สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 304

ตอนที่ 304

ตอนที่ 304 อยากกินของหวานสักคำ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกนักเลงกลับหัวเราะเยาะ สายตาเยาะเย้ยหยิ่งทะนง

“ตามใจเธอสิ! แจ้งตำรวจเลย! คิดว่าพวกเรากลัวงั้นหรอ? จะบอกเธอให้ พวกเรานอนคุกมาหลายหนแล้ว!”

นักเลงผู้ย้อมผมสีฟ้าใบหน้าเจ้าเล่ห์เดินตรงเข้ามาหาไป๋เสว่เอ๋อและจิงจิง

ไป๋เสว่เอ๋อหยิบมือถือขึ้นมา กำลังจะกดเบอร์โทร จู่ๆเจียงหวั่นหวั่นก็ปล่อยมือหล่อนออก หยิบกระเป๋าในมือขึ้นมา เขวี้ยงใส่นักเลงหัวสีฟ้า

ในกระเป๋าของหล่อนมีสิ่งของมากมาย หนักพอสมควร ถือเป็นอาวุธชั้นเยี่ยม เมื่อกระเป๋าถูกเขวี้ยงไปโดนนักเลงหัวฟ้าเข้าอย่างจัง

ไป๋เสว่เอ๋อรีบดึงแขนเจียงหวั่นหวั่นไว้ ทั้งสองฉุดยื้อแย้งกันไปมาจนเดินถอยไปด้านหลัง หล่อนกำลังคิดที่จะลากเจียงหวั่นหวั่นวิ่งหนี แต่เมื่อหันหลังกลับไป บังเอิญเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย “รุ่นพี่!”

สีหน้าของลู่เหยานิ่งขรึมจริงจัง เขาเดินก้าวขึ้นมา ใช้ตัวบังไป๋เสว่เอ๋อกับเจียงหวั่นหวั่นไว้ พูดขึ้น “ไม่ต้องกลัว!”

ยังพูดไม่ทันจบ เท้าของเขาก็ถูกยกขึ้นมา ถีบไปที่หน้าอกของนักเลงหัวฟ้าอย่างเต็มแรง

ไอ้หัวฟ้าถูกถีบจนกระเด็นถอยหลังไป เกือบจะฟุบลงไปกองกับพื้น นักเลงที่เหลืออีกสองคน เห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก จึงหันมองมาที่เขา จากนั้นก็รีบวิ่งบุกเข้ามา

ลู่เหยารีบหันหลังขวับ มองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อ “พวกเธอไปหลบด้านข้างก่อน!”

“โอเคค่ะ!” ไป๋เสว่เอ๋อรีบตอบกลับ ดึงเจียงหวั่นหวั่นเดินไปที่ไกลอีกหน่อย ป้องกันไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ

ลีลาการต่อสู้ของลู่เหยาคล่องแคล่วฉับไว ทั้งเตะทั้งต่อยจนนักเลงสองคนนั้นล้มลงไปนอนสลบอยู่บนพื้น เมื่อนักเลงทั้งสามที่ล้มนอนอยู่บนพื้นเห็นสถานการณ์เลวร้ายขึ้น จึงรีบพากันลุกขึ้นมา วิ่งหนีกระเจิดเจิงออกไป

เมื่อเห็นว่านักเลงทั้งสามหนีกันไปหมดแล้ว ลู่เหยาจึงจะหันหลังกลับมามองไป๋เสว่เอ๋อและเจียงหวั่นหวั่น ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พวกเธอโอเคใช่ไหม?”

“พวกเราไม่เป็นไรค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อพยักหน้า “รุ่นพี่มาที่นี่ได้ยังไงคะ?”

ลู่เหยายิ้ม “ผมเห็นพวกคุณทั้งสองตั้งแต่ที่ร้านชาบูแล้ว ผมไปทานกับเพื่อน เห็นพวกคุณคุยกันอย่างสนุกสนาน จึงไม่กล้าเข้าไปขัด เมื่อครู่เพิ่งทานเสร็จ เดินออกมา เห็นพวกเธอโดนนักเลงล้อมอยู่ไกลๆ จึงรีบวิ่งเข้ามา”

“ยังดีที่ครั้งนี้เจอพี่มาช่วย ไม่อย่างนั้นพวกเราสองคนไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป!” ไป๋เสว่เอ๋อถอนหายใจเฮือกใหญ่ “รุ่นพี่ ขอบคุณมากนะคะ!”

ลู่เหยายิ้ม “ขอบคุณอะไรกัน ถ้าวันนี้เป็นคนอื่นที่โดนแบบนี้ ผมก็จะช่วยเช่นกัน”

หลังจากเจอเหตุการณ์นี้ เจียงหวั่นหวั่นสร่างเมาขึ้นมาทันที รีบพูดขอบคุณลู่เหยา

ลู่เหยายิ้มให้ทั้งสอง พูดขึ้นต่อ “นี่ก็ดึกมากแล้ว ไม่อย่างนั้นให้ผมไปส่งพวกเธอไหม จะได้ปลอดภัยด้วย”

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไป๋เสว่เอ๋อพยักหน้าลง ตอบกลับ “ได้ค่ะ รบกวนรุ่นพี่ด้วยนะคะ”

หลังจากขึ้นไปนั่งบนรถของลู่เหยา พวกเขาไปส่งเจียงหวั่นหวั่นกลับบ้านก่อน ไป๋เสว่เอ๋อจึงค่อยกลับบ้านของตน จากนั้นก็ขอบคุณเขาอีกครั้ง “ครั้งนี้รบกวนพี่เยอะเลยนะคะ”

“ไม่เป็นไรเลยจริงๆ เรื่องการชนะประมูล ผมก็ยังอยากจะขอบคุณเธอดีๆสักครั้งนะ!” ลู่เหยาขับรถพลาง ขอบคุณพลาง “ผมได้คุณกับประธานเผยไว้แล้ว ครั้งนี้ตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงฉลองประมูลกันที่เรือสำราญซิงกวางแถบชานเมืองทางทิศตะวันออก และจะเชิญคนจากฝ่ายโครงการก่อสร้างเข้าร่วมด้วย”

“อลังการขนาดนั้นเลย?” ไป๋เสว่เอ๋อทั้งตกใจทั้งดีใจ แต่เมื่อลองมาคิดดูดีๆ โครงการครั้งนี้ทำให้ผู้ร่วมลงทุนได้ผลประโยชน์มากน้อยเท่าไหร่ หล่อนก็เข้าใจขึ้นมาทันที โครงการก่อสร้างแบบนี้ เมื่อสำเร็จขึ้นมา ลาภยศหน้าตาก็จะดูดีมีภูมิฐานขึ้นมาทันที คงเป็นการซื้อขายที่ได้กำไรงอกงามไม่น้อย ดังนั้น เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จในการร่วมมือและการเริ่มต้น การเลี้ยงฉลองแบบนี้ถือว่าสมเหตุสมผล

ลู่เหยาพูดหยอกล้อเล่นขึ้นมา “ในงานยังสามารถควงผู้หญิงไปร่วมได้ด้วย เกรงว่าผมต้องไปแบบคนโสดคนเดียวแล้วสิ”

ไป๋เสว่เอ๋อหัวเราะตาม “รุ่นพี่เก่งขนาดนี้ อยากจะหาแฟนก็คงไม่ยากไม่ใช่หรอคะ?”

“เพียงแต่ไม่เคยหาใครที่ถูกชะตากันได้เลย เรื่องแบบนี้ ก็ต้องดูพรหมลิขิต รีบร้อนไม่ได้”

เขาพูดพลาง หันมามองไป๋เสว่เอ๋อด้วยสายตาอันลึกซึ้ง

เมื่อสังเกตเห็นสายตาของเขา ไป๋เสว่เอ๋อยิ้มขึ้นมา เบนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง พูดขึ้น “ฤดูหนาวกำลังจะมาถึงแล้ว…”

หลังจากนั้นสิบนาที รถของเขาก็ขับมาถึงบ้านของหล่อน กำลังขับผ่านทางเล็กๆในบ้านตระกูลเผย ไป๋เสว่เอ๋อก็บอกให้ลู่เหยาจอดรถ

“โอเคค่ะรุ่นพี่ ส่งตรงนี้ก็พอค่ะ”

ลู่เหยากล่าวอำลา ไป๋เสว่เอ๋อเดินจากทางเล็กๆเขาไปในบ้าน

เมื่อเปิดประตูเข้าไป หล่อนเพิ่งจะเปลี่ยนรองเท้า ได้ยินเสียงคนพูดมาจากบันได หล่อนเงยหน้าไปมอง เห็นป้าจางรีบเดินลงมาจากชั้นสอง

“คุณไป๋ กลับมาแล้วเหรอคะ?”

ไป๋เสว่เอ๋อรีบถามกลับ “ค่ะ ป้าจาง เกิดอะไรขึ้นคะ?”

“คุณชายไข้ขึ้นค่ะ ป้าเพิ่งจะเอาซุปเหล้าไปให้ สังเกตเห็นอาการไม่ค่อยดี ก็เลยลงมาหายา”

“ห้ามดื่มหมดนะคะ! ” ไป๋เสว่เอ๋อขมวดคิ้ว “เขาดื่มเหล้าแล้วห้ามกินยาลดไข้เด็ดขาด ต้องใช้ผ้าเย็นลดอุณหภูมิลงก่อน ป้าจางไปเอาถุงน้ำแข็งมาให้หนึ่งถุงนะคะ ฉันจะขึ้นไปดูแลเขาเอง”

ป้าจางรีบพยักหน้า “ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าเอาไปให้”

ไป๋เสว่เอ๋อรีบวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อไปดูอาการของเผยลี่เชิน เขานอนอยู่บนเตียง ปิดตาลง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า จึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา

เมื่อเห็นหล่อน เขายิ้มขึ้นมาทันที สีหน้าดูมีชีวิตชีวาขึ้น

เขากำลังจะลุกขึ้นมา ไป๋เสว่เอ๋อรีบเดินเข้าไป กดบ่าของเขาลง ขมวดคิ้วเล็กน้อยพูดขึ้น “อย่าขยับ”

หล่อนยกหลังมือขึ้นไปแตะบนหน้าผากของเขารู้สึกได้ว่าเขาตัวร้อนมาก

คิดไปคิดมา คงเป็นเพราะช่วงนี้เขาต้องไปงานเลี้ยงบ่อย ติดกันหลายวัน ทั้งดื่มหนักทั้งอดนอน ร่างกายไม่ได้พักจนไข้ขึ้น

จู่ๆฝ่ายชายยิ้มขึ้น พูดด้วยเสียงแผ่วเบา “เห็นคุณแล้ว ผมดีขึ้นเยอะเลย”

ไป๋เสว่เอ๋อคิดไม่ถึงเลยว่า เขาป่วยหนักขนาดนี้แล้วยังจะมีใจมาพูดจาหยอกล้ออีก หล่อนทั้งโกรธทั้งเขิน ยกมือขึ้นจิ้มไปที่หน้าผากของเขา “พอแล้ว พูดจาน้อยๆหน่อยจะได้หายเร็วๆ”

เมื่อพูดจบ หล่อนลุกขึ้นไปในห้องน้ำ รองน้ำเย็นใส่กะละมัง จากนั้นหยิบผ้าขนหนู มาเช็ดตัวและประคบเย็นให้เขา

จากนั้นไม่นาน ป้าจางก็เดินเข้ามาพร้อมกับถุงน้ำแข็ง และชงยาลดไข้มาให้ “คุณไป๋ เมื่อครู่ป้าถามหมอมาแล้ว เขาบอกว่าใช้ยาได้ในปริมาณที่เหมาะสม ป้าก็เลยชงมาให้หนึ่งเม็ด ให้คุณเผยดื่มสักหน่อยก่อนก็ได้นะคะ”

“โอเคค่ะ ขอบคุณค่ะป้าจาง เดี๋ยวฉันป้อนเขาเอง”

หลังจากป้าจางเดินออกจากห้องไป ไป๋เสว่เอ๋อหยิบยาขึ้นมาคนในน้ำ พูดขึ้น “คุณไม่ต้องลุกขึ้นมา เดี๋ยวฉันป้อนให้เอง”。

เผยลี่เชินหรี่ตาลง คงเป็นเพราะเขารู้สึกไม่สบายตัว สายตาของเขาพร่ามัวและคลุมเครือ

ไป๋เสว่เอ๋อค่อยๆป้อนเขาทีละช้อน อาจจะเป็นเพราะยาที่กลืนค่อนข้างยาก เผยลี่เชินยักคิ้วขึ้น สีหน้าดูผะอืดผะอม

ดื่มไปแล้วครึ่งหนึ่ง ไป๋เสว่เอ๋อกำลังจะป้อนต่อ เขากลับขมวดคิ้วไม่ยอมดื่ม

ไป๋เสว่เอ๋อแสร้งทำเป็นโกรธ “ไม่กินยาแล้วจะหายได้ยังไง?

สายตาของเผยลี่เชินแฝงไปด้วยรอยยิ้ม “อยากกินของหวานสักคำ”

เมื่อได้ยินเผยลี่เชินพูดเช่นนี้ ไป๋เสว่เอ๋ออดไม่ได้ที่จะขำออกมา

ทำไมเขายังดูเหมือนเด็กน้อย กินยาแล้วต้องกินลูกอมหวานๆ?

ไป๋เสว่เอ๋อวางถ้วยยาลง นึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้เจียงหวั่นหวั่นใส่กล่องลูกอมนมเข้ามาในกระเป๋าของหล่อน หล่อนกำลังจะลุกขึ้นไปหยิบ จู่ๆมือของหล่อนก็ถูกจับไว้แน่น

“ไม่ต้องยุ่งยาก” เผยลี่เชินเขยิบตัวขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นก็ดึงหล่อนกลับมา เชิดคางขึ้นจูบไปที่ริมฝีปากของหล่อน

กลิ่นบางเบาของยาฟุ้งกระจายไปที่ใต้จมูกของไป๋เสว่เอ๋อ จากนั้น เผยลี่เชินก็ปล่อยหล่อนออก สายตายิ้มแบบมีเลศนัย “โอเคแล้ว ไม่ขมแล้ว”

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads แทงบอลออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน