Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi – ตอนที่ 119

ตอนที่ 119

การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) – ตอนที่ 119
ข้างหลังปราสาทวุมเม่

มีสถานที่แห่งนึงที่ถูกต่อขยายออกมาจากตัวปราสาท

ข้างในนั้นได้ขังตัวประกันที่ดยุคครูเกอร์เอาไว้ใช้สำหรับกดดันขุนนางทางใต้เอาไว้

“มาร์ควิสเทราต์! ให้พวกเราออกไปจากที่นี่เถอะ!”

ชายคนนึงที่อายุประมาณสามสิบต้นๆร้องขอ

ชายคนนี้เป็นขุนนางหนุ่มที่มีชื่อว่าเอิร์ลทาร์นาท

เขาเป็นหัวหน้าของขุนนางทางใต้ที่สนับสนุนจักรวรรดิ

ส่วนคนที่กำลังเผชิญหน้ากับเอิร์ลทาร์นาทนั้นเป็นชายร่างอวบอ้วน

เขาคือมาร์ควิสเทราต์, ชายที่พูดได้เลยว่ามีอุดมการณ์ร่วมกับดยุคครูเกอร์

“เจ้ายังจะพูดแบบนั้นอีกหรอ, เอิร์ลทาร์นาท”

ในขณะที่กำลังหัวเราะเยาะเอิร์ลทาร์นาท, มาร์ควิสเทราต์ก็เริ่มเดินจากไปอย่างช้าๆ

มีอัศวินหลายคนอยู่ข้างกายเขาเพื่อคอยคุ้มกันเขาจากตัวประกันไร้อาวุธรวมทั้งเอิร์ลทาร์นาทเพื่อไม่ให้พวกเขามีโอกาสลุกฮือขึ้นมาต่อต้านเขา

“จักรพรรดิได้ประกาศแล้วว่าทางใต้เป็นศัตรู มันน่าจะถึงเวลาที่เจ้าควรร่วมมือกับพวกเราเพื่อทำการโต้กลับแล้วไม่ใช่หรอ?”

“ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเจ้ากับดยุคครูเกอร์ไปรวมหัวกับองค์กรอาชญากรรมนั่นต่างหากหล่ะ! มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเราซักหน่อย!”

“โถโถ เจ้าไม่รู้หรอว่าหนึ่งในสามของขุนนางทางใต้มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรนั่น? พูดแบบนี้มันไม่รุนแรงกับเพื่อนขุนนางไปหน่อยรึไง?”

“เลิกพล่ามไร้สาระได้แล้ว! พวกเขาส่วนใหญ่ถูกข่มขู่ให้ยอมร่วมมือด้วยต่างหาก! เหมือนกับที่เจ้าทำกับเอิร์ลซิทเทอร์ไฮม์ยังไงหล่ะ!”

เอิร์ลทาร์นาทพุ่งเข้าใส่มาร์ควิสเทราต์ด้วยความโกรธแต่พวกอัศวินก็เอาหอกมาขวางทางเขาเอาไว้

เอิร์ลทาร์นาทเดาะลิ้นไม่พอใจในขณะที่ยอมถอยออกไปแต่โดยดี

“ตัดสินจากทัศนคติของเจ้าแล้ว, ดูเหมือนว่าไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจสินะ?”

“มันแน่อยู่แล้ว! พวกเราจะไม่เข้าร่วมกับสหพันธ์! พวกเราเป็นขุนนางของจักรวรรดิ!”

“เห้อ! ช่างเป็นความเด็ดเดี่ยวที่ใหญ่โตซะจริง แต่ขุนนางทุกคนรวมทั้งดินแดนของเจ้าได้ถูกตราหน้าว่าเป็นสหพันธ์แล้วรู้รึเปล่า?”

“นั่นก็เพราะเจ้าจับพวกเราเป็นตัวประกันยังไงหล่ะ!”

“ใครจะไปเชื่อคำพูดของเจ้ากัน? เมื่อสักครู่นี้, ขบวนผู้ส่งสารของจักรพรรดิพึ่งจะมาถึงที่ปราสาท จักรพรรดิตื่นตระหนกเพราะการเคลื่อนไหวของพวกเราก็เลยจัดการเจรจาขึ้นมา ตอนนี้เจ้าก็ไม่ต่างไปจากพวกเราหรอก ขุนนางทางใต้ทุกคนอยู่ในเรือลำเดียวกันแล้ว!”

มาร์ควิสเทราต์บอกเขาเช่นนั้นด้วยความภาคภูมิใจ

เมื่อได้ยินเช่นนี้, สีหน้าของเอิร์ลทาร์นาทก็บูดเบี้ยว

มีขุนนางหลายคนถูกเรียกตัวมาที่นี่ด้วยจดหมายเชิญปลอมจากดยุคครูเกอร์และถูกจับเป็นตัวประกัน พวกเขาถูกจับในตอนที่ดยุคเชิญพวกเขามาที่นี่เพื่อปรึกษาแนวทางในอนาคตของทางใต้

ทุกคนต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่เคยนึกฝันเลยว่าครูเกอร์จะก่อกบฏกับจักรวรรดิจริงๆ

“ไหนหล่ะหลักฐานว่ามันเป็นการเจรจาจริงๆ? ไม่ใช่ว่ามันเป็นการประกาศสงครามหรอกหรอ?”

“ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราก็จะสู้ ถึงยังไงพวกเราก็ทำสัญญากับประเทศอื่นเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว”

“จักรวรรดิมีอำนาจพอที่จะรับมือกับเรื่องพวกนี้ได้อยู่แล้ว! ถ้าภาคีอัศวินหลวงเข้าร่วมการต่อสู้, ทางใต้ก็จะกลายเป็นแดนมอดไหม้อย่างแน่นอนรู้ตัวรึเปล่า!?”

“ก่อนที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้น, สนธิสัญญาสันติภาพก็คงจะได้ข้อสรุปแล้ว! ซึ่งคนที่จะได้รับรองความปลอดภัยก็คือตัวข้ากับดยุคครูเกอร์”

ในขณะที่พูด, มาร์ควิสก็เผยรอยยิ้มน่ารังเกียจออกมา

ตั้งแต่แรกแล้ว, มาร์ควิสเทราต์เห็นเอิร์ลทาร์นาทเป็นแค่ตัวหมากสำหรับต่อรอง

ถ้ามันเกิดเป็นสงครามเต็มตัวขึ้นมาจริงๆ, เขาก็แค่ขายเอิร์ลไปเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และจนกว่าจะถึงตอนนั้น, อัศวินที่จะต่อสู้กับจักรวรรดิก็คงเป็นพวกอัศวินของขุนนางที่เขาจับเป็นตัวประกัน

มือของเขาจะไม่ต้องแปดเปื้อนเลยซักนิด

ด้วยความที่อ่านความคิดของมาร์ควิสได้อย่างหมดจด, เอิร์ลทาร์นาทจึงแสดงความรังเกียจออกมา

“ไอ้สารเลว……! นี่เจ้ายังกล้าเรียกตัวเองว่าขุนนางได้อีกหรอ!!?”

“แน่นอนสิ, ข้าเป็นขุนนางที่น่าเคารพนับถือ”

เอิร์ลทาร์นาทพุ่งเข้าใส่มาร์ควิสเทราต์เนื่องจากรับไม่ได้กับท่าทีที่ดูภาคภูมิใจของเขา

ซึ่งพวกอัศวินก็เข้ามาหยุดเขาไว้อีกครั้งแต่ครั้งนี้, มีขุนนางชายอีกคนโจมตีอัศวินด้วย

ด้วยโอกาสนี้เอง, เอิร์ลทาร์นาทจึงชิงดาบเล่มนึงมาได้จากพวกอัศวิน

อย่างไรก็ตาม, ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, อัศวินอีกคนก็ชี้หอกไปที่ขุนนางหญิงซึ่งอยู่ตรงมุมห้อง

“หย, หยาบคายที่สุด……เจ้าไม่สนแล้วรึไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวประกันคนอื่น!?”

