หนุ่มเศรษฐีลึกลับ – ตอนที่ 558

ตอนที่ 558

บทที่ 558 สำนักกลั่นอาวุธ

เมื่อลู่เสี้ยงหยางได้ยินประโยคข่มขู่ เขาไม่แยแสแม้แต่น้อย ฝีเท้าที่ถูกยกขึ้นยังคงลงต่ำเรื่อยๆ เหยียบลงกับลูกกระเดือกของขุยกาง

แควก

ลูกกระเดือกของขุยกางแหลกสลาย

เสียงร้องอนาถของขุยกางที่ได้เพียงครึ่ง สิ้นสุดลงกะทันหัน

ลูกตาโปนออกด้านนอก เสมือนกับปลาทอง เนื้อหนังบนใบหน้า หดเข้าหากัน รูปลักษณ์น่าหวาดผวา

ลู่เสี้ยงหยางยังคงสีหน้าเรียบเฉย เขากลับหลังหันก้าวฝีเท้าเดินออกจากที่ แต่ในตอนนี้เอง ยามที่รับผิดชอบการลาดตระเวนนอกประตูรีบแจ้นเข้ามา

เมื่อเห็นภาพที่ขุยกางถูกฆ่า สายตาของทุกคนแทบจะพ่นไฟด้วยความโกรธ

ชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าคำราม “กล้าดีนัก ที่บุกรุกที่พำนักของสำนักซี่ฟางโหลว ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช่ไหม”

“สหาย จับกุมไอ้หมอนี่เอาไว้ แก้แค้นให้กับหัว”

จบประโยค ยามจำนวนมากรีบวิ่งเข้าหาลู่เสี้ยงหยาง

ลู่เสี้ยงหยางไร้การเปลี่ยนแปลงบนใบหน้า ราวกับถูกสร้างขึ้นจากเหล็ก

ร่างของเขาเคลื่อนตัวเข้าสู่ฝูงชน

เสมือนกับเสื้อที่ท่ามกลางฝูงแกะ เสียงร้องอนาถดังสะท้อนในฝูงชน เหล่ายามต่างกองกับพื้นไปตามๆ กัน

ไม่ถึงนาที ลู่เสี้ยงหยางได้จัดการยามทั้งหมดจนราบคาบ

ลู่เสี้ยงหยางไร้ปฏิกิริยามดบนใบหน้า ก่อนที่จะโยนไฟเข้าไปที่วิลล่า ทันใดนั้นวิลล่าเกิดไฟไหม้

ลู่เสี้ยงหยางไม่หยุดนิ่ง พลันตรงไปที่โรงพยาบาลทันที

เย่สวนยังคงเป็นเหมือนเก่า ที่นอนอยู่บนเตียงราวกับเจ้าหญิงนิทรา

วันนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญจะทำการประชุมเป็นครั้งสุดท้าย หากยังไม่สามารถรักษาอาการของเย่สวนได้ ลู่เสี้ยงหยางก็จะพาเย่สวนออกจากโรงพยาบาล

ช่วงบ่าย โอหยางรั่วสุ่ยมาเยี่ยมเย่สวน

เมื่อเห็นสภาพของเย่สวนในตอนนี้ เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกันความรู้สึกที่มีต่อลู่เสี้ยงหยาง ก็สับสนมากเช่นเดียวกัน

ผู้ชายตรงหน้าคือคนที่เธอรักหมดหัวใจ แต่น่าเสียดาย ที่เขาเป็นสามีจองเพื่อนรักของเธอเอง

ในเวลานี้ เธอจับจ้องไปที่ลู่เสี้ยงหยางที่อารมณ์ไม่สู้ดีนัก โอหยางรั่วสุ่ยจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นายไม่ต้องเป็นห่วงเย่สวนหรอก เธอจะต้องตื่นขึ้นมาแน่ เพียงแค่เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น”

ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้ารับ ความหวังในใจเขาน้อยลงทุกที

บอกตามตรง วิชาแพทย์ระดับเขายังไม่สามารถวินิจฉัยได้ ว่าเย่สวนเป็นอะไรกันแน่ การตื่นขึ้นมาในสถานการณ์แบบนี้นั้นน้อยยิ่งกว่าน้อย

โอหยางรั่วสุ่ยกล่าวเสริม “หากเย่สวนตื่นขึ้นมาไม่ได้อีก ฉันจะรับหน้าที่ดูแลเธอเอง”

