Chapter
มีประตูมิติลับอยู่ที่ผนึกเวทย์ฟื้นฟูรอยแยกจริงๆมันอยู่ในมุมๆนึงที่ห่างไกลสายตาผู้คน
หลังจากที่สังเกตดูประตูมิติอยู่นานกว่า10 นาที ในที่สุดลิงค์ก็เข้าใจของเทคนิคของพิอาสเซ่
หลักการพื้นฐานของเวทย์ประตูมิตินี้แตกต่างจากของฟิรุแมนมันทำงานภายใต้ระบบเวทมนตร์ที่ลิงค์ไม่เคยเห็นมาก่อน ยังไงก็ตาม พอสังเกตดูอย่างละเอียด ลิงค์ก็สามารถชื่นชมความช่างคิดของมันได้
และในตอนนั้นเองลิงค์ก็ได้รับแรงบัลดาลใจจากมันด้วยการนำเอาระบบเวทมนตร์ใหม่นี้เข้ามาในฟิรุแมน พิอาสเซ่ได้เปิดเส้นทางใหม่สำหรับลิงค์ในการแก้ปัญหาเวทมนตร์ที่เขาไม่สามารถแก้ไขได้ในก่อนหน้านี้
วิเศษมาก! ลิงค์อุทาน เขามองดูมันอีกครั้งและเห็นว่าพิกัดของประตูมิติตรงกับหินรูนที่พิอาสเซ่ให้เขามา
ดูเหมือนว่านายจะพูดความจริงนะ ลิงค์พูด พร้อมกับมองไปทางพิอาสเซ่
ชายผิวสีน้ำเงินถูมือของตัวเองมีรอยยิ้มแปลกๆอยู่บนใบหน้าของเขา ข้าไม่กล้าโกหกท่านหรอก โดยเฉพาะในตอนที่ชีวิตของข้าถูกนำมาเป็นสิ่งเดิมพันแบบนี้
ลิงค์พยักหน้าเขาหันไปหานักเวทย์คนอื่นๆที่อยู่ในที่นี้และพูด โอเค วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว ดูเหมือนว่าพิอาสเซ่จะไม่ได้ตั้งใจสร้างปัญหากับพวกเราจริงๆ มันเป็นแค่การเข้าใจผิดครั้งใหญ่ กลับไปทำงานของตัวเองเถอะ พวกเรายังเหลือเวลาอีก 3 วันในการทำมันให้สำเร็จ!
ทุกคนพยักหน้าจากนั้นพวกเขาก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ
นานะคอยอยู่ที่นี่นะ ฉันอยากให้เธอคอยจับตาดูพิอาสเซ่เอาไว้ ลิงค์ตะโกนบอกนานะในตอนที่เขาเห็นเธอกำลังจะออกไปพร้อมกับฝูงชน เขายังไม่เชื่อใจพิอาสเซ่อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้นานะก็เป็นคนเดียวในบาเรียนอกจากเขาที่สามารถต้านทานเวทย์วิญญาณของชายผิวสีน้ำเงินคนนี้ได้อย่างสมบูรณ์
นานะพยักหน้าและทำตามคำสั่ง
ในตอนนั้นเองลิงค์ก็เข้าใจระบบของประตูมิติอย่างเต็มที่แล้ว ก่อนที่จะเทเลพอร์ทตัวเองไปยังอีกฝั่งของประตูมิติ เขาก็โทรจิตหาเซลีน เซลีน ช่วยดูแลที่นี่แทนฉันหน่อยได้มั้ย?
ได้สินายจะไปไหนหรอ? เซลีนตอบแทบจะทันที
ฉันจะไปดูเรือท่องความว่างเปล่าของแขกของพวกเราหน่อยหน่ะแต่ว่าฉันยังไม่เชื่อใจเขามากพอที่จะพาไปด้วย เธอกับนานะคอยจับตาดูเขาเอาไว้นะ ถ้าเกิดเขาพยายามจะทำอะไรกับเรือท่องความว่างเปล่าหรือทำอะไรไม่ชอบมาพากล ฉันอนุญาติให้เธอยิงเขาได้เลย ไม่มีปัญหาฉันเล็งเขาเอาไว้แล้ว เซลีนพูดพลางหัวเราะ
พอวางมาตรการป้องกันล่วงหน้าเอาไว้หมดแล้วลิงค์ก็รู้สึกสบายใจและพร้อมที่จะออกไปจากที่นี่
จากนั้นเขาก็หันไปหาพิอาสเซ่และพูด ฉันรู้สึกได้ว่านายไม่ได้มีเจตนาร้ายกับพวกเรา เวทย์ของนายแข็งแกร่งจริงๆ ฉันต้องยอมรับเลยว่า ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เพราะฉะนั้น, ฉันไม่อยากทำให้นายเจ็บปวดจากการเข้าใจผิดเลย นายเข้าใจสิ่งที่ฉันกำลังพูดสินะ?
พิอาสเซ่ตอบในทันที ข้าไม่กล้าทำอะไรในตอนที่ท่านอยู่ที่อีกฝั่งนึงหรอก ท่านเชื่อใจข้าได้เลย แต่ข้าขอร้องท่านแค่อย่างเดียว, ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ห้ามเปิดใช้เรือท่องความว่างเปล่าโดยเด็ดขาดเลยนะครับ ข้าเป็นคนที่กำลังถูกตามล่าอยู่ คนที่ไล่ล่าข้านั้นแข็งแกร่งและพวกเขาก็มีกันหลายคนด้วย… เข้าใจแล้ว ลิงค์พูดพร้อมพยักหน้า มีแสงสีขาวรอบตัวเขา วินาทีต่อมา เขาก็หายไปจากภพฟิรุแมน
ถ้าอ้างอิงจากพิกัดเรือท่องความว่างเปล่าของพิอาสเซ่นั้นทอดสมออยู่ที่ชั้นนอกสุดของภพฟิรุแมน
ในตอนแรกทุกสิ่งที่ลิงค์สามารถมองเห็นได้ก็คือภาพอันบิดเบี้ยวของพื้นผิวภพฟิรุแมน ทุกอย่างนั้นดูแปลกมาก ยังไงก็ตาม ในตอนที่เขาดำดิ่งเข้าไปลึกขึ้น รอบตัวเขาก็มืดลงจนร่างกายของเขาหายไป และไม่มีเสียงอะไรเลย
เสียงเดียวที่เขาได้ยินก็คือเสียงเต้นของหัวใจตัวเองและด้วยความที่สถานที่นี้ไม่มีอากาศ ลิงค์จึงต้องใช้พลังแก่นภพของเขาในการทำให้ตัวเองมีชีวิตอยู่
ประสบการณ์ทั้งหมดทำให้เขาประทับใจในการเดินทางผ่านอุโมงค์มืดที่ไร้ที่สิ้นสุดนี้ภาพของพื้นผิวฟิรุแมนที่บิดเบี้ยวเองก็หายไปเบื้องหลังเขา ในตอนที่ไม่มีสิ่งรอบตัวที่เขาสามารถใช้อิงตำแหน่งได้ ลิงค์ก็ไม่สามารถบอกได้อีกว่าเขากำลังเดินทางอยู่ในทะเลแห่งความว่างเปล่ารึเปล่า
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ธรรมดาคนไหนก็คงจะเป็นบ้าเพราะความเงียบและความมืดมิดอันไร้สิ้นสุดนี้ลิงค์เองก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันรอบตัวเขาเหมือนกัน ยังไงก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเข้ามายังส่วนลึกของมิตินี้ เขาจึงยังสามารถทนได้อยู่
1ชั่วโมงต่อมา ลิงค์ก็เห็นแสงสีน้ำเงินอ่อนๆที่ด้านหน้าเขา มันต่างจากแสงสะท้อนสีขาวของทะเลแห่งความว่างเปล่า นอกจากนี้ แสงสีน้ำเงินก็ดูรวมกันอยู่แค่จุดๆเดียว จากระยะไกล มันดูเหมือนกับดวงดาวสีน้ำเงินที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน
มันจะต้องเป็นเรือท่องความว่างเปล่าของพิอาสเซ่อย่างแน่นอนลิงค์เข้าไปใกล้จุดแสงสีน้ำเงิน เขาใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 10 นาที
ยิ่งเขาเข้ามาใกล้เท่าไหร่ภาพเบื้อหน้าเขาก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น จุดแสงสีน้ำเงินค่อยๆกลายเป็นสิ่งของที่มีรูปร่าง มันยาวประมาณ 15 ฟุต มันมีปลายแหลมที่ด้านนึงและอีกด้านนึงก็มีปลายมน รูปร่างของมันเหมือนกับหยดน้ำตา พื้นผิวของมันเต็มไปด้วยรูนเวทมนตร์นับไม่ถ้วน ซึ่งคล้ายกับวงจรรูนที่ฝังอยู่ในผิวหนังของพิอาสเซ่
รูนพวกนี้คือที่มาของแสงสีน้ำเงินที่ลิงค์เห็น
เรือลำนี้ตรงกับคำอธิบายที่พิอาสเซ่บอกลิงค์ในตอนที่เขาอยู่ห่างจากหยาดน้ำตาไม่กี่ฟุต อยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นในหัวของเขา ผู้บุกรุก ตรงนี้คือจุดที่ใกล้ที่สุดที่เจ้าสามารถเข้ามาได้ กรุณาอย่าเข้ามาใกล้กว่านี้ มิฉะนั้น เจ้าจะถูกจัดการในทันที!
นี่คือระบบป้องกันของเรือท่องความว่างเปล่าที่พิอาสเซ่พูดถึงสิ่งมีชีวิตใดก็ตามที่เข้ามาในระยะจะได้รับคำเตือนทางจิต ถ้าเกิดผู้บุกรุกขยับเข้าหาเรือต่อ มันก็จะปล่อยลำแสงพลังงานเลเวล 10 ใส่เขาหรือเธอคนนั้น
หลังจากที่ร่ายเวทย์โล่ป้องกันเลเวล13ใส่ตัวเอง เขาก็พุ่งเข้าหาเรือต่อ
ลำแสงพลังงานสีน้ำเงินพุ่งออกมาจากเรือท่องความว่างเปล่าและปะทะเข้ากับโล่ของลิงค์คลื่นเล็กๆแผ่ไปทั่วพื้นผิวในตอนที่กระทบกับโล่ก่อนที่จะหายไปอย่างสมบูรณ์
ลิงค์มุ่งหน้าต่อแม้ว่าการโจมตีของเรือจะไม่ได้หยุดลง แต่เลเวลของมันก็ต่ำเกินไป และมันก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อลิงค์เลย
ในตอนที่เขามาถึงเรือท่องความว่างเปล่าลิงค์ก็เริ่มตรวจสอบโครงสร้างภายนอกของมันพร้อมกับป้องกันการโจมตีไปด้วย หลังจากผ่านไป 10 นาที ในที่สุดลิงค์ก็เข้าใจการทำงานของมัน
เหมือนกับประตูมิติลับก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าโครงสร้างของเรือนั้นจะทำมาจากระบบเวทมนตร์ใหม่ที่พิอาสเซ่นำมาด้วย ตัวเรือนั้นมีเทคโนโลยีที่ล้ำยุคมากเนื่องจากการใช้ระบบเวทมนตร์ที่กล่าวถึงข้างต้น
ในทันทีที่เขาพบมันลิงค์ก็เริ่มสังเกตตัวเรือเพื่อเพิ่มความเข้าใจของตัวเองให้มากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ศึกษามันอยู่ครึ่งชั่วโมงลิงค์ก็เข้าใจว่าถึงวงจรรูนนั้นจะดูแปลกใหม่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะยึดหลักการเดียวกับของฟิรุแมน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่เกินความเข้าใจของเขาเลย
ลิงค์ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในโลกเวทมนตร์แล้วด้วยความเชี่ยวชาญในศาสตร์เวทมนตร์ของเขา ณ ตอนนี้ เขาสามารถทำความเข้าใจสิ่งที่เขียนเอาไว้ในรูนของเรือท่องความว่างเปล่าได้อย่างง่ายดาย
ลิงค์จดจ่ออยู่กับการสังเกตของเขามีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามันผ่านไปนานเท่าไหร่กว่าที่เขาเข้าใจโครงสร้างของเรือท่องความว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์
เขาหยิบดาบลำนำจันทร์เต็มดวงออกมาและลากมันไปที่หนึ่งในวงจรรูนที่อยู่บนเรือในตอนนั้นเอง การโจมตีของเรือก็หยุดลง จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในหัวของลิงค์อีกครั้ง ระวัง! ระวัง! พบการบุกรุกจากภายนอก เปิดระบบทำลายตัวเอง เริ่มการนับถอยหลัง 10 9 8 7…
เรือทั้งลำกลายเป็นสีแดงตอนนี้มันกระพริบอย่างน่ากลัว
โดยไร้ซึ่งความตื่นเต้นลิงค์ยังคงแกะรอยวงจรเวทมนตร์ต่อไปด้วยปลายดาบของเขา
และในที่สุดเขาก็ไปถึงรูนสามเหลี่ยมที่อยู่ตรงปลายฝั่งที่เป็นมนของเรือและเริ่มใส่พลังแก่นภพเข้าไป
2วินาทีต่อมา แสงสีแดงก็เลิกกระพริบ จากนั้นลิงค์ก็ได้ยินเสียงเบาๆ เขาเห็นหลุมเปิดออกที่พื้นผิวของเรือตรงปลายฝั่งที่เป็นมน
ลิงค์เขาไปในเรือผ่านรูนั้นในตอนที่เข้ามาข้างในแล้ว เขาก็พบว่าด้านในเองก็เต็มไปด้วยรูนเวทมนตร์มากมาย ยังไงก็ตาม เพราะการแทรกแซงของเขา รูนบางส่วนจึงได้รับความเสียหายไปด้วย
ภายในเรือนั้นคับแคบมันไม่มีที่นั่งเลย ยังไงก็ตาม มันมีแท่นเตียงที่ห้อยลงมาจากเพดานพร้อมกับสายไฟไม่กี่สาย บนนั้นมีรูนที่ดูเหมือนกับเป็นตัวควบคุมระบบต่างๆของเรืออยู่
ลิงค์สามารถทำความเข้าใจรูนได้เกือบทั้งหมดยังไงก็ตาม มีบางส่วนที่เขาไม่เข้าใจด้วย แต่ในเมื่อเรือพังไปแล้ว เขาก็ไม่มีวิธีที่จะทดสอบมัน
พิอาสเซ่บอกว่าอย่าเปิดใช้งานเรือฉันคิดว่าเขาคงไม่ว่าอะไรถ้าเกิดฉันทำมันพัง นอกจากนี้ มันยังมีชิ้นส่วนบางอย่างที่สามารถเอาไปทำประโยชน์ได้ด้วย!
ลิงค์เริ่มมองไปรอบๆและไม่นานนักเขาก็สกัดวัตถุดิบเวทมนตร์หายากได้อย่างน้อย10 ชนิด มีบางชนิดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย และยังมีหินอวกาศกองอยู่บนพื้นอีกหลายชิ้น
ลิงค์ประเมินได้เลยว่ามูลค่าของวัตถุดิบพวกนี้นั้นเกินกว่าความมั่งคั่งของเฟิร์ดอย่างแน่นอน
นี่ฉันเจอขุมทองชัดๆถ้าทิ้งของทั้งหมดเอาไว้ที่นี่คงจะน่าเสียดายแย่เลย เขาออกจากเรือและเริ่มเดินทางไปยังส่วนด้านในของภพฟิรุแมนพร้อมกับใช้มือแห่งนักเวทย์ลากเรือกลับมาด้วย
การลอยกลับมาจากส่วนขอบนั้นรวดเร็วกว่าการดำเข้าไปครึ่งชั่วโมงต่อมา ก็มีเสียงดังขึ้น และลิงค์ก็กลับมายังบาเรียรอยแยกมิติ เรือท่องความว่างเปล่าที่เขาลากมาด้วยนั้นตกลงพื้นด้วยเสียงดังสนั่น
พิอาสเซ่ตัวแข็งด้วยความกลัวในตอนที่เขาเห็นสภาพของเรือท่องความว่างเปล่าของตัวเอง ลอร์ดครับ ท่านพังเรือของข้าทำไม? ข้าใช้เวลาสร้างตั้ง 13 ปีเลยนะ!
ไม่เป็นไรหรอกหน่านายสามารถซ่อมมันให้กลับมาใช้งานได้ ใช่มั้ยหล่ะ? ลิงค์พูด เขาไม่ขอโทษในสิ่งที่เขาทำเลย
ตอนนี้เขามองพิอาสเซ่อย่างหิวกระหายเหมือนกับคนที่จ้องไปยังสมบัติที่พึ่งขุดออกมาได้
แม้ว่าเขาจะมีพื้นเพที่ไม่ชัดเจนแต่พลังของเขาในตอนนี้ก็เป็นประโยชน์กับลิงค์มากโดยเฉพาะความเชี่ยวชาญในเวทย์วิญญาณของเขา แม้ว่ามันจะไม่แข็งแกร่งเท่าผู้ปกครองวิญญาณ แต่พิอาสเซ่ก็แข็งแกร่งกว่าลิงค์และเซลีนมากในด้านนี้
ด้วยความช่วยเหลือของเขาลิงค์กับเซลีนจะสามารถดำเนินการฝึกเวทวิญญาณของพวกเขาต่อได้โดยไม่ติดขัด
ชายคนนี้นั้นเป็นตัวนำโชคจริงๆ!สายตาของลิงค์เป็นประกายในตอนที่มองชายผิวสีน้ำเงินคนนี้
พิอาสเซ่รู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลังภายใต้การจ้องมองของลิงค์จากนั้นเขาก็พูด ลอร์ดครับ ทำไมท่านถึงจ้องข้าอย่างนั้นล่ะ?
ลิงค์หัวเราะออกมาดังลั่นและกวักมือเรียกนานะ พาเขากลับไปที่บ้านของฉัน
จากนั้นเขาก็พูดกับพิอาสเซ่ วางใจได้ ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก ฉันเพียงแค่สนใจในตัวนายเท่านั้น สนใจมากเลยด้วย