มาร์ควิสเทราต์ยกแขนขึ้นในลักษณะข่มขู่

ถ้าเขาสบัดมันลงมา, อัศวินก็จะทำการสังหารตัวประกันอย่างไร้ความปราณี

เอิร์ลทาร์นาทก้มหน้าลงด้วยความสิ้นหวังในดวงตาของเขา

อย่างไรก็ตาม,

“เอิร์ลทาร์นาท ไม่ต้องห่วงพวกเราหรอกค่ะ”

ขุนนางหญิงที่แก่กว่าเอิร์ลเล็กน้อยพูด

เธอมองเอิร์ลทาร์นาทด้วยสายตามุ่งมั่น มันแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอถูกหอกจ่ออยู่

“คุณนายซิมเมล…..”

“ข้าจะไม่บอกว่าทำเพื่อจักรวรรดิ…..แต่ถ้าการมีชีวิตอยู่มันเป็นโซ่ตรวนที่พันธนาการครอบครัวของข้า, ข้าก็ขอเลือกที่จะตายดีกว่า”

“เห้อ! ก็แค่บลัฟนั่นแหล่ะ!”

“มาร์ควิสเทราต์……คนที่ห่วงแค่ตัวเองอย่างเจ้าไม่มีวันเข้าใจหรอก แม่ที่คิดถึงลูกของตัวเองหน่ะแข็งแกร่งกว่าที่เจ้าจินตนาการเอาไว้เยอะ ถ้าเจ้าจะฆ่าข้าก็ลงมือได้แล้ว!”

ในขณะที่พูด, คุณนายซิมเมลก็เข้าไปใกล้อัศวินที่เอาหอกจ่อเธออยู่

อัศวินคนนั้นหันไปมองมาร์ควิสเทราต์ด้วยความลำบากใจ

ซึ่งมาร์ควิสก็ได้ส่ายศรีษะในขณะที่แสดงสีหน้าบึ้งตึง

ถ้าเขาฆ่าเธอที่นี่, เอิร์ลทาร์นาทจะเข้ามาโจมตีเขาอย่างแน่นอน

มาร์ควิสตัดสินใจว่าควรหลีกเลี่ยงความสูญเสียทั้งหมดแล้วกระตุ้นให้อัศวินคนนั้นจับตัวคุณนายซิมเมลมาให้เขา

“เอาตัวนั่งนั่นมาให้ข้า!”

“อย่ามาแตะต้องข้านะ!”

“ยังไงดีหล่ะ? เอิร์ลทาร์นาท เจ้ายังอยากจะสู้ต่อไหม?”

มาร์ควิสเทราต์ดึงมีดของเขาออกมาแล้วจ่อไปที่คอของคุณนายซิมเมล

ความลังเลแสดงอยู่บนหน้าของเอิร์ลอย่างชัดเจน

เมื่อเห็นแบบนี้, คุณนายซิมเมลก็หลับตาและเตรียมใจยอมรับชะตากรรมของตัวเอง

จากนั้น

“เอิร์ลทาร์นาท……ทำตามที่ต้องการเถอะค่ะ”

“….ข้าขอยอมรับในความเด็ดเดี่ยวของเจ้า”

ทั้งสองตัดสินใจได้แล้ว

เมื่อเห็นแบบนี้, มาร์ควิสเทราต์ก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว

อย่างไรก็ตาม, มาร์ควิสได้หัวเราะออกมาอย่างหงุดหงิดด้วย

“ฮ่า, ฮ่าฮ่า, ฮ่าฮ่าฮ่า!! พวกเจ้าอยากตายกันขนาดนั้นเลยหรอ!? ไอ้พวกโง่! มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต! มีแค่พวกโง่เท่านั้นแหล่ะที่เลือกจะเอาชีวิตตัวเองไปทิ้ง! เจ้าบอกว่าเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเพื่อปกป้องอะไรซักอย่างสินะ? มันไม่มีอะไรที่สามารถปกป้องได้ด้วยการสละชีวิตกระจ้อยร่อยของเจ้าหรอก! จักรวรรดิจะไม่มีวันช่วยเหลือเจ้า!”

“ไม่ใช่หรอกค่ะ, ฝ่าบาทจะไม่มีวันทอดทิ้งขุนนางที่ยังมีใจมุ่งมั่นอยู่”

มีเสียงดังก้องขึ้นมา

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, ทั้งห้องก็ดังก้องไปด้วยเสียงลึกลับ

เมื่อได้ยินเสียงนั้น, หนังตาของทุกคนก็หนักขึ้นมาและบางคนก็ถึงกับทรุดลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้น พวกเขาถูกโจมตีด้วยอาการง่วงอย่างกระทันหัน มันคือเวทมนตร์ที่แม้แต่อัศวินก็ยังรู้สึกว่าอยากที่จะต้านทาน

“หนอย….อะไรกัน……?”

อัศวินทุกคนหมดสภาพแล้ว

“ขออภัยด้วยค่ะ มันปรับแต่งค่อนข้างยาก”

เด็กสาวพูดในขณะที่เข้ามาในห้องพร้อมกับควงหอกของเธอ

ในตอนที่เด็กสาวหยุดควงหอก, เสียงที่ชวนให้รู้สึกง่วงก็หยุดลงในที่สุด

“ขอบคุณค่ะ คุณลินเฟีย”

“ไม่หรอกค่ะ, มันเป็นงานของข้าอยู่แล้ว”

ในขณะที่ตอบฟีเน่ไปตามปกติ, ลินเฟียก็แยกตัวคุณนายซิมเมลออกมาจากมาร์ควิสเทราต์

จากนั้นเธอก็พูดขอโทษคุณนายที่หลบใหลไปแล้ว

“ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ท่านได้รับผลของมันไปด้วย”

หอกจากดาบเวทมนตร์ของลินเฟียสามารถส่งเสียงที่ชักจูงให้ผู้คนหลับไหลได้ด้วยการควงมันเป็นวงกลม แต่ในห้องแคบๆนั้น, ผลของมันจะไม่สามารถระบุเฉพาะตัวบุคคลได้

อย่างดีที่สุด, เธอสามารถเหวี่ยงมันไปข้างหน้าหรือเล็งไปยังทิศทางนึงได้ ซึ่งในสถานการณ์ที่เธอต้องใช้ในห้องที่คนพลุกพล่านอย่างเมื่อก่อนหน้านี้, มันก็จะส่งผลกับทุกคน

อย่างไรก็ตาม, เธอสามารถกำราบอัศวินทุกคนได้แล้ว

ในตอนที่เห็นเด็กสาวเบื้องหน้าเขา, มาร์ควิสเทราต์ก็ยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์

“ชิ…..ใครกัน……?”

“ฟีเน่ ฟ็อน ไคลเนลต์ ผู้ส่งสารขององค์จักรพรรดิค่ะ”

“เจ้าหญิงนกนางนวลสีน้ำเงินหรอ….? มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…..?”

“ข้ามาช่วยตัวประกันค่ะ”

“ไร้สาระ….ก, การ์ด!? เข้ามาที่นี่เร็ว!”

“พวกเขาหลับไปหมดแล้วครับ แต่การคุ้มกันแน่นหนามากข้าอาจจะเผลอหลุดไปซักคนสองคนก็ได้”

เซบาสพูดในขณะที่เขาปรากฏตัวขึ้นข้างฟีเน่

เซบาสได้ทำลายการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดในอาคารโดยไม่ได้ส่งเสียงเลย ซึ่งผลก็คือ, มาร์ควิสเทราต์ไม่ได้รู้ถึงการเคลื่อนไหวของพวกเขาเลยซักนิดและถูกลินเฟียลอบโจมตี

“ม, ไม่มีทางหน่า….ด, ดยุคครูเกอร์ไม่มีวันยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่!”

“ถ้าดยุคครูเกอร์หล่ะก็ตอนนี้กำลังถูกองค์ชายลีโอนาร์ดตามล่าอยู่ครับ ถึงยังนี่มันก็เป็นแผนการดั้งเดิมของพวกเราอยู่แล้ว”

“ข, ขบวนผู้ส่งสารเป็นแค่แผนลอบโจมตีพวกเราหรอ!? ไอ้พวกขี้ขลาด!?”

“มันไม่ใช่การลอบโจมตีค่ะ คำสั่งของจักรพรรดิที่ส่งมาให้ดยุคครูเกอร์ก็คือคำสั่งให้เขายอมจำนนซะ พวกเรากำลังลงโทษเขาเพราะเขาปฏิเสธที่จะทำตาม ถึงอย่างนั้น, ข้าก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันไม่ใช่การใช้เล่ห์เหลี่ยม แต่ว่า, ถ้าสามารถช่วยหลายชีวิตได้ด้วยการทำแบบนี้ไม่ว่าจะดูขี้ขลาดแค่ไหน, พวกเราก็จะทำค่ะ ถึงแม้ว่าพวกเราจะขี้ขลาด, แต่พวกท่านนั้นเป็นคนต่ำช้า แถม, ข้าจำไม่เห็นได้เลยว่าพวกเราปฏิเสธตอนไหนว่าพวกเราไม่ขี้ขลาด”

ในตอนที่ฟีเน่จบการสนทนา, ลินเฟียก็เอาหอกกระแทกมาร์ควิสจนเขาสลบไป

หลังจากที่เห็นแบบนั้น, ฟีเน่ก็มองเอิร์ลทาร์นาท

“ข้าขออนุญาตแนะนำตัวอีกครั้งนะคะ, ข้าเป็นผู้ส่งสารของจักรพรรดิ, ฟีเน่ ฟ็อน ไคลเนลต์ พวกเราขอโทษด้วยที่ใช้เวลานานขนาดนี้กว่าจะมาช่วยพวกท่านได้”

“ฝ, ฝ่าบาท….ท่านไม่ได้ทอดทิ้งพวกเรา……”

“ช่างเป็นพระคุณยิ่งนัก…….”

เหล่าขุนนางอาวุโสที่อยู่ข้างหลังเริ่มร้องไห้ด้วยความปลื้มปิติ

ฟีเน่มองพวกเขาด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน

จากนั้นเธอก็รอให้พวกเขาสงบลงแล้วเริ่มอธิบายสถานการณ์

“ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องทุกคนที่นี่ค่ะ ในปราสาทหลังนี้มีลูกน้องของพวกท่านอยู่มากมาย พวกเขาต้องต่อสู้กับพวกเราเพราะทุกคนถูกจับเป็นตัวประกัน ได้โปรดเถอะค่ะ, ช่วยโน้มน้าวให้พวกเขายอมวางอาวุธลงเถอะ”

“แน่นอนครับ”

“…..ท่านคือเอิร์ล, ทาร์นาทใช่ไหมคะ?”

“ครับ”

“พวกเรา….พวกเราได้จัดการอัศวินของท่านไปคนนึง ก่อนที่เขาจะสิ้นลม, เขาได้บอกพวกเราว่าท่านถูกจับเป็นตัวประกัน….ท่านมีลูกน้องดีๆคอยรับใช้อยู่นะคะ”

ฟีเน่ไม่ได้ขอโทษ

เธอคิดว่าไม่ว่าจะเอิร์ลทาร์นาทหรืออัศวินที่ตายไปก็ไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากเธอ

ด้วยการเม้มริมฝีปากแน่น, เอิร์ลก็พยักหน้าตอบอย่างเงียบๆ

“ถ้างั้นพวกเราก็ควรไปกันได้แล้วค่ะ มุ่งหน้าไปยังที่ที่พวกเราจะตกเป็นเป้าสายตาแล้วให้พวกอัศวินได้รู้ว่าทุกคนปลอดภัยแล้ว”

“ข้าไม่มีปัญหาหรอกครับแต่ว่า…..มันยังมีตัวประกันกลุ่มอื่นอีก”

“กลุ่มอื่นหรอคะ?”

“ที่ถูกขังอยู่ที่นี่มีแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ขุนนางหลายคนได้ถูกพาตัวไปที่ปราสาทในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้”

พอได้ฟังเอิร์ลทาร์นาท, ฟีเน่ก็หันไปมองลินเฟียด้วยความกังวล

ลินเฟียเองก็มีสีหน้าคล้ายๆกัน

มันไม่ใช่แค่การโยกย้ายตัวประกันธรรมดาๆแน่

“ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆค่ะ”

“….ถ้าพวกเขาปลอดภัยก็คงจะดีนะคะ”

“พวกเรายังยืนยันไม่ได้ แต่สำหรับตอนนี้, พวกเราต้องให้อัศวินในปราสาทรู้ก่อนค่ะว่าคนที่นี่ปลอดภัยแล้ว ถ้าอัศวินหยุดขัดขวางพวกเราแม้ว่าจะเพียงนิดเดียว, มันก็จะช่วยให้เราค้นหาตัวประกันที่เหลือได้ง่ายขึ้น”

ลินเฟียตั้งเป้าหมายให้พวกเขาในทันทีแล้วอธิบายกับฟีเน่

ซึ่งฟีเน่ก็ได้พยักหน้าตอบเป็นการเห็นด้วย

อย่างไรก็ตาม, ความกังวลในใจเธอนั้นไม่ได้เลือนหายไปเลย

มีเรื่องเลวร้ายบางอย่างกำลังเกิดขึ้นอยู่

ด้วยความรู้สึกนั้น, ฟีเน่ก็ลูบเครื่องประดับผมของเธอ

มันเป็นการกระทำเพื่อเรียกความกล้าให้เธอมุ่งหน้าต่อไป

Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi

Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi

Status: Ongoing

ชื่อเรื่อง: การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง ชื่อ ENG: The Strongest Dull Prince Battle For The Throne ชื่อ JPN: 最強出がらし王子の暗躍帝位争い(Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) ชื่อผู้แต่ง: Tamba ผู้แปล ENG: GRAVEROBBERTL ผู้แปลไทย: HouRen Fanpage ผู้แปลไทย: Hou Ren Fanpage เรื่องย่อ จักวรรดิอาเดรเชียในทวีปโฟเกล ที่นั่นมีการต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์ของจักวรรดิ์ที่ครอบครองทั้งกำลังทหารที่แข็งแกร่งและแผ่นดินที่กว้างขวาง   ด้วยความที่ยังไม่มีใครได้รับเลือกเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์, เหล่าบุตรของจักรพรรดิจึงกำลังจ้องที่จะขยายอำนาจของพวกเขา อย่างไรก็ตาม, มีเจ้าชายอยู่องค์นึงที่ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาจะไม่ได้เป็นจักรพรรดิ์อย่างแน่นอน   ซึ่งเจ้าชายองค์นั้นก็คือเจ้าชายลำดับที่เจ็ด, อาร์โนลด์ เลคส์ แอดเลอร์ ชายหนุ่มผู้ที่ด้อยกว่าน้องชายฝาแฝดของเขาในทุกๆด้าน, เจ้าชายไร้ค่า   ไร้ความสามารและเฉื่อยชา, อาร์โนลด์ได้ใช้ชีวิตแต่ละวันไปกับการเที่ยวเล่น อย่างไรก็ตาม, เบื้องหลังนั้น, เขาคือนักผจญภัยที่ชื่อว่า ซิลเวอร์, หนึ่งในนักผจญภัยแรงค์ SS ที่มีอยู่เพียง 5 คนเท่านั้น   พอเห็นความรุนแรงของการต่อสู้ชิงบัลลังก์แล้วเขาก็ตัดสินใจว่า [ฉันไม่อยากตายเพราะงั้นฉันจะทำให้น้องชายของฉันได้เป็นจักพรรดิ….]   นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับการวางแผนบ้าๆบอๆของเจ้าชายผู้ซึ่งไม่สนใจในตำแหน่งจักพรรดิ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน