที่ส่วนตัวอยู่รอบ ๆ เอธานก็คิดว่า ‘นี่คือบ้านใหม่ของฉันเหรอ? มันเป็นสิ่งที่ดีมากเลยนี่ ‘
บ้านหลังนี้เป็นเหมือนบังกะโลหลังเล็ก ดูเหมือนจะสร้างด้วยหินสีขาวและดูมั่นคงด้วยการออกแบบที่ดีมาก แม้ว่าจะไม่ดีเท่าการออกแบบที่พบบนโลก แต่ก็ดูดีกว่าเดิม
เมื่อมาถึงที่นี่ ลาฟิวก็ไม่ได้เข้าไปข้างในและพูดแค่ว่า “นี่คือบ้านใหม่ของเธอตอนนี้เธอสามารถเริ่มการฝึกฝนโดยสร้างทะเลธาตุของเธอได้ แต่ก่อนอื่น ฉันขอแนะนำให้เธอล้างมลทินสีเทาภายในอาณาจักรพลังจิตของเธอ ก่อนที่จะสร้างทะเลธาตุของตัวเธอเอง”
ลาฟิวสูดลมหายใจก่อนพูด “อย่างที่เธอทราบ ยิ่งระดับความสัมพันธ์ที่สูงขึ้น เส้นทางของนักเวทธาตุก็จะยิ่งราบรื่นขึ้น จนกว่าพวกเขาจะไปถึงนักเวทอย์แห่งธาตุ และดูเหมือนว่าเธอจะมีระดับความสัมพันธ์ระดับพีคที่สูงกว่านี้แน่นอน เธอคงจะไม่ มีปัญหาในการควบคุมพลังงานธาตุของเธอและสำหรับปลอกสะกดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของเธอซึ่งมันจะมีวิธีการสะกดที่ระบุไว้ในตอนท้ายของเล่มที่ 2 เธอสามารถอ่านและเรียนรู้ได้ในนั้น”
“แต่ก่อนอื่น ให้ล้างสิ่งสกปรกสีเทา เพื่อที่เมื่อเธอดูดซับพลังงานธาตุ เธอสามารถปรับแต่งได้โดยตรง หลังจากสร้าง วัฎจักรประตูของการขัดเกลา และข้ามงานที่ยากลำบากที่นักเวทย์ธาตุต้องทำและกลายเป็นผู้วิเศษด้านธาตุ“
เอธานพยักหน้า ขณะที่เขาคิดอย่างตื่นเต้น ‘ให้ตายเถอะงั้นฉันจะกลายเป็น ผู้วิเศษด้านธาตุได้โดยตรงเลยงั้นเหรอ? WTF !!! ‘
เมื่อเห็นการแสดงออกของเอธาน ลาฟิวก็หัวเราะออกมา“ เธอไม่ได้ทำได้อยู่คนเดียว ในนั้นมีหลายๆคนเคยทำแบบนั้นได้อย่นะ ถ้าพวกเขาสามารถปลดล็อกอาณาจักรพลังจิตของพวกเขาก่อนที่จะไปถึง นักเวทย์แห่งธาตุได้ พวกเขาก็สามารถข้ามขั้นตอนของนักเวทย์ธาตุได้เช่นเดียวกัน
“แต่การสร้างวัฎจักรประตูของการขัดเกลา ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ไม่มีใครประสบความสำเร็จในการลองครั้งแรกและมันจะระเบิดออกมาโดยตรง เมื่อเธอไม่สามารถสร้างมันได้ มันจะส่งผลให้พลังจิตของคุณหมดไป และความเสียหายบางอย่างต่อสุขภาพจิตของเธอเอง “
เอธานแค่ยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันแตกต่างจากคนอื่น”
ลาฟิวกลอกตาของเขาในขณะที่เขาอำลาเอธาน“ เอาล่ะฉันจะกลับมาหลังจากนั้น 6 เดือนจนกว่าจะถึงก็จงพยายามล้างสิ่งสกปรกสีเทาทั้งหมดในอาณาจักรพลังจิตของเธอ”
หลังจากโบกมือให้ ลาฟิวแล้วเอธานก็เข้าไปในบ้านหลังใหม่ของเขา เขาไม่เสียเวลามองไปรอบ ๆ และตรงเข้าห้องนอนไปวางของ ก่อนที่จะเปิดหนังสือ ซึ่งมีขั้นตอนต่อไปหลังจากเป็นนักเวทย์ธาตุ
เอธานมองไปที่หนังสือ ในขณะที่คิดว่า ‘ตอนนี้ฉันกำลังดูอย่างละเอียด หนังสือเล่มนี้มีเพียงไม่กี่หน้า … อย่าบอกนะว่า ลาฟิว หลอกลวงฉันอีกแล้ว? ‘
เอธานเปิดหน้าแรก ซึ่งมีบทนำเหมือนกับหนังสือที่เขาพบในบ้านเก่าของเขา เขาเปิด 3 หน้า และพบคำอธิบายและรายละเอียดของขั้นตอนต่อไป
————————————————– ————————————————-
ขั้นที่ 6: ผู้วิเศษด้านธาตุ
– ในการเป็น ผู้วิเศษด้านธาตุเราต้องสร้างวัฎจักรประตูของการขัดเกลา ภายในทะเลธาตุของพวกเขา โดยใช้พลังจิตของพวกเขา หลังจากที่พลังงานทั้งหมดในทะเลธาตุของพวกเขาได้รับการขัดเกลาด้วยตนเองในขั้นตอน ของผู้วิเศษด้านธาตุ
– การใช้ วัฎจักรประตูของการขัดเกลา คือตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเขาไม่จำเป็นต้องปรับแต่งพลังงานด้วยตนเอง หลังจากที่พลังงานปกติถูกดูดซับโดยพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาดูดซับพลังงาน พวกเขาจะส่งผ่านประตูปรับแต่งการหมุนเวียนซึ่งจะปรับแต่งพลังงาน ก่อนที่จะเข้าไปใน ทะเลธาตุ
ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจะเต็มไปด้วยพลังธาตุที่กลั่นในทะเลธาตุของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแตกต่างจากนักเวทย์ธาตุที่ต้องปรับแต่งพวกมันด้วยตนเองและพลังงานธาตุที่กลั่นออกมาจะหมดลงอย่างรวดเร็วหากพวกเขาใช้มันในการต่อสู้
————————————————– ————————————————-
ขั้นที่ 7: เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ
– ในการเข้าถึงขั้นตอนนี้ ผู้วิเศษด้านธาตุ จำเป็นต้องเปลี่ยนพลังงานธาตุที่เป็นก๊าซภายในทะเลธาตุของพวกเขาให้เป็นรูปของเหลว แต่ในการทำเช่นนั้นพวกเขาต้องการพลังงานลึกลับ ซึ่งเป็นพลังงานจิตในรูปแบบที่สูงกว่าและการได้รับพลังงานเวทย์มนต์เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดเพราะ เพื่อให้ได้พลังงานลึกลับพวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของพลังจิต เมื่อพวกเขาเข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของพลังจิตสำเร็จแล้ว พวกเขาจะต้องผ่านการทดสอบของปีศาจ ภายในเมื่อผ่านการทดสอบสำเร็จพลังจิตของพวกเขาจะเปลี่ยนเป็นพลังงานลึกลับได้สำเร็จและดินแดนแห่งพลังจิตของพวกเขาก็จะเปลี่ยนเป็นอาณาจักรเวทย์มนต์ด้วยเช่นกัน ในขนาดที่เพิ่มขึ้นและสิ่งสกปรกสีดำใหม่ซึ่งจะเพิ่มพลังงานสำรองของพวกมันโดยการล้างสิ่งสกปรกสีดำ
เมื่อเอธานอ่านจบหน้านั้นหลังจากนั้นเขาก็หันไปที่หน้าถัดไป เพื่อดูว่ามันไม่ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับด่านต่อไป มันมีแต่คาถาเท่านั้น
ตอนที่ 16: ผลลัพธ์ที่น่าตกใจที่ฮอลล์แห่งการทดสอบความสัมพันธ์
จากนั้นเอธานก็เดินต่อไปอีก 2-3 นาทีก่อนที่เขาจะพบสัตว์เลเวล 4 อีกตัวที่รู้จักกันในชื่อ หมาป่าหางสายฟ้า เพราะหางของหมาป่าตัวนี้ปกคลุมไปด้วยสายฟ้า และเมื่อมันโจมตีโดยใช้หางมัน หางของมันก็จะส่งเสียงเหมือนฟ้าร้องออกมา
เอธานมองเห็นหมาป่าเพราะหางของมัน แต่เขาไม่สนใจหมาป่าตัวนั้นเพราะเขาต้องการต่อสู้กับสัตว์ร้ายเลเวล 5 ไม่ใช่เลเวล 4 และน่าแปลกที่หมาป่าก็ไม่โจมตีเขาด้วย “ดูเหมือนหมาป่าตัวนั้นจะรู้ว่ามันไม่เหมาะกับฉัน “
จากนั้นเอธานก็เดินต่อไปอีก 10 นาทีก่อนที่จะพบกับหมียักษ์ เอธานมองไปที่หมียักษ์ตัวนั้น ที่กำลังนอนหลับ “หมีตัวนี้เป็น หมีเปลืองแข็งเลเวล 5 ฉันเคยอ่านมาก่อน และฉันยังเคยได้ยินว่า เมื่อพวกมันโตเต็มวัยแล้ว พวกมันยังสามารถอัปเกรดตัวเองได้โดยอัตโนมัติและกลายเป็นหมีเลเวล 6 พวกมันมีความเชี่ยวชาญในเรื่องธาตุดินเป็นอย่างมาก “
เอธานครุ่นคิดสักครู่ ก่อนที่จะหยิบก้อนหินก้อนใหญ่แล้วขว้างใส่หมีเพราะ ‘ ฉันไม่ต้องการโจมตีมัน แต่ในขณะที่มันหลับตอนที่ฉันมาถึงที่นี่ก็เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของฉันเพียงเท่านั้น’
เมื่อก้อนหินกระแทกหมี แต่หมีก็ไม่ขยับเขยื้อนทำให้ เอธานแปลกใจเล็กน้อย“ ดูเหมือนว่าฉันต้องขว้างก้อนหินด้วยแรงอะไรสักอย่าง”
เอธานหยิบก้อนหินอีกก้อน แล้วขว้างใส่สัตว์ร้ายที่มีพลังมากกว่าในครั้งนี้
* บรรรรรรรรรรรึ …. *
เมื่อสัตว์ร้ายถูกรบกวนและคำรามออกมา หลังจากตื่นนอนมันต้องคิดว่า ‘ใครกันที่กล้าปลุกฉัน ฉันกำลังฝันดี ตอนนี้ฉันถูกล้อมรอบไปด้วยหมีตัวเมียจำนวนมากเลยนะ’
ในไม่ช้าหมีก็เห็นเอธาน เพราะ เอธานยืนอยู่ข้างหน้ามันและโบกมือให้มัน
ดวงตาของหมีเปลี่ยนเป็นสีแดงและพุ่งไปที่เอธานทันที
จากนั้นเอธานก็ยิ้ม เมื่อเห็นว่ามันพุ่งมา เขาจึงพุ่งเข้าหาหมีด้วยความที่ตั้งใจจะจัดการกับสัตว์ร้ายแบบมัน
* บึ้มมม *
ทั้งสองต่อสู้กันและหมีก็ถูกผลักกลับไป แต่เอธานรู้ว่าหมีเลเวล 5 ไม่ได้ใช้พลังเต็มที่เพราะเมื่อสัตว์ร้ายอัพเกรดเป็นเลเวล 5 พวกมันจะสร้างแกนกลางในร่างกาย ซึ่งทำให้พวกมันสามารถใช้ความสามารถของธาตุได้ทันที
หมีเริ่มโกรธที่ถูกผลักกลับและจากนั้นมันก็เปิดใช้งานความสามารถของมัน
ทันใดนั้นธาตุดินจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากหมี เมื่อชุดเกราะของหินเริ่มก่อตัวขึ้นรอบ ๆ ตัวของมันเช่นเดียวกับชื่อของพวกมันหมีเปลือกแข็ง พวกมันสามารถสร้างเปลือกที่แข็งเหมือนกับหินออกมา ที่มั่นคงบนร่างกายของพวกมัน และยังเพิ่มพลังให้กับพวกมันอีกด้วย รวมถึงกรงเล็บที่มีพลังธาตุดิน ซึ่งมันช่วยเพิ่มพลังโจมตีให้กับมันได้
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ดีๆ เรามาดูวิธีการที่ยากกว่าและมีประสิทธิภาพกว่าให้แกหลังจากที่ใช้ความสามารถของแกแล้วกันเถอะ” เอธานหัวเราะและมองไปที่หมีตัวนั้น
* รอววว์ … *
หมีส่งเสียงคำรามอีกครั้งและกวาดกรงเล็บไปข้างหน้าเมื่อเอธานเข้ามาใกล้
และเมื่อเห็นเช่นนั้น เอธานก็พร้อมที่จะกำ กำปั้นของเขา และโยนมันไปที่กรงเล็บของสัตว์ร้ายที่เข้ามา โดยคราวนี้เอธานใช้พลังเต็มที่กับหมัดนั้น
ผลลัพธ์คือ?
กรงเล็บของเกราะของหมีแตกเป็นเสี่ยง ๆ พร้อมกับกรงเล็บที่แท้จริงของมัน และหลังจากนั้นเลือดก็เริ่มไหล
หมีส่งเสียงคำรามอย่างเจ็บปวด ขณะที่มันโจมตีอย่างโง่เขลาด้วยกรงเล็บอีกอันซึ่งเอธาน ตอบสนองด้วยหมัดเต็มพลังของตัวเอง ซึ่งให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกัน
หมีหมดแรงและเริ่มส่งเสียงครวญคราง ขณะที่มันวางมือทั้งสองข้างไว้เหนือหัวและหมอบลง
เอธานยืนอยู่ตรงนั้น ในขณะที่เขาพึมพำ “ดูเหมือนว่าพลังงานของคริสตัลสีดำ จะเพิ่มความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉันขึ้นมากกว่าสองเท่าแฮะ เพราะคุณสมบัติหลักของคริสตัลนั้นเกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งด้วย”
เอธานได้แต่ถอนหายใจและคิดว่า ‘ถ้าฉันมีระบบเช็คความสามารถ ฉันก็คงจะสามารถติดตามความคืบหน้าและสถิติของฉันได้ และแม้แต่ตรวจสอบสถิติของคนอื่นก็ยังคงได้ ‘
แต่หลังจากคิดซักพักเอธานก็เกิดความคิดที่ว่า ‘เดี๋ยวก่อนฉันจะสร้างระบบอินเทอร์เฟซของตัวเองได้อย่างไรกันนะ? หลังจากสร้างเสร็จแล้ว ฉันสามารถตรวจสอบสถิติของตัวเองได้ … แต่ฉันจะสร้างมันได้อย่างไรกัน … ‘
เอธานครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนที่จะตัดสินใจว่า ‘ขั้นแรกระบบอินเทอร์เฟซจะอยู่ในขอบเขตพลังจิตของฉัน …. เอ๊ะ รอเดี๋ยวก่อน’
เอธานหยุดกะทันหันเพราะเขานึกถึงบางสิ่งบางอย่างได้ ‘เนื่องจากวังวนสีดำให้พลังงานที่แข็งแกร่งกว่า หลังจากที่มันกลืนกินเอสเซนส์ของธาตุ แล้วมันก็ควรจะให้พลังจิตที่แข็งแกร่งกว่า หลังจากที่มันกลืนกินมันไปใช่มั้ย? ใช่แน่นอนว่าควร แต่จำนวนเงินในปัจจุบันของฉันมีน้อย ดังนั้นก่อนอื่น ฉันต้องชำระสิ่งเจือปนสีเทาและเพิ่มพลังจิตของฉันให้ได้ก่อน ‘
จากนั้นเอธานก็เดินกลับไป ในขณะที่เขาไม่ต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของเขาอีกต่อไปแล้ว แต่จากการคาดเดาของเขา เขาควรจะสามารถต่อสู้กับสัตว์เลเวล 6 ได้อย่างเท่าเทียมกัน และสำหรับเลเวล 7ล่ะ? ขออภัยครับ ไม่มีสัตว์ร้ายระดับ 7 ในป่านี้เฮ้ออ..’
…
หลังจากมาถึงบ้านของเขา เขาได้เข้าสู่อาณาจักรพลังจิตของเขาเป็นครั้งแรก เพื่อล้างมลทินสีเทา เนื่องจากเขาได้ขอวิธีการจากลาฟิวแล้ว และเขาจึงรู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
เอธานตั้งสมาธิและให้พลังจิตแก่ตัวเขาเอง ก่อนที่จะให้มันเป็นรูปร่างของ … ยางลบนั่นเอง
เนื่องจากเขากำลังจะลบมลทินสีเทาที่เขาคิดว่าการให้พลังจิตของเขาในรูปแบบของยางลบจะดีและง่ายกว่า
และแล้ว …
เขาก็เริ่มถูยางลบเพื่อเอาความสกปรกสีเทาออกไป และมันก็ได้ผล แต่หลังจากถูไป 2-3 ครั้งยางลบของเขาก็หดลงเช่นกัน
หลังจากถูเพียงไม่กี่นาที ยางลบของเขาก็หายไป พร้อมกับสิ่งเจือปนสีเทาบางส่วน ‘นี่อาจจะแค่ 1-2%? สินะ ดูเหมือนว่าจะต้องใช้เวลาช่วงแรก ๆมากหน่อย แต่ฉันดีใจที่คริสตัลทั้ง 3 นั้น สามารถล้างสิ่งเจือปนสีเทาออกได้ เพื่อเพิ่มพลังจิตของฉัน อย่างไรก็ตามฉันจะล้างสิ่งสกปรกสีเทาออกอีกครั้ง หลังจากที่พลังจิตของฉันฟื้นตัวแล้ว ‘
จากนั้นเอธานก็หลับไป 3 ชั่วโมง ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาและล้างสิ่งสกปรกสีเทาออกอีกครั้ง
หลังจากนอนหลับไปอีก 3 ชั่วโมง เอธาน ก็ไม่ได้ล้างสิ่งสกปรกออก เพราะตอนนั้นมันเป็นเวลาเช้าแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาตรวจสอบว่าเขาถูกปลุกความสัมพันธ์ใด ๆ ได้แล้วหรือไม่
เมื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เอธานก็มาถึงห้องโถงของพระราชวังในหุบเขา
หลังจากมาถึงโต๊ะทำงานแล้ว เขาก็พูดกับผู้หญิงคนนั้นว่า “คุณช่วยโทรหา ลาฟิวให้เขามาที่นี่ได้ไหมครับ”
เลดี้มองไปที่เอธานก่อนจะพูดว่า “คุณมีนัดกับเขาหรือไม่ คุณไม่สามารถเรียกผู้อาวุโสหลักอย่างนั้นได้”
“นี่ … ” เอธานมีสีหน้าหนักใจ ขณะที่เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น หลังจากเงียบไป 2-3 วินาที เขาก็พูดกับผู้หญิงคนนั้นต่อไปว่า “คุณบอกผมได้ไหม ว่าผมจะทดสอบความสัมพันธ์ของผมได้ที่ไหนบ้าง”
ผู้หญิงคนนั้นประหลาดใจ ก่อนที่จะมองอย่างเหยียดหยามและพูดว่า “ไปที่ห้องโถงหมายเลข 3 นั่นคือที่ที่ผู้คนตรวจสอบความสัมพันธ์ของพวกเขากัน” เธอชี้ไปที่ด้านซ้ายของห้องโถงพระราชวัง
เอธานสังเกตเห็นท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม เขา แต่เขาก็ยิ้มและขอบคุณผู้หญิงคนนั้น ก่อนที่จะเดินไปตามทางที่เธอชี้
หลังจากเดินไปตามทางนั้นไม่นาน เขาก็พบโถงหมายเลข 3 เอธานเคาะประตูก่อนที่จะเปิดออก
เมื่อเข้าไปในห้องโถง เอธาน ก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะไม่มีใครอยู่ในห้องโถง นอกจากชายชราอายุ 60 เศษที่กำลังอ่านหนังสือขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้
ชายชราพูดโดยไม่มองไปที่เอธาน “รอสัก 5 นาที ฉันเกือบจะอ่านส่วนโค้งนี้เสร็จแล้ว”
เอธานกำลังเดินไปถึงสระว่ายน้ำ ซึ่งมีปลาหลากสีว่ายน้ำรออยู่ที่นั่น
ใช้เวลาไม่นาน 5 นาทีก็ผ่านไป
ชายชราลุกขึ้นยืนก่อนจะวางหนังสือลงบนเก้าอี้แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ ไปยืนตรงกลางนะ ฉันจะบันทึกความสัมพันธ์ของคุณ”
หลังจากพยักหน้าให้ชายชราแล้ว เอธานก็ก้าวไปข้างหน้าและวางเท้าข้างหนึ่งลงไปในสระน้ำเพื่อรับแรงกระแทก
เพราะในขณะที่เขาก้าวเท้าขวาลงไปในสระปลาสีแดงและปลาดาร์กบลูก็เริ่มเปล่งประกายอย่างบ้าคลั่งและ พวกมันก็มาที่เท้าของเอธานด้วยความเร็วที่รวดเร็ว
เอธาน ตกใจในตอนแรก และจากนั้นก็ตื่นเต้นจากนั้นเขาก็วางเท้าอีกข้างของเขาลงในสระ และเริ่มก้าวไปข้างหน้าในสระก่อนที่จะหยุดตรงกลาง แม้จะไม่มีจุดหมายก็ตาม
แต่ไม่เหมือนกันกับที่ชายชราและเอธาน คิดไว้ พวกปลาไม่หยุดเรืองแสง หลังจากผ่านไป 1 นาทีและยังคงเรืองแสงต่อไป
ชายชราคิด ‘ 1 นาทีของการเรืองแสงถือเป็นพรสวรรค์ระดับสูงไปแล้ว และนี่ …ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีใครผ่านมาได้แบบนี้ ดูเหมือนว่าฉันต้องเรียกผู้อาวุโสหลักแล้ว ‘
เอธาน เห็นว่าชายชราหยิบเครื่องรางของขลังออกมาและเดาได้ว่าเขากำลังจะโทรหาคนที่มีอำนาจสูงกว่า เขาจึงนึกถึงการลอบสังหารในทันทีและพูดว่า ” คุณสามารถโทรหา ผู้อาวุโสลาฟิวได้นะครับ เขารู้จักผมดีทีเดียวเลยล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉัน ชายชราก็พยักหน้า เขาวางยันต์ในมือก่อนที่จะหยิบยันต์ที่แตกต่างออกไปจากกระเป๋าใบเล็กที่อยู่รอบเอวของเขา
เอธานก็เฝ้าดู ขณะที่ชายชราฉีดพลังจิตของเขาเข้าไปในยันต์ก่อนที่จะพึมพำอะไรบางอย่าง
หลังจากพึมพำไม่กี่วินาทีชายชราก็ทิ้งเครื่องรางของขลังและจดจ่อไปที่ปลาเรืองแสง
ปลายังคงไม่หยุดเรืองแสงที่เครื่องหมายเวลาแสดงเวลาว่าตอนนี้ผ่านไป 5 นาทีแล้ว
เมื่อเห็นชายชราคนนี้พึมพำ“ 5 นาที เป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ระดับพีคแล้ว และนั่นคือธาตุไฟและธาตุสายฟ้าทั้งคู่” จากนั้นเขาก็มองไปที่เอธานเหมือนกับว่าเอธานเป็นสัตว์ประหลาด
พวกมันยังคงไม่หยุดเรืองแสง แม้ว่าจะผ่านไป 6 นาทีแล้วก็ตาม
ไม่มีวี่แววว่าจะหยุด แม้ผ่านไป 7 นาที
8 นาที …
9 นาที …
ในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไป 10 นาที การเรืองแสงของปลาก็หยุดลง ชายชราจึงมองไปที่ปลาและอุทานออกมาดัง ๆ ว่า “อะไรเนี่ย !!!”
เอธานรู้สึกสับสนและมองไปที่ปลา หลังจากที่เขากำลังติดตามการจ้องมองของชายชรา
ปลาทั้งสองตัวหรี่ลงกว่าปกติและไม่เคลื่อนไหวด้วยซ้ำ
ชายชรารีบหยิบคริสตัลสีแดงและสีน้ำเงินออกมาก่อนที่จะโยนลงในสระน้ำใกล้ฝูงปลา
จากนั้นชายชราก็มองไปที่เอธานและพูดว่า “ไอ้หนุ่มออกมาเร็ว มิฉะนั้นปลาเหล่านั้นอาจจะเร่าร้อนอีกครั้งได้ และจะส่งผลให้พลังงานหมดไปอีกครั้งนะ”
เอธานมีสีหน้าตกตะลึง ในขณะที่เขาคิดว่า ‘บางทีปลาอาจจะเรืองแสงมากกว่าปกติเพราะคริสตัลทั้งสองในอาณาจักรพลังจิตของฉัน’
แต่แล้วเขาก็ยิ้มขณะที่คิดว่า ‘ยังไงก็ตาม อย่างหนึ่งที่แน่นอนคือระดับความสัมพันธ์ของฉัน สูงกว่าความสัมพันธ์ระดับสูงธรรมดาๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ‘
ตอนที่ 15: การปรับแต่งร่างกายตามธาตุ
ทั้งเอธานและลิงตัวนั้นก็เริ่มต่อสู้กันทันที
อย่างแรกเอธานไม่เคยเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มาเลยและการต่อสู้กับลิงก็ …. เห็นได้ชัดว่ามันก็ไม่รู้ศิลปะการต่อสู้ใด ๆเช่นกัน ดังนั้นทั้งสองก็แค่ชกต่อยและเตะกันเท่านั้น
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ …
“ฮ่า ๆ ๆ ลิงน้อยตีฉันหนักขึ้น เพราะแรงกระแทกของแกไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกว่ามีรอยขีดข่วนเลย … “
* คำราม … *
ลิงตัวนั้นเริ่มโกรธเพราะมันถูกโจมตีอย่างหนักจากเอธาน ในขณะที่การโจมตีของมันไม่ได้ผลกับ เอธานเลย
พวกเขาต่อสู้กันอีก 2-3 นาทีก่อนที่ลิงตัวนั้นจะเริ่มส่งเสียงครวญคราง
เอธานตกตะลึงในขณะที่เขาหยุดการเตะต่อยของเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใช้พลังเต็มที่นัก แต่เพียงแค่เอาตัวออกห่างจากเล็กตัวนั้นเพียงแค่นั้น
เมื่อเห็นเอธานหยุดเตะต่อยแล้ว ลิงก็ส่งเสียงออกมาและท่าทางของมันที่กำลังเตะต่อยอีก 2-3 ครั้งพร้อมกับยื่นมือไปที่เอธานด้วย
เอธานเข้าใจสถานการณ์จากท่าทางที่มันต้องการให้เขาทำตามมัน ‘แต่เดี๋ยวก่อน … เป็นไปได้ไหม ที่มันกำลังจะเรียกหาเจ้านายหรือพ่อแม่ของมันอยู่? อย่างไรก็ตามมันจะดีกว่า ถ้าลิงตัวนี้เรียกสัตว์เลเวล 5 ออกมาเพราะฉันต้องการต่อสู้กับพวกมันในตอนนี้ ‘
ดังนั้นเอธานจึงติดตามลิงตัวนั้นไป ขณะที่ทั้งคู่เดินเข้าไปในป่าลึกมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากนั้น 10 นาทีของการเดินทางอย่างรวดเร็วโดยลิง มันก็หยุดที่จุดหนึ่งก่อนที่จะวางมือลงบนพื้นและเปิดโพรงโดยเอาหินแบน ๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติทุบลงไปในจุดที่ซึ่งปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์ เส้นทางของหลุมนั้นนำไปสู่ถ้ำใต้ดินที่ซ่อนอยู่
หลังจากเปิดเส้นทางแล้วลิงตัวนั้นก็แสดงท่าทางให้เอธานเดินตามเข้าไปข้างในอีกครั้ง
เอธานไม่กลัวแผนการของลิงตัวนั้น ดังนั้นเขาจึงเข้าไปในถ้ำกับมัน
หลังจากเข้าไปในโพรงถ้ำแล้ว ทั้งคู่ก็เดินต่อไปอีก 5 นาที ก่อนจะมาถึงพื้นที่กว้างขวาง
เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในบริเวณนั้น เอธาน ก็ตกใจเพราะเบื้องหน้าของเขา คือคริสตัลสีดำขนาดใหญ่ มีความยาวครึ่งเมตร คริสตัลดูคล้ายกับคริสตัลสีดำที่เขาขุดได้ในทุกๆวัน
แต่มันดูบริสุทธิ์มากขึ้น เนื่องจากมีความแวววาวของโลหะ ดังนั้นสีของมันจึงดูเป็นสีดำเมทัลลิก แทนที่จะเป็นสีดำพร่ามัว ซึ่งเป็นสีของคริสตัลที่เขาขุดอยู่ทุกวัน
เอธานเดินเข้าไปใกล้คริสตัลสีดำขนาดใหญ่เพื่อตรวจสอบมัน
ในขณะที่เขาอยู่ห่างจากคริสตัลสีดำ 1 เมตร เขาก็สัมผัสได้ถึงแก่นแท้ของคริสตัลขนาดใหญ่นี้ที่ถูกดูดโดยวังวนสีดำ
“ดูเหมือนว่าคริสตัลขนาดใหญ่นี้ จะมีเกรดสูงกว่าระดับสูงมันน่าจะเป็นคริสตัลเอเลเมนทัล เกรดสูงที่สุดได้ หรือไม่ก็ค่อยเอามันไปตรวจสอบว่ามันคือธาตุอะไร” เอธานยังไม่รู้ว่าจะเรียกธาตุนี้ว่าอะไร เพราะทุกคน เรียกมันว่าคริสตัลสีดำ
การใช้พลังงานหลักของคริสตัลนี้คือมันสามารถเพิ่มความทนทานของสิ่งของต่างๆและเสริมสร้างโครงสร้างทางกายภาพของร่างกายของผู้คนได้ทีละน้อย หากพวกเขาอยู่ใกล้ ๆมันแล้วล่ะก็
‘ยังไงก็ตาม … ฉันจะพบมันในภายหลังสำหรับตอนนี้ … ฮิฮิฮิ’ เมื่อนึกถึงการทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง เอธาน ก็ดีใจเพราะแม้จะได้ทำงานในเหมืองนั้นและได้ดูดซับเอสเซนส์จากผลึกในเหมืองนั้นแล้วก็ตาม แต่วังวนสีดำยังคงไม่ผลิตพลังงานสีดำที่แปลกประหลาดออกมาเลย
“มันอาจจะเป็นเพราะพลังงานของผลึกดำนี้แตกต่างจากธาตุทั่วไป หรือไม่ก็ฉันอาจจะต้องหามันในภายหลัง ซึ่งสำหรับตอนนี้แล้วเราควรที่จะมาเพิ่มพลังให้กับวังวนและดูดซับแก่นแท้ของคริสตัลสีดำนี้ไว้ก่อนดีกว่า”
แต่ก่อนหน้านั้น …
เอธานหันหน้าไปทางลิงลายดำที่นั่งอยู่ข้างคริสตัลแล้ว พน้อมพูดพลางทำท่าทางมือให้มันเห็น “แก … ไปให้พ้น อย่ามาที่นี่ก่อนที่ฉันจะออกไป”
ลิงส่งเสียงครวญคราง ขณะที่มันชี้ไปที่คริสตัลสีดำและจากนั้นตัวมันเองก็อาจจะพยายามบอกว่า ฉันก็ต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของฉันด้วยเหมือนกัน
แต่หลังจากที่ เอธานจ้องมันแล้วมันก็ออกจากถ้ำอย่างเชื่อฟัง
“มาเริ่มกันเลย” เอธานพูดพึมพำ พลางส่งพลังจิตของเขาเข้าไปในวังวนสีดำ จากนั้นเขาก็หลับไปเพื่อฟื้นพลัง ในขณะที่วังวนสีดำของเขาเร่งกระบวนการดูดและดูดซับแก่นแท้ของผลึกสีดำขนาดใหญ่อยู่ด้วย
…
…
เนื่องจากพลังจิตของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเขาจึงหลับไป 3 ชั่วโมงก่อนที่เขาจะตื่น
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถควบคุมพลังจิตของเขาได้ เมื่อมันเข้าใกล้วังวนสีดำเพราะมันมักจะดูดพลังจิตทั้งหมดของเขาในคราวเดียว
หลังจากตื่นขึ้นเอธานก็มองไปที่วังวนสีดำ ซึ่งยังคงดูดและดูดซับแก่นแท้ของคริสตัลสีดำที่อยู่ตรงหน้าเขาอีกด้วย
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรออกมาจากวังวนสีดำ เอธานจึงเติมพลังวังวนสีดำอีกครั้งก่อนที่จะนอนหลับไป
…
…
คราวนี้เอธานตื่นขึ้นมาหลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง 50 นาที ดูเหมือนว่าความเร็วในการฟื้นตัวของเขายังคงสั้นลงตามกระบวนการระบายสิ่งต่างๆและการกู้คืนพลังในแต่ละครั้ง
เอธานเข้าสู่อาณาจักรพลังจิตของเขาโดยตรง หลังจากตื่นนอน
เขามองไปที่วังวนสีดำ พลางรู้สึกยินดี
“ อืมม… ในที่สุด”
วังวนสีดำกำลังปลดปล่อยพลังงานสีดำแปลก ๆ ออกมามากมายซึ่งมันกระจายอยู่ภายในร่างกายของเขา และไม่ใช่แค่ส่วนเดียว แต่อยู่ทุกหนทุกแห่งในร่างกาย
หลังจากผ่านไป 10 นาทีร่างกายของเขาทุกส่วน ก็กลายเป็นสีดำซึ่งมันไม่ใช่สีดำสนิท แต่เป็นสีดำเมทัลลิก
และคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยที่มันเกิดขึ้นอีกครั้ง พลังงานสีดำเริ่มสร้างความหายนะภายในร่างกายของเขา หลังจากกระดูกอวัยวะและสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นพลังงานสีดำ
‘F ** K ความเจ็บปวดนี้ อีกแล้ว… ‘ เหมือนก่อนหน้านี้ เอธาน ไม่สามารถขยับตัวได้เลย และเขาอยากจะกรีดร้อง แต่ก็ทำไม่ได้ มันเหมือนเมื่อก่อนมีเพียงความเจ็บปวดอย่างมากเท่านั้น ที่ถูกป้อนเข้าสู่การดำรงอยู่ของเขา
แต่สิ่งที่ดีคือสิ่งนี้คงอยู่เพียง 10 นาทีแทนที่จะเป็น 30 นาทีเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยพลังงานสีแดงและสีน้ำเงิน
เขายังไม่อ้วกเอาสิ่งสกปรกสีดำออกมาและร่างกายของเขาก็ยังคงดึงสิ่งสกปรกสีดำออกมาเหมือนเมื่อก่อน
เอธานค่อยๆลุกขึ้นยืน ในขณะที่รู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่งค้นพบในร่างกายของเขา ‘ฉันควรตั้งชื่อกระบวนการนี้ว่าการกลั่นร่างกายของธาตุ เพราะมันเป็นการปรับแต่งร่างกายของฉันให้แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ให้ฉันต้านทานต่อองค์ประกอบต่างๆได้บ้างแล้ว ‘
หลังจากนั้นเขาก็เข้าสู่อาณาจักรแห่งพลังจิตของเขาและแท้จริงแล้วตอนนี้มีคริสตัลสีดำลอยอยู่ข้างๆคริสตัลสีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งทำความสะอาดสิ่งสกปรกสีเทาบางส่วนที่อยู่รอบ ๆ มันทำให้ปริมาณพลังงานจิตสำรองของเขาเพิ่มขึ้นทำให้เขามีพลังมากขึ้นในนั้น
แต่เอธานก็รู้สึกแปลก ๆ ในขณะที่มองไปที่คริสตัลสีดำเหมือนเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคริสตัลสีดำ แต่เขาไม่ได้มีความรู้สึกนี้ต่อคริสตัลสีฟ้าและสีแดง ‘ตอนนี้ความหมายของสิ่งนี้คืออะไรนะ? ‘
เอธานใช้สติของเขาเพื่อเข้าไปใกล้คริสตัลสีดำ ‘อันที่จริงฉันรู้สึกได้ถึงการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งกับคริสตัลสีดำนี้ตั้งนานแล้ว ‘
จากนั้นเขาก็ควบคุมพลังจิตของเขาและสัมผัสคริสตัลสีดำด้วยและมีบางอย่างเกิดขึ้น
คริสตัลสีดำหายไป …
“WTF … “
เอธานมองไปรอบ ๆ แต่ไม่พบอะไร แต่จู่ๆเขาก็เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างบนร่างกายของเขา
เขาออกจากอาณาจักรพลังจิตและตกตะลึง
ร่างกายของเขาถูกของเหลวสีดำห่อหุ้มจากภายนอก …
ในเวลาเพียง 1 นาที ร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยของเหลวสีดำ จากนั้นของเหลวจะกลายเป็นสถานะกึ่งของแข็ง
เอธานมองไปที่มือและเท้าของเขา ในขณะที่กำลังรู้สึกตกใจ ‘นี่ … นี่คือชุดสูทของราชา แต่มันดูน่าเกลียด ไม่มีการออกแบบไม่มีลวดลายเป็นสีดำเมทัลลิกและมันกำลังส่องแสงเล็กน้อย แต่นี่คือทั้งหมดหรอ ‘
แต่เขารู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมากด้วยชุดสูทแปลก ๆ บนร่างกายของเขาตอนนี้ เขาจึงขยับร่างกายไปรอบ ๆ และเล่นกลกับร่างกายของเขา ทั้งการเคลื่อนไหวของเขา ซึ่งมันไม่ได้ขัดขวางแม้แต่น้อย ทุกอย่างก็รู้สึกปกติเหมือนชุดนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขาไปแล้ว
เขาสัมผัสใบหน้าของเขา แต่มันก็ถูกปิดด้วยชุดน่าเกลียดกึ่งทึบ ‘แล้วฉันจะพูดยังไงเนี่ย? ‘ เมื่อนึกถึงตอนนี้ เอธานก็อ้าปากและช่องว่างสำหรับปากก็เปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่เขาสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ปกติแม้ว่าจะไม่มีรูสำหรับดวงตาของเขาบนใบหน้าที่คลุมชุดสูทก็ตาม
‘ตอนนี้ฉันจะเอาสิ่งนี้ออกไปได้อย่างไรกัน? ฉันไม่อยากเดินใส่สูทน่าเกลียดนี้ไปทุกที่ ขณะที่ เอธาน กำลังสงสัย สิ่งนี้มีบางอย่างเกิดขึ้น ชุดสูทก็เริ่มแยกออกจากร่างกายของเขาโดยอัตโนมัติและจากนั้นก็หดตัวลงก่อนที่จะหายไป
เอธานรู้สึกประหลาดใจ ขณะที่เขาพึมพำ“ มันเคลื่อนไหวตามความคิดของฉันเหรอ .. อืม” จากนั้นเขาก็เข้าไปในอาณาจักรพลังจิตของเขา แต่เขาไม่เห็นคริสตัลสีดำข้างๆเขาแล้ว แต่เป็นคริสตัลสีน้ำเงินและสีแดง และมีชุดสูทสีดำที่น่าเกลียดวางอยู่ข้างตัวเขาด้วย
เมื่อมองไปที่ชุดสูทแล้ว เอธานก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ‘มันดูน่าเกลียดจริงๆ …. เดี๋ยวก่อน .. เนื่องจากฉันสามารถควบคุมมันได้ด้วยความคิดของฉัน ฉันอาจจะให้มันเป็นรูปทรงและดีไซน์ใหม่ก็ได้นี่? ‘
เมื่อคิดเช่นนั้นเขาก็มุ่งความสนใจไปที่ชุดสูททันทีและออกคำสั่งต่างๆเช่นเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์ใน ขณะที่เขาก็ได้จินตนาการถึงกางเกงยีนส์ที่ดูเท่จากชีวิตในอดีตของเขา
และชุดสูทก็กลายเป็นกางเกงยีนส์ที่เขาจินตนาการไว้ แต่สียังคงเหมือนเดิมคือสีดำเมทัลลิก
‘ฮ่าฮ่าฮ่า … ฉันสามารถเปลี่ยนมันเป็นรูปร่างได้ มันดูเท่มากถ้าฉันสามารถเพิ่มสีสันได้ แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถทำได้ ‘
ทันใดนั้นเขาก็เกิดความคิดขึ้นและใช้กางเกงสีดำไปรวมกับคริสตัลสีฟ้าที่อยู่ข้างๆ
แต่ … น่าเศร้าที่ครั้งนี้มันไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ
‘ดูเหมือนว่าคริสตัลสีแดงและคริสตัลสีน้ำเงินนี้จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกัน จากนั้นเอธาน ก็ออกจากอาณาจักรของพลังจิตของเขา แล้วมองไปที่คริสตัลสีดำ ที่อยู่ตรงหน้าเขา
“คริสตัลสีดำนี้ ยังคงมีเอสเซนส์ที่ดีเหลืออยู่ข้างใน … ” เอธานพึมพำ แต่แล้วก็ส่ายหัวขณะที่คิด
‘ไม่เป็นไรฉันไม่ต้องการมัน ซึ่งเป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยให้มันอยู่ที่นี่ตอนนี้ ฉันจะเอามันออกไป เมื่อฉันต้องการอะไรบางอย่างเพราะราคาของคริสตัลสีดำนี้น่าจะสูงมากอย่างไรก็ตาม ลิงนั่น ไม่สามารถดูดซับแก่นแท้ของมันได้ มันทำได้แค่นั่งมองที่นี่เพื่อเสริมสร้างร่างกายของมันทีละน้อยเหมือนคนทั่วไป ฮิฮิฮิ ‘
จากนั้นเอธานก็ออกจากถ้ำใต้ดินเพราะธุระของเขาที่นี่เสร็จแล้ว และก็ตอนนี้เป็นเวลาค่ำลงแล้วเพราะเขาใช้เวลาอยู่ที่นี่นานกว่า 6 ชั่วโมง
เขามองย้อนกลับไปหลังจากออกจากโพรงถ้ำเพราะได้ยินเสียงกรนอยู่ข้างหลัง
* ซซึ ซะซึ …. *
ลิงลายดำเลเวล 4 นอนกรนเสียงดังขณะพิงต้นไม้
“แล้วลิงตัวนี้ก็ไม่ได้เอาตัวช่วยมาเลยเหรอ ทำไมมันถึงพาฉันมาที่นี่ทั้งๆที่ฉันเอาชนะมันได้ล่ะ”
เอธานมีสีหน้าครุ่นคิด ‘อาจจะ … เพื่อที่ฉันจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปเหรอ? ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ ‘
“เพราะสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ตามสัญชาตญาณโดยเฉพาะสัตว์”
จากนั้น เอธาน ก็มุ่งหน้าเข้าไปในป่าเพื่อค้นหาสัตว์เลเวล 5 เพราะเขาไม่ต้องการเสียเวลา เพราะมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ต้องทำหลังจากตรวจสอบความแข็งแกร่งของเขาแล้ว
สิ่งที่สำคัญคือ … เพื่อตรวจสอบว่าเขาปลุกความสัมพันธ์ของธาตุไฟและธาตุสายฟ้าหรือไม่
ตอนที่ 14: รู้สึกไม่ได้เลย …
เอธานลุกขึ้นยืน ในขณะที่เขายังคงมีสีหน้ามึนงง เขากำลังพึมพำ “WT … ” ก่อนที่จะพูดจบเขาก็สบถ WTF อีกครั้ง และเขาก็เอาความคิดของเขาออกจากหัว ขณะที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงจากความตื่นเต้น
แต่ในไม่ช้า เขาก็สงบลงขณะที่กำลังคิดว่า ‘อืมความแข็งแกร่งของฉันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และดูเหมือนว่ามันจะมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันควรตรวจสอบความแข็งแกร่งของร่างกายก่อน ‘ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็เข้าไปในห้องดับเพลิงที่ไม่ได้ถูกยึดครอง
หลังจากเข้ามาแล้วเขาก็ยืนอยู่หน้าแถวของที่จับ “ฉันควรเริ่มด้วยระดับ 7 จากระดับ 4 ถึงระดับ 7 ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของฉัน และฉันจะยืนอยู่ตรงกลางมันในครั้งนี้”
เมื่อตัดสินใจอย่างนั้นเขาก็ดึงที่จับระดับ 7 ลง
หลังจากนั้นเปลวไฟที่รุนแรงก็พวยพุ่งออกมาจากตรงกลาง และเขาก็ค่อยๆเคลื่อนไปข้างหน้าด้วย ตอนนี้ความตื่นเต้นของเขาเพิ่มขึ้นทุกย่างก้าว เพราะเขาไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่ความร้อน
แม้ว่าจะมาถึงช่วงที่แยกพื้นที่ส่วนที่เหลือไปยังเวทีตรงกลางที่เปลวไฟกำลังลุกไหม้อยู่ แต่เอธาน ก็ยังไม่รู้สึกอะไรเลย เขาไม่มีแม้แต่เหงื่อซักเม็ดเดียวเพราะเขาไม่สามารถสัมผัสถึงความร้อนได้ ตอนนี้เหมือนกับว่าร่างกายของเขามีอุณหภูมิปกติและเปลวไฟตรงหน้าเขาไม่สามารถส่งผลกระทบต่อเขาได้เลย
จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าในเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำและทันทีที่เข้าไปในใบหน้าของ เอธานก็เปลี่ยนไปทันที
ใบหน้าของเขาแสดงอาการตกใจ ไม่เชื่อ ตื่นเต้น ฯลฯ เพราะเขายังคงไม่รู้สึกอะไร
ไม่มีความร้อนแม้แต่นิดเดียว เขารู้สึกไม่แตกต่างระหว่างตอนที่ยืนอยู่ในเวทีหรือนอกเวที
“อื้อ … ” เอธานพึมพำด้วยใบหน้ามึนงง แต่ในไม่ช้าเขาก็หลุดออกจากความคิดของเขาเองและมาถึงแถวที่จับอีกครั้งก่อนจะดึงที่จับระดับ 8 ลง
คราวนี้แทนที่จะเดินช้าๆเขากลับเดินเร็วและมาถึงตรงกลางเวทีที่มีเปลวไฟที่น่ากลัวกำลังเต้นอยู่ แต่หลังจากยืนอยู่ตรงกลางเป็นเวลา 1 นาทีเขาก็ยังไม่รู้สึกอะไรเลย ‘บ้าน่า นี่มันไม่ใช่ร่างกายของฉัน มันแรงแล้วนี่นา? ไม่มีความรู้สึกเลย – ยังมีระดับ 9 และระดับ 10 อีกนี่…’
หลังจากนั้น เอธานก็ดึงที่จับระดับ 9 ลงมา และยืนอยู่ตรงกลางเวทีในขณะที่เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่ออีกครั้ง เพราะเขายังไม่รู้สึกอะไร ‘นี่มัน …. ‘
จากนั้นเขาก็เดินไปที่แถวของด้ามจับอีกครั้งอย่างงุนงง ก่อนจะดึงที่จับระดับ 10 ลงและยืนอยู่ตรงกลางและมีสีหน้างุนงง ตอนนี้เขามีแต่ความรู้สึกเดียวกัน เพราะว่าเขายังคงไม่รู้สึกอะไรเลย แม้จะอยู่ในระดับความยากระดับ 10 ก็ตาม
หลังจากไม่เชื่อมาระยะหนึ่ง เอธานก็หลุดออกจากความคิดนั้นได้อีกครั้ง
‘เดี๋ยวก่อน นอกจากนี้มันก็ยังมีความเป็นไปได้อีกอย่าง ที่ร่างกายของฉันจะได้รับความต้านทานต่อไฟและสายฟ้าที่สูงมากไปแล้ว หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พลังงานทั้งสองนั้นทำให้ฉันต้องนอนราบลงไปกับพื้นตอนก่อนหน้านี้ที่มันได้ให้โครงสร้างร่างกายใหม่แก่ฉัน
ดังนั้นจึงมีองค์ประกอบของธาตุอื่นที่ระดับความยากระดับ 10 อีก แทนที่จะเป็นฟ้าร้องและไฟ มันจึงมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับความเสียหายจากย่างอื่นอีก … แต่หลังจากที่วังวนสีดำดูดซับแก่นแท้ขององค์ประกอบอื่น ๆ แล้ว ฉันก็จะได้รับระดับความต้านทานขององค์ประกอบเหล่านั้นมาเหมือนกันสินะ’
จากนั้นเอธานก็ออกมาจาก ห้องไฟ และเข้าไปใน ห้องสายฟ้า ต่อ และเขาก็ได้ดึงที่จับระดับความยากระดับ 10 ลงแบบตรงๆทันที ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังคงไม่รู้สึกอะไรเลย แม้จะยืนอยู่ตรงกลางแล้วก็ตาม
“แม้ว่าความแข็งแกร่งของร่างกายของฉันจะยังคงเป็นปัญหาต่อความเสียหายทางกายภาพและองค์ประกอบอื่น ๆของธาตุอยู่ แต่ฉันก็ควรที่จะต้องตรวจสอบความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉันก่อนด้วย”
จากนั้นเอธานก็เริ่มเดินช้าๆเพราะเขาไม่ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุแบบเดียวกันนี้อีก แต่เมื่อเขาค่อยๆเดินและเพิ่มความเร็วในการเดินเพื่อให้คุ้นเคยกับพละกำลังที่เพิ่งค้นพบนี้
หลังจากนั้นไม่นาน เอธาน ก็เพิ่มความเร็วของเขาอีกครั้ง และเริ่มวิ่งจ็อกกิ้ง ซึ่งเกิดรอยแตก 2-3 จุดที่แพร่กระจายไป ในขณะที่เขากำลังวิ่งจ็อกกิ้ง ซึ่งถ้ามีคนมาเห็นมันจะสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนรอบข้างแน่นอน แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที เขาก็ควบคุมสิ่งนั้นได้และสามารถวิ่งได้ตามปกติโดยไม่ทำลายพื้นผิวของภูเขา
ดังนั้นเอธานก็ยังคงเพิ่มความเร็วของเขาไปด้วย ในขณะที่เขาก็ปรับตวให้เข้ากับความแข็งแกร่งใหม่ของเขาซึ่งในที่สุดเขาก็เริ่มวิ่งได้อีกครั้ง …
รอยแตกยังแพร่กระจายไปเรื่อยๆ ในขณะที่เขากำลังวิ่ง แต่เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการปรับตัว และปรับมันไปด้วยในขณะที่เขาเพิ่มความเร็วในการวิ่งของเขาไปเรื่อย ๆ
จากนั้นเอธานก็เดินผ่านบริเวณที่ผู้คนยังพลุกพล่านก่อนที่จะเข้าไปด้านหลังของภูเขา
แต่เขาไม่รู้ตัวว่าเขาทำให้เกิดความปั่นป่วนในบริเวณนั้นไปแล้วเพราะความเร็วของเขานั้นเร็วเกินไป
“นั่นอะไรน่ะ จู่ๆฉันก็รู้สึกว่ามีลมพัดมา”
“ฉันเองก็เกือบจะตกจากเก้าอี้”
“ฉันเห็นฉันเห็นเงาคนผ่านไปด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ซึ่งทำให้เกิดลมนั่น ฉันมองเห็น แต่มันพร่ามัว มาก แต่ฉันแน่ใจว่าเขาเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 18-19 ปี”
คนในพื้นที่จึงเริ่มคาดเดาว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นใคร
…
ในขณะเดียวกัน เอธานก็มาถึงด้านหลังของภูเขา
เขามาถึงหน้าก้อนหินขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เมตรและใช้มือขวาชกต่อยเข้าไปที่มัน
* บูม …
ก้อนหินแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ แต่เอธานกลับขมวดคิ้ว ขณะที่เขาพึมพำ “ ให้ตายเถอะ ฉันจะตรวจสอบความแข็งแกร่งของตัวเองไม่ได้ด้วยวิธีนี้แล้ว ก้อนหินที่นี่อ่อนแอเกินไป ฉันไม่ได้ใช้พลังไปครึ่งหนึ่งเลยด้วยซ้ำ เมื่อกี้นี้น่ะ….”
หลังจากคิดอยู่ 2-3 วินาทีเขาก็เกิดความคิด “แล้วถ้าฉันจะลองทำลายมันจากระยะไกลได้ล่ะ เนื่องจากความแข็งแกร่งของฉันเพิ่มขึ้นมาก เพียงแค่คลื่นกระแทกเพียงอย่างเดียวก็สามารถระเบิดก้อนหินได้ใช่ไหมนะ”
จากนั้นเอธานก็พบก้อนหินขนาดใหญ่อีกก้อนหนึ่งและยืนอยู่ห่างจากมันเป็นระยะ 1 เมตร
“ คราวนี้ฉันควรใช้พละกำลังให้เต็มที่” เอธานใช้ท่าทางง่ายๆและเหวี่ยงหมัดด้วยพละกำลังทั้งหมดนี้
* บู้มมมมมมมมม….. *
ครั้งนี้ก้อนหินถูกบดละเอียดมากขึ้นและกลายเป็นชิ้นส่วนมากกว่าก้อนหินก่อนหน้านี้ เพราะเพียงแค่คลื่นกระแทกจากหมัดเต็มกำลังของเขาที่ทรงพลังนั้น
จากนั้นเอธานก็พบก้อนหินอีกก้อนและยืนห่างจากมัน 5 เมตรก่อนจะเหวี่ยงหมัดด้วยพลังเต็มที่ของเขาอีกครั้ง
* — * (ไม่มีก้อนหินไม่ถูกระเบิดดังนั้นจึงไม่มีเกิดเสียง)
คราวนี้ก้อนหินไม่ได้ถูกระเบิด เนื่องจากคลื่นกระแทกจำนวนมากได้สลายไปก่อนที่จะถึงก้อนหิน แต่ก็ยังสามารถขว้างก้อนหินได้ในระยะไกล
“นี่มันไม่มีประโยชน์เลย ฉันควรไปที่ป่าเพื่อต่อสู้กับสัตว์ร้าย ใช่ .. ” เมื่อคิดถึงความคิดนี้ได้ เอธาน ก็พยักหน้าให้กับตัวเอง ขณะที่เขาเริ่มวิ่งด้วยความเร็วที่รวดเร็วไปยังป่าอีกครั้ง คราวนี้เขากำลังควบคุมมันทั้งหมด รวมถึงความแข็งแกร่งของเขา ซึ่งทำให้เขาเพิ่มความเร็วได้
ขณะที่เอธานกำลังวิ่งเขาคิดต่อว่า “บางที หลังจากที่ร่างกายของฉันได้รับการขัดเกลาอีกครั้งด้วยองค์ประกอบของธาตุอีก 1 หรือ 2 ชนิด ฉันจะสามารถทำลายกำแพงเสียงได้ และไม่ต้องรออะไนอีก ทำไมฉันถึงต้องวิ่ง ในเมื่อฉันบินได้ล่ะ
สำหรับตอนนี้ฉันไม่สามารถบินได้เพราะพลังจิตของฉันต่ำเกินไป แม้ว่าฉันจะพยายามแล้ว แต่มันก็จะหมดลงหลังจากบินไปได้ไม่กี่นาทีและความเร็วในการวิ่งของฉันก็จะเร็วกว่าตอนนี้แน่นอน ตแนที่ฉันบินอยู่ “
เขาโยนความคิดที่ไม่จำเป็นออกไป และมุ่งเน้นไปที่การวิ่ง
หลังจากวิ่งเต็มสปีด 10 นาที เอธานก็มาถึงในป่า
ในขณะที่เขาเข้ามากระทิงเขาไฟเกรด 1 ก็ปรากฏตัวขึ้น แต่เอธาน ไม่สนใจมันและมุ่งหน้าเข้าไปในป่าเพื่อค้นหาสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งกว่านี้
‘ก่อนอื่นเรามาหาสัตว์เกรด 4 กันก่อน ครั้งสุดท้ายที่ฉันมาที่นี่ ฉันไม่สามารถเอาชนะสัตว์ร้ายระดับ 2 ได้ แต่ตามความแข็งแกร่งของร่างกายฉันในตอนนี้อาจะทำได้ ฉันควรจะสามารถจัดการสัตว์ร้ายระดับ 4 ได้แล้ว ‘
สัตว์ระดับ 4 มีพลังเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญธาตุและ ด่าน 7 ในสงครามธาตุ
ในขณะที่ เอธาน กำลังมุ่งหน้าเข้าไปข้างใน เขาก็เริ่มพบสัตว์เกรด 2 และเกรด 3 แต่เขาก็ยังไม่สนใจพวกมัน ในขณะที่เขามุ่งหน้าเข้าไปลึกอีก
* ชา … ฉะ … ชา *
ทันใดนั้นงูหลามเขี้ยวสีเขียวเกรด 3 ก็โจมตีมาที่เอธาน ทันใดนั้นมันก็ออกมาจากด้านข้างและพันรอบร่างของเอธานอย่างรวดเร็ว
เอธานล้มลงพร้อมกับเสียงดังในขณะที่เขาพึมพำไปด้วย “ให้ตายเถอะฉันควรใส่ใจกับสภาพแวดล้อมของฉันมากกว่านี้สินะ”
ในขณะที่เอธานกำลังพึมพำ งูหลามสีเขียวระดับ 3 ก็ไม่เสียเวลาเพราะมันอ้าปากของมันทันที ซึ่งมันมีเขี้ยวสีเขียวที่เต็มไปด้วยพิษและกัดที่ไหล่ของเอธาน
แต่ทันใดนั้นงูหลามก็แข็งตัว หลังจากที่มันกัดไหล่ของเอธานอีกครั้ง
เพราะมันไม่สามารถทะลุผิวหนังของเป้าหมายได้ ถ้างูหลามตัวนี้พูดได้มันคงจะพูดว่า “NANI?!(นาหนิ๊!?) WTF เกิดไรขึ้นเนี่ยยย”
เมื่อเห็นผลลัพธ์ของการโจมตีของงูหลาม เอธานก็ยิ้มแล้วเหยียดมือของเขาที่ถูกงูหลาม โอบรอบร่างของเขา และหลังจากเหยียดมือออกกว้าง เขาก็ฉีกร่างของงูหลาม ที่พันรอบตัวของเขาออกเป็น 3 ส่วนอย่างรุนแรง
หลังจากฆ่างูหลามแล้ว เอธานก็ยังคงมุ่งหน้าลึกเข้าไปในป่าเพื่อค้นหาสัตว์ร้ายระดับ 4
และหลังจากเดินไปอีก 20 นาที ในที่สุดเขาก็ได้พบกับสัตว์เกรด 4
มันเป็นลิงลายดำระดับ 4 ซึ่งเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะในเรื่องของร่างกายที่แข็งแกร่งและความแข็งแกร่งของมัน
“ฮ่าฮ่า สมบูรณ์แบบ” เมื่อเห็นลิงเอธานก็รีบวิ่งเข้าหาลิงทันทีและลิงก็สังเกตเห็นเอธาน ซึ่งมันก็รีบวิ่งเข้าหาเขาด้วยดวงตาสีแดงเช่นกัน
ตอนที่ 13: WTF … WTF … WTF …
ปัจจุบันเอธานอยู่ที่สถานที่ฝึกภายในห้องของสายฟ้า
…
เมื่อวานนี้ หลังจากทำลายก้อนหินและมองไปที่มือซ้ายของเขา ซึ่งมันเปลี่ยนไปโดยพลังงานสีแดงและสีน้ำเงินที่มาจากวังวนสีดำ เอธาน แทบรอไม่ไหวที่จะเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายทั้งหมดของเขาหลังจากตื่นนอน
ก่อนอื่นเขาได้รับอนุญาตให้ลดเวลาทำงานได้แทนที่จะกลับบ้านเวลา 15.00 น. เขาสามารถกลับบ้านได้เวลา 12.00 น. จากนั้นวันนี้หลังจากทำงานจนถึง 12.00 น. เขาก็มาถึงโซนฝึกซ้อมและเข้าไปข้างในห้องสายฟ้า
เอธานมีสีหน้าครุ่นคิด ในขณะที่เขามองไปที่ระดับของด้ามจับ ก่อนหน้านี้เขาฝึกที่ระดับความยากระดับ 4 แต่ตอนนี้เขาต้องการที่จะเพิ่มมัน เพื่อดูดซับแก่นแท้มากขึ้น เพราะเห็นได้ชัดว่าความยากในระดับที่สูงขึ้นนั้นมีแก่นแท้มากกว่า
‘ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ว่าห้องเหล่านี้แต่ละห้องมีสายใต้ดิน ซึ่งเชื่อมต่อกับกลไกและภาชนะที่มีธาตุคริสตัล โดยกลไกคือการดูดซับพลังงานจากคริสตัลเหล่านั้น และกลายเป็นสายฟ้าและไฟที่แท้จริง ดังนั้นเราถึงจะเป็นนักรบธาตุได้ ในฝึกร่างกายของเรา ‘
เอธานคิดแผนการและเขาก็อยากจะลองทันที แม้ว่ามันอาจจะเสียผลึกธาตุไปมากมายเพียงใด แต่ … ‘เมื่อพิจารณาว่าเส้นทางการฝึกฝนของฉันแตกต่างออกไป มันจึงไม่จำเป็นต้องลังเลที่จะใช้วิธีการนี้ เมื่อมันมีให้เพิ่มขึ้น ความเข้มแข็งของฉันก็จะเพิ่มตาม ‘
เมื่อคิดแล้วเอธานก็ดึงที่จับระดับ 10 ลงมา และทันใดนั้น พลังงานฟ้าร้องที่น่ากลัวก็ปะทุขึ้น เมื่อสลักเกลียวแสงและทันใดนั้นแส้แสงก็ปรากฏขึ้นตรงกลางห้อง
แต่เอธาน ไม่ได้เข้าไปตรงกลางเพื่อสัมผัสกับสลักเกลียว และแส้หนาเหล่านั้น ในขณะที่เขาเพิ่งมาถึงนอกระยะในบริเวณใกล้เคียง แต่การอยู่ที่นั่นเพียงไม่กี่วินาที ก็ทำให้ผิวหนังของเขาแตกได้ เขาจึงถอยออกมาอีกเล็กน้อยเพื่อที่เขาไม่ต้องตกเลือดตายหลังจากนอนหลับไป
ใช่แล้ว เขาวางแผนที่จะนอนหลับหลังจากเติมพลังวังวนสีดำเสร็จโดยใช้พลังจิตของเขา เพื่อให้วังวนสีดำสามารถดูดซับแก่นแท้และฟื้นพลังจิตของเขาในขณะนอนหลับไปด้วย เหมือนยิงนัดเดียวได้นกสองตัว
เนื่องจากเขาได้ทำการชำระและฟื้นฟูพลังจิตของเขาซ้ำ ๆ เมื่อผ่านมาไม่กี่วัน ความเร็วในการฟื้นฟูพลังจิตของเขาก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น และตอนนี้เขาใช้เวลานอนเพียง 2 ชั่วโมง เพื่อฟื้นฟูพลังจิตจำนวนเล็กน้อยที่เขามีเท่านั้น
แต่เวลาในการฟื้นฟูอาจจะต้องเพิ่มขึ้น หลังจากปริมาณพลังจิตเพิ่มขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามันจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่เขาล้างสิ่งสกปรกสีเทาทีละน้อยในแต่ละวันได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเพิ่มพลังให้วังวนสีดำแล้ว เขารู้สึกได้ถึงแก่นของสายฟ้าที่ถูกดูดซับโดยมัน แล้วเขาจึงหลับตาและเตรียมพร้อมที่จะนอนหลับพักผ่อน
ตอนนี้เขามีความต้านทานต่ออาการปวดหัวของเขาและมันก็เพิ่มขึ้นในทุกวันเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดมากเท่าที่รู้สึกในครั้งแรก แต่เนื่องจากเขารู้สึกเหนื่อยล้าทางจิตใจ หลังจากที่ได้ใช้พลังจิตหมดไปแล้ว เขาจึงเลือกที่จะนอนพักในขณะที่ยังคงโดนประกายไฟที่แผ่กระจายออกไป แต่ตอนนี้เขามีภูมิคุ้มกันต่อความเจ็บปวดในระดับต่ำแล้ว
แสงจะหยุดลงหลังจากผ่านไป 30 นาที แต่เอธานก็ยังคงหลับไป 2 ชั่วโมงและหลังจากตื่นนอน เขาก็ตรงไปที่ห้องฝึกไฟและทำเช่นเดียวกันนั้นทุกวัน
หลังจากใช้เวลา 2 ชั่วโมงในห้องฝึกแห่งไฟแล้ว เขาก็ออกมาและตรวจสอบวังวนสีดำของเขา
‘อืม…แก่นแท้ที่ฉันรวบรวมได้ ยังต่ำกว่าคริสตัลธาตุระดับสูง 1 ชิ้น ดูเหมือนว่าฉันต้องทำสิ่งนี้ไปอีกหลายวัน โดยการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นทุกๆ 2-3 วันฉันเดาว่างั้นนะ ‘
ด้วยความมุ่งมั่น เอธานก็ยิ้มและพูดกับตัวเองต่อไปว่า “มาทำเรื่องบ้าๆนี้กันเถอะ สิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่นั้นมันไม่สิ้นเปลืองเลยเพราะความยากระดับ 10 นั้น ช่วยให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นได้ แต่วิธีการแข็งแกร่งของฉันนั้นแตกต่างจากนักรบธาตุ “
…
…
ในวันที่ 2 มือขวาของเอธานก็ถูกเปลี่ยนได้ในที่สุด
ในวันที่ 5 หน้าอกของเอธานก็ถูกเปลี่ยนจนสำเร็จ
วันที่ 8 หน้าท้องเปลี่ยนไป
ในวันที่ 11 ขาซ้ายของเขาเปลี่ยนไป แต่เพียงส่วนหัวเข่าเท่านั้น
วันที่ 13 ขาซ้ายทั้งหมดเปลี่ยนแปลงไป
ในวันที่ 15 ขาขวาครึ่งหนึ่งของเขาเปลี่ยนแปลงต่อ
และวันนี้เป็นวันที่ 17 ตอนนี้ เอธานอยู่ในระหว่างการนอนหลับของเขาในห้องฝึกไฟ เขาได้ดูดซับแก่นแท้จากห้องฟ้าร้องไปแล้ว ดังนั้นหลังจากตื่นนอน ขาขวาทั้งหมดของเขาก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน เขารู้ว่ามีอะไรรอเขาอยู่ หลังจากเปลี่ยนร่างทั้งร่างไปแล้ว
2 ชั่วโมงผ่านไปอย่างเงียบ ๆ เมื่อเอธาน ตื่นขึ้นมา และเมื่อเขามองเข้าไปในอาณาจักรแห่งพลังจิตของเขา เขาก็จะสามารถเห็นวังวนสีดำที่ดูดซับส่วนสุดท้ายของธาตุไฟได้
“ในที่สุด ก็ถึงเวลาที่ฉันหวังไว้ ฉันจะสามารถปลุกความสัมพันธ์ของสายฟ้าและไฟมาได้ หลังจากที่ขาขวาของฉันถูกเปลี่ยนไป ซึ่งมันจะทำให้การเปลี่ยนแปลงของร่างกายของฉันสมบูรณ์แบบ” เอธาน อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น เมื่อคิดถึงเรื่องนี้
หลังจากสงบลง เขาก็มุ่งความสนใจไปที่อาณาจักรพลังจิตของเขา ในขณะที่วังวนสีดำดูดซับแก่นไฟจนหมดและตอนนี้มันก็จะปลดปล่อยพลังงานสีแดงและสีน้ำเงินแปลก ๆ เหล่านั้นออกมาในไม่ช้า ซึ่งจะเปลี่ยนขาขวาของเขาอย่างเต็มที่
หลังจากผ่านไป 20 นาที วังวนสีดำก็ปล่อยพลังงานสีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งมันตรงไปที่ขาขวาของเขา ใต้เข่าและเริ่มการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้เขาสามารถรู้สึกได้ แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นสิ่งนั้น ถ้าหากไม่ได้เสริมสายตาด้วยพลังจิตแล้ว
หลังจากการเปลี่ยนแปลงของขาขวาของเขาเสร็จสิ้น มันก็มีบางอย่างเกิดขึ้นภายในร่างกายของเอธาน
เอธาน ล้มลง พร้อมกับเสียงดัง ขณะที่เขาเริ่มกระตุก เขาอยากจะกรีดร้องอย่างรุนแรงในตอนนี้ เพราะความเจ็บปวดที่เขารู้สึกอยู่ในตอนนี้นั้น ไม่สามารถอธิบายได้ เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดมากขนาดนี้มาก่อน
เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างไร้ความเป็นมนุษยธรรม เพราะภายในร่างกายของเขาตอนนี้มีน้ำท่วมที่กำลังโหมกระหน่ำ เช่นเดียวกับที่เราเห็นเลือดไหลในเส้นเลือดของเรา และในตอนนี้ภายในร่างกายของเขาทั้งหมดกลายเป็นพลังงานไม่มีเลือด ไม่มีกระดูก ไม่มีอะไรเลย มีเพียงพลังสีฟ้าและสีแดงที่ไหลออกมาอย่างรุนแรงในทุกส่วนของร่างกายของเขา
ถ้ามีใครเห็นเอธาน ในตอนนี้ พวกเขาคงจะประหลาดใจ เพราะเอธานกำลังส่องแสงสีแดงและสีน้ำเงินพร้อมกับร่างกายของเขาที่ยุ่งเหยิง
หลังจากผ่านไป 30 นาทีแห่งความเจ็บปวดอันไร้มนุษยธรรม ทันใดนั้นเอธาน ก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ออกมาจากปากของเขา
* บลา ๆ ๆ ๆ ๆ *
จากปากของเขาตอนนี้มีสิ่งสกปรกสีดำออกมาและร่างกายของเขาก็ดึงสิ่งสกปรกสีดำออกมาด้วย ตอนนี้ความเจ็บปวดค่อยๆบรรเทาลง เมื่อเขาเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ภายในร่างกายของเขา
มันเหมือนกับว่า … เหมือนกับ … ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่รู้สึกถึงกระดูกหรือเลือด แต่เขาเริ่มรู้สึกอีกครั้ง ที่จริงแล้ว หลังจากที่มือซ้ายของเขาเปลี่ยนแปลงไป เขาคิดว่าร่างกายของเขาจะเปลี่ยนเป็นร่างกายที่มีพลังงาน แต่ตอนนี้เขารู้สึกถึงกระดูกของเขา เลือดและเส้นเลือด ฯลฯ อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามตอนนี้ เขาถูกปกคลุมไปด้วยสิ่งสกปรก ดังนั้นเขาจึงใช้พลังจิตของเขา เพื่อยกน้ำจากอ่างอาบน้ำ ซึ่งมักจะปรากฏขึ้นหลังจากการฝึก 30 นาทีและชำระร่างกายให้สะอาดทันที
ถ้าเขากระโดดลงไปในอ่างอาบน้ำ เขาก็จะทำให้น้ำสกปรก ดังนั้นเขาจึงใช้พลังจิตของเขาในการยกน้ำทีละนิดและชำระร่างกายของเขาไปด้วย
หลังจากทำความสะอาดร่างกายแล้วเขาก็กัดฟันและพึมพำ“ ทีนี้มาดูกันว่า แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของฉันกันแน่” พูดแบบนี้เสร็จ เขาก็ทำให้ดวงตาของเขาดีขึ้นด้วยพลังจิตและมองไปรอบ ๆ ร่างกายอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เขาตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น … ” เอธานจวนจะดึงขนของเขา หลังจากเห็นสถานการณ์ของร่างกายของเขา
“ทำไมร่างกายของฉัน ถึงกลับมาเป็นปกติทั้งๆที่ฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันเปลี่ยนไปจากที่ฉันเห็น แต่มันก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนฉันมองไม่เห็นพลังงานใด ๆ เลย มันไม่มีทั้งพลังงานสีแดงไม่มีทั้งพลังงานสีน้ำเงิน WTF!!!!”
“ทั้งหมดที่ฉันเห็นในตอนนี้ คือสิ่งที่คนปกติมีเช่นร่างกาย กระดูก กล้ามเนื้อ อวัยวะ ฯลฯ และทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพลังจิตของฉันเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันกันล่ะ”
จากนั้นเอธานก็เข้าสู่อาณาจักรพลังจิตของเขาและตกใจอีกครั้ง
เนื่องจากมีสีแดงและสีน้ำเงินคริสตัล 2 อันที่กำลังลอยอยู่ในอาณาจักรพลังจิตของเขา และไม่มีสิ่งเจือปนสีเทาอยู่รอบตัว ซึ่งหมายความว่าคริสตัลได้ชำระสิ่งเจือปนสีเทา เพียงแค่การปรากฏตัวของพวกมันเท่านั้น
‘แต่คริสตัลทั้ง 2 นั้นใช้เวลาเพียงไม่ถึง 5% ของพื้นที่ในอาณาจักรพลังจิตของฉัน ซึ่งหมายความว่าเพียงแค่ล้างสิ่งเจือปนน้อยกว่า 5% ปริมาณพลังจิตของฉันก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า แล้วถ้าฉันล้างมลทินสีเทาทั้งหมดออกแล้วล่ะก็พลังจิตของฉันจะทรงพลังขนาดไหนกันนะ มันจะกลายเป็นยังไงกัน? ‘
เอธานรู้สึกตื่นเต้น แต่แล้วเขาก็ตบความคิดนั้นออกไป ‘สำหรับตอนนี้เรามาดูกันดีกว่า ว่าคริสตัลทั้ง 2 นี้และร่างกายของฉันมีอะไรใหม่ๆบ้าง ‘
เอธานใช้สติของเขาและมองใกล้ ๆ คริสตัลทั้ง 2 ซึ่งมีพลังงานคล้ายกันอย่างมากที่เปลี่ยนร่างกายของเขา
หลังจากดูคริสตัลเหล่านั้น เอธานก็สรุปได้ว่าคริสตัลทั้ง 2 นั้นแน่นอนว่ามันถูกสร้างขึ้นจากพลังงานเดียวกันกับที่ปล่อยออกมาจากวังวนสีดำแน่นอน หลังจากดูดซับธาตุไฟและสายฟ้าไปแล้ว
เอธานออกมาจากดินแดนแห่งพลังจิตของเขาพลางพึมพำด้วยใบหน้าที่มืดมน“ ก่อนอื่น อ่างน้ำวนสีดำดูดซับแก่นสายฟ้าและธาตุไฟจำนวนมาก และคายพลังงานสีแดงและสีน้ำเงินลึกลับเหล่านั้นออกมา ซึ่งมันเปลี่ยนทั้งร่างกายของฉัน โดยทำให้ฉันถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรม ซึ่งทำให้ฉัน รู้สึกเหมือนโดนฆ่าตาย หลังจากนั้นพลังงานทั้ง 2 ก็กลายเป็นผลึกเหล่านั้น ในอาณาจักรพลังจิตของฉัน”
“ตอนนี้คำถามคือ ฉันจะได้อะไรหลังจากผ่านสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดไปได้? ” เอธานคิดแล้วส่ายหัว
แต่แล้วเขาก็คิดว่า ‘ไม่ ไม่ ฉันแน่ใจว่ามีประโยชน์ที่จะทำสิ่งนั้น ฉันต้องหาให้พบ ฉันแค่ต้องหามันให้เจอ ก่อนอื่นมาตรวจสอบความแข็งแรงของร่างกายกันก่อน เพื่อสิ่งนั้นฉันต้องไปที่ที่มีก้อนหิน ‘
ที่จริงมันมีสถานที่ทดสอบความแข็งแกร่งของนักรบธาตุอยู่ในพระราชวังแห่งหุบเขาแต่เอธาน ไม่ต้องการไปที่นั่น…
ดังนั้นเขาจึงรีบไปยังสถานที่ที่เขาทำลายก้อนหินนั้นด้วยมือซ้ายที่เปลี่ยนแปลงไปในตอนนั้น
แต่หลังจากยกขาขวาขึ้นแล้วกดไปข้างหน้ากับพื้นเพื่อพุ่งชน …สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น
เท้าขวาของเขาแทนที่จะพุ่งไปข้างหน้ามันกลับแทงเข้าไปในพื้นผิวภูเขาที่แข็งแกร่งแทน
“WTF …. ” ด้วยเหตุนั้นเอธาน จึงสะดุด ซึ่งทำให้เกิดรอยแตกกระจายเหมือนใยแมงมุมบนผิวน้ำทั้งที่ไม่ได้ใช้ลงน้ำหนักเท้าเลยแม้แต่น้อย
เอธานนอนราบ และตอนนี้บนใบหน้าของเขามีสีหน้าตกตะลึง และพูดอีกครั้งว่า “WTF …
ตอนที่ 12: การเปลี่ยนแปลงลึกลับ
เอธานกลับออกไปข้างนอก หลังจากวางคริสตัลระดับสูงทั้งสองนั้นไว้บนเตียงของเขา
จากนั้นเขาก็ถามกับลาฟิวเกี่ยวกับวิธีกำจัดสิ่งสกปรกในอาณาจักรพลังจิตของเขา “คุณบอกฉันได้ไหมว่าจะเอาสิ่งสกปรกในอาณาจักรพลังจิตออกไปได้ยังไง คุณเรนิลาบอกให้ฉันค่อยๆเอาออกไปทุกวัน แต่ไม่ได้สอนฉันว่าต้องทำอย่างไร ”
ลาฟิวหัวเราะและพูดว่า “เธอมักจะทำผลงานได้ครึ่งหนึ่งเสมอเลย อย่างไรก็ตามวิธีการกำจัดสิ่งเจือปนนั้นค่อนข้างง่าย ภายในขอบเขตพลังจิตของคุณ ถ้าคุณมุ่งเน้นมากพอ คุณก็จะสามารถให้พลังจิตของคุณในรูปแบบที่มั่นคงได้ จากนั้นคุณสามารถปะทะกับสิ่งสกปรกสีเทาภายในอาณาจักรพลังจิตของคุณได้ ในขณะที่การปะทะกันทั้งพลังจิตและความไม่บริสุทธิ์ของสีเทาจะลดลง”
“แต่พลังจิตของคุณจะฟื้นตัวหลังจากการนอนหลับที่ดี ในขณะที่สิ่งเจือปนสีเทาจะถูกกำจัดออกไปด้วย ผลลัพธ์ก็คือพลังจิตของคุณจะเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้งที่คุณกำจัดสิ่งเจือปนสีเทาออกไปนั่นเอง “
เอธานถามอย่างสงสัย “คุณยังล้างมลทินในอาณาจักรพลังจิตของคุณอยู่หรือไม่ … ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าได้กวาดล้างสิ่งสกปรกในอาณาจักรพลังจิตเมื่อ 5 ปีก่อนแล้ว เจ้าอาจจะไม่รู้ แต่ข้าเป็นผู้ที่กำจัดแกนกลางให้บริสุทธิ์ได้โดยที่อายุน้อยที่สุดด้วยนะ เด็กสุดในหุบเขานี้แล้วด้วย” เมื่อหยุดพูดถึงตรงนี้ ลาฟิวก็ส่ายหัวอย่างโหดเหี้ยมและพูดว่า “จริงๆแล้ว ฉันเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้นำแห่งหุบเขาคนต่อไป แต่ไมค์ เพื่อนของคุณมีองค์ประกอบอวกาศที่หายาก ดังนั้นหัวหน้าหุบเขา จึงทุ่มเททุกอย่างเพื่อฝึกฝนเขา เพื่อที่เขาจะได้เป็นหัวหน้าหุบเขาคนต่อไป อันที่จริงฉันมีความสุขที่เรามีคนที่มีองค์ประกอบอวกาศที่หายาก เพราะใน ทวีปอัลพินนี้ ที่หุบเขาสายฟ้า – ไฟของเราอยู่ตอนนี้คือระหว่างอันดับที่ 6 ถึง 7 เราไม่เคยติดอันดับ 5 อันดับแรก “
“โอ้ … มีการจัดอันดับด้วยหรอ แล้วคุณรู้อันดับได้ยังไงล่ะ?”
“ในการแข่งขันจะมีการแข่งขันระหว่าง ผู้เชี่ยวชาญธาตุ, นักเวทย์ธาตุ และ ผู้นำธาตุ การแข่งขันระหว่าง ผู้นำธาตุมีความซับซ้อนมาก เนื่องจากมีด่านย่อยของผู้นำธาตั้งหมด 3 ระดับ “
“คุณจะรู้จักพวกเขาในภายหลัง สำหรับตอนนี้คุณควรมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนของคุณและการล้างสิ่งสกปรกภายในอาณาจักรพลังจิต หลังจากที่คุณล้างสิ่งสกปรกทั้งหมดในอาณาจักรพลังจิตของคุณแล้ว ฉันจะบอกคุณเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้นำธาตุ “
เอธานพยักหน้า จากนั้นทั้งคู่ก็กล่าวคำอำลาแล้วเมื่อลาฟิวออกจากบ้านเขาไปแล้ว เขาก็นอนลงบนเตียงทันที พร้อมกับวางคริสตัลธาตุระดับสูง 2 อันไว้ข้างตัว ก่อนจะเข้าสู่อาณาจักรพลังจิตของเขา
‘ฉันหวังว่าวังวนสีดำนี้จะให้บางอย่างแก่ฉัน หลังจากดูดซับแก่นแท้จากผลึกธาตุระดับสูง 2 ชิ้นนี้ และถ้ามันยังไม่ให้อะไรฉัน ฉันจะเริ่มล้างสิ่งสกปรกออกไป ‘
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาปล่อยให้วังวนสีดำใช้พลังงานจิตทั้งหมดของเขาอีกครั้ง เพื่อเร่งกระบวนการต่างๆ ก่อนที่เขาจะเผลอหลับไปอีกครั้ง เนื่องจากความเหนื่อยล้าทางจิตใจและอาการปวดหัวที่เกิดขึ้นหลังจากสูญเสียพลังจิตทั้งหมด
…
…
หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไป ไม่มีใครรู้ได้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เอธาน ก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และทันทีที่ตื่นขึ้นมาเขาก็รู้สึกถึงความรู้สึกแปลก ๆ บนใบหน้าและในหัวของเขา
‘ใช่แล้วมีบางอย่างเกิดขึ้น ในที่สุด … ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่รู้สึกแปลก ๆ ในหัวและใบหน้าของฉัน มันเหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังนวดบริเวณเหล่านั้น ‘
หลังจากนั้นเขาก็เข้าสู่อาณาจักรแห่งพลังจิตของเขาทันที และแท้จริงแล้วการมองไปที่วังวนสีดำในครั้งนี้ทำให้ เอธานรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะในที่สุดก็มีบางสิ่งเกิดขึ้น
ตอนนี้วังวนนั้นมันกำลังปล่อยพลังงานสีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งจากนั้นก็แพร่กระจายออกมาจากอาณาจักรพลังจิตของเขา ก่อนที่จะเข้าไปในเซลล์เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อของศีรษะ (ใบหน้า) ของเขา
‘เดี๋ยวก่อนพลังงานนี้สามารถเสริมสร้างร่างกายของฉันได้จริงเหรอ? ‘ คิดอย่างนั้นได้ เขาถอนหายใจเพราะตอนนี้เขาต้องการปลุกความสัมพันธ์ธาตุก่อน ‘บางที หลังจากที่ทุกส่วนของร่างกายของฉันดูดซับพลังงานนี้แล้ว sหลังจากนั้นฉันคงจะปลุกความสัมพันธ์ให้กับ ธาตุสายฟ้า และ ธาตุไฟ ได้ในเวลาเดียวกันสินะ? ‘
จากนั้นเอธาน ก็เฝ้าดูวังวนสีดำที่ผลิตพลังงานสีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งจะเข้าสู่ทุกส่วนของร่างกายของเขาโดยเริ่มจากศีรษะ แต่ทันใดนั้นวังวนก็หยุดผลิตพลังงานและหลังจากนั้น 1 ชั่วโมงก็ผ่านไป
ต่อมาภายในชั่วโมงที่ผ่านมา พลังงานสีแดงและสีน้ำเงินก็ได้เข้าสู่ศีรษะ คอ และมือซ้ายของเขาเพียงแค่นั้น แม้ว่าเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้ว่าชิ้นส่วนเหล่านั้นเปลี่ยนไปอย่างไร เพราะจิตสำนึกของเขาสามารถเข้าสู่อาณาจักรแห่งพลังจิตได้เท่านั้น
‘ให้ตายเถอะ ฉันยังมีหน้าอกและมือขวา รวมถึงส่วนที่เหลือของร่างกายอีกนะ ฉันต้องการแก่นแท้มากอีกแค่ไหนกันนะ? บ้าเอ้ย’ เอธานอดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง
จากนั้นเขาก็ออกจากอาณาจักรพลังจิตของเขา เพื่อตรวจสอบผลของพลังงานที่เกิดจากวังวนสีดำ
‘ฉันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามือซ้ายของฉันแตกต่างจากมือขวาอย่างมาก ‘เอธาน ไม่สามารถบรรยายความรู้สึกได้อย่างชัดเจน’ เอาล่ะมาต่อยก้อนหิน และดูว่าพลังของฉันเพิ่มขึ้นบ้างไหมกัน ‘
อย่างแรก เขามองไปที่นาฬิกา ‘ตอนนี้เวลาตี 3 ทุกคนคงจะนอนแล้ว ฉันจะต้องไปที่ไกล ๆ จากที่นี่ เพื่อไปหาก้อนหิน ไม่เช่นนั้นเสียงนั่นอาจปลุกคนที่นี่ได้ ‘
หลังจากนั้นเขาก็เดินไปทางด้านหลังของภูเขาแห่งนี้ ซึ่งไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ‘มาลองที่ก้อนหินนั้นกันเถอะ ‘
เอธานหยุดอยู่ตรงหน้าก้อนหินที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร หลังจากเข้าสู่ท่าทางที่เรียบง่าย เอธานก็เหวี่ยงหมัด
* บู้มมมม *
ก้อนหินถูกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ขณะที่เอธานกำลังยืนอยู่ที่นั่นอย่างตะลึงงัน
หลังจากนั้นไม่นาน เอธานก็หลุดออกมาจากความคิดของเขา “โอ้ว มาย ก้อดดด นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ !!!”
เอธานไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นของเขาได้ เพราะเขาไม่ได้ชกเต็มกำลังนัก ในขณะที่เขารู้สึกแปลก ๆ ในมือซ้ายของเขาตอนนี้ด้วย
หลังจากสงบลงเขาก็พึมพำ “ก่อนอื่นฉันควรตรวจสอบว่ามีการเปลี่ยนแปลงใดที่เกิดขึ้นกับศีรษะและคอ รวมถึงมือซ้ายของฉันด้วย พลังงานสีแดงและสีน้ำเงินที่มาจากวังวนนั่น ให้ตายเถอะถ้าฉันมีความรู้เหมือนผู้บ่มเพาะอมตะในนิยายเหล่านั้น ฉันคงสังเกตร่างกายของตัวเองได้ แต่ตอนนี้สติของฉันเข้าสู่ อาณาจักรพลังจิตได้เท่านั้น ….. แต่เดี๋ยวก่อน .. “
ทันใดนั้น เอธานก็จำได้ว่าลาฟิวใช้พลังจิตของเขาร่วมกับดวงตาของเขา เพื่อสังเกตผลึกน้ำเหล่านั้น ‘บางทีฉันอาจจะทำเช่นนั้น เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของมือซ้ายของฉันได้ไหม? มาลองกัน. ‘
หลังจากการพักผ่อนจากการนอนหลับของเขาก็ฟื้นฟูพลังจิตของเขาได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงควบคุมพลังจิตของเขาได้ในทันทีและส่งมันเข้าไปในดวงตาของเขา
การมองเห็นของเขาเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขามองไปรอบ ๆ ตอนนี้เขาสามารถเห็นพลังธาตุไฟและฟ้าที่กำลังร้องที่กระจัดกระจายอยู่รอบ ๆได้ แม้ว่าในปริมาณที่น้อยก็ตาม แต่ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นพวกมันได้อย่างชัดเจนแล้วด้วยสี ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาสามารถรู้สึกได้ แต่ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นพวกมันได้แล้ว
จากนั้นเขามองไปที่มือซ้ายของเขาและตกใจ
เพราะ…
ส่วนผสมทางซ้ายมือของเขาคือสีแดงสดและสีน้ำเงิน จากนั้นเขาก็มองไปที่มือขวาของเขา ซึ่งตอนนี้มันดูปกติสำหรับเขา โดยไม่ต้องใช้พลังงานสักนิด
ในดวงตาปัจจุบันของเขามือซ้ายของเขาเปล่งประกายอย่างรุนแรงด้วยสีแดงและสีน้ำเงินที่สดใส ทันใดนั้นเอธานก็ปวดหัวและเมื่อรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ เขาก็หยุดส่งพลังจิตให้กับดวงตาของเขาทันที
‘บ้าเอ้ย การส่งพลังงานเข้าไปในดวงตาเพียงไม่กี่ 10 วินาทีก็ทำให้พลังจิตของฉันหมดไปเกือบหมดแล้ว … ‘
หลังจากถอนหายใจแล้วเขาก็คิดว่า ‘จากนี้ไปฉันควรใช้เวลาส่วนใหญ่ในการฝึกฝนในห้องไฟและสายฟ้า เพื่อรับแก่นแท้จากมันทุกวัน ถ้าฉันดึงด้ามจับระดับสูงลง ฉันก็จะได้รับพลังแก่นแท้มากขึ้นและ ในขณะที่ฝึกอยู่ในห้องนั้น ฉันจะทำความสะอาดสิ่งเจือปนสีเทาภายในอาณาจักรพลังจิตของฉัน เพื่อเพิ่มปริมาณพลังจิตที่ฉันสามารถใช้ได้ ‘
เอธานพยักหน้าให้กับตัวเองหลังจากวางแผนเกี่ยวกับการฝึกอบรมครั้งต่อไป
“ แต่ … หลังจากมองไปที่มือซ้ายของฉันแล้ว ฉันอยากจะลองทำอะไรหน่อย … ” ในขณะที่เอธานบ่นพึมพำเขาก็หยิบหินที่มีรูปร่างแปลกๆขึ้นมาจากพื้นด้วยมือขวา
จากนั้นเขาก็ชี้ขอบคมของหินที่นิ้วก้อยมือซ้ายของเขา “เดี๋ยวก่อนถ้าฉันตัดนิ้วของฉัน มันอาจขัดขวางฉันในการทำงานของฉันได้ ถ้างั้นฉันควรใช้วิธีที่ไม่รุนแรงนัก” จากนั้นแทนที่จะตัดนิ้วของเขา เขาก็วางแผนที่จะทำตัดบางแห่งบนฝ่ามือของเขาแทน
ทันทีที่ตัดฝ่ามือของเขา มันก็มีบางอย่างที่น่าอัศจรรย์เกิดขึ้นเพราะเลือดที่ควรจะมาไม่ได้ออกมาจากบาดแผล แต่พลังงานสีน้ำเงินและสีแดงกลับไหลออกมาเล็กน้อยเท่านั้น แต่มันกลับไปโดยอัตโนมัติ ก่อนที่จะปิดลงอย่างสมบูรณ์ในบาดแผล และหลังจากนั้นไม่กี่วินาที ฝ่ามือของเขาดูเหมือนไม่เคยถูกตัดมาก่อน
“โอ้ววว นี่มัน … ” เอธานไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น “พลังจากวังวนสีดำของราชา F ** ตอนนี้มือซ้ายของฉันมันเปลี่ยนไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว แต่ … แต่ … มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ”
หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เขาก็คิดว่า ‘เนื่องจากลูกไฟและการเสกสัตว์แห่งธาตุมันยังเป็นไปได้ในโลกนี้ ฉันก็คิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้เช่นกัน ฉันไม่ได้อยู่บนโลกเดิมอีกต่อไป ซึ่งมันไม่มีอะไรเลย และเมื่อฉันมาในโลกนี้ฉันอาจจะเจอกับสิ่งที่น่าตกใจมากกว่านี้อีกด้วย . ‘
‘บางทีหลังจากความสัมพันธ์กับธาตุตื่นขึ้นมา มันอาจจะทำให้ฉันสามารถควบคุมพลังงานแปลก ๆ เหล่านี้ที่ออกมาจากวังวนสีดำได้ แล้วฉันคิดว่าฉันจะสามารถทำสิ่งต่างๆได้มากมายเลย ‘ การคิดถึงความเป็นไปได้ในอนาคต เอธานไม่สามารถทำให้ความตื่นเต้นลดลงได้เลย
“ฉันแค่หวังว่าฉันจะได้รับ ความสัมพันธ์จากธาตุไฟ และ ธาตุสายฟ้า หลังจากที่ร่างกายของฉันถูกเปลี่ยนโดยพลังงานสีแดงและสีน้ำเงินจากวังวนสีดำแล้วด้วย” เอธาน บ่นพึมพำพลางเดินกลับไปที่บ้านเพื่องีบหลับสักครู่ ในขณะที่เขาใช้หมดพลังจิตอีกครั้ง…
ตอนที่ 11: แกนกลางของธาตุ?
เอธานไม่รู้ว่าเขาหลับไปตอนไหน แต่หลังจากตื่นขึ้นเขาก็เข้าสู่อาณาจักรของพลังจิตของเขาทันที
หลังจากเข้าไปแล้วเขามองไปที่วังวนสีดำ ซึ่งตอนนี้ไม่มีอะไรอยู่ในนั้น ‘ดูเหมือนว่าออร่าเหล่านั้น จะถูกน้ำวนสีดำย่อยสลายไปหมดแล้ว ในขณะที่ฉันกำลังนอนหลับ แต่ทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้น? มันควรจะให้ประโยชน์กับฉัน หลังจากดูดซับออร่าเหล่านั้น … หรือว่ามันต้องการอะไรมากกว่านั้น? ‘
จากนั้นเอธานก็หยิบผลึกน้ำระดับกลาง 2 ชิ้นและผลึกน้ำระดับต่ำ 8 ชิ้นออกมาหลังจากวางทั้งหมดไว้ข้างๆเขาแล้วเขาก็นอนลงบนเตียงอีกครั้งและเข้าสู่อาณาจักรแห่งพลังจิต
อันที่จริง หลังจากเข้ามาเขาเห็นว่าออร่าสีฟ้าเข้าสู่อาณาจักรแห่งพลังจิตของเขาและถูกดูดซับ โดยวังวนเพื่อเพิ่มความเร็ว เขาฉีดพลังจิตของเขาเข้าไปในวังวนสีดำอีกครั้ง ซึ่งดูดพลังงานทั้งหมดของเขาส่งผลให้เขาปวดหัวอย่างรุนแรงอีกครั้ง
หลังจากนั้นเขาก็หลับไปอีกครั้ง เนื่องจากความเหนื่อยล้าของจิตใจ
…
…
หลังจากเวลาผ่านไปไม่นานเขาก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง … ก่อนอื่นเขาตรวจสอบผลึกน้ำเหล่านั้น หลังจากลืมตาขึ้นพวกเขาก็ยังเหมือนเดิมรู้สึกว่าความมันวาวของมันลดลงเล็กน้อย
‘ตอนนี้ฉันยืนยันได้แล้วว่าวังวนสีดำไม่ได้ดูดซับพลังงานธาตุ แต่เป็นอย่างอื่น แต่มันคืออะไร? ‘
เมื่อได้ยินเสียงเคาะแล้วเอธานก็วางผลึกน้ำไว้ใต้หมอนแล้วไปเปิดประตู
“โย เด็กน้อยคุณเป็นยังไงบ้าง มันผ่านมา 1 ปีแล้วใช่มั้ยฮ่า ๆ ๆ … ” บุคคลนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลาฟิว
เอธานยิ้มและชวนเขาก่อนจะพูดว่า “ใช่ปีนึงแล้ว อะไรพาคุณมาที่นี่”
ทั้งสองคนนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนที่ ลาฟิวจะแสยะยิ้มและพูดว่า “เด็กน้อย ฉันประหลาดใจมาก เมื่อได้รับรายงานว่าคุณเปิดอาณาจักรพลังจิตของคุณตอนนี้ ถ้าคุณสามารถปลุกความสัมพันธ์ได้ คุณก็จะถูกนับเป็นอัจฉริยะที่จะดูแลโดยหุบเขานี้ ฮ่า ๆ ๆ ”
เอธานเพียงแค่ยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรในขณะที่ ลาฟิวถามว่า “แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไร คุณสามารถถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรของพลังจิตกับฉันได้และอย่าลืมชำระมลทินทุกวัน”
เอธานส่ายหัวขณะที่พูดว่า “ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเปิดอาณาจักรพลังจิตของฉันได้อย่างไร ฉันแค่ทำงานปกติในเหมืองและก็เป็นลมทันที เมื่อฉันตื่นขึ้นมาฉันพบว่าฉันสามารถเข้าไปในพื้นที่สีเทากับฉันได้ เมื่อรู้สึกตัวแล้วคุณเรนิลาก็ตรวจสอบและยืนยันว่าฉันสามารถใช้พลังจิตได้ตามปกติ “
ลาฟิวพยักหน้าอย่างครุ่นคิดก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่อง“ เกี่ยวกับไมค์ตอนนี้หัวหน้าหุบเขา กำลังพาเขาไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อฝึกฝนเพราะเราไม่มีทรัพยากรของพื้นที่ธาตุมากพอ แต่มีโซนอันตรายบางแห่ง ที่มีพลังงานธาตุอวกาศมากมาย ดังนั้นหัวหน้าหุบเขา จึงจับไมค์ไปที่โซนเหล่านั้นเพื่อฝึกฝน “
“ฉันแค่หวังว่าไมค์จะปลอดภัยในโซนเหล่านั้น”
ลาฟิวส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาเพราะหัวหน้าอยู่ด้วย ชายชราคนนั้นเป็นหนึ่งในนักเวทย์ธาตุ ที่ทรงพลังที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่”
ทันใดนั้นเอธานก็จำเกี่ยวกับคริสตอลน้ำได้ ‘บางทีฉันควรถามลาฟิว เกี่ยวกับสิ่งที่หายไปจากคริสตัลเหล่านี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ‘
เมื่อคิดได้แล้ว เขาก็ลุกขึ้นก่อนที่จะพูดกับลาฟิวว่า “เดี๋ยวก่อนฉันได้คริสตัลสีฟ้า มาเป็นค่าตอบแทน ตอนที่ฉันอยู่ในเมืองของฉัน คนพวกนั้นดูร่ำรวยมากและพวกเขาก็มอบสิ่งเหล่านั้นให้ฉัน เพียงเพราะฉันโดนรถม้าของพวกเขาชน ฮ่า ๆ ๆ ” จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องของเขาและใส่คริสตัลลงในกระเป๋าก่อนที่จะกลับมา
เขายื่นซองให้ลาฟิวก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้“ นี่คือคริสตัลพวกนั้น … ฉันอยากรู้ว่ามันมีค่าแค่ไหนและฉันจะหาอะไรมาแลกกับมันได้เพราะฉันใช้มันไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะฉันไม่มีความสัมพันธกับธาตุน้ำ ”
ลาฟิวเปิดกระเป๋าก่อนจะหยิบคริสตัลออกมาและพูดว่า “พวกมันเป็นแค่ผลึกน้ำระดับต่ำและผลึกน้ำระดับกลาง 2 ชิ้นคุณจะได้รับ …. ” เสียงของเขาหยุดลง ขณะที่เขาสังเกตเห็นบางอย่างในผลึก
เมื่อเห็นเอธานถอนหายใจด้วยความโล่งอกภายใน ‘ว้า ฉันคิดว่าคุณจะไม่สังเกตเห็นความแตกต่าง ตอนนี้บอกฉันว่าสิ่งที่ถูกดูดซับโดยวังวนสีดำคืออะไร ‘
มีบางอย่างเปลี่ยนไปเกี่ยวกับลาฟิว เมื่อเอธานสังเกตเห็นร่องรอยของพลังงานจิตใจรอบดวงตาของ ลาฟิว เนื่องจากเขาได้เปิดอาณาจักรแห่งพลังจิตของเขาและเริ่มใช้พลังงานจิตใจแล้ว เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงพลังกายสิทธิ์ของลาฟิว
หลังจากมองไปที่คริสตัลเป็นเวลาหนึ่งนาที ลาฟิวก็พึมพำ“ พลังสำคัญของผลึกน้ำเหล่านี้ถูกดึงออกมา แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะดึงพลังงานแก่นแท้ออกมาได้ หลังจากที่พลังงานทั้งหมดในคริสตัล ถูกทำให้บริสุทธิ์แล้ว”
เอธานไม่เข้าใจเขาจึงถามว่า “มีอะไรผิดปกติกับผลึกเหล่านี้หรือไม่?”
“อ๋อ คุณอาจไม่รู้ แต่พลังงานธาตุมีอยู่ 2 ชนิด ชนิดหนึ่งคือพลังงานธาตุปกติและอีกชนิดหนึ่งคือพลังงานธาตุเอสเซนส์โดยทั่วไป แล้วผลึกธาตุระดับต่ำและระดับกลางจะมีพลังงานเอสเซนส์ในปริมาณเล็กน้อยในขณะที่ ผลึกธาตุชั้นสูงระดับเกรดมีมากกว่า ตัวอย่างเช่น ผลึกธาตุระดับสูงมีพลังงานแก่นแท้ในปริมาณเท่ากัน ที่คุณสามารถหาได้จากผลึกธาตุระดับกลาง 10 ชิ้น … แต่ ” ลาฟิวมองลึกลงไปอีกครั้งที่ผลึกที่มอบให้ เขาโดยเอธาน
“ ผลึกพวกนี้ ที่คุณให้ฉันไม่มีพลังงานแก่นแท้เหมือนใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่างดูดซับมันจากพวกมัน โดยเฉพาะ แต่นั่นเป็นไปไม่ได้ … ”
ความอยากรู้อยากเห็นของเอธานกำลังเพิ่มขึ้น เมื่อเขาถามว่า “ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้?”
ลาฟิวใส่ผลึกกลับเข้าไปในกระเป๋าก่อนจะพูดว่า “ขออธิบายแบบง่ายๆว่า ถ้าฉันต้องการพลังงานแก่นแท้ที่มีอยู่ในผลึกเหล่านี้ ก่อนอื่นฉันต้องดูดซับพลังงานทั้งหมดจากพวกมันฉันไม่มีความสามารถที่จะ พลังแก่นแท้ และพลังธรรมดาแยกกันไม่ใช่แค่ฉัน แต่ไม่มีใครทำได้เพราะมันผสมกันในระดับลึกขนาดนั้น …. ” ลาเฟิวหยุดกึกแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะออกไปข้างนอก
เอธานตกตะลึงกับการจากไปอย่างกะทันหันของเขา“ อะไรกันเนี่ย … ” เขาลุกขึ้นยืนและออกไปข้างนอก แต่เขามองไม่เห็นลาฟิว ‘รอสักครู่ ‘คิดอย่างนี้เขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้น มองไปที่แสงแดดงีบทั้งสองของเขาดูเหมือนจะใช้เวลาทั้งวัน
แต่ไม่ถึงหนึ่งนาทีก่อนที่เขาจะเห็นลาฟิวบินมาหาเขาพร้อมกับ …. ถังในมือของเขา
เมื่อมาถึงหน้าลาฟิวได้ให้ถังน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำแก่เขาก่อนและพูดว่า “ถังนี้บรรจุน้ำจากแม่น้ำอีกสายหนึ่ง ซึ่งอยู่ด้านหลังเทือกเขาทั้งหมดนี้” จากนั้นเขาก็โบกมือและหยิบน้ำออกจากหน้าพวกเขา “ตอนนี้ น้ำนี้ มาจากแม่น้ำในภูเขานี้”
เมื่อเห็นเอธานพยักหน้าลาฟิวกล่าวต่อ “ถ้าฉันผสมน้ำจากแม่น้ำนี้ ลงในถังคุณสามารถแยกมันออกได้หรือไม่” เขาใส่น้ำแล้วลอยลงในถัง
เอธานตกตะลึง ขณะส่ายหัวและพูดว่า “นี่ … แน่นอนฉันแยกพวกมันไม่ออก”
ลาฟิวยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะแยกพลังงานธรรมดาและพลังงานธาตุออกจากกัน”
“ แล้วคุณจะดึงเอสเซนส์เอเนอร์จีออกมาได้อย่างไร คุณเคยพูดก่อนที่จะมีบางอย่างเกี่ยวกับการกลั่น”
ลาฟิวพยักหน้าและพูดว่า “จริง ๆ ให้ฉันถามคุณว่าคุณจะแยกเกลือออกจากน้ำได้อย่างไร เมื่อทั้งสองผสมกันแล้ว”
“จุดเดือดของน้ำต่ำกว่าเกลือมาก ดังนั้นหากน้ำระเหยเกลือก็จะยังคงอยู่แม้จะผสมกันแล้วก็ตาม”
ลาฟิวพยักหน้า“ อันที่จริงวิธีการรับพลังงานเอสเซนก็คล้าย ๆ กัน เมื่อเราดูดซับพลังงานทั้งหมดภายในผลึกธาตุแล้วเราจะทำให้พลังงานบริสุทธิ์โดยใช้พลังจิตของเราในกระบวนการนั้น พลังงานปกติจะสูญเสียไปเนื่องจาก กระบวนการกลั่นและมีเพียงพลังงานเอสเซนส์ เท่านั้นที่จะยังคงอยู่สำหรับการใช้พลังงานเอสเซนส์มันเร็วเกินไปที่คุณจะรู้ว่า แต่พ่อมดทุกธาตุต้องการแก่นพลังงานมากมาย เพื่อก้าวไปในเส้นทางของพวกเขาคุณจะรู้เมื่อคุณไปถึงจุดนั้น “
‘ทำไมถึงเป็นความลับ? แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าวังวนสีดำกำลังดูดซับแก่นแท้ขององค์ประกอบตลอดเวลา ขณะที่เอธานกำลังคิด ลาฟิวก็พูดอีกครั้ง
“ยังไงก็ตามฉันต้องการนำผลึกน้ำเหล่านี้ไปด้วย เพื่อการวิจัยแลกเปลี่ยน ฉันจะให้คริสตัลไฟระดับสูงและคริสตัลสายฟ้าระดับสูงแก่คุณได้อย่างไร?”
เอธานรู้สึกประหลาดใจ“ แต่มูลค่าของสิ่งที่คุณให้ฉันนั้นสูงกว่าสิ่งที่คุณได้รับ”
ลาฟิวหัวเราะและพูดว่า “เอธานหุบเขาของเราไม่ได้ขาด ธาตุสายฟ้า และ ธาตุไฟ เรายังมี ธาตุคริสตัลระดับสูงสุดของ สายฟ้า และ ไฟ เพียงแค่เอามันไป .. ” พูดอย่างนี้เขาก็ผลักทั้งสองระดับของคริสตัลสูง ไว้ในมือของเอธาน
“เอาล่ะถ้าคุณพูดอย่างนั้น … ” พูดอย่างนี้เสร็จเอธาน ก็กลับเข้าไปในบ้านของเขาและวางคริสตัลทั้งสองนั้น ไว้บนเตียงของเขาก่อนที่จะกลับไป
‘ถ้าคริสตัลเหล่านี้อยู่ใกล้ฉัน วังวนสีดำก็จะเริ่มดูดซับแก่นแท้อีกครั้ง และหากลาฟิว สัมผัสได้ถึงสิ่งนั้น มันก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากเพราะ ฉันยังต้องการเก็บเป็นความลับ ใครจะรู้ หลังจากได้ยินเรื่องนี้ฉันก็อาจจะกลายเป็นหนูตะเภาตกถึงข้าวสารก็ได้ ‘
ตอนที่ 10: อาณาจักรแห่งพลังจิตใจการค้นพบที่น่าตกใจ
จากนั้นเอธานก็ค่อยๆเคลื่อนตัวไปยังพื้นที่สีดำแม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นร่างของตัวเองที่นี่ แต่เมื่อเขาเอาแต่ใจการมองเห็นของเขาก็เคลื่อนไปสู่พื้นที่สีดำ
เมื่อเขามองเข้าไปใกล้ในที่สุดเขาก็สามารถเห็นสิ่งที่อยู่ในพื้นที่สีดำนั้นมันคือวังวนสีดำ
เมื่อมองไปที่วังวนสีดำให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมองดูส่วนหนึ่งของเขาเช่นเดียวกับที่เขาเข้าไปในพื้นที่ของวังวนสีดำ …
เขาตื่นขึ้นมาและได้ยินเสียง
“อะ … คุณตื่นแล้วเหรอรอสักครู่ฉันจะโทรหา คุณเรนิลา” เสียงผู้หญิงดังขึ้นเมื่อเอธานลืมตาขึ้น
การมองเห็นของเอธาน ยังไม่ชัดเจนนัก เขาจึงไม่สามารถมองเห็นคนที่รีบออกไปจากห้องได้ในตอนนี้
เขาขยี้ตาสักพักแล้วมองไปรอบ ๆ
‘ดูเหมือนมีคนอุ้มฉันมาที่นี่หลังจากที่ฉันเป็นลมในถ้ำขุด จากนั้นเอธาน ก็เริ่มคิดถึงประสบการณ์ของเขาในอวกาศสีเทาและวังวนสีดำนั้น
‘แล้วพื้นที่สีเทานั้นเกี่ยวกับอะไร? เป็นไปได้ไหมที่ฉันปลุกความสัมพันธ์ และวังวนสีดำนั่น? มันลึกลับมาก … ‘
ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าขณะที่เอธานก็เห็นผู้หญิง 2 คนคนหนึ่งอายุ 30 และอีกคนในวัย 40 เข้ามาในห้อง
หญิงวัย 40 เศษนั่งอยู่บนเก้าอี้หลักในห้องและมองไปที่เอธานก่อนจะพูด “สวัสดีฉันชื่อเรนิลา อโทอิส คุณสามารถเรียกฉันว่าคุณนายเรนิลาได้ คุณรู้สึกอย่างไรคุณปวดหัวหรือรู้สึกแบบใด ร่างกายไม่สบายตัว?”
เอธานส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า “ไม่ปวดหัวสบายดี …. แต่ … ” เอธานลังเลว่าเขาควรจะบอกเธอเกี่ยวกับพื้นที่สีเทาและวังวนสีดำหรือไม่
“ แต่? … ”
เอธานตัดสินใจบอกเธอเกี่ยวกับพื้นที่สีเทาว่า “มีบางอย่างอยู่ในตัวฉัน ถ้าฉันหลับตาและตั้งสมาธิฉันก็มาถึงอวกาศสีเทา … ฉันจึงอยากถามว่าคุณรู้อะไรเกี่ยวกับมันหรือไม่”
ปากของผู้หญิงทั้งสองอ้ากว้างมากจน เอธานถูกล่อลวงให้ใส่สิ่งของของเขาเข้าไป
เอธานถามอีกครั้งโดยไม่ได้รับคำตอบจากพวกเขา “แล้วคุณรู้ไหมว่ามันคืออะไร”
ทั้งสองคนออกอาการมึนงงขณะที่นางเรนิลาถามว่า “เอธาน คุณกำลังพูดความจริงหรือ? … ไม่เป็นไรเราจะรู้ทันที” เมื่อพูดอย่างนี้เธอก็หันไปหาผู้หญิงวัย 30 แล้วพูดว่า ” เย่หลิงรับแก้วน้ำและไม้วอเศษมา ”
“ได้ค่ะมาดาม” พูดอย่างนั้นเสร็จเธอก็เดินออกไปจากห้องเพื่อนำสิ่งของที่เรนิลาพูดถึง
หลังจากนั้นเรนิลาหันไปหาเอธานและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง คุณน่าจะเปิดอาณาจักรพลังจิตของคุณได้ไวที่สุดในอายุแค่ 17 ปี แต่คุณได้เปิดอาณาจักรพลังจิตของคุณแล้ว นั่นเหมือนปาฏิหาริย์เพราะแม้แต่ธาตุ นักเวทย์พวกเขาต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองทศวรรษในการเปิดมันหลังจากเริ่มเป็น ผู้นำธาตุ ”
“โอ้โห … ” เอธานอยากถามเกี่ยวกับวังวนสีดำ แต่แทนที่จะถามตรงๆเขาถามแบบอ้อม ๆ ว่า “คุณเรนิลาทำอย่างอื่นอยู่ในพื้นที่สีเทาข้างๆบรรยากาศสีเทาได้ยังไง”
คุณเรนิลาพยักหน้าและกล่าวว่า “พื้นที่นั้นเรียกว่าดินแดนแห่งพลังจิตและในนั้นพลังงานกายสิทธิ์ถูกผลิตขึ้นซึ่งไม่มีสี แต่โดยทั่วไปคุณจะรู้สึกได้ด้วยความกระชับเมื่อคุณเข้าสู่อาณาจักรแห่งพลังจิต ความเป็นสีเทาเป็นสิ่งเจือปนที่คุณต้องชำระโดยใช้พลังจิตของคุณ ทุกครั้งที่คุณทำความสะอาดส่วนหนึ่งของอาณาจักรพลังจิตของคุณพลังจิตของคุณจะแข็งแกร่งขึ้น “
เอธานพยักหน้าเมื่อได้ยินและยังยืนยันว่าวังวนสีดำภายในตัวเขาไม่ใช่เรื่องธรรมดา ‘ฉันจะตรวจสอบหลังจากกลับถึงบ้าน ‘
ในขณะนี้เย่หลิงมาพร้อมกับแก้วน้ำและไม้ยาวครึ่งเมตรหนาประมาณนิ้วหัวแม่มือ
เรนิลาหยิบแก้วขึ้นมาก่อนจะหันมาหาฉันแล้วพูดว่า “เอธานตอนนี้คุณต้องมีสมาธิและพยายามที่จะย้ายน้ำออกจากแก้วใช้พลังจิตของคุณพลังงานนี้ก็เหมือนกับมือของคุณคุณสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ ราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของคุณ เพียงแค่ตั้งใจที่จะย้ายน้ำออกจากแก้ว “
เอธานมองน้ำในแก้วแล้วจำใจจะย้ายน้ำออกจากแก้ว …
ในการลองครั้งแรกน้ำเพียงขยับและหกออกจากแก้ว แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้ลอยในอากาศได้ แต่ในการลองครั้งที่ 2 เขาก็ทำสำเร็จ
เขารู้สึกเหมือนได้จับคุณสมบัติของน้ำหลังจากนั้นเมื่อเขาลองน้ำทั้งหมดในแก้วก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาเคลื่อนไปรอบ ๆ ตามความประสงค์ของเขา
เมื่อเห็นเช่นนี้เรนิลาและเย่หลิงก็ตกใจ
เรนิลาคิดว่า ‘การควบคุมที่ดีเช่นนี้หลังจากเปิดอาณาจักรพลังจิต … ผู้ใช้พลังจิตอัจฉริยะ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ปลุกความสัมพันธ์ให้กับธาตุโชคร้ายอย่างแท้จริง ‘เธอทำได้แค่ถอนหายใจกับสถานการณ์ของเอธานและหวังว่าเขาจะปลุกความสัมพันธ์ในไม่ช้า
หลังจากนั้นพวกเขาบอกให้เอธาน ควบคุมไม้ที่เขาทำในครั้งแรกทำให้ผู้หญิงทั้งสองถอนหายใจด้วยความประหลาดใจอีกครั้ง
จากนั้นเรนิลาก็อธิบายกับเอธานว่า “ตอนนี้คุณได้ตื่นขึ้นมาแล้วด้วยอาณาจักแห่งจิตใจ คุณต้องทำความสะอาดสิ่งเจือปนสีเทาทุกวัน การล้างมลทินสีเทาจะทำให้จิตใจของคุณหมดแรง และใช้พลังจิต ดังนั้นอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอทุกวัน “
เอธานพยักหน้าขณะที่เขาออกจากห้องหลังจากมองดูนาฬิกา ‘เนื่องจากเพิ่ง 11.00 น. ฉันควรขุดคริสตัลสีดำ ‘
หลังจากเอธานออกจากห้องผู้หญิงพวกนั้นก็เริ่มซุบซิบ
เรนิลาพูดกับเย่หลิงด้วยสายตาที่ถามว่า “คุณตรวจสอบขนาดของเขาตอนที่ฉันไม่อยู่หรือเปล่า?”
แก้มของอี้หลิงเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยก่อนที่เธอจะส่ายหัว “ไม่ฉันไม่ได้ทำ”
เรนิลายังส่ายหัว “ฉันต้องไปธุระไม่งั้นจะได้ไปตรวจดู …. ”
…
…
เอธานมาถึงสถานที่ขุดหลังจากเข้าไปทุกคนถามว่าเกิดอะไรขึ้นเขาตอบด้วยรอยยิ้มว่า “มันไม่มีอะไรฉันเพิ่งเปิดอาณาจักรพลังจิตของฉันนั่นคือทั้งหมดที่เกิดขึ้น”
เมื่อได้ยินเขาทุกคนก็กลอกตา ขณะที่หนึ่งในนั้นพูด “คุณแค่เปิดอาณาจักรพลังจิตของคุณเหรอ น้องชาย คุณกำลังทำให้ดูเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ฮ่า ๆ ๆ ”
คนอื่น ๆ พยักหน้าขณะที่หนึ่งในนั้นถามด้วยความสงสัย “ทำไมคุณไม่แสดงกลเม็ดโดยใช้พลังจิตให้พวกเราดูล่ะ?”
เอธาน ยิ้มอย่างเฉยเมย ขณะที่เขาจ้องมองไปที่ชิ้นส่วนของคริสตัลสีดำซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็เริ่มลอยและมาถึงหน้าคนที่เพิ่งถามเขาทำให้เขาตกใจ
“ฮ่าฮ่าฮ่า … ” นักรบคนอื่น ๆ เริ่มหัวเราะ
ชายหัวโล้นที่อุ้มเขาพูดว่า “น้องชายตัวเล็กที่น่าทึ่งเด็กคนนี้และได้เปิดอาณาจักรพลังจิตแล้ว อย่างน้อยฉันก็ไม่เคยเห็นคนที่อายุน้อยเหมือนคุณเปิดอาณาจักรพลังจิตมาก่อน”
หลังจากนั้นทุกคนก็คุยกันเล็กน้อยก่อนจะกลับไปขุด
* เสียงดัง
* เสียงดัง
แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นแม้แต่เอธานเองว่าในขณะที่เขากำลังขุดผลึกสีดำออร่าของเธรดแห่งสีดำกำลังถูกดูดออกจากผลึกดำและกำลังถูกเขาดูดซับ
ถ้าเขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งพลังจิตของเขาในตอนนี้เขาจะสามารถเห็นได้ว่าวังวนสีดำกำลังดึงดูดและดูดซับออร่าสีดำจากคริสตัลสีดำ
แต่เนื่องจากออร่านั้นไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เอธานและคนอื่น ๆ จึงไม่สามารถมองเห็นได้
หลังจากทำงานจนถึงบ่าย 3 โมง เอธานก็มาถึงโซนฝึกและเข้าไปใน ห้องแห่งไฟ
เมื่อเข้ามาเขาถอดเสื้อผ้าใส่กล่องที่ผนังด้านซ้ายและดึงมือจับระดับ 3 ลง
ทันใดนั้นไฟที่รุนแรงก็เริ่มลุกไหม้กลางห้องขณะที่เอธานเดินไปที่นั่นและยืนอยู่ตรงกลาง
ผิวหนังของเขาไม่ได้ไหม้ แต่เป็นเพียงสีแดงและมีรอยแตกเป็นครั้งคราวและปรากฏการณ์เดียวกันนี้ก็เริ่มต้นขึ้นที่นี่เธรดของออร่าสีแดงได้รับการดูดซับโดยวังวนในอาณาจักรพลังจิต
เมื่อเอธานไปที่ห้องสายฟ้าและเริ่มฝึกหลังจากอาบน้ำในอ่างน้ำสีเหลือง ปรากฏการณ์เดียวกันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เกลียวของออร่าที่เหมือนสายฟ้าได้ถูกดูดซับโดยวังวนสีดำ
ในไม่ช้าเขาก็ฝึกในห้องฟ้าผ่าเสร็จและกลับไปบ้านกลับมาถึงบ้านเขาคิดว่า ‘ตอนนี้เรามาทำความสะอาดสิ่งสกปรกกันเถอะ แต่ฉันลืมถามวิธีทำความสะอาดสิ่งเจือปนสีเทา … ‘
‘ไม่เป็นไรฉันควรตรวจสอบวังวนสีดำนั้นก่อนเพราะฉันไม่สามารถตรวจสอบได้ก่อนหน้านี้เพราะฉันตื่นขึ้นมา ‘
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เอธานก็หลับตาลงก่อนที่สติของเขาจะมาถึงอาณาจักของจิตใจของเขา
แต่เขาต้องตกใจเมื่อมองไปที่หลุมสีดำ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นวังวนหลากสีที่มีเกลียวสีน้ำเงินสีแดงและสีดำ ซึ่งดูมืดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับความมืดของอ่างน้ำวนที่ว่ายไปมา
‘เกิดอะไรขึ้น? ‘เอธานสับสนเมื่อมองไปที่สถานการณ์และเริ่มคิดว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
‘อันดับแรกฉันไปที่พื้นที่ขุดเพื่อขุดคริสตัลสีดำ จากนั้นฉันไปที่ห้องฝึก และปรับแต่งร่างกายของฉันในห้องไฟ และ สายฟ้า สมมติว่าออร่าสีแดงสีน้ำเงินและสีดำในอ่างน้ำวนเป็นตัวแทนของ ออร่าจากคริสตังสีดำ, พลังงานธาตุไฟและพลังงานธาตุสายฟ้า ‘เอธานออกจากอาณาจักรของจิตใจในขณะที่เขาต้องการลองอะไรบางอย่าง
เขาลืมตาขึ้นและหยิบกระเป๋าออกมาจากตู้ซึ่งมีผลึกน้ำที่เขาเคี่ยวเข็ญมาจากเจ้าของโรงแรมไรอัน
เขาหยิบผลึกน้ำเกรดต่ำออกมาจากกระเป๋าและวางลงบนเตียงก่อนจะหลับตาและเข้าสู่อาณาจักรพลังจิตอีกครั้ง
คราวนี้เขาสามารถเห็นเกลียวของออร่าสีฟ้า ที่เข้ามาในอาณาจักรแห่งพลังจิตของเขาจากภายนอกได้อย่างชัดเจน และถูกดูดซับในวังวนหลังจากนั้นไม่กี่นาทีเธรดแห่งออร่าก็หยุดเข้ามา
ตอนนี้ในวังวนของเขามีออร่าสี่ชนิดเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ สีดำสีแดงสีน้ำเงินและสีฟ้าอ่อน
จากนั้นเอธาน ก็ใช้พลังจิตของเขาและเคลื่อนมันไปยังวังวนสีดำและการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น
ความเร็วของวังวนเพิ่มขึ้นหลายเท่าเมื่อออราที่มีสีสันเริ่มจางหายไปดูเหมือนว่าอ่างน้ำวนจะย่อยออร่านี้อย่างช้าๆก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ความเร็วในการย่อยเพิ่มขึ้น
ทันใดนั้นอาการปวดหัวอย่างรุนแรงก็เข้ามาทักทายเขา ขณะที่เขาออกมาจากอาณาจักรแห่งจิตใจ แต่ใบหน้าของเขาแสดงความตื่นเต้นอย่างที่เขาคิดว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้นตอนนี้? ในที่สุดฉันจะปลุกความสัมพันธ์สำหรับองค์ประกอบหรือไม่? ไม่ใช่หนึ่ง แต่มากกว่านั้น หลังจากนั้นวังวนจะย่อยสลายรัศมีเหล่านั้น? บ้าเอ้ย .. ฉันรอไม่ไหวแล้ว ‘
ตอนที่ 9: คำพูดที่รุนแรงกับการค้นพบที่น่าตกใจ กลุ่มดาว ซอร์ก้า?
“ได้โปรดพระโอรสผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งหุบเขา บอกให้ฉันส่งคุณไปที่นั่นโดยเร็วที่สุด และมันจะดีที่สุดที่คุณจะไปที่ห้องโถงของพระราชวังตอนนี้”
ไมค์พยักหน้าและพูดกับเอธานว่า “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ในขณะที่คุณสามารถดูรอบ ๆ ในวังได้ฉันจะพยายามกลับมาโดยเร็วที่สุด”
จากนั้นไมค์ก็เหลือเพียงเอธานและพี่โอนิกที่เจอก่อนเข้ามาที่ห้องนี้เท่านั้นที่อยู่ในห้องใหญ่
พี่โอนิกหันกลับมามองและปิดประตูก่อนจะมองตรงไปที่ธานและพูดอย่างเย็นชา“ งั้นคุณก็เป็นเพื่อนของบุตรนั่น…” เขาพูดต่อ“ ไม่มีอะไรพิเศษและไม่ใช่ออร่าของธาตุหนึ่งออนซ์คุณไม่ใช่ แม้แต่ในนักรบธาตุลำดับ 1 ”
เอธานไม่พูดอะไรและนิ่งเงียบด้วยสีหน้าเฉยเมย
โอนิกยิ้มเยาะและกล่าวว่า“ ฉันคิดว่าคุณรู้แล้วถึงความแตกต่างของสถานะและความสามารถระหว่างคุณกับพระบุตรผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งไปกว่านั้นขุนเขานี้กำลังวางแผนที่จะทำให้เขาเป็นหัวหน้าแห่งขุนเขาคนต่อไป
ดังนั้นฉันคิดว่ามันจะดีกว่า ที่คุณจะไม่ได้พบกับเขานับจากนี้และทำให้เขาต้องเสียเวลาอันมีค่าของเขาไป พระบุตรจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนเพราะพระบุตรของกลุ่มอื่น ๆ ก็อยู่ที่ เวทีระดับนักเวทย์ แล้ว … “
หยุดที่นี่สักครู่เขาพูดอย่างเย็นชา “ถ้าคุณยังไม่ตระหนักจนถึงตอนนี้ ให้ฉันบอกคุณว่าคุณกำลังเป็นหนามในเส้นทางแห่งความสำเร็จของพระบุตรไหม … เมื่อไม่นานมานี้เขาขอให้หัวหน้าหุบเขา จัดสถานที่ให้คุณที่นี่ คุณคิดว่าขยะแบบคุณสามารถอยู่ที่นี่ได้หรือไม่ “
เอธานยังคงนิ่งเงียบใบหน้าของเขาเจือไปด้วยความเฉยเมย ดังนั้นผู้อาวุโสองอาจไม่สามารถอ่านสิ่งที่เขาคิดจากสีหน้าของเขาได้
“เอาล่ะฉันจะตรงไปตรงมาหลังจากวันนี้ หัวหน้าหุบเขาต้องการให้คุณหายไปจากชีวิตของ พระบุตร ตอนแรกเราตัดสินใจที่จะส่งคุณออกจากหุบเขาโดยตรงและจัดการคุณที่เมืองท้องฟ้าแห่งพาวิลเลี่ยน
แต่ลาฟิวพูดในนามของคุณและบอกว่าคุณสามารถอยู่ในวังของหุบเขาได้ ต่อไปได้ ในขณะที่เราบอกกับพระบุตรว่าคุณออกจากหุบเขาไปแล้วเพื่อให้คุณสามารถฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ ที่นี่ ในขณะที่หวังว่าจะปลุกความสัมพันธ์กับสายฟ้าหรือไฟได้อ่ะนะ ตอนนี้ไปหาลาฟิวซะเขากำลังรออยู่ข้างนอก “
หลังจากนั้นโอนิกก็ออกจากห้องไป
เอธานยืนอยู่ที่นั่น 2-3 นาทีก่อนที่รอยยิ้มจะพุ่งไปทั่วใบหน้าของเขา ‘ดูเหมือนว่าชีวิตของไมค์จะถูกตั้งค่าไว้แล้ว ฉันก็ต้องรีบไปด้วย ‘
หลังจากนั้นเขาก็ออกจากห้องและมาถึงทางเข้าที่ลาฟิวรออยู่
เมื่อมองไปที่เอธาน ลาฟิวก็ถอนหายใจและพูดว่า “ฉันพยายามแล้ว แต่ไมค์ผูกพันกับหุบเขานี้อย่างใกล้ชิด ในตอนนี้ดังนั้นหัวหน้าหุบเขาจึงไม่เต็มใจที่จะประนีประนอมใด ๆ กับเรื่องนี้”
เอธานส่ายหัวพร้อมกับยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันแค่มีความสุขสำหรับไมค์ที่ชีวิตของเขาถูกกำหนดแล้ว … โอ้แล้วเขาพูดอะไรเกี่ยวกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือไม่?”
ลาฟิวพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ แล้วเขายังขอส่งเงินและทรัพยากรอื่น ๆ ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เมื่อวานนี้ซึ่งเราได้ส่งไปเมื่อเช้าวันนี้
“ดี … ” เอธานพยักหน้ายิ้ม “งั้นไปกันเถอะ ฉันยังต้องไปเทรนนิ่งโซน”
ลาฟิวจับไหล่ของเขาและทั้งสองคนก็บินหนีไป ในขณะที่บินเขาถามเอธานว่า “คุณรู้สึกไม่ยุติธรรมเหรอ คุณอาจไม่มีทางติดต่อเขาได้เลยในชีวิตของคุณอีกเลยนะ”
เอธานหัวเราะและพูดว่า “ไม่ ฉันไม่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเพราะมันมีแค่ความรู้สึกความเชื่อและความมั่นใจในตัวฉันที่บอกฉันว่าฉันต้องเข้มแข็งมาก ๆ “
ลาฟิวมองไปที่เอธานอย่างแปลกประหลาดก่อนที่คำศัพท์จะเข้ามาในความคิดของเขา ‘เพ้อเจ้อ? บางทีเขาอาจจะหลงผิดหลังจากได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ของเพื่อนของเขา? ‘
“ฉันจะส่งคุณไปที่สถานที่ฝึกใกล้กับหุบเขาแห่งพระราชวังที่คุณพักอยู่ขอให้โชคดีนะเด็ก ๆ ฉันหวังว่าคุณจะกลายเป็นผู้วิเศษแห่งธาตุในไม่ช้า”
ในขณะเดียวกัน กลิ่นอายที่ทรงพลังจำนวนมากกำลังเดินทางไปยังศูนย์ใหญ่ ของหุบเขา สิ่งมีชีวิตบางตัวมาถึงรถรบที่ดูสง่างามบางตัวมาถึงสัตว์ที่ทรงพลังเช่น หงส์แห่งไฟนรก , นกฟีนิกซ์น้ำแข็ง และอื่น ๆ
ในขณะนี้มีหัวหน้าหุบเขายืนอยู่บนเวทีซึ่งกำลังยืนอยู่ร่วมกับไมค์ในขณะที่เขาพูด “ยินดีต้อนรับทุกคน วันนี้ฉันขอประกาศว่า ไมค์ ฮิวเบิร์ต จะกลายเป็น บุตรแห่งหุบเขา และศิษย์คนแรกของฉัน”
หัวหน้าเมืองพาวิลเลี่ยนพูดว่า “เพื่อนเก่า หนูน้อยคนนี้จะเป็นคนปลุกความสัมพันธ์ธาตุอวกาศได้ไหม”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้แขกคนอื่น ๆ จากกลุ่มต่างๆก็ตกใจและเริ่มบ่นพึมพำ
รอยยิ้มของอาจารย์ประจำหุบเขาราวกับดอกเบญจมาศบานในขณะที่เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “แท้จริงแล้วมีใครบ้างที่คู่ควรกับการเป็นศิษย์ของชายชราคนนี้ ถ้าไม่ใช่ผู้ถือองค์ประกอบอวกาศฮ่า ๆ ๆ
หลายคนก่นด่าในใจ “หัวหน้าแก่ ๆ นี่ไร้ยางอายเหมือนเดิม”
แต่ผู้คนที่นี่ไม่รู้ว่ามีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองพวกเขาราวกับว่าพวกเขาเป็นมดและดวงตาคู่นี้กำลังจดจ่ออยู่ที่ไมค์
…
ในสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก ปราสาทแห่งหนึ่งลอยอยู่บนท้องฟ้ายิ่งใหญ่กว่า แกนกลางของหุบเขาในปราสาทชายชราในวัย 60 เศษของเขากำลังเล่นเกมกระดานกับชายหนุ่มที่ไม่รวมกับอากาศ ของราชา.
ชายชราจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง ขณะที่จ้องมองลงไปด้านล่าง ซึ่งทำให้เขาเห็นสิ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่งของจักรวาล “ดูเหมือนเด็กที่มีองค์ประกอบอวกาศจะเกิดในกาแล็กซี่ซอร์ก้า คุณต้องการฝึกหรือไม่ ?”
ชายหนุ่มมองออกไปข้างนอกและมองตามสายตาของชายชรา ขณะที่เขาเอ่ยคำหนึ่งพร้อมกับส่ายหัว “เศษขยะ”
หลังจากนั้นเขามองไปที่ชายชราและพูดว่า “นายท่านอย่าไปสนใจพื้นที่เกรดต่ำพวกเขายังไม่มีกฎที่สมบูรณ์ที่สร้างขึ้นไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่เข้าใจเจตนาขององค์ประกอบใด ๆ และ มีองค์ประกอบมากมายที่ขาดหายไป”
“นอกจากนี้เราไม่ได้ขาดแคลนผู้ใช้องค์ประกอบอวกาศและแม้แต่องค์ประกอบเวลาหากใครไม่สามารถเข้าใจเจตนาขององค์ประกอบที่พวกเขามีอยู่พวกมันก็ไม่ต่างจากถังขยะ “
ชายชราส่ายหัวขณะที่เขาคิดว่า ‘แน่นอน แต่บางครั้งอัจฉริยะก็เกิดในสถานที่ระดับต่ำเหล่านี้ ตัวอย่างเช่นพ่อของคุณเอง แต่ชายชราไม่ได้พูดออกมาดัง ๆ ในขณะที่เขากลับไปมุ่งเน้นไปที่เกมกระดาน
…
…
ทั้งเอธานและลาฟิวมาถึงสถานที่ฝึกแล้ว พื้นที่นี้มีห้องจำนวนมากและแต่ละห้องมีป้ายสัญลักษณ์ไฟและสัญลักษณ์ของสายฟ้า
“คุณสามารถฝึกใน ห้องแห่งไฟ หรือ ฟ้องแห่งสายฟ้าได้ หรือทั้งสองอย่างก็ขึ้นอยู่กับคุณคุณสามารถฝึกได้นานเท่าที่คุณต้องการ แต่อย่าหักโหมเกินไป เกรงว่าคุณจะตายเพราะห้องเหล่านี้ไม่เหมือนกับรอบที่ 2 ของการตรวจสอบที่นี่ คุณจะได้รับบาดเจ็บเลือดออกและอาจถึงตายได้ดังนั้นเริ่มต้นด้วยความรุนแรงระดับ 1 ก่อนและค่อยๆเพิ่มขึ้นเมื่อร่างกายของคุณแข็งแกร่งขึ้น “
เอธานพยักหน้าและใบหน้าของเขาแสดงความกระตือรือร้น เมื่อเห็นคนขี้เกียจคนนี้ส่ายหัว “จำไว้สำหรับเพื่อนของคุณ ตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ในหุบเขาสายฟ้า – ฝึกซ้อมอย่างเงียบ ๆ ฉันอาจจะกลับมาอีกครั้งหลังจากปีหรือสองปีเพื่อให้คุณ การอัปเดตเกี่ยวกับสถานการณ์ของพระบุตร “
เอธานยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไร แค่บอกไมค์ว่าฉันจะแข็งแรงเร็ว ๆ นี้เขาไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงฉัน”
ลาฟิวพยักหน้าอย่างชัดเจนและบินจากไป
จากนั้นเอธานก็มาถึงหน้าห้องแห่งไฟที่ว่างเปล่าและเข้าไป
ห้องนั้นมีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของขนาดบ้านของเอธาน ที่ผนังด้านขวามีที่จับเหมือนสวิตช์หันขึ้นด้านบน 10 ด้ามแต่ละด้ามมีตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 10
จากนั้นเขาก็ดึงที่จับซึ่งมี 1 อันเขียนไว้และมีการเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้นตรงกลางห้อง
เปลวไฟเริ่มพวยพุ่งตรงกลางและอุณหภูมิของห้องก็เริ่มร้อนจัด
เขาเริ่มเดินและยืนอยู่ตรงกลางที่มีเปลวไฟพวยพุ่งและทันทีที่เขายืนอยู่ที่นั่นเปลวไฟก็เริ่มแผดเผาผิวหนังของเขาไม่เหมือนกับที่เกิดขึ้นในการตรวจรอบที่ 2 ที่สระลาวาสร้างความเจ็บปวด แต่ไม่มีการบาดเจ็บ
แต่สิ่งนี้แตกต่างออกไปเปลวไฟสร้างความเสียหายและความเจ็บปวดให้กับเอธานอย่างชัดเจน แต่ความรุนแรงของความเจ็บปวดนั้นต่ำกว่าสระน้ำลาวา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะข้ามระดับนี้ได้เพราะเขาต้องฝึกฝนร่างกายของเขาที่นี่จนกว่าเปลวไฟเหล่านี้จะไม่สามารถทำได้ สร้างความเสียหายให้กับเขาอีกต่อไป
หลังจากผ่านไป 30 นาที เปลวไฟก็หยุดลงโดยอัตโนมัติและอ่างอาบน้ำปรากฏขึ้นที่ที่เขายืนอยู่อ่างอาบน้ำเต็มไปด้วยน้ำสีเหลืองอ่อน
‘แล้วมันจะเป็นยังไง? ‘ในขณะที่สงสัยว่าน้ำนี้เกี่ยวกับอะไร เอธาน นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ ขณะที่เสื้อผ้าของเขาถูกไฟไหม้ไปแล้วเพราะเขาลืมถอดก่อนหน้านี้
ทันทีที่เขาเข้าไปในอ่างอาบน้ำก็จะได้ยินเสียงดังฉ่า เมื่อผิวหนังของเขาสัมผัสกับน้ำสีเหลืองอ่อน
‘ให้ตายเถอะรู้สึกเหมือนมดนับไม่ถ้วนคลานอยู่ในผิวหนังของฉัน … แต่น้ำนี้มีคุณสมบัติในการรักษาอาการบาดเจ็บได้จริงหรือ? ‘เอธานตกใจมาก
เขาสามารถมองเห็นได้ด้วยตาของเขาเอง ขณะที่ผิวหนังที่ถูกไฟไหม้ของเขาถูกลอกออกก่อนที่จะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้ผลกระทบของน้ำนี้
เอธานคิดด้วยรอยยิ้มว่า ‘ตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องทำคือใช้เวลาที่นี่ในการฝึกอบรมและทำงาน ‘
หลังจากอาบน้ำไป 10 นาที อาการบาดเจ็บทั้งหมดของเขาก็หายเป็นปกติ เมื่อเขาลุกขึ้นและสวมเสื้อผ้าที่ปรากฏอยู่ในกล่องที่แก้มด้านซ้าย
‘ดีฮ่า ๆ ๆ ตอนนี้ได้เวลาตรวจสอบ สายฟ้า แล้ว ‘
…
…
…
หนึ่งปีผ่านไปเช่นนั้น ในขณะที่เอธานยังคงทำงานและฝึกอบรม
วันนี้ตามปกติเอธานตื่น แต่เช้าออกกำลังกายอาบน้ำไปทำงาน
หลังจากเข้ามาในเหมืองเขาก็เริ่มทำงานด้วยจิตวิญญาณเช่นเดียวกับวันแรก แต่หลังจากทำงานได้ 2 ชั่วโมงเขาก็เริ่มรู้สึกเวียนหัว
เขายังคงทำงานต่อไป แต่หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงอาการปวดหัวอย่างรุนแรงก็เริ่มขึ้นและเขาก็เป็นลม
คนงานใกล้เคียงซึ่งเป็นนักรบธาตุสังเกตเห็นสิ่งนี้หนึ่งในนั้นมาทางเอธาน ตรวจสอบชีพจรของเขาและพูดกับคนอื่น ๆ ที่รวมตัวกันอยู่รอบ ๆ เอธานว่า “เด็กหนุ่มยังมีชีวิตอยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นลม”
นักรบอีกคนกล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา น้องชายคนนี้ทำสิ่งนี้อย่างเข้มข้นกว่าพวกเรา ในขณะเดียวกันก็แสดงสปิริตเหมือนกันทุกครั้งที่เขามาที่นี่ฉันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาในวันนี้?”
นักรบอีกคนที่หัวโล้นและมีโครงร่างใหญ่พูดว่า “ใช่ยิ่งไปกว่านั้นเขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ห้องฝึก เขากลับไปนอนและกินเท่านั้นเมื่อเดือนก่อนฉันยังเห็นเขาล่าสัตว์ประหลาดเกรด 1 ในป่า ด้วยมือเปล่า ซึ่งหมายความว่าเขาเป็นนักรบธาตุขั้น 2 แล้ว”
เมื่อได้ยินนักรบคนอื่น ๆ ก็ตกใจเมื่อหนึ่งในนั้นพูดด้วยความไม่เชื่อ “คุณกำลังบอกว่าเขามาถึง นักรบธาตุระดับ 2 แล้วในหนึ่งปี?”
นักรบผู้มีศีรษะมีเลือดฝาดพยักหน้ายืนยัน
ผู้ที่ตรวจสอบชีพจรของเอธานได้ขัดจังหวะการพูดคุยของพวกเขา ในขณะที่เขากล่าวว่า “เราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเขาในภายหลัง แต่ตอนนี้เราต้องส่งเขาไปที่ฮอลรักษาตัว ดังนั้นใครจะไปส่งเขาที่นั่น? “
ชายหัวโล้นกล่าว “ฉันจะแบกเขาไปที่นั่น พวกคุณทำงานของคุณต่อ” เมื่อพูดอย่างนี้เขาก็อุ้มเอธานขึ้นมาและเดินออกไป
…
ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่แตกต่างออกไปในความคิดของเอธาน ในตอนนี้เขาสามารถได้ยินทุกสิ่งที่คนเหล่านี้พูด แต่เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายหรือทำอะไรได้
ตอนนี้เขาอยู่ในพื้นที่มหัศจรรย์เขามองไม่เห็นร่างกายของตัวเอง แต่เขาสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมของพื้นที่นี้มันเป็นสีเทารอบ ๆ ยกเว้นที่เดียวสถานที่นั้นอยู่ตรงกลางของพื้นที่สีเทานี้
สถานที่นั้นเป็นสีดำสนิทพื้นที่สีดำนั้นดูเหมือนจะเรียกเขาและเมื่อมองไปที่พื้นที่สีดำนั้นรู้สึกเหมือนเขากำลังมองดูตัวเอง
เอธานดูเหมือนจะเปิดอาณาจักรจิตใจของเขาได้แล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าพลังงานจิตใจ ของเขาแตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง การกลายพันธุ์บางอย่างอาจเกิดขึ้นเนื่องจากการย้ายถิ่น แต่ใครจะรู้กันล่ะ?
ตอนที่ 8: การพบกันของเพื่อนสองคน
จากนั้นเอธานก็เปลี่ยนไปยังหน้าถัดไปซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับนักรบแห่งธาตุ
ขั้นตอนของ นักรบแห่งธาตุ(จากด่าน 1 ถึงด่าน 8)
นักรบแห่งธาตุ ด่าน 1:
– เมื่อสามารถต้านทานพลังเวทย์ของ เด็กฝึกธาตุ ด้วยร่างกายและไม่ตายหลังจากการโจมตี 2 ครั้งจะถือว่าอยู่ใน นักรบแห่งธาตุ ด่าน 1
นักรบแห่งธาตุด่าน 2:
– เมื่อสามารถเพิกเฉยต่อพลังความสามารถของ Elemental Apprentice ด้วยร่างกายของพวกเขาและตีกลับ Elemental Apprentice จะถือว่าอยู่ใน Elemental Warrior Stage 2
นักรบแห่งธาตุ ด่าน 3:
– เมื่อสามารถต้านทานพลังของ นักผจญภัยเกี่ยวกับธาตุด้วยร่างกายและไม่ตายหลังจากการโจมตี 2 ครั้งจะถือว่าอยู่ใน นักรบธาตุ ขั้น 3
นักรบธาตุ ขั้นที่ 4
– เมื่อสามารถละเว้นพลังความสามารถของ นักผจญภัยเกี่ยวกับธาตุด้วยร่างกายของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์และตีกลับ นักผจญภัยเกี่ยวกับธาตุจะถือว่าอยู่ใน นักรบธาตุ ขั้นที่ 4
…
รายการจะดำเนินต่อไปเช่นนี้จนกว่าจะหยุดที่ นักรบธาตุ ขั้นที่ 8
นักรบธาตุ ขั้นที่ 8:
– ในการเข้าถึง นักรบธาตุ ขั้นที่ 8 เราต้องปลดล็อกขอบเขต อาณาจักของจิตใจ และผลิต พลังงานของจิตใจโดยใช้พลังจิตนี้ร่วมกับร่างกลั่นที่ทรงพลังพวกเขาสามารถต่อสู้กับนักเวทย์ ได้
มีข้อมูลอื่น ๆ ในหน้าสองสามหน้าเกี่ยวกับกฎและข้อบังคับของภายในหุบเขานี้
หลังจากอ่านทุกอย่างแล้วเอธาน ก็นอนลงบนเตียงพลางคิดว่า ‘ดังนั้นนักรบธาตุ จำเป็นต้องปลดล็อกอาณาจักรของจิตใจด้วยถ้าพวกเขาต้องการเดินต่อไป … ‘
ไม่นานเขาก็หลับไปพร้อมกับคิดเรื่องต่างๆโดยลืมซักผ้าและจัดของ
หลังจากการทดสอบทั้งหมดของผู้เข้าร่วมในวันนี้ผ่านไปแล้วก็สมเหตุสมผลที่พวกเขาจะเหนื่อยแม้ว่าจะเป็นเวลา 4 โมงเย็นก็ตาม
…
…
หลังจากนั้นใครจะรู้ว่านานแค่ไหนแล้ว ขณะนั้น เอธาน ก็ลืมตาขึ้น
“บ้าเอ้ย ฉันเผลอหลับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ … ” เอธานรีบเดินออกจากห้องและมองไปที่นาฬิกาในห้องโถง
เอธานถอนหายใจด้วยความโล่งอก ‘ก็แค่ตี 3 ตอนนี้ฉันตื่นแล้วก็ได้เวลาออกกำลังกายและจัดแจงสิ่งต่างๆ ‘
…
…
เวลา 6.00 น. เอธานออกกำลังกายเสร็จ
เวลา 7.00 น. เอธานจัดของซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ
และเวลา 7:45 เขายืนอยู่ข้างนอกแล้วรอให้หัวหน้างานมาถึง
คนอื่น ๆ ออกมาจากบ้านทีละคนและทุกคนก็ยืนอยู่ข้างนอกเมื่อก่อน 8.00 น.
ในไม่ช้าเราก็เห็นคน 2 คนมาถึงทิศทางของเราทั้งคู่อายุ 40 เศษ แต่พวกเขามีออร่าที่ทรงพลังนี้อยู่รอบตัวและดูแข็งแกร่ง
หลังจากมาถึงพวกเขาเริ่มปรับขนาด เอธาน และคนอื่น ๆ ทำสิ่งนี้เป็นเวลา 1 นาทีก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูดว่า “เด็ก อยู่ที่นี่คนอื่น ๆ ตามฉันมา”
ทุกคนจากไปยกเว้นเอธานและชายอีกคนในวัย 40 เขายิ้มให้เอธาน และพูดว่า “ฉันชื่อกินโซ่ ทาฟ่า คุณเรียกฉันว่าลุงทาฟ่าก็ได้ คุณจะไม่ต้องไปกับพวกเขา เพราะที่ทำงานของคุณแตกต่างจากพวกเขา ตามฉันมาฉัน จะแสดงสถานที่ให้คุณดู “
จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเดินต่อไป เอธานก็เดินตามชายคนนั้นไป โดยที่เขาไม่รู้เส้นทางใด ๆ ที่นี่
พวกเขาเดินเป็นระยะทางไกลพอสมควรใช้เส้นทางหลายเส้นทางและถึงจุดหนึ่งก่อนที่จะมาถึงสถานที่ที่มืดมนในที่สุดมืดมนเพราะมีเมฆมืดบนท้องฟ้า
หลังจากมาถึงที่นี่พวกเขาเข้าไปในประตูถ้ำที่นำไปสู่ภูเขาอีกลูกหลังจากเดินเข้าไปในความมืดได้ไม่กี่นาที เอธานก็เริ่มได้ยินเสียงบางอย่าง
* คลิ้ก *
* คลิ้ก *
* คลิ้ก *
พื้นที่ที่มีผลึกแวววาวปรากฏขึ้นซึ่งทำให้รอบ ๆ สว่างไสวซึ่งผู้คนกำลังขุดผลึกสีดำ
เมื่อมาถึงที่นี่กินโว่ ทาฟ่ากล่าวกับเอธาน ว่า “ผลึกดำเหล่านี้มีการใช้งานที่ลึกลับมาก หากผู้คนอยู่ใกล้พวกเขาเป็นเวลานานกล้ามเนื้อและอวัยวะของพวกเขาจะแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ การใช้ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งก็คือคริสตัลเหล่านี้สามารถใช้เพื่อเพิ่มพูน ความทนทานของอุปกรณ์ “
จากนั้นเขาก็หยิบขวาน ซึ่งมีคริสตัลสีดำฝังอยู่
“ขวาน นี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อใช้ในการขุดคริสตัลที่นี่” เมื่อพูดแบบนี้เขาก็ส่ง ขวาน ให้ เอธานและพูดว่า “ไปเริ่มขุด คุณต้องมีของมาให้ฉันทุกวันเป็นเวลา 7 ชั่วโมงตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 15.00 น. หลังจากนั้น คุณสามารถฝึกได้ที่โซนฝึกของนักรบธาตุ “
เอธานพยักหน้าและเริ่มขุดในจุดที่ค่อนข้างไกล ซึ่งมีจำนวนคริสตัลดำเยอะมากขึ้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ทาฟ้าก็พยักหน้าและกลับไป
…
…
เอธานกลับไปที่บ้านหลังจากทำงานเป็นเวลา 7 ชั่วโมงและหลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้วเขาก็ตรงไปที่โต๊ะทำงานหลักในพระราชวังบนภูเขาพร้อมกับแผ่นไม้ที่ ลาฟิว มอบให้กับเขา
เมื่อมาถึงโต๊ะ ซึ่งมีหญิงวัย 40 นั่งอยู่เขาก็ยื่นแผ่นไม้ให้
เมื่อมองไปที่แผ่นไม้จากนั้นก็มองมาที่ฉัน เธอหยิบกระดาษที่มีลวดลายจารึกอยู่ หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีมันก็เริ่มไหม้และกลายเป็นเถ้า
“ รออีกไม่กี่นาที ลาฟิวจะมาถึงที่นี่เร็ว ๆ นี้” หญิงสาวกล่าวกับเอธาน
เอธานพยักหน้าและยืนรอลาฟิว
หลังจากผ่านไป 10 นาทีจะเห็นอาฟิวเดินมาหาจากทางเข้าของหุบเขาแห่งพระราชวัง
ลาฟิวดูเหมือนเขาแค่เดิน แต่ทุกก้าวของเขาข้ามระยะทางมากกว่า 2 เมตรและเขาก็มาถึงหน้า เอธาน ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
“โย เด็กน้อย มาเถอะไปพบไมค์เพื่อนของคุณกันเถอะ” พูดแบบนี้เขาก็จับไหล่ของเอธานโดยตรงแล้วเร่งขึ้นขณะที่ทั้งคู่บินออกไปนอกวัง
เสียงที่เจือด้วยความโกรธดังออกไปข้างนอก “ลาฟิววววววววววววววววว การบินไม่ได้รับอนุญาตในวังแห่งนี้น้า …. “
ลาฟิวหัวเราะเบา ๆ ในขณะที่เขาพูดกับเอธานที่กำลังมองมาที่เขา “อย่ามองฉันแบบนั้น ฉันจะจ่ายค่าปรับในภายหลัง แต่เราต้องรีบไปตอนนี้”
ทั้งคู่บินลึกเข้าไปในหุบเขาและมาถึงพื้นที่ที่มีเมฆสายฟ้าและภูเขาไฟจำนวนมาก ซึ่งลาวากำลังไหลลงมาอย่างอิสระ
เมื่อมองไปที่การแสดงออกที่ประหลาดใจของเอธาน ลาฟิวพูดว่า “ภูเขาไฟและเมฆเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่จัดเรียงโดยผู้วิเศษของธาตุ”
การแสดงออกของเอธาน ทำให้ประหลาดใจมากขึ้น เมื่อคำพูดที่มั่นใจโดยไม่มีพื้นฐานในนั้นไหลออกมาจากปากของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ ” ฉันจะทำเรื่องแบบนี้ได้ในอนาคตแน่นอน มันเป็นแค่เรื่องของเวลา”
ลาฟิวหัวเราะออกมา เมื่อได้ยินสิ่งนี้และพูดว่า “ไม่รู้ว่าคุณมีความมั่นใจในตัวเองมากขนาดนี้”
ใบหน้าของเอธาน เปลี่ยนไปอย่างเขินอายเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดความคิดของเขาออกมาดัง ๆ แบบนี้
ในไม่ช้าพวกเขาก็ผ่านเมฆฝนฟ้าคะนองและบริเวณภูเขาไฟและมาถึงสถานที่ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
‘อะไรกัน … ‘ มุมมองต่อโลกของเอธาน แตกสลายโดยสิ้นเชิงเมื่อมองไปที่ภาพตรงหน้าเขา
พระราชวังบนภูเขาขนาดมหึมาถูกลอยอยู่กลางอากาศมันใหญ่มากจนเอธาน ไม่สามารถมองเห็นยอดสูงสุดได้ เนื่องจากมีเมฆบังวิว
“นี่คือสำนักงานใหญ่ของหุบเขาสายฟ้า – ไฟและยังเป็นสถานที่ที่สมาชิกหลักของฝ่ายเราอยู่ด้วย” ลาฟิวหยุดที่นี่ “ไมค์เพื่อนของคุณกำลังจะอยู่ที่นี่นับจากนี้ไปสถานะของเขาจะสูงขึ้นอีก มากกว่าฉันในตอนนี้”
“อะไรนะ !!?”
ลาฟิวมองไปที่ใบหน้าของเอธานซึ่งมี แต่ความสุขที่บริสุทธิ์สำหรับเพื่อนของเขา และรู้สึกประหลาดใจ แต่แล้วเขาก็ถอนหายใจ “เพื่อนคู่นี้ … เฮ้อ โชคไม่ดีที่โชคชะตาได้เก็บบางอย่างไว้สำหรับพวกเขา”
แท้จริงแล้วโชคชะตาได้จัดเก็บสิ่งต่างๆไว้มากมายสำหรับพวกเขา
“ใช่ สถานะของเขาสูงกว่าสมาชิกหลักส่วนใหญ่ ไปกันเถอะเขากำลังรอคุณอยู่”
ทั้งคู่บินขึ้นไปบนภูเขาลอยน้ำใหญ่มาก ซึ่งไม่มีพระราชวังขนาดใหญ่สามแห่งและอาคารขนาดใหญ่อื่น ๆ
หลังจากเข้าสู่มวลแห่งความอัศจรรย์ที่ลอยอยู่พวกเขาก็ตรงไปที่พระราชวังกลางซึ่งเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดเช่นกัน
ทันทีที่เรามีชายชราอายุ 40 เศษเดินเข้ามาหาเราและพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิว่า “คุณไปอยู่ที่ไหนมา เรายังมีงานอีกมากที่ต้องทำสำหรับพิธีของวันนี้ คนร่างใหญ่จำนวนมากจะเริ่มมาถึงในอีกหนึ่งชั่วโมง “เขาหยุดเล็กน้อยเขามองไปที่เอธานและถาม” เด็กคนนี้เป็นใคร “
ลาฟิวยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ผู้อาวุโสองอาจ ฉันแค่ทำตามคำสั่งของหัวหน้าหุบเขา ตอนนี้ถ้าคุณช่วยแก้ตัวให้เราโอ้และแทนที่จะเสียเวลาคุยกับเราคุณควรเริ่มทำงานเพราะ … เรายังมีงานอีกมาก งานที่ต้องทำสำหรับพิธีของวันนี้น่ะ “พูดอย่างนี้เขาก็เดินผ่านคนๆนั้นไปและเดินเข้าไปในทางเดินแห่งหนึ่งที่ทอดลึกเข้าไปในพระราชวัง
เมื่อมองไปที่ร่างที่กำลังลดถอยของพวกเขา ผู้เฒ่าองอาจส่งเสียงอย่างเย็นชาและพึมพำภายใต้ลมหายใจของเขา “ฉันจะแก้แค้นศิษย์ของฉันอย่างแน่นอนเพียงแค่คุณรอเท่านั้น”
ในขณะเดียวกัน…
เอธานและลาฟิวมาถึงหน้าประตูที่ใหญ่มาก
เขาหยุดอยู่หน้าประตูและ ลาฟิว พูดกับเอธาน ว่า “เพื่อนของคุณอยู่ข้างในและคุณมีเวลาคุยแค่ชั่วโมงเดียว” หลังจากนั้นเขาก็เดินกลับไปยังเส้นทางที่คุณจากมา
เอธานยืนอยู่หน้าประตูและก่อนที่เขาจะผลักมันประตูก็เปิดออก เมื่อเห็นสิ่งนี้เขาก็เข้าไปข้างใน
ห้องนั้นหรูหรามากมีของตกแต่งมากมาย แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือเด็กชายคนหนึ่งเดินไปมาพร้อมกับความกังวลใจ เขาสวมเสื้อผ้าหรูหราที่สุดอย่างที่เอธานไม่เคยเห็นมาก่อน
“เฮ้ น้องชาย คุณดูเหมือนเจ้าชายนะฮ่า ๆ ๆ ” เอธานหัวเราะเมื่อเห็นไมค์ที่วิ่งมาหาเอธาน
“พี่ แกล้งล้อฉัน ฉันไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าฉันจะกลายเป็นบุตรแห่งหุบเขาไปแล้ว” ไมค์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างเชื่องช้า
“ว้าว เป็นผู้ชายที่เจ๋งมาก ดูเหมือนว่าฉันต้องรีบตื่นขึ้นและปลุกความสัมพันธ์ ไม่งั้นฉันจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังฮ่า ๆ ๆ ๆ แล้วความสัมพันธ์ของคุณเป็นอย่างไรฉันอยากรู้เรื่องนี้มาก”
“มันเป็นองค์ประกอบของอวกาศเห็นได้ชัดว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่หายากมากที่จะมี” จากนั้นไมค์ก็มองลงไปในขณะที่เขาพูด “เอธานฉันขอให้พวกเขามอบยาเพิ่มความสัมพันธ์ให้ฉัน แต่เขาบอกว่าตอนนี้แหล่งที่มาอ่อนแอลง และพวกเขาต้องใช้เวลา 500 ปี ในการฟื้นตัวก่อนจึงจะสามารถนำไปใช้สร้างยานั้นได้มากขึ้นแม้ว่าจะผ่านไป 300 ปี แต่พวกเขาก็ยังต้องใช้เวลาอีก 200 ปีในการสร้างเม็ดยาอีกครั้ง … ฉันขอโทษนะ”
เอธานส่ายหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจว่า “นายพูดบ้าอะไรกัน ฉันไม่ต้องการยาเสริมความสัมพันธ์หรืออะไรก็ตามเพียงแค่มุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนและอย่าดูถูกฉันฮ่า ๆ ๆ เพราะ ถ้าคุณไม่ทำงานหนัก ฉันจะติดต่อกลับไปในไม่ช้าและจะเหนือกว่าคุณอีกด้วย “
หลังจากนั้นทั้งคู่คุยกันเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะมีเสียงดังเข้ามาข้างในพร้อมกับเสียงเปิดประตู
“ พระบุตรไมค์ ถึงเวลาพบกับอาจารย์หุบเขาและเพื่อนที่เคารพนับถือของเขาแล้ว”
เอธานมองไปที่ประตูเมื่อมีร่างที่คุ้นเคยเดินเข้ามาข้างในด้วยรอยยิ้มที่ประจบประแจง
เขาคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพี่คนที่เจอก่อนเข้าห้อง
ตอนที่ 7: พลังจิต? พระราชวังบนภูเขา
ลาฟิวยืนอยู่ข้างสระน้ำ ในขณะที่เขามองไปที่ผู้เข้าร่วม ทันใดนั้นเขาก็โบกมือและดึงผู้เข้าร่วมออกจากบ่อหลังจากออกมา ผู้เข้าร่วมก็นิ่งเงียบและในไม่ช้าเขาก็ฟื้นคืนสติ
“ นี่ … เกิดอะไรขึ้น?!”
ลาฟิวมองไปที่เขาและพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย “หัวใจของคุณกำลังจะหยุดเต้น ดังนั้นฉันจึงดึงคุณออกมานั่นคือทั้งหมด”
ผู้เข้าร่วมเปิดปากของเขา แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีและไม่พูดอะไร แต่หันไปสนใจผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งนาทีก่อนที่ลาฟิวจะนำผู้เข้าร่วมอีกสองคนออกไป ตอนนี้เหลือเพียง เอธาน และผู้เข้าร่วมอีกคนเท่านั้นที่อยู่ในบ่อ
หลังจากผ่านไป 30 วินาทีเขาดึงผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ออกมาตอนนี้เหลือเพียงคนเดียวในบ่อคือ เอธาน
ลาฟิวนึกถึงการแสดงรอบก่อนหน้าของเอธานในขณะที่เขาคิดว่า ‘เด็กคนนี้มีพลังที่น่ากลัวเขาจะกลายเป็น นักเวทย์แห่งธาตุได้ อย่างแน่นอน ถ้าเขาไม่สูญเสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้หลังจากผ่านไปหนึ่งหรือสองทศวรรษ ‘
ตอนนี้ความคิดของเอธาน ช้าลงจนถึงขีดสุด เขาไม่สามารถคิดอะไรได้ในตอนนี้และตอนนี้เขามีเพียงความปรารถนาเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือการนอนหลับ แต่เขารู้ดีว่าถ้าเขาหลับไปมันก็จะจบลงเขาพยายามที่จะไม่หลับต่อไป แม้ว่าความคล่องแคล่วในสมองของเขาแทบจะเป็นศูนย์ในตอนนี้ก็ตาม
ภายนอกตอนนี้ลาฟิวมีสีหน้าแปลก ๆ บนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาคิดว่า ‘เจ้าเป็นสัตว์ร้ายชนิดใดกัน? รีบหลับไปเพื่อที่ฉันจะดึงคุณออกมา ‘
5 นาทีต่อมา …
ผู้เข้าร่วมคนหนึ่งยกมือขึ้นและพูดขณะที่เขาเห็น ลาฟิวมองมาที่เขา “เขายังไม่ตายใช่มั้ย” เขาพูดพร้อมกับชี้ไปที่เอธานที่ถูกแช่แข็ง
ลาฟิวเยาะเย้ยและพูดว่า “อย่าเปรียบเทียบขยะแบบคุณกับเขา ฉันมีความรู้สึกว่าเด็กคนนี้มีสัตว์ร้ายซ่อนอยู่ในตัวเขามันเป็นเพียงเรื่องของเวลาที่มันจะตื่นในร่างกายและสมองของเขาทำงานร่วมกันอย่างแปลกประหลาด ตอนนี้เขาจะไม่ตาย แม้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายวัน แต่มันก็จะไม่เป็นประโยชน์ต่อเขา ในตอนนี้ที่เขาปรับตัวเข้ากับสถานะนี้ได้แล้ว และเดาว่ารอบที่ 3 ก็จบลงแล้วเช่นกัน “
พูดจบเขาโบกมือและดึงเอธานที่ถูกแช่แข็งออกมาจากบ่อ
หลังจากออกมาไม่นาน เอธานก็หลุดออกจากสถานะแปลก ๆ ของเขาในขณะที่สมองของเขากลับมาทำงานได้ตามปกติ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ลาฟิวจึงพูดว่า “ตอนนี้รอบที่ 3 จบลงแล้วฉันจะพาทุกคนไปยังที่ที่คุณจะไปพักและทำงาน”
เมื่อพูดจบลาฟิวก็นำรถม้าออกมาจากอากาศ ซึ่งทำให้ทุกคนตกตะลึง
หลังจากนั่งตรงหน้าแล้วเขาก็มองไปที่ผู้เข้าร่วมทั้งหมดและพูดว่า “พวกคุณฝันกลางวันเพื่ออะไร รีบเข้ามาถ้าคุณต้องการเข้าไปในหุบเขาสายฟ้า – ไฟ”
จากนั้นทุกคนก็หมดความคิดและกระโดดขึ้นรถม้าซึ่งมีพื้นที่เพียงพอที่จะจุคนได้ 10 คนที่อยู่ด้านหลังและสองคนที่อยู่ด้านหน้า
เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าไปในรถม้าแล้ว ลาฟิว ก็กดมือของเขากับกระดานชนวนสี่เหลี่ยมที่อยู่ตรงหน้าเขา ซึ่งกระตุ้นให้รถม้าลอยและเคลื่อนไปข้างหน้าในอากาศ
ขณะที่กำลังเคลื่อนย้ายเอธานถามว่า “ในนักรบธาตุแบบเราบินได้หรือไม่”
ลาฟิวมองเขาและพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ” นักรบธาตุ… ไม่สามารถบินได้”
ทุกคนแสดงสีหน้าผิดหวัง แต่แล้วก็สลัดวามคิดนั้นออก …
“ แต่ … ”
‘นี่เอาอีกแล้วใช่ไหม …. ‘ ทุกคนต้องการที่จะแสดงนิ้วกลางของพวกเขาไปที่ ลาฟิว แต่พวกเขาก็ยับยั้งตัวเองเพราะพวกเขาไม่ต้องการถูกโยนออกจากรถม้าโดยผู้ชายคนนี้
“แต่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุพลังที่จะบินได้ ในฐานะนักรบธาตุเพราะสิ่งที่คุณเห็นฉันทำเช่นการบินบนท้องฟ้า ดึงคุณออกมาจากบ่อน้ำ ฯลฯ ไม่เกี่ยวข้องกับพลังธาตุ แต่เป็นพลังอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่าพลังจิต เมื่อนักเวทย์ธาตุต้องการเป็นนักเวทย์ธาตุก่อนอื่นพวกเขาจะต้องปลดล็อกอาณาจักรพลังจิตและผลิตพลังงานกายสิทธิ์ พลังงานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากใครต้องการฝึกฝนต่อไปบนเส้นทางของจอมเวทย์แห่งธาตุ “
เมื่อเห็นการแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนมุมปากของ ลาฟิวก็ยักขึ้นในขณะที่เขาพูดต่อ “นักรบธาตุสามารถปลดล็อก อาณาจักของพลังจิตได้ ในทำนองเดียวกัน และมันง่ายกว่าการได้รับความสัมพันธ์ขององค์ประกอบ ในขณะฝึกฝนความตั้งใจของคุณและจะต้องเป็น มีพลังเพียงพอเนื่องจากพลังงานจิตใจเกี่ยวข้องกับสมองของเรา ”
ทุกคนแสดงสีหน้าโหยหา เมื่อได้ยินสิ่งที่ลาฟิวพูดและสาบานว่าจะไม่ยอมแพ้ในเส้นทางของนักรบธาตุ เวลาจะบอกได้ว่าความตั้งใจของพวกเขาเพียงพอหรือไม่
หลังจากบินต่อไปอีกประมาณ 10 นาทีพวกเขาก็มาถึงเทือกเขาแต่ละภูเขาในเทือกเขานี้มีขนาดมากกว่าวังสายฟ้า – ไฟ ด้านนอกที่มีการตรวจสอบมากกว่าสองเท่า … และมีพระราชวังและอาคารจำนวนมากในบริเวณนี้ เทือกเขาทั้งหมด
เอธานถูกมองด้วยสายตานี้ ขณะที่เขาคิดว่า ‘ให้ตายเถอะ ภูเขาแต่ละลูกในเทือกเขานี้ มีขนาดเท่ากับยอดเขาเอเวอเรสต์หรือใหญ่กว่ากันนะ ‘
ลาฟิวพูดขณะที่พวกเขาลงจอดบนภูเขาลูกหนึ่งทางด้านซ้ายของเทือกเขา “เทือกเขาทั้งหมดนี้คือหุบเขาสายฟ้า – ไฟ ภายในภูเขาแต่ละลูกมีพระราชวังที่สร้างขึ้นหลังจากปรับยอดเขาแล้วพวกเขาจึงถูกเรียกว่าภูเขา พระราชวัง”
เอธานต้องการสอบถามเกี่ยวกับไมค์ เขาจึงยกมือขึ้นและพูดหลังจากได้รับสัญญาณจากลาฟิว “ไมค์อยู่ที่นี่ไหม ฉันจะได้พบเขาเมื่อไหร่”
การจ้องมองของลาฟิวเปลี่ยนไปอย่างแปลกประหลาด ขณะที่เขาตอบว่า “ไมค์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาอยู่ที่ ศูนย์ใหญ่ ซึ่งอยู่ลึกลงไปกว่านั้นซึ่งใจกลางของหุบเขาก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน” เขาหยุดพูดตรงนี้ พลางจ้องมองเขา และแสดงความสงสาร ขณะที่เขามองไปที่เอธานและกล่าวว่า “สถานการณ์ของไมค์ นั้นพิเศษมากคุณและเขาเป็นคนจากโลกที่แตกต่างกัน ตอนนี้คุณจะพบกับเขาในอนาคตได้ยากมาก ผมจะไม่พูดอะไร อีกต่อไปคุณจะพบทุกสิ่งในวันพรุ่งนี้ “
หลังจากนั้นเขาทรงนำทุกคนเข้าไปในพระราชวัง พระราชวังนี้ใหญ่กว่าวังนอก ของหุบเขา
มีผู้คนจำนวนมากเข้าและออกจากทางเดินและประตูทางเดินที่นำไปสู่อีกด้านหนึ่งของภูเขา ซึ่งมีอาคารอื่น ๆ ตั้งอยู่
ลาฟิว พาทุกคนไปตามทางเดิน เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ที่มีการสร้างบ้านจำนวนมาก สภาพแวดล้อมดีมากมีต้นไม้เขียวขจีทุกที่และแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่ไหลไปตามกระแสน้ำ
“บ้านหนึ่งหลังต่อคน หลังจากเลือกบ้านของคุณแล้ว ให้เขียนชื่อของคุณบนแท็กนั้นด้านนอกมีหนังสือความรู้ทั่วไปอยู่บนโต๊ะในบ้านของคุณ คุณต้องอ่านอย่างละเอียดก่อนนอน อาหารจะมาถึงหลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ในขณะที่คุณสามารถเปลี่ยนของคุณได้ แต่งกายและซักเสื้อผ้าที่แม่น้ำ “
ทุกคนพยักหน้าขณะที่ลาฟิวพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “พรุ่งนี้เวลา 8.00 น. ฉันต้องการให้ทุกคนยืนอยู่ที่นี่ถ้าหัวหน้างานของคุณเห็นใครบางคนไม่อยู่คนนั้นจะถูกไล่ออกจาก หุบเขา ดังนั้นโปรดตรงเวลาและสถานที่ทำงานของคุณก็เช่นกัน ทุกอย่างพิจารณาแล้วตามผลงานของคุณดังนั้นฉันจะไม่อนุญาตให้มีการร้องเรียนใด ๆ เข้าใจไหม ”
“ได้ !!” ทุกคนตะโกนตอบ
ลาฟิวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ในขณะที่เขาพูดว่า “ดี ตอนนี้ถ้าคุณต้องการกินอาหารที่ดีขึ้น คุณสามารถล่าสัตว์ประหลาดหรือไปที่โรงอาหาร ซึ่งคุณจะพบได้หลังจากถามใครบางคนที่นี่ ภูเขาทุกลูกเชื่อมต่อกันในภูเขานี้ ดังนั้นคุณสามารถไปที่ภูเขาอื่น ผ่านถนนบนภูเขานี้ ไม่จำเป็นต้องลงจากภูเขานี้ เพื่อไปยังภูเขาอื่นเอาล่ะ ลาก่อน ฉันจะไม่มาหลังจากวันนี้ ฉันขอให้คุณทุกคนกลายเป็นพ่อมดธาตุในตัวคุณ และชีวิตคุณได้” พูดอย่างนั้นเสร็จเขาก็บินขึ้น
แต่ก่อนที่จะบินจากไปเขามองย้อนกลับไปราวกับว่าเขาจำอะไรบางอย่างได้และโยนแผ่นไม้ไปทาง เอธานขณะที่พูดว่า “พรุ่งนี้ หลังจากที่คุณกลับมาจากที่ทำงาน ให้ดูแผ่นไม้นี้ที่โต๊ะทำงานในวังบนภูเขานี้ “ หลังจากนั้น ลาฟิวก็บินจากไป
จากนั้นผู้เข้าร่วมทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปเลือกบ้านของพวกเขามีเพียง 8 หลังเท่านั้นและแต่ละหลังก็มีลักษณะเหมือนกันทุกประการ
เอธานเข้าไปในบ้านหลังที่ 8 ซึ่งเป็นบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้แม่น้ำและเข้าไปข้างในหลังจากเขียนชื่อของเขาบนแท็ก บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นชั้นเดียวห้องเดียวห้องโถงเล็ก 1 โต๊ะในห้องโถงและตู้ในห้อง
หลังจากวางกระเป๋าไว้บนเตียงในห้องแล้วเขาก็หยิบหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา
ขั้นตอนของพ่อมดธาตุ (จากขั้นที่ 1 ถึงขั้นที่ 5)
ด่าน 1: ผู้นำธาตุ
– ในขั้นตอนนี้ นักเวทย์แห่งธาตุ สามารถนำพลังธาตุเข้าสู่ร่างกายของพวกเขา เพื่อสร้างทะเลธาตุได้เท่านั้น (แต่ละองค์ประกอบต้องการทะเลธาตุ ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง องค์ประกอบทั้งสองไม่สามารถอยู่ร่วมกันในทะเลธาตุเดียวได้) หลังจากที่หนึ่งสร้างทะเลธาตุสำเร็จพวกเขาจะเข้าสู่ขั้นที่ 2
————————————————– ————————————————-
ขั้นที่ 2: เด็กฝึกงานธาตุ
– ในขั้นตอนนี้ผู้ฝึกจะได้เรียนรู้วิธีการยืมและควบคุมพลังงานภายในทะเลธาตุของพวกเขาอย่างเชี่ยวชาญ … เมื่อพวกเขาสามารถใช้ความสามารถระดับต่ำสุดขององค์ประกอบตามลำดับได้สำเร็จเช่นลูกบอลไฟ เศษดินปืนฉีดน้ำและอื่น ๆ ถือว่าได้ทำให้สถานะของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในฐานะเด็กฝึกงานธาตุ
————————————————– ————————————————-
ด่าน 3: นักผจญภัยเกี่ยวกับธาตุ
– ในขั้นตอนนี้ผู้ฝึกจะต้องขยายทะเลธาตุของตนเพื่อเพิ่มแหล่งกักเก็บพลังงานธาตุและโดยทั่วไปจะใช้เวลานาน … พวกเขาถือได้ว่ามีสถานะเป็น นักผจญภัยเกี่ยวกับธาตุหากสามารถร่ายสูงได้ – ระดับความสามารถที่ไม่ต้องการการควบคุมที่ซับซ้อนเช่น ฝนไฟ, ปืนน้ำ, สายฟ้าฟาด,เปลือกโลก เป็นต้น
————————————————– ————————————————-
ขั้นที่ 4: ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุ
– ในขั้นตอนนี้ผู้ฝึกจะต้องฝึกฝนการควบคุมแหล่งพลังงานธาตุขนาดใหญ่ในทะเลเอเลเมนทัลเพื่อใช้ความสามารถที่ซับซ้อนและระดับสูงเช่นปีกอัคคี, ฝนบำบัด, มิราจน้ำ, เขาวงกตโลก ในระยะสั้นเมื่อพวกเขาสามารถควบคุมพลังธาตุของพวกเขาได้อย่างเต็มที่พวกเขาก็จะถือว่าผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุอีกตัวอย่างหนึ่งคือ: นักเดินทางสูงสุดสามารถโยนลูกไฟ 5 ลูกได้อย่างรวดเร็วและโจมตี แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุสามารถขว้างลูกไฟ 15 ลูกได้เร็วขึ้นและโจมตีได้
แต่นี่เป็นส่วนที่ยากขั้นที่ 5
————————————————– ————————————————-
ขั้นที่ 5: นักเวทย์เกี่ยวกับธาตุ
– เพื่อไปให้ถึงขั้นนี้ นักเวทย์เกี่ยวกับธาตุ จำเป็นต้องปลดล็อก อาณาจักแห่งจิตใจ ซึ่งผลิต พลังงานของจิตใจ หลังจากนั้นพวกเขาจะต้องใช้ พลังจากจิตใจ เพื่อปรับแต่ง พลังงานธาตุ ภายใน ทะเลธาตุ ซึ่งจะทำให้พลังงานที่เกี่ยวข้องภายในร่างกายมีพลังมากขึ้น . ตัวอย่างเช่น . ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุและ นักเวทย์เกี่ยวกับธาตุ ใช้พลังงานไฟในปริมาณเท่ากันเพื่อโยน ลูกบอลไฟลงในบ่อน้ำและผลกระทบที่มีต่อบ่อน้ำจะแตกต่างกันอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุไฟ จะระเหยน้ำบางส่วนและส่งเสียงดังฉ่าในบางครั้ง แต่ ลูกไฟ ของ นักเวทย์ สามารถระเหยทั้งบ่อได้
– นักเวทย์เกี่ยวกับธาตุ สามารถเริ่มต้นได้โดยใช้ ศิลปะของธาตุ ซึ่งต้องการพลังงานที่กลั่นและพลังจิต
– คุณสามารถพูดได้ว่าผู้เชี่ยวชาญพลังงานธาตุไฟ คือระดับ 1 และ นักเวทย์พลังงานธาตุไฟ คือระดับ 2 หนึ่งคือ รถม้ากระดาษ ในขณะที่อีกอันคือ รถม้าโลหะ นั่นเอง
ตอนที่ 6: ความตกใจ ความสุข และความเศร้า
ไมค์หลับตา 10 นาทีก่อนที่เขาจะลืมตา แต่คราวนี้ไม่มีสีเงินในดวงตาของเขา
ลาฟิวปรากฏตัวข้างๆไมค์และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยินดีด้วยนะนายเพิ่งโดนแจ๊คพอต”
ไมค์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “เกิดอะไรขึ้น ฉันโดนแจ็คพอตได้อย่างไร”
ดูเหมือนว่าไมค์ไม่รู้เกี่ยวกับความสำเร็จของตัวเองและสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 15 นาทีที่ผ่านมา
“ลาฟิว คุณรู้ไหมว่าธาตุใดที่ไมค์ได้มันและทำให้เขาเกิดใหม่ ฉันไม่รู้ว่าสีเงินเป็นตัวแทนของอะไร” ฉันไม่สามารถกลั้นได้ ขณะที่ฉันถามลาฟิว
เมื่อได้ยินพวกเขาคุยกัน ไมค์ก็งงก่อนแล้วก็ตกใจ“ เดี๋ยวก่อนคุณกำลังบอกว่าฉันปลุกพลังความสัมพันธ์ ให้กับธาตุเหรอคุณไม่ได้โกหกฉันใช่มั้ย?”
ฟิวแสยะยิ้มและพูดว่า “แน่นอนว่าเราไม่ได้โกหกคุณ คุณปลุกความสัมพันธ์ที่มีต่อองค์ประกอบและองค์ประกอบที่คุณตื่นขึ้นมานั้นหายากมาก จนไม่มีใครทำได้มากนัก และองค์ประกอบดังกล่าวสามารถพบได้ในหุบเขาแห่งนี้เท่านั้น”
‘รีบบอกมา ว่าองค์ประกอบที่น่ากลัวนั้นคืออะไร ‘
ลาฟิวหัวเราะและพูดกับไมค์โดยไม่สนใจการจ้องมองของทุกคน “มาหาฉันไมค์ ฉันจะพาคุณไปที่ สำนักงานใหญ่ของ หุบเขาสายฟ้า-ไฟ “
หลังจากนั้นเขาก็จับไหล่ของไมค์แล้วบินออกจากวังผ่านหน้าต่างในห้อง
‘เราเห็นได้ว่าคุณรีบ จากการแสดงออกของคุณ แต่อย่างน้อยก็ใช้ประตูหน่อย ‘นั่นคือสิ่งที่ผู้เข้าร่วมทุกคนคิด
ฉันยังลิ้นพันกับความรวดเร็วของ ลาฟิว เขาไม่ได้บอกเราด้วยซ้ำว่าองค์ประกอบสีเงินนั่นคืออะไรไอ้ …
‘แต่นอกจากนั้น ฉันมีความสุขมากสำหรับไมค์ บางทีฉันอาจจะปลุกองค์ประกอบแบบนั้นได้ ถ้าฉันผ่านนรกอีกสองสามอย่างเช่น ลาวาไฟ และ เวทีสายฟ้า? ‘ฉันอดไม่ได้ที่จะเพ้อฝันเกี่ยวกับการปลุกพลังธาตุเช่นเดียวกับไมค์ฮ่า ๆ ๆ ๆ
ผู้เข้าร่วมคนหนึ่งถามว่า “มีใครรู้บ้างว่าสีเงินนั้นเป็นตัวแทนของอะไร”
“ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องธาตุที่มีสีเงิน”
“ฉันเช่นกัน ฉันเคยอ่านบันทึกของเมย์รอนในหอคอยของเรา แต่ไม่มีการพูดถึงองค์ประกอบสีเงิน”
“ แต่คนที่แอบอ้างนั้น รู้เรื่องของธาตุนั้นอย่างแน่นอน….”
ผู้เข้าร่วมเริ่มพูดคุยกัน ในขณะที่ฉันยืนอยู่ในที่ที่ฉันอยู่ บางทีพวกเขาอาจจะไม่รำคาญที่ถามฉันเพราะฉันตัวเล็กกว่าพวกเขา ชิ อะไรก็ได้นั่นแหละ
10 นาทีผ่านไปเพราะเราได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนอยู่ข้างหลังเราซึ่งประตูห้องอยู่
ทุกคนหันกลับมาและคิดว่าเมื่อเห็นคน ๆ นั้น ‘คราวนี้คุณกลับมาทางประตูเหรอ? ‘
“เอาล่ะคุณ 5 คนผ่านรอบที่ 2 และตอนนี้เป็นสาวกของหุบเขาสายฟ้า-ไฟอย่างเป็นทางการ แต่เรายังต้องทำการประเมินรอบที่ 3 ซึ่งจะตัดสินว่าคุณจะถูกส่งไปทำงานที่ไหนและคุณจะมีทรัพยากรมากแค่ไหนที่จะได้รับ “
เมื่อเห็นทุกคนพยักหน้า ลาฟิวก็พาทุกคนออกจากห้องและเข้าประตูที่อยู่ทางทิศเหนือของ วัง ซึ่งเป็นประตูที่เราเห็นทันทีหลังจากเข้าไปในวัง
ฉันอยากถามเรื่องเกี่ยวกับไมค์ แต่ฉันก็อดทนรอและตัดสินใจที่จะจบรอบที่ 3 ก่อนที่จะถาม
ไม่นานเราก็เข้าสู่ประตูที่ 3 แต่ครั้งนี้ไม่มีอะไรพิเศษในนั้น ห้องนี้พาเราออกจากวังเพราะมีน้ำตกสระน้ำและต้นไม้เขียวขจี
หลังจากที่ทุกคนเข้าไปแล้ว ลาฟิว ก็พูดว่า“ รอบนี้ง่ายกว่ารอบก่อน ๆ มากขึ้น สิ่งที่คุณต้องทำก็แค่นั่งในบ่อนั้น ขณะหลับตาไม่จำกัดเวลา คุณสามารถออกมาได้เมื่อคุณไม่สามารถอยู่ใน อีกต่อไป เพียงแค่ว่ายิ่งคุณอยู่ในบ่อน้ำนานเท่าไหร่ คุณก็จะได้รับรางวัลมากขึ้น สถานที่ทำงานที่ดีขึ้นและทรัพยากรที่ดีขึ้น ”
เมื่อฟังรายละเอียดทุกคนก็มาถึงบ่อและนั่งลงในบ่อระดับน้ำในบ่อถึงคอเราเท่านั้นแม้ว่าเราจะนั่งลงแล้วก็ตาม
เมื่อเห็นทุกคนนั่งลงในสระน้ำ ลาฟิวจึงพูดว่า “อีกครั้ง คุณสามารถออกมาได้ ถ้าคุณทนไม่ได้ที่จะอยู่ต่อไปและฉันจะลากคุณออกไปด้วย “
เมื่อได้ยินส่วนสุดท้าย เหงื่อก็เริ่มก่อตัวขึ้นบนใบหน้าของผู้เข้าร่วม ในขณะที่พวกเขาคิดว่า ‘ใกล้จะตายแล้วเหรอ? คุณบอกว่าเรามีโอกาสที่จะตายในบ่อที่ดูธรรมดานี้หรือไม่? ‘
ฉันรู้สึกประหลาดใจ เช่นกันที่ได้ยินส่วนนั้นเพราะในรอบที่แล้ว ซึ่งมีสระว่ายน้ำลาวาที่ดูอันตรายและเวทีสายฟ้าลาฟิวบอกอย่างชัดเจนว่าไม่มีโอกาสที่จะตายในพวกมัน แต่เรามีโอกาสที่จะตายในบ่อน้ำที่ดูธรรมดานี้หรือไม่?
ฉันหลับตาลง หลังจากนั้น
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีฉันก็คิดเรื่องสุ่ม เมื่อฉันรู้ว่าน้ำเริ่มเย็น แต่มันก็ไม่ทำให้ฉันรำคาญ
…
…
สำนักงานใหญ่ของ หุบเขาสายฟ้า-ไฟ
ขณะนี้ไมค์นั่งอยู่คนเดียวในห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีลวดลายจารึกอยู่ทั่วการตกแต่งภายในห้องโถงโดยมีการออกแบบสีแดงน้ำเงินและทองผสมกัน
ทุกคนที่มองมาที่เขาสามารถพูดได้ว่าเขาเป็นกลุ่มของความกังวลใจและความตื่นเต้น
ทันใดนั้นลมก็พัดแรงและชายคนหนึ่งในวัย60เศษปรากฏตัวขึ้น ซึ่งสวมเสื้อคลุมสีทองที่มีสีแดงและสีน้ำเงินเต้นอยู่รอบ ๆ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มจาง ๆ ในขณะที่การแบกของเขาทำให้ความคมชัดและความดุร้ายแม้จะมีอายุมากก็ตาม
เขาปรากฏตัวต่อหน้าไมค์และพูดว่า “คนตัวเล็ก ไม่ต้องกังวลชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไป เมื่อโชคชะตายิ้มให้คุณ”
ไมค์ตกใจ เมื่อเห็นใครบางคนปรากฏตัวต่อหน้าเขาและก็กลัวด้วยเพราะออร่าของคน ๆ นี้มีพลังมากเกินไป
“อืม.. ฉัน … ฉัน …. ชื่อเอธาน … ไม่ผิดฉันชื่อไมค์ … ‘ไมค์เหงื่อตกขณะที่เขาพูดติดอ่างและคาดคั้นขณะพูด
ชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “อย่าประหม่าตัวน้อยฉันชื่อไท่ฟางและฉันจะเป็นนายของคุณ ฉันแน่ใจว่าคุณมีคำถามมากมาย แต่โปรดฟังฉันก่อน”
“สิ่งแรกคือเกี่ยวกับชีวิตใหม่ของคุณ คุณจะเป็นลูกชายศักดิ์สิทธิ์ของหุบเขาสายฟ้า – ไฟ และจะสืบทอดตำแหน่งของฉันในฐานะหัวหน้าหุบเขาในอนาคตด้วย”
ไมค์ตกตะลึงราวกับระเบิดที่ศีรษะของเขาขณะที่คางของเขากระแทกพื้น
หัวหน้าหุบเขา กล่าวต่อว่า “สิ่งที่สองก็คือองค์ประกอบที่คุณปลุกขึ้นมานั้น ไม่มีใครอื่นนอกจากนั้นก็คือธาตุอวกาศที่หายากมาก อย่างน้อยที่สุดในประสบการณ์ชีวิตของฉัน ฉันไม่เคยเห็นคนที่มีองค์ประกอบนี้ แต่เรามีบันทึกว่าองค์ประกอบอวกาศไม่รวมอยู่ด้วย แสงสีเงินจาง ๆ ในดวงตาของคนโดยเฉพาะฉันไปยืมปลาธาตุตัวเดียวตัวนี้จาก หัวหน้าพาวินเลี่ยนจากเมืองของเขา ”
เมื่อพูดถึงที่นี่หัวหน้าของหุบเขา คว้าไหล่ของไมค์ ขณะที่ทั้งคู่บินออกจากวังใหญ่และปรากฏตัวไปที่บ่อน้ำ เขาโบกมือและมีปลาสีเงินปรากฏขึ้น ซึ่งเขาโยนลงไปในบ่อ
“ไปยืนข้างในบ่อ”
ไมค์พยักหน้าขณะที่เขาเดินไปที่บ่อน้ำในขณะที่เขาก้าวเท้าลงไปในบ่อปลาสีเงินก็วิ่งเข้ามาหาเขาและเริ่มเปล่งประกาย
มันเรืองแสงเป็นเวลา 30 วินาทีก่อนที่จะหยุด
เมื่อเห็นผลหัวหน้าหุบเขาดูตื่นเต้นแม้อายุของเขา “เกือบจะถึงระดับสูงแล้วฮ่า ๆ ๆ ”
จากนั้นไมค์ก็ออกมาขณะที่ หัวหน้าหุบเขา ดึงปลามา
“หัวหน้าหุบเขาเป็นไปได้ไหมที่จะเพิ่มระดับความสัมพันธ์ขององค์ประกอบ” ไมค์ถาม
หัวหน้าหุบเขา มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพยักหน้า “เป็นไปได้ที่จะเพิ่มระดับความสัมพันธ์ขององค์ประกอบ”
“ฉันเข้าใจแล้วหัวหน้าหุบเขา…. ” เมื่อเห็นความลังเลของไมค์หัวหน้าหุบเขาก็พูด “คุณต้องการอะไรคุณสามารถบอกความปรารถนาของคุณได้ หลังจากทั้งหมดเราจะเป็นเจ้านายและศิษย์อย่างเป็นทางการหลังจากเสร็จสิ้นพิธีในวันพรุ่งนี้ .”
“คือ … ผมมีเพื่อนที่เป็นเหมือนพี่ชายของผม เขาไม่มีความสัมพันธ์แบบธาตุ แต่ผมได้ยินมาว่ายา สามารถปลุกความสัมพันธ์ในตัวบุคคลได้ … ” คำพูดของไมค์ถูกตัดสั้นโดย หัวกน้าหุบเขาไทเฟิงที่พูดขัด.
“แล้วคุณต้องการขอยาเพิ่มความสัมพันธ์นั่นให้เพื่อนของคุณหรือไม่”
เมื่อเห็นไมค์พยักหน้าเขา ก็ถอนหายใจ“ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องการให้ ยาเพิ่มความสัมพันธ์แก่คุณ แต่เราไม่สามารถผลิตได้อีกต่อไป แหล่งที่มาของ สายฟ้าและไฟได้อ่อนแอลงมาก นับตั้งแต่ หัวหน้า คนก่อน ใช้มันสร้างยาจำนวนมากเมื่อ 300 ปีก่อน ดังนั้นแหล่งที่มาจึงอ่อนแอลงและตอนนี้เราต้องรออีก 200 ปีก่อนที่จะสร้างยาได้อีกชุดหนึ่ง “
“ ฉันเข้าใจแล้ว … ” ไมค์รู้สึกหดหู่เพราะเขาอยากช่วยเอธานเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นการแสดงออกของเขาหัวหน้าก็พูดต่อ “ฉันรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ แต่ตอนนี้คุณและเขาเป็นคนจากโลกที่แตกต่างกัน พวกนักรบธาตุมีช่วงชีวิตเพียง 100-150 ปี ในขณะที่ นักเวทย์ธาตุสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นเมื่อพวกเขาใช้ชีวิตต่อไป เขาจะแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน ไม่ใช่ว่านักรบธาตุทุกคนจะสามารถเปิดอาณาจักรพลังจิตของพวกเขาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงมีชีวิตอยู่ได้อย่างมากที่สุดเพียง 100 ปีเท่านั้น “
เมื่อได้ยินความจริงนี้ไมค์ก็ยิ่งเสียใจขณะที่เขาบ่นว่า “เขาทำงานหนักกว่าฉัน และเขาสมควรได้รับความสัมพันธ์ที่เป็นองค์ประกอบมากกว่าฉัน”
หัวหน้าหุบเขาส่ายหัว“ นั่นคือโชคชะตาของคุณคนเดียวเท่านั้นที่ยอมรับได้”
ในขณะเดียวกัน…
บ่อน้ำถูกแช่แข็งโดยสิ้นเชิงพร้อมกับผู้เข้าร่วมที่นั่งอยู่ข้างใน
ตอนที่ 5: ดวงตาสีเงินและการตื่นขึ้นของไมค์?
“เอาล่ะทุกคนรอบที่ 2 จะเริ่มในอีก 5 ชั่วโมงพวกคุณสามารถพักผ่อนในกระท่อมเหล่านั้นได้” ลาฟิวพูดขณะชี้ไปที่พื้นที่ทางด้านซ้าย “หลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมงเราจะเข้าวังและเริ่มการทดสอบรอบที่ 2 .”
จากนั้นทุกคนก็มุ่งหน้าไปที่กระท่อม เพื่อพักผ่อนเพราะหลังจากการปีนขึ้นไปบนยอดเขาอย่างหนักหน่วงทุกคนก็หมดกำลัง
ใช้เวลาไม่นานถึง 5 ชั่วโมงก็ผ่านไป เมื่อเสียงของลาฟิว ดังขึ้น ในขณะที่พวกเขากำลังพักผ่อนในกระท่อมของพวกเขา
ไม่นานทุกคนก็ออกมาหลังจากได้ยินเสียง
และเมื่อเห็นว่าทุกคนพร้อมแล้ว ลาฟิวก็นำผู้เข้าร่วมทั้งหมดเข้าการทดสอบเป็นรอบที่ 2
“ รอบที่ 2 ก็ง่ายมากเช่นกัน พวกคุณต้องอยู่ใน 2 โซนนี้เป็นเวลา 5 นาที” ลาฟิวพูด หลังจากที่เดินนำทุกคนเข้าไปในพระราชวังหลังใหญ่
พระราชวังมีขนาดใหญ่มาก เนื่องจากปกคลุมไปทั่วทั้งยอดเขา
ห้องโถงของพระราชวังมีประตู 3 บาน หนึ่งที่ด้านหน้าหนึ่งทางขวาและอีกอันทางซ้าย
ขั้นแรกลาฟิวพาทุกคนไปที่ประตูฝั่งขวา ทันทีที่ทุกคนเข้าไปความร้อนก็ทักทายใบหน้าของทุกคน
กลางห้องเป็นแอ่งลาวา
“สิ่งที่คุณต้องทำคืออยู่ในแอ่งลาวานั้นเป็นเวลา 5 นาที … ” เมื่อหยุดตรงนี้ ลาฟิวก็ มองทุกคนด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ ขณะที่ใบหน้าของผู้เข้าร่วมทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีขาว หลังจากได้ยินเกี่ยวกับการทดสอบ
“แต่ไม่ต้องกังวลสระว่ายน้ำของลาวานั้น ไม่ใช่ลาวาจริง มันเป็นเพียงแค่พลังงานธาตุไฟเท่านั้น ที่กลายเป็นลาวาที่แท้จริง แต่ความเจ็บปวดที่คุณรู้สึก หลังจากเข้าไปในสระลาวานี้จะเหมือนกับลาวาจริง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือคุณทุกคนจะไม่ตาย แต่ต้องทนกับความเจ็บปวดจากการเผาไหม้ของผิวหนัง กระดูก และอวัยวะของคุณ มันแค่ 5 นาทีไม่ยากใช่มั้ย?”
ทุกคนอยากเอาชนะผู้ชายคนนี้หลังจากได้ยินคำว่า ‘ไม่ยากใช่มั้ย?’
ลาฟิวยิ้ม เมื่อเห็นการแสดงออกของทุกคน “รอบที่ 2 เริ่มแล้ว 5 นาทีของคุณจะเริ่มทันที ที่คุณลงสระว่ายน้ำทุกคนจะต้องลงสระว่ายน้ำในอีก 10 นาที คุณก็สามารถใช้เวลาอันแสนหวานของคุณได้ต่อ”
ไม่มีใครขยับเพราะพวกเขาต้องการเห็นคนอื่นไปก่อน
ครั้งแรกหรือครั้งสุดท้าย ประสบการณ์จะเหมือนกัน ดังนั้นฉันจึงกระโดดลงไปในแอ่งลาวา
ดวงตาของลาฟิวเปล่งประกาย ในขณะที่เขาพยักหน้าว่า ‘การแก้ไขสถานการณ์แบบนี้ไม่พบในหลาย ๆ คนที่อยู่ที่นี่ ‘
หลังจากกระโดดลงไปในแอ่งลาวา ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยในวินาทีแรก แต่แล้วก็มาถึงจุดของนรก
“อ้าาาาาาาาาาาาา …. ” ฉันอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา
แต่ทันทีที่ฉันจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันในชาติที่แล้ว ฉันก็กัดฟันขณะที่ฉันหยุดตะโกน
ความเจ็บปวดกำลังแผ่ซ่านเข้าไปในร่างกายของฉัน เมื่ออวัยวะของฉันเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่อาจทำให้ใครบางคนเสียสติได้
แต่ฉันพยายามอย่างแน่วแน่และเสริมสร้างจิตใจของฉันในขณะที่ฉันอดทนต่อความเจ็บปวดทั้งหมดนี้ ‘นี่ไม่ใช่อะไรเลย สิ่งที่ฉันจะต้องอดทนต่อไปในอนาคตอาจจะเจ็บปวดไปกว่านี้อีก แล้วนี่เป็นเพียงขั้นตอนแรกของเรื่องเลวร้ายพวกนั้น “
น่าแปลกที่ฉันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ลดน้อยลง ….. ไม่หรอก. ความเจ็บปวดไม่ได้ลดลง แต่ความอดทนต่อความเจ็บปวดของฉันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ฉันรู้สึกได้ว่าร่างกายของฉันแข็งแรงขึ้น แต่เดี๋ยวก่อน … นี่อาจเป็นวิธีหนึ่งในการปรับแต่งร่างกายของฉัน โดยใช้พลังงานธาตุได้หรือไม่?
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสระว่ายน้ำ ลาฟิวก็พยักหน้าว่า ‘เด็กคนนี้สบายดี ‘
ไม่นาน 5 นาทีผ่านไป เมื่อฉันขึ้นมาจากสระว่ายน้ำ
หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมก็เริ่มกระโดดลงสระ บางคนเป็นลม หลังจากอยู่ในสระว่ายน้ำเป็นเวลา 1 นาทีและอีกไม่กี่คนก็เป็นลมหลังจากออกมาจากสระว่ายน้ำ
หลังจากผ่านไป 7 นาทีไมค์ก็พูดว่า “พี่รู้สึกอย่างไรบ้าง”
ฉันพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง “ฉันพูดได้แค่ว่ามันเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดที่ฉันประสบมา แต่ตราบใดที่คุณตั้งสติและไม่ยอมแพ้กับความเจ็บปวด คุณจะประสบความสำเร็จ ฉันคิดว่าสระว่ายน้ำนี้ ลาวาที่ควบแน่นจากพลังงานธาตุไฟ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแค่อย่ายอมแพ้กับความเจ็บปวด และตั้งสติให้ดี แล้วคุณจะผ่านไปนั่นคือทั้งหมดที่ฉันพูดได้ “
“ ฉันเข้าใจแล้ว” ไมค์ผงกหัวกัดฟันแล้วกระโดดลงสระว่ายน้ำ
ทันทีที่เขาดำน้ำ เขาเริ่มกรีดร้องเสียงกรีดร้องที่ดีสามารถบรรเทาความเจ็บปวดได้ เนื่องจากเป็นทางออกที่ดีที่ผู้เข้าร่วมหลายคนกรีดร้องเป็นเวลา 5 นาทีก่อนที่จะออกมาจากสระว่ายน้ำ
ไมค์ยังใช้วิธีนี้ในขณะที่เขาเริ่มกรีดร้อง
ไมค์เริ่มแสดงอาการยอมแพ้หลังจากผ่านไป 3 นาที เนื่องจากการแสดงออกของเขาทำให้ความคิดภายในของเขาหมดไป
และฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้น “ไมค์ เรากำลังจะได้ไปฝึกด้วยกัน ฉันจะไม่ยอมรับ ถ้าคุณแพ้ ดังนั้นคุณจะทำได้ดีกว่านี้และเราจะได้ไปด้วยกันและผ่านรอบ ๆ นี้ไป”
‘ตั้งสติให้ดีและอย่ายอมแพ้กับความเจ็บปวดฉันมาพร้อมกับเอธาน และฉันจะไม่กลับไปคนเดียวอย่างแน่นอน ‘
ไมค์หยุดกรีดร้องและกัดฟันเพราะดูเหมือนว่าเขาจะพบกุญแจสำคัญที่จะอดทนได้ในการทดสอบครั้งนี้
5 นาทีผ่านไป ขณะที่ไมค์ออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้
ฉันเดินไปข้างหน้าและตบหลังเขาอย่างแรง “เอาล่ะ ไม่ยากขนาดนั้นใช่ไหม”
ไมค์ตอบ “ไม่ยาก ฉันทำได้”
ลาฟิวหัวเราะเมื่อได้ยินการแลกเปลี่ยนของเรา “ใช่มันไม่ได้ยากขนาดนั้น คุณแค่ต้องมีความตั้งใจอย่างเพียงพอและอดทนต่อความเจ็บปวด อย่างไรก็ตามการเดินบนเส้นทางของนักรบธาตุ ไม่ใช่การเล่นของเด็ก หากคุณไม่สามารถอดทนต่อสิ่งนี้ได้คุณก็จะเผชิญกับความตายในอนาคต 100 % ขณะฝึกแน่นอน “
ทุกคนที่เหลือพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น จาก 50 คนมีเพียง 23 คนที่ผ่านรอบนี้มากกว่าครึ่งถูกคัดออก
เมื่อเห็นทุกคนพร้อมแล้ว ลาฟิวจึงพูดว่า “ไปที่โซน 2 กันเถอะ”
ผู้เข้าร่วมคนหนึ่งยกมือขึ้นและพูดว่า “ช่วงนี้ เราจะไม่ได้พักบ้างหรือ”
“ไม่โซนที่ 2 เป็นส่วนหนึ่งของรอบ 2 ” เขาพาทุกคนไปที่ประตูด้านซ้ายของห้องโถงพระราชวัง
เมื่อเข้าประตูที่ 2 เราตกใจมากตกใจจริงๆ
คุณเคยเห็นสายฟ้าในอุ้งมือหรือไม่? เช่นเดียวกับถ้าคุณต้องการมากมันก็มีมากเท่าที่คุณต้องการ คุณสามารถสัมผัสมันได้
สถานที่นี้เป็นเช่นนั้น ประกายสายฟ้าเข้ามาใกล้เราเป็นครั้งคราว ทำให้เราตกใจเล็กน้อย
“สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังธาตุสายฟ้า อย่างที่คุณเห็นแท่นตรงกลางมีสายฟ้าที่ดุร้ายกว่ามาก และมันจะดุร้ายยิ่งขึ้น เมื่อคุณยืนอยู่ที่นั่น เพื่อผ่านรอบนี้พวกคุณทุกคนต้องยืนอยู่บนนั้น เป็นเวลา 5 นาทีง่ายๆเหมือนรอบที่แล้ว “
ทุกคนมีความคิดเหมือนกันว่า ‘อะไรที่ง่ายๆของคุณ ‘
“เอาล่ะคล้ายกับโซนของลาวา คุณต้องยืนอยู่บนนั้น 5 นาที ฉันให้เวลาทุกคน10นาทีในการเตรียมใจ เอาล่ะ เริ่ม … ตอนนี้”
ทันทีที่ลาฟิวพูดจบ ฉันก็รีบไปที่กลางห้อง
ทันทีที่ฉันก้าวขึ้นไปบนเวทีที่ต้องยืน เมฆก็เริ่มรวมตัวกันอยู่เหนือหัวของฉัน และหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีสายฟ้าก็เริ่มโจมตีฉันเหมือนแส้
มันไม่แม้แต่จะหยุดพักสักวินาที สายฟ้า ก็ทำให้ฉันรู้สึกแย่อย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นไม่กี่ครั้งฉันก็สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายของฉัน เนื่องจากความเจ็บปวดที่รุนแรงยิ่งกว่าที่ฉันรู้สึกในรอบที่แล้ว ที่ทำร้ายฉันมันรู้สึกแย่มากยิ่งขึ้นเพราะ ฉันไม่สามารถขยับร่างกายได้ เนื่องจากความชาและความเจ็บปวดอย่างรุนแรงกำลังทำลายร่างกายของฉันจากภายในสู่ภายนอก
ถ้ามันไม่ได้ถูกควบคุมโดยพลังบางอย่างราวกับว่ามันเป็นสายฟ้าจริงๆ ฉันคงกลายเป็นไม้แห้งไปแล้ว
แต่ตราบใดที่ความตั้งใจของฉันยังไม่เปลี่ยนแปลงความอดทนของฉันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันทำให้ฉันผ่านสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ได้ โดยที่คุณไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ ในขณะที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงอยู่ตลอดเวลา
หลังจากผ่านไป 5 นาทีสายฟ้าก็หยุดลงเมื่อเมฆกระจายตัว ถึงกระนั้นฉันก็รู้สึกเหมือนอยู่ข้างในไม่ใช่แค่ 5 นาที แต่ 5 วัน นั่นคือความรู้สึกที่เป็นอัมพาตไปชั่วขณะ ในขณะที่รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงภายในร่างกาย สายฟ้านี้จะทำให้ความเจ็บปวดภายในร่างกายมากขึ้น ในขณะที่ทำให้ร่างกายภายนอกเป็นอัมพาต … มันเป็นประสบการณ์ที่แย่กว่าการอยู่ในสระน้ำลาวา 100%
เลย แม้ว่าสายฟ้าจะหยุดโจมตีฉัน แต่ฉันก็ไม่สามารถขยับได้เลยสักนิด เนื่องจากร่างกายของฉันเป็นอัมพาต
ในเวลานี้ ลาฟิว โบกมือมาทางฉันและมีบางอย่างที่มหัศจรรย์เกิดขึ้น ฉันรู้สึกเหมือนมีสิ่งแทรกซึมนับไม่ถ้วนเริ่มคลานไปทั่วร่างกายของฉันเป็นเวลา 1 วินาที จากนั้นทุกอย่างก็หายไป ความรู้สึกที่ทำให้มึนงงหายไป อัมพาตหายไปและแม้แต่ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ฉันรู้สึกภายในร่างกายก็หายไป
ฉันวิ่งกลับไปที่ที่ทุกคนพักอยู่ขณะที่ ลาฟิวพูดว่า “ฉันจะชำระร่างกายของทุกคนที่เจ็บปวดอย่างรุนแรง ตราบเท่าที่คุณสามารถผ่านการทดสอบนี้ได้ ถ้าคุณล้มเหลวคุณจะถูกนำตัวออกไปและจะได้รับการดูแลโดยวิธีปกติ ซึ่ง จะใช้เวลา 2-3 วัน ในการกำจัดความเจ็บปวดจากร่างกายของคุณ “
ในไม่ช้าผู้เข้าร่วมก็เริ่มเข้าสู่เวทีของสายฟ้าทีละคน
หลังจากฉัน 2 คนไป ในเวลานั้นโดยที่ทั้งคู่ล้มเหลวพวกเขาใช้เวลา 3 และ 4 นาทีตามลำดับ
คุณไม่สามารถแม้แต่จะกรีดร้องในการทดสอบนี้ได้ เนื่องจากร่างกายของคุณจะเป็นอัมพาต
ผู้เข้าร่วมมีเวลาเหลือเพียง 5 นาทีเพราะเสียเวลาดูฉัน 5 นาทีผู้เข้าร่วมที่เหลืออีก 17 คน รวมทั้งไมค์จึงมาถึงชานชาลา แน่นอนว่ามันใหญ่พอที่จะจุคนได้มากกว่า 100 คน ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลกับภวังค์จากเมฆสายฟ้าที่อยู่เหนือศีรษะของพวกเขา
3 นาทีผ่านไปผู้เข้าร่วม 11 คนเป็นลมและถูกส่งต่อไปรักษา
และผู้เข้าร่วม 7 คนรวมทั้งไมค์ถูกทิ้งไว้บนชานชาลา ไมค์ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นลมในเร็ว ๆ นี้ แต่คราวนี้ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย
ด้วยเหตุนี้เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของเขา ฉันรู้สึกได้ว่าเขาเกินขีดจำกัดไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงดึงดันและอดทนผ่านนรกนี้เพื่อผ่านการทดสอบนี้
เวลาผ่านไป 30 วินาทีผู้เข้าร่วมที่เหลือคนหนึ่งเป็นลม ซึ่งจากนั้นก็ถูกจับ
‘อืม … มันเป็นจินตนาการของฉันเหรอ? หรือ …. ‘ ลาฟิวที่กำลังมองดูผู้เข้าร่วมอยู่ก็คิดถึงเรื่องที่สงสัย
เพื่อเคลียร์ข้อสงสัยของเขา เขาบินขึ้นไปด้านบนของเวทีและเมื่อเขามองไปที่ด้านล่างของผู้เข้าร่วมร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน
‘ไม่มีทาง …. ฉันกำลังฝันอยู่เหรอ? ไม่ไม่แน่นอน … ดูเหมือนว่าเราได้รับอัญมณีที่ซ่อนอยู่ ‘ใบหน้าของ ลาฟิวดูตื่นเต้นมาก
ในขณะนี้เอธานก็สังเกตเห็นบางอย่างบนเวที
ดวงตาของไมค์เริ่มเปลี่ยนสีมันยังคงเป็นสีเงินในแต่ละวินาทีที่ผ่านไป
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเงินเนื่องจากสลักเกลียวของสายฟ้า ไม่สามารถชนไมค์ได้อีกต่อไป
ฉันเห็นอย่างชัดเจนมันเหมือนสายฟ้าลูกหนึ่งที่กำลังจะพุ่งเข้าใส่ไมค์ แต่มันก็ไม่โดนเขา ขณะที่มันตกลงมาทางด้านขวาของเขาแทน แต่จากการกระทำของลาฟิว ฉันรู้สึกได้ว่านี่เป็นสิ่งที่ดีมาก
และมีเพียงสิ่งเดียวที่ดีที่ฉันคิดได้ในตอนนี้คือ ไมค์ได้พลิกผันของโชคชะตาหรือการแทรกแซงจากพระเจ้าหรืออะไรก็ตาม ไมค์ตื่นขึ้นมาแล้วซึ่งก็หมายความว่าเขาได้รับความสัมพันธ์กับองค์ประกอบ มันมาจากสีเงินในดวงตาของเขา ซึ่งฉันไม่รู้ว่าธาตุนั้นคืออะไร
หลังจากผู้เข้าร่วมคนสุดท้ายที่ล้มเหลวผู้เข้าร่วมที่เหลืออีก 5 คนรวมทั้งไมค์ผ่านมันมาได้ แต่จู่ๆตาของไมค์ก็ปิดลง เมื่อเขาเริ่มลอยและเมื่อเห็นฉากนี้ ลาฟิวก็ส่งทุกคนยกเว้นไมค์ออกไปจากเวที ขณะที่เขามองไมค์อย่างตั้งใจ
ตอนที่ 4: การตรวจสอบ
พวกเราเดินเตร่เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงในที่สุดเราก็พบโรงแรมที่ดีที่ไม่แพงเกินไปและไม่ถูกและไม่ดีเกินไป
เป็นเวลาเกือบ 6 โมงเย็น ดังนั้นฉันจึงเริ่มออกกำลังกายทุกวันทันที หลังจากตั้งห้องของเราในโรงแรม
เนื่องจากการสอบจะเริ่มต้นในเวลา 6.00 น. ฉันออกกำลังกายเพียง 2 ชั่วโมงก่อนรับประทานอาหารเย็นและนอนแม้ว่าไมค์จะหลับไปแล้วเพราะเขาออกกำลังกายเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
…
…
เอธาน และ ไมค์ ตื่นขึ้นมาเวลา 05.30 น. และออกเดินทางไปยังถนนแห่งการสอบ ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปใน เมืองแห่งสายฟ้า-ไฟนี้เล็กน้อย เมืองนี้เป็นเพียงพื้นที่รอบนอกของ หุบเขาสายฟ้า-ไฟที่แท้จริง แกนกลางของกลุ่มเบเฮมอธนี้ลึกกว่า
หลังจากเดินไปทางเดียวกันครึ่งชั่วโมงในที่สุดเราก็มาถึง ถนนแห่งการทดสอบข้อกำหนดในการเข้าร่วมการตรวจสอบนี้ง่ายมาก คนหนึ่งต้องอายุต่ำกว่า 20 ปีและมองไปรอบ ๆ ถนนมีผู้คนราว 500 คนทั้งหมดอายุต่ำกว่า 20 ปี
เบื้องหน้าของเราคือภูเขาลูกใหญ่ซึ่งมีบันได 1,000 ขั้นและบนยอดเขามีวังขนาดใหญ่
เรามองไปรอบ ๆ และพบว่านี่คือพระราชวังชั้นนอกของหุบเขาสายฟ้า-ไฟ
ตอนนี้เป็นเวลา 6.00 น. แล้ว ดังนั้นการตรวจสอบควรเริ่มเมื่อใดก็ได้ ในไม่ช้าและมีใครบางคนลงมาจากภูเขาอย่างสงบคนนั้นก็ลอยลงมาจากพระราชวังบนยอดเขา
บุคคลนั้นไม่ได้ลงจากภูเขาอย่างสมบูรณ์ แต่ยังคงลอยอยู่ในอากาศ 10 เมตรเหนือระดับพื้นดินในขณะที่มองลงไปที่ทุกคน
เมื่อมองไปที่ใบหน้าของบุคคลแล้วเขาดูเหมือนชายอายุ 30 ปี
“ฉันชื่อ ลาฟิว เทล่า และฉันจะดูแลการสอบนี้รอบแรก บอกตรงๆคุณต้องไปถึงยอดเขาด้วยการเดินบนบันไดแบบนี้ง่ายๆใช่มั้ย?” ลาฟิวพูดกับผู้คนด้วยรอยยิ้มขณะที่ ทุกคนรวมทั้งฉันพยักหน้าเพราะมันดูเรียบง่าย
แต่ฉันก็รู้ด้วยว่าความเรียบง่ายไม่ได้หมายความว่าง่าย
“เอาล่ะ เริ่มปีนได้เลยคนที่ไม่สามารถขึ้นไปถึงยอดเขาได้หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมงจะถูกกำจัด” เมื่อพูดอย่างนี้ ลาฟิวก็บินกลับไปที่ยอดเขา
จากนั้นทุกคนก็รีบวิ่งไปที่บันไดและเริ่มปีน
ไมค์กับฉันก็รีบไปที่บันไดและเริ่มปีนเขา
ภูเขามีขนาดใหญ่และบันไดก็กว้างดังนั้นจึงไม่มีแรงเสียดทานระหว่างผู้เข้าแข่งขันมากนัก
แต่ปัญหาเริ่มปรากฏขึ้นหลังจากที่เราปีนขึ้นไป 300 ขั้น หลายคนก็ล้าหลังไปแล้ว เมื่อไมค์และฉันแซงหลายคน
แม้ว่าจะช้า แต่แน่นอนความแข็งแกร่งที่เราต้องใช้ในการปีนแต่ละก้าวก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และหลังจากปีนขึ้นทุกก้าวรู้สึกเหมือนมีคนเอาน้ำหนักมาที่เราเล็กน้อยและน้ำหนักนั้นก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเราปีนขึ้นไปในแต่ละขั้น
หลังจากผ่านขั้นตอนที่ 600 ไปแล้วแม้ว่าฉันจะเริ่มรู้สึกเหนื่อยและหนักขึ้น แต่ไมค์ก็แย่กว่าฉันมาก แต่เรายังคงปีนขึ้นไปหลังจากปรับจังหวะของเรา
จาก 500 คนเริ่มต้นมีเพียงประมาณ 100 คนเท่านั้นที่ก้าวไปอย่างมั่นคงเช่นเดียวกับเรา
หลังจากผ่านขั้นตอนที่ 800 มีเพียง 80 คนเท่านั้นที่ก้าวไปอย่างมั่นคงและไมค์ก็ประสบปัญหาอย่างหนัก
หนึ่งชั่วโมงครึ่งผ่านไปแล้วเมื่อเรามาถึงขั้นตอนที่ 900 มีเพียง 50 คนเท่านั้นที่ก้าวไปอย่างมั่นคง ด้วยปากที่ปิดสนิทและฟันที่กัดฟันทำให้ทุกคนเคลื่อนไหวได้โดยไม่ต้องเสียพลังงานแม้แต่นิด
ฉันรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกายเพราะต้องปีนขึ้นบันได ฉันจำเป็นต้องรวบรวมความแข็งแรงจากกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย ถึงกระนั้นฉันก็ค่อนข้างมั่นใจในการผ่านขั้นตอนที่ 1,000 แต่ไมค์ … สถานการณ์ของเขาดูไม่ดีนัก
สิ่งที่สังเกตได้อีกอย่างก็คือนอกจากฉันและไมค์ซึ่งอายุ 16 ปี คนอื่น ๆ อายุใกล้ 20 ปีส่วนคนอื่น ๆ ที่อายุใกล้เคียงกับเราก็ยอมแพ้ที่จะปีนขึ้นไปด้านบนแล้ว
หลังจากผ่านไป 25 นาทีผู้เข้าร่วม 13 คนก็มาถึงยอดเขาแล้วในขณะที่ฉันอยู่ที่ขั้นตอนที่ 997 และไมค์อยู่ที่ 993 และผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ระหว่างฉันกับไมค์
น่าแปลกที่ไม่มีใครใน 48 คนที่ยอมแพ้และก้าวต่อไปอย่างมั่นคงฉันจะไปถึงจุดสูงสุดได้เพราะยังเหลือเวลาอีก 5 นาที ก่อนที่เวลาจะหมดลง แต่ไมค์จะต้องดึงศักยภาพของเขาออกมาเช่นเดียวกับเขา ฝีเท้าในปัจจุบันถ้าเขาพลาดแม้แต่นิดเดียวเขาจะไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดได้ใน 5 นาที
หลังจากผ่านไป 4 นาทีทุกคนยกเว้นไมค์ก็มาถึงจุดสูงสุดและหลังจากผ่านขั้นตอนที่ 1,000 ไปแล้วฉันรู้สึกเบาเหมือนขนนก แต่แล้วความเหนื่อยล้าก็มาเยือนฉันและฉันก็ทรุดลงไปกองกับพื้นเหมือนคนอื่น ๆ
ตอนนี้เหลือเพียง 1 นาทีไมค์อยู่ที่ขั้นตอนที่ 998 เมื่อมองไปที่เขาฉันตะโกนว่า “อย่ายอมแพ้ ไมค์ คุณทำได้รักษาจังหวะให้มั่นคงปีนขั้นที่ 999 ใน 20 วินาทีเพื่อให้คุณได้พักผ่อนมากขึ้นเพื่อปีนขั้นตอนสุดท้าย”
ใบหน้าของไมค์แดงและร่างกายของเขาสั่นสะท้าน เขามองมาที่ฉันและก้าวไปข้างหน้าในขณะที่กัดฟัน เขาปีนขึ้นก่อน 20 วินาทีดังนั้นเขาจึงยังมีโอกาส มันเป็นเพียงความกดดันขั้นที่ 1,000 เท่านั้นที่มากกว่าดังนั้นเขาจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับมันก่อนที่จะก้าวขึ้นไปข้างบน
ในช่วง 10 วินาทีที่ผ่านมาลาฟิว ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเราเริ่มนับถอยหลังขณะมองไปที่ไมค์ “10
9
8
7
6
5
4
3
…
ลาฟิวหยุดการนับถอยหลังเพราะ …
“ให้ตายเถอะ น้องชายของฉันทำมันได้แล้ว ฉันเกือบจะคิดว่าต้องฝึกที่นี่คนเดียวฮ่า ๆ ๆ ” ฉันมีความสุขมากแม้ว่าจะเพิ่งรู้จักไมค์เป็นการส่วนตัวเพียงไม่กี่วันก็ตาม จากความทรงจำฉันรู้ว่าไมค์ให้ความสำคัญกับเอธานเสมอในทุกสิ่งที่พวกเขาเจอ เพื่อนแท้แบบนี้หายาก
“เอาล่ะพวกคุณทั้ง 50 คนผ่านรอบแรก แต่มันยังไม่เพียงพอที่จะเข้าสู่หุบเขาสายฟ้า – ไฟยังมีอีก 2 รอบ แต่แน่นอนคุณต้องผ่านรอบที่ 2 เท่านั้นเพื่อเข้าร่วมหุบเขาสายฟ้า – ไฟ . รอบที่ 3 ไม่จำเป็น แต่ … “เขาพูดและหยุดซักพัก และลาฟิวก็พูดต่อพร้อมยิ้ม” แต่อย่าคิดว่า เพราะมันไม่จำเป็น มันก็ไม่สำคัญ มันจำเป็นจริงๆถ้าคุณต้องการที่จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว . ผลการแข่งขันรอบที่ 3 จะตัดสินการรักษาและการจัดสรรงานของคุณในหุบเขาแห่งสายฟ้า-ไฟนี้”
ฉันมีคำถามอยู่ในใจเสมอ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นโอกาสดีฉันจึงยกมือขึ้น
ลาฟิวสังเกตเห็นและพูดขณะที่มองมาที่ฉัน “คุณมีคำถามหรือไม่?”
ฉันพยักหน้าถามว่า “นักรบธาตุสามารถเอาชนะจอมเวทธาตุได้หรือไม่”
เมื่อได้ยินคำถามของฉัน ลาฟิวก็ยิ้มและพูดว่า “ฉันจะทำให้มันเข้าใจง่ายขึ้นในการแข่งขันนักรบธาตุไม่สามารถฝึกเพื่อเป็นนักเวทย์แห่งธาตุ ได้ เพราะพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องปรับแต่งร่างกายของพวกเขาโดยใช้พลังงานจากธาตุภายนอก แต่ … นักเวทย์ธาตุมีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบในการฝึกฝนและเชี่ยวชาญคาถาธาตุ ซึ่งหมายความว่าร่างกายของพวกเขาสามารถกักเก็บพลังงานธาตุและบ่มเพาะพลังธาตุภายในร่างกายของพวกเขา ทำให้พวกเขาสามารถสร้างทะเลธาตุ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถใช้ความสามารถเวทมนต์ได้ตามธรรมชาติ แบบนี้ … “ลาฟิวหยุดพูดถึงตรงนี้ พลางโบกมือและทันใดนั้นไฟที่หนาแน่นก็เริ่มปรากฏขึ้นข้างๆเขาเป็นรูปสิงโต
* ร่อว์— *
“ศิลปะของธาตุ และ การร่ายคาถา มีหลายประเภท บางตัวสามารถสร้างมอนสเตอร์ที่เหมือนจริงได้ บางตัวสามารถสร้างความไม่พอใจได้ เช่น ฝนแห่งไฟ, ลูกไฟ, โดมแห่งแสง บางตัวสามารถสนับสนุนได้เช่น ปีกแห่งไฟ … ” ลาฟิวโบกมืออีกครั้ง มือของเขาทำให้สิงโตหายไปและมีปีกคู่หนึ่งปรากฏอยู่ข้างหลังเขา
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ลาฟิว ก็สลายปีกแห่งไฟและพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “สิ่งที่ฉันพูดทั้งหมดนี้เพื่อแสดงให้คุณเห็นว่านักรบธาตุไม่สามารถทำได้”
เมื่อได้ยินท่อนสุดท้ายแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนเอาหัวโขกกำแพง ความแตกต่างระหว่าง นักรบธาตุ และ นักเวทย์แห่งธาตุ ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่มาก
“ แต่ … ”
ฉันกลับมาสนใจ ที่ลาฟิวอีกครั้ง ‘บ้าเอ้ย !! ทำไมเขาถึงหยุดพูด? “
ลาฟิวหัวเราะและพูดว่า “แต่ … มันไม่ใช่ว่าคุณจะกลายเป็นพ่อมดธาตุไม่ได้เพียงเพราะคุณไม่มีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบใด ๆ จริงๆแล้วมันตรงไปตรงมาถ้าคุณต้องการเป็นพ่อมดธาตุ .. “
ผู้ชายคนนี้หยุดอีกแล้ว ฉันไม่สามารถย้อนถามตัวเองได้ว่า “แล้วจะได้รับ ความสัมพันธ์ขององค์ประกอบได้อย่างไร”
“มีสองวิธีในการได้รับ ความสัมพันธ์ขององค์ประกอบ วิธีแรกที่ปลอดภัยที่สุดคือการกิน ยาสร้างความสัมพันธ์ มีสิ่งมหัศจรรย์มากมายในโลกและหนึ่งในนั้นคือ ที่มาของธาตุ ตัวอย่างเช่นหุบเขาสายฟ้า-ไฟ ของเรามีที่มาจากธาตุไฟและ ที่มาของธาตุสายฟ้า นักเล่นแร่แปรธาตุของเราใช้แหล่งที่มาเหล่านี้เพื่อสร้างยาในการสร้างธาตุ ทั้งธาตุสายฟ้า และ ธาตุไฟ ซึ่งสามารถมอบธาตุทั้งสอง ให้กับทุกคนที่กินพวกมัน แต่แหล่งที่มานั้นหายาก ดังนั้นราคาเดียว ยาเม็ดเป็นสิ่งที่แม้แต่นักเวทย์ธาตุที่มีประสบการณ์ก็ไม่สามารถจ่ายได้มี แต่ความต้องการและไม่มีตลาดสำหรับยาเช่นนี้ “
ดูเหมือนแม้ว่าฉันจะใช้เวลาทั้งชีวิตในการรวบรวมเงิน แต่ฉันก็ไม่สามารถจ่ายได้ มาฟังกันว่าวิธีที่ 2 คืออะไร
“ทางที่ 2 อันตรายมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกคุณทุกคนกำลังผ่านเส้นทางของนักรบธาตุ .. ” ลาฟิวยิ้มอย่างมีเลศนัยและกล่าวต่อ “คุณรู้ไหมเราไม่มีนักรบธาตุเดี่ยวในฟุบเขาสายฟ้า-ไฟของพวกเรา เนื่องจากมีเพียงสองผลลัพธ์สำหรับผู้ที่เดินบนเส้นทางของ นักรบแห่งธาตุนี้ 1. คุณตายและ 2. คุณกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุที่มีพลังที่มีอยู่มากกว่านักเวทธาตุทั่วไป “
ว้าว …
ทันใดนั้นความโกลาหลก็เริ่มขึ้นท่ามกลางผู้คนทั้ง 50 คนและฉันก็รู้สึกแย่มากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ซึ่งนอกจากจะทำให้ฉันตกใจแล้วยังทำให้ฉันตื่นเต้นอีกด้วย
“ แต่ … ”
ทุกคนคิดว่า ‘แต่’ คืออะไร?
เมื่อเห็นทุกคนนิ่งเงียบลาฟิวก็พูดต่อ“ แต่ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมามีเพียง 11 คนเท่านั้นที่กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุในหุบเขาสายฟ้าของเรา พวกเขาถูกเรียกว่าผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุเพราะเหนือกว่าของศิลปะของธาตุ ที่สามารถเชี่ยวชาญได้ แล้วร่างกายของพวกเขาก็ยังได้รับการขัดเกลาเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่นักเวทย์ธาตุทุกคนสามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุได้หากพวกเขาต้องการในขณะที่ นักรบธาตุอาจจะตายหรือกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุ “
อารมณ์ของทุกคนลดลง เมื่อได้ยินคำพูดที่โหดร้ายเหล่านี้ แต่ฉันไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ตราบใดที่ยังมีโอกาสฉันจะเข้าหามัน
ตอนที่ 3: หุบเขาแห่งสายฟ้าและไฟ
“ได้โปรดหยุด ฉันทำตามที่คุณบอกแล้ว ทำไมถึงยัง …. “
ดวงตาของฉันเบิกโพลง ‘ให้ตายเถอะฉันฝันร้ายว่าไอ้พวกนั้นมันทรมานฉัน … ‘ ฉันอดไม่ได้ที่จะกัดฟันและคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันในชาติที่แล้ว ฉันสาบานกับตัวเองว่าฉันจะแก้แค้นพวกเขาและลอนรี่ ที่สั่งพวกเขา
ขณะที่ฉันพยายามจะลุกขึ้น อาการปวดหัวอย่างมากก็ทักทายฉัน พร้อมกับอาการปวดหัวมันมาพร้อมกับ …. ความทรงจำ. ความทรงจำที่ไม่ใช่ของฉัน
อาการปวดหัวใช้เวลา 5 นาทีก่อนที่จะบรรเทาลง ในที่สุดฉันก็ได้รับความทรงจำของเจ้าของร่างก่อนหน้านี้ แต่ ‘ทำไมถึงใช้เวลานานขนาดนี้ ‘แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกดี? เหมือนร่างกายตอนนี้รู้สึกว่ามันเป็นของฉันจริงๆ
ไมค์ยังคงนอนหลับอยู่พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
ฉันออกไปข้างนอกห้องและมาถึงที่พื้นของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพียงเพื่อตกใจเล็กน้อย ‘ดูเหมือนว่าฉันจะหลับไปนานแล้ว ตอนนี้เช้าแล้วประมาณตี 4 ฉันเดาว่าถ้าจำไม่ผิดฉันนอนประมาณ 17.00 น. ‘เมื่อคิดที่จะได้ยินฉันเริ่มยืดแขนขาและมันก็รู้สึกดีจริงๆ
เวลาออกกำลังกายคือตอนนี้จากความทรงจำ ฉันรู้ว่าเจ้าของคนก่อนออกกำลังกายทุกวันในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาหมายถึงอายุ 13 ถึง 16 ปีเขาออกกำลังกายทุกวันโดยไม่ขาดวัน
แต่ฉันจะออกกำลังกายมากกว่าเขา 3 ชั่วโมงในตอนเช้าและ 3 ชั่วโมงในตอนกลางคืนและฉันจะค่อยๆเพิ่มความยากขึ้น เนื่องจากสงครามแห่งธาตุ จำเป็นต้องมีร่างกายที่ทรงพลังเพื่อฝึกฝนเทคนิคแห่งธาตุ หากร่างกายของพวกเขาไม่สามารถรับพลังงานธาตุดิบที่ไหลผ่านร่างกายได้ พวกเขาก็จะพิการหรือตายทันที
ดังนั้นฉันจึงเริ่ม
ฉันวิดพื้นจนขยับไม่ได้เลยสักนิด
จากนั้นฉันก็ดึงตัวเองขึ้นโดยแขวนไว้บนกิ่งก้านของต้นไม้จนกระทั่งฉันล้มลงด้วยเสียงดัง เมื่อทนกับความเจ็บปวดไม่ไหว ฉันพักสักครู่ก่อนที่จะดื่มน้ำ
จากนั้นก็มาถึงส่วนที่เจ็บปวดที่สุดของการฝึก ฉันไปที่ห้องเก็บของเล็ก ๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเราและเอาไม้เรียวทื่อออกมาและเริ่มตีมันให้ทั่วตัว ฉันตีไม้เรียวที่มือและขาก่อนจากนั้นฉันก็ถอดเสื้อยืดออกเพื่อตีที่หน้าอกและหน้าท้อง แต่ก็แปลกใจ
‘ให้ตายเถอะนั่นเป็นกล้ามท้องที่ดีที่ฉันมาถึงที่นี่ ลองดูที่นี่ ….. กล้ามเนื้อของฉันก็ดูดีเช่นกัน ‘ฉันไม่เคยสังเกตเห็นร่างกายใหม่ของฉันเลยจนกระทั่งตอนนี้ ฉันดูผอม แต่ไม่รู้ว่าฉันมีกล้ามเนื้อซ่อนอยู่
ได้เวลาดำเนินการต่อ
หลังจากตีทุกส่วนของร่างกายฉัน ยกเว้นที่เดียว … ฉันตีมันอีกครั้งเมื่อฝึกและมันก็ดำเนินต่อไป
ฉันก็ฝึกจนเหมือนท่อนไม้และไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อได้ ‘ดูเหมือนว่าฉันจะออกกำลังกายมากเกินไป ‘ฉันนอนอยู่ตรงนั้นซักพัก
หลังจากนั้นไม่นาน ฉันก็เคลื่อนไหวได้และในขณะที่ต้องทนกับความเจ็บปวด ฉันก็ไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำ
เมื่อมองไปที่นาฬิกาก็เป็นเวลา 15 นาทีที่ผ่านมา 8.00 น. ‘ดูเหมือนว่าฉันออกกำลังกายเป็นเวลา 4 ชั่วโมงแทนที่จะเป็น 3’
ก่อนอื่นเรามารับของจากห้องพักก่อนและทานอาหารเช้าที่โรงแรมไรอัน
เมื่อมาถึงห้องของฉัน ฉันสวมชุดคลุมและฮูดก่อนจะซ่อนม้วนหนังสือทั้งสองเล่มและกระเป๋าทั้งสองใบไว้ที่ที่ซ่อนใกล้พุ่มไม้ ซึ่งฉันขุดออกมาหลังต้นไม้ที่มุมพื้นของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เอธานคิดว่า ‘อย่างไรก็ตาม ฉันไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อกินข้าวที่โรงแรมไรอัน ‘
…
…
หลังจากเข้ามาในโรงแรมนั่งตรงหัวมุม บริกรมารับออร์เดอร์“ คุณอยากได้อะไรคะ?”
เป็นบริกรคนเดียวกับเมื่อวาน
“ แค่เอาอาหารที่ดีที่สุดของคุณมาให้ฉันและบอกเจ้านายของคุณว่า เขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ฉันบอกนายของฉันแล้ว”
…
…
หลังจากกินข้าวเสร็จฉันก็กลับไปบ้านเด็กกำพร้า
ภายในสำนักงานของคุณราล์ฟ
คุณราล์ฟมีสีหน้าเคร่งเครียดขณะที่เธอถามว่า “เอาล่ะตอนนี้ คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าคุณมีทองมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร”
ฉันยังใช้สีหน้าจริงจังและพูดว่า “มิสซิสราล์ฟคุณสามารถเชื่อใจฉันได้ว่าฉันไม่ได้รับทรัพย์สมบัตินี้โดยใช้วิธีลับหลัง เช่นการขโมยหรืออะไรก็ตาม คุณสามารถพูดได้ว่ามันเป็นการชดเชยให้ จากฉัน มันมีครอบครัวที่ร่ำรวยอยู่ครอบครัวหนึ่งพวกเขาได้รับบาดเจ็บโดยอุบัติเหตุ และให้ทองทาเอลเป็นค่าตอบแทนกับฉันมา “
มิสซิสราล์ฟถอนหายใจและกล่าวว่า “ฉันหวังว่าคุณจะพูดความจริง อย่างไรก็ตามไมค์จะมากับคุณที่หุบเขาสายฟ้าและไฟ การตรวจสอบของพวกเขาจะเริ่มในหนึ่งสัปดาห์และอาจใช้เวลาประมาณ 6-7 วัน ให้คุณสองคนไปที่นั่น ฉันได้เตรียมรถม้าพร้อมกับเงินที่คุณให้ฉันเมื่อวานนี้แล้ว “มิสซิสราล์ฟหยุดรอที่นี่สักหน่อย พลางดูนาฬิกาบนผนังแล้วพูดต่อ” ตอนนี้ 08:47 น. และรถม้าจะมาที่นี่เวลา 11.00 น. ยิ่งคุณไปเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะคุณไม่อยากพลาดการสอบครั้งนี้ เนื่องจากการสอบครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในอีก 6 เดือนต่อมา “
หลังจากคุยกันอีกเล็กน้อยฉันก็ออกจากห้องทำงานและมุ่งหน้าไปที่ห้องของฉัน
เข้าไปในห้องฉันไม่เห็นไมค์ ‘ดูเหมือนว่าเขาจะไปที่โรงอาบน้ำ ‘จากนั้นฉันก็เริ่มเตรียมเสื้อผ้าและสิ่งของอื่น ๆ อืมฉันจะต้องมีกระเป๋าอีกใบเพื่อเก็บของขวัญของฉันด้วย
…
…
เวลาผ่านไปขณะที่ทั้ง เอธาน และ ไมค์ พร้อมและรอรถม้า
เด็ก ๆ และมิสซิสราล์ฟก็อยู่กับเราและเด็กๆของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็อยู่ด้วย
เด็ก ๆ ตื่นเต้นกันมาก ตั้งแต่คุณราล์ฟซื้อของให้เด็ก ๆ เช่นของเล่นและขนมโดยใช้ทองแท่งที่ฉันให้เธอเมื่อวาน
รถม้ามาถึงเมื่อครู่นี้
คุณราล์ฟพูดในเวลานี้ว่า “เอธาน ไมค์ โปรดระวัง ที่นั่น โลกนี้โหดร้าย ดังนั้นคุณทั้งสองต้องก้าวอย่างระมัดระวัง”
หลังจากกล่าวคำอำลากับทุกคนทั้งเอธานและไมค์ก็เข้าไปในรถม้าพร้อมกระเป๋าของพวกเขา
ภายในแคร่
ไมค์พูดค่อนข้างเศร้า “ตอนนี้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่มีพี่ใหญ่”
“ไม่ต้องห่วงครับ พวกเราจะมาที่นี่ เพื่อดูแลพวกเขา พวกเราต้องแข็งแกร่งให้ได้โดยเร็ว ถ้าเราแข็งแกร่งเราจะได้รับความมั่งคั่งอย่างง่ายดายและกลับมาที่นี่บ่อยขึ้นด้วย”
ดังนั้นการเดินทางสู่หุบเขาสายฟ้า – ไฟจึงเริ่มต้นขึ้น หวังว่าเราจะไปถึงที่นั่นเร็ว ๆ นี้
…
…
…
วันนี้เป็นวันที่ 6 แล้วนับตั้งแต่เราออกจากเมือง
ทุกวันในตอนเย็นเราจะพักในเมืองเล็ก ๆ ก่อนออกเดินทางในตอนเช้า เนื่องจากลุงลี ซึ่งเป็นคนขับรถม้าได้วางแผนเส้นทางไปยังหุบเขาสายฟ้าไว้แล้ว
ระหว่างทางเราได้เห็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์มากมาย
เรายังเห็นผู้คนบินด้วยความเร็วระดับจรวด ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ คนนั้นมาและไป
วู้ววววววว-
และวันนี้เราเข้าสู่พื้นที่ที่หุบเขาแห่งสายฟ้า-ไฟตั้งอยู่แล้ว
* สครี …. *
เมื่อได้ยินเสียงทั้งเอธานและไมค์มองไปที่ท้องฟ้าจากรถม้าและตกใจ
นกยักษ์ตัวใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟกำลังบินไปยังหุบเขาสายฟ้า – ไฟอย่างรวดเร็ว
ฉันรู้สึกแย่ เมื่อเห็นว่าฉันเผลออุทานว่า “พระเจ้าช่วย” ออกมา
ดวงตาของไมค์มีอารมณ์ที่โหยหา ขณะที่เขาพูด “นั่นคือนกอินทรีเพลิง ที่มีชื่อเสียงแห่งหุบเขาสายฟ้า – ไฟ ผู้อาวุโสทุกคนของหุบเขามีสัตว์ร้ายเป็นพาหนะประจำตัว”
“ ฉันก็ต้องการมันเหมือนกันและมันก็ดูเท่มาก” เอธานอดกลั้นไม่ได้แสดงความปรารถนาที่จะได้สัตว์ชนิดนี้มาเป็นของตัวเอง
ไมค์ส่ายหัว “พวกเราต้องผ่านสงคราแห่งธาตุก่อน มันยังมีอีกยาวไกล ก่อนที่เราจะขี่สัตว์ร้ายแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่แตกต่างสำหรับกับพวกนักเวทย์แห่งธาตุ”
หลังจากสงบความตื่นเต้นของฉัน ฉันพูดกับไมค์ว่า “เข้มแข็ง ตราบใดที่เราแข็งแกร่ง เราก็สามารถได้รับสิ่งที่ต้องการมาทำให้ดีที่สุดที่หุบเขาสายฟ้า – ไฟ “
ทันใดนั้นรถม้าก็หยุดลง
“เอาล่ะเด็ก ๆ ออกมาดูส่วนนี้ของ หุบเขาสายฟ้า – ไฟ เพราะหลังจากเข้าไปในเมืองด้านล่างแล้ว คุณจะไม่เห็นว่า หุบเขาสายฟ้า – ไฟนั้นใหญ่แค่ไหน”
เมื่อได้ยินเสียงของลุงลีฉันและไมค์ก็ออกมา ลุงลียังเล่าเรื่องต่างๆให้เราฟังและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ระหว่างทางเราจึงขอบคุณเขามาก
เมื่อมองไปด้านหน้า หลังจากออกมาขอบฟ้าของเราก็กว้างขึ้น
เมื่อมองไปที่ทิวทัศน์ตรงหน้าฉันก็คิดว่า ‘ที่นี่ไม่ใช่หุบเขา มันเป็นแกรนด์แคนยอนที่แปลกประหลาด มันใหญ่และยาวมาก เป็นเมืองที่มีเทือกเขาทั้งสองด้านฉันมองไม่เห็นจุดจบเลยด้วยซ้ำ และส่วนที่ลึกลงไปของท้องฟ้าของหุบเขา มีเมฆสีดำที่เต็มไปด้วยสายฟ้าฟาดมันดูอันตรายมากแม้จากที่ไกล ๆ ฉันสงสัยว่าการยืนอยู่ในสถานที่นั้นจะรู้สึกอย่างไร ‘
ไมค์อ้าปากกว้างมองเห็นวิว “พี่ชาย ที่นี่ใหญ่มาก แค่มองไปที่ผู้คนและอาคารเหล่านั้นทั้งหมดก็มองแทบไม่ไหวแล้ว”
จากนั้นเสียงของลุงลีก็ตามมา
“เอาล่ะเด็ก ๆ ได้เวลาไปต่อแล้ว”
…
…
หลังจากเดินทางต่อไปอีก 1 ชั่วโมง ในที่สุดเราก็มาถึงประตูหุบเขาสายฟ้า – ไฟ
รถม้าหยุดที่ประตู เมื่อเราทั้งสองออกมา
เมื่อเห็นทั้งสองคนออกมา ลุงลีก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “การเดินทางของเราสิ้นสุดที่นี่เด็ก ๆ และฉันจะไม่เข้าไปข้างในเพราะฉันจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่ง ถ้าฉันต้องการขับรถม้าเข้าไปข้างในแน่นอนคุณสองคน ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยมี แต่คนที่นำสิ่งของเช่นรถม้าหรือรถขนส่งอื่น ๆ พวกนั้นต้องจ่าย ฉันขอให้พวกเธอเข้มแข็งขึ้น ไม่งั้นคุณจะต้องขับรถม้าเหมือนฉันฮ่า ๆ ๆ ๆ ”
หลังจากกล่าวคำอำลากับลุงลีทั้งเอธานและไมค์ก็มุ่งหน้าไปที่ประตูเมือง แต่ถูกทหารยามหยุดไว้
“จุดประสงค์?” หนึ่งในผู้คุมพูด
ก่อนที่ฉันจะพูดไมค์พูดว่า “เรามาที่นี่เพื่อรับการตรวจสอบที่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้”
“เงิน 1 เหรียญต่อหัว”
ไมค์ถามอย่างงง ๆ ว่า “เอ่อ เราจะไปข้างในด้วยขาไม่ได้อยู่บนรถม้าจะขอเงินทำไม”
“ถ้าคุณจะขับรถม้าเข้าไปข้างในเราจะต้องขอเงิน 10 เหรียญแทนที่จะเป็นแค่ 1 เหรียญ ตอนนี้รีบจ่ายเงินถ้าคุณต้องการเข้าไปข้างใน”
ฉันหยิบเหรียญเงินสองอันออกมาจากกระเป๋าและโยนไปที่ยามที่จับพวกมันอย่างชำนาญ
“เอาล่ะ เข้าได้แล้ว”
ก่อนที่ไมค์จะพูดมากกว่านี้ฉันจับมือเขาแล้วเข้าไป พอเข้าไปแล้วไมค์ก็พูดว่า “พี่ครับ ลุงลีบอกว่าพวกเขาขอเงินถ้าเราขับรถม้าเข้าไปข้างในเท่านั้นนี่”
หลังจากสะบัดหน้าผากของเขาแล้วฉันก็พูดว่า “เจ้าโง่ ผู้คุมพวกนั้นรู้ชัดว่าพวกเราเป็นแค่บ้านนอก และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงรีดไถเงินจากพวกเรา คุณคิดว่าเราสามารถผ่านประตูไปได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน แต่ .. .. “เอธานหยุดลงและตาของเขาก็ดูเย็นชาในขณะที่เขาพูด” แต่หลังจากที่คุณเข้มแข็งขึ้น คุณสามารถสอนบทเรียนนั้นให้กับยามได้จำไว้ว่า ความแข็งแกร่ง เป็นพื้นฐานของการใช้เหตุผล “
เมื่อเห็นไมค์ผงกศีรษะฉันจึงพูดว่า “ไปหาโรงแรมที่พักกันเถอะ ตอนนี้ก็เกือบค่ำแล้วเราต้องหาที่พักผ่อนให้เต็มที่ เราต้องอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเพราะการสอบจะเริ่มขึ้น พรุ่งนี้เช้าตรู่”
ตอนที่ 2: ถังขยะหรืออัจฉริยะ?
ความมืด …..
ที่นี่ที่ไหน? มองไม่เห็นอะไรเลย
โอ้ฉันจำได้ว่าฉันถูกฆ่าโดย …. โดยไอ้พวกนั้น … โหดร้ายพวกมันโหดร้ายมาก
…
…
แล้วนี่คือสถานที่ที่ผู้คนไปหลังจากความตาย? ทำไมมันมืดจัง
เดี๋ยวก่อน … ดูเหมือนฉันจะได้ยินอะไรบางอย่าง
…
…
“เอธาน เฮ้เพื่อนคุณกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมคุณถึงนอนในงานสำคัญเช่นนี้”
“เพื่อนตื่นได้แล้วมันจะถึงตาคุณเร็ว ๆ นี้ไอ้บ้าคุณเป็นอะไร?”
* ตี *
‘ฉันรู้สึกเจ็บปวด? ตื่นนอน ? ‘ท่ามกลางความคิดที่สับสนฉันลืมตาขึ้น
“ ให้ตายเถอะครับในที่สุดคุณก็ตื่นแล้วระวังตัวด้วยจะถึงตาคุณเร็ว ๆ นี้”
ฉันหันไปตามทิศทางของเสียงซึ่งมาจากทางด้านขวาของฉัน เด็กชายผมสีฟ้าโบกมือต่อหน้าฉัน
“เฮ้ คุณสบายดีไหมคุณดูไม่สบายเลย” เด็กผู้ชายผมสีฟ้าพูด
“ดูสิ ตาของคุณจะตามมา หลังจากผู้ชายคนนั้น ดังนั้นให้ความสนใจและอย่ากังวลใจ”
ฉันขยี้ตาแล้วมองไปรอบ ๆ เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงหลายคนอยู่รอบ ๆ ชานชาลาตรงกลางห้องโถงและตรงกลางของชานชาลามีสระน้ำเล็ก ๆ ภายในสระมีฝูงปลาหลากสีว่ายน้ำสีแดงสีน้ำเงินสีดำสีเหลืองและอื่น ๆ ปลาหลากสีหลายตัวกำลังแหวกว่ายอยู่
ชายวัยกลางคนยืนอยู่ข้างสระน้ำ ซึ่งสวมชุดประหลาดที่มีลวดลายสลักแปลก ๆ เมื่อมองไปที่กระดาษในมือเขาพูดด้วยเสียงดัง “เอลเลียส เมธ “
ไม่ถึงวินาทีต่อมาเด็กชายอายุประมาณ 16 ปี ก็ออกมาจากด้านข้างและเดินไปที่ชานชาลาด้วยความตื่นเต้น
ชายวัยกลางคนแสดงท่าทางให้เอลเลียสยืนอยู่กลางบ่อ ระดับน้ำของบ่อแทบจะไม่ถึงหัวเข่าของเด็กชาย
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีที่ยืนอยู่กลางบ่อปลาสองตัวสีแดงและสีเขียวหนึ่งตัวก็เริ่มว่ายไปรอบ ๆ เด็กชาย
ปลาสีแดงค่อยๆเริ่มเรืองแสง ในขณะที่ปลาสีเขียวยังคงเหมือนเดิม หลังจากผ่านไป 10 วินาที ปลาสีแดงก็หยุดเรืองแสง ซึ่งกระตุ้นให้ชายวัยกลางคนพูดเสียงดังอีกครั้ง “เอลเลียส เมธ ความสัมพันธ์ไฟระดับกลางและความสัมพันธ์ไม้ระดับต่ำ”
คนรอบข้างเริ่มกระซิบ เมื่อได้ยินผล แต่นั่นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชายวัยกลางคน ขณะที่เขาแสดงท่าทางให้เอลเลียสออกจากบ่อ
สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าฉันไม่น่าเชื่อมาก จนฉันคิดว่าฉันกำลังฝัน แต่มันไม่ใช่ความฝัน
ดูเหมือนว่าฉันจะย้ายมาอยู่ในร่างกายนี้ แต่นั่นหมายความว่าเจ้าของคนก่อนของร่างกายนี้เสียชีวิต
ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกกลัว ฉันมีโอกาสอีกครั้งที่จะมีชีวิตอยู่ แต่ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนตามหลังฉันมาในโลกนี้ด้วย
เมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคนและฝูงปลาที่ส่องแสงโลกนี้ไม่ใช่โลกอย่างที่ฉันรู้จัก
ดูเหมือนว่าผู้คนสามารถควบคุมองค์ประกอบต่างๆในโลกนี้ได้โดยตัดสินจากสิ่งที่ชายวัยกลางคนพูด
ถ้า … สักวันหนึ่งฉันสามารถกลายเป็นผู้มีอำนาจมากและกลับมายังโลกและฉันจะ … แก้แค้น และฉันยังต้องสืบหาว่าใครตามมาหลังจากฉันมาในโลกนี้
“ ธาน”
เมื่อได้ยินว่าชื่อของฉันถูกเรียก โดยชายวัยกลางคน ฉันก็หลุดจากความคิดและเดินขึ้นไปที่ชานชาลาด้วยความประหม่าเล็กน้อย แต่ฉันรู้ว่าฉันต้องรักษาความประหลาดของตัวเองไว้ด้วย
หลังจากมาถึงชานชาลา ฉันก็เดินไปที่กลางสระน้ำและหลับตาขณะที่คิดว่า ‘ถ้าสิ่งมีชีวิตต้องรับผิดชอบในการย้ายถิ่นฐานของฉัน ฉันก็อาจจะได้เปรียบหรือนิ้วทองเหมือนที่คนเหล่านั้นอธิบายไว้ในนิยายแฟนตาซี ถึงกระนั้นถ้ามันเป็นเพียงการพลิกผันของโชคชะตา …. ไม่เป็นไรฉันแค่หวังว่าฉันจะไม่ทุกข์ยากเกินไปที่นี่ ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่ฉันทำได้ก็ต้องทำงานหนัก ฉันไม่ต้องการพรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้และแม้ว่าฉันจะธรรมดา แต่ฉันก็จะทำมันด้วยการทำงานหนักและ ….. ก็ควรมีทางลัดที่นี่เช่นกัน แม้ว่าฉันจะต้องทนกับความเจ็บปวดที่ไม่อาจจินตนาการได้ แต่ฉันก็จะอดทนเพื่อให้มันมีพลังพอในการแก้แค้นของฉัน … ‘
“ธาน ไม่มีความผูกพันกับสิ่งใดเลย”
เมื่อคำพูดที่โหดร้ายเหล่านั้น ตัดความคิดของฉัน ฉันลืมตาขึ้นและมองลงไป
ศูนย์ … ไม่มีปลาสักตัวว่ายอยู่รอบตัวฉันและดูเหมือนว่าปลาจะอยู่ห่างจากฉันด้วยซ้ำ WTF.
ฉันกลับไปยังที่ของฉันอย่างว่างเปล่าและเด็กชายผมสีฟ้าก็พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าว่า “เฮ้อดูเหมือนว่าเราทั้งคู่จะต้องเดินบนเส้นทางที่ยากลำบากของ สงครามแห่งธาตุแล้วล่ะ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีโอกาสได้เป็นพ่อมดธาตุ”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ฉันรู้สึกเหมือนกลับมาจากเหว ดูเหมือนว่ายังมีโอกาส แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สับสน โดยทั่วไปฉันควรได้รับมรดกความทรงจำจากสมองของร่างกายนี้ แต่ฉันจำอะไรใหม่ ๆ ไม่ได้นอกจากความทรงจำในชีวิตก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ฉันต้องถามเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าสงคราแห่งธาตุกับผู้ชายผมสีฟ้าคนนี้ก่อน
‘แต่ฉันไม่รู้ชื่อของเขา …. ฉันจะถามกับน้องชายเพราะเขาเรียกฉันแบบนั้น’ รวบรวมความคิดของฉันสิ ฉันจะถามว่า “เฮ้ น้องชายช่วยบอกฉันเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักรบธาตุได้ไหม?”
เด็กชายผมสีฟ้ามองมาที่ฉันอย่างแปลก ๆ ก่อนจะวางมือบนหน้าผากของฉันแล้วพูดว่า “คุณมีไข้หรือมีอะไรเหรอ เราเรียนมาแล้วในชั้นเรียนของเรา”
ฉันหัวเราะอย่างเชื่องช้า ก่อนจะพูดว่า “ขอโทษนะ ฉันลืมไปแล้ว”
เด็กชายผมสีฟ้ากลอกตาก่อนจะพูดว่า “สงคราแห่งธาตุ คือ ผู้ที่ปรับแต่งร่างกายโดยใช้พลังธาตุและเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น พวกเขาไม่สามารถใช้คาถาหรือศิลปะธาตุที่ต้องการพลังงานธาตุได้ เพราะพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์กับพวกมัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถควบคุมพวกมันได้ แต่พวกเขาสามารถใช้ร่างกายที่ผ่านการขัดเกลา เพื่อเข้าปะทะกับพลังของ ผู้วิเศษด้านธาตุได้ แต่เส้นทางของการเป็นนักรบธาตุที่ทรงพลังนั้น พวกเขาต้องฝึกฝนเทคนิคแห่งธาตุ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของพวกเขา มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดและยากจริงๆ “
ฉันพยักหน้าขณะได้ยินเรื่องนั้นและพูดว่า “ไปกันเถอะ บอกฉันทีว่าฉันจะปรับแต่งร่างกายของฉันโดยใช้พลังธาตุได้ที่ไหน”
“ได้เพื่อน ๆ จับม้าของคุณซะ เราจะไปหลังจากถึงเมืองของเราแล้วและสามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ของเธอได้ เราพลาดไม่ได้อย่างแน่นอน แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าคุณเป็นอัจฉริยะและได้รับคัดเลือกจาก พระราชวัง Cloud Fantasy แล้ว ก็เถอะ แต่พระบิดาของคุณก็ยังบอกให้คุณตรวจสอบ ความสัมพันธ์ของคุณที่นี่อีก ฮึ่ม แม้จะเป็นการอวดนะ แต่เราก็ยังพลาดไม่ได้ “
ชายวัยกลางคนอ่านชื่อต่อไปว่า “เทียร่า คิม”
เมื่อได้ยินชื่อแล้ว ความโกลาหลเริ่มขึ้น ท่ามกลางผู้คน เมื่อสาวสวยผมบลอนด์ยาวเดินไปที่ชานชาลาอย่างสง่างาม
และในขณะที่หญิงสาวก้าวลงไปในบ่อน้ำความวุ่นวายก็เริ่มขึ้น
ปลาสีฟ้าปลาทองและปลาสีฟ้ารีบว่ายเข้าหาหญิงสาวและเริ่มเรืองแสง พวกมันเรืองแสงเป็นเวลา 1 นาทีก่อนที่จะหยุด
ในขณะที่ชายวัยกลางคนตกใจ เขาก็ยังคงพูดด้วยความสงบ “เทียร่า คิม, ความสัมพันธ์ทางน้ำระดับสูง, ความสัมพันธ์กับแสงระดับสูง และความสัมพันธ์ทางอากาศระดับสูง”
ความโกลาหลท่ามกลางฝูงชนเพิ่มขึ้น หลังจากได้ยินผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่อดังกล่าว
แม้ว่าฉันจะไม่รู้ความแตกต่างของพลังระหว่าง นักเวทย์แห่งธาตุ และ สงครามแห่งธาตุ แต่มันก็ไม่ควรยิ่งใหญ่ขนาดนั้นใช่มั้ย?
“ให้ตายเถอะครับ เธอมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบมากเกินกว่าจะมีพรสวรรค์ที่น่ากลัวของเธอด้วย … แต่เธอก็ออกจากลีกของเราไป ไปกันเถอะ! เราต้องกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมการฝึกอบรมในอนาคตของเราที่ใด บนเส้นทางของ สงครามแห่งธาตุ “เด็กหนุ่มผมสีฟ้าพูด ขณะที่เขาดึงฉันไปที่ทางออกของห้องโถง
ดูเหมือนว่าจะเป็นเวลาบ่ายแล้ว
เมืองนี้ไม่ได้ดูล้ำยุคขนาดนั้น ฉันไม่เห็นรถยนต์หรือจักรยานเลย นั่นหมายความว่าโลกนี้ไม่ได้พัฒนาด้านวิทยาศาสตร์มากนัก ใครที่ต้องการรถยนต์และจักรยาน เมื่อคุณสามารถบินบนท้องฟ้าได้อย่างแท้จริง แม้ว่าฉัน เห็นม้าและสัตว์แปลก ๆ บางตัวกำลังดึงรถม้า
เรามาถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลังจากเดินไปได้ 15 นาทีและทันทีที่เรามาถึงเด็กคนอื่น ๆ ที่อายุประมาณ 9-10 ขวบก็วิ่งเข้ามาหาเราและเริ่มถาม
“ เฮ้ ไมค์ผลเป็นยังไงบ้าง?”
“เอธาน คุณมีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบใด ๆ หรือไม่?”
…
…
ไมค์เด็กชายผมสีฟ้าพูดอย่างทำอะไรไม่ถูกว่า”หยุดเถอะ หยุดทุกคน เราทั้งคู่ไม่มีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบใด ๆ เราจะคุยกับมิสซิสราล์ฟว่าจะเข้าร่วมการฝึก สงครามธาตุ ได้ที่ไหน”
คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้รับการปลอบโยนจากเด็กอายุ 9-10 ปี? วันนี้ฉันพบ
เด็ก ๆ กำลังปลอบใจเรา 2-3 นาทีและให้ขนมพวกเราก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายกันไป
จากนั้นเอธานและไมค์ก็มุ่งหน้าเข้าไปในห้องทำงานของมิสซิสราล์ฟ
ในสำนักงาน
มิสซิสราล์ฟซึ่งอยู่ในวัย50ปีของเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “คุณทั้งคู่ล้มเหลวเหรอ เฮ้อ ช่างเป็นโชคชะตาจริงๆ คุณตัดสินใจว่าจะลงทะเบียนเพื่อเริ่มฝึกในสงครามแห่งธาตุไว้ที่ไหน?”
ไมค์พูดว่า “ไม่ มิสซิสราล์ฟ เราหวังว่าจะได้คุยเรื่องนี้กับคุณ เนื่องจากคุณรู้เรื่องแบบนี้มากกว่าเรา”
ฉันคิดว่าพระราชวัง Cloud Fantasy ดูดี เมื่อพิจารณาว่าผู้คนในเมืองพูดถึงพวกเขาอย่างไร ฉันจึงถามว่า “เราเข้าร่วมพระราชวัง Cloud Fantasy ไม่ได้หรือ”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉัน ทั้งมิสซิสราล์ฟและไมค์มองมาที่ฉันอย่างแปลก ๆ ‘ดูเหมือนว่าฉันจะดูเมาอีกครั้ง บางทีฉันไม่ควรพูดอย่างไม่ใส่ใจเกรงว่าแมวจะหลุดออกจากกระเป๋าทันที ‘
ไมค์พูดอย่างทำอะไรไม่ถูก “เอาจริง ๆ พี่เป็นอะไรไปเหรอ สมองของดูเหมือนจะมีปัญหาหลังจากที่คุณตื่นขึ้นมามันเป็นเรื่องธรรมดาที่พระราชวัง Cloud Fantasy จะรับสมัครพ่อมดธาตุเท่านั้น”
ฉันยิ้มอย่างเชื่องช้าและพูดว่า “ขอโทษนะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายและก็ลืมเรื่องบางอย่างไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามอย่าสนใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ และบอกฉันว่ามีที่ไหนที่เทียบเท่ากับพระราชวัง Cloud Fantasy ที่รับสมัครและฝึกฝนสงครามแห่งธาตุอีกไหม?”
มิสซิสราล์ฟพูดด้วยความจริงจังว่า “มีหลายกลุ่มที่สามารถเทียบเคียงได้กับพระราชวัง Cloud Fantasy ที่รับสมัครทั้งนักรบธาตุและพ่อมดธาตุ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างออกไปก็ตาม”
ใบหน้าของเธอดูเป็นทุกข์ ขณะที่เธอพูดต่อ “แต่อนิจจา เรามีเงินส่งพวกคุณเพียงคนเดียว … “
ฉันดีใจที่ได้ฟังประโยคแรก แต่สิ่งที่มิสซิสราล์ฟพูดในภายหลังทำให้เกิดปฏิกิริยาในตัวฉัน
ฉันรู้สึกว่าควรให้โอกาสกับไมค์ แต่นั่นไม่ใช่เพราะฉันเองแต่ดูเหมือนว่าจะเป็นความคิดที่เหลืออยู่ของเจ้าของร่างเดิม ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดแท้ๆหรือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
ก่อนที่ฉันจะสามารถขอให้ไมค์กับมิสซิสราล์ฟฉันก็ถูกตัดหน้าก่อน ไมค์พูดด้วยความมุ่งมั่นว่า “มิสซิส ราล์ฟโปรดให้โอกาสกับเอธานด้วย เขาทำงานหนักกว่าฉันในทุกสิ่งและเขาก็มีเป้าหมายที่สูงกว่าฉันด้วย ดังนั้นเขาควรได้รับโอกาสนี้ ฉันจะเข้าร่วมกับฝ่ายที่อยู่ใกล้เมืองของเรา ” เมื่อพูดถึงตรงนี้ไมค์ยิ้มและพูดว่า “ถ้าฉันไปร่วมที่ไหนสักแห่งใกล้ ๆ ฉันก็สามารถไปเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้าได้บ่อยขึ้น”
ไมค์คนนี้ช่างเป็นคนดี ขอบคุณครับ แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเจ้าของร่างก่อนหน้านี้มีเป้าหมายอะไรสูงกว่า แต่เป้าหมายของฉันก็ไม่เล็ก ฉันต้องกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งและกลับมายังโลกเพื่อแก้แค้น
แต่ฉันยังไปไม่ได้ มีศัตรูของฉันอยู่ที่นี่โดยพิจารณาว่าเจ้าของร่างคนก่อนของร่างกายนี้เสียชีวิตอย่างไร มีโอกาส 100% ที่เขาจะถูกวางยาพิษ ก่อนที่เราจะมาถึงศาลาทดสอบความสัมพันธ์
เราคุยกับมิสซิสราล์ฟอีกเล็กน้อย ก่อนที่เราจะกลับไปที่ห้องของเรา
หลังจากเข้ามาในห้องฉันถามไมค์ว่า “เฮ้ น้องชายเราไปไหนกันมาก่อนที่จะมาถึง ฮอลตรวจสอบความสัมพันธ์ธาตุหรือเปล่าดูเหมือนฉันจะจำบางเรื่องไม่ได้”
ไมค์ถอนหายใจและพูดว่า “ดูเหมือนว่าจะมีปัญหากับความทรงจำของคุณจริงๆสินะ คุณต้องการพบหมอ หรือแม่มดในเมืองของเราหรือไม่ แต่ต้องเสียเงินบ้างนะ”
“ไม่ ไม่ครับ ฉันไม่จำเป็นต้องไปพบหมอหรือแม่มดใครจะไปรู้ว่าฉันอาจจะสบายดี หลังจากนอนหลับไปก่อนก็ได้ ช่วยบอกก่อนว่าเราทำอะไรก่อนที่จะมาถึงห้องทดสอบความสัมพันธ์”
“หลังจากออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเราไปที่ โณงแรมไรอัน ใกล้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพื่อทานอาหารเช้าเพราะเราเก็บเงินไว้กินที่นั่นในวันนี้ฮ่า ๆ ๆ คุณเป็นคนเสนอแผนนี้ว่าจะกินของดี เพราะอาจช่วยในการทดสอบได้ ฮ่าฮ่าดูเหมือนว่าความคิดนั้นของคุณจะใช้ไม่ได้” ไมค์หัวเราะออกมาดัง ๆ หลังจากพูดแบบนั้น
แม้ว่าฉันจะรู้สึกอายที่ได้ยินสิ่งนี้ แต่ก็หัวเราะออกมาเหมือนกัน ดูเหมือนว่ามีโอกาสสูงที่เจ้าของร่างนี้คนก่อน จะถูกวางยาพิษที่โรงแรม ในขณะรับประทานอาหารที่นั่น
ฉันถามคำถามที่สำคัญอีกครั้งว่า “ไมค์ มีใครในเมืองที่ฉันเป็นศัตรูด้วยหรือไม่ เช่นมีศัตรูคนใดที่อาจต้องการฆ่าฉัน?”
ไมค์หยุดหัวเราะสักวินาทีก่อน … เขาหัวเราะหนักกว่าเดิมและพูดว่า “พี่ครับทุกคนที่อยู่ใกล้ ๆ รู้จักบุคลิกของคุณ คุณไม่ชอบปัญหาคุณชอบอยู่นิ่ง ๆ และทำงานหนักอย่างเงียบ ๆ ฉันไม่เคยเห็นคุณทะเลาะกับใครบางคนมาก่อนฉันสงสัยว่าใคร ๆ ที่ต้องการชีวิตของคุณ คุณกำลังหามันไปเพื่ออะไร “
ฉันยิ้มให้ไมค์แล้วตอบว่า “ไม่หรอก ฉันแค่ฝันร้ายและฉันก็จำอะไรไม่ได้มากนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม แต่ไม่ต้องกังวลฉันจะไม่เป็นไรอะไรก็ตามคุณจะไป งีบตอนบ่ายใช่ไหม ฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อย ฉันจะกลับมาในครึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ “
ฉันเตรียมพร้อมที่จะไปที่โรงแรมแบบไม่ระบุตัวตนเพื่อตรวจสอบสิ่งต่างๆเพราะ …
‘เจ้าของร่างเดิมไม่มีศัตรูและเขาก็ไม่ได้ต่อสู้กับใครด้วย … อืมเขาตายได้ยังไง? อย่าบอกนะว่าเขาตายเพราะเขาโง่? มีผู้หญิงมาเยี่ยมฉันและฉันก็ตายในวันรุ่งขึ้น แค่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันก็ทำให้ฉันอยากจะสาบานต่อพระเจ้าถ้ามันต้องเกิดขึ้นอีก แต่ …. เขาตายได้ไงกันนะ? ถ้าการตายของเขาโง่เขลาและน่าโมโหพอ ๆ กับของฉัน มันคงเป็นเรื่องบังเอิญที่โชคร้ายและน่าขยะแขยงจริงๆ ‘
…
…
ฉันออกไปข้างนอก หลังจากขอชุดคลุมและเสื้อคลุมจากมิสซิสราล์ฟ เพราะโรงแรมนั่นก็อยู่ไม่ไกลนัก ดังนั้นฉันจึงไปถึงที่นั่นใน 5 นาที
โรงแรมไรอัน
อืมไม่ใหญ่ แต่มีลูกค้าเข้าออกเยอะมาก ฉันเข้าไปข้างในและกำลังดูเมนูเพื่อหาสิ่งที่ถูกที่สุดที่จะสั่ง
แต่หลังจากผ่านไป 2 นาทีก่อนที่ฉันจะสั่งอะไรถูก ๆ พนักงานเสิร์ฟก็มาหาฉันและบอกฉันว่า “คุณช่วยพาฉันไปดูเจ้านายได้ไหม เราแค่อยากจะเคลียร์บางสิ่งบางอย่างและเจ้านายของเราสัญญาว่าคุณจะพอใจ ในตอนท้าย”
เธอล้อเล่นฉันเหรอ? เธอจำฉันได้ยังไงทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้แสดงหน้าตาเลย?
‘เฮ้อ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมุ่งหน้าไปยังเรื่องเลวร้ายนี้ แต่วิธีการพูดของพนักงานเสิร์ฟดูแปลก ๆ ปกติเขาควรจะขู่ฉัน แต่เขาพูดด้วยวิธีที่อ่อนโยนและเกือบจะอ้อนวอน ฉันรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับวิธีที่เจ้าของคนก่อนเสียชีวิต ‘ฉันถอนหายใจภายในใจ ฉันลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามบริกรไป จากสิ่งที่ฉันสังเกตเห็น พนักงานเสิร์ฟคนนี้น่าจะมีโอกาสที่สถานการณ์จะแตกต่างกันบ้าง หากนี่เป็นโอกาสสำหรับฉันและฉันต้องเข้าใจมัน
เมื่อเดินไปไม่นานเราก็มาถึงห้องทำงานของเจ้านาย บริกรเปิดประตูและยื่นมือให้ฉันเข้าไปข้างใน
ฉันก้าวเข้าไปในห้องทำงาน ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่เกินไปโต๊ะหนึ่งตัวเก้าอี้หลังโต๊ะที่เจ้านายของโรงแรมนั่งและเก้าอี้อีกสองตัวที่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะสำหรับแขก
เจ้านายของโรงแรมยืนขึ้นและโค้งคำนับเมื่อเห็นฉัน “อย่างแรก ฉันอยากจะบอกว่าฉันเสียใจอย่างยิ่ง เราไม่ได้ตั้งใจจะวางยาพิษคุณโดยสิ้นเชิง แต่มีการสลับจานและอาหารที่มีพิษก็ถูกส่งไปยังคุณ แทน เนื่องจากเป้าหมายของเราสั่งอาหารแบบเดียวกับคุณ เนื่องจากคุณสามารถปัดเป่าพิษร้ายแรงนั่นได้ หมายความว่าคุณมีใครบางคนอยู่เบื่องหลังเราไม่ต้องการทำให้บุคคลเช่นนี้ต้องขุ่นเคือง เพราะเราเพิ่งเริ่มงานนี้เมื่อไม่นานมานี้และก่อให้เกิดเช่นนี้ เป็นอุบัติเหตุ แต่คุณสามารถระบุราคาเพื่อระงับเรื่องนี้ได้ เนื่องจากคุณไม่เป็นไรฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของคุณ “
ห้ะ อะไร? พล็อตนี้มันบ้าอะไร? FUCK … ฉันหวังว่าเจ้าของร่างคนก่อนจะสามารถย้ายไปอยู่ในโลกที่ดีและมีชีวิตที่ดีได้ เฮ้อ วิญญาณเราช่างน่าสมเพชขนาดไหน แต่ตอนนี้ฉันต้องเข้าใจโอกาสนี้ที่มอบให้ฉัน
อุปกรณ์ในสมองของฉันเริ่มต้นขึ้นและฉันก็คิดแผนการที่ดีทันที ดังนั้นหลังจากรวบรวมความคิดของฉัน ฉันจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจและเยาะเย้ย “บ้าหรือเปล่า เมื่อเจ้านายของฉันกำจัดพิษให้ฉัน เขาบอกว่ามันเป็นเพียงยาพิษระดับต่ำ แต่เนื่องจากเจ้ากล้าวางยาข้า อาจารย์ของข้าจึงบอกข้าว่าพวกเขาจะไม่อยู่นิ่งเพื่อดูดวงอาทิตย์ในวันหน้าหรอกนะ “
เหงื่อเริ่มไหลออกมาจากร่างกายของเจ้าของโรงแรม ขณะที่เขาพูดด้วยตัวสั่น “ได้โปรดมันเป็นความผิดพลาดของพวกเรา พวกเรามือใหม่ ช่วยบอกนายของคุณให้ยกโทษให้พวกเราได้ไหม ฉันยินดีจ่ายราคาใด ๆ ยกเว้นชีวิตของฉัน”
“ฉันสงสัยว่าคุณมีอะไรที่จะช่วยนายของฉันได้บ้างมาดูกัน …. ” ฉันใช้สีหน้าครุ่นคิดอยู่ 2-3 วินาทีก่อนที่จะพูด “ทำไมคุณไม่แสดงสมบัติที่มีค่าที่สุดของคุณให้ฉันดูฉันจะดูว่าพวกเขา สามารถจุดประกายความสนใจในตัวนายของฉันได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เจ้านายก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะรีบวิ่งไปที่กำแพงด้านซ้าย เขาเคาะที่นั่นและก่อนที่ผนังส่วนหนึ่งจะเลื่อนออกเผยให้เห็นตู้เซฟ หลังจากนั้นเขาก็ถอดแหวนที่นิ้วของเขาและใส่ไว้ที่รูที่อยู่บนตู้เซฟ
ตู้เซฟเปิดออกเผยให้เห็น 2 ม้วนและกระเป๋า
เขาวางมันทั้งสองไว้บนโต๊ะและพูดว่า “ได้โปรดนั่งและตรวจสอบ สิ่งเหล่านี้ พวกมันเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดของฉันอันหนึ่ง คืออควาอสรพิษระดับกลาง และอีกอันคือหมัดแม็กม่าเอเลเมนทัลระดับสูง กระเป๋าประกอบด้วยผลึกน้ำระดับกลาง 2 ชิ้นและผลึกน้ำระดับต่ำ 10 ชิ้น “
หัวใจของฉันเต้นแรง แต่ฉันยังคงสงบสติอารมณ์และพูดว่า “สิ่งที่ไร้ประโยชน์พวกเขาอาจจะไม่ดึงดูดความสนใจของเจ้านายของฉัน แต่ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อโน้มน้าวใจนายของฉัน และตอนนี้คุณมี ทองแท่งกี่อันให้ฉัน ด้วยอีกครึ่งหนึ่งของที่มีและในตอนนี้ที่พวกคุณกำลังทำลายวันของฉัน “
“ได้ค่ะ ได้โปรดรอสักครู่” เจ้านายรีบเปิดลิ้นชักโต๊ะหยิบกระเป๋าสองใบออกมาและพูดว่า “นี่เป็นเงินครึ่งหนึ่งของความมั่งคั่งของฉัน ฉันแค่หวังว่าคุณจะโน้มน้าวให้เจ้านายของคุณช่วยเราฉันขอร้อง .”
“โอเคโอเค หยุดขอได้แล้ว อาจารย์ของฉันให้ความสำคัญกับฉันมากดังนั้นเขามักจะไว้ชีวิตคุณ” พูดแบบนี้ฉันก็เอาของทุกอย่างบนโต๊ะไปซ่อนไว้ใต้ชุดคลุมของฉัน
“เอาอาหารดีๆมาให้ฉัน ตอนนี้ฉันกำลังหิวโหย” พูดแบบนี้ฉันก็ออกจากห้องทำงาน
…
…
…
* เรอ *
เมื่อเดินระหว่างทางไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ฉันไม่สามารถหยุดยิ้มภายใต้กระโปรงหน้ารถได้ แต่ … เฮ้อฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าของร่างก่อนหน้านี้เสียชีวิตเพราะความผิดพลาดเศร้าจริงๆ ฉันหวังว่าคุณจะพบความสงบสุขและชีวิตต่อไปที่ดี
ในไม่ช้าฉันก็มาถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและตรงไปที่สำนักงานของมิสซิสราล์ฟ
ฉันนั่งบนเก้าอี้และหยิบกระเป๋าใบหนึ่งออกมา “มิสซิสราล์ฟโปรดใช้เงินนี้เพื่อสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและคุณสามารถถามไมค์ว่าเขาต้องการไปฝึกงานที่ธันเดอร์ – ไฟร์วัลเลย์กับฉันไหม ฉันจะส่งเขาไปในอีกสักพัก ” ฉันพูดพลางส่งชิ้นส่วนของฉันให้ ฉันออกจากห้องทำงานก่อนที่มิสซิสราล์ฟจะได้พูดอะไร
เมื่อมาถึงห้องของฉัน ฉันก็ปลุกไมค์ “เฮ้ ไมค์ตื่นได้แล้วมิสซิสราล์ฟกำลังโทรหาคุณ”
ไมค์สะดุ้งตื่นก่อนจะพูดว่า “มีอะไรเหรอ ฉันงีบหลับกำลังสบายดีเลย”
ฉันยิ้มและพูดว่า “ไปที่ห้องทำงานของมิสซิสราล์ฟมีเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับคุณที่นั่น” พูดแบบนี้เสร็จ ฉันก็ดึงไมค์ออกจากเตียงแล้วพูดว่า “เร็วเข้าสิ”
ไมค์ออกจากห้องอย่างงง ๆ
จากนั้นฉันก็นอนลงบนเตียงถอดเสื้อคลุมออกและห่อม้วนหนังสือและกระเป๋าทั้งสองข้างในชุดคลุมแล้ววางไว้ข้างหมอน ขณะที่คิดว่า ‘แล้วฉันจะทำอย่างไรกับโชคลาภที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้? ‘
‘ไปงีบกันก่อนดีกว่า ‘การคิดเกี่ยวกับการงีบหลับทำให้ฉันง่วงจริงๆ
ดึงผ้าห่มของฉันออกและคลุมทุกอย่างรวมถึงของที่ฉันได้รับฉันก็หลับไป
ตอนที่ 1: บทนำ
ฉันชื่อเอธานพ่อแม่ของฉันเสียชีวิตตั้งแต่ฉันยังเล็กและตั้งแต่นั้นมาฉันก็อาศัยอยู่กับลุงและป้าของฉันที่ดูแลฉันเหมือนฉันเป็นลูกแท้ๆของพวกเขา
เมื่อฉันสอบได้อันดับ 1 ในครั้งแรกลุงและป้ามีความสุขมาก ฉันจึงตั้งใจทำงานและได้อันดับที่ 1 ทุกครั้งหลังจากนั้น
เมื่อฉันอายุ 16 ปีลุงและป้าของฉันย้ายไปอยู่ต่างเมืองฉันจึงย้ายไปโรงเรียนใหม่
มีผู้หญิงคนหนึ่งในชั้นเรียนของฉันสวยมาก เธอชื่อลิลี่ ฉันคิดว่าฉันตกหลุมรักเธอ แต่ฉันไม่ใช่คนที่จะแสดงความรู้สึกภายในของฉัน ดังนั้นฉันจึงเก็บความรู้สึกไว้กับตัวเองและเรียนอย่างหนักเหมือนกับที่ฉันเรียนในโรงเรียนก่อนหน้านี้ เพื่อทำให้ลุงและป้าของฉันมีความสุข
แต่เมื่อฉันได้อันดับ 1 ในโรงเรียนใหม่และด้วยอัตรากำไรที่มากเมื่อเทียบกับอันดับ 2 ฉันก็รู้สึกประหลาดใจ สาวสวยที่สุดในชั้นเรียนของฉัน ลิลี่เข้าหาฉันเพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเรียน ฉันมีความสุขมากเหมือนได้อยู่บนสวรรค์ชั้น 9
เราคุยกันทุกวันและฉันคิดว่าชีวิตของฉันสมบูรณ์แบบ แต่วันหนึ่งจู่ๆมีเด็กผู้ชาย 3 คนมาหาฉันหลังเลิกเรียน พวกเขาขู่ให้ฉันเลิกมีปฏิสัมพันธ์กับลิลี่ไม่งั้นพวกเขาจะหักแขนและขาของฉันแน่นอน และตอนแรกฉันไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกเขานัก
แต่หลังจากนั้น อีกหนึ่งสัปดาห์ เมื่อฉันกำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียนจู่ๆรถตู้ก็มาจอดข้างๆฉัน เมื่อฉันผ่านตรอกซอยและฉันถูกลักพาตัว พวกเขาพาฉันไปยังสถานที่ที่ถูกทิ้งร้างและพวกเขาทุบตีฉัน พวกเขาทำร้ายที่แขนขาของฉัน และพวกเขาทำร้ายฉันอย่างแรงในสถานที่ที่ไม่มีใครมองเห็น หลังจากนั้นฉันก็สวมเสื้อผ้า
คนที่ทุบตีฉันคือเด็กผู้ชาย 3 คนในชั้นเรียนของฉันและผู้ใหญ่ 2 คนที่ขับรถตู้ พวกเขาขู่ฉันอีกครั้ง โดยบอกว่าถ้าฉันยังโต้ตอบกับลิลี่ต่อไป พวกเขาก็จะทำให้ลุงและป้าของฉันเดือดร้อนเพราะแขนขาหัก ฉันเลยบอกให้ลิลลี่เลิกคุยกับฉัน เพราะฉันไม่อยากทำให้ลุงกับป้าเดือดร้อนเพราะเรื่องของฉัน พวกเขาแบ่งปันความรักของลูกสองคนกับฉันอยู่แล้ว และฉันก็ไม่อยากทำให้พวกเขาเดือดร้อนเพราะเรื่องของฉัน
ฉันยังไม่ได้พูดอะไรกับลุงและป้าเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของฉัน เพราะฉันไม่อยากให้พวกเขากังวล เพราะพวกเขามีลูกชายและลูกสาวตัวน้อยของตัวเองที่ต้องดูแล
แต่หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์จู่ๆลิลี่ก็มาที่บ้านของฉัน
…
…
ในคฤหาสน์หลังใหญ่บอสลอนรี่ ผู้ซึ่งกำลังเชยชมไปรอบ ๆที่มีเด็กสาว อายุ 18 ปีที่กำลังเล่นสนุกสนานกับผู้หญิงที่อายุประมาณ 30 ปีบนเตียงขนาดคิงไซส์อยู่นั้น
ข้างเตียงเขามีโต๊ะเล็ก ๆ และมีโทรศัพท์ที่ดังขึ้นบนเตียง
* ตื้ดดด ตื้ดดดด *
ลอนรี่หยุดทุกการกระทำของเด็กสาวและเดินไปยังทิศทางของโต๊ะ ก่อนที่เขาจะยื่นมือไปรับโทรศัพท์
“ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามมันสำคัญกว่าความสุขของฉันงั้นเหรอ !! พูดมาซะว่ามีอะไร” ลอนรี่ พูดด้วยอารมณ์เหม็นขี้หน้า ขณะที่เขาถูกขัดจังหวะในช่วงเวลาแห่งความสนุกของเขา
เสียงหยาบของผู้ชายดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ “บอสลอนรี่ มาดามลิลี่ไปเยี่ยมบ้านของเด็กชายคนนั้น พร้อมกระเป๋าใบเล็ก เราไม่รู้จุดประสงค์ของเธอที่ไปเยี่ยมเขา เราควรทำอย่างไร?”
“ไอ้เด็กนั่นอีกแล้วเหรอ ฉันเบื่อที่จะได้ยินเรื่องของเขา ลักพาตัวไอ้เด็กนั่นพรุ่งนี้แล้ว ฆ่าเขา ฉันจะจัดการตำรวจและสื่อเอง … เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งฆ่าเขา ทรมานเขาก่อน ก่อนที่จะฆ่าเขาดีกว่า “
“ โอเคครับบอส”
ที่ไหนสักแห่งใกล้บ้านของเอธานชายร่างบัฟพึมพำในขณะที่ส่ายหัว “บอสข้ามขั้นฆ่าเขาเลยในครั้งนี้ …. เด็กชายผู้โชคร้ายคนนั้น จะได้รับการทรมานก่อนที่จะตายในวันพรุ่งนี้ ฉันล่ะถอนหายใจกับสังคมเช่นนี้จริงๆ”
…
…
“สวัสดีฉันชื่อโรซี่ ฟ็อกซ์ ฉันมาพร้อมกับข่าวล่าสุดเช้าวันนี้มีคนพบศพเด็กอายุ 16 ปีในโกดังร้าง หลังโรงเรียนมัธยมแห่งชาติจากร่องรอยบนร่างกายของเขา , เขาถูกทรมานอย่างรุนแรง ก่อนเสียชีวิต ขณะนี้ตำรวจกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด ”
…
…
5 ชั่วโมงที่แล้วในโกดังร้างหลังโรงเรียนมัธยมแห่งชาติ
เด็กชายที่ถูกทรมานอย่างสาหัสนอนอยู่บนพื้นโดยมีเลือดไหลทั่วร่างกาย เล็บของเขาถูกขุดออก มีผมหลุดออกมาและมีรอยเฉือนมากมายทั่วใบหน้า และลำตัวและด้านหน้าของเขามีเด็กชายอีก 3 คนที่อายุใกล้เคียงกัน ในขณะที่คนที่รับผิดชอบในการทรมานนี้ ยืนอยู่ข้างหลังเอธาน พวกเขาเป็นผู้ชาย 2 คน
เด็กชายอ้าปากและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงว่า
“ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับฉัน ฉันทำตามที่คุณบอกและหยุดคุยกับเธอแล้วทำไมล่ะ”
เด็กผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดพร้อมกับตะโกนว่า “เราบอกแกหลายครั้ง ว่าให้อยู่ห่างจากเธอ แกก็รู้ว่าเธอหมั้นกับบอสลอนรี่อยู่ แม้ว่าเธอจะไม่รู้ตัวก็ตาม แต่พ่อแม่ของพวกเขาก็ตัดสินใจแล้ว และมันนานมาแล้ว “
เด็กชายอีกคนพูดด้วยเสียงเยาะเย้ย “แต่สิ่งที่ทำให้บอสลอนรี่ ต้องฆ่าแกก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ บอส ลอนรี่พบว่าลิลี่มาที่บ้านของแกหลังเลิกเรียนเมื่อวานนี้ และใครจะรู้ว่าแก 2 คนทำอะไรในบ้านของแกฮิฮิ ”
น้ำตาของเอธาน ไหลออกมา ในขณะที่เขาพูด ขณะที่ต้องทนกับความเจ็บปวดทั่วร่างกายและใบหน้าของเขา “เราไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันไม่ได้เชิญเธอมา ฉันยังบอกให้เธอหยุดคุยกับฉันที่โรงเรียนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นั่นคือสาเหตุที่เธอไม่เคยคุยกับฉันเลย และเหตุผลที่เธอมาที่บ้านของฉัน ก็คือเธอต้องการคืนหนังสือที่ฉันให้เธอยืมเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน “
“แล้วไงล่ะฮ่า ๆ ๆ ชะตากรรมของแกถูกปิดตายแล้ว”
“บอสลอนรี่บอกให้เราฆ่าแก และนั่นถือเป็นที่สิ้นสุด”
“แค่คิดว่าตัวเองโชคร้ายแล้วก็ก้าวต่อไปฮ่า ๆ ๆ ”
ดวงตาของเอธานมีความเจ็บปวดสิ้นหวัง ไม่เต็มใจและโกรธ เมื่อเขากำลังจะจากไป
แต่ชะตากรรมของเขากำลังมีบางอย่างที่แตกต่างออกไป ….