เมื่อพูดประโยคนี้ ใบหน้าของเธอแดงขึ้นมาอย่างประหลาด หัวใจของเธอเต้นโครมอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่จะกล่าวด้วยน้ำเสียงอ้ำอึ้ง “แน่นอน แน่นอน ว่าฉันจะดูแลนายด้วย”

ประโยคสุดท้ายนั้นเธอกล่าวอย่างลึกซึ้ง สายตาที่จับจ้องไปที่ลู่เสี้ยงหยางนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เสมือนกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่จ้องมองสามีของตนเอง

ลู่เสี้ยงหยางมึนงง แสร้งไม่ได้ยินประโยคของโอหยางรั่วสุ่ย พลันนิ่งไม่ตอบโต้

โอหยางรั่วสุ่ยรวบรวมความกล้ากล่าวต่อ “ฉันรอนายได้ รอวันที่นายพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่แล้วบอกฉัน”

จบประโยคใบหน้าจองโอหยางรั่วสุ่ยแดงก่ำไปจนถึงลำคอ ลำคอที่ขาวนวลแดงแปร๊ด เสมือนกับหยกชั้นดีที่ประทินด้วยบลัชออน ช่างเย้ายวนรัญจวนใจ

เฮ้อ

ลู่เสี้ยงหยางแอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

โอหยางรั่วสุ่ยไม่อยากจะอยู่ต่อ เพื่อสร้างความกดดันให้กับลู่เสี้ยงหยาง จึงออกไปจากห้องพักฟื้น

หลังจากนั้น เหล่าผู้เชี่ยวชาญได้ทำการวินิจฉัยอาการของเย่สวน คราวนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญมาจากทั่วประเทศ

พวกเขาต่างก็มาเพื่อพิชิตอาการประหลาดของเย่สวน แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ของเย่สวน เหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างก็ส่ายหน้า เพื่อแสดงให้รู้ว่าอาการของเธอนั่นเป็นโจทย์ที่ยาก ไม่สามารถคลี่คลายได้เลย

หลังผ่านการวินิจฉัยแล้ว ลู่เสี้ยงหยางจึงพาเย่สวนออกจากโรงพยาบาล

เมื่อหลิวจิ้งได้รับรู้อาการของลูกสาว จึงได้สติขึ้นมา ไม่เที่ยวเล่นเข้าบ่อนอีก แต่อยู่บ้านคอยดูแลเย่สวนแทน

ตกดึกหลังทานอาหารเสร็จ ลู่เสี้ยงหยางได้รับสายเรียกเข้า ที่มาจากกงหยู่หนิง

เมื่อกดรับสาย เสียงที่ตื่นเต้นของกงหยู่หนิงก็แล่นผ่านเข้ามา “ลู่เสี้ยงหยาง บางทีอาการของคุณเย่อาจมีทางรักษาแล้ว”

อะไรนะ?

รักษาได้?

เมื่อได้ยินประโยคนั้นร่างของลู่เสี้ยงหยางสั่นเครือเล็กน้อย พลันกล่าวถามอย่างเสียอาการ “เธอไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”

กงหยู่หนิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เรื่องแบบนี้ ฉันจะล้อเล่นได้ยังไง”

ลู่เสี้ยงหยางแววตาประกาย พลันเข้าประเด็นอย่างตรงไปตรงมา “ผมควรจะทำยังไง?”

กงหยู่หนิงกล่าว “ก่อนหน้านี้ฉันให้คนที่บ้านช่วยสืบหาอาการของคุณเย่ว่าเป็นอะไรกันแน่ บ้านของที่มีตำราโบราณอยู่ ของเมื่อร้อยปีที่แล้ว บรรพบุรุษของตระกูลกงท่านหนึ่ง มีอาการเหมือนกับคุณเย่เลย หลังจากนั้น ภายใต้วาสนาความบังเอิญของตระกูลกง ได้รับยาวิเศษอะไรบางอย่างจากสำนักกลั่นอาวุธ หลังจากนั้นบรรพบุรุษท่านนั้นของตระกูลฉันก็ตื่นขึ้นมา”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางจับประเด็นสำคัญ ที่สำนักกลั่นอาวุธอาจจะมียาวิเศษอยู่ สามารถรักษาอาการของเย่สวนได้

สำนักกลั่นอาวุธ ลู่เสี้ยงหยางคุ้นเคยอยู่บ้าง แม้ว่าสำนักกลั่นอาวุธจะไม่ใช่สมาชิกของสำนักใหญ่ทั้งห้า แต่อำนาจของสำนักกลั่นอาวุธนั้นไม่ด้อยไปกว่าสำนักใหญ่ทั้งห้าเลย

สำนักกลั่นอาวุธมีหน้าที่กลั่นอาวุธโดยเฉพาะ อาวุธบางอย่างนั้นมีจิตวิญญาณ จนสามารถเรียกได้ว่าเป็นอาวุธวิเศษ อาวุธวิเศษเหล่านั้นหากอยู่ในมือของนักบู๊สามารถเสริมพลังได้อย่างมาก

เหล่านักบู๊มากมายต่างใฝ่ฝันว่าจะได้นักกลั่นอาวุธกลั่นอาวุธให้กับพวกเขาสักชิ้น

“ดูเหมือนว่า ผมคงต้องไปที่สำนักกลั่นอาวุธสักหน่อย” ลู่เสี้ยงหยางคิดในใจ

เหมือนว่าเธอจะรู้ทันความคิดของลู่เสี้ยงหยาง กงหยู่หนิงจึงกล่าว “บังเอิญจังเลย หลายวันมานี้สำนักกลั่นอาวุธกำลังรับสมัครลูกศิษย์ บางทีนายอาจจะไปลงสมัครนะ มีเพียงแค่ได้เป็นศิษย์ของสำนักกลั่นอาวุธ นายก็จะได้มีสิทธิ์สืบค้นตำราเก่าของสำนักกลั่นอาวุธ บางทีอาจจะได้เบาะแสบ้าง”

ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า

กงหยู่หนิงกล่าวเสริม “สำนักกลั่นอาวุธก่อตั้งที่พำนักที่ปินเหอขึ้นพอดี อยู่ที่อดีตสถาบันยานยนต์ปินเหอ แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อไปแล้ว หากนายมีความต้องการก็ไปที่นั่นสิ”

“ได้” ลู่เสี้ยงหยางตอบรับคำ

หลังจากนั้น เขาพูดคุยกับกงหยู่หนิงอีกหลายประโยคก่อนที่จะตัดสายทิ้ง

เช้าวันที่สอง ลู่เสี้ยงหยางก็ได้ออกเดินทางไปที่สถาบันยานยนต์ปินเหอ

เมื่อมาถึงสถาบันยานยนต์ปินเหอ ก็ได้พบกับเหล่าผู้คนมากมาย ผู้คนมากมายต่างก็ยืนต่อแถวรอคิว ดูเหมือนว่าจะเรียงคิวกันสมัครเป็นนักกลั่นอาวุธสินะ

ป้ายของสถาบันยานยนต์ปินเหอได้ถูกเปลี่ยนแล้ว ตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นป้ายชื่อของสำนักกลั่นอาวุธแล้ว

ลู่เสี้ยงหยางเข้าคิวตามระเบียบ เพื่อรอการทดสอบ

ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิ์ได้เป็นนักกลั่นอาวุธ มีเพียงแค่คนที่ผ่านการทดสอบถึงจะได้เป็นสมาชิกของสำนักกลั่นอาวุธ

ตอนนี้ลู่เสี้ยงหยางเห็นผู้คนมากมายต่างส่ายหน้าเดินออกไปอย่างสลด น่าจะยังไม่มีคนผ่านการทดสอบ

ลู่เสี้ยงหยางตรวจสอบอย่างละเอียด ก็ได้พบว่ามีเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะผ่านการทดสอบไปได้

ลู่เสี้ยงหยางประหลาดใจ เขารู้สึกได้ว่าเหล่าคนที่มาสมัครทดสอบในวันนี้ต่างก็เป็นนักบู๊ทั้งนั้น ร่างของพวกเขามีพลังปราณแผ่ซ่าน แต่ไม่คิดเลยว่าเปอร์เซ็นต์ที่ตกรอบจะสูงขนาดนี้

ดูเหมือนว่าเงื่อนไขการรับศิษย์ใหม่ของสำนักกลั่นอาหารจะเข้มงวดขนาดนี้

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง หนุ่มเศรษฐีลึกลับ ฟรี ได้ที่ novel-fast 


เรื่องย่อ

โดย เรื่อง หนุ่มเศรษฐีลึกลับ บ้างส่วนของนิยาย

บทนำ ช็อค!ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ได้รับได้รับความอัปยศ อดสู่การเหยียดหยาม หลังจากที่เปิดเผยฐานะตัวเองแล้ว แม่ ภรรยาตั้งเงื่อนไข่ที่น่าอับอาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

เมืองปินเหอ ภายในคฤหาสน์หรูหรา

ลู่เสี้ยงหยางกำลังล้างมือ ชโลมน้ำมันนวดไปทั่วมือ

บนโซฟามีสาวงามรุ่นใหญ่คนหนึ่งกับสาวน้อยสองคนนอนอยู่

สาวงามรุ่นใหญ่คือหลิวจิ้งแม่ยายของลู่เสี้ยงหยาง ถึงแม้จะอายุได้ 30กว่าปีแล้ว แต่กลับดูผ่อนคลาย ราวกลับได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทรวดทรงก็ผอมเพรียว

สาวน้อยผู้งดงามอีกสองคนคือเย่สวนภรรยาของลู่เสี้ยงหยางและไป๋สู้สู้เพื่อนสนิทของเธอ

“ไอ้ขยะ นานขนาดนี้แล้ว ยังเตรียมไม่เสร็จอีกหรอ?” ในเวลานี้เย่สวนพูดเร่งลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่อดทน

ลู่เสี้ยงหยางตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรนแผ่วเบา “เสร็จแล้วเสร็จแล้ว”

วิ่งถือผ้าขนหนูมายืนข้างเย่สวน

เย่สวนสวมชุดอยู่บ้าน นอนอยู่บนโซฟา สัดส่วนเว้าโค้งงามชดช้อย

ลู่เสี้ยงหยางเริ่มลงมือนวดให้เย่สวนอย่างชำนาญ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า หุ่นของเย่สวนเซ็กซี่มากเหลือเกิน

อึก!

เสียงลู่เสี้ยงหยางกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่

ไป๋สู้สู้เห็นลู่เสี้ยงหยางว่านอนสอนง่ายแบบนี้ ก็หัวเราะขึ้นมา “สวนจื่อ ผู้ชายของเธอชำนาญน่าดูเลยนะ แต่สายตาของเขาดูไม่จริงใจเท่าไหร่ แอบมองฉันหลายครั้งแล้ว!”

เย่สวนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คางคกอยากกินเนื้อหงส์ ขยะอย่างเขามานวดให้ฉัน ฉันยังรังเกียจมือสกปรกของเขาเลย”

ลู่เสี้ยงหยางก้มหัวลง ไม่กล้าพูดอะไร

เขาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเย่ แต่งเข้าบ้านนี้มาสามปี ไม่มีใครในตระกูลเย่มองเขาเป็นคน ใช้ชีวิตอยู่ไม่ต่างกับสุนัขตัวหนึ่ง

แต่โชคชะตาก็ยังเล่นตลกกับเขา ยามเขาถูกคนในตระกูลเย่รังแก คนเหล่านั้นล้วนเป็นสาวงามทั้งสิ้น

“ผลั่ก!” คิ้วของเย่สวนก็ขมวดขึ้นเล็กน้อยทันที ดูเหมือนว่าลู่เสี้ยงหยางจะใช้แรงเยอะเกินไป ไม่พูดไม่จา คำพูดทั้งหมดถูกใส่ลงบนหน้าของลู่เสี้ยงหยาง

ใบหน้าครึ่งหนึ่งของลู่เสี้ยงหยางถูกทิ้งรอยฝ่ามือแดงก่ำไว้

“ไอ้ขยะไร้ประโยชน์ ถ้ากล้าทำให้ฉันเจ็บอีกครั้งเดียว ฉันทุบหน้านายเละแน่” เย่สวนจ้องตาเขม็งอย่างคุกคาม

ลู่เสี้ยงหยาง รีบร้อนขอโทษขอโพย เบาน้ำหนักมือลง

ไม่นาน หลังนวดให้เย่สวนเสร็จ เขาก็เริ่มนวดให้แม่ยายหลิวจิ้ง

ปัก!

หลิวจิ้งง้างมือขึ้นฝากรอยไว้บนหน้าอีกข้างของลู่เสี้ยงหยาง

“ไอ้เศษสวะ ไม่รู้จักการใช้ใจหน่อยรึไง?” หลิวจิ้งโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ ชี้หน้าถามลู่เสี้ยงหยาง

ลู่เสี้ยงหยางไม่กล้าตอบกลับ ถัดจากนั้น เมื่อนวดให้หลิวจิ้งเสร็จ ลู่เสี้ยงหยางก็เข้าไปซักเสื้อผ้าในห้องน้ำ

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น หยิบขึ้นมาดูจึงเห็นว่าเป็นแม่ของเขาโทรมาหา

ตั้งแต่เขาแต่งงานเข้ามา แม่ก็โทรหาเขาน้อยมาก เพราะกลัวจะถูกปฏิเสธและเป็นตัวถ่วง ทำให้ฝ่ายหญิงไม่พอใจ ในตอนนี้อยู่ๆกลับติดต่อมา

เขาเครียดนิดหน่อย คงไม่ใช่เกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ?

ลู่เสี้ยงหยางรีบกดรับสาย ไม่รอเขาพูดก่อน น้ำเสียงตื่นเต้นของแม่ก็เอ่ยขึ้น “ลูกแม่ ลุงของลูกเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ พ่อของลูกออกมาจากคุกแล้ว ตอนนี้ได้สานต่อกิจการทั้งหมดของตระกูลลู่ อีกหน่อยลูกไม่ต้องใช้ชีวิตลำบากแล้ว พ่อให้เงินลูกหนึ่งพันล้านเป็นค่าชดเชย จากนี้อยากใช้เงินยังไงก็ใช้ได้เลย”

พอได้ฟัง ภายในหัวของลู่เสี้ยงหยางก็ส่งเสียงพึมพำ

ต่อจากนั้นเสียงของแม่ก็ไม่อาจฟังได้ชัดเจน ในสมองมีเพียงคำว่า “หนึ่งพันล้าน” ลอยไปลอยมา

น้ำตาเขาเริ่มคลอ หลังจากนั้นพักใหญ่ ถึงเช็ดน้ำออกจากตา

วันนี้ นานเกินไปแล้ว นานจนเมื่อมันมาถึงจริงๆ เขากลับรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

เดิมทีเขาเป็นนายน้อยแห่งตระกูลลู่ที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆในเมืองหลวง พ่อของเขาพ่ายแพ้ให้กับลุงในการแย่งชิงตำแหน่งทายาทในตระกูล สุดท้ายถูกคุมขัง แม่ของเขาก็ถูกขับไล่ออกจากบ้าน

ลิ้มลองสีหน้าของคนอื่น เนื่องจากอำนาจของลุง ทำให้เขาหางานที่มั่นคงทำไม่ได้สักงาน

แม้กระทั่งตอนนี้ แม่ของเขาก็ยังอยู่ในห้องใต้ดินเล็กๆ เพียงเพื่อให้เขาได้แต่งเข้าสำเร็จ ให้เขาได้มีที่ซุกหัวนอนหลบลมฝน

ในวันนี้พ่อของเขาได้รับการปล่อยตัว กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลลู่ ในที่สุดเขาก็ได้รับในสิ่งที่ต้องการ ยืดเส้นยืดสายได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า สองสามปีมานี้ ฉันต้องได้รับความยุติธรรม!” ลู่เสี้ยงหยางสาบานในใจเงียบๆ ในขณะเดียวกัน สามคนในห้องรับแขกกำลังพูดคุยกัน ไม่มีใครสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของลู่เสี้ยงหยาง

ไป๋สู้สู้ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยขึ้น “สวนจื่อ บริษัทของเธอเกิดเรื่อง สายเงินทุนถูกทำลาย เรื่องนี้อาจมีทางหนีทีไล่ที่วนเวียนอยู่นะ”

“เอ๋ จริงหรอ?” เย่สวนตาเป็นประกาย เติมเต็มการรอคอยเธอได้ สายเงินทุนในบริษัทของเธอแย่ลงมาเดือนกว่าแล้ว เงินเดือนของพนักงานไม่สามารถออกให้ได้ ทุกวันนี้แทบจะล้มละลาย

“คืออย่างนี้ แฟนของฉันไม่ใช่ทำงานอยู่ที่หย่งหยวนกรุ๊ปหรอ? เขากับประธานจางเจ้าของหย่งหยวนกรุ๊ปมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พูดคุยสถานการณ์บริษัทของเธอให้เขาฟัง ประธานจางตกลงที่จะเพิ่มเงินทุนให้กับบริษัทของเธอ” ไป๋สู้สู้กล่าว

“อะไรนะ? นี่…นี่เป็นเรื่องจริงหรอ?” เย่สวนร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ

หย่งหยวนกรุ๊ปเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปินเหอ ว่ากันว่าเจ้าของจางติ่งเทียนมีมูลค่าเกือบหนึ่งพันล้าน หากเขาสัญญาว่าจะสนับสนุนเงินทุนให้บริษัทของเย่สวน งั้นบริษัทของเย่สวนก็กลับมามีชีวิตได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

“เป็นเรื่องจริงแน่นอนสิ พวกเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด ฉันจะโกหกเธอได้ยังไงล่ะ” ไป๋สู้สู้พูดพร้อมยิ้มให้ แต่ในใจกลับรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ประธานจางจะช่วยเย่สวนฟรีๆได้ยังไง เงื่อนไขของประธานจางคือให้เย่สวนไปนอนกับเขาหนึ่งคืน

แต่เงื่อนไขนี้ไป๋สู้สู้ไม่ได้พูดออกไป

ช่วงนี้แฟนของเธอก็มีปัญหากวนใจที่บริษัท จำเป็นต้องใช้ผู้หญิงแบบเย่สวนเข้าหากับประธานจาง ถึงได้ให้ไป๋สู้สู้มาหลอกล่อเย่สวน

“งั้นตกลง ฉันจะไปเจอประธานจาง” เย่สวนตอบตกลงทันที

“อืม งั้นฉันให้แฟนฉันเอาคำพูดของเธอไปบอกประธานจาง ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร พรุ่งนี้ประธานจางก็จะมาเจอเธอ อย่างช้าสุดมะรืนนี้เงินทุนสนับสนุนก็จะไปถึงบริษัทของเธอ” ไป๋สู้สู้บอก

ในเวลานี้ ลู่เสี้ยงหยางที่เดินเข้ามาในห้องรับแขกพอดีก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเธอ เดินไปสองสามก้าว ก็ถึงข้างกายเย่สวน พูดกับเธออย่างจริงจังว่า “ที่รัก คุณต้องการความช่วยเหลือไม่จำเป็นต้องไปขอร้องคนอื่น ตอนนี้คุณขาดเงินไม่ใช่หรอ ผมสามารถหาวิธีช่วยคุณได้…”

“คิกคิกคิก…”เขายังไม่ทันพูดจบ ไป๋สู้สู้ก็หัวเราะขึ้นมา มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางด้วยความดูถูกเหยียดหยามแล้วพูดขึ้น “ให้พึ่งนาย? ทั้งเนื้อทั้งตัวนายตอนนี้มีเงินถึง100ไหม? เหมือนตัวตลกเสียจริง ไปเอาความกล้าจากไหนมาคุยโม้ขนาดนี้?”

ใบหน้าสวยงามของเย่สวนก้มลงต่ำ พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดูหมิ่น “นายกล้าดียังไงจะมาช่วยฉัน? ไสหัวไป เห็นหน้านายแล้วจะอ้วก”

คิ้วของหลิวจิ้งขมวดเป็นเส้นตรง ง้างมือขึ้นเตรียมจะฝากรอยไว้ที่หน้าของลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง

แต่ลู่เสี้ยงหยางไม่ขยับหนี พูดอย่างสงบว่า “ผมช่วยคุณได้จริงๆ”

ไป๋สู้สู้หัวเราะจนน้ำตาไหล มองลู่เสี้ยงหยางเหมือนกับมองคนโง่เง่า เอื้อมมือชี้ไปที่หน้าอกเขา แล้วพูดทีล่ะคำ “บริษัทของสวนจื่อต้องใช้เงินทุนอย่างน้อย10ล้านหยวนถึงรอดตาย 10ล้านหยวน! ขยะอย่างนายชั่วชีวิตนี้สามารถทำเงินได้มากขนาดนี้ไหม? ใครให้นายมาเสนอหน้าพูดวางท่าที่นี่”

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มตอบ “ก็แค่10ล้านไม่ใช่หรอ?”

“โอ้โห น้ำเสียงโอหัง ก็แค่10ล้าน? ขยะอย่างนายหามาได้สักแสนนึง ฉันไป๋สู้สู้ยอมให้นายออกคำสั่งเลย!” ไป๋สู้สู้หัวเราะขึ้นมาอย่างดูถูก


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท